Author: Bao Ngan Nguyen
Reflexive pronouns เป็นหนึ่งในคำสรรพนามที่ใช้บ่อยที่สุดในภาษาอังกฤษ แล้วสรรพนามสะท้อนคืออะไร วิธีใช้สรรพนามสะท้อนอย่างไร มาเรียนรู้กับ ELSA Speak ด้านล่างนี้กันนะ
Reflexive pronoun คืออะไร
Reflexive pronoun หรือคำสรรพนามสะท้อนเป็นสรรพนามประเภทหนึ่งที่ใช้สะท้อนกลับไปยังประธานของประโยค ซึ่งมักใช้แทนคำนาม คำสรรพนามสะท้อนที่เฉพาะเจาะจง ได้แก่: myself, yourself, himself, herself, themselves, ourselves.
Reflexive pronoun ตัวอย่างประโยค :
- I don’t think he can do all that work on himself. Definitely someone’s help. (ฉันไม่คิดว่าเขาจะสามารถทำการบ้านทั้งหมดด้วยตัวเองได้ แน่นอนว่าต้องมีคนช่วย)
- Believe in yourself. You will definitely become brighter. (จงมั่นใจในตัวเองแล้วคุณจะสดใสขึ้นอย่างแน่นอน)
ด้านล่างนี้เป็นตาราง reflexive pronoun
บุรุษสรรพนาม | Reflexive pronoun |
I | Myself |
You | Yourself (เอกพจน์) / Yourselves (พหูพจน์) |
We | Ourselves |
They | Themselves |
He | Himself |
She | Herself |
It | Itself |
ตำแหน่งของ Reflexive pronoun ในภาษาอังกฤษ
ตําแหน่ง | ตัวอย่าง |
คำสรรพนามอยู่หลังคำกริยา | If you don’t love yourself, then you will certainly not receive true love. (ถ้าไม่รักตัวเองก็จะไม่ได้รับความรักที่แท้จริงอย่างแน่นอน) หมายเหตุ: อย่าใช้คำสรรพนามสะท้อนหลังคำกริยาที่อธิบายสิ่งต่าง ๆ ที่คนมักทำเพื่อตนเอง โดยเฉพาะ: shave (โกนหนวด), dress (แต่งตัว), wash (ซัก)… |
คำสรรพนามอยู่หลังคำนามและเป็นประธาน | Even good teachers themselves can’t solve that problem. It’s really hard, outside of high school knowledge. (แม้แต่ครูที่ดีเองก็ไม่สามารถแก้ปัญหานี้ได้ มันยากมากจริง ๆ เพราะมันอยู่นอกเหนือไปจากความรู้ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย) Athletes themselves have to practice every day to get the best health. (นักกีฬาเองก็ต้องฝึกซ้อมทุกวันเพื่อให้มีสุขภาพที่ดีที่สุด) |
คำสรรพนามอยู่หลังคำบุพบท | Stop putting pressure on yourself, it makes you feel more tired. (หยุดกดดันตัวเองสักที เพราะมันจะทำให้คุณรู้สึกเหนื่อยล้ามากขึ้น) He did his homework by himself. This made his mother very happy. (เขาทำการบ้านด้วยตัวเอง มันจึงทำให้แม่ของเขาดีใจมาก) |
คำสรรพนามอยู่ท้ายประโยค | He doesn’t look very trustworthy, I’ll figure this out myself. (เขาดูไม่น่าเชื่อถือเลย ฉันหาทางออกด้วยตัวเองดีกว่า) I will do everything myself. (ฉันจะทําทุกอย่างด้วยตัวเอง) |
Reflexive pronoun ใช้ยังไง
Reflexive pronoun ทำหน้าที่เป็นกรรมในประโยค
eflexive pronoun ทำหน้าที่เป็นกรรมโดยตรงหรือกรรมทางอ้อมของคำกริยาเมื่อกรรมนี้และประธานของประโยคเป็นบุคคลหรือสิ่งของเดียวกัน
ตัวอย่าง:
- The children were playing in the yard when suddenly they hurt themselves. (เด็ก ๆ กำลังเล่นอยู่ในสนามหญ้าแล้วจู่ ๆ พวกเขาก็ทําตัวเองเจ็บเอง) =>> คําสรรพนาม themselves เป็นคําแทนของทั้งประธาน “The Children” และกรรมของประโยค
- She prepared herself for the big presentation. (เธอเตรียมตัวสำหรับการนำเสนอครั้งยิ่งใหญ่) => ในประโยคนี้ คำสรรพนามสะท้อน “herself” ทำหน้าที่เป็นกรรมของกริยา “prepared” และประธาน “She”
Reflexive pronoun ทำหน้าที่เป็นกรรมของคำบุพบท
นอกจากจะใช้เป็นกรรมของประโยคแล้ว คำสรรพนามสะท้อนยังอยู่หลังคำบุพบทด้วย โดยทำหน้าที่เป็นกรรมของคำบุพบทนั้น
ตัวอย่าง:
- She often takes time for herself to relax. (เธอมักใช้เวลาเพื่อผ่อนคลายตัวเองอยู่เสมอ) =>> สรรพนาม herself เป็นกรรมของคำบุพบท for
- He thought to himself that we would cheat him so he didn’t trust us. (เขาคิดกับตัวเองว่าเราจะโกงเขา ซึ่งก็ทําให้เขาไม่ไว้ใจเรา) =>> คำสรรพนาม himself เป็นกรรมของคำบุพบท to
Reflexive pronoun ใช้เพื่อเน้นการกระทำของประธาน
ในบางกรณี คำสรรพนามสะท้อนยังอยู่หลังประธานหรือท้ายประโยคอีกด้วย จุดประสงค์คือเพื่อเน้นคำนามให้เป็นประธานของประโยค
ตัวอย่าง:
- Even Ling herself can’t understand what she’s thinking. (แม้แต่หลิงเองก็ไม่สามารถเข้าใจว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่) =>> คำสรรพนามสะท้อน herself เน้นประธาน หลิง
- Do you still believe him when you hear and see for yourself what he says behind your back? (คุณยังเชื่อเขาอยู่ไหม เมื่อคุณได้ยินและเห็นด้วยตัวเองว่าเขานินทาอะไรลับหลังคุณ) => คำสรรพนามสะท้อน yourself เน้นประธาน you
ใช้ร่วมกับคำบุพบท “by” เมื่อต้องการเน้นว่าบุคคลนั้นอยู่คนเดียวหรือไม่มีใครช่วยเหลือ
ตัวอย่าง:
- My son went home by himself. (ลูกชายฉันกลับบ้านด้วยตัวเอง)
- She lived by herself in an enormous house. (เธออาศัยอยู่คนเดียวในบ้านหลังใหญ่)
- He did the homework by himself when no one was there to help him. (เขาทำการบ้านด้วยตัวเองโดยไม่มีใครช่วย)
>>> Read more:
- Object pronouns (สรรพนามรูปกรรม) คืออะไร? หลักการใช้และแบบฝึกหัดการใช้งาน
- Relative Pronoun: โครงสร้าง วิธีใช้ แบบฝึกหัดพร้อมเฉลย
- Personal Pronouns คืออะไร? หน้าที่และวิธีใช้สรรพนาแทนบุคคล
ข้อผิดพลาดทั่วไปเกี่ยวกับ Reflexive pronoun
ข้อผิดพลาดที่พบบ่อยที่สุดคือการใช้คำสรรพนามสะท้อนอย่างไม่ถูกต้องในประธานหรือกรรมคู่กันในประโยคดังกล่าว:
ตัวอย่างที่ 1
ประโยคที่ผิด: Andrew and myself will conduct today’s meeting. (แอนดรูว์และฉันจะดำเนินการประชุมในวันนี้)
- “Myself” เป็นคำสรรพนามสะท้อน ใช้เพื่อเน้นประธานหรือแทนที่ประธานในบางกรณีเฉพาะเจาะจง ตัวอย่าง: I hurt myself. (ฉันทำตัวเองเจ็บ)
ประโยคที่ถูกต้อง: Andrew and I will conduct today’s meeting. (แอนดรูว์และฉันจะดำเนินการประชุมในวันนี้)
- ในกรณีนี้ ทั้ง “Andrew and I” เป็นประธานของคำกริยา “will conduct” เราจำเป็นต้องใช้บุรุษสรรพนาม “I” เมื่อประธานมีสองคนขึ้นไป
ตัวอย่างที่ 2
ประโยคที่ผิด: You may submit your expenses to Mr.Mark or myself before Friday. (คุณสามารถยื่นค่าใช้จ่ายของคุณให้คุณหมากหรือฉันก่อนวันศุกร์)
- Myself เป็นสรรพนามสะท้อน มักใช้เพื่อเน้นประธาน (เช่น “I did it myself” – ฉันทำเอง) หรือเมื่อประธานและกรรมเป็นคนคนเดียวกัน (เช่น “I hurt myself.” – ฉันทำตัวเองเจ็บ) ในประโยคนี้ myself ไม่ใช่สรรพนามสะท้อนที่จำเป็น เพราะในกรณีนี้ myself ไม่ได้ใช้แทนกรรม
ประโยคที่ถูกต้อง: You may submit your expenses to Mr.Mark or me before Friday. (คุณสามารถยื่นค่าใช้จ่ายของคุณให้คุณหมากหรือฉันก่อนวันศุกร์)
- Me เป็นบุรุษสรรพนามที่ถูกต้องเมื่อใช้เป็นกรรมของคำบุพบท ในประโยค “You may send your allowance to Mr.Mark or me before Friday” การใช้ me เป็นกรรมของคำบุพบท to นั้นถูกต้อง
วลีที่มี Reflexive pronoun (คำสรรพนามสะท้อน) ในภาษาอังกฤษ
ด้านล่างนี้เป็นวลีที่มีคําสรรพนามสะท้อนในภาษาอังกฤษที่พบบ่อย
วลี | ความหมาย | ตัวอย่างประโยค |
Help oneself to something | ตามสบาย บริการตนเอง | Help yourself to the cookies. (หยิบคุกกี้ทานเองได้เลย) |
See oneself as | เห็นตัวเองเป็น | She saw herself as a princess in fairy tales. (เธอมองตัวเองเป็นเจ้าหญิงในนิทาน) |
See oneself out | ออกจากที่ที่เพิ่งมา | I’ll see myself out! (ฉันจะออกไปก่อนละกัน) |
Behave oneself | ประพฤติตัวให้ดี ทําตัวให้ดี | There are children here. Please behave yourself. (ที่นี่มีเด็กนะ โปรดประพฤติตัวให้ดี) |
Find oneself doing something | พบว่าตัวเองกำลังทำบางสิ่งบางอย่าง | When he woke up, he found himself lying in a hospital room. (เมื่อเขาตื่นขึ้นมา เขาก็พบว่าตัวเองนอนอยู่ในห้องโรงพยาบาล) |
Find oneself with something/somebody | พบว่าตัวเองกําลังอยู่กับบางสิ่งบางอย่าง/ใครบางคน | If you keep on behaving like that, you’ll find yourself with all bad friends. (ถ้าคุณยังทําตัวแบบนี้ต่อไป คุณก็จะมีแต่เพื่อนที่ไม่ดีเต็มไปหมด) |
Find oneself in/at/on somewhere | พบว่าตัวเองอยู่ใน/ที่/บนที่ไหนสักแห่ง | Close your eyes. Take a deep breath. And you’ll find yourself in paradise. (หลับตา หายใจเข้าลึก ๆ แล้วคุณจะพบว่าตัวเองอยู่ในสวรรค์) |
Content oneself with something | พอใจกับบางสิ่งบางอย่าง | During the covid, we had to content ourselves with what we have. (ในช่วงโควิด เราต้องพอใจกับสิ่งที่เรามี) |
Treat oneself to something | ให้รางวัลตัวเองด้วยสิ่งดี ๆ | After a long week at work, she treated herself to a relaxing spa day. (หลังจากทำงานมาทั้งสัปดาห์ เธอก็ให้รางวัลตัวเองด้วยการเข้าสปาเพื่อผ่อนคลาย) |
Pride oneself on something | ภูมิใจในบางสิ่งบางอย่าง | She prides herself on playing the piano. (เธอภูมิใจในการเล่นเปียโนของตัวเอง) |
Reflexive pronoun แบบฝึกหัด พร้อมเฉลย
แบบฝึกหัด
บทที่ 1: จงเติมคำสรรพนามที่เหมาะสมลงในช่องว่าง: her, herself, him, himself, me, myself, own, ourselves, us, yourself
1. He shouldn’t blame …………. for what happened. It’s not his fault.
2. She had to prepare everything on her …………. .
3. Can you introduce …………. to your best friend? I’d like to meet her.
4. You should be ashamed of …………. . What you did was very wrong.
5. Don’t worry about me. I can take care of …………. .
6. Please, don’t hurt …………. . She hasn’t done anything wrong.
7. She’s going to hurt…………. if she doesn’t pay more attention.
8. Her name is Linh, but we call …………. Alinhh.
9. I have taught …………. to play the guitar just by watching video tutorials.
10. She will see …………. at the next event. We will be there.
11. Lan made this dish …………. .
12. Linh sent the email …………. .
13. We shall not quarrel easily among …………. , and forget our common objective.
14. Thu, did you write this poem …………. ?
15. Yes, I called him ………….
บทที่ 2: จงเลือกคําตอบที่ถูกต้อง
1. I hurt …………….. playing football.
A. me
B. myself
2. She hurt ………………
A. him
B. himself
3. I cut …………….. shaving.
A. me
B. myself
4. Do you mind if I take …………….. home now?
A. me
B. myself
3. I helped …………….. to some food.
A. me
B. myself
4. I wanted to do it ………………
A. me
B. myself
5. He’s so ill he can’t dress ………………
A. him
B. himself
6. She took it upon …………….. to organize everything.
A. her
B. herself
7. The decision is fine by ………………
A. me
B. myself
8. He helped …………….. do it.
A. me
B. myself
9. It’s …………….. party.
A. my
B. mine
10. He hurt ………………
A. his
B. himself
11. She did it ………………
A. hers
B. herself
12. He took it from …………….. room.
A. my
B. myself
C. Either could be used here.
13. I didn’t believe …………….. story.
A. her
B. hers
บทที่ 3: จงเลือกคำจากวงเล็บเพื่อเติมลงในช่องว่าง:
1. I don’t remember ………… where I’ve left my keys. (myself, each other)
2. The two friends always help ………… with the homework. (themselves, each other)
3. Do you feel ………… any better? (yourself, each other)
4. I hurt ………… when I was trying to climb that tree. (myself, each other)
5. Linh and Thu need to trust ………… . (themselves, each other)
6. We sat next to ………… . (ourselves, each other)
7. Our dog washes ………… after the meal. (itself, each other)
8. She can’t imagine ………… living in another country. (herself, each other)
9. Linh and Thu have been working with ………… for 10 years. (themselves, each other)
10. Be careful with this knife, it’s sharp. You can cut ………… badly. (yourself, each other)
11. Don’t worry about the plants. I’ll water them ………… . (by me, myself, me)
12. I’m looking forward to your visit. It’s been a long time since we last saw ………… . (each other, ourselves, us)
13. When I get home I like to relax ………… . I lie on the sofa and watch some TV. (myself, me)
14. Dear Linh, you must forgive ………… for not writing earlier. (me, my, myself)
15. Did you enjoy ………… at the party last night? (you, yourself)
บทที่ 4: จงเติมคำสรรพนามสะท้อนที่เหมาะสมลงในช่องว่าง:
1. He always does the homework by …………
2. I hurt ………… quite badly falling down the stairs.
3. The children do all the homework ………… without any help.
4. She blames ………… for all what happened.
5. They all enjoyed ………… very much on the summer vacation.
6. We have made the decision…………
7. I will buy ………… a nice expensive smartphone.
8. My sister and I often decorate the house ………… at Tet.
9. Linh cut ………… while he was chopping onions for the salad.
10. Linh and Thu gave ………… rings on their wedding
11. The students are encouraged to help ………… instead of competing with each other.
12. My dad prepared dinner ………… on my birthday.
13. You have to take care of …………
14. My younger sister can dress ………… She doesn’t need any help.
15. I introduce ………… to my new classmates.
เฉลย
บทที่ 1:
1. Himself | 2. Own | 3. Me | 4. Yourself | 5. Myself | 6. Her | 7. Herself | 8. Her |
9. Him | 10. Us | 11. Herself | 12. Himself | 13. Ourselves | 14. Yourself | 15. Myself |
บทที่ 2:
1. B | 2. A | 3. B | 4. B | 5. B | 6. B | 7. B |
8. B | 9. A | 10. A | 11. A | 12. B | 13. B |
บทที่ 3:
1. x | 2. each other | 3. x | 4. myself | 5. each other | 6. each other | 7. itself | 8. x |
9. each other | 10. yourself | 11. myself | 12. each other | 13. x | 14. me | 15. yourself |
บทที่ 4:
1. himself | 2. myself | 3. themselves | 4. herself | 5. themselves | 6. ourselves | 7. myself | 8. ourselves |
9. himself | 10. themselves | 11. themselves | 12. himself | 13. yourself/ yourselves | 14. herself | 15. myself |
ข้างต้นเป็นข้อมูลเกี่ยวกับตำแหน่งและการใช้ Reflexive Pronoun (คำสรรพนามสะท้อน) หวังว่าบทความข้างต้นจะช่วยให้คุณเข้าใจการใช้สรรพนามประเภทนี้ได้ดีขึ้น นอกจากนี้อย่าลืมแวะมาที่ ELSA Speak เป็นประจำเพื่ออัปเดทความรู้ภาษาอังกฤษล่าสุดทุกวันนะ
ในชีวิตประจำวัน คุณเคยมีปัญหาในการเรียกชื่อนิ้วมือเป็นภาษาอังกฤษหรือไม่? การรู้คำศัพท์เกี่ยวกับนิ้วมือสามารถช่วยให้คุณมั่นใจในการสื่อสารมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในสถานการณ์ทางการแพทย์และความสวยความงาม หรือเมื่อให้คำแนะนำผู้อื่น ในบทความนี้ ELSA Speak จะนำเสนอข้อมูลที่จำเป็นทั้งหมดเกี่ยวกับนิ้วภาษาอังกฤษ ให้กับทุกคนนะ
นิ้วมือภาษาอังกฤษคืออะไร?
นิ้วมือในภาษาอังกฤษคือ “finger”
คำอ่าน : /ˈfɪŋ.ɡər/
คำศัพท์เกี่ยวกับนิ้วมือทั้ง 5 เป็นภาษาอังกฤษ
คำศัพท์ นิ้วทั้ง 5 ภาษาอังกฤษ | คำอ่าน | ความหมาย | ที่มา |
Thumb | /θʌm/ | นิ้วโป้ง | เป็นนิ้วที่ใหญ่ที่สุดและมักใช้เพื่อจับ ถือวัตถุ คำว่า “thumb” มาจากคำในภาษาเยอรมันโบราณ “thuma” ซึ่งแปลว่า “ใหญ่และสั้น” |
Index Finger/Pointer | /ˈɪn.deksˈfɪŋ.ɡər//ˈpɔɪn.tər/ | นิ้วชี้ | นิ้วชี้คือนิ้วแรกถัดจากนิ้วโป้ง และมักใช้ในการชี้ “Index” หมายถึงสิ่งบ่งชี้ ในขณะที่ “pointer” หมายถึงการชี้มือ |
Middle Finger | /ˈmɪd.əl ˈfɪŋ.ɡər/ | นิ้วกลาง | นิ้วกลางเป็นนิ้วที่ยาวที่สุดและอยู่ตรงกลาง ในบางวัฒนธรรม การยกนิ้วกลางอาจเป็นเรื่องไม่สุภาพ |
Ring Finger | /rɪŋ/ | นิ้วนาง | นิ้วนี้มักเรียกว่านิ้วนาง เพราะในหลายวัฒนธรรม นิ้วนี้เป็นนิ้วที่สวมแหวนแต่งงาน |
Little Finger/Pinky | /ˈlɪt.əl/ ˈfɪŋ.ɡər//ˈpɪŋ.ki/ | นิ้วก้อย | เป็นนิ้วที่เล็กที่สุดและอ่อนแอที่สุดในมือ คำว่า “pinky” มีต้นกำเนิดจากภาษาดัตช์ แปลว่า “เล็ก” |
>>> Read more: คำศัพท์เกี่ยวกับร่างกายภาษาอังกฤษพร้อมการถอดเสียงที่สมบูรณ์ที่สุด
ตัวอย่างประโยคที่ใช้คำศัพท์เกี่ยวกับนิ้วมือภาษาอังกฤษ
การรู้ชื่อนิ้วมือเป็นเรื่องๆหนึ่ง แต่จะใช้ในการพูดในชีวิตประจำวันได้อย่างไรบ้าง ด้านล่างนี้คือตัวอย่าง:
- ตัวอย่างประโยคคำว่า นิ้วโป้งภาษาอังกฤษ: “I gave him a thumbs up to show my approval.” (ฉันยกนิ้วโป้งให้เขาเพื่อแสดงการเห็นด้วยของฉัน)
- ตัวอย่างประโยคคำว่า นิ้วชี้ภาษาอังกฤษ: “He pointed at the map with his index finger.” (เขาชี้ไปที่แผนที่ด้วยนิ้วชี้ของเขา)
- ตัวอย่างประโยคคำว่า นิ้วกลางภาษาอังกฤษ: “In some cultures, showing the middle finger is considered rude.” (ในบางวัฒนธรรมการยกนิ้วกลางอาจเป็นเรื่องไม่สุภาพ)
- ตัวอย่างประโยคคำว่า นิ้วนางภาษาอังกฤษ: “She proudly showed off her ring on her ring finger.” (เธออวดแหวนบนนิ้วนางของเธออย่างภาคภูมิใจ)
- ตัวอย่างประโยคคำว่า นิ้วก้อยภาษาอังกฤษ: “She held her teacup delicately, with her pinky extended.” (เธอถือถ้วยชาของเธออย่างเบาๆโดยกางนิ้วก้อยของเธอออก)
คำศัพท์ที่เกี่ยวกับมือ
คำศัพท์ | คำอ่าน | ความหมาย | ตัวอย่าง | ความหมาย |
Knuckle | /ˈnʌk.əl/ | ข้อนิ้ว | She accidentally hit her knuckle against the door frame while moving the furniture. | ข้อนิ้วของเธอบังเอิญชนเข้ากับขอบประตูขณะเคลื่อนย้ายเฟอร์นิเจอร์ |
Palm | /pɑːm/ | ฝ่ามือ | She spread her palm flat on the table to show the intricate design on her ring. | เธอวางฝ่ามือลงบนโต๊ะเพื่อโชว์การออกแบบอันประณีตบนแหวนของเธอ |
Wrist | /rɪst/ | ข้อมือ | After typing for hours, he felt a strain in his wrist and decided to take a break. | หลังจากพิมพ์ไปหลายชั่วโมง เขาก็รู้สึกตึงที่ข้อมือและตัดสินใจไปพัก |
การเรียนรู้ชื่อนิ้วภาษาอังกฤษไม่เพียงแค่ช่วยให้คุณขยายคลังคำศัพท์ แต่ยังช่วยเพิ่มความสามารถในการสื่อสารในสถานการณ์ต่างๆ เริ่มฝึกฝนวันนี้และแบ่งปันบทความนี้กับเพื่อนของคุณเพื่อเรียนรู้ไปพร้อมกัน อย่าลืมอ่านบทความอื่นๆ ของ ELSA Speak เกี่ยวกับการสื่อสาร คำศัพท์ และการสนทนากันอีกนะ
ท้องฟ้ามักถูกกล่าวถึงเมื่อผู้คนพูดถึงอารมณ์ความรู้สึกเพราะเมื่อนึกถึงท้องฟ้าเราก็มักจะเข้าถึงใจผู้คนอยู่เสมอ นั่นเป็นสาเหตุที่หลายๆ คนมักใช้แคปชั่นท้องฟ้า ภาษาอังกฤษสั้นๆ เพื่อโพสต์สถานะลงบนโซเชียลงั้นเรามาเรียนรู้คำคมที่ดีที่สุดเกี่ยวกับท้องฟ้ากับ ELSA Speak กันเถอะ
แคปชั่นท้องฟ้า ภาษาอังกฤษสั้นๆ
แคปชั่นท้องฟ้า ภาษาอังกฤษสั้นๆ | ความหมาย |
The sky changed every day. Everything changes with time. | ท้องฟ้าเปลี่ยนไปทุกวัน ทุกอย่างเช่นกันเปลี่ยนแปลงไปตามเวลา |
During that period, the sky seemed boundlessly vast because we were youthful and brimming with numerous dreams. | ในช่วงเวลานั้นท้องฟ้าดูกว้างใหญ่ไร้ขอบเขต เพราะเรายังเด็กและเต็มไปด้วยความฝันมากมาย |
As long as your heart remains tranquil, the tempest will transform into a splendid sky. | ตราบใดที่ใจของคุณยังคงสงบ พายุก็จะกลายเป็นท้องฟ้าที่สวยงาม |
Happiness lies in gazing up at the cerulean sky and leaving all your worries far behind. | ความสุขอยู่ที่การมองดูท้องฟ้าสีครามสดใสและทิ้งความกังวลไว้ข้างหลัง |
แคปชั่นท้องฟ้าฮีลใจภาษาอังกฤษ
แคปชั่นท้องฟ้าฮีลใจ ภาษาอังกฤษ | ความหมาย |
Until later, when I looked up at the sky full of warm golden rays, I remembered the days when I was with you in your twenties. That day, in our eyes, the sky was blue with a bright yellow sun and we were happy with our love. | จนถึงฉันเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยแสงสีทองอันอบอุ่น ฉันจึงคิดถึงวันที่ฉันอายุยี่สิบร่วมกับคุณ วันนั้นท้องฟ้าเป็นสีฟ้าและมีแสงแดดสีเหลืองสดใสเข้าตาเรา และเรามีความสุขกับความรักของเรา |
In those youthful days, I used to love, love the blue of the vast sky, love the bright yellow of the shimmering sun and I love the pink ripple on your lips. | ในวัยเยาว์ ฉันเคยรัก เคยชอบสีฟ้าของท้องฟ้าอันกว้างใหญ่ ชอบสีเหลืองอันสดใสของดวงอาทิตย์ที่ส่องแสงระยิบระยับ และฉันชอบริ้วสีชมพูบนริมฝีปากของคุณ |
Some people are the dark clouds in your life, they bring rain, but if they leave, the blue sky will definitely come back. | บางคนเป็นเหมือนเมฆดำในชีวิตของคุณ พวกเขานำฝนมาให้ แต่หากพวกเขาหายไปท้องฟ้าสีครามก็จะกลับมาสดใสอย่างแน่นอน |
Then one day, I will be able to fly high in the sky, gently spread my wings to fly with blue clouds. Relax, close your eyes and take in the sun and wind… The world is vast but will definitely embrace you. | ในวัยเยาว์ ฉันเคยรัก เคยชอบสีฟ้าของท้องฟ้าอันกว้างใหญ่ ชอบสีเหลืองอันสดใสของดวงอาทิตย์ที่ส่องแสงระยิบระยับ และฉันชอบริ้วสีชมพูบนริมฝีปากของคุณ |
There is nothing more wonderful than the feeling of pulling a kite flying against the wind and watching it fly freely. At that moment, I felt like I was lifting the sky. | ไม่มีอะไรวิเศษไปกว่าความรู้สึกที่ได้ดึงว่าวให้ลอยทวนลมและมองดูมันบินอย่างอิสระ ในขณะนั้นฉันรู้สึกเหมือนกำลังยกท้องฟ้าขึ้น |
Don’t let your heart be a road that everyone can walk, make your heart the sky that everyone can dream of. | อย่าปล่อยให้หัวใจของคุณเป็นถนนที่ใครๆ ก็เดินได้ แต่จงทำให้หัวใจของคุณเป็นท้องฟ้าที่ใครๆ ก็ฝันถึง |
Happiness is looking up at the blue sky, leaving all your worries behind. | ความสุขคือการมองขึ้นไปบนท้องฟ้าสีฟ้า และทิ้งความกังวลทั้งหมดไว้ข้างหลัง |
Don’t compare your life with anyone else, everyone is a destiny. Even the sky in my eyes is blue, a different color from yours… Tears from each person’s eyes, who knows sweeter than anyone else. | อย่าเอาชีวิตตัวเองไปเปรียบเทียบกับใคร เพราะทุกคนมีชะตากรรมเป็นของตัวเอง แม้แต่ท้องฟ้าในดวงตาของฉันก็ยังเป็นสีฟ้า สีที่ต่างจากคุณ… และน้ำตาจากดวงตาของแต่ละคน ใครจะรู้ว่าของใครหวานกว่าใคร |
At that time the sky was still very big because we were so young and had a lot of dreams. | ตอนนั้นท้องฟ้ายังกว้างใหญ่เพราะเรายังเด็กและมีความฝันมากมาย |
As long as your heart is peaceful, the storm will turn into a beautiful sky. | ตราบใดที่ใจคุณสงบพายุก็จะกลายเป็นท้องฟ้าที่สวยงาม |
At the time when you feel the most tired, don’t complain to anyone, look up at the sky, such a big sky will surely soothe your feelings. | เมื่อคุณรู้สึกเหนื่อยที่สุด อย่าบ่นกับใครแต่ให้มองขึ้นไปบนท้องฟ้า ท้องฟ้าที่กว้างใหญ่จะช่วยปลอบประโลมความรู้สึกของคุณได้อย่างแน่นอน |
The sky will be blue again, leaving the storms of life behind. You can rest assured that the sky will be bright after the rain and good people will definitely meet a good predestined relationship. | ท้องฟ้าจะกลับมาเป็นสีฟ้าอีกครั้ง ทิ้งพายุแห่งชีวิตไว้ข้างหลัง มั่นใจได้เลยว่าฟ้าหลังฝนจะสดใส และคนดีๆ จะได้พบกับความสัมพันธ์ที่ดีแน่นอน |
Your love is like the sky, your smile shines like the late winter sun, your lips are as red as the sunset, your hair is as smooth as the wind on the first day of autumn. I love the sky so much, the same way I love you. | ความรักของคุณเปรียบเสมือนท้องฟ้า รอยยิ้มของคุณเปล่งประกายดุจดวงตะวันในช่วงปลายฤดูหนาว ริมฝีปากของคุณแดงราวกับพระอาทิตย์ตก ผมของคุณเรียบลื่นราวกับสายลมในวันแรกของฤดูใบไม้ร่วง ฉันรักท้องฟ้ามากเช่นเดียวกับที่ฉันรักคุณ |
No matter how bad your life is, the sun will still rise the next day, it will still shine brightly and everything will work as usual. You see, despite being tired, the sky never stops shining. | ไม่ว่าชีวิตจะเลวร้ายแค่ไหน พระอาทิตย์ก็ยังคงขึ้นในวันถัดไป มันยังส่องแสงเจิดจ้าและทุกอย่างจะดำเนินไปตามปกติ คุณจะเห็นได้ว่าแม้จะเหนื่อยล้า แต่ท้องฟ้าก็ไม่เคยหยุดส่องแสง |
>>> Read more:
- รวบรวมประโยคฮีลใจภาษาอังกฤษ ให้ทุกคนในทุกสถานการณ์ (มีคำแปล)
- 100+ คําให้กําลังใจ ภาษาอังกฤษ สั้นๆ ช่วยให้คุณรู้สึกมองโลกในแง่ดีมากขึ้น
คําคมดีๆ เกี่ยวกับท้องฟ้าในภาษาอังกฤษของคนมีชื่อเสียง
คําคม ท้องฟ้า ภาษาอังกฤษ | ความหมาย | ผู้เขียน |
No matter how tough my life was, I was always looking up at the sky and wishing for good things. | ไม่ว่าชีวิตของฉันจะยากลำบากแค่ไหนฉันก็ยังมองขึ้นไปบนท้องฟ้าและหวังสิ่งดีๆ อยู่เสมอ | Mahira Khan |
The sky is always there for me, while my life has been going through many, many changes. When I look up at the sky, it gives me a nice feeling, like looking at an old friend. | ท้องฟ้าอยู่ที่เดิมเสมอสำหรับฉัน ในขณะที่ชีวิตของฉันต้องผ่านการเปลี่ยนแปลงมากมาย เมื่อมองขึ้นไปบนฟ้าก็ให้ความรู้สึกดีเหมือนได้มองเพื่อนเก่า | Yoko Ono |
Don’t let one cloud obliterate the whole sky. | อย่าปล่อยให้เมฆเพียงก้อนเดียวบดบังท้องฟ้าทั้งหมด | Anais Nin |
Unclose your mind. You are not a prisoner. You are a bird in flight, searching the skies for dreams. | เปิดใจของคุณ คุณไม่ใช่นักโทษแต่เป็นนกโผบิน ตามหาความฝันบนท้องฟ้า | Haruki Murakami |
Don’t forget, beautiful sunsets need cloudy skies. | อย่าลืมว่าตะวันตกดินที่สวยงาม มักเกิดหลังท้องฟ้าที่มืดครื้ม | Paulo Coelho |
Only from the heart can you touch the sky. | เราจะเอื้อมถึงขอบฟ้าได้ก็แต่ในใจของเราเท่านั้นแหละ | Rumi |
The sky takes on shades of orange during sunrise and sunset, the color that gives you hope that the sun will set only to rise again. | ท้องฟ้าจะมีสีส้มในช่วงพระอาทิตย์ขึ้นและตก ซึ่งเป็นสีที่ทำให้คุณมีความหวังว่าดวงอาทิตย์จะตกเพื่อขึ้นอีกครั้ง | Ram Charan |
I am inspired by anything beautiful. Sometimes it’s a pair of eyes or flowing gorgeous hair, other times it’s the sky or a sunset. | ฉันได้รับแรงบันดาลใจจากทุกสิ่งที่สวยงาม บางครั้งอาจเป็นดวงตาคู่สวยหรือผมที่พลิ้วไหวสวยงาม แต่บางครั้งก็เป็นท้องฟ้าหรือพระอาทิตย์ตก | Nadine Velazquez |
A cloudless plain blue sky is like a flowerless garden. | ท้องฟ้าสีครามไร้เมฆเปรียบเสมือนสวนที่ไร้ดอกไม้ | Terri Guillemets |
Meet me where the sky touches the sea. Wait for me where the world begins. | มาเจอกันที่ฟ้าจรดทะเลและรอฉันที่ที่โลกเริ่มต้น | Jennifer Donnelly |
แคปชั่นดีๆ เกี่ยวกับท้องฟ้ายามรุ่งอรุณ
Caption ท้องฟ้า ภาษาอังกฤษ | ความหมาย |
The sky takes on shades of orange during sunrise and sunset, the color that gives you hope that the sun will set only to rise again. | ท้องฟ้าจะมีสีส้มในช่วงพระอาทิตย์ขึ้นและตก ซึ่งเป็นสีที่ทำให้คุณมีความหวังว่าดวงอาทิตย์จะตกเพื่อขึ้นอีกครั้ง |
Every sunrise is a new beginning of our life. Forget the past and live in the present. Good Morning friend… have a nice day. | พระอาทิตย์ขึ้นทุกครั้ง นั่นคือจุดเริ่มต้นใหม่ของชีวิตเรา ลืมอดีตแล้วใช้ชีวิตในปัจจุบัน สวัสดีตอนเช้าเพื่อน ขอให้เป็นวันที่ดี |
The biggest cliche in photography is sunrise and sunset. | วลีเด็ดที่สุดในการถ่ายภาพคือพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตก |
Sunrise is the start of something beautiful: the day. | พระอาทิตย์ขึ้นเป็นจุดเริ่มต้นของสิ่งที่สวยงาม: วันใหม่ |
แคปชั่นเกี่ยวกับท้องฟ้ากลางคืนภาษาอังกฤษ
แคปชั่นท้องฟ้ากลางคืน ภาษาอังกฤษ | ความหมาย |
There was always something new to be seen in the unchanging night sky. | มีสิ่งใหม่ๆ ให้เห็นอยู่เสมอในท้องฟ้ายามค่ำคืนที่ไม่เปลี่ยนแปลง |
No sight is more provocative of awe than is the night sky. | ไม่มีภาพใดที่น่าตื่นเต้นไปกว่าท้องฟ้ายามค่ำคืน |
The night sky is a miracle of infinitude. | ท้องฟ้ายามค่ำคืนคือสิ่งมหัศจรรย์แห่งความไม่สิ้นสุด |
The night sky is a blanket of dreams, each star a wish waiting to come true. | ท้องฟ้ายามค่ำคืนเปรียบเสมือนผืนผ้าห่มแห่งความฝัน และดวงดาวแต่ละดวงก็เปรียบเสมือนความปรารถนาที่รอคอยที่จะเป็นจริง |
The night sky is a canvas, and the stars are the brushstrokes that paint the masterpiece of the universe. | ท้องฟ้ายามค่ำคืนเปรียบเสมือนผืนผ้าและดวงดาวคือลายเส้นพู่กันที่วาดภาพผลงานชิ้นเอกของจักรวาล |
The night sky is a reminder that even in the darkest hours, there is always a glimmer of light and hope. | ท้องฟ้ายามค่ำคืนเป็นเครื่องเตือนใจว่าแม้ในช่วงเวลาที่มืดมนที่สุดก็ยังมีแสงสว่างและความหวังอยู่เสมอ |
The night sky is a symphony of light, with each star playing a unique note in the celestial orchestra. | ท้องฟ้ายามค่ำคืนเป็นแสงซิมโฟนี โดยดาวแต่ละดวงจะบรรเลงโน้ตอันเป็นเอกลักษณ์ในวงออเคสตราท้องฟ้า |
ELSA Pro ไม่จำกัด
14,895 บาท -> 2,944 บาท
ELSA Premium 1 ปี
8,497 บาท -> 4,668 บาท
คำศัพท์ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับท้องฟ้า
คำศัพท์ | การออกเสียง | ความหมาย |
Symphony | /ˈsɪm.fə.ni/ | ซิมโฟนี |
Celestial | /sɪˈles.tʃəl/ | สวรรค์ |
Universe | /ˈjuː.nə.vɝːs/ | จักรวาล |
Dark | /dɑːrk/ | มืด |
Glimmer | /ˈɡlɪm.ɚ/ | ริบหรี่ |
Masterpiece | /ˈmæs.tɚ.piːs/ | ผลงานชิ้นเอก |
>>> Read more: คำศัพท์ วิธีการอ่าน และแคปชั่นธรรมชาติภาษาอังกฤษ
บทความข้างต้นได้นำคำคมที่มีความหมายและเต็มไปด้วยความรู้สึกเกี่ยวกับแคปชั่นท้องฟ้า ภาษาอังกฤษมาฝากทุกคน หวังว่าคำคมเหล่านี้จาก ELSA Speak จะทำให้คุณมีพลังบวกและมีความหวังดั่งเช่นพระอาทิตย์กันนะ
ทักษะภาษาอังกฤษได้แก่การฟัง การพูด การอ่าน และการเขียนที่ใครก็ตามที่เรียนภาษาอังกฤษจำเป็นต้องพัฒนา อย่างไรก็ตาม เพื่อให้บรรลุทักษะภาษาพื้นฐานทั้ง 4 ประการนี้ คุณจะต้องซึมซับภาษาอังกฤษโดยทำให้ภาษาอังกฤษเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตที่บ้าน ที่ทำงาน และในเวลาว่าง มาเรียนรู้เคล็ดลับในการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษของคุณกับ ELSA Speak ผ่านบทความต่อไปนี้กันเลย
การพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษมีความสำคัญมากแค่ไหน
ความสำคัญของทักษะการฟัง
ตามสถิติ ทักษะการฟังคิดเป็นเกือบ 45% ของเวลาในการสื่อสารของผู้ใหญ่ เมื่อคุณฟังให้ดีคุณจะเข้าใจสิ่งที่อีกฝ่ายพูดและสามารถโต้ตอบได้ดีขึ้น การฟังเป็นทักษะพื้นฐานในการสื่อสารทั้งในภาษาแม่และภาษาอื่นๆ
ความสำคัญของทักษะการพูด ภาษาอังกฤษ
นอกจากความสามารถในการฟังแล้ว การพูดยังเป็นทักษะที่สำคัญอย่างยิ่งในการเรียนรู้ การทำงาน และการใช้ชีวิตสำหรับผู้ใช้ภาษาอังกฤษ เมื่อคุณเชี่ยวชาญทักษะนี้ คุณสามารถสื่อสารความคิด ความรู้สึก และแนวคิดของคุณเพื่อให้ผู้อื่นเข้าใจได้ ในการทำงานทักษะการพูดหรือทักษะภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารจะช่วยให้คุณเจรจาและนำเสนอได้อย่างคล่องแคล่วและประสบความสำเร็จ
นอกจากนี้การพูดภาษาอังกฤษได้ดียังช่วยเพิ่มความมั่นใจ จึงเป็นแรงบันดาลใจให้คุณตั้งใจเรียนมากขึ้น
ความสำคัญของทักษะการอ่าน
การอ่าน-เข้าใจเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในการช่วยปรับปรุงไวยากรณ์ นอกจากนี้ยังเป็นวิธีที่ช่วยให้ผู้เรียนขยายขอบเขตคำศัพท์และความเข้าใจได้อีกด้วย ในขณะเดียวกันก็ช่วยให้คุณได้รับข้อมูลที่เป็นประโยชน์และความรู้เกี่ยวกับโลกรอบตัวคุณมากขึ้น
หากไม่มีทักษะการอ่านหรือทักษะการอ่านภาษาอังกฤษที่ไม่ดีจะทำให้เกิดอุปสรรคมากมายในกระบวนการเข้าถึงและฝึกฝนภาษา
ความสำคัญของทักษะการเขียน
ทักษะการเขียนช่วยให้คุณถ่ายทอดข้อความและข้อมูลที่จำเป็นได้อย่างเต็มที่โดยใช้คำและประโยค
ผู้เรียนจะแสดงความรู้สึกและความคิดอย่างเป็นระบบหลังจากการคิดและสังเกต พวกเขาค่อยๆ เรียนรู้วิธีเพิ่มประสิทธิภาพการเชื่อมโยงคำศัพท์ วลี และไวยากรณ์เพื่อสร้างประโยคที่สมบูรณ์ จากนั้นความรู้ด้านคำศัพท์และไวยากรณ์ก็จะสมบูรณ์และพัฒนามากขึ้น
ควรทำอย่างไรเพื่อพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษทั้ง 4 ประการ
พัฒนาทักษะการฟังภาษาอังกฤษ
ชมภาพยนตร์และรายการบันเทิงภาษาอังกฤษพร้อมคำบรรยาย
การฟังเป็นทักษะที่ควรให้ความสำคัญสูงสุด การฟังและความเข้าใจสามารถช่วยพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษของคุณได้จริง ๆ หนึ่งในวิธีฟังภาษาอังกฤษที่มีประสิทธิภาพและเป็นที่นิยมมากที่สุดคือการเรียนรู้ผ่านสื่อบันเทิงต่างๆ เช่น เพลง ภาพยนตร์ หรือพอดแคสต์ วิดีโอบนแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งต่าง ๆ เราจะเรียนรู้วิธีการออกเสียงของคำ การขึ้นเสียงสูงต่ำเพื่อถ่ายทอดอารมณ์ เน้นคำในประโยคเพื่อเน้นย้ำ
อย่ากังวลว่าจะไม่เข้าใจ ตอนแรกฟังไปพร้อมๆ กับการอ่านหนังสือ เหมือนอ่านซับภาษาอังกฤษตอนดูหนัง หรือจะฟังเพลงและอ่านเนื้อเพลงไปพร้อมๆ กันก็ได้ มันจะช่วยให้คุณเข้าใจและชินกับมัน
มีปฏิสัมพันธ์กับชาวต่างชาติ ผู้ที่พูดภาษาอังกฤษได้ดี
การโต้ตอบกับชาวต่างชาติและผู้คนที่พูดภาษาอังกฤษได้ดีเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการฝึกฝนทักษะการฟังของคุณ ในเวลาเดียวกัน พยายามฟังสำเนียงภาษาอังกฤษที่แตกต่างกัน เช่น ภาษาอังกฤษแบบอังกฤษ ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน และภาษาอังกฤษแบบออสเตรเลีย ซึ่งหมายความว่าคุณจะได้สัมผัสประสบการณ์การฟังและเรียนรู้ที่จะเข้าใจสำเนียงภาษาอังกฤษที่หลากหลายตั้งแต่ยากไปง่าย
ดังนั้น เพื่อพัฒนาทักษะการฟังของคุณ คุณไม่ควรฝึกฝนด้วยสำเนียงภาษาอังกฤษขั้นพื้นฐานเท่านั้น
วิธีนี้ยังช่วยให้คุณพัฒนาทักษะการพูดและเพิ่มความมั่นใจในการสื่อสารได้ดีอีกด้วย
ฝึกฝนทักษะการฟังด้วยซอฟต์แวร์การฟังภาษาอังกฤษ
การใช้ซอฟต์แวร์การฟังภาษาอังกฤษเป็นวิธีการเรียนรู้ที่ได้รับความนิยมและมีประสิทธิภาพ คุณสามารถควบคุมเวลาและสถานที่ที่คุณเรียนได้อย่างสมบูรณ์ ตราบใดที่มันอยู่ในพื้นที่ที่เงียบสงบและคุณมีสมาธิอย่างเต็มที่ ซอฟต์แวร์ฝึกฟังภาษาอังกฤษต่อไปนี้จะทำให้การเรียนภาษาอังกฤษของคุณง่ายขึ้น
- แอปสำหรับฝึกการฟังภาษาอังกฤษ Spotlight English
- แอปสำหรับฝึกการฟังภาษาอังกฤษ TED Talk
- แอปสำหรับฝึกการฟังภาษาอังกฤษ Berlitz English Premier
- แอปสำหรับฝึกการฟังภาษาอังกฤษ Two minute English
ฟังหลายๆ ครั้งและทำซ้ำอย่างสม่ำเสมอ
เช่นเดียวกับเมื่อเด็กเรียนรู้ภาษา “การทำซ้ำ” เป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้คุณตอบสนองด้วยทักษะการฟังภาษาอังกฤษที่ดีขึ้น
ด้วยเนื้อหาเดิมๆ คุณควรฟังหลายๆ รอบจนเข้าใจทุกคำในบทความ หลังจากนั้นเลียนแบบหรือฝึกอ่านเพื่อทำความเข้าใจการออกเสียง น้ำเสียง และการเน้นเสียง เพื่อนำไปใช้กับบทเรียนการฟังต่อไป
นอกจากนี้ คุณควรฝึกการฟังภาษาอังกฤษให้เป็นนิสัย คุณสามารถใช้เวลา 30 – 45 นาทีในการฝึกฝนเป็นประจำทุกวัน เมื่อนั้นทักษะการฟังจะพัฒนาอย่างรวดเร็วก็จะสร้างสร้างรากฐานที่ดีสำหรับทักษะทั้ง 3 ที่เหลือด้วย
ฟังและจดบันทึก
นี่เป็นหนึ่งในวิธีการพัฒนาทักษะการฟังภาษาอังกฤษที่มีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มกระบวนการเรียนรู้
ครั้งแรกที่คุณฟัง พยายามทำความเข้าใจแนวคิดหลักในเนื้อหาขั้นตอนต่อไปคือการฟังและจดสิ่งที่คุณได้ยิน ขั้นตอนนี้จะช่วยให้สมองเชื่อมโยงเสียงที่ได้ยินกับการสะกดคำแต่ละคำ สุดท้ายให้อ่านคำบรรยายและเปรียบเทียบกับสิ่งที่คุณได้ยิน
วิธีนี้ช่วยให้การเชื่อมต่อประสาทในการเรียนภาษาอังกฤษเพิ่มขึ้นอย่างมาก จากนั้นไม่เพียงช่วยให้คุณฝึกฝนทักษะการฟังภาษาอังกฤษเท่านั้น แต่ทักษะการเขียนของคุณยังพัฒนาขึ้นอย่างมากอีกด้วย
พัฒนาทักษะการอ่านภาษาอังกฤษ
เรียนคำศัพท์
คุณต้องแน่ใจว่าคุณมีคำศัพท์ภาษาอังกฤษอยู่แล้วก่อนที่จะอยากอ่าน-เข้าใจ ดังนั้นคุณต้องขยันเรียนรู้คำศัพท์ทุกวันเพื่อพัฒนาทักษะการอ่านภาษาอังกฤษของคุณ
>>> Read more:
อ่านหนังสือและบทความภาษาอังกฤษบนเว็บไซต์และจดบันทึก
คุณสามารถอ่านหนังสือและหัวข้อได้หลายประเภทที่คุณต้องการ อย่างไรก็ตาม ควรเลือกหนังสือที่คุณชอบที่สุดและเหมาะสมกับระดับภาษาของคุณ สิ่งนี้จะทำให้คุณรู้สึกสนใจในการอ่านมากขึ้นและพัฒนาทักษะการอ่านภาษาอังกฤษของคุณอย่างมีประสิทธิภาพ ขณะอ่านหนังสือควรเตรียมปากกาและสมุดจดมาด้วย เมื่อคุณเจอคำศัพท์ใหม่ๆ คุณสามารถขีดเส้นใต้หรือเน้นมันได้ จากนั้น เมื่อสิ้นสุดเวลาฝึกอ่าน ให้ค้นหาในพจนานุกรมและจดจำคำศัพท์ใหม่ๆ เหล่านี้ลงในสมุดบันทึกของคุณ
อย่าลืมบันทึกวลีหรือประโยคดีๆ ลงในสมุดบันทึกของคุณ ซึ่งวิธีนี้คุณจะได้สะสมคำศัพท์ใหม่ๆ มากมาย และเรียนรู้วิธีใช้คำและรูปแบบอย่างถูกต้อง
อ่านหนังสือในเนื้อหาที่หลากหลายจากแหล่งต่างๆ
นอกเหนือจากการค้นหาเนื้อหาในหนังสือพิมพ์แล้ว คุณสามารถเลือกจากแหล่งอ่านต่างๆ มากมาย
ดังนั้นคุณจะเข้าถึงแนวเพลงหลากหลายประเภท สิ่งนี้ช่วยให้คุณเพิ่มคำศัพท์ วิธีสร้างประโยค และเข้าใจเกี่ยวกับภาษามากขึ้น
>>> Read more:
- TOP หนังสือ 12 เล่มเด็ด ช่วยให้การเรียนภาษาอังกฤษดีขึ้น
- หนังสือบางเล่มเกี่ยวกับการเรียนรู้ collocation ภาษาอังกฤษที่โดดเด่น
สลับภาษาบนอุปกรณ์มือถือ
ปัจจุบันนี้เป็นเรื่องยากที่จะพบใครก็ตามที่ไม่ได้เชื่อมต่อกับโทรศัพท์หรือคอมพิวเตอร์ ดังนั้นวิธีที่ดูเหมือนง่ายนี้จึงมีประสิทธิภาพมากสำหรับคุณในการใช้ภาษาอังกฤษขณะที่อ่านหนังสือบ่อยขึ้น
พัฒนาทักษะการพูดภาษาอังกฤษ
ฟังและอ่านภาษาอังกฤษให้มากขึ้น
ก่อนที่คุณอยากพูดภาษาอังกฤษได้คล่อง คุณควรพยายามฟังและอ่านให้มากขึ้น ฟังข้อความ พยายามทำความเข้าใจความหมาย จากนั้นอ่านด้วยตาอีกครั้ง ต่อไปคืออ่านออกเสียง พยายามเลียนแบบการออกเสียงที่ถูกต้องที่คุณได้ยิน
ข้อควรรู้สองประการเมื่อคุณฝึกพูดภาษาอังกฤษ นั้นคือการคิดคำและการออกเสียงให้ถูกต้อง การฟังและอ่านภาษาอังกฤษเป็นประจำช่วยให้คุณออกเสียงได้โดยไม่ต้องคิดคำศัพท์ที่ต้องพูด จากนั้นคุณจะค่อยๆ ฝึกพูดภาษาอังกฤษอย่างเป็นธรรมชาติและคล่องแคล่วมากขึ้น
มุ่งเน้นการปรับปรุงการออกเสียงภาษาอังกฤษ
คุณอาจมีคลังคำศัพท์มากมาย แต่ถ้าคุณออกเสียงผิด คนอื่นจะไม่เข้าใจสิ่งที่คุณกำลังพูด นั่นหมายความว่าหนึ่งใน 4 ทักษะภาษาอังกฤษของคุณไม่เป็นที่พอใจ
เมื่อค้นหาพจนานุกรมออนไลน์ ควรใช้ไอคอนรูปลำโพงขนาดเล็กเพื่อตรวจสอบและฝึกการออกเสียงของคุณ นี่เป็นวิธีที่จะช่วยคุณฝึกการออกเสียง ซึ่งทักษะการพูดภาษาอังกฤษของคุณจะพัฒนาขึ้นอย่างมากเช่นกัน
คุณสามารถดูบทเรียนการออกเสียงภาษาอังกฤษเพิ่มเติมได้ที่ Youtube หรือฝึกฝนผ่านแอปพลิเคชั่นฝึกการพูดและการออกเสียงภาษาอังกฤษ เช่น ELSA Speak
>>> Read more:
ฟังภาษาอังกฤษแล้ว “เลียนแบบ”
เลือกวิดีโอภาษาอังกฤษและตั้งใจฟังเนื้อหา ถ้าคุณยังไม่มั่นใจในความเข้าใจในการฟัง คุณสามารถใช้วิดีโอพร้อมคำบรรยายได้ จากนั้นคุณฟังวิดีโอหนึ่งครั้งและอ่านคำบรรยายเพื่อทำความเข้าใจเนื้อหา
จากนั้นให้คุณเลียนแบบแต่ละประโยคและพยายามออกเสียงให้เหมือนในวิดีโอ บันทึกข้อความที่คุณออกเสียงเพื่อเปรียบเทียบกับต้นฉบับ
พูดคุยกับเพื่อนเป็นภาษาอังกฤษ
คล้ายกับการฝึกทักษะการฟัง พยายามทำความรู้จักกับชาวต่างชาติหรือคนที่พูดภาษาอังกฤษได้ดี โดยอาจผ่านกระดานสนทนา กลุ่ม ศูนย์การสอน หรือร้านกาแฟภาษาต่างประเทศก็ได้
ในตอนแรกคุณอาจรู้สึกเขินและไม่มั่นใจในความสามารถในการตีความของคุณ แต่ไม่ต้องกังวล พวกเขาจะช่วยให้คุณออกเสียงได้อย่างถูกต้องและมีความมั่นใจมากขึ้น กล่าวได้ว่าการฝึกทักษะภาษาอังกฤษ 4 ทักษะผ่านการสื่อสารโดยตรงเป็นวิธีที่ใช้ได้จริงและมีประสิทธิภาพสูง
พูดและบันทึกตัวเอง
อาจฟังดูตลก แต่วิธีนี้จะช่วยให้คุณรู้ว่าการทำซ้ำและบันทึกเสียงของคุณหลาย ๆ ครั้งจะช่วยพัฒนาทักษะการพูดของคุณได้อย่างมาก
พัฒนาทักษะการเขียนภาษาอังกฤษ
ปรับปรุงคำศัพท์ภาษาอังกฤษ
เพื่อพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษทั้ง 4 ทักษะได้อย่างคล่องแคล่ว คุณจำเป็นต้องมีคำศัพท์ที่แน่นอน คุณต้องศึกษาและทบทวนคำศัพท์ทุกวัน นี่เป็นนิสัยที่ดีและจำเป็นสำหรับการพัฒนาคำศัพท์ของคุณ จากนั้นทักษะการเขียนภาษาอังกฤษของคุณก็จะพัฒนาขึ้นเช่นกัน
จำกัดการสะกดคำผิด
การจำกัดการสะกดคำผิดเป็นสิ่งจำเป็นหากคุณต้องการพัฒนาทักษะการเขียนภาษาอังกฤษของคุณ การสะกดผิดจะลดคุณค่าของบทความของคุณ มันยังป้องกันไม่ให้คุณถ่ายทอดเนื้อหาผิดๆหรือทำให้ผู้อ่านเข้าใจความหมายผิด ดังนั้นนิสัยในการเขียนอย่างถูกต้องจึงเป็นความลับในการพัฒนาทักษะการเขียนภาษาอังกฤษด้วย
เน้นความรู้ด้านไวยากรณ์
การเขียนประโยคที่ถูกต้องตามหลักไวยากรณ์เป็นวิธีหนึ่งในการแสดงคุณค่าของงานเขียนและความสามารถทางภาษาของคุณเพื่อปรับปรุงระดับไวยากรณ์ของคุณ คุณควรจัดลำดับความสำคัญของการเขียนประโยคด้วยไวยากรณ์ง่าย ๆ แล้วค่อยเพิ่มความยากด้วยประโยคที่มีไวยากรณ์ที่ซับซ้อนมากขึ้น นอกจากนี้ คุณยังต้องใส่ใจกับวิธีใช้เครื่องหมายวรรคตอนในขณะที่เขียนด้วย
>>> Read more: 10+ เว็บไซต์เช็คแกรมม่าภาษาอังกฤษออนไลน์ ใช้งานฟรี
มีไอเดียและเนื้อหาที่จะเขียน
สำหรับหลายๆ คน การพัฒนาและเสริมสร้างทักษะการเขียนภาษาอังกฤษไม่ใช่เรื่องง่าย เพื่อพัฒนาทักษะการเขียนภาษาอังกฤษ คุณต้องมีแนวคิดและการเขียนเนื้อหาที่คุณสนใจในเรื่องใดเรื่องหนึ่งที่คุณต้องการเขียนเกี่ยวกับประเด็นใดๆ และแนวคิดการเขียนของคุณมีอะไรบ้าง
หลังจากนั้นให้คุณสร้างโครงร่าง เขียนเนื้อหาหลักและแนวคิดย่อยพื้นฐานของบทความ สุดท้าย ให้คุณใช้โครงร่างเพื่อวิเคราะห์และเขียนบทความฉบับสมบูรณ์ เมื่อเขียนเสร็จอย่าลืมทบทวนบทความ ค้นหาข้อผิดพลาด และแก้ไข พร้อมตรวจสอบว่าบทความนำเสนอแนวคิดได้เพียงพอหรือไม่ มี 3 ส่วน คือ บทนำ – เนื้อหา – บทสรุปหรือไม่
ทักษะเหล่านี้ดูเหมือนง่าย แต่เป็นก้าวสำคัญให้คุณลองเขียนบทความที่ยากขึ้น
ใช้พจนานุกรมและขอความช่วยเหลือจากผู้อื่น
พจนานุกรมเป็นเครื่องมือที่ดีที่สุดที่จะช่วยให้คุณเขียนภาษาอังกฤษได้อย่างรวดเร็ว ควรค้นหาความหมายของคำศัพท์ที่คุณไม่เข้าใจด้วยพจนานุกรมอังกฤษ-อังกฤษ วิธีการเรียนรู้นี้จะช่วยปรับปรุงความสามารถในการคิดของคุณ
นอกจากนี้คุณยังสามารถขอความช่วยเหลือจากเพื่อนหรือครูสอนภาษาอังกฤษได้อีกด้วยเพื่อขอให้พวกเขาช่วยคุณดูว่าบทความของคุณมีข้อผิดพลาดอะไรบ้างและจำเป็นต้องแก้ไขที่ใด การเรียนรู้จากผู้ที่มีความรู้และความเชี่ยวชาญถือเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้คุณสามารถฝึกฝนทักษะภาษาอังกฤษของคุณได้
วิธีฝึกทักษะภาษาอังกฤษทั้ง 4 ทักษะ
ตั้งเป้าหมายของคุณเอง
การตั้งเป้าหมายที่จะพัฒนาภาษาอังกฤษของคุณคือก้าวแรก ถ้าคุณอยากเรียนภาษาอังกฤษด้วยตนเองและพัฒนาทักษะ คุณต้องมุ่งเน้นไปที่จุดอ่อนและจุดแข็งของคุณเพื่อจัดทำแผนการเรียน การเรียนภาษาอังกฤษด้วยตนเองด้วยวิธีนี้จะเพิ่มประสิทธิภาพการเรียนรู้ให้กับตัวเราเอง
ใช้สมาร์ทโฟนและแอปเพื่อเรียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเอง
การเรียนภาษาอังกฤษด้วยตนเองบนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ โดยเฉพาะสมาร์ทโฟนหรือคอมพิวเตอร์ มีความหลากหลายและสะดวกมาก ทั้งแอปพลิเคชั่นแปลภาษา โปรแกรมทดสอบไวยากรณ์ และหลักสูตรภาษาอังกฤษ ปัจจุบันมีรูปแบบการเรียนรู้ออนไลน์ผ่านสมาร์ทโฟนหรือคอมพิวเตอร์เพื่อช่วยพัฒนาทักษะให้สูงสุด
กล้าพูดหรือใช้ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน
บางครั้งถ้าเราไม่กล้าพูดหรือใช้ภาษาอังกฤษ ทักษะของเราจะถูกลืมหรือเราอาจเรียนรู้ได้ช้าลง ดังนั้นพยายามใช้ทุกช่วงเวลาให้เป็นประโยชน์เพื่อให้สามารถพูดภาษาอังกฤษได้ ยิ่งคุณสื่อสารมากเท่าไร ทักษะของคุณก็จะพัฒนามากขึ้นเท่านั้น
ทบทวนตัวเองอย่างสม่ำเสมอ
การทบทวนหรือทำแบบทดสอบหลังจากเรียนมาหลายสัปดาห์หรือหลายเดือนจะช่วยให้เราเห็นผลการเรียนภาษาอังกฤษได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
อ่านและจดบันทึก
การอ่านและจดบันทึกเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการพัฒนาทักษะการอ่านและเข้าใจภาษาอังกฤษ คุณสามารถทำวิธีดังต่อไปนี้
- เลือกข้อความ หนังสือ หรือบทความภาษาอังกฤษที่เหมาะกับระดับของคุณ
- อ่านช้าๆและทำความเข้าใจ อ่านแต่ละย่อหน้าและพยายามเข้าใจความหมายของแต่ละประโยคและคำ หากคุณพบคำใหม่ ให้ค้นหาในพจนานุกรมเพื่อทำความเข้าใจความหมาย
- จดบันทึก ขณะที่คุณอ่าน ให้จดประเด็นสำคัญ คำศัพท์ใหม่ โครงสร้างไวยากรณ์ หรือรูปแบบประโยคพิเศษการบันทึกเหล่านี้จะช่วยให้คุณทบทวนและจดจำความรู้ได้ในภายหลัง
- สรุปเนื้อหา หลังจากอ่านแล้วให้สรุปเนื้อหาหลักของบทความโดยเขียนย่อหน้าสั้น ๆ หรือสรุป
เล่นเกมเพื่อฝึกฝนทักษะภาษาอังกฤษของคุณ
การเล่นเกมเป็นวิธีที่สนุกในการฝึกฝนทักษะภาษาอังกฤษทุกประเภท รวมถึงการอ่าน การเขียน การฟัง และการพูด คุณควรลองเล่นเกมคำศัพท์ออนไลน์เพื่อพัฒนาคำศัพท์ของคุณ
>>> Read more: รวมเกมภาษาอังกฤษที่ดีและมีประโยชน์ 41 เกมเพื่อเรียนไปด้วยเล่นไปด้วย
ตั้งคำถามหลาย ๆ หัวข้อ
เมื่อชมภาพยนตร์หรือวิดีโอภาษาอังกฤษ ให้ถามคำถามเกี่ยวกับเนื้อหา นักแสดง สถานการณ์ ความหมาย และมุมมองของตัวละคร หรือคุณสามารถมีส่วนร่วมในการอภิปรายกลุ่มหรือเรียนภาษาอังกฤษเพื่อฝึกถามและตอบคำถามได้
ฝึกฝนกับแอปภาษาอังกฤษ ELSA Speak
คุณสามารถดูหลักสูตรได้ที่แอปพลิเคชัน ELSA Speak ซึ่งเชี่ยวชาญด้านการเรียนรู้การออกเสียง ด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าและมีข้อมูลการออกเสียงของผู้ใช้ที่มีขนาดใหญ่มาก ความสามารถในการจดจำเสียงและการตรวจจับข้อผิดพลาดของ ELSA จึงแม่นยำมากขึ้นเรื่อยๆ
ELSA Pro ไม่จำกัด
14,895 บาท -> 2,944 บาท
ELSA Premium 1 ปี
8,497 บาท -> 4,668 บาท
มีวินัยในการเรียนภาษาอังกฤษ
เพื่อความก้าวหน้าในการเรียนภาษาอังกฤษ วินัยเป็นสิ่งสำคัญ ใช้เวลาอย่างน้อย 15-30 นาทีทุกวันเพื่อฝึกฝนทักษะภาษาอังกฤษของคุณ พยายามรักษาตารางการฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้คุณไม่พลาดสักวันเลย
ข้างต้นเป็นวิธีที่คุณสามารถพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษของคุณได้เองคราวหน้ามาอ่านบทความเกี่ยวกับการสื่อสาร คำศัพท์ และบทสนทนาของ ELSA Speak กันอีกนะ
“Would you mind” เป็นโครงสร้างทั่วไปที่มักปรากฏในบทสนทนา และแบบฝึกหัดการเขียนประโยคใหม่ เพื่อไม่ให้เสียคะแนน เมื่อทำแบบฝึกหัดที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างนี้ ผู้เรียนจำเป็นต้องเข้าใจความหมายของ Would you mind และวิธีการใช้งาน นี่เป็นเนื้อหาหลักที่ ELSA Speak แนะนำในบทความนี้
Would you mind แปลว่า?
โครงสร้าง Would you mind ในภาษาอังกฤษใช้ในการขอร้อง ขออนุญาต หรือแม้แต่แสดงคำสั่งด้วยท่าทีโกรธเคือง แต่ส่วนใหญ่ Would you mind จะแสดงความสุภาพและเป็นทางการ
ขอร้อง
Would you mind ใช้เพื่อขอให้ใครสักคนดำเนินการสิ่งใดสิ่งหนึ่ง นี่เป็นวิธีการพูดที่เป็นทางการ เมื่อคุณต้องการให้คนอื่นทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง
ตัวอย่าง:
• Would you mind telling me how to download these software updates? (คุณช่วยบอกฉันได้ไหมว่าจะดาวน์โหลดการอัพเดตซอฟต์แวร์เหล่านี้ได้อย่างไร?)
• Would you mind waiting outside for a few minutes? I’ll be back right away. (คุณช่วยรอข้างนอกสักสองสามนาทีได้ไหม ฉันจะกลับมาทันที)
ขออนุญาต
หากต้องการขออนุญาตผู้อื่นอย่างสุภาพ คุณสามารถใช้โครงสร้าง would you mind ในกรณีนี้ คุณจะเป็นคนที่จะดำเนินการ
ตัวอย่าง:
• Would you mind if I turned off the air conditioner? (คุณจะว่าอะไรไหม ถ้าฉันจะขอปิดแอร์)
• Would you mind if I changed the channel? (คุณจะว่าอะไรไหม ถ้าฉันจะขอเปลี่ยนช่อง)
คำสั่ง
นี่เป็นวิธีที่สุภาพในการแสดงความไม่พอใจต่อใครบางคน และขอให้บุคคลนั้นทำหรือหยุดทำอะไรบางอย่าง โปรดทราบว่าคุณต้องมีอำนาจและสถานะที่สูงกว่า จึงจะสามารถพูดแบบนี้กับใครบางคนได้ มิฉะนั้นผู้ฟังอาจเสียใจและรู้สึกขุ่นเคือง
ตัวอย่าง:
The teacher asked her student: “Would you mind telling me why you’re late?” (ครูถามนักเรียนของเธอว่า: “คุณช่วยบอกฉันได้ไหมว่าทำไมคุณถึงมาสาย?)
Do you mind แปลว่า?
โครงสร้าง “Do you mind” ใช้เมื่อผู้พูดต้องการเสนอแนะหรือขอความช่วยเหลือในลักษณะที่สุภาพและเป็นทางการ โครงสร้างนี้จัดอยู่ในรูปแบบของคำถาม เพื่อช่วยให้ผู้พูดแสดงคำขอ เมื่อต้องการให้ผู้อื่นช่วยเหลือ จากนั้น ผู้พูดสามารถหลีกเลี่ยงการใช้โครงสร้างที่ไม่สุภาพ เช่น ประโยคคำสั่ง
ตัวอย่าง: Do you mind leaving the class right now? (คุณจะว่าอะไรไหมถ้าออกจากห้องเรียนตอนนี้)
ELSA Pro ไม่จำกัด
14,895 บาท -> 2,944 บาท
ELSA Premium 1 ปี
8,497 บาท -> 4,668 บาท
Would you mind ใช้ยังไง?
โครงสร้าง Would you mind + V-ing
โครงสร้าง would you mind + Ving แปลว่า คุณจะรังเกียจไหม ในโครงสร้างนี้ การกระทำ V-ing หลังคำว่า mind จะต้องมีประธานเดียวกัน คือ “you” (ผู้ฟัง) ประโยคนี้ใช้เพื่อถามว่า ผู้ฟังจะว่าอะไรไหมที่จะทำอะไรให้คุณบ้างไหม? อาจจะเป็น: พูดเบาๆ เลิกสูบบุหรี่ หรือช้าลง…
โครงสร้าง Would you mind if S + V-past simple
โครงสร้าง would you mind if แปลว่า “ คุณรังเกียจไหมถ้า (บางคน) ทำอะไร?” นี่เป็นคำขอแต่จะไม่ได้มีประธานเดียวกัน ทั้งสองประธาน S จะต้องแตกต่างกัน
>>> Read more:
- หลักการเติม ing ที่ใช้กันทั่วไปในภาษาอังกฤษ
- Past Simple Tense (อดีตกาลธรรมดา): โครงสร้าง หลักการใช้ แบบฝึกหัด
โครงสร้างเทียบเท่ากับ Would you mind
นอกจากโครงสร้าง Would you mind แล้ว ผู้เรียนยังสามารถใช้โครงสร้างอื่นๆ ที่มีความหมายเท่ากันเพื่อหลีกเลี่ยงการเขียนซ้ำหลายครั้งเกินไป และมีความหลากหลายมากขึ้นในแง่ของโครงสร้างไวยากรณ์ ต่อไปนี้เป็นโครงสร้างที่คล้ายกัน:
โครงสร้าง | คำแปล | ตัวอย่าง |
Are you okay with…? | คุณโอเคไหมที่…? | Are you okay with me using your computer? (คุณโอเคไหมที่ฉันใช้คอมพิวเตอร์ของคุณ) |
Is it alright if…? | ถ้า…จะได้ไหม? | Is it alright if I open the window? (ถ้าเปิดหน้าต่างจะได้ไหม) |
Would it be a problem if…? | ถ้า…จะเป็นปัญหาไหม? | Would it be a problem if I arrived a little late? (ถ้าฉันไปถึงช้านิดหน่อยจะเป็นปัญหาไหม) |
Would it bother you if…? | ถ้า…จะรบกวนคุณไหม? | Would it bother you if I turned on the fan? (ถ้าฉันเปิดพัดลมจะรบกวนคุณไหม) |
If you don’t mind, could I…? | ถ้าคุณไม่รังเกียจ ฉันขอ…ได้ไหม? | If you don’t mind, could I borrow your phone for a moment? (ถ้าคุณไม่รังเกียจ ฉันขอยืมโทรศัพท์ของคุณสักครู่ได้ไหม) |
Can I ask a favor? | ฉันขอรบกวนคุณ…หน่อยได้ไหม? | Can I ask a favor? Can you help me move this table? (ฉันขอรบกวนคุณช่วยย้ายโต๊ะนี้หน่อยได้ไหม) |
>>> Read more: 11 วิธีขออนุญาตภาษาอังกฤษพร้อมรูปแบบการตอบกลับที่สุภาพและจดจำง่าย
Would you mind ตอบอย่างไร?
วิธีตกลง
- Not at all. (ไม่เลยสักนิด)
- No, I don’t mind. (ไม่ ฉันไม่รังเกียจ)
- That would be fine. (มันจะดี)
- Never mind / You’re welcome. (ไม่เป็นไร)
- Please do. (ทำไปเลย)
- No, of course not. (ไม่ แน่นอนว่าไม่)
- Of course not. (ไม่ แน่นอนว่าไม่)
- No, I’d be glad to. (ฉันยินดี)
- I’d be happy to do. (ฉันยินดี)
>>> Read more: 30+ วิธีบอกว่าใช่ภาษาอังกฤษ นอกจาก Yes
วิธีปฏิเสธ
- I’m sorry, I can’t. (ฉันขอโทษ ฉันไม่สามารถทำได้)
- I’m sorry. That’s not possible. (ฉันขอโทษ มันเป็นไปไม่ได้)
- I’d rather / prefer you didn’t. (ฉันคิดว่าคุณไม่ควรทำ)
Would you mind + verb ing ตัวอย่าง:
- ตัวอย่าง 1:
A : Would you mind closing the door?
B : Of course not.
- ตัวอย่าง 2:
A : Would you mind getting me a cup of tea?
B :I’m sorry. That’s not possible. I’m really busy now.
>>> Read more:
- วิธีการพูดแทน Of course อย่างมาตรฐานและธรรมชาติเหมือนเจ้าของภาษา
- 15+ วิธีพูด ไม่เป็นไร ภาษาอังกฤษ ที่เรียบง่ายและจดจำได้ง่าย
ตัวอย่างบทสนทนากับ Would you mind/ Do you mind
หากคุณต้องการสื่อสารภาษาอังกฤษอย่างมีประสิทธิภาพด้วยโครงสร้าง Would you mind อย่าพลาดตัวอย่างประโยคการสนทนาในตารางด้านล่าง:
ตัวอย่างบทสนทนากับ Would you mind/ Do you mind | คำแปล |
Would you mind closing the window? – No, I don’t mind. | คุณจะรังเกียจไหม ถ้าจะให้ปิดหน้าต่างให้หน่อย – ไม่ ฉันไม่รังเกียจ |
Would you mind sending this email to me? – I’m sorry, I can’t. | คุณจะรังเกียจมั้ยที่จะส่งเมลให้ฉันหน่อย – ขอโทษ ฉันไม่สามารถทำได้ |
Would you mind if I talked to your younger sister? – Not at all. | คุณรังเกียจไหมถ้าฉันคุยกับน้องสาวคุณ – ไม่เลยสักนิด |
Would you mind if she sat in this chair? – I’m sorry. That’s not possible. | คุณจะรังเกียจไหมถ้าเธอจะนั่งบนเก้าอี้ตัวนี้ – ฉันขอโทษ มันเป็นไปไม่ได้ |
Would you mind Alice’s bringing his pet to your house? – Please do. | คุณจะรังเกียจไหมถ้าอลิซจะพาสัตว์เลี้ยงของเขามาที่บ้านของคุณ – ทำได้เลย |
Would you mind his father smoking here? – I’d rather he didn’t. | คุณจะรังเกียจไหมถ้าพ่อของเขาจะสูบบุหรี่ที่นี่ – ฉันคิดว่าคุณไม่ควรทำ |
ความแตกต่างระหว่าง “Would you mind” และ “Do you mind”
ความเหมือนกัน
- โครงสร้างทั้งสองนี้เป็นสำนวนที่สุภาพ ดังนั้น ควรใช้เมื่อต้องการขอร้อง หรือขออนุญาตอย่างสุภาพและเป็นกันเอง
- หลังจากโครงสร้าง “Would you mind” และ “Do you mind” แล้วคำกริยามักจะถูกใช้ด้วยรูปแบบ -ing ตัวอย่าง: “Do you mind waiting for a few minutes?”, “Would you mind turning down the music?”.
- เมื่อคุณขออนุญาตอย่างสุภาพมากขึ้น ให้เติม “if” ในประโยค
ตัวอย่าง: “Would you mind if I borrowed your book?”
ความแตกต่างกัน
ความแตกต่างกัน | Would you mind | Do you mind |
บริบทการใช้ | “Would you mind” หมายถึง ความไม่แน่นอนในประโยคเงื่อนไข “Do you mind” ค่อนข้างแน่นอนมากกว่า | “Do you mind” เป็นทางการน้อยกว่าและสุภาพน้อยกว่า “would you mind” ดังนั้น มักใช้โครงสร้างว่า “would you mind” |
ประโยคมี if | Would you mind if someone did something (กริยาผันเหมือนในรูปอดีตธรรมดา). ตัวอย่าง: Would you mind if I closed the window? (คุณจะรังเกียจไหมถ้าฉันจะปิดหน้าต่าง) | “Do you mind if someone do something” (กริยาผันเหมือนในรูปกาลปัจจุบันกาลธรรมดา). ตัวอย่าง: Do you mind if I close the window? (จะเป็นไรไหมถ้าฉันปิดหน้าต่าง) |
แบบฝึกหัดเกี่ยวกับโครงสร้าง Would you mind และคำตอบ
บทที่ 1: เติมคำกริยาในรูปแบบที่ถูกต้องในวงเล็บ:
- Excuse me. Would you mind (put out) ________ your cigarette? It’s non-smoking here.
- Tuan, would you mind (open) ________ up your luggage?
- Would you mind if I (sing) ________ here?
- A: Would you mind (turn up) ________ the volume? — B: No, not at all.
- Would you mind (speak) ________ when you are eating?
- Would you mind if I (write) ________ this letter with a green pen?
- Do you mind (put) ________ the wet towel on the sofa?
- Do you mind if I (make) ________ the street dirty with the garbage?
บทที่ 2: กรุณาใช้โครงสร้าง Would you mind เพื่อเลือกคำตอบที่ถูกต้องสำหรับประโยคต่อไปนี้:
1. Would you mind if I_____ the door ?
A – close
B – closed
C – closing
D – to close
2. It is too hot here. Would you mind_____he air-conditioner ?
A – turn on
B – turning on
C – to turn on
D – turned on
3. Would you mind_____ I borrowed your dictionary?
A. if
B. that
C. when
D. Ø
4. Would you mind _____ the window?
A. to close
B. about closing
C. closed
D. closing
5. Would you mind if I ____________ you tonight?
A. Didn’t join
B. Join
C. Joined
D. to Join
คำตอบ:
บทที่ 1:
1. putting out | 2. opening | 3. sang | 4. turning up |
5. speaking | 6. wrote | 7. putting | 8. made |
บทที่ 2:
1. B – closed | 2. B – turning on | 3. A. if |
4. D. closing | 5. A. Didn’t join |
ด้านบนนี้เป็นโครงสร้าง การใช้ และตอบคำถาม Would you mind แปลว่าอะไร ในภาษาอังกฤษได้แล้ว หวังว่าความรู้จาก ELSA Speak จะช่วยให้คุณมีความรู้เพิ่มเติมในด้านไวยากรณ์ นอกจากนี้คุณยังสามารถลงทะเบียน ELSA Speak เพื่อฝึกสัมภาษณ์และสนทนากับห้องจำลองระดับมืออาชีพได้ รีบลงทะเบียนเพื่อรับข้อเสนอที่ดีที่สุด!
ไวยากรณ์ภาษาอังกฤษเป็นหัวใจแห่งการสื่อสารที่ช่วยให้เราสื่อสารกับชาวต่างชาติที่เข้าใจได้ง่าย ด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีในปัจจุบัน เราสามารถเช็คไวยากรณ์ได้อย่างง่ายดายผ่านเว็บไซต์ตรวจสอบไวยากรณ์ บทความด้านล่างนี้จะแนะนำให้คุณรู้จักกับ 10+ เว็บไซต์เช็คแกรมม่าภาษาอังกฤษออนไลน์ ใช้งานฟรี
เหตุผลที่ควรใช้เว็บเช็คแกรมม่า
ความถูกต้องและความแม่นยำ
เมื่อใช้เว็บไซต์เช็คแกรมม่า ประโยชน์หลัก คือ ความถูกต้องและความแม่นยำของผลลัพธ์ เว็บไซต์ตรวจสอบไวยากรณ์ได้รับการตั้งภาษาโปรแกรมระดับสูง ซึ่งช่วยระบุข้อผิดพลาดทางไวยากรณ์ทั่วไปและให้คำแนะนำในการแก้ไข ด้วยความสามารถในการวิเคราะห์ไวยากรณ์อันดีเยี่ยม เว็บไซต์ตรวจสอบไวยากรณ์นี้สามารถระบุข้อผิดพลาดทางไวยากรณ์ ข้อผิดพลาดประเภทของคำต่างๆ เวลา และโครงสร้างประโยคได้ เพื่อให้แน่ใจว่างานเขียนของคุณจะถูกหลักไวยากรณ์ และสื่อความหมายได้ชัดเจนและกระชับ
ความเชี่ยวชาญ
เมื่อเขียนเอกสารอย่างเป็นทางการ เช่น อีเมลทำงาน เรียงความ หรือเอกสารทางวิชาชีพ การใช้เว็บไซต์ตรวจสอบไวยากรณ์จะช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่างานเขียนไม่มีข้อผิดพลาดด้านไวยากรณ์หรือการสะกดคำ เพื่อสร้างความประทับใจให้กับผู้อ่าน ว่าคุณใส่ใจในรายละเอียดและมีความมั่นใจในคุณภาพงานของคุณ
ประหยัดเวลา
การใช้เว็บไซต์เช็คแกรมม่าช่วยประหยัดเวลาได้มาก แทนที่จะต้องตรวจสอบและแก้ไขแกรมม่าด้วยตนเอง คุณสามารถคัดลอกและวางข้อความลงในเว็บไซต์ตรวจสอบไวยากรณ์ได้อย่างง่ายดาย โดยเว็บไซต์จะวิเคราะห์และระบุข้อผิดพลาดทางไวยากรณ์ในข้อความอย่างรวดเร็ว ซึ่งช่วยให้คุณประหยัดเวลาและช่วยทุ่นแรง เพื่อมุ่งเน้นที่การสร้างเนื้อหาและแก้ไขด้านอื่น ๆ ของงานของคุณได้มากขึ้น
10+ เว็บเช็คแกรมมา่ภาษาอังกฤษออนไลน์ ใช้งานฟรี
QuillBot
QuillBot เว็บไซต์เช็คแกรมม่า สามารถถอดความข้อความภาษาอังกฤษของคุณได้ ด้วยระบบ AI ที่จะแนะนำคำที่แม่นยำก็สามารถเช็คแกรมม่า ผ่านรูปแบบไฟล์ DOC และ PDF เพิ่มพูนคุณภาพของเนื้อหาข้อความ ปรับปรุงโครงสร้าง คำศัพท์และประโยค ไม่เพียงแต่ตรวจสอบไวยากรณ์ภาษาอังกฤษเท่านั้น QuillBot ยังสามารถใช้ด้วยภาษาอื่น ๆ ได้ถึง 18 ภาษา
Writer
Writer เว็บไซต์ตรวจสอบไวยากรณ์ภาษาอังกฤษออนไลน์ ใช้งานได้กับทั้งอีเมลและ Google Docs สำหรับผู้ที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นประจำ อย่าพลาดเครื่องมือนี้ เพราะมันจะช่วยให้คุณสามารถปรับปรุงและทบทวนเนื้อหาของคุณได้อย่างสะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น
Grammarly
คุณสามารถติดตั้งโปรแกรมเช็คแกรมม่านี้บน Google Chrome เว็บไซต์ตรวจสอบไวยากรณ์ฟรี และใช้งานง่าย คุณสามารถป้อนเนื้อหาภาษาอังกฤษบนเว็บไซต์ใดก็ได้ ไม่ว่าจะป้อนเนื้อหา ใน Google Docs หรือโพสต์สถานะบน Facebook Grammarly ก็ให้คำแนะนำภาษาในอังกฤษได้ทันที
>>> Read more:
- 28 เว็บไซต์เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ฟรีที่ดีที่สุด 2024
- คอร์สเรียนภาษาอังกฤษที่มีประสิทธิภาพและดีที่สุดในปัจจุบัน
Ginger
เว็บไซต์เช็คแกรมม่า Ginger ในประโยคสั้น ๆ หรือข้อความที่มีความยาวไม่เกิน 300 ตัวอักษร ใช้งานง่ายและสามารถติดตั้งส่วนขยายสำหรับเบราว์เซอร์ Google Chrome ได้ นี่เป็นเครื่องมือตรวจสอบไวยากรณ์ที่มีประสิทธิภาพและน่าสนใจที่คุณสามารถเชื่อถือได้
Reverso
Reverso เป็นเว็บไซต์เช็คแกรมม่าภาษาอังกฤษ เน้นการใช้งานง่ายและลักษณะพื้นฐาน Reverso ให้การตรวจสอบไวยากรณ์อย่างรวดเร็ว ครอบคลุมภาษาอังกฤษบริติชและอเมริกันอิงลิช และภาษาอื่นๆ อีกกว่า 26 ภาษา พร้อมตรวจสอบไวยากรณ์ผ่านไฟล์ Word, PDF, PowerPoint, Excel และอื่นๆ อีกมากมาย
Language Tool
LanguageTool เป็นเว็บไซต์เช็คแกรมม่าออนไลน์สำหรับหลายภาษา: อังกฤษ เยอรมัน สเปน ฝรั่งเศส และอื่นๆ LanguageTool มีคุณสมบัติพื้นฐานที่ช่วยแก้ไขข้อผิดพลาดทางไวยากรณ์ในประโยคและข้อความ แก้ไขข้อผิดพลาดด้านแกรมม่า คำที่สะกดผิด การสะกดผิด ข้อผิดพลาดในการใช้เครื่องหมายวรรคตอน ข้อผิดพลาดในการใช้อักษรตัวพิมพ์ใหญ่
Scribbr
เว็บไซต์เช็คแกรมม่า Scribbr ตรวจสอบและแก้ไขไวยากรณ์ภาษาอังกฤษในเนื้อหาทางวิชาการ วิทยานิพนธ์ และงานวิจัยทางวิชาการอื่นๆ Scribbr สามารถปรับโครงสร้างเนื้อหาให้เหมาะสมเพื่อความแม่นยำและคุณภาพสูง คุณสามารถอัปโหลดเอกสารได้ทันทีผ่านเว็บไซต์หรือแอป เช่น Word, Google Docs และอื่นๆ Scribbr กลายเป็นเว็บไซต์ตรวจสอบไวยากรณ์ที่เชื่อถือได้และมีผู้ใช้จำนวนมากทั่วโลก
Linguix
เว็บไซต์ตรวจสอบไวยากรณ์ Linguix เพื่อทดสอบและปรับปรุงการใช้ภาษาอังกฤษที่เหมาะสม โดยตรวจสอบคำที่ไม่ถูกต้องหรือไม่เหมาะสม เว็บไซต์นี้จะแนะนำโครงสร้างประโยคที่ได้รับการปรับปรุง การตรวจสอบไวยากรณ์ และการแก้ไขข้อผิดพลาดสำหรับภาษาอื่นๆ ที่สามารถใช้งานได้ผ่านเว็บเบราว์เซอร์ เพียงคัดลอกและวางข้อความที่คุณต้องการตรวจสอบ หรือใช้เว็บไซต์นี้ Google Chrome หรือ Mozilla Firefox
Smodin
เว็บไซต์เช็คแกรมม่าออนไลน์ Smodin ตรวจสอบข้อผิดพลาดทางไวยากรณ์ การสะกด รูปแบบประโยค แก้ไขคำศัพท์ การสะกดคำ และวลีที่เหมาะสมในเนื้อหาบทความ Smodin ใช้เทคโนโลยี AI เพื่อวิเคราะห์และตรวจสอบเนื้อหา ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้สามารถได้รับคำแนะนำและการแก้ไขที่แม่นยำ
>>> Read more: ถึงเวลาใช้ AI เข้ามาช่วยฝึกพูดภาษาอังกฤษ
Masterra
Masterra เป็นเว็บไซต์เช็คแกรมม่าที่เน้นการตรวจสอบและแก้ไขข้อผิดพลาดด้านไวยากรณ์และการสะกดผิดในเนื้อหาบทความ เว็บไซต์นี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อปรับปรุงคุณภาพของเนื้อหาเพื่อให้มีความถูกต้องและอ่านง่ายยิ่งขึ้น Masterra มีคุณสมบัติที่น่าสนใจ เช่น การตรวจสอบข้อผิดพลาดด้านไวยากรณ์และการสะกดคำ การแนะนำคำและวลีที่สามารถใช้เพื่อแทนที่คำที่ไม่เหมาะสม การตรวจสอบรูปแบบประโยค และการปรับสมดุลเนื้อหา
SpellCheckPlus
SpellCheckPlus เป็นเว็บไซต์ที่ช่วยคุณตรวจสอบและตรวจจับข้อผิดพลาดในไวยากรณ์และคำศัพท์ภาษาอังกฤษ ช่วยให้คุณค้นหาข้อผิดพลาดทางไวยากรณ์และการสะกดคำทั่วไปในประโยค และชี้ให้เห็นลักษณะของข้อผิดพลาดของประโยคและวิธีแก้ไข เว็บไซต์จะตรวจสอบบทความและไฮไลท์ข้อผิดพลาดของคุณ จากนั้นอธิบายว่าเหตุใดคุณจึงผิด และช่วยให้คุณจดจำและเสริมความรู้ที่คุณไม่ทราบ เว็บไซต์มีความสามารถในการแก้ไขและตรวจจับข้อผิดพลาดในย่อหน้ายาวๆ และคุณยังสามารถแยกออกเป็นประโยคสั้นๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ครอบคลุมมากขึ้น
ChatGPT
ลิงค์ web: chat.openai.com
เครื่องมือเช็คแกรมม่า AI ขั้นสูงที่สนับสนุนโดย ChatGPT จะตรวจสอบและแก้ไขข้อความของคุณเพื่อความสะดวก
ใช้เครื่องมือเช็คแกรมม่า ChatGPT เพื่อตรวจสอบข้อผิดพลาดด้านไวยากรณ์ การสะกด และเครื่องหมายวรรคตอนในข้อความเพื่อปรับปรุงงานเขียนของคุณ
Online Correction
Online Correction เป็นเว็บไซต์ที่ดีที่สุดที่จะช่วยผู้ใช้ในการตรวจจับและแก้ไขข้อผิดพลาดทางไวยากรณ์และข้อผิดพลาดของข้อความภาษาอังกฤษในปัจจุบัน ช่วยแก้ไขเอกสารภาษาอังกฤษได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำที่สุด ประหยัดเวลาสำหรับผู้ใช้
เว็บไซต์จะตรวจจับและแก้ไขไวยากรณ์และการสะกดคำผิดในภาษาอังกฤษโดยอัตโนมัติ แล้วจัดเรียงประโยคในย่อหน้าใหม่ให้เหมาะสมกับบริบท
Virtual Writing Tutor
Virtual Writing Tutor เป็นเว็บไซต์ตรวจสอบไวยากรณ์ฟรี ที่ผู้คนจำนวนมากใช้งานอยู่ในปัจจุบัน ช่วยให้ผู้ใช้สามารถตรวจจับ รวมทั้งแก้ไขข้อผิดพลาดด้านไวยากรณ์ภาษาอังกฤษได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ
เว็บไซต์จะช่วยคุณตรวจสอบการสะกด ตำแหน่งคำ ข้อผิดพลาดในการใช้อักษรตัวพิมพ์ใหญ่ ฯลฯ ในภาษาอังกฤษ และให้คำอธิบายและข้อเสนอแนะ เพื่อช่วยให้คุณสามารถปรับปรุงการใช้คำ โครงสร้าง และการออกเสียงได้มีเหตุมีผลมากขึ้น
Prowritingaid
ProWritingAid เป็นโปรแกรมแก้ไขข้อความและโปรแกรมเช็คแกรมม่าระดับสูง สร้างขึ้นสำหรับบล็อกเกอร์ นักเขียนเนื้อหา และผู้แต่งนวนิยายโดยเฉพาะ ช่วยให้ผู้ใช้เพิ่มประสิทธิภาพบทความของตน ลบข้อผิดพลาด และแก้ไขข้อผิดพลาดด้านไวยากรณ์และเครื่องหมายวรรคตอนโดยอัตโนมัติ
Gradeproof
Gradeproof คือเครื่องมือตรวจสอบไวยากรณ์และการลอกเลียนแบบที่ขับเคลื่อนโดย AI ซึ่งใช้คำแนะนำด้านไวยากรณ์ การสะกดคำ และการเปลี่ยนคำขั้นสูงเพื่อปรับปรุงคุณภาพงานเขียนของคุณ
>>> Read more: 7 เคล็ดลับฝึกภาษาอังกฤษด้วยตัวเองอย่างมีประสิทธิภาพที่สุด
เรียนรู้กับ ELSA Speak
ELSA Speak เป็นแอปพลิเคชันการเรียนรู้การออกเสียงภาษาอังกฤษ นำเสนอฟีเจอร์พิเศษ “Speech Analyzer” ที่รวมอยู่ในแพ็คเกจการเรียน ELSA Premium คุณลักษณะนี้ออกแบบมาเพื่อช่วยผู้เรียนเรียนไวยากรณ์ภาษาอังกฤษอย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อใช้ Speech Analyzer ผู้ใช้จะมีการวิเคราะห์การออกเสียง การใช้คำ และโครงสร้างประโยคโดยละเอียดในระหว่างการสื่อสาร ช่วยให้พวกเขาทราบข้อผิดพลาดทางไวยากรณ์ทั่วไปและวิธีแก้ไข สิ่งนี้ไม่เพียงแต่ช่วยให้ผู้เรียนพัฒนาทักษะการฟังและการพูด แต่ยังเพิ่มความสามารถในการใช้ไวยากรณ์ได้แม่นยำยิ่งขึ้นอีกด้วย
ELSA Speak หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับคุณในการเรียนภาษาอังกฤษ โดยเฉพาะการเช็คแกรมม่า มาติดตาม ELSA Speak ได้ในบทความหน้ากันเลยนะคะ!
>>> Read more: