Author: Bao Ngan Nguyen
คำบุพบท 2 คำ Since และ For เป็นคำบุพบทที่ใช้บ่อยในภาษาอังกฤษ แต่อาจทำให้เกิดความสับสนได้ง่าย เพราะมันมักจะปรากฏในอดีตกาล (Past Tense) และกาลที่สมบูรณ์แบบ (Perfect Tense) เมื่อทำความเข้าใจแล้ว ELSA Speak จึงได้รวบรวมวิธีการแยกแยะระหว่าง since กับ for โครงสร้าง และวิธีการใช้ for since ในบทความต่อไปนี้ มาหาคำตอบกันเลย
Since, For คืออะไร ?
Since คืออะไร ?
Since ถูกเข้าใจว่าเป็น “ตั้งแต่ … (อดีตจนถึงตอนนี้)” มักเกี่ยวข้องกับเวลาที่ระบุหรือเวลาที่เหตุการณ์เกิดขึ้นในอดีต
ตัวอย่างเกี่ยวกับวิธีใช้ since:
- since 2020 (ตั้งแต่ปี 2020)
- since June (ตั้งแต่เดือนมิถุนายน)
- since I was a child (ตั้งแต่ฉันยังเป็นเด็ก)
- since she left (ตั้งแต่เธอจากไป)
For คืออะไร?
For หมายความว่า “เป็นระยะเวลา” มักจะไปพร้อมกับช่วงเวลาที่เหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้น เข้าใจง่าย ๆ ก็คือ เวลาคือระยะห่างระหว่างเส้นเวลา 2 เส้น
ตัวอย่างเกี่ยวกับวิธีใช้ for:
- for 2 days (เป็นระยะเวลา 2 วัน)
- for a month (เป็นระยะเวลา 1 เดือน)
- for years (เป็นระยะเวลาหลายปี)
โครงสร้าง For/Since
โครงสร้าง Since
โครงสร้าง | วิธีใช้ | ตัวอย่าง |
SINCE + เส้นเวลา | ในกรณีนี้ ส่วนประโยคหลักมักจะแบ่งออกเป็นกาลที่สมบูรณ์แบบ (Perfect Tense) ด้วยเหตุผลดังกล่าว Since จึงเป็นเอกลักษณ์ประจำตัวของกาลที่สมบูรณ์แบบ (Perfect Tense) | • They have lived there since November 2018. (พวกเขาอาศัยอยู่ที่นั่นตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2018 จนถึงปัจจุบัน) • She has studied English since 2010. (เธอเรียนภาษาอังกฤษมาตั้งแต่ปี 2010 จนถึงปัจจุบัน) • I have been playing football since 5 P.M. (ฉันเล่นฟุตบอลตั้งแต่ 17.00 น จนถึงปัจจุบัน) • Her brother had been working in this company since March. (พี่ชายของเธอทำงานที่บริษัทตั้งแต่เดือนมีนาคม จนถึงปัจจุบัน) |
SINCE + ประโยคอดีตกาลธรรมดา | Since ตามด้วยประโยคอดีตกาลธรรมดา ตามโครงสร้างนี้ Since จะอธิบายถึงการกระทำที่เริ่มขึ้นในอดีต โดยมีความหมายว่า “ตั้งแต่” | • We haven’t met each other since we graduated. (เราไม่ได้เจอกันเลยตั้งแต่เรียนจบ) • He had lived with his parents since he was a child. (เขาอยู่กับพ่อแม่ตั้งแต่เขายังเป็นเด็ก) |
SINCE + V-ING | โครงสร้างนี้เป็นรูปแบบย่อของโครงสร้างด้านบน อย่างไรก็ตาม คุณสามารถใช้โครงสร้างนี้ได้เฉพาะ เมื่อประธานของประโยคหลักและประโยค Since เหมือนกัน | • Since he left university, he has worked a lot. = Since leaving university, he has worked a lot. (ตั้งแต่เขาออกจากมหาวิทยาลัย เขาทำงานเยอะมาก) • Since they moved to the new house, they’ve walked to school many times. = Since moving to the new house, they’ve walked to school many times. (ตั้งแต่ย้ายมาอยู่บ้านใหม่ พวกเขาก็เดินไปโรงเรียนหลายครั้ง) |
SINCE THERE/ SINCE THEN/ EVER SINCE | เมื่อใช้ Since there, Since then หรือ Ever since คุณต้องการเน้นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตลอดตั้งแต่จุดใดจุดหนึ่ง กล่าวอีกนัยหนึ่ง วลีเหล่านี้หมายถึง “ตั้งแต่นั้นมา” | • You’ve become a member of our group since then. (คุณจะเป็นสมาชิกของทีมเราตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา) • They’d done a lot of work ever since. (พวกเขาได้ทำงานมากมายตั้งแต่นั้นมา) |
โครงสร้าง For
ด้วยโครงสร้าง For เพียงจำกฎที่ว่า For มักจะอยู่กับระยะเวลาหนึ่ง (กำหนดหรือไม่ก็ได้) แค่นี้ คุณก็สามารถใช้ For ได้อย่างคล่องแล้ว
for + ระยะเวลา
ตัวอย่าง
- I have walked to school for 3 years. (ฉันเดินไปโรงเรียนเป็นเวลา 3 ปี)
-> ระยะเวลาที่ระบุ
- She had been exercising for hours. (เธอออกกำลังกายเป็นเวลาหลายชั่วโมง)
-> ระยะเวลาที่ไม่ระบุ
ควรสังเกตว่า ห้ามใช้ For กับคำวิเศษณ์ เช่น all day (ทั้งวัน), all night (ทั้งคืน)…
หลักการใช้ Since For
วิธีใช้ For
- For ใช้เพื่ออ้างถึงช่วงเวลาหนึ่งที่ระบุไว้ที่เหตุการณ์/การกระทำที่เกิดขึ้นและยังคงอยู่
- For ใช้ในหลาย tense
วิธีใช้ For | ตัวอย่าง |
ปัจจุบันกาลธรรมดา | She exercises for an hour every day. (เธอออกกำลังกายหนึ่งชั่วโมงทุกวัน) |
ปัจจุบันสมบูรณ์แบบต่อเนื่อง | They have been playing soccer for an hour. (พวกเขาเล่นฟุตบอลเป็นเวลา 1 ชั่วโมง) |
ปัจจุบันสมบูรณ์แบบ | She has lived in this city for five years. (เธออาศัยอยู่ในเมืองนี้เป็นเวลา 5 ปี) |
อดีตกาลต่อเนื่อง | They were playing chess for hours before they got tired. (พวกเขาเล่นหมากรุกเป็นเวลาหลายชั่วโมงก่อนที่เขาจะเหนื่อย) |
อดีตกาลสมบูรณ์แบบ | She had worked there for two years before she quit. (เธอทำงานที่นั่นเป็นเวลา 2 ปีก่อนที่จะลาออก) |
อนาคตกาลธรรมดา | She will work on the project for the next two weeks. (เธอจะทำงานในโครงการนี้ในอีกสองสัปดาห์ข้างหน้า) |
วิธีใช้ Since
- Since ใช้เพื่ออธิบายเวลาที่เหตุการณ์/การกระทำเริ่มเกิดขึ้น
- Since ใช้ในประโยคในกาลสมบูรณ์
วิธีใช้ Since | ตัวอย่าง |
ปัจจุบันสมบูรณ์แบบ (Present Perfect) | He has been in this company since last year. (เขาอยู่ในบริษัทนี้มาตั้งแต่ปีที่แล้ว) |
ปัจจุบันสมบูรณ์แบบต่อเนื่อง (Present Perfect Continuous) | They have been waiting for the bus since 6 a.m. (พวกเขารอรถเมล์ตั้งแต่ 6 โมงเช้า) |
อดีตกาลสมบูรณ์แบบ (Past Perfect) | I had known him since we were in college. (ฉันรู้จักเขาตั้งแต่เรายังเรียนมหาวิทยาลัย) |
อดีตกาลสมบูรณ์แบบต่อเนื่อง (Past Perfect Continuous) | They had been waiting for two hours since I left. (พวกเขารอมาสองชั่วโมงแล้วตั้งแต่ฉันออกไป) |
นอกจากนี้ Since ยังมีความหมายอื่น นั่นก็คือ “เพราะ” ซึ่งคล้ายกับ Because
ตัวอย่าง: Since he didn’t call, I assumed he was busy. (เพราะเขาไม่โทรมา ฉันจึงคิดว่าเขายุ่งอยู่)
Since For ต่างกันยังไง
แยกแยะ | Since | For |
คล้ายกัน | Since และ For ใช้ในประโยคโดยมีวัตถุประสงค์เพื่ออธิบายเวลาที่เหตุการณ์/การกระทำบางอย่างเกิดขึ้น | |
ต่างกัน | Since + เส้นเวลา Since แปลว่า “ตั้งแต่” Since ใช้เพื่อตอบคำถาม When? เช่น since 10 o’clock, since Monday, since 2020, since he left… | For + ระยะเวลาFor แปลว่า “ประมาณ, ตลอด, ตลอด”For ใช้เพื่อตอบคําถาม How long? เช่น for 3 days, for 10 minutes, for 2 weeks, for ages, for a long time… |
>>> Read more:
- การใช้คำสันธานในภาษาอังกฤษ: after, before, as, until, in case,…
- คำบุพบทบอกเวลา (preposition of time): การใช้พร้อมกับตัวอย่าง
แบบฝึกหัด Since For
บทที่ 1: ใช้ since หรือ for เพื่อเติมวลีต่อไปนี้
1. _______ days
2. _______ last week
3. _______ a decade
4. _______ he was a young boy
5. _______ ages
6. _______ New Year Eve
7. _______ five a.m.
8. _______ a long time
9. _______ a year
10. _______ his birthday.
11. _______ last summer
12. _______ that day
13. _______ three months
14. _______ Monday
15. _______ many years
16. _______ she was born
17. _______ twenty minutes a day
18. _______ my mum went out
19. _______ we moved to New York
20. _______ August
คําเฉลย
1. for days | 2. since last week | 3. for a decade | 4. since he was a young boy | 5. for ages |
6. since New Year Eve | 7. since five a.m | 8. for a long time | 9. for a year | 10. since his birthday. |
11. since last summer | 12. since that day | 13. for three months | 14. since Monday | 15. for many years |
16. since she was born | 17. for twenty minutes a day | 18. since my mum went out | 19. since we moved to New York | 20. since August |
คําถามที่พบบ่อย
Since For คือ tense อะไร
Since For ใช้ในอดีตและกาลที่สมบูรณ์แบบ (Past Tense หรือ Perfect Tense)
Since + เส้นเวลา คือกาลอะไร
Since + เส้นเวลา คือ กาลปัจจุบันที่สมบูรณ์แบบ (Present Perfect)
ELSA Speak หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับคุณในการแยกแยะ Since For ในภาษาอังกฤษ ติดตาม ELSA Speak ในบทความหน้าได้เลยนะ
การจดจำ Common Noun จะช่วยให้คุณเขียนได้สมบูรณ์แบบ พูดตามหลักไวยากรณ์ และหลีกเลี่ยงความสับสน เมื่อฟังและอ่านภาษาอังกฤษ แล้วคำนามนี้มีความพิเศษอย่างไร มาเรียนรู้วิธีใช้และฝึกฝนกับ ELSA Speak นะ
Common Noun (คำนามทั่วไป) คืออะไร?
คำนามทั่วไป (Common Noun) เป็นคำนามประเภทหนึ่งที่อ้างถึงวัตถุทั่วไป ไม่เฉพาะเจาะจง คำนามทั่วไปใช้เรียกชื่อคน สถานที่ สัตว์ นก แมลง สัตว์เลื้อยคลาน ความคิด สิ่งของ
โดยปกติแล้วจะไม่ใช้อักษรตัวแรกเป็นตัวพิมพ์ใหญ่ ยกเว้นในการขึ้นต้นประโยคหรือในสถานการณ์พิเศษ
ตัวอย่างของคำนามทั่วไป เช่น: owl (นกฮูก), cat (แมว), girl (เด็กหญิง), company (บริษัท), square (จัตุรัส), holiday (วันหยุด), car (รถ),…
ตัวอย่างคำนามทั่วไป (Common noun)
คำนามทั่วไปที่เกี่ยวกับผู้คน
คำนามทั่วไป | คำอ่าน | ความหมาย |
Lad | /læd/ | วัยรุ่น |
Girl | /ɡɜːrl/ | เด็กผู้หญิง |
Boy | /bɔɪ/ | เด็กผู้ชาย |
Individual | /ˌɪndɪˈvɪdʒuəl/ | รายบุคคล |
Child | /tʃaɪld/ | เด็ก |
Woman | /ˈwʊmən/ | ผู้หญิง |
Female | /ˈfiːmeɪl/ | เพศหญิง |
Man | /mæn/ | ผู้ชาย |
Male | /meɪl/ | เพศชาย |
Citizen | /ˈsɪtɪzn/ | พลเมือง |
Lass | /læs/ | สาวน้อย |
คำนามทั่วไปที่เกี่ยวกับสัตว์
คำนามทั่วไป | คำอ่าน | ความหมาย |
Elephant | /ˈelɪfənt/ | ช้าง |
Dog | /dɔːɡ/ | สุนัข |
Pet | /pet/ | สัตว์เลี้ยง |
Goat | /ɡəʊt/ | แพะ |
Horse | /hɔːrs/ | ม้า |
Pig | /pɪɡ/ | หมู |
Donkey | /ˈdɑːŋki/ | ลา |
Chimpanzee | /ˌtʃɪmpænˈziː/ | ชิมแปนซี |
Animal | /ˈænɪml/ | สัตว์ |
Cow | /kaʊ/ | วัว |
Calf | /kæf/ | ลูกวัว |
Pup | /pʌp/ | ลูกสุนัข |
>>> Read more: 150+ คำศัพท์สัตว์ภาษาอังกฤษที่พบบ่อยที่สุด
คำนามทั่วไปที่เกี่ยวกับนก
คำนามทั่วไป | คำอ่าน | ความหมาย |
Dove | /dʌv/ | นกพิราบ |
Crow | /krəʊ/ | อีกา |
Pelican | /ˈpelɪkən/ | นกกระทุง |
Flamingo | /fləˈmɪŋɡəʊ/ | ฟลามิงโก |
Bird | /bɜːrd/ | นก |
Duck | /dʌk/ | เป็ด |
Goose | /ɡuːs/ | ห่าน |
Swan | /swɑːn/ | หงส์ |
Cuckoo | /ˈkʊkuː/ | นกกาเหว่า |
Sparrow | /ˈspærəʊ/ | นกกระจอก |
Hummingbird | /ˈhʌmɪŋbɜːrd/ | นกฮัมมิ่งเบิร์ด |
Eagle | /ˈiːɡl/ | เหยี่ยว |
Vulture | /ˈvʌltʃər/ | อีแร้ง |
คำนามทั่วไปที่เกี่ยวกับแมลง
คำนามทั่วไป | คำอ่าน | ความหมาย |
Housefly | /ˈhaʊsflaɪ/ | แมลงวัน |
Mosquito | /məˈskiːtəʊ/ | ยุง |
Grasshopper | /ˈɡræshɑːpər/ | ตั๊กแตน |
Honeybee | /ˈhʌnibiː/ | ผึ้ง |
Stick insect | /ˈstɪk ɪnsekt/ | แมลงกิ่งไม้ |
Insect | /ˈɪnsekt/ | แมลง |
Wasp | /wɑːsp/ | ตัวต่อ |
Ant | /ænt/ | มด |
Beetle | /ˈbiːtl/ | ด้วง |
Butterfly | /ˈbʌtərflaɪ/ | ผีเสื้อ |
คำนามทั่วไปที่เกี่ยวกับสัตว์เลื้อยคลาน
คำนามทั่วไป | คำอ่าน | ความหมาย |
Snake | /sneɪk/ | งู |
Crocodile | /ˈkrɑːkədaɪl/ | จระเข้ |
Alligator | /ˈælɪɡeɪtər/ | จระเข้ |
Monitor lizard | /ˈmɑːnɪtər ˈlɪzərd/ | ตะกวด |
Chameleon | /kəˈmiːliən/ | กิ้งก่า |
คำนามทั่วไปที่เกี่ยวกับสถานที่
คำนามทั่วไป | คำอ่าน | ความหมาย |
College | /ˈkɑːlɪdʒ/ | วิทยาลัย |
Airport | /ˈerpɔːrt/ | สนามบิน |
School | /skuːl/ | โรงเรียน |
Railway station | /ˈreɪlweɪ ˈsteɪʃn/ | สถานีรถไฟ |
Court | /kɔːrt/ | ศาล |
Terminus | /ˈtɜːrmɪnəs/ | สถานีปลายทาง |
Street | /striːt/ | ถนน |
State | /steɪt/ | สถานะ |
District | /ˈdɪstrɪkt/ | เขตหรือจังหวัด |
Junction | /ˈdʒʌŋkʃn/ | ทางแยก |
Bus stand | /ˈbʌs stænd/ | ป้ายรถเมล์ |
Clinic | /ˈklɪnɪk/ | คลินิก |
Store | /stɔːr/ | ร้านค้า |
Playground | /ˈpleɪɡraʊnd/ | สนามเด็กเล่น |
>>> Read more: 80+ คำศัพท์น่าสนใจเกี่ยวกับสถานที่ในการสื่อสารภาษาอังกฤษ
คำนามทั่วไปเกี่ยวกับสิ่งของ/วัตถุ
คำนามทั่วไป | คำอ่าน | ความหมาย |
Stationery | /ˈsteɪʃəneri/ | เครื่องเขียน |
Water bottle | /ˈwɔːtər bɑːtl/ | ขวดน้ำ |
Car | /kɑːr/ | รถ |
Spray | /spreɪ/ | สเปรย์ |
Plant | /plænt/ | พืช |
Necklace | /ˈnekləs/ | สร้อยคอ |
Tie | /taɪ/ | ผูก |
Shoes | /ʃuː/ | รองเท้า |
Orange | /ˈɔːrɪndʒ/ | ส้ม |
Cucumber | /ˈkjuːkʌmbər/ | แตงกวา |
Thread | /θred/ | หัวข้อ |
Pant | /pænt/ | กางเกง |
คำนามทั่วไปเกี่ยวกับความคิด
คำนามทั่วไป | คำอ่าน | ความหมาย |
Truth | /truːθ/ | ความจริง |
Grace | /ɡreɪs/ | สง่างาม |
Discovery | /dɪˈskʌvəri/ | การค้นพบ |
Cleanliness | /ˈklenlinəs/ | ความสะอาด |
Poverty | /ˈpɑːvərti/ | ความยากจน |
Movement | /ˈmuːvmənt/ | ความเคลื่อนไหว |
Idea | /aɪˈdiːə/ | ความคิด |
Though | /ðəʊ/ | แม้ว่า |
Feeling | /ˈfiːlɪŋ/ | ความรู้สึก |
Expression | /ɪkˈspreʃn/ | การแสดงออก |
การจำแนกคำนามทั่วไป
คำนามทั่วไปสามารถแบ่งเป็น 2 ประเภท:
คำนามทั่วไปที่นับได้
ด้านล่างเป็นคำนามนับได้และมีทั้งเอกพจน์และพหูพจน์
ตัวอย่าง
- Cat (แมว)
- Book (หนังสือ)
- Dog (สุนัข)
สำหรับคำนามนับได้ เราสามารถใช้คำนับ เช่น “a”, “an”, “one”, “two”, “many” และเพิ่ม “s” หรือ “es” เพื่อสร้างพหูพจน์
ตัวอย่าง:
- A cat (แมวหนึ่งตัว)
- Two books (หนังสือสองเล่ม)
- Many dogs (สุนัขหลายตัว)
>>> Read more:
- คํานามเอกพจน์และคำนามพหูพจน์คืออะไร? (มีแบบฝึกหัด)
- แยกแยะระหว่าง Countable และ Uncountable nouns
- หลักการเติม s/ es ต่อคำนาม และวิธีออกเสียง s/ es ให้ถูกต้อง
คำนามทั่วไปที่นับไม่ได้
ด้านล้างเป็นคำนามที่นับไม่ได้และเป็นเอกพจน์
ตัวอย่าง:
- water (นํ้า)
- rice (ข้าว)
- information (ข่าวสาร)
สำหรับคำนามนับไม่ได้ เราไม่สามารถใช้คำนามพหูพจน์หรือนับคำโดยตรง เช่น “a” หรือ “one” อย่างไรก็ตาม คำนามนับไม่ได้ สามารถใช้ร่วมกับคำที่ใช้บอกปริมาน (measure word) หรือตัวระบุปริมาณ (quantifier) ได้
ตัวอย่าง:
- A bottle of water (น้ำหนึ่งขวด)
- A bag of rice (ข้าวหนึ่งถุง)
- A lot of information (ข้อมูลมากมาย)
วิธีใช้คำนามทั่วไป
ด้านล่างเป็นวิธีใช้คำนามทั่วไปในประโยค
ประธาน (Subject)
คำนามทั่วไป สามารถเป็นประธานในประโยคได้ ซึ่งเป็นบุคคลหรือสิ่งของที่ที่รับการกระทำของกริยา
ตัวอย่าง:
- Dogs bark. (สุนัขเห่า)
- Computers have become essential in our daily lives. (คอมพิวเตอร์กลายเป็นสิ่งจำเป็นในชีวิตประจำวันของเรา)
กรรม (Object)
คำนามทั่วไป สามารถเป็นกรรมในประโยคได้ ซึ่งเป็นบุคคลหรือสิ่งของที่รับการกระทำของกริยา
ตัวอย่าง:
- She loves animals. (เธอรักสัตว์)
- He reads books. (เขาอ่านหนังสือ)
ส่วนขยาย (Complement)
คำนามทั่วไปสามารถเป็นส่วนขยายได้ ที่ตามหลัง Verb to be หรือกริยาบอกสถานะ เพื่ออธิบายหรือระบุประธาน
ตัวอย่าง:
- My brother is a teacher. (พี่ชายของฉันเป็นคุณครู)
- That building is a museum. (Tòa nhà đó là một bảo tàng)
แสดงความเป็นเจ้าของโดยใช้ `s (Possessive Ending)
คำนามทั่วไปสามารถใช้กับคำลงท้ายแสดงความเป็นเจ้าของ เพื่อบ่งชี้การครอบครองคนหรือสิ่งของได้
ตัวอย่าง:
- The girl’s bicycle is red. (จักรยานของหญิงสาวเป็นสีแดง)
- The students’ backpacks are heavy. (กระเป๋านักเรียนหนักมาก)
คำนามทั่วไป ยังสามารถใช้เพื่อตั้งชื่อหรือวัตถุที่ไม่เฉพาะเจาะจง หรือไม่ใช่ชื่อในประโยคได้
ตัวอย่าง:
- I need to buy some milk. (ฉันต้องซื้อนม)
- They visited several countries during their trip. (เขาไปเยือนหลายประเทศระหว่างการเดินทาง).
คำนามทั่วไป มักใช้เพื่ออ้างถึงวัตถุทั่วไปหรือไม่เฉพาะเจาะจง สำหรับวัตถุเฉพาะเจาะจง ผู้คนมักใช้คำนามเฉพาะ (Proper Noun) การฝึกฝนการใช้คำนามทั่วไป จะช่วยให้คุณสร้างและเข้าใจในประโยคภาษาอังกฤษได้อย่างถูกต้อง
หมายเหตุเมื่อใช้ Common Noun
- คำนามทั่วไปหลายคำจะกลายเป็นคำนามเฉพาะ เมื่อใช้เป็นชื่อหรือส่วนหนึ่งของชื่อของบุคคลที่มีบทบาทนั้น
ตัวอย่าง: President Obama is the 44th president of the U.S. (ประธานาธิบดีโอบามาเป็นประธานาธิบดีคนที่ 44 ของสหรัฐอเมริกา)
- คำนามที่ทำหน้าที่เป็นชื่อจะใช้ตัวพิมพ์ใหญ่เฉพาะเมื่อใช้เป็นส่วนหนึ่งของชื่อของบุคคลใดที่ถือชื่อนั้นนั้นเท่านั้น
ตัวอย่าง: The United States has had four presidents this century. (สหรัฐอเมริกามีประธานาธิบดีสี่คนในศตวรรษนี้)
- ทิศทาง (เหนือ ตะวันออก ใต้ และตะวันตก) ถือเป็นคำนามทั่วไป แต่จะใช้เป็นอักษรตัวพิมพ์ใหญ่เมื่อใช้เป็นส่วนหนึ่งของชื่อของสถานที่หรือภูมิภาคใดโดยเฉพาะ หรือเมื่อใช้ในบริบททางการเมืองหรือวัฒนธรรม
ตัวอย่าง: The Global South is home to a majority of the world’s population. (โลกใต้เป็นที่ตั้งของประชากรส่วนใหญ่ของโลก)
แบบฝึกหัดพร้อมคำตอบโดยละเอียด
ข้อ 1: อ่านประโยคต่อไปนี้และระบุคำนามทั่วไปหรือคำนามเฉพาะในประโยคเหล่านั้น
1. I gave my book to Riya to read.
2. Red Riding Hood met the fox in the forest.
3. The boy ran to his mother.
4. The reporter went to Noida to collect news.
5. Rose is a beautiful girl.
6. King Arthur was a noble king.
7. The captain steered the ship from hitting the iceberg.
8. The Milky Way is a big galaxy.
9. Sheldon Cooper is an intelligent physicist.
10. J.K Rowling wrote the famous novels on Harry Potter.
คำตอบ:
คำถาม | คำนามทั่วไป (Common Nouns) | คำนามเฉพาะ (Proper Nouns) |
1 | book | Riya |
2 | fox, forest | Red Riding Hood |
3 | boy, mother | |
4 | reporter, news | Noida |
5 | girl | Rose |
6 | king | King Arthur |
7 | captain, ship, iceberg | |
8 | galaxy | Milky Way |
9 | physicist | Sheldon Cooper |
10 | book | J.K Rowling, Harry Potter |
ข้อ 2: ใส่คำนามที่ถูกต้องสำหรับประโยคต่อไปนี้
1. The … (taj mahal) in India is very beautiful.
2. Mr Tony Stark walks his … (dog) everyday.
3. The flat was in the middle of Lenin … (street).
4. This … (milk) tastes sour.
5. I have read the … (novel) by Emily Bronte.
6. The … (author) wrote a crime novel.
7. The old judge passed a unique … (judgment).
8. The Indian … (express) is the newspaper I read regularly.
9. The Ganga is important … (river) of India.
10. My … (uncle) works in the Reserve Bank of India.
คำตอบ:
1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
Taj Mahal | dog | Street/street | milk | novel |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
author | judgment | Express | river | uncle |
ข้อ 3: ระบุคำนามทั่วไปและคำนามเฉพาะ
1. I love drinking milk, and I’m a big fan of Vinamilk.
2. Donald Trump was America’s president.
3. Hoan Kiem Lake is a famous and beautiful lake in Vietnam.
4. The reporter went to Ho Chi Minh City to collect news.
5. National Day is a memorable holiday of a country.
6. We find many new friends on the internet.
7. The current top 1 social networking application is Facebook.
8. Apple is a famous brand.
9. The West is very interested in Eastern culture.
10. Sparrow is his nickname
คำตอบ:
คำถาม | คำนามทั่วไป (Common Nouns) | คำนามเฉพาะ (Proper Nouns) |
1 | milk, fan | Vinamilk |
2 | president | Donald Trump |
3 | lake | Hoan Kiem Lake, Vietnam |
4 | reporter, news | Ho Chi Minh City |
5 | holiday, country | National Day |
6 | friends, internet | |
7 | application | |
8 | brand | Apple |
9 | culture | The West |
10 | nickname | Sparrow |
คำถามที่เจอบ่อย
ความแตกต่างระหว่าง Common Noun (คำนามทั่วไป) และ Proper Noun (คำนามเฉพาะ)?
คำนามทั่วไปและคำนามเฉพาะสามารถวางไว้ได้ในหลายตำแหน่ง โดยทำหน้าที่เป็นภาคประธานหรือกรรมของประโยค ทั้งสองสามารถเป็นเอกพจน์และพหูพจน์ได้เมื่อกล่าวถึง
ดังนั้น ถึงแม้ว่าจะเป็นความรู้ภาษาอังกฤษที่ไม่ยาก แต่ก็สามารถสร้างความสับสนให้แก่ผู้ที่เพิ่งเริ่มเรียนภาษาอังกฤษ และผู้ที่เรียนมาเป็นเวลานาน เพื่อแยกความแตกต่างระหว่างคำนามทั่วไปและคำนามเฉพาะ คุณต้องเข้าใจความรู้ต่อไปนี้:
คำนามทั่วไป (Common Nouns) | คำนามเฉพาะ (Proper Nouns) |
กำหนดเฉพาะเมื่อมีบทความ การกำหนด หรือคำคุณศัพท์อยู่ข้างหน้าเท่านั้น | คำนามระบุวัตถุที่ถูกกล่าวถึง |
ใช้ตัวพิมพ์ใหญ่ เมื่อเป็นคำเริ่มต้นของประโยคเท่านั้น | ใช้ตัวพิมพ์ใหญ่ทุกที่ในประโยค |
สามารถเป็นคำนามเฉพาะได้ เมื่อใช้เป็นชื่อหรือเป็นส่วนหนึ่งของชื่อ ตัวอย่าง: President Obama (ประธานาธิบดีโอบามา), Global South (โลกใต้), North Vietnam (ภาคเหนือเวียดนาม),… | คำนามเฉพาะ แทบจะกลายเป็นคำนามทั่วไปไม่ได้ เว้นแต่จะกลายเป็นคำที่ได้รับการยอมรับและใช้กันอย่างแพร่หลาย ตัวอย่าง: god (พระเจ้า), zipper (ซิป – เคยเป็นชื่อแบรนด์),… |
ข้อมูลทางวิชาการ ใช้ตัวพิมพ์ใหญ่หรือไม่?
ไม่. ตามกฎทั่วไป แนวคิดทางวิชาการ หลักการ ทฤษฎี แบบจำลอง ฯลฯ ถือเป็นคำนามทั่วไป ไม่ใช่คำนามเฉพาะ ดังนั้น จึงไม่ใช้ตัวพิมพ์ใหญ่ ตัวอย่างเช่น: “five-factor model of personality” หรือ “analytic philosophy”
อย่างไรก็ตาม คำนามเฉพาะที่ปรากฏในชื่อของแนวคิดทางวิชาการ (เช่น ชื่อของนักประดิษฐ์) จะใช้อักษรตัวพิมพ์ใหญ่ตามปกติ ตัวอย่างเช่น: “Darwin’s theory of evolution” หรือ “Student’s table”
ฤดูกาลของปีใช้ตัวพิมพ์ใหญ่หรือไม่?
ชื่อฤดูกาล เช่น spring ถือเป็นคำนามทั่วไปในภาษาอังกฤษ ดังนั้น จึงไม่ใช้ตัวพิมพ์ใหญ่ คนส่วนใหญ่มักคิดว่าคำพวกนี้เป็นคำนามเฉพาะ แต่ไม่ใช่
อย่างไรก็ตาม ชื่อวันและเดือนเป็นคำที่เหมาะสมที่จะใช้ตัวพิมพ์ใหญ่เนื่องจากถือเป็นคำนามเฉพาะในภาษาอังกฤษ (ตัวอย่าง: “Wednesday”, “January”)
>>> Read more:
- ฤดูกาลภาษาอังกฤษ: คำศัพท์ idioms พร้อมวิธีอ่าน
- เดือนภาษาอังกฤษ: สรุปวิธีใช้และวิธีจำอย่างมีประสิทธิภาพ
ดังนั้น ELSA Speak จึงรวบรวมและให้รายละเอียดความรู้ทั้งหมดเกี่ยวกับ Common Nouns (คำนามทั่วไป) สำหรับคุณ ลองสรุปและบันทึกไว้เพื่อทบทวน หวังว่าคุณจะเรียนอย่างมีประสิทธิภาพและสามารถนำความรู้นี้ไปปฏิบัติได้
ในภาษาอังกฤษ คำว่า “sorry” ถูกใช้หลากหลายในหลายสถานการณ์ มาร่วมเรียนรู้กับ ELSA Speak ว่า “sorry” หมายความว่าอะไร และแยกแยะ “sorry” กับคำอื่นๆ ที่มีความหมายใกล้เคียงกัน เช่น “Apologize” และ “Excuse me” ผ่านบทความนี้กันเถอะ!
Sorry หมายความว่าอะไร
Sorry แปลว่าอะไร
Sorry หมายถึง รู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก (โดยนัยว่าขอโทษ…)
ตาม Cambridge Dictionary, sorry – used to say that you wish you had not done what you have done, especially when you want to be polite to someone you have done something bad to.
ตามที่ Cambridge Dictionary กล่าวไว้ “Sorry” ใช้เพื่อบอกว่าคุณหวังว่าคุณไม่ได้ทำสิ่งที่คุณได้ทำไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณต้องการสุภาพกับใครบางคนที่คุณได้ทำสิ่งไม่ดีต่อเขา
ตัวอย่างการใช้คำว่า Sorry: I’m so sorry. I was incorrect.
คำศัพท์ที่มีความหมายเหมือนกับ “sorry”
Apologize, excuse me, oops, pardon,…
คำหรือวลีที่เกี่ยวข้องกับ “sorry”
- Apologize: I apologize for the error. (ฉันขอโทษสำหรับความผิดพลาดนี้)
- Say sorry: He didn’t even say sorry. (เขาไม่ได้แม้แต่จะพูดคำว่าขอโทษ)
- Make an apology: The president made an apology to the people of Japan in a public speech. (ประธานาธิบดีได้กล่าวขอโทษต่อประชาชนชาวญี่ปุ่นในการปราศรัยต่อสาธารณะ)
- Express regret: He later expressed regret for portraying sharks as creatures that target human beings. (ต่อมาเขาได้แสดงความเสียใจที่พรรณนาฉลามเป็นสัตว์ที่โจมตีมนุษย์)
แยกแยะระหว่าง Sorry, Apologize, Excuse me
Sorry | Apologize | Excuse me | |
คำศัพท์ | Sorry (adj) | Apologize (v) หรือ Apologise (v) | Excuse (n; v) |
การออกเสียง | /ˈsɒri/ | /əˈpɒlədʒaɪz/ | /ɪkˈskjuːs/ |
ความหมาย | 1. รู้สึกเศร้าและอายที่ได้ก่อความผิดพลาด ในกรณีนี้ ‘sorry’ จะไม่อยู่หน้าคำนาม 2. รู้สึกเศร้าและเห็นใจต่อบางสิ่ง ในกรณีนี้ ‘sorry’ จะไม่อยู่หน้าคำนาม 3. รู้สึกเสียใจต่อสิ่งที่ได้ทำลงไปและหวังว่าตนเองจะทำต่างไปหรือไม่เคยทำสิ่งนั้น ในกรณีนี้ ‘sorry’ จะไม่อยู่หน้าคำนาม 4. เหตุการณ์ที่น่าเศร้าและเลวร้าย โดยเฉพาะเหตุการณ์ที่ทำให้คุณรู้สึกเสียใจหรือยอมรับไม่ได้ ในกรณีนี้ ‘sorry’ จะอยู่หน้าคำนามเท่านั้น | ขอโทษเมื่อทำให้เกิดข้อผิดพลาด ความไม่สะดวกหรือปัญหาให้กับผู้อื่น | 1. (n) เหตุผลในการอธิบายหรือแก้ตัวการกระทำของผู้อื่น 2. (n) ข้อแก้ตัวเพื่อพิสูจน์เหตุผลที่แท้จริงที่ไม่อยากเปิดเผย 3. (n) ใบขออนุญาตที่พ่อแม่หรือแพทย์เขียนขึ้นเพื่ออธิบายเหตุผลในการขาดเข้าร่วมของลูก 4. (v) ยกโทษให้ใครบางคนในสิ่งที่พวกเขาทำ การยกโทษเพราะพวกเขาไม่สุภาพ หรือรู้ว่าตัวเองจะไม่สุภาพได้(v) อ้างอิง, อ้างสิทธิ 5. (v) แก้ตัว อ้างสิทธิ 6. (v) ลาออก (จากงานกิจกรรม) อย่างสุภาพ หรืออนุญาตให้บุคคลใดออกไปอย่างสุภาพ |
ตัวอย่าง | 1. We are sorry about / for losing your keys. We should have been more careful. (พวกเราขอโทษที่ทำกุญแจของคุณหาย เราควรจะระมัดระวังมากกว่านี้) 2. I am sorry about your failure in the exam = I am sorry to hear that you failed the exam. (ฉันเสียใจมากที่คุณสอบตก) 3. John is sorry to make Mary cry = John is sorry (that) he made Mary cry. (จอห์นเสียใจที่ทำให้แมรี่ร้องไห้) 4. Obviously, that was a sorry accident, all of us have not forgotten it yet. (แน่นอนว่านั่นเป็นอุบัติเหตุที่น่าเศร้า พวกเราทุกคนยังไม่ลืมมันเลย) | The airline apologized to all of passengers for delaying unexpectedly the flight Z100 within 1 hour. (สายการบินขอโทษผู้โดยสารทุกคนสำหรับการเลื่อนเวลาของเที่ยวบิน Z100 ที่ไม่คาดคิดก่อนเวลาบิน 1 ชั่วโมง) | 1. Jim gave his excuse for not going to school in this morning. (Jim ให้เหตุผลสำหรับการไม่ไปโรงเรียนในเช้านี้) 2. You’re late again. Don’t give me an excuse! (คุณมาสายอีกแล้ว อย่าแก้ตัวนะ!). 3. Teachers only accept an absence which is accompanied by an excuse. (ครูรับเฉพาะการขาดเรียนที่มาพร้อมกับใบขออนุญาตเท่านั้น) 4. I hope that you will excuse him (for) not using chopsticks when eating. (ฉันหวังว่าคุณจะยกโทษเขา (สำหรับ) การที่ไม่ใช้ตะเกียบเมื่อกิน) 5. You cannot excuse for your rude. (คุณไม่สามารถแก้ตัวสำหรับความหยาบคายของคุณได้) 6. Please feel free to enjoy your meals, I will excuse in 10 minutes. (เชิญรับประทานอาหารให้อร่อยได้เลย ฉันจะออกไปใน 10 นาที). |
ความแตกต่าง | คำคุณศัพท์ ‘sorry’ ส่วนใหญ่จะไม่อยู่หน้าคำนามเมื่อมีความหมายว่า ขอโทษ / เสียใจต่อการกระทำที่ตัวเองหรือคนอื่นก่อขึ้น ‘Sorry’ มักจะใช้ในความหมายว่า ยอมรับความผิดด้วยความจริงใจและเสียใจอย่างมาก มันยังถูกเรียกว่า heartfelt apology (คำขอโทษที่ออกมาจากใจ) ถ้ามีใครพูดว่า ‘sorry’ แต่ไม่รู้สึกเสียใจจริงๆ นั่นหมายถึงเขาโกหกประการที่สาม คำคุณศัพท์ ‘sorry’ ไม่ได้แสดงถึงความเสียใจหรือขอโทษจากตัวผู้พูดหรือผู้เขียนที่ได้ก่อเหตุการณ์เท่านั้น แต่ยังแสดงถึงความรู้สึกเห็นใจและเสียใจจากผู้ที่ไม่ได้ก่อเหตุด้วย | “Apologize” หมายถึงการยอมรับความผิดด้วยทางที่เป็นทางการและสำคัญ อาจเป็นจริงใจหรือไม่ก็ได้ นั่นหมายความว่าคนที่ใช้คำว่า “apologize” อาจจะขอโทษโดยไม่รู้สึกผิด | “Excuse” ไม่เพียงแค่เป็นคำกริยาเท่านั้นแต่ยังเป็นคำนามด้วยในทางการขอโทษ กริยา “excuse” มีจุดมุ่งหวังที่จะขอโทษสำหรับความไม่ตั้งใจ โดยตัวเองผู้พูดหรือผู้เขียนรู้ว่าเหตุการณ์นั้นไม่สุภาพ มันแตกต่างกับคำว่า sorry และ apologize (ขอโทษอย่างจริงใจ) หรือกริยา apologize (ขอโทษสำหรับการกระทำที่ตั้งใจ)เรามักใช้หรือได้ยินวลี “Excuse me!” นี่เป็นการขอโทษที่แท้จริง จะใช้เมื่อเรากำลังจะทำ / ถามสิ่งใดสิ่งหนึ่งและหวังว่าผู้ฟังจะให้ความสนใจในสิ่งที่จะพูด |
>>> Read more: แยกแยะวิธีใช้ yet still just already พร้อมตัวอย่าง
วิธีใช้คำ “sorry”
เมื่อทำผิดสิ่งใดสิ่งหนึ่ง
นี่เป็นวิธีการใช้ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของคำว่า “sorry” แม้ว่าความผิดพลาดจะเป็นโดยเจตนาหรือไม่ก็ตาม ตัวอย่างเช่น “I’m so sorry. I was incorrect” (ขอโทษครับ/ค่ะ ฉันผิดแล้ว)
นอกจากนี้ ในบริบทนี้คุณยังสามารถใช้วลีและแบบประโยคอื่นๆ เช่น:
- That was wrong of me. I promise I will never do it again.
ควาหมาย: นั่นเป็นความผิดของฉัน ฉันสัญญาว่า ฉันจะไม่ทำอีก
- I apologize for my mistake. I should have been paying more attention.
ความหมาย: นั่นเป็นความผิดของฉัน ฉันสัญญาว่าจะไม่ทำซ้ำอีก
เมื่อทำให้คนอื่นเจ็บปวด
บางครั้งคำพูดและการกระทำของเราจะสร้างผลกระทบและทำให้คนรอบข้างเจ็บปวด ในสถานการณ์เช่นนี้ คุณควรขอโทษเพื่อขอรับการอภัยและสามารถถามว่าคุณสามารถทำอะไรเพื่อทำให้อีกฝ่ายรู้สึกดีขึ้น
ตัวอย่าง: I’m very sorry for forgetting the groceries. Please don’t be mad at me
ความหมาย: ฉันขอโทษเป็นอย่างมากที่ลืมของ โปรดอย่าโกรธฉันเลย
ในทำนองเดียวกัน คุณยังสามารถใช้วลีอื่นๆ ในบริบทนี้ได้
- I’m filled with remorse for what I did last night.
ความหมาย: ฉันรู้สึกผิดเป็นอย่างมากสำหรับสิ่งที่ฉันทำเมื่อคืนวาน
- I didn’t mean to hurt you. Will you please give me another chance?
ความหมาย: ฉันไม่ได้ตั้งใจทำให้คุณเจ็บปวด โปรดให้โอกาสฉันอีกครั้งได้ไหม?
เมื่อต้องการแสดงความเห็นด้วย
คำขอโทษไม่ใช่ใช้แค่พูดเมื่อคุณทำผิดเท่านั้น บางครั้ง เมื่อคนรอบตัวคุณพบเจอกับความโศกเศร้าหรือมีเรื่องเลวร้ายเกิดขึ้น เรายังสามารถใช้คำว่า “sorry” เพื่อแสดงความเข้าใจและความเห็นอกเห็นใจได้
ตัวอย่าง: “I’m very sorry. I’ve been through this and I understand how you feel” (ฉันเสียใจด้วย ฉันเคยผ่านเหตุการณ์นี้มาแล้ว ก็เลยเข้าใจว่าคุณรู้สึกอย่างไร)
หากคุณต้องการแสดงความเสียใจต่อใครสักคนเมื่อคนสนิทเสียชีวิต คุณสามารถใช้วลี “My condolences” (ขอแสดงความเสียใจ) แทน “I’m sorry” ได้
>>> Read more: คำที่ใช้แทน “Yes” ในภาษาอังกฤษ
เมื่อต้องการดึงดูดความสนใจ
ในบางกรณี เช่น การถามเส้นทาง เรียกพนักงานเสิร์ฟหรือต้องการความช่วยเหลือ คุณสามารถเริ่มต้นคำทักทายด้วยวลี “sorry”
เช่น: “Sorry, could you please repeat what you said?” (ขออภัย คุณช่วยพูดซ้ำประโยคที่คุณเพิ่งจะพูดได้ไหม) นอกจาก “sorry” คุณยังสามารถใช้ “pardon” และ “excuse me” ในบริบทเช่นนี้ได้
คำถามที่พบบ่อย
วลีที่มีความหมายเหมือนกับ “sorry”
- I apologize. (ฉันขอโทษ)
- Please forgive me. (โปรดให้อภัยฉัน)
- I owe you an apology. (ฉันติดค้างคำขอโทษคุณ)
- I don’t mean to make you displeased. (ฉันไม่ได้ตั้งใจจะทำให้คุณไม่พอใจ)
- How should I apologize you? (ฉันควรขอโทษคุณอย่างไรดี)
>>> Read more: +50 ประโยคขอโทษภาษาอังกฤษอย่างจริงใจที่สุด
ขอโทษที่รบกวนภาษาอังกฤษคืออะไร?
ขอโทษที่รบกวนในภาษาอังกฤษคือ Sorry to bother you.
ควรใช้ Sorry หรือ Apologize
ขึ้นอยู่กับบริบทที่จะเลือกใช้ “sorry” หรือ “apologize” หากคุณต้องการแสดงคำขอโทษอย่างจริงใจหรือความผิดพลาดนั้นเกิดจากตัวคุณเอง “sorry” เป็นตัวเลือกที่ถูกต้อง ในขณะที่ “apologize” เหมาะกว่าเมื่อคุณต้องการแสดงความขอโทษอย่างเป็นทางการและสำคัญ ซึ่งอาจจะจริงใจหรือไม่จริงใจก็ได้
ELSA Speak หวังว่าจากบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับคุณในการสื่อสารและการใช้ “sorry” ในการสนทนาอย่างมีประสิทธิภาพ มาติดตาม ELSA Speak ในบทความต่อไปนะ!
>>> Read more:
Proper noun เป็นส่วนหนึ่งที่มีความสำคัญในภาษาอังกฤษ และมักใช้ได้ในทุกบทโดยเฉพาะในการเขียนเรียงความ งั้น Proper noun คืออะไร ความแตกต่างระหว่าง Proper noun และ Compound noun อย่างไร มาเรียนรู้ด้วย ELSA Speak ในบทความด้านล่างนี้
Proper noun คืออะไร?
ความหมายของ Proper noun
Proper noun เป็นคำนามพิเศษที่หมายถึงชื่อเฉพาะของบุคคล สถานที่ องค์กร หรือเหตุการณ์เฉพาะเจาะจง
ตัวอย่างเกี่ยวกับประเภทของ Proper noun
คำนามชื่อเฉพาะได้แบ่งเป็น
- บุคคล (People) คำนามชื่อเฉพาะหมายถึงบุคคล
ตัวอย่าง John, Mary, David.
- สถานที่ (Places) คำนามเฉพาะใช้เพื่อบอกชื่อสถานที่ เช่น เมือง ประเทศ สวนสาธารณะ แม่น้ำ ภูเขา ฯลฯ
ตัวอย่าง London, Thailand, Central Park, Nile River, Mount Everest.
- องค์กร (Organizations) คำนามเฉพาะใช้เพื่อบอกชื่อองค์กร บริษัท โรงเรียน ฯลฯ
ตัวอย่าง Apple Inc., Harvard University, United Nations.
- เหตุการณ์ (Events) คำนามเฉพาะใช้เพื่อบอกชื่อเหตุการณ์ วันหยุด งานแสดงสินค้า ฯลฯ
ตัวอย่าง Christmas, New Year’s Day, Super Bowl.
- ผลงาน (Works) คำนามเฉพาะใช้เพื่อเรียกชื่อผลงาน เช่น หนังสือ เพลง ภาพยนตร์ เป็นต้น
ตัวอย่าง Pride and Prejudice, “Bohemian Rhapsody”, Titanic.
>>> Read more:
โครงสร้างและการใช้ Proper noun
โครงสร้าง
โดยละเอียด Proper noun เป็นวลีที่ประกอบด้วย 2 องค์ประกอบ ดังนี้
- Proper (คำคุณศัพท์) แปลว่า เฉพาะ
- Noun (คำนาม) แปลว่า คำนาม
ดังนั้น เมื่อผสมกันแล้วจะได้ Proper Noun คือ คำนามชื่อเฉพาะ
สำหรับการออกเสียง Proper noun มี 2 วิธีในการออกเสียง
- ออกเสียง อังกฤษ อังกฤษ /ˈprɒp.ə ˌnaʊn/
- ออกเสียง อังกฤษ อเมริกา /ˈprɑː.pɚ ˌnaʊn/
การใช้ Proper noun
ในส่วนของการใช้งาน Proper noun ทำหน้าที่เป็นคำนามในประโยค ดังนั้น จึงใช้เหมือนคำนาม (N) และมักจะอยู่ในตำแหน่งในประโยค เช่น วางที่ไว้ต้นประโยคจะทำหน้าที่เป็นประธาน วางหลังคำคุณศัพท์ วางหลังคำกริยาทำหน้าที่เป็นกรรม นอกจากนี้ Proper Noun ยังสามารถวางไว้ที่หลังคำนำหน้านาม (a, an, the, this, that, these, those, each, every,…) หรือสามารถอยู่หลังคำบุพบท (in, on, at, of, with, under, about…)
ดูตำแหน่งการใช้คำนามเฉพาะ ได้ตามตัวอย่างต่อไปนี้
- “I visited Paris last year.” (ฉันไปปารีสเมื่อปีที่แล้ว)
- “My favorite actor is Tom Hanks.” (ทอมแฮงค์สเป็นนักแสดงที่ฉันชอบ)
- “We attended the wedding of Sarah and Mark.” (พวกเราไปเข้าร่วมงานแต่งงานของซาราและมาร์ค)
>>> Read more: การใช้ this that these those (คําสรรพนามชี้เฉพาะ) ด้วยแบบฝึกหัด
กฎการใช้อักษรตัวพิมพ์ใหญ่กับคำนามเฉพาะ
- ใช้อักษรตัวพิมพ์ใหญ่เฉพาะทิศทาง เช่น ตะวันออก ตะวันตก เหนือ และใต้ หากได้ใช้เหมือนส่วนหนึ่งของชื่อสถานที่
ตัวอย่าง The Western Ghat section is extremely serene
- ใช้อักษรตัวพิมพ์ใหญ่สำหรับความสัมพันธ์ ในกรณีที่ใช้แทนชื่อ เพื่อกำหนดบุคคลนั้นโดยเฉพาะ
ตัวอย่าง Did you know that Dad won the lottery?
- วันและเดือน ควรเขียนเป็นพิมพ์ใหญ่เสมอ
ตัวอย่าง Are you coming home on Wednesday?
- ฤดูกาลไม่จำเป็นต้องเป็นตัวพิมพ์ใหญ่ เหมือนความสัมพันธ์ ฤดูกาลสามารถเขียนเป็นตัวพิมพ์เล็กได้ เมื่อมันได้ใช้เหมือนเป็นส่วนหนึ่งของชื่อเฉพาะ
ตัวอย่าง I would love to visit Canada in the spring season.
“The Autumn Leaf” is a short collection of poems by different authors.
- อาชีพและตำแหน่งในงานก็ยึดตามกฎเดียวกันด้วย คุณสามารถใช้อักษรตัวพิมพ์ใหญ่เพื่อเริ่มต้นอาชีพหรือตำแหน่งงานได้เมื่อใช้ในการตั้งชื่อ หรือกล่าวถึงบุคคลอื่น
ตัวอย่าง Prime Minister Narendra Modi initiated the Republic Day events by hoisting the flag.
- สัญชาติและประเทศควรใช้ตัวพิมพ์ใหญ่เสมอ เนื่องจากเป็นคำนามชื่อเฉพาะและมักจะใช้เพื่อระบุสถานที่ เชื้อชาติ หรือกลุ่มบุคคลโดยเฉพาะ
ตัวอย่าง The British ruled over India for almost two centuries.
- คุณต้องใช้อักษรตัวพิมพ์ใหญ่เสมอ เมื่ออ้างถึงแบรนด์ใดแบรนด์หนึ่ง
ตัวอย่าง He asked his mom to buy him Puma sneakers.
- ภาษาควรเป็นตัวพิมพ์ใหญ่เสมอ เพราะเป็นคำนามชื่อเฉพาะ อาจจะรวมไปถึงภาษาถิ่น หรือสำเนียงที่ไม่เหมือนกัน แต่ภาษาพื้นฐานยังคงเหมือนเดิม ตัวอย่าง ภาษาอังกฤษมีหลายภาษาถิ่น เช่น ภาษาอังกฤษ-อังกฤษ ภาษาอังกฤษ-อเมริกา ภาษาอังกฤษ-อินเดีย ภาษาอังกฤษแคนาดา ภาษาอังกฤษออสเตรเลีย ฯลฯ
ตัวอย่าง I know four languages: English, Hindi, Tamil and Malayalam
- เหตุการณ์ที่มีความสำคัญในประวัติศาสตร์ ยุคสมัย จะใช้ตัวพิมพ์ใหญ่ แต่ศตวรรษจะไม่เขียนเป็นตัวพิมพ์ใหญ่ได้
ตัวอย่าง British India was also an age of development in the field of science and education
วลีบางคำที่เกี่ยวข้องกับ Proper noun
ภาษาอังกฤษ | ความหมาย |
proper name | ชื่อเฉพาะ |
common noun | คำนามทั่วไป |
noun | คำนาม |
countable noun | คำนามนับได้ |
uncountable noun | คำนามที่นับไม่ได้ |
ความแตกต่างระหว่าง Proper noun และ Compound noun
Compound noun | Proper noun | |
ความหมาย | คำนามประสมประกอบด้วยคำตั้งแต่ 2 คำขึ้นไปมารวมกัน ดังนั้นคำนามประสม จึงสามารถเขียนเป็นคำสองคำที่แยกจากกัน โดยมีเครื่องหมายยัติภังค์อยู่ระหว่างคำทั้งสองหรือรวมกัน | คำนามใช้เรียกคน สัตว์ วัตถุ ความรู้สึก และความคิด แบบชี้เฉพาะเจาะจง |
ตัวอย่าง | Non-stop train (รถไฟไม่หยุด) Writing-table (โต๊ะเขียนหนังสือ) Greenhouse (เรือนกระจก) | John (ชื่อ) London (สถานที่) The New York Times (แบรนด์) |
วิธีเขียน | โดยปกติจะเป็นตัวพิมพ์เล็ก ยกเว้นแต่จะอยู่ต้นประโยค | จะต้องเป็นตัวพิมพ์ใหญ่ |
ใช้เป็นชื่อตำแหน่ง | ไม่สามารถใช้ได้ | สามารถใช้ได้ |
แบบฝึกหัดเกี่ยวกับคำนามเฉพาะ
เปลี่ยนคำนามชื่อเฉพาะในประโยคต่อไปนี้ให้เป็นตัวพิมพ์ใหญ่
- Did you meet sanju yesterday?
- The manager took us all to KFC for lunch today.
- Have you read about the Mughal empire?
- I wish I had a holiday on monday.
- Darshana picked up the regional language, Kannada, sooner than we all thought she would.
- When did Susan reach home last night?
- It is too sultry in the month of may.
- I told mom about your test results.
- I think the new girl is from South America.
- My dad bought me a Gucci bag for my birthday.
เฉลย
1. Sanju | 2. The Manager | 3. Mughal empire | 4. Monday | 5. Regional language, Kannada |
6. Susan | 7. May | 8. Mom | 9. South America | 10. Gucci |
คำถามที่พบบ่อย
Compound noun คืออะไร?
Compound noun คือ คำนามประสม
Proper nouns คืออะไร?
Proper nouns คือ คำนามชื่อเฉพาะ
ELSA Speak หวังว่า บทความนี้จะมีประโยชน์กับคุณในการเรียนเกี่ยวกับไวยากรณ์ Proper noun อย่าลืมติดตาม ELSA Speak ในบทความต่อไปนะ
หนึ่งในสถานการณ์ที่ต้องใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารสำหรับคนทำงานในออฟฟิศคือเมื่อคุณต้องการลากิจ งั้นต้องพูดยังไงถึงจะขอลากิจได้? มาดูตัวอย่างการสนทนา ลากิจ ภาษาอังกฤษ ของ ELSA Speak ด้านล่างเพื่อค้นหาคำตอบนะ
ประโยคลากิจ ภาษาอังกฤษ
ประโยคลาป่วย ลากิจ ภาษาอังกฤษ ที่ใช้มากที่สุดมีดังต่อไปนี้
ประโยคลางานแบบ Formal (ค่อนข้างเป็นทางการ)
ใช้ประโยคที่ขึ้นต้นด้วย “I would like to…” จะช่วยให้ดูเป็นทางการขึ้น สามารถใช้ในการเขียน e-mail ได้เลย
1. I would like to kindly ask for your approval of my leave starting on [date] and ending on [date]. (ฉันอยากจะรบกวนขอการอนุญาตลา ตั้งแต่ [วันที่] ถึง [วันที่])
2. I would like to request a 4-day leave of absence for personal reasons. If possible, I would like to leave work on [date] and return on [date]. (ฉันอยากจะขอลากิจส่วนตัว 4 วัน ถ้าเป็นไปได้ ฉันอยากจะลาตั้งแต่ [วันที่] และกลับมาทำงาน [วันที่])
3. I would like to ask for your permission and approval for my vacation leave application, which I’m planning to take from [date] until [date]. (ฉันอยากจะขออนุญาตลาพักร้อนที่ฉันวางแผนไว้ตั้งแต่ [วันที่] จนถึง [วันที่])
4. I’m writing to ask for annual leave in advance of my entitlements. I’d like to take my leave between the following dates: [date – date]. (ฉันเขียน(อีเมลนี้)มาเพื่อขอลาหยุดประจำปีล่วงหน้า ฉันจะขอลาตามวันที่ดังนี้: [วันที่ – วันที่])
5. As we discussed in our meeting last week, I’d like to confirm that I’ll be absent from the office for one week in December. The exact dates are [date]. (จากที่เราได้พูดคุยในการประชุมสัปดาห์ที่แล้ว ฉันต้องการขอคอนเฟิร์มว่าฉันจะลางานเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ในเดือนธันวาคม [วันที่])
6. I would like to take a business leave for two days. (ฉันอยากจะขอลากิจสองวัน)
ประโยคลางานแบบ Informal/casual (ไม่เป็นทางการมาก/ใช้ได้ทั่วไป)
“ฉันขออนุญาตลากิจสองวันนะ” เป็นประโยคลางานที่ไม่เป็นทางการมาก แต่ยังสุภาพอยู่ สามารถใช้ได้ทั้งในการเขียนและพูด
1. I will be out of the office for 1 week starting [date].
ฉันจะลางานเป็นเวลา 1 สัปดาห์โดยเริ่มตั้งแต่ [วันที่]
2. I’m feeling quite ill today. I was hoping to take the day off to recover.
วันนี้ฉันรู้สึกไม่ค่อยสบาย ฉันหวังว่าจะได้หยุดพักสักวัน
3. I wonder if I could have maternity leave next month.
ฉันกำลังคิดว่าฉันจะสามารถขอลาคลอดเดือนหน้าได้ไหม
4. I have a fever, so I’m calling in sick today.
วันนี้ฉันมีไข้ เลยโทรมาลาป่วย
5. There is an urgent situation that I have to take a leave. Could you please consider it?
มันมีเรื่องด่วนที่ทำให้ต้องลางาน คุณช่วยพิจารณาได้ไหมคะ/ครับ
6. Would I be able to take an ordination leave for two weeks?
ผมสามารถขอลาบวชเป็นระยะเวลา 2 สัปดาห์ได้ไหมครับ?
7. I need tomorrow off.
ฉันอยากลากิจพรุ่งนี้
8. He has a day off today.
วันนี้เขาลากิจ
9. I need a sick leave for two days.
ฉันต้องการลาป่วย 2 วัน
10. I want to take a day off to see a doctor.
ฉันต้องการลากิจหนึ่งวันเพื่อไปหาหมอ
11. I’m afraid I’m going to have to pull a sick today.
ฉันคิดว่าฉันจะขอลาป่วยวันนี้
12. I got an afternoon off and went to the hospital.
บ่ายนี้ฉันขอลางานเพื่อไปโรงพยาบาล
13. Wouldn’t it be possible for me to take the day off this Friday?
ฉันขอลางานวันศุกร์นี้ได้ไหม?
14. It’s not likely. There’s a lot of work to do.
คงจะไม่ได้ค่ะ/ครับ มีงานที่ต้องทำเยอะมาก
15. I’m asking for three-day personal leave for my wife’s labor.
ฉันขอลางาน 3 วัน เพราะภรรยากำลังจะคลอดลูก
กรณีขอลางานโดยตรง
1. Excuse me. May I ask for tomorrow morning off? (ขอโทษค่ะ/ครับ เช้าพรุ่งนี้ฉันขอลาได้ไหมคะ/ครับ)
2. I’m sorry, I think I may not able to work tomorrow as I’m not feeling well right now. (ขอโทษค่ะ/ครับ ฉันคิดว่าพรุ่งนี้ฉันไม่พร้อมทำงาน เพราะฉันรู้สึกไม่สบายค่ะ/ครับ)
3. Wouldn’t it be possible for me to take a day off this Tuesday? (วันอังคารในสัปดาห์นี้ฉันขอลาได้ไหม)
4. Wouldn’t it be possible for me to take this Friday morning off because I have a family matter? (เช้าวันศุกร์นี้ ฉันขอลางานได้ไหม พอดีฉันมีปัญหาเรื่องครอบครัวใน)
5. I want to take a day off to see a doctor (ฉันขอลางานหนึ่งวันเพื่อไปหาหมอ)
6. I got an afternoon off and went to the hospital (ฉันขอลางานบ่ายนี้เพื่อไปโรงพยาบาล)
7. Wouldn’t it be possible for me to take the day off this Friday? (วันศุกร์นี้ฉันขอลางานได้ไหม?)
กรณีขอลางานผ่านอีเมล
1. I would like to ask permission for a day off from work on ….. (date) because ….. (reason).
2. I would like to ask permission for a day off from work on August 8th since I have to go to hospital.
3. I am writing to request your approval for a day off on ….(date) for (reason)
คำแปล
1. ฉันเขียนอีเมลนี้มาเพื่อขออนุญาตลางานหนึ่งวันในวันที่…… เพราะ ……. (เหตุผล)
ตัวอย่างกรณี เขียนอีเมลลาป่วย ภาษาอังกฤษ:
2. ฉันเขียนอีเมลนี้มาเพื่อขออนุญาตลางานหนึ่งวันในวันที่ 8 สิงหาคม เพราะฉันต้องไปโรงพยาบาล
3. ฉันเขียนอีเมลนี้มาเพื่อขอลางานหนึ่งวันในวันที่ ….. เพราะ……(เหตุผล)
ตัวอย่างที่ 1:
- I am writing to request your approval for a day off on this Monday for a family matter.
- I am writing this letter to let you know that I am in need of a long-term leave, from …. to… (date).
คำแปล
- ฉันเขียนอีเมลนี้มาเพื่อขอลางานในวันจันทร์ เพราะฉันมีปัญหาเรื่องครอบครัว
- ฉันเขียนอีเมลนี้มาเพื่อแจ้งให้คุณทราบว่าฉันต้องการลาพักร้อน ตั้งแต่วันที่ …. ถึง…วันที่….
ตัวอย่างที่ 2:
- I am writing this letter to let you know that I am in need of a long-term leave, from September 1st to September 15th because I have to hospitalize to treatment.
- I am writing to request your approval for …. day leave for … (reason) ตัวอย่าง I am writing to request your approval for 3 days leave for a vacation.
- I am writing this letter to inform you that I need to take (day) of absence from … to … (date).
คำแปล
- ฉันเขียนอีเมลนี้มาเพื่อแจ้งให้คุณทราบว่าฉันจำเป็นต้องลาพักร้อน ตั้งแต่วันที่ 1 – 15 กันยายน เพราะฉันต้องเข้าโรงพยาบาลเพื่อรับการรักษา
- ฉันเขียนอีเมลนี้มาเพื่อขออนุมัติลางาน … วัน เพราะ ….. (เหตุใด) ตัวอย่าง: ฉันเขียนอีเมลนี้มาเพื่อขออนุมัติลาพักผ่อนเป็นเวลา 3 วัน
- ฉันเขียนอีเมลนี้มาเพื่อแจ้งให้คุณทราบว่าฉันต้องขาดงาน ตั้งแต่วันที่ … ถึงวันที่….
วิธีใช้ตัวอย่างประโยคภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารในการลางาน
ตัวอย่างบทสนทนาการขอลางาน ภาษาอังกฤษ
A: Excuse me. May I ask for tomorrow morning off?
B: Oh. What is the reason?
A: I’m not feeling well right now. I need to see a doctor tomorrow.
B: Okay. Have you arranged your work tomorrow?
A: I have done all the work. If it has any mistake, you can ask Mr. Piter to fix for me.
B: All right. Take a day off to rest. If you need more days off, please send an email for me.
A: Thank you.
คำแปล
A: ขอโทษค่ะ/ครับ ฉันขอลางานเช้าพรุ่งนี้ได้ไหมคะ/ครับ
B: โอ้ เป็นอะไรเหรอคะ/ครับ
B: ฉันรู้สึกไม่สบายค่ะ/ครับ ฉันต้องไปหาหมอพรุ่งนี้
A: โอเคค่ะ/ครับ คุณเคลียร์งานของพรุ่งนี้หรือยังคะ/ครับ?
B: ฉันเคลียร์งานเรียบร้อยแล้วค่ะ/ครับ หากมีข้อผิดพลาดอะไร สามารถขอให้คุณปีเตอร์แก้ไขให้ได้นะ
A: ได้ค่ะ/ครับ พักผ่อนสักวันนะคะ/ครับ หากคุณต้องการเพิ่มวันหยุด โปรดส่งอีเมลมาให้ฉัน
B: ขอบคุณค่ะ/ครับ
ตัวอย่างอีเมลการขอลางาน ภาษาอังกฤษ
Subject: Sick leave application
Dear Mr Dancy,
I am writing to notify you that I need sick leave from work because of a several viral infection. I caught the infection yesterday evening and since then have been feeling very weak.
As per the doctor, I take to take medication for 5 days, along with proper rest for at least a week.
Kindly allow me a week-long leave, until July 25th. If I need an extended period off, I will let you know as early as possible.
Thank you for your quick attention to this matter.
Sincerely,
Malika Chadongin
คำแปล
หัวข้อ: ขอลาป่วย
เรียน คุณแดนซี่
ฉันเขียนอีเมลนี้มาเพื่อแจ้งให้คุณทราบว่าฉันต้องลาป่วยเนื่องจากมีการติดเชื้อไวรัสหลายชนิด
ตามที่คุณหมอบอก ฉันจะต้องกินยาเป็นเวลา 5 วันและพักผ่อนให้เพียงพอ
อย่างน้อยหนึ่งสัปดาห์
ฉันจึงขออนุญาตลางานหนึ่งสัปดาห์จนถึงวันที่ 25 กรกฎาคม หากฉันต้องการเพิ่มวันหยุด ฉันจะแจ้งให้คุณทราบโดยเร็วที่สุด
ขอขอบคุณที่ให้ความสนใจกับเรื่องนี้อย่างรวดเร็ว
ขอแสดงความนับถือ
มัลลิกา ชาดงอิน
โครงสร้างการเขียนอีเมลการขอลางาน ภาษาอังกฤษ
ข้อมูลที่ต้องมีในการขอลา ภาษาอังกฤษ
ข้อมูลบางอย่างที่คุณควรอ้างถึงในการขอลา คือ
- คำนำ
- วัตถุประสงค์ของการขอลา
- เหตุผลในการขอลา
- เวลาขอลางานที่เฉพาะเจาะจง
- คำสัญญาที่ให้ไว้ระหว่าง/หลังการขอลา
- ข้อมูลติดต่อ
- ลายเซ็น
โครงสร้างของการขอลา ภาษาอังกฤษ
โครงสร้างการขอลาจะประกอบด้วย
- ส่วนที่ 1: หัวเรื่องสั้นๆ
- ส่วนที่ 2: คำนำ
ชื่อการขอลาเป็นภาษาอังกฤษ (Annual leave application/ maternity leave application….) มักจะได้เขียนในส่วน subject ของอีเมล
- ส่วนที่ 3: เนื้อหาหลัก
Dear Ms./Mr./Mrs.
I am writing this letter to ask for your permission for on [date]
or
I would like to request approval of my leaves from [date] to [date] for [reason].
I have discussed my situation with [Name], and he/she accepted to cover my work in my absence.
So please accept my leave from (date to date). I will be thankful to you. I regret any inconvenience.
I hope you understand my situation and authorize my request as soon as possible.
Yours sincerely,/Best regards,/Yours truly,/Sincerely,
คำแปล
คำนำ: เรียน นาย/นาง/คุณ <ชื่อผู้รับ>
วัตถุประสงค์ของการเขียนการขอลา เหตุผลการขอลา และเวลาที่ต้องขอลา: ฉันเขียนใบนี้เพื่อขอลางาน เพราะ <เหตุผล> ใน <วันที่> หรือ ฉันต้องการขอลางานตั้งแต่วันที่ …. ถึงวันที่ ……
ส่งมอบงาน (ถ้าจำเป็น): ฉันมอบงานสำคัณให้ <ชื่อบุคคล> แล้ว เขาจะดูแลงานเหล่านั้นจนกว่าฉันจะกลับมาทำงาน
แสดงความปรารถนาของตัวเอง: ขออนุมัติการขอลาของฉัน ตั้งแต่วันที่ ….. ถึงวันที่ …. ฉันขออภัยในความไม่สะดวกครั้งนี้ ฉันหวังว่าคุณจะเข้าใจสถานการณ์ของฉันและอนุมัติการขอลาของฉันโดยเร็วที่สุด
- ส่วนที่ 4: ส่วนสรุป
คำอวยพร/คำทักทาย ลายเซ็น และข้อมูลติดตาม
คำอวยพร/คำทักทาย ลายเซ็น
ขอแสดงความนับถือ
ดูเพิ่มเติม
- วิธีเขียนอีเมลภาษาอังกฤษแบบมืออาชีพและเหมาะสำหรับทุกสถานการณ์
- วิธีใช้คํานําหน้าชื่อ ภาษาอังกฤษ Mr Mrs Ms Miss
แบบใบการขอลา ภาษาอังกฤษ
แบบใบการขอลาพักร้อนประจำปี (Annual leave)
Dear Ms./Mr./Mrs. ,
I am writing this letter to ask for your permission for my annual leave, between {start date} and {end date}.
I have transferred my important tasks to….. He/she will take over my project while I am away. I have already handed over all material regarding the project to him/ her, and expect there to be no exigencies in my absence.
I hope you will understand my situation and response to my request.
I will be grateful for a positive reply on my leave request.
Thank and regards,
{Your Name}
คำแปล
เรียน นาง/นาย/คุณ <ชื่อบุคคล>
ฉันเขียนจดหมายนี้มาเพื่อขออนุญาตการลาพักร้อนประจำปีของฉัน ตั้งแต่วันที่ …. ถึงวันที่…..
ฉันโอนงานสำคัญของฉันให้แก่ ….แล้ว เขาจะดูแลโครงงานของฉันขณะที่ฉันไม่อยู่ ฉันมอบเอกสารทั้งหมดเกี่ยวกับโครงงานนี้ให้เขาแล้ว และหวังว่าจะไม่มีเรื่องด่วนอะไรเกิดขึ้นขณะที่ฉันไม่อยู่
ฉันหวังว่าคุณจะเข้าใจสถานการณ์ของฉันและตอบสนองต่อคำขอของฉัน
ฉันขอขอบคุณเป็นอย่างยิ่ง หากได้รับคำตอบที่ดีสำหรับการขอลางานของฉัน
ขอบคุณและขอแสดงความนับถือ
ลายเซ็น
>>> Read more: วันหยุดภาษาอังกฤษ วันหยุดเทศกาลต่าง ๆ ประจำปี
แบบใบการขอลาคลอดบุตร
Dear Ms. /Mr. /Mrs. ,
I would like to inform you that I am approaching the end of my pregnancy and plan to take maternity leave. I am planning to start my maternity leave on and go back to work by.
In my absence, [Name] can be in charge of [specific parts of your job]. I have trained him/her about all the necessary daily tasks. If you have any concerns, please let me know so we can address them.
See my attached maternity leave plan for further details.
Thank you for your attention. I wish you good health.
Yours sincerely,
คำแปล
เรียน นาง/นาย/คุณ <ชื่อบุคคล>
ฉันขอแจ้งให้คุณทราบว่าฉันกำลังใกล้จะสิ้นสุดการตั้งครรภ์และวางแผนที่จะลาคลอดบุตร ฉันวางแผนที่จะเริ่มลาคลอดบุตรและกลับไปทำงานภายในวันที่……
เมื่อฉันไม่อยู่ [ชื่อ] สามารถดูแล [ส่วนเฉพาะของงานของคุณ] ได้ ฉันได้สอนเกี่ยวกับงานประจำที่จำเป็นทั้งหมดให้เขาแล้ว หากคุณมีข้อกังวลใดๆ โปรดแจ้งให้เราทราบเพื่อให้เราสามารถจัดการได้
ดูแผนการลาคลอดบุตรเพิ่มเติมของฉันได้ตามเอกสารที่แนบมา
ขอบคุณที่ให้ความสนใจ ขอให้คุณมีสุขภาพที่ดี
ขอแสดงความนับถือ
แบบใบการลาพักผ่อน (family vacation)
Dear Ms./Mr./Mrs. ,
I hope this email finds you well.
I am writing this letter to request your approval for a 14-day-leave for my family vacation. I would like to start my vacation from [date] to [date] .
In the meanwhile, my teammate, Mr./Ms. {enter name} has been authorized to take up any pressing matters in terms of my job duties. I am confident that my team will perform well during my absence.
I look forward to your approval.
Best wishes,
คำแปล
เรียน นางสาว/นาง/นาย <ชื่อบุคคล>
หวังว่าอีเมลนี้จะถึงคุณ
ฉันเขียนอีเมลนี้มาเพื่อขออนุมัติลาหยุด 14 วันเพื่อไปเที่ยวพักผ่อนกับครอบครัว ฉันต้องการเริ่มต้นวันหยุดตั้งแต่วันที่… ถึงวันที่….
ทั้งนี้ เพื่อนร่วมทีมของฉัน นาย/นางสาว <ชื่อบุคคล> ได้รับอนุญาตให้จัดการเรื่องเร่งด่วนที่เกี่ยวข้องในหน้าที่ของฉัน ฉันมั่นใจว่าทีมของฉันจะทำงานได้ดีในช่วงที่ฉันไม่อยู่
หวังว่าจะได้รับการอนุมัติจากคุณ
ด้วยความปรารถนาดี
แบบใบการขอลาติดตามคู่สมรส
Dear Ms./Mr./Mrs. ,
I am [Name] and it is joyful to inform you that I am getting married on [date] at [time] .
I would like to request approval of my leaves from [date] to [date] .
I will go back to the office to work on [Date]. I have discussed my situation with [Name], and she accepted to cover my work in my absence.
I will make sure to finish my tasks by [date]. I have also transferred some of my duties to [Name].
Please kindly grant me leaves for the mentioned dates and celebrate the wedding with me.
Awaiting a positive response from you.
Yours truly,
คำแปล
เรียน นางสาว/นาย/นาง <ชื่อบุคคล>
ฉันชื่อ …. และฉันยินดีมากที่ได้แจ้งให้คุณทราบว่าฉันจะแต่งงานในวันที่…. เวลา….
ฉันต้องการอนุมัติการขอลาของฉันตั้งแต่วันที่…. ถึงวันที่……
ฉันจะกลับมาทำงานในวันที่…. ฉันได้หารือเกี่ยวกับงานของฉันกับ [ชื่อ] แล้ว และเธอก็ยอมรับที่จะดูแลงานของฉันในขณะที่ฉันไม่อยู่
ฉันรับรองว่าจะทำงานให้เสร็จก่อนวันที่…และฉันได้ส่งมอบหน้าที่บางส่วนของฉันให้กับ [ชื่อ] แล้ว
โปรดอนุญาตให้ฉันลางานตามวันดังกล่าวและเชิญร่วมเฉลิมฉลองงานแต่งงานของฉัน
กำลังรอการตอบรับที่ดีจากคุณ
ขอแสดงความนับถือ
แบบใบการขอลาหยุดเมื่อสูญเสียคนใกล้ชิด ภาษาอังกฤษ
Dear Ms. /Mr. /Mrs. ,
I am writing this letter to request a leave for day (s) due to a death of a close relative, and I must go home immediately so I can attend the funeral.
So please accept my leave from (date to date). I will be thankful to you. I regret any inconvenience.
I look forward to hearing from you soon.
Sincerely,
คำแปล
เรียน นางสาว/นาย/นาง <ชื่อบุคคล>
ฉันเขียนจดหมายนี้มาเพื่อขอลางานสัก 2 – 3 วัน เนื่องจากญาติสนิทของฉันเสียชีวิตและฉันต้องกลับบ้านทันทีเพื่อไปร่วมงานศพ
ดังนั้นจึงขออนุมัติการลาของฉันตั้งแต่วันที่… ถึง…วันที่….. ฉันขอขอบคุณและขออภัยสำหรับความไม่สะดวกนี้
หวังว่าจะได้รับคำตอบจากคุณโดยเร็วที่สุด
ด้วยความเคารพ
แบบใบการขอลาเรียน
Dear Ms. /Mr. /Mrs.
My name is [Name], class [insert class]. I am writing this letter to request your permission for day(s) off due to sickness, have been prescribed by our family doctor to take proper rest for at least [number of days]. The doctor has advised me to rest from today to [date].
I shall be really grateful to you.
Yours sincerely,
คำแปล
เรียน อาจารย์……. ที่เคารพ
หนูชื่อ…. นักเรียน/นักศึกษาคลาส…. หนูเขียนจดหมายนี้มาเพื่อขออนุญาตลา 2 วันเนื่องจากหนูป่วย ตามที่คุณหมอได้แจ้งไว้ หนูจะต้องพักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อยเป็นเวลา …… วัน คุณหมอแนะนำให้หนูพักผ่อนตั้งแต่วันที่ …… ถึงวันที่……
หนูขอขอบคุณอาจารย์มาก
ขอแสดงความนับถือ
คำศัพท์เกี่ยวกับ “การลางาน”
- Personal leave of absence (ลากิจส่วนตัว)
- Business leave (ลากิจ)
- Bereavement leave (ลาหยุดเมื่อสูญเสียคนใกล้ชิด)
- Take a leave of absence / take time off (ลางาน)
- Day Off = วันหยุดทั่วไป (ที่เราหยุดเอง)
- Holiday = วันหยุดราชการ
- Sick Leave = ลาป่วย
- Personal Leave = ลากิจ ลาเพื่อธุระส่วนตัว
- Vacation Leave หรือ Annual Leave = ลาพักร้อน ลาหยุดประจำปี
- Maternity Leave = ลาคลอด
- Compassionate Leave = ลาไปงานศพ
- Study Leave = ลาเพื่อไปเรียนต่อ
- Military Service Leave = ลาไปรับราชการทหาร
- Ordination Leave = ลาบวช
ตัวอย่างประโยคการขอลาออก ภาษาอังกฤษ
1. I want to expand my horizons. (ฉันต้องการที่จะออกไปเปิดมุมมองใหม่ๆให้กับตัวเอง)
2. I‘ve made a tough decision, sir. Here is my resignation. (ฉันลำบากใจมากที่ต้องตัดสินใจ นี่คือการลาออกของฉัน)
3. I quit because I don’t want to be stuck in a rut. I want to move on. (ฉันลาออกจากงานเพราะไม่อยากยึดติดกับงานประจำ ฉันต้องการที่จะก้าวต่อไป)
4. First of all, I‘d like to say that I’ve really enjoyed working with you. (ก่อนอื่น ฉันอยากจะบอกว่าฉันชอบทำงานกับคุณมาก)
5. I’ve been trying, but I don’t think I’m up to this job. (ฉันพยายามแล้ว แต่ฉันคิดว่าฉันไม่มีคุณสมบัติที่จะทำงานนี้ได้)
6. I’ve been here for too long. I want to change my environment. (ฉันทำงานที่นี่เป็นเวลานานแล้ว ฉันต้องการเปลี่ยนสภาพแวดล้อมใหม่ๆ)
7. I’m sorry for bring up my resignation at this moment, but I’ve decided to study aboard. (ฉันขอโทษที่ต้องแจ้งลาออกในขณะนี้ แต่ฉันตัดสินใจที่จะเรียนต่อต่างประเทศแล้ว)
8. To be honest, I’ve got a better order.(จริงๆ แล้ว ฉันมีข้อเสนอที่ดีกว่านี้)
9. I’m running out of steam. I need to take a break. (ฉันรู้สึกหมดแรง และต้องการที่จะพัก)
10. I’m quitting because I want to try something different. (ฉันลาออกจากงานเพราะอยากลองทำงานอื่นบ้าง)
>>> Read more: วิธีปฏิเสธงานภาษาอังกฤษแบบสุภาพพร้อมตัวอย่างการใช้ในทุกบริบท
คำถามที่พบบ่อย
Personal Leave คือลาอะไร
Sick Leave = ลาป่วย Personal Leave = ลากิจ ลาเพื่อธุระส่วนตัว Vacation Leave หรือ Annual Leave = ลาพักร้อน ลาหยุดประจำปี Maternity Leave = ลาคลอด
VAC คือลาอะไร
- Leave มีกี่ประเภท
- Take a leave of absence (ลางาน)
- Take time off (ลางาน)
- Personal leave of absence (ลากิจส่วนตัว)
- Business leave (ลากิจ)
- Sick leave (ลาป่วย)
- Maternity leave (ลาคลอด)
- Annual leave (ลาพักร้อนประจำปี)
- Bereavement leave (ลาหยุดเมื่อสูญเสียคนใกล้ชิด)
CL คือการลาอะไร
Compassionate leave แปลว่า ลาไปงานศพ
ลากิจ ภาษาอังกฤษ ตัวย่อ
การลางานในภาษาอังกฤษคือ “to be on leave” หรือ “to be on furlough”
ในบทความข้างต้น ELSA Speak ได้แบ่งปันตัวอย่างประโยค ตัวอย่างฟอร์มการเขียนอีเมล และคำศัพท์เกี่ยวกับ ลากิจ ภาษาอังกฤษ มาให้คุณ หวังว่าบทความนี้จะเป็นข้อมูลที่มีประโยชน์ให้แก่คุณ อย่าลืมดาวน์โหลดแอป ELSA Speak เพื่อเรียนภาษาอังกฤษทุกวันนะ
คุณกำลังมองหา แคปชั่นกาแฟ ภาษาอังกฤษ ที่น่ารักๆ เพื่อโพสต์บนโซเชียล แต่ยังไม่เจอแคปชันที่น่าสนใจใช่ไหม? ตาม ELSA Speak มาดูว่าแคปชันเกี่ยวกับกาแฟไหนน่าสนใจและโดนใจคุณกันเลย!
คำบรรยายที่ดีเกี่ยวกับกาแฟเป็นภาษาอังกฤษที่ดีและมีความหมาย
ภาษาอังกฤษ | ความหมาย |
Today’s good mood is sponsored by coffee. | วันนี้ที่อารมณ์ดี ก็เพราะการสนับสนุนจากกาแฟเลยนะ |
My birthstone is a coffee bean. | อัญมณีประจำวันเกิดของฉันคือเมล็ดกาแฟ |
I don’t need an inspirational quote. I need a coffee. | ฉันไม่ต้องการคำพูดที่สร้างแรงบันดาลใจอะไรทั้งนั้น สิ่งที่ฉันต้องการเพียงอย่างเดียวคือกาแฟ |
Coffee in one hand, confidence in the other. | มือข้างหนึ่งถือแก้วกาแฟ อีกข้างถือความมั่นใจจ้า |
Today’s forecast- 100% chance of coffee. | พยากรณ์อากาศวันนี้ มีโอกาสดื่มกาแฟ 100% |
Coffee, also known as, survival juice | กาแฟหรือที่รู้จักกันในชื่อเครื่องดื่มสำหรับการเอาชีวิตรอด |
Life can be tough, coffee helps. | ถ้าชีวิตมันแย่ กาแฟช่วยได้นะ |
I need a hug…..e cup of coffee. | ฉันต้องการ กอ อา กา..กาแฟแก้วใหญ่ ๆ |
I am not addicted to coffee, we are just in a committed relationship. | เราไม่ได้ติดกาแฟนะ พวกเราแค่กำลังอยู่ในความสัมพันธ์ที่จริงจังมาก ๆ เท่านั้นเอง |
Don’t tell anyone, but my favorite coworker is the coffee machine. | อย่าบอกใครนะ แต่เพื่อนร่วมงานที่ฉันชอบมากที่สุดคือเครื่องชงกาแฟ |
People say money can’t buy happiness. They lie. Money buys coffee, coffee makes me happy! | บางคนบอกว่าเงินซื้อความสุขไม่ได้ โกหก! เงินซื้อกาแฟได้และกาแฟก็ทำให้เรามีความสุข |
Caffeine is the other vitamin C. | คาเฟอีนก็คือวิตามินซีชนิดหนึ่ง |
Experience love at first sip. | ประสบการณ์รักแรกจิบ |
Guess what? It’s coffee o’clock! | รู้อะไรหรือเปล่า? ถึงเวลาดื่มกาแฟแล้วจ้า |
All you need is coffee and Wi-Fi. | สิ่งที่คุณต้องการมากที่สุดคือกาแฟและไวไฟ |
ดูเพิ่มเติ่ม: +80 แคปชั่นภาษาอังกฤษสั้นๆ มีความหมายที่ดีที่สุดเกี่ยวกับชีวิต
แคปชั่นกาแฟ ภาษาอังกฤษ | ความหมาย |
I don’t drink coffee to wake up, I wake up to drink coffee. | ฉันไม่ได้ดื่มกาแฟเพื่อทำให้ตื่น แต่ฉันตื่นเพื่อมาดื่มกาแฟ |
My blood type is coffee. | ฉันมีเลือดกรุ๊ปกาแฟ |
Sometimes I go hours without drinking coffee. It’s called sleeping. | บางครั้งฉันก็อยู่ได้เป็นชั่วโมง ๆ โดยที่ไม่ดื่มกาแฟเลยนะ หมายถึงตอนนอนน่ะ |
Coffee first, schemes later. | ขอดื่มกาแฟก่อนอย่างอื่นค่อยว่ากัน |
You should drink eight cups of water a day: seven cups are coffee and another one is a beer. | คนเราควรดื่มน้ำแปดแก้วต่อวัน ประกอบด้วยกาแฟเจ็ดแก้วและเบียร์อีกหนึ่งแก้ว |
I’d rather take coffee than compliments just now. | ตอนนี้ฉันต้องการกาแฟมากกว่าคำชมซะอีก |
Nothing is as sweet as a cup of bitter coffee. | คงจะไม่มีอะไรหวานกว่ากาแฟขม ๆ สักแก้ว |
I make coffee disappear. What’s your superpower? | ฉันสามารถทำให้กาแฟหายไปได้ แล้วคุณมีพลังพิเศษอะไรบ้างล่ะ? |
Espresso Patronum! | Espresso Patronum! (เพี้ยนมาจากคาถาผู้พิทักษ์จากหนังแฮร์รี่ พอตเตอร์) |
Life’s short, drink lots of coffee. | ชีวิตมันสั้น ดังนั้นดื่มกาแฟเยอะ ๆ นะ |
I’m not addicted to coffee, but coffee is addicted to me. | ฉันไม่ได้ติดกาแฟแต่กาแฟต่างหากที่เสพติดฉัน |
A morning without coffee is like…you know…sleep. | เช้าที่ไม่มีกาแฟเหมือนกับอะไรรู้ไหม? เหมือนเรายังไม่ตื่นยังไงล่ะ |
I don’t have a problem with caffeine. I have a problem without it. | ฉันไม่ได้มีปัญหาเกี่ยวกับการดื่มคาเฟอีนแต่ฉันมีปัญหาเมื่อไม่ได้ดื่มมันต่างหาก |
Just like my coffee, I’m strong, rich, and too hot for you! | ฉันก็เหมือนกาแฟนั่นแหละ แข็งแกร่ง สวยงาม และร้อนแรงเกินไปสำหรับคุณ |
Life happens, coffee helps. | ไม่ว่าชีวิตจะเป็นอย่างไร กาแฟช่วยช่วยคุณได้เสมอ |
Coffee is the best medicine. | ยาที่ดีที่สุดคือกาแฟ |
ภาษาอังกฤษ | ความหมาย |
I don’t know how people live without coffee, I really don’t. | ฉันไม่รู้ว่าคนอื่นใช้ชีวิตได้ยังไงโดยที่ไม่มีกาแฟ แต่ฉันอยู่ไม่ได้หรอก |
The road to success is paved in coffee. | เส้นทางสู่ความสำเร็จเต็มไปด้วยกาแฟ |
Coffee, because it’s too early for wine. | ฉันเลือกกาแฟเพราะตอนนี้มันเร็วเกินไปที่จะดื่มไวน์ |
If I were a wizard, I’m pretty sure my Patronus would be coffee. | ถ้าฉันคือพ่อมด ฉันค่อนข้างมั่นใจว่าผู้พิทักษ์ของฉันจะต้องเป็นกาแฟแน่นอน (ผู้พิทักษ์จากหนังเรื่องแฮร์รี่) |
Nothing can stand between me and my coffee. | จะไม่มีอะไรเข้ามาแทรกระหว่างฉันและกาแฟได้ |
Wanna hear a joke? Decaf. | อยากฟังเรื่องตลกไหม? มันคือ Decaf (Decaf คือกาแฟที่ไม่มีคาเฟอีน) |
Friends bring happiness into your life. Best friends bring coffee. | เพื่อนจะมอบความสุขให้แก่เรา แต่เพื่อนแท้จะให้กาแฟแก่เราแทน |
Instant Human, just add coffee. | มนุษย์กึ่งสำเร็จรูป เพียงแค่เติมกาแฟ |
I love you a latte. | I love you a latte (เพี้ยนมาจากประโยค I love you a lot) |
Follow your heart but take coffee with you. | ทำตามหัวใจ แต่อย่าลืมเอากาแฟไปด้วยนะ |
Sorry, you lost me at, ‘I don’t drink coffee. | ขอโทษนะ คุณเสียฉันไปตั้งแต่พูดว่า ‘ฉันไม่ดื่มกาแฟ’ แล้วล่ะ |
Live life today like there is no coffee tomorrow. | จงใช้ชีวิตราวกับว่าพรุ่งนี้จะไม่มีกาแฟให้ดื่มอีกแล้ว |
แคปชั่นกาแฟ ภาษาอังกฤษ | ความหมาย |
Life happens, coffee helps. | ในช่วงที่ชีวิตแย่ กาแฟช่วยได้ |
You can’t be sad when you are holding a cupcake. | คุณจะไม่เศร้าอีกต่อไป ถ้าเมื่อในมือคุณยังถือคัพเค้ก |
I like my coffee how I like myself. | ฉันชอบดื่มกาแฟ เหมือนที่ฉันชอบตัวฉันเอง |
Good days start with Coffee and You. | วันดี ๆ เริ่มต้นด้วยกาแฟและคุณ |
Caffeine isn’t a drug, it’s a vitamin. | คาเฟอีนไม่ใช่ยา แต่มันคือวิตามิน |
Today’s good mood is sponsored by coffee. | วันนี้ความรู้สึกดีๆ เริ่มขึ้นด้วยกาแฟ |
We go together like coffee and waffles. | เราเข้ากันได้ดีเหมือนกาแฟและวาฟเฟิล |
I don’t drink coffee, I am the coffee. | ฉันไม่ดื่มกาแฟ แต่ฉันนี่แหละคือกาแฟ |
Coffee is a great opportunity to share great thoughts with great minds. | การแฟเป็นการสร้างโอกาสในการแชร์สิ่งดี ๆ กับคนที่ดี |
Hit me with your best espresso shot. | ตีฉันด้วยช็อตเอสเปรสโซที่ดีที่สุดของคุณสิ |
This is my favorite time of the day. | นี่คือเวลาที่ฉันชอบมากที่สุดของวันนี้ |
You were my cup of tea but I drink coffee now. | คุณคือชาของฉัน แต่ตอนนี้ฉันดื่มกาแฟแล้ว |
What you eat so I’m Latte. | คุณจะกินอะไร แต่ฉันคือลาเต้นะ |
Everything better with Coffee. | ทุกอย่างจะดีขึ้น เมื่อมีกาแฟ |
It’s coffee o’clock. | นี่คือเวลาของกาแฟ |
If your love is suffering Come have bubble tea with me. | ถ้ารักของเธอมันทุกข์ มากินชาไข่มุกกับเราเถอะ |
Even bad coffee is better than no coffee at all. | ถึงกาแฟแก้วนี้จะไม่ดี แต่ก็ยังดีกว่าไม่มีกาแฟให้กิน |
It’s a brew-tiful day. | วันนี้คือวันที่สวยงาม |
Drink coffee and look cool Chic will eat to be chic. Go to the cafe. | กินกาแฟแล้วดูเท่ แต่ถ้าจะกินให้เก๋ต้องมาคาเฟ่กับเรา |
Black coffee has no milk, but I care. | แบล็คคอฟฟี่ไม่ใส่นม แต่ผมอะใส่ใจ |
I don’t need an inspirational quote. I need a coffee. | ฉันไม่ต้องการคำพูดดี ๆ ฉันต้องการแค่กาแฟ |
My life is like coffee, bitter but mellow. | ชีวิตผมก็เหมือนกาแฟ ถึงแม้จะขม แต่กลมกล่อม |
If you don’t want to be lonely took us to have coffee | ถ้าไม่อยากเหงา ให้ควงเราไปกินกาแฟ |
My hand have coffee but in my heart always have you. | ในมือของเรามีกาแฟ แต่ในใจเรามีเธอยู่ตลอด |
Live life today like there is no coffee tomorrow. | จงใช้ชีวิตให้เหมือนพรุ่งนี้จะไม่มีกาแฟแล้ว |
If my coffee makes your heart flutter that’s love. | ถ้ากาแฟของผมทำให้คุณใจสั่น นั้นคือความรัก |
Coffee knows how to heal my loneliness. | รักษาความเหงาของฉันด้วยกาแฟ |
Cappuccino with milk caption of my photo. Can I put you down? | คาปูชิโน่ใส่นม แคปชั่นรูปผม ขอใส่คุณลงไปได้ไหม |
If you want coffee, you have to tell the barista. But if you want to be your girlfriend, who do you have to tell? | อยากกินกาแฟต้องบอกบาริสต้า แต่ถ้าอยากเป็นแฟนเธอต้องบอกใคร |
Thanks a latte for me being my Friend. | ขอบคุณลาเต้ที่คอยอยู่ป็นเพื่อนกันเสมอ |
แคปชั่นกาแฟ ภาษาอังกฤษ | ความหมาย |
We go together like coffee and croissants. | เราเข้ากันได้ดีเหมือนกาแฟและครัวซองต์ |
Coffee is my fuel. | กาแฟเป็นเหมือนพลังงานของฉัน |
Besides coffee, you’re my favorite. | นอกจากกาแฟแล้ว คุณก็เป็นคนโปรดของฉันเหมือนกัน |
You Smell like coffee in the sunrise. | คุณหอมเหมือนกลิ่นกาแฟในยามเช้าเลย |
Together with chocolate is my favorite place to be. | สถานที่ที่ฉันชอบอยู่ก็คือที่ที่มีช็อกโกแลตอยู่ด้วย |
Good day start with Coffee and You. | วันดีๆ เริ่มต้นที่กาแฟ และแกนะ |
It’s a brew-tiful day! | วันนี้คือวันที่สวยงาม |
Coffee knows how to heal my loneliness. | ฮีลความเหงาของฉันด้วยกาแฟ |
You mocha me very happy. | เธอทำให้ฉันมีความสุขที่สุดเลย |
Cheers to my cup of sanity. | แก้วนี้แหละที่เรียกสติของฉัน |
This is my favorite time of the day. | นี่คือเวลาที่ฉันชอบมากที่สุดของวันนี้ |
You were my cup of tea but I drink coffee now. | เธออาจจะเคยเป็นชานมไข่มุกของฉัน แต่วันนี้ฉันดื่มกาแฟแทนแล้ว |
Hot chocolate is like a hug in a mug. | Hot chocolate เหมือนอ้อมกอดที่อยู่ในแก้ว อบอุ่นเวอร์ |
When you are downie, eat a Brownie! | ถ้าเธอรู้สึกแย่ ลองกินบราวนี่ดูสิ! |
It’s cafe o’clock! | นี่คือเวลาของคาเฟ่ค้าาา |
คำศัพท์เกี่ยวกับ กาแฟ ภาษาอังกฤษ
คำศัพท์ภาษาอังกฤษ | การออกเสียง | ความหมาย |
Coffee | /ˈkɒfi/ | กาแฟ |
Filter coffee | /ˈfɪltə(r) ˈkɒfi/ | กาแฟชงสด |
Black coffee | /blæk ˈkɒfi/ | กาแฟดำ |
White coffee | /waɪt ˈkɒfi/ | กาแฟขาว |
Instant coffee | /ˈɪnstənt ˈkɒfi/ | กาแฟสำเร็จรูป |
Decaf coffee | /ˈdiːkæf/ | กาแฟไม่มีคาเฟอีน |
Egg coffee | /eɡ ˈkɒfi/ | กาแฟไข่ |
Phin coffee | /fin ˈkɒfi/ | กาแฟกรอง |
Weasel coffee | /ˈwiːzl ˈkɒfi/ | กาแฟชะมด |
Espresso | /eˈspresəʊ/ | กาแฟที่มีรสแก่และเข้ม |
Americano | /əˌmerɪˈkɑːnəʊ/ | กาแฟเอสเพรสโซ่ที่ถูกเติมน้ำลงไปเพื่อเจือจางความเข้มข้น |
Cappuccino | /ˌkæpəˈtʃiːnəʊ/ | กาแฟเข้มข้นผสมนมร้อนพร้อมฟองนม |
Latte | /lɑːteɪ/ | กาแฟสไตล์อิตาลีผสมกับนมจำนวนมากและราดด้วยชั้นฟองนมข้างบน |
Irish | /ˈaɪrɪʃ/ | กาแฟสไตล์ไอริชผสมวิสกี้ |
Macchiato | /ˌmækiˈɑːtəʊ/ | กาแฟฟองนม |
Mocha | /ˈmɒkə/ | กาแฟนมกับผงโกโก้ |
Red eye | /ˈred.aɪ/ | กาแฟที่มีปริมาณคาเฟอีนสูง |
Cold Brew | /ˈkoʊld ˌbruː/ | กาแฟสกัดเย็น |
Cortado | /Cortado/ | เป็นกาแฟเอสเปรสโซที่เติมนมอุ่นลงไปเล็กน้อยเพื่อลดความเป็นกรด |
Flat White | /flæt waɪt]/ | เกือบจะเหมือนลาเต้ แต่มีนมน้อยกว่า |
Aroma | /əˈrəʊmə/ | กลิ่น |
Flavor | /ˈfleɪvə(r)/ | รสชาติ |
>>> Read more:
ELSA Speak ได้แชร์ แคปชั่นกาแฟ ภาษาอังกฤษ ที่น่าสนใจและมีความหมายดีๆ พร้อมกับคำศัพท์เกี่ยวกับกาแฟในภาษาอังกฤษมาให้คุณแล้ว หวังว่าคุณจะเลือกแคปชันที่เหมาะสมกับคุณได้เร็วๆ และอย่าลืมเรียนภาษาอังกฤษบนแอป ELSA Speak เพื่อพัฒนาทักษะของคุณอย่างต่อเนื่องด้วยนะ!