Author: Bao Ngan Nguyen
ชื่อดอกไม้ภาษาอังกฤษมักเป็นหัวข้อที่ใกล้เคียงกับชีวิตประจำวันและมีการใช้บ่อยๆ ตอนนี้ มาค้นหา คำศัพท์ดอกไม้ภาษาอังกฤษ คําอ่าน การออกเสียงกว่า 100 คำกับ ELSA Speak กันเถอะ !
รวมคำศัพท์ดอกไม้ในภาษาอังกฤษ
ชื่อดอกไม้ในภาษาอังกฤษ
คำศัพท์ | การออกเสียง | ความหมาย |
Apricot blossom | /ˈeɪ.prɪ.kɒtˈblɒs.əm/ | ดอกแอปริคอท |
Azalea | /ə’zeiliə/ | กุหลาบพันปี |
Cactus | /ˈkæk.təs/ | กระบองเพชร |
Camellia | /kə’mi:liə/ | ดอกชา |
Chamomile | /ˈkæməmaɪl/ | ดอกคาโมมายล์ |
Campanula | /kəm’pænjulə/ | ดอกระฆัง |
Carnation | /kɑ:’nei∫n/ | ดอกคาร์เนชั่น |
Chrysanthemum | /krɪˈsænθ.ə.məm/ | ดอกเบญจมาศ |
Climbing rose | /ˈklaɪmɪŋ rəʊz/ | ดอกกุหลาบเลื้อย |
Cockscomb | /ˈkɒkskəʊm/ | ดอกหงอนไก่ |
Columbine | /’kɒləmbain/ | ดอกโคลัมไบน์ |
Crocus | /’krəʊkəs/ | ดอกบัวดินฝรั่ง |
Cyclamen | /ˈsɪk.lə.mən/ | ดอกไซคลาเมน |
Daffodil | /ˈdæf.ə.dɪl/ | ดอกดารารัตน์ |
Dahlia | /ˈdeɪ.li.ə/ | ดอกรักเร่ |
Daisy | /’dei:zi/ | ดอกเดซี่ |
Dandelion | /ˈdændɪlaɪən/ | ดอกฟันสิงโต |
Eglantine | /’egləntain/ | ดอกกุหลาบชนิดหนึ่ง |
Flamboyant | /flæm’bɔiənt/ | ดอกหางนกยูงฝรั่ง |
Forget-me-not | /fəˈɡet.mi.nɒt/ | ดอกแวววิเชียร |
Foxglove | /ˈfɒksɡlʌv/ | ดอกถุงมือหมาจิ้งจอก |
Gerbera | /ˈdʒəːb(ə)rə/ | ดอกเบญจมาศปิงปอง |
Gladiolus | /,glædi’əʊləs/ | ดอกซ่อนกลิ่นฝรั่ง |
Hellebore | /’helibɔ:/ | ดอกกุหลาบคริสมาสต์ / กุหลาบฤดูหนาว |
Hibiscus | /hi’biskəs/ | ดอกชบา |
Honeysuckle | /ˈhʌnisʌkl/ | ดอกสายน้ำผึ้ง |
Hops | /hɒps/ | ดอกฮอปส์ / ดอกกรวยเมล็ดหรือสโตรบิลัส |
Hyacinth | /ˈhaɪəsɪnθ/ | ดอกผักตบชวา |
Hydrangea | /haɪˈdreɪn.dʒə/ | ดอกไฮเดรนเยีย |
Iris | /ˈaɪ.rɪs/ | ดอกไอริส |
Jasmine | /ˈdʒæz.mɪn/ | ดอกมะลิ |
Lavender | /’lævəndə[r]/ | ดอกลาเวนเดอร์ |
Lilac | /’lailək/ | ดอกไลลัก |
Lily | /’lili/ | ดอกลิลลี่ |
Lily of the valley | /ˌlɪl.i əv ðə ˈvæl.i/ | ดอกลิลลี่แห่งหุบเขา |
Lotus | /’ləʊtəs/ | ดอกบัว |
Magnolia | /mæg’nəʊliə/ | ดอกจำปี |
Marigold | /’mærigəʊld/ | ดอกดาวเรือง |
Mimosa | /mɪˈmoʊsə/ | ดอกกระถินณรงค์ |
Morning Glory | /ˌmɔːnɪŋ ˈɡlɔːri/ | ดอกผักบุ้ง |
Moss rose | /mɔːs roʊz/ | ดอกแพรเซี่ยงไฮ้ |
Narcissus | /nɑːˈsɪsəs/ | ดอกดารารัตน์ |
Orchid | /’ɔ:kid/ | ดอกกล้วยไม้ |
Pansy | /ˈpænzi/ | ดอกหน้าแมว |
Peach blossom | /pi:tʃ’blɔsəm/ | ดอกท้อ |
Peony | /’pi:ənni/ | ดอกโบตั๋น |
Rose | /rəʊz/ | ดอกกุหลาบ |
Sunflower | /’sʌn,flaʊə[r]/ | ดอกทานตะวัน |
Tuberose | /ˈtjuːbərəs/ | ดอกซ่อนกลิ่น |
Tulip | /ˈtʃuː.lɪp/ | ดอกทิวลิป |
Violet | /ˈvaɪə.lət/ | ดอกไวโอเล็ต |
Water lily | /’wɔ:təlili/ | ดอกสกุลบัวสาย |
Cape Jasmine | /keɪp ˈdʒæzmɪn/ | ดอกพุดซ้อน |
Daffodils | /ˈdæfədɪlz/ | ดอกดารารัตน์ |
Padauk | /pəˈdaʊk/ | ดอกประดู่ |
Orange jasmine | /ˈɔːr.ɪndʒ ˈdʒæz.mɪn/ | ดอกแก้ว |
Mexican Daisy | /ˈmek.sɪ.kən ˈdeɪ.zi/ | ดอกตีนตุ๊กแก / ดอกเดซี่เม็กซิกัน |
Torch Ginger | /tɔːrtʃ ˈdʒɪn.dʒɚ/ | ดอกดาหลา |
Allamanda | /ˌaləˈmandə/ | ดอกบานบุรี |
Butterfly pea | /ˈbʌt̬.ɚ.flaɪ piː/ | ดอกอัญชัญ |
Zinnia | /ˈzɪnɪə/ | ดอกบานชื่น |
Wax flower | /wæks ˈflaʊ.ɚ/ | ดอกชะลูดช้าง |
Crinum | ดอกพลับพลึง | |
Wishbone flower | /ˈwɪʃbəʊn ˈflaʊ.ɚ/ | ดอกแววมยุรา |
Eaglewood | ดอกสกุลกฤษณา | |
Shoe flower | /ʃuː ˈflaʊ.ɚ/ | ดอกชบา |
Rainbow shower | /ˈreɪn.boʊ ˈʃaʊ.ɚ/ | ดอกชัยพฤกษ์ |
Lisianthus | ดอกไลเซนทัส/ดอกกุหลาบไร้หนาม | |
Night jasmine | /naɪt ˈdʒæzmɪn/ | ดอกกรรณิการ์ |
Flamingo Plant | /fləˈmɪŋɡəʊ plænt/ | ดอกหน้าวัว |
Cotton rose | /ˈkɑːtn rəʊz/ | ดอกพุดตาน |
Oleander | /ˌəʊliˈændə(r)/ | ดอกยี่โถ |
White Champaka | ดอกจำปี | |
Siam Tulip | /ˈsaɪæm ˈtuːlɪp/ | ดอกปทุมมา |
Globe Amaranth | /ɡloʊb ˈæm.ə.rænθ/ | ดอกบานไม่รู้โรย |
Bougainvillea | /ˌbuː.ɡənˈvɪl.i.ə/ | ดอกเฟื่องฟ้า |
Bauhinia | ดอกชงโค | |
Cactus | /ˈkæktəs/ | กระบองเพชร |
Desert rose | /ˈdezərt rəʊz/ | ดอกชวนชม |
Cockscomb | /ˈkɑːks.koʊm/ | ดอกหงอนไก่ |
Wild Water Plum | /waɪld ˈwɑː.t̬ɚ plʌm/ | ดอกโมก |
Cowslip creeper | /ˈkaʊ.slɪp ˈkriː.pɚ/ | ดอกขจร |
Alstroemeria | /ˌæl.strəˈmiːr.i.ə/ | ดอกลิลลี่เปรู |
Amaryllis | /ˌæm.əˈrɪl.ɪs/ | ดอกว่านสี่ทิศ |
Anemone | /əˈnem.ə.ni/ | ดอกไม้แห่งสายลม |
Bluebells | /ˈbluːbel/ | ดอกระฆังเสปน |
Canna | /ˈkæn.ə/ | ดอกพุทธรักษา |
Cattleya | /ˈkæt.li.ə/ | ดอกแคทลียา |
Cosmos | /ˈkɑːz.moʊs/ | ดอกดาวกระจาย |
Damask | /ˈdæm.əsk/ | ดอกกุหลาบมอญ |
Flame Lily | /fleɪm ˈlɪl.i/ | ดอกดองดึง |
Freesia | /ˈfriː.ʒə/ | ดอกฟรีเซีย |
Gardenia | /ɡɑːrˈdiː.ni.ə/ | ดอกพุดซ้อน |
Gloxinia | /ɡlɑːkˈsɪn.i.ə/ | ดอกกุหลาบนางฟ้า |
Gypsophila | /dʒɪpˈsɑː.fɪ.lə/ | ดอกยิปโซฟิลล่า |
Ixora | ดอกเข็ม | |
Kalanchoe | /ˌkæl.ənˈkoʊ.i/ | ดอกกุหลาบหิน |
Orange | /ˈɔːr.ɪndʒ/ | ดอกส้ม |
Poppy | /ˈpɑː.pi/ | ดอกป๊อปปี้ |
Primrose | /ˈprɪm.roʊz/ | ดอกพริมโรส |
Trumpet lily | /ˈtrʌmpət ˈlɪli/ | ดอกหิรัญญิการ์ |
Siam | /ˈsaɪæm/ | ดอกปทุมมา |
Tailflower | ดอกหน้าวัว | |
Etlingera Elatior | ดอกดาหลา | |
Fuchsias | /ˈfjuːʃə/ | ดอกโคมญี่ปุ่น |
Veronica | /vɚˈɑː.nɪ.kə/ | ดอกเวโรนิก้า |
Wisteria | /wɪˈstɪr.i.ə/ | ดอกวิสทีเรีย |
Chinese rose | /tʃaɪˈniːz roʊz/ | ดอกชบา |
คำศัพท์เกี่ยวกับส่วนประกอบของดอกไม้ในภาษาอังกฤษ
คำศัพท์ | การออกเสียง | ความหมาย |
Leaf | /li:f/ | ใบไม้ |
Root | /ru:t/ | ราก |
Spore | /spɔː(r)/ | สปอร์ |
Pollination | /ˌpɒlɪˈneɪʃn/ | การปฏิสนธิของเกสร |
Embryo | /ˈɛmbrɪoʊ/ | ตัวอ่อน |
Pollen | /ˈpɒlən/ | ละอองเกสร |
Flower | /ˈflaʊər/ | ดอกไม้ |
Stem | /stɛm/ | ลำต้น |
Stamen | /ˈsteɪmən/ | เกสรตัวผู้ |
Pistil | /ˈpɪstl/ | เกสรตัวเมีย |
คำศัพท์ภาษาอังกฤษบรรยายถึงกลิ่นดอกไม้
คําเกี่ยวกับดอกไม้ ภาษาอังกฤษ | การออกเสียง | ความหมาย |
Aromatic | /ˌærəʊˈmætɪk/ | มีกลิ่มหอม / หอม |
Comforting | /ˈkʌmfətɪŋ/ | กลิ่มหอมที่สบายๆ |
Delicate | /ˈdelɪkət/ | กลิ่มหอมที่ประณีต |
Evocative | /ˈevəʊkətɪv/ | กลิ่มหอมซึ่งทำให้รำลึกถึงภาพเหตุการณ์ต่างๆ |
Heady | /ˈhedɪ/ | กลิ่มหอมซึ่งทำให้น่าตื่นเต้น |
Intoxicating | /ɪnˈtɒksɪkeɪtɪŋ/ | กลิ่มหอมซึ่งทำให้เมา |
Faint | /feɪnt/ | กลิ่นที่ทำให้หน้ามืด วิงเวียน |
Fresh | /freʃ/ | กลิ่นสดชื่น |
Misty | /ˈmɪsti/ | กลิ่นไม่พึงประสงค์ |
Pungent | /ˈpʌndʒənt/ | ฉุน |
Sweet | /swiːt/ | หอมหวาน |
คำศัพท์ภาษาอังกฤษบรรยายถึงความงามของดอกไม้
คำศัพท์ | การออกเสียง | ความหมาย |
Abundant | /əˈbʌndənt/ | อุดมสมบูรณ์ |
Attention-getting | /əˈtenʃən ˈgetɪŋ/ | มีแรงดึงดูด |
Attractive | /əˈtræktɪv/ | มีเสน่ห์ |
Beautiful | /ˈbjuːtəfʊl/ | สวยงาม |
Blooming | /ˈbluːmɪŋ/ | เจริญรุ่งเรืองอย่างยิ่ง |
Breathtaking | /ˈbreθˌteɪkɪŋ/ | น่าทึ่ง / น่าประหลาดใจ |
Bright | /braɪt/ | แจ่มใส / สว่าง |
Captivating | /ˈkæptɪveɪtɪŋ/ | เป็นความสวยที่จับใจ |
Charming | /ˈʧɑːmɪŋ/ | ซึ่งทำให้หลงใหล / จับใจ |
Colorful | /ˈkʌləfl/ | ที่มีสีสันสดใส |
Dazzling | /ˈdæzlɪŋ/ | แพรวพราว/แวววาว |
Elegant | /ˈelɪgənt/ | งดงาม |
Eye-catching | /ˈaɪ kætʃɪŋ/ | สะดุดตา |
Idyllic | /aɪˈdɪlɪk/ | สงบสุข |
Impressive | /ɪmˈpresɪv/ | ซึ่งน่าประทับใจ |
Pretty | /ˈprɪtɪ/ | น่ารัก / สวยงาม |
Wonderful | /ˈwʌndəfʊl/ | มหัศจรรย์ / ยอดเยี่ยม |
>>> Read more: 150+ คำชมภาษาอังกฤษที่เรียบง่ายและดีที่สุดในทุกสถานการณ์
ค้นหาความหมายของดอกไม้บางชนิดในภาษาอังกฤษ
ดอกไม้ (ภาษาอังกฤษ) | การออกเสียง | ดอกไม้ (ภาษาไทย) | ความหมาย |
Sunflower | /ˈsʌnflaʊər/ | ดอกทานตะวัน | ดอกทานตะวันเป็นดอกไม้ชนิดที่มักเผชิญกับแสงแดด เป็นตัวแทนของความหวัง ความอบอุ่น และศรัทธา ในขณะเดียวกัน ดอกทานตะวันยังเป็นตัวแทนของโชค สุขภาพ และความยั่งยืนในชีวิตอีกด้วย โดยปกติแล้ว ผู้คนจะมอบดอกทานตะวันให้กับเพื่อนและญาติเมื่อพวกเขาประสบความสำเร็จอันน่ายกย่อง เพื่อเป็นการแสดงคำอวยพรและโชคดีแก่พวกเขา |
Camellia | /kəˈmiːliə/ | ดอกคามิเลีย | ดอกเคมีเลีย แปลว่า “สง่างามที่สุด” หรือ “หัวใจของฉันเป็นของเธอ” ดอกเคมีเลียยังเป็นที่รู้จักกันในนามดอกกุหลาบญี่ปุ่น ดอกไม้นี้ดึงดูดจิตวิญญาณของศิลปินหลายคน และเป็นแรงบันดาลใจให้กับงานวรรณกรรมและศิลปะทั้งขนาดใหญ่และขนาดเล็กจำนวนมาก |
Lavender | /ˈlævəndər/ | ดอกลาเวนเดอร์ | ลาเวนเดอร์เป็นหนึ่งในดอกไม้ที่เป็นที่ชื่นชอบมากที่สุดในโลก ไม่เพียงเพราะความสวยงามและกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์เท่านั้น แต่ยังเนื่องมาจากการนำไปใช้ในชีวิตด้วย ดอกไม้นี้เป็นสัญลักษณ์ของความบริสุทธิ์ ความสง่างาม ความอ่อนโยน และความจงรักภักดี ดอกลาเวนเดอร์ยังเป็นที่รู้จักกันในนามสมุนไพรแห่งความรัก เป็นตัวแทนของความรักที่ยั่งยืนและซื่อสัตย์ |
Carnation | /kɑːrˈneɪʃn/ | ดอกคาร์เนชั่น | ดอกคาร์เนชั่นมีหลายสีสันสวยงาม แต่ละสีก็มีข้อความที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ดอกคาร์เนชั่นสีขาวเป็นตัวแทนของความรักและโชคอันบริสุทธิ์ สีแดงเข้มของดอกคาร์เนชั่นมักสื่อถึงความรู้สึกอันแรงกล้าในความรัก ในขณะที่สีแดงอ่อนสื่อถึงความชื่นชม สีม่วงมักพูดถึงนิสัยที่ไม่อยู่กับร่องกับรอยและเอาใจยากของเด็กผู้หญิงในวัยยี่สิบ สีชมพูเป็นสีพิเศษที่แสดงถึงความรักอันสูงส่งของคุณแม่ |
Magnolia | /mæɡˈnəʊliə/ | ดอกแมกโนเลีย | ดอกแมกโนเลียที่บานสะพรั่งยังเป็นสัญญาณการมาถึงของฤดูใบไม้ผลิอีกด้วย สิ่งนี้อธิบายได้ว่าทำไมแมกโนเลียจึงกลายเป็นสัญลักษณ์ของความรักต่อธรรมชาติ |
ชื่อภาษาอังกฤษที่มาจากชื่อดอกไม้สำหรับผู้หญิง
ดอกไม้ (ภาษาอังกฤษ) | การออกเสียง | ดอกไม้ (ภาษาไทย) | ความหมาย |
Amaryllis | /ˌæməˈrɪlɪs/ | ดอกอะมาริลลิส | ดอกอะมาริลลิสสีแดงถือเป็นสัญลักษณ์ของชัยชนะและความงามของผู้หญิง |
Camellia | /kəˈmiːliə/ | ดอกคามิเลีย | นี่เป็นชื่อดอกไม้ที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับเด็กหญิง ดอกคามิเลียเป็นตัวแทนของความชื่นชมและความสมบูรณ์แบบ |
Daffodil | /ˈdæfədɪl/ | ดอกดารารัตน์ | ดอกดารารัตน์ (ดอกแดฟโฟดิลสีเหลือง) เป็นสัญลักษณ์ของสาวสวย |
Daisy | /ˈdeɪzi/ | ดอกเดซี่ | นี่คือชื่อของผู้หญิงที่เกี่ยวข้องกับความไร้เดียงสาและความงามอันบริสุทธิ์ ดอกเดซี่ยังเป็นสัญลักษณ์ของการเริ่มต้นใหม่และความเป็นแม่อันศักดิ์สิทธิ์ |
Iris | /ˈaɪrɪs/ | ดอกไอริส | ดอกไอริสแบ่งออกเป็น 3 กลีบ แต่ละกลีบหมายถึงความศรัทธา ปัญญา และความกล้าหาญ |
Hyacinth | /ˈhaɪəsɪnθ/ | ดอกผักตบชวา | ดอกผักตบชวาเป็นดอกไม้ที่มีกลิ่นหอมมากที่สุดชนิดหนึ่งในฤดูใบไม้ผลิ |
Lotus | /ˈləʊtəs/ | ดอกบัว | ในภาษาสันสกฤต ชื่อนี้หมายถึงดอกบัวและเป็นชื่อของเทพธิดาด้วย ดังนั้นนี่จึงเป็นชื่อที่สวยงามสำหรับเด็กๆ อย่างแท้จริง |
Lily | /ˈlɪli/ | ดอกลิลลี่ | ชื่อนี้เป็นชื่อที่สวยงามสำหรับเด็กหญิง เนื่องจากเป็นสัญลักษณ์ของความบริสุทธิ์และความไร้เดียงสา แต่ยังคงความงามที่เย้ายวนใจ |
Rose | /rəʊz/ | ดอกกุหลาบ | นี่ถือได้ว่าเป็นชื่อที่ไม่เคยล้าสมัย ดอกไม้มีความหมายหลายอย่าง ขึ้นอยู่กับสี ซึ่งเกี่ยวข้องกับความรัก มิตรภาพ ความกตัญญู ความอ่อนน้อมถ่อมตน เสน่ห์ หรือความกระตือรือร้น |
Violet | /ˈvaɪələt/ | ดอกไวโอเล็ต | ไวโอเล็ตเป็นชื่อของดอกไม้ที่สื่อถึงความบริสุทธิ์ ความรักที่แท้จริง และความอุดมสมบูรณ์ |
>>> Read more: 300+ ชื่อภาษาอังกฤษเท่ๆ สำหรับผู้หญิงที่ไม่ควรพลาด
ประโยคเกี่ยวกับดอกไม้ ภาษาอังกฤษ
ประโยคเกี่ยวกับดอกไม้ ภาษาอังกฤษ | ความหมาย |
I intend to buy some sunflowers. | ฉันตั้งใจจะซื้อดอกทานตะวัน |
I am going to the flower shop to buy a bunch of daisies. | ฉันจะไปร้านขายดอกไม้เพื่อซื้อดอกเดซี่สักช่อหนึ่ง |
My mother wants to buy a pot of flowers. | แม่ของฉันอยากจะซื้อกระถางดอกไม้ |
Please have these flowers sent to these addresses. | กรุณาส่งดอกไม้เหล่านี้ไปที่อยู่นี้ |
You should regularly change the water for flowers. This would keep them fresh for longer. | คุณควรเปลี่ยนน้ำดอกไม้เป็นประจำ วิธีนี้จะช่วยให้ดอกไม้สดได้นานขึ้น |
How often should I change the water for flowers? | ควรเปลี่ยนน้ำให้ดอกไม้บ่อยแค่ไหน? |
How long does it take for the buds to blossom into flowers? | ดอกไม้ที่ตูมใช้เวลานานเท่าไหร่ถึงจะบาน? |
The time it takes for flowers to bloom also depends on the temperature. | เวลาที่ดอกไม้จะบานก็ขึ้นอยู่กับอุณหภูมิด้วย |
I’m going to wrap these sunflowers in cellophane and tie them together with a dark blue ribbon. | ฉันจะห่อดอกทานตะวันเหล่านี้ด้วยกระดาษแก้วแล้วมัดด้วยริบบิ้นสีน้ำเงินเข้ม |
>>> Read more: 60+ แคปชั่นดอกไม้ ภาษาอังกฤษสวยๆ ความหมายดี
เทคนิคการจำคำศัพท์ดอกไม้ในภาษาอังกฤษให้จำได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ฝึกนึกภาพวลีภาษาอังกฤษในหัว คุณสามารถจดความหมายของคำศัพท์ใหม่ลงในกระดาษหรือจินตนาการก็ได้ บวกกับการใช้พจนานุกรมภาษาอังกฤษ-ไทยเพื่อเรียนรู้คำพ้องความหมายและคำที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมจะช่วยให้คุณจำได้ดีขึ้น
- ท่องคำศัพท์ภาษาอังกฤษซ้ำเป็นระยะๆ กระบวนการท่องคำศัพท์ไม่เพียงเกิดขึ้นในวันเดียว แต่ควรเว้นระยะฝึกอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
- ประยุกต์ใช้คำศัพท์ที่เพิ่งเรียนรู้: คุณสามารถบันทึกเสียงขณะพูดคุยเกี่ยวกับหัวข้อเช่นดอกไม้ที่คุณชื่นชอบ จากนั้นฟังอีกครั้ง โดยเน้นไปที่คำศัพท์ที่คุณใช้และท้าทายตัวเองด้วยการแทนที่คำศัพท์ใหม่ๆ จากคำเก่าที่คุณพูด จากนั้น ให้บันทึกคำพูดใหม่ด้วยคำศัพท์ที่ถูกแทนที่ หากทำเป็นประจำ คุณจะช่วยพัฒนาคำศัพท์ภาษาอังกฤษของคุณได้อย่างรวดเร็ว
บทความข้างต้นของ ELSA Speak ช่วยให้คุณเพิ่มคำศัพท์ดอกไม้ภาษาอังกฤษ พร้อมทั้งการออกเสียงและความหมายของดอกไม้ที่หลากหลายและมีประโยชน์อย่างยิ่งอีกด้วย หวังว่า ELSA Speak จะช่วยให้คุณเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นนะ
ดอกไม้ไม่เพียงแต่นำมาซึ่งความสวยงามและกลิ่นหอมที่ดึงดูดใจผู้คนจำนวนมากเท่านั้น แต่ยังใช้ในการถ่ายทอดข้อความที่มีความหมายต่างๆ มากมายอีกด้วย ดังนั้น วันนี้เรามาเรียนรู้กับแคปชั่นดอกไม้ ภาษาอังกฤษสวยๆและมีความหมายดีๆในภาษาอังกฤษกับ ELSA Speak ด้านล่างนี้กันดีกว่า
แคปชั่นดอกไม้ ภาษาอังกฤษสั้นๆ
แคปชั่น | ความหมาย |
For me, flowers are happiness. | สำหรับฉัน ดอกไม้คือความสุข |
You make me happy as fresh as a daisy. | เธอทำให้ฉันมีความสุขและรู้สึกสดใสเหมือนดอกเดซี่ |
Life is better with flowers and coffee. | ชีวิตนี้จะดีขึ้นด้วยดอกไม้และกาแฟ |
In a world full of chaos, be a wildflower. | ในโลกที่เต็มไปด้วยความสับสนวุ่นวาย จงเป็นเหมือนดอกไม้ป่า |
Where flowers bloom, so does hope. | เมื่อใดที่มีดอกไม้เบ่งบาน ที่นั่นก็จะมีความหวังเสมอ |
Even flowers need time to bloom. | แม้แต่ดอกไม้ก็ยังต้องการเวลาที่จะเบ่งบาน |
Don’t rush, give yourself time to grow, just like flowers need time to bloom. | อย่าพยายามไปเร่งรีบอะไรที่มันต้องใช้เวลาในการเติบโต |
Just like the flowers, keep growing. | เป็นดั่งเช่นดอกไม้ จงเติบโตต่อไป |
Whether happy or sad, flowers remain our true friends. | ไม่ว่าจะสุขหรือทุกข์ ดอกไม้ก็เป็นเพื่อนแท้ของเรา |
There is no rose without a thorn. | ไม่มีกุหลาบใดปราศจากหนาม |
A flower does not think of competing with its neighbor. It just blooms in its own beauty. | ดอกไม้ไม่เคยคิดที่จะแข่งกับดอกอื่นใด มันเบ่งบานตามธรรมชาติของมัน |
Flowers are like friends; they bring color to your world. | ดอกไม้เป็นเหมือนเพื่อน พวกเขานำสีสันมาสู่โลกของคุณ |
Everyone has their own time to shine, just like flowers bloom in season. | ทุกคนมีเวลาเป็นของตัวเอง เหมือนกับดอกไม้ต้องการเวลาเพื่อเบ่งบาน |
Bloom with kindness. | บานสะพรั่งด้วยเมตตาไมตรี |
In joy and in sadness, flowers are our constant friends. | ในความยินดีและความโศกเศร้า ดอกไม้ยังเป็นเพื่อนที่ยั่งยืนของเรา |
Happiness blooms from within, just like these tulips. | ความสุขที่เบ่งบานจากภายใน เหมือนกับดอกทิวลิปเหล่านี้ |
แคปชั่นเกี่ยวกับดอกไม้และความรักในภาษาอังกฤษ
แคปชั่นดอกไม้กับความรัก ภาษาอังกฤษ | ความหมาย |
To not see you for a day was no bed of roses. | การไม่ได้เจอหน้าเธอแค่วันเดียวก็รู้สึกเหมือนจะตายเลย |
Love is like a wildflower; it blooms in the most unexpected places. | ความรักมันเหมือนกับดอกไม้ป่า บ่อยครั้ง ที่มันถูกพบในสถานที่ไม่คาดว่าจะพบมัน |
My love for you is like a rose, always blooming and always fragrant. | ความรักของฉันที่มีต่อเธอเหมือนดอกกุหลาบ บานสะพรั่งและมีกลิ่นหอมอยู่เสมอ |
My love for you blossoms every day. | ความรักของฉันที่มีต่อคุณเบ่งบานทุกวันเลย |
Love is the flower you’ve got to let grow. | ความรักก็เหมือนดอกไม้ คุณต้องดูแลรดน้ำมันให้เบ่งบาน |
There is no rose without a thorn between us. | ไม่มีกุหลาบใดที่ไร้หนาม |
Life is the flower for which love is the honey. | หากชีวิตคือดอกไม้ ความรักก็เปรียบเสมือนน้ำผึ้งที่หอมหวาน |
Faith plants the seed, love makes it grow. | ความเชื่อทำหน้าที่เพาะเมล็ด และความรักทำให้มันเติบโต |
Just as a flower needs honey to thrive, so does life need love to flourish. | เช่นเดียวกับที่ดอกไม้ต้องการน้ำผึ้งเพื่อเจริญเติบโต ชีวิตก็ต้องการความรักเพื่อเจริญเติบโตเช่นกัน |
Love is like a beautiful flower that I may not be able to touch, but its fragrance makes the garden a delightful place nonetheless. | ดอกไม้ต้องการน้ำผึ้งเพื่อการเจริญเติบโต ชีวิตก็ต้องการความรักเพื่อเจริญรุ่งเรืองเช่นกัน |
A flower cannot blossom without sunshine and water, just as a person cannot grow without love and care. | ดอกไม้ไม่สามารถเบ่งบานได้หากปราศจากแสงแดดและน้ำ เช่นเดียวกับที่บุคคลไม่สามารถเติบโตได้หากปราศจากความรักและความเอาใจใส่ |
My love is like a delicate dandelion, I long to touch it but fear its fleeting nature. | ความรักของฉันเหมือนดอกเดซี่อันละเอียดอ่อน ฉันอยากสัมผัสมัน แต่ฉันกลัวว่ามันจะปลิวไปตามสายลม |
If love were a drop of rain, I would send you showers. If love were a petal, I would send you blossoms. | หากความรักเปรียบเสมือนหยาดฝน ฉันจะส่งฝนไปให้คุณ หากความรักเปรียบเสมือนกลีบดอกไม้ ฉันจะส่งดอกไม้ไปให้คุณ |
>>> Read more:
- 90+ คําคมความรักภาษาอังกฤษที่มีความหมาย สั้นๆ และโรแมนติกที่สุด
- 110+ คำเรียกแฟนภาษาอังกฤษ ความหมายน่ารักๆ สำหรับคู่รัก
แคปชั่นดอกไม้เกี่ยวกับชีวิตและแรงจูงใจในภาษาอังกฤษ
แคปชั่น | ความหมาย |
Some days it storms, some days it shines. This is how flowers grow. | บางวันก็มีพายุเข้ามา บางวันแสงแดดก็ออกมาเปล่งประกาย และนี่คือหนทางที่จะทำให้ดอกไม้เติบโต |
Appreciate the good things in life, but remember that everything has two sides, just like roses have thorns. | เห็นคุณค่าสิ่งดี ๆ ในชีวิต แต่จำไว้ว่าทุกสิ่งมีสองด้าน เหมือนกุหลาบย่อมมีหนามอยู่เสมอ |
Flowers grow back, even after they are stepped on. So will I. | ดอกไม้จะงอกขึ้นมาใหม่ แม้จะเหยียบไปแล้วก็ตาม ฉันก็เช่นกัน |
Even the tiniest of flowers can have the toughest roots. | แม้แต่ดอกไม้ที่เล็กที่สุดก็สามารถมีรากที่แข็งที่สุดได้ |
Minds are like flowers; they open only when the time is right. | จิตใจก็เหมือนดอกไม้ ที่จะเปิดก็ต่อเมื่อถึงเวลาเท่านั้น |
A flower blooming in the desert proves to the world that adversity, no matter how great, can be overcome. | ดอกไม้ที่เบ่งบานในทะเลทราย มันพิสูจน์ให้โลกเห็นว่าความทุกข์ยากไม่ว่าจะยิ่งใหญ่แค่ไหน ก็สามารถเอาชนะได้ |
Don’t wait for someone to bring you flowers. Plant your own garden and decorate your own soul. | อย่ารอให้ใครเอาดอกไม้มาให้ จงปลูกมันด้วยตัวคุณเองและตกแต่งจิตวิญญาณด้วยตัวคุณเอง |
Flowers grow out of dark moments. | ดอกไม้เติบโตในช่วงเวลาที่มืดมน |
To plant a garden is to believe in tomorrow. | การปลูกพืชคือการเชื่อในวันพรุ่งนี้ |
Mere existence is not enough; one must have sunshine, freedom, and a little flower. | การดำรงอยู่เพียงอย่างเดียวนั้นไม่เพียงพอ ต้องมีแสงแดด อิสรภาพ และดอกไม้เล็กๆ น้อยๆ |
Live like sunflowers, always hold your head high and turn your face towards the sun. | ใช้ชีวิตเหมือนดอกทานตะวัน เชิดหน้าไว้เสมอ และหันหน้าไปทางดวงอาทิตย์ |
Flowers bloom vibrantly, then fade away. Joy arrives, then departs. Love is beautiful, but it can also vanish. We meet, then part ways again. | ดอกไม้บานสะพรั่งแล้วร่วงโรยไป ความสนุกสนานมาถึงแล้วก็จากไป ความรักเป็นสิ่งสวยงาม แต่ก็สามารถหายไปได้เช่นกัน เราพบกันแล้วจากกันอีกครั้ง |
>>> Read more:
- รวบรวม ประโยคฮีลใจภาษาอังกฤษให้ทุกคนในทุกสถานการณ์ (มีคำแปล)
- 100+ คําให้กําลังใจภาษาอังกฤษ สั้นๆ ช่วยให้คุณรู้สึกมองโลกในแง่ดีมากขึ้น
แคปชั่นดอกไม้กับผู้หญิง ภาษาอังกฤษ
แคปชั่นดอกไม้กับผู้หญิง ภาษาอังกฤษ | ความหมาย |
She is a field of wildflowers, a riot of colors and fragrances, representing the beauty and diversity of women. | เธอเป็นทุ่งดอกไม้ป่า หลากสีสันและกลิ่นหอม เป็นตัวแทนของความงามและความหลากหลายของผู้หญิง |
Though there are many flowers, most are just for admiring. Though there are many beautiful women, a man should choose only one. | แม้ว่าจะมีดอกไม้มากมาย แต่ส่วนใหญ่ก็มีไว้สำหรับชื่นชมเท่านั้น แม้ว่าจะมีผู้หญิงสวยมากมาย แต่ผู้ชายก็ควรเลือกเพียงคนเดียว |
If you are a woman, be like a flower, always knowing how to emit a sweet fragrance, knowing how to be beautiful in the right place, and how to gracefully withdraw at the right time. | หากคุณเป็นผู้หญิง จงเป็นเหมือนดอกไม้ รู้จักที่จะส่งกลิ่นหอมหวาน รู้จักที่จะสวยในที่ที่ถูกต้อง และรู้วิธีถอนตัวอย่างสง่างามในเวลาที่เหมาะสม |
Don’t be like a fragile dandelion in the wind. Be like a resilient cactus in the storm. | อย่าเป็นเหมือนดอกเดซี่อันเปราะบางในสายลม จงเป็นเหมือนกระบองเพชรที่ทนทานในพายุ |
Beautiful roses with thorns are a symbol of the pride of women. | ดอกกุหลาบอันสวยงามที่อยู่กับหนามแหลมเป็นสัญลักษณ์ของความภาคภูมิใจของผู้หญิง |
Roses have thorns to protect themselves, just like strong women protect their hearts from being hurt by unworthy men. | กุหลาบมีหนามไว้ปกป้องตนเอง เช่นเดียวกับผู้หญิงเข้มแข็งที่คอยปกป้องหัวใจไม่ให้ถูกผู้ชายที่ไม่คู่ควรทำร้าย |
>>> Read more: 40+ คําคมรักตัวเอง ภาษาอังกฤษที่ไพเราะ สั้นๆ และมีความหมาย
ELSA Pro ไม่จำกัด
14,895 บาท -> 2,644 บาท
ELSA Premium 1 ปี
8,497 บาท -> 4,290 บาท
ประโยคเกี่ยวกับดอกไม้ ภาษาอังกฤษ สวยๆ ความหมายดีๆ
ประโยคเกี่ยวกับดอกไม้ ภาษาอังกฤษ | ความหมาย |
After women, flowers are the most lovely thing God has given the world. | รองจากผู้หญิง ดอกไม้คือสิ่งที่น่ารักที่สุดที่พระเจ้าประทานแก่โลก |
A rose by any other name would smell as sweet. | แม้กุหลาบที่ใช้ชื่ออื่นๆ ก็ยังคงมีกลิ่นหอมหวาน |
There are always flowers for those who want to see them | มีดอกไม้สำหรับผู้ที่ต้องการชมอยู่เสมอ |
Happiness radiates like the fragrance from a flower and draws all good things towards you. | ความสุขแผ่กระจายเหมือนกลิ่นหอมจากดอกไม้และดึงดูดสิ่งดีๆ เข้ามาหาคุณ |
A flower cannot blossom without sunshine, and man cannot live without love. | ดอกไม้ไม่สามารถบานสะพรั่งได้หากไม่มีแสงแดด และมนุษย์ไม่สามารถอยู่ได้โดยปราศจากความรัก |
Happiness held is the seed, happiness shared is the flower. | ความสุขที่เก็บไว้คือเมล็ดพันธุ์ ความสุขที่แบ่งปันคือดอกไม้ |
Roses are the setting for my life, but it is people who are important. | ดอกกุหลาบคือสถานที่สำหรับชีวิตของฉัน แต่เป็นสิ่งสำคัญในชีวิตฉัน |
Love is much like a wild rose, beautiful and calm, but willing to draw blood in its defense. | ความรักก็เหมือนกับดอกกุหลาบป่า สวยงามและสงบ แต่เต็มใจที่จะหลั่งเลือดเพื่อปกป้องตัวเอง |
How cunningly nature hides every wrinkle of her inconceivable antiquity under roses and violets and morning dew! | ธรรมชาติช่างเจ้าเล่ห์ซ่อนทุกรอยย่นและความชราไว้ใต้ดอกกุหลาบและน้ำค้างยามเช้า! |
A single rose can be my garden. A single friend, my world. | กุหลาบดอกเดียวก็สามารถเป็นสวนใหญ่ได้ เพื่อนคนเดียวสามารถเป็นโลกของฉันได้ |
You can complain because roses have thorns, or you can rejoice because thorns have roses. | คุณจะตำหนิเพราะดอกกุหลาบมีหนาม หรือจะชื่นชมยินดีเพราะหนามมีดอกกุหลาบก็ได้ |
True friendship is like a rose: we don’t realize its beauty until it fades. | มิตรภาพแท้จริงก็เหมือนดอกกุหลาบ เราไม่ได้ตระหนักถึงความงดงามของมันจนกว่ามันจะจางหายไป |
Those who fear the thorns will never pick the roses. | ผู้ที่กลัวหนามจะไม่มีวันได้เด็ดดอกกุหลาบ |
The optimist sees the rose and not its thorns, the pessimist stares at the thorns, oblivious to the rose. | ผู้มองโลกในแง่ดีก็จะมองเห็นดอกกุหลาบ ไม่ใช่เห็นแต่หนามของมัน ผู้มองโลกในแง่ร้ายจะจ้องมองที่หนาม โดยไม่สนใจดอกกุหลาบ |
The fragrance always stays in the hand that gives the rose. | กลิ่นหอมจะติดมือผู้ให้เสมอ |
บทความข้างต้น ELSA Speak ได้รวบรวมแคปชั่นดอกไม้ ภาษาอังกฤษสวยๆและมีความหมายดีๆ มาฝากทุกคนแล้ว คราวหน้าอย่าลืมเข้ามาอ่านบทความเกี่ยวกับการสื่อสาร คำศัพท์ และบทสนทนาที่ ELSA Speak กันอีกนะ!
Everyday กับ Every day เป็นคำศัพท์สองคำในภาษาอังกฤษที่ทำให้เราสับสนง่าย แต่จริง ๆ มันมีความหมายและการใช้งานที่แตกต่างกัน แล้ว Every day ต่างจาก Everyday อย่างไร มาหาคำตอบพร้อมกับ ELSA Speak ด้านล่างนี้กันเลย!
Everyday คืออะไร?
คำจำกัดความ
ในภาษาอังกฤษ Everyday สะกดว่า /ˈev.ri.deɪ/ มีหน้าที่เป็นคำคุณศัพท์ ซึ่งมีความหมายว่า: ธรรมดา ทั่วไป หรือทุกวัน โดยใช้เพื่อบรรยายสิ่งของหรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั่วไปในชีวิตประจำวัน เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน ไม่ได้น่าสนใจหรือแปลกใหม่เกินไป
ตัวอย่าง:
- Traffic jams are a part of everyday life in big cities. (การจราจรติดขัดเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันในเมืองใหญ่)
- Jane’s outfit last night was so stunning. Completely different from her everyday style. (ชุดของเจนเมื่อคืนนี้สวยงามมาก แตกต่างจากสไตล์ประจำวันของเธออย่างสิ้นเชิง)
- Shirt and trousers are everyday clothes of office workers. (เสื้อเชิ้ตและกางเกงขายาวเป็นเครื่องแต่งกายประจำวันของพนักงานออฟฟิศ)
คำพ้องความหมายกับ Everyday
คำพ้องความหมายกับ Everyday | ความหมาย | ตัวอย่าง | แปล |
Ordinary /ˈɔːr.dən.er.i/ | ปกติ ธรรมดา | Alex took ordinary household objects and transformed them into pieces of art. | อเล็กซ์นำของใช้ในครัวเรือนธรรมดาๆ มาแปลงเป็นงานศิลปะ |
Quotidian /kwoʊˈtɪd.i.ən/ | ปกติ ธรรมดา | We longed for the quotidian rituals, like shopping and tea, that the end of the war would bring. | เราต่างโหยหากิจกรรมตามปกติ เช่น การซื้อของและดื่มชา ซึ่งจะเป็นไปได้ก็ต่อเมื่อสิ้นสุดสงครามเท่านั้น |
วลีทั่วไปบางวลีที่ใช้กับ Everyday
วลี | ความหมาย | ตัวอย่าง |
Everyday life | ชีวิตประจำวัน | Cooking dinner and doing laundry are part of everyday life for many people. (การทำอาหารเย็นและซักผ้าเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของหลายๆ คน) |
Everyday routine | กิจวัตรประจำวัน | Her everyday routine includes waking up at 6 AM, exercising for 30 minutes. (การตื่นนอนตอน 6 โมงเช้า และออกกำลังกายเป็นเวลา 30 นาทีล้วนแต่เป็นกิจวัตรประจำวันของเธอ) |
Everyday tasks | งานประจำวัน | Washing dishes, grocery shopping, and taking out the trash are everyday tasks that need to be done regularly. (ล้างจาน ซื้อของชำ และทิ้งขยะเป็นงานประจำวันที่ต้องทำเป็นประจำ) |
Everyday outfit | เครื่องแต่งกายประจำวัน | She prefers to wear comfortable jeans and a casual shirt as her everyday outfit. (เธอชอบสวมกางเกงยีนส์สบายๆ และเสื้อยืดลำลองเป็นเครื่องแต่งกายประจำวันของเธอ) |
Everyday problems | ปัญหารายวัน | Dealing with traffic jams and finding time to cook dinner after a long day at work are everyday problems for many city dwellers. (การเผชิญกับรถติดและการหาเวลาทำอาหารเย็นหลังจากเหน็ดเหนื่อยจากการทำงานมาทั้งวัน เป็นปัญหาในชีวิตประจำวันของชาวเมืองจำนวนมาก) |
Everyday conversation | บทสนทนาประจำวัน | Small talk about the weather or weekend plans is common in everyday conversations. (การพูดคุยเล็กๆ น้อยๆ เกี่ยวกับสภาพอากาศหรือแผนช่วงสุดสัปดาห์เป็นเรื่องปกติในการสนทนาในชีวิตประจำวัน) |
Everyday challenges | ความท้าทายในชีวิตประจำวัน | Balancing work and family responsibilities can be one of the everyday challenges many people face. (การสร้างสมดุลระหว่างงานและความรับผิดชอบต่อครอบครัวอาจเป็นหนึ่งในความท้าทายประจำวันที่หลายๆ คนต้องเผชิญหน้า) |
Every day แปลว่าอะไร
คำจำกัดความ
ในภาษาอังกฤษ Every day สะกดว่า /ˈev.ri deɪ/ เป็นคำวิเศษณ์บอกความถี่เพื่อแสดงการกระทำซ้ำๆ วันแล้ววันเล่า การกระทำในแต่ละวัน มีความหมายว่า ทุกวัน Every day ประกอบด้วยคำสองคำ – “every” และ “day”
“Every” มีหน้าที่เป็นคำคุณศัพท์ หรือหากพูดให้ถูกกว่านั้นคือตัวกำหนด (determiners) ที่บรรยายความหมายให้ “day”
ตัวอย่าง:
- People do it all across the globe every day. (ผู้คนทั่วโลกทำเช่นนี้ทุกวัน)
- Sarah asked the same question every day. (ซาร่าถามคำถามเดียวกันทุกวัน)
Every day ใช้กับ tense อะไร
คำวิเศษณ์ every day ถือเป็นข้อสังเกตของ Present Simple tense ซึ่งเป็นหนึ่งใน tense ที่ง่ายที่สุดและเป็นที่รู้จักมากที่สุด เพราะมันแสดงถึงความถี่ของการกระทำในปัจจุบัน มีการทำซ้ำๆเป็นประจำวัน ข้อสังเกตอื่น ๆ ของ Present Simple tense มีดังนี้: every morning, every week, always, sometimes, never, often, hardly,…
ตัวอย่าง:
- I study English every day. (ฉันเรียนภาษาอังกฤษทุกวัน)
- The children play in the park every day. (เด็ก ๆ เล่นที่สวนสาธารณะทุกวัน)
คำพ้องความหมายกับ Every day
คำพ้องความหมาย | ความหมาย | ตัวอย่าง |
Each day | ทุกวัน | Each day I work, I make money. (ทุกๆวันฉันทำงานฉันก็ทำเงินได้) |
Day-to-day/ˌdeɪ.təˈdeɪ/ | วันแล้ววันเล่า ทุกวัน | Day-to-day operations of the team would be handled by the assistant coach. (กิจกรรมประจำวันของทีมจะจัดการโดยผู้ช่วยโค้ช) |
Daily/ˈdeɪ.li/ | รายวัน | I’m looking for a good daily shampoo that won’t damage my hair. (ฉันกำลังมองหาแชมพูดีๆ ที่ใช้ได้ทุกวันโดยไม่ทำให้ผมแห้งเสีย) |
ELSA Pro ไม่จำกัด
14,895 บาท -> 2,644 บาท
ELSA Premium 1 ปี
8,497 บาท -> 4,290 บาท
ความแตกต่างระหว่าง Everyday กับ Every day อย่างละเอียด
Every Day ต่างจาก Everyday อย่างไร? มาดูการแยกความแตกต่างระหว่างสองคำนี้อย่างละเอียดพร้อมกับ ELSA Speak ด้านล่างนี้!
Everyday | Every day | |
ชนิดของคำ | คำคุณศัพท์ (adj) | คำวิเศษณ์ (adv) |
การสะกดคํา | /ˈevrideɪ/ | /e vrɪˈdeɪ/ |
ความหมาย | คำคุณศัพท์ใช้เพื่ออธิบายสิ่งของหรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทุกวัน เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน ไม่เด่นหรือพิเศษใดๆมีความหมายว่าประจำวัน ปกติ ธรรมดาเหมาะกับวันในสัปดาห์ ยกเว้นวันอาทิตย์ วันที่พิเศษหรือเทศกาล | เป็นคำประสมระหว่าง 2 คำ every และ day ใช้เป็นคำวิเศษณ์ที่บอกเวลา (adv) ขยายกริยามีความหมายว่าทุกวัน ทุกๆ วันความถี่ของการกระทำเกิดขึ้นทุกวัน ไม่มีข้อยกเว้น |
ตัวอย่าง | Farming is a part of everyday life in the countryside. (การทำนาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันในชนบท) | Joana asks her boyfriend whether he loves her or not every day. (โจอาน่าถามแฟนของเธอทุกวันว่าเขารักเธอไหม) |
คำถามที่พบบ่อย
Every day แปลว่าอะไร
Every day แปลว่าทุกวัน แต่ละวัน ทุกๆวัน เป็นคำวิเศษณ์บอกความถี่เพื่อแสดงการกระทำซ้ำๆ วันแล้ววันเล่า การกระทำในแต่ละวัน
Everyday ใช้ in หรือ on
Everyday เป็นคำคุณศัพท์ มีความหมายว่าประจำวัน ปกติธรรมดา ดังนั้น Everyday จะไม่ใช้กับคำบุพบท แต่จะอยู่หน้าคำนามเพื่อบรรยายลักษณะของคำนามนั้น
>>> Read more: คำบุพบท (preposition) คืออะไร? วิธีการใช้คำบุพบท
แบบฝึกหัด
แบบฝึกหัด: เลือก Every day หรือ Everyday เพื่อเติมในประโยคต่อไปนี้
1. I go for a run (every day/everyday) _______ to stay healthy.
2. Wearing jeans and a T-shirt is part of my (every day/everyday) _______ style.
3. The sun rises and sets (every day/everyday)_______.
4. I use my (every day/everyday)_______backpack for school.
5. I check my email (every day/everyday) _______ to stay updated.
6. The artist finds inspiration in (every day/everyday) _______ objects.
7. I try to exercise (every day/everyday) _______ for at least 30 minutes.
8. Her (every day/everyday) _______ makeup routine is simple and quick.
9. Learning is a process that happens (every day/everyday)_______.
10. The jacket is suitable for (every day/everyday)_______ wear.
คำตอบ
1. every day | 2. everyday | 3. every day | 4. everyday | 5. every day |
6. everyday | 7. every day | 8. everyday | 9. every day | 10. everyday |
ข้างต้นเป็นการแยกความแตกต่างระหว่าง Everyday กับ Every day อย่างละเอียด หวังว่าการแบ่งปันข้างต้นจะช่วยให้คุณเข้าใจคำศัพท์ทั้งสองคำนี้มากขึ้น นอกจากนี้ อย่าลืมเข้าไปที่ ELSA Speak เพื่ออัปเดตความรู้ไวยากรณ์และคำศัพท์ภาษาอังกฤษใหม่ ๆ ทุกวันกันนะ!
Suffix verbs คืออะไร? คำศัพท์ส่วนใหญ่จะมีความสัมพันธ์และมีกฎเกณฑ์ตามคำลงท้าย ซึ่งช่วยให้ผู้เรียนสามารถจดจำคำศัพท์ภาษาอังกฤษจำนวนมากได้อย่างง่ายดายมากขึ้น บทความนี้ยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับหน้าที่ คำศัพท์ และคำลงท้ายที่ใช้บ่อยในการสร้างกริยางั้นมา เริ่มต้นกับ ELSA Speak กันเลย!
Suffix verb มีอะไรบ้าง
รากศัพท์เป็นส่วนที่ให้ความหมายหลักของคำและเป็นฐานที่ทำให้สามารถสร้างคำใหม่ได้ด้วยการเพิ่มคําลงท้าย
Suffix verb example: boundless
bound + -less —> boundless (without limits; seeming to have no end: ไม่มีขีดจำกัด)
หน้าที่ของคำลงท้ายในภาษาอังกฤษ
การเพิ่มคำลงท้ายในภาษาอังกฤษไม่เพียงแต่เปลี่ยนความหมายของรากศัพท์ แต่ยังสามารถเปลี่ยนรูปแบบของรากศัพท์ได้ด้วย
คำลงท้ายในภาษาอังกฤษหากยืนอยู่เดี่ยวๆ มักจะไม่มีความหมาย แต่จะมีความหมายก็ต่อเมื่ออยู่กับรากศัพท์
ดังนั้นการเรียนรู้และจดจำคำลงท้ายที่ใช้บ่อยจะช่วยให้ผู้เรียนสามารถเข้าใจหรือคาดเดาความหมายของคำได้ เช่น คำที่มีลักษณะทางบวกหรือลบ กริยาหรือคำนาม คำวิเศษณ์หรือคำคุณศัพท์ เป็นต้น
ตัวอย่าง: Cut the sandwiches into triangles. (ตัดแซนด์วิชเป็นรูปสามเหลี่ยม)
การจัดประเภทของคำลงท้าย
คำลงท้ายที่เพิ่มหลังคำกริยาเพื่อสร้างคำนาม (suffix verb to noun)
Verb (คำกริยา) | Sufix (คำลงท้าย) | Noun (คำนาม) |
improve (= get better): ปรับปรุง/ดีขึ้น ตัวอย่าง: Her health has improved dramatically since she started on this new diet. (สุขภาพของเธอดีขึ้นอย่างมากตั้งแต่เธอเริ่มทานอาหารใหม่) | -ment | Improvement: การปรับปรุง/การพัฒนา ตัวอย่าง: These white walls are a big improvement on that disgusting old wallpaper. (ผนังสีขาวเหล่านี้เป็นการปรับปรุงครั้งใหญ่จากวอลล์เปเปอร์เก่าๆ เหล่านั้น) |
elect (= choose somebody by voting): เลือก เลือกตั้ง ตัวอย่าง: The President is elected for a four-year term of office. (ประธานาธิบดีได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งคราวละสี่ปี) | -ion | Election: การเลือกตั้ง ตัวอย่าง: There was a fall in support for the Republican party at the last election. (พรรค Republican ได้รับคะแนนเสียงลดลงจากการเลือกตั้งครั้งล่าสุด) |
inform (= tell someone something): แจ้งข่าว ให้ข้อมูล ตัวอย่าง: The name of the dead man will not be released until his relatives have been informed. (ชื่อของผู้เสียชีวิตจะไม่เปิดเผยจนกว่าญาติของเขาจะได้รับแจ้งข่าว) | -ation | Information: ข้อมูล ตัวอย่าง: The police are appealing to the public for any information about the missing girl. (ตำรวจขอความร่วมมือจากสาธารณชนสำหรับข้อมูลเกี่ยวกับเด็กหญิงที่หายไป) |
jog (= running to keep fit or for pleasure): จ๊อกกิ้ง (ช้าๆ) เวลาออกกำลังกาย ตัวอย่าง: He was walking at a very quick pace and I had to jog to keep up with him. (เขาเดินเร็วมากฉันจึงต้องวิ่งจ็อกกิ้งเพื่อให้ทันเขา) | -ing | Jogging: การวิ่งออกกำลังกาย ตัวอย่าง: She usually goes jogging for half an hour before breakfast. (เธอมักจะวิ่งออกกำลังกายประมาณครึ่งชั่วโมงก่อนอาหารเช้า) |
หมายเหตุ: บางครั้งการเติมคำลงท้ายจะเปลี่ยนการสะกดคำด้วย โดยทั่วไปเมื่อคำลงท้ายด้วย “e” จะต้องลบ “e” ออกและเพิ่มคำลงท้าย “-ion” หรือ “-ation”
ตัวอย่าง: Translate: แปล => translation: การแปล
- She translated the book from Vietnamese into English. (เธอแปลหนังสือจากภาษาเวียดนามเป็นภาษาอังกฤษ)
- The translation of poetry is difficult. (การแปลบทกวีเป็นเรื่องยากมาก)
- He gave me an Italian translation of the Bible. (เขาให้พระคัมภีร์ฉบับแปลเป็นภาษาอิตาลีแก่ฉัน)
>>> Read more:
คำลงท้ายที่เพิ่มหลังคำคุณศัพท์เพื่อสร้างคำนาม
Adjective (คำคุณศัพท์) | Sufix (คำลงท้าย) | Noun (คำนาม) |
weak (# strong): อ่อนแอ ตัวอย่าง: It’s not surprising you feel weak if you haven’t eaten properly for days. (ไม่แปลกใจเลยที่คุณรู้สึกอ่อนแรง เพราะคุณไม่ได้กินอย่างถูกต้องเป็นเวลาหลายวัน) | -ness | Weakness: จุดอ่อน ตัวอย่าง: Admitting you’ve made a mistake is a sign of strength, not weakness. (การยอมรับว่าคุณทำผิดเป็นสัญญาณของความแข็งแกร่ง ไม่ใช่อ่อนแอ) |
stupid (# intelligent, clever): โง่ ตัวอย่าง: She told me it was brand new and I was stupid enough to believe her. (เธอบอกฉันว่ามันเป็นของใหม่ และฉันก็โง่พอที่จะเชื่อเธอ) | -ity | Stupidity: ความโง่เขลา ตัวอย่าง: It was stupidity to refuse at the price they were offering. (มันเป็นเรื่องโง่มากที่จะปฏิเสธราคาที่พวกเขาเสนอมาให้) |
คำลงท้ายที่เพิ่มหลังคำนามเพื่อสร้างคำนาม
Noun (คำนาม) | Sufix (คำลงท้าย) | Noun (คำนาม) |
Piano: เปียโนตัวอย่าง: I play the piano. (ฉันเล่นเปียโน) | -ist | Pianist: นักเปียโนตัวอย่าง: The concert hall was filled with the sounds of the talented pianist. (หอประชุมเต็มไปด้วยเสียงของนักเปียโนที่มีพรสวรรค์) |
Consumer: ผู้บริโภค ตัวอย่าง: Consumers are becoming more environmentally conscious. (ผู้บริโภคกำลังใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น) | -ism | Consumerism: ลัทธิบริโภคนิยม ตัวอย่าง: Consumerism is the belief that buying goods and services is the key to happiness. (ลัทธิบริโภคนิยมคือความเชื่อว่าการซื้อสินค้าและบริการเป็นกุญแจสู่ความสุข) |
Member: สมาชิก ตัวอย่าง: She is a member of the family. (เธอเป็นสมาชิกของครอบครัว) | -ship | Membership: สถานะสมาชิก ตัวอย่าง: The museum offers different levels of membership. (พิพิธภัณฑ์มีระดับสมาชิกที่แตกต่างกัน) |
คำลงท้ายที่เพิ่มหลังคำนาม/คำคุณศัพท์เพื่อสร้างคำนาม/คำคุณศัพท์
Noun/Adjective (คำนาม/คำคุณศัพท์) | Sufix (คำลงท้าย) | Noun/Adjective (คำนาม/คำคุณศัพท์) |
Puzzle: เกมพัซเซิล ตัวอย่าง: I enjoy doing puzzles in my free time. (ฉันชอบเล่นเกมพัซเซิลในเวลาว่าง) | -ment | Puzzlement: ความงุนงง ตัวอย่าง: The children’s faces were filled with puzzlement as they tried to figure out the magician’s trick. (ใบหน้าของเด็กๆ เต็มไปด้วยความงุนงงเมื่อพวกเขาพยายามไขกลเม็ดของนักมายากล) |
Fiction: นิยาย ตัวอย่าง: The movie is based on fiction, not real historical events. (หนังเรื่องนี้สร้างจากนิยาย ไม่ใช่เหตุการณ์ประวัติศาสตร์จริง) | -al | Fictional: ที่เป็นเรื่องสมมติ ตัวอย่าง: The fictional character Harry Potter is loved by many fans. (ตัวละครสมมติ Harry Potter เป็นที่รักของแฟนๆ มากมาย) |
Bath: อ่างอาบน้ำ ตัวอย่าง: The baby splashed happily in the bath during playtime. (เด็กน้อยสาดน้ำในอ่างอย่างมีความสุขในเวลาเล่นน้ำ) | -ing | Bathing: การว่ายน้ำ ตัวอย่าง: Bathing in the river is a popular activity in our village. (การว่ายน้ำในแม่น้ำเป็นกิจกรรมยอดนิยมในหมู่บ้านของเรา) |
Shink: ทำให้หด/ลดลง ตัวอย่าง: The population in the rural area began to shrink as people moved to cities. (ประชากรในพื้นที่ชนบทเริ่มลดลงเมื่อผู้คนย้ายไปอยู่ในเมือง) | -age | Shrinkage: การหดตัว/การลดลง ตัวอย่าง: The company experienced a shrinkage in profits due to economic downturn. (บริษัทประสบปัญหาการหดตัวของกำไรเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ) |
คำลงท้ายที่เพิ่มหลังคำนาม/คำคุณศัพท์เพื่อสร้างคำกริยา
Noun/Adjective (คำนาม/คำคุณศัพท์) | Sufix (คำลงท้าย) | Verb (คำกริยา) |
Simple: ง่าย ตัวอย่าง: The instructions for the survey were simple and clear. (คำแนะนำสำหรับการสำรวจนั้นง่ายและชัดเจน) | -ify | Simplify: ทำให้ง่ายขึ้น ตัวอย่าง: She simplified the instructions for the social media campaign. (เธอทำให้คำแนะนำสำหรับแคมเปญโซเชียลมีเดียง่ายขึ้น) |
Symbol: สัญลักษณ์ ตัวอย่าง: The dove is a symbol of peace. (นกพิราบเป็นสัญลักษณ์ของสันติภาพ) | -ize | Symbolize: เป็นสัญลักษณ์ ตัวอย่าง: The color white often symbolizes purity and innocence. (สีขาวมักจะเป็นสัญลักษณ์ของความบริสุทธิ์และไร้เดียงสา) |
Ripe: สุก ตัวอย่าง: The ripe bananas were sold at the local market. (กล้วยสุกถูกขายที่ตลาดท้องถิ่น) | -en | Ripen: ทำให้สุก ตัวอย่าง: The summer sunshine ripened the melons. (แสงแดดฤดูร้อนทำให้เมล่อนสุก) |
>>> Read more: วิธีเติม ed ต่อท้ายคำกริยา วิธีออกเสียงและแบบฝึกหัด
คำลงท้ายที่เพิ่มหลังคำนามเพื่อสร้างคำคุณศัพท์
Noun (คำนาม) | Sufix (คำลงท้าย) | Adjective (คำคุณศัพท์) |
Use: การใช้งานหรือประโยชน์ของบางสิ่งบางอย่าง ตัวอย่าง: She sees the use of technology as a way to connect people. (เธอเห็นการใช้เทคโนโลยีเป็นวิธีการเชื่อมโยงผู้คน) | –ful | Useful: มีประโยชน์ ตัวอย่าง: Volunteering is a useful way to help the community. (การเป็นอาสาสมัครเป็นวิธีที่มีประโยชน์ในการช่วยเหลือชุมชน) |
Rest: การพักผ่อน ตัวอย่าง: The park provides a peaceful place for people to rest. (สวนสาธารณะเป็นสถานที่เงียบสงบสำหรับการพักผ่อน) | -less | Restless: ไม่สามารถพักผ่อนหรือผ่อนคลายได้เนื่องจากความกังวลหรือกระวนกระวาย ตัวอย่าง: The restless students fidgeted during the lecture. (นักเรียนกระสับกระส่ายอยู่ไม่สุขระหว่างการบรรยาย) |
Man: ผู้ชาย ตัวอย่าง: The man in the suit greeted everyone at the conference. (ชายในชุดสูททักทายทุกคนในที่ประชุม) | -ly | Manly: แข็งแรง ความเป็นชาย ตัวอย่าง: The manly strength of the team led them to victory. (ความแข็งแกร่งของทีมนำพวกเขาไปสู่ชัยชนะ) |
Child: เด็ก ตัวอย่าง: The child attended the daycare center regularly. (เด็กเข้าศูนย์รับเลี้ยงเด็กเป็นประจำ) | -like | Childlike: ใสซื่อ ตัวอย่าง: She approached the task with childlike enthusiasm. (เธอเข้าหางานด้วยความใสซื่อเหมือนเด็ก) |
Sand: สีเหลืองน้ำตาลอ่อนเหมือนทราย ตัวอย่าง: Her dress was the color of sand, blending with the beach. (ชุดของเธอมีสีเหลืองน้ำตาลอ่อนเข้ากับชายหาด) | -y | Sandy: สีเหลืองน้ำตาลอ่อน ตัวอย่าง: Her sandy hair complemented her beach attire perfectly. (ผมสีเหลืองน้ำตาลอ่อนของเธอเข้ากับชุดชายหาดของเธออย่างสมบูรณ์แบบ) |
Fool: คนโง่ ตัวอย่าง: The fool made a joke at the party, but no one laughed. (คนโง่พูดตลกในงานเลี้ยง แต่ไม่มีใครหัวเราะ) | -ish | Foolish: ไม่ฉลาด ตัวอย่าง: Her foolish decision led to financial troubles. (การตัดสินใจที่ไม่ฉลาดของเธอนำไปสู่ปัญหาทางการเงิน) |
Picture: ภาพ ตัวอย่าง: She hung a beautiful picture on her living room wall. (เธอแขวนภาพสวยบนผนังห้องนั่งเล่นของตน) | -esque | Picturesque: สวยงามเหมือนภาพวาด ตัวอย่าง: The picturesque village was a popular destination for tourists. (หมู่บ้านที่สวยงามเหมือนภาพวาดเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยว) |
Burden: ภาระ ตัวอย่าง: The burden of inequality is heavy. (ภาระความไม่เท่าเทียมมีเยอะมาก) | -some | Burdensome: หนักหน่วง ตัวอย่าง: The burdensome task of caring for elderly relatives affects many families. (ภาระหนักในการดูแลญาติผู้สูงอายุส่งผลกระทบต่อหลายครอบครัว) |
>>> Read more:
- Verb to be คืออะไร? หลักการใช้ verb to be กับแต่ละ tense
- Action Verb: คำนิยาม วิธีการจำแนกประเภทและแบบฝึกหัด
- Modal verb คืออะไร? ความรู้ทั้งหมด Modal verb
คำลงท้ายที่ใช้บ่อยในภาษาอังกฤษ
Suffix verb คําศัพท์
คำลงท้าย | คําศัพท์ | Suffix verb | ตัวอย่าง |
-en | dark (adj): มืด | → darken (v): ทำให้มืด | The sky began to darken as the hurricane come. (ท้องฟ้าเริ่มมืดลงเมื่อมีพายุเฮอริเคน) |
-ate | different (adj): ต่างกัน | → differentiate (v): แยกแยะ | How can you differentiate between the twins? (คุณจะแยกความแตกต่างระหว่างฝาแฝดได้อย่างไร?) |
-fy | clear (adj): ชัดเจน | → clarify (v): ทำให้ชัด | Talking to my friend helped clarify my thoughts. (การพูดคุยกับเพื่อนช่วยทำให้ความคิดของฉันชัดเจนขึ้น) |
-ize/ise | reality (n): ความจริง | → realise (v): ตระหนัก | The moment I read the report, I realized how serious the problem is. (ขณะที่ฉันอ่านรายงาน ฉันตระหนักถึงความรุนแรงของปัญหา) |
Noun suffix คําศัพท์
คําลงท้าย | คําศัพท์ | Noun suffix | ตัวอย่าง |
-tion | Elect (v): เลือกตั้ง | → Election (n): การเลือกตั้ง | There was a fall in support for the Republican party at the last election. (พรรค Republican ได้รับคะแนนเสียงลดลงจากการเลือกตั้งครั้งล่าสุด) |
-ment | Improve (v): ปรับปรุง | → Improvement (n): การปรับปรุง | These white walls are a big improvement on that disgusting old wallpaper. (ผนังสีขาวเหล่านี้เป็นการปรับปรุงครั้งใหญ่จากวอลล์เปเปอร์เก่าๆ เหล่านั้น) |
-al | Refuse (v): ปฏิเสธ | → refusal (n): การปฏิเสธ | Her refusal to attend the party upset her friends. (การที่เธอปฏิเสธที่จะเข้าร่วมงานปาร์ตี้ทำให้เพื่อนของเธอไม่พอใจ) |
-age | Waste (v): สูญเสีย | → wastage (n): การสูญเสีย | Food wastage is a major issue in many countries. (เศษอาหารเป็นปัญหาสำคัญในหลายประเทศ) |
-ism | criticise: วิจารณ์ | → criticism (n): การวิจารณ์ | Her criticism of the government policies sparked a debate. (การวิพากษ์วิจารณ์นโยบายของรัฐบาลของเธอจุดประกายให้เกิดการอภิปราย) |
คําศัพท์ Adjective suffix
คำลงท้าย | คําศัพท์ | Adjective suffix | ตัวอย่าง |
-able | cure: รักษา | → curable (adj): ที่รักษาได้ | Some diseases are curable with proper medication and treatment. (โรคบางชนิดรักษาได้ด้วยยาและการรักษาที่เหมาะสม) |
-ish | Self: ตนเอง | → selfish (adj): เห็นแก่ตัว | Her selfish behavior caused tension in the social group. (พฤติกรรมเห็นแก่ตัวของเธอทำให้เกิดความตึงเครียดในกลุ่มสังคม) |
-less | Care: ดูแล | → careless (adj): ประมาท | The careless driver caused a serious accident on the highway. (คนขับที่ประมาททำให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงบนทางหลวง) |
-ful | delight: ดีใจ | → delightful (adj): น่ารื่นรมย์ | The delightful conversation with friends lifted everyone’s spirits. (การสนทนาอันน่ายินดีกับเพื่อน ๆ ทำให้ทุกคนมีกำลังใจขึ้น) |
-ous | danger: ความอันตราย | → dangerous (adj): อันตราย | Riding motorcycles without helmets is dangerous. (การขี่รถจักรยานยนต์โดยไม่สวมหมวกนิรภัยเป็นอันตราย) |
คําศัพท์ Adverb suffix
คำลงท้าย | คําศัพท์ | Adverb suffix | ตัวอย่าง |
-ly | slow: ช้า | → Slowly (adj): อย่างช้าๆ | She walked slowly to avoid disturbing the meeting. (เธอเดินช้าๆ เพื่อหลีกเลี่ยงการรบกวนในการประชุม) |
-ward, -wards | toward (adj): ตามทิศทาง/ด้าน | She had her back towards me. (เธอหันหลังไปทางฉัน) | |
-wise | Like: ชอบ | → Likewise (adj): เช่นเดียวกัน | He prefers tea; likewise, his sister’s favorite drink is tea. (เขาชอบดื่มชา เช่นเดียวกันเครื่องดื่มโปรดของพี่สาวก็คือชา) |
แบบฝึกหัด Suffix verbs และคำตอบ
เลือกคำตอบที่ถูกต้อง
1. ________ is a good career. I want to become a ________. (teach)
A. teacher/ teacher | B. teaching/ teaching | C. teacher/ teaching | D. teaching/ teacher |
2. Rubber trees are very ________. (use)
A. useful | B. used | C. usage | D. usefully |
3. Sports are very good for our ________. (healthy)
A. healthier | B. healthiness | C. health | D. healths |
4. Who will take ________ of the baby when you go away? (careful)
A. carefulness | B. careless | C. care | D. caring |
5. Don’t worry about her ________. (complain)
A. complains | B. complaining | C. complaint | D. complaination |
6. I want to make new dresses but I don’t have a ________ machine. (sew)
A. sewance | B. sewage | C. sewed | D. sewing |
7. I’ll have Tom repair our electric ________. (cook)
A. cooked | B. cooker | C. cooking | D. cookery |
8. Water has no color. It is a ________ liquid. (color)
A. colorful | B. colored | C. coloring | D. colorless |
9. Please don’t make ________. (noisy)
A. noisiness | B. noise | C. noisily | D. noisous |
10. Butter is one of the ________ of milk. (produce)
A. products | B. product | C. producer | D. production |
คำตอบ:
1. teaching/ teacher | 3. health | 5. complaint | 7. cooker | 9. noise |
2. useful | 4. care | 6. sewing | 8. colorless | 10. product |
บทความข้างต้นของ ELSA Speak ได้ให้ความรู้ครบถ้วนเกี่ยวกับ Suffix verbs สำหรับผู้เรียนแล้ว การเรียนรู้และจดจำคำลงท้ายในภาษาอังกฤษจะช่วยให้ผู้เรียนขยายฐานคำศัพท์ได้ง่ายขึ้น ขอให้คุณฝึกฝนกันอย่างมีประสิทธิภาพนะ
เราสามารถใช้คำและวลีคำเชื่อมในการให้ตัวอย่าง เพิ่มข้อมูล สรุป ให้เหตุผลหรือผลลัพธ์ หรือเปรียบเทียบแนวคิดได้ ด้วยบทความด้านล่าง ELSA Speak จะช่วยให้คุณเข้าใจชัดเจนเกี่ยวกับการใช้ ตัวอย่าง transition words และประเภทของคำเชื่อมทั่วไป
Transition words คืออะไร?
Transition words คือ คำเชื่อม ใช้เพื่อเชื่อมโยงแนวคิด ประโยค หรือย่อหน้าในภาษาอังกฤษ จากนั้น ทำให้การเขียนหรือการพูดสอดคล้องกัน มีเหตุผล และเข้าใจได้ง่ายขึ้น
ตัวอย่าง transition words (transition words examples)
Marketing plans give us an idea of the potential market. Moreover, they tell us about the competition. (แผนการตลาดทำให้เรามีแนวคิดเกี่ยวกับตลาดที่มีศักยภาพ นอกเหนือจากนั้น พวกเขายังบอกให้เรารู้เกี่ยวกับการแข่งขันอีกด้วย)
ประเภทของ Transition words
Transition words มีผลในการให้ตัวอย่าง
Transition words มีผลในการให้ตัวอย่าง | แปล | ตัวอย่าง |
As an example | ตัวอย่าง/แบบอย่าง | He then invokes the fundamental law of gravitation as an example. (จากนั้นเขาก็ใช้กฎแรงโน้มถ่วงพื้นฐานทำเป็นตัวอย่าง) |
For example | ตัวอย่างเช่น | For example, many people are not satisfied with the salary packages offered. (ตัวอย่างเช่นหลายๆ คนไม่พอใจกับแพ็คเกจเงินเดือนที่เสนอให้) |
For instance | ตัวอย่างเช่น | Many people enjoy outdoor activities, such as hiking and camping, for instance. (หลายๆ คนชอบกิจกรรมกลางแจ้ง ตัวอย่างเช่น การเดินป่าหรือการตั้งแคมป์) |
Specifically | โดยเฉพาะคือ | They are very smart students, especially in the fields of math and science. (พวกเขาเป็นนักเรียนที่ฉลาดมาก โดยเฉพาะในด้านคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์) |
Thus | ดังนั้น | Exercise made us more hungry and thus our food supplies ran out. (การออกกำลังกายทำให้เราหิวมากขึ้น ดังนั้นอาหารจึงไม่เพียงพอ) |
To illustrate | เพื่อเป็นตัวอย่าง | To illustrate, imagine a world without electricity. (เพื่อเป็นตัวอย่าง ลองจินตนาการถึงโลกที่ไม่มีไฟฟ้าใช้) |
Transition words มีผลในการเปรียบเทียบ
Transition words มีผลในการเปรียบเทียบ | แปล | ตัวอย่าง |
By the same token | โดยวิธีเดียวกัน | If exercise is good for your physical health, by the same token, it is also good for your mental health. (หากการออกกำลังกายดีต่อสุขภาพกาย โดยวิธีเดียวกัน การออกกำลังกายก็ดีต่อสุขภาพจิตของคุณด้วย) |
In like manner | ในลักษณะเดียวกัน | In like manner, regular exercise can help to improve your cardiovascular health, reduce your risk of chronic diseases. (ในลักษณะเดียวกัน การออกกำลังกายเป็นประจำสามารถช่วยปรับปรุงสุขภาพของหัวใจและลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรังได้) |
In the same way | ในทํานองเดียวกัน | In the same way, both of them approach their work with commitment and determination. (ในทํานองเดียวกัน ทั้งสองเข้าหางานด้วยความมุ่งมั่นและตั้งใจ) |
In similar fashion | ในลักษณะเดียวกัน | The baker carefully measured the flour, sugar, and eggs. In similar fashion, he added the other ingredients to the mixing bowl. (คนทำขนมปังตวงแป้ง น้ำตาล และไข่อย่างระมัดระวัง ในลักษณะเดียวกัน เขาเติมส่วนผสมอื่นๆ ลงในชามผสม) |
Likewise | ในทำนองเดียวกัน | Likewise, eating a healthy diet can help you to maintain a healthy weight and improve your energy levels. (ในทำนองเดียวกัน การกินเพื่อสุขภาพสามารถช่วยให้คุณรักษาน้ำหนักให้แข็งแรงและปรับปรุงระดับพลังงานของคุณได้) |
Similarly | ในทำนองเดียวกัน | Similarly, getting enough sleep is essential for both your physical and mental health. (ในทำนองเดียวกัน การนอนหลับให้เพียงพอก็เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิตของคุณ) |
Transition words มีผลในการเติมข้อมูล
Transition words มีผลในการเติมข้อมูล | แปล | ตัวอย่าง |
And | และ | I like to eat pho and banh mi. (ฉันชอบกินเฝอและบั๋นหมี่) |
Also | ก็…อีกด้วย | She’s fluent in French and German. She also speaks a little Italian. (เขาพูดภาษาฝรั่งเศสและเยอรมันได้คล่อง เขาก็พูดภาษาอิตาลีได้นิดหน่อยด้วย) |
Besides | นอกจากนั้น | Besides being a good student, she is also a talented musician. (นอกจากเป็นนักเรียนที่เก่ง เขายังเป็นนักดนตรีที่มีพรสวรรค์อีกด้วย) |
First, Second, Third… | ขั้นแรก ขั้นที่สอง ขั้นที่สาม | First, we need to gather all the materials. Second, we need to follow the instructions carefully. Third, we need to test the product to make sure it works properly. (ขั้นแรกเราต้องรวบรวมวัสดุทั้งหมด ขั้นที่สอง เราต้องปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างระมัดระวัง ขั้นที่สาม เราต้องทดสอบผลิตภัณฑ์เพื่อให้แน่ใจว่าทำงานได้อย่างถูกต้อง) |
In addition | ยิ่งไปกว่านั้น | In addition to being delicious, pizza is also a very versatile food. (นอกจากความอร่อย พิซซ่ายังเป็นอาหารอเนกประสงค์อีกด้วย) |
Furthermore | ยิ่งไปกว่านั้น | Furthermore, learning a foreign language can improve your cognitive skills and job prospects. (ยิ่งไปกว่านั้น การเรียนรู้ภาษาต่างประเทศสามารถพัฒนาทักษะการเรียนรู้และโอกาสในการจ้างงานของคุณได้) |
Moreover | นอกจากนี้ | Moreover, it can also help you to understand different perspectives. (นอกจากนี้ มันยังช่วยให้คุณเข้าใจมุมมองต่างๆ ได้อีกด้วย) |
To begin with, Next, Finally | เริ่มต้นด้วย ต่อไป สุดท้าย | To begin with, we need to define the problem. Next, we need to brainstorm possible solutions. Finally, we need to evaluate the solutions and choose the best one. (ในการเริ่มต้น เราต้องกำหนดปัญหา ถัดไป เราต้องคิดถึงวิธีแก้ปัญหาที่เป็นไปได้ สุดท้าย เราจำเป็นต้องประเมินวิธีแก้ปัญหาและเลือกสิ่งที่ดีที่สุด) |
Transition words มีผลในการพูดซ้ำ
Transition words มีผลในการพูดซ้ำ | แปล | ตัวอย่าง |
In other words | กล่าวอีกนัยหนึ่ง | In other words, exercise is good for both your body and your mind. (กล่าวอีกนัยหนึ่ง การออกกำลังกายเป็นสิ่งที่ดีสำหรับทั้งร่างกายและจิตใจของคุณ) |
In short | สรุปแล้ว | In short, a healthy lifestyle can help you to live a longer and happier life. (สรุปแล้ว วิถีชีวิตที่มีสุขภาพดี สามารถช่วยให้คุณมีอายุยืนยาวและมีความสุขมากขึ้นได้) |
In simpler terms | พูดง่ายๆ | In simpler terms, the law of gravity states that any two objects with mass attract each other. (พูดง่ายๆ ก็คือ กฎแรงโน้มถ่วงระบุว่าวัตถุสองชิ้นที่มีมวลจะดึงดูดกัน) |
That is | หมายความว่า | That is, the purpose of education is to prepare students for success in life. (หมายความว่า จุดประสงค์ของการศึกษา คือ เพื่อเตรียมนักเรียนให้พร้อมสำหรับความสำเร็จในชีวิต) |
To put it differently | กล่าวอีกนัยหนึ่ง | To put it differently, the company’s new policy is designed to improve customer satisfaction. (กล่าวอีกนัยหนึ่ง นโยบายใหม่ของบริษัทได้รับการออกแบบเพื่อเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้า) |
To repeat | พูดซ้ำ ทบทวน | To repeat, regular exercise is essential for maintaining good health. (ขอย้ำอีกครั้งว่า การออกกำลังกายเป็นประจำถือเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาสุขภาพที่ดี) |
Transition words มีผลในการยืนยัน
Transition words มีผลในการยืนยัน | แปล | ตัวอย่าง |
In fact | ในความเป็นจริง | It may sound very straightforward to you, but in fact it’s all very complicated. (นี่อาจฟังดูง่ายสำหรับคุณ แต่ในความเป็นจริงแล้ว ทุกอย่างซับซ้อนมาก) |
Indeed | อย่างแท้จริง | Indeed, learning a new language can be a challenging but rewarding experience. (การเรียนรู้ภาษาใหม่อาจเป็นประสบการณ์ที่ท้าทายแต่คุ้มค่าอย่างแท้จริง) |
No | ไม่ | No, I’m allergic to seafood. (ไม่ ฉันแพ้กับอาหารทะเล) |
Yes | ได้ | Yes, I would be happy to help you with your homework. (ได้เลยค่ะ ฉันยินดีที่จะช่วยคุณทำการบ้าน) |
Especially | โดยเฉพาะอย่างยิ่ง | Especially for young children, regular exercise is essential for healthy development. (โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับเด็กเล็ก การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับพัฒนาการด้านสุขภาพ) |
>>> Read more: 60+ วิธีบอกว่าใช่ภาษาอังกฤษ นอกจาก Yes No เรียนง่าย จำง่าย จำไม่ลืม
Transition words แสดงความขัดแย้ง
Transition words แสดงความขัดแย้ง | แปล | ตัวอย่าง |
But | แต่ | I enjoy reading books, but I also enjoy watching movies. (ฉันชอบอ่านหนังสือ แต่ก็ชอบดูหนังอีกด้วย) |
Yet | The task was difficult, yet I managed to complete it on time. (งานนี้มันยาก แต่ฉันก็ทำให้มันเสร็จทันเวลาได้) | |
However | แต่อย่างไรก็ตาม | The food was delicious, however the service was a bit slow. (อาหารอร่อย แต่อย่างไรก็ตามบริการช้าไปหน่อย) |
Nevertheless | I was nervous before the presentation, nevertheless I managed to deliver it successfully. (ฉันรู้สึกประหม่าก่อนการนำเสนอ แต่อย่างไรก็ตามฉันก็สามารถนำเสนอได้สำเร็จ) | |
In contrast | ในทางตรงกันข้าม | The old city is full of historical buildings, in contrast the new city is more modern and bustling. (เมืองเก่าเต็มไปด้วยอาคารเก่าแก่ ในทางตรงกันข้ามกับย่านใหม่ที่ทันสมัยและคึกคักกว่า) |
On the contrary | I was expecting a difficult exam, on the contrary it was quite easy. (คาดว่าข้อสอบจะยากแต่กลับค่อนข้างง่าย) | |
Instead | แทน | I was planning to go to the party, instead I decided to stay home and study. (ฉันวางแผนจะไปงานปาร์ตี้ แต่ฉันตัดสินใจอยู่บ้านและเรียนหนังสือแทน) |
On the other hand | ในทางตรงกันข้าม | I enjoy reading books, on the other hand I also enjoy watching movies. (ผมชอบอ่านหนังสือ ในอีกด้านหนึ่งผมก็ชอบดูหนัง) |
Still | ยังคง | She’s still asleep. (เขายังคงนอนหลับอยู่) |
>>> Read more: แยกความแตกต่างการใช้ระหว่าง Despite/ In spite of/ Although แปลว่า/ Though/ Even though
Transition words แสดงถึงความเป็นเหตุเป็นผล
Transition words แสดงถึงความเป็นเหตุเป็นผล | แปล | ตัวอย่าง |
Accordingly | ดังนั้น | I studied hard for the exam, accordingly I got a good grade. (ก่อนการสอบฉันเรียนอย่างขยัน ดังนั้นฉันได้มีคะแนนสูง) |
And so | เพราะฉะนั้น | I finished all my homework, and so I had time to relax and watch a movie. (ฉันทำการบ้านเสร็จแล้ว เพราะฉะนั้นฉันมีเวลาพักผ่อนและดูหนัง) |
As the result | ดังนั้น | The company invested in new technology, as the result it became more efficient and profitable. (บริษัทลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ๆ ส่งผลให้มีประสิทธิภาพและผลกำไรมากขึ้น) |
Consequently | ดังนั้น | The company’s profits declined, consequently it had to cut costs. (กำไรของบริษัทลดลง ดังนั้นจึงต้องลดต้นทุน) |
For this reason | ด้วยเหตุนี้ | I decided to study abroad, for this reason I am learning a new language. (ฉันตัดสินใจไปเรียนต่างประเทษ ด้วยเหตุนี้ฉันจึงกำลังเรียนภาษาใหม่ ) |
Hence | ดังนั้น | The economy is weak, hence many people are unemployed. (เศรษฐกิจตกต่ำ ดังนั้นคนเลยตกงานเยอะมาก) |
So | ดังนั้น | I didn’t get enough sleep, so I was tired all day. (ฉันนอนไม่ครบเวลา ดังนั้นฉันรู้สึกเหนื่อยทั้งวัน) |
Therefore | ดังนั้น | I studied for hours for the exam, therefore I felt confident. (ฉันอ่านหนังสือสอบเป็นชั่วโมงจึงรู้สึกมั่นใจ) |
Thus | ดังนั้น | The weather was very hot, thus we decided to go to the beach. (อากาศร้อนมาก ดังนั้นพวกเราจึงตัดสินใจไปทะเล) |
Then | หลังจากนั้น | The meeting was canceled, then I was able to go to the gym instead. (การประชุมถูกยกเลิก หลังจากนั้นฉันสามารถไปออกกำลังกายแทนได้) |
Transition words มีประโยชน์ในการสรุปผล (transition words for conclusion)
Transition words for conclusion | แปล | ตัวอย่าง |
And so | ดังนั้น | The meeting was canceled, and so I had time to relax and watch a movie. (การประชุมถูกยกเลิก ดังนั้นฉันมีเวลาเพื่อพักผ่อนและดูหนัง) |
After all | ในที่สุด | We have considered all the options, after all I think this is the best decision. (เราพิจารณาตัวเลือกทั้งหมดแล้ว ในที่สุดฉันคิดว่านี่เป็นการตัดสินใจที่ดีที่สุด) |
At last | ในที่สุด | After years of hard work, at last she achieved her dream. (หลังจากพยายามมาหลายปี ในที่สุดเขาก็บรรลุความฝันของเขาได้) |
Finally | ในที่สุด | Finally, I have found the solution to the problem. (ในที่สุดฉันก็พบวิธีแก้ไขปัญหานี้) |
In brief | อย่างสั้นๆ อย่างย่อ | In brief, the new policy will benefit all employees. (สรุป คือ นโยบายใหม่จะเป็นประโยชน์ต่อพนักงานทุกคน) |
In closing | สุดท้ายนี้ | In closing, I would like to thank you for your time and consideration. (สุดท้ายนี้ ผมขอขอบคุณสำหรับเวลาและการพิจารณาของคุณ) |
In conclusion | สรุปแล้ว | In conclusion, I believe that the new policy is the best way to move forward. (สรุปแล้วผมเชื่อว่านโยบายใหม่เป็นแนวทางที่ดีที่สุด) |
On the whole | โดยรวมแล้ว | On the whole, I am satisfied with the results of the project. (โดยรวมแล้ว ผมพอใจกับผลงานครับ) |
To conclude | สรุปแล้ว | To conclude, I would like to reiterate my support for this project.( สรุปแล้วผมขอยืนยันการสนับสนุนโครงการนี้อีกครั้ง) |
To summarize | สรุปแล้ว | To summarize, we have discussed the following issues. (สรุปแล้ว เราได้พูดคุยถึงประเด็นต่อไปนี้) |
Generally | โดยทั่วไป โดยปกติ | Generally, it is a good idea to get a good night’s sleep before an important exam. (โดยปกติแล้ว คุณควรนอนหลับสบายก่อนการสอบครั้งสำคัญ) |
In general | โดยทั่วไป โดยปกติ | In general, I think that most people are good at heart. (โดยปกติแล้ว ฉันคิดว่าคนส่วนใหญ่มีจิตใจที่ดี) |
Generally speaking | กล่าวโดยทั่วไป | Generally speaking, it is important to respect the cultural norms of the country you are visiting. (กล่าวโดยทั่วไป สิ่งสำคัญคือต้องเคารพบรรทัดฐานทางวัฒนธรรมของประเทศที่คุณกำลังเยี่ยมชม) |
Overall | สรุปสั้นๆ สรุปคือ | Overall, I think the movie was a good one. (สรุปสั้นๆ ผมคิดว่าหนังเรื่องนี้เป็นหนังที่ดีนะครับ) |
On the whole | สรุปสั้นๆ สรุปคือ | On the whole, I am satisfied with the results of the project. (สรุปคือ ฉันพอใจกับผลงานค่ะ) |
All things considered | จากการพิจารณาทั้งหมด | All things considered, I think the benefits of technology outweigh the risks. (จากการพิจารณาทั้งหมด ฉันคิดว่าประโยชน์ของเทคโนโลยีมีมากกว่าความเสี่ยง) |
Transition words แสดงสถานที่ตั้ง
Transition words แสดงสถานที่ตั้ง | แปล | ตัวอย่าง |
Farther along | ไกลออกไป | Farther along in the process, I realized I had made a mistake. (ในกระบวนการนี้ ฉันรู้ว่าฉันทำผิดพลาดไปแล้ว) |
In back | ด้านหลัง | In back of the house, there was a garden. (ด้านหลังบ้านนี้มีสวน) |
In front | ด้านหน้า | In front of the class, I gave my presentation. (ฉันนำเสนอหน้าชั้นเรียน) |
Nearby | ใกล้ | Nearby there was a friend who always made me laugh. (มีเพื่อนใกล้ๆรอบตัว คอยทำให้ฉันหัวเราะอยู่เสมอ) |
On top of | ด้านบนของ | On top of the mountain, I felt on top of the world. (ที่ด้านบนภูเขา ผมรู้สึกเหมือนอยู่ด้านบนจุดสูงสุดของโลก) |
To the left | อยู่ข้างซ้าย | To the left of the door, there was a coat rack. (ด้านซ้ายของประตู มีราวแขวนเสื้อ) |
To the right | อยู่ข้างขวา | To the right of the road, there was a field of wheat. (ทางด้านขวาของถนน มีทุ่งข้าวสาลี) |
Under | ใต้ | Under the bed, there was a monster. (ใต้เตียงมีสัตว์ประหลาด) |
Upon | บน | Upon seeing her face, I knew I was in love. (เมื่อมองหน้าเธอ ผมก็รู้ว่าผมกำลังมีความรัก) |
Transition words มีผลให้เกิดความสัมพันธ์เกี่ยวกับเวลา
Transition words มีผลให้เกิดความสัมพันธ์เกี่ยวกับเวลา | แปล | ตัวอย่าง |
Afterward | หลังจากนั้น | I went for a jog in the park, afterward I felt more energized and focused throughout the day. (ฉันไปวิ่งในสวนสาธารณะ หลังจากนั้นฉันก็รู้สึกมีพลังและมีสมาธิมากขึ้นตลอดทั้งวัน) |
At the same time | ในขณะเดียวกัน | She is a talented artist, at the same time she is also a gifted musician. (เธอเป็นศิลปินที่มีพรสวรรค์ ในขณะเดียวกันเธอก็เป็นนักดนตรีที่มีพรสวรรค์ด้วย) |
Currently | ปัจจุบัน ตอนนี้ | There are many fitness classes available online, currently I am enjoying a yoga class. (มีคลาสออกกำลังกายออนไลน์หลายคลาส ตอนนี้ฉันกำลังเรียนโยคะอยู่) |
Earlier | เช้า | Earlier today, I read an article about the benefits of meditation. (เมื่อเช้านี้ฉันอ่านบทความเกี่ยวกับประโยชน์ของการทำสมาธิ) |
Formerly | ก่อน ก่อนหน้านี้ เมื่อก่อน | The building formerly housed a bank, but now it is a restaurant. (เมื่อก่อนอาคารเคยเป็นธนาคาร แต่ปัจจุบันเป็นร้านอาหาร) |
Immediately | ทันที | After I stubbed my toe, I immediately sat down and iced it. (หลังจากกระทืบเท้าแล้ว ฉันก็นั่งลงแล้วประคบน้ำแข็งทันที) |
In the future | ในอนาคต | In the future, I hope to travel to Europe. (ในอนาคตฉันหวังว่าจะได้ไปเที่ยวยุโรป) |
In the meantime | ในระหว่างช่วงเวลานี้ หรือ ในระหว่างนี้ | The computer is being repaired, in the meantime I will use my phone to check email. (คอมพิวเตอร์กำลังซ่อมอยู่ ระหว่างรอ ฉันก็ใช้โทรศัพท์เพื่อเช็คอีเมล) |
In the past | ในอดีต | In the past, people communicated through letters, but now we can email or text. (ในอดีตผู้คนสื่อสารกันด้วยจดหมาย แต่ตอนนี้ผู้คนสามารถส่งอีเมลหรือข้อความได้) |
Later | หลังจากนั้น | Later, I will call you to discuss the project in more detail. (หลังจากนั้น ผมจะโทรไปคุยรายละเอียดโครงการอีกทีครับ) |
Meanwhile | บัดนั้น ขณะที่ | The soup is simmering on the stove, meanwhile I can chop the vegetables for the salad. (ซุปกำลังเดือดบนเตา ในขณะเดียวกันฉันก็หั่นผัก สำหรับเมนูสลัด) |
Previously | เมื่อก่อน | Previously, I had no experience with public speaking. (ฉันไม่เคยมีประสบการณ์ในการพูดในที่สาธารณะมาก่อน) |
Simultaneously | ขณะเดียวกัน | Simultaneously, the chef was chopping vegetables, stirring the sauce, and grilling the meat. (ขณะเดียวกันเชฟก็กำลังสับผัก กวนซอส และย่างเนื้อ) |
Subsequently | หลังจากนั้น | Subsequently, the company’s profits increased by 20%. (หลังจากนั้นกำไรของบริษัทเพิ่มขึ้น 20%) |
Then | จากนั้น | First, I peeled the potatoes, then I chopped them into cubes. (ขั้นแรกฉันปอกมันฝรั่งแล้ว จากนั้นหั่นเป็นมันฝรั่งให้) |
Until now | จนถึงตอนนี้ | Until now, I had never been to a classical music concert. (จนถึงตอนนี้ผมยังไม่เคยไปชมคอนเสิร์ตดนตรีคลาสสิคเลย) |
>>> Read more: อ่านเวลาและพูดเกี่ยวกับเวลาได้อย่างไร? วิธีการบอกเวลาภาษาอังกฤษแบบมาตรฐาน
Transition words มีผลในการเพิ่มความคิดเห็น
Transition words มีผลในการเพิ่มความคิดเห็น | แปล | ตัวอย่าง |
Moreover | ยิ่งไปกว่านั้น อนึ่ง | Moreover, the new software is very user-friendly. (ยิ่งกว่านั้น ซอฟต์แวร์ใหม่นี้ใช้งานง่ายมาก) |
Furthermore | ยิ่งไปกว่านั้น อนึ่ง | Furthermore, the drug has been shown to be safe in clinical trials. (ยิ่งไปกว่านั้น ยานี้แสดงให้เห็นว่าปลอดภัยในการทดลองทางคลินิก) |
In addition | นอกจากนี้ | In addition to being a great writer, she is also a talented artist. (นอกจากจะเป็นนักเขียนที่ยอดเยี่ยมแล้ว เขายังเป็นศิลปินที่มีพรสวรรค์อีกด้วย) |
Besides | นอกจาก, นอกจากนี้ | Besides being a great teacher, she is also a kind and caring person. (นอกจากจะเป็นครูที่ดีแล้วเขายังเป็นคนใจดีและมีน้ำใจอีกด้วย) |
What’s more | ยิ่งไปกว่านั้น | What’s more, the company is also planning to expand into new markets. (ยิ่งไปกว่านั้น บริษัทยังวางแผนที่จะขยายไปสู่ตลาดใหม่อีกด้วย) |
Apart from | นอกจากเป็นการ | Apart from being a great place to live, the city also has a lot to offer visitors. (นอกจากจะเป็นสถานที่ที่น่าอยู่อาศัยแล้ว เมืองนี้ยังมีสิ่งต่างๆ มากมายให้นักท่องเที่ยวมาเยือนอีกด้วย) |
Also | นอกจากนั้น นอกจากนี้ | Also, the company is offering a free trial of the software. (นอกจากนั้น บริษัทยังเสนอให้ทดลองใช้ซอฟต์แวร์ฟรีอีกด้วย) |
Additionally | ต่อเติม เสริม แถม นอกจากนี้ | Additionally, the company is committed to sustainability. (นอกจากนี้บริษัทยังมุ่งมั่นในเรื่องความยั่งยืนอีกด้วย) |
Transition words มีผลในการแสดงความมั่นใจ
Transition words มีผลในการแสดงความมั่นใจ | แปล | ตัวอย่าง |
Certainly | อย่างแน่นอน | Certainly, I will be there on time. (แน่นอนฉันว่า ฉันจะไปถึงที่นั่นตรงเวลา) |
Undoubtedly | ไม่มีอะไรต้องสงสัย | Undoubtedly, the patient will make a full recovery. (คนไข้จะฟื้นตัวเต็มที่อย่างไม่ต้องสงสัยเลยค่ะ) |
Obviously | อย่างชัดเจน อย่างเห็นได้ชัด | Obviously, you need to study hard if you want to get good grades. (เห็นได้อย่างชัดเจนว่า ถ้าคุณต้องการได้เกรดดีๆ คุณต้องเรียนหนัก) |
It is obvious/clear that | เห็นได้อย่างชัดเจนว่า | It is obvious that the company is in financial trouble. (เห็นได้ชัดว่า บริษัทกำลังประสบปัญหาทางการเงิน) |
Definitely | อย่างแน่นอน | Definitely, I will do it tomorrow. (ฉันจะทำสิ่งนั้นในวันพรุ่งนี้อย่างแน่นอน) |
Transition words มีผลในการบ่งชี้ลำดับ
Transition words มีผลในการบ่งชี้ลำดับ | แปล | ตัวอย่าง |
Firstly | ขั้นแรก | Firstly, you need to wash the vegetables. (ขั้นแรกคุณต้องล้างผักก่อน) |
Secondly | ขั้นที่สอง | Secondly, you need to chop the vegetables. (ขั้นที่สอง คุณต้องสับผัก) |
Thirdly | ขั้นที่สาม | Thirdly, you need to cook the vegetables. (ขั้นที่สาม คุณต้องผัดผัก) |
Finally | ขั้นสุดท้าย | Finally, you can serve the vegetables. (ขั้นสุดท้ายคุณสามารถเสิร์ฟผักได้) |
Lastly | สุดท้าย | Lastly, I would like to thank you for your time. (สุดท้ายนี้ผมขอขอบคุณที่กรุณาสละเวลา) |
At the same time | ในเวลาเดียวกัน | At the same time that I was studying for my exam, I was also working part-time. (ระหว่างที่ฉันกำลังเรียนเพื่อสอบ ฉันก็ทำงานนอกเวลาด้วย) |
Meanwhile | ในขณะเดียวกัน | Meanwhile, the police were searching for the suspect. (ในขณะเดียวกันตำรวจกำลังค้นหาผู้ต้องสงสัย) |
>>> Read more: เลขภาษาอังกฤษ แนะนำวิธีการอ่าน การเขียน และแยกความแตกต่างกับตัวเลข
หลักการใช้ Transition words
คำเชื่อมมีหน้าที่ในการเชื่อมโยงประโยค ตำแหน่งวางอยู่ระหว่างประโยคที่ 1 และ 2 และต้องเป็นคำที่มีความสัมพันธ์ต่อเนื่องกับประโยคแรก ประโยคแรกลงท้ายด้วยจุด ( . ), ( ; ) หรือลูกน้ำ ( , ) จากนั้นขึ้นต้นประโยคที่ 2 ดังโครงสร้างต่อไปนี้
โครงสร้าง 1 Sentence A. + Transition words, + Sentence B.
ตัวอย่าง I was sleepy. Therefore, I went to bed. (ฉันง่วง ดังนั้นฉันก็เลยไปนอน)
โครงสร้าง 2 Sentence A; + Transition words, + Sentence B.
ตัวอย่าง The hotel was very reasonable; moreover, the location was perfect. (โรงแรมมีความสมเหตุสมผลมาก นอกจากนี้ทำเลที่ตั้งยังสมบูรณ์แบบอีกด้วย)
ข้อผิดพลาดทั่วไปเมื่อใช้ Transition words
ใช้ ‘besides’
ดูตัวอย่างต่อไปนี้
ตัวอย่าง 1 I don’t want to go to that concert. Beside, I don’t have any tickets too. (ฉันไม่อยากไปคอนเสิร์ตนั้น นอกจากนี้ฉันไม่มีตั๋วด้วย)
ตัวอย่าง 2 The car is parked besides the red column. (รถจอดอยู่ข้างเสาสีแดง)
ในกรณีนี้ ผู้เรียนสับสนคำสองคำที่ดูเหมือนจะคล้ายกันนี้ อย่างไรก็ตาม ในขณะที่ “beside” ใช้เป็นคำเชื่อมกับความหมาย “นอกจากนี้ เติมต่อ” (เทียบเท่ากับ In addition) ส่วนอีกคำ “beside” ใช้เป็นคำบุพบทที่มีความหมาย “นอกจากนั้น” (เทียบเท่ากับ “next to”)
เพื่อหลีกเลี่ยงสถานการณ์นี้ ผู้เรียนจะต้องใส่ใจกับการเพิ่มหรือลบ ‘s’ ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของการใช้ นอกจากนี้ ผู้อ่านยังสามารถใช้คำพ้องความหมายที่เทียบเท่ากัน (In addition, next to) เพื่อแทนที่และหลีกเลี่ยงความสับสน
สองตัวอย่างข้างต้นสามารถแก้ไขได้ดังนี้
ตัวอย่าง 1
I don’t want to go to that concert. In addition, I don’t have any tickets too. (ฉันไม่อยากไปคอนเสิร์ตนั้น และอีกอย่าง ฉันไม่มีตั๋ว)
ตัวอย่าง 2
The car is parked next to the red column. (รถยนต์สามารถจอดอยู่ข้างเสาสีแดงได้)
ใช้ ‘next’
ข้อผิดพลาดในการใช้คำบุพบทประเภทนี้มักปรากฏในบทความ โดยเฉพาะดังต่อไปนี้
ตัวอย่าง Firstly, olives are picked from the trees. Next one, they are packed into separate boxes. (ขั้นแรกให้เก็บมะกอกจากต้น ต่อไปจะบรรจุลงกล่องแยกกัน)
ข้อผิดพลาดนี้ มาจากการแปลแต่ละคำตามตัวอักษรจากภาษาไทยเป็นภาษาอังกฤษ เมื่อเขียนประโยค ทำให้ผู้สมัครคิดผิดเกี่ยวกับการใช้คำนั้น โดยปกติแล้ว ผู้สอบจะต้องใช้ “next” ที่จุดเริ่มต้นของประโยคที่มีความหมาย “next” เท่านั้น และใส่ลูกน้ำตามหลังโดยไม่มีคำประกอบเพิ่มเติม
จึงได้แก้ไขตัวอย่างดังนี้
ตัวอย่าง Firstly, olives are picked from the trees. Next, they are packed into separate boxes.
ใช้ ‘Therefore’
ตัวอย่าง Due to the development of modern technology with lots of benefits such as reading book, chatting with friends on smartphones. Therefore, many parents spend their free time on mobile phones rather than talk with their children. (เนื่องจากการพัฒนาเทคโนโลยีสมัยใหม่มีประโยชน์มากมาย เช่น การอ่านหนังสือและการพูดคุยกับเพื่อนทางโทรศัพท์ ดังนั้น ผู้ปกครองหลายคนจึงใช้เวลาว่างไปกับการใช้โทรศัพท์แทนที่จะอยู่กับลูก).
นี่เป็นประโยคที่คัดลอกมาจากบทความที่เขียน โดยนักเรียนที่มีระดับ IELTS 5.5 อย่างไรก็ตาม เมื่อแปลประโยค คุณจะเห็นข้อผิดพลาดทางไวยากรณ์ และการใช้คำและคำสันธานที่ไม่เหมาะสม ซึ่งนำไปสู่ความหมายที่ไม่เป็นธรรมชาติของประโยค นอกจากนี้ การนำเสนอประโยคที่กระจัดกระจายอาจทำให้แนวคิด และวัตถุประสงค์ของประโยคแสดงออกมาได้ไม่ชัดเจน ทำให้ผู้อ่านเข้าใจแนวคิดของผู้เขียนได้ยาก
ในกรณีนี้ “due to” ถูกใช้เป็นตัวประสานร่วมในประโยคที่ซับซ้อน ซึ่งหมายความว่าจำเป็นต้องมีประโยคหลักที่มีความหมายผลลัพธ์เพื่อชี้แจงประโยค นอกจากนี้ ควรใช้ “therefore” เมื่อเชื่อมโยงประโยคสาเหตุกับเอฟเฟกต์ที่ปรากฏขึ้นหลังจากนั้น
จึงได้แก้ไขตัวอย่างดังนี้
ตัวอย่าง Thanks to the development of modern technology, parents can do a lot of things with their phones such as reading book or chatting with friends. Therefore, many of them spend their free time on mobile phones rather than talk with their children. (ด้วยการพัฒนาเทคโนโลยีสมัยใหม่ ผู้ปกครองจึงสามารถทำสิ่งต่างๆ มากมายด้วยโทรศัพท์ เช่น อ่านหนังสือหรือพูดคุยกับเพื่อน ดังนั้นพวกเขาหลายคนจึงใช้เวลาว่างโดยใช้โทรศัพท์แทนที่จะคุยกับลูก).
จะเห็นได้ว่าในตัวอย่างข้างต้น คำว่า “due to” ถูกแปลงเป็น “thanks to” โดยมีความหมายหมายถึงพัฒนาการเชิงบวกที่เป็นประโยชน์ต่อมนุษย์ ประโยคต่อไป (parents can do a lot of things with their phones such as reading book or chatting with friends) แยกออกเป็นประโยคอิสระตามด้วยลูกน้ำ ทำให้ประโยคมีความหมายสมบูรณ์ ใช้ “therefore” (เพราะฉะนั้น) เพื่ออ้างถึงความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้น: พ่อแม่ใช้เวลากับโทรศัพท์มากเกินไปโดยใช้อุปกรณ์ต่างๆ แทนที่จะคุยกับลูกๆ
แบบฝึกหัด transition words พร้อมเฉลย
1. _____________ you study harder, you won’t win the scholarship.
A. Unless
B. Because
C. If
D. In order that
2. The countryside air is fresh,________________, it’s not polluted.
A. However
B. Whenever
C. Moreover
D. Beside
3. Our teacher explained the lesson slowly ______________ we might understand him.
A. and
B. so that
C. if not
D. or
4. __________ he goes to the theatre with me, I shall go alone.
A. Because of
B. Because
C. Unless
D. When
5. His mother was sick._________________, Jane had to stay at home to look after her.
A. But
B. However
C. So
D. Therefore
6. They asked me to wait for them; ____________, he didn’t turn back.
A. but
B. however
C. so
D. therefore
7. __________ the darkness in the room, we couldn’t continue our studying.
A. Because of
B. Since
C. Although
D. In spite of
8. _____________ he knew the danger of smoking, he couldn’t give it up.
A. Since
B. Though
C. Because of
D. Despite
9. It was already 6p.m, ______________ we closed our office and went home.
A. therefore
B. but
C. however
D. so
10. _________________ he had to take her mother to the hospital, he still attened our party yesterday.
A. Because
B. In spite of
C. Because of
D. Although
เฉลย
ข้อที่ | 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
เฉลย | A | C | B | C | D |
ข้อที่ | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
เฉลย | B | A | B | D | D |
ข้างต้นคือวิธีใช้ Transition words ประเภททั่วไป และแบบฝึกหัดพร้อมคำตอบโดยละเอียด เพื่อให้ผู้อ่านได้ฝึกฝนทุกวัน หวังว่าด้วยบทความนี้ของ ELSA Speak จะช่วยให้คุณรวบรวมความรู้อย่างเร็วที่สุด ดูตอนนี้เลย
>>> Read more:
- Linking Verb คืออะไรบ้าง – ทุกอย่างเกี่ยวกับกริยาเชื่อมในภาษาอังกฤษ
- คำสันธานในภาษาอังกฤษ (conjunction): นิยาม วิธีการใช้ และแบบฝึกหัด
- Relative Clause คือ? โครงสร้าง หลักการใช้งาน ตัวอย่าง และแบบฝึกหัด
Whom เป็นคำสรรพนามทั่วไปในภาษาอังกฤษ ใช้เชื่อมประโยคสองประโยคที่เกี่ยวข้องเข้าด้วยกัน แล้ว whom ใช้ยังไง? Who whom whose ต่างกันยังไง? มาค้นหาคำตอบกับกับ ELSA Speak กันตอนนี้เลย
Whom คืออะไร?
Whom หมายถึง ของใคร (ระบุบุคคลที่ทำหน้าที่เป็นกรรมของประโยค)
Whom ตัวอย่างประโยค :
- The teacher, whom the students admired, retired last year. (ครูที่นักเรียนชื่นชมเกษียณไปเมื่อปีที่แล้ว)
วิเคราะห์: Whom ทำหน้าที่เป็นกรรมและเพิ่มข้อมูลเพิ่มเติมให้กับคำนาม “the teacher”
- The man to whom you were speaking is my uncle. (คนที่คุณกำลังคุยด้วยคือลุงของฉัน)
วิเคราะห์: “Whom” ทำหน้าที่เป็นกรรมของกริยา “were speaking” แทนที่คำนาม “the man” ที่อยู่ข้างหน้า
Whom ใช้ยังไง?
Whom ใช้ในคำสรรพนามที่ใช้เชื่อมความ (Relative pronoun)
Whom เป็นคำสรรพนามที่ใช้แทนประธานที่อยู่ข้างหน้าโดยไม่เปลี่ยนความหมายของประโยค
โครงสร้าง:
… N (ระบุบุคคล) + whom + S + V
Whom ใช้ใน 2 กรณี:
Whom ใช้เพื่อแทนที่กรรมที่ระบุบุคคลหรือสัตว์เลี้ยง
ตัวอย่าง:
- I have a friend. I’ve known each other since kindergarten.
-> I have a friend whom I’ve known since kindergarten. (ฉันมีเพื่อนที่รู้จักมาตั้งแต่อนุบาล)
-> Whom แทนที่กรรมที่ระบุบุคคลคือ a friend.
- I saw the doctor, and he recommended a specialist.
-> The doctor whom I saw recommended a specialist. (แพทย์ที่ฉันพบได้แนะนำแพทย์ผู้เชี่ยวชาญให้กับฉัน)
-> Whom แทนที่กรรมที่ระบุบุคคลคือ the doctor/he.
ELSA Pro ไม่จำกัด
14,895 บาท -> 2,644 บาท
ELSA Premium 1 ปี
8,497 บาท -> 4,290 บาท
Whom ใช้เป็นส่วนเสริมของคำบุพบท คำบุพบทอยู่หน้า whom
ตัวอย่าง:
- He is a kind-hearted person, he enjoys spending time with.
-> He is a kind-hearted person with whom I enjoy spending time. (เขาเป็นคนใจดีที่ฉันชอบใช้เวลาด้วย)
-> Whom ทำหน้าที่เป็นส่วนเสริมของคำบุพบทของอนุประโยค “with whom I enjoy spending time”.
- I have a friend, I share many interests with.
-> I have a friend with whom I share many interests. (ฉันมีเพื่อนคนหนึ่งซึ่งมีความสนใจร่วมกันหลายอย่าง)
-> Whom ทำหน้าที่เป็นส่วนเสริมของคำบุพบทของอนุประโยค “ with whom I share many interests”.
>>> Read more: Relative Clause คือ? โครงสร้าง หลักการใช้งาน ตัวอย่าง และแบบฝึกหัด
Whom ใช้ในคำถาม
ในคำถาม Whom ทำหน้าที่เป็นกรรม มักใช้แทนคำนามหรือวลีนามที่ได้รับอิทธิพลจากคำกริยาก่อนหน้านั้น
- Whom did you see at the party? (คุณเห็นใครในงานปาร์ตี้)
- Whom did she hire for the job? (เธอจ้างใครมาทำงาน?)
Who Whom Whose ต่างกันอย่างไร?
ความแตกต่าง | Who | Whom | Whose |
วิธีการใช้ | ใช้แทนที่บุคคลที่ทำหน้าที่เป็นประธานอยู่ข้างหน้า นอกจากนี้ Who ยังสามารถใช้เพื่ออ้างถึงสัตว์ การแสดงความรักและความใกล้ชิดได้ | ใช้แทนที่บุคคล หรือ สัตว์ที่ทำหน้าที่เป็นกรรม | ใช้แทนที่คำคุณศัพท์ที่ระบุความเป็นเจ้าของของประธานในประโยค อยู่ข้างหน้า Whose เป็นคำนามที่หมายถึงบุคคล |
หน้าที่ | ประธาน | กรรม | ระบุความเป็นเจ้าของ |
โครงสร้าง | … N (ระบุบุคคล) + who + V + O | … N (ระบุบุคคล) + whom + S + V | … N (ระบุบุคคลหรือสัตว์) + whose + N + V/S + V + O |
ข้อควรสังเกต | หลัง Who เป็นกิริยา (verb) | ในภาษาพูด บางกรณี Who หรือ That สามารถแทนที่ Whomได้ นอกจากนี้เรายังสามารถละเว้น Whom ในบางประโยคได้อีกด้วย | หลัง “Whose” ห้ามใช้คำนำหน้าคำนาม |
ตัวอย่าง | • Santa Claus was the one, Santa Claus gave this present to you. -> Santa Claus was the one who gave this present to you. (ซานตาคลอสเป็นคนมอบของขวัญชิ้นนี้ให้ฉัน) • วิเคราะห์: คำสรรพนามที่ใช้เชื่อมความ who แทนที่คำ “Santa Claus”. • วัตถุประสงค์คือช่วยลดคำซ้ำและทำให้ประโยคกระชับยิ่งขึ้น | • The person talking to our teacher, the person is the headmaster. -> The person whom is talking to our teacher is the headmaster. (คนที่คุยกับครูของเราคืออาจารย์ใหญ่) • วิเคราะห์:คำสรรพนามที่ใช้เชื่อมความ whom แทนที่คำ “the person” • วัตถุประสงค์คือการเชื่อมโยงประโยค | • Sarah’s dog went missing, she is crying in the yard. -> Sarah, whose dog went missing, is crying in the yard. (ซาราห์ซึ่งมีสุนัขหลงทางกำลังร้องไห้อยู่ที่สนามหญ้า) • วิเคราะห์: “Whose” ทำหน้าที่เป็นคำคุณศัพท์แสดงความเป็นเจ้าของสำหรับคำนาม “dog” จะขยายคำนามว่า “dog” และบ่งบอกถึงความ • สัมพันธ์แบบเป็นเจ้าของระหว่างซาราห์กับสุนัขของเธอ |
>>> Read more:
- วิธีใช้ Relative Pronoun (Who, Whose, Which, That)
- WH question คืออะไร? วิธีการใช้ WH question พร้อมตัวอย่างแบบละเอียด
แบบฝึกหัดแบ่งประเภท Who Whom Whose
แบบฝึกหัด
แบบฝึกหัดที่ 1: เติม Who หรือ Whom ลงในช่องว่างให้เหมาะสม
1. He is the professor with …… I’m conducting research.
2. She is a lawyer …… I trust to handle my legal affairs.
3. She is someone ……. always goes above and beyond to help others.
4. The team captain,…… I look up to, always leads by example.
5. The doctor …… treated me was very knowledgeable and caring.
6. The artist ……. paintings are displayed in the museum is very talented.
7. ……. is responsible for organizing the event?
8. The family ……. house was built in the 19th century lives next door.
9. I met a woman yesterday …….dog was lost in the park.
10. The singer ……. voice captivated the audience will perform again next week.
แบบฝึกหัดที่ 2: เขียนประโยคใหม่โดยใช้คำสรรพนามที่ใช้เชื่อมความต่อไปนี้
1. The doctor treated my mother. He was very caring.
→ .…………………………………………………………
2. She is a talented musician. I admire her greatly.
→ .…………………………………………………………
3. The man is a talented musician. He won the music competition.
→ .…………………………………………………………
4. The person is my best friend. He is standing by the door.
→ .…………………………………………………………
5. The lawyer is a respected professional. I have entrusted my case to her.
→ …………………………………………………………
แบบฝึกหัดที่ 3: เติมคำสรรพนามที่เหมาะสมในประโยคด้านล่าง
1. I talked to the boy ……..car had broken down in front of the school
2. Lam, ……….is a taxi driver, lives on the corner.
3. I live in a house in Ha Noi,……….is in Vietnam.
4. This is the girl………….comes from China.
5. That’s John, the boy…………..has just arrived at the airport.
6. Thank you very much for his email,………….was very interesting.
7. The woman,……………mother is a professor, forgot her umbrella.
8. The children ………….shouted in the street are not from our school.
9. The car,………….driver is an old man, is from Ireland.
10. What did you do with the money …………your father lent you?
คำตอบ
แบบฝึกหัดที่ 1:
1. whom | 2. whom | 3. who | 4. whom | 5. who |
6. whose | 7. who | 8. whose | 9. whose | 10. whose |
แบบฝึกหัดที่ 2:
1. The doctor who treated my mother was very caring.
2. She is a talented musician whom I admire greatly.
3. The man who won the music competition is a talented musician.
4. The person who is standing by the door is my best friend.
5. The lawyer whom I have entrusted my case to is a respected professional.
แบบฝึกหัดที่ 3:
1. whose | 2. who | 3. which | 4. who | 5. which |
6. which | 7. whose | 8. who | 9. whose | 10. which |
ข้างต้นเป็นความรู้ทั้งหมดเกี่ยวกับ whom และตอบได้คำถาม “whom ใช้ยังไง” หวังว่าการแบ่งปันข้างต้นจะช่วยให้คุณแบ่งประเภทคำสรรพนามที่ใช้เชื่อมความ who whom whose ได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้อย่าลืมเข้า ELSA Speak เป็นประจำเพื่ออัปเดตความรู้เกี่ยวกับไวยากรณ์ภาษาอังกฤษในทุกๆวันนะ