Author: Ánh Nguyễn
คำศัพท์เป็นส่วนสำคัญมากในการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการสอบ IELTS แต่ต้องทำอย่างไรให้มีวิธีทบทวน คำ ศัพท์ IELTS ที่ได้ผล? คำศัพท์ที่ใช้มากที่สุดในการสอบ IELTS คืออะไรบ้าง? ในบทความต่อไปนี้ ELSA Speak จะตอบทุกคำถามของคุณ และรวบรวมคำศัพท์ตามหัวข้อเพื่อช่วยคุณปรับปรุงคลังคำศัพท์ของตนเองนะ!
สัมผัสประสบการณ์การเรียนรู้ศัพท์ IELTS
ในกระบวนการเรียนรู้คำศัพท์ IELTS บางครั้งอาจจะมีความยากเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม เพื่อให้สามารถจดจำคำศัพท์ได้นาน และนำไปใช้กับแบบฝึกหัดได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงควรเรียนรู้ตามหัวข้อต่างๆ เรียนตามวลี และบริบทอีกด้วย
บางคนมีนิสัยชอบเรียนคำศัพท์แยกกัน แต่แบบนี้ไม่ได้ให้ผลลัพธ์มากนัก เพราะเมื่อเรียนคำศัพท์แบบแยกกัน จะทำให้ไม่สามารถแยกแยะความหมายของคำในบริบทเฉพาะได้ หมายความว่าแต่ละคำจะมีความหมายหลายอย่าง และแต่ละความหมายก็จะอยู่ในบริบทที่ต่างกัน
ตัวอย่างเช่น:
- คำ “Caught” ได้ใช้ด้วยความหมายว่า “ติด” ในประโยคนี้::
I caught my hair in the fan (แปลว่า: ผมของฉันถูกติดอยู่ที่พัดลม)
- แต่คำ “Caught” ก็ยังได้ใช้ด้วยความหมายว่า “ความสนใจ” ในประโยคนี้:
The painting on the wall catches everyone’s attention (แปลว่า: ภาพวาดบนผนังดึงดูดความสนใจของทุกคน)
จากตัวอย่างข้างต้น เราจะเห็นว่า การเรียนรู้คำศัพท์ตามหัวข้อ วลี และบริบทที่เฉพาะ จะช่วยให้เราจำได้นานขึ้นและแปลคำศัพท์ได้ถูกต้องมากขึ้น
วิธีการจดบันทึกคำศัพท์ IELTS
คุณต้องเตรียมสมุดบันทึกคำศัพท์ เพื่อจดบันทึกคำหรือวลีหลังจากเรียนรู้แต่ละครั้ง
ด้วยวิธีการเขียนคำศัพท์ด้านหนึ่ง แปลเป็นภาษาไทยอีกด้านหนึ่ง พร้อมตัวอย่างประกอบด้านล่าง จะช่วยให้คุณเข้าใจได้ง่ายมากขึ้น
นอกจากนี้ ยังต้องเรียนคำศัพท์ทั้งในด้านประเภทของคำ คำเหมือน การออกเสียง วิธีการใช้ ฯลฯ การจดบันทึกอย่างพิถีพิถันจะช่วยให้คุณจำคำศัพท์ได้ยาวนาน
หากไวยากรณ์ของคุณไม่แข็งแรง คุณสามารถดูตัวอย่างในพจนานุกรม Cambridge, Oxford, Longman หรือหนังสือ Vocabulary for IELTS ฯลฯ เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติม
วิธีแยกคำศัพท์ IELTS เมื่อวิเคราะห์บทตัวอย่าง
โดยปกติ วิธีที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแยกคำศัพท์ IELTS เมื่อวิเคราะห์บทตัวอย่างคือ การแยกตามวลี วิธีการแยกขึ้นอยู่กับ 2 ปัจจัยต่อไปนี้:
- ปัจจัยที่ 1 – หากวลีมีคำพ้องความหมายในบทตัวอย่าง คุณต้องจดบันทึกไว้
ตัวอย่างเช่น: บทตัวอย่างในหัวข้อ Environment แยกได้วลี “global warming” และเมื่อคุณพบคำพ้องความหมายอื่นคือ “rising global temperatures” คุณจะต้องบันทึกไว้วลีทั้งสองนี้
- ปัจจัยที่ 2 – คำศัพท์นั้นใช้อย่างไร? เมื่อคุณแยกคำ คุณควรจดบันทึกด้วยประโยคในบทความที่มีวลีนั้น
ตัวอย่างเช่น: บทตัวอย่างในหัวข้อ Ageing population โดยมีวลี “chronic diseases” และ “life expectancy” => จดบันทึกประโยคในบทความที่มีวลีนี้
ต่อไปนี้คือคำศัพท์ทั่วไปบางคำที่ปรากฏในข้อสอบ IELTS สำหรับแต่ละหัวข้อที่แตกต่างกัน คุณสามารถอ้างอิงเพื่อเพิ่มคลังคำศัพท์ของคุณนะ!
คำศัพท์ IELTS ตามหัวข้อส่วนตัว
คำศัพท์ตามหัวข้อ Health – สุขภาพ
Obesity (n) | โรคอ้วน |
Obese(adj) | อ้วน |
Junk food – fast food (n) | อาหารจานด่วน |
Excessive consumption of… | บริโภคมากเกินไป… |
Rapid weight gain | การเพิ่มน้ำหนักอย่างรวดเร็ว |
Weight problems | ปัญหาเกี่ยวกับน้ำหนัก |
Childhood obesity = child obesity = obesity among children | โรคอ้วนในวัยเด็ก |
Have a healthy diet = have a balanced diet | รับประทานอาหารที่มีประโยชน์และสมดุล |
Have an unhealthy diet = have an imbalanced diet | รับประทานอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพและไม่สมดุล |
Significant taxing of fast food | เก็บภาษีสูงสำหรับอาหารจานด่วน |
Physical activity | การออกกำลังกาย |
Sedentary lifestyles | การใช้ชีวิตแบบนั่งนิ่ง/เฉื่อยชา |
Participate in = Take part in = engage in | เข้าร่วม |
Take regular exercise | ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ |
Make healthier food choices | เลือกอาหารที่ดีขึ้นต่อสุขภาพ |
Try to eat more vegetables and fruit | พยายามกินผักและผลไม้ให้มากขึ้น |
Home-cooked food | อาหารปรุงเอง |
Public health campaigns | การรณรงค์เพื่อสุขภาพของประชาชน |
Suffer from various health issues | มีปัญหาด้านสุขภาพต่างๆ |
To be at a higher risk of heart diseases | มีความเสี่ยงสูงต่อโรคหัวใจ |
Treatment costs | ค่ารักษา |
School education programmes | โปรแกรมการศึกษาในโรงเรียน |
Average life expectancy | อายุขัยเฉลี่ย |
The prevalence of fast food and processed food | ความแพร่หลายของอาหารจานด่วนและอาหารแปรรูป |
Raise public awareness | สร้างความตระหนักแก่สาธารณชน |
คำศัพท์ตามหัวข้อ Lifestyle – วิถีชีวิต
Unwind = Relax (v) | ผ่อนคลาย |
Intensive training (n) | การฝึกแบบเข้มข้นสูง |
Hit the gym (v) | ไปออกกำลังกาย ไปยิม |
Lean body (n) | ร่างกายลีน ผอมแต่สุขภาพดี |
Treadmill (n) | ลู่วิ่งสำหรับเดินวิ่ง |
Health-conscious (adj) | ใส่ใจสุขภาพ |
Do wonders (for (Sb/St)) (v) | ดีสำหรับใคร ดีสำหรับอะไร |
Diabetes (n) | โรคเบาหวาน |
Chronic disease (n) | โรคเรื้อรัง |
Feasible methods (n) | วิธีการที่เป็นไปได้ |
Speed up my metabolism (v) | เร่งการเผาผลาญ |
Balanced diet (n) | อาหารที่สมดุล |
Remedy (n) | วิธีแก้ไข |
Sculpture | ประติมากรรม |
Eminent painter (n) | จิตรกรที่มีชื่อเสียงและมีความสามารถ |
Implement strict rules (v) | ใช้กฎที่เข้มงวด |
Fine art (n) | ศิลปะโดยทั่วไป |
Piece of artwork (n) | งานศิลปะ |
Abstract (adj) | เชิงนามธรรม |
Alignment (n) | การจัดตำแหน่ง การจัดวาง |
Disseminate (v) | เผยแพร่ โฆษณาชวนเชื่อ |
Classic (adj) | คลาสสิค |
Creativity (n) | ความคิดสร้างสรรค์ |
Think outside the box (v) | ความคิดที่เปิดกว้าง นอกกรอบ |
Oil painting (n) | ภาพวาดสีน้ำมัน |
Elegant pursuit (n) | ความสุขที่สง่างาม |
Depict (v) | พรรณนา |
Admire (v) | ชื่นชม |
Innate talent (n) | พรสวรรค์ที่มีมาแต่กำเนิด |
คำศัพท์ตามหัวข้อ Travel – การท่องเที่ยว
Car rent | ค่าธรรมเนียมการเช่ารถ |
Local specialty | ความพิเศษของท้องถิ่น |
Take the lead | เป็นผู้นำ รับเสียงข้างมาก |
Rat race | ชีวิตที่วุ่นวาย |
Carpooling | คาร์พูลลิ่ง |
MRT journey (Mass Rapid Transport journey) | การเดินทางโดย MRT (กำหนดการเดินทางของรถไฟใต้ดินในบางประเทศ เช่น สิงคโปร์ ไต้หวัน) |
Local cuisine | อาหารพื้นเมือง |
Jam-packed | แน่น แออัด |
Wend one’s way forward | เดินไปข้างหน้าอย่างช้าๆ |
Means of transport | วิธีการขนส่ง |
Breathtaking | สวยจนหายใจไม่ออก |
Cost-effective | คุ้มค่าเงิน |
Board | ขึ้นรถ ขึ้นรถไฟ |
Tranquillity | ความสงบสุข |
Blast | กิจกรรมที่เต็มไปด้วยความสนุกสนาน |
Traffic congestion (n) | การจราจรคับคั่ง |
Worth-living city (n) | เมืองน่าอยู่ |
It would be a miss (not to) | มันจะพลาด (ถ้าไม่) |
Embark on the journey (v) | เริ่มต้นการเดินทาง |
Recharge my battery (v) | ชาร์จแบตเตอรี่ของฉัน |
Fill up (v) | เติมให้เต็ม |
Tourist attraction (n) | แหล่งดึงดูดนักท่องเที่ยว |
Superb (adj) | ยอดเยี่ยม |
Electric minibus (n) | รถมินิบัสไฟฟ้า |
Rush hour (n) | ชั่วโมงเร่งด่วน |
Coastal city (n) | เมืองชายฝั่ง |
Unexpected expenses (n) | ค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิด |
Aerial walkway (n) | สะพานคนเดินยกระดับ |
คำศัพท์ตามหัวข้อ Marriage – การแต่งงาน
Spouse (n) | สามี/ภรรยา |
Big day (n) | วันสำคัญ |
Kind-hearted (adj) | ใจดี อบอุ่น (บุคลิกภาพ) |
Splash out on (St) (v) | ใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่าย |
Arranged marriage (n) | การแต่งงานแบบคลุมถุงชน |
Quality time (n) | เวลาอันมีค่า |
Crucial role (n) | มีบทบาทสำคัญ |
Lavish wedding (n) | งานแต่งงานที่หรูหรา |
Lifelong commitment (n) | ความมุ่งมั่นตลอดชีวิต |
Nuclear family (n) | ครอบครัวนิวเคลียร์ (รวมถึงพ่อแม่และลูก) |
Determination (n) | ความแน่วแน่ |
Tie the knot (v) | เป็นสามีภรรยากัน |
Close-knit family (n) | ครอบครัวที่แน่นแฟ้น |
Look on the bright side (v) | มองโลกในแง่ดี |
Childlessness (n) | การไร้บุตร ภาวะมีบุตรยาก |
Split up (v) | หย่าร้าง |
New phase of one’s life (n) | ช่วงชีวิตใหม่ หน้าใหม่ในชีวิต |
Immediate family (n) | ครอบครัวที่เกี่ยวข้องกันทางสายเลือด |
Strong-willed (adj) | เอาแต่ใจ |
Reproductive health (n) | อนามัยการเจริญพันธุ์ |
Verbal abuse (n) | คำพูดที่ทำร้ายผู้อื่น |
Ups and downs of marriage (n) | ขึ้นๆ ลงๆ ของการแต่งงาน |
Domestic violence (n) | ความรุนแรงในครอบครัว |
Responsible citizen (n) | พลเมืองที่รับผิดชอบ |
คำศัพท์ตามหัวข้อ City – เมือง
High-rise flats | อพาร์ทเม้นท์สูงระดับ |
In the suburbs | พื้นที่ในเขตชานเมือง |
Multi-story car parks | ที่จอดรถหลายชั้น |
Public spaces | พื้นที่สาธารณะ |
Out of town shopping center/retail park | ห้างสรรพสินค้า/พื้นที่ค้าปลีกชานเมือง |
Office block | อาคารสำนักงาน |
To close down | หยุดธุรกิจ ปิดตัวลง |
Inner-city | เมืองชั้นใน |
Residential area | พื้นที่อยู่อาศัย |
Chain stores | ร้านค้าในเครือ |
Run down | การย่อยสลาย |
Shopping center | ห้างสรรพสินค้า |
Boarded up shops | ร้านค้าเก่าหยุดทำงาน |
Pavement café | ร้านคาเฟ่ริมทาง |
Local facilities | สิ่งอำนวยความสะดวก/โครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่ |
Sprawling city | เมืองกำลังเติบโต |
Poor housing | ที่อยู่อาศัยยากจน |
Fashionable boutiques | ร้านบูติกแฟชั่น |
Tourist attraction | แหล่งดึงดูดนักท่องเที่ยว |
Places of interest | สถานที่น่าสนใจ |
To get around | เดินทางไปรอบ ๆ เมือง |
Shopping malls | ห้างสรรพสินค้า |
Traffic congestion | การจราจรติดขัด |
Upmarket shops | ร้านค้าหรูหราระดับไฮเอนด์ |
Lively bars/restaurants | บาร์/ร้านอาหารที่มีชีวิตชีวา |
Pub Public transport system | ระบบขนส่งสาธารณะ |
คำศัพท์ IELTS ตามหัวข้อเศรษฐศาสตร์
คำศัพท์ตามหัวข้อ Money – เงิน
Get some great deals (v) | ซื้อของด้วยราคาถูก |
Hit the shop (v) | ไปที่ร้าน |
Saving (n) | การออม |
Independent store (n) | ร้านค้าเดี่ยวๆ |
Withdraw (v) | ถอนเงิน |
Mass production (n) | การผลิตจำนวนมาก |
Down payment (n) | เงินดาวน์ |
Payday (n) | วันที่ได้รับเงินเดือน |
Flea market (n) | ตลาดนัด |
Treat oneself (v) | ให้รางวัลตัวเอง |
Smart investment (n) | การลงทุนที่ชาญฉลาด |
Piggy bank (n) | กระปุกออมสิน |
Cut down on (St) (v) | ลด (ค่าใช้จ่าย) |
Set saving goals (v) | กำหนดเป้าหมายการออม |
Transaction (n) | ธุรกรรม |
Pick up groceries (v) | ซื้อของชำ |
Overspend (v) | ใช้จ่ายเกินตัว |
Set aside (v) | ประหยัด |
Without breaking the bank (adv) | ไม่ได้สูญเสียเงินมากนัก |
Financial decision (n) | การตัดสินใจทางการเงิน |
Make ends meet (v) | ทำมาหากิน เลี้ยงชีพ |
Saving money for a rainy day (v) – (idm) | (สำนวน) ออมเงินวันลำบาก |
In the vicinity of (adv) | ใกล้.., ในบริเวณใกล้เคียง… |
Healthcare service (n) | บริการสนับสนุนด้านสุขภาพ |
Balance the expense (v) | ปรับสมดุลค่าใช้จ่าย |
(Excellent) craftsmanship (n) | ความเฉลียวฉลาด |
Brick-and-mortar shop (n) | ร้านค้าแบบดั้งเดิม (ไม่ใช่ร้านค้าออนไลน์) |
คำศัพท์ตามหัวข้อ Technology – เทคโนโลยี
Artificial intelligence (n) | ปัญญาประดิษฐ์ |
Sophisticated (adj) | พิถีพิถัน |
Domestic tasks (n) | งานบ้าน |
Debut (n) | การเปิดตัวสู่สาธารณะครั้งแรก |
Humanoid (n) | หุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ |
Personality trait (n) | ลักษณะบุคลิกภาพ |
Important figure (n) | ตัวละครหลัก, บุคคลสำคัญ |
Strike up conversations (v) | เริ่มการสนทนา |
Era (n) | ยุค |
Demanding job (n) | งานที่ต้องใช้ทักษะสูง |
Performing surgery (v) | ทำการผ่าตัด |
Adverse effect (n) | อิทธิพลเชิงลบ |
Human labor (n) | แรงงานมนุษย์ ทรัพยากรมนุษย์ |
Manufacturing zones (n) | เขตการผลิต |
Labor-intensive (adj) | (สำหรับการทำงานเท่านั้น) ใช้แรงงานมาก |
Automaton (n) | หุ่นยนต์ |
Internet addict (n) | ผู้ติดอินเทอร์เน็ต |
Breakthrough (n) | ความก้าวหน้า |
Go online (v) | ออนไลน์ |
Video-sharing website (n) | เว็บไซต์แบ่งปันวิดีโอ |
Stream video (v) | สตรีมวิดีโอ |
Eye-opening (adj) | เปิดตา |
Broadcasting-searching tool (n) | เครื่องมือค้นหาการออกอากาศ |
Tutorial video (n) | วีดีโอแนะนำ |
User-friendly (adj) | เป็นมิตรกับผู้ใช้ |
Interactive (adj) | เชิงโต้ตอบ |
Simplify (v) | ลดความซับซ้อน |
Cybercriminal (n) | อาชญากรไซเบอร์ |
Glued to the screen (adj) | ติดอยู่กับหน้าจอ |
Form virtual relationships (v) | สร้างความสัมพันธ์เสมือน |
คำศัพท์ตามหัวข้อ Education – การศึกษา
Send sb to…. | จะพาใครไปที่ไหน |
Have the opportunity to | มีโอกาสที่จะทำบางสิ่งบางอย่าง |
There is little chance for | มีโอกาสน้อยสำหรับ… |
Learn a wide range of skills | เรียนรู้ทักษะที่หลากหลาย |
Double-major | การเรียนรู้สองวิชาเอก |
Senior | เป็นของนักศึกษาชั้นปีสุดท้าย |
Elective subject | วิชาเลือก |
Pass/fail the exam | ผ่าน/ไม่ผ่านการสอบ |
Drop out of school | ออกจากโรงเรียน |
Explore each other’s perspectives, their similarities and differences | สำรวจมุมมอง ความเหมือนและความแตกต่างของกันและกัน |
Get higher academic results | รับผลการเรียนที่สูง |
Co-existence and gender equality | การอยู่ร่วมกันและความเท่าเทียมทางเพศ |
Flying colors | ความสำเร็จสูง คะแนนสูง |
Gain international qualifications | รับคุณวุฒิระดับนานาชาติ |
Brings more benefits for | นำประโยชน์ที่มากขึ้นมาสู่… |
Study at ….school = e..school = enter…education =choose…school | เรียนที่… |
Separate schools = single-sex schools/education = single-gender schools/education | โรงเรียนเพศเดียว |
Encourage independent learning | ส่งเสริมการศึกษาด้วยตนเอง |
Learning materials | สื่อการเรียนรู้ |
Study environment | สภาพแวดล้อมการเรียน |
Communication or teamwork skills | ทักษะการทำงานเป็นทีมหรือการสื่อสาร |
Early relationships | ความสัมพันธ์ช่วงต้น, ความรู้สึกช่วงต้น |
Concentrate on = focus on | จดจ่อกับบางสิ่ง… |
Have deeper insight into | มีความเข้าใจที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น |
Study abroad = study in a different country | เรียนต่อต่างประเทศ |
Opposite-sex classmates | เพื่อนร่วมชั้นเพศตรงข้าม |
Mixed schools = mixed-sex schools/education = mixed-gender schools/education = integrated schools/education = co-ed schools/education | โรงเรียนหลายเพศ, โรงเรียนสองเพศ |
Gain in-depth knowledge | รับความรู้เชิงลึก |
Improve educational outcomes | ปรับปรุงผลการศึกษา |
Core subjects such as science, English and maths | วิชาแกน เช่น วิทยาศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และคณิตศาสตร์ |
คำศัพท์ตามหัวข้อ Invention – สิ่งประดิษฐ์
Practicality (n) | การปฏิบัติจริง |
Phonograph (n) | โฟโนกราฟ, หีบเสียง |
Failure (n) | ความล้มเหลว |
Innovations (n) | การปรับปรุง, นวัตกรรม |
Milestone in history (n) | เหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์ |
Get in touch (v) | ติดต่อกัน |
Browse websites (v) | เรียกดูเว็บไซต์ |
Household appliance (n) | เครื่องใช้, เครื่องใช้ในครัวเรือน |
Light bulb (n) | หลอดไฟ |
Surf the net (v) | ท่องเว็บ, ท่องเน็ต |
Commercialized (adj) | การค้า |
Barrier (n) | ประตูเมือง, เครื่องกั้น |
Experiment (n) | การทดลอง |
Advent (n) | การปรากฏตัวของ / การเกิด |
Patents (n) | สิทธิบัตร |
Technical know-how (n) | ความรู้ทางเทคโนโลยีและทางเทคนิค |
Online application (n) | แอปพลิเคชันออนไลน์ |
Automated robot (n) | หุ่นยนต์อัตโนมัติ |
Various purposes (n) | จุดประสงค์ที่หลากหลาย, จุดประสงค์หลายอย่าง |
Trial and error (n) | การลองผิดลองถูก |
Prolific inventor (n) | นักประดิษฐ์ที่มีสิ่งประดิษฐ์มากมาย |
Techie (n) | ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี |
Cost-effective (adj) | ประหยัดคุ้มค่า |
Have (St) delivered to (v) | ส่งของถึง |
Revolutionary creations (n) | การสร้างสรรค์ปฏิวัติ |
Technological breakthrough (n) | ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี |
คำศัพท์ IELTS ตามหัวข้อสังคม
คำศัพท์ IELTS ตามหัวข้อ Environment – สิ่งแวดล้อม
Ozone layer depletion | การสูญเสียชั้นโอโซน |
Human activity | กิจกรรมของมนุษย์ |
Posing a serious threat to | เป็นภัยคุกคามต่อ |
Contamination | การปนเปื้อน |
The burning of fossil fuels | การเผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิล |
Environmental pollution | มลพิษทางสิ่งแวดล้อม |
The greenhouse effect | ปรากฏการณ์เรือนกระจก |
Greenhouse gas emissions | การปล่อยก๊าซเรือนกระจก |
Sea levels | ระดับน้ำทะเล |
People’s health | สุขภาพของมนุษย์ |
Wildlife habitats | ที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่า |
Produce = release + khí thải + into…. | ก๊าซไอเสียจะออกมาทางไหน |
Power plants/ power stations | โรงไฟฟ้า |
Average global temperatures ≈ the earth’s average temperatures ≈ our planet’s average temperatures | อุณหภูมิโลกเฉลี่ย, อุณหภูมิเฉลี่ยของโลก, อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกเรา |
The extinction of many species of animals and plants | การสูญพันธุ์ของสัตว์และพืชหลายชนิด |
Global warming/ climate change | การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ ภาวะโลกร้อน |
Carbon dioxide ≈ emissions (การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์) ≈ greenhouse gases (ก๊าซเรือนกระจก) | |
Introduce laws to… | ออกกฎหมายเพื่อ…. |
Absorb | ดูดซับ |
Deforestation ≈ illegal logging (การตัดต้นไม้อย่างผิดกฎหมาย) ≈ forest clearance ≈ cutting and burning trees | |
Extreme weather conditions | สภาพอากาศที่รุนแรงบางประเภท |
Put heavy pressure on… | กดดันอย่างหนักกับ… |
Promote public campaigns | สนับสนุนการส่งเสริมการรณรงค์ของชุมชน |
Renewable energy from solar, water power or wind | พลังงานหมุนเวียนจากแสงอาทิตย์ พลังงานน้ำ หรือพลังงานลม |
Melting of the polar ice caps | การละลายของน้ำแข็งขั้วโลก |
Government’s regulation (n) | ระเบียบ/กฎหมายของรัฐบาล |
Limit/curb/control (v) | จำกัด/ป้องกัน/ควบคุม |
Produce pollution/CO2/greenhouse (gas) emissions (v) | สร้างมลพิษ/การปล่อย CO2/ก๊าซเรือนกระจก |
Cause/contribute to climate change (v) | สาเหตุ/ส่วนทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ |
คำศัพท์ภาษาอังกฤษตามหัวข้อ Nature – ธรรมชาติ
Freezing cold weather (n) | หนาวจัด, หนาวมาก |
Torrential rain (n) | ฝนตกหนัก, ฝนตกหนักมาก |
Pouring rain (n) | ฝนเท, ฝนเทกระหน่ำ |
Scarce (adj) | หายาก |
Snowman (n) | มนุษย์หิมะ |
Snowflake (n) | เกล็ดหิมะ |
Tremble with cold (v) | ตัวสั่นเพราะความหนาว |
Breeze (n) | สายลมเบา ๆ |
Scorching heat (n) | แดดร้อนเปรี้ยง |
Humidity (n) | ความชื้น |
Extreme weather conditions (n) | สภาพอากาศที่รุนแรง |
Make (Sb) happy as a clam (v) | ทำให้ใครคนหนึ่งรู้สึกมีความสุขมาก |
Natural phenomenon (n) | ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ |
Statistics (n) | สถิติ |
Global warming (n) | ภาวะโลกร้อน |
Deforestation (n) | การตัดไม้ทำลายป่า |
Inundated (adj) | น้ำท่วม |
Precipitation (n) | หยาดน้ำฟ้า |
Natural calamities (n) | ภัยพิบัติทางธรรมชาติ |
Death toll (n) | อัตราการเสียชีวิต |
Emergency announcement (n) | ประกาศด่วน |
Bitterly cold weather (n) | อากาศหนาวจัด |
Vibe (n) | อากาศ |
Disturbance (n) | รบกวน |
Concerted effort (n) | ความพยายามร่วมกัน |
Dangerous epidemics (n) | โรคระบาดที่เป็นอันตราย |
Record high (adj) | สูงเป็นประวัติการณ์ |
คำศัพท์ตามหัวข้อ History – ประวัติศาสตร์
Ancestors (n) | บรรพบุรุษ |
Colonization (n) | การล่าอาณานิคม |
Origin (n) | ต้นกำเนิด |
Pay tribute to (Sb) (v) | ระลึกถึงใครบางคน |
Period of history (n) | ช่วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์ |
Historical highlight (n) | ไฮไลท์ของประวัติศาสตร์, เหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์ |
Sacrifice (n) | การเสียสละ |
Resistance (n) | การต่อต้าน |
Heroines (n) | วีรสตรี |
Domination (n) | การปกครอง |
Historical figures (n) | คคลสำคัญทางประวัติศาสตร์ |
Foreign invaders (n) | ผู้รุกรานจากต่างประเทศ |
Defeat (n) | ความพ่ายแพ้ |
Victorious past (n) | อดีตวีรบุรุษ, อดีตแห่งชัยชนะ |
Memorial (n) | อนุสรณ์สถาน |
Misery (n) | ความทุกข์ยาก |
Prominent leader (n) | ผู้นำที่โดดเด่น |
Independence (n) | ความเป็นอิสระ |
sovereignty and integrity (n) | อำนาจอธิปไตยและบูรณภาพ |
Policy (n) | นโยบาย, สัญญาประกันภัย |
Preserve (v) | รักษาไว้, เก็บรักษาไว้ |
Decisiveness (n) | ความเด็ดขาด |
Eliminate invaders (v) | กำจัดผู้บุกรุก |
Valuable tradition (n) | ระเพณีล้ำค่า |
Well-armed (adj) | มีอาวุธครบมือ |
Honor (v) | ให้เกียรติ |
Ups and downs (n) | ขึ้นและลง |
Patriotism (n) | ความรักชาติ |
คำศัพท์ตามหัวข้อ Celebrities – คนดัง
Well-known (adj) | มีชื่อเสียง, โด่งดัง |
Buzz (n) | เสียงกระซิบ, เสียงดัง |
High-end clothes (n) | เสื้อผ้าแบรนด์ระดับไฮเอนด์ |
Take an avid interest in (St) (v) | ให้ความสนใจใน… |
Cost a fortune (v) | แพงมาก |
Prejudice (n) | อคติ |
Make headlines (v) | ล้นในหน้าหนังสือพิมพ์ |
Unending perseverance (n) | ความพยายามอย่างไม่มีสิ้นสุด |
Show off one’s status (v) | แสดงฐานะ (แสดงบารมี) |
Activist (n) | นักกิจกรรม |
Professional competing (n) | การแข่งขันระดับมืออาชีพ |
Trend-setter (n) | ผู้กำหนด/เป็นผู้นำเทรนด์ |
Sense of humor (n) | อารมณ์ขัน / ไหวพริบ |
Standing ovation (n) | การต้อนรับให้เกียรติ |
Have a head for (St) (v) | สามารถทำได้… |
Role model (n) | แบบในอุดมคติ |
True philanthropist (n) | ผู้ใจบุญที่แท้จริง |
Gain a reputation for oneself (v) | สร้างชื่อเสียงให้ตัวเอง |
Mere comedian (n) | แค่นักแสดงตลก |
Motivation (n) | แรงจูงใจ |
General public (n) | ประชาชนทั่วไป |
Monument of courage (n) | อนุสาวรีย์แห่งความกล้าหาญ |
Take the country by storm (v) (idm) | คนหรือบางสิ่งที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก / โด่งดังทุกที่ |
Decrease in popularity (v) | ลดลงความนิยม |
Cannot keep one’s eyes off St (v) | ไม่สามารถละสายตาจาก |
Endorse (v) | รับรอง, ปรากฏในโฆษณา |
คำศัพท์ตามหัวข้อ Media – โซเชียลเน็ตเวิร์ก
Rising star (n) | ดาวรุ่ง (คนดัง) |
View (v) | ครั้งดู |
Catchy (adj) | น่าดึงดูด,จับใจ |
Brief (adj) | สั้น ๆ |
Be really into (St) (v) | ชอบอะไรสักอย่าง.. |
Youngsters (n) | เยาวชน |
Scroll down (v) | เลื่อนลง |
Up-to-date (adj) | อัพเดทใหม่ |
Theme song (n) | เพลงธีม |
Eye-catching (adj) | เตะตา, น่าดึงดูดใจ |
Interrupting (a) | ถูกขัดจังหวะ/น่ารำคาญ |
Obsessed with (adj) | หมกมุ่นอยู่กับ… |
Cup of tea (n) | งานอดิเรก |
Keep oneself updated (v) | อัพเดทตัวเอง |
Celebrity endorsement (n) | การปรากฏตัวของคนดังในการโฆษณา |
Adult-related issue (n) | ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับผู้ใหญ่ |
Filter (n) | เครื่องกรอง |
Edit (v) | แก้ไข |
Influencer (n) | ผู้มีอิทธิพล |
Multi-functional (adj) | หลายฟังก์ชั่น |
Stylish (adj) | ทันสมัย/มีสไตล์ |
Inappropriate content (n) | เนื้อหาที่ไม่เหมาะสม |
Commercial = Advertisement (n) | โฆษณา |
Unique feature (n) | คุณลักษณะเฉพาะ คุณลักษณะพิเศษ |
Emergence (n) | การเกิดขึ้น |
Ultimate choice (n) | ตัวเลือกสุดท้าย |
Brand image (n) | ภาพลักษณ์ของแบรนด์ |
Social platform (n) | แพลตฟอร์มโซเชียล |
User-friendly (adj) | เป็นมิตรกับผู้ใช้ |
Biggest beneficiary (n) | ผู้รับผลประโยชน์ที่ใหญ่ที่สุด |
สรุป
ด้วยบทความข้างต้น หวังว่าคุณจะสามารถวาดแนวทางการเรียนรู้ IELTS Vocab ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดได้ด้วยตัวคุณเอง แล้วก็สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมคำศัพท์ IELTS ตามหัวข้อที่ ELSA Speak นำเสนอ หากต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเรียน IELTS Speaking คุณสามารถไปที่เว็บ ELSA Speak เพื่อดูข้อมูลอ้างอิงเพิ่มเติมนะ!
กระบวนการโลกาภิวัตน์ได้นำมาซึ่งโอกาสในการทำงานมากมาย ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ดังนั้น การเรียนรู้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารสำหรับคนทำงานจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการขยายความสัมพันธ์และพัฒนาทางอาชีพ ในบทความนี้ ELSA Speak จะรวบรวมประโยคภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารทั่วไปสำหรับคนทำงาน เพื่อใช้ในบางกรณีที่จำเป็น
เรียนรู้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารออนไลน์สำหรับคนทำงาน
ประโยคภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารในธุรกิจสำหรับคนทำงาน ดังต่อไปนี้ จะช่วยคุณได้มากในการทำงาน
>> ดูเพิ่มเติม: เผยแพร่ 10 วิธีการเรียนภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากที่สุด
ประโยคภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารทั่วไปในชีวิตประจำวัน
ในสภาพแวดล้อมในสำนักงาน ณ ปัจจุบัน จะมีหลาย ๆ กรณีที่คุณต้องสนทนากับเพื่อนร่วมงานหรือคู่ค้าชาวต่างชาติโดยไม่มีล่าม ดังนั้น การเตรียมพร้อมประโยคภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารทั่วไปสำหรับคนทำงาน จะช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงการตกอยู่ในสถานการณ์ที่น่าอายเพราะไม่รู้ว่าจะคุยอะไรกัน ในขณะเดียวกัน ยังช่วยให้คุณพัฒนาภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารพื้นฐานในชีวิตประจำวันได้อีกด้วย
ตัวอย่างประโยคภาษาอังกฤษ | แปลเป็นภาษาไทย |
---|---|
How long have you worked here? | คุณทำงานที่นี่มานานแค่ไหนแล้ว? |
I’m going out for lunch. | ฉันจะออกไปข้างนอกทานอาหารกลางวัน |
I’ll be back at 1.30 PM. | ฉันจะกลับมาเวลาบ่ายโมงครึ่ง |
How long does it take you to get to work? | คุณใช้เวลานานแค่ไหนในการไปที่ทำงาน? |
The traffic was terrible today. | วันนี้การจราจรแย่มาก |
How do you get to work? | คุณไปทำงานได้อย่างไร? |
Here’s my business card. | นี่คือนามบัตรของฉัน! |
She’s on maternity leave. | เธอลาคลอด |
He’s off sick today. | วันนี้เขาลาป่วย |
He’s not in today. | วันนี้เขาไม่ได้มาทำงาน |
She’s on holiday. | เธออยู่ในช่วงวันหยุด |
ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารสำหรับคนทำงานที่ใช้ในการพบลูกค้า
ตัวอย่างประโยคภาษาอังกฤษ | แปลเป็นภาษาไทย |
---|---|
He’s with a customer at the moment. | ในขณะนี้เขากำลังรับลูกค้า |
I’ll be with you in a moment. | ฉันจะอยู่กับคุณในอีกสักครู่ |
I’m so sorry to keep you waiting. | ฉันขอโทษมากนะที่ให้คุณรอ |
May I help you? | ฉันช่วยอะไรคุณได้บ้าง |
Do you need any help? | คุณต้องการความช่วยเหลือไหม |
What can I do for you? | ฉันจะทำอะไรให้คุณได้บ้าง |
ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารกับเพื่อนร่วมงานในสำนักงาน
ตัวอย่างประโยคภาษาอังกฤษ | แปลเป็นภาษาไทย |
---|---|
He’s in a meeting. | เขากำลังประชุมอยู่ |
What time does the meeting start? | การประชุมจะเริ่มกี่โมง |
What time does the meeting finish? | การประชุมสิ้นสุดลงเมื่อไหร่ |
The reception’s on the first floor. | แผนกต้อนรับอยู่ที่ชั้นหนึ่ง |
I’ll be free after lunch. | ฉันจะว่างหลังทานอาหารกลางวัน |
She’s having a leaving-do on Friday. | เธอมีงานเลี้ยงอำลาในวันศุกร์ |
She’s resigned. | เธอลาออกแล้ว |
He’s been promoted. | เขาได้รับการเลื่อนตำแหน่ง |
Can I see the report? | ฉันสามารถดูรายงานได้ไหม |
I need to do some photocopying. | ฉันต้องถ่ายเอกสารบางส่วน |
Where’s the photocopier? | เครื่องถ่ายเอกสารอยู่ที่ไหน |
The photocopier is jammed. | เครื่องถ่ายเอกสารติดขัดแล้ว |
I’ve left the file on your desk. | ฉันทิ้งเอกสารไว้บนโต๊ะของคุณ |
There’s a problem with my computer. | คอมพิวเตอร์ของฉันมีปัญหาแล้ว |
The system’s down at the moment. | ตอนนี้ระบบกำลังขัดข้อง |
The internet’s down at the moment. | ตอนนี้อินเทอร์เน็ตกำลังขัดข้อง |
I can’t access my email. | ฉันไม่สามารถเข้าถึงอีเมลได้ |
The printer isn’t working. | เครื่องพิมพ์เสียหายแล้ว |
5 เว็บไซต์เรียนภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารออนไลน์ที่ฟรีสำหรับคนทำงาน
การกำหนดเส้นทางการเรียนรู้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารด้วยตนเองสำหรับคนทำงาน จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะมีสื่อการเรียนรู้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร และเว็บไซต์เพื่อสนับสนุนการเรียนรู้ ต่อไปนี้คือ 5 เว็บไซต์สำหรับการเรียนภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารออนไลน์ที่ฟรี มีชื่อเสียง และมีคุณภาพ ได้แก่
BBC Learning English
BBC LEARNING ENGLISH ถือเป็นเว็บไซต์ที่คุ้นเคยสำหรับผู้เรียนภาษาอังกฤษจำนวนมาก โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่กำลังมองหาเว็บไซต์เรียนภาษาอังกฤษสำหรับคนทำงานที่ไม่มีพื้นฐาน นอกเหนือจากการรวมหัวข้อที่หลากหลายด้วยทุกประเภทแล้ว BBC ยังมีบท TEST เพื่อทดสอบความรู้ของคุณหลังการฝึกฝน สำหรับคนทำงานที่ไม่ค่อยมีเวลา BBC เป็นหนึ่งในเว็บไซต์ที่ค่อนข้างมีประโยชน์สำหรับพวกเขา
English Online
หากคุณกำลังดิ้นรนหาวิธีสะสมคำศัพท์หรือความรู้เพิ่มเติมสำหรับตัวคุณเอง ENGLISH ONLINE คือหนึ่งในตัวเลือกที่ดีสำหรับคุณ เรียนกับ ENGLISH ONLINE คุณจะได้ฝึกฝนความสามารถในการเข้าใจและการอ่านข่าวประจำวัน ด้วยคำศัพท์ที่ค่อนข้างเข้าใจง่าย นอกจากนั้น คุณยังมีโอกาสได้เรียนรู้เพิ่มเติมนอกเหนือจากคำศัพท์ที่มีอยู่ในแต่ละหัวข้อ
American Stories For Learning English
เว็บไซต์นี้มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อแบ่งปันเรื่องราวเกี่ยวกับสหรัฐอเมริกา หากคุณเป็นคนรักวัฒนธรรมของประเทศนี้ American Stories For Learning English จะเป็นเว็บไซต์ที่เหมาะสำหรับคุณ
Exam English
คุณต้องการความก้าวหน้าในอาชีพการงานในอนาคตด้วยเงินเดือนที่เหมาะสมไหม? เงื่อนไขหลักประการหนึ่งที่คุณต้องมีคือภาษาต่างประเทศ EXAM ENGLISH เป็นเว็บไซต์สำหรับคนทำงานที่ต้องการเรียนภาษาอังกฤษเพื่อสอบรับประกาศนียบัตร โดย EXAM ENGLISH สามารถช่วยให้คุณทดสอบระดับของตนเองด้วยทักษะการฟัง การพูด ไวยากรณ์ และการเขียนหลังการเรียนแต่ละครั้ง มาลองกันนะ!
ELSA Speak
ติดอยู่ในท็อป 4 บริษัท ที่ใช้ AI (ปัญญาประดิษฐ์) ในการเปลี่ยนแปลงโลก ELSA ได้เปลี่ยนชีวิตของผู้คนมากมาย จากที่ไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับภาษาอังกฤษเลยจนกลายเป็นคนที่พูดภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่ว มาร่วมกับ ELSA ผู้ใช้จะมีโอกาสใช้แอปได้ฟรีในเวลา 7 วัน พร้อมทักษะการออกเสียง การฟัง การเน้นเสียง การสนทนา และ intonation สำหรับคนที่มีงานยุ่งและไม่มีเวลาฝึกฝนภาษาอังกฤษมากนัก ELSA มั่นใจว่าจะเป็นแอปการเรียนรู้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารที่ดีที่สุดสำหรับคุณ
คอร์สเรียน/เส้นทางการเรียนรู้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารออนไลน์สำหรับคนทำงานด้วยแอป ELSA Speak
ผู้เข้าร่วมเส้นทางการเรียนรู้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารออนไลน์สำหรับคนทำงานกับ ELSA Speak
- คนทำงาน (ทุกสาขาอาชีพ) ต้องการเรียนภาษาอังกฤษแต่ไม่มีเวลาไปที่ศูนย์หรือห้องเรียนภาษาอังกฤษเป็นประจำ
- ต้องการเรียนรู้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารอย่างรวดเร็ว เรียน 1 ต่อ 1 เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพ
- เรียนภาษาอังกฤษแต่ขาดความมั่นใจเมื่อสื่อสารกับชาวต่างชาติ เนื่องจากคำศัพท์มีจำกัดและการออกเสียงยังไม่ถูกต้อง
- ต้องการพัฒนาภาษาอังกฤษของตนเองในการเจรจา หารือ และสนทนากับคู่ค้าและลูกค้าเป็นชาวต่างชาติ
- คุณมักจะมีความผิดพลาดในการออกเสียง น้ำเสียงแบบท้องถิ่นมากเกินไป และต้องการปรับปรุงอย่างรวดเร็ว
ประโยชน์จากเส้นทางการเรียนรู้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารแบบ 1-1 ของ ELSA Speak
1. คอร์สเรียนภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารออนไลน์สำหรับทุกอาชีพ
ELSA Speak มีคอร์สเรียนภาษาอังกฤษสำหรับคนทำงานที่ไม่มีพื้นฐาน ในทุกอาชีพ แผนก และตำแหน่งงานในบริษัท ด้วยหัวข้อมากกว่า 290 หัวข้อ เกี่ยวกับภาษาอังกฤษสำหรับพนักงานในอุตสาหกรรมบริการ การตลาด – การขาย การเงิน – การธนาคาร เทคโนโลยีสารสนเทศ และอาชีพอื่นๆ
นอกจากนี้ คุณจะได้เรียนรู้บทสนทนาภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารในสำนักงานมากกว่า 50 บท เช่น การสนทนากับเพื่อนร่วมงาน ภาษาอังกฤษสำหรับการเดินทางเพื่อธุรกิจ ภาษาอังกฤษธุรกิจ ตัวอย่างประโยคการสื่อสารเมื่อสัมภาษณ์งานหรือสื่อสารกับลูกค้า
ผ่านบทเรียนต่าง ๆ ที่ใกล้เคียงกับชีวิตจริง คุณก็จะสามารถนำไปใช้ได้ทันที และสื่อสารกับลูกค้า เพื่อนร่วมงานได้อย่างมั่นใจ เจรจากับคู่ค้าต่างประเทศได้สำเร็จ
2. คลังบทเรียนขนาดใหญ่: 5,000+ บทเรียน และ 25,000+ แบบฝึกหัด
ปัจจุบัน ELSA Speak ได้พัฒนาคลังบทเรียนเป็นจำนวนมาก ด้วยบทเรียนมากกว่า 5,000 บท แบบฝึกหัด 25,000 บทตั้งแต่ระดับพื้นฐานจนถึงระดับสูง ผู้ใช้จะได้ฝึก 44 พยางค์ตามแผนภูมิการออกเสียง IPA ระบบบทเรียนก็จะถูกปรับตามแต่ละระดับ: การฟัง การฝึกออกเสียงคำเดี่ยว การออกเสียงวลี การออกเสียงตามบทสนทนา
ในขณะเดียวกัน คุณก็จะได้เรียนรู้ด้วยการใช้ภาพ ที่มาจากวิดีโอคลิปการสนทนาในหัวข้อต่างๆ เช่น: First week at work, Meeting new coworkers. ELSA Speak ได้ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย (ยูเพนท์) เพื่อเสนอคอร์สเรียน ENGLISH FOR CAREER DEVELOPMENT ซึ่งจะช่วยให้คุณได้สัมผัสกับหัวข้อที่จำเป็นในกระบวนการสมัครงาน และการสัมภาษณ์
นอกจากนี้ แอปพลิเคชัน ELSA Speak ยังได้รวบรวมและพัฒนาแบบฝึกหัดการพูด IELTS และ TOEIC เพิ่มเติม โดยมีหัวข้อที่คุ้นเคยมากกว่า 60 หัวข้อ อีกทั้ง คุณสามารถเข้าร่วมชุมชน ELSA Speak เพื่อดูบทเรียนเพิ่มเติมที่แบ่งปันโดยผู้เรียนคนอื่นๆ
3. เทคโนโลยี A.I. รู้จำเสียงพูดที่เป็นกรรมสิทธิ์ แก้ไขข้อผิดพลาดในการออกเสียงถึงแต่ละพยางค์
ELSA Speak เป็นแอปเรียนภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารแอปเดียวสำหรับคนทำงานที่ใช้เทคโนโลยี A.I. รู้จำเสียงพูดที่เป็นกรรมสิทธิ์ เมื่อผู้ใช้ออกเสียงภาษาอังกฤษ ระบบจะบันทึกและเปรียบเทียบกับเสียงเจ้าของภาษา จากนั้นจะให้คะแนนการออกเสียงและชี้ให้เห็นข้อผิดพลาดในแต่ละพยางค์
คุณจะได้รับคำแนะนำในการแก้ไขข้อผิดพลาดทันที ตั้งแต่การเน้นเสียง การปล่อยลม การวางลิ้นและรูปปาก เรียนกับ ELSA เพียงแค่ 10 นาทีต่อวัน คุณก็จะพัฒนาทักษะการออกเสียงภาษาอังกฤษเป๊ะได้ถึง 90% ใน 3 เดือน
4. เส้นทางการเรียนรู้ภาษาอังกฤษส่วนบุคคลสำหรับคนทำงาน
แตกต่างจากศูนย์ภาษาอังกฤษอื่นๆ ในตลาด เมื่อเรียนกับ ELSA Speak คุณจะได้รับการออกแบบเส้นทางการเรียนรู้ส่วนบุคคลตามความสามารถของแต่ละคน ผ่านแบบทดสอบก่อนเข้า 16 ประโยค ระบบจะให้คะแนนการออกเสียง และชี้ให้เห็นถึงทักษะที่คุณต้องปรับปรุง จากนั้น ELSA Speak จะออกแบบบทเรียนที่เหมาะสมที่สุดโดยอัตโนมัติ
นอกจากนี้ ในระหว่างกระบวนการเรียนรู้ ระบบจะบันทึกผลการตรวจสอบของคุณ แล้วก็รวบรวมจำนวนบทเรียน จำนวนชั่วโมงเรียนตามรายวัน รายสัปดาห์ รายเดือน ดังนั้น คุณจะเห็นความก้าวหน้าของตนเอง ถือเป็นแรงจูงใจในการมุ่งมั่น
ในระหว่างขั้นตอนนี้ ELSA Speak ก็จะแก้ไขบทเรียนโดยอัตโนมัติอีกด้วย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความคืบหน้าและคะแนนการฝึกฝนของคุณ
5. คอร์สเรียนภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารออนไลน์สำหรับคนทำงาน แบบ 1 ต่อ 1
สำหรับคนทำงานที่มีงานยุ่ง คอร์สเรียนภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารออนไลน์ที่ครอบคลุมอย่าง ELSA Speak เป็นทางเลือกที่เหมาะสม เพียงแค่มีโทรศัพท์ที่เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต คุณก็สามารถอัปเกรดทักษะภาษาต่างประเทศของตนเองได้ทุกที่ทุกเวลา ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมติดตามความก้าวหน้าในการเรียนรู้ของตัวคุณเองอย่างกระตือรือร้น
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ช่วยเสมือนจริง ELSA จะทำหน้าที่เป็นครูส่วนตัว สอน 1 ต่อ 1 ระบบจะมีการแจ้งเตือนให้คุณเข้าเรียนทุกวัน โดยให้บทเรียนตามเป้าหมายอาชีพที่คุณตั้งไว้ แล้วก็ปรับเทียบหลักสูตรทุกวันโดยอัตโนมัติ เพื่อให้สอดคล้องกับระดับของแต่ละบุคคล
ไม่ต้องไปหาคอร์สออฟไลน์ตามท้องตลาด แค่เรียนออนไลน์กับ ELSA Speak คุณก็จะสามารถสื่อสารได้อย่างมั่นใจเมื่อไปทำงาน เพิ่มโอกาสในการทำงานให้กับตัวคุณเอง ตอนนี้ ELSA Speak มีผู้เรียนมากกว่า 40 ล้านคนทั่วโลก ผู้เรียน 10 ล้านคนในประเทศไทย ซึ่งช่วยให้พนักงานเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้ถึง 50% ผ่านการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ
งั้นคุณยังรออะไรอยู่ ลงทะเบียน ELSA Speak เพื่อพัฒนาภาษาอังกฤษ – ก้าวหน้าในอาชีพการงาน ทันทีวันนี้เลย!
ไม่มีคำว่าสายเกินไปที่จะเริ่มเรียนภาษาอังกฤษนะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อภาษานี้มอบโอกาสนับไม่ถ้วนให้กับคุณ เช่นเดียวกับความสุขในการทำงานและการเรียนอีกด้วย มาฝึกพูดภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารสำหรับคนทำงาน 2-3 ประโยคทุกวัน เพื่อให้เป็นนิสัยกันเถอะ แน่ใจว่า คุณจะก้าวหน้าอย่างมากในไม่ช้า!
ผู้เรียนภาษาอังกฤษแต่ละคนเพียงแค่เชี่ยวชาญคำศัพท์ภาษาอังกฤษ 3000 คำที่พบบ่อยที่สุด ตามสถิติของอ็อกซ์ฟอร์ด คุณก็จะเข้าใจบทสนทนาทั่วไปได้ถึง 95% เมื่อเทียบกับคำศัพท์ 100,000 คำในพจนานุกรม คําศัพท์ภาษาอังกฤษ 3000 คําทั่วไปเป็นเพียงจำนวนเล็กน้อย แต่ให้ประสิทธิภาพสูงสุดเลย
ความสำคัญของคำศัพท์ภาษาอังกฤษ 3000 คำทั่วไป
นักภาษาศาสตร์วิลกินส์เคยกล่าวไว้ว่า “หากไม่มีไวยากรณ์ ข้อมูลเพียงเล็กน้อยก็สามารถถ่ายทอดได้ แต่หากไม่มีคำศัพท์ ไม่สามารถถ่ายทอดข้อมูลอะไรเลย”
คำศัพท์ช่วยให้คุณฟัง พูด และเข้าใจเมื่อสื่อสารเป็นภาษาอังกฤษ เมื่อคุณมีคำศัพท์ภาษาอังกฤษมากมาย คุณก็สามารถฟังและเข้าใจเนื้อหาของการสนทนาได้อย่างง่ายดาย แม้ว่าไวยากรณ์ของคุณจะไม่ดีก็ตาม
คำศัพท์เป็นพื้นหลังพื้นฐานที่จะช่วยให้ทักษะการฟัง การพูด การอ่านและการเขียนภาษาอังกฤษของคุณได้พัฒนาอย่างรวดเร็ว คลังคำศัพท์และวิธีที่คุณใช้คำก็เป็นปัจจัยสำคัญในการประเมินความสามารถทางภาษาอังกฤษของคุณ
งั้นวิธีเริ่มต้นเรียนรู้คำศัพท์ภาษาอังกฤษ 3000 คำทั่วไปอย่างมีประสิทธิภาพ ประหยัดเวลา และสามารถนำไปใช้ในการสื่อสารภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันได้อย่างง่ายดาย คืออะไร? เดี๋ยว ELSA Speak จะแบ่งปันความลับวิธีเรียนคำศัพท์ภาษาอังกฤษ 3000 คำนะ
วิธีการเรียนรู้ คำศัพท์ภาษาอังกฤษ 3000 คำ อย่างมีประสิทธิภาพ
มีหลายวิธีที่จะช่วยให้คุณเริ่มต้นการเรียน คำศัพท์ภาษาอังกฤษ 3000 คำ ทั่วไปเหล่านี้ มาดูคำแนะนำกับ ELSA Speak กันเลย!
วิธีที่ 1: เรียงคำศัพท์ภาษาอังกฤษ 3000 คำตามตัวอักษร คุณสามารถเริ่มต้นด้วยคำศัพท์ 5 คำต่อวัน ในเวลาเรียน ให้จดไว้ในกระดาษ พร้อมฟังการออกเสียงที่มาตรฐาน แล้วฝึกออกเสียงคำศัพท์เหล่านั้นให้ถูกต้อง จากนั้น ยกตัวอย่างด้วยคำศัพท์ที่คุณได้เรียนรู้ และทบทวนคำศัพท์อย่างสม่ำเสมอ!
แต่ละวันเรียนคําศัพท์แค่ 5 คำ จากนั้นไม่ถึง 1.5 ปี คุณก็สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่วแล้ว
>> คุณอาจจะต้องการ: วิธีการเรียนรู้คำศัพท์ภาษาอังกฤษอย่างรวดเร็ว
วิธีที่ 2: วิธีอีกอย่างหนึ่งที่จะช่วยให้คุณพัฒนาคลังคำศัพท์คือ คุณจะเรียนรู้คำศัพท์ต้นฉบับก่อน แล้วจึงพัฒนาจากคำศัพท์ต้นฉบับไปสู่แขนงคำอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น คำคุณศัพท์ คำนาม คำกริยา… นอกจากเรียนรู้การเขียนแล้ว อย่าลืมฝึกฟัง อ่าน และแต่งประโยคสำหรับคำศัพท์แต่ละประเภทเหล่านั้น เพื่อให้คุณใช้คำศัพท์ได้อย่างเชี่ยวชาญในทุกสถานการณ์!
วิธีที่ 3: เรียนรู้คำศัพท์ตามหัวข้อ – นี่เป็นวิธีที่ ELSA Speak แนะนำให้คุณทำตาม โดยด้วยวิธีการเรียนรู้นี้ คุณจะเลือกเนื้อหาที่มีการจัดระเบียบคำศัพท์ตามหัวข้อ และเริ่มด้วยหัวข้อที่คุณชอบ คล้ายกับวิธีการเรียนรู้ 2 วิธีข้างต้น เรียนรู้ด้วยประสาทสัมผัสทั้งหมดของคุณเพื่อจดจำคำศัพท์อย่างดีที่สุด
สำหรับวิธีการเรียนรู้คำศัพท์ตามหัวข้อนี้ คุณสามารถขยายคำศัพท์ของหัวข้อ และจดจำได้นานขึ้นด้วยการฟังเพลง ดูหนัง อ่านเรื่องราว ฟังบทสนทนาที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนั้น …. แน่นอนว่า คุณจะจดจำคำศัพท์ได้ดีและใช้คำศัพท์ได้อย่างง่ายดายในการสื่อสาร
วิธีที่ 4: บทความเล็ก ๆ ที่ ELSA Speak ไว้สำหรับผู้ที่ต้องการเรียนรู้คำศัพท์ภาษาอังกฤษ 3000 คำพื้นฐานอย่างรวดเร็ว คือ “เรียนรู้คำศัพท์ภาษาอังกฤษ 3000 คำด้วยบทกวีที่สุดฮอต” มาดูทันทีเลยหากคุณต้องการที่จะพัฒนาคลังคำศัพท์ภาษาอังกฤษของตนเอง!
คำศัพท์ภาษาอังกฤษ 3000 คำ ทั่วไปตามหัวข้อ
คําศัพท์ภาษาอังกฤษ เกี่ยวกับครอบครัว
Birth /bɜrθ/ (n): การเกิด
Brother /ˈbrʌðər/(n): พี่/น้องชาย
Brother-in-law: พี่/น้องเขย
Close /kloʊs/ (adj): ใกล้ชิด
Cousin /ˈkʌzən/(n): ลูกพี่ลูกน้อง
Daughter /ˈdɔtər/ (n): ลูกสาว
Daughter-in-law: ลูกสะใภ้
Father /ˈfɑðər/ (n): พ่อ
Father-in-law (n): พ่อตา
Godmother /ˈɡɑːdmʌðər/ (n): แม่ทูนหัว
Grandparents /ˈgrændˌpɛrənts/ (n): ปู่ย่าตายาย
Kid/Child /kɪd/ – /ʧaɪld/ (n): เด็กๆ
คําศัพท์ภาษาอังกฤษ สภาพอากาศ
Climate /ˈklaɪmət/(n): ภูมิอากาศ
Climate change /ˈklaɪmət tʃeɪndʒ/(n): การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
Global warming /ˈɡloʊbl ˈwɔːrmɪŋ/(n): ภาวะโลกร้อน
Humid /ˈhjuːmɪd/(adj): ชื้น
Shower /ˈʃaʊər /(n): ฝนตกหนัก
Tornado /tɔːrˈneɪdoʊ /(n): พายุทอร์นาโด ลมแรงมากที่หมุนวนเป็นบริเวณเล็กๆ หมุนไปตามคอลัมน์ของอากาศ
Rain-storm/rainstorm /ˈreɪnstɔːrm/ (n): พายุฝน
Storm /stɔːrm/(n): พายุ พายุฝนฟ้าคะนอง – คำศัพท์สำหรับพายุทั่วไป
Typhoon /taɪˈfuːn/ (n): พายุ / พายุไต้ฝุ่น (ใช้เรียกพายุในมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตกเฉียงเหนือ)
Hurricane /ˈhɜːrəkən/(n): พายุ (ใช้เรียกพายุในมหาสมุทรแอตแลนติก /แปซิฟิกเหนือ)
Cyclone /ˈsaɪkloʊn/(n): พายุ (ใช้เรียกพายุในซีกโลกใต้)
คําศัพท์ภาษาอังกฤษ อาชีพ
Interview /’intəvju:/(v): สัมภาษณ์
Job /dʒɔb/(n): งาน
Appointment /ə’pɔintmənt/(n): การนัดหมาย
Advertisement /ˌædvərˈtaɪzmənt/ (n): โฆษณา
Contract /’kɔntrækt/(n): สัญญา
Overtime /´ouvətaim/ (n): ล่วงเวลา
Redundancy /ri’dʌndənsi/(n): ความซ้ำซ้อน พนักงานส่วนเกิน
Redundant /ri’dʌndənt/ (adj): ซ้ำซ้อน
Part-time /´pa:t¸taim/(adj,adv): ไม่เต็มเวลา
Full-time /ˌfʊl ˈtaɪm/ (adj,adv): เต็มเวลา
คําศัพท์ภาษาอังกฤษ เสื้อผ้า
overcoat /ˈəʊvərkəʊt/ (n): เสื้อคลุม
jacket /ˈdʒækɪt/ (n): เสื้อโค้ทสั้น
trousers /ˈtraʊzərz/ (n) (a pair of trousers): กางเกงขายาว
suit /suːt/(n): ชุดสูทผู้ชาย หรือชุดสูทผู้หญิง
shorts /ʃɔːrts/ (n): กางเกงขาสั้น
jeans /dʒiːnz/ (n): กางเกงยีนส์
shirt /ʃɜːrt/ (n): เสื้อเชิ้ต
tie /taɪ/ (n): เน็กไท
t-shirt /ˈtiː ʃɜːrt/ (n): เสื้อยืด
raincoat /ˈreɪnkəʊt/ (n): เสื้อกันฝน
anorak /ˈænəræk/ (n): เสื้อมีฮู้ด
คําศัพท์ภาษาอังกฤษ บุคลิกภาพ
Clever /ˈklɛvər/ (adj): เฉลียวฉลาด
Cold /koʊld/ (adj): เย็นชา
Competitive /kəmˈpɛtətɪv/ (adj): ชอบแข่งขัน
Confident /ˈkɑnfədənt/ (adj): มั่นใจ
Considerate /kənˈsɪdərət/ (adj): มีน้ำใจ
Diligent /ˈdɪlədʒənt/ (adj): ขยันขันแข็ง อุตสาหะ
Dynamic /daɪˈnæmɪk/ (adj): พลวัต มีพลัง
Faithful /ˈfeɪθfl/ (adj): ภักดี ซื่อตรง เที่ยงตรง
Fawning /ˈfɔnɪŋ/ (adj): ประจบสอพลอ เยินยอ
Intelligent /ɪnˈtɛlədʒənt/ (adj): ฉลาดหลักแหลม เฉลียวฉลาด
Jealous /ˈdʒɛləs/ (adj): หึงหวง อิจฉาริษยา
Kind /kaɪnd/ (adj): ใจดี
คําศัพท์ภาษาอังกฤษ ผัก
Beetroot /ˈbiːtruːt/ (n): บีทรูท
Squash /skwɑːʃ/ (n): สควอช
Cucumber /ˈkjuːkʌmbər/ (n): แตงกวา
Potato /pəˈteɪtoʊ/ (n): มันฝรั่ง
Garlic /ˈɡɑːrlɪk/ (n): กระเทียม
Onion /ˈʌnjən/ (n): หัวหอม
Radish /ˈrædɪʃ/ (n): หัวไชเท้า
Tomato /təˈmeɪtoʊ/ (n): มะเขือเทศ
Marrow /ˈmæroʊ/ (n): บวบ
Bell pepper (AE)/ bel ˈpepər / sweet pepper (BE): /swiːt ˈpepər / (n): พริกหวาน
Hot pepper /hɑːtˈpepər/ (n): พริกขี้หนู
คําศัพท์ภาษาอังกฤษ สิ่งแวดล้อม
Industrial waste /ɪnˈdʌstrɪəl weɪst/ (n): ขยะอุตสาหกรรม
Natural resources /ˈnæʧrəl rɪˈsɔːsɪz/ (n): ทรัพยากรธรรมชาติ
Oil spill /ɔɪl spɪl/ (n): น้ำมันรั่วไหล
Ozone layer /ˈəʊzəʊn ˈleɪə/ (n): ชั้นโอโซน
Pollution /pəˈluːʃən/ (n): มลพิษ
Preservation /ˌprɛzəːˈveɪʃən/ (n): การอนุรักษ์
Rainforest /ˈreɪnˌfɒrɪst/ (n): ป่าดงดิบ
Sea level /siːˈlɛvl/ (n): ระดับน้ำทะเล
Sewage /ˈsjuːɪʤ/ (n): สิ่งปฏิกูล
Soil /sɔɪl/ (n): ดิน
Solar power /ˈsəʊlə ˈpaʊə/ (n): พลังงานแสงอาทิตย์
คําศัพท์ภาษาอังกฤษ สัตว์
Lamb /læm/(n): ลูกแกะ
Herd of cow /hɜːd əv kaʊ/(n): ฝูงวัว
Chicken /ˈtʃɪk.ɪn/(n): ไก่
Flock of sheep /flɒk əv ʃiːp/(n): ฝูงแกะ
Horseshoe /ˈhɔːs.ʃuː/(n): เกือกม้า
Donkey /ˈdɒŋ.ki/(n): ลา
Piglet /ˈpɪg.lət/(n): ลูกหมู
Female /ˈfiː.meɪl/(n): หญิง
Male /meɪl/(n): ชาย
Horse /hɔːs/(n): ม้า
>>> Read more
- [การ review อย่างละเอียด] App เรียนภาษาอังกฤษสำหรับเด็กดีหรือไม่ราคาเท่าไหร่
- [รีวิวแบบละเอียด] ELSA Speak คืออะไร? แอปฝึกพูดภาษาอังกฤษสำหรับคนทำงานที่มีเวลาน้อย
คําศัพท์ภาษาอังกฤษ อาหาร
Bake /beɪk/(v): อบเค้ก
Beef /bif/ (n): เนื้อวัว
Beer /bɪr/ (n): เบียร์
Bitte /ˈbɪtər/r (adj): ขม
Boil /bɔɪl/ (v): ต้ม เดือด
Bread /brɛd/(n): ขนมปัง
Chicken /ˈʧɪkən/ (n): เนื้อไก่
Coffee /ˈkɑfi/(n): กาแฟ
Delicious /dɪˈlɪʃəs/(adj): อร่อย
Drink /drɪŋk/ (v): ดื่ม
Eat /it/ (v): กิน
คําศัพท์ภาษาอังกฤษ โรงเรียน
Biology /baɪˈɑːlədʒi/ (n): ชีววิทยา
Archaeology /ˌɑːrkiˈɑːlədʒi/ (n): โบราณคดี
Math /mæθ/ (n): คณิตศาสตร์
Astronomy /əˈstrɑːnəmi/ (n): ดาราศาสตร์
Physics /ˈfɪzɪks/ (n): ฟิสิกส์
Linguistics /ˈfɪzɪks/ (n): ภาษาศาสตร์
Chemistry /ˈkemɪstri/ (n): วิชาเคมี
Engineering /ˌendʒɪˈnɪrɪŋ/ (n): วิศวกรรมศาสตร์
Science /ˈsaɪəns/ (n): วิทยาศาสตร์
Medicine /ˈmedɪsn/ (n): อุตสาหกรรมการแพทย์
Literature /ˈlɪtrətʃʊr/ (n): วรรณกรรม
คําศัพท์ภาษาอังกฤษ การท่องเที่ยว
Sleeping bag /ˈsliːpɪŋ baɡ/ (n): ถุงนอน
Lighter /ˈlaɪtə/ (n): ไฟแช็ก
Tent /tent/ (n): เต๊นท์
Penknife /ˈpennaɪf/ (n): มีดพับ
Backpack /ˈbækpæk/ (n): เป้
Axe /æks/ (n): ขวาน
Lantern /ˈlæntərn/ (n): โคมไฟพกพา
Campfire /ˈkæmpfaɪər/ (n): แคมป์ไฟ
Mat /mæt/ (n): พรม
Barbecue /ˈbɑːbɪkjuː/ (n): เตาอบกลางแจ้ง
Folding chair /ˈfəʊldɪŋ ʧeə/ (n): เก้าอี้พับ
คําศัพท์ภาษาอังกฤษ สี
Violet /ˈvaɪə.lət/ (adj): สีม่วง
Purple /`pə:pl/ (adj): สีม่วง
Bright red /brait red / (adj): สีแดงสด
Bright green /brait griːn/ (adj): สีเขียวสด
Bright blue /brait bluː/ (adj): สีฟ้าสดใส
Dark brown /dɑ:k braʊn/ (adj): สีน้ำตาลเข้ม
Dark green /dɑ:k griːn/ (adj): สีเขียวเข้ม
Dark blue /dɑ:k bluː/ (adj): สีน้ำเงินเข้ม
Light brown /lait braʊn/ (adj): สีน้ำตาลอ่อน
Light green /lait griːn / (adj): สีเขียวอ่อน
Light blue /lait bluː/ (adj): สีฟ้าอ่อน
คําศัพท์ภาษาอังกฤษ วิชาเอกเทคโนโลยีสารสนเทศ
Multiplication / mʌltɪplɪˈkeɪʃən/ (n): การคูณ
Numeric /nju(ː)ˈmɛrɪk/ (n): เลขคณิต
Operation /ɒpəˈreɪʃən/ (n): การดำเนินการ
Output /ˈaʊtpʊt/ (n): ออก เอาต์พุต
Perform /pəˈfɔːm/ (v): ดำเนินการ
Process /ˈprəʊsɛs/ (v): กระบวนการ
Processor /ˈprəʊsɛsə/ (v): ตัวประมวลผล
Pulse /pʌls/ (n): พัลส์
Register /ˈrɛʤɪstə/ (v): ลงทะเบียน
Signal /ˈsɪgnl/ (n): สัญญาณ
Solution /səˈluːʃən/ (n): ทางออก ทางแก้ไข
Store /stɔː/ (v): จัดเก็บ
คําศัพท์ภาษาอังกฤษ วิชาเอกการบัญชี
Construction in progress: กำลังดำเนินการก่อสร้าง
Cost of goods sold: ต้นทุนขาย
Current assets: สินทรัพย์หมุนเวียนและเงินลงทุนระยะสั้น
Current portion of long-term liabilities: หนี้สินระยะยาวที่ถึงกำหนดชำระ
Deferred expenses: ค่าใช้จ่ายรอการโอน
Deferred revenue: ผู้ซื้อชำระเงินล่วงหน้า
Depreciation of fixed assets: ค่าเสื่อมราคาสะสมของสินทรัพย์ถาวรที่มีตัวตน
Depreciation of intangible fixed assets: ค่าเสื่อมราคาของสินทรัพย์ถาวรไม่มีตัวตน
Depreciation of leased fixed assets: ค่าเสื่อมราคาของสินทรัพย์ถาวรที่เช่าทางการเงิน
Equity and funds: ทุนและกองทุน
Exchange rate differences: ความแตกต่างของอัตราแลกเปลี่ยน
>>> Read more
- ประโยคเงื่อนไข If Clause: โครงสร้าง วิธีใช้ แบบฝึกหัด และเคล็ดลับการท่องจำ
- ตาราง Irregular Verbs ในภาษาอังกฤษที่ครบถ้วนและถูกต้องที่สุด
- บทกวีเกี่ยวกับการใช้ “IN” “ON” “AT” ช่วยให้คุณแยกแยะได้ง่า
- Passive Voice: สูตร ตัวแปร และการใช้งานที่แม่นยำที่สุด (พร้อมแบบฝึกหัด)
คําศัพท์ภาษาอังกฤษ การจราจร
Learner driver /ˌlɜːrnər ˈdraɪvər/ (n): ตัวขับเคลื่อนผู้เรียน
Passenger /ˈpæsɪndʒər/ (n): ผู้โดยสาร
to stall /stɔːl/: ดับเครื่อง
tyre pressure: แรงดันลมยาง
traffic light /ˈtræfɪk laɪt/ (n): สัญญาณไฟจราจร
speed limit /ˈspiːd lɪmɪt/ (n): จำกัดความเร็ว
speeding fine: เร่งจุดโทษ
level crossing /ˌlevl ˈkrɔːsɪŋ/ (n): ทางรถไฟตัดกับถนนสายหลัก
jump leads /ˈdʒʌmp liːd/ (n): สายชาร์จ
oil /ɔɪl/ (n): น้ำมัน
คําศัพท์ภาษาอังกฤษ ความรู้สึก
Disappointed / ˌdɪsəˈpɔɪntɪd / (adj): ผิดหวัง
Ecstatic / ɪkˈstætɪk / (adj): สุดแสนจะดีใจ
Enthusiastic /ɪnθju:zi’æstɪk/ (adj): กระตือรือร้น
Excited / Excited / (adj): ตื่นเต้น
Emotional / ɪˈmoʊʃənl / (adj): ทางอารมณ์
Envious / ˈenviəs / (adj): โลภ อิจฉา
Embarrassed / ɪmˈbærəst / (v): อาย
Frightened / ˈfraɪtnd / (v): กลัว
Frustrated /frʌ’streɪtɪd/ (v): สิ้นหวัง
Furious /ˈfjʊriəs / (v): โกรธ โมโห
Great / ɡreɪt / (adj): ยอดเยี่ยม
คําศัพท์ภาษาอังกฤษ ผลไม้
Jackfruit /ˈjakˌfro͞ot/ (n): ขนุน
Persimmon /pə:’simən/ (n): ลูกพลับ
Sapodilla /,sæpou’dilə/ (n): ละมุด
Peach /pi:tʃ/ (n): พีช
Pineapple /ˈpīˌnapəl/ (n): สับปะรด
Papaya /pə’paiə/ (n): มะละกอ
Dragon fruit /ˈdræɡən fruːt/ (n): แก้วมังกร
Custard apple /’kʌstəd/ /’æpl/ (n): น้อยหน่า
Soursop /ˈsou(ə)rˌsäp/ (n): ทุเรียนเทศ
Rambutan /ræm’bu:tən/ (n): เงาะ
คําศัพท์ภาษาอังกฤษ วิชาเอกการตลาด
Brand /brænd/ (n): ยี่ห้อ
Branded /ˈbrændɪd/ (n): สิ่งของแบรนด์
Cost /kɔːst/ (n): มูลค่า (สินค้า)
Consumer /kənˈsuːmər/ (n): ผู้บริโภค
Consume /kənˈsuːm/ (v): บริโภค
Costing /ˈkɔːstɪŋ/ (n): การคิดต้นทุน
Develop /dɪˈveləp/ (v): สร้างหรือปรับปรุงผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่
Product development: การปรับปรุงผลิตภัณฑ์
Distribution /ˌdɪstrɪˈbjuːʃn/ (v): การแจกจ่าย (สินค้า)
End-user /ˌend ˈjuːzər/ (n): ผู้บริโภคขั้นสุดท้ายของสินค้า
Image /ˈɪmɪdʒ/ (n): ภาพลักษณ์ (ของบริษัท)
คําศัพท์ภาษาอังกฤษ การทำงาน
reception /ri’sep∫n/ (n): แผนกต้อนรับ
health and safety (n): สุขภาพและความปลอดภัย
director /di’rektə/ (n): ผู้อำนวยการ
owner /´ounə/ (n): เจ้าของธุรกิจ
manager /ˈmænәdʒər/ (n): ผู้จัดการ
boss /bɔs/ (n): เจ้านาย
colleague /ˈkɒli:g/ (n): เพื่อนร่วมงาน
trainee /trei’ni:/ (n): พนักงานฝึกหัด
timekeeping ˈtaɪmkiːpɪŋ/ (n): คอยติดตามเวลาทำงาน
job description /ˈdʒɑːb dɪskrɪpʃn/ (n): รายละเอียดงาน
department /di’pɑ:tmənt/ (n): แผนก
คําศัพท์ภาษาอังกฤษ คริสต์มาส
snow /snoʊ/ (adj): หิมะ
snowflake /ˈsnoʊ-fleɪk/ (n): เกล็ดหิมะ
pine /paɪn/ (n): ต้นสน
candle /ˈkænd(ə)l/ (n): เทียน
card /kɑːrd/ (n): การ์ดอวยพร
fireplace /ˈfaɪr-pleɪs/ (n): เตาไฟ
firewood /ˈfaɪr-wʊd/ (n): ฟืนแห้ง
chimney /ˈtʃɪm.ni/ (n): ปล่องไฟ
gift /ɡɪft/ (n): ของขวัญ
present /ˈprɛzənt / (n): ของขวัญ
ribbon /ˈrɪb.ən/ (n): โบว์ริบบิ้น
คําศัพท์ภาษาอังกฤษ แฟชั่น
wallet /ˈwɔː.lɪt/ (n): กระเป๋าสตางค์
sweatpants /ˈswet.pænts/ (n): กางเกงวอร์ม
sneakers /ˈsniː.kərz/ (n): รองเท้ากีฬา
sweatband /ˈswet.bænd/ (n): ผ้ารัด (ศีรษะหรือแขนเวลาเล่นกีฬา)
tank top /tæŋk.tɒp/ (n): เสื้อกล้าม
shorts /ʃɔːts/ (n): กางเกงขาสั้น
long sleeve /lɒŋ sliːv/ (n): เสื้อแขนยาว
belt /belt/ (n): เข็มขัด
buckle /ˈbʌ.kļ/ (n): หัวเข็มขัด
shopping bag /ˈʃɒ.pɪŋ bæg/ (n): ถุงช้อปปิ้ง
sandal /ˈsæn.dl/ (n): รองเท้าแตะ
คําศัพท์ภาษาอังกฤษ เทศกาลไหว้พระจันทร์
crescent moon /ˈkrɛsnt muːn/: พระจันทร์เสี้ยว
full moon /fʊl muːn/: พระจันทร์เต็มดวง
Moon Palace /muːn ˈpælɪs/: วังพระจันทร์
the Moon boy /ðə muːn bɔɪ/: ผู้ชายบนพระจันทร์ ลุงกุย
magical banyan tree /ˈmæʤɪkəl ˈbænɪən triː/: ต้นไทร
lion dance /ˈlaɪən dɑːns/: การเชิดสิงโต
lantern /ˈlæntən/: ตะเกียง
five-pointed star-shaped lantern /faɪv-ˈpɔɪntɪd stɑː-ʃeɪpt ˈlæntən/: ตะเกียงดาว
carp-shaped lantern /kɑːp-ʃeɪpt ˈlæntən/: โคมปลาคาร์ฟ
mask /mɑːsk/: หน้ากาก
lantern parade /ˈlæntən pəˈreɪd/: ขบวนแห่โคม
คําศัพท์ภาษาอังกฤษ ห้องครัว
roasting pan /ˈrəʊ.stɪŋ pæn/ (n): กระทะย่าง (ใช้อบอาหารในเตาอบ)
dishtowel /dɪʃ taʊəl/ (n): ผ้าเช็ดจาน
refrigerator /rɪˈfrɪdʒ.ər.eɪ.təʳ/ (n): ตู้เย็น
freezer /ˈfriː.zəʳ/ (n): ช่องแช่แข็ง
ice tray /aɪs treɪ/ (n): ถาดน้ำแข็ง
cabinet /ˈkæb.ɪ.nət/ (n): ตู้ที่มีลิ้นชักมากมาย
microwave oven /ˈmaɪ.krəʊ.weɪv ˈʌv.ən/ (n): เตาอบไมโครเวฟ
mixing bowl /mɪksɪŋ bəʊl/ (n): ชามใบใหญ่สำหรับผสม
rolling pin /ˈrəʊ.lɪŋ pɪn/ (n): ไม้นวดแป้ง
cutting board /ˈkʌt.ɪŋ bɔːd/ (n): เขียง
counter /ˈkaʊn.təʳ/ (n): พื้นผิวสำหรับทำอาหาร
คําศัพท์ภาษาอังกฤษ กีฬา
Swimming/ˈswɪmɪŋ/ (n): ว่ายน้ำ
Ice-skating/ˈaɪs skeɪt/ (n) : สเก็ตน้ำแข็ง
water-skiing/ˈwɔːtərskiːɪŋ/ (n): สกีน้ำ
Hockey/ˈhɑːki/ (n): ฮอกกี้
High jump/ðə ˈhaɪ dʒʌmp/ (n): กระโดดสูง
Snooker/ˈsnuːkər/ (n): บิลเลียด
Boxing/ˈbɑːksɪŋ/ (n): มวย
Scuba diving/ˈskuːbə daɪvɪŋ/ (n): การดำน้ำ
Archery/ˈɑːrtʃəri/ (n): ยิงธนู
Windsurfing/ˈwɪndsɜːrfɪŋ/ (n): โต้คลื่น
คําศัพท์ภาษาอังกฤษ อาหารสด
Anchovy /ˈæntʃoʊvi/ (n): ปลากะตัก
Carp /kɑːrp/ (n): ปลาคาร์พ
Codfish /ˈkɑːdfɪʃ/ (n): ปลาทู
Salmon /ˈsæmən/ (n): ปลาแซลมอน
Goby /ˈɡoʊbi/ (n): ปลาบู่
Herring /ˈherɪŋ/ (n): ปลาเฮอริ่ง
Tuna-fish /’tju:nə fi∫/ (n): ปลาทูน่าทะเล
Eel /iːl/ (n): ปลาไหล
Shrimp /ʃrɪmp/ (n): กุ้ง
Crab /kræb/ (n): ปู
คําศัพท์ภาษาอังกฤษ อธิบายผู้คน
Aggressive /əˈɡrɛsɪv/ (adj): ก้าวร้าว
Ambitious /æmˈbɪʃəs/ (adj): ทะเยอทะยาน
Artful /ˈɑrtfl/ (adj): เจ้าเล่ห์
Bad-tempered /ˌbæd ˈtempərd/ (adj): อารมณ์ชั่ววูบ
Boastful /ˈboʊstfl/ (adj): อวด โอ้อวด
Boring /ˈbɔrɪŋ/ (adj): น่าเบื่อ เบื่อ
Bossy /ˈbɔsi/ (adj): เจ้ากี้เจ้าการ
Brave /breɪv/ (adj): กล้าหาญ
Calm /kɑm/ (adj): สงบ
Careful /ˈkɛrfl/ (adj): ระมัดระวัง
Careless /ˈkɛrləs/ (adj): สะเพร่า
คําศัพท์ภาษาอังกฤษ วิชาเอกกฎหมาย
Activism (judicial) /ˈæktɪvɪzəm/ (n): แง่บวกของผู้พิพากษา
Actus reus: ความเที่ยงธรรมของอาชญากรรม
Bail /beɪl/ (n): เงินค้ำประกัน
Bench trial: การพิจารณาคดีโดยผู้พิพากษา
Commit /kəˈmɪt/ (v): กระทำ (บาป ) ทำผิด
Crime /kraɪm/ (n): อาชญากร
Damages /ˈdæmɪdʒ/ (n): ค่าชดเชยความเสียหาย
Defendant /dɪˈfendənt/ (n): จำเลย
Grand jury /ˌɡrænd ˈdʒʊri/ (n): คณะลูกขุน
General Election /ˌdʒenrəl ɪˈlekʃn/ (n): การเลือกตั้งทั่วไป
คําศัพท์ภาษาอังกฤษ ประเทศ
VietNam /ˌvjɛtˈnɑːm /: เวียดนาม
England /ˈɪŋglənd/: อังกฤษ
ThaiLand /ˈtaɪlænd/: ประเทศไทย
India /ˈɪndɪə/: อินเดีย
Singapore /sɪŋgəˈpɔː/: สิงคโปร์
China /ˈʧaɪnə/: จีน
Japan /ʤəˈpæn/: ญี่ปุ่น
Combodia / Campuchia: กัมพูชา
Cuba /ˈkjuːbə/: คิวบา
France /ˈfrɑːns/: ฝรั่งเศส
คําศัพท์ภาษาอังกฤษ แมลง
Butterfly /ˈbʌt.ə.flaɪ/ (n): ผีเสื้อ
Moth /mɒθ/ (n): มอด หนอนผีเสื้อ
Caterpillar /ˈkæt.ə.pɪl.əʳ/ (n): หนอนผีเสื้อ
Giant water bug /ˈdʒaɪənt ˈwɔːtə bʌɡ/ (n): แมลงน้ำยักษ์
Stink bug /stɪŋk bʌɡ/ (n): มวนเหม็น
Cicada /səˈkɑːdə/ (n): จั๊กจั่น
Cockroach /ˈkɒk.rəʊtʃ/ (n): แมลงสาบ
Cricket /ˈkrɪk.ɪt/ (n): คริกเก็ต
Dragonfly /ˈdrægən flaɪ/ (n): แมลงปอ
Damselfly /ˈdæmzəl flaɪ/ (n): แมลงปอเข็มน้ำตก
คําศัพท์ภาษาอังกฤษ กองทัพ
Defense line: แนวป้องกัน
Declassification: การสูญเสียความลับ/การเปิดเผยความลับ
Drill /drɪl/ (n): ฝึกฝน
Drill-ground: สนามฝึกซ้อม
Drill-sergeant: จ่าซ้อม
Drumfire: การระดมยิงปืนใหญ่ (เตรียมพร้อมสำหรับการโจมตีของทหารราบ)
Drumhead court martial: การพิจารณาคดีทหารวิสามัญ (ด้านหน้า)
Front lines: แนวหน้า
Factions and parties: ฝ่าย
คําศัพท์ภาษาอังกฤษ ฟุตบอล
CM: Centre midfielder: ตัวกลาง
DM: Defensive midfielder: ตัวรับ
Winger: นักฟุตบอลที่เล่นในตำแหน่งปีก
Deep-lying playmaker: กองกลางแนวลึก
Striker: กองหน้า
Forwards (Left, Right, Center): กองหน้า
Leftback, Rightback: แบ็คซ้าย, แบ็คขวา
Fullback: ผู้เล่นที่สามารถเล่นในตำแหน่งใดก็ได้ในการป้องกัน
(Left, Right, Center) Defender: กองกลาง
Sweeper: นักเล่นฟุตบอลตำแหน่งกองหลัง
Goalkeeper: ผู้รักษาประตู
คําศัพท์ภาษาอังกฤษ ร้านค้า
Flea market /ˈfliː mɑːrkɪt/ (n): ตลาดนัด
Greengrocer /ˈɡriːnɡrəʊsər/ (n): ร้านขายผัก
Grocer (uk) / grocery store (us) (n): ร้านขายของชำ
Hardware store / ironmonger: ร้านขายอุปกรณ์
Market /ˈmɑːrkɪt/ (n): ตลาด
Newsagent /ˈnuːzeɪdʒənt/ (n): แผงหนังสือ (สำนักพิมพ์หนังสือพิมพ์)
Optician /ɑːpˈtɪʃn/ (n): ร้านแว่นตา
Petrol station (uk) / gas station (us): ปั๊มน้ำมัน
Petshop: ร้านขายสัตว์เลี้ยง
Pharmacy (us): ร้านขายยา
Stationer /ˈsteɪʃənər/ (n): ร้านเครื่องเขียน
คําศัพท์ภาษาอังกฤษ บ้านเกิด
Hill /hɪl/ (n): เนิน
Forest /ˈfɔːrɪst/ (n): ป่าไม้
Mountain /ˈmaʊntn/ (n): ภูเขา
River /ˈrɪvər/ (n): แม่น้ำ
Port /pɔːrt/ (n): ท่าเรือ
Lake /leɪk/ (n): ทะเลสาบ
Sea /siː/ (n): ทะเล
Sand /sænd/ (n): ทราย
Valley /ˈvæli/ (n): หุบเขา
Waterfall /ˈwɔːtərfɔːl/ (n): น้ำตก
ข้างต้นคือคำศัพท์ภาษาอังกฤษ 3000 คำทั่วไปตามหัวข้อต่าง ๆ รวมถึงคำแนะนำบางส่วนเพื่อให้คุณเรียนรู้คำศัพท์ได้ง่ายและนำไปใช้อย่างสะดวก โปรดบันทึกและแชร์เพื่อช่วยให้เพื่อน ๆ ของคุณพิชิตภาษาอังกฤษด้วยกันนะ! สุดท้าย อย่าลืมปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง เรียนรู้ทุกวัน คลังคำศัพท์ใหม่ของคุณก็จะสามารถพัฒนาได้อย่างรวดเร็ว และอย่าลืมเช็คคำศัพท์เก่าด้วยตัวเองเพื่อไม่ให้ลืมนะ!
ทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษมีความสำคัญมาก ส่งผลโดยตรงต่อผลการเรียนและการทำงานของคุณ แต่ว่า ไม่ใช่ใคร ๆ ก็รู้วิธีการเรียนภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร และใช้ประโยคภาษาอังกฤษทั่วไปได้อย่างยืดหยุ่น แตกต่างจากรูปแบบประโยคภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารสำหรับคนทำงาน ประโยคเพื่อการสื่อสารตามหัวข้อประจำวันจะเรียนรู้ได้ง่ายกว่าและเข้าถึงได้เร็วกว่าด้วย มาร่วมกับ ELSA Speak เพื่อเรียนรู้ประโยคภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารทั่วไปในบทความดังต่อไปนี้!
ประโยคภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารพื้นฐาน: หัวข้อ การทักทาย/Greeting
Hello | สวัสดี |
Good Morning | สวัสดีตอนเช้า |
Good Afternoon | สวัสดีตอนกลางวัน |
Good Evening | สวัสดีตอนเย็น |
Who is there? | นั่นคือใคร? |
Who are you? | คุณคือใคร? |
Are you Thailand? | คุณเป็นคนไทยหรือเปล่า? |
How are you? | สบายดีไหม? |
I am fine. Thank you | ฉันสบายดี ขอบคุณ |
Please, sit down | กรุณานั่งลง |
Sit here | นั่งที่นี่ |
Wait for me | รอฉันด้วย |
Wait a minute | รอแป๊บนึง |
Wait a moment | รอสักครู่ |
Come with me | ไปกับฉัน |
I am happy to make your acquaintance | ฉันดีใจมากที่ได้รู้จักคุณ |
I am very pleased to meet you | ฉันรู้สึกยินดีมากที่ได้พบคุณ |
Glad to meet you | ดีใจจังที่ได้พบคุณ |
Please come in | เชิญเข้ามาข้างใน |
Where are you coming from? | คุณมาจากที่ไหน? |
I don’t understand English well | ฉันไม่เข้าใจภาษาอังกฤษดีนัก |
You speak too fast | คุณพูดเร็วจัง |
Please speak more slowly | กรุณาพูดช้ากว่านี้หน่อย |
Does anybody here speak Thai? | มีใครที่นี่พูดภาษาไทยได้บ้าง? |
What do you wish? | คุณต้องการอะไร? |
I want to see you | ฉันอยากเจอคุณ |
Can I help you? | ฉันช่วยอะไรคุณได้บ้าง |
What is this called in English? | อันนี้ภาษาอังกฤษเรียกว่าอะไร? |
What does this word mean? | คำนี้หมายความว่าอย่างไร? |
Please repeat | กรุณาทำซ้ำ |
I know | ฉันรู้ |
I don’t know | ฉันไม่รู้ |
I’m afraid | ฉันกลัว |
I think so | ฉันคิดอย่างนั้น |
I don’t think so | ฉันไม่คิดอย่างนั้น |
Its seem to me | ดูเหมือนว่าถึงฉัน |
I have forgotten | ฉันลืมไปแล้ว |
How do you do? | คุณเป็นอย่างไรบ้าง? |
Very well, thank you. And you? | สบายดีมาก ขอบคุณ แล้วคุณล่ะ? |
I am fine. Thank you | ฉันสบายดี ขอบคุณ |
I am not very well | ฉันไม่ค่อยสบาย |
How is your wife? | ภรรยาคุณเป็นอย่างไรบ้าง? |
She is rather out of sorts | เธอไม่ค่อยสบาย |
She is sick | เธอป่วย |
I’m glad to meet you | ฉันดีใจที่ได้พบคุณ |
I’m sorry | ฉันขอโทษ |
Excuse me.. | ขอโทษ… |
I beg your pardon | กระผม/ดิฉันขอโทษครับ/ค่ะ! |
Please | โปรด.. |
Come this way, if you please | โปรดมาทางนี้เลย |
Pardon | ขอโทษ |
Pardon me | ยกโทษให้ฉัน |
Give me… | ให้ฉัน |
Bring me… | นำมาให้ฉัน |
Good luck | ขอให้โชคดี |
See you again | แล้วพบกันใหม่ |
Please repeat | กรุณาทำซ้ำ |
Please come in | เชิญเข้ามาข้างใน |
Please sit down | กรุณานั่งลง |
Please drink | เชิญดื่ม |
What do you say? | คุณพูดอะไร |
Don’t speak too fast | อย่าพูดเร็วเกินไป |
Where do you live? | คุณอาศัยอยู่ที่ไหน? |
You are very kind | คุณใจดีมากๆ |
How old are you? | คุณอายุเท่าไร? |
Who are you? | คุณคือใคร? |
Sit here | นั่งที่นี่ |
I know | ฉันรู้ |
I am in a hurry | ฉันกำลังรีบ |
I am very sorry | ฉันขอโทษมากๆ |
I have no time | ฉันไม่มีเวลา |
I must go | ฉันต้องไป |
What time is it now? | ตอนนี้กี่โมงแล้ว? |
How long have you been here? | คุณอยู่ที่นี่นานเท่าไหร่แล้ว? |
How many people? | มีกี่คน |
How far? | ไกลแค่ไหน? |
My husband is out | สามีของฉันออกไปข้างนอกแล้ว |
สรุปตัวอย่างประโยคคำถามภาษาอังกฤษและประโยคภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารในโรงแรมและร้านอาหาร ที่พบบ่อยที่สุด
ประโยคภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารทั่วไป: หัวข้อ การบอกลา/Saying Goodbye
Goodbye | ลาก่อน |
Goodnight | ราตรีสวัสดิ์ |
I’m afraid I have to be leaving now | ฉันเกรงว่าฉันต้องออกไปแล้ว |
See you next week | เจอกันอาทิตย์หน้า |
I think I should be going | ฉันคิดว่าฉันควรจะไป |
Well, I gotta go | ฉันต้องไปแล้ว |
See you later | แล้วพบกันใหม่ |
Take care | ดูแลตัวเองด้วยนะ |
See you again | เจอกันใหม่ |
Drop me a line | ส่งจดหมายให้ฉัน |
See you on Monday | เจอกันวันจันทร์นะ |
Have a nice weekend | ขอให้มีความสุขในวันหยุดสุดสัปดาห์ |
Give me a call sometime | ไว้โทรมาหากันบ้างนะ |
Please give my best regards to your mother | ฝากความคิดถึงของฉันไปให้คุณแม่คุณด้วยนะ |
Please say hello to John for me | โปรดทักทายจอห์นแทนฉัน |
Have a nice trip | เที่ยวให้สนุกนะ |
Good luck | ขอให้โชคดี |
See you this evening | เจอกันเย็นนี้ |
Have a good day | ขอให้เป็นวันที่ดี |
ประโยคภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารทั่วไป: หัวข้อ การแนะนำตัว
Please let me introduce myself. I’m Tan | ฉันขออนุญาตแนะนำตัวเอง ฉันชื่อตัน |
May I introduce myself, I’m Toy | ฉันขออนุญาตแนะนำตัวเอง ฉันชื่อทอย |
It’s a pleasure to make your acquaintance. My name is Earn | ฉันยินดีอย่างยิ่งที่ได้รู้จักคุณ ฉันชื่อ Earn |
Hello, It’s very nice to meet you, too | สวัสดี ยินดีที่ได้รู้จักคุณเช่นกัน |
I’m Thi. Nice to meet you, too | ฉันคือทิป ยินดีที่ได้พบคุณเช่นกัน |
Let me introduce my friend, mister Fha | ขอแนะนำเพื่อนฉัน คุณฟ้า |
I’m pleased to meet you | เป็นความกรุณาอย่างยิ่งที่ได้พบคุณ |
It’s a pleasure to meet you, Mr Air | ยินดีอย่างยิ่งที่ได้พบคุณแอร์ |
คุณอาจจะสนใจ:
- แนะนําตัวภาษาอังกฤษ – ตัวอย่าง IELTS Speaking Part 1
- Passive Voice: สูตร ตัวแปร และการใช้งานที่แม่นยำที่สุด (พร้อมแบบฝึกหัด)
- สรุปโครงสร้าง question tag และแบบฝึกหัด question tag
ประโยคภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารทั่วไป: หัวข้อ ขอบคุณ
Thanks | ขอบคุณ |
Cheers | ขอบคุณมาก |
Thank you very much | ขอบคุณมาก |
I really appreciate it | ฉันซาบซึ้งจริงๆ |
That’s so kind of you | คุณดีกับฉันมากเลย |
I am most grateful | ฉันรู้สึกขอบคุณอย่างยิ่ง |
Thanks a lot | ขอบคุณมาก |
It’s my pleasure | เป็นเกียรติของฉัน |
Don’t worry about it | ไม่ต้องเป็นห่วงนะ |
No problem | ไม่เป็นไร |
ประโยคภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารทั่วไป: หัวข้อ การขอโทษ
I’m so sorry | ฉันขอโทษ |
Pardon (me) | ยกโทษให้ฉัน |
Sorry, it was all my fault | ขอโทษ ทั้งหมดเป็นความผิดของฉัน |
Please excuse my ignorance | โปรดยกโทษให้กับความไม่รู้ของฉัน |
Please accept our sincerest apologies | โปรดยอมรับคำขอโทษอย่างจริงใจของฉัน |
My mistake, i had that wrong | ความผิดพลาดของฉัน ฉันผิดเอง |
คุณต้องการฝึกฟังภาษาอังกฤษตามหัวข้อ ด้วยการออกเสียงที่ถูกต้อง? มาดู คำแนะนำในการติดตั้งแพคเกจ ELSA Speak ตลอดชีพ ทันทีเลย
ประโยคภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารทั่วไป: หัวข้อ การชื่นชม
That’s a great idea | นั่นเป็นความคิดที่ดี |
Cool | ดีเยี่ยม |
That’s really nice | นั่นเป็นสิ่งที่ดีจริงๆ |
You did that very well | คุณทำได้ดีมาก |
That’s quite an improvement | ทำได้ดีขึ้นมากเลย |
You’re doing fine | คุณทำได้ดี |
Couldn’t have done it better myself | ไม่สามารถทำได้ดีกว่านี้ |
ประโยคภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารทั่วไป: การให้คำแนะนำ
I reckon you should stop now | ฉันคิดว่าคุณควรหยุดได้แล้ว |
In my experience… | จากประสบการณ์ของฉัน… |
As far as I’m concerned… | เท่าที่ฉันรู้… |
If you don’t mind me saying… | ถ้าคุณไม่รังเกียจที่ฉันพูด… |
I would strongly advise you to stop | ฉันขอแนะนำให้คุณหยุด |
If I were you, I’d stop now | ถ้าฉันเป็นคุณ ฉันจะหยุดเดี๋ยวนี้ |
>> ดูเพิ่มเติม: [รีวิวแบบละเอียด] ELSA Speak คืออะไร? แอปฝึกพูดภาษาอังกฤษสำหรับคนทำงานที่มีเวลาน้อย
ประโยคภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารทั่วไป: การขอความช่วยเหลือ
Can you give me a hand with this | คุณช่วยฉันด้วยสิ่งนี้ได้ไหม? |
I wonder if you could help me with this | ไม่แน่ใจว่า คุณจะช่วยฉันในเรื่องนี้หรือเปล่า |
I can’t manage, can you help | ฉันจัดการไม่ได้ คุณช่วยได้ไหม |
Could you spare a moment | ฉันขอเวลาสักครู่ได้ไหม? |
Could you help me out | คุณสามารถช่วยฉันได้ไหม? |
ประโยคคำถามภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารที่พบบ่อย
What’s up? | เป็นอย่างไรบ้าง? เกิดอะไรขึ้น? |
How’s it going? | เป็นอย่างไรบ้าง? |
What’s new? | มีอะไรใหม่บ้าง? |
What have you been up to lately? | ช่วงนี้คุณทำอะไรอยู่? |
Do you have any idea? | คุณมีความคิดอะไรไหม? |
ข้างต้นเป็นการรวบรวมตัวอย่างประโยคภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารแบบง่ายๆ ในหัวข้อทั่วไปในการทำงานและชีวิตประจำวัน แต่ว่า เพื่อปรับปรุงพื้นฐานภาษาต่างประเทศของตนเอง คุณต้องขยายคลังคำศัพท์และฝึกพูดภาษาอังกฤษมาตรฐานเจ้าของภาษาตามแผนภูมิสัทอักษรสากล IPA
หากคุณต้องการพัฒนาภาษาอังกฤษให้ดีขึ้นถึง 40% หลังจากฝึกฝนเพียง 10 นาทีต่อวัน คุณสามารถเลือกเข้าร่วมกับคอร์สเรียนภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารของ ELSA Speak ซึ่งเป็นหนึ่งในแอปพลิเคชันการเรียนรู้ภาษาอังกฤษชั้นนำ ที่ใช้ปัญญาประดิษฐ์เพื่อรู้จำเสียงพูดและแก้ไขข้อผิดพลาดในการออกเสียงทันที
นอกจากนี้ คุณจะได้ใช้พจนานุกรมฟรี ค้นหาทั้งความหมายและการทับศัพท์ของคำ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คุณสามารถค้นหาคำศัพท์ผ่านการออกเสียงหรือสแกนรูปภาพได้อีกด้วย
นอกจากนี้ ด้วยแอปพลิเคชัน ELSA Speak คุณสามารถฝึกออกเสียงคำศัพท์หลังจากค้นหาความหมายแล้ว วิธีการเรียนภาษาอังกฤษด้วยตนเองแบบนี้จะช่วยให้คุณเรียนรู้คำศัพท์ได้เร็วขึ้น รวมทั้งสามารถอ่านออกเสียงด้วยสำเนียงมาตรฐานเจ้าของภาษาได้ตั้งแต่เริ่มต้น จากนั้น ทักษะการสื่อสารของคุณจะดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
โดยเฉพาะ เมื่อติดตั้งแอปพลิเคชัน ELSA Speak คุณก็จะได้ทำบททดสอบก่อนเข้า โดยระบบจะให้คะแนนและชี้ให้ทราบว่า ทักษะไหนยังไม่ดีและต้องปรับปรุงเพิ่มเติม จากนั้นจะออกแบบเส้นทางการเรียนรู้เฉพาะบุคคลตามความสามารถของแต่ละคน
ตอนนี้ มีผู้ใช้มากกว่า 10 ล้านคนในประเทศไทยไว้วางใจ ELSA Speak แล้ว แล้วคุณล่ะ พร้อมที่จะสื่อสารภาษาอังกฤษด้วยสำเนียงมาตรฐานเจ้าของภาษากับ ELSA Speak หรือยัง?
ELSA Speak – TED – Siri/Google Assistant – BBC English
ตั้งเป้าหมายการเรียน – เรียนรู้คำศัพท์ในระดับที่เหมาะสม – ฟังแบบพาสซีฟ – ใช้คำศัพท์ในทางปฏิบัติ
ELSA Speak จะรวบรวมให้ทุกคนกว่า 220 ประโยคภาษาอังกฤษ ในชีวิตประจําวัน หรือ ประโยคภาษาอังกฤษ กิจวัตรประจําวันที่เจ้าของภาษาใช้บ่อยที่สุด ซึ่งประโยคเหล่านี้จะช่วยให้คุณมั่นใจมากขึ้น สื่อสารได้คล่องและเป็นธรรมชาติมากขึ้น มาร่วมกับ ELSA Speak เพื่อดูกันว่า มีรูปแบบประโยคเพื่อการสื่อสารอะไรบ้าง!
ประโยคภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารพื้นฐานที่ใช้ในการทักทาย
เพื่อความมั่นใจในการทักทายเป็นภาษาอังกฤษ คุณสามารถลองดูตัวอย่าง ประโยคภาษาอังกฤษ ดังต่อไปนี้:
ตัวอย่างประโยคภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารที่ใช้ในการทักทาย | ภาษาไทย |
---|---|
Hello!/ Hi! | สวัสดี |
Good morning/ Good afternoon/ Good evening! | สวัสดีตอนเช้า / สวัสดีตอนบ่าย / สวัสดีตอนเย็น |
Nice to meet you! | ยินดีที่ได้รู้จักคุณ |
It’s a pleasure meeting you! | ยินดีที่ได้พบคุณ |
It’s a pleasure being here today! | ช่างเป็นเกียรติที่ได้มาที่นี่ในวันนี้ |
Thank you for having me here today! | ขอบคุณที่เชิญฉันมาที่นี่ในวันนี้ |
Nice to see you again (today)! | ยินดีที่ได้พบคุณอีกครั้ง (วันนี้) |
Long time no see. | ไม่ได้เจอกันนานเลย |
It’s been a while. | ไม่ได้เจอกันนานเลย |
What have you been up to? | ช่วงนี้คุณทำอะไรอยู่ |
How are you doing? | เป็นยังไงบ้างแล้ว |
How’s life? | ช่วงนี้ ชีวิตของคุณเป็นยังไงบ้าง |
I’m fine/ alright. Thanks/ Thank you! | ฉันสบายดี ขอบคุณนะ |
Not too bad. Thanks/Thank you! | ก็ไม่เลวนะ ขอบคุณ |
Couldn’t be better. | ไม่สามารถดีกว่านี้ |
I’m doing fine/great. | ฉันสบายดี/ดีมาก |
Not so well. | ก็ไม่ดีนัก |
I’ve been quite/ very busy lately. | ช่วงนี้ฉันค่อนข้างยุ่ง/ยุ่งมาก |
How about you/ And you? | แล้วคุณล่ะ |
Thank you for spending your precious time with me today! | ขอบคุณที่ใช้เวลาอันมีค่าของคุณกับฉันในวันนี้ |
Can I offer you something to drink? | ฉันไปเอาเครื่องดื่มให้คุณนะ |
Would you like some coffee/ cake/…? | คุณอยากกินกาแฟ/เค้ก/… ไหม |
My pleasure. | ด้วยความยินดี |
Who are you here with? | คุณไปกับใคร |
Here’s my business card. | นี่คือนามบัตรของฉัน |
ประโยคภาษาอังกฤษ เพื่อการสื่อสารพื้นฐานที่ใช้ในการบอกลา
การจดจำรูปแบบ ประโยคภาษาอังกฤษ ทำให้คุณสามารถใช้ในบางสถานการณ์ชั่วคราวได้ แต่คุณยังต้องสร้างเส้นทางการเรียนรู้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารที่เหมาะสม เพื่อให้ตัวเองมีพื้นฐานภาษาอังกฤษที่มั่นคง และความสามารถในการตอบกลับอย่างรวดเร็วในทุกกรณี
จบการสนทนา
It was really nice meeting/ seeing you here today. | ดีใจที่ได้พบคุณที่นี่ในวันนี้ |
I had a really great time talking to you. | ฉันมีช่วงเวลาที่ดีมากที่ได้พูดคุยกับคุณ |
It’s been great talking to you, but I’ve got to get back to work. | คุยกับคุณสนุกดี แต่ฉันต้องกลับไปทำงาน |
Anyway, I think I should let you get back to your studying/ reading/ shopping/ … | อย่างไรก็ตาม ฉันคิดว่าฉันควรให้เธอเรียนต่อ/อ่านหนังสือต่อ/ซื้อของต่อ/… |
I really enjoy talking to you, but I think I should stop keeping you from your work. | ฉันชอบคุยกับคุณมาก แต่ฉันคิดว่า ฉันควรหยุดรบกวนการทำงานของคุณ |
Anyway, I don’t want to monopolize all your time. | อย่างไรก็ตาม ฉันไม่อยากผูกขาดเวลาทั้งหมดของคุณ |
I’m really glad to see you again, but I’m actually on my way to work/ a party/ an event/ a meeting/… | ฉันดีใจมากที่ได้พบคุณอีกครั้ง แต่จริงๆ แล้วฉันกำลังเดินทางไปทำงาน/งานเลี้ยง/งานกิจกรรม/การประชุม/… |
If you’ll excuse me, I just saw someone I want to catch up with. | ขออนุญาต ฉันเพิ่งเห็นคนที่ฉันกำลังมองหา |
พบกันใหม่
Let’s talk more another time! | ไว้เจอกันครั้งหน้าจะมาคุยกันใหม่นะ |
Would you like to meet again this Sunday/ next week/…? | คุณอยากเจอกันใหม่ในวันอาทิตย์นี้/สัปดาห์หน้า/… ไหม |
How about a coffee this Sunday/ next week/…? I really enjoy talking to you. | อาทิตย์นี้/สัปดาห์หน้า/… ไปกินกาแฟไหม? ฉันชอบคุยกับคุณมาก |
Shall we go for a drink this Sunday/ next week/…? | อาทิตย์นี้/อาทิตย์หน้า/… ไปกินกันไหม |
We can go for lunch/ dinner/ a drink/… this Sunday/ next week/… | เราไปกินอาหารกลางวัน/อาหารเย็น/เครื่องดื่ม/…วันอาทิตย์/สัปดาห์หน้า/…กัน |
Would you like to come to my place this Sunday/ next week/…? | คุณอยากมาบ้านฉันวันอาทิตย์นี้/สัปดาห์หน้า/…ไหม |
Do you have time this Sunday/ next week/…? | วันอาทิตย์นี้/สัปดาห์หน้า/…คุณพอมีเวลาไหม? |
>>> Read more: แล้วพบกันใหม่ ภาษาอังกฤษว่าอะไร? 50+ ประโยคบอกลาภาษาอังกฤษ
ขอข้อมูลการติดต่อ
Can I get/ have your number? | ฉันขอเบอร์โทรศัพท์ของคุณได้ไหม |
Are you on Facebook, Instagram or Whatsapp? | คุณใช้เฟสบุ๊ค อินสตาแกรม หรือวอทส์แอพไหม |
Should I add you on Facebook/ Instagram/ Whatsapp/…? | ฉันขอเป็นเพื่อนคุณบนเฟสบุ๊ค/อินสตาแกรม/วอทส์แอพ/… ได้ไหม |
การบอกลา
Goodbye! | ลาก่อน |
Bye! | บายนะ |
Good night! | ลาก่อน! สำหรับตอนเย็น (สาย) |
So long! | ลาก่อน |
See you! | เจอกันใหม่ |
ประโยคปรารถนา
ให้คำปรารถนา
Take care! | ดูแลตัวเองนะ |
Have a nice day! | ขอให้เป็นวันที่ดี |
Nice weekend! | ขอให้มีความสุขในวันหยุดสุดสัปดาห์ |
ตอบกลับ
You too! | คุณก็เช่นกันนะ |
The same to you! | คุณก็เช่นกันนะ |
ELSA Pro ไม่จำกัด
14,895 บาท -> 2,944 บาท
ELSA Premium 1 ปี
8,497 บาท -> 4,668บาท
รูปแบบ ประโยคภาษาอังกฤษ เพื่อการสื่อสารพื้นฐานที่ใช้ในการแนะนำตัว
รูปแบบ ประโยคภาษาอังกฤษ ต่อไปนี้ จะช่วยให้คุณแนะนำตัวเองเป็นภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่วมากขึ้น:
Now, I would like to introduce myself. | ตอนนี้ฉันอยากจะแนะนำตัวเอง |
Now, I would like to talk a little/ have a few words about myself. | ตอนนี้ฉันอยากจะแนะนำเล็กน้อยเกี่ยวกับตัวเอง |
Now, let me introduce myself. | ตอนนี้ให้ฉันแนะนำตัวเอง |
I’m [name]. You can also call me [nickname]. | ฉันชื่อ [ชื่อ] คุณสามารถเรียกได้ว่า [ชื่อเล่น] |
I’m from [hometown]. | ฉันมาจาก [บ้านเกิด] |
I was born in [hometown]. | ฉันเกิดใน [บ้านเกิด] |
I was born and grew up in [hometown]. | ฉันเกิดและเติบโตใน [บ้านเกิด] |
I’m a/ an [job/ position]. | ฉันเป็น [ชื่ออาชีพ/ตำแหน่งงาน] |
I’m working for/ at [company]. | ฉันทำงานให้กับ/ที่ [ชื่อบริษัท] |
I’ve been working for/ at [company] for [amount of time]. | ฉันทำงานให้กับ/ที่ [ชื่อบริษัท] เป็นเวลา [ระยะเวลา] |
I’m looking for a job. | ฉันกำลังหางาน |
I major in [major]. | ฉันเรียนวิชาเอก [ชื่อวิชาเอก] |
My major is [major]. | วิชาเอกของฉันคือ [ชื่อวิชาเอก] |
I go to [school/ university/ college]. | ฉันเรียน [ชื่อโรงเรียน/ มหาวิทยาลัย/ วิทยาลัย] |
I’m a freshman/ sophomore/ junior/ senior at [university/ college]. | ฉันเป็นนักศึกษาปีหนึ่ง/ ปีที่สอง/ ปีที่สาม/ ปีสุดท้ายที่ [ชื่อมหาวิทยาลัย/วิทยาลัย] |
I live in [district/ province/ city]. | ฉันอาศัยอยู่ใน [อำเภอ/ จังหวัด/ เมือง] |
There are … members in my family. | มี…สมาชิกในครอบครัวของฉัน |
I come from a family of … members. | ฉันมาจากครอบครัวที่มี … สมาชิก |
I’m an only child. | ฉันเป็นลูกคนเดียว |
My hobbies are [V-ing/ noun (phrase)]. | รายการโปรดของฉันคือ [V-ing/ (วลี) คำนาม] |
I’m interested in [V-ing/ noun (phrase)]. | งานอดิเรกของฉันคือ [V-ing/ (วลี) คำนาม] |
I enjoy [V-ing/ noun (phrase)]. | ฉันชอบ [V-ing/ (วลี) คำนาม] |
I’m a big fan of [V-ing/ noun (phrase)]. | ฉันเป็นแฟนตัวยงของ [V-ing/ (วลี) คำนาม] |
I have a great interest in [V-ing/ noun (phrase)]. | ฉันมีความสนใจอย่างมากใน [V-ing/ (วลี) คำนาม] |
I have a great passion for [V-ing/ noun (phrase)]. | ฉันมีความหลงใหลอย่างมากสำหรับ [V-ing/ (วลี) คำนาม] |
I (always) hope [to-V(bare)]. | ฉัน (มักจะ) หวังว่า [to-V(ต้นแบบ)] |
I (always) dream of [V-ing/ noun (phrase)]. | ฉัน (มักจะ) ฝันถึง V-ing/ (วลี) คำนาม] |
My goal(s) is/ are [V-ing]. | เป้าหมายของฉันคือ [V-ing/ (วลี) คำนาม] |
That’s some interesting information about me. Thank you for listening! | นั่นคือข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับฉัน ขอขอบคุณที่รับฟัง |
That’s some information I would like to share about myself. Thank you for listening! | นั่นคือข้อมูลบางอย่างที่ฉันอยากจะแบ่งปันเกี่ยวกับตัวฉันเอง ขอขอบคุณที่รับฟัง |
รูปแบบ ประโยคภาษาอังกฤษ เพื่อการสื่อสารพื้นฐานเกี่ยวกับการขอบคุณและขอโทษ
การเรียนรู้รูปแบบประโยคควบคู่ไปกับคำศัพท์ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร จะช่วยให้คุณจำคำศัพท์เหล่านั้นได้นานขึ้น โดยการรวมคำศัพท์เป็นประโยคหรือย่อหน้า และนำไปใช้ในสถานการณ์ต่างๆ มาดูรูปแบบ ประโยคภาษาอังกฤษ เกี่ยวกับการขอบคุณและขอโทษกันเลย
ประโยคขอบคุณ
Thanks! | ขอบคุณ |
Thanks a lot! | ขอบคุณมาก |
Many thanks! | ขอบคุณมาก |
Thanks a bunch! | ขอบคุณมาก |
Thank you very/ so much! | ขอบคุณมากๆ |
Thank you (so/ very much) for [V-ing/ noun (phrase)]! | ขอบคุณ (มาก) สำหรับ + [V-ing/ (วลี) คำนาม] |
I really appreciate it! | ฉันซาบซึ้งจริงๆ |
I really appreciate your [noun (phrase)]! | ฉันซาบซึ้งจริงๆ เกี่ยวกับ [(วลี) คำนาม] |
I’m grateful for having you as my friend/ co-worker/ boss/ teacher/…! | ฉันขอบคุณมากที่มีเพื่อน/เพื่อนร่วมงาน/เจ้านาย/ครู/… เหมือนกับคุณ |
There are no words to express my appreciation! | ไม่มีคำพูดใดสามารถแสดงความชื่นชมของฉันได้ |
Thanks in advance! | ขอบคุณก่อนนะ |
You are so kind! | คุณเป็นคนดีมาก |
I owe you. | ฉันเป็นหนี้คุณ |
You did help me a lot. | คุณช่วยฉันได้มาก |
I highly value your contribution to the company. | ฉันขอขอบคุณการมีส่วนร่วมของคุณกับบริษัท |
ประโยคขอโทษ
Sorry. | ขอโทษ |
I’m (so) sorry. | ฉันขอโทษ |
Sorry for [V-ing/ noun (phrase)]. | ขอโทษสำหรับ [V-ing/ (วลี) คำนาม] |
Sorry, I didn’t mean to do that. | ขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจทำอย่างนั้น |
I (truly) apologize for [V-ing/ noun (phrase)]. | ฉันขอโทษ (อย่างจริงใจ) เกี่ยวกับ [V-ing/ (วลี) คำนาม] |
Please accept my apology. | โปรดยอมรับคำขอโทษของฉัน |
Please accept my apology for [V-ing/ noun (phrase)]. | โปรดยอมรับคำขอโทษของฉันสำหรับ [V-ing/ (วลี) คำนาม] |
>>> Read more:
- 11 วิธีพูด Thank you – ขอบคุณภาษาอังกฤษที่สมบูรณ์ที่สุด
- +50 ประโยคขอโทษภาษาอังกฤษอย่างจริงใจที่สุด คุณไม่ควรพลาด
ประโยคภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารที่ใช้ในการให้คำแนะนำ
You should [V(bare)]… | คุณควร [V(ต้นแบบ)]… |
You shouldn’t [V(bare)]… | คุณไม่ควร [V(ต้นแบบ)]… |
I think you should [V(bare)]… | ฉันคิดว่าคุณควร [V(ต้นแบบ)]… |
I don’t think you should [V(bare)]… | ฉันไม่คิดว่าคุณควร [V(ต้นแบบ)]… |
If I were you, I would [V(bare)]… | ถ้าฉันเป็นคุณ ฉันจะ [V(ต้นแบบ)]… |
You can try [V-ing]… | คุณสามารถลอง [V-ing]… |
How/ What about [V-ing/ noun (phrase)]? | คุณรู้สึกยังไงกับ [V-ing/ (วลี) คำนาม] |
Why don’t you [V(bare)]…? | ทำไมคุณไม่ [V(ต้นแบบ)]… |
I suggest [V-ing]… | ฉันขอเสนอ [V-ing]… |
I recommend [V-ing]… | ฉันขอแนะนำ [V-ing]… |
(I think) it’s good idea [to-V(bare)]… | (ฉันคิดว่า) เป็นความคิดที่ดีที่จะ [to-V(ต้นแบบ)]… |
My suggestion is [to-V(bare)]… | ข้อเสนอของฉันคือ [to-V(ต้นแบบ)]… |
In my experience, [V-ing/ noun (phrase)] works (very) well. | ตามประสบการณ์ของฉัน [V-ing/ (วลี) คำนาม] มีประสิทธิภาพ (มาก) |
One idea is [to-V(bare)]… | ความคิดหนึ่งคือ [to-V(ต้นแบบ)]… |
One thing you can try is [to-V(bare)]… | สิ่งหนึ่งที่คุณสามารถลองได้คือ [to-V(ต้นแบบ)]… |
One thing you should do is [to-V(bare)]… | สิ่งหนึ่งที่ควรทำคือ [to-V(ต้นแบบ)]… |
Have you thought about [V-ing]? | คุณคิดเกี่ยวกับ [V-ing] แล้วหรือยัง? |
Make sure you (don’t) [V(bare)]… | ให้แน่ใจว่าคุณ (ไม่) [V(ต้นแบบ)]… |
[V-ing/ noun (phrase)] is worth a try. | [V-ing/ (วลี) คำนาม] คุ้มค่าที่จะลอง |
The sooner you [V(bare)] the better. | ยิ่งคุณ [V(เปลือย)] เร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งดีเท่านั้น |
ประโยคภาษาอังกฤษ เพื่อการสื่อสารพื้นฐานเมื่อยื่นข้อเสนอให้ความช่วยเหลือ
ตัวอย่างประโยคภาษาอังกฤษเพื่อสื่อสารเมื่อยื่นข้อเสนอให้ความช่วยเหลือ | ภาษาไทย |
---|---|
I’ll [V(bare)]… | ฉันจะ [V(ต้นแบบ)]… |
Let me [V(bare)]… | ให้ฉัน [V(ต้นแบบ)]… |
Do you want me [to-V(bare)]…? | คุณต้องการให้ฉัน [to-V(ต้นแบบ)]…? |
Would you like me [to-V(bare)]…? | คุณต้องการให้ฉัน [to-V(ต้นแบบ)]…? |
Shall I [V(bare)]…? | ฉัน [V(ต้นแบบ)]… นะ? |
Can I [V(bare)]… (for you)? | ฉันสามารถ [V(ต้นแบบ)]… (สำหรับคุณ) ได้ไหม? |
May I [V(bare)]… (for you)? | ฉันสามารถ [V(ต้นแบบ)]… (สำหรับคุณ) ได้ไหม? |
I’d be happy [to-V(bare)]… | ฉันยินดี [to-V(ต้นแบบ)]… |
I’d be glad to help you with [V-ing/ noun (phrase)]. | ฉันยินดีที่จะช่วยคุณเกี่ยวกับ/กับ [V-ing/ (วลี) คำนาม] |
Can I help you? | ฉันช่วยคุณได้ไหม |
May I help you? | ฉันช่วยคุณได้ไหม (เป็นทางการมากกว่า) |
Is there anything I can do for you? | มีอะไรที่ฉันสามารถทำให้คุณไหม? |
How can I help you? | ฉันจะช่วยคุณได้อย่างไร? |
What can I do for you? | ฉันจะทำอะไรให้คุณได้บ้าง |
Do you need help? | คุณต้องการความช่วยเหลือไหม? |
Do you need a hand? | คุณต้องการความช่วยเหลือไหม? |
Let me know if you need help. | แจ้งให้เราทราบเมื่อคุณต้องการความช่วยเหลือ |
Please let me know if I can be of any help. | แจ้งให้เราทราบหากฉันสามารถช่วยคุณได้ (เป็นทางการมากกว่า) |
ประโยคภาษาอังกฤษพื้นฐานในการถามและบอกทาง
*หมายเหตุ: เราจะเติมคำนาม (วลี) ของที่อยู่/สถานที่/ชื่อถนน อำเภอ ฯลฯ ใน “…”
คำถาม
ตัวอย่างประโยคภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารเกี่ยวกับการขอทาง | ภาษาไทย |
---|---|
Excuse me, could you tell me how to get to…? | ขออนุญาต ช่วยบอกทางไปถึง…ได้ไหม |
Excuse me, could you show me the way to…? | ขออนุญาต ช่วยบอกทางไปถึง…ได้ไหม |
Excuse me, do you know where the… is? | ขออนุญาต คุณรู้ไหมว่า… อยู่ที่ไหน |
Excuse me, do you know how to get to…? | ขออนุญาต คุณรู้ทางไปที่… ไหม |
Excuse me, I’m looking for… | ขออนุญาต ฉันกำลังมองหา… |
Is this the right way to…? | นี่คือทางไปที่…ใช่ไหม |
Is this the bus/ train/… for [district/city/…]? | นี่คือรถเมล์/รถไฟ/… ไปถึง [อำเภอ/เมือง/…] ใช่ไหม |
I think I’m lost. | ฉันคิดว่าฉันหลงทางแล้ว |
Where is the nearest…, please? | (สถานที่ที่อยากถาม)… ที่ใกล้ที่สุดคือที่ไหน |
ตอบกลับ
ตัวอย่างประโยค | ภาษาไทย |
---|---|
I’m sorry. I don’t know. | ขอโทษ ฉันไม่รู้ |
Sorry, I’m not from around here. | ขอโทษ ฉันไม่ใช่คนแถวนี้ |
Sorry, I don’t live here. | ขอโทษ ฉันไม่ได้อาศัยอยู่ที่นี่ |
Sorry, I’m a tourist. | ขอโทษ ฉันเป็นนักท่องเที่ยว |
Sure. | แน่นอนสิ |
No problem. | ไม่เป็นไร |
บอกทาง
ตัวอย่างประโยค | ภาษาไทย |
---|---|
It’s right there. | มันอยู่ที่นั่น |
It’s over there. | มันอยู่ที่นั่น |
It’s this way. | มันอยู่ในทิศ/ทางนี้ |
It’s that way. | มันอยู่ในทิศ/ทางนั้น |
Oh, you’re going the wrong way. | โอ้ คุณกำลังไปผิดทางแล้ว |
You’re going in the wrong direction. | คุณกำลังไปผิดทางแล้ว |
First, go straight ahead. | ก่อนอื่น ให้ตรงไปข้างหน้า |
First, take this road. | ไปทางนี้ก่อน |
Then, take the first on the left/ right. | จากนั้นเลี้ยวซ้าย/ขวาที่โค้งแรก |
After that, take the second on the left/ right. | จากนั้นเลี้ยวซ้าย/ขวาที่แยกที่สอง |
Keep going straight until you see… | ตรงไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะเจอ… |
Go past the… on the left/ right. | ผ่าน… ทางซ้าย/ขวา |
Turn left/ right into… | เลี้ยวซ้าย/ขวา ไปที่… (ถนน) |
At the first/ second/… intersection, | ที่สี่แยกที่หนึ่ง/ ที่สอง/ … |
At the first/ second/… roundabout, | ที่วงเวียนที่หนึ่ง/ ที่สอง/ … |
At the first/ second/… traffic light, | ที่สัญญาณไฟจราจรที่หนึ่ง/ ที่สอง/ … |
>>> Read more: หัวข้อบอกทางภาษาอังกฤษ: วิธีถาม คำศัพท์ ตัวอย่างประโยคที่พบบ่อยที่สุด
รูปแบบ ประโยคภาษาอังกฤษ เพื่อการสื่อสารที่ใช้ในหัวข้อสำนักงาน
ทำงานวันแรก
ตัวอย่างประโยคภาษาอังกฤษเพื่อสื่อสารในวันแรกของการทำงาน | ภาษาไทย |
---|---|
I’m very happy to be a part of… | ฉันดีใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของ… |
I hope we will have a good time working together. | ฉันหวังว่าเราจะมีช่วงเวลาที่ดีในการทำงานร่วมกัน |
I’m always willing to learn and receive feedback. | ฉันยินดีที่จะเรียนรู้และรับข้อเสนอแนะอยู่เสมอ |
I’m looking forward to working with you. | ฉันรอคอยที่จะได้ร่วมงานกับคุณ |
ดูตัวอย่างวิดีโอการสนทนาเกี่ยวกับการทำงานวันแรก
การสื่อสารกับเพื่อนร่วมงาน
Can/ Could you help me with this report/ contract/ quotation/…? | คุณสามารถช่วยฉันเกี่ยวกับรายงาน/สัญญา/ใบเสนอราคา/… นี้ได้ไหม |
Are you available for a meeting/ discussion/… this afternoon/ tomorrow morning/…? | คุณพร้อมที่จะประชุม/อภิปราย/… บ่ายนี้/ พรุ่งนี้เช้า/… ไหม |
Have you completed your task? | คุณทำงานของคุณเสร็จแล้วหรือยัง |
I completely/ absolutely agree with you. | ฉันเห็นด้วยกับคุณ |
That’s a good/ creative/ bold/… idea. | มันเป็นไอเดียที่ดี/สร้างสรรค์/กล้าได้กล้าเสีย/… |
Let’s get down to the business, shall we? | ลงไปที่ธุรกิจกันเถอะ |
I need to discuss some problems with you. | ฉันต้องการปรึกษาปัญหาบางอย่างกับคุณ |
We need more figures and information. | เราต้องการตัวเลขและข้อมูลเพิ่มเติม |
สื่อสารกับผู้บังคับบัญชา
I apologize for being late. I got stuck in traffic. | ฉันขอโทษที่มาสาย ฉันตกรถติด |
May I take this Monday/ next Friday/… off? | ฉันขอหยุดวันจันทร์นี้/ วันศุกร์หน้า/… ได้ไหม |
I’m afraid I’m not well and won’t be able to come in today. | ฉันเกรงว่าจะไม่สบายและไม่สามารถไปทำงานได้ในวันนี้ |
Here is the report/ … you need, sir/ m’am. | นี่คือรายงาน/… ที่คุณต้องการ |
I’ve left the file on your desk, sir/ m’am. | ฉันทิ้งเอกสารไว้บนโต๊ะแล้ว คุณ/นายท่าน |
Could I have some feedback on my report/… ? | ฉันขอข้อเสนอแนะเกี่ยวกับรายงานของฉัน/… ได้ไหม |
May I ask you some questions? | ฉันขอถามคำถามได้ไหม |
I have some questions to ask. May I take some of your time? | ฉันมีคำถามบางอย่าง ฉันขอเวลาของคุณสักหน่อยได้ไหม |
นอกจากรูปแบบประโยคข้างต้นแล้ว คุณยังสามารถอ้างอิงจากแหล่งอื่นๆ เช่น หนังสือเรียนภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร หรือแอพการเรียนรู้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับรูปแบบประโยคภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารในหัวข้ออื่นๆ อีกเช่นกัน
ประโยคคำถามภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารที่พบบ่อย
1. What’s your name? (คุณชื่ออะไร)
→ I’m…(ฉันชื่อ…)
→ My name is…(ฉันชื่อ…)
2. How old are you?(คุณอายุเท่าไร)
→ I’m… years old.(ฉันอายุ … )
3. Where’s your hometown?(บ้านเกิดของคุณอยู่ที่ไหน)
→ My hometown is [city/ province/…].(บ้านเกิดของฉันคือ [ชื่อเมือง/จังหวัด/…].)
4. Where do you live? (คุณอาศัยอยู่ที่ไหน)
→ I live in [district].(ฉันอาศัยอยู่ใน [ชื่อเขต])
5. What’s your job?/ What do you do?(คุณมีอาชีพอะไร? คุณทำงานอะไร)
→ I’m a/an [job/ position].(ฉันเป็น [ชื่ออาชีพ/ตำแหน่งงาน])
6. What do you do in your free time? (ในเวลาว่างคุณทำอะไร)
→ I [V(bare)]… (ฉัน [V(ต้นแบบ)]…)
7. What are your interests/ hobbies? (งานอดิเรกของคุณคืออะไร)
→ I like [V-ing/ noun (phrase)]. (ฉันชอบh [V-ing/ (วลี) คำนาม])
8. What’s your favorite movie/ book/…? (หนัง/หนังสือเรื่องโปรดของคุณ/…คืออะไร)
→ I like/ love… (ฉันชอบ … (มาก))
→ I’m a (big) fan of… (ฉันเป็นแฟน (ตัวยง) ของ…)
9. Who’s your favorite celebrity? (ดาราคนโปรดของคุณคือใคร)
→ I like/ love… (ฉันชอบ … (มาก))
→ I’m a (big) fan of… (ฉันเป็นแฟน (ตัวยง) ของ…)
10. What’s your favorite food? (อาหารที่ชื่นชอบของคุณคืออะไร)
→ I like/ love… (ฉันชอบ … (มาก))
11. What’s your favorite drink? (คุณชอบดื่มอะไร)
→ I like/ love… (ฉันชอบ … (มาก))
12. Are you allergic to anything? (คุณแพ้อะไรหรือเปล่า)
→ Sadly, yes. I’m allergic to… (น่าเศร้าคือใช่นะ ฉันแพ้กับ…)
13. Do you usually cook or eat out? (ปกติคุณทำอาหารหรือทานอาหารนอกบ้าน)
→ I usually [V(bare)]. (ฉันมักจะ [V(ต้นแบบ)])
14. How many people are there in your family? (ครอบครัวของคุณมีกี่คน)
→ There are… people in my family. (มี…คนในครอบครัวของฉัน)
15. Whom are you closest to in your family? (คุณสนิทกับใครในครอบครัวมากที่สุด)
→ I’m closest to my… (ฉันสนิทที่สุดกับ…)
16. How do you spend time with your family? (คุณใช้เวลากับครอบครัวอย่างไร)
→ I usually [V(bare)] with my family. (ฉันมักจะ [V(ต้นแบบ)] กับครอบครัวของฉัน)
17. What are your co-workers like? (บุคลิกของเพื่อนร่วมงานของคุณเป็นอย่างไร)
→ They are [adjective(s)]. (พวกเขา [คำคุณศัพท์])
18. What is your boss like? (เจ้านายของคุณเป็นอย่างไร)
→ He/ She is [adjective(s)]. (เขา [คำคุณศัพท์])
ELSA Speak ได้แชร์กว่า 220 ประโยคภาษาอังกฤษพื้นฐานในชีวิตประจําวันหรือประโยคภาษาอังกฤษกิจวัตรประจําวันที่ใช้บ่อยที่สุดให้กับทุกคนแล้ว ขอให้ทุกคนตั้งใจเรียนให้ดีอยู่เสมอ และบรรลุผลลัพธ์ที่ดีในกระบวนการพิชิตการสื่อสารภาษาอังกฤษของคุณ!
ประโยคเงื่อนไข If Clause (conditional sentence) เป็นหัวข้อไวยากรณ์ที่สำคัญในภาษาอังกฤษ ไม่ว่าคุณจะเป็นนักศึกษามัธยมปลาย หรือคนทำงานที่กำลังเรียนภาษาอังกฤษเพื่อการทำงาน แน่ใจว่า คุณเคยได้ยิน “ประโยคเงื่อนไข”, “If Clauses”… อย่างน้อยหนึ่งครั้ง ใช่ไหม? แต่คุณมีความรู้และสามารถใช้ไวยากรณ์ประเภทนี้ได้อย่างคล่องแคล่วหรือไม่?
ในบทความที่แล้ว เราได้เรียนรู้วิธีการแยกแยะประโยคเงื่อนไข If Clause แบบที่ 1 และแบบที่ 2 แล้ว
ในบทความวันนี้ ELSA Speak จะแบ่งปันโครงสร้าง วิธีใช้ และแบบฝึกหัดประยุกต์ใช้ประโยคเงื่อนไขแบบที่ 0, 1, 2, 3 และแบบผสมในภาษาอังกฤษ พร้อมหมายเหตุสำคัญในการใช้ประโยคเงื่อนไข
ประโยคเงื่อนไข If Clause คืออะไร?
คำนิยาม: ประโยคเงื่อนไข If Clause (Conditional Sentence) เป็นประโยครูปแบบหนึ่งที่ใช้แสดงสมมติฐานว่า เมื่อมีสิ่งใดเกิดขึ้นหรือไม่เกิดขึ้น แล้วนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ตามมา
ประโยคเงื่อนไขสรุปมีโครงสร้างเป็นประโยคที่ซับซ้อน ประกอบด้วยประโยคย่อย 2 ประโยค ได้แก่:
- ประโยคหนึ่งขึ้นต้นด้วยคำว่า “If” – “ถ้า” อธิบายสมมติฐานเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นหรือไม่เกิดขึ้น ประโยคนี้เรียกว่า “if clause”
- อีกประโยคหนึ่งอธิบายผลลัพธ์ที่ตามมา ประโยคนี้เรียกว่า “main clause” – “ประโยคใจความหลัก”
โดยปกติแล้ว ประโยคที่ขึ้นต้นด้วย “if” จะอยู่ต้นประโยค ควรมีเครื่องหมายจุลภาคระหว่าง 2 ประโยค อย่างไรก็ตาม เรายังสามารถให้อนุประโยคที่ขึ้นต้นด้วย “if” ไว้ข้างหลังได้อีกด้วย โดยไม่มีเครื่องหมายจุลภาคระหว่าง 2 ประโยค
ตัวอย่างเช่น: If we had more money, we would buy that house.
→ ถ้าพวกเรามีเงินมากกว่านี้ พวกเราจะซื้อบ้านหลังนั้น
We would buy that house if we had more money.
→ พวกเราจะซื้อบ้านหลังนั้นถ้าพวกเรามีเงินมากกว่านี้
วิเคราะห์: “พวกเรามีเงินไม่มากและไม่ได้ซื้อบ้านหลังนั้น.” ประโยคเงื่อนไข 2 ประโยคข้างต้นเป็นประโยคเงื่อนไขแบบที่ 1 สมมติฐานเกี่ยวกับสิ่งที่ไม่จริงในปัจจุบัน
โครงสร้าง If Clause ในภาษาอังกฤษ
รูปแบบประโยคเงื่อนไข | If clause | Main clause |
---|---|---|
แบบที่ 0 | If + S+ V(-s/es) +…, | S+ V(-s/es) +… |
แบบที่ 1 | If + S+ V(-s/es) +…, | S+ will + V(bare) +… |
แบบที่ 2 | If + S+ V2/Ved +…, | S+ would/could/… + V(bare) +… |
แบบที่ 3 | If + S+ had + V3/Ved + …, | S+ would/could/… + have + V3/Ved + … |
แบบผสม If 3 – Main 2 | If + S+ had + V3/Ved + …, | S+ would/could/… + V(bare) +… |
แบบผสม If 2 – Main 3 | If + S+ V2/Ved +…, | S+ would/could/… + have + V3/Ved + … |
ประโยคเงื่อนไขแบบที่ 0 (zero conditional)
คำนิยาม: ประโยคเงื่อนไขแบบที่ 0 คือรูปแบบประโยคที่ใช้ในการแสดงความจริงตามธรรมชาติเกี่ยวกับโลก สังคม ธรรมชาติ ฯลฯ หรือลักษณะทั่วไป อุปนิสัยใจคอของบุคคลใดบุคคลหนึ่ง
ตัวอย่างที่ 1: If you heat ice, it melts.
→ ถ้าคุณให้ความร้อนกับน้ำแข็ง มันจะละลาย
วิเคราะห์: นี่คือความจริงตามธรรมชาติเกี่ยวกับธรรมชาติและวิทยาศาสตร์
โครงสร้างประโยคเงื่อนไขแบบที่ 0:
If clause | Main clause |
---|---|
If + S+ V(-s/es) +… | S+ V(-s/es) +… |
ดูรายละเอียดโครงสร้างประโยคเงื่อนไขแบบที่ 0 ในรูปต่อไปนี้:
หมายเหตุ:
- คำว่า ‘verb’ ในตารางโครงสร้างด้านบนบ่งชี้ถึงกริยา infinitive
- ขึ้นอยู่กับกรณี if clause และ main clause สามารถใช้ to-be หรือกริยาปกติได้อย่างยืดหยุ่น ไม่จำเป็นว่าประโยคใช้ to-be/กริยาปกติ จะต้องมาพร้อมกับประโยคที่ใช้ to-be/กริยาปกติ
- เราสามารถเลื่อน if clause ไปหลัง main clause ได้ แต่จะไม่มีเครื่องหมายจุลภาคระหว่าง 2 ประโยค
ตัวอย่างที่ 1: If you pour oil into water, it floats.
→ ถ้าคุณเทน้ำมันลงในน้ำ มันจะลอย
ตัวอย่างที่ 2: My baby sister cries loudly if she is hungry.
→ น้องสาวของฉันร้องเสียงดัง ถ้าเธอหิว
ประโยคเงื่อนไขแบบที่ 1
คำนิยาม: ประโยคเงื่อนไขแบบที่ 1 เป็นรูปแบบประโยคที่ใช้ในการแสดงเงื่อนไขที่สามารถเกิดขึ้นในปัจจุบันหรือในอนาคต ซึ่งนำไปสู่ผลลัพธ์ในอนาคต
ตัวอย่างเช่น: If I win this competition, my parents will be proud.
→ ถ้าฉันชนะการแข่งขันนี้ พ่อแม่จะภูมิใจ
วิเคราะห์: ปัจจุบันตัวละคร “ฉัน” ยังไม่ชนะการแข่งขัน แต่ถูกตั้งสมมุติว่า ถ้าบุคคลนี้ชนะ บางสิ่งจะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งก็คือ “พ่อแม่จะภูมิใจ”
โครงสร้างประโยคเงื่อนไขแบบที่ 1:
If clause | Main clause |
---|---|
If + S+ V(-s/es) +… | S+ will + V(bare) +… |
ดูรายละเอียดโครงสร้างประโยคเงื่อนไขแบบที่ 1 ในรูปต่อไปนี้:
หมายเหตุ:
- คำว่า ‘verb’ ในตารางโครงสร้างด้านบนบ่งชี้ถึงกริยา infinitive
- ขึ้นอยู่กับกรณี if clause และ main clause สามารถใช้ to-be หรือกริยาปกติได้อย่างยืดหยุ่น ไม่จำเป็นว่าประโยคใช้ to-be/กริยาปกติ จะต้องมาพร้อมกับประโยคที่ใช้ to-be/กริยาปกติ
- เราสามารถเลื่อน if clause ไปหลัง main clause ได้ แต่จะไม่มีเครื่องหมายจุลภาคระหว่าง 2 ประโยค
ตัวอย่างที่ 1: If you are tired, I will make you some soup.
→ ถ้าคุณเหนื่อย ฉันจะทำซุปให้คุณ
ตัวอย่างที่ 2: They will be mad if they know about your mistake.
→ พวกเขาจะโกรธ ถ้ารู้ความผิดพลาดของคุณ
ประโยคเงื่อนไขแบบที่ 2
คำนิยาม: ประโยคเงื่อนไขแบบที่ 2 เป็นรูปแบบประโยคที่ใช้ในการแสดงสมมติฐานที่ไม่เป็นความจริงในปัจจุบัน และนำไปสู่ผลที่ไม่เป็นความจริงในปัจจุบันด้วย
ตัวอย่างเช่น: If Sarah had a car, she could commute conveniently.
→ ถ้าซาร่าห์มีรถยนต์ เธอก็สามารถเดินทางได้สะดวก
วิเคราะห์: อันที่จริง ตอนนี้ซาร่าไม่มีรถยนต์ และเธอไม่สามารถไปไหนมาไหนได้สะดวก
- พิเศษ: เมื่อประโยคเงื่อนไขอยู่ในรูปแบบ: ‘If I were you’ ผู้พูดกำลังใช้ประโยคเงื่อนไขแบบที่ 2 เพื่อสมมุติในการให้คำแนะนำในรูปแบบ: “ถ้าฉันเป็นคุณ ฉันจะ…” ในกรณีนี้ เฉพาะ ประโยคเงื่อนไขเท่านั้นที่ตั้งสมมติฐานที่ตรงกันข้ามกับความเป็นจริง: “ถ้าฉันเป็นคุณ” (อันที่จริงฉันไม่ใช่คุณ) ส่วน main clause “ฉันจะ/จะไม่…” เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับสิ่งที่ “you” ควรหรือไม่ควรทำ แทนที่จะตั้งสมมติฐานที่ตรงกันข้ามกับปัจจุบัน ณ เวลาที่พูด ผู้ได้รับคำแนะนำยังไม่ได้ดำเนินการดังกล่าว
ตัวอย่างเช่น: If I were you, I wouldn’t lend him money.
→ ถ้าฉันเป็นคุณ ฉันจะไม่ให้เขายืมเงิน
วิเคราะห์: ในความเป็นจริง ณ ปัจจุบัน ผู้ได้รับคำแนะนำยังไม่ได้ให้ “เขา” ยืมเงิน ผู้พูดให้คำแนะนำโดยตั้งสมมติฐานว่า ถ้าฉันเป็นผู้ได้รับคำแนะนำ ฉันจะไม่ให้ยืมเงิน
โครงสร้างประโยคเงื่อนไขแบบที่ 2:
If clause | Main clause |
---|---|
If + S+ V2/Ved +… | S+ would/could/… + V(bare) +… |
ดูรายละเอียดโครงสร้างประโยคเงื่อนไขแบบที่ 2 ในรูปต่อไปนี้:
หมายเหตุ:
- ใน if clause ไม่ว่าหัวเรื่องจะเป็นบุคคลไหนก็ตาม to-be จะเป็น were หรือ weren’t อยู่เสมอ
- คำว่า ‘verb’ ในตารางโครงสร้างด้านบนบ่งชี้ถึงกริยา infinitive
- ‘could/couldn’t’ ใน main clause เน้นสมมติฐานของความเป็นไปได้ (สามารถทำหรือไม่ทำอะไร) ซึ่งตรงข้ามกับปัจจุบัน ส่วน ‘would/wouldn’t’ เพียงอธิบายโดยทั่ว ๆ ไปการสมมติฐานสิ่งที่ตรงกันข้ามกับปัจจุบันเท่านั้น
- ขึ้นอยู่กับกรณี if clause และ main clause สามารถใช้ to-be หรือกริยาปกติได้อย่างยืดหยุ่น
ตัวอย่างที่ 1: If their son were taller, he could be a model.
→ ถ้าลูกชายของพวกเขาสูงกว่านี้ เขาสามารถเป็นนายแบบได้
ตัวอย่างที่ 2: They wouldn’t have a lot of money if they didn’t work hard.
→ พวกเขาจะไม่มีเงินเยอะ ถ้าไม่ทำงานหนัก
ประโยคเงื่อนไขแบบที่ 3
คำนิยาม: ประโยคเงื่อนไขแบบที่ 3 เป็นรูปแบบประโยคที่ใช้ในการแสดงสมมติฐานที่ไม่เป็นความจริงในอดีต และนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ไม่เป็นความจริงในอดีตด้วย
ตัวอย่างเช่น: Last night, if that man hadn’t driven carelessly, he wouldn’t have caused that accident.
→ เมื่อคืน ถ้าผู้ชายคนนั้นไม่ขับรถประมาท เขาคงไม่ทำให้เกิดอุบัติเหตุแบบนั้น
วิเคราะห์: อันที่จริง เมื่อคืน เขาขับรถโดยประมาท และเกิดอุบัติเหตุนั้น
โครงสร้างประโยคเงื่อนไขแบบที่ 3:
If clause | Main clause |
---|---|
If + S+ had + V3/Ved + … | S+ would/could/… + have + V3/Ved + … |
ดูรายละเอียดโครงสร้างประโยคเงื่อนไขแบบที่ 3 ในรูปต่อไปนี้:
หมายเหตุ:
- ‘could/couldn’t’ ใน main clause เน้นสมมติฐานของความเป็นไปได้ (สามารถทำหรือไม่ทำอะไร) ซึ่งตรงข้ามกับอดีต ส่วน ‘would/wouldn’t’ เพียงอธิบายโดยทั่วๆ ไปการสมมติฐานสิ่งที่ตรงกันข้ามกับอดีตเท่านั้น
- ขึ้นอยู่กับกรณี if clause และ main clause สามารถใช้ to-be หรือกริยาปกติได้อย่างยืดหยุ่น ไม่จำเป็นว่าประโยคใช้ to-be/กริยาปกติ จะต้องมาพร้อมกับประโยคที่ใช้ to-be/กริยาปกติ
- เราสามารถเลื่อน if clause ไปหลัง main clause ได้ แต่จะไม่มีเครื่องหมายจุลภาคระหว่าง 2 ประโยค
ตัวอย่างที่ 1: Yesterday, if I hadn’t gone to work late, my boss wouldn’t have been upset.
→ เมื่อวาน ถ้าฉันไม่ไปทำงานสาย เจ้านายของฉันคงไม่อารมณ์เสีย
ตัวอย่างที่ 2: He wouldn’t have lost his job if he had worked harder.
→ เขาจะไม่ตกงาน ถ้าเขาทำงานหนักขึ้น
ประโยคเงื่อนไขแบบผสม If 3 – Main 2
คำนิยาม: ประโยคเงื่อนไขแบบผสม if 3 – main 2 สร้างสมมติฐานที่ไม่เป็นความจริงในอดีต แต่นำไปสู่ผลลัพธ์ที่ไม่เป็นความจริงในปัจจุบัน
ตัวอย่างเช่น:
Last night, if our son had gone to bed early, he wouldn’t feel tired now.
→ เมื่อคืน ถ้าลูกชายของเราเข้านอนแต่หัวค่ำ ตอนนี้เขาคงไม่รู้สึกเหนื่อยแล้ว
วิเคราะห์: อันที่จริง ลูกชายของพวกเขาเข้านอนดึกเมื่อคืนนี้ และตอนนี้เขารู้สึกเหนื่อย
โครงสร้างประโยคเงื่อนไขแบบผสม if 3 – main 2: ชื่อแสดงให้เราเห็นแล้วว่า ประโยคเงื่อนไขผสม if 3 – main 2 ใช้ if clause ในประโยคเงื่อนไขแบบที่ 3 และใช้ main clause ในประโยคเงื่อนไขแบบที่ 2
If clause | Main clause |
---|---|
If + S+ had + V3/Ved + … | S+ would/could/… + V(bare) +… |
ดูรายละเอียดโครงสร้างประโยคเงื่อนไขแบบผสม if 3 – main 2 ในรูปต่อไปนี้:
หมายเหตุ:
- คำว่า ‘verb’ ในตารางโครงสร้างด้านบนบ่งชี้ถึงกริยา infinitive
- ‘could/couldn’t’ ใน main clause เน้นสมมติฐานของความเป็นไปได้ (สามารถทำหรือไม่ทำอะไร) ซึ่งตรงข้ามกับปัจจุบัน ส่วน ‘would/wouldn’t’ เพียงอธิบายโดยทั่วๆ ไปการสมมติฐานสิ่งที่ตรงกันข้ามกับปัจจุบันเท่านั้น
- ขึ้นอยู่กับกรณี if clause และ main clause สามารถใช้ to-be หรือกริยาปกติได้อย่างยืดหยุ่น ไม่จำเป็นว่าประโยคใช้ to-be/กริยาปกติ จะต้องมาพร้อมกับประโยคที่ใช้ to-be/กริยาปกติ
- เราสามารถเลื่อน if clause ไปหลัง main clause ได้ แต่จะไม่มีเครื่องหมายจุลภาคระหว่าง 2 ประโยค
ตัวอย่างที่ 1: If we hadn’t been lazy, we wouldn’t get low scores now.
→ ถ้าพวกเราไม่ขี้เกียจ พวกเราคงไม่ได้คะแนนต่ำในตอนนี้
ตัวอย่างที่ 2: My younger brother couldn’t play tennis well now if he hadn’t practiced in the past.
→ น้องชายของฉันไม่สามารถเล่นเทนนิสได้ดีในตอนนี้ ถ้าเขาไม่ได้ฝึกฝนมาก่อน
ประโยคเงื่อนไขแบบผสม If 2 – main 3
คำนิยาม: ประโยคเงื่อนไขแบบผสม If 2 – main 3 สร้างสมมติฐานที่ไม่เป็นความจริงทั้งในอดีตและปัจจุบัน นำไปสู่ผลลัพธ์ที่ไม่เป็นความจริงในอดีต
ตัวอย่างเช่น: If I were taller, I could have helped you paint the walls yesterday.
→ ถ้าฉันสูงกว่านี้ ฉันคงช่วยคุณทาสีกำแพงเมื่อวานได้
วิเคราะห์: อันที่จริง ไม่ว่าในวันนี้หรือ “เมื่อวาน” ฉันยังไม่สูงพอที่จะช่วยคุณทาสีกำแพงได้ มีผู้เรียนบางคนอาจจะสงสัยว่า ใช้ main clause แบบที่ 3 แล้ว ทำไมไม่ใช้ if clause แบบที่ 3 แต่ใช้ if clause แบบที่ 2
ถ้าเราทำเช่นนั้น เราจะแสดงได้เพียงว่า “เมื่อวานฉันสูงไม่พอ” แต่ไม่สามารถแสดงได้ว่า “ตอนนี้ฉันก็สูงไม่พอเช่นกัน” ในประโยคแบบผสม if 2 – main 3 แบบนี้ ถ้าเราต้องการสมมติฐานสิ่งที่ตรงกันข้ามไม่ใช่แค่อดีตแต่รวมถึงปัจจุบันด้วย (และแม้แต่อนาคตด้วย) if clause ก็ต้องใช้แบบที่ 2
- สรุปคือ เมื่อเราต้องการสมมติฐานสิ่งที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ ทั้งในปัจจุบัน (แม้ในอนาคต) และการนับย้อนไปยังช่วงเวลาหนึ่งในอดีตก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ แต่สมมติฐานนี้จะนำมาซึ่งข้อสมมติฐานอื่นในอดีต เราใช้ if clause แบบที่ 2 และ main clause แบบที่ 3
โครงสร้างประโยคเงื่อนไขแบบผสม if 2 – main 3: ชื่อแสดงให้เราเห็นแล้วว่า ประโยคเงื่อนไขแบบผสม if 2 – main 3 ใช้ ประโยคเงื่อนไข ในประโยคเงื่อนไขแบบที่ 2 และใช้ main clause ในประโยคเงื่อนไขแบบที่ 3
If clause | Main clause |
---|---|
If + S+ V2/Ved +… | S+ would/could/… + have + V3/Ved + … |
ดูรายละเอียดโครงสร้างประโยคเงื่อนไขแบบผสม if 2 – main 3 ในรูปต่อไปนี้:
หมายเหตุ:
- ไม่ว่าหัวเรื่องจะเป็นบุคคลไหนก็ตาม to-be จะเป็น were หรือ weren’t อยู่เสมอ
- คำว่า ‘verb’ ในตารางโครงสร้างด้านบนบ่งชี้ถึงกริยา infinitive
- ‘could/couldn’t’ ใน main clause เน้นสมมติฐานของความเป็นไปได้ (สามารถทำหรือไม่ทำอะไร) ซึ่งตรงข้ามกับปัจจุบัน ส่วน ‘would/wouldn’t’ เพียงอธิบายโดยทั่วๆ ไปการสมมติฐานสิ่งที่ตรงกันข้ามกับปัจจุบันเท่านั้น
- ขึ้นอยู่กับกรณี if clause และ main clause สามารถใช้ to-be หรือกริยาปกติได้อย่างยืดหยุ่น ไม่จำเป็นว่าประโยคใช้ to-be/กริยาปกติ จะต้องมาพร้อมกับประโยคที่ใช้ to-be/กริยาปกติ
- เราสามารถเลื่อน if clause ไปหลัง main clause ได้ แต่จะไม่มีเครื่องหมายจุลภาคระหว่าง 2 ประโยค
- ตัวอย่างที่ 1: If our family had more members, we could have joined the competition last month.
→ ถ้าครอบครัวเรามีสมาชิกมากกว่านี้ เราคงได้เข้าร่วมการแข่งขันเมื่อเดือนที่แล้ว
วิเคราะห์: ไม่ว่าจะย้อนกลับไปเมื่อ “เดือนที่แล้ว” หรือปัจจุบัน “ครอบครัวเรา” ก็ “ไม่มีสมาชิก” ที่จะ “เข้าร่วมการแข่งขัน”
- ตัวอย่างที่ 2: I wouldn’t have bought that dress if I were you.
→ ฉันจะไม่ซื้อชุดนั้น ถ้าฉันเป็นคุณ
วิเคราะห์: ไม่ว่าในเวลาที่ “คุณ” ซื้อชุดนั้นหรือในปัจจุบัน (และแน่นอนว่าทั้งในอนาคต) “ฉัน” ก็ไม่ใช่ “คุณ”
กรณีอื่นๆ ของประโยค If Clause
‘unless’ = ‘if… not…’
‘unless’ สามารถใช้แทน ‘if… not…’ ใน if clause ของประโยคเงื่อนไขทุกแบบ
a. ประโยค If Clause แบบที่ 0 และแบบที่ 1: ‘unless’ + Simple Tense
– Ice melts if you don’t put it into a fridge.
⟶ Ice melts unless you put it into a fridge.
⟶ น้ำแข็งละลายเว้นแต่คุณใส่ในตู้เย็น
– She will have a headache if she doesn’t stop working now.
⟶ She will have a headache unless she stops working now.
⟶ เธอจะปวดหัวเว้นแต่เธอจะหยุดทำงานตอนนี้
b. ประโยค If Clause แบบที่ 2: ‘unless’ + Simple Past
If you didn’t have to go to school, you could go to the zoo with us now.
⟶ Unless you have to go to school, you could go to the zoo with us now.
⟶ ถ้าคุณไม่ต้องไปโรงเรียน ก็ไปสวนสัตว์กับพวกเราได้นะตอนนี้
c. ประโยค If Clause แบบที่ 3: ‘unless’ + Past Perfect
Yesterday, I would have come to your wedding if I hadn’t worked overtime.
⟶ Yesterday, I would have come to your wedding unless I had worked overtime.
⟶ เมื่อวาน ฉันจะไปงานแต่งงานของคุณ ถ้าฉันไม่ต้องทำงานล่วงเวลา
บางวลีสามารถแทน ‘if’ ได้
a. ‘suppose’/ ‘supposing’: “สมมติว่า”
– ใช้ในการตั้งสมมติฐาน
– ใช้กับประโยคเงื่อนไขเกือบทุกแบบ
– ตัวอย่างเช่น:
+ Supposing you win this competition, what will you do?
⟶ สมมติว่าคุณชนะการแข่งขันนี้ คุณจะทำอย่างไร?
+ Suppose I had been there last night, I would have saved her.
⟶ สมมติว่า ฉันอยู่ที่นั่นเมื่อคืนนี้ ฉันคงช่วยเธอไว้ได้
b. ‘even if’: “แม้ว่า”/ “ถึงแม้ว่า”
– เน้นว่าไม่ว่าจะมีเงื่อนไขเกิดขึ้นหรือไม่ก็ตาม สภาพ/สถานการณ์ใน Main Clause ก็ไม่เปลี่ยนแปลง
– ใช้กับประโยคเงื่อนไขเกือบแบบ
– ตัวอย่างเช่น:
+ Even if I win this lottery, I will still work hard.
⟶ แม้ว่าฉันจะถูกลอตเตอรี ฉันก็ยังทำงานหนัก
+ Even if she weren’t busy now, she wouldn’t go out with you.
⟶ แม้ว่าตอนนี้เธอจะไม่ยุ่ง แต่เธอก็จะไม่ไปเที่ยวกับคุณ
c. ‘as long as’/ ‘so long as’/ ‘provided (that)’/ ‘on condition (that)’: “ตราบเท่าที่”/ “โดยมีเงื่อนไขว่า”
– เน้นเงื่อนไขที่ต้องบรรลุเพื่อนำไปสู่สถานการณ์/สภาพ/… ใน Main Clause
– มักใช้ในประโยคเงื่อนไขแบบที่ 0 และแบบที่ 1 เท่านั้น
– ตัวอย่างเช่น:
+ I will lend you my car as long as you drive it carefully.
⟶ ฉันจะให้คุณยืมรถของฉัน ตราบเท่าที่คุณขับรถอย่างระมัดระวัง
+ Your children are allowed to enter this area so long as they keep quiet.
⟶ ลูกของคุณได้รับอนุญาตให้เข้ามาในพื้นที่นี้ได้ ตราบเท่าที่พวกเขานิ่งเงียบ
+ Your younger sister can have a cat provided (that) she takes good care of it.
⟶ น้องสาวของคุณสามารถเลี้ยงแมวได้ โดยมีเงื่อนไขว่าเธอดูแลมันเป็นอย่างดี
+ He can stay here on condition (that) he follows the rules.
⟶ เขาสามารถอยู่ที่นี่ได้โดยมีเงื่อนไขว่าเขาปฏิบัติตามกฎ
d. ‘without’: ‘ถ้าไม่มี’/ ‘ถ้าขาด’/ ‘ถ้าไม่ใช่เพราะ’
– ใช้ในการสันนิษฐานว่า Main Clause จะเปลี่ยนไปอย่างไรหากไม่มีใคร/อะไร/เหตุการณ์ใด/…
– ใช้กับประโยคเงื่อนไขแบบที่ 2 และแบบที่ 3
– ‘without’ ตามด้วยคำนาม (วลี)
– ตัวอย่างเช่น:
+ Without your help, we couldn’t have passed the exam last week.
⟶ ถ้าไม่มีความช่วยเหลือของคุณ พวกเราคงสอบไม่ผ่านเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
+ You could play the piano well without your laziness.
⟶ คุณสามารถเล่นเปียโนได้ดี ถ้าไม่ใช่เพราะความขี้เกียจของคุณ
ประโยค Wish/if only
– นอกจากประโยค If Clause แล้ว ประโยค ‘Wish‘ ยังมีลักษณะเกือบเหมือนกับประโยค If Clause และใช้โครงสร้างส่วนใหญ่ของ If Clause ดังนั้นคุณควรเรียนรู้เพิ่มเติม
– ประโยค ‘wish’ แสดงความเสียใจและความปรารถนาที่จะเปลี่ยนแปลงบางสิ่งบางอย่างในปัจจุบันหรือในอดีต
– ในทางกลับกัน ‘wish’ ยังใช้เพื่อแสดงความฝันเกี่ยวกับอนาคต
– ‘wish’ สามารถแทนที่ด้วย ‘if only’ โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้าง
a. วิธีใช้ ‘wish’ เพื่อปรารถนาในปัจจุบัน
– แสดงความปรารถนาในสิ่งที่ไม่มีจริงในปัจจุบัน หรือสมมุติในสิ่งที่ตรงกันข้ามกับปัจจุบัน
– โครงสร้าง:
(เหมือนกับประโยค If Clause แบบที่ 2)
(+) S + wish (es) + (that) + S + V2/ed
(-) S + wish (es) + (that) + S + didn’t + V (bare infinitive)
*หมายเหตุ: ถ้า V ในที่นี้คือ ‘be’ ในประโยคยืนยัน เราจะใช้ ‘were’ สำหรับหัวเรื่องทุกแบบ แต่ว่าในสถานการณ์การสื่อสารที่ไม่เป็นทางการ เราสามารถใช้ ‘was’ และ ‘were’ สำหรับแต่ละหัวเรื่องได้ตามปกติ
– ตัวอย่างเช่น:
+ I wish I were taller.
⟶ ฉันหวังว่าฉันจะสูงขึ้น
+ They wish they had a bigger house.
⟶ พวกเขาปรารถนาว่า มีบ้านหลังใหญ่ขึ้น
+ The children wish they didn’t have to go to school today.
⟶ เด็กๆ หวังว่า วันนี้ไม่ต้องไปโรงเรียน
b. วิธีใช้ ‘wish’ เพื่อปรารถนาในอดีต
– แสดงความปรารถนาหรือเสียใจในสิ่งที่ไม่มีจริงในอดีตหรือสมมุติในสิ่งที่ตรงกันข้ามกับอดีต
– โครงสร้าง:
(เหมือนกับประโยค If Clause แบบที่ 3)
S + wish (es) + (that) + S + had (not) + V3/ed
– ตัวอย่างเช่น:
+ She wishes that she hadn’t quit her job last month.
⟶ เธอหวังว่า เธอจะไม่ลาออกจากงานเมื่อเดือนที่แล้ว
+ My parents wish they had bought that house when it was still cheap.
⟶ พ่อแม่ของฉันหวังว่า พวกเขาซื้อบ้านหลังนั้นตอนที่มันยังถูกอยู่
c. วิธีใช้ ‘wish’ เพื่อปรารถนาในอนาคต
– แสดงความปรารถนาสำหรับบางสิ่งในอนาคต
– โครงสร้าง: S + wish (es) + (that) + S + would/could (not) + V (bare infinitive)
– ตัวอย่างเช่น:
+ He wish he would become a singer in the future.
⟶ เขาหวังว่า เขาจะเป็นนักร้องในอนาคต
+ I wish it would stop raining. I want to go out.
⟶ ฉันหวังว่า ฝนจะหยุดตก ฉันต้องการที่จะออกไป
เคล็ดลับในการจำโครงสร้าง If Clause
เพื่อช่วยให้คุณจำโครงสร้างของประโยค If Clause ได้ง่าย ELSA Speak จะแบ่งปันกฎและเคล็ดลับบางอย่าง ดังนี้:
รูปแบบประโยคเงื่อนไข | If clause | Main cause |
---|---|---|
แบบที่ 0 | Present Simple Tense: If + subject + V(-s/es) +…, | Present Simple Tense: subject + V(-s/es) +… |
แบบที่ 1 | Present Simple Tense: If + subject + V(-s/es) +… | Simple Future Tense: subject + will + V(bare) +… |
แบบที่ 2 | Past Simple Tense: If + subject + V2/Ved +…, | ‘will’ เปลี่ยนเป็น ‘would’ (หรือ ‘could’/…) เก็บส่วนที่เหลือให้เหมือนเดิมไว้ในโครงสร้าง: subject + would/could/… + V(bare) +… |
แบบที่ 3 | Past Perfect Tense: If + subject + had + V3/Ved + …, | หลัง ‘would’ (หรือ ‘could’/…) เติม ‘have’ + V3/Ved: subject + would/could/… + have + V3/Ved + … |
หมายเหตุบางประการเกี่ยวกับการใช้ If Clause
ใช้เครื่องหมายจุลภาคระหว่าง 2 อนุประโยค
- การใช้ประโยค If Clause มีอีกรายละเอียดที่เล็ก ๆ น้อย ๆ แต่ถ้าเราไม่ใส่ใจก็จะเสียคะแนนเมื่อทำแบบทดสอบการเขียนภาษาอังกฤษ ก็คือการใช้เครื่องหมายจุลภาคระหว่าง 2 อนุประโยคของประโยคเงื่อนไขนั่นเอง
- ควรสังเกตว่า เมื่อ If Clause นำหน้า ควรมีเครื่องหมายจุลภาคระหว่าง 2 ประโยค ในทางกลับกัน เมื่อ Main Clause นำหน้า จะไม่มีเครื่องหมายจุลภาคระหว่างประโยคทั้งสอง
ตัวอย่างเช่น:
+ If she has a sore throat, I will make her some honey lime tea.
+ I will make her some honey lime tea if she has a sore throat.
Read more:
อย่าลืมคำกริยา to-be
เมื่อเรียนรู้โครงสร้างของประโยค If Clause ผู้เรียนมักจะสนใจเฉพาะโครงสร้างที่มีกริยาปกติ และเกือบจะลืมเกี่ยวกับโครงสร้างที่มีกริยา to-be ขณะที่สำหรับอนุประโยคที่ใช้ Present Simple และ Past Simple กริยา to-be จะถูกแบ่งออกเป็นหลายรูปแบบขึ้นอยู่กับหัวเรื่อง (am – is – are และ was – were)
ดังนั้น แทนที่จะแสดงรายการแต่ละโครงสร้างด้วยกริยาปกติ คุณสามารถดูด้านบนได้ ELSA Speak ได้แสดงรายการโครงสร้างของอนุประโยค 2 ประโยคที่มีทั้ง to-be และกริยาปกติ โปรดอ่านตารางโครงสร้างอย่างละเอียด
สามารถใช้ ‘was’/‘wasn’t’ ในประโยค If Clause แบบที่ 2 ไหม
นี่ก็เป็นคำถามที่ผู้เรียนหลายคนสนใจเช่นกัน เพราะว่า เวลาเรียนในโรงเรียนมัธยมหรือเรียนที่ศูนย์ ผู้เรียนมักถูกเตือนว่ากริยา to-be ใน If Clause แบบที่ 2 ต้องเป็น ‘were’/ ‘weren’t’ เท่านั้น ไม่ว่าหัวเรื่องจะเป็นอะไรก็ตาม เอกพจน์หรือพหูพจน์
แต่ในความเป็นจริง เวลาดูหนัง ฟังเพลง ฯลฯ (โดยเฉพาะหนังและเพลงอเมริกัน) หรือเมื่อฟังเจ้าของภาษา (โดยเฉพาะชาวอเมริกัน) คุยกัน เรายังคงเห็นบางกรณีของการใช้ ‘was’/’wasn’t’ สำหรับหัวเรื่องเป็นบุคคลที่สามที่เอกพจน์ใน If Clause แบบที่ 2
เราสามารถเข้าใจปัญหานี้ได้ดังนี้:
- การใช้ ‘were’/ ‘weren’t’ ใน If Clause แบบที่ 2 เป็นความรู้ในตำราเรียนมาตรฐานตามกฎทางวิชาการ และเราควรปฏิบัติตามอย่างใกล้ชิดเพื่อจะได้คะแนนดีในการทดสอบภาษาอังกฤษของโรงเรียน หรือการทดสอบความสามารถทางภาษาอังกฤษอื่นๆ
- อย่างไรก็ตาม เมื่อสื่อสาร ถ้าคุณต้องการทำให้ไวยากรณ์ง่ายขึ้น หรือสร้างรูปแบบการสื่อสารแบบ “อเมริกันเป๊ะ” เมื่อใช้ If Clauses แบบที่ 2 คุณก็สามารถใช้ ‘was’/ wasn’t’ สำหรับหัวเรื่องเป็นบุคคลที่สามที่เอกพจน์ได้ตามปกติ
ตัวอย่างเช่น:
+ รูปแบบที่เป็นไปตามกฎทางวิชาการ:
If Emily weren’t tired now, she could work overtime.
→ ถ้าตอนนี้เอมิลี่ไม่เหนื่อย เธอก็สามารถทำงานล่วงเวลาได้
วิเคราะห์: เอมิลี่เป็นบุคคลที่สามที่เอกพจน์ ตามกฎ to-be ใน Simple Past Tense เอมิลี่ต้องคู่กับ was/wasn’t แต่ตามกฎเคร่งครัดเกี่ยวกับ If Clauses แบบที่ 2 ไม่ว่าจะเป็นบุคคลไหน เอกพจน์ยังไปรวมกับ to-be ที่เป็น were/weren’t
+ รูปแบบในการสื่อสาร ไม่เคร่งครัดเรื่องไวยากรณ์:
If Emily wasn’t tired now, she could work overtime.
→ ถ้าตอนนี้เอมิลี่ไม่เหนื่อย เธอก็สามารถทำงานล่วงเวลาได้
วิเคราะห์: ในภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร และโดยเฉพาะอย่างยิ่งในวิธีการสื่อสารของชาวอเมริกันจำนวนมาก เมื่อพวกเขาใช้ If Clauses แบบที่ 2 เพื่อหลีกเลี่ยงความยุ่งยากและความสับสน พวกเขายังคงปฏิบัติตามกฎ to-be ใน Past Simple: was/wasn’t สำหรับบุคคลที่สามที่เอกพจน์ และ were/weren’t สำหรับบุคคลที่เหลือ
รูปแบบของประโยคเงื่อนไข If Clause ที่พิเศษ
นอกจากรูปแบบประโยคเงื่อนไขพื้นฐานข้างต้นแล้ว ในภาษาอังกฤษยังมีรูปแบบประโยคเงื่อนไขที่พิเศษอีกด้วย อย่างเช่น:
- ประโยคเงื่อนไขที่สั้นลง
- ประโยคเงื่อนไขด้วย: ‘unless’, ‘or else’, ‘otherwise’, ‘but for’, ‘if it weren’t for’, ‘if it hadn’t been for’, v.v.
- การผกผันของประโยคเงื่อนไข
เพื่อจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับรูปแบบประโยคเงื่อนไขที่พิเศษเหล่านี้ โปรดติดตามบทความถัดไปของ ELSA Speak นะ
เคล็ดลับบางประการเมื่อทำแบบฝึกหัด
กำหนดประเภทของแบบฝึกหัด
– ประการแรก ประโยค If Clause มักปรากฏในรูปแบบการแต่งประโยคใหม่ – ‘sentence transformation’
– คุณอาจจะได้แต่งประโยคเงื่อนไขที่มี 2 อนุประโยค หรือคู่ประโยคที่ไปด้วยกัน ซึ่งจะมีอนุประโยค/ประโยคหนึ่งที่เป็นเงื่อนไข/ปัจจัยกำหนด กระทบ หรือนำไปสู่อนุประโยค/ประโยคที่เหลือ ตัวอย่างเช่น:
+ He’s not tall. He can’t become a model.
⟶ ปัจจัยกำหนด: ‘He’s not tall.’
ผลลัพธ์: ‘He can’t become a doctor.’
+ She sneezes a lot when she comes near flowers.
⟶ ปัจจัยกำหนด: ‘she comes near flowers’
ผลลัพธ์: ‘she sneezes a lot’
วิธีการกำหนดรูปแบบของประโยค If Clause อย่างถูกต้อง
– ขึ้นอยู่กับกาลและความหมายของอนุประโยคทั้งสองในประโยคหรือคู่ประโยคเพื่อเลือกรูปแบบของประโยคเงื่อนไข ดังนี้:
+ Present Simple Tense (หรือรวมกับ Future Simple): ประโยคเงื่อนไขแบบที่ 0, 1 และ 2 จากนั้นเราก็อาศัยความหมายของประโยคในการตัดสิน ดังนี้:
- ถ้า (คู่) ประโยคแสดงความจริงตามธรรมชาติ
⟶ แบบที่ 0 (ไม่สมมุติตรงกันข้าม)
ตัวอย่างเช่น:
When you heat ice, it melts.
⟶ If you heat ice, it melts.
- ถ้า (คู่) ประโยคแสดงถึงสภาพ/สถานการณ์ที่สามารถ (ไม่) เกิดขึ้นในอนาคต และจะนำไปสู่สภาพ/สถานการณ์อื่น
⟶ แบบที่ 1 (ไม่สมมุติตรงกันข้าม)
ตัวอย่างเช่น:
Once I win this competition, I will buy you guys food and milk tea.
⟶ If I win this competition, I will buy you guys food and milk tea.
- ถ้า (คู่) ประโยคแสดงถึงสภาพ/สถานการณ์ในปัจจุบัน และสภาพ/สถานการณ์นี้นำไปสู่สภาพ/สถานการณ์อื่นในปัจจุบัน
⟶ แบบที่ 2 (สมมุติตรงกันข้าม)
ตัวอย่างเช่น:
I don’t have to go to work today, so I can sleep in.
⟶ If had to go to , I couldn’t sleep in.
+ Past Tense
⟶ แบบที่ (สมมุติตรงกันข้าม)
ตัวอย่างเช่น:
Last night, I felt tired, so I didn’t go out with them.
⟶ Last night, if I hadn’t felt tired, I would have gone out with them.
When I was young, I felt sad because I didn’t have many friends.
⟶ When I was young, I wouldn’t have felt sad if I had had many friends.
แบบฝึกหัดเกี่ยวกับประโยคเงื่อนไข
นอกจากการท่องจำความรู้ทางทฤษฎีแล้ว คุณควรฝึกฝนแบบฝึกหัดประโยคเงื่อนไขอย่างสม่ำเสมอ และนำไปใช้กับการสื่อสารภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน เพื่อจดจำและเชี่ยวชาญในโครงสร้างของประโยคเงื่อนไขได้!
แบบฝึกหัดเกี่ยวกับ If Clause แบบที่ 0
ผันคำกริยาในวงเล็บให้อยู่ในรูปที่ถูกต้อง
- If you …… (kick) a ball against a wall, it …… (bounce) back.
- If David …… (eat) strawberries, he …… (get) an allergy.
- A plant …… (die) if you …… (not water) it for a long time.
- A child …… (not grow) up well, if you …… (not feed) him or her properly.
- If you …… (tickle) Lucy, she …… (laugh) unstoppably.
- If a stranger …… (touch) my dog, he …… (bark) immediately.
- If you …… (heat) ice-cream, it …… (melt).
Answer:
1. kick – bounces |
2. eats – gets |
3. dies – water |
4. doesn’t grow – don’t feed |
5. tickle – laughs |
6. touches – barks |
7. heat – melts |
แบบฝึกหัดเกี่ยวกับ If Clause แบบที่ 1
ผันคำกริยาในวงเล็บให้อยู่ในรูปที่ถูกต้อง
- If my younger sister …… (win) this race, we …… (be) proud.
- If I …… (get) that job, I …… (earn) more money.
- If that client …… (agree) to sign the contract, she …… (let) us know soon.
- My family …… (have) a better life if we …… (move) to that city.
- If their nephews …… (pass) the exam, they …… (buy) them some new toys.
- If that student …… (stop) talking in class, the teacher …… (be) very happy.
- His elder sister …… (get) mad if she …… (know) that he broke her favorite mug.
Answer:
1. wins – will be |
2. get – will earn |
3. agrees – will let |
4. will have – move |
5. pass – will buy |
6. stops – will be |
7. will get – knows |
แบบฝึกหัดเกี่ยวกับ If Clause แบบที่ 2
ผันคำกริยาในวงเล็บให้อยู่ในรูปที่ถูกต้อง
- If he …… (be) more good-looking, he …… (be) a model.
- We …… (have) a better life if we …… (earn) more money.
- If I …… (be) you, I …… (buy) that expensive bag.
- His younger sister …… (have) more friends if she …… (be) more sociable.
- If our parents …… (not be) too strict, we …… (not live) under pressure.
- If that student …… (not talk) in class, the teacher …… (be) less annoyed.
- If she …… (live) near her company, she …… (not have) to get up at 5am every day.
Answer:
1. were – would/ could be |
2. would/ could have – earned |
3. were – wouldn’t buy |
4. would/ could have – were |
5. weren’t – wouldn’t live |
6. didn’t talk – would be |
7. lived near – wouldn’t have |
แบบฝึกหัดเกี่ยวกับ If Clause แบบที่ 3
ผันคำกริยาในวงเล็บให้อยู่ในรูปที่ถูกต้อง
- Last night, if that woman …… (drive) carelessly, she …… (not cause) that accident.
- That employee …… (not lose) his job if he …… (work) efficiently.
- Yesterday, if that boy …… (not break) the vase, his father …… (not be) mad.
- Last month, I …… (not meet) him if I …… (not go) to that party.
- That day, she …… (not find) her dog if she …… (not go) into the garden.
- Yesterday, if my brother …… (do) his homework, his teacher …… (not scold) him.
- Last Friday, if she …… (know) your phone number, she …… (call) you.
Answer:
1. had driven – wouldn’t have caused |
2. wouldn’t have lost – had worked |
3. hadn’t broken – wouldn’t have been |
4. wouldn’t/ couldn’t have met – hadn’t gone |
5. wouldn’t/ couldn’t have found – hadn’t gone |
6. had done – wouldn’t have scolded |
7. had known – would/ could have called |
แบบฝึกหัดประโยคเงื่อนไขแบบผสม If 3 – Main 2
ผันคำกริยาในวงเล็บให้อยู่ในรูปที่ถูกต้อง
- If that student …… (go) to bed early last night, he …… (not feel) sleepy now.
- You …… (not have) a stomachache now if you …… (not drink) a lot of milk tea this afternoon.
- If we …… (not forget) our umbrellas yesterday, we …… (not be) sick now.
- He …… (get) promoted now if he …… (work) hard in the past.
- She …… (take) part in the race now if she …… (not break) her arm yesterday.
Answer:
1. had gone – wouldn’t feel |
2. wouldn’t have – hadn’t drunk |
3. hadn’t forgotten – wouldn’t be |
4. would get promoted now – had worked hard |
5. could take – hadn’t broken |
แบบฝึกหัดประโยคเงื่อนไขแบบผสม If 2 – Main 3
หมายเหตุ: นี่เป็นแบบฝึกหัดที่ค่อนข้างยากและต้องใช้ความคิดเชิงตรรกะและจินตนาการในสถานการณ์ที่ถูกต้อง โปรดอ่านทฤษฎีอย่างละเอียดก่อนทำการทดสอบ
ผันคำกริยาในวงเล็บให้อยู่ในรูปที่ถูกต้อง
- If I …… (be) you, I …… (help) that poor lady yesterday.
(ฉันในอดีต ปัจจุบันและอนาคต ต่างก็ไม่ใช่คุณ)
- If we …… (have) children, they …… (take) care of us when we were in hospital last month.
(พวกเราไม่ว่าจะในเดือนที่แล้ว – ‘last month’ หรือตอนนี้ก็ไม่มีลูก)
- I …… (save) that child if I …… (be) you.
(ฉันในอดีต ปัจจุบันและอนาคต ต่างก็ไม่ใช่คุณ)
- She …… (take) that cup off the high shelf this morning if she …… (be) taller.
(เธอในเช้านี้ – ‘this morning’ และตอนนี้ ต่างก็ไม่สูงพอที่จะรับถ้วยนั้น)
- He …… (make) more friends at the party last night if he …… (be) a friendly person.
(เขามักจะไม่เป็นมิตร ไม่ว่าจะในเมื่อคืน – ‘last night’ หรือตอนนี้)
Answer:
1. were – would have helped |
2. had – would have taken |
3. would have saved – were |
4. would/could have taken – were |
5. would/could have made – were |
ในบทความข้างต้น ELSA Speak ได้สังเคราะห์ความรู้เกี่ยวกับโครงสร้าง วิธีใช้ และแบบฝึกหัดสำหรับประโยค If Clause ในภาษาอังกฤษ ELSA Speak หวังว่าด้วยบทเรียนดังกล่าว คุณจะสามารถใช้ประโยคเงื่อนไขได้อย่างมั่นใจ ยืดหยุ่น และถูกต้อง ขอบคุณมากๆที่เข้ามาอ่าน แล้วพบกันใหม่ในบทความหน้า!