กริยาแท้ – Finite verb คือไวยากรณ์พื้นฐานแต่สำคัญในภาษาอังกฤษ การแยกความแตกต่างระหว่าง Finite verb (กริยาแท้) และ Non-finite verb (กริยาไม่แท้) จะช่วยให้คุณเข้าใจการใช้กาลเวลา บุรุษ และหน้าที่ของกริยาในประโยคได้อย่างแม่นยำ มาศึกษารายละเอียดกับ ELSA Speak ในบทความต่อไปนี้กัน
Finite Verb คืออะไร?
Finite Verb คือกริยาที่มีประธาน ผันตามกาล และต้องมีความสอดคล้องกันระหว่างกาล บุรุษสรรพนาม และจำนวนของประธาน กริยาเหล่านี้แสดงถึงการกระทำของบุคคล สิ่งของ หรือสิ่งใดสิ่งหนึ่งในประโยค ซึ่งเป็นองค์ประกอบที่จำเป็นต้องมีเพื่อให้ประโยคถูกต้องตามหลักไวยากรณ์
สอบก่อนเข้าฟรี

Finite verb ตัวอย่างประโยค:
- She went to the supermarket today. (วันนี้เธอไปซุปเปอร์มาร์เก็ต)
- They live in Chicago. (พวกเขาอาศัยอยู่ในชิคาโก)
- He works as a cashier in a local supermarket. (เขาทำงานเป็นพนักงานแคชเชียร์ที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตท้องถิ่น)
- The lion is the king of the jungle. (สิงโตเป็นราชาแห่งป่า)
ในตัวอย่างข้างต้น ส่วนที่พิมพ์ตัวหนาได้เรียกว่ากริยาแท้ กริยาเหล่านี้จะแสดงการกระทำของประธานโดยตรงและเชื่อมประธานกับส่วนอื่นของประโยค หากประธานและกาลในประโยคเปลี่ยนไป กริยาเหล่านี้ก็จะเปลี่ยนตามเพื่อให้สอดคล้องกัน จากตัวอย่างเราจะเห็นได้ว่า กริยาแท้มักจะตามหลังประธานของประโยคเสมอ

Finite Verb มีอะไรบ้าง?
ในภาษาอังกฤษ Finite verb สามารถปรากฏในหลายรูปแบบขึ้นอยู่กับกาล ภาคประธาน วัตถุประสงค์การใช้งาน ด้านล่างนี้คือประเภทของ Finite verb ที่พบบ่อยที่สุด:
ผันตามประธาน
ใช้เพื่อผันกริยาให้ตรงกับจำนวนของประธาน สำหรับประธานเอกพจน์ กริยาจะผันโดยการเติม s/es สำหรับประธานพหูพจน์หรือ I กริยาจะยังคงเดิมโดยไม่ต้องเติม s/es
ตัวอย่าง:
- She speaks English very well. (เธอพูดภาษาอังกฤษได้ดีมาก)
- The dogs bark at the cat. (สุนัขเห่าแมว)
ผันในรูปประโยคถูกกระทำ
ใช้เพื่อระบุว่าประโยคเป็นรูปประโยคประธานทำกริยาหรือประโยคถูกกระทำ สำหรับประโยคประธานทำกริยา ประธานเป็นผู้กระทำ สำหรับประโยคถูกกระทำ ประธานเป็นผู้รับการกระทำ
ตัวอย่าง:
- Lisa writes a letter. (ลิซ่าเขียนจดหมาย)
- A letter is written by Lisa. (จดหมายที่เขียนโดยลิซ่า)

>>> Read more: การเขียน essay ภาษาอังกฤษ: 5 หัวข้อพร้อมตัวอย่างการเขียน essay และคำแปล
ผันตามจุดประสงค์ของผู้พูด
ใช้เพื่อแสดงความคิดเห็น ความต้องการ หรือคำแนะนำ — โดยเฉพาะในประโยคสมมติ ในกรณีเหล่านี้ กริยาจะไม่ผันตามประธาน
ตัวอย่าง: The doctor recommends that he take the medicine with food. (หมอแนะนำว่าเขาควรกินยาพร้อมอาหาร) → take ยังคงรูปเดิมแม้ว่าประธานจะเป็น he เพราะนี่เป็นโครงสร้างประโยคสมมติ

Finite verb ในประโยคปฏิเสธและประโยคคำถาม
ใช้เพื่อสร้างประโยคปฏิเสธหรือประโยคคำถาม แม้ว่าจะมีกริยาช่วย (do/does/did) แต่กริยาหลักยังคงผันให้ถูกต้องตามกาลและสอดคล้องกับประธาน
ตัวอย่าง:
- Do you like chocolate? (คุณชอบช็อกโกแลตไหม)
- She doesn’t eat meat. (เธอไม่กินเนื้อ)

>>> Read more: 50+ สำนวน (food idioms) และคำพูดเกี่ยวกับอาหารที่พบบ่อยที่สุด
Finite verb ในประโยคคำสั่ง
ใช้เพื่อออกคำสั่ง ขอร้อง หรือเสนอแนะ โดยประธานมักจะเข้าใจโดยปริยายว่าเป็น you
ตัวอย่าง:
- Close the door, please. (กรุณาปิดประตู)
- Listen carefully to the instructions. (โปรดฟังคำแนะนำอย่างตั้งใจ)

ผันตามกาลเวลา
Finite verb ได้ผันแตกต่างกันตามกาลของประโยค ด้านล่างนี้คือตารางสรุปกาลพื้นฐาน 12 กาลในภาษาอังกฤษ พร้อมตัวอย่างประกอบ:
กาล | โครงสร้าง | ตัวอย่างภาษาอังกฤษ |
---|---|---|
Present Simple Tense | S + V(s/es) | She drinks coffee every morning. (เธอดื่มกาแฟทุกเช้า) |
Present Continuous Tense | S + am/is/are + V-ing | They are studying for the test. (พวกเขากำลังอ่านหนังสือสอบ) |
Present Perfect Tense | S + have/has + V3 | She has finished her report. (เธอได้ทำรายงานเสร็จแล้ว) |
Present Perfect Continuous Tense | S + have/has been + V-ing | He has been working since morning. (เขาทำงานมาตั้งแต่เช้า) |
Past Simple Tense | S + V2 | He visited his grandmother yesterday. (เมื่อวานเขาไปเยี่ยมคุณย่า) |
Past Continuous | S + was/were + V-ing | I was reading when she called. (ฉันกำลังอ่านหนังสืออยู่ตอนที่เธอโทรมา) |
Past Perfect Tense | S + had + V3 | She had left before I arrived. (เธอได้ออกไปก่อนที่ฉันจะมาถึง) |
Past Perfect Continuous Tense | S + had been + V-ing | They had been waiting for hours. (พวกเขารอมาเป็นชั่วโมงแล้ว) |
Future Simple Tense | S + will + V-inf | I will call you later. (ฉันจะโทรหาคุณทีหลัง) |
Future Continuous Tense | S + will be + V-ing | This time tomorrow, I will be flying. (เวลานี้วันพรุ่งนี้ ฉันจะกำลังบินอยู่) |
Future Perfect Tense | S + will have + V3 | She will have finished by noon. (เธอจะทำเสร็จก่อนเที่ยง) |
Future Perfect Continuous Tense | S + will have been + V-ing | By next year, he will have been working here for a decade. (ภายในปีหน้า เขาจะทำงานที่นี่ครบสิบปี) |
กริยาไม่แท้ Nonfinite verb คือ?
กริยาไม่แท้คือกริยาที่ไม่ผันตามกาล ไม่แสดงบุรุษหรือจำนวน และไม่จำเป็นต้องสอดคล้องกับประธานในประโยค แตกต่างจาก Finite Verb ตรงที่ Non-finite verb จะไม่ทำหน้าที่เป็นกริยาหลักแต่จะทำหน้าเป็นคำนาม คำคุณศัพท์ หรือคำวิเศษณ์ กริยาเหล่านี้จะไม่เชื่อมกับประธานโดยตรงและไม่จำเป็นต้องมีเพื่อให้ประโยคถูกต้องตามหลักไวยากรณ์
Non finite verb ตัวอย่างประโยค:
- To run every morning is good for your health. (การวิ่งทุกเช้าดีต่อสุขภาพของคุณ)
- Running in the rain can be refreshing. (การวิ่งกลางฝนอาจทำให้รู้สึกสดชื่น)
- The book written by her became a bestseller. (หนังสือที่เธอเขียนกลายเป็นหนังสือขายดี)
ในตัวอย่างข้างต้น คำที่พิมพ์ตัวหนาคือ กริยาไม่แท้ ซึ่งจะไม่เปลี่ยนรูปตามกาลหรือประธาน และไม่ทำหน้าที่เป็นกริยาหลักในประโยค แต่จะช่วยเสริมความหมายให้ประโยคโดยการทำหน้าที่เป็นประธาน (to run) เป็นส่วนขยาย (running) หรือเป็นคำคุณศัพท์ (written) ด้วยคุณสมบัตินี้ กริยาไม่แท้จึงมีความยืดหยุ่นในการใช้งาน แต่ไม่สามารถยืนเดี่ยวเป็นกริยาหลักของประโยคได้

>>> Read more: Verb to be คืออะไร? หลักการใช้ verb to be กับแต่ละ tense
Non-finite verb มีอะไรบ้าง?
กริยาไม่แท้ (Non-finite verb) ไม่ถูกผันตามกาล บุรุษ หรือจำนวน และไม่ทำหน้าที่เป็นกริยาหลักในประโยค แต่มักทำหน้าที่เป็นคำนาม คำคุณศัพท์ หรือคำวิเศษณ์ โดยมี 3 ประเภทหลัก ได้แก่:
กริยานาม (Gerund – V-ing)
กริยานามคือกริยาที่เติม -ing และทำหน้าที่เหมือนคำนามในประโยค สามารถเป็นประธาน กรรม หรือส่วนเติมเต็มได้
ตัวอย่าง:
- Eating vegetables and fruits is good for your health. (การกินผักและผลไม้ดีต่อสุขภาพของคุณ)
- He enjoys reading books. (เขาชอบอ่านหนังสือ)

กริยารูปไม่ผันที่มี “to” (To-infinitive)
To-infinitive คือกริยารูปดั้งเดิมที่มีคำว่า “to” มักทำหน้าที่เหมือนคำนาม และสามารถเป็นประธานหรือกรรมได้
ตัวอย่าง:
- To learn is important. (การเรียนเป็นสิ่งสำคัญ)
- She wants to learn Italian. (เธออยากเรียนภาษาอิตาลี)

>>> Read more: การใช้ Gerund (กริยานาม) และ Infinitive (กริยาช่อง 1) อย่างรายละเอียด เข้าใจง่าย
คุณกริยา (Participles)
คุณกริยาเป็นรูปพิเศษของกริยา ทำหน้าที่เหมือนคำคุณศัพท์เพื่อขยายคำนาม และแบ่งออกเป็น 2 ประเภท:
- กริยาเติม ing (Present participle – V-ing)
- คำกริยาช่อง 3 (Past participle – V3 หรือ -ed)
ตัวอย่าง:
- That was an exciting movie. (มันเป็นภาพยนตร์ที่น่าสนุก)
- The broken window was replaced. (หน้าต่างที่แตกได้รับการเปลี่ยนใหม่)

>>> Read more: Adverbial Clause คืออะไร? พร้อมตัวอย่างเกี่ยวกับ Adverbial Clause ที่เข้าใจง่าย
Finite กับ Non-finite verb ต่างกันอย่างไร?
การแยกความแตกต่างระหว่าง Finite verb และ Non-finite verb (กริยสไม่แท้) เป็นสิ่งสำคัญในไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ เพราะทั้งสองมีหน้าที่ต่างกันในประโยค การเข้าใจความแตกต่างนี้จะช่วยให้คุณเขียนประโยคได้ถูกต้องมากขึ้น และอ่านทำความเข้าใจข้อความได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
เกณฑ์ | Finite Verb (กริยาแท้) | Non-finite Verb (กริยาไม่แท้) |
---|---|---|
ผันตามกาล (tense) | ผันตามกาล (อดีต ปัจจุบัน อนาคต) | ไม่ผันตามกาล |
สอดคล้องกับประธาน | มีความสอดคล้องกับประธานเกี่ยวกับบุรุษ จำนวน | ไม่เปลี่ยนตามประธาน |
ทำหน้าที่ในประโยค | เป็นกริยาหลักของอนุประโยค | เป็นคำนาม คำคุณศัพท์ หรือคำวิเศษณ์ ไม่เป็นกริยาหลัก |
สามารถยืนเดี่ยวสร้างอนุประโยค | สามารถสร้างประโยคสมบูรณ์ได้ | ไม่สามารถสร้างประโยคสมบูรณ์ได้ถ้ายืนเดี่ยว |
รูปแบบที่พบบ่อย | กริยาที่ผันตามกาล: ปัจจุบัน อดีต กำลังกระทำ สมบูรณ์ | To-infinitive, V-ing, V3/ed (คุณกริยา) |

คำถามที่พบบ่อย
Finite verb แปลว่าอะไร?
Finite verb คือกริยาที่ผันตามกาลเวลา ประธาน และจำนวน ใช้เป็นกริยาหลักในประโยค
Verb แท้กับ verb ไม่แท้ต่างกันอย่างไร?
กริยาแท้ (Finite) ผันตามกาลเวลา และสอดคล้องกับประธาน ส่วนกริยาไม่แท้ Non-finite) ไม่ผันตามกาลเวลาและไม่ทำหน้าที่เป็นกริยาหลักในประโยค
Verb มีอะไรบ้าง มีกี่ประเภท
กริยาเช่น Finite Verb, Non-finite verb, สกรรมกริยา, อกรรมกริยา, กริยาเชื่อม,… มีหลายวิธีในการจำแนกประเภทขึ้นอยู่กับบริบท
Finite verb and Non finite verb คือ?
Finite verb คือกริยาหลักในประโยค ส่วน Non-finite verb มักทำหน้าที่เป็นคำนาม คำคุณศัพท์ หรือคำวิเศษณ์
Finite verb อ่านว่า?
Finite verb อ่านว่า /ˈfaɪ.naɪt vɜːb/ (ไฟ-ไนท์ เวิร์บ)
Finite คือ?
Finite แปลว่า มีจำกัด ในไวยากรณ์หมายถึงกริยาที่ผันตามกาล จำนวน และบุรุษ

หวังว่าผ่านบทความนี้ คุณจะเข้าใจว่า Finite verb คืออะไร ความแตกต่างระหว่าง Finite Verb และ Non-Finite Verb รวมถึงการเรียนรู้วิธีการนำไปประยุกต์ใช้ในสถานการณ์จริงในภาษาอังกฤษ การเรียนรู้และเข้าใจ Finite กับ Non-finite verb ไม่เพียงแต่ช่วยให้คุณเขียนประโยคได้อย่างถูกต้องตามหลักไวยากรณ์เท่านั้น แต่ยังช่วยพัฒนาทักษะการอ่านและการสื่อสารอีกด้วย ฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอและใช้เครื่องมืออย่าง ELSA Speak เพื่อการใช้งานได้อย่างถูกต้องและแม่นยำยิ่งขึ้น!