วิธีการเขียนและการจำเดือนภาษาอังกฤษ เป็นหัวข้อที่ที่ได้รับความนิยมในการสื่อสาร แม้ว่าคุ้นเคยแค่ไหน แต่ไม่ใช่ผู้เรียนภาษาอังกฤษทุกคนจะมั่นใจสื่อสารเกี่ยวกับหัวข้อนี้ได้
ในบทความนี้ ELSA ขอแนะนำชื่อ วิธีการเขียนย่อ การออกเสียง และเทคนิคการจำเดือนภาษาอังกฤษ 12 เดือน ในขณะเดียวกัน คุณจะได้เรียนความรู้สำคัญอื่นๆ ที่เกี่ยวกับหัวข้อเวลาภาษาอังกฤษอีกด้วย
วิธีการเขียนเดือนภาษาอังกฤษแบบย่อ
เดือนภาษาอังกฤษ เป็นความรู้พื้นฐานที่สำคัญสำหรับผู้เริ่มเรียนภาษาอังกฤษ อย่างไรก็ตาม วิธีดการเขียนและการอ่านเดือนภาษาอังกฤษไม่เป็นไปตามกฎเกณฑ์เฉพาะใดๆ ทำให้ผู้เรียนอาจมีปัญหาเล็กน้อยในการจำคำศัพท์สำหรับ 12 เดือนภาษาอังกฤษ ลองดูรายละเอียดการเขียน การออกเสียง และการการเขียนเดือนภาษาอังกฤษบบย่อดังนี้
ภาษาไทย | คำย่อ | ภาษาอังกฤษ | การสะกดคำ |
มกราคม | Jan | January | /ˈdʒænjueri/ |
กุมภาพันธ์ | Feb | February | /ˈfebrueri/ |
มีนาคม | Mar | March | /mɑːrtʃ/ |
เมษายน | April | April | /ˈeɪprəl/ |
พฤษภาคม | ไม่มี | May | /meɪ/ |
มิถุนายน | Jun | June | /dʒuːn/ |
กรกฎาคม | Jul | July | /dʒuˈlaɪ/ |
สิงหาคม | Aug | August | /ɔːˈɡʌst/ |
กันยายน | Sep | September | /sepˈtembər/ |
ตุลาคม | oct | October | /ɑːkˈtəʊbər/ |
พฤศจิกายน | Nov | November | /nəʊˈvembər/ |
ธันวาคม | Sep | September | /dɪˈsembər/ |
วิธีการท่องจำและความหมายเดือนภาษาอังกฤษ
เพื่อการจำ12 เดือนภาษาอังกฤษอย่างง่ายดาย เราควรแบ่งออกเป็นกลุ่มๆ ที่มีบางสิ่งเหมือนกันก่อน หลังจากนั้น จะเห็นรายละเอียดที่น่าสนใจในชื่อของ 12 เดือนภาษาอังกฤษ ที่ช่วยให้เราจำได้เร็วขึ้นและนานขึ้น
ELSA ขอแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่
- กลุ่มเดือนภาษาอังกฤษที่มีคำสุดท้าย -ary เช่น มกราคม (January) และ กุมภาพันธ์ (February)
- กลุ่มเดือนภาษาอังกฤษที่ไม่จุดร่วม ตั้งแต่มีนาคม (March) ถึงสิงหาคม (August)
- กลุ่มเดือนภาษาอังกฤษที่มีคำสุดท้าย -ember ตั้งแต่กันยายน (September) ถึงธันวาคม (September)
กลุ่มเดือนภาษาอังกฤษที่มีคำสุดท้าย -ary
- มกราคม (January) ตาม Oxford Languages “January” มาจาก “Januarius” ในภาษาละตินหมายถึงว่า “เดือนของ Janus” ตามศาสนาและตำนานของโรมัน Janus เป็นเทพเจ้าแห่งประตูทางผ่าน การเริ่มต้นและการเปลี่ยนแปลง ในทำนองเดียวกัน January – มกราคม ก็เป็นเดือนแรกของปี
- กุมภาพันธ์ (February) ตาม Oxford Languages “February” ที่สร้างโดย “Februarius” ในภาษาละติน ซึ่งมาจาก “februa” ที่มีความหมายว่าทำความสะอาดหรือชำระล้าง และยังเป็นชื่อของพิธีชำระล้างแบบโบราณที่จัดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ทุกปี
กลุ่มเดือนภาษาอังกฤษที่ไม่จุดร่วม
- มีนาคม (March) ตามวิกิพีเดีย “March” มาจาก “Martius” ซึ่งเป็นชื่อของเดือนแรกในปฏิทินโรมันยุคแรก ดังนั้นอาจกล่าวได้ว่า “March” เคยเป็นเดือนแรก หลังจากนั้น “January” และ “February” ถูกวางไว้ก่อน “March”
- เมษายน (April) ชื่อ “April” มาจากคำ “Aperio” ในภาษาละติน ซึ่งมีความหมายว่า “ออกดอกน” เพราะตามชาวโรมันโบราณ ดอกไม้มักจะบานในเดือนนี้
- พฤษภาคม (May) คำ “May” มาจาก “mariores” ในภาษาละติน ซึ่งมีความหมายว่า “elders” ตามวัฒนธรรมโรมันโบราณ ผู้คนได้รับการแสดงความยินดีและให้เกียรติในเดือนนี้
- มิถุนายน (June) ชื่อ “June” มาจาก “juvenis” ซึ่งแปลว่าคนหนุ่มสาว เราสามารถพูดได้ว่าเดือนมิถุนายนเป็นจุดเริ่มต้นของฤดูร้อน ที่เยาวชนส่วนใหญ่ชอบมากๆ และเป็นช่วงเวลาที่พวกเขาหยุดพักจากโรงเรียนเพื่อสนุกสนาน ผ่อนคลาย ฯลฯ
- กรกฎาคม (July) “July” ถูกตั้งชื่อตาม Julius Caesar เป็นจักรพรรดิแห่งกรุงโรมโบราณ พระองค์มีส่วนสำคัญในการปฏิรูปปฏิทินโรมัน เดือนกรกฎาคมถูกตั้งชื่อตามจักรพรรดิพระองค์นี้เนื่องจากพระองค์ประสูติในเดือนกรกฎาคม
- สิงหาคม (August) “August” ถูกตั้งชื่อตาม Augustus ซึ่งเป็นบุคคลที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดกับ Julia Caesar เขาเป็นหลานชายบุญธรรมและเป็นทายาทคนเดียวของ Caesar Augustus มีอานิสงส์ในการเผยแพร่ปฏิทิน
กลุ่มเดือนภาษาอังกฤษที่มีคำสุดท้าย -ember
เมื่ออธิบายถึงที่มาของชื่อ “March” ELSA เคยกล่าวว่าเดิมที “March”’ เป็นเดือนแรกในปฏิทินโรมัน หลังจาดนั้น มีการเพิ่มม January และ February ไว้ที่จุดเริ่มต้น นั่นเป็นเหตุผลที่เดือน “September” “October” “November” และ “September” ยังคงเหมือนเดิม ดังนั้น เมื่อแปลธาตุละตินใน4 ชื่อนี้เป็นภาษาไทย จะเห็นว่าสูงกว่าด้วยตัวเลข 2 ตัว
- September (กันยายน) “septem” ในภาษาละตินคือ 7
- October (ตุลาคม) “octo” ในภาษาละตินคือ 8
- November (พฤศจิกายน) “novem” ในภาษาละตินคือ 9
- December (ธันวาคม) “decem” ในภาษาละตินคือ 10
เลขลำดับสำหรับการอ่านวันภาษาอังกฤษ
เมื่ออยากพูดเกี่ยวกับวันในเดือนโดยภาษาอังกฤษ เราไม่ใช้ตัวเลข แต่ใช้ตัวเลขลำดับดังต่อไปนี้
แบบอักษร | การสะกดคำ | คำย่อ |
first | /fɜːrst/ | 1st |
second | /ˈsekənd/ | 2nd |
third | /θɜːrd/ | 3rd |
fourth | /fɔːrθ/ | 4th |
fifth | /fɪfθ/ | 5th |
sixth | /sɪksθ/ | 6th |
seventh | /ˈsevnθ/ | 7th |
eight | /eɪtθ/ | 8th |
ninth | /naɪnθ/ | 9th |
tenth | tenth | 10th |
eleventh | /ɪˈlevnθ/ | 11th |
twelfth | /twelfθ/ | 12th |
thirteenth | /ˌθɜːrˈtiːnθ/ | 13th |
fourteenth | /ˌfɔːrˈtiːnθ/ | 14th |
fifteenth | /ˌfɪfˈtiːnθ/ | 15th |
sixteenth | /ˌsɪksˈtiːnθ/ | 16th |
seventeenth | /ˌsevnˈtiːnθ/ | 17th |
eighteenth | /ˌeɪˈtiːnθ/ | 18th |
nineteenth | /ˌnaɪnˈtiːnθ/ | 19th |
twentieth | /ˈtwentiəθ/ | 20th |
twenty-first | /ˌtwenti ˈfɜːrst/ | 21st |
twenty-second | /ˌtwenti ˈsekənd/ | 22nd |
twenty-third | /ˌtwenti ˈ θɜːrd/ | 23rd |
twenty-fourth | /ˌtwenti ˈ fɔːrθ/ | 24th |
twenty-fifth | /ˌtwenti ˈ fɪfθ/ | 25th |
twenty-sixth | /ˌtwenti ˈ sɪksθ/ | 26th |
twenty-seventh | /ˌtwenti ˈsevnθ/ | 27th |
twenty-eight | /ˌtwenti ˈeɪtθ/ | 28th |
twenty-ninth | /ˌtwenti ˈnaɪnθ/ | 29th |
thirtieth | /ˈθɜːrtiəθ/ | 30th |
thirty-first | /ˌθɜːrti ˈfɜːrst / | 31st |
วิธีการอ่านปีภาษาอังกฤษ
กรณี | กฏ | ตัวอย่าง | วิธีการอ่าน |
---|---|---|---|
ปีที่มีตัวเลข 1 หรือ 2 ตัว | อ่านเหมือนเลขธรรมดา | 68 | sixty-eight |
ปีที่มีตัวเลข 3 ตัว | เลขตัวแรก + เลขสองตัวถัดไป | 492 | four ninety-two |
ปีที่มีตัวเลข 4 ตัว (มีเลข 0 ต่อท้าย 3 ตัว) | (the year) + เลขตัวแรก + thousand | 1000 | (the year) one thousand |
ปีที่มีตัวเลข 4 ตัว (เลข 0 ในตำแหน่งที่ 2 และ 3) | – เลขตัวแรก 2 ตัว + oh + เลขตัวสุดท้าย – เลขตัวแรก + thousand + and + เลขตัวสุดท้าย (อังกฤษ) – เลขตัวแรก + thousand + เลขตัวสุดท้าย (อเมริกา) | -2001 -2009 | – twenty oh one – two thousand and nine/two thousand nine |
ปีที่มีตัวเลข 4 ตัว (เลข 0 ในตำแหน่งที่ 2) | – เลขตัวแรก 2 ตัว + เลขสองตัวถัดไป – เลขตัวแรก + thousand and + เลขสุดท้าย 2 ตัว (อังกฤษ) – เลขตัวแรก + thousand + เลขสุดท้าย 2 ตัว (อเมริกา) หมายเหตุ เราสามารถอ่านตัวเลขเป็นคู่ | -2017 -2014 | – twenty seventeen – two thousand and fourteen/two thousand fourteen |
ปีที่มีตัวเลข 4 ตัว (เลข 0 ในตำแหน่งที่ 3) | – เลขตัวแรก 2 ตัว + oh + เลขตัวสุดท้าย หมายเหตุ เราสามารถอ่านตัวเลขเป็นคู่ | 1806 | eighteen oh six |
ไม่มีเลข 0 | – เลขตัวแรก 2 ตัว + เลขสุดท้าย 2 ตัว หมายเหตุ ให้เอาเลขแต่ละคู่นี้มาเชื่อมต่อกันแล้วอ่านเหมือนเลขที่มีตัวเลข 2 ตัว | 1964 | nineteen sixty-four |
วิธีการเขียนและการอ่านวัน เดือน และปีภาษาอังกฤษ
- ตามสำเนียงชาวอังกฤษ
- วิธีการเขียน วันก่อนเดือน วันถูกเขียนแบบย่อของเลขลำดับ ลบเครื่องหมายเลขลำดับได้ และมี (,) ก่อนปี
ตัวอย่าง 1st July, 2020 หรือ 1 July, 2020
- วิธีการอ่าน “the” + เลขลำดับ + of + เดือน + ปี ไม่ว่าวันจะเขียนเป็นตัวเลขหรือเป็นเลขลำดับ ก็ยังจำเป็นต้องอ่านเป็นเลขลำดับ
ตัวอย่าง 1st July, 2020 หรือ 1 July, 2020
⟶ the first of July, twenty twenty
- ตามสำเนียงชาวอเมริกัน
- วิธีการเขียน เขียนวันแล้วตามด้วยเดือน วันถูกเขียนแบบย่อของเลขลำดับ สามารถลบเครื่องหมายเลขลำดับได้ และมี (,) ก่อนปี
- ตัวอย่าง September 23rd, 2021 หรือ September 23, 2021
- วิธีการอ่าน เดือน + (the) + เลขลำดับ + ปี
- หมายเหตุ วันถูกเขียนไม่มีเครื่องหมายเลขลำดับ ก็ต้องอ่านวันเป็นตัวเลข และไม่มี “the” ก่อนวัน
- ตัวอย่าง September 23rd, 2021
⟶ September (the) twenty-third, twenty twenty-one (không nhất thiết phải có ‘the’)
หรือ September 23, 2021
⟶ September twenty-three, twenty twenty-one
คำบุพบทบ่งบอกเวลา
- At บอกเวลาตามนาฬิกา
ตัวอย่าง Today, we have a meeting at 3:30 pm
⟶ วันนี้ เรามีการประชุมตอน 15.30 น.
- In บอกช่วงเวลาของวัน “‘the + buổi trong ngày” บอกฤดูกาล เดือน ปี
ตัวอย่าง
I sometimes go jogging in the morning.
⟶ บางครั้งฉัน/ผมวิ่งในตอนเช้า
In summer, I usually go back to my hometown.
⟶ ในฤดูร้อน ฉันมักจะกลับไปบ้านเกิด
My birthday is in June
⟶ วันเกิดของฉันคือเดือนมิถุนายน
We bought this house in 2013.
⟶ เราซื้อบ้านหลังนี้ในปี 2556
My younger sister was born in November, 2000.
⟶ น้องสาวของฉันเกิดในเดือนพฤศจิกายน ปี 2543
- On บอกวันในสัปดาห์ บอกวันที่
ตัวอย่าง
We have at least 2 meetings on Mondays.
⟶ เรามีการประชุมอย่างน้อย 2 ครั้งในวันจันท์ทุกสัปดาห์
We are going to hold a conference on the 20th.
⟶ เรากำลังเตรียมจัดการประชุมในวันที่ 20
That horrific accident took place on 30th May, 1956.
⟶ อุบัติเหตุอันน่ากลัวนั้นเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2499
หมายเหตุ
เมื่อเห็นว่า ก่อนคำบอกวันในสัปดาห์ (Monday Tuesday เป็นต้น) คือ next last this that เป็นต้น ก็ไม่ต้องใส่คำบุพบท
ตัวอย่าง
We’re signing a very important contract next Friday.
⟶ เราจะเซ็นสัญญาที่สำคัญในวันศุกร์หน้า
Last year, I went on lots of business trips.
⟶ ปีที่แล้ว ฉัน/ผมเดินทางเพื่อธุรกิจหลายครั้ง
This month, we have to write some reports.
⟶ เดือนนี้ เราต้องเขียนรายงานบางฉบับ
I can’t forget first meeting her that day.
⟶ ฉันลืมครั้งแรกที่ได้พบเธอในวันนั้นไม่ได้
แบบฝึกหัดเดือนภาษาอังกฤษ
แบบฝึกหัดที่ 1 เขียนการอ่านวันที่ด้านล่าง
- 21st January, 1837
- March 15th, 2004
- August 28, 1941
- 23 October, 2016
- December 4th, 1793
- February 29th, 2000
- 30th May
- 31st July
- September 26th
- 3rd April
- November 17
- 14th June
คำเฉลย
- the twenty-first of January, eighteen thirty-seven
- March (the) fifteen, two thousand (and) four
- August twenty eight, nineteen forty-one
- the twenty-third of October, twenty sixteen
- December (the) fourth, seventeen ninety-three
- February (the) twenty-ninth, two thousand
- the thirtieth of May
- the thirty-first of July
- September the twenty-sixth
- the third of April
- November seventeen
- the fourteenth of June
แบบฝึกหัดที่ 2 เติมคำบุพบทที่เหมาะสมลงในช่องว่าง มีช่องว่างที่ไม่จำเป็นต้องมีคำบุพบท
- Our class starts ……………….. half past seven (7:30).
- My grandmother does the gardening ……………….. Saturdays.
- We are going on a business trip ……………….. July 23rd.
- His elder sister’s birthday is ……………….. September.
- We usually go skiing ……………….. winter.
- We are going to hold a workshop ……………….. next Wednesday.
- The city was struck by the tidal wave ……………….. Tuesday, 22nd April, 1982.
- Our company was established ……………….. 2001.
- We are visiting our relatives ……………….. this weekend.
- Our parents go to the gym ……………….. Mondays and Thursdays
>>> Read more
- [การ review อย่างละเอียด] App เรียนภาษาอังกฤษสำหรับเด็กดีหรือไม่ราคาเท่าไหร่
- [รีวิวแบบละเอียด] ELSA Speak คืออะไร? แอปฝึกพูดภาษาอังกฤษสำหรับคนทำงานที่มีเวลาน้อย
คำเฉลย
- Our class starts at half past seven (7:30).
- My grandmother does the gardening on Saturdays.
- We are going on a business trip on July 23rd.
- His elder sister’s birthday is in September.
- We usually go skiing in winter.
- We are going to hold a workshop next Wednesday.
- The city was struck by the tidal wave on Tuesday, 22nd April, 1982.
- Our company was established in 2001.
- We are visiting our relatives this weekend.
- Our parents go to the gym on Mondays and Thursdays.
ด้านบนเป็นการสรุปความรู้เกี่ยวกับเดือนในภาษาอังกฤษ พร้อมการออกเสียง เคล็ดลับการจำ และความรู้สำคัญอื่นๆ เกี่ยวกับหัวข้อเวลาในภาษาอังกฤษ หวังว่าบทความนี้จะให้คุณค่ามากมายแก่คุณ และช่วยให้คุณมีความมั่นใจมากขึ้นเมื่อสื่อสารภาษาอังกฤษและฝึกฝนภาษาอังกฤษ แล้วพบกันใหม่บทความหน้า