ความหมายของ Negative sentence ตัวอย่าง และโครงสร้างประโยค

Negative sentences in english เป็นประโยคประเภทหนึ่งที่ใช้บ่อยในการพูดและการเขียน อย่างไรก็ตาม หลายคนคิดว่าการสร้าง negative sentence ในภาษาอังกฤษคือการเติมเพียงคำว่า “not” หลังคำกริยา to be หรือกริยาช่วยเท่านั้น ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ผิดและจะนำไปสู่การใช้ประโยคปฏิเสธที่ไม่หลากหลาย มีคําซํ้าง่าย และไม่มีประสิทธิภาพในการสื่อสารภาษาอังกฤษ ดังนั้น ELSA Speak จะช่วยให้เห็นสิ่งที่ควรจำเกี่ยวกับ negative sentence นะ

สารบัญ

นิยามและข้อสังเกตเมื่อเจอ negative sentence ในภาษาอังกฤษ

negative sentence

Negative sentence เป็นประโยคประเภทหนึ่งที่ใช้เพื่อแสดงความคิดเห็นว่ามีบางอย่างผิดหรือไม่เป็นความจริง หรือเพื่อแสดงความไม่เห็นด้วยของผู้พูด/ผู้เขียน หรือในแง่พื้นฐานที่สุด Negative sentence แปลว่า “ไม่” โดยปกติแล้ว ประโยคปฏิเสธในภาษาอังกฤษจะถูกสร้างขึ้นโดยการเติมคำว่า “not” เข้าไปในประโยคบอกเล่า

สอบก่อนเข้าฟรี

{{(sIndex/sentences.length)*100}}%
{{ sentences[sIndex].text }}.
loading

ตัวอย่างประโยคปฏิเสธ (negative sentences examples):

  • He does not want to go shopping. (เขาไม่อยากไปช้อปปิ้ง)
  • There are not many apples in this summer. (ในฤดูร้อนนี้แอปเปิ้ลมีน้อย)

ดังนั้น ในตัวอย่าง negative sentence ข้างต้น ทั้งสองประโยคจึงมีคำว่า “not” นี่เป็นหนึ่งในข้อสังเกตพื้นฐานในการจดจำประโยคปฏิเสธในภาษาอังกฤษ นอกจากนี้ ยังมีประโยคประเภทต่าง ๆ ที่ดูเหมือนประโยคบอกเล่า (เพราะไม่มีคำว่า “not”) แต่จริง ๆ แล้วมีความหมายเชิงปฏิเสธ

ตัวอย่าง: I hardly eat outside. (ฉันไม่ค่อยกินข้าวนอกบ้าน

ประโยคตัวอย่างนี้มีความหมายเชิงปฏิเสธเนื่องจากมีคำเชิงปฏิเสธ “hardly” ดังนั้น negative sentence จึงสามารถสังเกตได้จากโครงสร้างเชิงปฏิเสธของประโยคหรือคำเชิงปฏิเสธที่มีอยู่ในประโยค

>>> Read more: ประโยคคำถามในภาษาอังกฤษคืออะไร? โครงสร้างคำถามและตัวอย่างที่เข้าใจง่าย

วิธีสร้าง negative sentence ในภาษาอังกฤษ 

ในภาษาอังกฤษ ประโยคปฏิเสธถูกสร้างขึ้นโดยการเปลี่ยนโครงสร้างของประโยคบอกเล่าให้เป็นโครงสร้างของประโยคปฏิเสธ ซึ่งสามารถจำแนกออกได้เป็นวิธีพื้นฐานดังต่อไปนี้:

วิธีสร้างประโยคปฏิเสธในภาษาอังกฤษตัวอย่าง
เติม “not” หลังคำกริยา to be หรือเติมหลังกริยาช่วยShe is not watching TV at home, she is dancing with him. (เธอไม่ได้ดูทีวีอยู่ที่บ้าน เธอกำลังเต้นรำกับเขา)
ใช้คำเชิงปฏิเสธเพื่ออ้างถึงคำนาม: “no”, “no one”, “nobody”, “none”, “nothing”, “neither”,…Nobody helped her as they thought she was a liar. (ไม่มีใครช่วยเธอเพราะพวกเขาคิดว่าเธอเป็นคนโกหก)
ใช้คำนำหน้า (de-, un-, dis-) หรือคำต่อท้าย (-less) สำหรับคำภาษาอังกฤษบางคำThat food was unhealthy = That food was not healthy. (อาหารเมนูนั้นไม่ดีต่อสุขภาพ)
ใช้คำวิเศษณ์เชิงปฏิเสธ: hardly, rarely, seldom, little,…They seldom go to school by bus. (พวกเขาไม่ค่อยไปโรงเรียนโดยรถประจำทาง)
ใช้โครงสร้างเชิงปฏิเสธ: too…toThis soup is too hot to eat fast this summer. (ซุปนี้ร้อนเกินกว่าจะกินเร็ว ๆ ในหน้าร้อนนี้)
วิธีสร้าง negative sentence ในภาษาอังกฤษ 

Negative sentence โครงสร้างในภาษาอังกฤษ

ประโยคปฏิเสธในบางกาลในภาษาอังกฤษ

กาลโครงสร้างตัวอย่างหมายเหตุ
กาลปัจจุบันS + do/does + not + V-inf + OI don’t like watching TV all the weekend. (ฉันไม่ชอบดูทีวีในช่วงสุดสัปดาห์)Do not/Does not สามารถย่อให้สั้นลงได้เป็น don’t/doesn’t
ปัจจุบันกาลต่อเนื่องS + am/is/are + not + V-ing + OShe is not driving at the moment. (เธอไม่ได้ขับรถในเวลานี้)Is not/ are not สามารถเขียนเป็น isn’t / aren’t ได้
ปัจจุบันกาลสมบูรณ์S + have/has + not + PII + OYou have not finished your homework yet. (คุณยังทำการบ้านไม่เสร็จ)Have not/ has not สามารถเขียนเป็น haven’t / hasn’t ได้
อดีตกาลธรรมดาS + did + not + V-inf + OJom didn’t stay at home last night. (เมื่อคืนนี้จอมไม่ได้อยู่บ้าน)Did not สามารถเขียนเป็น didn’t ได้
อดีตกาลต่อเนื่องS + was/were + not + V-ing + OShe wasn’t eating dinner when I came her house. (เธอไม่ได้กินข้าวเย็นตอนที่ฉันไปบ้านเธอ)Was not/were not สามารถเขียนเป็น wasn’t/weren’t ได้
อดีตกาลที่สมบูรณ์S + had + not + PII + OJom had not been to London before 2022. (จอมไม่เคยไปลอนดอนมาก่อนปี 2022)Had not สามารถเขียนเป็น  hadn’t ได้
อนาคตกาลS + will + not + V-inf + OI won’t use that laptop anymore. (ฉันจะไม่ใช้แล็ปท็อปเครื่องนั้นอีกต่อไป)Will not สามารถเขียนเป็น won’t ได้
กาลอนาคตอันใกล้S + am/is/are + not + going to V-inf + OShe is not going to buy that moto next weekend. (เธอจะไม่ซื้อมอเตอร์ไซค์คันนั้นในวันหยุดสุดสัปดาห์หน้า)Is not/are not สามารถเขียนเป็น isn’t/aren’t. ส่วน am not คงโครงสร้างเดิม

>>> Read more: 12 tense ในภาษาอังกฤษ: โครงสร้าง หลักการใช้ และสัญญาณการรับรู้

ประโยคปฏิเสธที่มีกริยาช่วย

กริยาช่วยในภาษาอังกฤษ: can, can, would, might, may, have to, ควรจะ, need… และคำเหล่านี้เรียกรวมกันในภาษาอังกฤษว่า Modal Verbs

โครงสร้างประโยคปฏิเสธของกริยาช่วยมีดังนี้:

S + modal verbs + not + Vo + O

นอกจากนี้กริยาช่วยยังสามารถย่อได้ดังนี้: cannot, can’t, don’t/doesn’t have to, couldn’t, needn’t,…

ตัวอย่าง:

  • She can’t drive a car. (เธอไม่สามารถขับรถได้)
  • He needn’t go to school on time because of his broken legs. (เขาไม่จำเป็นต้องไปโรงเรียนตรงเวลาเนื่องจากขาหัก)
  • You mustn’t be late for class. (คุณไม่ควรไปเรียนสาย)
ประโยคปฏิเสธที่มีกริยาช่วย

ประโยคคำสั่งในภาษาอังกฤษที่มีความหมายเชิงปฏิเสธ

เพื่อสร้างประโยคปฏิเสธจากประโยคคําสั่งในภาษาอังกฤษ เราจะเติม “not” หลังกริยาช่วย “Do” หรือหลัง “Let’s” (ถ้าประโยคใช้โครงสร้าง Let’s)

โครงสร้าง:

Do/Let’s + not + Vo + O

ตัวอย่าง: 

  • Do not run over this park = Don’t run over this park. (อย่าวิ่งลัดสวนสาธารณะแห่งนี้)
  • Let’s not forget to turn off light. (อย่าลืมปิดไฟด้วย)
ประโยคคำสั่งในภาษาอังกฤษที่มีความหมายเชิงปฏิเสธ

ประโยคปฏิเสธกับ Any และ No

  • เราใส่ “any” นำหน้าคำนามภาคแสดงเพื่อเน้นประโยคปฏิเสธ คุณสามารถใช้ no + คํานาม หรือ a single + คำนามเอกพจน์ เพื่อเน้นประโยคปฏิเสธได้ 

ตัวอย่าง: I don’t have any money. = I have no money. = I don’t have a single dollar. (ฉันไม่มีเงิน)

  • Some อยู่ในประโยคบอกเล่าจะถูกเปลี่ยนเป็น any/no + คํานาม/a single + คำนามเอกพจน์ ในประโยคปฏิเสธ 

โครงสร้าง:

“Some” อยู่ในประโยคบอกเล่า -> “any/no” + คำนามในประโยคปฏิเสธ

ตัวอย่าง: I have some books => I don’t have any books. (ฉันมีหนังสือบางเล่ม => ฉันไม่มีหนังสือเลย)

ประโยคปฏิเสธคู่ขนาน

โครงสร้างประโยคปฏิเสธแบบคู่ขนานใช้เพื่อเน้นแนวคิดที่ให้ไว้:

ประโยคปฏิเสธ even/still less/much less + คํานาม/คํากริยา : ไม่… ยิ่งไม่

ตัวอย่าง: She doesn’t like playing piano, much less gitar. (เธอไม่ชอบเล่นเปียโนและยิ่งไม่ชอบเล่นกีตาร์)

ประโยคปฏิเสธรวมกับการเปรียบเทียบ

โครงสร้าง:

ปฏิเสธ + เปรียบเทียบชั้นกว่า (more/ less)

= เปรียบเทียบชั้นสุด (ความหมายคือการเปรียบเทียบแบบสัมบูรณ์)

ตัวอย่าง:  I couldn’t agree with you more = I absolutely agree with you. (ฉันไม่สามารถเห็นด้วยกับคุณมาก

กว่านี้แล้ว= ฉันเห็นด้วยกับคุณอย่างแน่นอน)

ประโยคปฏิเสธที่ไม่ใช้รูปแบบปฏิเสธของคำกริยา

ในภาษาอังกฤษ มีคำวิเศษณ์บางคำที่มีความหมายเชิงปฏิเสธ เมื่อเราใช้แล้ว เราไม่จำเป็นต้องใช้โครงสร้างเชิงปฏิเสธของคำกริยาในประโยคอีกต่อไป

ตัวอย่าง เช่น:

  • Hardly, scarcely, barely = almost nothing/ almost not at all = ไม่ค่อย
  • Seldom, hardly ever, rarely = almost never = แทบจะไม่เคยเลย

โครงสร้างที่ 1:

S + คำวิเศษณ์เชิงปฏิเสธ + V

ตัวอย่าง: I hardly ever see her at the church. (ฉันแทบจะไม่เคยเห็นเธอที่โบสถ์เลย)

โครงสร้างที่ 2:

S + to be + คำวิเศษณ์เชิงปฏิเสธ + V

ตัวอย่าง: He is rarely late to work. (เขาไม่ค่อยไปทำงานสาย)

ประโยคปฏิเสธที่ไม่ใช้รูปแบบปฏิเสธของคำกริยา

ประโยคปฏิเสธของคำกริยาพิเศษในภาษาอังกฤษ

สำหรับคำกริยา เช่น: believe, think, allowance, Imagine + that + clause เมื่อจะเปลี่ยนเป็นประโยคปฏิเสธ เราต้องเปลี่ยนกริยาช่วยในส่วนแรกเป็นรูปแบบปฏิเสธ และส่วนที่สองจะเป็นรูปแบบบอกเล่าเสมอ

โครงสร้าง:

believe, think, suppose, imagine + that + อนุประโยค

ตัวอย่าง: I don’t believe he will come here. (ฉันไม่เชื่อว่าเขาจะมาที่นี่)

(จะไม่เขียนว่า: I believe he will not come here.)

คำถามในรูปแบบปฏิเสธที่มีความหมายเน้นย้ำ

แม้ว่าประโยคเหล่านี้จะเป็นคำถาม แต่ก็ไม่ได้ใช้เพื่อวัตถุประสงค์ในการถาม แต่เพื่อเน้นความหมายของผู้พูด ดังนั้น เราจะไม่ใส่ “?” ในท้ายของประโยค

  • เน้นการยืนยันของผู้พูด:

ตัวอย่าง: Shouldn ‘t you put on your hat, too! (คุณก็ควรใส่หมวกด้วยนะ!)

  • ใช้ในการสรรเสริญ:

ตัวอย่าง: Wouldn’t it be nice if we didn’t have to work on Saturday. (จะดีมากถ้าเราไม่ต้องทำงานในวันเสาร์)

ประโยคปฏิเสธกับ “Not … at all; at all”

  • Not … at all: ไม่เลย มักจะอยู่ท้ายประโยคปฏิเสธ

ตัวอย่าง: I didn’t understand anything at all. (ฉันไม่เข้าใจอะไรเลย)

  • At all: ใช้ในคำถาม

ตัวอย่าง: Do you play piano at all? (คุณเล่นเปียโนบ้างไหม)

Negative sentence กับ Not … at all at all

ประโยคปฏิเสธกับ No Matter

โครงสร้าง:

No matter + who/what/which/where/when/how + S + V (ปัจจุบันกาล): ไม่ว่าอะไรก็ตาม

หมายเหตุ: 

  • No matter who = whoever
  • No matter what = whatever

ตัวอย่าง:

No matter how long time passes, I still love her. = Whoever comes into my life, I will still love her no matter how much time passes. (ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนฉันยังคงรักเธอ = ใครก็ตามที่เข้ามาในชีวิตฉัน ฉันจะยังคงรักเธอไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน)

ELSA Pro ไม่จำกัด

14,895 บาท -> 2,744 บาท

ELSA Premium 1 ปี

8,497 บาท -> 4,390 บาท

หมายเหตุในการใช้โครงสร้างปฏิเสธในภาษาอังกฤษ

ปฏิเสธสองครั้ง = บอกเล่า

ถ้าในประโยคมีโครงสร้างหรือคำหรือองค์ประกอบเชิงปฏิเสธสองประการ ประโยคนั้นจะกลายเป็นประโยคบอกเล่า

ตัวอย่าง: Don’t forget to carry on her hat. (อย่าลืมนําหมวกของเธอไปด้วย)

(ในตัวอย่างนี้ มีการปฏิเสธสองประการ: “don’t” และคำเชิงปฏิเสธ “forget” ดังนั้นประโยคจึงสามารถเข้าใจได้ว่า “Remember to take her hat” – ตรงข้ามกับลืม)

คําบ่งชี้ที่ใช้ในประโยคปฏิเสธ

คําบ่งชี้วิธีใช้ตัวอย่าง
Much – มากเท่าไหร่ใช้สำหรับคำนามนับไม่ได้She doesn’t have much food to eat. (เธอไม่มีอาหารจะกินมากเท่าไหร้)
Many – มากนักใช้สำหรับคำนามนับได้Mark doesn’t bring many books to class. (มาร์คไม่ได้นำหนังสือมาเรียนมากนัก)
Any – ไม่มีเลยใช้สำหรับคำนามนับได้พหูพจน์และคำนามนับไม่ได้Her house doesn’t have any visitors this week. (สัปดาห์นี้บ้านของเธอไม่มีแขกมาเยี่ยมเลย)
A lot of และ lots of – มากสามารถใช้ได้ทั้งประโยคปฏิเสธและประโยคบอกเล่าJom doesn’t have lots of/a lot of friends here. (ที่นี่จอมมีเพื่อนไม่มากนัก)

>>> Read more: การใช้ how much how many ในภาษาอังกฤษ

หมายเหตุ Negative sentence

เคล็ดลับในการใช้ negative sentence ให้เชี่ยวชาญ

เพื่อให้มีความเชี่ยวชาญในการระบุตัวตน (เพื่อทำความเข้าใจว่าอีกฝ่ายหรือผู้เขียนกำลังพูดถึงความคิดเชิงปฏิเสธ) รวมถึงการใช้ประโยคเชิงปฏิเสธในภาษาอังกฤษ เราต้องมีทักษะและเวลาที่จำเป็นในการฝึกฝนเพื่อทำความคุ้นเคยและเชี่ยวชาญ  ดังนั้น ELSA Speak ขอแนะนำวิธีต่อไปนี้:

  • สิ่งแรกและสำคัญที่สุดคือการเรียนรู้ประโยคปฏิเสธในภาษาอังกฤษ
  • ประการที่สอง ใส่ใจกับการเสริมสร้างคลังคำศัพท์ วลีดี ๆ หรือโครงสร้างประโยคที่มีความหมายเชิงปฏิเสธ จดจำและฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอเพื่อเพิ่มความสามารถในการจดจำ
  • ประการที่สามคือการฝึกฝนและนำสิ่งที่คุณได้เรียนรู้เกี่ยวกับประโยคปฏิเสธไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน
  • ประการที่สี่นี้สามารถนำไปใช้ได้เมื่อสภาพแวดล้อมการใช้ภาษาอังกฤษมีจำกัด ทำให้ยากต่อการควบคุมประโยคปฏิเสธ นั่นก็คือมีส่วนร่วมในการทบทวนและลงทะเบียนสอบภาษาอังกฤษเพราะในการสอบแต่ละครั้งเรามีโอกาสทดสอบซ้ำความสามารถของเราในการจดจำและมีแนวการเรียนรู้จากประสบการณ์อย่างทันท่วงที

วิธีแยกแยะคำถามปฏิเสธและประโยคปฏิเสธ

ประเภทโครงสร้างตัวอย่างบทบาท
คําถามเชิงปฏิเสธAuxiliary verb + not + subject + verb…?Haven’t you been to Paris before? (คุณไม่เคยไปปารีสมาก่อนเหรอ)แสดงออกถึงความสงสัยหรือความปรารถนาของผู้พูดหรือผู้เขียนที่จะถามคำถาม
ประโยคปฏิเสธSubject + auxiliary verb + not + verbI have not been to Paris before. (ฉันไม่เคยไปปารีสมาก่อน)แสดงการปฏิเสธหรือขัดแย้งกับข้อมูลบางอย่างอย่างชัดเจนโดยไม่มีข้อสงสัย
คำถามปฏิเสธและประโยคปฏิเสธ

แบบฝึกหัดเกี่ยวกับ negative sentence ในภาษาอังกฤษ

บทที่ 1: จงเปลี่ยนประโยคต่อไปนี้ให้อยู่ในรูปปฏิเสธ

1. He showed a great interest in the offer.

 _________________________________________________________ .

2. He admitted that he stole the money.

 _________________________________________________________ .

3. There were some cars in the parking lot when he left.

_________________________________________________________ .

4. They were having a meeting when the vice president arrived.

 _________________________________________________________ .

5. I have finished working on the project.

_________________________________________________________ .

6. He has been waiting for the train for almost an hour.

_________________________________________________________ .

7. He has a lot of friends back home.

_________________________________________________________ .

8. He has been to Scotland once when he was a child.

 _________________________________________________________ .

9. Her car was badly damaged in the accident.

 _________________________________________________________ .

10. Her dad wants her to be a doctor.

 _________________________________________________________ .

บทที่ 2: จงเรียงคำต่อไปนี้ให้เป็นประโยคที่สมบูรณ์

1. brief / the chairman / wouldn’t / better / initiative / to / it / this / we / be / if / to.

____________________________________________________________________ .

2. weekend / seldom / they / dinner / the / go out / for / on.

____________________________________________________________________ .

3. money / he / arrived / on / didn’t have / when / any / him / the / package.

____________________________________________________________________ .

4. project / going / fair / they’re / on / the / they’re / to / not / working / because / a.

 ____________________________________________________________________ .

5. December 12 / let’s / sales meeting / about / not / on / forget / the.

 ____________________________________________________________________ .

เฉลย:

บทที่ 1:

1. He didn’t show any interest in the offer.

2. He didn’t admit that he stole the money.

3. There weren’t any cars in the parking lot when he left.

4. They weren’t having a meeting when the vice president arrived.

5. I haven’t finished working on the project.

6. He hasn’t been waiting for the train.

7. He doesn’t have a lot of friends back home.

8. He has never been to Scotland before. (He hasn’t been to Scotland before.)

9. Her car wasn’t badly damaged in the accident.

10. Her dad doesn’t want her to be a doctor.

บทที่ 2:

1. Wouldn’t it be better if we brief this initiative directly to the chairman.

2. They seldom go out for dinner on the weekend.

3. He didn’t have any money on him when the package arrived.

4. They’re not going to the fair because they’re working on a project.

5. Let’s not forget about the sales meeting on December 12.

 4 เคล็ดลับสำหรับการเรียนด้วย ELSA Speak

ประโยคปฏิเสธและประโยคบอกเล่า (positive sentences and negative sentences) ต่างกันอย่างไร

เกณฑ์ประโยคบอกเล่าประโยคปฏิเสธ
วัตถุประสงค์ยืนยันเหตุการณ์ การกระทำ หรือสถานะปฏิเสธหรือหักล้างเหตุการณ์ การกระทำ หรือสถานะ
โครงสร้างS + V + O
(ประธาน + กริยา + กรรม)
S + กริยาช่วย + not + V + O
(ประธาน + กริยาช่วย + Not + กริยา + กรรม)
ตัวอย่าง– She reads books every day.(เธออ่านหนังสือทุกวัน)
– They are going to the park.(พวกเขากำลังไปที่สวนสาธารณะ)
– He plays football on weekends.(เขาเล่นฟุตบอลในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์)
– I have finished my homework.(ฉันทำการบ้านเสร็จแล้ว)
– We enjoy watching movies together.(เราชอบดูหนังด้วยกัน)
– She does not read books every day. (เธอไม่ได้อ่านหนังสือทุกวัน)
– They are not going to the park. (พวกเขาจะไม่ไปที่สวนสาธารณะ)
– He does not play football on weekends. (เขาไม่เล่นฟุตบอลในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์)
– I have not finished my homework. (ฉันยังทำการบ้านไม่เสร็จ)
– We do not enjoy watching movies together. (เราไม่ชอบดูหนังด้วยกัน)

บทความข้างต้นได้รวบรวมความรู้พื้นฐานทั้งหมดเกี่ยวกับ negative sentence ELSA Speak จะช่วยให้ผู้เรียนทบทวนจาก A-Z ได้อย่างง่ายดายและสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้ หวังว่าคุณจะเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ELSA Pro ตลอดชีพ เพียง 2,744บ