Author: Yến Nhi Thạch

โครงสร้าง used to เป็นโครงสร้างที่ถูกนิยมใช้ในการสื่อสารภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน มาร่วมกับ ELSA Speak เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับความหมาย วิธีการใช้งานและข้อผิดพลาดที่ผู้ใช้มักทำเมื่อใช้ used to ในประโยค

คำนิยามโครงสร้าง used to

หาก “used to” ใช้แยกกันจะเข้าใจว่า “เคย” แสดงถึงการกระทำที่เคยเกิดขึ้นในอดีตและไม่ต่อเนื่องหรือเกี่ยวข้องกับปัจจุบันอีกต่อไป เราสามารถเข้าใจว่า โครงสร้าง used to ใช้เพื่อเน้นย้ำถึงความแตกต่างระหว่างอดีตและปัจจุบัน

ตัวอย่าง We used to love each other. (เราเคยรักกัน) => ในปัจจุบัน ตอนเวลาพูด พวกเขาทั้งสองคนไม่ใช่คู่รักอีกแล้ว

โครงสร้าง used to ในภาษาอังกฤษ

ประโยคบอกเล่า

S+used to +V

ตัวอย่าง

I used to buy this kind of shirt. (ฉันเคยซื้อเสื้อตัวนี้)

She used to visit his house every month. (เธอเคยไปเยี่ยมบ้านของเขาทุกเดือน)

ประโยคปฏิเสธ

S+did not +used to +V

S+used not+to+V

ตัวอย่าง

They didn’t use to learn English. (พวกเขาไม่ได้เรียนภาษาอังกฤษมาก่อน)

She didn’t use to live in our area. (เขาไม่เคยอาศัยอยู่ในพื้นที่ของเรามาก่อน)

ประโยคคำถาม

Did + S + use to + V…?

ตัวอย่าง

Did you use to love her? (คุณเคยรักเขาหรอ)

Did they use to travel to London? (พวกเขาเคยไปเที่ยวที่ลอนดอนมาก่อนใช่หรือไม่)

สังเกตได้ว่า เราไม่ใช้กาลปัจจุบันในโครงสร้าง used to เพราะว่านี่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีต ส่วนในปัจจุบัน เราต้องใช้สูตรอื่นด้วยคำวิเศษณ์ของเวลา เช่น usually, always, never

โครงสร้าง used to

วิธีใช้โครงสร้าง used to

โครงสร้างนี้ได้ใช้เพื่อแสดงนิสัยหรือสถานะ สภาวะในอดีต

ตัวอย่าง

When I lived in Bangkok, I used to go for a walk in the afternoon. (เมื่ออยู่ที่กรุงเทพฯ ผมมักจะเดินเล่นในตอนบ่าย) => นิสัยในอดีต

Her hair is very long but she used to have short hair. (ผมของเขายาวมากแต่เขาเคยไว้ผมสั้น=> สภาวะในอดีต 

โครงสร้าง Be used to V-ing

Be used to V-ing มีโครงสร้างค่อนข้างคล้ายกับ used to ที่เพิ่งกล่าวถึงข้างต้น มีคนหลายคนมักจะสับสนระหว่างดครงสร้าง 2 ประเภทนี้ แต่จริงๆ โครงสร้างทั้งสองประเภทนี้มีความหมายไม่เหมือนกัน 

Be used to V-ing หรือ Noun (คำนาม) มีความหมายว่า “คุ้นเคยกับ” ใช้เพื่อแสดง

การกระทำที่เคยปฏิบัติเป็นประจำ เรื่องของประโยคมีประสบการณ์เพื่อดำเนินการนั้น ในโครงสร้างนี้ “used” ได้ดูเป็นคุณศัพท์ ไม่ใช่เป็นกริยา

ตัวอย่าง

They are used to having lunch at 1 pm. (พวกเขากีนข้าวเที่ยงตอนบ่ายโมง)

She is used to complaints from customers. (เขาคุ้นเคยกับความร้องทุกข์ของลูกค้า)

ในรูปแบบประโยคปฏิเสธ โครงสร้างนี้ใช้ดังนี้

S+be+not+used to V-ing/noun

ตัวอย่าง

We are not used to the working time at this company. (พวกเรายังไม่คุ้นเคยกับเวลาทำงานของบริษัท)

She was not used to the noise from our radio, so we always had to turn it off when she stayed at home. (เขาไม่คุ้นเคยกับเสียงรบกวนวิทยุของพวกเรา ดังนั้นพวกเราจึงต้องปิดมันเมื่อเขาอยู่ที่บ้าน)

โครงสร้าง Get used to V-ing/ คำนาม

นี่ก็เป็นโครงสร้างหนึ่งทำให้ผู้เรียนสับสนกับโครงสร้าง used to ถ้า used to+V หมายถึงว่า “เคย” และ Get used to V-ing มีความหมายว่า “ค่อยๆ คุ้นเคย” ซึ่งอธิบายถึงกระบวนการสร้างนิสัยหรือความคุ้นเคยอย่างค่อยเป็นค่อยไปกับบางสิ่งบางอย่าง หรือการกระทำบางอย่าง

ตัวอย่าง

He got used to living in Thailand. (เขาค่อยๆ คุ้นเคยกับการใช้ชีวิตในประเทศไทย)

She got used to practicing English everyday. (เขาค่อยๆ คุ้นเคยกับการฝึกภาษาอังกฤษแต่ละวัน)

ข้อสังเกต

แตกต่างกับโครงสร้าง used to ที่ตามหลังด้วยคำกริยาเดิมที่อยู่ในรูปปกติ สำหรับ be used to และ get used to มีคำกริยา/คำนาม-กริยา V-ing หรือคำนามตามหลัง

หาก used to ถูกใช้ในอดีตเท่านั้น  2 ประเภทโครงสร้างที่เหลือ be used to, get used to สามารถใช้กับกาลทั้งหมดในภาษาอังกฤษได้ (12 Tense)

ข้อผิดพลาดที่มักจะเจอเมื่อใช้โครงสร้าง used to

ข้อผิดพลาดที่พบบ่อยที่สุดเมื่อใช้ used to นั่นคือความสับสนระหว่าง 3 โครงสร้าง used to Vbe used to V-ing/ คำนามและ get used to V-ing/ คำนาม หลายคนอาจเข้าใจผิดว่าโครงสร้างทั้ง 3 ประเภทนี้มีความหมายเหมือนกัน

ตัวอย่าง

We used to cook this dish. (พวกเราเคยทำอาหารจานนี้) => แต่ในปัจจุบันไม่มีทำอีกแล้ว

We are used to cooking this dish. (พวกเราคุ้นเคยกับการทำอาหารนี้แล้ว)  => นิสัยได้ก่อตัวขึ้นในขณะที่พูด

We get used to cooking this dish. (พวกเราค่อยๆ คุ้นเคยกับการทำอาหารนี้)  => กำลังจะค่อยๆ สร้างนิสัย

ผู้คนมักคิดว่า “used” เป็นคำกริยา ไม่ใช่คำคุณศัพท์ ดังนั้นใน Be used to และ Get used to พวกเขาจึงเลือกคำกริยาเดิม (infinitive) ที่ตามหลัง “used” แทนคำนามหรือ V-ing gerunds

ตัวอย่าง

She is used to meeting him at night. => ถูก

She is used to meet him at night. => ผิด

คนวัยทำงานยังเรียนภาษาอังกฤษได้อย่างดี

แบบฝึกหัดประยุกต์โครงสร้าง used to

ใช้โครงสร้าง used to, be used to และ get used to อย่างถูกต้องเพื่อทำแบบฝึกหัดต่อไปนี้

1. When we were young, we….ride bicycles to our school.

2. We were not…drinking wine when we were students.

3. I…start my work at 7 am when I worked as a tour operator at that company.

4. She…his help, so she can’t do anything without him.

5. My mother…buying flowers at this shop every morning.

6. Did she…send many letters to him?

7. They…that machine, therefore they have difficulty in using the new machine.

8. We didn’t…buying tickets to get on the train.

ด้วยเนื้อหาทั้งหมดข้างต้น ELSA Speak หวังว่าทุกคนจะไม่สับสนเมื่อใช้โครงสร้าง used tobe used to และ get used to อีกต่อไป เพื่อใช้โครงสร้างเหล่านี้ในภาษาอังกฤษอย่างคล่องมากขึ้นคุณสามารถฝึกฝนด้วยแบบฝึกหัดที่รวบรวมโดย ELSA Speak 

การสับสนในการแยกแยะระหว่าง countable and uncountable nouns ทำให้คุณผันคำกริยาและใช้ตัวระบุปริมาณผิด จนเกิดข้อผิดพลาดในการสอบ IELTS คุณกำลังเจอปัญหาในการแยกว่าคำนามนับไม่ได้เป็นเอกพจน์หรือพหูพจน์ ไม่รู้คำตอบของคำถามที่ว่า furniture เป็นคำนามนับได้หรือนับไม่ได้ มาทบทวนความรู้เกี่ยวกับไวยากรณ์ข้อนี้กับ ELSA Speak เพื่อหลีกเลี่ยงการเสียคะแนนสอบและตอบข้อสงสัยที่คุณเจออยู่นะ

คำนิยามของ Countable and Uncountable Nouns

หลักการการแบ่งคำนามนับไม่ได้และคำนามนับได้ (uncountable and countable nouns) คืออะไร? หรือจะแยกแยะคำนามนับได้และคำนามนับไม่ได้อย่างไร? เรามาดูคำจำกัดความของคำนามทั้งสองประเภทนี้กันดีกว่า

คำจำกัดความของคำนามนับได้ – Countable noun

Countable noun ได้แก่ คำนามที่สามารถรวมตัวเลขได้ อาจเป็นคำนามที่อ้างถึงคน สิ่งของ สัตว์ สถานที่ ความคิด…Countable noun สามารถเป็นเอกพจน์และพหูพจน์ได้

ตัวอย่าง

คำจำกัดความของคำนามนับได้

คำจำกัดความของคำนามนับไม่ได้ – Uncountable noun

Uncountable noun ได้แก่ คำนามที่ไม่สามารถรวมกับตัวเลขได้ อาจเป็นคำนามที่อ้างถึงแนวคิดเชิงนามธรรม คุณสมบัติ และวัตถุที่เล็กเกินไปหรือไม่มีรูปร่างที่แน่นอน… Uncountable noun จะเป็นเอกพจน์เสมอ

ตัวอย่าง

วิธีใช้ Countable and Uncountable Nouns

Countable and Uncountable nouns จะปรากฏในทุกส่วนของการสอบ IELTS ผู้เรียนมักจะเสียคะแนนในส่วน Listening และ Writing เนื่องจากมีข้อผิดพลาด เช่น ตัว -s หายไป การผันกริยาผิด และตัวกำหนดหายไป

Countable และ Uncountable nouns ใช้อย่างไร

คำนามแต่ละประเภทมีการใช้งานที่แตกต่างกันออกไปดังนี้

Countable NounUncountable Noun
มีแบบเอกพจน์และพหูพจน์
ตัวอย่าง: A pen, Many pens
เป็นแบบเอกพจน์เท่านั้น ไม่มีแบบพหูพจน์
ตัวอย่าง: Fear, furniture, advice
สามารถใช้ร่วมกับ a/an ตัวเลข และปริมาณได้
ตัวอย่าง: A pen – Two pen – Many pens
ไม่สามารใช้ร่วมกับ a/an และตัวเลข สามารถใช้ร่วมกับปริมาณได้
ตัวอย่าง: Some advice – Any advice, A lot of advice
กริยาเอกพจน์และพหูพจน์ไปตาม
ตัวอย่าง: The pen is black – Those pens are black
กริยาเอกพจน์ไปตาม
ตัวอย่าง: Your advice is good.
แทนที่ด้วยคำสรรพนามเอกพจน์และคำสรรพนามพหูพจน์ตัวอย่าง: The pen is black. It matches my notebook.แทนที่ด้วยคำสรรพนามเอกพจน์
ตัวอย่าง: Your advice is good. It helps me get through the hard times.
สามารถใช้ร่วมกับหน่วยการวัดได้
ตัวอย่าง: A pack of pen
สามารถใช้ร่วมกับหน่วยการวัดได้
ตัวอย่าง: A piece of advice.

กฎเกณฑ์สำหรับคำนามนับได้ Countable noun

กฎข้อที่ 1: เพิ่ม “-s” หลังคำนามนับได้เพื่อให้เป็นพหูพจน์

ตัวอย่าง: dog – dogs; pen – pens; girl – girls.

กฎข้อที่ 2: เติม “- es” หลังคำนามที่ลงท้ายด้วย O, X, S, SH, Z, CH

ตัวอย่าง: potato – potatoes; fox – foxes; kiss – kisses; lash – lashes; buzz – buzzes; watch – watches.

กฎข้อที่ 3: เปลี่ยน y เป็น i เพิ่ม -es โดยคำนามที่ลงท้ายด้วย Y**

ตัวอย่าง: lady – ladies; story – stories.

กฎข้อที่ 4: เปลี่ยน -f/fe เป็น -ves โดยคำนามที่ลงท้ายด้วย F/FE**

ตัวอย่าง: leaf – leaves; wife – wives.

กฎเกณฑ์สำหรับคำนามนับได้ Countable noun

ข้อยกเว้นบางประการ

คำนามที่ลงท้ายด้วย O แต่เติม -s เท่านั้น

คำนามพหูพจน์ไม่ต้องเติม -s หรือ –es

แบบฝึกหัด Countable and Uncountable Nouns

ลองดูว่าคุณสามารถแยกความแตกต่างระหว่างคำนามทั้งสองประเภทนี้ได้หรือไม่ จากนั้นเรามาดูแบบฝึกหัดเกี่ยวกับคำนามนับได้และคำนามนับไม่ได้อยู่ด้านล่างนะ

1. My grandmother does not use real butter in any cake she bakes.

2. Rachel bought 2 different musical instruments for her children.

3. A great number of teenagers said they were forced to practice the piano.

4. Most kids like chocolate, but Monica hates it.

5. My children quickly fell asleep after a busy Sunday.

6. How many politicians does it take to pass a simple law?

7. We don’t like those large bottles of water.

8. Chloe does not make much progress today.

9. Joey does not have much money left.

10. She was so stressed that she ate 3 entire boxes of cookies.

Answers: 1 – uncountable; 2 – countable; 3 – countable ; 4 – uncountable; 5 – countable; 6 – countable; 7 – countable; 8 –uncountable; 9 – uncountable; 10 – countable.

>>> Read more

คุณเข้าใจวิธีการรับรู้คำนามนับได้และคำนามนับไม่ได้แล้วหรือยัง ถ้าได้แล้ว ELSA Speak จะขอถามว่า Furniture นับได้หรือไม่ Furniture เป็นพหูพจน์หรือเอกพจน์ โปรดแสดงความคิดเห็นด้านล่างนี้เพื่อให้ ELSA Speak ทราบคำตอบของคุณนะ

มาทบทวนด้วยกันว่าคุณจำคำศัพท์ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับอาหารได้กี่คำ เพียงพอที่จะช่วยให้คุณเข้าร้านอาหารได้อย่างมั่นใจแล้วหรือไม่ มาเพลิดเพลินกับอาหารหลายชนิดและอัปเดตรายการภาษาอังกฤษเกี่ยวกับอาหารให้ตัวเองกับ ELSA Speak นะ

คำศัพท์ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับอาหาร

อาหารจานด่วน

คำศัพท์คำอ่านความหมาย
Cheeseburger /ˈtʃiːzˌbɜː.ɡər/แฮมเบอร์เกอร์ใส่ชีส
Chicken nuggets/ ˈtʃɪkɪn ˈnʌɡɪt/นักเก็ตไก่
Chili sauce /ˈtʃɪli sɔːs/ซอสพริก
Chips/tʃɪps/มันฝรั่งทอด
Donut/ˈdəʊ.nʌt/ โดนัท
Fish and chips/ˌfɪʃ en ˈtʃɪps/ปลาชุบแป้งทอดมันฝรั่งทอด
Hash brown/hæʃ braʊn/แฮชบราวน์มันฝรั่งทอด
Hamburger /ˈhæmˌbɜː.ɡər/ แฮมเบอร์เกอร์
Hotdog /ˈhɒt.dɒɡ/ฮอตด็อก
Ketchup tomato sauce /ˈketʃəp/ /təˈmeɪtoʊ sɔːs/ซอสมะเขือเทศ
Mayonnaise /ˈmeɪəneɪz/น้ำสลัดชนิดข้น มายองเนส
Mustard /ˈmʌstərd/มัสตาร์ด
Onion ring /ˈʌn.jən ˌrɪŋ/ ออเนี่ยนริงหอมทอด
Pancake /ˈpæn.keɪk/ขนมแพนเค้ก
Pastry /ˈpeɪstri/เพสตรี้
Pate /ˈpæt.eɪ/ ปาเต
Pizza/ˈpiːt.sə/ พิซซ่า
Sandwich /ˈsæn.wɪdʒ/ แซนด์วิช

อาหารที่เตรียมไว้

คำศัพท์คำอ่านความหมาย
Bacon /ˈbeɪ.kən/ เนื้อรมควัน
Baguette /bæɡˈet/ ขนมปังฝรั่งเศส
Biscuit /ˈbɪs.kɪt/ ขนมปังกรอบ
Noodle /ˈnuː.dəl/ บะหมี่
Sausage /ˈsɒs.ɪdʒ/ ไส้กรอก
Salami /səˈlɑː.mi/ ซาลามี่
Ham /hæm/ แฮม
Snacks /snæk/ อาหารว่าง
Smoked salmon /sməʊkt ˈsæm.ən/ปลาแซลมอนรมควัน
อาหารที่เตรียมไว้

อาหารที่เสิร์ฟเป็นจาน

คำศัพท์คำอ่านความหมาย
Curry/ˈkʌr.i/ แกงกะหรี่
Soup /suːp/ซุป
Seafood /ˈsiː.fuːd/อาหารทะเล
Steak/steɪk/สเต็ก
Grilled lamb chops / ɡrɪld læm tʃɒp/ซี่โครงแกะย่าง
Hotpot/ˈhɒt.pɒt/ หม้อไฟ
Beef/biːf/เนื้อวัว
Pork/pɔːrk/เนื้อหมู
Tuna/ˈtuː.nə/ปลาทูน่า
Lamb/læm/เนื้อแกะ

อาหารพื้นเมืองของแต่ละประเทศ

ประเทศฝรั่งเศส

คำศัพท์คำอ่านความหมาย
Croissants /ˈkwæs.ɒ̃/ ครัวซองต์
Cheese /tʃiːz/ ชีส
Macaron /ˌmæk.ərˈɒn/ มาการอง
Goose liver paste /ɡuːs lɪv.ər peɪst/ปาเตฟัวกราส์
Snail  /sneɪl/ หอยหาก

ประเทศรัสเซีย

คำศัพท์คำอ่านความหมาย
Borscht /bɔːʃt/ ซุปบอร์ช
Vodka/ˈvɑːd.kə/เหล้าวอดกา
Russian saladˈrʌʃ.ən/ /ˈsæl.əd/สลัดรัสเซีย
Black Caviar /blæk/ /ˈkæv.i.ɑːr/ไข่ปลาคาร์เวียร์
เพียง 10 นาทีต่อวัน

ประเทศจีน

คำศัพท์ความหมาย
Hotpot หม้อไฟ
Peking Roasted duck เป็ดปักกิ่ง
Dumplings/dimsumsเกี๊ยว
Yangchow fried riceข้าวผัดหยางโจว
Ma po tofuมาโฝ โทฟูหรือเต้าหู้มาโฝ

ประเทศเกาหลี

คำศัพท์ความหมาย
Kimchiกิมจิ
Instant noodlesบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป
Tteokbokkiต็อกโบกี
Bibimbapพีบิมบับ (ข้าวยำเกาหลี)
Bingsuบิงซู (น้ำแข็งใส)

>>> Read more

วิธีจดจำคำศัพท์ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับอาหาร

เรียนรู้ผ่านรายการทำอาหาร/เกมโชว์

เมื่อดูรายการทำอาหารจากช่องภาษาอังกฤษที่ออกอากาศทางโทรทัศน์ คุณจะได้เห็นว่า สุดยอดเชฟปรุงอาหาร แบ่งปันสูตรอาหารพร้อมกับแบ่งปันเคล็ดลับในการเลือกวัตถุดิบและวิธีตกแต่งอาหาร นี่เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพอย่างยิ่งสำหรับการเรียนรู้คำศัพท์ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับอาหาร รวมทั้งพัฒนาทักษะการทำอาหารของคุณอีกด้วย

เรียนรู้วลีพร้อมตัวอย่างและภาพประกอบ

เมื่อหาข้อมูลเกี่ยวกับอาหารที่ชื่นชอบ คุณจะจดจำวลีหรือคำศัพท์ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับอาหารที่เกี่ยวข้องกับภาพประกอบ นี่เป็นวิธีการเรียนรู้ที่ดี เพราะการเรียนรู้ผ่านภาพช่วยให้คุณจำคำศัพท์ได้นานขึ้น ประกอบกับเวลาที่ไปร้านอาหารแล้วเจอภาพแบบนี้อีก คุณจะรู้สึกคุ้นเคยและเลือกอาหารได้ง่ายขึ้นแน่นอน

เรียนรู้คำศัพท์ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับอาหารตามหัวข้อเล็กๆ น้อยๆ

เมื่อแบ่งหัวข้ออาหารเช่น ของว่าง อาหารจานหลัก อาหารเช้า อาหารกลางวัน อาหารเย็น การเรียนรู้วิธีเตรียมอาหาร…จะช่วยให้คุณแบ่งแผนการเรียนรู้คำศัพท์ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับอาหารได้เป็นเชิงรุกมากขึ้น คุณสามารถจำคำศัพท์ตามหัวข้อเล็กๆแต่ละหัวข้อได้อย่างง่ายดาย

ในงานปาร์ตี้แลกเปลี่ยนกับเพื่อนต่างชาติหรือในงานแลกเปลี่ยนกับคู่ค้าต่างประเทศ..ตอนนั้นคุณยังสับสนว่าควรเลือกเมนูอะไร ลองดูคำศัพท์ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับอาหารที่ ELSA Speak แนะนำข้างบนเพื่อเริ่มต้นเลยนะ ใครจะรู้ อาหารที่น่าสนใจจะเป็นหัวข้อที่จุดประกายความตื่นเต้นและ “break the ice” ให้เรื่องราวเริ่มต้นได้อย่างน่าสนใจยิ่งขึ้น

หากคุณยังกังวลและไม่มั่นใจในการสื่อสารคุณสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับหลักสูตรการสื่อสารของ ELSA Speak คุณจะพบกับหัวข้อที่น่าสนใจมากมายและช่วยปรับปรุงการสื่อสารภาษาอังกฤษอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ในการทำงานที่ออฟฟิศประจำวัน คุณจำเป็นต้องสื่อสารภาษาอังกฤษได้ อีกทั้งในสำนักงานบางแห่ง ภาษาอังกฤษถือว่าเป็นภาษาหลัก คุณสามารถใช้คำศัพท์อย่างยึดหยุ่นในการสื่อสารหรือสามารถประยุกต์ใช้ตามรูปแบบประโยคทั่วไป ในบทความนี้ ELSA Speak ขอแนะนำ บทสนทนาภาษาอังกฤษเกี่ยวกับการทำงาน โดยเฉพาะในการสื่อสารที่สำนักงานเพื่อให้คุณอ้างอิงและประยุกต์ใช้ได้

ตัวอย่างบทสนทนาภาษาอังกฤษ เมื่อต้องการกำหนดเวลาการประชุมในที่ทำงาน

เมื่อต้องการนัดหมายเวลาการประชุมให้ทุกคนในบริษัทหรือคู่ค้าทราบ คุณสามารถใช้บทสนทนาภาษาอังกฤษทั่วไปที่ใช้ในสำนักงานได้ เช่น

We need to clarify this problem. I would like to make an appointment with your team again. พวกเราจำเป็นต้องชี้แจงปัญหานี้ให้ชัดเจน ผมอยากนัดหมายการประชุมกับทีมของคุณอีกครั้ง
Would you be free for a meeting on ….about….คุณมีเวลาเพื่อประชุมตอน… (เวลา) เกี่ยวกับ(เรื่อง)…
Which time is best for you?เวลาไหนที่ดีที่สุดสำหรับคุณ
(Time) sounds great. Shall we meet around (time) at (place)(เวลา) ฟังดูดีนะ แล้วเราจะพบกันตอน (เวลา) ที่ (สถานที่) ใช่ไหม)

ตัวอย่างบทสนทนาเมื่อกำหนดเวลาการประชุม

A: I am confused about something mentioned in your plan. We need to clarify this. Would you be free for a meeting on Thursday at 15 pm?

(ฉันสงสัยเกี่ยวกับบางอย่างในแผนที่คุณกล่าวถึง พวกเราต้องการให้คุณชี้แจงเกี่ยวกับสิ่งนี้ คุณพอจะสะดวกประชุมในวันพฤหัสบดี เวลาบ่ายสามโมงมั้ย)

B: I will have another meeting at this time. But I am available on Friday afternoon.

(วันนั้นฉันมีอีกการประชุม แต่ฉันว่างในบ่ายวันศุกร์)

A: Which time is best for you?

(เวลาไหนที่ดีที่สุดสำหรับคุณ)

B: About 2 pm. Is it ok?

(ประมาณบ่ายสองโมงได้ไหม)

A: Yes, it sounds good. Shall we meet on Friday at 2 pm in the meeting room?

(ใช่ ฟังดูเยี่ยมเลย เราประชุมกันวันศุกร์บ่ายสองโมงที่ห้องประชุมดีมั้ย?)

Thăng hạng khả năng giao tiếp tiếng Anh

ตัวอย่างบทสนทนาเมื่อแก้ไขข้อร้องเรียนในภาษาอังกฤษสำนักงาน

รูปแบบประโยคที่ใช้ในสถานการณ์นี้

– Could you tell me exactly what happened?

(บอกฉันได้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้น)

– I sincerely apologize. We are going to solve this as quickly as possible. 

(ฉันขอโทษจริงๆ เราจะแก้ไขปัญหาโดยเร็วที่สุด)

– I understand why you are upset/angry. We’re going to take care of it right away. 

(ฉันเข้าใจว่าทำไมคุณถึงอารมณ์เสีย/โกรธขนาดนี้ เราจะจัดการกับปัญหาตอนนี้)

– Let me review this situation to identify the best solution. I will get back to you within 24 hours.

(ให้ฉันตรวจสอบปัญหานี้เพื่อหาแนวทางแก้ไขที่ดีที่สุด ฉันจะให้คำตอบคุณภายใน 24 ชั่วโมง)

– I understand how difficult/disappointing that would be.

(ฉันเข้าใจว่าสถานการณ์นี้ยาก/น่าผิดหวังอย่างไร)

– I apologize for the inconvenience/the problem.

(ฉันขออภัยในความไม่สะดวก)

ตัวอย่างบทสนทนาภาษาอังกฤษในสำนักงาน เมื่อต้องการจัดการข้อร้องเรียน

A: I booked a double room. I received your hotel’s confirmation about this. Now, you see, I am having a room with two single beds. 

(ผมจองห้องเตียงคู่ ผมได้รับการยืนยันจากโรงแรม ดูสิ ผมมีห้องที่มีเตียงเดี่ยวสองเตียง)

B: I sincerely apologize. Let me review this booking and check with our staff

(ฉันขอโทษจริงๆ ขอดูรายละเอียดการจองและตรวจสอบกับพนักงานของเรา)

A: Yes, check it right now and let me know what happened. 

(ครับ ตรวจสอบตอนนี้เลย และบอกผมด้วยว่าเกิดอะไรขึ้น) 

B: I have checked. It is my fault. I gave you the key to another room. Here is your room. It has a double bed. Again, I apologize for the inconvenience.

(ฉันตรวจสอบแล้วค่ะ นี่เป็นข้อผิดพลาดของฉัน ฉันให้กุญแจห้องอื่นกับคุณ นี่คือของห้องคุณค่ะ ห้องมีเตียงคู่ ขอโทษอีกครั้งสำหรับความไม่สะดวกที่เกิดขึ้นค่ะ)

ตัวอย่างบทสนทนาเมื่อเสนอราคา

บทสนทนาภาษาอังกฤษสื่อสารในสำนักงานที่ได้ใช้ในการเสนอราคา

ตัวอย่างบทสนทนาเมื่อเสนอราคา

– Could you tell me your price for this item?

(ช่วยบอกราคาสินค้าชิ้นนี้หน่อยได้ไหมครับ)

– Please offer the best rate.

(กรุณาเสนอราคาที่ดีที่สุดนะ)

– Our quoted price is firm for 24 hours only.

(ราคาที่เราเสนอนั้นใช้ได้ภายใน 24 ชั่วโมงเท่านั้น)

บทสนทนาเกี่ยวกับการเสนอราคาให้คุณอ้างอิง

 A: Good morning, is there any room available this Saturday’s night?

(สวัสดีค่ะ คืนวันเสาร์นี้มีห้องว่างไหมคะ)

B: Yes, we have some room left. Which room would you like to book? Double or single room? City view room or seaview room?

(มีค่ะ เรามีห้องเหลืออยู่ไม่กี่ห้อง คุณต้องการห้องแบบไหน ห้องคู่หรือห้องเดี่ยว ห้องมีวิวทะเลหรือวิวเมืองคะ)

A: Do they have the same price?

(ราคาห้องเท่ากันใช่ไหม)

B: No, seaview room is more expensive than the city view room. City view room is just 15$/night, but the sea view room is 30$/night. 

(ไม่ค่ะ ห้องวิวทะเลจะแพงกว่าห้องวิวเมือง วิวเมืองราคาเพียง 15$/คืน และห้องวิวทะเลราคา 30$/คืนค่ะ)

A: Is there any discount? Please offer the best rate.

(มีส่วนลดอะไรไหม กรุณาเสนอราคาที่ดีที่สุดนะคะ)

B: We can offer 13$/night for a city view room and 25$/night for a sea view room. However, this price is firm till 8 pm tonight. 

(เราสามารถใช้ราคา 13$/คืน สำหรับห้องวิวเมือง และ 25$/คืน สำหรับห้องวิวทะเล อย่างไรก็ตาม ราคานี้ใช้ได้ถึงเวลาสองทุ่มคืนนี้เท่านั้นค่ะ)

ตัวอย่างบทสนทนาเมื่อสั่งซื้อ

ตัวอย่างประโยคที่ใช้ในการสั่งซื้อ

– I am interested in your handicrafts. I would like to order.

(ฉันสนใจสินค้าทำมือของคุณ ฉันอยากสั่งซื้อ)

– We want to purchase 30 sets.

(เราต้องการสั่ง 30 ชุด)

– Here is my address and phone number. Please deliver on time!

(นี่คือที่อยู่และเบอร์โทรศัพท์ของฉัน กรุณาส่งมอบตรงเวลา)

– You have to book at least 3 nights to get this discount.

(คุณต้องจองอย่างน้อย 3 คืนเพื่อรับส่วนลดนี้)

>>> Read more

 ตัวอย่างบทสนทนาเมื่อสั่งซื้อ

A: I would like to buy two dresses from page 10 in your catalog.

(ฉันอยากซื้อกระโปรง 2 ตัวในหน้า 10 อยู่ในแค็ตตาล็อกของคุณ)

B: Yes, they are still available. How do you want to pay? Cash on delivery or settle online? 

(ค่ะสินค้ายังมีอยู่ค่ะ พี่อยากชำระเงินอย่างไร ชำระเงินเมื่อจัดส่งหรือออนไลน์คะ)

A: I pay in cash. Is there any discount? 

(ฉันจะจ่ายเป็นเงินสด มีส่วนลดไหมคะ)

B: If you purchase 3 items, you get a 20% discount. 

(ถ้าพี่ซื้อสินค้ามากกว่า 3 ชิัน จะได้ลด 20 เปอร์เซ็นต์)

A: Oh, I’ll take 3 dresses. Total amount is 250$, right?

(โอ้ งั้นฉันเอากระโปรง 3 ตัวนี้นะ เงินทั้งหมดคือ 250$ ใช่ไหม)

B: You have to pay 250$ for dresses and 5$ for shipping fee. Total amount should be 255$.

(ค่ะ พี่ต้องจ่าย 250$ สำหรับกระโปรง 3 ตัว และ 5$ ดอลลาร์สำหรับค่าขนส่ง ทั้งหมดคือ 255$ ค่ะ)

A: Okie. Please send them to our address and here is my phone number.

(โอเค กรุณาส่งไปยังที่อยู่ของพวกเราและนี่คือเบอร์โทรศัพท์ของฉัน)

บทสนทนาแนะนำบริษัทเป็นภาษาอังกฤษในสำนักงาน

เมื่อพบคู่ค้าครั้งแรก คุณจำเป็นต้องรู้ตัวอย่างประโยคบางส่วนเพื่อแนะนำเกี่ยวกับบริษัทของตัวเอง โดยสามารถอ้างอิงประโยคเหล่านี้ผ่านบทสนทนาต่อไปนี้

Good morning! Thank you so much for spending your time with us. We are glad to send you information on our new packages for travellers. We have been in business for 15 years. We always offer the best services at the best rate. Our services have got a lot of good reviews from tourists and partners.

(สวัสดี ขอขอบคุณที่สละเวลามา เรายินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ส่งข้อมูลเกี่ยวกับแพ็คเกจบริการใหม่ให้กับนักท่องเที่ยวเราเปิดดำเนินการมาเป็นเวลา 15 ปี และให้บริการที่ดีที่สุดในราคาที่ดีที่สุดเสมอ บริการของเราได้รับการตอบรับที่ดีจากนักท่องเที่ยวและพันธมิตรมากมาย)

มีสถานการณ์ต่างๆ มากมายเกิดขึ้นเมื่อทำงานในออฟฟิศ เพื่อพูดภาษาอังกฤษอย่างคล่องแคล่วในออฟฟิศ โปรดลงทะเบียนเพื่อเข้าร่วมโปรแกรมการเรียนภาษาอังกฤษขั้นสูงที่ ELSA Speak และฝึกฝนตั้งแต่วันนี้เลยนะ

เครื่องมือการเรียนรู้ภาษาอังกฤษสำหรับคนทำงาน ELSA Speak ได้พัฒนาหัวข้อต่างๆ มากกว่า 290 หัวข้อเกี่ยวกับการงานและชีวิตประจำวัน ช่วยให้คุณนำไปประยุกต์ใช้ในการสื่อสารจริงได้ทันที โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บทเรียน 5.000 บทและแบบฝึกหัด 25.000 รายการตั้งแต่ขั้นพื้นฐานไปจนถึงขั้นสูง โดยการเตรียมคำตอบของตัวเอง คุณจะได้ฝึกฝนทักษะภาษาอังกฤษอย่างครอบคลุม

ELSA Premium

ELSA Speak จำแนกเสียงพูดและแก้ไขข้อผิดพลาดในการออกเสียงได้ทันที ผู้เรียนจะได้รับคำแนะนำเกี่ยวกับวิธีการเน้นเสียง การปล่อยลมหายใจและวางลิ้นตามมาตรฐานเจ้าของภาษา ด้วยการฝึกฝนแค่ 10 นาทีกับ ELSA Speak คุณสามารถปรับปรุงระดับภาษาอังกฤษมากถึง 40%

ผู้ใช้จะไม่ต้องกังวลว่าจะลืมเวลาเรียน เพราะนักเรียนจะได้รับการแจ้งเตือนตารางเรียนรายวันโดยซิงโครไนซ์กับ Zoom, Meet, Google Calendar, Outlook ลงทะเบียนใช้ ELSA Speak เพื่อสื่อสารภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่วและมั่นใจยิ่งขึ้นตั้งแต่วันนี้

ฝากข้อมูลของคุณไว้และรับโค้ดโปรโมชั่นพิเศษเฉพาะเดือนนี้เท่านั้น

  1. รูปแบบประโยคภาษาอังกฤษเมื่อแนะนำเกี่ยวกับบริษัท

Good morning! Thank you so much for spending your time with us. We are glad to send you information on our new packages for travelers. We have been in business for 15 years. We always offer the best services at the best rate. Our services have got a lot of good reviews from tourists and partners.

  1. แบบฟอร์มบทสนทนาเมื่อต้องการจัดการข้อร้องเรียน

– Could you tell me exactly what happened?
– I sincerely apologize. We are going to solve this as quickly as possible.

ในภาษาอังกฤษ เมื่อตั้งประโยคเพื่ออธิบายสิ่งใดสิ่งหนึ่งหรือปรากฏการณ์บางอย่างคุณต้องทำตามโครงสร้าง Adj + Noun หมายความว่าใส่คำคุณศัพท์ไว้หน้าคำนาม อย่างไรก็ตาม เมื่อต้องการใช้คำคุณศัพท์ตั้งแต่หนึ่งคำขึ้นไป คุณต้องจดจำลำดับของคำคุณศัพท์ ( ORDER OF ADJECTIVE ) ในประโยค วิธีใช้จุลภาคและคำเชื่อม “And”

Adjective order (ลำดับของคำคุณศัพท์ในภาษาอังกฤษ)

  1. Order of adjective คืออะไร

Order of adjective คือ ลำดับของคำคุณศัพท์ในประโยค หรือประโยคเดียวกันและคำคุณศัพท์ทั้งหมดนี้จะขยายคำนามหลัก

Order of adjective ตัวอย่างประโยค: A small old yellow chinese umbrella

Adjective + Noun

ตัวอย่าง:

  1. จำแนกประเภทและลำดับของคำคุณศัพท์ในภาษาอังกฤษมีดังนี้
    Opinion -> Size -> Age -> Shape -> Color -> Origin -> Material -> Purpose
ประเภทตัวอย่าง
Opinion: ความคิดเห็นbeautiful: สวยงาม
terrible: แย่มาก
wonderful: ยอดเยี่ยม
Size: ขนาดlong: ยาว
short: สั้น
small: เล็ก
Age: อายุyoung: หนุ่มสาว 
old: แก่ 
new: ใหม่
Shape: รูปร่างcircular: กลม 
square: สี่เหลี่ยม
fat: อ้วน
Color: สีpink: สีชมพู
blue: สีฟ้า
red: สีแดง
Origin: แหล่งกำเนิดAmerican: อเมริกา
Vietnamese: เวียดนาม
Chinese: จีน
Material: วัสดุ plastic: พลาสติก
glass: กระจก
stone: หิน
wooden: ไม้
Purpose: วัตถุประสงค์washing machine: เครื่องซักผ้า
hound dog: สุนัข
pickup truck: รถกระบะ

ตัวอย่าง:

Order of adjective ตัวอย่างประโยค

3. นอกจากนั้น ในภาษาอังกฤษ อยู่หน้าคำคุณศัพท์มักจะมีคำบ่งชี้หรือคำปริมาณ โดยเฉพาะตามลำดับมีดังนี้:

[Determiner – Quantity] + [Opinion -> Size -> Age -> Shape -> Color -> Origin -> Material -> Purpose] + Noun

ในนั้น

ตัวอย่าง  แปล
Determiner (คำบ่งชี้)The, this, that, these, those, …This cute cat is mine. แมวน่ารักลูกนี้เป็นของฉัน
Quantity (คำปริมาณ)

→ อยู่หลังคำบ่งชี้, อยู่หน้าคำคุณศัพท์
Many, a lot of, three, few, …These two naughty kids are Linda’s children.เด็กซนสองคนนี้เป็นลูกของลินดา

คำคุณศัพท์ + คำกริยา To be/คำกริยาโยง

นอกจากนั้นคำคุณศัพท์ยังสามารถอยู่หลังคำกริยา To be และคำกริยาโยง (มักใช้คือ linking verb)

  โครงสร้าง                                                         ตัวอย่าง                        แปล

To be + Adj– She is beautiful

– It is terrible

– They are happy
เขาสวยมาก

มันคือแย่มาก 
พวกเขามีความสุข
Linking Verb + Adj

(seem, look, feel, taste,
remain, sound, become,..)
– He feels tired

– It looks nice
เขารู้สึกเหนื่อย
มันดูน่ารักจริง
  1. เคล็ดลับการท่องจำลำดับของคำคุณศัพท์ในภาษาอังกฤษ
OSASCOMP
OpinionSizeAgeShapeColorOriginMaterialPurpose

ตัวอย่าง: เรียบเรียงกลุ่มคำนี้ให้ถูกต้องตามลำดับของคำคุณศัพท์ (adjective order): Japanese/ bike/ a/ new/ luxurious/ big/ blue

เรียบเรียงตามลำดับ OSASCOMP → A luxurious big new blue Japanese bike. 

(จักรยานญี่ปุ่นใหญ่คันหนึ่งสีฟ้าใหม่และหรูหรา).

เคล็ดลับการท่องจำลำดับของคำคุณศัพท์ในภาษาอังกฤษ order of adjective

กฎระเบียบของการใช้จุลภาคระหว่างคำคุณศัพท์

คำคุณศัพท์ประเภทเดียวกันจะถูกวางไว้หน้าคำนาม -> ต้องมีจุลภาค

คำคุณศัพท์ประเภทต่าง ๆ จะถูกวางไว้หน้าคำนาม -> ไม่ต้องมีจุลภาค

เพื่อทำความเข้าใจได้ชัดเจน ลองดูตัวอย่างต่อไปนี้

1. Henry is a lovely tiny white British dog that they adopted 1 week ago.

Lovely, adj: น่ารัก → คำคุณศัพท์ที่แสดงความคิดเห็น

Tiny, adj: เล็ก → คำคุณศัพท์ที่แสดงขนาด

White, adj: ขาว → คำคุณศัพท์ที่แสดงสี

British, adj: เป็นของอังกฤษ → คำคุณศัพท์ที่แสดงแหล่งกำเนิด

⇒ คำคุณศัพท์มีประเภทที่แตกต่างกัน เพราะฉะนั้นไม่จำเป็นต้องใช้จุลภาค

2. She was such a beautiful, thoughtful and delicate woman. 

Beautiful, adj: สวย → คำคุณศัพท์ที่แสดงความคิดเห็น

Thoughtful, adj: รู้วิธีคิด → คำคุณศัพท์ที่แสดงความคิดเห็น

Delicate, adj: ละเอียดอ่อน → คำคุณศัพท์ที่แสดงความคิดเห็น

=> คำคุณศัพท์มีประเภทเดียวกัน เพราะฉะนั้นต้องจำเป็นใช้จุลภาค

หมายเหตุสำคัญ

   หมายเหตุ  ตัวอย่าง
อย่าใส่จุลภาคระหว่างคำคุณศัพท์สุดท้ายกับคำนาม– Long black hair -> ถูก
– Long black, hair -> ผิด
อย่าใส่จุลภาคระหว่างคำบ่งชี้กับคำคุณศัพท์– This small and handy bag -> ถูก
– This, small and handy bag -> ผิด
เมื่อคำสุดท้ายในคำวลี ข้อหรือประโยคเป็รคำคุณศัพท์
→ เพิ่ม “and” อยู่หน้าคำคุณศัพท์ 
The concert was crowded and loud.
→ คอนเสิร์ตมีคนแออัดและเสียงดัง ๆ

She was such a pretty, delicate, and thoughtful woman.
→ เขาเป็นผู้หญิงที่สวยงาม ละเอียดอ่อนและรอบคอบ

แบบฝึกหัดเกี่ยวกับลำดับของคำคุณศัพท์ในภาษาอังกฤษ order of adjective [มีคำตอบแบบละเอียด]

1. Susan had a ________ in her hair yesterday.A. Nice pink bowB. Pink nice bowC. Bow nice pink
2. She lost a ________.A. mall yellow catB. Cat small yellowC. Yellow small cat
3. I bought ________ apples.A. Great some bigB. Big great someC. Some great big
4. We met ________ people at the concert.A. Very smart threeB. Three very smartC. Very three smart
5. The clown was wearing a ________ hat.A. Big green-redB. Big green and redC. Red and green big
 6. The biscuit that you.A. Smell delicious bakedB. Baked smell deliciousC. Delicious smell baked
7. My grandfather has collected a  ________ clock.A. Old German wonderfulB. Wonderful old, GermanC. Wonderful old German
8. Yesterday, the post officer gave me a ________ box, and I didn’t notice that it was a birthday gift from my distant relative.A. Big square blueB. Blue big squareC. Square big blue
9. These ________ ornaments should not be used to decorate the Christmas tree. Throw them away now!A. Yellow disgusting plasticB. Disgusting yellow plasticC. Plastic yellow disgusting

คำตอบ

1. A2. A3. C4. B5. B
6. B7. C8. A9. B

ELSA Speak ได้รวบรวมกฎระเบียบลำดับของคำคุณศัพท์ในภาษาอังกฤษในบทความนี้ หวังว่าความรู้ที่ ELSA Speak แบ่งปันจะช่วยให้คุณได้รับประสิทธิภาพในการเรียนภาษาต่างประเทศ

นอกจากนั้น เพื่อยกระดับภาษาอังกฤษอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ คุณควรฝึกฝนเป็นประจำด้วยแอป ELSA Speak พร้อมกับเกิน 290 หัวข้อได้อัพเดทเป็นประจำและ 25.000 แบบฝึกดัดแน่นอนว่าจะช่วยให้คุณรวบรวมความรู้อย่างดีที่สุด

เรียนภาษาอังกฤษด้วยแอป ELSA Speak ดีหรือไม่

โดยเฉพาะ คุณจะได้คะแนนการออกเสียงและได้คำแนะนำการแก้ไขข้อผิดพลาดอย่างละเอียด ซึ่งคุณสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่วเหมือนเจ้าของภาษา อีกอย่าง แอป ELSA Speak ยังออกแบบแผนงานการเรียนรู้ขึ้นอยู่กับความสามารถและเป้าหมายของแต่ละคน

ปัจจุบันมีผู้ใช้ 40 ล้านคนในทั่วโลกที่เลือก ELSA Speak รีบลงทะเบียน ELSA Speak ในวันนี้เลย

คุณเคยสงสัยว่า เมนูอาหาร ภาษาอังกฤษ เขียนอย่างไรหรือไม่ โปรดดูบทความนี้ของ ELSA Speak เพื่อได้คำศัพท์อาหารภาษาอังกฤษเพิ่มเติมนะ

คำศัพท์อาหารภาษาอังกฤษที่สมบูรณ์ที่สุด

คำศัพท์อาหารจานหลัก

เมนูอาหาร ภาษาอังกฤษ

คำศัพท์อาหารเรียกน้ำย่อย

คำศัพท์อาหารของหวาน

เมนูอาหาร ภาษาอังกฤษ- คำศัพท์อาหารของหวาน

นอกจากนั้น ผลไม้และทาร์ตยังสามารถได้ใช้เป็นอาหารของหวาน โดยเฉพาะคือ ทาร์ตเพราะทาร์ตเป็นอาหารของหวานหนึ่งมีเอกลักษณ์ที่มีชั้นไส้อยู่ด้านบน ไส้อาจมีรสหวานหรือรสเค็ม ทาร์ตมักทำจากผลไม้แต่บางครั้งก็ทำจากไข่และนม

ผลไม้ภาษาอังกฤษบางชนิดใช้เป็นของหวาน เช่น แอปเปิล (apple) เชอร์รี่ (cherry) ส้ม (orange) องุ่น (grape) สตรอเบอร์รี่ (strawberry)…

คำศัพท์อาหารจานด่วน

คำศัพท์อาหารและเครื่องดื่มภาษาอังกฤษ

คำศัพท์อาหารและเครื่องดื่มภาษาอังกฤษ- เมนูอาหาร ภาษาอังกฤษ

คำศัพท์ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับอาหารไทย

คำศัพท์ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับอาหารอื่นๆ

คำศัพท์เกี่ยวกับอาหาร

คำศัพท์เกี่ยวกับอาหารที่มีเนยและนม

คำศัพท์เกี่ยวกับอาหารประเภทซุป

>>> Read more

คำศัพท์เกี่ยวกับวิธีการเตรียมอาหาร

คำศัพท์เกี่ยวกับวิธีการเตรียมอาหาร

คำศัพท์เกี่ยวกับอุปกรณ์รับประทานอาหาร

คำศัพท์เกี่ยวกับอาหาร

คำศัพท์เกี่ยวกับนิสัยการกิน

คำศัพท์เกี่ยวกับนิสัยการกิน - เมนูอาหาร ภาษาอังกฤษ

ตัวอย่างประโยคการสื่อสารภาษาอังกฤษเกี่ยวกับการกิน

ตัวอย่างประโยคแปล
It’s time to eat!ถึงเวลากินแล้ว
This doesn’t taste right.จานนี้รสชาติไม่ตรง
I’m starving!ฉันหิวมาก
Did you have your dinner ? คุณกินอาหารเย็นหรือยัง
That smells good!หอมจัง
Orange juice is good for the body.น้ำส้มมีประโยชน์มากต่อร่างกาย
This is delicious.อาหารจานนี้อร่อยมาก
Today’s food anymore cooking.วันนี้ทำอาหารเยอะมาก
Help yourself เชิญตามสบาย
Would you like anything else? อยากกินเพิ่ม/ดื่มอีกไหม
I like eating chicken/ fish/ beef… ฉันอยากกินเนื้อไก่/ปลา/วัว
Did you enjoy your breakfast? คุณกินอาหารเช้าอร่อยไหม
What’s for dinner (lunch, supper…)? คืนนี้จะกินอะไร
I feel full.ฉันรู้สึกอิ่มแล้ว
Enjoy your meal!ขอให้ทุกคนได้ทานอาหารที่อร่อย
What are you taking? คุณกำลังดื่มอะไร
Could I have some more…? ขอ…เพิ่มได้ไหม
Would you like…? คุณอยาก…ไหม
People eat more on offline.ทุกคนกินเยอะๆ เลยนะ
Wipe your mouth.คุณเช็ดปากเถอะ

สำนวนภาษาอังกฤษเกี่ยวกับการกินอาหาร

วิธีจดจำคำศัพท์เกี่ยวกับการกินเป็นภาษาอังกฤษ

การจดจำคำศัพท์ภาษาอังกฤษไม่ใช่เรื่องง่าย อย่างไรก็ตาม การเรียนรู้ตามหัวข้อจะช่วยให้ผู้เรียนรับความรู้มากขึ้น ELSA Speak จะช่วยให้การเรียนของคุณรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

เป็นวิธีที่ใช้คำภาษาไทยที่มีเสียงคล้ายกับต้นฉบับ ด้วยคำภาษาอังกฤษแต่ละคำ ผู้เรียนจะได้หาคำภาษาไทยที่มีเสียงคล้ายกับคำภาษาอังกฤษนั้น นี่คือวิธีการเรียนรู้ของชาวยิวเพื่อพูดได้สองภาษาขึ้นไป ดังนั้นวิธีการเรียนแบบนี้มีประสิทธิภาพมาก

ตัวอย่าง: คำ “Nasty”

เสียงของคคำ: แนสˈที

ความหมายของคำ: น่ารังเกียจ

สร้างประโยค: น้อยหน่าแนสทีมีกลิ่นเหม็นน่ารังเกียจ

ดังนั้นการเรียนรู้ประโยคง่ายๆ จะช่วยให้คุณจำทั้งความหมายและการออกเสียงของคำได้ดีกว่าการท่องจำที่ซับซ้อน

วิธีนี้ก็เป็นวิธีหนึ่งของชาวยิว ผู้เรียนจะแทรกคำศัพท์ภาษาอังกฤษในเรื่องและกาลเทศะต่างๆ เป็นภาษาไทย แทนที่จะต้องเรียนเนื้อเรื่องภาษาอังกฤษยาวๆ การเพิ่มคำศัพท์ภาษาอังกฤษลงไปในเนื้อเรื่องภาษาไทยจะช่วยให้เราเรียนรู้ได้ง่ายขึ้น

ด้วยเหตุนี้ผู้เรียนจึงสามารถจดจำคำศัพท์ที่ต้องการเรียนรู้ได้อย่างง่ายได้

บทความนี้เป็นการรวบรวมคำศัพท์ เมนูอาหาร ภาษาอังกฤษ ของ ELSA Speak หวังว่าจะช่วยให้ผู้เรียนได้รับความรู้ใหม่เพิ่มเติม

career advancement