Author: [email protected]

เมื่อครอบครัวและเพื่อนๆ ต้องเดินทางไกล เช่น กลับบ้านเกิด ไปเที่ยว ไปเรียนต่อต่างประเทศ ไปทำงาน ฯลฯ ใครๆ ก็อยากจะอวยพรให้คนที่เรารักโชคดีและปลอดภัยอยู่เสมอ ดังนั้น ELSA Speak จึงได้รวบรวมคำอวยพรเดินทางปลอดภัยในภาษาอังกฤษที่มีความหมายดี อ่านง่ายจำได้แม่นมาให้แล้ว

เดินทางปลอดภัย ภาษาอังกฤษ แปลว่าอะไร

เดินทางปลอดภัยในภาษาอังกฤษแปลว่า have a good trip, have a nice trip, safe journey hoặc safe trip,… วลีเหล่านี้หมายถึงการเดินทางที่ปลอดภัย ราบรื่นดี ไม่มีอุปสรรคระหว่างทาง ซึ่งมักจะพูดกับคนกำลังจะเดินทางไกลไกลหรือบอกลา

ขอให้เดินทางปลอดภัยภาษาอังกฤษสั้นๆ ความหมายดีๆ

คำอวยพรขอให้ เดินทาง ปลอดภัย ภาษาอังกฤษคำแปล
Take care.ดูแลตัวเองด้วยนะ
All the best.ขอให้ทุกอย่างราบรื่น
I hope everything goes well.ฉันหวังว่าทุกอย่างจะไปได้ด้วยดี
You are going to have a nice trip.ขอให้เดินทางปลอดภัย
Drive carefully/ Drive safely.ขับรถดีๆ นะ
Have a safe travel.
Have a safe journey.
Have a safe trip.
Have a nice journey.
Have a safe ride.
ขอให้เดินทางปลอดภัย
Have a safe flight.
Have a good flight.
ขอให้เดินทางโดยสวัสดิภาพ
Have fun, see you next week!ขอให้สนุกนะ แล้วพบกันใหม่
Enjoy the journey.
Enjoy your trip.
ขอให้เที่ยวสนุกและเดินทางปลอดภัยนะ
Wishing you a safe journey. ขอให้เดินทางปลอดภัย
Bon voyage.เป็นคำภาษาฝรั่งเศส หมายความว่า ขอให้เดินทางโดยสวัสดิภาพ 
ขอให้เดินทางปลอดภัย ภาษาอังกฤษสั้นๆ ความหมายดีๆ
To wish somebody bon voyage/a pleasant journey/a nice trip.ขอให้(คนๆนั้น)เดินทางปลอดภัย
You are going to have a nice trip.คุณจะมีการเดินทางที่ดี
Wishing you a healthy journey!ขอให้มีสุขภาพแข็งแรงตลอดการเดินทาง
Hope you have an amazing time!ขอให้มีช่วงเวลาที่ดี
May your journey be filled with joy and adventures!ขอให้การเดินทางของคุณเต็มไปด้วยความสุขและการผจญภัย

เที่ยวให้สนุกนะ ภาษาอังกฤษใช้คำไหนบ้าง

คำแปล: ถึงเวลาพักผ่อนแล้ว มาสนุกกับช่วงเวลาอันแสนวิเศษนี้ด้วยกันนะ

คำแปล: ขอให้เที่ยวให้สนุกและนำของฝากมาเยอะๆ ด้วยนะที่รัก คิดถึงฉันตลอดเวลานะ

คำแปล: จะดีแค่ไหนถ้าคุณแค่มุ่งมั่นไปที่ตัวเองและพยายามทำให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้

คำแปล: สำหรับตอนนี้ แค่ฟังเสียงหัวใจตัวเอง ขอให้เป็นวันหยุดที่ดี และหลับตาพักผ่อนหรืออ่านหนังสือนะที่รัก

คำแปล: พยายามอย่าคิดถึงปัญหาที่ยังมาไม่ถึง และหลังจากนี้ ต้องใจเย็นๆ นะ

 คำแปล: วันหยุดเป็นเวลาที่เราจะได้สัมผัสประสบการณ์ความทรงจำที่สวยงามร่วมกัน

คำแปล: วันหยุดนี้คุณเตรียมตัวเต็มที่แล้วหรือยัง? ขอให้เที่ยวให้สนุกนะ

คำแปล: ขอให้วันหยุดครั้งนี้เป็นวันหยุดที่มีความหมายกับครอบครัวของเรา

คำแปล: วันหยุดครั้งนี้มีเวลาหนึ่งสัปดาห์ เราจะมีเวลาไปเที่ยวด้วยกันนะ 

คำแปล: หนูจะเตรียมตั๋วเครื่องบินให้พ่อแม่ไปเที่ยว ขอให้พ่อแม่เที่ยวให้สนุกนะ

>>> Read more: วันหยุดภาษาอังกฤษ วันหยุดเทศกาลต่าง ๆ ประจำปี

ขอให้ เดินทาง ปลอดภัย ภาษาอัง กฤษ เมื่อมีญาติตั้งถิ่นฐานในต่างประเทศ

คุณสามารถใช้ประโยคเหล่านี้เพื่ออวยพรให้ญาติเดินทางไปตั้งถิ่นฐานในต่างประเทศอย่างปลอดภัย:

คำอวยพรขอให้เดินทางปลอดภัยภาษาอังกฤษคำแปล
May you and your family have a safe journey.ขอให้คุณและครอบครัวเดินทางปลอดภัย
Hope to see you soon.หวังว่าจะได้เจอกันเร็วๆ นี้
Stay in touch!ส่งข่าวถึงกันอยู่เสมอนะ
I will miss you so much. ฉันจะคิดถึงคุณมากๆ
Wish you success and get back to winning soon!ขอให้คุณประสบความสำเร็จและพบกันใหม่เร็วๆ นี้นะ
If you have free time, come visit us again!หากคุณมีเวลาว่างกลับมาหาเราอีกครั้งนะ
Call me when you get there.ถึงแล้วโทรหาฉันด้วยนะ
Remember to stay healthy, goodbye!อย่าลืมดูแลสุขภาพด้วยนะ
Remember to take good care of yourself.อย่าลืมดูแลตัวเองดีๆ ด้วยนะ
Everything is fine.ทุกสิ่งทุกอย่างจะราบรื่น
Hope we can meet again.หวังว่าเราจะได้พบกันอีก

ขอให้เดินทางปลอดภัยภาษาอังกฤษ (โดยสารเครื่องบิน)

หวังว่าคุณจะสามารถเลือกใช้คำอวยพรให้เดินทางปลอดภัยโดยเครื่องบิน ภาษาอังกฤษ ด้านล่างนี้อย่างเหมาะสม

คำแปล: ฉันอาจจะไม่ได้อยู่กับคุณในการเดินทางครั้งนี้ แต่ความรักและคำอวยพรอวยพรของฉันจะอยู่กับคุณเสมอ เดินทางปลอดภัยนะ

คำแปล: ขอส่งความรักและคำอวยพรทั้งหมดให้กับคุณ เพื่อให้เที่ยวบินแรกราบรื่น สะดวกสบาย และมีความสุขนะ!

คำแปล: ขอให้เดินทางปลอดภัย ผมรอเจอภรรยาคนสวยของผมแทบไม่ไหวแล้ว

ขอให้เดินทางปลอดภัยภาษาอังกฤษโดยสารเครื่องบิน

คำแปล: ขอให้พ่อแม่เดินทางโดยสวัสดิภาพและราบรื่น เที่ยวให้สนุกและเก็บความทรงจำที่ดีเหล่านี้ไว้นะ

คำแปล: ขอให้เป็นเที่ยวบินที่ดี และเพลิดเพลินกับการเดินทางของคุณนะ ขอส่งความรักทั้งหมดไปถึงคุณ

คำแปล: น้องสาวที่รัก ขอให้เดินทางปลอดภัยเหมือนกับความรักและการสนับสนุนที่พี่ๆ มีให้ เดินทางปลอดภัยนะ

คำแปล: ขอให้มีความสุขกับการบินนะสามีที่รักของฉัน รอที่จะได้ยินการผจญภัยของคุณแทบไม่ไหวแล้ว

คำแปล: ขอให้คุณมีการเดินทางที่ดีตามที่คุณหวังนะภรรยาที่รักของผม ขอให้มีช่วงเวลาที่ดีนะ

คำแปล: ขอแสดงความยินดีกับเที่ยวบินแรกของคุณ ขอให้คุณเดินทางปลอดภัยและเป็นที่น่าจดจำ

>>> Read more: คำอวยพรขอให้โชคดีภาษาอังกฤษที่ดีที่สุด

ขอให้เดินทางปลอดภัยภาษาอังกฤษในการเดินทาง

คำอวยพรขอให้ เดินทางปลอดภัยภาษาอังกฤษคำแปล
Get on the road smoothly.เดินทางอย่างราบรื่นนะ
Good luck to you.ขอให้คุณโชคดีนะ
Safe and sound.ปลอดภัยนะ
Wishing you all the best! ขอให้คุณเจอ แต่เรื่องดี ๆ
Fingers crossed!ขอให้โชคดี
Wishing you lots of luck!ขอให้โชคดีแบบสุดๆ นะ
Have a blast!มีความสุขมากๆ นะ
Best wishes!ขออวยพรที่ดีที่สุดให้แก่คุณ
Many blessings to you!ขออวยพรที่ดีที่สุดให้แก่คุณ
May luck be in your favor!ขอให้โชคเข้าข้าง
Here’s a four-leaf clover!ใบไม้ 4 แฉก (สัญลักษณ์ให้ความโชคดี)
Wish you good health!ขอให้คุณมีสุขภาพดี
Hope to see you soon.หวังว่าจะได้เจอกันอีกเร็วๆนี้นะ
ขอให้เดินทางปลอดภัย ภาษาอังกฤษในการเดินทาง

คำถามที่ใช้บ่อย

Have a good tripใช้ยังไง?

Have a good trip ใช้เพื่ออวยพรและให้กำลังใจใครสักคนก่อนที่จะเริ่มการเดินทางใหม่ อาจเป็นทริป หรือการเดินทางไหนก็ตาม

safe flight ใช้ยังไง?

Safe flight หมายถึง “ขอให้เดินทางปลอดภัยโดยเครื่องบิน” และใช้เพื่อบอกลาหรือขอให้ใครสักคนบินโดยสวัสดิภาพ

ขับรถ ดีๆ เดินทางปลอดภัยภาษาอังกฤษ

มักใช้ประโยคเช่น Drive safe Drive safe หรือ Have a safe drive

เดินทางปลอดภัยภาษาอังกฤษพูดแบบไหนได้บ้าง?

เดินทางปลอดภัยภาษาอังกฤษ สามารถใช้ประโยคเช่น: Have a safe travel. Have a safe journey. Have a safe trip. Have a nice journey. Have a safe ride, …

ข้างต้นคือคำอวยพร เดินทางปลอดภัยภาษาอังกฤษ ที่ ELSA Speak อยากแบ่งปันให้กับคุณ หวังว่าบทความนี้จะมีประโยชน์สำหรับคุณ และขอขอบคุณที่สนใจบทความของ ELSA Speak!

>>> Read more:

Some และ Any ต่างก็เป็นทั้งคำวิเศษณ์บอกปริมาณที่คุ้นเคยกันอยู่แล้วในภาษาอังกฤษ อย่างไรก็ตาม อะไรคือความแตกต่างของทั้งสองคำนี้และมีวิธีใช้แบบไหนจึงจะถูกต้อง? ตาม ELSA Speak มาหาคำตอบและความรู้เกี่ยวกับวิธีใช้ Some Any รวมถึงวิธีแยกความแตกต่างได้ในบทความของวันนี้กันเลย!

ภาพรวมของ Some ในภาษาอังกฤษ

ก่อนอื่น เราลองแบ่งปันภาพรวมความรู้เกี่ยวกับ Some ในภาษาอังกฤษกับ  ELSA Speak เพื่อที่เราจะได้รู้วิธีการใช้ Some และ Any ได้อย่างถูกต้องกันดีกว่า!

Some คืออะไร?

Some มีความหมายว่า “จำนวนหนึ่ง , บาง,  เล็กน้อย” ใช้กับคำนามที่นับได้และนับไม่ได้ ตัวอย่างเช่น:

วิธีใช้ Some ในภาษาอังกฤษ

Some ส่วนใหญ่มักจะใช้ในประโยคบอกเล่า 

ตัวอย่างเช่น: 

ในประโยคคำถาม some จะใช้ในการเชิญชวน

ตัวอย่างเช่น: 

 Some ใช้เมื่อต้องการยื่นข้อเสนอหรือขอความช่วยเหลือ

ตัวอย่างเช่น: 

Some ใช้ในคำถามเมื่อผู้ถามต้องการได้รับคำตอบว่า “Yes”

ตัวอย่างเช่น: 

Some ใช้กับความหมายว่า “ประมาณ”

วิธีใช้ Some ในภาษาอังกฤษ

ภาพรวมของ Any ในภาษาอังกฤษ

แล้ว Any คืออะไรและมีวิธีใช้อย่างไร? งั้นเรามาหาคำตอบและวิธีแยกความแตกต่างในการใช้ Some และ Any กันต่อเลย!

Any คืออะไร?

Any ก็เป็นคำวิเศษณ์บอกปริมาณ มีความหมายว่า “เล็กน้อย, บ้าง, เลย” ใช้กับคำนามที่นับได้และนับไม่ได้ ตัวอย่างเช่น:

 วิธีใช้ Any ในภาษาอังกฤษ

Any ส่วนใหญ่มักจะใช้ในประโยคปฏิเสธ

Any ใช้ในคำถามเมื่อต้องการถามว่ายังมีของสิ่งนั้นอยู่หรือไม่

Any ใช้ในประโยคบอกเล่าเชิงปฏิเสธ เช่น never, hardly, without, yet,…

Any สามารถใช้กับกริยาที่มีความหมายว่า “หลีกเลี่ยง, ห้าม, ไม่อนุญาต” เช่น avoid, ban, prevent, forbid,…

วิธีใช้ Any ในภาษาอังกฤษ

วิธีแยกการใช้ Some และ Any 

หากต้องการแยกการใช้ Some และ Any อย่างชัดเจนและง่ายต่อการจำ คุณสามารถทำตามตารางต่อไปนี้:

สิ่งที่เหมือนกัน

Some/Any + N (คำนาม) นับไม่ได้/ นับได้: โดยทั่วไปหมายถึง “ไม่กี่, บ้าง, จำนวนหนึ่ง,  เล็กน้อย” ซึ่งเป็นปริมาณที่ไม่ได้กำหนดอย่างชัดเจนหรือไม่จำเป็นต้องทราบปริมาณ

ตัวอย่างเช่น:

>>> Read more: Countable Noun (คำนามนับได้) and Uncountable Noun (คำนามนับไม่ได้)

สิ่งที่ต่างกัน

SomeAny
ใช้สำหรับบอกเล่า มีความหมายว่า “ จำนวนหนึ่ง”ตัวอย่างเช่น:
Some children are swimming in the lake. (มีเด็กจำนวนหนึ่งว่ายน้ำในทะเลสาบ)
ใช้ในประโยคปฏิเสธ ตัวอย่างเช่น:
There is not any fruit in the fridge in my house. (ที่บ้านฉันไม่มีผลไม้เหลือในตู้เย็นเลย)

ใช้ในประโยคบอกเล่า มึความหมายว่า “ใดๆ” มีตัวเลือกอย่างไม่จำกัด ตัวอย่างเช่น:She goes out with any boys whom she likes. (เธอออกไปข้างนอกกับผู้ชายที่เธอชอบ)ใช้ในประโยคปฏิเสธตัวอย่างเช่น:We did it without any luck. (พวกเราทำมันโดยที่ไม่มีโชคเลยสักนิด)
ใช้ในประโยคคำถาม ( มีความหมายว่า เชิญชวน, ร้องขอ, ยื่นข้อเสนอ) ตัวอย่างเช่น:
Would you like some juice for your dinner? (คุณต้องการน้ำผลไม้สำหรับมื้อเย็นหรือไม่?)
ใช้ในคำถามเชิงสงสัย (มีความหมายว่า เหลือเท่าไหร่)ตัวอย่างเช่น:Do you have any money to buy a cat?
(คุณยังมีเงินเหลือซื้อแมวอยู่มั้ย?)
กลุ่มคำของ Some ที่มักใช้ในประโยคบอกเล่าและประโยคคำถาม  จึงมีความหมายว่า
“มีจำนวนหนึ่ง”
กลุ่มคำของ Any ที่มักใช้ในประโยคคำถามประโยคบอกเล่าและประโยคปฏิเสธ จึงมีความหมายว่า “ใดๆ” มีตัวเลือกอย่างไม่จำกัด 

หมายเหตุเมื่อใช้ Any – Some: หากมีคำนามที่ชัดเจนอยู่แล้วในประโยคก่อนหน้า คุณสามารถใช้ Some – Any ได้โดยไม่ต้องมีคำนามต่อไปนี้

ตัวอย่างของ Some และ Any:

คำวิเศษณ์แสดงปริมาณ 

คำวิเศษณ์บอกปริมาณความหมายตัวอย่าง
Littleน้อยมาก, ไม่เพียงพอที่จะทำอะไรบางอย่างJohn has little money, not enough to buy a car.
(จอห์นมีเงินน้อยมาก ไม่พอที่จะซื้อรถ)
A littleนิดหน่อย, เพียงพอสำหรับทำสิ่งหนึ่งAnna have a little money, enough to buy car. (แอนนามีเงินนิดหน่อยพอที่จะซื้อรถยนต์ได้)
Mostมากที่สุด, ส่วนใหญ่Jenny spends most of the time studying. (เจนนี่ใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการเรียน)
Noneไม่มีWho went to work last day? – None. (เมื่อวานใครไปทำงานบ้าง? – ไม่มีเลย)
MuchมากPeter drank so much wine in the party. ( ในงานปาร์ตี้ปีเตอร์ดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป)
A fewนิดเดียว, พอที่จะทำอะไรบางอย่างHarry has a few records, enough for listening to music. (แฮร์รี่มีตลับเทปอยู่นิดเดียวพอที่จะฟังเพลงได้)
Fewน้อยมาก, ไม่เพียงพอที่จะทำอะไรบางอย่างAnna has few pencils, not enough to write. (แอนนาเหลือดินสอน้อยมากจนไม่สามารถเขียนได้)
คำวิเศษณ์บอกปริมาณ

>>> Read more: บางวลีที่มีหน้าที่คล้ายกับ “much” และ “many”

หมายเหตุเกี่ยวกับวิธีใช้ Some และ Any

หมายเหตุเกี่ยวกับวิธีใช้ Some และ Any

นอกจากความรู้พื้นฐานข้างต้นแล้ว ด้านล่างนี้คือหัวข้อบางส่วนที่คุณต้องจำไว้เมื่อใช้ Some และ Any:

หากมีคำสรรพนามในประโยคแล้ว การใช้ Some และ Any สามารถวางไว้เดี่ยวๆได้ โดยไม่จำเป็นต้องมีคำนามตามหลังอีก ตัวอย่างเช่น:

การใช้ Some และ Any ในประโยคเชิญชวน Some จะมีข้อจำกัดเกี่ยวกับจำนวนแต่ Any จะไม่มีข้อจำกัด ตัวอย่างเช่น:

การใช้ Any และ Some สามารถวางไว้เดี่ยวๆได้ หรือจะใช้กับคำบุพบท เช่น “of” เมื่อคุณต้องการอ้างถึงกลุ่มวัตถุหรือสิ่งของบางกลุ่ม ตัวอย่างเช่น:

กลุ่มคำพิเศษของ Some และ Any 

 “Some” และ “Any” ยังมีกลุ่มคำวิเศษ เช่น: 

ชนิดคำSomeAny
คำที่บ่งบอกถึงบุคคลSomebody, someone
(ใครบางคน)
Anybody, anyone
คนหนึ่งคนใด
คำที่บ่งบอกถึงสิ่งของSomething
(สิ่งใดสิ่งหนึ่ง,บางสิ่งบางอย่าง)
Anything
บางอย่าง 
คำที่ใช้เพื่อถามSomehow (ด้วยวิธีใดวิธีหนึ่ง),
somewhat (ค่อนข้าง),
somewhere (ที่ไหนสักแห่ง)
Anyhow = anyway
(ถึงอย่างไรก็ตาม),
anywhere (ที่ไหนก็ตาม),
anywhen (เมื่อไหร่ก็ตาม)

แบบฝึกหัด Some และ Any พร้อมเฉลย

แบบฝึกหัด

ชุดที่ 1: Put in some or any. 

  1. We didn’t buy____ flowers. 
  2. Tonight I’m going out with____ friends of mine. 
  3. Have you seen____good movies recently? 
  4. I’d like____ information about what there is to see in this town.
  5. I didn’t have ____ money. I had to borrow ____ 
  6. You can use your card to withdraw money at____ cash machine.
  7. Those apples look nice. Shall we get ____?
  8. “Can I have ____ more coffee, please?” “Sure. Help yourself.”
  9. If there are ____words you don’t understand, look them up in a dictionary.
  10. We wanted to buy____ grapes, but they didn’t have ____ in the shop

ชุดที่ 2: Complete the sentences with some- or any-+-body/-thing/-where. 

  1. There’s ____at the door. Can you go and see who it is? 
  2. Dose____mind if I open the window?
  3. I can’t drive and I don’t know ____about cars.
  4. You must be hungry. Why don’t I get you____to eat?
  5. Emma is very tolerant. She never complains about____
  6. There was hardly____  on the beach. It was almost deserted.
  7. Let’s go away. Let’s go____ warm and sunny.
  8. I’m going out now. If ____asks where I am, tell them you don’t know.
  9. This is a no-parking area____who park their car here will have to pay a fine. 
  10. Quick, let’s go! There’s____coming and I don’t want____ to see us.
  11. Jonathan stood up and left the room without saying____. 
  12. “Can I ask you____?” “Sure. What do you want to ask?” 
  13. Sarah was upset about____ and refused to talk to____. 
  14. I need____  to translate. Is there____ here who speaks English? 
  15. Sue is very secretive. She never tells ____ ____ (2 words) 
  16. She was too surprised to say___

เฉลย

ชุดที่ 1:

1. any 

ประโยคปฏิเสธจะใช้ Any

2. some

แปลความหมาย: คืนนี้ฉันออกไปข้างนอกกับเพื่อนจำนวนหนึ่ง

Some ใช้ในประโยคบอกเล่า หมายความว่า “จำนวนหนึ่ง”

3. any

ข้อนี้เป็นคำถามเชิงสงสัยดังนั้นจึงใช้ any

4. some

แปลความหมาย: ฉันต้องการทราบข้อมูลบางอย่างเกี่ยวกับสิ่งที่เห็นในเมืองนี้

5. any…some

ประโยคแรกเป็นประโยคปฏิเสธจึงใช้ any

ประโยคที่สองเป็นประโยคบอกเล่าจึงใช้ some

6. any

แปลความหมาย: คุณสามารถใช้บัตรของคุณกดเงินสดที่เครื่องใดก็ได้

ถ้าข้อนี้ใช้ some ความหมายในประโยคนี้จะแปลว่า: คุณสามารถใช้บัตรของคุณกดเงินสดได้ที่ตู้กดแค่บางเครื่อง -> ไม่เหมาะสมกับบริบทข้างต้น

7. some

หากคุณต้องการคำตอบว่า “Yes” คุณควรใช้ some

8. some

หากคุณต้องการคำตอบว่า “Yes” คุณควรใช้ some

9. any

แปลความหมาย:หากมีคำใดที่คุณไม่เข้าใจให้ค้นหาในพจนานุกรม

10. some…any

ประโยคแรกเป็นประโยคบอกเล่าให้ใช้ some และประโยคที่สองเป็นประโยคปฏิเสธให้ใช้ any

ชุดที่ 2:

1. somebody/ someone

ใช้ some เพราะในบริบทนี้มีคนอยู่ตรงนั้น

หากคุณใช้ Any ประโยคแรกจะแปลว่า “ไม่มีใครอยู่ที่ประตู” ดังนั้นก็จะไม่มีประโยคที่สอง

2. anybody/ anyone

แปลความหมาย: จะเป็นการรบกวนไหมถ้าฉันเปิดหน้าต่าง?

ข้อนี้เป็นคำถามดังนั้นต้องใช้ any

3. anything

ใช้ any ในประโยคปฏิเสธ

4. something

แปลความหมาย: ดูเหมือนว่าคุณจะหิวมาก ทำไมฉันไม่หาอะไรให้คุณกินล่ะ?

5. anything or anybody/anyone

แปลความหมาย: เธอไม่เคยบ่นเกี่ยวกับสิ่งใดหรือใครเลย

6. anybody/ anyone

เป็นประโยคปฏิเสธเนื่องจากมีคำว่า “hardly” ดังนั้นจึงควรใช้ any

7. somewhere

แปลความหมาย: จงไปทุกที่ที่มีแสงแดดและอบอุ่น

8. anybody/ anyone

แปลความหมาย: ฉันจะออกไปข้างนอกตอนนี้ หากใครถามว่าฉันอยู่ที่ไหนก็บอกเขาไปว่าคุณไม่รู้

9. anybody/ anyone

แปลความหมาย: นี่คือพื้นที่ห้ามจอดรถ ใครที่จอดจะต้องเสียค่าปรับ

10. somebody/ someone….anybody/ anyone

แปลความหมาย:  มีคนกำลังมาและฉันไม่อยากให้ใครคนนั้นเห็นพวกเรา

11. anything

เป็นประโยคบอกเล่าที่มีความหมายเชิงลบเพราะมีคำว่า “without”ดังนั้นให้ใช้ any

12. something

หากต้องการได้รับคำตอบว่า “Yes” ควรใช้ Some หากไม่ทราบความหมายก็สามารถอ้างอิงประโยคที่สองหลังคำว่า “what” เพื่อเลือกใช้ something ได้

13. something….anybody/anyone

แปลความหมาย: ซาร่ารำคาญใครบางคนและปฏิเสธที่จะไม่คุยกับใครเลย

14. somebody/ someone….anybody/ anyone

แปลความหมาย: ฉันต้องการคนที่สามารถแปลได้ ที่นี่มีใครพูดภาษาอังกฤษได้บ้างมั้ย?

ประโยคแรกเป็นประโยคบอกกเล่าดังนั้นเราจึงใช้ some และประโยคที่สองเป็นคำถามดังนั้นเราจึงใช้ any

15. anybody/ anyone_anything

แปลความหมาย: เธอจะไม่มีทางพูดอะไรเลย

16. anything

แปลความหมาย: เธอแปลกใจเกินกว่าจะพูดอะไรออกไป

บริบทในประโยคนี้คือเธอสามารถพูดอะไรก็ได้ที่เธอต้องการ จึงไม่จำกัดปริมาณ ดังนั้นเราจึงใช้ Any

คำถามที่พบบ่อย

Some ใช้กับคำนามนับได้ได้ไหม?

“Some” (มีความหมายว่า: ไม่กี่, จำนวนหนึ่ง) ใช้กับคำนามนับได้และนามนับไม่ได้

Any ใช้กับคำนามนับได้ได้ไหม?

Any สามารถใช้คำนามนับได้หรือคำนามนับไม่ได้ได้

สรุป

บทความข้างต้นได้รวบรวมวิธีการใช้ Some และ Any รวมถึงข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นในการสื่อสารและการสอบของเพื่อนๆร่วมชั้น ELSA Speak หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจในการเรียนและฝึกฝนภาษาอังกฤษมากยิ่งขึ้น

การเรียนคำศัพท์ภาษาอังกฤษตามหัวข้อเป็นวิธีที่ดีที่ช่วยให้การจดจำ การเรียน และการใช้ภาษาอังกฤษของผู้เรียนได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะผู้ที่เริ่มเรียนภาษาอังกฤษจาก 0 มาร่วมกับ ELSA Speak เพื่อเรียนรู้ คําศัพท์กิจวัตรประจําวันภาษาอังกฤษพร้อมคําอ่านในบทความดังต่อไปนี้!

คําศัพท์ภาษาอังกฤษในหัวข้อกิจวัตรประจําวัน

คำศัพท์คำอ่านคำแปล
Baby-sit/ˈbeɪbi sɪt/ดูแลเด็ก
Browse the Internet/braʊz ði ˈɪntərˌnɛt/เล่นอินเตอร์เน็ต
Brush somebody’s teeth/brʌʃ ˈsʌmbədiz tiːθ/แปรงฟัน
Buy/baɪ/ซื้อ
Clean the floor/kliːn ðə flɔ/ทำความสะอาดพื้น
Clean up (something)/klin ʌp/ทำความสะอาด (อะไรสักอย่าง)
Comb the hair/kəʊm ðə heə/หวีผม
Come back home/kʌm bæk həʊm/กลับบ้าน
Cook a meal/kʊk eɪ mil/ทำอาหาร
Do exercise/duː ˈɛksəsaɪz/ออกกำลังกาย
Do gardening/duː ˈgɑːdnɪŋ/ทำสวน
Do the cleaning/du ði ˈklinɪŋ/ทำความสะอาดบ้าน
Do the laundrydu ði ˈlɔndri/ซักผ้า
Do your homework/duː jɔː ˈhəʊmˌwɜːk/ทำการบ้าน
Drive a car/draɪv eɪ kɑr/ขับรถ
Empty the trash bin/ˈɛmpti ðə træʃ bɪn/ทิ้งขยะ
Feed a dog/fid eɪ dɔg/ให้อาหารสุนัข
Feed the cat/fiːd ðə kæt/ให้อาหารแมว
Finish working/ˈfɪnɪʃ ˈwɜːkɪŋ/เลิกงาน
Fold up the clothes/foʊld ʌp ði kloʊðz/พับผ้า
Gargle/ˈɡɑːr.ɡəl/บ้วนปาก
Get dressed/gɛt drɛst/แต่งตัว (เพื่อไปข้างนอก)
Get undressed/gɛt ənˈdrɛst/เปลื้องผ้าออก (กลับจากข้างนอก)
Get up/gɛt ʌp/ลุกจากที่นอน (ตื่นและลูกจากเตียง)
Go for a run/goʊ fɔr eɪ rʌn/ไปวิ่ง
Go for a swim/goʊ fɔr eɪ swɪm/ไปว่ายน้ำ
Go home/gəʊ həʊm/กลับบ้าน
Go on a picnic/goʊ ɑn eɪ ˈpɪkˌnɪk/ไปปิกนิก
Go shopping/gəʊ ˈʃɒpɪŋ/ไปซื้อของ
Go to bed/gəʊ tuː bɛd/เข้านอน
Go to school/gəʊ tuː skuːl/ไปโรงเรียน
Go to the gymgoʊ tu ði ʤɪm/ไปห้องยิม
Go to the market/goʊ tu ði ˈmɑrkɪt/ไปตลาด
Go to the restroom/gəʊ tuː ðə ˈrɛstrʊm/ไปห้องน้ำ
Go to the toilet/goʊ tu ði ˈtɔɪlət/ไปห้องน้ำ
Hang out with friends/hæŋ aʊt wɪθ frɛndz/ไปเที่ยวกับเพื่อน
Hang the clothes on/hæŋ ði kloʊðz ɑn/ตากผ้า
Hangout with colleagues/ˈhæŋaʊt wɪð ˈkɒliːgz/ไปเที่ยวกับเพื่อนร่วมงาน
Hangout with friend/ˈhæŋaʊt wɪð frɛnd/ไปเที่ยวกับเพื่อน
Have a break/hæv eɪ breɪk/พักผ่อน
Have a chit chat/hæv eɪ ʧɪt ʧæt/คุยเล่นๆ
Have a walk/hæv eɪ wak/เดินเล่น
Have breakfast/hæv ˈbrɛkfəst/กินอาหารเช้า
Have dinner/hæv ˈdɪnə/กินอาหารเย็น
Have lunch/hæv lʌnʧ/กินอาหารกลางวัน
Hit a sack/hɪt eɪ sæk/เข้านอน (เพราะว่าเหนื่อย)
คําศัพท์ภาษาอังกฤษในหัวข้อกิจวัตรประจําวัน
Leave home/liːv hoʊm/ออกจากบ้าน
Listen to music/ˈlɪsn tuː ˈmjuːzɪk/ฟังเพลง
Listen to the radio/ˈlɪsən tu ði ˈreɪdiˌoʊ/ฟังวิทยุ
Look after the baby/lʊk ˈɑːftə ðə ˈbeɪbi/ดูแลเด็ก
Make a cake/meɪk eɪ keɪk/ทำขนม
Make somebody’s bed/meɪk ˈsʌmbədiz bɛd/จัดเตียงจัดที่นอน
Makeup/ˈmeɪkʌp/แต่งหน้า
Mediate/ˈmiː.di.eɪt/นั่งสมาธิ
Mop the floor/mɑp ði flɔr/ถูบ้าน
Personal hygiene/pɜrsɪnɪl ˈhaɪˌʤin/สุขวิทยาส่วนบุคคล
Play games/pleɪ geɪmz/เล่นเกม
Play with peers/pleɪ wɪθ pɪrz/เล่นกับเพื่อน
Prepare breakfast/prɪˈpeə ˈbrɛkfəst:/เตรียมอาหารเช้า
Read the news/rid ði nuz/อ่านข่าว
Read the newspaper/riːd ðə ˈnjuːzˌpeɪpə/อ่านหนังสือพิมพ์
Ride a bike/raɪd eɪ baɪk/ขี่จักรยาน
Set an alarm/sɛt æn əˈlɑrm/ตั้งนาฬิกาปลุก
Set up the table/sɛt ʌp ði ˈteɪbəจัดโต๊ะอาหาร
Shave/ʃeɪv/โกนหนวด
Surf internet/sɜːf ˈɪntəˌnɛt/เล่นอินเตอร์เน็ต
Sweep the floor/swiːp ðə flɔ/กวาดบ้าน
Take a bath/teɪk ə bɑːθ/อาบน้ำในอ่าง
Take a break/teɪk ə breɪk/พักผ่อน
Take a bus/teɪk eɪ bʌs/ขึ้นรถบัส/ขึ้นรถเมล์
Take a nap/teɪ keɪ næp/นอนกลางวัน
Take a shower/teɪk ə ˈʃaʊə/อาบน้ำโดยฝักบัว
Take a taxi/teɪk eɪ ˈtæksi/ขึ้นแท็กซี่
Take out the rubbish/teɪk aʊt ði ˈrʌbɪʃ/ทิ้งขยะ
Talk to people/tɔk tu ˈpipəl/พูดคุยกับคนอื่น
Tidy the room/ˈtaɪdi ðə ruːm//จัดห้องให้เรียบร้อย
Tidy up your room/taɪdi ʌp jʊər rum/ทำความสะอาดห้อง

>>> Read more: 

Vacuum/ˈvækjʊəm/ดูดฝุ่นบนพื้น
Wait for a bus/weɪt fɔr eɪ bʌs/รอรถบัส/รอรถเมล์
Wake sb up/weɪk sb ʌp/ปลุก(ใครสักคน)ให้ตื่น
Walk the dog/wɔk ði dɔg/พาสุนัขไปเดิยเล่น
Wash clothes/wɒʃ kləʊðz/ซักผ้า
Wash somebody’s face/wɒʃ ˈsʌmbədiz feɪs/ล้างหน้า
Wash the dishes/wɑʃ ði ˈdɪʃəz/ล้างจานชาม
Wash your hand/wɑːʃ jʊə hænd/ล้างมือ
Watch television/wɑʧ ˈtɛləˌvɪʒən/ดูทีวี
Watch TV/wɒʧ ˌtiːˈviː/ดูทีวี
Water the plant/ˈwɔtər ði plænt/รดน้ำต้นไม้
Wax/wæks/การแว็กซ์กำจัดขน
Work/wɜːk/ทำงาน

ตัวอย่างประโยคที่ใช้บ่อยในชีวิตประจำวัน

ตัวอย่างประโยคภาษาอังกฤษความหมายในภาษาไทย
I usually wake up at 6:30.ฉันมักจะตื่นนอนเวลา 6:30 น.
I wash my face and take a shower.ฉันล้างหน้าของฉันและไปอาบน้ำ(โดยฝักบัว)
I dry and comb my hair.ฉันเป่าผมและหวีผมของฉัน
I make a cup of coffee.ฉันชงกาแฟ 1 แก้ว
I iron my clothes and shine my shoes.ฉันรีดผ้าและส่องแสงรองเท้าของฉัน
I brush my teeth every morning.ฉันแปรงฟันทุกเช้า
I have bread for breakfast.ฉันกินขนมปังในมื้อเช้า
I clean up the table after having breakfast.ฉันทำความสะอาดโต๊ะหลังจากกินอาหารเช้า
We should exercise regularly.เราควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
I put on makeup.ฉันแต่งหน้า
I leave home at around 7:45.ฉันออกจากบ้านเวลาประมาณ 7:45 น.
It takes me 5 minutes to walk to the bus stop.ฉันใช้เวลาประมาณ 5 นาทีเดินทางถึงป้ายรถเมล์
I usually take a bus to school. I catch the bus at 7:50.ฉันมักจะขึ้นรถเมล์ไปโรงเรียน ฉันขึ้นรถเมล์ตอน 7.50 น.
I used to ride my bike to school.ฉันเคยขี่จักรยานไปโรงเรียน
She never forgets to remove her make-up.เธอไม่เคยลืมถอดเครื่องสำอางออก
I do the laundry every day.ฉันซักผ้าทุกวัน
My mom always prepares dinner for me.แม่ของฉันเตรียมอาหารเย็นให้ฉันตลอด
I’m the one who will wash dishes.ฉันเป็นคนล้างจานชาม
Do you usually watch TV in the evening?คุณมักจะดูทีวีในตอนเย็นไหม
She had a chit-chat with her friends last night.เขาคุยเล่นๆกับเพื่อนเมื่อคืน
He usually browses the Internet before going to sleep.เขามักจะเล่นอินเทอร์เน็ตก่อนเข้านอน
I’m gonna hit the sack right now.ฉันจะเข้านอนตอนนี้
hit the sack เข้านอน
I go downstairs to clean the houseฉันจะลงไปข้างล่างเพื่อทำความสะอาดบ้าน
I arrive home at around 7:30.ฉันถึงบ้านเวลาประมาณ 7:30 น.
I get undressed.ฉันแต่งตัว
I get into my pajamas and take out the rubbish.ฉันใส่ชุดนอนและไปทิ้งขยะ
If I don’t feel so tired, I’ll cook dinner.ถ้าไม่เหนื่อยมาก ฉันจะทำอาหารเย็น
I have a break on my couch and listen to the radio.ฉันพักผ่อนบนโซฟาและฟังวิทยุ
I crash on the sofa and watch TV when I get home.ฉันนอนบนโซฟาและดูทีวีเมื่อฉันกลับบ้าน
At around 11:30 I set the alarm and read a book for about 30 minutes.ฉันตั้งนาฬิกาปลุกเวลาประมาณ 11:30 น. และอ่านหนังสือประมาณ 30 นาที
I turn off the lights and go to bed.ฉันปิดไฟและเข้านอน

เมื่อพูดถึงกิจกรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน เราสามารถเติมคำกริยาวิเศษณ์ที่ใช้บอกความถี่ได้ เช่น often (บ่อย ๆ), generally (โดยทั่วไป), sometimes (บางครั้ง), occasionally (บางโอกาส)… นอกจากนั้น มีคำวิเศษณ์บอกเวลา เช่น On Wednesday (ในวันพุธ/ทุกวันพุธ), once a week (อาทิตย์ละหนึ่งครั้ง), every Friday (ทุกวันศุกร์)… 

ตัวอย่าง:

ฉันไปเที่ยวกับเพื่อนอาทิตย์ละหนึ่งครั้ง

เขาไปยิมทุกวันพุธ

บางครั้ง ฉันออกไปวิ่งเล่นรอบๆ สวนสาธารณะหลังจากกลับบ้าน

นอกจากนี้ยังสามารถใช้คำเชื่อมโยงต่อไปนี้เพื่อเชื่อมต่อประโยค เช่น before (ก่อนที่จะ), after (หลังจาก), then (หลังจากนั้น), next (ต่อไป)…

Ví dụ:

ฉันมักจะพาสุนัขไปเดินเล่นก่อนที่จะไปว่ายน้ำ

หลังจากกลับบ้าน ฉันซักผ้า

หลังจากนั้น ฉันทำอาหารเย็น

ตัวอย่างบทความในหัวข้อกิจวัตรประจําวันที่ใช้บ่อย

I’m a senior in high school, so most of my time will be spent studying. I usually wake up at 5:30 a.m., then clean myself, hang up my clothes, have breakfast, and get ready for school. Morning classes will start from 7:00 a.m. to 11:00 p.m. Since it’s close to home, I ride my bike home, have lunch, and sleep for about 30 minutes. Taking a nap will help me have more health and spirit for the afternoon class. Continuing I need to study more in the afternoon and evening. The end of a school day is at 8pm. However, I still have free time on certain days of the week, at this time I can play with my brother, go to football or listen to music.

แปล

ฉันเป็นนักเรียนมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 6 ดังนั้น ฉันใช้เวลาส่วนใหญ่ในการเรียน ฉันมักจะตื่นนอนเวลา 5:30 น. หลังจากนั้น ฉันทำสุขวิทยาส่วนบุคคล ตากเสื้อผ้า กินอาหารเช้าและเตรียมตัวไปโรงเรียน คาบเรียนตอนเช้าจะเริ่มตอนเวลา 7:00 น. ถึง 11:00 น. เนื่องจากโรงเรียนอยู่ใกล้บ้าน ฉันจึงขี่จักรยานกลับบ้าน กินอาหารกลางวันและนอนกลางวันประมาณ 30 นาที การนอนกลางวันจะช่วยให้ฉันมีสุขภาพและจิตใจที่ดีสำหรับการเรียนช่วงบ่าย ต่อไป ฉันต้องเรียนพิเศษในตอนบ่ายและตอนเย็น ฉันเลิกเรียนเวลา 20.00 น. อย่างไรก็ตาม ฉันยังมีเวลาว่างในบางวันของสัปดาห์ ซึ่งฉันสามารถเล่นกับน้องชาย เล่นฟุตบอล หรือฟังเพลงได้

สรุป

ข้างต้นเป็นการรวบรวม daily routine คําศัพท์ หวังว่าจะมีประโยชน์ในการเรียนภาษาอังกฤษและพัฒนาระดับภาษาของคุณ นอกจากนี้ อย่าลืมเข้าแอปพลิเคชัน ELSA Speak เพื่ออัปเดตบทเรียนล่าสุดเกี่ยวกับคำศัพท์และโครงสร้างภาษาอังกฤษทุกวัน!