Author: Bao Ngan Nguyen
การปรับปรุงทักษะภาษาอังกฤษผ่านช่องทางการเรียนออนไลน์กำลังเป็นทางเลือกที่หลายคนนิยมในปัจจุบัน เนื่องจากความสะดวก ประยัดค่าใช้จ่าย และมีประสิทธิภาพ มาค้นคว้า 28+ เว็บไซต์เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ฟรีที่ดีที่สุดตอนนี้เพื่อพิชิตภาษาอังกฤษขั้นพื้นฐานในบทความต่อไปนี้กันนะ
28+ เว็บไซต์ เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ฟรี
6 เว็บไซต์เรียนภาษาอังกฤษฟรีเพื่อฝึกการพูด
ELSA Speak
สำหรับคนที่กำลังมองหาแอปพลิเคชันเรียนภาษาอังกฤษพื้นฐานแต่มีความเป็นส่วนตัวสูง ELSA Speak ถือเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมอย่างยิ่ง เพราะนี่คือแอปฝึกการพูดและการสื่อสารภาษาอังกฤษที่อยู่ในแอปพลิเคชันปัญญาประดิษฐ์ชั้นนำระดับโลก
ELSA Speak สามารถตรวจจับและช่วยคุณแก้ไขข้อผิดพลาดในการออกเสียงอย่างถูกต้องในแต่ละพยางค์ โดยใช้เทคโนโลยี AI ระดับสูง นอกจากนั้น คุณจะได้รับการให้คะแนนทันทีหลังการฝึกออกเสียงในแต่ละครั้ง เพื่อช่วยให้คุณทราบถึงระดับความสามารถของตัวเองและมีแผนการเรียนที่เหมาะสม
ปัจจุบัน ELSA Speak ได้พัฒนาหัวข้อการเรียนรู้มากกว่า 192 หัวข้อ บทเรียนมากกว่า 7,000 บท และแบบฝึกหัดมากกว่า 25,000 แบบ โดยมีทักษะที่หลากหลาย เช่น การพูด การออกเสียง การสนทนา เป็นต้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ELSA Speak จะอัปเดตบทเรียนใหม่ๆ อยู่เสมอด้วยหัวข้อที่คุ้นเคยสามารถใช้งานได้ในชีวิตประจำวันและในการทำงาน
จุดสำคัญอีกอย่างหนึ่งของแอป ELSA Speak ที่พลาดไม่ได้ คือ ความสามารถในการออกแบบแผนการเรียนส่วนบุคคล เพียงแค่ทำแบบทดสอบ คุณก็จะได้รับการประเมินทักษะการพูดโดยรวมและได้รับคำแนะนำเกี่ยวกับแผนการเรียนตามความสนใจและระดับของคุณ ใช้เวลาฝึกซ้อมประมาณ 10 นาทีทุกวันเป็นเวลา 3 เดือน แล้วคุณจะพบว่าทักษะภาษาอังกฤษของคุณพัฒนาขึ้นมาก
ด้วยคุณสมบัติที่กล่าวมาข้างต้น ELSA Speak จะเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ที่ยอดเยี่ยมที่ช่วยให้คุณปรับปรุงการออกเสียง และพิชิตข้อสอบ TOEIC และ IELTS ได้อย่างง่ายดาย
นอกจากนี้ หัวข้อการเรียนรู้ของ ELSA Speak ยังเหมาะสมกับคนวัยทำงาน เพราะช่วยให้คุณสื่อสารภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่วมากขึ้นในสภาพแวดล้อมการทำงาน และเพิ่มโอกาสสำหรับการทำงานในอนาคต
>>> Read more: ค่าคอร์สเรียน ELSA Speak ล่าสุดในปี 2567
TalkEnglish
Website: https://www.talkenglish.com/
TalkEnglish เป็นเว็บไซต์เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ฟรี เหมือนกับจำลองห้องเรียนภาษาอังกฤษฟรี โดยจะเน้นฝึกทักษะการพูดเป็นหลัก
ข้อดีของเว็บไซต์นี้คือมีหัวข้อที่หลากหลายและมีการจำแนกระดับความสามารถของผู้เรียน ซึ่งจะช่วยให้คุณฝึกฝนและสื่อสารภาษาอังกฤษได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ TalkEnglish ยังมีคำศัพท์และคำสแลงทำให้คุณสามารถสื่อสารได้เหมือนกับเจ้าของภาษาอีกด้วย
เว็บ TalkEnglish แบ่งหัวข้อนำเสนออย่างชัดเจนโดยมีตัวเลือกดังนี้
- Speaking English Lessons – ฝึกการพูดภาษาอังกฤษ
- English Listening Lessons – ฝึกการฟังภาษาอังกฤษ
- Extra English Lessons – บทเรียนภาษาอังกฤษเสริมทักษะ
ในแต่ละหัวข้อเหล่านี้ยังได้แบ่งเป็นหัวข้อย่อยตามแต่ละระดับตั้งแต่หัวข้อที่ง่ายไปจนหัวข้อที่ยากขึ้น คุณจะเห็นได้ว่าความรู้ในเว็บไซน์นี้ค่อนข้างครบถ้วน
หากคุณไม่รู้ว่าคุณอยู่ในระดับไหน หรือไม่รู้ควรเริ่มเรียนจากไหน โปรดเข้าไปที่ Full Lesson Index คุณจะสามารถเห็นทุกหัวข้อที่มีอยู่บนเว็บไซต์ จากนั้นคุณก็ค้นหาบทเรียนที่คุณสนใจและเหมาะสมกับระดับของคุณได้อย่างง่ายดาย
Italki
Website: https://www.italki.com/
Itaki เป็นเว็บไซต์ไม่เพียงแค่ช่วยให้คุณฝึกพูดภาษาอังกฤษออนไลน์เท่านั้น แต่ยังช่วยให้คุณเชื่อมต่อกับผู้เรียนภาษาต่างประเทศหลายล้านคนทั่วโลก ที่นี่ คุณสามารถฝึกพูดภาษาอังกฤษกับคนอื่นและสามารถเป็นอาจารย์สอนภาษาอังกฤษให้กับคนอื่นได้อีกด้วย
นอกจากนี้ เว็บไซต์นี้มีการเชื่อมต่อที่เรียบง่าย ใช้งานได้ง่าย และเหมาะสมกับทุกคน ดังนั้น แน่ใจได้เลยว่าคุณจะชื่นชอบและประทับใจเมื่อเรียนภาษาอังกฤษฟรีที่ Itaki
Learn English Free Online
Website: https://www.learnenglish.de/
Learn English Free Online เป็นเว็บไซต์เรียนภาษาอังกฤษที่ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2533 โดยมีบทเรียนเกี่ยวกับการออกเสียงและไวยากรณ์ที่ได้แบ่งเป็นหมวดหมู่ที่ชัดเจนและสะดวกสบายสำหรับการเรียนรู้ นอกจากนี้ เว็บไซต์เรียนภาษาอังกฤษนี้ยังมีหมวดการทายปริศนาและเกมที่น่าสนใจที่ช่วยให้คุณทบทวนความรู้ได้ทุกวันอีกด้วย
American English Pronunciation Practice
Website: https://pronuncian.com/
ตามชื่อที่เรียกเลย นี่คือเว็บไซต์ที่คุณสามารถเรียนรู้และฝึกการออกเสียงภาษาอังกฤษสำเนียงอเมริกันได้ ทั้งนี้ แบบฝึกหัดบนเว็บไซต์ American English Pronunciation Pratice อยู่ในรูปแบบการออกเสียง ซึ่งจะช่วยให้คุณเข้าใจการออกเสียงได้ดีขึ้นและเลียนแบบได้ง่ายด้วย
ESLvideo
Website: https://www.eslvideo.com/
ESLvideo เป็นเว็บไซต์ฝึกภาษาอังกฤษผ่านวิดีโอที่มีแบบฝึกหัดแบ่งเป็นระดับต่างๆ นี่คือเว็บไซต์ที่ดีที่คุณสามารถฝึกฝนและพัฒนาทักษะการพูดรวมถึงการสื่อสารภาษาอังกฤษได้อย่างยอดเยี่ยม
วิดีโอของ ESL ได้รวบรวมมาจากมิวสิควิดีโอเพลง ภาพยนตร์ รายการทีวี เป็นต้น ช่วยให้ผู้เรียนมีแหล่งข้อมูลที่หลากหลายและคุ้นเคยกับระดับการพูดของเจ้าของภาษาอย่างรวดเร็ว
6 เว็บไซต์เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ ฝึกการฟังอย่างมีประสิทธิภาพ
BBC Learning English
Website: https://www.bbc.co.uk/learningenglish
เฟสบุ๊ค: https://www.facebook.com/bbclearningenglish.multimedia/
BBC Learning English เป็นเว็บไซต์เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ฟรีที่ได้ก่อตั้งในปี 2486 โดยมีบทเรียนเกี่ยวกับคำศัพท์และไวยากรณ์ที่ได้แบ่งตามระดับและหัวข้อเฉพาะ นี่เป็นเว็บไซต์ที่มีชื่อเสียงที่ช่วยให้คุณพัฒนาระดับภาษาอังกฤษได้อย่างง่ายดายผ่านบทเรียนเกี่ยวกับคำศัพท์และไวยากรณ์
วิธีเรียนภาษาอังกฤษบน BBC Learning English มีกี่วิธี? เว็บ BBC Learning English มีโครงสร้างทั้งหมด 2 ส่วนอย่างชัดเจน ดังนี้
ส่วนที่ 1: Courses
คอร์สเรียนจะแบ่งออกเป็น 6 ระดับ ตั้งแต่ระดับพื้นฐานจนถึงระดับสูง ซึ่งแต่ละคอร์สเรียนจะมี 3 ส่วนดังนี้
- Sessions
- Vocabulary reference
- Grammar reference
คำศัพท์ที่ระบุในส่วน Session จะอธิบายในส่วน Vocabulary และโครงสร้างไวยากรณ์เฉพาะจะอธิบายในในส่วน Grammar ดังนั้น คุณจะสามารถบทเรียนในภาษาอังกฤษทั้งหมดได้อย่างง่ายดาย
ส่วนที่ 2: Features
ในส่วนนี้ประกอบด้วยบทเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ที่มีหัวข้อความรู้ต่างๆ ที่หลากหลาย
- English at University/English at Work/6 Minute English/Drama: มีบทเรียนมากมายในหัวข้อต่างๆ และในแต่ละบทเรียนจะรวมถึง วิดีโอ ความรู้เกี่ยวกับไวยากรณ์ – คำศัพท์ และแผ่นเสียง
- News Report: มีวิดีโอและแนะนำวิธีเรียนภาษาอังกฤษอย่างละเอียดตามขั้นตอน
- Pronunciation: มีวิดีโอแนะนำวิธีการออกเสียงในแต่ละพยางค์
- Words in the News: มีวิดีโอข่าว แผ่นเสียง คำศัพท์ แบบฝึกหัดและคำตอบเพื่อเปรียบเทียบกับแบบฝึดหัด
- The English We Speak: การฝึกภาษาอังกฤษเชิงปฏิบัติ
VOA Learning English (Voice of America)
Website: https://learningenglish.voanews.com/
Voice of America เป็นสื่อกระจายข่าวมัลติมีเดียที่ได้รับการสนับสนุนและออกอากาศโดยรัฐบาลสหรัฐฯ นี่เป็นเว็บที่สนับสนุนการเรียนภาษาอังกฤษแบบอเมริกันและเนื้อหาของเว็บนี้มุ่งเน้นไปที่วัฒนธรรมของสหรัฐฯ สำหรับคนที่เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์อยู่แล้วเว็บไซต์นี้ถือเป็นเว็บไซต์ที่ดีมาก
ดังนั้น Voice of America คุณจะสามารถอัปเดตข่าวสารและฝึกฟังภาษาอังกฤษได้อย่างยอดเยี่ยม เพราะหัวข้อข่าวมีประเด็นที่หลากหลาย วิดีโอพร้อมคำบรรยายในระดับช้า และเหมาะกับคนที่กำลังเริ่มเรียนภาษาอังกฤษ
แล้วเราจะเรียนรู้ด้วยตัวเองอย่างไรให้มีประสิทธิภาพ? จะเห็นว่าเว็บไซต์มี 3 ส่วนหลักดังนี้
ส่วนที่ 1: สถานการณ์ปัจจุบัน
VOA Learning English สร้างรายการวิทยุ 2 รายการมีชื่อว่า “Learning English Broadcast” และ “Learning English TV” เนื้อหาทั้งสองรายการนี้ได้รับการอัปเดตอย่างต่อเนื่องและเข้าใจได้ง่าย หากคุณสนใจ คุณสามารถดาวน์โหลดเพื่อฝึกฟังทุก ๆ วันได้
ส่วนที่ 2: คำศัพท์
นอกจากนำเสนอข่าวประจำวันแล้ว รายการ “This is America” ยังมีคำศัพท์ในแต่ละช่วงของรายการอีกด้วย คุณสามารถอ่าน ฟัง หรือดาวน์โหลดเพื่อฝึกได้ฟังทุกวัน
รายการ “Words and Their Stories” เป็นพอดแคสต์ที่เน้นคำศัพท์แต่ละคำหรือประเภทของคำ
แต่ละตอนในรายการ “English in a Minute” มีความยาว 1 นาทีพอดี ซึ่งจะเน้นที่วลี หรือการแสดงออกในภาษาอังกฤษ
ส่วนที่ 3: การฟัง
ในเว็บเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์นี้ นอกจากจะมีทั้งพอดแคสต์และวิดีโอแล้ว นยังมีรายการอื่นๆ อีกมากมายที่กล่าวถึงหัวข้อพิเศษ เช่น
- “In the News” và “As It Is”: นำเสนอข่าวสารในรูปแบบชัดเจนและเข้าใจง่าย
- “American Mosaic”: พูดคุยเกี่ยวกับวัฒนธรรม ดนตรี และชีวิตในสหรัฐฯ
- “The Making of a Nation”: พูดคุยเกี่ยวกับประวัติศาสตร์และกระบวนการพัฒนาทั้งในอดีตและปัจจุบัน
- “Science in the News”: พูดคุยเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์สมัยใหม่
Ello.org
Website: http://elllo.org/
Ello.org เป็นเว็บไซต์เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์เพื่อฝึกการฟังก่อตั้ง เมื่อปี พ.ศ. 2546 โดยครูสอนภาษาอังกฤษในประเทศญี่ปุ่น เว็บนี้มีบทเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ฟรีมากกว่า 2,500 บท โดยมีหัวข้อต่างๆ มากมายให้คุณเลือก
หลังจากใช้เวลานานกว่า 13 ปีในการพัฒนา และได้รับความช่วยเหลือจากอาจารย์หลายคนทั่วโลก Elllo ได้สร้างระบบหัวข้อการเรียนรู้ที่หลากหลาย จึงทำให้เว็บไซต์นี้มีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับคนที่ต้องการฝึกการฟังภาษาอังกฤษ
นอกจากนี้ในแต่ละบทเรียนของ Ello จะเป็นบทเรียนสั้นๆ เพียงประมาณ 5 นาทีเท่านั้น ซึ่งจะช่วยให้คุณฝึกการฟังได้อย่างง่ายๆในทุกที่ทุกเวลา
ขั้นตอนการเรียนภาษาอังกฤษพื้นฐานออนไลน์บนเว็บ Ello มีง่ายๆ ดังนี้
ขั้นตอนที่ 1: ฟังแผ่นเสียง/วิดีโอ 1 ครั้ง ฟังอย่างคร่าวๆ พร้อมกับอ่านเนื้อหาของแผ่นเสียง/วิดีโอ เพื่อเดาเนื้อหาที่กล่าวถึงในบทเรียน
ขั้นตอนที่ 2: อ่านสคริปต์/แผ่นเสียง/วิดีโอ แล้วเดาเนื้อหาหลักของบทเรียน เดาความหมายของประโยคและความหมายของคำศัพท์ใหม่ที่เป็นตัวหนาสีน้ำเงินและเป็นตัวเอียง หมายถึง
- สำหรับแผ่นเสียง โปรดอ่านคำศัพท์ เพื่อจะได้รู้วิธีการออกเสียง และเข้าใจความหมายของคำที่ได้กล่าวถึงในบทเรียนและจดจำคำศัพท์นั้นได้อย่างง่ายขึ้น
- สำหรับวิดีโอ คุณต้องค้นหาคำศัพท์ในพจนานุกรมด้วยตัวเอง เพื่อเรียนรู้วิธีการออกเสียงและความหมายของคำศัพท์
ขั้นตอนที่ 3: ฟังแผ่นเสียง/วิดีโออย่างน้อยอีก 3 ครั้ง
- ครั้งที่ 1: เปิดแผ่นเสียง/วิดีโอตั้งแต่ต้นจนจบ ห้ามกดหยุดชั่วคราวโดยเด็ดขาด ในขณะเดียวกัน ใช้ปากกาและกระดาษบันทึกสิ่งที่คุณได้ยินลงไป
- ครั้งที่ 2: ฟังอีกครั้ง ฟังอย่างช้าๆและกดหยุดชั่วคราวหลังจบประโยค เพื่อบันทึกคำศัพท์ที่คุณไม่ได้ยินในครั้งที่ 1 หากคุณต้องการฟังอีกครั้งก็สามารถย้อนกลับไปฟังได้ ขั้นตอนนี้จะเป็นการฟังที่ใช้เวลามากที่สุดและต้องใช้ความขยันในการฟังไม่น้อย
- ครั้งที่ 3: ฟังแต่ละประโยค แล้วเปรียบเทียบกับเสียงที่คุณบันทึก จากนั้นเลียนแบบการออกเเสียงในแต่ละประโยค
American Stories for English Learners
Website: http://www.manythings.org/voa/stories/
American Stories for English Learners เป็นเว็บเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ที่มีเนื้อหาหลักเป็นเรื่องราวต่างๆ เกี่ยวกับสหรัฐฯ นี่คือเว็บที่เหมาะสมสำหรับฝึกการฟังภาษาอังกฤษ เพราะเรื่องราวที่ได้กล่าวถึงในเว็บนี้อยู่ในรูปแบบ MP3 และมาพร้อมกับสคริปต์
หากความสามารถในการฟังภาษาอังกฤษของคุณยังไม่ดีนักก็ไม่ต้องกังวล เพราะ American Stories for English Learner สามารถปรับความเร็วให้เหมาะกับระดับของคุณได้
Youtube
การใช้ประโยชน์จาก Youtube เป็นช่องทางเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ที่มีประสิทธิภาพและเป็นตัวเลือกของใครหลายๆคน คุณจะพบช่องทางเรียนมากมายที่แบ่งปันบทเรียนภาษาอังกฤษในหัวข้อและระดับต่างๆ ได้ง่าย สิ่งที่คุณต้องทำคือค้นหาและเลือกรายการเรียนที่เหมาะสมสำหรับฝึกฝนให้กับตัวเองมากที่สุด
TED Talks
หากต้องการพัฒนาทักษะการฟังผ่านการกล่าวสุนทรพจน์ที่น่าสนใจTED คงเป็นเว็บไซต์ที่เหมาะสมสำหรับคุณ แต่ละวิดีโอใน TED มักจะมีความยาวประมาณ 20 นาทีและมีหัวข้อต่างๆ มากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง วิดีโอทั้งหมดของ TED จะมีคำบรรยายภาษอังกฤษและภาษาไทย ดังนั้นคุณจะเข้าใจเนื้อหาของสุนทรพจน์ได้ง่ายรวมถึงสามารถเรียนโครงสร้างไวยากรณ์และคำศัพท์ที่มีประโยชน์อีกมากมาย ทั้งนี้ คุณเริ่มเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์กับ TED Talk ผ่านวิดีโอชื่อดัง 3 รายการดังนี้
- Do schools kill creativity?
นี่เป็นสุนทรพจน์ของที่ปรึกษาระดับนานาชาติด้านการศึกษา เซอร์เคน โรบินสัน ซึ่งท่านแนะนำว่าเราควรสร้างระบบการศึกษาที่กระตุ้นและบ่มเพาะความคิดที่สร้างสรรค์ นี่เป็นหนึ่งในวิดีโอมีเนื้อหาที่ลึกซึ้ง น่าสนใจ และกล่าวถึงปัญหาที่แท้จริงและวิธีแก้ปัญหาเหล่านั้น
- Your body language may shape who you are
ในวิดีโอนี้ นักจิตวิทยาสังคม เอมี่ คัดดี้ อธิบายถึงความสำคัญของภาษากาย นอกจากฝึกฟังและฝึกการตอบสนองภาษาอังกฤษแล้ว คุณยังได้เรียนวิธีสร้างความมั่นใจมากขึ้นต่อหน้าผู้คนผ่านท่ายืนบางท่าได้ด้วย
- How great leaders inspire action
ในวิดีโอนี้ นักวิทยากร ไซมอน ซิเน็ค ได้ชี้ถึงวิธีที่ผู้นำที่ยิ่งใหญ่สร้างแรงบันดาลใจให้กับคนรอบข้าง ท่านเชื่อว่าแรงบันดาลใจเกิดจากความศรัทธาและการแบ่งปันให้กับคนอื่น
เข้าถึงและเรียนภาษาอังกฤษกับ TED ที่นี่: https://www.ted.com/
3 เว็บไซต์เรียนภาษาอังกฤษฟรี ช่วยฝึกไวยากรณ์และคำศัพท์
Duolingo
Website: https://www.duolingo.com/
Duolingo เป็นเว็บไซต์เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ชื่อดังและมีคุณภาพ สามารถใช้สำหรับการฝึกการพูดภาษาอังกฤษ เว็บไซต์นี้มีการเชื่อมต่อที่สะดุดตา มีรูปภาพชัดเจนที่ช่วยให้ใช้งานได้อย่างง่ายดาย บทเรียนถูกออกแบบที่ไม่ยากเกินไป แต่ก็ต้องมีความขยันและความอดทนในการเรียนรู้สำหรับฝึกทักษะต่างๆ ทั้งการฟัง การพูด การเขียนคำศัพท์ ประโยค โครงสร้างไวยากรณ์ ให้ครบถ้วน นอกจากนี้ Duolingo ยังจำแนกบทเรียนตามระดับตั้งแต่ระดับพื้นฐานจนถึงระดับสูง พร้อมหัวข้อที่หลากหลายและคุณจะได้รับการแจ้งเตือนเข้าเรียนผ่านอีเมลเป็นประจำทุกวัน
วิธีเรียนในแต่ละบทเรียน มีดังนี้
- อ่าน – เรียนไวยากรณ์และข้อสังเกตอย่างรอบคอบ
- จากนั้นคลิกส่วน เริ่มต้น เพื่อเริ่มบทเรียน
ประโยคในบทเรียนได้ออกแบบตามรูปแบบที่หลากหลายเพื่อพัฒนาทักษะด้านคำศัพท์ – การฟัง – ไวยากรณ์ เป็นต้น
ความก้าวหน้าในการเรียนรู้ของคุณจะถูกบันทึกไว้อย่างชัดเจนบนเว็บไซต์ เช่น บทเรียนใดที่คุณเรียนเสร็จแล้ว วันนี้คุณเข้าเรียนหรือยัง คะแนนและประสบการณ์ของคุณคือเท่าไหร่หลังจาก x วันที่เรียน เป็นต้น
สำหรับบทเรียนใหม่ คุณต้องเรียนตามลำดับบทเรียน โดยเมื่อเรียนบทเรียนนี้จบแล้วจะได้เรียนบทเรียนถัดไป สำหรับบทเรียนเก่าๆ คุณสามารถเรียนใหม่ในทุกเมื่อที่คุณต้องการ เพียงเท่านี้ คุณจะสามารถซึมซับคำศัพท์และไวยากรณ์ได้อย่างเป็นธรรมชาติที่สุด
Vocabulary.com
Website: https://www.vocabulary.com/
หากคุณกำลังหาเว็บไซต์เรียนคำศัพท์ภาษาอังกฤษฟรี Vocabulary.com คือเว็บไซต์ที่สมบูรณ์แบบสำหรับคุณ เว็บไซต์นี้มีแหล่งคำศัพท์ที่หลากหลายพร้อมหัวข้อต่างๆ มากมายที่ช่วยให้คุณเรียนคำศัพท์ภาษาอังกฤษได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด
Cambridge Dictionary
Website: https://dictionary.cambridge.org/
Cambridge Dictionary เป็นเว็บไซต์ชื่อดังที่คุณสามารถใช้เรียนคำศัพท์ได้ เพราะนี่คือพจนานุกรมที่สามารถค้นหาการถอดเสียงของคำศัพท์ แปลความหมาย และตรวจสอบไวยากรณ์ได้ ซึ่งสะดวกมากสำหรับผู้ที่เรียนภาษาอังกฤษด้วยตนเอง
4 เว็บไซต์เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ฟรี ช่วยฝึกการเขียนได้ดีที่สุด
Grammarly
Website: https://www.grammarly.com/
Grammarly เป็นเว็บไซต์ชั้นนำที่ช่วยให้คุณแก้ไขข้อผิดพลาดในการสะกดคำและโครงสร้างไวยากรณ์เมื่อเขียนภาษาอังกฤษ โดยมีการนำเสนอที่ใช้งานได้ง่าย นอกจากนี้ Grammarly ยังมีคุณสมบัติด้านการแปลและการเลือกสไตล์ให้เหมาะสมกับการใช้งานอีกด้วย ดังนั้น คุณไม่ต้องสับสนหรือกังวลเรื่องการสะกดคำผิดและการเขียนไวยากรณ์ในภาษาอังกฤษไม่ถูกต้อง เมื่อต้องการเขียนเรียงความหรือส่งอีเมลให้ลูกค้านั่นเอง
นอกจากนี้ Grammarly ยังมีคุณสมบัติด้านการแปลและการเลือกสไตล์ที่เหมาะกับจุดประสงค์ในการใช้ข้อความของทั้งนักเขียน นักเรียน นักวิทยาศาสตร์ นี่คือเหตุผลที่ว่าทำไม Grammarly เป็นเครื่องมือที่ดีที่สุดที่ได้ใช้ในการฝึกการเขียนภาษาอังกฤษ
- Grammarly Blog: รวมถึงบทเรียนดีๆ เกี่ยวกับความรู้ด้านไวยากรณ์ที่ไม่ควรพลาดเมื่อเขียนภาษาอังกฤษ
- Grammarly Handbook: สมุดบันทึกโครงสร้างไวยากรณ์ วิธีการเขียนประโยคและหมวด Improve Your Writing ที่มีประโยชน์อย่างมาก
- Grammarly Answer: เป็นที่แลกเปลี่ยนและตอบคำถามที่คุณสงสัย
Writeandimprove
Website: https://writeandimprove.com/
นี่เป็นเว็บเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ของเคมบริดจ์เชี่ยวชาญด้านการช่วยให้ผู้ใช้แก้ไขทักษะการเขียนภาษาอังกฤษ คุณสามารถอัปโหลดบทความขึ้นเว็บไซต์ แล้วรอประมาณ 1 ถึง 2 นาที เพื่อให้เครื่องตรวจสอบและให้คำแนะนำเกี่ยวกับการปรับปรุงบทความของคุณให้ดียิ่งขึ้น
เว็บเรียนการเขียนภาษาอังกฤษออนไลน์ “Write & Improve” เป็นเว็บไซต์ที่นำเสนอเนื้อหาที่เข้าใจได้ง่าย นี่คือสถานที่ที่ผู้เรียนสามารถนำความรู้ไปใช้และแก้ไขข้อผิดพลาดได้อย่างรวดเร็ว โดยที่เว็บจะชี้จุดที่ต้องแก้ไขในย่อหน้าให้คุณ แล้วเครื่องจะตรวจสอบข้อผิดพลาดในการสะกดคำ คำศัพท์ และไวยากรณ์อีกครั้ง นอกจากนี้ “Write & Improve” ยังบันทึกความก้าวหน้าของคุณและให้ข้อเสนอแนะเพื่อให้คุณสามารถปรับปรุงระดับของคุณได้
ในเว็บไซต์นี้ ผู้เรียนสามารถฝึกเขียนภาษาอังกฤษด้วยหัวข้อและระดับที่หลากหลาย และได้ออกแบบมาให้เหมาะสมกับทุกคน
HiNative
Website: https://hinative.com/
HiNative เป็นแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ออกแบบมาเพื่อสร้างชุมชนระดับโลก เพื่อช่วยให้ผู้คนเรียนรู้และพัฒนาทักษะภาษาต่างประเทศของตนเอง เมื่อใช้ Hinative ผู้ใช้สามารถตั้งคำถาม ขอความช่วยเหลือและรับคำตอบจากชุมชนผู้ใช้ทั่วโลกได้
Hinative มุ่งหวังที่จะสร้างสภาพแวดล้อมการเรียนรู้และการแลกเปลี่ยนข้อมูลเชิงบวก ทั้งนี้ ผู้ใช้สามารถตั้งคำถาม เกี่ยวกับโครงสร้างไวยากรณ์ คำศัพท์ การออกเสียง หรือคำตอบเกี่ยวกับรูปแบบและวัฒนธรรมของภาษาต่างๆ ชุมชน Hinative มีความหลากหลาย โดยมีส่วนร่วมจากผู้ใช้ที่มีระดับภาษาที่แตกต่างกัน ตั้งแต่ผู้เริ่มต้นจนถึงผู้เรียนขั้นสูง
Essay forum
Website: https://essayforum.com/
Essay Forum เป็นเว็บไซต์ที่คุณสามารถแลกเปลี่ยนบทเรียนของคุณและผู้เรียนอื่นๆได้ เมื่อเทียบกับเว็บเรียนภาษาอังกฤษอื่นๆ ข้อดีของ Essay Forum คือมีทีมสนับสนุนที่มีประสบการณ์ ซึ่งจะให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์แก่ผู้เรียนเพื่อพัฒนาทักษะของตนเอง
คุณภาพของบทเรียนใน Essay Forum ค่อนข้างเป็นทางการ ดังนั้นคุณต้องเตรียมบทเรียนมาให้เรียบร้อย
แม้ว่าการใช้งานจะไม่สะดุดตา แต่นี่จะเป็นเว็บที่เหมาะสมสำหรับนักแปลหรือผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเกี่ยวกับคำถามที่ซับซ้อน
5 เว็บไซต์เรียนภาษาอังกฤษฟรี รวม 4 ทักษะการฟัง การพูด การอ่าน และ การเขียน
Fun Easy English
Website: https://funeasyenglish.com/
Fun Easy English เป็นเว็บไซต์ที่ได้ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2546 และปัจจุบันนี้กำลังเป็นเว็บเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ฟรียอดนิยมสำหรับทั้งนักเรียนและอาจารย์ใน 211 ประเทศ ด้วยการใช้งานที่ง่ายและสะดุดตาจะช่วยให้คุณเรียนภาษาอังกฤษอย่างมีประสิทธิภาพและเต็มไปด้วยความสนุกสนานและความน่าสนใจ
ในครั้งแรกที่เข้าถึง Fun Easy English บางทีคุณอาจจะสับสนเนื่องจากเว็บไซต์มีข้อมูลมากมายที่สลับกับโฆษณา ดังนั้น คุณควรดู Site Map ของเว็บและอ่านข้อมูลที่ให้ไว้
ในเว็บนี้ มีประโยชน์ 2 ประการสำหรับผู้ที่เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ด้วยตนเองที่บ้าน ได้แก่ พจนานุกรม American English Dictionary และเนื้อหาภายในของ Fun Easy English LESSONS
Britishcouncil
Website: https://learnenglish.britishcouncil.org/
Britishcouncil เป็นเว็บไซต์เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ฟรีชื่อดังที่คุณไม่ควรพลาด ซึ่งเว็บนี้จะช่วยให้คุณฝึกฝนทั้ง 4 ทักษะ: การฟัง การพูด การอ่าน และการเขียน เว็บมีการใช้งานง่าย มีหัวข้อที่หลากหลายและเส้นทางการเรียนเหมาะสมกับระดับของแต่ละคน ซึ่งช่วยให้คุณพัฒนาทักษะของตัวเองได้อย่างง่ายดายในทุกวัน
Busuu
Website: https://www.busuu.com/
Busuu อนุญาตให้ผู้ใช้มีส่วนร่วมในแพลตฟอร์มภาษาอังกฤษและโต้ตอบกับสมาชิกทั่วโลก บนเว็บไซต์นี้ ผู้เรียนจะได้พัฒนาระดับภาษาอังกฤษอย่างครอบคลุมด้วยหลักสูตรอื่นๆ เกี่ยวกับทักษะการอ่าน ทักษะการเขียน ทักษะการพัฒนาคำศัพท์ เป็นต้น
Exam English
Website: https://www.examenglish.com/
Exam English จะมีแบบข้อสอบ TOEFL CPE KET และข้อสอบต่างๆ ที่ผู้เรียนภาษาอังกฤษต้องการ เว็บนี้ยังช่วยผู้เรียนตรวจสอบระดับภาษาของตัวเองในแต่ละทักษะเฉพาะ เช่น การฟัง การพูด การอ่าน การเขียน ทดสอบเรียงความและคำศัพท์ เป็นต้น
Free Daily Lessons
Website: https://www.oxfordonlineenglish.com/free-english-lessons-mobile
คุณจะได้เข้าร่วมชั้นเรียนออนไลน์ทุกวันและเรียนตามหลักสูตรที่เขียนไว้ล่วงหน้า ในแต่ละวันคุณจะได้เรียน 1 บทเรียน และใน 365 วัน คุณจะเรียน 365 บทที่แตกต่างกัน
แต่ละบทเรียนมี 2 ส่วนหลัก ดังนี้
- Video (มี sub) – พัฒนาทักษะการฟัง
- Video Script – พัฒนาคลังคำศัพท์
การเรียนรู้ตามรูปแบบของเว็บไซต์นี้ จะทำให้คุณพัฒนาความสามารถด้านภาษาอังกฤษของคุณอย่างครอบคลุม!
เนื้อหาการเรียนรู้อื่นๆ เช่น คำสแลง สำนวน คำศัพท์ เป็นต้น ถูกระบุไว้แบบการกระจายและน่าสนใจ ทำให้ผู้เรียนไม่รู้สึกเบื่อขณะเรียน
5 เว็บไซต์เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ที่สนทนากับชาวต่างชาติโดยตรง
How do you do
Website: https://howdoyou.do/
เว็บไซต์ที่โดดเด่นอีกเว็บหนึ่งที่ช่วยให้คุณแชทกับชาวต่างชาติได้ คือ How do you do เว็บนี้มีการใช้งานที่เรียบง่าย มีฟีเจอร์ครบครัน เช่น ข้อความ วิดีโอ หรือแชทด้วยเสียง ซึ่งช่วยให้คุณสามารถสื่อสารกับชาวต่างชาติได้อย่างรวดเร็วและง่ายดายที่สุด ซึ่งจะช่วยปรับปรุงทักษะการพูดและความเร็วในการตอบสนองตามธรรมชาติ นอกจากนี้ยังช่วยให้คุณรู้จักเพื่อนใหม่จากทั่วโลกอีกด้วย
Verbling
Website: https://www.verbling.com/
Verbling เป็นเว็บไซต์ฝึกการพูดภาษาอังกฤษกับชาวต่างชาติที่ได้รับการโหวตจากหนุ่มสาวจำนวนมาก โดยมีข้อดีหลายอย่าง เช่น ใช้งานฟรี ใช้งานง่ายและสามารถสื่อสารกับผู้คนได้ในหลายประเทศเพื่อพัฒนาทักษะการสื่อสาร นอกจากนี้คุณยังสามารถเข้าร่วมชั้นเรียนออนไลน์บน Google Hangouts ของเว็บ ซึ่งมีความหลากหลายและดึงดูดผู้ใช้จำนวนมาก
Livemocha
Livemocha อนุญาตให้ผู้ใช้สื่อสารกับเจ้าของภาษาได้โดยตรงเพื่อปรับปรุงทักษะภาษาอังกฤษ นี่เป็นเว็บไซต์ที่ดีสำหรับคนที่ต้องการเรียนภาษาอังกฤษโดยเฉพาะและสามารถเรียนภาษาต่างประเทศอื่นๆ ได้ ทั้งนี้ คุณยังสามารถสอนภาษาไทยให้กับเพื่อนของคุณได้อีกด้วย
Easy Language Exchange
Website: https://www.easylanguageexchange.com/
Easy Language Exchange เป็นชุมชนฟรีสำหรับผู้เรียนภาษา เว็บไซต์นี้อำนวยความสะดวกให้สมาชิกแลกเปลี่ยนภาษากันผ่านการสนทนาโดยตรงหรือส่งข้อความก็ได้
Conversation exchange
Website: https://www.conversationexchange.com/
เมื่อเปรียบเทียบกับแพลตฟอร์มอื่นๆ ข้อแตกต่างของ Conversation Exchange คือ เว็บนี้มีรูปแบบการสื่อสารมากมายเพื่อให้ผู้ใช้เลือก การสื่อสาร 3 รูปแบบที่เว็บไซต์นี้ให้บริการได้แก่ การแชทโดยตรง การแลกเปลี่ยนผ่านอีเมล หรือการแชทด้วยเสียง
ประโยชน์ของการเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์
ปัจจุบันนี้ ทักษะภาษาอังกฤษเป็นหนึ่งในทักษะที่จำเป็นที่สุดสำหรับนักเรียน นักศึกษาหรือคนทำงาน หากมีทักษะภาษาอังกฤษที่ดี คุณจะมีโอกาสในการพัฒนาการเรียนและการทำงานมากขึ้น สำหรับคนที่ไม่มีเวลามากนักหรือไม่ชอบที่จะออกไปข้างนออก การเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ถือเป็นวิธีเรียนที่มีประสิทธิภาพที่สุด โดยช่วยให้ผู้เรียนจัดเวลาเรียนที่เหมาะกับตัวเองและเรียนรู้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการได้
อีกอย่างหนึ่ง หากค่าเรียนเป็นสาเหตุที่ทำให้คุณไม่เรียนภาษาอังกฤษได้ การเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ฟรีถือเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับคุณ นอกจากนี้ ยังมีประโยชน์อื่นๆ มากมาย ดังนี้
- จัดเวลาเรียนตามความสะดวกของตัวเองและประหยัดค่าใช้จ่าย: แทนที่จะเรียนตามกรอบเวลาเรียนที่กำหนดในชั้นเรียนภาษาอังกฤษ คุณสามารถจัดเวลาเรียนด้วยตัวเองผ่านเว็บไซต์เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ฟรีได้
- เรียนได้ทุกที่ทุกเวลา: ปัจจุบันนี้ เพียงมีสมาร์ทโฟนและชุดหูฟัง คุณก็จะสามารถเรียนภาษาอังกฤษได้ทุกที่ทุกเวลา แผนการเรียนรู้ ทั้งการฝึกการฟัง การพูด การอ่านและการเขียนภาษาอังกฤษมีหลากหลายรูปแบบ เช่น วิดีโอ วิทยุ เป็นต้น และจะไม่น่าเบื่อเหมือนเนื้อหาในหนังสือแบบเดิมๆ
- แหล่งข้อมูลที่หลากหลาย: เว็บเรียนภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารออนไลน์ส่วนใหญ่จะช่วยให้ผู้เรียนเข้าถึงแหล่งข้อมูลฟรีที่น่าสนใจและสำคัญสำหรับการเรียนภาษาอังกฤษ ผู้เรียนสามารถเลือกแหล่งข้อมูลเกี่ยวกับทักษะการฟัง การพูด การอ่าน และการเขียนที่เหมาะสมกับตัวเองได้
- การเชื่อมต่อและการโต้ตอบที่ง่ายดาย: การเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ช่วยให้คุณเข้าถึง ทำความรู้จัก และสื่อสารกับเพื่อน ๆ ทั่วโลกได้อย่างง่ายดายได้ทุกที่ทุกเวลา
เคล็ดลับการเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์อย่างมีประสิทธิภาพ
ปัจจุบันมีแอปพลิเคชันเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์มากมายให้คุณเลือก สิ่งนี้สร้างโอกาสมากมายให้คุณเรียนภาษาอังกฤษได้ง่ายขึ้น แต่ก็เป็นอุปสรรคเช่นกันเพราะคุณจะไม่รู้ว่าแอปเรียนตัวไหนที่เหมาะกับคุณ ดังนั้น เพื่อเรียนภาษาอังกฤษได้อย่างมีประสิทธิภาพ คุณสามารถอ้างอิงแผนการเรียนภาษาอังกฤษและคำแนะนำด้านล่างนี้
- กำหนดระดับ: สิ่งแรกที่คุณต้องทำคือกำหนดระดับของคุณ นี่เป็นพื้นฐานสำคัญเพื่อให้คุณเลือกบทเรียนที่เหมาะสม และหลีกเลี่ยงการเริ่มต้นด้วยเนื้อหาที่ง่ายหรือยากเกินไปเพราะจะทำให้คุณน่าเบื่อและยอมแพ้
- เลือกรูปแบบการเรียนที่เหมาะสม: แต่ละคนจะมีความสามารถในการเรียนรู้และรูปแบบการเรียนรู้ที่แตกต่างกัน ดังนั้นคุณจึงสามารถใช้เวลาทดลองเพื่อเลือกวิธีการเรียนรู้ที่เหมาะสมที่สุดกับตัวเองเพื่อรักษาความสนใจในการเรียนได้ทุกวัน
- จัดลำดับความสำคัญในการเลือกหัวข้อที่คุณสนใจ/ชอบ: การเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์หมายความว่าคุณต้องเรียนด้วยตัวเอง ดังนั้น จัดลำดับความสำคัญโดยเริ่มจากหัวข้อที่คุณชอบจริงๆ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจและแรงจูงใจในการเรียนทุกวัน
- กำหนดตารางเรียน: เพื่อสร้างนิสัยและรักษาวินัยในการเรียน คุณควรจัดตารางเวลาเรียนในระหว่างวัน
- อย่าลืมฝึกฝน: ไม่ว่าคุณจะเรียนรู้ด้วยวิธีใดก็ตาม การฝึกฝนคือทางเลือกที่ดีที่สุดเพื่อจดจำทุกสิ่งได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
บทความข้างต้นได้รวบรวมเว็บไซต์เรียนภาษาอังกฤษกว่า 28+ แห่งที่จะช่วยให้คุณสามารถเรียนภาษาอังกฤษด้วยตนเองที่บ้านได้ เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ จะให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดหากคุณเลือกแอปพลิเคชัน/เว็บไซต์เรียนที่เหมาะสมกับระดับของคุณ นอกจากนี้ อย่าลืมสร้างวิธีการเรียนรู้ด้วยตนเองอย่างมีประสิทธิภาพและฝึกฝนการออกเสียงภาษาอังกฤษกับ ELSA Speak ทุกวัน เพื่อสื่อสารได้อย่างคล่องแคล่วเหมือนเจ้าของภาษากันนะ
รวบรวมประโยคฮีลใจ ภาษาอังกฤษที่ดีที่สุดในปัจจุบัน
ประโยคฮีลใจภาษาอังกฤษช่วยเยียวยาจิตใจที่บาดเจ็บและสร้างแรงบันดาลใจเชิงบวกให้กับทุกคน มารวบรวมประโยคดีๆ ประทับใจและมีความหมายลึกซึ้งกับ ELSA Speak ผ่านบทความด้านล่างนะ
ประโยคฮีลใจ ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับความรัก
ภาษาอังกฤษ | ภาษาไทย |
Love is something that finds you. | ความรักเป็นสิ่ที่จะตามหาคุณเอง |
Love has no age, no limit, and no death. | ความรักเป็นสิ่งที่ไม่มีอายุ ไม่มีขีดจำกัด และไม่มีวันตาย |
Life without love is like a tree without fruit. | ชีวิตที่ไม่มีความรักก็เหมือนต้นไม้ที่ไม่มีผล |
Happiness resides not in possessions, and not in gold, happiness dwells in the soul. | ความสุขไม่ได้อยู่ที่วัตถุ และไม่ได้อยู่ที่เงินทอง ความสุขมันอยู่ภายในจิตวิญญาณ |
A great love is not one who loves many, but one who loves one woman for life. | ความรักที่ยิ่งใหญ่ไม่ใช่การรักใครหลายคน แต่เป็นการรักคนๆ เดียวไปตลอดชีวิต |
To the world you may be one person, but to one person you may be the world. | สำหรับโลกใบนี้ คุณอาจเป็นแค่คนธรรมดา แต่สำหรับบางคน คุณอาจเป็นทั้งโลกก็ได้ |
There is only one happiness in this life, to love and be loved. | ในโลกนี้มีความสุขเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น นั่นก็คือ การได้รักและการถูกรัก |
Love isn’t something you find. Love is something that finds you. | ความรักไม่ใช่สิ่งที่คุณมองหา ความรักจะตามหาคุณ |
A flower cannot blossom without sunshine, and man cannot live without love. | ดอกไม้ไม่สามารถออกดอกได้หากไม่มีแสงอาทิตย์ เช่นเดียวกับที่ผู้คนไม่สามารถอยู่ได้หากไม่มีความรัก |
It was love at first sight, at last sight, at ever and ever sight. | มันคือรักแรกพบ ครั้งสุดท้าย และตลอดไป |
Immature love says: “ I love you because I need you”. Mature love says: “ I need you because I love you.” | ความรักที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะพูดว่า: “ฉันรักคุณเพราะฉันต้องการคุณ” ความรักแบบผู้ใหญ่พูดว่า: “ฉันต้องการคุณเพราะฉันรักคุณ” |
To love and be loved is to feel the sun from both sides. | การรักและการถูกรักเป็นความรู้สึกจากทั้งสองฝ่าย |
Love is the crowning grace of humanity, the holiest right of the soul, the golden link which binds us. | ความรักคือพระคุณอันสูงสุดของมนุษย์ สิทธิมนุษยชนอันศักดิ์สิทธิ์ที่สุด และเป็นด้ายสีทองที่รวมเราเป็นหนึ่งเดียวกัน |
Love’s greatest gift is its ability to make everything it touches sacred. | ของขวัญแห่งความรักที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือความสามารถในการทำให้ทุกสิ่งศักดิ์สิทธิ์ |
Let us always meet each other with smile, for the smile is the beginning of love. | ยิ้มเมื่อเจอกัน เพราะการยิ้มคือจุดเริ่มต้นของความรัก |
Love is when he gives you a piece of your soul, that you never knew was missing. | ความรักคือการที่เขามอบชิ้นส่วนจิตวิญญาณของเขาให้กับคุณโดยที่คุณไม่เคยคิดว่าคุณขาดไป |
Life is the flower for which love is the honey. | ชีวิตคือดอกไม้ที่ความรักคือน้ำผึ้ง |
We are born of love, love is our mother. | เราเกิดจากความรัก ความรักคือแม่ของเรา |
Sometimes the heart sees what is invisible to the eye. | บางทีหัวใจมองเห็นสิ่งที่สายตาไม่เห็น |
Love is when the other person’s happiness is more important than your own. | ความรักคือเมื่อความสุขของบุคคลนั้นสำคัญกว่าของคุณ |
I look at you and see the rest of my life in front of my eyes. | ผมมองคุณและเห็นชีวิตที่เหลือของผมต่อหน้าต่อตา |
You can’t blame gravity for falling in love. | คุณไม่สามารถตำหนิกฎแห่งแรงดึงดูดได้เมื่อคุณ “ตกหลุมรัก” ใครซักคน |
True love is eternal, infinite and always like itself. | ความรักแท้ย่อมเป็นนิรันดร์ ไม่มีที่สิ้นสุด และซื่อสัตย์ต่อธรรมชาติของมันเสมอ |
Love makes your soul crawl out from its hiding place. | ความรักทำให้จิตวิญญาณของคุณออกมาจากที่ซ่อนของมัน |
Love is friendship that has caught fire. It settles for less than perfection and makes allowances for human weaknesses. | ความรักคือมิตรภาพที่ลุกเป็นไฟและประสบความสำเร็จ มันไม่สมบูรณ์และยอมรับความอ่อนแอของมนุษย์ |
Love is like a beautiful flower which I may not touch, but whose fragrance makes the garden a place of delight just the same. | ความรักก็เหมือนดอกไม้ที่สวยงามที่ฉันไม่สามารถสัมผัสได้ แต่กลิ่นหอมของมันยังคงทำให้ทั้งสวนมีความสุข |
Being deeply loved by someone gives you strength, while loving someone deeply gives you courage. | การได้รับความรักอย่างสุดซึ้งจากใครสักคนจะทำให้คุณเข้มแข็ง และการรักใครสักคนอย่างลึกซึ้งจะทำให้คุณมีความกล้าหาญมากขึ้น |
I don’t know what my future holds, but I hope you are in it. | ผมไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร แต่ผมหวังว่าคุณจะอยู่ที่นั่น |
It only takes a second to say I love you, but it will take a lifetime to show you how much. | ใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาทีในการบอกว่าฉันรักคุณ แต่ต้องใช้เวลาทั้งชีวิตเพื่อแสดงให้คุณเห็นว่าฉันรักคุณมากแค่ไหน |
Are you a thief? Cause you stole my heart. | คุณเป็นขโมยใช่ไหม? เพราะคุณขโมยหัวใจของผมไป |
Do you know which side of my heart? It’s beside you. | รู้ไหมใจฉันอยู่ด้านไหน? มันอยู่กับคุณ |
I’m this fat because I have you in my heart. | อ้วนแบบนี้เพราะมีเธออยู่ในใจ |
Ask me why I’m so happy and I’ll give you a mirror. | ถามคุณว่าอะไรทำให้คุณมีความสุขมากขนาดนี้ แล้วคุณจะให้กระจกแก่ฉัน |
I’m not good at anything… except loving you. | ผมไม่เก่งอะไรเลย…ยกเว้นรักเธอ |
Did you hurt yourself… when you fell from the heavens? | คุณรู้สึกเจ็บไหม…ตอนตกลงมาจากสวรรค์ |
You remind me of my next girlfriend. | คุณทำให้ผมคิดถึงแฟนในอนาคตของผม |
Are you tired of keeping going in my mind? | คุณเหนื่อยไหมที่ติดอยู่ในใจฉัน |
I’m no organ donor, but I’d be happy to give you my heart. | ฉันไม่ได้ตั้งใจบริจาคอวัยวะ แต่ยินดีมอบหัวใจของฉันให้คุณ |
I love you without knowing how, why or even from where. | ผมรักเธออย่างไม่มีสาเหตุ ทำไมและมันมาจากไหน |
I love you not because of who you are, but because of who I am when I am with you. | ผมรักเธอไม่ใช่เพราะว่าเธอเป็นใคร แต่เพราะว่าผมเป็นใครเมื่อผมอยู่กับเธอ |
To the world you may be one person, but to one person you may be the world. | สำหรับโลกใบนี้ คุณอาจเป็นแค่ใครสักคน แต่สำหรับใครบางคน คุณคือโลกทั้งใบ |
There are many ways to be happy, but the fastest way is seeing you. | มีหลายวิธีที่จะทำให้มีความสุข แต่วิธีที่เร็วที่สุดคือการได้พบคุณ |
I used to think that dreams do not come true, but this quickly changed the moment I laid my eyes on you. | ฉันเคยคิดว่าความฝันจะไม่กลายเป็นความจริง แต่เมื่อฉันเห็นคุณมันก็เปลี่ยนไป |
I bet not even all the fireworks in the world can light up my world like you do. | ผมพนันได้เลยว่าดอกไม้ไฟทั้งหมดในโลกนี้ไม่สามารถทำให้โลกของผมสว่างไสวได้เหมือนที่คุณทำ |
If I could change the alphabet, I would put U and I together. | ถ้าฉันสามารถเปลี่ยนตัวอักษรได้ ฉันอยากจะวาง U และ I ไว้ข้างกัน |
It’s said that nothing lasts forever. Will you be my nothing? | ผู้คนยังคงพูดว่าไม่มีอะไรคงอยู่ตลอดไป คุณอยากเป็น ‘ไม่มีอะไร’ ของผมไหม |
Once I’m with you, nobody else matters. | เมื่อเธออยู่กับผม คนอื่นก็ไม่สำคัญอีกต่อไป |
Where there is love there is life. | ที่ไหนมีความรัก ที่นั้นมีชีวิต |
Love has no age, no limit; and no death. | ความรักไม่มีอายุ ไม่มีขีดจำกัด และไม่เคยตายจากไป |
Life without love is like a tree without blossoms or fruit. | ชีวิตที่ปราศจากความรักก็เหมือนกับต้นไม้ที่ไม่มีดอกหรือผล |
Try to be a rainbow in someone’s cloud. | ลองพยายามเป็นสายรุ้งบนท้องฟ้าที่มีเมฆของใครบางคน |
Happiness resides not in possessions, and not in gold, happiness dwells in the soul. | ความสุขไม่ได้อยู่ที่ทรัพย์สินเงิน แต่มีอยู่ในจิตวิญญาณ |
Love is composed of a single soul inhabiting two bodies. | ความรักคือจิตวิญญาณดวงเดียวที่อาศัยอยู่ในสองร่าง |
If you live to be a hundred, I want to live to be a hundred minus one day so I never have to live without you. | ถ้าคุณมีชีวิตอยู่ถึง 100 ปี ฉันก็อยากมีชีวิตอยู่ถึง 100 ปี ลบสักวันหนึ่ง เพื่อที่ฉันจะได้ไม่ต้องอยู่โดยไม่มีคุณ |
A kiss is a lovely trick designed by nature to stop speech when words become superfluous. | การจูบเป็นสิ่งน่ารักที่ธรรมชาติออกแบบไว้เพื่อหยุดการสนทนาเมื่อคำพูดกลายเป็นเรื่องซ้ำซ้อน |
No man or woman is worth your tears, and the one who is, won’t make you cry. | ไม่มีใครสมควรได้รับน้ำตาของคุณ คนที่สมควรได้รับมัน จะไม่ปล่อยให้คุณร้องไห้อย่างแน่นอน |
There is only one happiness in this life, to love and be loved. | ความสุขในชีวิตนี้มีเพียงสิ่งเดียวเท่านั้น นั่นก็คือการรักและการถูกรัก |
>>> Read more:
- 100+ คําให้กําลังใจ ภาษาอังกฤษ สั้นๆ ช่วยให้คุณรู้สึกมองโลกในแง่ดีมากขึ้น
- คําคมภาษาอังกฤษ ความรักที่สกเศร้า
ประโยคฮีลใจ ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับครอบครัว
ภาษาอังกฤษ | ภาษาไทย |
The world doesn’t love you like your family loves you. | โลกใบนี้จะไม่รักเราเหมือนที่ครอบครัวเรารักเรา |
Son, there are times when a man has to do things he doesn’t like to do, in order to protect his family. | ลูกเอ๋ย มีหลายครั้งที่ผู้ชายต้องทำสิ่งที่ไม่ชอบ เพื่อปกป้องครอบครัวของเขา |
You don’t choose your family. They are God’s gift to you, as you are to them. | คุณไม่สามารถเลือกครอบครัวของคุณได้ พวกเขาเป็นของขวัญที่พระเจ้ามอบให้คุณ เช่นเดียวกับที่คุณเป็นของขวัญที่พระเจ้ามอบให้พวกเขา |
When everything goes to hell, the people who stand by you without flinching – they are your family. | เมื่อทุกสิ่งกลายเป็นเรื่องเลวร้าย ผู้คนที่อยู่เคียงข้างคุณโดยไม่ลังเลคือครอบครัวของคุณ |
When you look at your life, the greatest happinesses are family happinesses. | เมื่อมองย้อนกลับไปในชีวิต คุณจะรู้ว่าความสุขที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือความสุขในครอบครัว |
Having somewhere to go is home. Having someone to love is family. Having both is a blessing. | บ้านคือสถานที่ที่จะกลับไป ครอบครัวคือสถานที่แห่งความรัก การมีทั้งสองอย่างถือเป็นพร |
A house can be built by brick, but a home must be built by heart. | บ้านสามารถสร้างด้วยอิฐได้ แต่ความอบอุ่นในบ้านต้องสร้างด้วยความรัก |
Family members are like branches on a tree, we all grow in different directions, yet our roots remain as one. | สมาชิกในครอบครัวก็เหมือนกิ่งก้านบนต้นไม้ เติบโตไปในทิศทางที่ต่างกันแต่รากยังคงเหมือนเดิม |
Family means no one gets left behind or forgotten. | ครอบครัวหมายถึงไม่มีใครถูกทิ้งไว้ข้างหลังหรือถูกลืม |
>>> Read more:
- สรุป 3,000 คำศัพท์เกี่ยวกับหัวข้อ ครอบครัวภาษาอังกฤษ
- คำอวยพรวันครบรอบ แต่งงาน ภาษาอังกฤษ 5 ปี สำหรับครอบครัว
ประโยคฮีลใจ ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับมิตรภาพ
ภาษาอังกฤษ | ภาษาไทย |
Two persons cannot long be friends if they cannot forgive each other’s little failings. | คนสองคนไม่สามารถเป็นเพื่อนระยะยาวได้หากพวกเขาไม่สามารถให้อภัยในความผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ ของกันและกันได้ |
Much of the vitality in a friendship lies in the honoring of differences, not simply in the enjoyment of similarities. | ความมั่นคงของมิตรภาพส่วนใหญ่อยู่ที่การเคารพความแตกต่าง ไม่ใช่แค่การแบ่งปันความคล้ายคลึงกันเท่านั้น |
Be slow to fall into friendship, but when thou art in, continue firm & constant. | จงค่อยๆผูกมิตรกับเพื่อน แต่เมื่อคุณสนิทแล้วจงมั่นคงและอย่าเปลี่ยนใจ |
Friendship without self interest is one of the rare and beautiful things in life. | มิตรภาพที่ไม่เห็นแก่ตัวถือเป็นหนึ่งสิ่งที่หายากและสวยงามในชีวิต |
Remember, the greatest gift is not found in a store nor under a tree, but in the hearts of true friends. | โปรดจำไว้ว่า ของขวัญที่ยิ่งใหญ่ที่สุดไม่สามารถพบได้ในร้านหรือใต้ต้นไม้ แต่อยู่ในจิตใจของเพื่อนแท้ |
To like and dislike the same things, that is indeed true friendship. | ความเกลียดและความรักในสิ่งเดียวกัน นั่นคือมิตรภาพ |
Friendship flourishes at the fountain of forgiveness. | มิตรภาพที่ดีต้องได้รับการให้อภัย |
Count your age by friends, not years. Count your life by smiles, not tears. | นับอายุของคุณด้วยจำนวนเพื่อน ไม่ใช่จำนวนปี นับชีวิตของคุณด้วยรอยยิ้ม ไม่ใช่น้ำตา |
Rare as is true love, true friendship is rarer. | ความรักนั้นหายาก แต่มิตรภาพหายากยิ่งกว่า |
Don’t walk in front of me, I may not follow. Don’t walk behind me, I may not lead. Just walk beside me and be my friend. | อย่าเดินนำหน้าฉันเพราะฉันอาจไม่ตาม อย่าเดินตามหลังฉันเพราะฉันอาจไม่เป็นผู้นำทาง มาเดินเคียงข้างฉันและเป็นเพื่อนฉัน |
Friendship doubles are your joys, and divides your sorrows. | มิตรภาพเพิ่มความสุขเป็นสองเท่าและแบ่งปันความเศร้า |
Good friends are hard to find, harder to leave, and impossible to forget. | การมีเพื่อนที่ดีนั้นหาได้ยาการจากลาก็ยากและอาจไม่ลืมได้ |
Prosperity makes friends and adversity tries them. | ความรวยสร้างมิตรภาพและความยากจนทดสอบหัวใจของพวกเขา |
The best preparation for tomorrow is doing your best today. | การเตรียมตัวที่ดีที่สุดสำหรับอนาคตคือการทำวันนี้ให้ดีที่สุด |
It’s really amazing when two strangers become the best friends, but it’s really sad when the best of friends become two strangers. | มันวิเศษมากเมื่อคนแปลกหน้าสองคนกลายเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน แต่ก็น่าเศร้าเมื่อเพื่อนที่ดีสองคนกลายเป็นคนแปลกหน้าต่อกัน |
There is nothing on this earth more to be prized than true friendship. | ไม่มีอะไรในโลกที่ยิ่งใหญ่กว่ามิตรภาพที่แท้จริง |
Friendship is not something you learn in school. But if you haven’t learned the meaning of friendship, you really haven’t learned everything. | มิตรภาพไม่ใช่สิ่งที่คุณเรียนรู้ในโรงเรียนได้ แต่ถ้าคุณไม่รู้ความหมายของมันคุณก็จะไม่ได้เรียนรู้อะไรเลย |
Friends show their love in times of trouble, not in happiness. | เพื่อนแสดงความรักในเวลาที่เราลำบากและไม่มีความสุข |
Two persons cannot long be friends if they cannot forgive each other’s little failings. | คนสองคนไม่สามารถเป็นเพื่อนในระยะยาวได้หากพวกเขาไม่สามารถให้อภัยข้อบกพร่องเล็กๆ น้อยๆ ของกันและกันได้ |
If all my friends jumped off a bridge, I wouldn’t follow, I’d be the one at the bottom to catch them when they fall. | ถ้าเพื่อนๆ ของฉันกระโดดลงจากสะพานทั้งหมด ฉันคงไม่ทำแบบเดียวกัน ฉันจะเป็นคนข้างล่างและคอยรับไว้เมื่อพวกเขาตกลงมา |
I had three chairs in my house, one for solitude, two for friendship, three for society. | ฉันมีเก้าอี้ 3 ตัวในบ้าน ตัวที่ 1 สำหรับความสันโดษ ตัวที่ 2 สำหรับมิตรภาพ และตัวที่ 3 สำหรับสมาคม |
Friendship is the only cement that will ever hold the world together. | มิตรภาพเป็นเพียงซีเมนต์ที่ยึดโลกไว้ด้วยกัน |
Friendship is the purest love. | มิตรภาพคือความรักที่บริสุทธิ์ที่สุด |
Wishing to be friends is quick work, but friendship is a slow ripening fruit. | ความปรารถนาที่จะเป็นเพื่อนกันนั้นเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่มิตรภาพนั้นเป็นผลไม้ที่สุกช้า |
A day without a friend is like a pot without a single drop of honey left inside. | หนึ่งวันที่ไม่มีเพื่อน ก็เหมือนขวดโหลที่ไม่มีน้ำผึ้งสักหยดอยู่ข้างใน |
A snowball in the face is surely the perfect beginning to a lasting friendship. | ก้อนหิมะบนใบหน้าเป็นการเริ่มต้นที่สมบูรณ์แบบสำหรับมิตรภาพที่ยั่งยืน |
Be slow to fall into friendship, but when thou art in, continue firm & constant. | จงผูกมิตรอย่างช้าๆ แต่เมื่อคุณใกล้ชิดพวกเขาแล้ว จงมั่นคงต่อไปและไม่เปลี่ยนแปลง |
Constant use had not worn ragged the fabric of their friendship. | การใช้ต่อเนื่องไม่อาจฉีกสายใยแห่งมิตรภาพได้ |
Every friendship travels at sometime through the black valley of despair. This tests every aspect of your affection. | ในทุกๆ มิตรภาพจะต้องผ่านหุบเขาอันมืดมิดแห่งความสิ้นหวัง สิ่งนี้จะทดสอบทุกแง่มุมของมิตรภาพ |
Friendship is delicate as a glass, once broken it can be fixed but there will always be cracks. | มิตรภาพนั้นเปราะบางเหมือนแก้วแม้จะแตกสลายก็ซ่อมได้ แต่ย่อมมีรอยแตกร้าวอยู่เสมอ |
True friendship is like sound health, the value of it is seldom known until it be lost. | มิตรภาพที่จริงใจก็เหมือนกับสุขภาพ เมื่อคุณสูญเสียมันไป คุณจะรู้ถึงคุณค่าของมัน |
It is not so much our friends’ help that helps us as the confident knowledge that they will help us. | สิ่งที่เพื่อนทำเพื่อเราไม่ได้ช่วยเรามากเท่ากับความเชื่อมั่นว่าพวกเขาจะช่วยเราเมื่อเราต้องการ |
Friendship without self interest is one of the rare and beautiful things in life. | มิตรภาพที่ไม่เห็นแก่ตัวถือเป็นหนึ่งในสิ่งสวยงามและหายากในชีวิต |
If you cannot do great things, do small things in a great way. | หากคุณไม่สามารถทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ได้ จงทำสิ่งเล็กๆ ในแบบที่ยิ่งใหญ่ |
All our dreams can come true, if we have the courage to pursue them. | ความฝันทั้งหมดของเรากลายเป็นจริงได้ ถ้าเรามีความกล้าที่จะไล่ตามมัน |
>>> Read more: คำว่า เพื่อนภาษาอังกฤษแปลเป็นคำไหนได้บ้าง
ประโยคฮีลใจ ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับงาน
ภาษาอังกฤษ | ภาษาไทย |
Doing what you like is freedom. Liking what you do is happiness. | การทำสิ่งที่ชอบคืออิสรภาพ การชอบในสิ่งที่ทำคือความสุข |
When you like your work, everyday is a holiday. | เมื่อคุณรักงานของตัวเอง ทุกวันก็คือวันหยุด |
The woman who can create her own job is the woman who will win fame and fortune. | ผู้หญิงที่สามารถสร้างงานของตัวเองได้คือผู้หญิงที่มีทั้งชื่อเสียงและโชคลาภ |
Can anything be sadder than work left unfinished? Yes, work never began. | อะไรจะน่าเศร้าไปกว่างานที่ยังไม่เสร็จ ใช่ งานที่ไม่เคยเริ่มต้น |
Try to take advantage of every opportunity that comes your way. | พยายามใช้ทุกโอกาสที่เข้ามาให้เป็นประโยชน์ |
The only way to do great work is to love what you do. | วิธีเดียวที่จะทำงานที่ยอดเยี่ยมได้คือรักในสิ่งที่คุณทำ |
It does not matter how slowly you go as long as you do not stop. | ไม่สำคัญว่าคุณจะเดินช้าแค่ไหน ตราบใดที่คุณไม่หยุดเงิน |
ประโยคเยียวยาชีวิต ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับเวลา
ภาษาอังกฤษ | ภาษาไทย |
Life and time are the best teachers. Life teaches us to make good use of time and time teaches us the value of life. | ชีวิตและเวลาเป็นครูที่ดีที่สุด ชีวิตสอนให้เราใช้เวลาให้ดี และเวลาสอนเราถึงคุณค่าของชีวิต |
All we have to decide is what to do with the time that is given us. | สิ่งที่เราต้องทำก็แค่ตัดสินใจว่าจะทำอะไรกับเวลาที่เรามี |
Clocks slay time… time is dead as long as it is being clicked off by little wheels; only when the clock stops does time come to life. | นาฬิกาฆ่าเวลา… เวลาตายไปตราบเท่าที่ยังมีวงล้อเล็กๆ คอยเดินอยู่ เมื่อนาฬิกาหยุดเท่านั้นเวลาจึงมีชีวิตขึ้นมา |
Time granted does not necessarily coincide with time that can be most fully used. | เวลาว่างไม่จำเป็นต้องตรงกับเวลาที่ใช้อย่างเต็มที่ |
Time deals gently only with those who take it gently. | เวลาอ่อนโยนเฉพาะกับผู้ที่อ่อนโยนต่อมันเท่านั้น |
The clock talked loud. I threw it away, it scared me what it talked. | นาฬิกาพูดเสียงดัง ฉันโยนมันทิ้ง มันทำให้ฉันกลัวในสิ่งที่มันพูด |
ประโยคฮีลใจ ภาษาอังกฤษที่ดีที่ช่วยให้คุณรักตัวเอง
ประโยคภาษาอังกฤษเพื่อกระตุ้นและให้กำลังใจตัวเอง
ภาษาอังกฤษ | ภาษาไทย |
Don’t give up. / Never give up. | อย่ายอมแพ้ |
Be strong! / Stay strong! | เข้มแข็งไว้นะ! |
Keep going on. | พยายามต่อไป |
Keep fighting. | สู้ต่อไป |
Keep holding on. | ความอดทนเข้าไว้, อย่ายอมแพ้ |
Hang in there! | ทนไปอีกหน่อย, สู้ต่อไปอีกหน่อย |
Don’t give in to those kinds of thoughts. | อย่ายอมจำนนต่อความคิดเหล่านั้น |
You’re on the right track | เธอมาถูกทางแล้ว |
Give it a shot! | ลองดูซักตั้ง |
Keep your chin up! | เชิดหน้าเข้าไว้!, เริ่ด ๆ เชิด ๆ เข้าไว้ |
I support you. | ฉันสนับสนุนคุณนะ |
I’ve got your back. | ฉันจะคอยหนุนหลังให้เอง, ฉันจะระวังหลังให้เอง |
Don’t stop until you proud. | จงอย่าหยุดจนกว่าคุณจะภูมิใจ |
Say yes to new adventure. | ยอมรับและพร้อมไปกับการผจญภัยครั้งใหม่ |
Sometimes you have to be your own hero. | บางครั้งเราก็จำเป็นต้องเป็นฮีโร่ให้กับตัวเอง |
Storms make trees take deeper roots. | พายุมักจะทำให้รากต้นไม้หยั่งลึกขึ้น เปรียบเหมือนกับคนเราที่ยิ่งเจออุปสรรคถาโถมมากเท่าไหร่ก็ยิ่งทำให้เราเข้มแข็งมากขึ้น |
The greater your storm, The greater your rainbow. | ยิ่งพายุหนักเท่าไหร่ ยิ่งทำให้สายรุ้งที่เกิดหลังจากนั้นสดใสสวยงามมากยิ่งขึ้น |
Be the reason someone smiles today. | ลองเป็นเหตุผลในรอยยิ้มของใครสักคนดูสิ |
What goes around comes around. | ทำอะไรก็ได้อย่างนั้น |
The pain of yesterday is the strength of today. | ความเจ็บปวดของเมื่อวาน จะกลายเป็นความเข้มแข็งในวันนี้ |
Believe you can and you’re halfway there. | แค่เชื่อว่าคุณทำได้และนั่นก็เหมือนคุณมาครึ่งทางแล้ว |
I’ve got nothing to do today but smile. | วันนี้ฉันไม่มีอะไรต้องทำนอกจากยิ้ม |
There will be a light at the end of this tunnel. | จะมีแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ |
In the middle of difficulty lies opportunity. | ท่ามกลางความลำบากย่อมมีโอกาสอยู่ |
Try and fail, but don’t fail to try. | แม้ว่าจะพยายามแล้วล้มเหลว แต่อย่าพลาดที่จะลอง |
Don’t cry because it’s over, smile because it happened. | อย่าร้องไห้เพราะมันจบลง จงยิ้มเพราะมันได้เกิดขึ้นดีกว่า |
If “Plan A” didn’t work. The alphabet has 25 more letters! Stay cool. | ถ้า “แผนเอ” ไม่ได้ผล ยังมีตัวอักษรอีก 25 ตัว! ใจเย็นๆ เข้าไว้ |
Pain is inevitable. Suffering is optional. | ความเจ็บปวดเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ส่วนความทุกข์เป็นสิ่งที่เราเลือกได้ |
The best of healers is good cheer. | หมอที่ดีที่สุดคือกำลังใจที่ดี |
Life is better when you’re laughing. | ชีวิตดีขึ้นเมื่อคุณหัวเราะ |
Believe in yourself a little more. | เชื่อมั่นในตัวเองอีกนิดนะ |
Self-confidence is the best outfit. | ความมั่นใจในตัวเอง เป็นเสื้อผ้าที่ดีที่สุด |
Better days are on their way. | วันที่ดีกว่ากำลังจะมาถึง |
Make your life matter. | ทำชีวิตของคุณมีความหมาย |
Long live the strong. | คนเข้มแข็งจงเจริญ |
All I know is that I must fight on. | ที่ฉันรู้คือฉันต้องสู้ต่อไป |
Work today to be better tomorrow. | ทำงานวันนี้เพื่อวันพรุ่งนี้ที่ดีกว่า |
Something takes time. | บางสิ่งบางอย่างต้องใช้เวลา |
Self love is the best love. | การรักตัวเองคือความรักที่ดีที่สุด |
When you forgive, you heal. When you let go, you grow. | เมื่อคุณให้อภัยคุณจะรู้สึกดีขึ้น และเมื่อคุณปล่อยวางคุณจะเติบโตขึ้น |
Life is all about how we see things. | ชีวิตจะเป็นอย่างไรขึ้อยู่กับที่เราเลือมมอง |
If you get tried, learn to rest not to quit. | ถ้าคุณรู้สึกเหนื่อยจงเรียนรู้ที่จะพักแต่อย่าล้มเลิก |
Make it happen, Shock everyone. | ทำมันให้สำเร็จเอาให้ทุกคนหน้าหงายไปเลย |
Expect nothing, Appreciate everything. | จงอย่าคาดหวังกับอะไรแต่จงยินดีกับทุกๆ สิ่ง |
Life is like a roller coaster, Live it, Be happy, Enjoy life. | ชีวิตมันก็เหมือนกับรถไฟเหาะ ใช้ชีวิตให้มีความสุขและสนุกไปกับมันเถอะ |
Everything happen for a reason. | ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นมีเหตุผลของมัน |
Coffee in one hand, Confidence in the other. | มือหนึ่งถือกาแฟ ส่วนอีกมือจงถือความมั่นใจและลุยไปกับมัน |
Smile on, Chin up. | ยิ้มแล้วเชิดหน้าเข้าไว้ |
Don’t worry, be happy. | อย่ากังวลไปเลย มีความสุขดีกว่า! |
Nothing lasts forever. | ไม่มีอะไรยั่งยืนถาวรหรอก |
Focus on the good. | เลือกมองแต่สิ่งดีๆ |
Let life surprise you. | ปล่อยให้ชีวิตสร้างความประหลาดใจให้เรา |
Live in the moment. | อยู่กับปัจจุบัน |
Stop Thinking, Start doing. | หยุดคิดแล้วเริ่มลงมือทำ |
Pain is never permanent. | ความเจ็บปวดไม่คงอยู่ตลอดไป |
Be you, do you, for you. | เป็นตัวเราทำในแบบของเราเพื่อเราเอง |
Life happens, coffee helps. | ถ้าชีวิตมันเหนื่อย กาแฟดีๆ ช่วยได้ |
Life is too short to waste it. | ชีวิตมันสั้นใช้สอยอย่างประหยัด |
Be you, Not them. | เป็นตัวเราไม่ต้องเหมือนใคร |
Goals: Be happy. | เป้าหมายคือการมีความสุข |
Better late than never. | มาสายดีกว่าไม่มาเลย |
It’s not the end of the world. | มันไม่ใช่จุดจบของโลกหรอกนะ (อย่าคิดมากไปเลย) |
Shine on! | เปล่งประกายในแบบของเรา |
ประโยคภาษาอังกฤษเพื่อให้กำลังใจตัวเอง
ภาษาอังกฤษ | ภาษาไทย |
To live is to fight. | การมีชีวิตอยู่คือการต่อสู้ |
You cannot heal the world until you heal yourself. | คุณไม่สามารถรักษาบาดแผลของคนอื่นได้ จนกว่าคุณจะรักษาบาดแผลของตัวเอง |
The measure of life is not its duration but its donation. | มาตรวัดของชีวิตไม่ใช่เวลาแต่คือการอุทิศตน |
The healthy equals beautiful. | การมีสุขภาพแข็งแรงเท่ากับความสวยงาม |
Live each day as if it’s your last. | ใช้ชีวิตในแต่ละวันราวกับว่ามันเป็นวันสุดท้าย |
You may delay, but time will not. | คุณสามารถล่าช้าได้แต่เวลาไม่รอใคร |
Enjoy life! This is not a rehearsal. | ชีวิตไม่ใช่การซ้อม จงเพลิดเพลินกับมัน |
Lost time is never found again. | เวลาที่ผ่านไปแล้วไม่สามารถฟื้นคืนมาได้ |
Work hard, dream big. | ขยันทำงาน และมีฝันให้ยิ่งใหญ่ |
No pain, no gain. | ไม่ต้องผ่านความยากลำบากก็ไม่มีความสำเร็จ |
Life is short, live passionately. | ชีวิตมันสั้นจงใช้ชีวิตอย่างมีสติ |
If opportunity doesn’t knock, build a door. | หากโอกาสไม่มาเคาะประตู จงสร้างประตู |
The secret of success is getting started. | เคล็ดลับแห่งความสำเร็จคือการเริ่มทำ |
Everything you can imagine is real. | ทุกสิ่งที่คุณจินตนาการได้นั้นมีจริง |
Defeat is simply a signal to press onward. | ความล้มเหลวเป็นเพียงสัญญาณให้ก้าวไปข้างหน้า |
Life is a story. Make yours the best seller. | ชีวิตคือเรื่องราว ทำให้ชีวิตของคุณกลายเป็นสินค้าขายดีที่สุด |
Life always offers you a second chance. It’s called tomorrow. | ชีวิตให้คุณมีโอกาสครั้งที่สองเสมอ |
Where there is a will, there is a way. | ที่ใดมีเจตจำนง ที่นั่นย่อมมีหนทาง |
Genius is one percent inspiration and ninety-nine percent perspiration. | อัจฉริยะคือแรงบันดาลใจ 1 เปอร์เซ็นต์อีก 99 เปอร์เซ็นต์ที่เหลือคือการลงมือทำ |
On the way to success, there is no trace of lazy men. | บนเส้นทางสู่ความสำเร็จไม่มีรอยเท้าของคนเกียจคร้าน |
I can accept failure, everyone fails at something. But I can’t accept not trying. | ฉันยอมรับความล้มเหลวได้ ทุกคนสามารถล้มเหลวในบางสิ่งบางอย่าง แต่ฉันไม่ยอมรับการไม่พยายาม |
A winner never stops trying. | ผู้ชนะคือผู้ที่ไม่เคยหยุดพยายาม |
Nothing is too small to know, and nothing too big to attempt. | ไม่มีอะไรน้อยเกินไปที่จะเรียนรู้และไม่มีอะไรใหญ่เกินไปที่จะลองทำ |
Life doesn’t require that we be the best, only that we try our best. | ชีวิตไม่ได้ขอให้เราทำให้ดีที่สุด เราแค่ต้องพยายามทำให้ดีที่สุด |
Set your target and keep trying until you reach it. | ตั้งเป้าหมายและพยายามต่อไปจนกว่าคุณจะบรรลุเป้าหมาย |
We can’t insure success, but we can deserve it. | เราไม่สามารถรับรองได้ว่าจะประสบความสำเร็จ แต่เราสมควรทำมันให้สำเร็จ |
Don’t cry because it’s over, smile because it happened. | อย่าร้องไห้เพราะมันจบลง จงยิ้มเพราะมันได้เกิดขึ้นแล้ว |
You only live once, but if you do it right, once is enough. | คุณมีชีวิตเพียงครั้งเดียว แต่ถ้าคุณทำให้มันถูกต้องครั้งเดียวก็เพียงพอแล้ว |
In three words I can sum up everything I’ve learned about life: it goes on. | ฉันสามารถสรุปทุกสิ่งที่ฉันเรียนรู้ในชีวิตได้ 3 คำ : มันต้องดำเนินต่อไป |
To live is the rarest thing in the world. Most people exist, that is all. | การมีชีวิตอยู่เป็นสิ่งที่มีค่าที่สุดในโลก คนส่วนใหญ่มีชีวิตอยู่แค่นั้นเอง |
Insanity is doing the same thing, over and over again, but expecting different results. | ความวิกลจริตคือการทำสิ่งเดิมซ้ำแล้วซ้ำอีก แต่คาดหวังผลลัพธ์ที่แตกต่าง |
There are only 2 ways to live your life. One is as though nothing is a miracle. The other is as though everything is a miracle. | มีเพียงวิธีสองประการในการใช้ชีวิตของคุณ ประการแรกคือการดำเนินชีวิตราวกับว่าไม่มีปาฏิหาริย์ ประการที่สองคือการดำเนินชีวิตราวกับว่าทุกสิ่งคือปาฏิหาริย์ |
Good friends, good books, and a sleepy conscience: this is the ideal life. | เพื่อนที่ดี หนังสือดีๆ และจิตสำนึกที่ชัดเจน นั่นคือชีวิตในอุดมคติ |
Life is what happens to us while we are making other plans. | ชีวิตคือสิ่งที่เกิดขึ้นกับเราในขณะที่เรากำลังวางแผนอื่น |
I may not have gone where I intended to go, but I think I have ended up where I needed to be. | ฉันอาจจะไปไม่ถึงที่ที่ฉันตั้งใจจะไป แต่ฉันก็ได้อยู่ในที่ที่ฉันต้องไป |
Sometimes the questions are complicated and the answers are simple. | บางทีคำถามซับซ้อนแต่คำตอบง่ายมาก |
Today you are You, that is truer than true. There is no one alive who Youer than You. | วันนี้คุณก็ยังเป็นคุณ นั่นเป็นสิ่งที่ถูกต้องที่สุด ไม่มีใครสามารถเป็นตัวคุณได้ดีไปกว่าคุณได้ |
I’m not afraid of death, I just don’t want to be there when it happens. | ฉันไม่กลัวความตาย ฉันแค่ไม่อยากอยู่ที่นั่นเมื่อมันเกิดขึ้น |
Sometimes people are beautiful, not in looks, not in what they say, just in what they are. | บางครั้งความสวยของคนเราไม่ได้อยู่ที่รูปลักษณ์ ไม่ใช่ในสิ่งที่พูด แต่เป็นเพียงสิ่งที่พวกเขาเป็น |
Life is like riding a bicycle, to keep your balance, you must keep moving. | ชีวิตก็เหมือนกับการขี่จักรยาน เพื่อรักษาสมดุล ให้คุณต้องเคลื่อนที่ต่อไป |
Reality continues to ruin my life. | ความจริงยังคงทำลายชีวิตของฉันต่อไป |
Things change and friends leave. Life doesn’t stop for anybody. | สิ่งต่าง ๆ เปลี่ยนไปและเพื่อน ๆ ก็จากไป ชีวิตไม่เคยหยุดเพื่อใคร |
You should learn from your competitor, but never copy. Copy and you die. | คุณควรเรียนรู้จากคู่แข่งของคุณ แต่อย่าเลียนแบบพวกเขา ถ้าคอยเลียนแบบเขาคุณอาจจะตาย |
We are all in the gutter, but some of us are looking at the stars | เราทุกคนเดินในท่อระบายน้ำ แต่มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่มองเห็นดวงดาว |
Be who you are and say what you mean, because those who mind don’t matter and those who matter don’t mind. | เป็นตัวของตัวเองและพูดในสิ่งที่คุณอยากพูดเพราะคนที่รู้สึกเสียใจไม่มีความหมาย และคนที่มีความหมายจะไม่รู้สึกเสียใจ |
This too, shall pass! | ทุกสิ่งจะผ่านพ้นไป |
Keep your eyes on the stars and your feet on the ground. | หันไปมองดวงดาวและให้เท้าของคุณสัมผัสกับพื้น |
The only person you should try to be better than is the person you were yesterday. | คนที่คุณควรพยายามทำให้ดีกว่าเขาคือคนที่คุณเป็นเมื่อวานนี้ |
Life is not fair, get used to it. | ชีวิตไม่ยุติธรรม จงชินกับมันซะ |
Life is like a coin. You can spend it anyway you wish, but you only spend it once. | ชีวิตก็เหมือนเหรียญคุณสามารถใช้ได้ตามใจปรารถนา แต่คุณสามารถใช้มันได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น |
Today is hard, tomorrow will be worse but the day after tomorrow will be sunshine. | ถ้าหากวันนี้ยาก พรุ่งนี้จะแย่กว่า แต่มะรืนนี้จะมีแดดจัด |
Your voice can change the world | เสียงของคุณสามารถเปลี่ยนแปลงโลกได้ |
Keep your eyes on the stars and your feet on the ground. | หันไปมองดวงดาวและให้เท้าของคุณสัมผัสลงกับพื้น |
Be who you are and what you feel, because those who mind don’t matter, and those who matter don’t mind | เป็นตัวของตัวเองและพูดในสิ่งที่คุณรู้สึกได้เพราะไม่ต้องสนใจคนที่เข้ามาวุ่นวาย คนที่เห็นด้วยจะมองว่ามันไม่ใช่ปัญหา |
Don’t compromise yourself. | ไม่ต้องประนีประนอมกับตัวเองให้มากนัก |
Your future depends on many things, but mostly on you. | อนาคตของคุณขึ้นอยู่กับหลายสิ่งหลายอย่าง แต่ก็ขึ้นอยู่กับคุณเป็นหลัก |
Love yourself unconditionally, just as you love those closest to you despite their faults. | รักตัวเองอย่างไม่มีเงื่อนไข เช่นเดียวกับการรักคนใกล้ตัวแม้ว่าพวกเขาจะมีข้อบกพร่องก็ตาม |
Accept responsibility for your life. Know that it is you who will get you where you want to go, no one else. | รับผิดชอบต่อชีวิตของคุณ ต้องรู้ว่าตัวคุณเป็นคนที่พาตัวเองไปสู่จุดหมายปลายทางไม่ใช่คนอื่น |
To be yourself in a world that is constantly trying to make you something else is the greatest accomplishment. | การเป็นตัวของตัวเองในโลกที่พยายามเปลี่ยนคุณให้กลายเป็นคนอื่นคือความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่สุด |
Nothing in life is to be feared, it’s to be understood. Now is the time to understand more, so that we may fear less. | ชีวิตไม่ใช่สิ่งที่ต้องกลัว แต่เป็นสิ่งที่ต้องเข้าใจนี่คือเวลาที่เราเข้าใจชีวิตดีขึ้นเพื่อลดความกลัวลง |
Success always comes to those who dare to act and seldom comes close to those who are tô coward to take the consequences. | ความสำเร็จมักมาเยือนผู้ที่กล้าลงมือทำ แต่ไม่ค่อยมาเยือนคนขี้ขลาดที่ไม่กล้ายอมรับผลที่ตามมา |
Enjoy the little things in life for one day you’ll look back and realize they were the big things. | มีความสุขกับสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิต แล้ววันหนึ่งเมื่อมองย้อนกลับไปและตระหนักว่าสิ่งเหล่านั้นคือสิ่งที่ยิ่งใหญ่ |
When life gives you a hundred reasons to cry, show life that you have a thousand reasons to smile. | เมื่อชีวิตมีหลายสาเหตุที่ทำให้คุณร้องไห้ จงแสดงให้ชีวิตเห็นว่าคุณก็มีอีกหลายเหตุผลที่จะยิ้ม |
Don’t wait for the perfect moment, take the moment and make it perfect. | อย่ารอถึงช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยม จงทำให้ทุกช่วงเวลาสมบูรณ์แบบ |
People have different reasons for the way they live their life. You cannot put everyone’s reasons in the same box. | ทุกคนมีเหตุผลที่แตกต่างกันในการใช้ชีวิต คุณไม่สามารถกำหนดเหตุผลทั้งหมดเหล่านั้นอย่างเท่าเทียมกันได้ |
Don’t cry over the past, it’s gone. Don’t stress about the future, it hasn’t arrived. Live in the present and make it beautiful. | อย่าร้องไห้ให้กับอดีตที่ผ่านไป และอย่ากังวลกับอนาคตเพราะมันยังไม่เกิดขึ้น อยู่กับปัจจุบันและทำให้ทุกสิ่งที่มีความหมาย |
It’s better to cross the line and suffer the consequences than to just stare at the line for the rest of your life. | ก้าวข้ามขีดจำกัดและยอมรับผลที่ตามมา ดีกว่าแค่จ้องมองและไม่ทำอะไรเลยไปตลอดชีวิต |
Life is not about waiting for the storm to pass, it’s about learning to dance in the rain. | ชีวิตไม่ใช่การรอคอยให้เอาชนะความยากลำบาก แต่มันเป็นการที่คุณเรียนรู้วิธีเอาชนะความยากลำบากเหล่านั้นอย่างไร |
Stay hungry, stay foolish. | จงหิว จงโง่เขลา |
A person who never made a mistake never tried anything new. | คนที่ไม่เคยทำผิดจะไม่มีวันกล้าทำสิ่งใหม่ๆ |
The way to get started is to quit talking and begin doing. | วิธีเริ่มต้นคือการหยุดพูดถึงปัญหานั้นและเริ่มทำมัน |
Your time is limited, so don’t waste it living someone else’s life. | เวลามีจำกัด อย่าไปเสียเวลากับชีวิตของคนอื่น |
Success is most often achieved by those who don’t know that failure is inevitable. | ความสำเร็จจะมาเยือนผู้ที่รู้ว่าความยากลำบากเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ |
The two most important days in your life are the day you are born and the day you find out why. | สองวันที่สำคัญที่สุดของชีวิตคือวันที่คุณเกิด และวันที่คุณรู้ว่าคุณเกิดมาทำไม |
Believe that life is worth living and your belief will help create the fact. | เชื่อว่าชีวิตนี้มีค่าควรแก่การมีชีวิตอยู่ และความเชื่อนั้นจะสร้างความเป็นจริงขึ้นมา |
Life is what happens to us while we are making other plans. | ชีวิตคือสิ่งที่เกิดขึ้นกับเราในขณะที่วางแผนอื่น |
Difficulties in your life don’t come to destroy you, but to help you realize your hidden potential. | ความยากลำบากในชีวิตของคุณไม่ได้เข้ามาเพื่อเอาชนะคุณ แต่มาเพื่อช่วยให้คุณตระหนักถึงศักยภาพของตัวเอง |
If God brings you to it, he will bring you through it. | หากพระเจ้านำคุณมา พระองค์ก็จะทรงนำคุณให้ผ่านมันไปได้ |
God has a purpose for your pain, a reason for struggle and a gift for your faithfulness. Don’t give up. | พระเจ้าทรงจัดเตรียมทุกสิ่ง ทุกความเจ็บปวดมีเหตุผล ทุกความทุกข์มีสาเหตุ และความศรัทธาจะได้รับรางวัลเป็นของประทาน อย่ายอมแพ้ |
You only live once but you do it right once is enough. | เรามีชีวิตอยู่เพียงครั้งเดียวแต่ถ้าเราใช้ชีวิตอย่างถูกต้อง ครั้งเดียวก็เพียงพอแล้ว |
Your life is your message to the world. Make sure it’s inspiring. | ชีวิตของคุณคือข้อความที่คุณส่งมายังโลกนี้ มาเผยแพร่ข้อความเชิงบวกกันเถอะ |
Rise up, start fresh, see the bright opportunity in each new day. | จงเชิดหน้าขึ้น เริ่มต้นใหม่อีกครั้ง และลืมตาดูโอกาสที่อยู่ตรงหน้าคุณในทุกวันใหม่ |
Always end the day with a positive thought. No matter how hard things were, tomorrow’s a fresh opportunity to make it better. | สิ้นสุดวันด้วยความคิดเชิงบวกไม่ว่าเรื่องจะยากแค่ไหน พรุ่งนี้ก็เป็นโอกาสใหม่ในการทำสิ่งที่ดีกว่าเสมอ |
To be inspired is great, to inspire is incredible. | การได้รับแรงบันดาลใจเป็นสิ่งที่ดี และการสามารถสร้างแรงบันดาลใจได้ก็เป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยม |
Challenges are what make life interesting and overcoming them is what makes life meaningful. | ความท้าทายคือสิ่งที่ทำให้ชีวิตน่าสนใจ และการเอาชนะความท้าทายคือสิ่งที่ทำให้ชีวิตมีความหมาย |
Life is without meaning. You bring meaning to it. The meaning of life is whatever you ascribe it to be. Being alive is the meaning. | ชีวิตไม่มีความหมาย ความหมายของชีวิตอยู่ในตัวคุณ วาดด้วยมือของคุณเอง และการมีชีวิตอยู่เป็นสิ่งที่มีความหมายที่สุด |
To believe in immortality is one thing, but it is first needful to believe in life. | ก่อนที่จะเชื่อในความเป็นอมตะ สิ่งแรกที่ควรเชื่อคือเชื่อในชีวิต |
Just trust yourself, then you will know how to live. | ตราบใดที่คุณมีศรัทธาในตัวเอง คุณจะรู้ว่าต้องทำอะไรในชีวิต |
Whatever we are, whatever we make of ourselves, is all we will ever have and that, in its profound simplicity, is the meaning of life. | อะไรก็ตามที่เราเป็น สิ่งที่เราสร้างขึ้นและทุกอย่างที่เรามี โดยพื้นฐานแล้วมันคือความหมายของชีวิต |
Love is our true destiny. We do not find the meaning of life by ourselves alone we find it with another. | ความรักคือจุดมุ่งหมายที่แท้จริงสำหรับชีวิต เราไม่สามารถค้นหาความหมายของชีวิตได้หากไม่มีเนื้อคู่ |
Life is a fairy tale. Live it with wonder and amazement. | ชีวิตนี้คือเทพนิยาย ดังนั้นจงใช้ชีวิตด้วยความมหัศจรรย์และปาฏิหาริย์ |
Do not fear failure but rather than fear not trying. | ความล้มเหลวไม่ใช่เรื่องน่ากลัวเท่าการไม่พยายาม |
Life takes on meaning when you become motivated, set goals and charge after them in an unstoppable manner. | ชีวิตนี้จะมีความหมายเมื่อคุณมีกำลังใจ เป้าหมาย และความมุ่งมั่นที่จะไล่ตามมันไปให้ถึงที่สุด |
The first thing to do in life is to do with purpose what one purpose to do. | สิ่งแรกที่คุณต้องทำในชีวิตคือการทำตามเหตุผลซึ่งมีเพียงหนึ่งเหตุผลที่ทำมัน |
Everything in life is most fundamentally a gift. And you receive it best and you live it best by holding it with very open hands. | ทุกสิ่งในชีวิตคือของขวัญ หากคุณยอมรับ คุณจะได้รับของขวัญที่งดงามที่สุด |
To be what we are, and to become what we are capable of becoming, is only end of life. | จุดหมายเดียวในชีวิตคือการมีชีวิตอยู่อย่างแท้จริงและเป็นตัวเองในเวอร์ชันที่ดีที่สุด |
The meaning of life is not only to exist, to survive, but to move ahead, to go up, to achieve, to conquer. | เราอาศัยอยู่ในโลกนี้ไม่เพียงแต่เพื่อความอยู่รอดเท่านั้น แต่ยังเพื่อการเติบโต ความสำเร็จ และการพิชิตอีกด้วย |
The true meaning of life is to plant trees, under whose shade you do not expect to sit. | ความหมายที่แท้จริงของชีวิตคือการปลูกต้นไม้โดยไม่หวังที่จะนั่งพักผ่อนใต้ร่มไม้นั้น |
Doing what you love is the cornerstone of having abundance in your life. | การทำในสิ่งที่คุณรักเป็นรากฐานของการมีชีวิตที่มีความหมาย |
If your dreams do not scare you, they are not big enough. | ความฝันที่ไม่ทำให้คุณลังเล คือความฝันที่ไม่ใหญ่พอ |
If you don’t follow your heart, you might spend the rest of your life wishing you had. | ตอนนี้หากคุณไม่ทำตามหัวใจของคุณ คุณจะต้องใช้ชีวิตที่เหลืออย่างเสียใจเพราะการตัดสินใจในวันนี้ |
I just wish people would realize that anything is possible if you try. Dreams are made if people try. | ฉันหวังว่าผู้คนจะตระหนักว่าทุกสิ่งในชีวิตสำเร็จได้เพราะความพยายาม |
A true test of character isn’t how you are on your best days but how you act on your worst days. | หากคุณต้องการทราบนิสัยที่แท้จริงของคนอื่น อย่ามองตอนที่เขาทำดีที่สุด แต่ให้ดูว่าเขาประพฤติตนอย่างไรในวันที่คุณทำผิดพลาด |
Without hard work, nothing grows but weeds. | หากไม่มีความพยายาม ไม่มีอะไรเกิดขึ้นนอกจากวัชพืช |
Your dream doesn’t have an expiration date. Take a deep breath and try again. | ความฝันไม่มีวันหมดอายุ ดังนั้นหายใจลึกๆ แล้วลองอีกครั้ง |
You can never cross the ocean unless you have the courage to lose sight of the shore. | คุณไม่สามารถข้ามมหาสมุทรได้ เว้นแต่คุณจะมีความกล้าที่จะละสายตาจากชายฝั่ง |
Failure is not the opposite of success. It is a part of success. | ความล้มเหลวไม่ใช่สิ่งที่ตรงกันข้ามกับความสำเร็จ มันเป็นส่วนหนึ่งของสิ่งที่ทำให้คุณประสบความสำเร็จ |
Let your faith be bigger than your fear. | ให้ศรัทธาของคุณใหญ่กว่าความกลัวของคุณ |
Do not pray for easy life, pray for the strength to endure a difficult one. | อย่าปรารถนาที่จะมีชีวิตที่เรียบง่าย แต่จงอธิษฐานขอความเข้มแข็งเพื่อเอาชนะความยากลำบากของชีวิต |
Before defining what you want, know who you are. | ก่อนที่จะตัดสินใจว่าคุณต้องการอะไร ให้พิจารณาว่าคุณเป็นใคร |
Keep your eyes in the stars and your feets on the ground. | หันไปมองดวงดาวและเท้าของคุณสัมผัสลงกับพื้น |
Even if you are on the right track, you’ll get run over if you just sit there. | แม้ว่าเราจะมาถูกทาง ก็อาจถูกเบียดตกไปได้ถ้ามัวยืนอยู่เฉย ๆ |
The best things in life make you sweaty. | สิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตต้องแลกมาด้วยหยาดเหงื่อและน้ำตา |
Life is problems. Loving is solving problems. | ชีวิตคือชุดของปริศนา ความรักคือคำตอบของปริศนาเหล่านั้น |
Look at the stars. See their beauty. And in that beauty, see yourself. | มองดวงดาวสัมผัสถึงความงามของมัน มองเข้าไปในใจของคุณเพื่อดูความงามของคุณเอง |
Everyone now knows how to find the meaning of life within himself. | ใครๆ ก็รู้วิธีค้นหาความหมายของชีวิตในตัวเอง |
Be a lover of the world, it is the only way to survive in it. | เป็นที่รักของโลกใบนี้เพราะนั่นคือหนทางเดียวที่จะอยู่รอด |
A life without cause is a life without effect. | การมีชีวิตอยู่โดยปราศจากเหตุผลเป็นเพียงการดำเนินชีวิตอย่างไร้ความหมาย |
However vast the darkness, we must supply our own light. | ไม่ว่าข้างนอกนั้นจะมืดมิดเพียงใด เราควรส่องแสงให้ตัวเราเอง |
The pure power of a life can manifest as beatitude, or as an unspeakable sheer violence. | ในสายตาของแต่ละคน ชีวิตนี้อาจเป็นพรหรืออาจเป็นความทุกข์ทรมานไม่รู้จบก็ได้ |
Stop making excuses and start doing what makes you profoundly happy. | หยุดหาข้อแก้ตัวและเริ่มทำสิ่งที่ทำให้คุณมีความสุข |
No one could teach you to be you… until now. | ไม่มีใครสามารถบอกให้คุณเห็นว่าจะใช้ชีวิตอย่างซื่อสัตย์ต่อตัวเองได้อย่างไร นอกจากตัวคุณเอง |
Why settle for anything less than total life fulfillment. Start by filling yourself up with you. | ทำไมคุณถึงยอมใช้ชีวิตให้ผ่านๆไป ในเมื่อคุณสามารถเริ่มต้นใช้ชีวิตให้ดีที่สุดในวันนี้ได้ |
A life without concrete products is a meaningless one. | การมีชีวิตอยู่โดยไม่สร้างคุณค่าใดๆ ถือเป็นการมีชีวิตที่ไร้ความหมาย |
Sometimes the questions are complicated and the answers are simple. | บางทีคำถามซับซ้อนมากแต่คำตอบนั้นก็ง่ายมาก |
It is better to be hated for what you are now than to be loved for you are not. | การถูกเกลียดในสิ่งที่คุณเป็นดีกว่าถูกรักในสิ่งที่คุณไม่ได้เป็น |
Life is a progress, and not a station. | ชีวิตคือกระบวนการ ไม่ใช่จุดหมายปลายทาง |
Do not watch the clock. Do what it does, keep going. | อย่าดูนาฬิกาเด็ดขาด เราต้องทำเหมือนนาฬิกาซึ่งเดินอยู่เสมอ |
Most important thing in life is learning how to fall. | บทเรียนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตนี้คือการเรียนรู้ความล้มเหลว |
>>> Read more: 100+ คําให้กําลังใจ ภาษาอังกฤษ สั้นๆ
ประโยคภาษาอังกฤษช่วยมีความคิดเชิงบวก
ภาษาอังกฤษ | ภาษาไทย |
It’s just a bad day not a bad life. | มันเป็นแค่วันแย่ๆ ไม่ใช่ชีวิตแย่ๆ |
It’s never too late to start again. | ไม่มีคำว่าสายสำหรับการเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง |
Be yourself no matter whatever they say. | จงเป็นตัวของตัวเองไม่ว่าใครจะพูดยังไงก็ตาม |
A good beginning makes a good ending. | การเริ่มต้นที่ดีส่งผลให้มีการสิ้นสุดที่ดี |
We do not have a great day, we MAKE a great day. | เราอาจจะไม่มีวันที่ดี แต่เราสร้างวันที่ดีได้ |
I know I’m not the BEST but I’m Trying MY BEST. | ฉันรู้ ฉันอาจไม่ได้ดีที่สุด แต่ฉันจะพยายามอย่างดีที่สุด |
Never cry for the same reason. | จงอย่าร้องไห้เพราะเหตุผลเดิมๆ |
Don’t just be good to others, be good to you. | อย่าทำดีแค่กับคนอื่น ทำดีกับตัวเองด้วย |
Let your past make you better not bitter. | ให้อดีตทำให้คุณเป็นคนที่ดีกว่าเดิม ไม่ใช่ทุกข์ใจกว่าเดิม |
Stay strong the weekend is coming. | เข้มแข็งไว้ สุดสัปดาห์กำลังจะมาถึงแล้ว |
Life isn’t perfect but your outfit can be. | ชีวิตไม่เพอร์เฟค แต่เราแต่งตัวให้เพอร์เฟคได้ |
Happy is the new rich. | การมีความสุขก็คือความร่ำรวยในอีกรูปแบบหนึ่งนั่นแหละ |
Everyday is a fresh start. | ทุกวันคือการเริ่มต้นใหม่ที่ดี |
What is coming is better than what is gone. | สิ่งที่กำลังจะมาถึงนั้นย่อมดีกว่าที่สิ่งผ่านไปแล้วแน่นอน |
It’s the little things in life. | มันก็แค่สิ่งเล็กน้อยในชีวิตเท่านั้นแหละ |
Tomorrow starts right now. | วันพรุ่งนี้คือเริ่มตั้งแต่ตอนนี้ |
Don’t go through life, grow through life. | อย่าปล่อยให้ชีวิตผ่านไป จงเติบโตไปพร้อมมัน |
Laughter really IS the best medicine! | เสียงหัวเราะเป็นยาที่ดีที่สุดจริงๆ! |
The best kind of makeup is happiness. | เมคอัพที่ดีที่สุดคือรอยยิ้มแห่งความสุข |
Happiness depends upon ourselves. | ความสุขขึ้นอยู่กับตัวเราเอง |
Today was good. Tomorrow will be better. | วันนี้ดีแล้ว วันพรุ่งนี้จะดีขึ้นไปอีก! |
Whoever is happy will make others happy too. | ใครก็ตามที่มีความสุข ก็จะทำให้คนอื่น ๆ มีความสุขเช่นกัน |
Today is a good day to try. | วันนี้เป็นวันที่ดีที่จะได้ลองทำอะไรใหม่ๆ |
ประโยคภาษาอังกฤษที่ช่วยให้เรารักตัวเองมากขึ้น
ภาษาอังกฤษ | ภาษาไทย |
Self Love is Key To Life. | การรักตัวเองเป็นกุญแจสำคัญในชีวิต |
Make your happiness a priority. | จงให้ความสุขของคุณมีความสำคัญที่สุด |
Simply be, and appreciate being. | เพียงแค่เป็นตัวเองและชื่นชมการเป็นตัวเอง เท่านั้นพอ |
Simply Being Myself. | แค่เป็นตัวของตัวเอง |
Loving yourself isn’t vanity; it’s sanity. | การรักตัวเองไม่ใช่เรื่องไร้สาระ มันคือความสุข |
Talk to yourself like someone you love. | พูดคุยกับตัวเองเหมือนคนที่คุณรัก |
Make yourself a priority. | จงทำให้ตัวเองมีความสำคัญที่สุด |
Work on you, for you. | ทำด้วยตัวเอง เพื่อตัวคุณเอง |
If you have the ability to love, love yourself first. | หากคุณมีโอกาสได้รักรัก ก็จงรักตัวเองก่อน |
Do your thing and don’t care if they like it. | ทำในสิ่งที่คุณสนใจและไม่ต้องสนใจว่าพวกเขาจะชอบหรือไม่ |
ประโยคภาษาอังกฤษที่สร้างแรงบันดาลใจ
ภาษาอังกฤษ | ภาษาไทย |
The best preparation for tomorrow is doing your best today. | การเตรียมตัวที่ดีที่สุดสำหรับวันพรุ่งนี้ คือ การทำวันนี้ให้ดีที่สุด |
Nothing is impossible, the word itself says ‘I’m possible’! | ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ มีแต่คำว่า “I’m possible” (เป็นไปได้) |
If you cannot do great things, do small things in a great way. | หากคุณไม่สามารถทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ได้ จงทำสิ่งเล็กๆ ในแบบที่ยิ่งใหญ่ |
All our dreams can come true, if we have the courage to pursue them. | ทุกความฝันสามารถเป็นจริงได้ ถ้าเรากล้าที่จะไล่ตามมัน |
If opportunity doesn’t knock, build a door. | หากโอกาสไม่เข้ามาหา เราจงสร้างประตูให้มัน |
The secret of success is getting started. | ความลับของความสำเร็จคือการเริ่มทำทันที |
Everything you can imagine is real. | ทุกสิ่งที่คุณจินตนาการได้นั้นมีจริง |
Defeat is simply a signal to press onward. | ความล้มเหลวเป็นเพียงสัญญาณให้ก้าวต่อไปข้างหน้า |
Life is a story. Make yours the best seller. | ชีวิตคือเรื่องราว งั้นมาเปลี่ยนเรื่องราวชีวิตของคุณให้เป็นหนังสือขายดีที่สุด |
Life always offers you a second chance. It’s called tomorrow. | ชีวิตให้โอกาสคุณครั้งที่สองเสมอ มันเรียกว่าพรุ่งนี้ |
ประโยคภาษาอังกฤษเกี่ยวกับความพยายาม
ภาษาอังกฤษ | ภาษาไทย |
Where there is a will, there is a way. | ที่ใดมีความปรารถนาอันแรงกล้า ที่นั่นย่อมมีหนทางเสมอ |
Genius is one percent inspiration and ninety-nine percent perspiration | การเป็นอัจฉริยะ ประกอบด้วยแรงบันดาลใจ 1% และหยาดเหงื่ออีก 99% |
On the way to success, there is no trace of lazy men | บนเส้นทางสู่ความสำเร็จ ไม่มีร่องรอยของคนเกียจคร้าน |
I can accept failure, everyone fails at something. But I can’t accept not trying. | ฉันยอมรับความล้มเหลวได้ ทุกคนเคยล้มเหลวแต่ฉันไม่ยอมรับการไม่พยายาม |
A winner never stops trying. | ผู้ที่ชนะไม่เคยหยุดความพยายาม |
Nothing is too small to know, and nothing too big to attempt. | ไม่มีอะไรเล็กเกินไปที่จะรู้ ไม่มีอะไรใหญ่เกินไปที่จะลอง |
Life doesn’t require that we be the best, only that we try our best. | ชีวิตไม่ต้องการให้เราดีที่สุด ขอแค่เราพยายามให้ดีที่สุดเท่านั้น |
Set your target and keep trying until you reach it. | ตั้งเป้าหมายและพยายามต่อไปจนกว่าคุณจะบรรลุเป้าหมายได้ |
We can’t insure success, but we can deserve it. | เราไม่สามารถรับประกันความสำเร็จได้ แต่เราสมควรได้รับมัน |
รวบรวมประโยคภาษาอังกฤษที่ปลอบใจและให้กำลังใจตามสถานการณ์เฉพาะ
ทำอย่างไรเพื่อปลอบใจตัวเอง? เมื่อความรักพังทลายลง
- I’m here if you want to talk. (ฉันอยู่ตรงนี้นะ ถ้าเธออยากระบาย)
- Look on the bright side. At least you still have me. (มองในแง่ดีไว้ อย่างน้อยเธอก็ยังมีชั้นอยู่นะ)
- Let yourself feel all the feelings and let your emotions out. (ปล่อยให้ตัวเองได้ซึมซับความรู้สึกเถอะนะ ปลดปล่อยอารมณ์นั้นออกมา)
- Don’t lose hope. (อย่าสิ้นหวังไปนะ)
- This feeling won’t last forever. (ความรู้สึกแย่ๆแบบนี้ไม่ได้อยู่กับเราไปตลอดหรอกนะ)
- Having a failed relationship is not a reflection of your worth. (ความสัมพันธ์ที่ล้มเหลวไม่ได้สะท้อนคุณค่าของเธอเลย)
ให้กำลังใจในการเรียนรู้ งานที่ทำแล้วล้มเหลว
- I’m here for you if you need anything. (ฉันอยู่ตรงนี้นะไม่ว่าเธอต้องการอะไร)
- Everyone fails at some point. I know that you will all get through it. (ทุกคนสามารถล้มเหลวกันได้ ฉันรู้ว่าเธอจะผ่านมันไปได้)
- I’m so sorry to hear that you are having difficulties. You’re so smart and resourceful; I know you’ll get through this situation. (ฉันเสียใจมาก ๆ ที่คุณกำลังเจอกับความยากลำบาก คุณเป็นคนที่ฉลาดและมีไหวพริบดี คุณจะผ่านสถานการณ์เหล่านี้ไปได้ (ประโยคนี้เหมาะสำหรับพูดกับแฟน หรือ คู่สามีภรรยา)
- How about we go for a walk? It’ll get your mind off of things and let you recharge a little bit. (เราไปเดินเล่นกันไหม? มันจะช่วยให้สมองของเธอปลอดโปร่งและเติมพลังให้เธอได้บ้าง)
คำพูดปลอบใจภาษาอังกฤษกับคนที่ตกงานและถูกไล่ออก
- Hang in there. I know the right position is out there waiting for you. (สู้ต่อไปอีกหน่อย ฉันเชื่อว่าตำแหน่งที่เหมาะสมกำลังรอคุณอยู่)
- My condolences on your job loss. Try to see this as an opportunity for growth as you figure out your next move. (อย่าเสียใจที่คุณไม่ได้งาน พยายามมองว่านี่จะเป็นโอกาสในการเติบโตก้าวต่อไป)
- I feel terrible about what happened. Let’s talk about how I can help you. (ฉันรู้สึกแย่มากกับสิ่งที่เกิดขึ้น มาคุยกันดีกว่าว่าฉันจะช่วยคุณได้อย่างไร)
- You’re not alone in this. You’ve got me to lean on. (คุณไม่ได้อยู่คนเดียวนะ คุณยังมีฉันให้พึ้งพามา)
คำพูดที่ให้กำลังใจกับคนที่จะสอบหรือคนที่กำลังสัมภาษณ์งาน
- Good luck on your exams! (ขอให้คุณโชคดีในการสอบนะ!)
- Wishing you all the best on your test! (ขออวยพรให้เธอประสบความสำเร็จในการสอบนะ!)
- Go get ’em, tiger! (ไปเอามันมาเลย ไอ้เสือ)
- You’ve got this. I believe in you. (เธอทำได้ ฉันเชื่อในตัวเธอนะ)
- Good luck today! I know you’ll do great. (วันนี้เป็นวันดี ฉันรู้ว่าเธอจะทำได้ดีมาก)
คำพูดสร้างแรงบันดาลใจขณะเจ็บป่วย
- Get well หมายถึง การฟื้นตัว มักพูดว่า “get well soon” สำหรับคนที่เจ็บป่วยทั่วไปหรือบาดเจ็บ แต่ไม่เหมาะสมกับผู้ป่วยระยะยาว หรือระยะสุดท้าย เพราะพวกเขาไม่สามารถฟื้นตัวได้ในเร็ววัน
- Feel better หมายถึง รู้สึกดี บางครั้งการบอกใครสักคนให้ “รู้สึกดีขึ้น” ได้กำลังใจมากกว่าบอกว่า “หายดี” เสียอีก เช่น I hope you feel better soon! ฉันหวังว่าคุณจะรู้สึกดีขึ้นนะ
- Hope … goes away soon หมายถึง หวังว่า…จะหายไปในไม่ช้า
เช่น Hope the pain from your surgery goes away soon.
หวังว่าความเจ็บปวดจากการผ่าตัดของคุณจะหายไปโดยเร็ว
- I wish you a fast/ quick/ speedy/ easy recovery หมายถึง การฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว
เช่น Wishing Lisa a fast recovery หวังว่าลิซ่าจะฟื้นตัวโดยเร็ว
เมื่อเพื่อนร่วมงานป่วย
- Get well soon. Don’t worry, I’ll take care of everything while you’re gone. (หายไว ๆ นะ ไม่ต้องห่วง ฉันจะดูแลทุกอย่างในตอนที่เธอไม่อยู่เอง)
- Get well soon! Work is no fun without you. (หายไว ๆ นะ ทำงานไม่สนุกเลยถ้าไม่มีเธอ)
- It’s so easy to get sick in our line of work. Rest up and get better soon! (ในสายงานแบบเราง่ายมากที่จะเจ็บป่วย พักผ่อนให้เต็มที่และหายไว ๆ นะ)
>>> Read more: วิธีพูด Get well soon ช่วยให้คุณพูดภาษาอังกฤษเพราะขึ้น
เพื่อนสนิทหรือสมาชิกในครอบครัวป่วย
- We’ll get through this together. I’m always here for you. (เราจะผ่านเรื่องนี้ไปด้วยกัน ฉันอยู่ตรงนี้เสมอนะ)
- You can get through this, and I’ll be right here with you. We’re a team. (คุณผ่านมันไปได้ แล้วฉันจะอยู่ตรงนี้กับคุณ พวกเราเป็นทีมเดียวกันนะ)
- What can I do to be helpful right now? I’m there for you, and I hope you know that. (ในตอนนี้ฉันสามารถช่วยอะไรเธอได้บ้าง ฉันอยู่ตรงนั้นเพื่อเธอนะ และหวังว่าเธอจะรู้)
- I hope for your speedy recovery and keep smiling, it will be over soon. (ฉันหวังว่าคุณจะฟื้นตัวไวและยิ้มเข้าไว้ มันจะหายในไม่ช้า)
- You even look pretty when you are sick, but you look fantastic when you are healthy, so get a speedy recovery soon. (ขนาดเธอป่วยเธอยังดูสวยอยู่เลย แต่เธอสวยเริ่ดกว่าเดิมเมื่อเธอแข็งแรง ดังนั้น รีบหายป่วยไว ๆ นะ)
การปลอบใจกับคนที่เป็นมะเร็ง คีโมหรือการเจ็บป่วยระยะสุดท้าย
- I’m sorry to hear that you are going through this. (ฉันเสียใจอย่างยิ่งที่คุณต้องเผชิญกับความยากลำบากอะไรเช่นนี้)
- I’m not sure what to say, but I want you to know I care. (ฉันไม่รู้ว่าจะพูดอะไร แต่ขอให้คุณรู้ไว้ว่าฉันเป็นห่วงนะ)
- How are you doing? If you would like to talk about it, I’m here. (คุณเป็นอย่างไรบ้าง? ถ้าคุณอยากจะพูดถึงมัน ฉันอยู่ตรงนี้นะ)
- You’re so important to me, and I’m so glad to have known you. You’re an incredible person (คุณสำคัญมากสำหรับฉัน และฉันก็ดีใจที่ได้รู้จักคุณ คุณเป็นคนที่น่าทึ่งคนหนึ่งเลยล่ะ)
การปลอบใจได้ใช้กับ “ผู้ป่วยซึมเศร้า”
- It’s OK to not feel OK. (ไม่เป็นไรนะที่จะรู้สึกแย่ (ทุกคนมีทั้งวันที่ดีและไม่ดี)
- I may not understand exactly how you feel, but you’re not alone. (ฉันอาจไม่เข้าใจความรู้สึกของเธอ แต่เธอไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวนะ)
- I’m here for you, no matter what. (ฉันอยู่ตรงนี้เพื่อเธอนะ ไม่ว่ายังไงก็ตาม)
- Whenever you want to talk, I’ll listen. (เมื่อไหร่ก็ตามที่เธออยากพูด ฉันจะรับฟังนะ)
คำพูดปลอบใจให้เพื่อนหรือเพื่อนร่วมงานในวันที่แย่
- One more time and you’ll have it! (พยายามอีกครั้งแล้วคุณจะได้มันมา)
- Look how far you’ve come! (ดูสิว่า คุณมาไกลแค่ไหน!)
- I am so proud of how you handled such a difficult day. (ฉันภูมิใจมากที่คุณจัดการกับวันที่ยากลำบากเช่นนี้)
- Yes, today was a bad day. Let’s make tomorrow better. (ใช่แล้ว วันนี้เป็นวันที่แย่ มาทำพรุ่งนี้ให้ดีกว่าเดิมกันเถอะ)
ประโยคให้กำลังใจเด็กๆ
- I believe in you. (พ่อแม่เชื่อในตัวลูกนะ)
- I am grateful to have you as my child. (ขอบคุณที่เกิดมาเป็นลูกของพ่อกับแม่นะ)
- I know you can handle it. (พ่อแม่รู้ว่าลูกทำได้)
- You’re on the right track now. (ตอนนี้ลูกมาถูกทางแล้วนะ)
- You’ve solved the problem. (ลูกแก้ปัญหาได้แล้วนะ และผ่านมันมาได้แล้ว)
- I’m proud of you. (พ่อแม่ภูมิใจในตัวลูกนะ)
- I see you working and learning every day. (พ่อแม่เห็นลูกทำงานและเรียนรู้ในทุกๆ วันนะ)
- Hey, you did it! (เฮ้ ลูกทำได้แล้ว!)
ประโยคภาษาอังกฤษแสดงความเสียใจ
- I can’t imagine how you feel right now. (ฉันนึกไม่ออกเลยว่าคุณรู้สึกอย่างไรในตอนนี้)
- It’s hard to believe [person’s name] is gone. I’m so sorry. (ไม่น่าเชื่อว่า [ชื่อของผู้เสียชีวิต] จะจากไปแล้ว ฉันรู้สึกเสียใจ)
- I’ll miss [person’s name]. (ฉันจะคิดถึง [ชื่อของผู้เสียชีวิต])
- I’m not sure what to say. Just know that I’m very sorry. (ฉันไม่รู้จะพูดอะไร แต่ขอให้รู้ว่าไว้ว่าฉันเสียใจมาก)
คำพูดไว้อาลัยและให้กำลังใจผู้จากไป
- My heart goes out to you during this difficult time. (ฉันส่งกำลังใจให้คุณเสมอในช่วงเวลาที่ยากลำบากเช่นนี้)
- This is so sad! Please know I’m always here for you. (ช่างเป็นข่าวที่เศร้าจริงๆ ขอให้เธอรู้ไว้ว่าฉันยังอยู่ตรงนี้เสมอ)
- How are you doing today? I am here for you. (วันนี้เป็นอย่างไรบ้าง ฉันอยู่ตรงนี้นะ)
- I hope you’re doing OK today. (ฉันหวังว่าวันนี้เธอจะสบายดีนะ)
- We’re praying that you find a way to get through this trying time. (พวกเราจะสวดมนต์ ขอให้เธอพบหนทางที่จะผ่านพ้นช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ไปให้ได้นะ)
- You can always hit me up to chat. Please don’t hesitate to reach out. (เธอทักมาคุยกับฉันได้เสมอนะ ติดต่อมาได้เลยไม่ต้องเกรงใจ)
- Take your time. One day, you’ll find a way through this. (ไม่ต้องรีบร้อน วันนึงเธอจะผ่านเรื่องนี้ไปได้เอง)
ELSA Speak ได้รวบรวมประโยคฮีลใจภาษาอังกฤษในทุกสถานการณ์ให้กับทุกคนแล้ว หวังว่าบทความนี้จะมีประโยชน์กับคุณในการฝึกฝน การสนทนา และอย่าลืมติดตาม ELSA Speak เพื่อพบกับความรู้ดีๆ อีกเพียบนะ
คำบุพบท 2 คำ Since และ For เป็นคำบุพบทที่ใช้บ่อยในภาษาอังกฤษ แต่อาจทำให้เกิดความสับสนได้ง่าย เพราะมันมักจะปรากฏในอดีตกาล (Past Tense) และกาลที่สมบูรณ์แบบ (Perfect Tense) เมื่อทำความเข้าใจแล้ว ELSA Speak จึงได้รวบรวมวิธีการแยกแยะระหว่าง since กับ for โครงสร้าง และวิธีการใช้ for since ในบทความต่อไปนี้ มาหาคำตอบกันเลย
Since, For คืออะไร ?
Since คืออะไร ?
Since ถูกเข้าใจว่าเป็น “ตั้งแต่ … (อดีตจนถึงตอนนี้)” มักเกี่ยวข้องกับเวลาที่ระบุหรือเวลาที่เหตุการณ์เกิดขึ้นในอดีต
ตัวอย่างเกี่ยวกับวิธีใช้ since:
- since 2020 (ตั้งแต่ปี 2020)
- since June (ตั้งแต่เดือนมิถุนายน)
- since I was a child (ตั้งแต่ฉันยังเป็นเด็ก)
- since she left (ตั้งแต่เธอจากไป)
For คืออะไร?
For หมายความว่า “เป็นระยะเวลา” มักจะไปพร้อมกับช่วงเวลาที่เหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้น เข้าใจง่าย ๆ ก็คือ เวลาคือระยะห่างระหว่างเส้นเวลา 2 เส้น
ตัวอย่างเกี่ยวกับวิธีใช้ for:
- for 2 days (เป็นระยะเวลา 2 วัน)
- for a month (เป็นระยะเวลา 1 เดือน)
- for years (เป็นระยะเวลาหลายปี)
โครงสร้าง For/Since
โครงสร้าง Since
โครงสร้าง | วิธีใช้ | ตัวอย่าง |
SINCE + เส้นเวลา | ในกรณีนี้ ส่วนประโยคหลักมักจะแบ่งออกเป็นกาลที่สมบูรณ์แบบ (Perfect Tense) ด้วยเหตุผลดังกล่าว Since จึงเป็นเอกลักษณ์ประจำตัวของกาลที่สมบูรณ์แบบ (Perfect Tense) | • They have lived there since November 2018. (พวกเขาอาศัยอยู่ที่นั่นตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2018 จนถึงปัจจุบัน) • She has studied English since 2010. (เธอเรียนภาษาอังกฤษมาตั้งแต่ปี 2010 จนถึงปัจจุบัน) • I have been playing football since 5 P.M. (ฉันเล่นฟุตบอลตั้งแต่ 17.00 น จนถึงปัจจุบัน) • Her brother had been working in this company since March. (พี่ชายของเธอทำงานที่บริษัทตั้งแต่เดือนมีนาคม จนถึงปัจจุบัน) |
SINCE + ประโยคอดีตกาลธรรมดา | Since ตามด้วยประโยคอดีตกาลธรรมดา ตามโครงสร้างนี้ Since จะอธิบายถึงการกระทำที่เริ่มขึ้นในอดีต โดยมีความหมายว่า “ตั้งแต่” | • We haven’t met each other since we graduated. (เราไม่ได้เจอกันเลยตั้งแต่เรียนจบ) • He had lived with his parents since he was a child. (เขาอยู่กับพ่อแม่ตั้งแต่เขายังเป็นเด็ก) |
SINCE + V-ING | โครงสร้างนี้เป็นรูปแบบย่อของโครงสร้างด้านบน อย่างไรก็ตาม คุณสามารถใช้โครงสร้างนี้ได้เฉพาะ เมื่อประธานของประโยคหลักและประโยค Since เหมือนกัน | • Since he left university, he has worked a lot. = Since leaving university, he has worked a lot. (ตั้งแต่เขาออกจากมหาวิทยาลัย เขาทำงานเยอะมาก) • Since they moved to the new house, they’ve walked to school many times. = Since moving to the new house, they’ve walked to school many times. (ตั้งแต่ย้ายมาอยู่บ้านใหม่ พวกเขาก็เดินไปโรงเรียนหลายครั้ง) |
SINCE THERE/ SINCE THEN/ EVER SINCE | เมื่อใช้ Since there, Since then หรือ Ever since คุณต้องการเน้นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตลอดตั้งแต่จุดใดจุดหนึ่ง กล่าวอีกนัยหนึ่ง วลีเหล่านี้หมายถึง “ตั้งแต่นั้นมา” | • You’ve become a member of our group since then. (คุณจะเป็นสมาชิกของทีมเราตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา) • They’d done a lot of work ever since. (พวกเขาได้ทำงานมากมายตั้งแต่นั้นมา) |
โครงสร้าง For
ด้วยโครงสร้าง For เพียงจำกฎที่ว่า For มักจะอยู่กับระยะเวลาหนึ่ง (กำหนดหรือไม่ก็ได้) แค่นี้ คุณก็สามารถใช้ For ได้อย่างคล่องแล้ว
for + ระยะเวลา
ตัวอย่าง
- I have walked to school for 3 years. (ฉันเดินไปโรงเรียนเป็นเวลา 3 ปี)
-> ระยะเวลาที่ระบุ
- She had been exercising for hours. (เธอออกกำลังกายเป็นเวลาหลายชั่วโมง)
-> ระยะเวลาที่ไม่ระบุ
ควรสังเกตว่า ห้ามใช้ For กับคำวิเศษณ์ เช่น all day (ทั้งวัน), all night (ทั้งคืน)…
หลักการใช้ Since For
วิธีใช้ For
- For ใช้เพื่ออ้างถึงช่วงเวลาหนึ่งที่ระบุไว้ที่เหตุการณ์/การกระทำที่เกิดขึ้นและยังคงอยู่
- For ใช้ในหลาย tense
วิธีใช้ For | ตัวอย่าง |
ปัจจุบันกาลธรรมดา | She exercises for an hour every day. (เธอออกกำลังกายหนึ่งชั่วโมงทุกวัน) |
ปัจจุบันสมบูรณ์แบบต่อเนื่อง | They have been playing soccer for an hour. (พวกเขาเล่นฟุตบอลเป็นเวลา 1 ชั่วโมง) |
ปัจจุบันสมบูรณ์แบบ | She has lived in this city for five years. (เธออาศัยอยู่ในเมืองนี้เป็นเวลา 5 ปี) |
อดีตกาลต่อเนื่อง | They were playing chess for hours before they got tired. (พวกเขาเล่นหมากรุกเป็นเวลาหลายชั่วโมงก่อนที่เขาจะเหนื่อย) |
อดีตกาลสมบูรณ์แบบ | She had worked there for two years before she quit. (เธอทำงานที่นั่นเป็นเวลา 2 ปีก่อนที่จะลาออก) |
อนาคตกาลธรรมดา | She will work on the project for the next two weeks. (เธอจะทำงานในโครงการนี้ในอีกสองสัปดาห์ข้างหน้า) |
วิธีใช้ Since
- Since ใช้เพื่ออธิบายเวลาที่เหตุการณ์/การกระทำเริ่มเกิดขึ้น
- Since ใช้ในประโยคในกาลสมบูรณ์
วิธีใช้ Since | ตัวอย่าง |
ปัจจุบันสมบูรณ์แบบ (Present Perfect) | He has been in this company since last year. (เขาอยู่ในบริษัทนี้มาตั้งแต่ปีที่แล้ว) |
ปัจจุบันสมบูรณ์แบบต่อเนื่อง (Present Perfect Continuous) | They have been waiting for the bus since 6 a.m. (พวกเขารอรถเมล์ตั้งแต่ 6 โมงเช้า) |
อดีตกาลสมบูรณ์แบบ (Past Perfect) | I had known him since we were in college. (ฉันรู้จักเขาตั้งแต่เรายังเรียนมหาวิทยาลัย) |
อดีตกาลสมบูรณ์แบบต่อเนื่อง (Past Perfect Continuous) | They had been waiting for two hours since I left. (พวกเขารอมาสองชั่วโมงแล้วตั้งแต่ฉันออกไป) |
นอกจากนี้ Since ยังมีความหมายอื่น นั่นก็คือ “เพราะ” ซึ่งคล้ายกับ Because
ตัวอย่าง: Since he didn’t call, I assumed he was busy. (เพราะเขาไม่โทรมา ฉันจึงคิดว่าเขายุ่งอยู่)
Since For ต่างกันยังไง
แยกแยะ | Since | For |
คล้ายกัน | Since และ For ใช้ในประโยคโดยมีวัตถุประสงค์เพื่ออธิบายเวลาที่เหตุการณ์/การกระทำบางอย่างเกิดขึ้น | |
ต่างกัน | Since + เส้นเวลา Since แปลว่า “ตั้งแต่” Since ใช้เพื่อตอบคำถาม When? เช่น since 10 o’clock, since Monday, since 2020, since he left… | For + ระยะเวลาFor แปลว่า “ประมาณ, ตลอด, ตลอด”For ใช้เพื่อตอบคําถาม How long? เช่น for 3 days, for 10 minutes, for 2 weeks, for ages, for a long time… |
>>> Read more:
- การใช้คำสันธานในภาษาอังกฤษ: after, before, as, until, in case,…
- คำบุพบทบอกเวลา (preposition of time): การใช้พร้อมกับตัวอย่าง
แบบฝึกหัด Since For
บทที่ 1: ใช้ since หรือ for เพื่อเติมวลีต่อไปนี้
1. _______ days
2. _______ last week
3. _______ a decade
4. _______ he was a young boy
5. _______ ages
6. _______ New Year Eve
7. _______ five a.m.
8. _______ a long time
9. _______ a year
10. _______ his birthday.
11. _______ last summer
12. _______ that day
13. _______ three months
14. _______ Monday
15. _______ many years
16. _______ she was born
17. _______ twenty minutes a day
18. _______ my mum went out
19. _______ we moved to New York
20. _______ August
คําเฉลย
1. for days | 2. since last week | 3. for a decade | 4. since he was a young boy | 5. for ages |
6. since New Year Eve | 7. since five a.m | 8. for a long time | 9. for a year | 10. since his birthday. |
11. since last summer | 12. since that day | 13. for three months | 14. since Monday | 15. for many years |
16. since she was born | 17. for twenty minutes a day | 18. since my mum went out | 19. since we moved to New York | 20. since August |
คําถามที่พบบ่อย
Since For คือ tense อะไร
Since For ใช้ในอดีตและกาลที่สมบูรณ์แบบ (Past Tense หรือ Perfect Tense)
Since + เส้นเวลา คือกาลอะไร
Since + เส้นเวลา คือ กาลปัจจุบันที่สมบูรณ์แบบ (Present Perfect)
ELSA Speak หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับคุณในการแยกแยะ Since For ในภาษาอังกฤษ ติดตาม ELSA Speak ในบทความหน้าได้เลยนะ
การจดจำ Common Noun จะช่วยให้คุณเขียนได้สมบูรณ์แบบ พูดตามหลักไวยากรณ์ และหลีกเลี่ยงความสับสน เมื่อฟังและอ่านภาษาอังกฤษ แล้วคำนามนี้มีความพิเศษอย่างไร มาเรียนรู้วิธีใช้และฝึกฝนกับ ELSA Speak นะ
Common Noun (คำนามทั่วไป) คืออะไร?
คำนามทั่วไป (Common Noun) เป็นคำนามประเภทหนึ่งที่อ้างถึงวัตถุทั่วไป ไม่เฉพาะเจาะจง คำนามทั่วไปใช้เรียกชื่อคน สถานที่ สัตว์ นก แมลง สัตว์เลื้อยคลาน ความคิด สิ่งของ
โดยปกติแล้วจะไม่ใช้อักษรตัวแรกเป็นตัวพิมพ์ใหญ่ ยกเว้นในการขึ้นต้นประโยคหรือในสถานการณ์พิเศษ
ตัวอย่างของคำนามทั่วไป เช่น: owl (นกฮูก), cat (แมว), girl (เด็กหญิง), company (บริษัท), square (จัตุรัส), holiday (วันหยุด), car (รถ),…
ตัวอย่างคำนามทั่วไป (Common noun)
คำนามทั่วไปที่เกี่ยวกับผู้คน
คำนามทั่วไป | คำอ่าน | ความหมาย |
Lad | /læd/ | วัยรุ่น |
Girl | /ɡɜːrl/ | เด็กผู้หญิง |
Boy | /bɔɪ/ | เด็กผู้ชาย |
Individual | /ˌɪndɪˈvɪdʒuəl/ | รายบุคคล |
Child | /tʃaɪld/ | เด็ก |
Woman | /ˈwʊmən/ | ผู้หญิง |
Female | /ˈfiːmeɪl/ | เพศหญิง |
Man | /mæn/ | ผู้ชาย |
Male | /meɪl/ | เพศชาย |
Citizen | /ˈsɪtɪzn/ | พลเมือง |
Lass | /læs/ | สาวน้อย |
คำนามทั่วไปที่เกี่ยวกับสัตว์
คำนามทั่วไป | คำอ่าน | ความหมาย |
Elephant | /ˈelɪfənt/ | ช้าง |
Dog | /dɔːɡ/ | สุนัข |
Pet | /pet/ | สัตว์เลี้ยง |
Goat | /ɡəʊt/ | แพะ |
Horse | /hɔːrs/ | ม้า |
Pig | /pɪɡ/ | หมู |
Donkey | /ˈdɑːŋki/ | ลา |
Chimpanzee | /ˌtʃɪmpænˈziː/ | ชิมแปนซี |
Animal | /ˈænɪml/ | สัตว์ |
Cow | /kaʊ/ | วัว |
Calf | /kæf/ | ลูกวัว |
Pup | /pʌp/ | ลูกสุนัข |
>>> Read more: 150+ คำศัพท์สัตว์ภาษาอังกฤษที่พบบ่อยที่สุด
คำนามทั่วไปที่เกี่ยวกับนก
คำนามทั่วไป | คำอ่าน | ความหมาย |
Dove | /dʌv/ | นกพิราบ |
Crow | /krəʊ/ | อีกา |
Pelican | /ˈpelɪkən/ | นกกระทุง |
Flamingo | /fləˈmɪŋɡəʊ/ | ฟลามิงโก |
Bird | /bɜːrd/ | นก |
Duck | /dʌk/ | เป็ด |
Goose | /ɡuːs/ | ห่าน |
Swan | /swɑːn/ | หงส์ |
Cuckoo | /ˈkʊkuː/ | นกกาเหว่า |
Sparrow | /ˈspærəʊ/ | นกกระจอก |
Hummingbird | /ˈhʌmɪŋbɜːrd/ | นกฮัมมิ่งเบิร์ด |
Eagle | /ˈiːɡl/ | เหยี่ยว |
Vulture | /ˈvʌltʃər/ | อีแร้ง |
คำนามทั่วไปที่เกี่ยวกับแมลง
คำนามทั่วไป | คำอ่าน | ความหมาย |
Housefly | /ˈhaʊsflaɪ/ | แมลงวัน |
Mosquito | /məˈskiːtəʊ/ | ยุง |
Grasshopper | /ˈɡræshɑːpər/ | ตั๊กแตน |
Honeybee | /ˈhʌnibiː/ | ผึ้ง |
Stick insect | /ˈstɪk ɪnsekt/ | แมลงกิ่งไม้ |
Insect | /ˈɪnsekt/ | แมลง |
Wasp | /wɑːsp/ | ตัวต่อ |
Ant | /ænt/ | มด |
Beetle | /ˈbiːtl/ | ด้วง |
Butterfly | /ˈbʌtərflaɪ/ | ผีเสื้อ |
คำนามทั่วไปที่เกี่ยวกับสัตว์เลื้อยคลาน
คำนามทั่วไป | คำอ่าน | ความหมาย |
Snake | /sneɪk/ | งู |
Crocodile | /ˈkrɑːkədaɪl/ | จระเข้ |
Alligator | /ˈælɪɡeɪtər/ | จระเข้ |
Monitor lizard | /ˈmɑːnɪtər ˈlɪzərd/ | ตะกวด |
Chameleon | /kəˈmiːliən/ | กิ้งก่า |
คำนามทั่วไปที่เกี่ยวกับสถานที่
คำนามทั่วไป | คำอ่าน | ความหมาย |
College | /ˈkɑːlɪdʒ/ | วิทยาลัย |
Airport | /ˈerpɔːrt/ | สนามบิน |
School | /skuːl/ | โรงเรียน |
Railway station | /ˈreɪlweɪ ˈsteɪʃn/ | สถานีรถไฟ |
Court | /kɔːrt/ | ศาล |
Terminus | /ˈtɜːrmɪnəs/ | สถานีปลายทาง |
Street | /striːt/ | ถนน |
State | /steɪt/ | สถานะ |
District | /ˈdɪstrɪkt/ | เขตหรือจังหวัด |
Junction | /ˈdʒʌŋkʃn/ | ทางแยก |
Bus stand | /ˈbʌs stænd/ | ป้ายรถเมล์ |
Clinic | /ˈklɪnɪk/ | คลินิก |
Store | /stɔːr/ | ร้านค้า |
Playground | /ˈpleɪɡraʊnd/ | สนามเด็กเล่น |
>>> Read more: 80+ คำศัพท์น่าสนใจเกี่ยวกับสถานที่ในการสื่อสารภาษาอังกฤษ
คำนามทั่วไปเกี่ยวกับสิ่งของ/วัตถุ
คำนามทั่วไป | คำอ่าน | ความหมาย |
Stationery | /ˈsteɪʃəneri/ | เครื่องเขียน |
Water bottle | /ˈwɔːtər bɑːtl/ | ขวดน้ำ |
Car | /kɑːr/ | รถ |
Spray | /spreɪ/ | สเปรย์ |
Plant | /plænt/ | พืช |
Necklace | /ˈnekləs/ | สร้อยคอ |
Tie | /taɪ/ | ผูก |
Shoes | /ʃuː/ | รองเท้า |
Orange | /ˈɔːrɪndʒ/ | ส้ม |
Cucumber | /ˈkjuːkʌmbər/ | แตงกวา |
Thread | /θred/ | หัวข้อ |
Pant | /pænt/ | กางเกง |
คำนามทั่วไปเกี่ยวกับความคิด
คำนามทั่วไป | คำอ่าน | ความหมาย |
Truth | /truːθ/ | ความจริง |
Grace | /ɡreɪs/ | สง่างาม |
Discovery | /dɪˈskʌvəri/ | การค้นพบ |
Cleanliness | /ˈklenlinəs/ | ความสะอาด |
Poverty | /ˈpɑːvərti/ | ความยากจน |
Movement | /ˈmuːvmənt/ | ความเคลื่อนไหว |
Idea | /aɪˈdiːə/ | ความคิด |
Though | /ðəʊ/ | แม้ว่า |
Feeling | /ˈfiːlɪŋ/ | ความรู้สึก |
Expression | /ɪkˈspreʃn/ | การแสดงออก |
การจำแนกคำนามทั่วไป
คำนามทั่วไปสามารถแบ่งเป็น 2 ประเภท:
คำนามทั่วไปที่นับได้
ด้านล่างเป็นคำนามนับได้และมีทั้งเอกพจน์และพหูพจน์
ตัวอย่าง
- Cat (แมว)
- Book (หนังสือ)
- Dog (สุนัข)
สำหรับคำนามนับได้ เราสามารถใช้คำนับ เช่น “a”, “an”, “one”, “two”, “many” และเพิ่ม “s” หรือ “es” เพื่อสร้างพหูพจน์
ตัวอย่าง:
- A cat (แมวหนึ่งตัว)
- Two books (หนังสือสองเล่ม)
- Many dogs (สุนัขหลายตัว)
>>> Read more:
- คํานามเอกพจน์และคำนามพหูพจน์คืออะไร? (มีแบบฝึกหัด)
- แยกแยะระหว่าง Countable และ Uncountable nouns
- หลักการเติม s/ es ต่อคำนาม และวิธีออกเสียง s/ es ให้ถูกต้อง
คำนามทั่วไปที่นับไม่ได้
ด้านล้างเป็นคำนามที่นับไม่ได้และเป็นเอกพจน์
ตัวอย่าง:
- water (นํ้า)
- rice (ข้าว)
- information (ข่าวสาร)
สำหรับคำนามนับไม่ได้ เราไม่สามารถใช้คำนามพหูพจน์หรือนับคำโดยตรง เช่น “a” หรือ “one” อย่างไรก็ตาม คำนามนับไม่ได้ สามารถใช้ร่วมกับคำที่ใช้บอกปริมาน (measure word) หรือตัวระบุปริมาณ (quantifier) ได้
ตัวอย่าง:
- A bottle of water (น้ำหนึ่งขวด)
- A bag of rice (ข้าวหนึ่งถุง)
- A lot of information (ข้อมูลมากมาย)
วิธีใช้คำนามทั่วไป
ด้านล่างเป็นวิธีใช้คำนามทั่วไปในประโยค
ประธาน (Subject)
คำนามทั่วไป สามารถเป็นประธานในประโยคได้ ซึ่งเป็นบุคคลหรือสิ่งของที่ที่รับการกระทำของกริยา
ตัวอย่าง:
- Dogs bark. (สุนัขเห่า)
- Computers have become essential in our daily lives. (คอมพิวเตอร์กลายเป็นสิ่งจำเป็นในชีวิตประจำวันของเรา)
กรรม (Object)
คำนามทั่วไป สามารถเป็นกรรมในประโยคได้ ซึ่งเป็นบุคคลหรือสิ่งของที่รับการกระทำของกริยา
ตัวอย่าง:
- She loves animals. (เธอรักสัตว์)
- He reads books. (เขาอ่านหนังสือ)
ส่วนขยาย (Complement)
คำนามทั่วไปสามารถเป็นส่วนขยายได้ ที่ตามหลัง Verb to be หรือกริยาบอกสถานะ เพื่ออธิบายหรือระบุประธาน
ตัวอย่าง:
- My brother is a teacher. (พี่ชายของฉันเป็นคุณครู)
- That building is a museum. (Tòa nhà đó là một bảo tàng)
แสดงความเป็นเจ้าของโดยใช้ `s (Possessive Ending)
คำนามทั่วไปสามารถใช้กับคำลงท้ายแสดงความเป็นเจ้าของ เพื่อบ่งชี้การครอบครองคนหรือสิ่งของได้
ตัวอย่าง:
- The girl’s bicycle is red. (จักรยานของหญิงสาวเป็นสีแดง)
- The students’ backpacks are heavy. (กระเป๋านักเรียนหนักมาก)
คำนามทั่วไป ยังสามารถใช้เพื่อตั้งชื่อหรือวัตถุที่ไม่เฉพาะเจาะจง หรือไม่ใช่ชื่อในประโยคได้
ตัวอย่าง:
- I need to buy some milk. (ฉันต้องซื้อนม)
- They visited several countries during their trip. (เขาไปเยือนหลายประเทศระหว่างการเดินทาง).
คำนามทั่วไป มักใช้เพื่ออ้างถึงวัตถุทั่วไปหรือไม่เฉพาะเจาะจง สำหรับวัตถุเฉพาะเจาะจง ผู้คนมักใช้คำนามเฉพาะ (Proper Noun) การฝึกฝนการใช้คำนามทั่วไป จะช่วยให้คุณสร้างและเข้าใจในประโยคภาษาอังกฤษได้อย่างถูกต้อง
หมายเหตุเมื่อใช้ Common Noun
- คำนามทั่วไปหลายคำจะกลายเป็นคำนามเฉพาะ เมื่อใช้เป็นชื่อหรือส่วนหนึ่งของชื่อของบุคคลที่มีบทบาทนั้น
ตัวอย่าง: President Obama is the 44th president of the U.S. (ประธานาธิบดีโอบามาเป็นประธานาธิบดีคนที่ 44 ของสหรัฐอเมริกา)
- คำนามที่ทำหน้าที่เป็นชื่อจะใช้ตัวพิมพ์ใหญ่เฉพาะเมื่อใช้เป็นส่วนหนึ่งของชื่อของบุคคลใดที่ถือชื่อนั้นนั้นเท่านั้น
ตัวอย่าง: The United States has had four presidents this century. (สหรัฐอเมริกามีประธานาธิบดีสี่คนในศตวรรษนี้)
- ทิศทาง (เหนือ ตะวันออก ใต้ และตะวันตก) ถือเป็นคำนามทั่วไป แต่จะใช้เป็นอักษรตัวพิมพ์ใหญ่เมื่อใช้เป็นส่วนหนึ่งของชื่อของสถานที่หรือภูมิภาคใดโดยเฉพาะ หรือเมื่อใช้ในบริบททางการเมืองหรือวัฒนธรรม
ตัวอย่าง: The Global South is home to a majority of the world’s population. (โลกใต้เป็นที่ตั้งของประชากรส่วนใหญ่ของโลก)
แบบฝึกหัดพร้อมคำตอบโดยละเอียด
ข้อ 1: อ่านประโยคต่อไปนี้และระบุคำนามทั่วไปหรือคำนามเฉพาะในประโยคเหล่านั้น
1. I gave my book to Riya to read.
2. Red Riding Hood met the fox in the forest.
3. The boy ran to his mother.
4. The reporter went to Noida to collect news.
5. Rose is a beautiful girl.
6. King Arthur was a noble king.
7. The captain steered the ship from hitting the iceberg.
8. The Milky Way is a big galaxy.
9. Sheldon Cooper is an intelligent physicist.
10. J.K Rowling wrote the famous novels on Harry Potter.
คำตอบ:
คำถาม | คำนามทั่วไป (Common Nouns) | คำนามเฉพาะ (Proper Nouns) |
1 | book | Riya |
2 | fox, forest | Red Riding Hood |
3 | boy, mother | |
4 | reporter, news | Noida |
5 | girl | Rose |
6 | king | King Arthur |
7 | captain, ship, iceberg | |
8 | galaxy | Milky Way |
9 | physicist | Sheldon Cooper |
10 | book | J.K Rowling, Harry Potter |
ข้อ 2: ใส่คำนามที่ถูกต้องสำหรับประโยคต่อไปนี้
1. The … (taj mahal) in India is very beautiful.
2. Mr Tony Stark walks his … (dog) everyday.
3. The flat was in the middle of Lenin … (street).
4. This … (milk) tastes sour.
5. I have read the … (novel) by Emily Bronte.
6. The … (author) wrote a crime novel.
7. The old judge passed a unique … (judgment).
8. The Indian … (express) is the newspaper I read regularly.
9. The Ganga is important … (river) of India.
10. My … (uncle) works in the Reserve Bank of India.
คำตอบ:
1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
Taj Mahal | dog | Street/street | milk | novel |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
author | judgment | Express | river | uncle |
ข้อ 3: ระบุคำนามทั่วไปและคำนามเฉพาะ
1. I love drinking milk, and I’m a big fan of Vinamilk.
2. Donald Trump was America’s president.
3. Hoan Kiem Lake is a famous and beautiful lake in Vietnam.
4. The reporter went to Ho Chi Minh City to collect news.
5. National Day is a memorable holiday of a country.
6. We find many new friends on the internet.
7. The current top 1 social networking application is Facebook.
8. Apple is a famous brand.
9. The West is very interested in Eastern culture.
10. Sparrow is his nickname
คำตอบ:
คำถาม | คำนามทั่วไป (Common Nouns) | คำนามเฉพาะ (Proper Nouns) |
1 | milk, fan | Vinamilk |
2 | president | Donald Trump |
3 | lake | Hoan Kiem Lake, Vietnam |
4 | reporter, news | Ho Chi Minh City |
5 | holiday, country | National Day |
6 | friends, internet | |
7 | application | |
8 | brand | Apple |
9 | culture | The West |
10 | nickname | Sparrow |
คำถามที่เจอบ่อย
ความแตกต่างระหว่าง Common Noun (คำนามทั่วไป) และ Proper Noun (คำนามเฉพาะ)?
คำนามทั่วไปและคำนามเฉพาะสามารถวางไว้ได้ในหลายตำแหน่ง โดยทำหน้าที่เป็นภาคประธานหรือกรรมของประโยค ทั้งสองสามารถเป็นเอกพจน์และพหูพจน์ได้เมื่อกล่าวถึง
ดังนั้น ถึงแม้ว่าจะเป็นความรู้ภาษาอังกฤษที่ไม่ยาก แต่ก็สามารถสร้างความสับสนให้แก่ผู้ที่เพิ่งเริ่มเรียนภาษาอังกฤษ และผู้ที่เรียนมาเป็นเวลานาน เพื่อแยกความแตกต่างระหว่างคำนามทั่วไปและคำนามเฉพาะ คุณต้องเข้าใจความรู้ต่อไปนี้:
คำนามทั่วไป (Common Nouns) | คำนามเฉพาะ (Proper Nouns) |
กำหนดเฉพาะเมื่อมีบทความ การกำหนด หรือคำคุณศัพท์อยู่ข้างหน้าเท่านั้น | คำนามระบุวัตถุที่ถูกกล่าวถึง |
ใช้ตัวพิมพ์ใหญ่ เมื่อเป็นคำเริ่มต้นของประโยคเท่านั้น | ใช้ตัวพิมพ์ใหญ่ทุกที่ในประโยค |
สามารถเป็นคำนามเฉพาะได้ เมื่อใช้เป็นชื่อหรือเป็นส่วนหนึ่งของชื่อ ตัวอย่าง: President Obama (ประธานาธิบดีโอบามา), Global South (โลกใต้), North Vietnam (ภาคเหนือเวียดนาม),… | คำนามเฉพาะ แทบจะกลายเป็นคำนามทั่วไปไม่ได้ เว้นแต่จะกลายเป็นคำที่ได้รับการยอมรับและใช้กันอย่างแพร่หลาย ตัวอย่าง: god (พระเจ้า), zipper (ซิป – เคยเป็นชื่อแบรนด์),… |
ข้อมูลทางวิชาการ ใช้ตัวพิมพ์ใหญ่หรือไม่?
ไม่. ตามกฎทั่วไป แนวคิดทางวิชาการ หลักการ ทฤษฎี แบบจำลอง ฯลฯ ถือเป็นคำนามทั่วไป ไม่ใช่คำนามเฉพาะ ดังนั้น จึงไม่ใช้ตัวพิมพ์ใหญ่ ตัวอย่างเช่น: “five-factor model of personality” หรือ “analytic philosophy”
อย่างไรก็ตาม คำนามเฉพาะที่ปรากฏในชื่อของแนวคิดทางวิชาการ (เช่น ชื่อของนักประดิษฐ์) จะใช้อักษรตัวพิมพ์ใหญ่ตามปกติ ตัวอย่างเช่น: “Darwin’s theory of evolution” หรือ “Student’s table”
ฤดูกาลของปีใช้ตัวพิมพ์ใหญ่หรือไม่?
ชื่อฤดูกาล เช่น spring ถือเป็นคำนามทั่วไปในภาษาอังกฤษ ดังนั้น จึงไม่ใช้ตัวพิมพ์ใหญ่ คนส่วนใหญ่มักคิดว่าคำพวกนี้เป็นคำนามเฉพาะ แต่ไม่ใช่
อย่างไรก็ตาม ชื่อวันและเดือนเป็นคำที่เหมาะสมที่จะใช้ตัวพิมพ์ใหญ่เนื่องจากถือเป็นคำนามเฉพาะในภาษาอังกฤษ (ตัวอย่าง: “Wednesday”, “January”)
>>> Read more:
- ฤดูกาลภาษาอังกฤษ: คำศัพท์ idioms พร้อมวิธีอ่าน
- เดือนภาษาอังกฤษ: สรุปวิธีใช้และวิธีจำอย่างมีประสิทธิภาพ
ดังนั้น ELSA Speak จึงรวบรวมและให้รายละเอียดความรู้ทั้งหมดเกี่ยวกับ Common Nouns (คำนามทั่วไป) สำหรับคุณ ลองสรุปและบันทึกไว้เพื่อทบทวน หวังว่าคุณจะเรียนอย่างมีประสิทธิภาพและสามารถนำความรู้นี้ไปปฏิบัติได้
ในภาษาอังกฤษ คำว่า “sorry” ถูกใช้หลากหลายในหลายสถานการณ์ มาร่วมเรียนรู้กับ ELSA Speak ว่า “sorry” หมายความว่าอะไร และแยกแยะ “sorry” กับคำอื่นๆ ที่มีความหมายใกล้เคียงกัน เช่น “Apologize” และ “Excuse me” ผ่านบทความนี้กันเถอะ!
Sorry หมายความว่าอะไร
Sorry แปลว่าอะไร
Sorry หมายถึง รู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก (โดยนัยว่าขอโทษ…)
ตาม Cambridge Dictionary, sorry – used to say that you wish you had not done what you have done, especially when you want to be polite to someone you have done something bad to.
ตามที่ Cambridge Dictionary กล่าวไว้ “Sorry” ใช้เพื่อบอกว่าคุณหวังว่าคุณไม่ได้ทำสิ่งที่คุณได้ทำไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณต้องการสุภาพกับใครบางคนที่คุณได้ทำสิ่งไม่ดีต่อเขา
ตัวอย่างการใช้คำว่า Sorry: I’m so sorry. I was incorrect.
คำศัพท์ที่มีความหมายเหมือนกับ “sorry”
Apologize, excuse me, oops, pardon,…
คำหรือวลีที่เกี่ยวข้องกับ “sorry”
- Apologize: I apologize for the error. (ฉันขอโทษสำหรับความผิดพลาดนี้)
- Say sorry: He didn’t even say sorry. (เขาไม่ได้แม้แต่จะพูดคำว่าขอโทษ)
- Make an apology: The president made an apology to the people of Japan in a public speech. (ประธานาธิบดีได้กล่าวขอโทษต่อประชาชนชาวญี่ปุ่นในการปราศรัยต่อสาธารณะ)
- Express regret: He later expressed regret for portraying sharks as creatures that target human beings. (ต่อมาเขาได้แสดงความเสียใจที่พรรณนาฉลามเป็นสัตว์ที่โจมตีมนุษย์)
แยกแยะระหว่าง Sorry, Apologize, Excuse me
Sorry | Apologize | Excuse me | |
คำศัพท์ | Sorry (adj) | Apologize (v) หรือ Apologise (v) | Excuse (n; v) |
การออกเสียง | /ˈsɒri/ | /əˈpɒlədʒaɪz/ | /ɪkˈskjuːs/ |
ความหมาย | 1. รู้สึกเศร้าและอายที่ได้ก่อความผิดพลาด ในกรณีนี้ ‘sorry’ จะไม่อยู่หน้าคำนาม 2. รู้สึกเศร้าและเห็นใจต่อบางสิ่ง ในกรณีนี้ ‘sorry’ จะไม่อยู่หน้าคำนาม 3. รู้สึกเสียใจต่อสิ่งที่ได้ทำลงไปและหวังว่าตนเองจะทำต่างไปหรือไม่เคยทำสิ่งนั้น ในกรณีนี้ ‘sorry’ จะไม่อยู่หน้าคำนาม 4. เหตุการณ์ที่น่าเศร้าและเลวร้าย โดยเฉพาะเหตุการณ์ที่ทำให้คุณรู้สึกเสียใจหรือยอมรับไม่ได้ ในกรณีนี้ ‘sorry’ จะอยู่หน้าคำนามเท่านั้น | ขอโทษเมื่อทำให้เกิดข้อผิดพลาด ความไม่สะดวกหรือปัญหาให้กับผู้อื่น | 1. (n) เหตุผลในการอธิบายหรือแก้ตัวการกระทำของผู้อื่น 2. (n) ข้อแก้ตัวเพื่อพิสูจน์เหตุผลที่แท้จริงที่ไม่อยากเปิดเผย 3. (n) ใบขออนุญาตที่พ่อแม่หรือแพทย์เขียนขึ้นเพื่ออธิบายเหตุผลในการขาดเข้าร่วมของลูก 4. (v) ยกโทษให้ใครบางคนในสิ่งที่พวกเขาทำ การยกโทษเพราะพวกเขาไม่สุภาพ หรือรู้ว่าตัวเองจะไม่สุภาพได้(v) อ้างอิง, อ้างสิทธิ 5. (v) แก้ตัว อ้างสิทธิ 6. (v) ลาออก (จากงานกิจกรรม) อย่างสุภาพ หรืออนุญาตให้บุคคลใดออกไปอย่างสุภาพ |
ตัวอย่าง | 1. We are sorry about / for losing your keys. We should have been more careful. (พวกเราขอโทษที่ทำกุญแจของคุณหาย เราควรจะระมัดระวังมากกว่านี้) 2. I am sorry about your failure in the exam = I am sorry to hear that you failed the exam. (ฉันเสียใจมากที่คุณสอบตก) 3. John is sorry to make Mary cry = John is sorry (that) he made Mary cry. (จอห์นเสียใจที่ทำให้แมรี่ร้องไห้) 4. Obviously, that was a sorry accident, all of us have not forgotten it yet. (แน่นอนว่านั่นเป็นอุบัติเหตุที่น่าเศร้า พวกเราทุกคนยังไม่ลืมมันเลย) | The airline apologized to all of passengers for delaying unexpectedly the flight Z100 within 1 hour. (สายการบินขอโทษผู้โดยสารทุกคนสำหรับการเลื่อนเวลาของเที่ยวบิน Z100 ที่ไม่คาดคิดก่อนเวลาบิน 1 ชั่วโมง) | 1. Jim gave his excuse for not going to school in this morning. (Jim ให้เหตุผลสำหรับการไม่ไปโรงเรียนในเช้านี้) 2. You’re late again. Don’t give me an excuse! (คุณมาสายอีกแล้ว อย่าแก้ตัวนะ!). 3. Teachers only accept an absence which is accompanied by an excuse. (ครูรับเฉพาะการขาดเรียนที่มาพร้อมกับใบขออนุญาตเท่านั้น) 4. I hope that you will excuse him (for) not using chopsticks when eating. (ฉันหวังว่าคุณจะยกโทษเขา (สำหรับ) การที่ไม่ใช้ตะเกียบเมื่อกิน) 5. You cannot excuse for your rude. (คุณไม่สามารถแก้ตัวสำหรับความหยาบคายของคุณได้) 6. Please feel free to enjoy your meals, I will excuse in 10 minutes. (เชิญรับประทานอาหารให้อร่อยได้เลย ฉันจะออกไปใน 10 นาที). |
ความแตกต่าง | คำคุณศัพท์ ‘sorry’ ส่วนใหญ่จะไม่อยู่หน้าคำนามเมื่อมีความหมายว่า ขอโทษ / เสียใจต่อการกระทำที่ตัวเองหรือคนอื่นก่อขึ้น ‘Sorry’ มักจะใช้ในความหมายว่า ยอมรับความผิดด้วยความจริงใจและเสียใจอย่างมาก มันยังถูกเรียกว่า heartfelt apology (คำขอโทษที่ออกมาจากใจ) ถ้ามีใครพูดว่า ‘sorry’ แต่ไม่รู้สึกเสียใจจริงๆ นั่นหมายถึงเขาโกหกประการที่สาม คำคุณศัพท์ ‘sorry’ ไม่ได้แสดงถึงความเสียใจหรือขอโทษจากตัวผู้พูดหรือผู้เขียนที่ได้ก่อเหตุการณ์เท่านั้น แต่ยังแสดงถึงความรู้สึกเห็นใจและเสียใจจากผู้ที่ไม่ได้ก่อเหตุด้วย | “Apologize” หมายถึงการยอมรับความผิดด้วยทางที่เป็นทางการและสำคัญ อาจเป็นจริงใจหรือไม่ก็ได้ นั่นหมายความว่าคนที่ใช้คำว่า “apologize” อาจจะขอโทษโดยไม่รู้สึกผิด | “Excuse” ไม่เพียงแค่เป็นคำกริยาเท่านั้นแต่ยังเป็นคำนามด้วยในทางการขอโทษ กริยา “excuse” มีจุดมุ่งหวังที่จะขอโทษสำหรับความไม่ตั้งใจ โดยตัวเองผู้พูดหรือผู้เขียนรู้ว่าเหตุการณ์นั้นไม่สุภาพ มันแตกต่างกับคำว่า sorry และ apologize (ขอโทษอย่างจริงใจ) หรือกริยา apologize (ขอโทษสำหรับการกระทำที่ตั้งใจ)เรามักใช้หรือได้ยินวลี “Excuse me!” นี่เป็นการขอโทษที่แท้จริง จะใช้เมื่อเรากำลังจะทำ / ถามสิ่งใดสิ่งหนึ่งและหวังว่าผู้ฟังจะให้ความสนใจในสิ่งที่จะพูด |
>>> Read more: แยกแยะวิธีใช้ yet still just already พร้อมตัวอย่าง
วิธีใช้คำ “sorry”
เมื่อทำผิดสิ่งใดสิ่งหนึ่ง
นี่เป็นวิธีการใช้ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของคำว่า “sorry” แม้ว่าความผิดพลาดจะเป็นโดยเจตนาหรือไม่ก็ตาม ตัวอย่างเช่น “I’m so sorry. I was incorrect” (ขอโทษครับ/ค่ะ ฉันผิดแล้ว)
นอกจากนี้ ในบริบทนี้คุณยังสามารถใช้วลีและแบบประโยคอื่นๆ เช่น:
- That was wrong of me. I promise I will never do it again.
ควาหมาย: นั่นเป็นความผิดของฉัน ฉันสัญญาว่า ฉันจะไม่ทำอีก
- I apologize for my mistake. I should have been paying more attention.
ความหมาย: นั่นเป็นความผิดของฉัน ฉันสัญญาว่าจะไม่ทำซ้ำอีก
เมื่อทำให้คนอื่นเจ็บปวด
บางครั้งคำพูดและการกระทำของเราจะสร้างผลกระทบและทำให้คนรอบข้างเจ็บปวด ในสถานการณ์เช่นนี้ คุณควรขอโทษเพื่อขอรับการอภัยและสามารถถามว่าคุณสามารถทำอะไรเพื่อทำให้อีกฝ่ายรู้สึกดีขึ้น
ตัวอย่าง: I’m very sorry for forgetting the groceries. Please don’t be mad at me
ความหมาย: ฉันขอโทษเป็นอย่างมากที่ลืมของ โปรดอย่าโกรธฉันเลย
ในทำนองเดียวกัน คุณยังสามารถใช้วลีอื่นๆ ในบริบทนี้ได้
- I’m filled with remorse for what I did last night.
ความหมาย: ฉันรู้สึกผิดเป็นอย่างมากสำหรับสิ่งที่ฉันทำเมื่อคืนวาน
- I didn’t mean to hurt you. Will you please give me another chance?
ความหมาย: ฉันไม่ได้ตั้งใจทำให้คุณเจ็บปวด โปรดให้โอกาสฉันอีกครั้งได้ไหม?
เมื่อต้องการแสดงความเห็นด้วย
คำขอโทษไม่ใช่ใช้แค่พูดเมื่อคุณทำผิดเท่านั้น บางครั้ง เมื่อคนรอบตัวคุณพบเจอกับความโศกเศร้าหรือมีเรื่องเลวร้ายเกิดขึ้น เรายังสามารถใช้คำว่า “sorry” เพื่อแสดงความเข้าใจและความเห็นอกเห็นใจได้
ตัวอย่าง: “I’m very sorry. I’ve been through this and I understand how you feel” (ฉันเสียใจด้วย ฉันเคยผ่านเหตุการณ์นี้มาแล้ว ก็เลยเข้าใจว่าคุณรู้สึกอย่างไร)
หากคุณต้องการแสดงความเสียใจต่อใครสักคนเมื่อคนสนิทเสียชีวิต คุณสามารถใช้วลี “My condolences” (ขอแสดงความเสียใจ) แทน “I’m sorry” ได้
>>> Read more: คำที่ใช้แทน “Yes” ในภาษาอังกฤษ
เมื่อต้องการดึงดูดความสนใจ
ในบางกรณี เช่น การถามเส้นทาง เรียกพนักงานเสิร์ฟหรือต้องการความช่วยเหลือ คุณสามารถเริ่มต้นคำทักทายด้วยวลี “sorry”
เช่น: “Sorry, could you please repeat what you said?” (ขออภัย คุณช่วยพูดซ้ำประโยคที่คุณเพิ่งจะพูดได้ไหม) นอกจาก “sorry” คุณยังสามารถใช้ “pardon” และ “excuse me” ในบริบทเช่นนี้ได้
คำถามที่พบบ่อย
วลีที่มีความหมายเหมือนกับ “sorry”
- I apologize. (ฉันขอโทษ)
- Please forgive me. (โปรดให้อภัยฉัน)
- I owe you an apology. (ฉันติดค้างคำขอโทษคุณ)
- I don’t mean to make you displeased. (ฉันไม่ได้ตั้งใจจะทำให้คุณไม่พอใจ)
- How should I apologize you? (ฉันควรขอโทษคุณอย่างไรดี)
>>> Read more: +50 ประโยคขอโทษภาษาอังกฤษอย่างจริงใจที่สุด
ขอโทษที่รบกวนภาษาอังกฤษคืออะไร?
ขอโทษที่รบกวนในภาษาอังกฤษคือ Sorry to bother you.
ควรใช้ Sorry หรือ Apologize
ขึ้นอยู่กับบริบทที่จะเลือกใช้ “sorry” หรือ “apologize” หากคุณต้องการแสดงคำขอโทษอย่างจริงใจหรือความผิดพลาดนั้นเกิดจากตัวคุณเอง “sorry” เป็นตัวเลือกที่ถูกต้อง ในขณะที่ “apologize” เหมาะกว่าเมื่อคุณต้องการแสดงความขอโทษอย่างเป็นทางการและสำคัญ ซึ่งอาจจะจริงใจหรือไม่จริงใจก็ได้
ELSA Speak หวังว่าจากบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับคุณในการสื่อสารและการใช้ “sorry” ในการสนทนาอย่างมีประสิทธิภาพ มาติดตาม ELSA Speak ในบทความต่อไปนะ!
>>> Read more:
Proper noun เป็นส่วนหนึ่งที่มีความสำคัญในภาษาอังกฤษ และมักใช้ได้ในทุกบทโดยเฉพาะในการเขียนเรียงความ งั้น Proper noun คืออะไร ความแตกต่างระหว่าง Proper noun และ Compound noun อย่างไร มาเรียนรู้ด้วย ELSA Speak ในบทความด้านล่างนี้
Proper noun คืออะไร?
ความหมายของ Proper noun
Proper noun เป็นคำนามพิเศษที่หมายถึงชื่อเฉพาะของบุคคล สถานที่ องค์กร หรือเหตุการณ์เฉพาะเจาะจง
ตัวอย่างเกี่ยวกับประเภทของ Proper noun
คำนามชื่อเฉพาะได้แบ่งเป็น
- บุคคล (People) คำนามชื่อเฉพาะหมายถึงบุคคล
ตัวอย่าง John, Mary, David.
- สถานที่ (Places) คำนามเฉพาะใช้เพื่อบอกชื่อสถานที่ เช่น เมือง ประเทศ สวนสาธารณะ แม่น้ำ ภูเขา ฯลฯ
ตัวอย่าง London, Thailand, Central Park, Nile River, Mount Everest.
- องค์กร (Organizations) คำนามเฉพาะใช้เพื่อบอกชื่อองค์กร บริษัท โรงเรียน ฯลฯ
ตัวอย่าง Apple Inc., Harvard University, United Nations.
- เหตุการณ์ (Events) คำนามเฉพาะใช้เพื่อบอกชื่อเหตุการณ์ วันหยุด งานแสดงสินค้า ฯลฯ
ตัวอย่าง Christmas, New Year’s Day, Super Bowl.
- ผลงาน (Works) คำนามเฉพาะใช้เพื่อเรียกชื่อผลงาน เช่น หนังสือ เพลง ภาพยนตร์ เป็นต้น
ตัวอย่าง Pride and Prejudice, “Bohemian Rhapsody”, Titanic.
>>> Read more:
โครงสร้างและการใช้ Proper noun
โครงสร้าง
โดยละเอียด Proper noun เป็นวลีที่ประกอบด้วย 2 องค์ประกอบ ดังนี้
- Proper (คำคุณศัพท์) แปลว่า เฉพาะ
- Noun (คำนาม) แปลว่า คำนาม
ดังนั้น เมื่อผสมกันแล้วจะได้ Proper Noun คือ คำนามชื่อเฉพาะ
สำหรับการออกเสียง Proper noun มี 2 วิธีในการออกเสียง
- ออกเสียง อังกฤษ อังกฤษ /ˈprɒp.ə ˌnaʊn/
- ออกเสียง อังกฤษ อเมริกา /ˈprɑː.pɚ ˌnaʊn/
การใช้ Proper noun
ในส่วนของการใช้งาน Proper noun ทำหน้าที่เป็นคำนามในประโยค ดังนั้น จึงใช้เหมือนคำนาม (N) และมักจะอยู่ในตำแหน่งในประโยค เช่น วางที่ไว้ต้นประโยคจะทำหน้าที่เป็นประธาน วางหลังคำคุณศัพท์ วางหลังคำกริยาทำหน้าที่เป็นกรรม นอกจากนี้ Proper Noun ยังสามารถวางไว้ที่หลังคำนำหน้านาม (a, an, the, this, that, these, those, each, every,…) หรือสามารถอยู่หลังคำบุพบท (in, on, at, of, with, under, about…)
ดูตำแหน่งการใช้คำนามเฉพาะ ได้ตามตัวอย่างต่อไปนี้
- “I visited Paris last year.” (ฉันไปปารีสเมื่อปีที่แล้ว)
- “My favorite actor is Tom Hanks.” (ทอมแฮงค์สเป็นนักแสดงที่ฉันชอบ)
- “We attended the wedding of Sarah and Mark.” (พวกเราไปเข้าร่วมงานแต่งงานของซาราและมาร์ค)
>>> Read more: การใช้ this that these those (คําสรรพนามชี้เฉพาะ) ด้วยแบบฝึกหัด
กฎการใช้อักษรตัวพิมพ์ใหญ่กับคำนามเฉพาะ
- ใช้อักษรตัวพิมพ์ใหญ่เฉพาะทิศทาง เช่น ตะวันออก ตะวันตก เหนือ และใต้ หากได้ใช้เหมือนส่วนหนึ่งของชื่อสถานที่
ตัวอย่าง The Western Ghat section is extremely serene
- ใช้อักษรตัวพิมพ์ใหญ่สำหรับความสัมพันธ์ ในกรณีที่ใช้แทนชื่อ เพื่อกำหนดบุคคลนั้นโดยเฉพาะ
ตัวอย่าง Did you know that Dad won the lottery?
- วันและเดือน ควรเขียนเป็นพิมพ์ใหญ่เสมอ
ตัวอย่าง Are you coming home on Wednesday?
- ฤดูกาลไม่จำเป็นต้องเป็นตัวพิมพ์ใหญ่ เหมือนความสัมพันธ์ ฤดูกาลสามารถเขียนเป็นตัวพิมพ์เล็กได้ เมื่อมันได้ใช้เหมือนเป็นส่วนหนึ่งของชื่อเฉพาะ
ตัวอย่าง I would love to visit Canada in the spring season.
“The Autumn Leaf” is a short collection of poems by different authors.
- อาชีพและตำแหน่งในงานก็ยึดตามกฎเดียวกันด้วย คุณสามารถใช้อักษรตัวพิมพ์ใหญ่เพื่อเริ่มต้นอาชีพหรือตำแหน่งงานได้เมื่อใช้ในการตั้งชื่อ หรือกล่าวถึงบุคคลอื่น
ตัวอย่าง Prime Minister Narendra Modi initiated the Republic Day events by hoisting the flag.
- สัญชาติและประเทศควรใช้ตัวพิมพ์ใหญ่เสมอ เนื่องจากเป็นคำนามชื่อเฉพาะและมักจะใช้เพื่อระบุสถานที่ เชื้อชาติ หรือกลุ่มบุคคลโดยเฉพาะ
ตัวอย่าง The British ruled over India for almost two centuries.
- คุณต้องใช้อักษรตัวพิมพ์ใหญ่เสมอ เมื่ออ้างถึงแบรนด์ใดแบรนด์หนึ่ง
ตัวอย่าง He asked his mom to buy him Puma sneakers.
- ภาษาควรเป็นตัวพิมพ์ใหญ่เสมอ เพราะเป็นคำนามชื่อเฉพาะ อาจจะรวมไปถึงภาษาถิ่น หรือสำเนียงที่ไม่เหมือนกัน แต่ภาษาพื้นฐานยังคงเหมือนเดิม ตัวอย่าง ภาษาอังกฤษมีหลายภาษาถิ่น เช่น ภาษาอังกฤษ-อังกฤษ ภาษาอังกฤษ-อเมริกา ภาษาอังกฤษ-อินเดีย ภาษาอังกฤษแคนาดา ภาษาอังกฤษออสเตรเลีย ฯลฯ
ตัวอย่าง I know four languages: English, Hindi, Tamil and Malayalam
- เหตุการณ์ที่มีความสำคัญในประวัติศาสตร์ ยุคสมัย จะใช้ตัวพิมพ์ใหญ่ แต่ศตวรรษจะไม่เขียนเป็นตัวพิมพ์ใหญ่ได้
ตัวอย่าง British India was also an age of development in the field of science and education
วลีบางคำที่เกี่ยวข้องกับ Proper noun
ภาษาอังกฤษ | ความหมาย |
proper name | ชื่อเฉพาะ |
common noun | คำนามทั่วไป |
noun | คำนาม |
countable noun | คำนามนับได้ |
uncountable noun | คำนามที่นับไม่ได้ |
ความแตกต่างระหว่าง Proper noun และ Compound noun
Compound noun | Proper noun | |
ความหมาย | คำนามประสมประกอบด้วยคำตั้งแต่ 2 คำขึ้นไปมารวมกัน ดังนั้นคำนามประสม จึงสามารถเขียนเป็นคำสองคำที่แยกจากกัน โดยมีเครื่องหมายยัติภังค์อยู่ระหว่างคำทั้งสองหรือรวมกัน | คำนามใช้เรียกคน สัตว์ วัตถุ ความรู้สึก และความคิด แบบชี้เฉพาะเจาะจง |
ตัวอย่าง | Non-stop train (รถไฟไม่หยุด) Writing-table (โต๊ะเขียนหนังสือ) Greenhouse (เรือนกระจก) | John (ชื่อ) London (สถานที่) The New York Times (แบรนด์) |
วิธีเขียน | โดยปกติจะเป็นตัวพิมพ์เล็ก ยกเว้นแต่จะอยู่ต้นประโยค | จะต้องเป็นตัวพิมพ์ใหญ่ |
ใช้เป็นชื่อตำแหน่ง | ไม่สามารถใช้ได้ | สามารถใช้ได้ |
แบบฝึกหัดเกี่ยวกับคำนามเฉพาะ
เปลี่ยนคำนามชื่อเฉพาะในประโยคต่อไปนี้ให้เป็นตัวพิมพ์ใหญ่
- Did you meet sanju yesterday?
- The manager took us all to KFC for lunch today.
- Have you read about the Mughal empire?
- I wish I had a holiday on monday.
- Darshana picked up the regional language, Kannada, sooner than we all thought she would.
- When did Susan reach home last night?
- It is too sultry in the month of may.
- I told mom about your test results.
- I think the new girl is from South America.
- My dad bought me a Gucci bag for my birthday.
เฉลย
1. Sanju | 2. The Manager | 3. Mughal empire | 4. Monday | 5. Regional language, Kannada |
6. Susan | 7. May | 8. Mom | 9. South America | 10. Gucci |
คำถามที่พบบ่อย
Compound noun คืออะไร?
Compound noun คือ คำนามประสม
Proper nouns คืออะไร?
Proper nouns คือ คำนามชื่อเฉพาะ
ELSA Speak หวังว่า บทความนี้จะมีประโยชน์กับคุณในการเรียนเกี่ยวกับไวยากรณ์ Proper noun อย่าลืมติดตาม ELSA Speak ในบทความต่อไปนะ