Author: [email protected]
ทักษะการฟังเป็น 1 ในทักษะมีความสำคัญที่สุดสำหรับผู้เริ่มเรียนภาษาอังกฤษ แต่ว่าการฝึกฟังภาษาอังกฤษมีความยากลำบากเล็กน้อย ด้วยเหตุนี้ ELSA ขอแนะนำวิธีการฝึกทักษะการฟังที่ใกล้เคียงกับตัวคุณเองและมีประสิทธิภาพเป็นอย่างสูง มาดูกันผ่านบทความต่อไปนี้
ฝึกภาษาอังกฤษจากหนัง
หนังสําหรับฝึกภาษาอังกฤษจำแนกออกได้เป็น 2 ประเภท คือ ภาพยนตร์ของชาวไทยที่ได้แปลเป็นภาษาอังกฤษสำหรับผู้ชมต่างประเทศ และภาพยนตร์ของฮอลลีวูดที่ได้แปลเป็นภาษาไทย
ปัจจุบัน เทคโนโลยีภาพยนตร์ได้พัฒนาอย่างรวดเร็ว คุณจึงสามารถพบภาพยนตร์ 2 ประเภทดังกล่าวอย่างง่ายดาย ซึ่งจะไม่พูดถึงไม่ได้เลย คือ วิธีฝึกภาษาอังกฤษผ่าน Netflix แต่ควรระวังประเด็นดังต่อไปนี้
- ควรดูหนังภาษาไทยเพื่อเข้าใจเนื้อเรื่องก่อน หลังจากนั้น สามารถเปลี่ยนเป็นภาษาอังกฤษ จะช่วยให้คุณเน้นการใช้คำศัพท์ภาษาอังกฤษได้โดยไม่สูญเสียวงจรอารมณ์ของภาพยนตร์
- เขียนข้อใดที่คุณยังไม่เข้าใจออกมา เมื่อดูหนังเสร็จ มาค้นหาความหมายของข้อนั้นๆ หากค้นหาไม่เจอ ก็ควรต้องขอความช่วยจากครูหรือเพื่อนๆ ก็ได้ เมื่อคุณเข้าใจความหมายของคำศัพท์หรือโครงสร้างประโยคใหม่ๆ แล้ว ก็สามารถทำการเปรียบเทียบกับภาษาแม่เพื่อดูความแตกต่างหรือความคล้ายกันระหว่างทั้งสองภาษา
เมื่อเริ่มฝึกฟังภาษาอังกฤษ ควรเลือกภาพยนตร์แอนิเมชั่นสำหรับเด็กๆ เพราะว่ามันมีเนื้อเรื่องที่เข้าใจง่ายๆ และคำศัพท์ไม่ซับซ้อนเกินไป โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การออกเสียงจากภาพยนตร์ประเภทนี้จะช่วยให้คุณปรับปรุงความสามารถในการฟังของคุณเองเป็นอย่างมาก
![career advancement](https://th.elsaspeak.com/wp-content/uploads/2023/11/DE2666_02-1024x551.jpg)
ฝึกฟังภาษาอังกฤษด้วยวิธี “ปิดไฟ”
วิธี “ปิดไฟ” ได้ใช้อย่างต่อเนื่องโดยนักกวีในศตวรรษที่ 20 ปัจจุบัน ซึ่งได้รับความนิยมและนำใช้ในการสอนภาษาอังกฤษออนไลน์ อย่างแรก ต้องมีไฟล์บันทึกเสียงและสคริปต์ของไฟล์บันทึกนั้น คุณสามารถฝึกภาษาอังกฤษผ่าน Youtube หรือหา Podcast ฝึกภาษาอังกฤษก็ได้ แล้วทำตามขั้นตอนต่อไปนี้
- ฟังไฟล์บันทึกเสียงแต่ไม่อ่านสคริปต์ ควรฟัง 2-3 ครั้งและจดบันทึกข้อใดที่คุณยังไม่เข้าใจ
- ทั้งฟังไฟล์บันทึกเสียงและอ่านสคริปต์ ตอนนี้ คุณจะเข้าใจข้อที่สับสนและสามารถค้นหาคำศัพท์ที่คุณไม่รู้จัก
- คัดออกคำศัพท์ใหม่หรือคำศัพท์ที่คุณรู้สึกน่าสนใจในไฟล์บันทึกเสียง
- สร้างประโยคที่มีความหมายโดยใช้คำศัพท์เหล่านั้น สามารถเลือกคำศัพท์อื่นในสคริปต์เพื่อรวมกับคำที่คุณเคยกรองออกในขั้นตอนที่แล้ว หลังจากนี้ ใช้วิธีเชื่อมโยงเพื่อสร้างประโยคภาษาอังกฤษ
- ใช้ปากกาสีดำเพื่อปกปิดคำศัพท์ที่คุณคัดออกเมื่อกี้ แล้วฟังไฟล์บันทึกเสียงอีกครั้งและพยายามนึกภาพคำศัพท์ที่ได้ปิดไปแล้ว
วิธีบันทึกเสียงกับเพื่อนร่วมทีม
หากคุณไม่ชอบฝึกภาษาอังกฤษด้วยตนเอง ก็สามารถหาเพื่อนร่วมทีมเพื่อฝึกฟังภาษาอังกฤษได้ สำหรับกิจกรรมเป็นกลุ่มเช่นนี้ คุณต้องมีเพื่อนอย่างน้อย 2 คนและคุณควรหาคนที่มีความเชี่ยวชาญในภาษาอังกฤษหรือครู ที่จะสร้างประสิทธิภาพเป็นอย่างสูงสุด
คงต้องใช้เวลาประมาณ 70 นาทีเพื่อทำกิจกรรมนี้ให้เสร็จสิ้น ลองดูขั้นตอนข้างล่างนี้กันเลย
ขั้นตอนที่ 1 การฟัง
- เลือกไฟล์บันทึกเสียงที่คุณรู้เนื้อเรื่องกันแล้ว แต่ละคนจะฟังไฟล์นี้เองแล้วคาดเดาดูว่าตัวเองเข้าใจกี่เปอร์เซ็นต์
- ฟังอีกครั้ง แล้วจดไว้เนื้อความหลักที่คุณฟังออก
ขั้นตอนที่ 2 สร้างใหม่
- แบ่งทีมใหญ่เป็นหลายทีมเล็กๆ เพื่อหารือเกี่ยวกับสิ่งที่เราได้ยินแล้ว หลังจากนี้ แต่ละกลุ่มจะนำเสนอความคิดของตนเอง กิจกรรมนี้ให้ผู้เรียนพัฒนาความมั่นใจและความสามารถในการนำเสนอความคิดเห็นต่อฝูงชนโดยภาษาอังกฤษ ในขณะเดียวกัน ยังช่วยให้ผู้เรียนค้นพบวิธีที่เราสามารถนำใช้เพื่อพัฒนาทักษะการฟังและทักษะการอ่านของตัวเอง
- เมื่อการพิจารณาเสร็จแล้ว แต่ละกลุ่มจะฟังไฟล์บันทึกเสียงครั้งใหม่และพยายามเพิ่มเติมเนื้อเรื่องเพื่อสร้างสถานการณ์ที่สมบูรณ์แบบที่เป็นไปได้
ขั้นตอนที่ 3 หาข้อผิด
แต่ละกลุ่มจะฟังอีกครั้ง แล้วหาข้อผิดเกี่ยวกับไวยากรณ์ คำศัพท์ หรือรายละเอียดของกลุ่มอื่น หลังจากนี้ เราควรร่วมหาสาเหตุและวิธีแก้ไขกัน เพื่อให้สมาชิกทุกคนมีความก้าวหน้าทั้งหมด
ด้วยวิธีการฝึกฟังภาษาอังกฤษสำหรับผู้เริ่มเรียนที่ ELSA แนะนำผ่านบทความนี้ หวังว่าจะช่วยให้คุณมีข้อมูลเพิ่มเติมและมีเวลาเรียนที่มีความสุขและน่าสนใจมากขึ้น แม้แต่เรียนด้วยตัวเองหรือเรียนกับเพื่อนๆ
![banner (compare free vs pro) banner (compare free vs pro)](https://th.elsaspeak.com/wp-content/uploads/2023/11/DE1906_Resize_ELSA-Pro-khac-gi-voi-goi-ELSA-mien-phi-min-1536x864.png-1024x576.webp)
เมื่อเริ่มเรียนภาษาอังกฤษ ใครๆ ก็ต้องเรียน ตัวอักษรภาษาอังกฤษ ก่อน ด้วย 26 ตัวตั้งแต่ตัว A ถึง ตัว Z อย่างไรก็ตาม มีคนไม่ค่อยรู้ว่า หากอยากสะกดและออกเสียงให้ถูกต้อง จึงขึ้นอยู่กับสัทอักษรภาษาอังกฤษแบบสากร (IPA) ไม่ใช่ตัว a, b, c, d,….
ดังนั้น ผ่านบทความนี้ ELSA จะช่วยให้คุณแยกความแตกต่างงระหว่าง ตัวอักษรภาษาอังกฤษ กับสัทอักษรภาษาอังกฤษแบบสากล จากนั้น คุณจะมีมุมมองที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้นและได้รับประโยชน์มากายต่อการเรียนภาษาอังกฤษของตัวเอง
ตัวออักษรภาษาอังกฤษ รวม 26 ตัวออักษร
ตัวอักษรภาษาอังกฤษที่เต็ม
![ตัวอักษรภาษาอังกฤษ](https://th.elsaspeak.com/wp-content/uploads/2023/08/ตัวอักษรภาษาอังกฤษ-DE3570-Thumb-BANG-CHU-CAI-1-1024x515.jpg)
อักษรภาษาอังกฤษมีทั้งหมด 26 ตัว ซึ่งได้แบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือตัวพยัญชนะและตัวสระ พยัญชนะภาษาอังกฤษมี 21 ตัว ส่วนสระภาษาอังกฤษกลับมี 5 ตัวได้แก่ A E I O และ U แล้วในทุกคำศัพท์ก็ต้องมีสระ 1 ตัวเป็นน้อยสุด
มี 2 วิธีการเขียนตัวอักษรคือตัวพิมพ์ใหญ่และตัวพิมพ์เล็ก อักษรตัวพิมพ์ใหญ่ใช้สำหรับอักษรตัวแรกของประโยคและอักษรตัวแรกของชื่อหรือสถานที่
สะกด ตัวอักษรภาษาอังกฤษ
ก่อนที่เราเริ่มเรียนวิธีอ่านสัทอักษร คุณควรเรียนวิธีการสะกดตัวอักษรแต่ละตัวในรูปภาพข้างล่าง การรู้วิธีการสะกดอย่างชัดเจนที่จะช่วยให้คุณปรับปรุงทักษะการฟังและการพูดอย่างรวดเร็ว ปกติหลายคนเรียนภาษาอังกฤษอ่านคำศัพท์ตามความจำ แต่สิ่งนี้จะเกิดความผิดสำหรับคำศัพท์ที่เจอไม่บ่อยหรือไม่เคยใช้ เพราะคุณไม่เข้าใจหลักการสัทอักษรภาษาอังกฤษ
นี่คือ ตัวอักษรภาษาอังกฤษ รวมถึงการสะกดของแต่ละคำ
![ตัวอักษรภาษาอังกฤษ](https://th.elsaspeak.com/wp-content/uploads/2023/08/ตัวอักษรภาษาอังกฤษ-DE3570-Thumb-BANG-CHU-CAI-2-1-1024x515.jpg)
สัทอักษรภาษาอังกฤษแบบสากร (IPA)
อย่างแรก เราจะมาดูกันและวิเคราะห์ตาราง IPA ซึ่งมี่เต็มชื่อว่า International Phonetic Alphabet ต่อไปนี้นะ
หมายเหตุ เมื่อคุณดูคร่าวๆ จะเห็นว่าระหว่างอักษรอังกฤษและตาราง IPA มีข้อคล้ายๆ กันในบางแห่ง แต่เมื่อดูอย่างชัดเจน คุณกลับเห็นว่า 2 สิ่งนี้แยกแยะกันมาก
![ตัวอักษรภาษาอังกฤษ](https://th.elsaspeak.com/wp-content/uploads/2023/08/ตัวอักษรภาษาอังกฤษ-DE3570-Thumb-BANG-CHU-CAI-3-1024x515.jpg)
สัทอักษรภาษาอังกฤษแบบสากรมีทั้งหมด 44 ตัว ได้แก่
- 20 ตัวสระ
- 24 ตัวพยัญชนะ
ใน 20 สระภาษาอังกฤษกลับมี
- 12 ตัวสระเดี่ยว
- 8 ตัวสระควบคล้ำ
(*) 1 ตัวสระควบคล้ำเป็นสระเดี่ยว 2 ตัวมารวมเป็นพยางค์เดียวกัน
ดูเพิ่มเติม – วิธีเรียนสนทนาภาษาอังกฤษพื้นฐานสำหรับผู้เริ่มต้น
จำแนกประเภทสัทอักษรตามลักษณะ เปล่งเสียง-ไร้เสียง
อย่างแรก เราจะไปทำความคุ้นกับ 2 นิยามที่สำคัญที่สุด ซึ่งเกี่ยวข้องกับการออกเสียงภาษาอังกฤษ ได้แก่ ตัวเปล่งเสียงและตัวไร้เสียง เมื่อเราพูด ลักษณะนี้เป็นพื้นฐานต่อการสั่นเส้นเสียงของเราหรือไม่ และลมหายใจที่ขับออกหรือไม่
- ตัวเปล่งเสียง – เราไม่ต้องขับลมหายใจออกจากปากแต่กลับต้องสั่นเส้นเสียง (หารเราวางมือบนคอ จะรู้สักความสั่นเส้นเสียง)
- ตัวไร้เสียง – เราจะต้องขับลมหายใจออกจากปากแต่กลับและไม่สั่นเส้นเสียง (หารเราวางมือบนคอ จะไม่เห็นการสั่นเส้นเสียง)
จำแนกสัทอักษร 44 ตัวตามลักษณะ เปล่งเสียง – ไร้เสียง
- ตัวสระ: ทั้งสระ 20 ตัวก็เป็นตัวเปล่งเสียง
- ตัวพยัณชนะ:
ตัวเปล่งเสียง: /b/, /d/, /ɡ/, /v/, /z/, /ʒ/, /dʒ/, /m/, /n/, /ŋ/, /l/, /r/, /w/, /j/, /ð/ (15 ตัว)
ตัวไร้เสียง: /p/, /t/, /k/, /f/, /s/, /ʃ/, /tʃ/, /h/, /θ/ (9 ตัว)
วิธีออกเสียงอย่างถูกต้องตามตัวสะกดภาษาอังกฤษแบบสากร (IPA)
สระ
- ตัวสระทั้งหมดเป็นตัวเปล่งเสียง ดังนั้น เมื่อเราออกเสียงตัวสระ ก็ต้องสั่นเส้นเสียงและไม่ขับลมหายใจออกจากปาก
- เมื่อเราออกเสียงตัวสระทั้งหมด ต้องออกเสียงในปาก อย่าดันลมขึ้นจะมูกเพื่อออกเสียง
- วิธีการออกเสียงทั้งหมดที่ได้กล่าวข้างล่างจะเน้น 3 ข้อได้แก่ เสียง รูปร่างปากและตำแห่นง-รูปร่างของลิ้น
สระเดี่ยว
ก. /ɪ/
- เสียง ปกติจะเรียกว่า “ตังไอสั้น” เสียงจะจบเร็ว สั้น และทื่อ
- รูปร่างปาก ริมฝีปากไม่แบน แต่เม้มเข้าหากันเล็กน้อย ฟันสองซี่ห่างกันเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
- ตำแห่นง-รูปร่างของลิ้น วางลิ้นต่ำ ผ่อนคลาย และยังคงเหมือนปกติ
ข. / iː/
- เสียง ปกติจะเรียกว่า “ตังไอยาว” เสียงจะจบนานกว่า
- รูปร่างปาก ปากแบนไปด้าน 2 ข้างและแยกฟันเหมือนกำลังยิ้ม ฟันทั้งสองซี่ห่างกันเพียงช่องว่างเล็กๆ
- ตำแห่นง-รูปร่างของลิ้น ยกปลายลิ้นสูงกว่าตัว /ɪ/
ค. /ʊ/
- เสียง ปกติจะเรียกว่า “ตังอูสั้น” ออกเสียงสั้นและจบเร็ว ชาวอังกฤษมักจะออกเสียงตัวนี้เมือนกับตัว อุ ในภาษาไทย ส่วนชาวอเมริกันกลับออกเสียงเมือนตัว อึ อย่างไรก็ตาม ตัวไหนก็แล้วแต่ เราแค่เน้นการออกเสียงสั้นและจบเร็วก็พอแล้ว
- รูปร่างปาก ริมฝีปากค่อยๆ เชิดหน้าและม้วนให้เป็นวงกลมเล็ก ๆ
- ตำแห่นง-รูปร่างของลิ้น วางลิ้นต่ำ ผ่อนคลาย และยังคงเหมือนปกติ
ม. /uː/
- เสียง ปกติจะเรียกว่า “ตังอูยาว” ออกเสียงตัวนี้เหมือนกับการออกเสียงตัว อู ในภาษาไทย
- รูปร่างปาก ริมฝีปากค่อยๆ เชิดหน้าและม้วนให้เป็นวงกลมเล็ก ๆ
- ตำแห่นง-รูปร่างของลิ้น วางลิ้นต่ำ ผ่อนคลาย และยังคงเหมือนปกติ
ง. /e/
- เสียง ออกเสียงเหมือนกับการออกเสียงตัว “แอะ” ในภาษาไทย
- รูปร่างปาก ไม่แบนหรือกลมเกินไป ปากยื่นออกไปในแนวตั้งมากกว่าเสียง /ɪ/ และ /iː/
- ตำแห่นง-รูปร่างของลิ้น วางลิ้นต่ำ ผ่อนคลาย และยังคงเหมือนปกติ
ฉ. /ə/
- เสียง ออกเสียงเหมือนกับการออกเสียงตัว “เอะ” ในภาษาไทย
- รูปร่างปาก รูปปากเหมือนเราอ่านตัว “เอะ”
- ตำแห่นง-รูปร่างของลิ้น วางลิ้นต่ำ ผ่อนคลาย และยังคงเหมือนปกติ
ช. /ɜː/
- เสียง ออกเสียงเหมือนกับการออกเสียงตัว “เอ” ในภาษาไทย
- รูปร่างปาก รูปปากเหมือนเราอ่านตัว “เอ”
- ตำแห่นง-รูปร่างของลิ้น ปลายลิ้นโค้งขึ้นใกล้เพดานคอ
ฌ. /ʌ/
- เสียง ออกเสียงเหมือนกับการออกเสียงตัว “อะ” ในภาษาไทย
- รูปร่างปาก รูปปากจะแบนกว่ารูปปากของตัว /ə/ และ /ɜː/
- ตำแห่นง-รูปร่างของลิ้น ลิ้นค่อยๆ ยกขึ้น
ญ. /ɔː/
- เสียง ออกเสียงเหมือนกับการออกเสียงตัว “ออ” ในภาษาไทย
- รูปร่างปาก ริมฝีปากมุ่ยและกลม
- ตำแห่นง-รูปร่างของลิ้น ปลายลิ้นโค้งขึ้นใกล้กับเพดานปาก
ฎ. /ɒ/
- เสียง ออกเสียงเหมือนกับการออกเสียงตัว “เอาะ” ในภาษาไทย
- รูปร่างปาก รูปปากเหมือนเราอ่านตัว “เอาะ”
- ตำแห่นง-รูปร่างของลิ้น วางลิ้นต่ำ ผ่อนคลาย และยังคงเหมือนปกติ
ฐ. /ɑː/
- เสียง ออกเสียงเหมือนกับการออกเสียงตัว “อา” ในภาษาไทย
- รูปร่างปาก รูปปากเหมือนเราอ่านตัว “อา”
- ตำแห่นง-รูปร่างของลิ้น วางลิ้นต่ำ ผ่อนคลาย และยังคงเหมือนปกติ
ฑ. /æ/
- เสียง ออกเสียงเหมือนกับการออกเสียงตัว “แอะ” ในภาษาไทย
- รูปร่างปาก ปากเปิดกว้าง แต่เอียงในแนวนอน และวางริมฝีปากล่างต่ำลง
- ตำแห่นง-รูปร่างของลิ้น วางลิ้นต่ำ ผ่อนคลาย และยังคงเหมือนปกติ
สระคู่
- /ɪə/ ออกเสียง /ɪ/ แล้วค่อยๆ เปลี่ยนเป็น /ə/ ออกเสียงเหมือนตัว “เอีย” ในภาษาไทย ปากแบนก่อนแล้วกลายเป็นวงกลมทีหลัง
- /ʊə/ ออกเสียง /ʊ/ แล้วค่อยๆ เปลี่ยนเป็น /ə/ ออกเสียงเหมือนตัว “อัว” ในภาษาไทย ปากเปลี่ยนจากแคบเป็นกว้างขึ้น
- /eə/ ออกเสียง /e/ แล้วค่อยๆ เปลี่ยนเป็น /ə/ ออกเสียงเหมือนตัว “แอ” ในภาษาไทย ปากแบนก่อนแล้วกลายเป็นวงกลมทีหลัง
- /eɪ/ ออกเสียง /e/ แล้วค่อยๆ เปลี่ยนเป็น /ɪ/ ออกเสียงเหมือนตัว “ไอย” ในภาษาไทย ปากแคบลงในแนวตั้ง
- /ɔɪ / ออกเสียง /ɔː/ แล้วค่อยๆ เปลี่ยนเป็น /ɪ/ ออกเสียงเหมือนตัว “ออย” ในภาษาไทย ปากเปิดเป็นกลมแล้วแบนทีหลัง
- /aɪ/ ออกเสียง /ɑː/ แล้วค่อยๆ เปลี่ยนเป็น /ɪ/ ออกเสียงเหมือนตัว “เอย์” ในภาษาไทย ปากเปิดเป็นกลมแล้วแบนทีหลัง
- /əʊ/ ออกเสียง /ə/ แล้วค่อยๆ เปลี่ยนเป็น /ʊ/ ออกเสียงเหมือนตัว “โอว” ในภาษาไทย ริมฝีปากค่อยๆถูกบีบและดึงไปข้างหน้า
- /aʊ/ ออกเสียง /ɑː/ แล้วค่อยๆ เปลี่ยนเป็น /ʊ/ ออกเสียงเหมือนตัว “อาว” ในภาษาไทย ริมฝีปากค่อยๆถูกบีบและดึงไปข้างหน้า
พยัญชนะ
คู่พยัญชนะที่ได้ออกเสียงที่ถูกต้อง
หมายเหตุ เสียงของทั้ง 8 คู่คำต่อไปมีรูปร่างปากและการควบคุมลิ้นที่เหมือนกัน แต่มีลักษณะการเปล่งเสียง-ไร้เปล่งกลับต่างกัน
1. คู่คำที่ 1 /b/ – /p/
- รูปร่างปากและการควบคุมลิ้น เริ่มต้นด้วยการเม้มปาก จากนั้นเปิดปากและออกเสียง วางลิ้นอยู่ต่ำ ผ่อนคลาย และนอนตามปกติ
- /b/ เป็นตัวเปล่งเสียง จึงเปิดริมฝีปากเบาๆ ไม่ขับลมออก และสั่นเส้นเสียง
- /p/ เป็นตัวไร้เสียง จึงริมฝีปากเม้มแน่น ขับลมออกมาอย่างแรง แลสร้างเสียงระเบิด
2.คู่ที่ 2 /d/ – /t/
- รูปร่างปากและการควบคุมลิ้น ปากแบนและฟันไม่แยก ในตอนเริ่มต้นของการออกเสียง ปลายลิ้นแตะด้านหลังรากของฟันบนแล้วเคลื่อนออกไป
- /d/ เป็นตัวเปล่งเสียง เมื่อปลายลิ้นออกจากรากของฟันบน เราจึงสั่นเส้นเสียง
- /t/ เป็นตัวไร้เสียง เมื่อปลายลิ้นออกจากรากของฟันบน เราจึงไม่สั่นเส้นเสียง แต่กลับลมหายใจจากปากเพื่อสร้างเสียง
3.คู่ที่ 3 /ɡ/ – /k/
- รูปร่างปากและการควบคุมลิ้น ปากค่อยๆ เปิด ปลายลิ้นยกขึ้นแตะส่วนที่อ่อนนุ่มด้านบนและไม่ให้ขับลมออก จากนั้นวางลิ้นลดลงอย่างรวดเร็วและขับลมออก
- /ɡ/ เป็นตัวเปล่งเสียง เราจึงสั่นเส้นเสียง
- /k/ เป็นตัวไร้เสียง เราจึงไม่สั่นเส้นเสียงและสร้างเสียงระเบิด
4.คู่ที่ 4 /v/ – /f/
- รูปร่างปากและการควบคุมลิ้น ใช้ฟันบนกัดริมฝีปากล่างเบาๆ
- /v/ เป็นตัวเปล่งเสียง เราจึงสั่นเส้นเสียง แต่กลับม่ให้ขับลมออก และจะรู้สึกถึงการสั่นของริมฝีปากล่าง ซึ่งเกิดจากลมที่อุดกั้น
- /f/ เป็นตัวไร้เสียง เราจึงไม่สั่นเส้นเสียง แต่กลับขับลมออกผ่านช่องว่างเล็กๆ ระหว่างฟันบนกับริมฝีปากล่าง
5.คู่ที่ 5 /z/ – /s/
- รูปร่างปากและการควบคุมลิ้น ริมฝีปากหลวม ฟันปิดครึ่งซี่สองซี่ ให้ปลายลิ้นสัมผัสกับรากฟันบน
- /z/ เป็นตัวเปล่งเสียง เราจึงสั่นเส้นเสียง แต่กลับไม่ให้ขับลมออก ซึ่งจะดักจับลมที่จุดสัมผัสระหว่างปลายลิ้นกับโคนฟันบน สิ่งนี้จะสร้างเสียง “ซี ซี” เหมือนเสียงผึ้ง
- /s/ เป็นตัวไร้เสียง เราจึงไม่สั่นเส้นเสียง เราจะดันลมออกผ่านจุดสัมผัสระหว่างปลายลิ้นกับโคนฟันบน ซึ่งจะมีเสียงเหมือนเสียงงู
6.คู่ที่ 6 /ʒ/ – /ʃ/
- รูปร่างปากและการควบคุมลิ้น ริมฝีปากหลวม ฟันสองซี่ปิดไม่มด ม้วนปลายลิ้นขึ้นไปถึงเพดานคอ
- /ʒ/ เป็นตัวเปล่งเสียง เราจึงสั่นเส้นเสียง แต่กลับไม่ให้ขับลมออก
- /ʃ/ เป็นตัวไร้เสียง เราจึงไม่สั่นเส้นเสียง แต่กลับให้ขับลมออก
7.คู่ที่ 7 /dʒ/ – /tʃ/
- รูปร่างปากและการควบคุมลิ้น ริมฝีปากหลวม ฟันสองซี่ปิดไม่มด ส่วนกลางลิ้นยกขึ้นและแตะเพดานปาก
- /dʒ/ เป็นตัวเปล่งเสียง ดังนั้น เมื่อดึงลิ้นออกจากเพดานปาก เราจึงสั่นเส้นเสียงเพื่อสร้างสะเทียน
- /tʃ/ เป็นตัวไร้เสียง ดังนั้น เมื่อดึงลิ้นออกจากเพดานปาก เราจึงไม่สั่นเส้นเสียง แต่กลับให้ขับลมออก
8.คู่ที่ 8 /ð/ – /θ/
- ปร่างปากและการควบคุมลิ้น ปากเปิดเล็กน้อยและแบน ปลายลิ้นแตะฟันบนและยื่นออกมาเล็กน้อย
- /ð/ เป็นตัวเปล่งเสียง เราจึงสั่นเส้นเสียง แต่กลับไม่ให้ขับลมออก ลมจะติดอยู่ที่บริเวณสัมผัสระหว่างลิ้นกับฟันบน ซึ่งสร้างการสั่นเส้นเสียงตรงกลางลิ้นและฝันบน
- /θ/ เป็นตัวไร้เสียง เราจึงไม่สั่นเส้นเสียงและขับลมออกผ่านจุดที่สัมผัสระหว่างลิ้นกับฟันบน
เสียงจมูกและเปล่งเสียง
- /m/ บีบริมฝีปากเข้าด้วยกันและสร้างเสียงโดยดันลมขึ้นจมูกแล้วขับลมออกจากจมูก
- /n/ ใช้ปลายลิ้นแตะเพดานปากและสร้างเสียงโดยดันลมขึ้นจมูกแล้วขับลมออกจากจมูก
- /ŋ/ โคนลิ้นยกขึ้นแตะเพดานอ่อนด้านบนและสร้างเสียงโดยดันลมขึ้นจมูกแล้วขับลมออกจากจมูก
พยัญชนะที่เหลือ
- /l/ (ตัวเปล่งเสียง) ยกปลายลิ้นและแตะโดนฟันบน ม้วนลิ้นขึ้นเพื่อแตะเพดานปากและสั่นเส้นเสียงเพื่อสร้างเสียง
- /r/ (ตัวเปล่งเสียง) ด้านหลังของลิ้นยกขึ้นแตะส่วนบนของเพดานปาก ส่วนกลางของลิ้นถูกวางลงทำให้เกิดที่ราบ ปลายลิ้นชี้ขึ้น อย่าลืมรักษาความโค้งสำหรับพื้นที่ราบ สั่นเส้นเสียงเพื่อให้เกิดเสียง
- /w/ (ตัวเปล่งเสียง) เหน็บแก้มและทำให้ริมฝีปากอวบอิ่มและกลม ออกแรงที่ปลายริมฝีปาก ค่อยๆ เปิดริมฝีปากให้กว้างเหมือนออกเสียนงตัว “ว” ในภาษาไทย
- /j/ (ตัวเปล่งเสียง) นี่คือเสียงเพดานปากที่ไม่สมบูรณ์ ซึ่งมีรูปกึ่งสระนำหน้าด้วยสระ
- /h/ (ตัวไร้เสียง) เปิดปาก หายใจเข้า แล้วเหน็บท้องและขับลมออก
ข้อมูลที่กล่างข้างต้นจะช่วยให้คุณแยกความแตกต่างระหว่างตังอักษรภาษาอังกฤษและสัทอักษรภาษาอังกฤษแบบสากรได้ง่าย ซึ่งคุณจะรู้วิธีการสะกดอักษรอังกฤษ 26 ตัว และสามารถจดจำสัญลักษณ์และออกเสียงทั้ง 44 เสียงได้อย่างถูกต้องในตาราง IPA ELSA หวังว่าบทความนี้จะมีประโยชน์ต่อการเรียยนภาษาอังกฤษของคุณ
แล้วพบกันในบทเรียนต่อไป
ELSA Speak เป็นแอพเรียนภาษาอังกฤษที่โดดเด่นที่สุดในทั่วโลก ซึ่งมีหลักสูตรหลากหลายด้วยระยะเวลาที่แตกต่างกันไป โดยเฉพาะแพ็คเกจ ELSA Speak 1 ปี ที่ดึงดุดผู้เรียนจำนวนมากมาย งั้นคุณรู้วิธีซื้อแพ็คเกจนี้แล้วหรือยัง โปรดอ่านคำแนะนำผ่านบทความต่อไปนี้
แนะนำวิธีการซื้อแพ็คเกจ ELSA Speak 1 ปี
หลังจากที่ดาวน์โหลด ELSA Speak เสร็จ คุณสามารถซื้อแพ็คเกจ ELSA Speak 1 ปีด้วยขั้นตอนดังนี้
ขั้นตอนที่ 1: เข้า ELSA โปร | ![]() |
ขั้นตอนที่ 2: กรอกข้อมูลของผู้ซื้อได้แก่ ชื่อ/นามสกุล หมายเลขโทรศัพท์ และที่อยู่อีเมล | ![]() |
ขั้นตอนที่ 3: เลือกซื้อแพ็คเกจ ELSA โปรตามที่คุณสนใจ (ในที่นี้ เลือก ELSA 1 ปี) | ![]() |
ขั้นตอนที่ 4: เลือกรูปแบบการชำระเงินสำหรับแพ็คเกจ ELSA โปร 1 ปี คุณสามารถชำระเงินผ่าน Payoo ด้วยบัตร ATM Visa JCB ผ่าน PayPal Momo หรือวิธีอื่นด้วยการสแกนรหัส QR หลังจากที่ชำระเงินเรียบร้อยแล้ว คุณจะได้รับรหัสเข้าบัญชีผ่านข้อความ SMS และอีเมลที่คุณเคยลงทะเบียนไปไว้ นอกจากนี้ คุณสามารถเลือกวิธีส่งรหัสบัญชีถึงบ้าน แล้วชำระด้วยเงินสดและฟรีค่าส่ง | ![]() |
ขั้นตอนที่ 5: เข้าแอพแล้ว เลือกไอคอนฟันเฟืองที่มุมขวาของหน้าจอ เลือก “ซื้อ ELSA โปร” จากนั้นเข้าไปที่ “รหัสเปิดใช้งาน” ที่มุมล่างด้านซ้ายของหน้าจอ ทีนี้ คุณกรอกรหัสบัญชีที่ได้รับในขั้นตอนที่แล้วเพื่อเปิดบัญชี หลังจากเปิดใช้งานสำเร็จ คุณควรออกจากแอพ แล้วกลับเข้าใหม่เพื่ออัปเดตระบบและเริ่มใช้งาน | ![]() |
ข้อดีของแพ็คเกจ ELSA Speak 1 ปี
ปัจจุบัน ELSA มีหลักสูตรทั้งฟรีและมีค่าใช้จ่าย ที่ช่วยให้ผู้เรียนสามารถเลือกใช้ได้ง่าย อย่างไรก็ตาม คุณจะได้รับประโยชน์หลากหลายกับ ELSA โปร 1 ปีได้แก่
- เพิ่มฟังก์ชั่นของแอพให้มีสูงสุด
ด้วยแพ็คเกจฟรีตลอดชีพ คุณได้เรียนแค่ 2 บทความสำหรับแต่ละหัวข้อ แต่แพ็คเกจโปรให้คุณสามารถใช้ได้ทุกฟังก์ชันของแอปพลิเคชันภายใน 1 ปี
- ระยะเวลาเรียนที่เหมาะสม
การเรียนภาษาต่างประเทศไม่ใช่เป็นเรื่องง่ายๆ ดังนั้น 1 ปี เป็นเวลาพอดีที่ช่วยให้คุณสร้างแผนเรียนภาษาอังกฤษ ที่เหมาะให้กับตัวเอง
บางที แค่ 3 หรือ 6 เดือนยังไม่พอเพื่อให้คุณมีความชำนาญทักษะของภาษาอังกฤษทั้งหมด แพ็คเกจ ELSA Speak โปรจะสร้างเส้นทางการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพและกลายเป็นเพื่อนรวมทางของคุณตลอดปี ซึ่งรับประกันว่าคุณจะรับผลลัพธ์ที่ต้องการอย่างแน่นอน หากคุณพยายามฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง
- ประหยัดค่าใช้จ่าย
ตอนนี้ ELSA Speak 1 ปีมีราคาแค่ 3,499 บาท ที่ช่วยให้คุณประหยัดมากกว่าแพ็คเกจ 6 เดือน (2,099 บาท)
(*) นี่คือราคา ณ เวลาที่เขียน โปรดเข้าเว็บไซต์เพื่ออัปเดตราคาแพ็คเกจ ELSA โปร ล่าสุด
- สร้างกำลังใจในการเรียน
เมื่อคุณเลือกซื้อแพ็คเกจ ELSA Speak ภายใน 1 ปีจะได้รับการสนับสนุนจากผู้ช่วย ELSA ที่เตือนให้เรียนทุกวัน เพื่อคุณจะได้ไม่ละเลยหรือทิ้งเรียนก่อน
ในขณะเดียวกัน หากคุณมีประสบการณ์กับบทเรียนมากกว่า 5,000 บทด้วยในหัวข้อต่างๆ แน่ๆ ว่าระดับภาษาต่างประเทศของคุณจะดีขึ้นแต่ละวัน ความก้าวหน้าจะชัดเจนมากขึ้ั้นอีกด้วย ซึ่งเป็นแหล่งแรงจูงใจที่ดีที่สุด ที่ช่วยให้คุณเร่งกระบวนการเอาชนะภาษาอังกฤษ
เหตุผล 5 ข้อที่คุณควรซื้อแพ็คเกจ ELSA Speak 1 ปี
กระบวนการเรียนรู้ส่วนบุคคล
เมื่อสมัครแพ็คเกจ 1 ปีของแอปคุณจะได้เรียนรู้และฝึกภาษาอังกฤษอย่างเป็นระบบ โดยได้ทำแบบทดสอบก่อนเข้าเรียน ซึ่ง คุณจะได้ประเมินอย่างละเอียดและออกแบบเส้นทางการเรียนรู้ตามความสามารถของผู้เรียนแต่ละคน
คุณยังได้รับคะแนนเป็นประจำตลอดระยะการเรียน จากนั้น ระบบจะเปลี่ยนบทเรียนและเส้นทางโดยอัตโนมัติเพื่อให้เหมาะกับระดับของคุณเอง ด้วยเหตุนี้ การฝึกอบรมเพียง 1 ปีกับ ELSA Speak จะทำให้ระดับภาษาอังกฤษของคุณดีขึ้นเป็นอย่างมาก
ในความเป็นจริง 90% ของผู้ใช้ออกเสียงได้ชัดเจนขึ้น 68% ของผู้ใช้พูดได้คล่องขึ้น 95% ของผู้ใช้มีความมั่นใจมากขึ้นเมื่อเรียนรู้ด้วย ELSA Speak ด้วยการฝึกฝนเพียง 10 นาทีต่อวัน คุณสามารถพัฒนาภาษาอังกฤษของคุณดีขึ้นถึง 40%
ให้คะแนนและแก้ไขการออกเสียงทันที
ด้วยปัญญาประดิษฐ์ ELSA Speak สามารถจำรู้เสียงและตอบสนองได้ทันที ตามนั้นคุณสามารถฝึกฝนการออกเสียงภาษาอังกฤษอย่างถูกต้องถึงขั้นแต่ละพยางค์ ตั้งแต่วิธีปล่อยลมหายใจไปจนถึงการงอลิ้น ฯลฯ นี่เป็นหนึ่งในจุดเด่นที่ทำให้ ELSA Speak แตกต่างจากแอพเรียนภาษาอังกฤษอื่นๆ ทั่วไป
หัวข้อหลากหลายและได้อัปเดตอย่างต่อเนื่อง
เมื่อลงทะเบียน ELSA โปร 1 ปี คุณจะได้เข้าถึงหัวข้อต่างๆ ที่ได้อัปเดตอย่างต่อเนื่อง ในขณะเดียวกัน ทั้ง 290 หัวข้อเหล่านี้เป็นหัวข้อที่คุ้นเคย ใกล้เคียงกับการทำงานและชีวิตประจำวัน ซึ่งช่วยให้คุณพัฒนาทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษแบบใช้จริง
นอกจากนี้ ELSA Speak ยังมีแบบฝึกหัดมากกว่า 25,000 บทบทเรียนกว่า 5,000 บทที่มีทักษะครบครัน เช่น การออกเสียง สำเนียง การสนทนา การฟังภาษาอังกฤษ ฯลฯ จากนั้น คุณสามารถพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษของตนเองได้อย่างครอบคลุม สนทนาอย่างคล่องแคล่ว เหมือนเจ้าของภาษา
>>> Read more
- [การ review อย่างละเอียด] App เรียนภาษาอังกฤษสำหรับเด็กดีหรือไม่ราคาเท่าไหร่
- [รีวิวแบบละเอียด] ELSA Speak คืออะไร? แอปฝึกพูดภาษาอังกฤษสำหรับคนทำงานที่มีเวลาน้อย
พจนานุกรมอัจฉริยะและมีแหล่งคำศัพท์ที่อุดมสมบูรณ์
แพ็คเกจ ELSA Speak 1 ปีมีพจนานุกรมอัจฉริยะที่สามารถหาคำศัพท์ แปลความหมายและแก้ไขข้อผิดพลาดในการออกเสียงได้ ซึ่งเป็นหนึ่งในข้อดีหลายข้อที่โดดเด่นของ ELSA Speak เมื่อเทียบกับแอพเรียนภาษาอังกฤษแอพอื่น ๆ ในตลาด
นอกจากพจนานุกรมอัจฉริยะแล้ว แอปพลิเคชันยังมีคำศัพท์มากมาย ด้วยมากกว่า 200 หัวข้อเกี่ยวกับชีวิตและการทำงาน ฯลฯ ดังนั้นเมื่อคุณสมัครแพ็คเกจภายใน 1 ปี คุณสามารถมั่นใจได้เลยว่า คลังคำศัพท์ของตัวเองจะได้ขยายให้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในทุกๆ วันอย่างแน่นอน
ได้เรียนกับผู้ช่วยภาษาทุกวัน
ELSA Speak ทำหน้าที่เป็นเสมือนผู้ช่วยพิเศษที่คอยติดตามสถานการณ์การเรียนรู้ของผู้ใช้อยู่เสมอ โดยจะมีการแจ้งเตือนให้คุณมาเรียนตรงเวลาที่ตั้งไว้ล่วงหน้า นอกจากนี้ เช่นเดียวกับการสอนแบบตัวต่อตัวกับติวเตอร์ ELSA Speak จะช่วยให้คุณติดตามและปรับแต่งบทเรียนให้เหมาะกับความสามารถเฉพาะตัวของคุณ
เราจะเห็นได้ว่าแพ็คเกจ ELSA Speak 1 ปีมีข้อดีมากมายทั้งในด้านความรู้และการประหยัด หากคุณกำลังมองหากระบวนการเรียนรู้อันทรงเกียรติ คุณจะรออะไรอีก เข้าชมเว็บไซต์หรือดาวน์โหลดแอพ ELSA Speak แล้วลงทะเบียนในวันนี้เลย
ด้วยเทคโนโลยีการรู้จำเสียงแบบเอกสิทธิ์เฉพาะบุคคลโดยใช้ปัญญาประดิษฐ์ นอกจาก ELSA สามารถช่วยคุณปรับปรุงแก้ไขการออกเสียงอย่างละเอียดถึงทุกพยางค์ เพื่อให้คุณเชี่ยวชาญในการพูดภาษาอังกฤษด้วยสำเนียงแบบสากล คุณยังสามารถเรียนได้ทุกที่ ทุกเวลาอีกด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากคุณรู้วิธีการตามล่ารหัสส่วนลดชอง ELSA Speak โปรโมชั่น คุณสามารถพิชิตภาษาอังกฤษได้อย่างสมบูรณ์ในราคาที่เหลือเชื่อ
ELSA Speak โปรโมชั่นมันมีเป็นประจำไหม
ปัจจุบัน ELSA Speak เป็น ๑ ใน ๕ ซอฟต์แวร์ที่ใช้ปัญญาประดิษฐ์ที่ดีที่สุดทั่วโลก ซึ่งเที่ยบเท่ากับ Cortana ของ Microsoft และ Google Allo ของ Google โดย Research Sniper แนะนำ นอกจาก ELSA Speak ยังได้รับรองว่าเป็นหนึ่งในแนวคิดที่เปลี่ยนแปลงโลกในปี พ.ศ. 2563 โดย Fast Company
ตอนนี้ ทั้งแพ็คเกจโปรมีตารางราคาต่างกัน ผันผวนตั้งแต่ 2,099 ถึง 3,999 บาท ดังนั้นค่าใช้จ่ายในการเรียนภาษาอังกฤษกับ ELSA ก็ประหยัดกว่าการเรียนที่ศูนย์อีกด้วย
>> อัพเดทถูกต้องแพ็คเกจการเรียนและค่าใช้จ่ายของ ELSA Speak
ด้วยความหวังว่าผู้ใช้ทั้งหมดมีโอกาสที่ได้รับประสบการณ์และค้นพบศักยภาพด้านภาษาอย่างเต็มที่ ELSA Speak โปรโมชั่นจึงเกิดบ่อยด้วยตารางราคาน่าดึงดุด ที่ช่วยให้ทุกคนสามารถปรับปรุงทักษาการสื่อสารกับ ELSA
ELSA Speak โปรโมชั่นเป็นประจำด้วยส่วนลดจาก 10% ถึง 84% แอปพลิเคชันนี้ยังปรับแพ็คเกจหลากหลายด้วยกรอบเวลาที่แตกต่างกันเช่ร ตั้งแต่ 1 เดือน 3 เดือน 6 เดือน ถึง 1 ปี หรือตลอดชีพ ทำให้ผู้ใช้สามารถเลือกระดับค่าใช้จ่ายที่เหมาะสมกับเป้าหมายในการเรียนของตัวตน
ตามล่ารหัสส่วนลด ELSA Speak โปรโมชั่นใหม่สุดในปี พ.ศ. 2567
หากคุณสนใจตามล่ามรหัสส่วนลดที่น่าดึงดูดของ ELSA Speak โปรโมชั่น ก็ควรเฃือกช่องทางที่เชื่อถือได้ จาก ELSA เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกหลอกลวง เสียเงิน แต่กลับไม่ได้รับรหัสเปิดใช้งานหรือรหัสเปิดใช้งานไม่ถูกต้อง
ELSA Speak ชอแนะนำ 2 ช่องเป็นทางการที่ช่วยให้คุณตามล่ามรหัสส่วนลดคือ ช่องเฟสบุ๊คของ ELSA https://www.facebook.com/elsaspeakthailand และเข้าลิงก์ซื้อ ELSA โปร ที่ได้อัพเดทถูกต้องแพ็คเกจอย่างสม่ำเสมอ
ยิ่งไปกว่านี้ ลูกค้าที่ประเทศไทยสามารถเข้าถึงเว็บไซต์ th.elsaspeak.com เพื่อสั่งซื้อแพ็คเกจ ELSA Speak โปรด้วยตารางราคาและของขวัญที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง นี่คือเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของแอปพลิเคชัน ELSA Speak ณ ประเทศไทย ดังนั้นคุณจึงเชื่อใจในความแท้ของช่องนี้ได้
![](http://th.elsaspeak.com/wp-content/uploads/2022/10/DE1906_Resize_Hoc-tieng-Anh-bang-app-ELSA-Speak-co-hieu-qua-khong-min-1024x576.png)
ในช่วงเวลาพิเศษของปี นอกจากโปรแกรม ELSA Speak โปรโมชั่นมีส่วนลดสูงสุด 83% แล้วเมื่อซื้อแพ็คเกจ ELSA Speak ตลอดชีพ ผู้เรียนยังมีโอกาสซื้อชุด BUSINESS RESULTS – OXFORD ที่รวมอยู่ใน ELSA Speak ด้วยส่วนลดสูงสุดถึง 45%
แต่ละช่วงพิเศษในปี ELSA Speak โปรโมชั่นจะเปิดโปรแกรมหลากหลาย เพื่อช่วยให้ผู้ใช้ทุกๆ คนสามารถเข้าใกล้แอปเรียนพูดภาษาอังกฤษชั้นนำของโลกด้วยราคาที่น่าสนใจที่สุด ดังนั้นโปรดติดตามช่องทาง Facebook หรือเยี่ยมชมโฮมเพจของ ELSA เป็นประจำเพื่ออัพเดทรหัสส่วนลดล่าสุดนะ
การเรียนภาษาอังกฤษกับ ELSA Speak มันไม่เคยง่ายแบบนี้มาก่อน คุณไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการใช้เงินมากเกินไปหรือพิจารณาระหว่างหลักสูตรหลายแห่ง เพียงตามล่ารหัสส่วนลดของ ELSA Speak โปรโมชั่น คุณจะมีแอปพลิเคชันที่ใช้ปัญญาประดิษฐ์ชั้นนำของโลกทันที ตอนนี้คุณสามารถเรียนภาษาอังกฤษทุกที่ ทุกเวลา และมาพิชิตภาษาอังกฤษกับ ELSA กันเถอะ
![](https://th.elsaspeak.com/wp-content/uploads/2023/11/DE2666_03-1024x551.jpg)