Author: Ánh Nguyễn
คุณรู้หรือไม่ว่ามีประเทศในโลกจำนวนเท่าไหร่ และ ชื่อ ประเทศภาษาอังกฤษ จะออกเสียงว่าอย่างไร มาติดตามบทความด้านล่างนี้กันเลยนะ
ชื่อ ประเทศภาษาอังกฤษ ในทวีปยุโรปเหนือ
ชื่อประเทศ | คำคุณศัพท์ | สัญชาติ | บุคคล |
Denmark เดนมาร์ก | Danish เกี่ยวกับเดนมาร์ก | Danish คนเดนมาร์ก | Dane ชาวเดนมาร์ก |
England อังกฤษ | English เกี่ยวกับอังกฤษ | British / English คนบริติช / คนอังกฤษ | Englishman / Englishwoman ผู้ชายชาวอังกฤษ / ผู้หญิงชาวอังกฤษ |
Estonia เอสโตเนีย | Estonian เกี่ยวกับเอสโตเนีย | Estonian คนเอสโตเนีย | Estonian ชาวเอสโทเนีย |
Finland ฟินแลนด์ | Finnish เกี่ยวกับฟินแลนด์ | Finnish คนฟินแลนด์ | Finn ชาวฟินแลนด์ |
Iceland ไอซ์แลนด์ | Icelandic เกี่ยวกับไอซ์แลนด์ | Icelandic คนไอซ์แลนด์ | Icelander ชาวไอซ์แลนด์ |
Ireland ไอร์แลนด์ | Irish เกี่ยวกับไอร์แลนด์ | Irish คนไอร์แลนด์ | Irishman / Irishwoman ผู้ชายชาวไอร์แลนด์ / ผู้หญิงชาวไอร์แลนด์ |
Latvia ลัตเวีย | Latvian เกี่ยวกับแลตเวีย | Latvian คนแลตเวีย | Latvian ชาวแลตเวีย |
Lithuania ลิทัวเนีย | Lithuanian เกี่ยวกับลิธัวเนีย | Lithuanian คนลิธัวเนีย | Lithuanian ชาวลิธัวเนีย |
Northern Ireland ไอร์แลนด์เหนือ | Northern Irish เกี่ยวกับไอร์แลนด์เหนือ | British / Northern Irish คนบริติช / คนไอร์แลนด์เหนือ | Northern Irishman / Northern Irishwoman ผู้ชายชาวไอร์แลนด์เหนือ / ผู้หญิงชาวไอร์แลนด์เหนือ |
Norway นอร์เวย์ | Norwegian เกี่ยวกับนอร์เวย์ | Norwegian คนนอร์เวย์ | Norwegian ชาวนอรเวย์ |
Scotland สกอตแลนด์ | Scottish เกี่ยวกับสกอตแลนด์ | British / Scottish คนบริติช / คนสกอตแลนด์ | Scot / Scotsman / Scotswoman ชาวสกอต / ผู้ชาวชาวสกอต / ผู้หญิงชาวสกอต |
Sweden สวีเดน | Swedish เกี่ยวกับสวีเดน | Swedish คนสวีเดน | Swede ชาวสวีเดน |
United Kingdom สหราชอาณาจักร | British เกี่ยวกับสหราชอาณาจักร | British คนบริติช | Briton ชาวบริติช |
Wales เวลส์ | Welsh เกี่ยวกับเวลส์ | British / Welsh คนบริติช / คนเวลล์ | Welshman /Welshwoman ผู้ชายชาวเวลล์ / ผู้หญิงชาวเวลล์ |
ชื่อ ประเทศภาษาอังกฤษ ในทวีปยุโรปตะวันตก
ชื่อ ประเทศภาษาอังกฤษ ในทวีปยุโรปตอนใต้
ชื่อประเทศ | คำคุณศัพท์ | สัญชาติ | บุคคล |
Albania แอลเบเนีย | Albanian เกี่ยวกับแอลบาเนีย | Albanian คนแอลบาเนีย | Albanian ชาวแอลบาเนีย |
Croatia โครเอเชีย | Croatian เกี่ยวกับโครเอเชีย | Croatian คนโครเอเชีย | Croatian ชาวโครเอเชีย |
Cyprus ไซปรัส | Cypriot เกี่ยวกับไซปรัส | Cypriot คนไซปรัส | Cypriot ชาวไซปรัส |
Greece กรีซ | Greek เกี่ยวกับกรีซ | Greek คนกรีซ | Greek ชาวกรีซ |
Italy อิตาลี | Italian เกี่ยวกับอิตาลี | Italian คนอิตาลี | Italian ชาวอิตาลี |
Portugal โปรตุเกส | Portuguese เกี่ยวกับโปรตุเกส | Portuguese คนโปรตุเกส | Portuguese ชาวโปรตุเกส |
Serbia เซอร์เบีย | Serbian เกี่ยวกับเซอร์เบีย | Serbian คนเซอร์เบีย | Serbian ชาวเซอร์เบีย |
Slovenia สโลวีเนีย | Slovenian / Slovene เกี่ยวกับสโลวาเนีย | Slovenian / Slovene คนสโลวาเนีย | Slovenian / Slovene ชาวสโลวเนีย |
Spain สเปน | Spanish เกี่ยวกับสเปน | Spanish คนสเปน | Spaniard ชาวสเปน |
ชื่อ ประเทศภาษาอังกฤษ ในทวีปยุโรปตะวันออก
ชื่อประเทศ | คำคุณศัพท์ | สัญชาติ | บุคคล |
Belarus เบลารุส | Belarusian เกี่ยวกับเบรารุส | Belarusian คนเบรารุส | Belarusian ชาวเบรารุส |
Bulgaria บัลแกเรีย | Bulgarian เกี่ยวกับบัลแกเรีย | Bulgarian คนบัลแกเรีย | Bulgarian ชาวบัลแกเรีย |
Czech Republic สาธารณรัฐเช็ก | Czech เกี่ยวกับเช็ก | Czech คนเช็ก | Czech ชาวเช็ก |
Hungary ฮังการี | Hungarian เกี่ยวกับฮังการี | Hungarian คนฮังการี | Hungarian ชาวฮังการี |
Poland โปแลนด์ | Polish เกี่ยวกับโปแลนด์ | Polish คนโปแลนด์ | Pole ชาวโปแลนด์ |
Romania โรมาเนีย | Romanian เกี่ยวกับโรมาเนีย | Romanian คนโรมาเนีย | Romanian ชาวโรมาเนีย |
Russia รัสเซีย | Russian เกี่ยวกับรัสเซีย | Russian คนรัสเซีย | Russian ชาวรัสเซีย |
Slovakia สโลวาเกีย | Slovak / Slovakian เกี่ยวกับสโลวะเกีย | Slovak / Slovakian คนสโลวะเกีย | Slovak / Slovakian ชาวสโลวะเกีย |
Ukraine ยูเครน | Ukrainian เกี่ยวกับยูเครน | Ukrainian คนยูเครน | Ukrainian ชาวยูเครน |
ชื่อ ประเทศภาษาอังกฤษ ในทวีปอเมริกาเหนือ
ชื่อ ประเทศภาษาอังกฤษ ในทวีปอเมริกากลางและแคริบเบียน
ชื่อประเทศ | คุณศัพท์ | สัญชาติ | บุคคล |
Cuba คิวบา | Cuban เกี่ยวกับคิวบา | Cuban คนคิวบา | Cuban ชาวคิวบา |
Guatemala กัวเตมาลา | Guatemalan เกี่ยวกับกัวเตมาลา | Guatemalan คนกัวเตมาลา | Guatemalan ชาวกัวเตมาลา |
Jamaica จาเมกา | Jamaican เกี่ยวกับจาไมกา | Jamaican คนจาไมกา | Jamaican ชาวจาไมกา |
ดูเพิ่มเติ่ม: รหัสประเทศ (Country Code)
ชื่อ ประเทศภาษาอังกฤษ ในทวีปอเมริกาใต้
ชื่อประเทศ | คำคุณศัพท์ | สัญชาติ | บุคคล |
Argentina อาร์เจนตินา | Argentine / Argentinian เกี่ยวกับอาร์เจนตินา | Argentine / Argentinian คนอาร์เจนตินา | Argentine / Argentinian ชาวอาร์เจนตินา |
Bolivia โบลิเวีย | Bolivian เกี่ยวกับโบลิเวีย | Bolivian คนโบลิเวีย | Bolivian ชาวโบลิเวีย |
Brazil บราซิล | Brazilian เกี่ยวกับบราซิล | Brazilian คนบราซิล | Brazilian ชาวบราซิล |
Chile ชิลี | Chilean เกี่ยวกับชิลี | Chilean คนชิลี | Chilean ชาวชิลี |
Colombia โคลอมเบีย | Colombian เกี่ยวกับโคลอมเบีย | Colombian คนโคลอมเบีย | Colombian ชาวโคลอมเบีย |
Ecuador เอกวาดอร์ | Ecuadorian เกี่ยวกับเอกวาดอร์ | Ecuadorian คนเอกวาดอร์ | Ecuadorian ชาวเอกวาดอร์ |
Paraguay ปารากวัย | Paraguayan เกี่ยวกับปารากวัย | Paraguayan คนปารากวัย | Paraguayan ชาวปารากวัย |
Peru เปรู | Peruvian เกี่ยวกับเปรู | Peruvian คนเปรู | Peruvian ชาวเปรู |
Uruguay อุรุกวัย | Uruguayan เกี่ยวกับอุรุกวัย | Uruguayan คนอุรุกวัย | Uruguayan ชาวอุรุกวัย |
Venezuela เวเนซุเอลา | Venezuelan เกี่ยวกับเวเนซุเอลา | Venezuelan คนเวเนซุเอลา | Venezuelan ชาวเวเนซุเอลา |
ชื่อ ประเทศภาษาอังกฤษ ในทวีปเอเชียตะวันตก
>>> Read more
- [การ review อย่างละเอียด] App เรียนภาษาอังกฤษสำหรับเด็กดีหรือไม่ราคาเท่าไหร่
- [รีวิวแบบละเอียด] ELSA Speak คืออะไร? แอปฝึกพูดภาษาอังกฤษสำหรับคนทำงานที่มีเวลาน้อย
ชื่อ ประเทศภาษาอังกฤษ ในทวีปเอเชียใต้และเอเชียกลาง
ชื่อประเทศ | คำคุณศัพท์ | สัญชาติ | บุคคล |
Afghanistan อัฟกานิสถาน | Afghan / Afghani เกี่ยวกับอัฟกานิสถาน | Afghan / Afghani คนอัฟกานิสถาน | Afghan / Afghani ชาวอัฟกานิสถาน |
Bangladesh บังกลาเทศ | Bangladeshi เกี่ยวกับบังกลาเทศ | Bangladeshi คนบังกลาเทศ | Bangladeshi ชาวบังกลาเทศ |
India อินเดีย | Indian เกี่ยวกับอินเดีย | Indian คนอินเดีย | Indian ชาวอินเดีย |
Kazakhstan คาซัคสถาน | Kazakh / Kazakhstani เกี่ยวกับคาซัคสถาน | Kazakh / Kazakhstani คนคาซัคสถาน | Kazakh / Kazakhstani ชาวคาซัคสถาน |
Nepal เนปาล | Nepalese / Nepali เกี่ยวกับเนปาล | Nepalese / Nepali คนเนปาล | Nepalese / Nepali ชาวเนปาล |
Pakistan ปากีสถาน | Pakistani เกี่ยวกับปากีสถาน | Pakistani คนปากีสถาน | Pakistani ชาวปากีสถาน |
Sri Lanka ศรีลังกา | Sri Lankan เกี่ยวกับศรีลังกา | Sri Lankan คนศรีลังกา | Sri Lankan ชาวศรีลังกา |
ชื่อประเทศภาษาอังกฤษในทวีปเอเชียตะวันออก
ชื่อประเทศ | คำคุณศัพท์ | สัญชาติ | บุคคล |
China จีน | Chinese เกี่ยวกับจีน | Chinese คนจีน | Chinese ชาวจีน |
Japan ญี่ปุ่น | Japanese เกี่ยวกับญี่ปุ่น | Japanese คนญี่ปุ่น | Japanese ชาวญี่ปุ่น |
Mongolia มองโกเลีย | Mongolian เกี่ยวกับมองโกเลีย | Mongolian คนมองโกเลีย | Mongolian / Mongol ชาวมองโกเลีย |
North Korea เกาหลีเหนือ | North Korean เกี่ยวกับเกาหลีเหนือ | North Korean คนเกาหลีเหนือ | North Korean ชาวเกาหลีเหนือ |
South Korea เกาหลีใต้ | South Korean เกี่ยวกับเกาหลีใต้ | South Korean คนเกาหลีใต้ | South Korean ชาวเกาหลีใต้ |
Taiwan ไต้หวัน | Taiwanese เกี่ยวกับไต้หวัน | Taiwanese คนไต้หวัน | Taiwanese ชาวไต้หวัน |
ชื่อ ประเทศภาษาอังกฤษ ในทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ชื่อประเทศ | คำคุณศัพท์ | สัญชาติ | บุคคล |
Cambodia กัมพูชา | Cambodian เกี่ยวกับกัมพูชา | Cambodian คนกัมพูชา | Cambodian ชาวกัมพูชา |
Indonesia อินโดนีเซีย | Indonesian เกี่ยวกับอินโดนีเซีย | Indonesian คนอินโดนีเซีย | Indonesian ชาวอินโดนีเซีย |
Laos ลาว | Laotian / Lao เกี่ยวกับลาว | Laotian / Lao คนลาว | Laotian / Lao ชาวลาว |
Malaysia มาเลเซีย | Malaysian เกี่ยวกับมาเลเซีย | Malaysian คนมาเลเซีย | Malaysian ชาวมาเลเซีย |
Myanmar พม่า | Burmese เกี่ยวกับพม่า | Burmese คนพม่า | Burmese ชาวพม่า |
Philippines ฟิลิปปินส์ | Filipino เกี่ยวกับฟิลิปปินส์ | Filipino คนฟิลิปปินส์ | Filipino ชาวฟิลิปปินส์ |
Singapore สิงคโปร์ | Singaporean เกี่ยวกับสิงคโปร์ | Singaporean คนสิงคโปร์ | Singaporean ชาวสิงคโปร์ |
Thailand ไทย | Thai เกี่ยวกับไทย | Thai คนไทย | Thai ชาวไทย |
Vietnam เวียดนาม | Vietnamese เกี่ยวกับเวียดนาม | Vietnamese คนเวียดนาม | Vietnamese ชาวเวียดนาม |
ชื่อ ประเทศภาษาอังกฤษ ในทวีปออสเตรเลียและภูมิภาคแปซิฟิก
ชื่อประเทศ | คำคุณศัพท์ | สัญชาติ | บุคคล |
Australia ออสเตรเลีย | Australian เกี่ยวกับออสเตรเลีย | Australian คนออสเตรเลีย | Australian ชาวออสเตรเลีย |
Fiji ฟิจิ | Fijian เกี่ยวกับฟิจิ | Fijian คนฟิจิ | Fijian ชาวฟิจิ |
New Zealand นิวซีแลนด์ | New Zealand เกี่ยวกับนิวซีแลนด์ | New Zealand คนนิวซีแลนด์ | New Zealander ชาวนิวซีแลนด์ |
ชื่อ ประเทศภาษาอังกฤษ ในทวีปแอฟริกาเหนือและแอฟริกาตะวันตก
Nước | คำคุณศัพท์ | สัญชาติ | บุคคล |
Algeria แอลจีเรีย | Algerian เกี่ยวกับแอลจีเรีย | Algerian คนแอลจีเรีย | Algerian ชาวแอลจีเรีย |
Egypt อียิปต์ | Egyptian เกี่ยวกับอียิปต์ | Egyptian คนอียิปต์ | Egyptian ชาวอียิปส์ |
Ghana กานา | Ghanaian เกี่ยวกับกานา | Ghanaian คนกานา | Ghanaian ชาวกานา |
Ivory Coast ไอวอรีโคสต์ | Ivorian เกี่ยวกับโกตดิวัวร์ | Ivorian คนโกตดิวัวร์ | Ivorian ชาวโกตดิวัวร์ |
Libya ลิเบีย | Libyan เกี่ยวกับลิเบีย | Libyan คนลิเบีย | Libyan ชาวลิเบีย |
Morocco โมร็อกโก | Moroccan เกี่ยวกับโมร็อกโก | Moroccan คนโมร็อกโก | Moroccan ชาวโมร็อกโก |
Nigeria ไนจีเรีย | Nigerian เกี่ยวกับไนจีเรีย | Nigerian คนไนจีเรีย | Nigerian ชาวไนจีเรีย |
Tunisia ตูนิเซีย | Tunisian เกี่ยวกับตูนิเซีย | Tunisian คนตูนีเซีย | Tunisian ชาวตูนิเซีย |
ชื่อ ประเทศภาษาอังกฤษ ในทวีปแอฟริกาตะวันออก
ชื่อประเทศ | คำคุณศัพท์ | สัญชาติ | บุคคล |
Ethiopia เอธิโอเปีย | Ethiopian เกี่ยวกับเอธิโอเปีย | Ethiopian คนเอธิโอเปีย | Ethiopian ชาวเอธิโอเปีย |
Kenya เคนยา | Kenyan เกี่ยวกับเคนยา | Kenyan คนเคนยา | Kenyan ชาวเคนยา |
Somalia โซมาเลีย | Somali / Somalian เกี่ยวกับโซมาเลีย | Somali / Somalian คนโซมาเลีย | Somali / Somalian ชาวโซมาเลีย |
Sudan ซูดาน | Sudanese เกี่ยวกับซูดาน | Sudanese คนซูดาน | Sudanese ชาวซูดาน |
Tanzania แทนซาเนีย | Tanzanian เกี่ยวกับแทนซาเนีย | Tanzanian คนแทนซาเนีย | Tanzanian ชาวแทนซาเนีย |
Uganda ยูกันดา | Ugandan เกี่ยวกับยูกันดา | Ugandan คนอูกันดา | Ugandan ชาวอูกันดา |
ชื่อ ประเทศภาษาอังกฤษ ในทวีปแอฟริกาใต้และแอฟริกากลาง
ชื่อประเทศ | คำคุณศัพท์ | สัญชาติ | บุคคล |
Angola แองโกลา | Angolan เกี่ยวกับแองโกลา | Angolan คนแองโกลา | Angolan ชาวแองโกลา |
Botswana บอตสวานา | Botswanan เกี่ยวกับบอตสวานา | Botswanan คนบอตสวานา | Botswanan ชาวบอตสวานา |
Democratic Republic of the Congo สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก | Congolese เกี่ยวกับคองโก | Congolese คนคองโก | Congolese ชาวคองโก |
Madagascar มาดากัสการ์ | Madagascan เกี่ยวกับมาดากัสการ์ | Malagasy คนมาดากัสการ์ | Malagasy ชาวมาดากัสการ์ |
Mozambique โมซัมบิก | Mozambican เกี่ยวกับโมซัมบิก | Mozambican คนโมซัมบิก | Mozambican ชาวโมซัมบิก |
Namibia นามิเบีย | Namibian เกี่ยวกับนามิเบีย | Namibian คนนามิเบีย | Namibian ชาวนามิเบีย |
South Africa แอฟริกาใต้ | South African เกี่ยวกับแอฟริกาใต้ | South African คนแอฟริกาใต้ | South African ชาวแอฟริกาใต้ |
Zambia แซมเบีย | Zambian เกี่ยวกับแซมเบีย | Zambian คนแซมเบีย | Zambian ชาวแซมเบีย |
Zimbabwe ซิมบับเว | Zimbabwean เกี่ยวกับซิมบับเว | Zimbabwean คนซิมบับเว | Zimbabwean ชาวซิมบับเว |
หวังว่า ELSA Speak ได้นำเสนอคำศัพท์ที่ใช้บ่อยที่สุดสำหรับการสื่อสารในที่ทำงาน ชีวิตประจำวัน ตลอดจนโครงสร้างไวยากรณ์และรูปแบบประโยคภาษาอังกฤษที่ใช้บ่อยและมีประโยชน์มากที่สุด
ครั้งต่อไปที่คุณต้องการค้นหาหัวข้อที่เกี่ยวข้องกับภาษาอังกฤษ อย่าลืมกลับมาที่หน้า th.elsaspeak.com นะ!
Noun เป็นส่วนไวยากรณ์ที่สำคัญที่สุดส่วนหนึ่งในภาษาอังกฤษ ซึ่งเป็นฐานความรู้พื้นฐานเพื่อให้คุณพิชิตภาษานี้ได้อย่างง่ายดาย บทความวันนี้ ELSA Speak หวังว่าผู้เรียนจะมีข้อมูลและเข้าใจ noun คือ อะไร? อย่าพลาดความรู้เกี่ยวกับ Noun ในบทความนี้นะ!
ความหมายของ Noun ในภาษาอังกฤษและหน้าที่ของ Noun
เพื่อรู้วิธีการใช้คำนามในแบบฝึกหัดและบทสนทนาในชีวิตประจำวัน ก่อนอื่นเรามาพูดถึงคำนิยามของคำนามภาษาอังกฤษกันก่อน
Noun คือ …อะไร?
Noun คือ คำที่ใช้เรียกชื่อสิ่งของประเภทหนึ่ง สิ่งนั้นๆ อาจเป็นคน สัตว์ สิ่งของ ปรากฏการณ์ สถานที่ หรือแนวคิดก็ได้ คำนามถือเป็นคำที่สำคัญที่สุดคำหนึ่งในภาษาอังกฤษ ดังนั้นผู้เรียนจำเป็นต้องสะสมคำศัพท์เกี่ยวกับคำนามให้ได้มากที่สุด
ตัวอย่างคำนามภาษาอังกฤษ
- คำนามบ่งบอกคนในภาษาอังกฤษ: he (เขา), doctor (หมอ), the men (ผู้ชาย), …
- คำนามบ่งบอกสัตว์: dog (สุนัข), cat (แมว), pet (สัตว์เลี้ยง)…
- คำนามบ่งบอกสิ่งของในภาษาอังกฤษ: money (เงิน), table (โต๊ะ), computer (คอมพิวเตอร์), …
- คำนามบ่งบอกปรากฏการณ์: storm (พายุ), earthquake (แผ่นดินไหว), …
- คำนามบ่งบอกสถานที่: school (โรงเรียน), office (สำนักงาน),…
- คำนามบ่งบอกแนวคิด: culture (วัฒนธรรม), presentation (การนำเสนอ), experience (ประสบการณ์)…
>>> Read more
- [การ review อย่างละเอียด] App เรียนภาษาอังกฤษสำหรับเด็กดีหรือไม่ราคาเท่าไหร่
- [รีวิวแบบละเอียด] ELSA Speak คืออะไร? แอปฝึกพูดภาษาอังกฤษสำหรับคนทำงานที่มีเวลาน้อย
หน้าที่ของ Noun
Noun เป็นหัวเรื่องในประโยค
เมื่อทำหน้าที่เป็นหัวเรื่อง คำนามมักจะอยู่ต้นประโยคและอยู่ก่อนคำกริยาในประโยค
ตัวอย่าง: English is my favorite subject. (ภาษาอังกฤษเป็นวิชาโปรดของฉัน)
-> “English” คือคำนามและหัวเรื่อง
Noun เป็นกรรมทางอ้อม/โดยตรงของคำกริยา
เมื่อทำหน้าที่เป็นกรรมของคำกริยา คำนามจะอยู่หลังคำกริยา
- เมื่อคำนามเป็นกรรมโดยตรง:
ตัวอย่าง: I want to buy a birthday cake. (ฉันอยากซื้อเค้กวันเกิด 1 ชิ้น)
-> “A birthday cake” คือคำนามและกรรมของคำกริยา “buy”
- เมื่อคำนามเป็นกรรมทางอ้อม:
ตัวอย่าง: He give his girlfriend a ring. (เขามอบแหวนให้แฟนของเขา)
-> “His girlfriend” คือคำนามและทำหน้าที่เป็นกรรมของคำกริยา “give”
Noun เป็นกรรมของคำบุพบท
เมื่อทำหน้าที่เป็นกรรมของคำบุพบท คำนามจะอยู่หลังคำบุพบท
ตัวอย่าง: I have talked to Mrs.Fern several times. (ฉันได้คุยกับคุณเฟิร์นสองสามครั้งแล้ว)
-> “Mrs.Fern” คือคำนามและทำหน้าที่เป็นกรรมของคำบุพบท “to”
Noun เป็นส่วนเติมเต็มของหัวเรื่อง
เมื่อทำหน้าที่เป็นส่วนเติมเต็มของหัวเรื่อง คำนามจะอยู่หลังคำกริยาเชื่อม เช่น tobe, become, seem,…
ตัวอย่าง: John is an excellent student. (จอห์นเป็นนักเรียนดีเด่น)
-> “An excellent student” คือคำนามและเป็นส่วนเติมเต็มของหัวเรื่อง “John”
Noun เป็นส่วนเติมเต็มของกรรม
เมื่อทำหน้าที่เป็นส่วนเติมเต็มของกรรม คำนามจะอยู่หลังคำกริยาบางคำ เช่น make (ทำ), elect (ลงคะแนนเสียง), call (โทร), consider (พิจารณา), appoint (แต่งตั้ง), name (ตั้งชื่อ), declare (ประกาศ), recognize (รับรู้),…
ตัวอย่าง: Board of directors recognize Tommy the best staff of the year. (คณะกรรมการบริษัทรับรู้ให้ทอมมี่เป็นพนักงานดีเด่นแห่งปี)
-> “The best staff of the year” คือคำนามและเป็นส่วนเติมเต็มในภาษาอังกฤษของกรรม “Tommy”.
ตำแหน่งของ Noun ในประโยค
นอกจากการเข้าใจหน้าที่ของคำนามแล้ว คุณควรรู้สัญญาณการรับรู้ที่ทำให้คำนามแตกต่างจากคำประเภทอื่นในประโย โดยผ่านลักษณะบางประการดังต่อไปนี้
อยู่หลัง Article
คำนามสามารถอยู่หลัง article เช่น a, an, the อย่างไรก็ตาม ในระหว่าง Articles และ Nouns สามารถมีคำขยายคำคุณศัพท์เพิ่มเติมได้
ตัวอย่าง: a beautiful girl (สาวสวย 1 คน), a lovely cat (แมวน่ารัก1 ตัว),…
อยู่หลังคำคุณศัพท์แสดงความเป็นเจ้าของ
คำนามสามารถอยู่หลังคำคุณศัพท์แสดงความเป็นเจ้าของ เช่น my, your, his, her, its, our, their,… ระหว่างคำคุณศัพท์แสดงความเป็นเจ้าของและคำนามสามารถมีมีคำขยายคำคุณศัพท์เพิ่มเติมได้
ตัวอย่าง: my new computer (คอมพิวเตอร์เครื่องใหม่ของฉัน), her pink T-shirt (เสื้อสีชมพูของเธอ),…
อยู่หลังคำแสดงปริมาณ
คำนามสามารถอยู่หลังคำแสดงปริมาณ เช่น few, little, some, any, many, all…
ตัวอย่าง: I need some coffee. (ฉันต้องการกาแฟเล็กน้อย)
อยู่หลังคำบุพบท
คำนามสามารถอยู่หลังคำบุพบท เช่น in, of, for, under,… เพื่อเพิ่มข้อมูลเพิ่มเติมให้คำบุพบท
ตัวอย่าง: This case is under investigation. (คดีนี้อยู่ระหว่างการสอบสวน)
อยู่หลังคำนำหน้านาม
คำนามสามารถมาอยู่หลังคำนำหน้านามบางคำ เช่น this, that, these, those, both,…
ตัวอย่าง: these new clothes (เสื้อผ้าใหม่เหล่านี้), both you and I (ทั้งคุณและฉัน),…
ประเภทของ Noun ในภาษาอังกฤษ
คํานามภาษาอังกฤษ มีอะไรบ้าง ขึ้นอยู่กับเกณฑ์ที่แตกต่างกัน มี 5 วิธีทั่วไปในการจำแนกคำนามในภาษาอังกฤษ ดังนี้
การจำแนก Noun ตามจำนวน: คำนามเอกพจน์ (Singular Nouns) และ คำนามพหูพจน์ (Plural Nouns)
- Singular Noun คือคำนามนับได้ซึ่งมีหน่วยนับคือหนึ่ง หรืออาจเป็นคำนามนับไม่ได้ก็ได้
ตัวอย่าง: apple, cake, table,..
- Plural Noun คือคำนามนับได้ที่มีหน่วยนับเท่ากับหรือมากกว่าสอง
ตัวอย่าง: apples, cakes, tables,…
การจำแนก Noun โดยการนับ: คำนามนับได้ (Countable Nouns) และคำนามนับไม่ได้ (Uncountable Nouns)
- คำนามนับได้คือคำนามที่เราสามารถนับด้วยตัวเลขและสามารถเพิ่มจำนวนข้างหน้าได้โดยตรง
ตัวอย่าง: three pens (ปากกา 3 ด้าม), five books (หนังสือ 5 เล่ม),…
- คำนามนับไม่ได้คือคำนามที่เราไม่สามารถนับได้โดยตรงและไม่สามารถเพิ่มจำนวนข้างหน้าได้
ตัวอย่าง: water (น้ำ), money (เงิน), experience (ประสบการณ์),…
ดูเพิ่มเติมที่: คำนามนับได้และคำนามนับไม่ได้ในภาษาอังกฤษ
การจำแนก Noun ตามความหมาย: คำนามสามัญ (Common Nouns) และคำนามเฉพาะ (Proper Nouns) ในภาษาอังกฤษ
- Common Nouns คือคำนามที่กล่าวถึงสิ่งของและปรากฏการณ์รอบตัวเรา
ตัวอย่าง: student (นักเรียน), children (เด็ก),…
- คำนามเฉพาะในภาษาอังกฤษ (Proper Nouns) คือ คำนามที่ระบุชื่อเฉพาะของสิ่งของ (ชื่อคน ชื่อสถานที่ ชื่อปรากฏการณ์ …)
ตัวอย่าง: Bella (ชื่อคน), Japan (ญี่ปุ่น), Red River (แม่น้ำแดง),…
การจำแนก Noun ตามลักษณะเฉพาะ: คำนามรูปธรรม (Concrete Nouns) และคำนามนามธรรม (Abstract Nouns)
- คำนามรูปธรรม (Concrete Nouns) คือ คำนามที่ใช้เรียกบุคคลและสิ่งของที่อยู่ในรูปของสสารที่เรามองเห็น สัมผัส และรู้สึกได้
ตัวอย่าง: Anna (ชื่อคน), mom (แม่), pie (เค้ก),…
- คำนามนามธรรม (Abstract Nouns) คือ คำนามที่ใช้เรียกสิ่งที่มองไม่เห็นแต่สามารถรู้สึกได้เท่านั้น
ตัวอย่าง: happiness (ความสุข), love (ความรัก), hope (ความหวัง),…
การจำแนก Noun ตามส่วนประกอบของคำนาม: คำนามธรรมดา (Simple Nouns) และคำนามประสม (Compound Nouns)
- Simple Noun คือคำนามที่ประกอบด้วยคำเพียงคำเดียว
ตัวอย่าง: baby (ทารก), tree (ต้นไม้), job (งาน),…
- Compound Noun คือ คำนามที่ประกอบด้วยคำตั้งแต่ 2 คำขึ้นไปมารวมกัน คำนามประสมเมื่อรวมกันสามารถเขียนเป็นคำสองคำแยกกันหรือรวมเป็นคำเดียว
ตัวอย่าง: greenhouse (เรือนกระจก), bedroom (ห้องนอน), toothpaste (ยาสีฟัน),…
ไวยากรณ์ภาษาอังกฤษที่เกี่ยวข้องกับ Noun
ส่วนลงท้ายคำนามทั่วไป
ส่วนลงท้ายคำนามทั่วไปเป็นหนึ่งใน “สัญญาณ” ที่จะช่วยให้คุณรู้ว่าคำนั้นเป็นคำนามเมื่อทำแบบฝึกหัดหรือในการสื่อสารภาษาอังกฤษ งั้นคำนามมี “หาง” อย่างไร?
- -tion: nation, operation, suggestion, mention…
- -sion: conclusion, illusion…
- -er: producer, manufacturer, partner…
- -or: operator, vendor, conductor…
- -ee: employee, attendee, interviewee…
- -eer: engineer, career,…
- -ist: scientist, tourist,..
- -ness: happiness, sadness,..
- -ship: friendship, leadership,..
- -ment: management, arrangement,..
- -ics: economics, physics,..
- -ence: science, conference,..
- -ance: performance, importance, significance..
- -dom: freedom, kingdom,..
- -ture: nature, picture,..
- -ism: tourism, criticism,..
- -ty/ity: ability, honesty,..
- -cy: constancy, privacy,..
- -phy: philosophy, geography..
- -logy: biology, psychology, theology..
- -an/ian: musician, politician, magician , ..
- -ette: cigarette, etiquette..
- -itude: attitude,..
- -age: carriage, marriage,..
- -th: month, length, growth,..
- -ry/try: industry, bakery,..
ข้อยกเว้น:
- -al: approval, proposal, renewal, refusal, professional….
- -ive: initiative, objective, representative…
- -ic: mechanic..
นามวลีในภาษาอังกฤษ (Noun Phrase)
คำนิยาม
นามวลี คือ วลีที่มีคำนามทำหน้าที่เป็นส่วนประกอบหลัก ซึ่งได้เสริมเติมเต็มโดยส่วนเติมเต็มที่อยู่ก่อนหรือหลัง นามวลีทำหน้าที่เหมือนคำนาม สามารถเป็นหัวเรื่อง กรรม หรือส่วนเติมเต็มในประโยค
ตัวอย่าง: a beautiful girl (สาวสวยคนหนึ่ง), a delicious dish (อาหารจานอร่อย), a bottle of water (น้ำเปล่าหนึ่งขวด),…
โครงสร้างของนามวลีในภาษาอังกฤษ
นามวลีภาษาอังกฤษมีโครงสร้างอย่างไร?
โดยปกติแล้ว นามวลีมักจะมีโครงสร้างดังนี้
คำนำหน้านาม + ส่วนเติมเต็ม + คำนามหลัก
คำนำหน้านาม ได้แก่ Articles (a,an,the), Demonstrative Determiners – คำชี้เฉพาะ (this,that,these,those), Quantifiers – คำแสดงปริมาณ (one/two/three,…), Possessive Determiners – คำคุณศัพท์แสดงความเป็นเจ้าของ (my/your/his/her…).
ตัวอย่าง: These two bicycle were stolen yesterday. (จักรยานสองคันนี้ถูกขโมยเมื่อวานนี้)
ส่วนเติมเต็มในนามวลีมักจะเป็นคำคุณศัพท์ และจะเสริมเติมเต็มให้คำนามหลักในภาษาอังกฤษ หากมีคำคุณศัพท์เสริมเติมเต็มหลายคำ คุณต้องใส่ใจกับการจัดเรียงตามกฎของ OpSACOMP ดังนี้
- Opinion (ความคิดเห็น, การประเมินผล) – ตัวอย่าง: good, pretty, ugly…
- Size/Shape (ขนาด/รูปร่าง) – ตัวอย่าง: short, tall, big, small,…
- Age (อายุ) – ตัวอย่าง: young, old, new,..
- Color (สี) – ตัวอย่าง: black, pink, red,…
- Origin (ต้นกำเนิด) – ตัวอย่าง: Chinese, US, UK,…
- Material (วัสดุ) – ตัวอย่าง: plastic, steel, silk…
- Purpose (วัตถุประสงค์, ผล) – ตัวอย่าง: healing, traveling,…
ตัวอย่าง: a big black car (รถสีดำคันใหญ่)
กริยาที่ลงท้ายด้วย -ing แล้วทำหน้าที่เหมือนคำนาม (Gerund phrase)
คำนามสามารถรวมกับคำแสดงปริมาณที่อยู่ข้างหน้า คำชี้เฉพาะที่อยู่ข้างหลัง และคำอื่นๆ เพื่อสร้างนามวลี ในนามวลี คำเสริมในส่วนก่อนหน้าช่วยเสริมคำนามในความหมายเชิงตัวเลขและเชิงปริมาณ คำเสริมในส่วนต่อไปชี้ให้เห็นถึงลักษณะของสิ่งที่คำนามนั้นระบุหรือกำหนดตำแหน่งของสิ่งนั้นในที่ว่างหรือเวลา
Gerund phrase คือกลุ่มของคำที่ขึ้นต้นด้วย gerund (กริยาที่ลงท้ายด้วย -ing) คำกลุ่มนี้เรียกว่า Gerund phrase เพราะได้ใช้เป็นคำนาม Gerund phrase ทำหน้าที่เป็นหัวเรื่องหรือกรรมในประโยค
ตัวอย่าง: The most interesting part of our trip was watching the sun setting. (ส่วนที่น่าสนใจที่สุดของการเดินทางของเราคือการดูพระอาทิตย์ตกดิน)
คำนามแสดงความเป็นเจ้าของ (Possessive Nouns)
Possessive Noun คือรูปแบบหนึ่งของ “ความเป็นเจ้าของ” ของบุคคล สัตว์ หรือประเทศ,… ต่อบุคคลหรือสิ่งของ เมื่อใช้ Possessive Noun กับคำนาม คุณต้องคำนึงถึงกฎบางประการ ดังนี้
โครงสร้างทั่วไป: คนที่เป็นเจ้าของ + ‘s + สิ่งของ/บุคคลภายใต้กรรมสิทธิ์ (หมายความว่า เป็นของบุคคลนั้น)
- ตัวอย่าง: Tom’ s T- shirt (เสื้อยืดของทอม), Anna’s mother (แม่ของแอนนา),…
สำหรับคำนามเอกพจน์และคำนามพหูพจน์ที่ไม่ได้ลงท้ายด้วย s ให้เติม ‘s ตามหลัง
- ตัวอย่าง: a man’s job, women’s clothes,…
สำหรับคำนามพหูพจน์ที่ลงท้ายด้วย s ให้เติมเครื่องหมาย ‘ หลังตัวอักษร s
- ตัวอย่าง: the students’ exam, the eagles’ nest,…
สำหรับคำนามเฉพาะ ให้เติม ‘s หลังคำนาม
- ตัวอย่าง: Ms.Lily’s house, Lona’s car,…
สำหรับคำนามประสม ให้เติม ‘s หลังคำสุดท้ายของคำนามนั้น
- ตัวอย่าง: my sister-in-law’s gift,…
วิธีเปลี่ยน Noun เอกพจน์เป็นพหูพจน์
ส่วนใหญ่เราจะเติม “S” หลัง Noun
คำนามเอกพจน์ คำนามพหูพจน์
A finger (นิ้วมือ 1 นิ้ว) —> Fingers (นิ้วมือหลายนิ้ว)
A ruler (ไม้บรรทัด 1 อัน) —> Rulers (ไม้บรรทัดหลายอัน)
A house (บ้าน 1 หลัง) —> Houses (บ้านหลายหลัง)
คำนามที่ลงท้ายด้วย S, SS, SH, CH, X, O + ES
คำนามเอกพจน์ คำนามพหูพจน์
A bus (รถเมล์ 1 คัน) —> Two buses (รถเมล์ 2 คัน)
A class (ชั้นเรียน 1 ห้อง) —> Three classes (ชั้นเรียน 3 ห้อง)
A bush (พุ่มไม้ 1 พุ่ม) —> Bushes (พุ่มไม้หลายพุ่ม)
A watch (นาฬิกาข้อมือ 1 เรือน) —> Five watches (นาฬิกาข้อมือ 5 เรือน)
A box (กล่อง 1 ช่อง) —> Two boxes (กล่อง 2 ช่อง)
A tomato (มะเขือเทศ 1 ลูก) —> Tomatoes (มะเขือเทศหลายลูก)
ข้อยกเว้น: คำนามที่ยืมมาบางคำไม่ใช่ภาษาอังกฤษต้นฉบับ ลงท้ายด้วย “o” แต่เราเติม “S” เท่านั้น เช่น
คำนามเอกพจน์ —> คำนามพหูพจน์
a photo (รูปภาพ 1 รูป) —> photos (รูปภาพหลายรูป)
a radio (วิทยุ 1 ตัว) —> radios (วิทยุหลายตัว)
a bamboo (ต้นไผ่ 1 ต้น) —> bamboos (ต้นไผ่หลายต้น)
a kangaroo (จิงโจ้ 1 ตัว) —> kangaroos (จิงโจ้หลายตัว)
a cuckoo (นกกาเหว่า 1 ตัว) —> cuckoos (นกกาเหว่าหลายตัว)
คำนามที่ลงท้ายด้วย “y”
- ถ้าอยู่ก่อน “y” เป็นพยัญชนะ ให้เปลี่ยน “y” -> i+es
ตัวอย่าง:
- a fly -> two flies
=> คำนาม “fly” ลงท้ายด้วย “y” ก่อน “y” เป็นพยัญชนะ “l” เราจึงเปลี่ยน “y” -> i+es
- ถ้าอยู่ก่อน “y” เป็นสระ (a,e,i,o,u) เราก็แค่เติม “s” หลัง “y”
ตัวอย่าง:
- A boy (เด็กชาย 1 คน) -> Two boys (เด็กชาย 2 คน)
=> คำนาม “boy” ลงท้ายด้วย “y” อยู่ก่อน “y” เป็นสระ “o” เราจึงเก็บ “y” + s
คำนามที่ลงท้ายด้วย “F” หรือ “Fe” เราเปลี่ยน: f/fe -> v+es
ตัวอย่าง:
- A leaf (ใบไม้ 1 ใบ) -> Leaves (ใบไม้หลายใบ)
=> คำนาม “leaf” ลงท้ายด้วย “F” เราจึงเปลี่ยน “F” -> v+es
- A knife (มีด 1 เล่ม) -> Three knives (มีด 3 เล่ม)
=> คำนาม “knife” ลงท้ายด้วย “Fe” เราจึงเปลี่ยน “Fe” -> v+es
ข้อยกเว้น
Roofs: หลังคา Gulfs: อ่าว Cliffs: หน้าผา Reefs: แนวปะการัง
Proofs: หลักฐาน Chiefs: ผู้นำ Safes: ตู้เซฟ Dwarfs: คนแคระ
Turfs: ดินชั้นบน Griefs: ความทุกข์ Beliefs: ความเชื่อ
มีคำนามรูปแบบพิเศษบางคำที่ไม่เป็นไปตามกฎข้างต้น
คำนามเอกพจน์ คำนามพหูพจน์
a tooth (ฟัน 1 ซี่) —> teeth ฟันหลายซี่)
a foot (เท้า 1 ข้าง) —> feet (เท้าทั้งสองข้าง)
a person (บุคคล 1 คน) —> people (บุคคลหลายคน)
a man (ผู้ชาย 1 คน) —> men (ผู้ชายหลายคน)
a woman (ผู้หญิง 1 คน) —> women (ผู้หญิงหลายคน)
a policeman (ตำรวจ 1 คน) —> policemen (ตำรวจหลายคน)
a mouse (หนู 1 ตัว) —> mice (หนูหลายตัว)
a goose (ห่าน 1 ตัว) —> geese (ห่านหลายตัว)
an ox (วัวตัวผู้ 1 ตัว) —> oxen (วัวตัวผู้หลายตัว)
วิธีใช้ a/an นำหน้านามนับได้เอกพจน์
เราใช้ a/an นำหน้าคำนามนับได้เอกพจน์ “a/an” ทั้งสองหมายความว่า หนึ่ง ใช้ในประโยคทั่วไปหรืออ้างถึงเรื่องที่ยังไม่เคยกล่าวถึงมาก่อน
ตัวอย่าง:
- A dog is running on the street. (สุนัขตัวหนึ่งกำลังวิ่งอยู่บนถนน)
- I saw a girl dancing very well last night. (เมื่อคืนฉันเห็นผู้หญิงคนหนึ่งเต้นได้ดีมาก)
Article “an” ใช้นำหน้าคำนามเอกพจน์ที่นับได้ซึ่งขึ้นต้นด้วยสระ
เราใช้ “an” กับคำนามที่ขึ้นต้นด้วยสระ a, e, i, o, u
ตัวอย่าง:
- an apple (แอปเปิ้ล 1 ลูก)
- an egg (ไข่ 1 ฟอง)
- an umbrella (ร่ม 1 คัน)
Article “a”: ใช้นำหน้าคำนามนับได้เอกพจน์ที่ขึ้นต้นด้วยพยัญชนะ
นอกจากสระทั้ง 5 ข้างต้นแล้ว ที่เหลือจะเป็นพยัญชนะ
เราใช้ “a” กับคำนามที่ขึ้นต้นด้วยพยัญชนะ และบางคำนามที่ขึ้นต้นด้วย u, y และ h
ตัวอย่าง:
- a book (หนังสือ 1 เล่ม)
- a computer (คอมพิวเตอร์ 1 เครื่อง)
- a year (1 ปี)
- A house (บ้าน 1 หลัง)
วิธีออกเสียงส่วนลงท้ายของ Noun พหูพจน์
Noun พหูพจน์ตามกฎ
คำนามมักจะเปลี่ยนเป็นรูปพหูพจน์โดยเติม “s” หรือ “es” ต่อท้ายตามด้านบน การออกเสียงส่วนท้ายของคำนามพหูพจน์ก็เหมือนกับการออกเสียงคำภาษาอังกฤษที่มีส่วนท้าย s, es:
- เมื่อคำนามลงท้ายด้วยพยัญชนะที่ไม่มีเสียง /p/, /t/, /k/, /f/, /θ/ เสียงลงท้ายจะอ่านว่า /s/
ตัวอย่าง:
students /ˈstudənts/
months /mʌnθS/
cups /kʌps/
- เมื่อคำนามลงท้ายด้วยเสียง /s/, /z/, /ʃ/, /tʃ/, /ʒ/, /dʒ/, เสียงลงท้ายจะอ่านว่า /iz/
ตัวอย่าง:
kisses /’kɪsiz/
brush /brә:∫iz/
garage /ɡəˈrɑːʒiz/
- เมื่อคำนามลงท้ายด้วยพยางค์ที่เหลือ เสียงลงท้ายจะอ่านว่า /z/
ตัวอย่าง:
pens /pɛnz/ (ปากกา)
rooms /ruːmz/ (cห้อง)
things /θɪŋz/ (สิ่งของ)
Noun พหูพจน์ที่ผิดปกติ
หากคุณได้เรียนรู้เกี่ยวกับคำนามในภาษาอังกฤษแล้ว คุณจะละเลยความรู้ที่สำคัญเกี่ยวกับคำนามพหูพจน์ที่ผิดปกติต่อไปนี้ไม่ได้อย่างแน่นอน มาเรียนด้วยกันนะ
คำนามเอกพจน์ทั่วไป แค่เปลี่ยนสระของคำก็จะเป็นคำนามพหูพจน์
คำนามเอกพจน์ | วิธีอ่าน | คำนามพหูพจน์ | วิธีอ่าน | แปล |
foot | /fʊt/ | feet | /fiːt/ | เท้า |
tooth | /tuːθ/ | teeth | /tiːθ/ | ฟัน |
goose | /ɡuːs/ | geese | /ɡiːs/ | ห่าน |
man | /mæn/ | men | /men/ | ผู้ชาย |
woman | /ˈwʊmən/ | women | /ˈwɪmɪn/ | ผู้หญิง |
คำนามเอกพจน์ทั่วไป ที่เปลี่ยนการสะกดคำก็เป็นคำนามพหูพจน์
คำนามเอกพจน์ | วิธีอ่าน | คำนามพหูพจน์ | วิธีอ่าน | แปล |
a mouse | /maʊs/ | mice | /maɪs/ | หนู |
a die | /daɪ/ | dice | /daɪs/ | ลูกเต๋า |
an ox | /ɑːks/ | oxen | /ˈɑːksn/ | วัวตัวผู้ |
a child | /tʃaɪld/ | children | /ˈtʃɪldrən/ | เด็ก |
a person | /ˈpɜːrsn/ | people | /ˈpiːpl/ | บุคคล |
คำนามที่มีรูปเอกพจน์และพหูพจน์… เหมือนกันโดยสิ้นเชิง
คำนามเอกพจน์ | คำนามพหูพจน์ | วิธีอ่าน | แปล |
a sheep | sheep | /ʃiːp/ | แกะ |
a fish | fish | /fɪʃ/ | ปลา |
a deer | deer | /dɪr/ | กวาง |
a moose | moose | /muːs/ | กวางเอเชีย |
a buffalo | buffalo | /ˈbʌfələʊ/ | ควาย |
หมายเหตุบางอย่างที่คุณต้องจำไว้
ไม่ใช่ทุกคำนามที่ลงท้ายด้วย -s จะเป็นคำนามพหูพจน์
คำนามต่อไปนี้ลงท้ายด้วย -s แต่ไม่ใช่คำนามพหูพจน์
- news (ข่าว),…
- billiards (บิลเลียด),…
- ความเจ็บป่วย: mumps (คางทูม), measles (โรคหัด),…
- วิชา: mathematics (คณิตศาสตร์), physics (ฟิสิกส์), linguistics (ภาษาศาสตร์), aerobics (แอโรบิก), gymnastics (ยิมนาสติก), statistics (สถิติ), acoustics (อะคูสติก),…
- means (เงิน), species สัตว์),…
มีคำนามในภาษาอังกฤษที่มีรูปพหูพจน์เท่านั้น ไม่มีรูปเอกพจน์
และคำนามเหล่านี้ไม่สามารถ “ไปด้วยกัน” กับตัวเลขได้ คำนามเหล่านี้มักเป็นสิ่งของที่มี 2 ส่วน ตัวอย่าง:
เสื้อผ้า
- panties, boxers, briefs, pantyhose,…
- jeans (กางเกงยีนส์), pants (กางเกงขายาว), pajamas (ชุดนอน), shorts (กางเกงขาสั้น),…
เครื่องมือ
- headphones, earphones,… (หูฟัง)
- pliers (คีม), scissors (กรรไกร), tongs (ที่หนีบ), tweezers (แหนบ),…
- binoculars (กล้องส่องทางไกล), eyeglasses (แว่นตา), sunglasses (แว่นกันแดด), goggles (แว่นตาป้องกัน),…
เนื่องจากคำนามเหล่านี้มีสองส่วน เมื่อพูดถึงคำเหล่านี้ เจ้าของภาษามักจะใช้วลี “a pair of”/”pairs of” เพื่อระบุจำนวน
- I have a new pair of sunglasses.
- You can get rid of that old pair of earphones.
- I’d like to buy three pairs of briefs and one pair of pants.
นอกจากนี้ เรายังมีคำนามพหูพจน์ทั่วไปคำอื่นๆ เช่น
- earnings (รายได้)
- belongings (ข้าวของ), clothes (เสื้อผ้า)
- congratulations (คำแสดงความยินดี), thanks (คำขอบคุณ)
- outskirts (ชานเมือง), premises (สถานที่), surroundings (พื้นที่โดยรอบ)
และแน่นอนว่า คำนามเหล่านี้ในประโยคต้องคู่กับคำสรรพนามพหูพจน์และคำกริยาพหูพจน์
- Make sure your belongings are tagged with your name before you check them in.
- His thanks are clearly sincere.
- If your clothes are wet, you can dry them upstairs.
- The outskirts of Bangkok are really pretty and they stretch for miles.
คำและวลีบางคำมักจะใช้กับ Noun นับได้และ Noun นับไม่ได้
คํานามนับได้(count nouns) | คํานามนับไม่ได้(non-count nouns) |
a/an (ใช้เพียงกับเอกพจน์) | — (โดยไม่มี article) |
the | the |
some | some |
a lot of / lots of | a lot of / lots of |
many (มาก) | much (มาก) |
a few (เล็กน้อย) | a little (เล็กน้อย) |
few (เล็กน้อย) | little (เล็กน้อย) |
fewer (รูปแบบการเปรียบเทียบมากขึ้นของ few) | less (รูปแบบการเปรียบเทียบมากขึ้นของ little) |
fewest (รูปแบบการเปรียบเทียบสูงสุดของ few) | least (รูปแบบการเปรียบเทียบสูงสุดของ little) |
not many (ไม่มาก) | not much (ไม่มาก) |
not any (ไม่มีอะไร) | not any (ไม่มีอะไร) |
Noun ภาษาอังกฤษทั่วไป
คำภาษาอังกฤษ | ความหมายภาษาไทย | คำภาษาอังกฤษ | ความหมายภาษาไทย |
Tree | ต้นไม้ | News | ข่าว |
Car | รถยนต์ | Paper | กระดาษ |
People | บุคคล | Story | เรื่องราว |
Dog | สุนัข | Park | สวน |
Cat | แมว | Lake | ทะเลสาบ |
Store | ร้านค้า | Bike | จักรยาน |
Way | ถนน | Bag | กระเป๋านักเรียน |
World | โลก | School | โรงเรียน |
Water | น้ำ | Market | ตลาด |
Sugar | น้ำตาล | Vegetable | ผัก |
map | แผนที่ | Flower | ดอกไม้ |
Family | ครอบครัว | Rice | ข้าว |
Meat | เนื้อ | Goal | เป้าหมาย |
Computer | คอมพิวเตอร์ | Area | พื้นที่ |
Year | ปี | Army | กองทัพ |
Music | ดนตรี | Thing | สิ่ง |
Door | ประตู | Painting | จิตรกรรม |
Table | โต๊ะ | Ball | ลูกบอล |
Book | หนังสือ | Wood | ไม้ |
Pen | ปากกา | Fire | ไฟ |
Bird | นก | Money | เงิน |
Candy | ลูกอม | Zoo | สวนสัตว์ |
Food | อาหาร | Bus | รสบัส |
Power | พลัง | Eyes | ตา |
Love | รัก | Dress | ชุด |
แบบฝึกหัดเกี่ยวกับ Noun
แบบฝึกหัดที่ 1: จงชี้คำนาม
จงชี้นามวลีหรือคำนามในประโยคต่อไปนี้
1. My younger sister is working for an international company.
2. Her niece wants to become a scientist in the future.
3. We need to buy a lot of things for the party.
4. That unlucky old lady hasn’t found her wallet.
5. This corporation has many branches around the world.
6. We have visited all museums in Paris.
7. I consider Anna my best friend.
8. It took the firefighters two hours to put out the fire.
9. Two new air conditioners were installed in our office yesterday.
10. This city is famous for its shopping centers and amusement parks.
คำเฉลย
1. My younger sister is working for an international company.
2. Her niece wants to become a scientist in the future.
3. We need to buy a lot of things for the party.
4. That unlucky old lady hasn’t found her wallet.
5. This corporation has many branches around the world.
6. We have visited all museums in Paris.
7. I consider Anna my best friend.
8. It took the firefighters two hours to put out the fire.
9. Two new air conditioners were installed in our office yesterday.
10. This city is famous for its shopping centers and amusement parks.
แบบฝึกหัดที่ 2: จัดเรียงประโยคให้ถูกต้อง
จัดเรียงคำด้านล่างเพื่อสร้างประโยคให้ถูกต้อง
1. elder sister/ that/ wants/ for/ international/ my/ work/ to/ company/ .
2. helped/ bags/ kind/ me/ carry/ those/ to/ kids/ my/ heavy/ .
3. bought/ my/ a/ apartment/ parents/ last/ cozy/ year/ .
4. always/ valuable/ caring/ boss/ us/ our/ gives/ advice/ .
5. offers/ and/ that/ a high/ great/ salary/ company/ benefits/ great/ .
6. misses/ irresponsible/ always/ that/ the/ employee/ deadlines/ .
7. leader/ like/ meetings/ doesn’t/ our/ long/ .
คำเฉลย
1. My elder sister wants to work for that international company.
2. Those kind kids helped me to carry my heavy bags.
3. My parents bought a cozy apartment last year.
4. Our caring boss always gives us valuable advice.
5. That company offers a high salary and great benefits.
6. That irresponsible employee always misses the deadlines.
7. Our leader doesn’t like long meetings.
ด้านบนคือทฤษฎี Noun ในภาษาอังกฤษและแบบฝึกหัดที่ ELSA Speak ได้รวบรวมขึ้น โปรดแชร์บทความนี้หากเป็นประโยชน์กับคุณ และทบทวนความรู้เมื่อคุณต้องการนะ! หากคุณกำลังเรียนภาษาอังกฤษแบบประปรายและไม่ถูกหลักวิทยาศาสตร์ คุณควรดูเส้นทางการเรียนรู้ภาษาอังกฤษอย่างจริงจังและมีระเบียบแบบแผนที่นี่
แน่นอนว่า ในชีวิตประจำวัน หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีช่วงเวลาที่ยากลำบากและจำเป็นต้องขอความช่วยเหลือจากใครสักคน งั้นคุณรู้ไวยากรณ์เกี่ยวกับโครงสร้างประโยคขอความช่วยเหลือแล้วหรือยัง? มาร่วมกับ ELSA Speak เรียนรู้อย่างละเอียดเกี่ยวกับโครงสร้าง ประโยคขอความช่วยเหลือ ภาษาอังกฤษ!
โครงสร้างประโยคขอความช่วยเหลือคืออะไร
โครงสร้างประโยคขอความช่วยเหลือภาษาอังกฤษ ได้ใช้เพื่ออธิบายเหตุการณ์หรือการกระทำที่ผู้พูดไม่อยากทำหรือไม่สามารถทำได้และต้องการขอความช่วยเหลือ จ้าง หรือสั่งให้ผู้อื่นทำแทน
เรามักจะใช้อนุประโยคที่มี Have หรือ Get ในโครงสร้างประโยคขอความช่วยเหลือทั้งในรูปแบบแอ็คทีฟและพาสซีฟ
ตัวอย่าง:
- I had Martin repair my bike yesterday. (ฉันขอให้มาร์ตินซ่อมจักรยานเมื่อวานนี้)
- The kid got his hair cut by Hanna this morning. (เด็กขอให้ฮันนาตัดผมให้เมื่อเช้านี้)
หลักการใช้โครงสร้างประโยคขอความช่วยเหลือ ภาษาอังกฤษ
ในภาษาอังกฤษ เราจะใช้โครงสร้างประโยคขอความช่วยเหลือในกรณีต่อไปนี้
แสดงคำขอความช่วยเหลือ
เมื่อคุณอยากขอให้ใครทำอะไรให้คุณ คุณสามารถใช้โครงสร้างประโยคขอความช่วยเหลือ “have” หรือ “get” การใช้งานนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเน้นกระบวนการ/การกระทำมากกว่าบุคคลที่ทำงานนั้น
ตัวอย่าง:
- Hanna had the wall painted last Monday. (ฮันนาขอคนทาสีผนังเมื่อวันจันทร์ที่แล้ว)
- Kathy got her hair cut yesterday. (เคธีขอตัดผมเมื่อวานนี้)
อธิบายสิ่งเลวร้ายที่เกิดขึ้น
เมื่อมีสิ่งเลวร้ายเกิดขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีคนได้รับผลกระทบในทางลบจากการกระทำของคนอื่น เราจะใช้โครงสร้าง “Have/get something done”
ตัวอย่าง:
- Harry had his phone stolen last Thursday. (แฮรี่โดนขโมยโทรศัพท์เมื่อวันอังคารที่แล้ว)
- Did Harry get his phone stolen last Thursday? (แฮร์รี่โดนขโมยโทรศัพท์เมื่อวันอังคารที่แล้วหรือเปล่า?)
โครงสร้าง ประโยคขอความช่วยเหลือ ภาษาอังกฤษ Have และ Get ในรูปแบบแอ็คทีฟ
ประโยคขอความช่วยเหลือ ภาษาอังกฤษ ในรูปแบบแอ็คทีฟได้ใช้เพื่อแสดงว่า มีใครสักคนขอความช่วยเหลือหรือสั่งให้ใครทำอะไร
โครงสร้างประโยคขอความช่วยเหลือในรูปแบบแอ็คทีฟด้วย Have
โครงสร้าง:
S + have + (sb) + V-inf + …
ตัวอย่าง:
- Hanna had John repair the laptop last Monday. (ฮันนาขอให้จอห์นซ่อมคอมพิวเตอร์เมื่อวันจันทร์ที่แล้ว)
- Sara had Anna send that letter to Tim yesterday. (ซาร่าขอให้แอนนาส่งจดหมายฉบับนั้นให้ทิมเมื่อวานนี้)
โครงสร้างประโยคขอความช่วยเหลือ ภาษาอังกฤษในรูปแบบแอ็คทีฟด้วย Get
โครงสร้าง:
S + get + (sb) + to + V-inf + …
ตัวอย่าง:
- Harry got his friend to fix the computer yesterday. (แฮร์รี่ขอให้เพื่อนของเขาซ่อมคอมพิวเตอร์เครื่องนี้เมื่อวานนี้)
- Hanna got John to draw this picture. (ฮันนาขอให้จอห์นวาดรูปนี้)
โครงสร้าง ประโยคขอความช่วยเหลือ ภาษาอังกฤษ Have และ Get ในรูปแบบพาสซีฟ
ประโยคขอความช่วยเหลือ ภาษาอังกฤษ ในรูปแบบพาสซีฟได้ใช้เพื่ออธิบายบางสิ่งที่บางคนไม่สามารถหรือไม่อยากทำด้วยตัวเอง และต้องการความช่วยเหลือจากผู้อื่น
โครงสร้างประโยคขอความช่วยเหลือในรูปแบบพาสซีฟด้วย Have
โครงสร้าง:
S + have + sth + V-ed/PII + … + by sb.
ตัวอย่าง:
- Mrs. Sara will have this wall painted. (นางสราจะขอให้คนมาทาสีผนังนี้)
- Martin’s mother had the clothes washed by him yesterday. (แม่ของมาร์ตินขอให้เขาซักผ้าเมื่อวานนี้)
โครงสร้างประโยคขอความช่วยเหลือในรูปแบบพาสซีฟด้วย Get
โครงสร้าง:
S + get + sth + V-ed/ PII + … + by sb.
ตัวอย่าง:
- Jenny got her hair cut last Monday. (เมื่อวันจันทร์ที่แล้วเจนนี่ไปตัดผมมา)
- Kathy got her laptop cleaned by Jane yesterday. (เคธีขอให้เจนช่วยทำความสะอาดแล็ปท็อปของเธอเมื่อวานนี้)
โครงสร้างประโยคขอความช่วยเหลืออื่น ๆ ในภาษาอังกฤษ
นอกจากโครงสร้างประโยคขอความช่วยเหลือด้วย Have และ Get แล้ว ยังมีโครงสร้างการต้องการความช่วยเหลือภาษาอังกฤษอื่นๆ ดังนี้
โครงสร้างประโยคขอความช่วยเหลือ ภาษาอังกฤษ ด้วย Make และ Force
โครงสร้างประโยคขอความช่วยเหลือที่ใช้กับ Make และ Force มีความสามารถในการบังคับให้ผู้อื่นทำในสิ่งที่พวกเราต้องการ
ในรูปแบบแอ็คทีฟ | ในรูปแบบพาสซีฟ | |
โครงสร้าง | S + make(s) + someone + V-infS + force(s) someone + to V-inf | S + make(s) + someone + adjective |
ตัวอย่าง | The robbers make Anna give them all the money.(พวกโจรทำให้แอนนามอบเงินทั้งหมดให้พวกเขา) The robbers forced Anna to give them all the money. (พวกโจรบังคับให้แอนนามอบเงินทั้งหมดให้พวกเขา) | Jenny’s father loves her so much, she makes him proud. (พ่อของเจนนี่รักเธอมาก เพราะเธอทำให้เขาภูมิใจ) |
โครงสร้างประโยคขอความช่วยเหลือด้วย Let และ Permit/ Allow
โครงสร้างคำขอภาษาอังกฤษนี้แสดงให้เห็นว่าใครอนุญาตให้ผู้อื่นทำอะไร
โครงสร้าง:
S + let(s) + someone + V-inf
S + permit/ allow(s) + someone + to V-inf
ตัวอย่าง:
- Kathy never want to let you go. (เคธีไม่เคยอยากที่จะปล่อยคุณไป)
- The parents didn’t permit/ allow Hanna to come home late. (พ่อแม่ไม่อนุญาตให้ฮันนากลับบ้านดึก)
โครงสร้างประโยคขอความช่วยเหลือในรูปแบบแอ็คทีฟด้วย Help
โครงสร้าง:
S + help(s) someone + V-inf/ to V-inf
เมื่อกรรมเป็นคำสรรพนามทั่วไป เราสามารถละเว้นกรรมและคำบุพบท “to” ได้ นอกจากนี้ เมื่อกรรมของ Help และการกระทำ “do” เรายังสามารถละเว้นกรรมและคำบุพบท “to” ได้
ตัวอย่าง:
- Hanna helps me open the door. (ฮันนาช่วยฉันเปิดประตู)
- This drug will help (people to) recover quickly. (ยานี้ช่วยให้ผู้คนฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว)
โครงสร้าง ประโยคขอความช่วยเหลือ ภาษาอังกฤษ ด้วย Want/Need/Would like/Prefer
โครงสร้าง:
Want/ need + something + (to be) + past participle
Would like/ prefer + something + (to be) + past participle
ตัวอย่าง:
- Hanna wants the curtain fixed before midnight. (ฮันนาต้องการให้ผ้าม่านได้ซ่อมเสร็จภายในเที่ยงคืน)
- Kathy would like her car washed when she comes home. (เคธีต้องการให้รถของเธอล้างก่อนเมื่อเธอกลับถึงบ้าน)
ตัวอย่าง ประโยคขอความช่วยเหลือ ภาษาอังกฤษ บ้างประโยคทั่วไป
นอกเหนือจากการเรียนรู้โครงสร้างประโยคขอความช่วยเหลือข้างต้นแล้ว เรายังจำเป็นต้องจดจำประโยคขอความช่วยเหลือภาษาอังกฤษต่อไปนี้
ประโยคขอความช่วยเหลือทั่วไป | ความหมาย |
Could Kathy help me? | แคธีช่วยฉันได้ไหม |
Can I ask Kathy a favor? | ฉันขอความช่วยเหลือจากเคธี่ได้ไหม |
Would Kathy mind turning off the light? | แคธีปิดไฟได้ไหม |
Could Kathy give me a hand? | แคธีช่วยฉันหน่อยได้ไหม |
Please can Kathy do me a favor? | คุณช่วยอะไรฉันหน่อยได้ไหม เคธี |
Kathy needs your help on …. | เคธีต้องการความช่วยเหลือเกี่ยวกับ… |
Could Kathy please help me out with…? | เคธีช่วยฉันเรื่องนี้ได้ไหม |
I wonder if Kathy could help me with this? | ฉันสงสัยว่า เคธีจะช่วยฉันได้ไหม |
If you don’t mind, I could really use your assistance with…? | ถ้าไม่รังเกียจ ฉันสามารถขอความช่วยเหลือของคุณกับ…? |
If Kathy doesn’t mind, I really need her help with… | ถ้าเคธีไม่ว่าอะไร ฉันอยากให้เธอช่วยเรื่อง…. |
Is there any chance that Kathy could give me a hand with…? | เคธี ขอช่วยฉันด้วย…ได้ไหม? |
>>> Read more
- [การ review อย่างละเอียด] App เรียนภาษาอังกฤษสำหรับเด็กดีหรือไม่ราคาเท่าไหร่
- [รีวิวแบบละเอียด] ELSA Speak คืออะไร? แอปฝึกพูดภาษาอังกฤษสำหรับคนทำงานที่มีเวลาน้อย
แบบฝึกหัด ประโยคขอความช่วยเหลือ ภาษาอังกฤษ Have และ Get
หลังจากเรียนรู้เกี่ยวกับโครงสร้างประโยคขอความช่วยเหลือแล้ว เรามาฝึกกับ ELSA Speak กันสักหน่อยเพื่อจำทฤษฎีเหล่านี้กันดีกว่า!
แบบฝึกหัด: จงเลือกคำตอบที่ถูกต้องสำหรับประโยคต่อไปนี้
1.I _______ by Kathy at the moment.
- A. am having painted the wall
- B. am having the wall painted
- C. am having painted the wall
- D. am painting the wall
2.Hanna ______ at the garage yesterday.
- A. fix it
- B. is having her car fixed
- C. had her car fixed
- D. was having her car fixed
3.Jenny ______ the motorbike at 10 p.m yesterday.
- A. Martin washed
- B. had Martin washed
- C. had Martin wash
- D. had Martin washing
4.Kathy ______ the housework.
- A. got Anna do
- B. got Anna done
- C. had Anna done
- D. got Anna to do
5.Sara _______ the window yesterday.
- A. got John clean
- B. had John cleaned
- C. had John clean
- D. got John cleaned
คำเฉลย
- B
- C
- C
- D
- C
บทความข้างต้นนี้ ELSA Speak ก็ได้รวบรวมความรู้ทั้งหมดเกี่ยวกับโครงสร้างประโยคขอความช่วยเหลือภาษาอังกฤษแล้ว รวมถึงโครงสร้าง หลักการใช้งาน ตัวอย่าง และโครงสร้างที่คล้ายกันอย่างละเอียดแล้วนะ! จงบันทึกทันทีเพื่อเรียนรู้กันนะ!
Reported Speech คือ อะไร
Reported Speech หรือที่เรียกว่า Indirect Speech เป็นประโยคที่ใช้เมื่อเราต้องการเล่าหรือเล่าประโยคที่คนอื่นพูด
ตัวอย่างเช่น ลิซ่าพูดประโยคต่อไปนี้:
เรามี 2 วิธีในการเล่าให้คนอื่นรู้ว่า ลิซ่าพูดอะไร:
- ทำซ้ำตามที่ลิซ่าพูดทุกประการ: Lisa said, ‘I’m tired.’ = ลิซ่าบอกว่า ‘ฉันเหนื่อย’
- หรือเล่าคำพูดของลิซ่า: Lisa said that she was tired. = ลิซ่าบอกว่าเธอเหนื่อย
→ แบบนี้เรียกว่า Reported Speech
วิธีเปลี่ยน Direct Speech เป็น Reported Speech
บทสรุป
4 ขั้นตอนในการเปลี่ยนจากประโยค Direct Speech เป็น ประโยค Reported Speech:
ขั้นตอนที่ 1: เลือกคำ Reporting Verb: said, told,…
ขั้นตอนที่ 2: เปลี่ยนรูป tense ของคำกริยาปัจจุบันให้เป็นอดีต
ขั้นตอนที่ 3: เปลี่ยนสรรพนามและคำคุณศัพท์แสดงความเป็นเจ้าของ
ขั้นตอนที่ 4: เปลี่ยนคำที่บ่งบอกสถานที่และเวลา
อย่างที่คุณเห็นด้านบนแล้ว ประโยค Direct Speech และ Indirect Speech นั้นแตกต่างกันมาก ประโยค Direct Speech ที่ลิซ่าพูดคือ I’m tired แต่ประโยคที่เราเล่าคือ Lisa said that she was tired
มาเรียนรู้การเปลี่ยน Direct Speech เป็น Reported Speech ใน 4 ขั้นตอนพร้อมตัวอย่างกันนะ!
สมมติว่า เราได้ยินคุณทอมพูดว่า:
I want to see this movie with my girlfriend tomorrow.
ผมอยากดูหนังเรื่องนี้กับแฟนผมในวันพรุ่งนี้
ขั้นตอนที่ 1: เลือกคำ Reporting Verb
เพื่อจะเล่าประโยคที่คนอื่นพูด เราจะพูดว่า “เขาบอกว่า…” หรือ “เธอบอกว่า…”
ในภาษาอังกฤษ เรามักจะใช้คำกริยา 2 คำ ได้แก่ said (รูปอดีตกาลของ say ซึ่งหมายถึงว่า พูด/บอก) และ told (รูปอดีตกาลของ tell ซึ่งหมายถึงว่า บอกใครสักคน)
- Tom said that…
ทอมบอกว่า…
- Tom told Kelly that…
ทอมบอกเคลลี่ว่า…
ตัวอย่าง 2 ประโยคข้างต้นยังแสดงให้เห็นความแตกต่างระหว่าง said และ told ก็คือ
- คำว่า told ที่บังคับใช้เมื่อเราต้องการเล่าว่า ทอมพูดกับคนอื่น
- ถ้าเราไม่อยากพาดพิงถึงคนนี้ เราก็ใช้คำว่า said
นอกจาก said และ told แล้ว เรายังสามารถใช้คำอื่นๆ เพื่ออธิบายลักษณะของคำพูดได้ดียิ่งขึ้น เช่น
- asked = ถาม
- denied = ปฏิเสธ
- promised = สัญญา
- suggested = แนะนำ
- และอีกหลายคำ
อย่างไรก็ตาม คำเหล่านี้มักไม่ใช้โครงสร้าง said that หรือ told somebody that แต่จะใช้โครงสร้าง V-ing หรือ To + Verb อย่างเช่น ask someone + To Verb หรือ denied + V-ing
ในบทเรียนนี้ เพื่อทำความคุ้นเคยกับ Reported Speech คุณเพียงแค่ต้องจำคำ 2 คำคือ said และ told ก็พอแล้ว หากคุณต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับคำเหล่านี้ คุณสามารถศึกษาได้ในบทเรียน V-ing และ To Infinitive!
นอกจากนี้ เช่นเดียวกับภาษาไทย เรามักจะตัดคำ ว่า เพื่อให้ประโยคมีความกระชับมากขึ้น ในภาษาอังกฤษเราก็สามารถละคำ that ได้เช่นกัน
- Tom said that… = Tom said…
ทอมบอกว่า… = ทอมบอก…
ด้วยความรู้ข้างต้น Reported Speech ระหว่างกาลของขั้นตอนนี้คือ
I want to see this movie with my girlfriend tomorrow.
→ Tom said that I want to see this movie with my girlfriend tomorrow.
ขั้นตอนที่ 2: เปลี่ยนรูป tense ของคำกริยาใน Direct Speech ให้เป็นอดีต
เพื่อแสดงว่า คำพูดนั้นเป็นอดีตแล้วและอาจจะไม่เป็นความจริงในปัจจุบัน เราจำเป็นต้องเปลี่ยนคำกริยาใน past tense การดำเนินการนี้มักเรียกว่า “การเปลี่ยนรูป tense”
เราจะ “เปลี่ยนรูป tense” โดยทั่วไป ดังนี้
- Present Simple Tense → Past Simple Tense
- Simple Future Tense → Simple Future Tense ในอดีต
- Past Simple Tense → Past Perfect Tense
ดังต่อไปนี้
Direct Speech | Reported Speech |
Present Simple Tense | Past Simple Tense |
Present Continuous Tense is/are working | Past Continuous Tense was/were working |
Present Perfect Tense have/has worked | Past Perfect Tense had worked |
Present Perfect Continuous Tense have/has been working | Past Perfect Continuous Tense had been working |
Simple Future Tense will work | Simple Future Tense (ในอดีต) would work |
Future Continuous Tense will be working | Future Continuous Tense (ในอดีต) would be working |
Future Perfect Tense will have worked | Future Perfect Tense (ในอดีต) would have worked |
Future Perfect Continuous Tense will have been working | Future Perfect Continuous Tense (ในอดีต) would have been working |
Past Simple Tense worked | Past Perfect Tense had worked |
Past Continuous Tense was/were working | Past Perfect Continuous Tense had been working |
Past Perfect Tense had worked | Past Perfect Tense (คงเดิมเพราะเปลี่ยนรูป tense อีกไม่ได้) had worked |
Past Perfect Continuous Tense had been working | Past Perfect Continuous Tense (คงเดิมเพราะเปลี่ยนรูป tense อีกไม่ได้) had been working |
ส่วน modal verb จะถูกเปลี่ยน ดังนี้
ในประโยคตัวอย่าง คำกริยา want จะเปลี่ยนเป็นรูปอดีต wanted ดังนั้น Reported Speech ระหว่างกาลของขั้นตอนนี้คือ
I want to see this movie with my girlfriend tomorrow.
→ Tom said that I wanted to see this movie with my girlfriend tomorrow.
ขั้นตอนที่ 3: เปลี่ยนสรรพนามและคำคุณศัพท์แสดงความเป็นเจ้าของ
เมื่อทอมพูดว่า “I want to see this movie with my girlfriend tomorrow”, “I” ในที่นี้หมายถึงทอมใช่ไหมล่ะ!
ดังนั้น เมื่อเราเล่าคำพูดของทอม เราจะไม่สามารถเล่าได้ว่า “I want to see this movie” เพราะ “I” ในตอนนั้นคือเรา ดังนั้นใน Reported Speech “I” ต้องเปลี่ยนเป็น “he”
เข้าใจกฎนี้ได้แล้ว เมื่อเปลี่ยน Direct Speech เป็น Reported Speech คุณจะต้องเปลี่ยนคำสรรพนามตามด้วย
ด้านล่างนี้คือตารางการเปลี่ยนคำสรรพนามใน Reported Speech คุณไม่จำเป็นต้องจำตารางด้านล่างนี้ทั้งหมด แค่เข้าใจกฎก็เพียงพอแล้ว ตารางนี้ใช้สำหรับอ้างอิงเท่านั้นในกรณีที่คุณลืม
Direct Speech | Reported Speech |
I | he / she |
we | they |
you (เอกพจน์) | he / she / I |
you (พหูพจน์) | they |
me | him / her |
us | them |
you (เอกพจน์) | him / her / me |
you (พหูพจน์) | them |
myself | himself / herself |
ourselves | themselves |
yourselfe | himself / herself / myself |
yourselves | themselves |
ในทำนองเดียวกัน คำสรรพนามแสดงความเป็นเจ้าของและคำคุณศัพท์แสดงความเป็นเจ้าของก็จำเป็นต้องเปลี่ยนเช่นกัน
Direct Speech | Reported Speech |
my | his / her |
our | their |
you (เอกพจน์) | his / her / my |
you (พหูพจน์) | their |
mine | his / hers |
ours | theirs |
you (เอกพจน์) | his / her / mine |
you (พหูพจน์) | theirs |
ดังนั้นในประโยคตัวอย่าง I จะเปลี่ยนเป็น he และ my จะเปลี่ยนเป็น his ดังนั้น Reported Speech ระหว่างกาลของขั้นตอนนี้คือ
I want to see this movie with my girlfriend tomorrow.
→ Tom said that he wanted to see this movie with his girlfriend tomorrow.
>>> Read more
- [การ review อย่างละเอียด] App เรียนภาษาอังกฤษสำหรับเด็กดีหรือไม่ราคาเท่าไหร่
- [รีวิวแบบละเอียด] ELSA Speak คืออะไร? แอปฝึกพูดภาษาอังกฤษสำหรับคนทำงานที่มีเวลาน้อย
ขั้นตอนที่ 4: เปลี่ยนคำที่บ่งบอกสถานที่และเวลา
เราก็ต้องเปลี่ยนคำที่บ่งบอกสถานที่และเวลาด้วย สิ่งนี้ค่อนข้างเข้าใจง่ายได้ เพราะเมื่อเราเล่าคำพูดของคนอื่น เรามักจะไม่ได้อยู่ในสถานที่และเวลาที่คนนั้นพูดอีกต่อไป
ดังนั้น คำที่บ่งบอกสถานที่และเวลาจะได้เปลี่ยนดังนี้
Direct Speech | Reported Speech |
here | there |
now | then |
today | that day |
tonight | that night |
yesterday | the previous daythe day before |
tomorrow | the following daythe next day |
(two weeks) ago | (two weeks) before |
last (month) | the previous monththe month before |
next (month) | the following monththe next month |
this | that |
these | those |
ดังนั้นในประโยคตัวอย่าง this เปลี่ยนเป็น that และ tomorrow เปลี่ยนเป็น the following day ในที่สุด เราก็มีประโยค Reported Speech ที่สมบูรณ์ คือ
I want to see this movie with my girlfriend tomorrow.
→ Tom said that he wanted to see that movie with his girlfriend the following day.
Reported Speech สำหรับคำถาม
บทสรุป
- Reported Speech สำหรับคำถามที่มีคำที่จะถาม
คล้ายกับประโยคปกติ แต่มีความแตกต่าง เช่น
- คงคำที่จะถามไว้
- เปลี่ยนตำแหน่งของหัวเรื่องและคำกริยา/กริยาช่วย
- ยังสามารถใช้โครงสร้าง To + Verb ถ้าหัวเรื่องในคำถามคือ I
- Reported Speech สำหรับคำถาม Yes/No:
คล้ายกับประโยคปกติ แต่มีความแตกต่าง เช่น
- ใช้คำ Reporting Verb: asked, wondered, wanted to know,…
- เพิ่มคำว่า if หรือ whether ก่อนคำถาม
- เปลี่ยนตำแหน่งของหัวเรื่องและคำกริยา/กริยาช่วย
Reported Speech สำหรับคำถามจะคล้ายกับ Reported Speech สำหรับประโยคปกติเหมือนข้างต้น โดยมีข้อแตกต่างเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ดังนี้
ใช้คำ Reporting Verb ที่อื่น
หากใน Reported Speech ปกติ เราใช้คำว่า said หรือ told เพื่อหมายถึงว่า “พูด/บอก” จากนั้นใน Reported Speech สำหรับคำถาม เราจะใช้คำว่า asked, wondered หรือ wanted to know เพื่อแสดงความคิดว่า “ถาม”
- asked = ถาม
- wondered = สงสัย
- wanted to know = อยากรู้
คำถามที่มีคำที่จะถาม
สำหรับ Reported Speech คำถามที่มีคำที่จะถาม (what, who, when, where, why, how…), คุณต้อง:
- คงคำที่จะถามไว้
- เปลี่ยนตำแหน่งของหัวเรื่องและคำกริยา/กริยาช่วย
ลองเปลี่ยนคำถามต่อไปนี้เป็น Reported Speech ด้วยนะ
Tom said “Where can I find Lisa?”
ก่อนอื่น เราทำการเปลี่ยน Reported Speech ตามปกติ:
- เลือกคำ Reporting Verb: เนื่องจากนี่คือคำถาม เราจึงใช้คำว่า asked (ถาม)
- เปลี่ยนรูป tense ของคำกริยา: เปลี่ยน can เป็น could
- เปลี่ยนคำสรรพนามและคำคุณศัพท์แสดงความเป็นเจ้าของ: เปลี่ยน I เป็น he
→ Tom asked where could he find Lisa.
>>> Read more
- [การ review อย่างละเอียด] App เรียนภาษาอังกฤษสำหรับเด็กดีหรือไม่ราคาเท่าไหร่
- [รีวิวแบบละเอียด] ELSA Speak คืออะไร? แอปฝึกพูดภาษาอังกฤษสำหรับคนทำงานที่มีเวลาน้อย
ตอนนี้ เราทำอีก 2 ขั้นตอน:
- คงคำที่จะถามไว้: คงคำ where ไว้
- เปลี่ยนตำแหน่งของหัวเรื่องและคำกริยา/กริยาช่วย: could he เปลี่ยนเป็น he could
→ Tom asked where he could find Lisa.
ทาดาห์! เราจึงเล่าคำถามของทอมได้แล้ว: Tom asked where he could find Lisa.
ตัวอย่าง:
- คำถาม: When does the meeting start?
Reported Speech: She asks when the meeting starts?
- คำถาม: What are you doing?
Reported Speech: She asked me what I was doing.
นอกจากนี้ หากหัวเรื่องในคำถามคือ I เราสามารถใช้ To + Verb ได้
- คำถาม: Where can I find Lisa?
Reported Speech 1: He asked where he could find Lisa.
Reported Speech ที่ 2: He asked where to find Lisa.
คำถาม Yes/No
สำหรับ Reported Speech ของคำถาม Yes/No คุณต้อง:
- เพิ่มคำว่า if หรือ whether ก่อนคำถาม
- เปลี่ยนตำแหน่งของหัวเรื่องและคำกริยา/กริยาช่วย
ลองเปลี่ยนคำถามต่อไปนี้เป็น Reported Speech ด้วยนะ
Lisa said to Ben “Did you see Tom this morning?”
ก่อนอื่น เราทำการเปลี่ยน Reported Speech ตามปกติ:
- เลือกคำ Reporting Verb: เนื่องจากลิซ่าถามเบ็น เราจึงใช้ asked Ben (ถามเบ็น)
- เปลี่ยนรูป tense ของคำกริยา: เปลี่ยน did see เป็น had seen
- เปลี่ยนคำสรรพนามและคำคุณศัพท์แสดงความเป็นเจ้าของ: เปลี่ยน you เป็น he (เพราะ you ในประโยคเดิมคือ Ben)
- เปลี่ยนคำที่บ่งบอกสถานที่และเวลา: เปลี่ยน this morning เป็น that morning
→ Lisa asked Ben had he seen Tom that morning.
ตอนนี้ เราทำอีก 2 ขั้นตอน:
- เพิ่มคำว่า if หรือ whether ก่อนคำถาม: Lisa asked Ben if had he seen Tom that morning.
- เปลี่ยนตำแหน่งของหัวเรื่องและคำกริยา/กริยาช่วย: had he seen เปลี่ยนเป็น he had seen
→ Lisa asked Ben if he had seen Tom that morning.
ดังนั้นเราจึงเล่าคำถามของลิซ่าได้แล้ว: Lisa asked Ben if he had seen Tom that morning.
ตัวอย่าง:
- คำถาม: Will Jen come to the party next week?
Reported Speech: He asked if Jen would come to the party the following week.
- คำถาม: Have you done your homework?
Reported Speech: My mother asked me whether I had done my homework.
ชื่อคือของขวัญชิ้นแรกและตลอดไปที่คุณสามารถมอบให้ลูกได้ วันนี้ ELSA Speak จะช่วยคุณเลือกด้วยรายชื่อ 300+ ชื่อภาษาอังกฤษเท่ๆ ผู้หญิง ความหมายดีๆ สำหรับผู้หญิง ชื่อเหล่านี้บางส่วนได้รับการคัดเลือกจากรายชื่อของสำนักงานประกันสังคมของสหรัฐฯ ที่ได้เผยแพร่ทุกๆปี ชื่อภาษาอังกฤษเท่ๆ มีความหมายพิเศษมาก อ่านชื่อเหล่านี้ก่อนที่คุณจะตัดสินใจตั้งชื่อให้สาวน้อยแสนสวยของคุณนะ
60 ชื่อภาษาอังกฤษเท่ๆ ผู้หญิง ที่มีความหมายว่า สวยงาม
1. Abigail: ความสุขของพ่อ สวยงาม
2. Alina: บุคคลผู้สูงศักดิ์
3. Bella: สวยงาม
4. Bellezza: สวยงาม
5. Belinda: สวยมาก สวยจัง
6. Bonita: สวยงาม
7. Bonnie: สวย หรือ น่าดึงดูด
8. Caily: สวย หรือ ผอมบาง
9. Calista: สวยที่สุด
10. Calliope: เสียงดี
11. Calixta: สวยที่สุด หรือ น่ารักที่สุด
12. Donatella: ของขวัญที่สวยงาม
13. Ella: นางฟ้าแสนสวย
14. Ellen: ผู้หญิงที่สวยที่สุด
15. Ellie: แสงสว่าง หรือ ผู้หญิงที่สวยที่สุด
16. Erina: สาวสวย
17. Fayre: สวยงาม
18. Felicia: โชคดี หรือ มีความสำเร็จ
19. Iowa: ดินแดนที่สวยงาม
20. Isa: สวยงาม
21. Jacintha: สวยงาม
22. Jolie: สวยงาม
23. Kaytlyn: ฉลาด เป็นเด็กที่สวยงาม
24. Keva: เด็กที่สวยงาม
25. Kyomi: สดใสและสวยงาม
26. Lillie: บริสุทธิ์และสวยงาม
27. Lilybelle: ดอกลิลลี่ที่สวยงาม
28. Linda: สวยงาม
29. Lynne: น้ำตกที่สวยงาม
30. Lucinda: แสงที่สวยงาม
31. Mabel: ความสวยของฉัน
32. Mabs: คนรักสวยรักงาม
33. Marabel: แมรี่ผู้น่ารัก
34. Meadow: สนามที่สวยงาม
35. Mei: สวยงาม
36. Miyeon: สวย ใจดี และน่ารัก
37. Miyuki: สวย มีความสุข หรือ โชคดี
38. Naamah: สะดวกสบาย
39. Naava: ร่าเริงและสวยงาม
40. Naomi: สบายและสวยงาม
41. Nefertari: สวยที่สุด
42. Nefertiti: ความงาม
43. Nelly: แสงจ้า
44. Nomi: สวยงามและสบาย
45. Norabel: แสงที่สวยงาม
46. Omorose: เด็กที่น่ารัก
47. Orabelle: สวยงาม
48. Rachel: สวยงาม
49. Raanana: สดชื่นและน่ารื่นรมย์
50. Ratih: สวยที่สุด หรือ สวยเหมือนนางฟ้า
51. Rosaleen: ดอกกุหลาบน้อยแสนสวย
52. Rosalind: ดอกกุหลาบแสนสวย
53. Sapphire: อัญมณีที่สวยงาม
54. Tazanna: เจ้าหญิงแสนสวย
55. Tegan: คนที่คุณรัก หรือ คนรัก
56. Tove: งดงามและสวยงาม
57. Ulanni: สวยงามมาก หรือ เป็นความงามของสวรรค์
58. Venus: เทพีแห่งความงามและความรัก
59. Xin: ร่าเริงและมีความสุข
60. Yedda: เสียงดีมาก
ชื่อภาษาอังกฤษเท่ๆ ผู้หญิง ที่มีความหมายว่า “ดวงจันทร์”
ชื่อเหล่านี้เกี่ยวข้องกับเทพีแห่งดวงจันทร์ ซึ่งจะเหมาะสมที่สุดหากคุณเป็นแฟนของเทพปกรณัม!
- Diana: เทพีแห่งดวงจันทร์
- Celine: ดวงจันทร์
- Luna: ดวงจันทร์ (ในภาษาสเปนและอิตาลี)
- Rishima: แสงจันทร์
ชื่อภาษาอังกฤษเท่ๆ ผู้หญิง ที่มีความหมายว่า “ความสุข”
ไม่มีใครที่จะไม่อยากให้ลูกมีความสุข ใช่ไหม? ดังนั้นใส่อารมณ์นั้นในชื่อของเธอเอง!
- Farrah: ความสุข
- Muskaan: รอยยิ้ม ความสุข
ชื่อภาษาอังกฤษเท่ๆ ผู้หญิง ที่มีความหมายว่า “ความสำเร็จ”
เราทุกคนต่างก็อยากให้ลูก ๆ ของเราเติบโตเป็นผู้ที่ประสบความสำเร็จ ตั้งชื่อให้ลูกสาวของคุณแล้วให้เธอเข้าใจเจตนาของคุณ
ชื่อภาษาอังกฤษเท่ๆ ผู้หญิง ที่มีความหมายว่า “ดอกไม้”
ดอกไม้มีความเป็นผู้หญิงที่โดดเด่นในตัวมัน และมันมักจะถูกตั้งชื่อให้เด็กผู้หญิง นี่คือชื่อเด็กผู้หญิงที่มีความหมายว่า ดอกไม้!
- Aboli: นี่เป็นชื่อฮินดูที่ไม่ธรรมดาซึ่งหมายถึงดอกไม้
- Daisy: ผู้หญิงหลายคนตั้งชื่อตามดอกไม้สีขาวและสีเหลืองที่สวยงามเหล่านี้
- Ketki: ชื่อนี้มักสะกดว่า Ketaki การสะกดจะแตกต่างกันไปในแต่ละชุมชน
- Kusum: ชื่อสามัญนี้หมายถึงดอกไม้
- Juhi: ดอกไม้นี้เป็นของตระกูลดอกมะลิ คุณสามารถตั้งชื่อสาวของคุณว่า Juhi หรือ Jasmine
- Violet: ดอกไม้สีม่วงอมฟ้านี้มีเอกลักษณ์และสวยงาม เป็นเรื่องโปรดของกวีหลายคน
- Zahra: นี่คือชื่อภาษาอาหรับที่แปลว่าดอกไม้
ชื่อภาษาอังกฤษเท่ๆ ผู้หญิง ที่มีความหมายว่า “โรแมนติก”
หากคุณเป็นคนโรแมนติก คุณคงอยากให้ลูกของคุณมีชื่อที่สื่อถึงความรัก นี่คือตัวเลือกที่ยอดเยี่ยม:
- Scarlett: ชื่อนี้หมายถึงสีแดง สีแห่งความรักและความเสน่หา
- Amora: ชื่อภาษาสเปนสำหรับความรัก
- Ai: ชื่อภาษาญี่ปุ่นสำหรับความรัก
- Cer: ชื่อภาษาเวลส์ที่แปลว่าความรัก
- Darlene: คนที่คุณรัก
- Davina: ที่รัก
- Kalila: แปลว่า คู่รักในภาษาอาหรับ
- Shirina: นี่คือชื่ออเมริกันที่แปลว่าเพลงรัก
- Yaretzi: ชื่อแอซเท็ก ที่แปลว่า ‘คุณจะได้รับความรักเสมอ
ชื่อภาษาอังกฤษเท่ ๆ ผู้หญิง ที่ได้ตั้งชื่อตาม “ตำนานเทพเจ้า”
ชื่อเหล่านี้มีความคงทนและสวยงามมาก ความหมายด้านล่างนี้ทำให้พวกมันกลายเป็นพิเศษ
- Penelope: นี่เป็นชื่อกรีก Penelope เป็นภรรยาของวีรบุรุษแห่งสงครามเมืองทรอย ยูลิสซิส ซึ่งเป็นที่รู้จักในเรื่องสติปัญญา
- Althea: ชื่อนี้พบได้ทั้งในตำนานเทพเจ้ากรีกและบทกวีอภิบาล
- Ariadne: ชื่อที่พบในตำนานเทพเจ้ากรีกที่แปลว่า ‘ศักดิ์สิทธิ์’
- Aphrodite: เทพีแห่งความรักของกรีก
- Cassandra hay Kassandra: ธิดาของกษัตริย์ไพรม์แห่งทรอย ผู้ทำนายอนาคตได้
- Chitrangada: มเหสีของเจ้าชายปาณฑวะ อรชุน
- Hamsini: พระแม่สรัสวดี
- Anagha: เทพธิดาลักษมี
ชื่อภาษาอังกฤษเท่ๆ ผู้หญิง ที่ได้ตั้งชื่อตาม “ดนตรี”
- Aarohi: ท่วงทำนองดนตรี
- Alvapriya: คนรักดนตรี
- Gunjan: เสียง
- Isaiarasi: ราชินีแห่งดนตรี
- Prati: คนที่ชื่นชมและรักดนตรี
ชื่อภาษาอังกฤษเท่ๆ ผู้หญิง ที่ได้ตั้งชื่อตามชื่อคนดัง
ชื่อ ภาษาอังกฤษเท่ๆ พร้อมความหมายดีๆ สำหรับผู้หญิง – ความหมายชื่อภาษาอังกฤษของผู้หญิง
ชื่อคนดังเป็นหัวข้อการตั้งชื่อที่ชื่นชอบและมีสไตล์! อย่างไรก็ตาม พยายามหลีกเลี่ยงชื่อทั่วไป เช่น Lucy, Mary และ Sarah
- Aradhya: การดูแล
- Charlotte: ผู้ชายอิสระ
- Elise: คำสาบานของพระเจ้า
- Frankie: อิสรภาพ
- Josie: พระเจ้าอวยพร
- Tháng sáu: หนุ่ม
- Ophelia: ช่วยเหลือ
- Paris: งดงามมีเสน่ห์
- Norah: แสงจ้า
- Kate: บริสุทธิ์
ชื่อภาษาอังกฤษเท่ๆ ผู้หญิงที่คลาสสิกที่คงอยู่ตลอดไป
แม้ว่าหลายคนจะบอกว่า ‘แบบเก่า’ แต่ชื่อคลาสสิกนั้นคงอยู่ตลอดไป
- Hazel: หมายถึงเฮเซลนัท
- Cora: ชื่อนี้สร้างโดย James Fenimore Cooper ผู้เขียน ‘Last of The Mohicans’ ตัวละครที่กล้าหาญ น่ารัก และสวยงาม คุณต้องการคุณสมบัติเหล่านี้ในตัวลูกของคุณอย่างแน่นอน
- Faye: ความภักดีและความไว้วางใจ
- Eleanor: แสงจ้า หรือ แสงแดด
- Della: โนเบิล
- Clara hoặc Claire: มีชื่อเสียงและยอดเยี่ยม
- Amelia: ขยัน มุ่งมั่น
- Anne: ชื่อภาษาฮีบรูแปลว่า ‘พระคุณที่มอบให้’
- Evelyn: ชื่อนี้มีต้นกำเนิดจากนอร์มันและมาจากนามสกุลภาษาอังกฤษ
- Emma: มีการกลับชาติมาเกิดของชื่อที่เป็นที่นิยมในปี 2423 มันหมายถึงสากล
ชื่อภาษาอังกฤษแปลกๆ สำหรับผู้หญิง
หากคุณชอบความแปลกใหม่และความสนุกสนาน ชื่อทารกเพศหญิงที่ไม่เหมือนใครจะเป็นตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับคุณ
ชื่อภาษาอังกฤษเท่ๆ ผู้หญิง ที่มีความหมายทางจิตวิญญาณ
การตั้งชื่อลูกเป็นการฝึกจิตไม่น้อย แล้วการเลือกชื่อที่ศักดิ์สิทธิ์สำหรับลูกสาวของคุณล่ะ? มาดูตัวเลือกของเราด้านล่างนี้นะ
- Aisha: สดใส
- Angela: นางฟ้า
- Angelique: เหมือนนางฟ้า
- Assisi: สถานที่ที่มีชื่อเสียงของอิตาลี
- Batya: ลูกสาวของพระเจ้า
- Celestia: สวรรค์
- Chava: ชีวิต
- Chinmayi: ความปิติทางจิตวิญญาณ
- Ân: ใจดี มีเมตตา
- Gwyneth: ได้รับพร
- Helena: เบา
- Khadija: ทารกแรกเกิด
- Lourdes: พระแม่
- Magdalena: ของขวัญจากพระเจ้า
- Seraphina: ปีกแห่งไฟ
ชื่อภาษาอังกฤษเท่ๆ ผู้หญิง ที่ขึ้นอยู่กับ “Barbie”
หากคุณมีมุมพิเศษสำหรับตุ๊กตาบาร์บี้ในดวงใจ ให้เลือกชื่อที่ได้รับแรงบันดาลใจจากตุ๊กตาแนวนี้สำหรับลูกสาวของคุณ
- Barbie: ผู้หญิงต่างชาติ
- Cara: หน้า
- Christie: คริสเตียน
- Dana: จากเดนมาร์ก
- Diva: เทพธิดา
- Francie: จากฝรั่งเศส
- Jamie: ทดแทน
- Jazzie: ดอกมะลิ
- Kelly: สงคราม
- Krissy: สาวกของพระคริสต์
- Midge: ไข่มุก
- Stacie: คืนชีพ
- Steffie: พวงหรีด
- Whitney: เกาะไวท์
ชื่อภาษาอังกฤษเท่ๆ พร้อมความหมายแห่งความสุข ความศรัทธา ความหวัง มิตรภาพ และความรัก
- Alethea – ความจริง
- Edna – ความสุข
- Kerenza – ความรัก ความเสน่หา
- Grainne – ความรัก
- Fidelia – ศรัทธา
- Verity – ความจริง
- Zelda – ความสุข
- Oralie – แสงสว่างในชีวิตของฉัน
- Letitia – ความสุข
- Verity – ความจริง
- Vera – ความเชื่อ
- Winifred – ความสุขและความสงบสุข
- Giselle – คำสาบาน
- Philomena – รักมาก
- Viva/Vivian – ชีวิต มีชีวิต
- Winifred – ความสุขและความสงบสุข
- Ermintrude – รักอย่างเต็มที่
- Zelda – ความสุข
- Farah – ความสุข ความตื่นเต้น
- Esperanza – ความหวัง
- Amity – มิตรภาพ
>>> Read more
- ประโยคเงื่อนไข If Clause: โครงสร้าง วิธีใช้ แบบฝึกหัด และเคล็ดลับการท่องจำ
- ตาราง Irregular Verbs ในภาษาอังกฤษที่ครบถ้วนและถูกต้องที่สุด
- บทกวีเกี่ยวกับการใช้ “IN” “ON” “AT” ช่วยให้คุณแยกแยะได้ง่า
- Passive Voice: สูตร ตัวแปร และการใช้งานที่แม่นยำที่สุด (พร้อมแบบฝึกหัด)
ชื่อภาษาอังกฤษเท่ๆ ผู้หญิง พร้อมความหมายสูงส่ง มีชื่อเสียง โชคดี มั่งคั่ง
- Alva – ล้ำค่า ราคาแพง
- Pandora – มีความสุขอย่างเต็มที่
- Ariadne/Arianne – ล้ำค่ามาก ศักดิ์สิทธิ์
- Rowena – ชื่อเสียง ความสุข
- Elysia – มอบให้/อวยพร
- Xavia – ส่องแสง
- Milcah – ราชินี
- Olwen – รอยพระพุทธบาทศักดิ์สิทธิ์ (แปลว่าไปที่ไหนก็มีโชคลาภรุ่งเรืองที่นั่น)
- Meliora – ดีกว่า สวยกว่า
- Elfleda – ความงามอันล้ำค่า
- Adelaide/Adelia – ความงามอันล้ำค่า
- Martha – คุณผู้หญิง
- Gwyneth – โชคดี ความสุข
- Genevieve – คุณผู้หญิงของทุกคน
- Gladys – เจ้าหญิง
- Ladonna – คุณผู้หญิง
- Helga – ได้รับพร
- Felicity – โชคดีเป็นมงคล
- Cleopatra – สง่าราศีของบิดา ยังเป็นชื่อของราชินีอียิปต์
- Odette/Odile – ความมั่งคั่ง
- Orla – เจ้าหญิงผมบลอนด์
- Mirabel – น่าอัศจรรย์
- Donna – คุณผู้หญิง
- Almira – เจ้าหญิง
- Florence – บานสะพรั่ง เจริญรุ่งเรือง
- Hypatia – แพงที่สุด (ล้ำค่า)
- Adela/Adele – ล้ำค่า
ชื่อ ภาษาอังกฤษเท่ๆ ผู้หญิง ที่ได้ตั้งชื่อตามสี อัญมณี
- Ruby – สีแดงทับทิม
- Scarlet – สีแดงสด
- Diamond – เพชร (ความหมายเดิม “แชมป์” “ผู้แข็งแกร่ง”)
- Pearl – ไข่มุก
- Melanie – ดำ
- Margaret – ไข่มุก
- Jade – หินหยก
- Kiera – สาวผมดำ
- Gemma – อัญมณี
- Sienna – แดง
ชื่อภาษาอังกฤษเท่ๆ ผู้หญิง ที่มีความหมายทางศาสนา
- Ariel – สิงโตของพระเจ้า
- Emmanuel – พระเจ้าสถิตกับเรา
- Elizabeth – คำสาบานของพระเจ้า
- Jesse – ของขวัญของย่า
- Dorothy – ของขวัญจากพระเจ้า
ชื่อภาษาอังกฤษเท่ๆ ผู้หญิง ที่มีความหมายแห่งความสุขและความโชคดี
ชื่อ ภาษาอังกฤษเท่ๆ ผู้หญิง ที่มีความหมายหนักแน่นและยืดหยุ่น
- Bridget – ความแข็งแกร่ง ผู้มีอำนาจ
- Matilda – ความยืดหยุ่นในสนามรบ
- Valerie – ความแข็งแรง สุขภาพ
- Hilda – สนามรบ
- Alexandra – ผู้ดูแล ผู้ควบคุมความปลอดภัย
- Edith – ความเจริญรุ่งเรืองภายใต้สงคราม
- Andrea – แข็งแรง ยืดหยุ่น
- Louisa – นักรบที่มีชื่อเสียง
ชื่อภาษาอังกฤษเท่ๆ ผู้หญิง ที่เกี่ยวข้องกับธรรมชาติ
- Maris – ดาวแห่งท้องทะเล
- Ciara – คืนที่มืดมิด
- Roxana – แสงสว่าง รุ่งอรุณ
- Calantha – ดอกไม้บานสะพรั่ง
- Layla – กลางคืน
- Heulwen – แสงแดด
- Esther – ดวงดาว (อาจมาจากชื่อของเทพธิดา Ishtar)
- Lily – ดอกลิลลี่
- Flora – ดอกไม้
- Azure – ท้องฟ้าสีคราม
- Selena – ดวงจันทร์
- Daisy – ดอกเบญจมาศป่า
- Jocasta – ดวงจันทร์ที่สดใส
- Jena – นกตัวน้อย
- Oriana – รุ่งอรุณ
- Rosabella – ดอกกุหลาบที่สวยงาม
- Iris – ดอกไอริส สายรุ้ง
- Alida – นกตัวน้อย
- Jasmine – ดอกมะลิ
- Selina – ดวงจันทร์
- Eirlys – หยาดหิมะ
- Anthea – เหมือนดอกไม้
- Phedra – แสง
- Edana – ไฟ เปลวไฟ
- Stella – ดาวดวง ดารา
- Aurora – รุ่งอรุณ
- Stella – ทำไม
- Muriel – ทะเลสดใส
- Lucasta – แสงบริสุทธิ์
- Rosa – ดอกกุหลาบ
- Iolanthe – ดอกไม้สีม่วง
- Eira – หิมะ
- Sterling – ดาวดวงน้อย
- Violet – ดอกไม้สีม่วง, สีม่วง
- Elain – ลูกกวาง
- Azura – ท้องฟ้าสีฟ้า
ชื่อภาษาอังกฤษเท่ๆ ผู้หญิง ตามอารมณ์และบุคลิกของมนุษย์
- Sophronia – ระแวดระวัง อ่อนไหว
- Ernesta – จริงใจ จริงจัง
- Xenia – ใจดี
- Agatha – ดี
- Halcyon – ใจเย็น ๆ สงบ
- Cosima – ถูกต้องตามกฎหมาย, กลมกลืน, สวยงาม
- Alma – ใจดี
- Tryphena – สง่างาม ไม่มีตัวตน ละเอียดอ่อน
- Bianca/Blanche – ขาว บริสุทธิ์
- Laelia – ร่าเริง
- Agnes – สดใส
- Glenda – สะอาด ศักดิ์สิทธิ์ ดี
- Latifah – อ่อนโยน ร่าเริง
- Dilys – จริงใจ ซื่อสัตย์
- Eulalia – (คน) พูดจาไพเราะ
- Jezebel – ขาว
- Guinevere – ขาวและอ่อนนุ่ม
- Keelin – ขาวและผอม
ชื่อ ภาษาอังกฤษเท่ๆ ผู้หญิง ตามลักษณะกายภาพ
- Fidelma – ผีสางเทวดา
- Calliope – ใบหน้าที่สวยงาม
- Ceridwen – งดงามดั่งบทกวี
- Kiera – สาวผมดำ
- Dulcie – หวาน
- Delwyn – สวยงาม ได้รับพร
- Miranda – น่ารัก
- Drusilla – ตาเป็นประกายเหมือนน้ำค้าง
- Hebe – อ่อนเยาว์
- Christabel – คาทอลิกที่สวยงาม
- Annabella – สวยงาม
- Kaylin – คนสวยและผอมเพรียว
- Isolde – สวยงาม
- Amelinda – สวยและน่ารัก
- Doris – สวยงาม
- Fiona – ขาว
- Brenna – ความงามที่มีผมสีดำ
- Aurelia – ผมสีทอง
- Keisha – ดวงตาสีดำ
- Eirian/Arian – สดใส สวยงาม (สีรุ้ง) เหมือนเงิน
- Mabel – น่ารัก
- Rowan – สาวผมแดง
- Charmaine/Sharmaine – มีเสน่ห์
- Keva – สวย มีเสน่ห์
คุณสามารถใช้ชื่อข้างต้นเพื่อตั้งชื่อภาษาอังกฤษเท่ๆ สำหรับลูกน้อยของคุณ! นอกจากนี้ชื่อเหล่านี้ยังสามารถใช้เป็นชื่อเล่นภาษาอังกฤษที่ดีของสาวๆ
ทำไมต้องมีชื่อภาษาอังกฤษ?
กระแสการตั้งชื่อภาษาอังกฤษกำลังเป็นที่นิยมเรื่อย ๆ จึงมีคำถามมากมายว่าทำไมจึงต้องมีชื่อภาษาอังกฤษ และชื่อภาษาอังกฤษใช้ทำอะไร ต่อไปนี้เป็นการประยุกต์ที่โดดเด่นซึ่งทางเราอยากจะแบ่งปันกับคุณ
การประยุกต์ใช้ในการเรียนรู้
นักศึกษาต่างชาติหรือผู้ที่ศึกษาภายใต้การสอนของศาสตราจารย์และอาจารย์ชาวต่างประเทศสามารถเลือกชื่อภาษาอังกฤษเพื่อจะสะดวกในการเรียนและใช้ชีวิตในต่างประเทศ
การประยุกต์ใช้ในที่ทำงาน
สำหรับผู้คนที่ทำงานในบริษัทต่างประเทศ ลักษณะของงานกำหนดให้คุณต้องติดต่อกับคู่ค้าจำนวนมากและทำงานร่วมกับเพื่อนร่วมงานและเจ้านายต่างชาติ ชื่อภาษาอังกฤษเกือบจะกลายเป็นกฎ ข้อกำหนดทั่วไปที่ต้องปฏิบัติตาม
สิ่งนี้ยังแสดงถึงความเป็นมืออาชีพของคุณและบริษัทเมื่อต้องสื่อสารกับลูกค้าและคู่ค้าต่างประเทศ ชื่อนี้จะถูกพิมพ์ลงบนนามบัตรส่วนตัวของคุณสำหรับการทำงาน ดังนั้นคุณควรเลือกชื่อที่แสดงถึงความประณีต คล่องตัว บุคลิกภาพ แต่ไม่ยาวเกินไป แปลกใหม่ ไม่ซ้ำใคร หรือออกเสียงยาก
การประยุกต์ใช้ในความบันเทิง หาเพื่อน
ด้วยการพัฒนาของอินเทอร์เน็ตและโซเชียลเน็ตเวิร์ก ตอนนี้ผู้คนสามารถค้นหาและผูกมิตรกับคนที่มีความสนใจเหมือนกันได้ทุกที่ในโลก ขจัดอุปสรรคทางภูมิศาสตร์ตามปกติ และหาเพื่อนระหว่างห้าทวีปและสี่สระ
อย่างไรก็ตาม เพื่อนต่างชาติจะมีปัญหาในการเรียกชื่อหรือพูดถึงคุณในการแชททางโซเชียลมีเดีย เนื่องจากภาษาไทยจะมีน้ำเสียงเมื่อพูดและมีไม้เมื่อเขียน ซึ่งสร้างความแตกต่างอย่างชัดเจนกับภาษาอื่น ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากคุณกำลังเล่นเกมต่อสู้แบบทีม การเรียกชื่อผิดหรือไม่เข้าใจคำสั่งของเพื่อนร่วมทีมอาจจะนำไปสู่สถานการณ์ตลกขบขันมากมายในเกม
ดังนั้นการมีชื่อภาษาอังกฤษเพื่อสื่อสารกับเพื่อน ๆ จึงเป็นความคิดที่ดีในการแก้ไขอุปสรรคที่คุณเผชิญด้วยวิธีที่ง่าย สะดวก และรวดเร็วที่สุด
ตั้งชื่อตามความชอบ
สุดท้าย การตั้งชื่อภาษาอังกฤษอาจจะไม่ต้องการเหตุผลเฉพาะเจาะจงใดๆ ตราบใดที่คุณชอบก็ได้แล้ว
Frank Tyger – นักข่าวชาวอเมริกันเคยกล่าวไว้ว่า “Doing what you like is freedom. Liking what you do is happiness” (ทำในสิ่งที่ชอบคืออิสระ ชอบในสิ่งที่ทำคือความสุข) ทำไมคุณไม่ให้รางวัลตัวเองด้วยความสุขเล็กๆ น้อยๆ ในทันทีล่ะ? ความสุขนี้สามารถเป็นแรงกระตุ้นที่จะช่วยให้คุณก้าวข้ามความยากลำบาก เพิ่มพลังใจก่อนถึงเหตุการณ์สำคัญ หรือเป็น “วิตามิน” ที่ช่วยให้อารมณ์ดีขึ้นในช่วงวันที่เหน็ดเหนื่อย
คุณสามารถใช้ชื่อภาษาอังกฤษนี้เพื่อตั้งชื่อตัวละครที่คุณเล่นในเกม ตั้งชื่อเฟสบุ๊คของคุณหรือบัญชีโซเชียลเน็ตเวิร์กอื่นๆ เขียนใน CV ของคุณหากงานนั้นต้องการ… และการประยุกต์ใช้อื่นๆ อีกมากมายในชีวิต
นอกจากนี้ หากต้องการเรียนรู้ประโยคสื่อสารขั้นพื้นฐานเพิ่มเติม คุณสามารถดูวิดีโอด้านล่างนี้เลยนะ
หวังว่าบทความ “300+ ชื่อภาษาอังกฤษเท่ๆ และมีความหมายสำหรับผู้หญิงที่ไม่ควรพลาด” บทนี้ จะช่วยให้คุณเลือกชื่อที่เหมาะสมสำหรับลูกสาวของคุณ และอย่าลืมศึกษาความรู้ที่เป็นประโยชน์เพิ่มเติมบนเว็บไซต์ของ ELSA Speak นะ
ในบทเรียนวันนี้ เรามาเรียนรู้คำศัพท์ 150 คำเกี่ยวกับอาชีพภาษาอังกฤษสำหรับทุกอาชีพ พร้อมกับประโยคสื่อสารทั่วไปเกี่ยวกับหัวข้อนี้ด้วย งั้น อาชีพภาษาอังกฤษ มีอะไรบ้าง
คำศัพท์ อาชีพภาษาอังกฤษ
คำศัพท์อาชีพภาษาอังกฤษเกี่ยวกับธุรกิจ
- businessman /ˈbɪznəsmən/ นักธุรกิจ
- salesperson /ˈseɪlzpɜːrsn/ พนักงานขาย
- secretary /ˈsekrəteri/ เลขา
- assistant /əˈsɪstənt/ ผู้ช่วย
- cashier /kæˈʃɪr/ แคชเชียร์
- banker /ˈbæŋkər/ นายธนาคาร
- accountant /əˈkaʊntənt/ นักบัญชี
- auditor /ˈɔːdɪtər/ ผู้สอบบัญชี
- consultant /kənˈsʌltənt/ ที่ปรึกษา
- economist /ɪˈkɑːnəmɪst/ นักเศรษฐศาสตร์
- mailman /ˈmeɪlmæn/ บุรุษไปรษณีย์
- delivery man /dɪˈlɪvərimən/ คนส่งของ
ดูเพิ่มเติมที่: อาชีพภาษาอังกฤษdictionary.cambridge
คำศัพท์อาชีพภาษาอังกฤษเกี่ยวกับแฟชั่น
- tailor /ˈteɪlər/ ช่างตัดเสื้อ
- model /ˈmɑːdl// นางแบบ
- fashion designer /ˈfæʃn dɪzaɪnər/ นักออกแบบแฟชั่น
- stylist /ˈstaɪlɪst/ สไตลิสต์
- hairdresser /ˈherdresər/ ช่างทำผม
- barber /ˈbɑːrbər/ ช่างตัดผมชาย
- hairstylist /ˈherstaɪlɪst/ ช่างทำผม
- makeup artist /ˈmeɪk ʌp ˈɑːrtɪst/ ช่างแต่งหน้า
- manicurist /ˈmænɪkjʊrɪst/ ช่างทำเล็บ
- tattooist /tæˈtuːɪst/ ช่างสัก
คำศัพท์อาชีพภาษาอังกฤษเกี่ยวกับศิลปะ
- painter /ˈpeɪntər/ จิตรกร
- photographer /fəˈtɑːɡrəfər/ ช่างภาพ
- sculptor /ˈskʌlptər/ ประติมากร
- writer /’raitə/ นักเขียน
- author /ˈɔːθər/ นักเขียน
- poet /ˈpəʊət/ นักกวี
- actor /ˈæktər/ นักแสดงชาย
- actress /ˈæktrəs/ นักแสดงหญิง
- director /dəˈrektər/ ผู้กำกับ
- cameraman /ˈkæmrəmæn/ ช่างกล้อง
คำศัพท์อาชีพภาษาอังกฤษเกี่ยวกับงานวิศวกรรม
- architect /ˈɑːrkɪtekt/ สถาปนิก
- builder /ˈbɪldər/ ช่างก่อสร้าง
- engineer /ˌendʒɪˈnɪr/ วิศวกร
- mechanic /məˈkænɪk/ ช่างเครื่อง
- technician /tekˈnɪʃn̩/ ช่างเทคนิค
- electrician /ɪˌlekˈtrɪʃn/ ช่างไฟฟ้า
- plumber /ˈplʌmər/ ช่างประปา
- carpenter /ˈkɑːrpəntər/ ช่างไม้
- welder /ˈweldər/ ช่างเชื่อม
- factory worker /ˈfæktəri ˈwɝːkər/ พนักงานโรงงาน
- graphic designer /ˈɡræfɪk dɪˈzaɪnər/ นักออกแบบกราฟิก
- programmer /ˈprəʊɡræmər/ โปรแกรมเมอร์
>>> Read more
- ประโยคเงื่อนไข If Clause: โครงสร้าง วิธีใช้ แบบฝึกหัด และเคล็ดลับการท่องจำ
- ตาราง Irregular Verbs ในภาษาอังกฤษที่ครบถ้วนและถูกต้องที่สุด
- บทกวีเกี่ยวกับการใช้ “IN” “ON” “AT” ช่วยให้คุณแยกแยะได้ง่า
- Passive Voice: สูตร ตัวแปร และการใช้งานที่แม่นยำที่สุด (พร้อมแบบฝึกหัด)
คำศัพท์อาชีพภาษาอังกฤษเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์
- scientist /ˈsaɪəntɪst/ นักวิทยาศาสตร์
- mathematician /ˌmæθəməˈtɪʃn/ นักคณิตศาสตร์
- physicist /ˈfɪzɪsɪst/ นักฟิสิกส์
- chemist /ˈkemɪst/ นักเคมี
- geologist /dʒiˈɑːlədʒɪst/ นักธรณีวิทยา
- linguist /ˈlɪŋɡwɪst/ นักภาษาศาสตร์
- historian /hɪˈstɔːriən/ นักประวัติศาสตร์
- archaeologists /ˌɑːrkiˈɑːlədʒɪst/ นักโบราณคดี
- astronomer /əˈstrɑːnəmər/ นักดาราศาสตร์
- astronaut /ˈæstrənɔːt/ นักบินอวกาศ
คำศัพท์อาชีพภาษาอังกฤษเกี่ยวกับอุตสาหกรรมดนตรี
- singer /ˈsɪŋər/ นักร้อง
- dancer /ˈdænsər/ นักเต้น
- musician /mjuˈzɪʃn/ นักดนตรี
- composer /kəmˈpəʊzər/ นักแต่งเพลง
- guitarist /ɡɪˈtɑːrɪst/ นักกีตาร์
- drummer /ˈdrʌmər/ มือกลอง
- pianist /ˈpiːənɪst/ นักเปียโน
- violinist /ˌvaɪəˈlɪnɪst/ นักไวโอลิน
- flutist /ˈfluːtɪst/ นักเป่าขลุ่ย
- conductor /kənˈdʌktər/ ตัวนำ
คำศัพท์ อาชีพภาษาอังกฤษ เกี่ยวกับอุตสาหกรรมอาหาร
- cook /kʊk/ พ่อครัว
- chef /ʃef/ หัวหน้าพ่อครัว
- baker /ˈbeɪkər/ คนทำขนมปัง
- farmer ang /ˈfɑːrmər/ ชาวนา
- fisherman /ˈfɪʃərmən/ ชาวประมง
- butcher /ˈbʊtʃər/ คนขายเนื้อ
- fishmonger /ˈfɪʃmɑːŋɡər/ คนขายปลา
- bartender /ˈbɑːrtendər/ บาร์เทนเดอร์
- waiter /ˈweɪtər/ พนักงานเสิร์ฟชาย
- waitress /ˈweɪtrəs/ พนักงานเสิร์ฟหญิง
- janitor /ˈdʒænɪtər/ คนทำความสะอาด
คำศัพท์อาชีพภาษาอังกฤษเกี่ยวกับวิชาชีพกฎหมาย
- police officer /pəˈliːs ɑːfɪsər/ เจ้าหน้าที่ตำรวจ
- firefighter /ˈfaɪərfaɪtər/ นักผจญเพลิง
- detective /dɪˈtektɪv/ นักสืบ
- lawyer /ˈlɔɪər/ ทนายความ
- attorney /əˈtɜːrni/ ผู้รับมอบอำนาจ
- judge /dʒʌdʒ/ ผู้พิพากษา
- prosecutor /ˈprɑːsɪkjuːtər/ อัยการ
- politician /ˌpɑːləˈtɪʃn/ นักการเมือง
- soldier /ˈsəʊldʒər/ ทหาร
- security guard /sɪˈkjʊrəti ɡɑːrd/ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย/ยาม
คำศัพท์อาชีพภาษาอังกฤษเกี่ยวกับการศึกษา
- lecturer /ˈlektʃərər/ อาจารย์
- professor /prəˈfesər/ ศาสตราจารย์
- teacher /ˈtiːtʃər/ คุณครู
- tutor /ˈtuːtər/ ติวเตอร์
- librarian /laɪˈbreriən/ บรรณารักษ์
- translator /trænzˈleɪtər/ นักแปล
- coach /kəʊtʃ// โค้ช
คำศัพท์ อาชีพภาษาอังกฤษ เกี่ยวกับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว
- tour guide /tʊr ɡaɪd/ มัคคุเทศก์
- travel agent /ˈtrævl eɪdʒənt/ ตัวแทนการท่องเที่ยว
- receptionist /rɪˈsepʃənɪst/ พนักงานต้อนรับ
- housekeeper /ˈhaʊskiːpər/ พนักงานทำความสะอาด/แม่บ้าน
- lobby boy /ˈlɑːbi bɔɪ/ ผู้ให้บริการสัมภาระ
- bellman /ˈbel mæn/ คนเฝ้าประตู
- driver /ˈdraɪvər/ คนขับ
- carrier /ˈkæriər/ คนขนส่ง
ประโยคสื่อสารเกี่ยวกับอาชีพภาษาอังกฤษ
- What do you do for a living?
= What do you do?= What kind of work do you do? = Where do you work?
คุณทำงานอะไร?
- I’m a/an….
= I’m working as a …… = I work at …..= I work as ……
ฉันทำงานเป็น……
- What do you like the most about your job?
คุณชอบอะไรมากที่สุดเกี่ยวกับงานของคุณ?
- How did you get your current job position?
คุณได้งานปัจจุบันของคุณได้อย่างไร?
- How do you get to work?
คุณไปทำงานอย่างไร?
- When do you get off work?
คุณเลิกงานเมื่อไหร่?
- What do you do when you’re not working?
เมื่อไม่ต้องทำงาน คุณทำอะไร?
- How much do they pay you per hour?
พวกเขาจ่ายเงินให้คุณเท่าไรต่อชั่วโมง?
- They pay me $10 per hour.
พวกเขาให้เงินฉัน 10 ดอลลาร์ต่อชั่วโมง
- How long have you been working here?
คุณทำงานที่นี่มานานแค่ไหนแล้ว?
ตัวอย่างประโยคสื่อสารภาษาอังกฤษทั่วไปในที่ทำงาน
- What attracted you to our company?
อะไรดึงดูดคุณมาที่บริษัทของเรา?
→ I like the working environment here.
ฉันชอบสภาพแวดล้อมการทำงานที่นี่
- How can I help?
ฉันช่วยคุณได้ไหม?
→ Please check this file for me.
โปรดตรวจสอบเอกสารเหล่านี้ให้ฉัน
- What was your previous job?
งานก่อนหน้านี้ของคุณคืออะไร?
– I used to work as a hat maker.
ฉันเคยทำงานเป็นช่างทำหมวก
- What time will the meeting start?
การประชุมจะเริ่มกี่โมง?
– The meeting starts at 2.45 PM.
การประชุมจะเริ่มในเวลา 14:45 น.
- Who’s in charge of the meeting?
ใครเป็นผู้รับผิดชอบการประชุมนี้?
– My leader is incharge of the meeting.
ผู้นำของฉันจะเป็นผู้ดำเนินการประชุม
- Do you have any ideas?
คุณมีความคิดอื่น ๆ หรือไม่?
– I think we can consider Emily’s option.
ฉันคิดว่าเราสามารถพิจารณาตัวเลือกของเอมิลี่ได้
- How is work today?
วันนี้ทำงานเป็นไงบ้าง?
– It’s good as usual.
ยังดีเหมือนเดิม
- It’s a pleasure to meet you.
ยินดีที่ได้รู้จักคุณ
- You’re new here, aren’t you?
คุณเพิ่งมาใหม่ใช่ไหม
- I just started this week.
ฉันเพิ่งเริ่มสัปดาห์นี้
- How long have you been doing this job?
คุณทำงานนี้มานานแค่ไหนแล้ว?
136. I have been doing this job for five years.
ฉันทำงานนี้มาห้าปีแล้ว
- How do you like working here?
คุณชอบทำงานที่นี่อย่างไร?
- Don’t we work in the same building?
เราทำงานอยู่ตึกเดียวกันใช่ไหม?
- I am so excited to get to know everyone.
ฉันตื่นเต้นมากที่ได้รู้จักกับทุกคนที่นี่
- Let me brief you on our company.
ให้ฉันแนะนำคุณให้รู้จักกับบริษัทของเรา
- Let me tell you your main duty.
ให้ฉันแนะนำงานหลักของคุณ
- I’ve just joined as a content developer.
ฉันเพิ่งเริ่มทำงานเป็นนักพัฒนาเนื้อหา
- Do you want to have lunch with me?
คุณอยากทานอาหารกลางวันกับฉันไหม?
→ Yes, I’d love to.
ใช่ ฉันชอบแบบนั้นมาก
- When can we have lunch?
เราจะกินข้าวเที่ยงกันได้เมื่อไหร่?
→ Twelve thirty.
12:30 น. นะ
- How was your first day at work?
ทำงานวันแรกเป็นไงบ้าง?
- Do you want to have a drink after work with us?
อยากดื่มอะไรหลังเลิกงานกับเราไหม?
- I had a great day at work.
ฉันมีวันที่ดีในการทำงาน
- I’m glad that everyone was nice to me.
ฉันดีใจที่ทุกคนดีกับฉัน
- I am cleaning up my desk before going home.
ฉันกำลังทำความสะอาดโต๊ะทำงานก่อนกลับบ้าน
- It’ll take me a few days to get used to all the work.
อาจต้องใช้เวลาสองสามวันกว่าที่ฉันจะชินกับงานทั้งหมด
ด้านบนเป็นบทสรุปคำศัพท์อาชีพต่างๆ ภาษาอังกฤษ 150 คำและประโยคสื่อสารที่ใช้บ่อยที่สุดในที่ทำงาน ไม่ว่าคุณจะทำงานด้านไหน คุณก็ควรรู้ประโยคเหล่านี้ไว้นะ
ขอให้คุณเรียนภาษาอังกฤษอย่างสนุกและมีประสิทธิภาพมากขึ้นทุกวันกับ ELSA Speak นะ!