Author: [email protected]
เรียกความสนใจจากนายจ้าง ด้วย CV ที่น่าประทับใจและท่าทางมีความเป็นมืออาชีพอาจยังคงไม่พอ Corver letter ถึอเป็นสิ่งแรกที่นายจ้างทุกคนต้องการดูก่อน และเป็นที่อ้างอิงเพื่อตัดสินใจว่าจะรับคุณหรือไม่ งั้น cover letter คืออะไร วิธีการเขียน cover letter อย่างไรให้ดี ทำไม cover letter จึงเป็นประโยชน์สำหรับผู้สมัครงานเช่นนี้ มาทำความเข้าใจพร้อมกันนะ
Cover letter คืออะไร
Cover letter หรือที่เรียกว่า Motivation letter ถือเป็นจดหมายสมัครงาน เป็นเอกสารอธิบายทั่วไปของผู้สมัครที่ส่งถึงนายจ้าง โดยระบุถึงเหตุผลและความปรารถนาที่จะทำงานในบริษัทนี้ Cover letter ไม่ใช่แค่จดหมายปกติ แต่ได้แนบพร้อมกับ CV ของคุณ หากใน CV ได้นำเสนอกระบวนการศึกษาและประวัติการทำงานก่อนหน้านี้ทั้งหมดแล้ว Cover letter จะเน้นย้ำจุดแข็งของคุณที่เกี่ยวข้องกับงานที่สมัคร จากนั้น จะช่วยให้นายจ้างพิจารณาและได้ผู้สมัครที่เหมาะสมสำหรับตำแหน่งที่พวกเขาต้องการสัมภาษณ์
Cover letter ที่มีคุณภาพจะช่วยให้คุณสร้างความประทับใจอย่างมากในสายตาของนายจ้าง การคัดกรองผู้สมัครเบื้องต้นเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับนายจ้างทุกคน ดังนั้นให้ตั้งใจนำเสนอตัวเองในฐานะผู้สมัครที่มีศักยภาพผ่าน Cover letter ที่สั้น ๆ แต่กระชับและน่าเชื่อถือ
สรุปได้ว่า Cover letter มีความสำคัญมากเนื่องจากเป็นคำอธิบายทั่วไปเกี่ยวกับการวางแนวอาชีพและเป้าหมายของผู้สมัคร จะมีผลกระทบอย่างมากต่อการตัดสินใจของนายจ้าง ดังนั้น การเขียน Cover letter เป็นภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษจึงเป็นสิ่งที่นักศึกษาส่วนใหญ่และแม้แต่คนทำงานยังคงกังวลอยู่เสมอ แล้วเราจะต้องสร้าง CV อย่างไรให้เป็นมืออาชีพและน่าประทับใจ คุณจะได้คำตอบในบทความต่อจากนี้
คำแนะนำในการเขียน cover letter ภาษาอังกฤษที่น่าประทับใจ
เพื่อสร้างความประทับใจต่อนายจ้าง Cover letter ควรมีความยาวประมาณ 200 – 300 คำ และนอกเหนือจากย่อหน้าหลักแล้ว คุณยังต้องมีคำทักทายตอนต้นของจดหมายด้วย วิธีเขียนคำทักทายตอนต้นจดหมายขึ้นอยู่กับข้อมูลที่คุณมีอยู่เกี่ยวกับบริษัทนั้น
คำทักทายตอนต้น
ทางที่ดีที่สุด คุณควรทราบชื่อนายจ้างหรือบุคคลที่จะสัมภาษณ์โดยตรงเพื่อระบุโดยเฉพาะเจาะจง เช่น Dear… (ชื่อนายจ้าง) ตามด้วยเครื่องหมายจุลภาคหรือจุด และให้แน่ใจว่าผู้รับ cover letter ของคุณคือเพศใดเพื่อจะเพิ่มคำเรียกที่เหมาะสม เช่น Mr, Ms, Dr… แต่ในกรณีที่คุณไม่ทราบชื่อนายจ้าง คุณสามารถเขียนว่า “Dear Hiring Manager”, “Dear Recruiting Team” ” หรือ “Dear (ชื่อบริษัท)”

นอกจากนี้ คุณยังสามารถเขียนว่า “To whom it may concern” อย่างไรก็ตาม ELSA Speak แนะนำให้คุณไม่ควรใช้คำทักทายนี้เพราะมันให้ความรู้สึกเหมือนเป็นจดหมายตัวอย่าง
ย่อหน้าเปิด
ย่อหน้าแรกของ Cover letter ใช้เพื่อพูดถึงงานที่คุณสมัคร และวิธีการที่คุณพบข้อประกาศรับสมัครงานนี้ โดยนำเสนอนี้ใน 1-2 ประโยคเท่านั้น
เนื้อหาหลักของจดหมาย
หากสังเกตดีๆ คุณจะเห็นว่า Cover letter มักจะมีเพียง 1-2 ย่อหน้าเท่านั้น สิ่งนี้จะช่วยป้องกันไม่ให้นายจ้างเสียเวลาอ่านจดหมายที่ยาวเกินไป ในส่วนเขียนเนื้อหาหลัก ให้ลองตอบคำถามต่อไปนี้:
– ทำไมคุณถึงสมัครตำแหน่งนี้
– สิ่งใดทำให้คุณคิดว่าคุณมีคุณสมบัติสำหรับตำแหน่งนี้
– คุณมีประสบการณ์อะไรบ้างที่ตรงกับข้อกำหนดของงานนี้
– ทำไมคุณถึงอยากทำงานในบริษัทที่คุณสมัคร

เนื้อหาต่างๆ จะต้องแสดงออกมาอย่างกระชับ แต่มีเหตุผล และเพียงพอที่ทำให้นายจ้างรู้สึกว่าคุณทุ่มเท มีความสนใจ และต้องการทำงานที่บริษัทจริง ๆ
วิธีการเขียนย่อหน้าสุดท้ายของจดหมาย
ในตอนท้ายของจดหมาย คุณควรสรุปเกี่ยวกับสิ่งที่คุณจะทำต่อไปเพื่อสมัครงานตำแหน่งนี้ ดังนี้:
– ย้ำอีกครั้งว่าทำไมคุณถึงอยากทำงานในบริษัทนี้ และคิดว่าตัวเองคือผู้สมัครที่เหมาะสมสำหรับตำแหน่งนี้
– หารือเกี่ยวกับแผนงาน ทิศทาง และแนวคิดสำหรับงานที่คุณจะทำต่อไป เช่น คุณต้องการได้รับการสัมภาษณ์เพื่อพูดเพิ่มเติมเกี่ยวกับทักษะและประสบการณ์ของตนเอง
– กล่าวถึง Resume – CV หรือเอกสารอ้างอิงที่แนบพร้อม (ถ้ามี)
– ให้ข้อมูลติดต่อของคุณ: หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล ที่อยู่ เพื่อให้นายจ้างสามารถติดต่อคุณได้สะดวก
– อย่าลืมขอบคุณคนที่ใช้เวลาสัมภาษณ์คุณ
ปิดท้าย cover letter
วิธีทั่วไปในการปิดท้าย Cover letter คือเขียนว่า “Best” หรือ “Sincerely” ในเวลาเดียวกัน ให้พิมพ์ชื่อนามสกุลของคุณแทนลายเซ็นเพื่อเสร็จสิ้น Cover letter เป็นภาษาอังกฤษอย่างกระชับแต่เป็นมืออาชีพ

ตัวอย่าง Cover letter ภาษาอังกฤษสำหรับการสมัครงานในร้านอาหาร-โรงแรม

มาดูตัวอย่าง Cover Letter ภาษาอังกฤษที่ใช้สมัครงานในสายร้านอาหาร-โรงแรมกันด้านล่างนี้!
1788 New Petchaburi Rd
Khet Huai Khwang
Krung Thep Maha Nakhon
November 1st
Wissa Srisuwan
Front Desk Agent
The Bangkok Hotel
123 Sukhumvit Road, Bangkok, Thailand
Dear Ms Anna,
I am writing in regard to the front desk clerk position advertised on your hotel’s website.
For your review, I have enclosed a copy of my resume. As you can see, I graduated from Siam University this May in Hotel and Restaurant Management. Last year, I successfully completed a six – month internship at Siam Hotel. I strongly believe I will fit in well with your team as I am an outgoing, helpful person with good language skills.
I am available for an interview at your convenience. I can be reached at 0945-xxx-xxx. I am looking forward to meeting you and will make the most of any opportunity that you give me. Thank you for your consideration. I hope to hear from you soon.
Sincerely yours.
Wissa Srisuwan
สิ่งที่ควรทราบเมื่อเขียน Cover letter
– อย่าเขียน Cover letter ที่ยาวเกินไป ตามหลักการแล้ว ควรมีความยาวเพียงหน้าเดียว หรือประมาณ 3-4 ย่อหน้า โดยนำเสนออย่างมีเหตุผล เรียบร้อย
– อย่าเขียนชื่อนายจ้างและเพศผิด หรือเลือกคำเรียกที่ไม่ถูกต้องระหว่าง Mr กับ Ms
– อย่าให้เนื้อหาของย่อหน้าไม่เกี่ยวข้องกัน ข้อมูลทั้งหมดใน Cover letter จะต้องจับคู่และประสานกันเพื่อให้นายจ้างสามารถเห็นความสามารถและคุณศัพท์ของคุณได้
– ไม่แสดงตัวตนส่วนบุคคลที่ไม่เป็นความจริง Cover letter เป็นสิ่งแรกสำหรับนายจ้างในการทำความเข้าใจบุคลิกภาพและลักษณะนิสัยของคุณ ซึ่งจะทำให้เห็นว่าคุณเหมาะสมกับงานนี้เพียงใด แต่โปรดทราบ ห้ามให้ข้อมูลอันเป็นเท็จโดยเด็ดขาด ถ้าบุคลิกของคุณไม่เหมาะจริง ๆ ก็ลองหาโอกาสอื่นจะดีที่สุด
หวังว่าด้วยข้อมูลในการเขียน Cover letter ที่ ELSA Speak มอบให้ในวันนี้ คุณจะสามารถสร้าง Cover letter ที่น่าประทับใจของตนเองและได้ตำแหน่งงานที่คุณอยากได้อย่างรวดเร็ว

พนักงานออฟฟิศที่ทำงานในบริษัทต่างประเทศไม่ใช่เป็นคนเดียวที่ต้องรู้ชื่อตําแหน่งงานภาษาอังกฤษต่าง ๆ แต่คนทั่วไปอย่างเราก็ควรทราบ เนื่องจากในปัจจุบัน การใช้ภาษาอังกฤษในการทำงานถือเป็นเงื่อนไขขั้นต่ำแล้ว หากคุณไม่ศึกษาความรู้ด้านนี้ คุณอาจไม่สามารถเข้าใจหรือเข้าใจเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับบริษัทนั้นผิดไป ดังนั้น เพื่อให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิผลและหลีกเลี่ยงการก่อให้เกิดความสับสนในการทำงาน เราควรจะมีความเข้าใจเกี่ยวกับตำแหน่งต่าง ๆ ของบริษัท จากนั้นคุณจะรู้จักวิธีการสื่อสารกับคนในแต่ละตำแหน่งอย่างเหมาะสม โดยบทความนี้จะรวบรวมตําแหน่งงานภาษาอังกฤษทั่วไปในบริษัทมาให้คุณได้เรียนรู้
36 ตําแหน่งงานภาษาอังกฤษในบริษัทที่ใช้บ่อยที่สุด
Director (n) /dəˈrektə(r)/: ผู้อำนวยการ
Deputy/Vice Director: รองผู้อำนวยการ
Chief Executive Officer (CEO): ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
Chief Information Officer (CIO): ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายสารสนเทศ
Chief Operating Officer (COO): ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายปฏิบัติการ
Chief Financial Officer (CFO): ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน
Board of Directors: คณะกรรมการบริษัท
Share holder: ผู้ถือหุ้น
Executive: ผู้บริหาร
Founder: ผู้ก่อตั้ง
President (Chairman) /’prezidənt/ (/’tʃeəmən/): ประธาน
Vice president (VP): รองประธาน
Manager /ˈmænɪdʒə/: ผู้จัดการ
Department manager (Head of Department): หัวหน้าแผนก
Section manager (Head of Division): หัวหน้าแผนก
Personnel manager /,pə:sə’nel ‘mænidʤə/: ผู้จัดการฝ่ายบุคคล
Finance manager /fai’næns ‘mænidʤə/: ผู้จัดการฝ่ายการเงิน
Accounting manager /ə’kauntiɳ ‘mænidʤə/: ผู้จัดการฝ่ายบัญชี
Production manager /production ‘mænidʤə/: ผู้จัดการฝ่ายผลิต
Marketing manager /’mɑ:kitiɳ ‘mænidʤə/: ผู้จัดการฝ่ายการตลาด
Supervisor /ˈsuːpəvaɪzə(r)/: ผู้ดูแล
Team Leader /ti:m /’li:də/: หัวหน้าทีม
Boss /bɒs/: เจ้านาย
assistant /ə’sistənt/: ผู้ช่วยผู้อำนวยการ
secretary /’sekrətri/: เลขานุการ
Receptionist /ri’sepʃənist/: พนักงานต้อนรับ
Employer /im’plɔiə/: นายจ้าง (โดยทั่วไป)
Employee (n) /ɪmˈplɔɪiː/: พนักงาน ลูกจ้าง (โดยทั่วไป)
Officer (staff) /’ɔfisə/: เจ้าหน้าที่ (พนักงาน)
labour/ labor /’leibə/: แรงงาน (โดยทั่วไป)
labor union /’leibə ‘ju:njən/: สหภาพแรงงาน
Colleague (n) /ˈkɒliːɡ/: เพื่อนร่วมงาน
Expert (n) /ˈekspɜːt/: ผู้เชี่ยวชาญ
Collaborator (n) /kəˈlæbəreɪtə(r)/: ผู้ทำงานร่วมกัน
Trainee (n) /ˌtreɪˈniː/: ผู้ฝึกงาน
Apprentice (n) /əˈprentɪs/: เด็กฝึกงาน

หน่วยงานภาษาอังกฤษทั่วไปตามประเภทต่าง ๆ
ประเภทบริษัท
Company: บริษัท
Consortium/ corporation: องค์กร
Subsidiary: บริษัทย่อย
Affiliate: บริษัทในเครือ
Private company: บริษัทเอกชน
Joint Stock company: บริษัทร่วมหุ้น
Limited Liability company: บริษัทจำกัด
หน่วยงานและแผนกต่าง ๆ ในบริษัทเป็นภาษาอังกฤษ
Headquarters: สำนักงานใหญ่
Representative office: ตัวแทนสำนักงาน
Branch office: สาขา
Regional office: สำนักงานภูมิภาค
Wholesaler: ร้านขายส่ง
Outlet: ร้านค้าปลีก
Department: แผนก
Accounting department: แผนกบัญชี
Administration department: ฝ่ายธุรการ
Financial department: แผนกการเงิน
Personnel department/ Human Resources department (HR): ฝ่ายทรัพยากรบุคคล
Purchasing department : แผนกจัดซื้อ
Research & Development department: ฝ่ายวิจัยและพัฒนา
Sales department: ฝ่ายขาย
Shipping department: แผนกจัดส่ง
ตําแหน่งงานภาษาอังกฤษในบริษัท
CEO (chief executive officer): ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
manager: ผู้จัดการ
director: ผู้อำนวยการ
deputy/ vice director: รองผู้อำนวยการ
the board of directors: คณะกรรมการ
Executive: ผู้บริหาร
Founder: ผู้ก่อตั้ง
Head of department: หัวหน้าแผนก
Deputy of department: รองหัวหน้าแผนก
supervisor: ผู้ดูแล
representative: ตัวแทน
secretary: เลขานุการ
associate, colleague, co-worker: เพื่อนร่วมงาน
employee: พนักงาน
trainee: ผู้ฝึกงาน

กิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานภาษาอังกฤษ
establish (a company): ก่อตั้ง (บริษัท)
go bankrupt: ล้มละลาย
merge: ควบรวมกิจการ
diversify: ลงทุนในรูปต่าง ๆ
outsource: จ้างบริษัทหรือคนภายนอก
downsize: ลดขนาดองค์การ
do business with: ทำธุรกิจกับ
franchise: แฟรนไชส์
ข้อมูลเกี่ยวกับตำแหน่งงานภาษาอังกฤษทั่วไปในประเทศต่าง ๆ
ในสหรัฐอเมริกา
ในองค์กรและบริษัทหลายแห่งในสหรัฐอเมริกา และประเทศอื่น ๆ บางประเทศ ตำแหน่งสูงสุด (top position) คือ Chairman หรือ President (ประธาน) รองลงมาจะเป็น Vice president ต่าง ๆ (รองประธาน) แล้วก็เป็น officer (หรือ director) ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่หรือผู้อำนวยการที่เป็นผู้ตัดสินใจสิ่งสำคัญต่าง ๆ ในบริษัท จากนั้นคือ general manager หรือ manager ซึ่งเป็นผู้จัดการที่รับผิดชอบงานเฉพาะด้าน
ในสหราชอาณาจักร
ในบริษัทของสหราชอาณาจักร ตำแหน่งสูงสุดคือ Chairman (ประธาน) ตามด้วย Chief Executive Director (ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร) หรือ Chief Executive Director (กรรมการผู้จัดการ) โดยสองตำแหน่งนี้เทียบเท่ากัน แต่ Managing Director มักได้ใช้กันมากกว่า
จากนั้นกรรมการต่าง ๆ เรียกว่า chief officer/director (ประธานเจ้าหน้าที่/ผู้อำนวยการ) รองลงมาเรียกว่า manager (ผู้จัดการ)
Board (คณะกรรมการ) เป็นคำที่ใช้สำหรับกรรมการทุกคน และพวกเขาประชุมกันในห้องที่เรียกว่า boardroom (ห้องประชุมคณะกรรมการ)
ในออสเตรเลียและสิงคโปร์
ตำแหน่งงานภาษาอังกฤษทั่วไปในออสเตรเลียและสิงคโปร์: Managing Director (กรรมการผู้จัดการ) เทียบเท่ากับ CEO และก็เทียบเท่ากับ director general หรือ general director (ผู้อำนวยการทั่วไป) ในประเทศของเรา อย่างไรก็ตาม ในฟิลิปปินส์ Managing Director (กรรมการผู้จัดการ) จะเรียกว่า President (ประธาน)
ในญี่ปุ่น
ตำแหน่งงานภาษาอังกฤษในบริษัทญี่ปุ่นค่อนข้างซับซ้อน ตัวอย่างเช่น Mitsui O.S.K. Lines ซึ่งเป็นองค์กรขนส่งทางทะเลที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งมีกองเรือประมาณ 45.5 ล้าน DWT มีทั้ง Chairman และ President ซึ่ง Chairman ถือว่าใหญ่กว่า President (แม้ว่ามีคำแปลเดียวกันคือ “ประธาน”)
President Executive Director คือประธานบริษัท Senior Managing Executive Officer เป็นเจ้าหน้าที่บริหารอาวุโส (โดยมีทั้งหมด 3 คนดำรงตำแหน่งนี้) จากนั้นมีกรรมการผู้จัดการ 9 คน (Managing Executive Officer) รองลงมาคือกรรมการ 8 คน (Executive Officer) บุคคลข้างต้นแต่ละคนจะมีหน้าที่รับผิดชอบงานต่าง ๆ ที่มีระดับความสำคัญต่างกัน
หวังว่าบทสรุปนี้จะช่วยให้คุณมีมุมมองที่ครอบคลุมมากขึ้นเกี่ยวกับตำแหน่งงานภาษาอังกฤษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อดูนามบัตรของใครบางคน คุณจะรู้ว่าเขาดำรงตำแหน่งอะไรและมีฐานะสำคัญหรือไม่ เพื่อให้คุณสามารถสื่อสารได้อย่างเหมาะสม
Readmore
- บทสนทนาภาษาอังกฤษเกี่ยวกับการทำงานที่ใช้บ่อยที่สุด
- วิธีแนะนำตัวสัมภาษณ์งานภาษาอังกฤษให้ประทับใจผู้ฟังที่สุด
- วิธีเขียนอีเมลภาษาอังกฤษแบบมืออาชีพและเหมาะสำหรับทุกสถานการณ์
ไวยากรณ์ถือเป็นทักษะพื้นฐานที่จะช่วยผู้เรียนภาษาอังกฤษเรียนรู้ทักษะอื่น ๆ ได้ดีขึ้น รวมถึงทักษะการฟัง การพูด การอ่าน และการเขียน แต่ถ้าอยากเก่งไวยากรณ์ นอกจากจะเข้าใจทฤษฎีแล้ว เรายังต้องฝึกฝนให้บ่อย ๆ อีกด้วย และหนึ่งในวิธีการฝึกฝนที่หลายๆ คนใช้กันอยู่ก็คือการฝึกทำแบบฝึกหัดภาษาอังกฤษขั้นพื้นฐาน (English grammar exercises) ในแต่ละวัน
ข้อผิดพลาดทั่วไปเวลาเรียนไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ
ตามรูปแบบการเรียนรู้แบบดั้งเดิม ผู้เรียนภาษาอังกฤษส่วนใหญ่จะเน้นการเรียนทฤษฎี โดยพวกเขาจะเขียนรายการโครงสร้างออกมา จากนั้นพยายามท่องจำและเรียนทบทวนหลายครั้งเพื่อจดจำ หรือไม่ก็ทำแบบฝึกหัดบางอย่างที่มีอยู่ในหนังสือเท่านั้น
แต่วิธีการเรียนรู้นี้ไม่ค่อยได้ผล มันจะทำให้คุณลืมทฤษฎีได้ง่าย จำหลักการพื้นฐานไม่ได้ ไม่สามารถได้คะแนนสอบไวยากรณ์สูง ส่งผลต่อการเรียนและผลการสอบภาษาอังกฤษ จากนั้นจะทำให้ตัวคุณเองรู้สึกหดหู่และผิดหวังกับการเรียนภาษาอังกฤษ
ดังนั้น หากคุณจำทฤษฎีได้แล้ว ต่อไปให้ใช้เวลาในการทำแบบฝึกหัดไวยากรณ์ภาษาอังกฤษขั้นพื้นฐาน (English grammar exercises) มันจะช่วยให้คุณรวบรวมความรู้และปรับปรุงการตอบสนองด้านการใช้ภาษาอังกฤษของคุณ คุณสามารถค้นหาแบบฝึกหัดไวยากรณ์มากมายในเอกสารต่างๆ หรือบนเว็บไซต์… หรือแบบทดสอบภาษาอังกฤษฟรีของ ELSA Speak
หมายเหตุบางประการเมื่อเรียนไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ
หากต้องการทำแบบฝึกหัดภาษาอังกฤษด้านไวยากรณ์ให้ดีๆ คุณควรทราบบางประเด็นต่อไปนี้:
เข้าใจส่วนประกอบของประโยคได้ดี
เมื่อฟังหรืออ่านประโยคภาษาอังกฤษใดประโยคหนึ่ง คุณต้องเข้าใจส่วนประกอบหลักของประโยคนั้น: Subject (ประธาน), Verb (กริยา), Object (กรรม) เมื่อคุณเข้าใจส่วนประกอบของประโยคแล้ว คุณจะเขียนประโยคได้อย่างถูกต้องและรู้วิธีใช้ประโยคในบริบทที่เหมาะสม
เรียนกาลต่าง ๆ ในภาษาอังกฤษ
มีกาลพื้นฐานทั้งหมด 12 กาลในภาษาอังกฤษ เพื่อให้จำกาลได้ง่าย คุณสามารถลองใช้วิธีต่อไปนี้:
- สำหรับกาลปัจจุบัน กริยา/กริยาช่วยจะเป็นรูปแบบกริยาช่อง 1 (Base Form) ของตารางกริยาที่ไม่ปกติ
- สำหรับอดีตกาล กริยา/กริยาช่วยจะเป็นรูปแบบกริยาช่อง 2 (Past Tense) ของตารางกริยาที่ไม่ปกติ
- สำหรับอนาคตกาล (Future Tense) ต้องมีคำว่า “will” “จะ” ในประโยค
- สำหรับกาลต่อเนื่อง (Continuous Tense) จะต้องมี “to be” และ verb-ing ในประโยค
- สำหรับกาลสมบูรณ์แบบ (Perfect Tense) จะต้องมีกริยาช่วย “have/has/had” และ V3/-ed ในประโยค (กริยาช่อง 3 ในตารางกริยาที่ไม่ปกติ)

ไวยากรณ์ภาษาอังกฤษมีหลากหลายรูปแบบ ดังนั้นไม่สามารถอธิบายทั้งหมดในบทความเดียว โปรดจำว่าบทความนี้เพียงจัดเตรียมและแบ่งปันเฉพาะความรู้ที่สำคัญและจำเป็นบางอย่างเพื่อช่วยให้คุณทบทวนความรู้และพัฒนาทักษะด้านไวยากรณ์ภาษาอังกฤษเท่านั้น
หากคุณเข้าใจกฎง่ายๆ ข้างต้นแล้ว ให้ฝึกฝนทันทีด้วยแบบฝึกหัดภาษาอังกฤษด้านไวยากรณ์ขั้นพื้นฐาน (English grammar exercises) ต่อไปนี้เพื่อจดจำโครงสร้างได้เร็ว
แบบฝึกหัดภาษาอังกฤษ ด้านไวยากรณ์ขั้นพื้นฐาน
แบบฝึกหัดเกี่ยวกับกาลต่างๆในภาษาอังกฤษ
1/ I’ve got a computer ,but I ….. (not/use) it much.
2/ After Larry ….. (to see) the film on TV, he decided to buy the book.
3/ Have you got an umbrella? It ….. (start) to rain.
4/ We couldn’t afford to keep our car, so we ….. (sell) it.
5/ I … (meet) Tom and Jane at the airport a few weeks ago. They … (go) to Paris and I ….. (go) to Rome. We … (have) a chat while we … (wait) for our flights.
6/ I’d better have a shower. I (not/have)….. one since Thursday.
7/ Before you came, she….. (go) to school.
8/ For several years, his ambition……. (be) to be a pilot.
9/ Mike…… (phone) one hour ago.
10/ Our teacher usually…. (give) us many exercises.
แบบฝึกหัดเกี่ยวกับประโยคเงื่อนไข
1/ If you (find) _________ a skeleton in the cellar, don’t mention it to anyone.
2/ If I __________ (have) the same problem you had as a child, I might not have succeeded in life as well as you have.
3/ I (not buy) _________________ things on the installment system if I were you.
4/ If he worked more slowly, he _____ (not make) so many mistakes.
5/ If the weather ___________________(not change), we will reach the top of the mountain.
แบบฝึกหัดเกี่ยวกับ Passive voice (กรรมวาจก)
1/ My father waters this flower every morning.
2 The manager didn’t phone the secretary this morning.
3/ He has broken his nose in a football match.
4/ Have you sent Christmas cards to your family?
5/ They find that the job is not suitable for a girl like her.
นอกจากการทำแบบทดสอบภาษาอังกฤษแล้ว คุณยังสามารถพัฒนาความสามารถด้านไวยากรณ์ภาษาอังกฤษของคุณได้ด้วยการอ่านหนังสือ หนังสือพิมพ์ นวนิยาย พูดคุยหรือสื่อสารภาษาอังกฤษกับเพื่อนๆ คุณครู หรือเจ้าของภาษาเป็นประจำ หรือไม่ก็ฝึกเขียนเรื่องสั้นๆ ไดอารี่ บล็อก อีเมล…เป็นภาษาอังกฤษ
โดยเฉพาะ เพื่อให้สามารถพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษของคุณได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ คุณสามารถลองศึกษา package เรียนภาษาอังกฤษต่างๆ ของ ELSA Speak ได้ ด้วยวิธีการเรียนรู้พิเศษที่ได้รับการพิสูจน์ในทั่วโลก คุณจะบรรลุเป้าหมายในการเรียนรู้ภาษาอังกฤษของคุณอย่างแน่นอน ค้นหาตอนนี้ได้ที่: https://th.elsaspeak.com/
คุณเคยรู้สึกน่าเบื่อเวลาสนทนาที่ขึ้นต้นด้วยวิธีทั่วไปที่ซ้ำซากหรือไม่ หรือบางครั้งคุณอาจติดอยู่ในการสนทนาและไม่รู้จะจบด้วยวิธีไหนให้ดูดี บทความด้านล่างนี้จะช่วยแนะนำบางประโยคที่ใช้บ่อยในการเริ่มและสิ้นสุด แชทภาษาอังกฤษ เพื่อให้เรื่องราวของคุณไม่ซ้ำซากจำเจอีกต่อไป
วิธีเริ่มการต้นการพูดคุยภาษาอังกฤษ
นอกจากคำทักทายทั่วไปเมื่อพบปะเพื่อนๆ หรือพบปะผู้คนใหม่ๆ เป็นครั้งแรก เช่น “Hi!”, “Hello!” คุณสามารถใช้ประโยคด้านล่างเพื่อทำให้การแชทภาษาอังกฤษ ของคุณน่าสนใจยิ่งขึ้น
- What is your name? – คุณชื่ออะไร
- What’s up? – ว่าไง
- How’s it going? – ช่วงนี้คุณเป็นยังไงบ้าง
- What have you been doing? – คุณทำอะไรเมื่อเร็ว ๆ นี้
- How have you been? – คุณเป็นอย่างไรบ้าง
- How’s everything ? – ตอนนี้ทุกๆอย่างดีไหม
- Hello, nice to see you again – สวัสดี ยินดีที่ได้พบคุณอีกครั้ง
- Hey, how is going? – สถานการณ์เป็นยังไงบ้าง
- I haven’t seen you for a long time – ฉันไม่ได้เจอคุณมานานแล้ว
- So we’ve met again, eh? – แล้วเราจะพบกันใหม่ใช่ไหม
วิธีจบการแชทภาษาอังกฤษ
- Keep in touch: ติดต่อฉันนะ
- Well, it’s been nice talking to you: ดีใจที่ได้คุยกับคุณ
- Hope to see you again soon: หวังว่าจะได้พบคุณอีกครั้งในเร็ว ๆ นี้
- Well, talk to you later: ไว้คุยกันทีหลัง
- It’s been great seeing you again: ดีใจที่ได้พบคุณอีกครั้ง
- Well, it was nice meeting you. I really had a great time: ดีใจที่ได้พบคุณ ฉันได้มีช่วงเวลาที่ดีจริงๆ
- I had a nice time talking to you: ฉันได้มีช่วงเวลาที่ดีที่ได้พูดคุยกับคุณ
- Anyway, I’ve got to get back to work: I’m glad that we met: ฉันต้องกลับไปทำงานแล้ว ดีใจมากที่เราได้พบกัน
- So, listen, it’s been great talking to you…: ฟังนะ ดีใจที่ได้พูดคุยกับคุณ…
- Anyway, I’ll let you get back to your shopping: อย่างไรก็ตาม ฉันจะให้คุณกลับไปช้อปปิ้งต่อนะ
- Anyway, I don’t want to monopolize all your time: ฉันไม่อยากผูกขาดเวลาทั้งหมดของคุณ
- Well, I don’t want to keep you from your work: ฉันไม่อยากรบกวนงานของคุณ
- If you’ll excuse me, I just saw someone I’ve been meaning to catch up with: กรุณาขอโทษด้วย ฉันเพิ่งเห็นคนที่ฉันอยากจะคุยด้วย

- My friends just walked in. I want to say hi to them…: เพื่อนของฉันเพิ่งมาถึง ฉันอยากจะทักทายพวกเขา…
- Sorry I can’t talk longer. I’m actually on my way to meet a friend for coffee: ขอโทษนะ ฉันคุยได้นานกว่านี้ไม่ได้ จริงๆว่า ฉันกำลังเดินทางไปดื่มกาแฟกับเพื่อน
- Let’s talk more another time. I’ve got to find my friends: ไว้คุยกันใหม่อีกครั้ง ตอนนี้ฉันต้องไปหาเพื่อน
- I just have to head to the bathroom. I’ll run into you later maybe: ฉันต้องไปห้องน้ำ ฉันอาจจะได้พบคุณในภายหลัง
- I just got here. I’m going to look around a bit more: ฉันเพิ่งมาถึงที่นี่ ฉันจะไปรอบ ๆ ดูก่อน
- I’m going to go grab another drink: ฉันจะไปเอาขวด/ แก้วอีกขวด
- Well, I gotta go (but I’ll text later): ฉันต้องไปแล้ว (แต่ฉันจะส่งข้อความทีหลัง)
- Take care: ดูแลตัวเองนะ
- I’m afraid he is not available now: ฉันเกรงว่าเขาไม่ว่างตอนนี้
- May I leave the message? ฉันขอฝากข้อความไว้ได้ไหม
- I’m afraid he is on another line. Would you mind holding? ฉันเกรงว่าเขาจะรับสายอื่น กรุณารอสักครู่ได้ไหม
- Is there any possibility we can move the meeting to Monday? เราเลื่อนการประชุมเป็นวันจันทร์ได้ไหม
หมายเหตุ
เมื่อสื่อสารกับชาวต่างชาติ มีบางสิ่งที่เราควรหลีกเลี่ยงเพื่อให้การสนทนาเป็นธรรมชาติ ให้ลองดูหัวข้อด้านล่างนี้ที่ถือว่าละเอียดอ่อนเมื่อพูดคุยกับชาวต่างชาติ
Weight: น้ำหนัก
คำถามที่ถือว่าหยาบคาย:
– Hey, did you gain some weight since we met? (เฮ้ น้ำหนักขึ้นอีกแล้วตั้งแต่ครั้งสุดท้ายที่เราเจอกันใช่ไหม)
– You have put on some pounds, haven’t you? (น้ำหนักของคุณขึ้นใช่ไหม)
การขึ้นน้ำหนักไม่ใช่สิ่งที่คนส่วนใหญ่อยากจะพูดถึง ดังนั้น ควรหลีกเลี่ยงหัวข้อนี้
ในขณะเดียวกัน การลดน้ำหนักของใครบางคนอาจเป็นผลมาจากการออกกำลังกายหรือการรับประทานอาหาร แต่ก็อาจเกิดจากการเจ็บป่วย ความเหนื่อยล้า หรือเจอเหตุการณ์ที่ไม่มีความสุข ลองนึกภาพว่าคุณรู้สึกดีใจมากเมื่อไม่ได้เจอเพื่อนมานาน และคุณถามพวกเขาว่า “Hey, you lost weight, you looks great?” (น้ำหนักลดแล้วใช่ไหม คุณดูดีนะ) แล้วเพื่อนของคุณก็ตอบว่า “I am dying of cancer.” (ฉันเป็นมะเร็ง).
โดยเฉพาะ คำถามว่า “Are you pregnant?” (คุณกำลังตั้งครรภ์อยู่หรือ) สำหรับผู้หญิงถือเป็นคำถามต้องห้าม ถ้าเธอตั้งครรภ์ เธอคงจะประกาศข่าวดีนี้ให้ทุกคนทราบแล้ว ถ้าเธอตอบว่า “I am just fat” “ฉันแค่อ้วนขึ้น” คุณทั้งสองก็จะตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่สบายใจ

Looks: รูปลักษณ์ หน้าตา
หากมีใครเปลี่ยนรูปลักษณ์ คุณก็ไม่ควรแสดงความคิดเห็นหรือพยายามถามให้ได้ คำถามต่อไปนี้ควรอยู่ใน “รายการที่ถูกจำกัด”:
– Oh my God, are you OK? (โอ้พระเจ้า คุณสบายดีไหม)
– Why do you look so ___ (tired, older)? (ทำไมคุณดูเหนื่อย/แก่กว่า)
– Didn’t you wear make-up? (คุณไม่แต่งหน้าหรือ)
Flaws: ข้อบกพร่อง
ความผิดปกติบนใบหน้าของอีกฝ่าย เช่น แผลเป็นใหม่ ตาคล้ำ… ก็เป็นสิ่งที่เราไม่ควรถาม คำถามที่ควรหลีกเลี่ยงในกรณีนี้คือ:
– What’s wong with your ___? (nose, eye, skin)? (จมูก ตา ผิวหนัง) (เกิดอะไรขึ้นกับ___ผิวหนัง/ตา/จมูกของคุณ…?)
ปัจจัยที่ละเอียดอ่อนอีกประการหนึ่งก็คือสิว เรียกว่า acne /ˈæk.ni/, zit /zɪt/ หรือ /ˈpɪm.pl̩/ ในภาษาอังกฤษ หากคุณเห็นสิวหรือผื่นบนใบหน้าของอีกฝ่าย คุณไม่ควรถามว่า:
– Ronnie, what’s that red thing on your nose? (รอนนี่ นั่นอะไรสีแดงบนจมูกคุณ?)
อย่างไรก็ตาม สำหรับคนใกล้ตัวคุณ การสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยๆ และการถามเกี่ยวกับสิ่งเหล่านั้นแสดงถึงความสนใจ ดังนั้น ข้อความที่ถือว่าไม่สุภาพหรือสุภาพจะขึ้นอยู่กับในบริบทที่ต่างกัน
หวังว่าคุณจะมีการสนทนาที่สนุกสนานและน่าสนใจกับเจ้าของภาษา!
>>> Read more
- ประโยคเงื่อนไข If Clause: โครงสร้าง วิธีใช้ แบบฝึกหัด และเคล็ดลับการท่องจำ
- ตาราง Irregular Verbs ในภาษาอังกฤษที่ครบถ้วนและถูกต้องที่สุด
- บทกวีเกี่ยวกับการใช้ “IN” “ON” “AT” ช่วยให้คุณแยกแยะได้ง่า
- Passive Voice: สูตร ตัวแปร และการใช้งานที่แม่นยำที่สุด (พร้อมแบบฝึกหัด)
“Happy Birthday to You, Happy Birthday to You, Happy Birthday, Happy Birthday. Happy Birthday to You…”. หากคุณกำลังอยากจะส่งคำ อวยพรวันเกิดภาษาอังกฤษ ที่น่าสนใจให้กับเพื่อนๆหรือเพื่อนร่วมงาน แต่ไม่รู้จะใช้คำใดนอกจากคำว่า “Happy Birthday” อย่ากังวลไปเลย บทความนี้จะช่วยคุณได้ วันเกิดเป็นโอกาสพิเศษ ดังนั้นมาร่วมกับ ELSA Speak ส่งคำอวยพรสุดพิเศษให้กับคนที่คุณรักนะ!
อวยพรวันเกิดภาษาอังกฤษ
คำอวยพรวันเกิดภาษาอังกฤษที่ไพเราะและน่าสนใจสามารถสร้างความประทับใจพิเศษได้ นำความสุขเล็กๆ น้อยๆ มาสู่คนที่คุณใส่ใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณมีเพื่อนชาวต่างชาติ อวยพรวันเกิดภาษาอังกฤษ จะแสดงว่าคุณใส่ใจและให้ความสำคัญกับพวกเขามาก มาเรียนรู้คำอวยพรวันเกิดที่น่าสนใจ 25 คำที่เป็นภาษาอังกฤษสำหรับโอกาสพิเศษนี้นะ! และอย่าลืมบันทึกประโยคหรือโครงสร้างที่คุณรู้สึกประทับใจไว้ นี่ก็เป็นวิธีเรียนรู้การสื่อสารภาษาอังกฤษด้วยตนเองที่มีประสิทธิภาพมากเช่นกัน!
1. A wish for you on your birthday, whatever you ask you may receive, whatever you seek you may find, whatever you wish may be fulfilled on your birthday. Happy birthday to you!
ในวันเกิดของคุณ ฉันหวังว่าคุณจะบรรลุสิ่งที่คุณต้องการเสมอ พบเจอสิ่งที่คุณกำลังมองหา และความปรารถนาทุกอย่างของคุณจะเป็นจริง สุขสันต์วันเกิด!
2. I wish you full happiness and love. May all your dreams come true and may lady luck visit you everyday. Happy birthday to one of the greatest people I’ve ever known.
ขอให้คุณมีแต่ความสุขและความสนุกสนาน ความฝันทั้งหมดของคุณจะเป็นจริงและโชคลาภจะมาหาคุณทุกวัน สุขสันต์วันเกิดกับคนที่ยอดเยี่ยมที่สุดที่ฉันเคยรู้จัก
3. Your birthday is the first day of another 365-day journey. Be the shining thread in the beautiful tapestry of the world to make this year the best ever.
วันเกิดของคุณถือเป็นวันแรกของการเดินทาง 365 วันครั้งใหม่ จงเป็นดั่งเส้นใยที่ปักทอลงบนพรมที่ส่องแสงสวยงามให้โลกใบนี้ เพื่อให้ปีนี้เป็นปีที่ดีที่สุดตลอดกาล
4. Blowing out another candle on your cakes means that you have lived another year of joy, and that you have made this world a better place. I wish you a delightful birthday!
การเป่าเทียนแต่ละเล่มบนเค้กวันเกิดของคุณหมายถึงคุณได้ผ่านอีกหนึ่งปีที่เต็มไปด้วยความสุข และทำให้โลกใบนี้สวยงามยิ่งขึ้น ขออวยพรให้คุณมีวันเกิดที่น่าปลื้มใจ!
5. Here is my birthday wish for you: I hope you will never stop enjoying every small thing in life. Because that’s what makes life worth living. I hope that you take time to enjoy the present while working for a better future. I hope your year will be full of memories, happiness, and adventure.
คำอวยพรวันเกิดสำหรับคุณ: ฉันหวังว่าคุณจะไม่มีวันหยุดเพลิดเพลินกับสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิตนี้ เพราะนั่นคือสิ่งที่ทำให้ชีวิตมีคุณค่า ขอให้คุณสนุกกับปัจจุบันในขณะที่ทำงานเพื่ออนาคตที่ดีกว่า และขอให้ปีข้างหน้าของคุณจะเต็มไปด้วยความทรงจำ ความสุข และการผจญภัย
อวยพรวันเกิดภาษาอังกฤษ ให้กับเพื่อน
มิตรภาพเป็นหนึ่งในสิ่งที่สวยงามที่สุดในชีวิตของทุกคน มาดูคำอวยพรวันเกิดภาษาอังกฤษดีๆที่ใช้กับเพื่อนที่รักของคุณนะ!

6. People say that the heroes are one in many many thousands, but I say that a friend like you is always one in the lifetime. Happy Birthday to you!
ทุกคนมักบอกว่าฮีโร่มีเพียงหนึ่งคนในหลายพันคน แต่ฉันบอกว่าเพื่อนแบบคุณมีเพียงหนึ่งเดียวในชีวิต สุขสันต์วันเกิด!
7. Hey I just wanted you to know that whenever you have a crazy idea, my only question will be: “What time?”. And remember to have a great birthday!
นี่ ฉันแค่อยากจะบอกว่าเมื่อใดก็ตามที่คุณมีความคิดบ้าๆ คำถามเดียวของฉันก็คือ: “กี่โมง” และอย่าลืมมีวันเกิดที่แสนวิเศษนะ!
8. A friend is someone who understands your past, believes in your future, and accepts you just the way you are – even if you are getting older. Thank you for being that friend, and Happy Birthday.
เพื่อนคือคนที่เข้าใจอดีตของคุณ เชื่อในอนาคตของคุณ และยอมรับคุณในสิ่งที่คุณเป็น แม้ว่าคุณจะอายุมากขึ้นก็ตาม ขอบคุณที่เป็นเพื่อนกัน และสุขสันต์วันเกิดนะ
9. You understand me like nobody else. Thank you for always being there to listen, I have a sibling in you my friend. Happy birthday!
คุณเข้าใจฉันในแบบที่ไม่มีใครสามารถทำได้ ขอบคุณที่คอยอยู่เคียงข้างและรับฟังฉันเสมอมา คุณเป็นเหมือนพี่น้องของฉัน สุขสันต์วันเกิด!
10. Best friend: someone who you can be yourself with, someone who you can have pointless conversations with, someone who still likes you even when you are weird, someone who forgets to buy you a birthday gift…that’s why I came up with this card only. Happy birthday my best friend!
เพื่อนที่ดีที่สุด คือ คนที่คุณสามารถเป็นตัวของตัวเองได้ คนที่คุณสามารถคุยด้วยทั้งวันทั้งคืน คนที่สามารถยอมรับความบ้าของคุณ และคนที่จะลืมซื้อของขวัญวันเกิดให้คุณในวันเกิดของคุณ… นั่นคือเหตุผลที่ฉันนำการ์ดนี้มาให้คุณ สุขสันต์วันเกิดเพื่อนที่ดีที่สุดของฉัน!
11. My best friend is even sweeter than cakes, more colorful than confetti, and hotter than candles. And it’s her birthday today. Happy birthday!
เพื่อนที่ดีที่สุดของฉันหวานยิ่งกว่าเค้ก มีสีสันยิ่งกว่าดอกไม้ ร้อนยิ่งกว่าเทียน และวันนี้เป็นวันเกิดของเธอสุขสันต์วันเกิดนะ!
12. We’re different in a lot of ways, but that’s what makes us such good friends. Puzzle pieces need to be different to fit together! Happy birthday to my most favorite piece!
เรามีความแตกต่างมากมาย แต่นั่นคือสิ่งที่ทำให้เรากลายเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดต่อกัน เหมือนชิ้นส่วนปริศนาที่ต้องแตกต่างกันจึงจะประกอบเข้าด้วยกันได้ สุขสันต์วันเกิดชิ้นส่วนที่ฉันชื่นชอบที่สุด!
>>> Read more
- [การ review อย่างละเอียด] App เรียนภาษาอังกฤษสำหรับเด็กดีหรือไม่ราคาเท่าไหร่
- [รีวิวแบบละเอียด] ELSA Speak คืออะไร? แอปฝึกพูดภาษาอังกฤษสำหรับคนทำงานที่มีเวลาน้อย
อวยพรวันเกิดภาษาอังกฤษ ให้กับเพื่อนร่วมงาน
โดยเฉลี่ยเราจะอยู่กับเพื่อนร่วมงานวันละ 8 ชั่วโมง คุณจะอยากพูดอะไรกับพวกเขาในวันพิเศษของเขาใช่ไหม การส่งอันอ่อนหวานและน่าประทับใจให้กับเพื่อนร่วมงานของคุณจะทำให้พวกเขารู้สึกประทับใจและใกล้ชิดกับคุณมากขึ้น
13. Hey it’s your birthday today and I just wanted to let you know that you’ll never have to face problems alone. I may not be able to solve every problem but I’ll always be there for you when you need me.
เฮ้ วันนี้เป็นวันเกิดของคุณ และฉันแค่อยากจะบอกให้คุณรู้ว่า คุณจะไม่มีวันต้องเผชิญกับปัญหาเพียงลำพัง ฉันอาจจะไม่สามารถแก้ปัญหาทุกอย่างได้ แต่ฉันจะอยู่เคียงข้างคุณเสมอเมื่อคุณต้องการฉัน
14. When I think back to all the things we’ve been through, I’m so thankful that I got to go through it with you by my side. Happy birthday to you, it has always been great to work with you.
เมื่อฉันคิดถึงสิ่งที่เราเคยผ่านมาด้วยกัน ฉันรู้สึกขอบคุณมากเมื่อมีคุณอยู่เคียงข้างฉัน สุขสันต์วันเกิด ยินดีที่ได้ร่วมงานกับคุณเสมอ
15. Very candle on your cake is another year I’ve been lucky to know you! Happy Birthday to the most wonderful colleague I’ve known!
เทียนแต่ละเล่มบนเค้กของคุณถือเป็นอีกหนึ่งปีที่ฉันโชคดีที่ได้รู้จักคุณ สุขสันต์วันเกิดเพื่อนร่วมงานที่ยอดเยี่ยมที่สุดของฉัน!
16. If your birthday is half as amazing as you are, it’s gonna be epic. Happy birthday to the best friend and colleague that a person could ask for!
หากวันเกิดของคุณวิเศษเท่ากับคุณเพียงครึ่งหนึ่ง มันคงจะยอดเยี่ยมอย่างมาก สุขสันต์วันเกิดให้กับเพื่อนที่ดีที่สุดและเพื่อนร่วมงานที่ใคร ๆ ก็อยากได้!
17. Hey, thanks for just being you. You are one of a kind and my best friend. Happy birthday and I hope we can have more chances to work together.
เฮ้ ขอบคุณที่เป็นตัวของคุณเอง คุณเป็นเพื่อนร่วมงานและเพื่อนที่ดีที่สุดของฉัน สุขสันต์วันเกิด และหวังว่าจะมีโอกาสได้ร่วมงานกันมากขึ้น
คำอวยพรวันเกิดภาษาอังกฤษอื่นๆที่ตลก
นอกจากคำอวยพรที่จริงใจและซาบซึ้งแล้ว ทำไมไม่ลองใช้คำอวยพรวันเกิดตลกๆ เป็นภาษาอังกฤษดูล่ะ
18. Dad, you have always been the coolest, like all those times you said “Yes” when mom said “No”. I wish you a happy birthday!
พ่อที่รัก ทุกครั้งที่พ่อพูดว่า “ใช่” ในเมื่อแม่พูดว่า “ไม่” พ่อจะดูเจ๋งที่สุดเลย สุขสันต์วันเกิดพ่อ!
19. Mom, no matter what life throws at you, at least you don’t have ugly children. They’ll always be by your side, happy birthday!
แม่ค่ะ ไม่ว่าคุณจะเจอปัญหาอะไรในชีวิต จงจำไว้เสมอว่าอย่างน้อยลูกของแม่ก็ไม่มีใครน่าเกลียดเลย และพวกเขาจะยืนเคียงข้างแม่อยู่เสมอ สุขสันต์วันเกิดแม่!

20. Best friends are just like farts. Some are quiet, some are loud. They embarrass you in public. They make you feel good. They make you laugh. For your birthday, I got you hugs, kisses, and birthday wishes! Plus, dinner is on me!
เพื่อนที่ดีที่สุดก็เหมือนเสียงผายลม บางทีก็เงียบ บางทีก็เสียงดังมาก พวกเขาทำให้เราอับอายในที่สาธารณะ พวกเขาทำให้เรารู้สึกสบายใจ พวกเขาทำให้เราหัวเราะ และในวันเกิดของคุณ ฉันจะกอดและจูบคุณ และ อวยพรวันเกิดให้คุณ ที่มากไปกว่านั้นคือ มื้อเย็นนี้ฉันเลี้ยงเอง!
21. The best gift is the gift of friendship. So, now I don’t know what I got you for your birthday! Don’t worry… I got you a real present too.
ของขวัญที่ดีที่สุดคือมิตรภาพ ดังนั้น ตอนนี้ฉันเลยยังไม่รู้ว่าจะให้อะไรในวันเกิดของคุณ แต่ไม่ต้องกังวลไป… ฉันก็มีของขวัญที่แท้จริงให้คุณเหมือนกัน
22. Today you’re older than you’ve ever been. But look on the bright side, you’re younger now than you will ever be!
แม้ว่าวันนี้คุณอายุมากขึ้น แต่มองในแง่ดีกันดีกว่า ตอนนี้คุณอายุน้อยกว่าทุกช่วงเวลาในอนาคตเลย
23. Forget about the past, you can not change it. Forget about the future, you can not predict it. Forget about the present, I did not get you one. Happy birthday!
ลืมอดีตไปเถอะ คุณไม่สามารถเปลี่ยนแปลงมันได้ และก็อย่ากังวลกับอนาคตเพราะคุณก็ไม่สามารถคาดเดาได้ แล้วลืมปัจจุบัน (ของขวัญ) ไปเลยเพราะฉันไม่มีอะไรจะให้คุณหรอก สุขสันต์วันเกิดนะ!
24. It’s your birthday today and I just want to send you something amazing but the postman told me to get out of the box. So, happy birthday!
วันนี้เป็นวันเกิดของคุณ ฉันอยากจะส่งของพิเศษไปให้คุณ แต่บุรุษไปรษณีย์บอกให้ฉันออกไปจากตู้ไปรษณีย์ ดังนั้น…สุขสันต์วันเกิด!
25. It’s your birthday today, so I hope all your wishes come true. But you already have me, what more could you wish for??
วันนี้เป็นวันเกิดของคุณ ฉันหวังว่าทุกความปรารถนาของคุณจะเป็นจริง แต่คุณก็มีฉันอยู่แล้ว จะขออะไรอีกล่ะ
ข้างต้นนี้ ELSA Speak ได้รวบรวมคำอวยพรวันเกิดภาษาอังกฤษที่ดีและมีความหมาย 25 คำให้คุณแล้ว หวังว่าคุณจะนำไปใช้อย่างดี และนอกจากคำอวยพรเหล่านี้แล้ว คุณยังสามารถเรียนรู้เพลงภาษาอังกฤษดีๆ สำหรับสุขสันต์วันเกิด ซึ่งจะนำเซอร์ไพรส์ที่น่ายินดีมาสู่เพื่อนและญาติของคุณอย่างแน่นอน! ขอให้ตั้งใจเรียนกันน๊าาา!
เราสับสนเมื่อใช้ tense และโครงสร้างประโยคขั้นสูง “have”, “has” และ “had” ELSA Speak ได้รวบรวมความรู้ทั้งหมดเกี่ยวกับความหมายและ การใช้ have has และ “had” พร้อมตัวอย่างประกอบเพื่อช่วยให้คุณเข้าใจและเชี่ยวชาญในการใช้ไวยากรณ์นี้ได้ง่ายดาย
“HAVE, HAS VÀ HAD” หมายถึงอะไร
“Have” เป็นคำกริยาสกรรมกริยาที่ใช้กันทั่วไปในภาษาอังกฤษ เป็นกริยารูปไม่ปกติและมีสามรูปแบบ: “have”, “has” และ “had”
ตัวอย่าง:
- I have a pen ฉันมีปากกา 1 ด้าม
- He has a pen เขามีปากกา 1 ด้าม
- I had a pen ฉันมีปากกา 1 ด้าม
นอกจากนี้ “have” ยังใช้เป็นคำกริยาช่วยในกาลสมบูรณ์ต่างๆ ซึ่งต้องรวม “have” กับกริยาหลักเพื่อสร้างวลีกริยาที่สมบูรณ์
ตัวอย่าง:
- She has just read this novel.
เธอเพิ่งอ่านหนังสือเล่มนี้จบ
- Have not you decided to move to New York?
คุณยังไม่ได้ตัดสินใจย้ายไปนิวยอร์กใช่ไหม?
“Have” มีความหมายและการใช้งานที่แตกต่างกันมากมาย พจนานุกรม oxford นิยามคำว่า “have” ดังนี้
ความหมาย | ตัวอย่าง |
Own or hold: มี / เป็นเจ้าของหรือถือครอง… (ไม่ใช้ในกาลต่อเนื่อง) | He had a lot of money and became a billionaire. |
เขามีเงินมากมายและกลายเป็นมหาเศรษฐี | |
Consist of: ประกอบด้วย | The team has four Vietnamese and two Chinese. |
ทีมประกอบด้วยชาวเวียดนามสี่คนและชาวจีนสองคน | |
Quality/ feature: ใช้เพื่อแสดงคุณภาพหรือคุณสมบัติ (ไม่ใช้ในกาลต่อเนื่อง) | The kid’s bike has three wheels for balance. |
จักรยานเด็กมีสามล้อเพื่อการทรงตัว | |
Relationship: แสดงความสัมพันธ์เฉพาะ (ไม่ใช้ในกาลต่อเนื่อง) | Do you have a customer named Jenny? |
คุณมีลูกค้าชื่อเจนนี่ไหม? | |
Something available: เพื่อให้สามารถใช้บางสิ่งได้เพราะมันมีอยู่ (ไม่ใช้ในกาลต่อเนื่อง) | Jenny has no choice in the matter. |
เจนนี่ไม่มีทางเลือกในเรื่องนี้ | |
must: ใช้เมื่อคุณต้องทำบางสิ่งบางอย่าง (ไม่ใช้ในกาลต่อเนื่อง) | You have to finish your homework before going to bed. |
คุณต้องทำการบ้านให้เสร็จก่อนเข้านอน | |
should: ใช้เมื่อคุณควร / จำเป็นต้องทำบางสิ่ง (ไม่ใช่กาลต่อเนื่อง) | You have to drink enough 2 liters of water per day for good health. |
คุณควรดื่มน้ำให้เพียงพอวันละ 2 ลิตร เพื่อสุขภาพที่ดี | |
feeling/thought: ใช้เพื่อแสดงความรู้สึก ความคิดที่อยู่ในใจ (ไม่ใช้ในกาลต่อเนื่อง) | Duksun had a strong impression that someone was watching her. |
ดุกซุนมีความประทับใจอย่างมากที่มีคนจับตามองเธอ | |
illness: ป่วยหรือไม่สบาย (ไม่ใช้ในกาลต่อเนื่อง) | Tom has had a headache since yesterday and today he has to go to the doctor. |
ทอมปวดหัวตั้งแต่เมื่อวานและวันนี้เขาต้องไปหาหมอ | |
Experience, undergo: ผ่าน | He went to a few clubs and had a good time. |
เขาไปคลับบางแห่งและได้มีช่วงเวลาที่ดี |
การใช้ “HAVE”, “HAS” กับ “HAD” อย่างไร
การแปลข้างต้นแสดงให้เห็นว่า “have”, “has” และ “had” มักใช้เพื่อแสดงการเป็นเจ้าของ ประสบการณ์ โรคภัยไข้เจ็บ ความสัมพันธ์ ฯลฯ และขึ้นอยู่กับแต่ละกรณี “have” จะได้ผันเป็น “has” หรือ “had”

วิธีใช้ | ตัวอย่าง |
Have: ใช้ในปัจจุบันกาลเมื่อประธานของประโยคเป็นบุรุษที่หนึ่ง บุรุษที่สอง และบุรุษที่สามพหูพจน์ (i/you/we/they/…) | We have a literature book on the table. |
เรามีหนังสือวรรณกรรมวางอยู่บนโต๊ะ | |
Has: ใช้ในปัจจุบันกาลเมื่อประธานของประโยคเป็นเอกพจน์บุรุษที่ 3 (he, she, it, proper noun,…) | He has a literature book on the table. |
เขามีหนังสือวรรณกรรมอยู่บนโต๊ะ | |
Had: ใช้ในอดีตกาลและสามารถใช้กับทุกประธาน | We had a literature book on the table. |
เรามีหนังสือวรรณกรรมอยู่บนโต๊ะ |
หมายเหตุ:
บุรุษสรรพนามในภาษาอังกฤษแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม คือ First-person บุรุษที่ 1 Second-person บุรุษที่ 2 และ Third-person บุรุษที่ 3
- บุรุษที่ 1 จะใช้เมื่อผู้พูด/ผู้เขียนกล่าวถึงตนเอง
- บุรุษที่ 2 ใช้เพื่ออ้างถึงบุคคลที่คุณกำลังสนทนาด้วย ฝ่ายตรงข้าม ฯลฯ
- บุรุษที่ 3 ใช้เพื่ออ้างถึงบุคคลหรือสิ่งอื่นที่ไม่มีอยู่ในเรื่อง
บุรุษสรรพนามในภาษาอังกฤษแบ่งออกเป็นเอกพจน์และพหูพจน์:
บุรุษที่หนึ่งเอกพจน์ | บุรุษที่หนึ่งพหูพจน์ | บุรุษที่สอง | บุคคลที่สามเอกพจน์ | บุคคลที่สามพหูพจน์ |
I (ฉัน ดิฉัน ผม เรา) | We (เรา พวกเรา) | You (คุณ ตัวเอง พี่ น้อง) | He (เขา); she (เธอ); it (มัน) | They ( พวกเขา พวกมัน…) |
หน้าที่ของ “HAVE” ในประโยค
ในประโยคภาษาอังกฤษ “have” มักใช้กับ 3 หน้าที่หลัก ได้แก่ กริยาปกติ กริยาช่วย และ Modal verbs
หน้าที่ | ตัวอย่าง |
คำกริยาปกติ: ใช้ในการแสดงความเป็นเจ้าของใน ประโยคปัจจุบันกาลกับคำนามพหูพจน์และพหูพจน์บุรุษ เช่น we/they/books/… และ I | They have a big house with a large garden and a swimming pool. |
พวกเขามีบ้านหลังใหญ่พร้อมสวนขนาดใหญ่และสระว่ายน้ำ | |
กริยาช่วย: ใช้ใน Present perfect tense หรือ Present Continuous tense กับประธานพหูพจน์ ใช้ในประโยคกรรตุวาจกและกรรมวาจก | We have been playing together since we were 5 years old. |
เราเล่นด้วยกันตั้งแต่เราอายุ 5 ขวบ | |
Modal verbs: เรามักจะใช้ “have” กับคำบุพบท “to” เพื่อให้มีความหมายเหมือนกับ “must” และ “should” คือ ต้อง ต้องการ มีหน้าที่หรือต้องทำอะไรสักอย่าง | I have to wash the dishes after eating. |
ฉันต้องล้างจานหลังจากกินเสร็จ |
โครงสร้างการใช้ “HAVE”, “HAS” และ “HAD” ที่พบบ่อย
นอกจากการใช้งานแล้ว โครงสร้างทั่วไปของ “have”, “has” หรือ “had” ก็มีความสำคัญเช่นกัน มาสำรวจกับ ELSA Speak กัน!

โครงสร้าง การใช้ “HAVE”, “HAS” และ “HAD” | ตัวอย่างเช่น |
Have + someone + V (infinitive) (ขอ/ทำให้ใครทำอะไรบางอย่าง) | I had my roommate help me buy vegetables at the supermarket. |
ฉันขอให้เพื่อนร่วมห้องช่วยฉันซื้อผักที่ซูเปอร์มาร์เก็ต | |
Had it not been for …, clause (ประโยคเงื่อนไขแบบที่ 3) | Had it not been for her support, Tom wouldn’t have succeeded. |
หากไม่มีการสนับสนุนจากเธอ ทอมคงไม่ประสบความสำเร็จ | |
Have + something + V (past participle) (ขอให้ใครทำอะไรบางอย่าง) | She has my telephone repaired. |
เธอช่วยฉันซ่อมโทรศัพท์ | |
Have + O + V-ing: ทำให้ใครบางคนทำอะไรบางอย่าง | Mr Bean had us laughing the whole episode. |
นาย. บีนทำให้เราขำตลอดทั้งเรื่อง | |
Have + got + O: คนเป็นเจ้าของบางสิ่ง (ไม่ใช้อธิบายการกระทำและใช้ใน Present Simple) | My father have got a new house in Bangkok |
พ่อของฉันมีบ้านใหม่ในกรุงเทพฯ | |
Have/has + been + V-ing: ใช้ใน Present Perfect Continuous เพื่อเน้นความต่อเนื่องของสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตและต่อเนื่องมาถึงปัจจุบันและอาจดำเนินต่อไปในอนาคต | The Japanese have been collecting garbage at the stadium after the match ended. |
ชาวญี่ปุ่นเก็บขยะในสนามหลังจบการแข่งขัน | |
Have/has + been to + place: ไปที่ไหนสักแห่ง | We have been to Bueng Boraphet for a club birthday celebration. |
เราไปบึงบอระเพ็ดเพื่องานเลี้ยงวันเกิดของสโมสร | |
Have + V (past participle): ใช้ใน Reduced relative clauses (ประโยคย่อย) เพื่อเน้นว่ากิจกรรมเสร็จสิ้นแล้ว | Jenny is the only student to have submitted the assignment within the allotted time. |
เจนนี่เป็นนักเรียนคนเดียวที่ส่งงานภายในเวลาที่กำหนด |
แบบฝึกหัด: การใช้ “HAVE”, “HAS” และ “HAD”
จงเติมประโยคต่อไปนี้โดยใช้รูปแบบของคำในวงเล็บให้ถูกต้อง
- Yesterday afternoon I had my car ______ (repair). I found a good mechanic in the area.
- Are they having their house ______ (clean) now? Let’s hang out then!
- Rosie has always wanted to have blue long hair. She is having her hair ______ (do).
- I am going to have the mechanic ______ (repair) my washing machine.
- My left leg really hurts, so I went to the hospital to have it ______ (examine).
- My children are going to garden ______ (water) my flowers.
- She had her younger brother ______ (check) this English exercise.
- I am going to have Tom ______ (look) at my old washing machine. Perhaps he can fix it.
บทสรุป
การใช้ “have” “has” และ “had” ไม่ยากเหมือนเราคิดใช่ใหม ELSA Speak หวังว่าจะเป็นประโยชน์และช่วยให้คุณเรียนภาษาอังกฤษได้ดีขึ้น อย่าลืมฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอเพื่อเสริมความรู้เกี่ยวกับ “have” นะ! ขอให้โชคดี!