ในการสื่อสารในชีวิตประจำวัน เราต้องใช้แบบประโยคขอร้องและขออนุญาตอย่างเหมาะสม และในภาษาอังกฤษก็เช่นกัน การที่เรานำข้อเสนอและขออนุญาต จึงต้องมีความชำนาญมากขึ้น ดังนั้น ในบทความนี้ ELSA Speak จะแนะนำให้คุณวิธีการพูด ขออนุญาต ภาษาอังกฤษ อย่างธรรมชาติ เรียบๆแต่ยังคงสุภาพที่สุด
ตัวอย่าง ประโยค ขออนุญาต ภาษาอังกฤษ (Permission)
Can/ Could S + V?
“Can/ Could I + V?” เราเพียงใช้ “Can” เมื่อพูดกับเพื่อนๆ ที่สนิทกันและในการสนทนาไม่จำเป็นต้องเป็นทางการ
สอบก่อนเข้าฟรี
- Can I look up for new words on this dictionary? (ฉันสามารถค้นหาคำศัพท์ใหม่ในพจนานุกรมนี้ได้ไหมคะ)
- Can I meet you in private? (ฉันขอพบคุณคนเดียวได้ไหมคะ)
- Could I meet you in private, please? (ฉันขออนุญาตพบคุณคนเดียวได้ไหมคะ)
- Could I please have some water? (ฉันขอดื่มน้ำหน่อยได้ไหมคะ)
Could I please + verb?
มีคำหนึ่งที่ถือเป็นเส้นทางหลักของประโยคคำขอ นั้นคือ “Please” ในการแสดงการขอร้องโดยเฉพาะ หรือเพื่อวัตถุประสงค์อื่นใดในประโยคโดยทั่วไป เราควรใช้คำว่า “Please” เพื่อเพิ่มความสุภาพให้ประโยค ไม่ได้เป็นข้อบังคับใช้ทางไวยากรณ์ แต่ผู้ฟังจะรู้สึกว่าอีกฝ่าย “ไม่สุภาพ” หากไม่มีคำว่า “Please”
- Could I please go with Tom to the movie? (หนูขออนุญาตไปดูหนังได้ไหมคะ)
- Could we please go on a trip this weekend? (สุดสัปดาห์นี้ เราไปเที่ยวด้วยกันได้ไหมคะ)
>>> Read more:
- วิธีใช้ could you please และตัวอย่างประโยคคำสั่งทั่วไป
- การวิเคราะห์ความแตกต่างระหว่าง Can กับ Could โดยละเอียด
May I + V?
“May I + verb?” ได้ใช้อย่างแพร่หลายในหลายกรณีเพราะโครงสร้างนี้มีน้ำเสียงที่เป็นทางการมากกว่าi “Can I + verb?” และ “Could I + verb?”
- May I have another piece of pie? (ฉันขอกินขนมเพิ่มอีกชิ้นได้ไหมคะ)
- May we go out with our friends tonight? (คืนนี้ พวกเราสามารถไปเที่ยวกับเพื่อนๆ ได้ไหมคะ)
Could you allow me to + V?
นี่เป็นหนึ่งในรูปแบบการขออนุญาตที่ง่ายแต่ยังคงรักษาความสุภาพขั้นต่ำต่อผู้ฟัง
- Could you allow me to hang out with Laura, Dad? (คุณพ่อให้หนูไปเที่ยวกับลอร่าได้ไหมคะ)
- Could you allow me to go swimming with him? (คุณพ่อให้หนูไปว่ายน้ำกับเขาได้ไหมคะ)
Do you think I could + verb?
- Do you think I could use your cell phone? (ฉันขออนุญาตใช้โทรศัพท์มือถือของคุณได้ไหมคะ)
- Do you think I could borrow your car? (ฉันขอยืมรถยนต์ของคุณได้ไหมคะ)
Would it be alright/ OK/… if I + V?
- เราควรใช้วลีเสริมที่ถามความคิดเห็นของผู้ฟัง เพื่อแสดงว่าเราเคารพการตัดสินใจของพวกเขา แม้ว่าผลของการกระทำจะไม่ใช่สิ่งที่เราต้องการก็ตาม
- ตัวอย่าง Would it be OK if I use your phone charger? (จะไม่เป็นอะไรไหมคะ ถ้าฉันใช้ที่ชาร์จโทรศัพท์ของคุณ)
Would it be possible for me + to V?
- Would it be possible for me to use your computer for a few minutes? (ผมสามารถขอยืมคอมพิวเตอร์ของคุณสักครู่ได้ไหมครับ)
- Would it be possible for me to study in this room? (ผมขอเรียนในห้องนี้ได้ไหมครับ)
Do you mind + possessive adjective (คุณศัพท์แสดงความเป็นเจ้าของ) + Noun (คำนาม)?
นี่เป็นโครงสร้างที่พบบ่อยมาก ตำแหน่งของวลีเสริมที่มี “mind” สามารถยืดหยุ่นได้ ขึ้นอยู่กับบริบท
- Do you mind if I sweep the floor, it is too dirty? (จะรังเกียจไหมคะถ้าฉันกวาดบ้าน มันสกปรกมาก)
- I could prepare meal, do you mind it? (ฉันสามารถเตรียมอาหารได้ถ้าคุณไม่รังเกียจ)
- I would like to take the rest if you don’t mind. (ฉันจะไปพักผ่อน ถ้าคุณไม่ว่าอะไร)
- We are leaving soon, you don’t mind, do you? (เราจะไปแล้ว คุณจะไม่ว่าอะไรใช่ไหม)
- I need to leave, do you mind? (ผมต้องไปตอนนี้เลย คุณโอเคไหมครับ)
อย่างไรก็ตาม ขึ้นอยู่กับแต่ละกรณี เช่นเดียวกับสองประโยคสุดท้าย มันจะมีน้ำเสียงที่น่าประทับใจเล็กน้อยสำหรับผู้ฟัง เพราะเมื่อพูดแล้ว ผู้พูดจะต้องได้รับการอนุญาตได้อย่างแน่นอน
Would you mind if I + verb in past
ในโครงสร้าง would you mind if ตามด้วยประธาน เพราะฉะนั้นคำกริยาต้องเป็นช่องที่ 2 (past simple) โครงสร้างนี้ใช้เพื่อขออนุญาตในการทำบางสิ่ง
- Would you mind if I stayed a few more minutes? (คุณจะรังเกียจไหมถ้าฉันอยู่ต่ออีกไม่กี่นาที)
- Would you mind if I took a five minute break? (คุณจะรังเกียจไหมถ้าฉันพักในเวลาประมาณ 5 นาที)
Would you mind my + verb-ing + your + object?
สามารถใช้โครงสร้าง “Do you mind + V-ing” เพื่อแทนโครงสร้างดังกล่าว ไม่มีความแตกต่างในด้านความหมาย แต่ “Would you mind” เป็นทางการและสุภาพกว่า
- Would you mind my using your cellphone for a few minutes? (คุณจะรังเกียจไหมคะถ้าฉันใช้โทรศัพท์ของคุณสักครู่)
- Would you mind my playing your piano? (คุณจะรังเกียจไหมคะถ้าฉันเล่นเปียโนของคุณ)
Is it OK/ a problem/ if I + V?
- วลีที่ใช้บ่อยในการสื่อสารในชีวิตประจำวันอย่างสุภาพและชัดเจน
- Is it a problem if I wear red at your party, I haven’t heard of the dress code? (ฉันสวมชุดสีแดงในงานของคุณได้ไหมคะ ฉันยังไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับตีมชุดในงานค่ะ)
ตัวอย่างการตอบในการ ขออนุญาตในภาษาอังกฤษ (Responding to permission)
ตกลงเมื่อมีผู้อื่นขออนุญาต
คุณสามารถใช้คำตอบต่อไปนี้ เพื่อแสดงความตกลงเมื่อมีผู้อื่นขออนุญาต
- Sure. (ได้เลยค่ะ/ ครับ ได้อย่างแน่นอนค่ะ/ ครับ)
- No problem. (ไม่มีปัญหาอะไรค่ะ/ ครับ)
- Go right ahead. (ตามสบายเลยค่ะ/ ครับ)
- Please feel free + to V. (สบายใจ…เลยนะ)
- Yes, you can. (ได้เลยค่ะ/ ครับ คุณสามารถทำได้)
- Please feel free. (ตามสบายนะค่ะ/ ครับ)
- I don’t mind. (ฉัน/ผมไม่รังเกียจค่ะ/ ครับ)
ข้อควรรู้
- “Sure”, “No problem” และ “Go right ahead” มักใช้ในการสื่อสารกับคนที่รู้จักหรือในวัยเดียวกัน ส่วน “Please feel free + to V” มีน้ำเสียงที่สุภาพและเป็นทางการมากขึ้น
- ไม่ใช้ “Sure.” เพื่อแสดงความตกลงเมื่อผู้อื่นขออนุญาตโดยใช้รูปประโยค “Would you mind ….?”
>>> Read more: 30 คำที่ใช้แทน “Yes” ตกลงภาษาอังกฤษ
การปฏิเสธคำขออนุญาตของผู้อื่นอย่างสุภาพ
บอกว่า “ไม่” มันไม่ง่ายเลยแต่จำเป็นเพราะคุณไม่สามารถเห็นด้วยกับทุกข้อเสนอในโลกได้ ด้านล่างนี้คือ อีกวิธีที่จะช่วยคุณในปฏิเสธผู้อื่น
- I’m afraid I’d prefer if you didn’t. (ฉันเกรงว่ามันน่าจะดีกว่านี้ ถ้าคุณไม่ได้ทำแบบนั้น)
- Sorry, but I’d rather you not do that. (ขอโทษนะ แต่เราไม่อยากให้เธอทำแบบนั้นจริงๆ)
- Unfortunately, I need to say no. (ขอโทษด้วยค่ะ ฉันจำเป็นต้องบอกว่า ไม่)
- I’m afraid that’s not possible. (ฉันกลัวว่าสิ่งนั้นเป็นไปไม่ได้)
- I’m afraid not. (ฉันกลัวว่ามันจะไม่ได้)
- I’m afraid, but you can’t. (ฉันกลัว แต่คุณไม่สามารถ)
- I’m sorry, but that’s not possible. (ฉันขอโทษนะคะ แต่มันเป็นไปไม่ได้)
- No, you cannot. (ไม่ คุณไม่สามารถ)
- You couldn’t do that. (คุณไม่สามารถทำสิ่งนั้นได้)
- Sorry, you are not permitted. (ขอโทษค่ะ คุณไม่ได้รับการอนุญาต)
บางที เมื่อปฏิเสธคำอนุญาตของใครคนหนึ่ง คุณสามารถให้ข้อเสนอแนะช่วยเหลือตามวิธีอื่น
- I’m afraid I can’t let you borrow my car, but I could drive you instead. (ผมกลัวว่าผมไม่สามารถให้คุณยืมรถยนต์ได้ แต่ผมสามารถขับรถพาคุณไปแทนได้)
- I can’t babysit your daughter. How about I call my sitter for you instead? (ฉันไม่สามารถช่วยคุณดูแลลูกสาว ฉันขอให้พี่สาวของฉันช่วยคุณแทนได้ไหมคะ)
- I wish I could help out; maybe another time. (ฉันหวังว่าฉันจะช่วยคุณได้ในครั้งอื่น)
>>> Read more: ตัวอย่างประโยคปฏิเสธอย่างสุภาพในภาษาอังกฤษ
ตัวอย่างบทสนทนา ขออนุญาต ภาษาอังกฤษ
บทสนทนาที่ 1
ภาษาอังกฤษ | แปล | |
Jack | Hi Sam, do you think I could use your cell phone for a moment? | สวัสดีแซม ผมขอยืมโทรศัพท์ของคุณสักครู่ได้ไหมครับ |
Sam | Sure, no problem. Here you are. | ได้เลย ไม่มีอะไร คุณเอาสิ |
Jack | Thanks buddy. It will only be a minute or two. | ขอบใจนะ บัดดี้ จะใช้เวลาแค่หนึ่งหรือสองนาทีเท่านั้นเอง |
Sam | Take your time. No rush. | ช้าลงหน่อย ไม่ต้องรีบ |
Jack | Thanks! | ขอบคุณมากครับ |
บทสนทนาที่ 2
ภาษาอังกฤษ | แปล | |
Student | Would it be possible for me to have a few more minutes to review before the quiz? | ฉันสามารถใช้เวลาสองสามนาที ทบทวนก่อนการทดสอบได้ไหมคะ |
Teacher | Please feel free to study for a few more minutes. | สามารถทบทวนได้ตามสบายเลยนะคะ |
Student | Thank you very much. | หนูขอบคุณอาจารย์มากค่ะ |
Teacher | No problem. Do you have any questions in particular? | ไม่เป็นไรนะ พวกหนูมีคำถามอะไรที่อยากถามไหมคะ |
Student | Uh, no. I just need to review things quickly. | ไม่มีค่ะ ฉันแค่ต้องทบทวนบางประเด็นอย่างรวดเร็วค่ะ |
Teacher | OK. We’ll begin in five minutes. | โอเค งั้นเราจะเริ่มการสอบในเวลา 5 นาทีนะ |
Student | Thank you. | ขอบคุณอาจารย์มากค่ะ |
บทสนทนาที่ 3
ภาษาอังกฤษ | แปล | |
Employee | Would you mind if I came in late to work tomorrow? | คุณจะรังเกียจไหม ถ้าพรุ่งนี้ฉันมาทำงานสาย |
Boss | I’m afraid I’d prefer if you didn’t. | ผมคิดว่าน่าจะดีกว่า ถ้าคุณมาตรงเวลา |
Employee | Hmmm. What if I work overtime tonight? | งั้นถ้าฉันทำงานล่วงเวลา ในคืนนี้จะได้หรือไม่คะ |
Boss | Well, I really need you for the meeting tomorrow. Is there any way you can do whatever it is you need to do later? | ผมต้องการคุณในการประชุมพรุ่งนี้จริงๆ คุณมีวิธีอะไรที่จะสามารถเลื่อนงานของคุณออกไปไหม |
Employee | If you put it that way, I’m sure I can figure something out. | ค่ะ ถ้าอย่างนั้นฉันจะหาวิธีจัดการค่ะ |
Boss | Thanks, I appreciate it. | ขอบคุณมากนะครับ |
บทสนทนาที่ 4
ภาษาอังกฤษ | แปล | |
Son | Dad, can I go out tonight? | พ่อคะ คืนนี้ผมขอไปเที่ยวได้ไหมครับ |
Father | It’s a school night! I’m afraid that’s not possible. | พรุ่งนี้ลูกต้องไปเรียนนะ พ่อคิดว่า ไม่ไปน่าจะดีกว่า |
Son | Dad, all my friends are going to the game! | พ่อ เพื่อนๆ ของผมใครก็ไปหมดเลย |
Father | I’m sorry, son. Your grades haven’t been the best recently. I’m going to have to say no. | พ่อขอโทษนะลูก คะแนนล่าสุดของลูกก็ไม่ค่อยดี พ่อก็เลยให้ไปไม่ได้นะ |
Son | Ah, Dad, come on! Let me go! | พ่อครับ ให้ผมไปนะครับ |
Father | Sorry son, no is no. | ขอโทษลูก แต่ไม่ได้ก็คือไม่ได้ |
โครงสร้างภาษาอังกฤษเกี่ยวกับการขออนุญาต
คำศัพท์ | แปล | ตัวอย่าง |
Have permission | ได้รับอนุญาต | Don’t take photos unless you have permission to do so. (อย่าถ่ายรูป เว้นแต่จะได้รับความอนุญาต) |
Gain/ get/ obtain/ receive/ secure permission | ได้รับความอนุญาต | The citizens have to get permission to move from one place to another. (ประชาชนต้องได้รับการอนุญาตก่อนที่จะย้ายไปอยู่ที่อื่น) |
Give (sb) / grant (sb) Permission | อนุญาตใครสักคน | Unfortunately, we cannot grant permission for these uses. (ขออภัย เราไม่สามารถให้สิทธิ์ในการใช้งานเหล่านี้ได้) |
Apply for / ask (for)/ request/ seek permission | ขออนุญาต | You may apply for permission to work immediately upon arriving in the United States. (คุณสามารถยื่นขอใบอนุญาตทำงานได้ทันทีตอนที่มาถึงสหรัฐอเมริกา) |
หวังว่า ต้วอย่างประโยคข้างต้นจะช่วยคุณได้รู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีพูด ขออนุญาต ภาษาอังกฤษ ติดตามส่วนการสื่อสาร คำศัพท์ และการสนทนาเพื่ออัพเดทความรู้ภาษาอังกฤษที่เป็นประโยชน์มากขึ้นทุกวัน และอย่าลืมอ้างอิง ELSA Speak เพื่ออัพเดทโปรโมชั่นในเวลานี้เลยนะ