Author: Trang Dang
วลี Up to you เป็นสำนวนที่พบบ่อยในภาษาอังกฤษ ซึ่งแสดงถึงความเคารพต่อการตัดสินใจของผู้อื่น อย่างไรก็ตาม หากคุณต้องการพูดแบบสุภาพและเป็นทางการมากขึ้น คุณสามารถใช้คำพ้องความหมายแทนได้ มาสำรวจ Up to you แปลว่าอะไรและวิธีพูดคำเหล่านี้กับ ELSA Speak เพื่อสื่อสารอย่างมั่นใจและสุภาพในทุกสถานการณ์กันนะ!
Up to you แปลว่า?

วิลี up to you ในภาษาอังกฤษแปลว่า แล้วแต่คุณ หรือ การตัดสินใจเป็นของคุณ นี่เป็นวิธีบอกว่าการตัดสินใจขึ้นอยู่กับผู้ฟัง ซึ่งคุณไม่สามารถจะแทรกแซงหรือทำการเลือกใด ๆ ได้
ตัวอย่าง:
- It’s up to you where we go for dinner.
(แล้วแต่คุณที่จะเลือกว่าเราจะไปทานอาหารเย็นที่ไหน)
- You can choose the movie, it’s up to you.
(คุณสามารถเลือกภาพยนตร์ได้ การตัดสินใจเป็นของคุณ)
โครงสร้าง และ Up to you ใช้ยังไงในภาษาอังกฤษ

โครงสร้าง | ความหมาย | ตัวอย่าง |
---|---|---|
Up to someone’s discretion | การตัดสินใจหรือการกระทำตามวิจารณญาณหรือการติดสินใจของบุคคลใดบุคคลหนึ่ง | The final decision is up to the board of directors’ discretion. (การตัดสินใจขั้นสุดท้ายขึ้นอยู่กับคณะกรรมการบริหาร) |
It’s up to someone to choose | เน้นย้ำว่าใครคนหนึ่งมีสิทธิ์เลือก | It’s up to the customer to choose the flavor they like. (ลูกค้ามีสิทธิ์เลือกรสชาติที่ชอบได้) |
It’s up to you + to V | การตัดสินใจเป็นของคุณที่จะตัดสินใจว่าจะทำอย่างไร | It’s up to you to decide whether we should go out or stay in tonight. (การตัดสินใจเป็นของคุณที่จะตัดสินใจว่าคืนนี้เราจะออกไปข้างนอกหรืออยู่บ้าน) |
It’s up to + someone/something + to V | การตัดสินใจที่จะกระทำนั้นขึ้นอยู่กับใครหรือบางสิ่งบางอย่าง | It’s up to the project manager to assign tasks to team members. (การตัดสินใจขึ้นอยู่กับผู้จัดการโครงการที่จะมอบหมายงานให้กับสมาชิกในทีม) |
>>> Read more: คำศัพท์น่าสนใจเกี่ยวกับสถานที่ในการสื่อสารภาษาอังกฤษ
วิธีการพูด Up to you แบบสุภาพ
วิธีการพูดแบบสุภาพ | ความหมาย | ตัวอย่าง |
---|---|---|
It’s up to you. | แล้วแต่คุณ | We can stay in or go out — it’s up to you. (เราจะอยู่บ้านหรือออกไปข้างนอกก็ได้ ขึ้นอยู่กับคุณi – แล้วแต่คุณ) |
The choice is yours. | ตัวเลือกเป็นของคุณ | I’ve given you all the options. The choice is yours. (ฉันให้ทางเลือกทั้งหมดแก่คุณแล้ว ตัวเลือกเป็นของคุณ) |
You decide. | คุณตัดสินใจก็แล้วกัน | Where do you want to eat? You decide. (คุณอยากไปทานอาหารที่ไหน? คุณตัดสินใจก็แล้วกัน) |
I’ll leave it up to you. | ให้คุณตัดสินใจ | I’m fine with either option, so I’ll leave it up to you. (ฉันโอเคกับตัวเลือกทั้งสองแบบ ดังนั้นฉันให้คุณตัดสินใจ) |
Whatever works best for you. | อะไรก็ได้ที่เวิร์คสำหรับคุณ | Morning or afternoon? Whatever works best for you. (เช้าหรือบ่าย? อะไรก็ได้ที่เวิร์คสำหรับคุณ) |
It’s your call. | แล้วแต่คุณตัดสินใจ | Do we go now or wait? It’s your call. (เราควรไปตอนนี้หรือรอก่อน? แล้วแต่คุณตัดสินใจ) |
I’m happy either way. | ฉันยินดีเสมอ | Do you want to meet today or tomorrow? I’m happy either way. (คุณอยากเจอฉันวันนี้หรือพรุ่งนี้ก็ได้ ฉันยินดีเสมอ) |
I trust your judgment. | ฉันเชื่อมั่นในการตัดสินใจของคุณ | Pick the venue, I trust your judgment. (เลือกสถานที่เลย ฉันเชื่อในการตัดสินใจของคุณ) |
ความแตกต่างระหว่าง Up to you กับ Whatever ในภาษาอังกฤษ

วลิ | ความหมาย | วิธีการใช้ | ตัวอย่าง |
---|---|---|---|
Up to you | การตัดสินใจเป็นของคุณ แล้วแต่คุณ | ใช้เมื่อต้องการเน้นย้ำว่าผู้ฟังมีสิทธิ์ที่จะตัดสินใจ | It’s up to you whether we go to the park or the beach. (แล้วแต่คุณที่จะตัดสินใจว่าเราจะไปที่สวนสาธารณะหรือทะเล) |
Whatever | อะไรก็ตาม ไม่สนใจ ทางเลือกไม่สำคัญ | ใช้เมื่อผู้พูดไม่สนใจทางเลือกของอีกฝ่าย | I don’t mind. Whatever you want to do is fine with me. (ฉันไม่สนใจ คุณสามารถทำอะไรก็ได้ที่คุณต้องการ) |
คำพ้องความหมายและคำตรงข้ามของ Up to you

>>> Read more: 125+ คำศัพท์ คำย่อ และประโยคฟุตบอลภาษาอังกฤษที่ควรรู้
คำพ้องความหมาย
ภาษาอังกฤษ | ความหมาย | ตัวอย่าง |
---|---|---|
The ball is in your court | การตัดสินใจขึ้นอยู่กับคุณ | I’ve presented my ideas. Now the ball is in your court. (ฉันได้เสนอความคิดของฉันแล้ว ตอนนี้การตัดสินใจขึ้นอยู่กับคุณ) |
The choice is in your hands | ทางเลือกอยู่ในมือคุณ | The choice is in your hands. You’re the one who gets to choose. (ทางเลือกอยู่ในมือคุณ คุณคือคนที่มีสิทธิ์เลือก) |
The responsibility lies with you | ความรับผิดชอบอยู่ที่คุณ | The success of this project is crucial, and the responsibility lies with you to ensure its completion. (ความสำเร็จของโครงการนี้เป็นสิ่งสำคัญ และความรับผิดชอบในการทำให้โครงการเสร็จสมบูรณ์นั้นอยู่ที่คุณ) |
The onus is on you | ความรับผิดชอบอยู่ที่คุณ | We have entrusted you with this important task, so the onus is on you to deliver results. (เราได้มอบหมายงานสำคัญนี้ให้กับคุณ ดังนั้นความรับผิดชอบในการส่งมอบผลงานจึงตกอยู่ที่คุณ) |
It’s the responsibility of + someone + to V | ความรับผิดชอบของใครบางคนในการทำบางสิ่งบางอย่าง | It’s the responsibility of the team leader to complete the project. (เป็นความรับผิดชอบของหัวหน้าทีมในการทำให้โครงการเสร็จสมบูรณ์) |
It’s on + someone + to V | เป็นความรับผิดชอบของใครที่จะต้องกระทำการสิ่งใด | It’s on the company’s HR department to handle employee recruitment. (เป็นความรับผิดชอบของฝ่ายทรัพยากรบุคคลของบริษัทในการจัดการเรื่องการสรรหาบุคลากร) |
The duty falls to + someone + to V | ความรับผิดชอบ หน้าที่ ตกไปอยู่ในมือของใครคนหนึ่ง | The duty falls to the parents to teach their children how to behave well. (เป็นหน้าที่รับผิดชอบของพ่อแม่ที่จะสอนมารยาทที่ดีให้แก่ลูกหลาน) |
The decision rests with + someone + to V | การตัดสินใจที่จะทำอะไรบางอย่างอยู่ในมือของใครคนหนึ่ง | The decision rests with the homeowner whether he wants to renovate or sell the old home. (การตัดสินใจอยู่ที่เจ้าของบ้านที่จะตัดสินใจว่าเขาต้องการปรับปรุงหรือขายบ้านหลังเก่า) |
It’s your decision | การตัดสินใจขึ้นอยู่กับคุณ | Where shall we go for dinner? – It’s your decision. (เราจะไปกินข้าวเย็นที่ไหน? – การตัดสินใจขึ้นอยู่กับคุณ) |
The choice is yours | ทางเลือกเป็นของคุณ | Would you like tea or coffee? – The choice is yours. (คุณอยากกินชาหรือกาแฟ? – ทางเลือกเป็นของคุณ) |
You have the final say | การตัดสินใจขั้นสุดท้ายขึ้นอยู่กับคุณ | We can discuss this further, but you have the final say. (เราพูดคุยกันต่อได้ แต่การตัดสินใจขั้นสุดท้ายขึ้นอยู่กับคุณ) |
It’s in your hands | การตัดสินใจอยู่ที่คุณ | Whether we go or stay is entirely in your hands. (เราจะไปหรืออยู่ การตัดสินใจอยู่ที่คุณ) |
It’s up to you to decide | มันขึ้นอยู่กับคุณที่จะตัดสินใจ | It’s up to you to decide if you want to attend the party or not. (ขึ้นอยู่กับคุณที่จะตัดสินใจว่าคุณต้องการเข้าร่วมงานปาร์ตี้หรือไม่) |

คำตรงข้าม
ภาษาอังกฤษ | ความหมาย | ตัวอย่าง |
---|---|---|
It’s not up to you | ไม่ใช่การตัดสินใจของคุณ | Where should we go on vacation? – It’s not up to you. I’ve already made plans.(วันหยุดเราจะไปเที่ยวไหนกันดี? – ไม่ใช่การตัดสินใจของคุณ ฉันได้วางแผนไว้หมดแล้ว) |
You have no choice | คุณไม่มีทางเลือก | Can I leave early? – No, you have no choice. You have to stay.(ฉันสามารถออกก่อนเวลาได้ไหม? – ไม่ได้ คุณไม่มีทางเลือก คุณต้องอยู่ต่อ) |
I’ve already decided | ฉันตัดสินใจแล้ว | What do you want for dinner? – I’ve already decided. We’re having pizza.(มื้อเย็นคุณอยากกินอะไรดี? – ฉันตัดสินใจแล้ว เราจะกินพิซซ่ากัน) |
It’s mandatory | มันเป็นเรื่องจำเป็น | Can I skip the meeting? – No, it’s mandatory for everyone.(ฉันสามารถข้ามการประชุมได้ไหม? – ไม่ได้ มันเป็นเรื่องจำเป็นที่ทุกคนต้องมีส่วนร่วม) |
It’s out of your hands | มันเกินกว่าที่จะควบคุมได้ | Can we change the schedule? – No, it’s out of our hands. The schedule is fixed.(เราเปลี่ยนตารางงานได้ไหม? – ไม่ได้ มันเกินกว่าที่เราจะควบคุมได้ ตารางงานถูกกำหนดไว้แล้ว) |
You have no say in this | คุณไม่มีสิทธิ์แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ | Can I suggest some changes? – No, you have no say in this. This is my project.(คุณไม่มีสิทธิ์แสดงความคิดเห็นนี่คือโครงการของฉัน) |
It’s already been decided | เรื่องนั้นตัดสินใจไปแล้ว | Can we vote on it? – No need. It’s already been decided.(เราจะโหวตได้ไหม? – ไม่จำเป็นเลย เรื่องนั้นตัดสินใจไปแล้ว) |
That’s not your call | การตัดสินใจไม่ได้ขึ้นอยู่กับคุณ | Should we cancel the event? – That’s not your call. The manager will decide.(เราควรยกเลิกกิจกรรมนี้ไหม? – การตัดสินใจไม่ได้ขึ้นอยู่กับคุณ ผู้จัดการจะเป็นผู้ตัดสินใจ) |
It’s beyond your control | มันอยู่นอกเหนือการควบคุมของคุณ | Can I stop it from happening? – No, it’s beyond your control.(ฉันจะหยุดเพื่อไม่ให้มันเกิดขึ้นได้ไหม? – ไม่หรอก มันอยู่นอกเหนือการควบคุมของคุณ) |
แบบฝึกหัด
แบบฝึกหัด: แปลประโยคต่อไปนี้เป็นภาษาอังกฤษโดยใช้โครงสร้าง Up to you:
- เราจะไปเที่ยวทะเลหรืออยู่บ้านก็ได้ แล้วแต่คุณ
- การตัดสินใจเป็นของคุณไม่ว่าเราจะไปตอนนี้หรือทีหลัง
- ฉันไม่รู้ว่าคุณอยากทำอะไร แล้วแต่คุณ
- คืนนี้เราจะออกไปเที่ยวหรืออยู่บ้านก็แล้วแต่คุณ
- ขั้นตอนต่อไปขึ้นอยู่กับคุณ
เฉลย:
- We can either go to the beach or stay home, it’s up to you.
- The decision is up to you whether we go now or later.
- I don’t know what you want to do, it’s up to you.
- It’s up to you whether we go out tonight or stay home.
- The next step is up to you.
คำถามที่พบบ่อย
ความแตกต่างระหว่าง Up to you กับ Down to you คืออะไร?
วลี | ความหมาย | วิธีการใช้ | ตัวอย่าง |
---|---|---|---|
It’s up to you | การตัดสินใจหรือการเลือกขึ้นอยู่กับคุณ | ใช้เมื่อใครคนหนึ่งมีสิทธิ์เลือก แสดงถึงการเสริมอำนาจหรือความเคารพต่อการตัดสินใจของบุคคลอื่น | It’s up to you to choose the movie we watch tonight. (ขึ้นอยู่กับคุณที่จะเลือกภาพยนตร์ที่เราจะดูคืนนี้) |
It’s down to you | ความรับผิดชอบเป็นของคุณ (ผู้กระทำหรือรับผิดชอบต่อผลลัพธ์) | ใช้เมื่อใครคนหนึ่งมีความรับผิดชอบในบางสิ่งบางอย่าง โดยมักจะมีความหมายว่าความรับผิดชอบที่หนักกว่า | It’s down to you to finish the report by Friday. (คุณมีหน้าที่รับผิดชอบในการจัดทำรายงานให้เสร็จภายในวันศุกร์) |
It’s up to you แปลว่า
It’s up to you แปลว่า มันขึ้นอยู่กับคุณ หรือ การตัดสินใจเป็นของคุณ ประโยคนี้ใช้เพื่อบอกว่าผู้ฟังมีสิทธิที่จะตัดสินใจหรือเลือกสิ่งใดสิ่งหนึ่ง และผู้พูดไม่ได้ให้ความเห็นหรือแทรกแซง
ตัวอย่าง:
A: Should we go out for dinner or stay home? (เราควรออกไปทานอาหารเย็นข้างนอกหรืออยู่บ้าน?)
B: It’s up to you. (แล้วแต่คุณ)
Up to me แปลว่า
Up to me แปลว่า แล้วแต่ฉัน หรือ การตัดสินใจเป็นของฉัน ประโยคนี้ใช้เพื่อบอกว่าผู้พูดมีสิทธิ์ที่จะตัดสินใจหรือรับผิดชอบบางสิ่งบางอย่าง
ตัวอย่าง:
A: Where should we go for our vacation? (วันหยุดเราจะไปเที่ยวไหนกันดี?)
B: Well, if it’s up to me, I’d choose the beach. (ถ้าให้ฉันตัดสินใจ ฉันคงเลือกทะเล)
Up to แปลว่า
Up to แปลว่า ขึ้นอยู่กับ โดย หรือ ถึงระดับหนึ่ง ขึ้นอยู่กับบริบทการใช้งาน นี่เป็นวลีที่ใช้กันทั่วไปในภาษาอังกฤษและอาจมีความหมายที่แตกต่างกันมากมาย
ความหมาย | ตัวอย่าง |
---|---|
ขึ้นอยู่กับ (การตัดสินใจหรือความรับผิดชอบ) | It’s up to you to decide what we should do next. (ขึ้นอยู่กับคุณที่จะตัดสินใจว่าเราควรทำอย่างไรต่อไป) |
ถึงระดับหนึ่ง(เฉพาะระดับ ขีดจำกัด) | The water level is up to my knees. (ระดับน้ำสูงถึงหัวเข่าเลย) |
สำหรับ (มักใช้สำหรับอายุ) | This movie is suitable for kids up to 10 years old. (ภาพยนตร์เรื่องนี้เหมาะสำหรับเด็กอายุไม่เกิน 10 ปี) |
การทำอะไรสักอย่าง (ด้วย “up to something”) | What are you up to this weekend? (สุดสัปดาห์นี้คุณจะทำอะไร?) |
Up to you ตัวย่อ
Up to you ไม่มีตัวย่ออย่างเป็นทางการในภาษาอังกฤษ แต่ในการสื่อสารที่ไม่เป็นทางการ ผู้คนบางครั้งอาจย่อเป็น UTU ในข้อความหรือการแชทออนไลน์ อย่างไรก็ตาม ตัวย่อนี้ไม่ได้ใช้บ่อยอย่างแพร่หลายในการเขียนอย่างเป็นทางการ
ตัวอย่าง:
It’s UTU whether we go to the movies or stay home. (แล้วแต่คุณที่จะตัดสินใจว่าเราจะไปดูหนังหรืออยู่บ้าน)
UP TO YOU เป็นคำหยาบคายไหม?
Up to you ไม่ใช่คำหยาบคาย นี่เป็นวลีที่เป็นกลางและมักใช้เพื่อระบุว่าบุคคลอื่นมีสิทธิ์ในการตัดสินใจหรือเลือกโดยไม่ต้องถูกกดดันจากผู้พูด วลีนี้ไม่ได้หมายความว่าก้าวร้าวหรือหยาบคายไม่ว่าในกรณีใด ๆ
ความหมายของ UP TO YOU คืออะไร?
Up to you ในภาษาอังกฤษมีความหมายว่า แล้วแต่คุณ หรือ การตัดสินใจเป็นของคุณ วลีนี้ใช้เพื่อให้บุคคลอื่นตัดสินใจหรือเลือกโดยไม่มีการรบกวนหรือข้อมูลจากผู้พูด มีความเป็นกลางและไม่ทำให้เกิดแรงกดดัน
ตัวอย่าง:
What should we do for dinner tonight? It’s up to you.
(เย็นนี้เราจะทำอะไรกินดี? แล้วแต่คุณ)

หวังว่าบทความนี้ คุณจะได้เรียนรู้วิธีการใช้ Up to you แบบสุภาพและยืดหยุ่นมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการสื่อสารในชีวิตประจำวันหรือในสภาพแวดล้อมการทำงานแบบมืออาชีพ การเลือกวิธีการพูดที่ถูกต้องจะช่วยให้คุณแสดงถึงกิริยาอ่อนน้อมและความเคารพต่อผู้อื่น อย่าลืมฝึกฝนกับ ELSA Speak เพื่อใช้ประโยคเหล่านี้อย่างมั่นใจเหมือนเจ้าของภาษา! โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้วยแพ็คเกจ ELSA Pro คุณจะได้สัมผัสกับฟีเจอร์ขั้นสูงที่ช่วยพัฒนาทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษของคุณได้อย่างรวดเร็ว
คุณสงสัยไหมว่า ในภาษาอังกฤษ I see แปลว่าอะไรและ I see ใช้ยังไง? จากการแสดงให้เห็นถึงความเห็นออกเห็นใจ การยอมรับถึงวิธีสารภาพอย่างน่าสนใจ และการตระหนักรู้อย่างลึกเรามาเรียนรู้สถานการณ์ที่น่าประหลาดใจของ I see ในภาษาอังกฤษกับ ELSA Speak ทันทีตอนนี้เลย
I see แปลว่าอะไร ในภาษาอังกฤษ?

>>> Read more: 62 คำศัพท์ภาษาอังกฤษเพื่อแสดงอารมณ์
- I see แปลว่า เข้าใจ
เมื่อคุณฟังคนอื่นอธิบายบางสิ่งบางอย่างและคุณอยากแสดงให้เขารู้ว่าคุณเข้าใจแล้ว คุณสามารถใช้ I see เพื่อแสดงว่าคุณเข้าใจ
ตัวอย่าง:
A: You need to submit the report by Friday, otherwise, you’ll be penalized.
(A: คุณต้องส่งรายงานก่อนวันศุกร์นี้ ไม่เช่นนั้นคุณจะถูกลงโทษ)
B: I see. I’ll make sure to finish it on time.
(B: ผมเข้าใจแล้ว ผมรับรองว่าจะเสร็จตามเวลาที่กำหนดครับ)
- I see สามารถแปลว่า ฉัน/ผมเห็น (ตามความหมายตรง)
เมื่อพูดถึง I see ตามความหมายตรง จะเป็นการใช้ในเวลาที่คุณมองเห็นหรือสังเกตสิ่งใดสิ่งหนึ่ง
ตัวอย่าง:
I see a cat sitting on the roof. (ฉันเห็นแมวตัวหนึ่งนั่งอยู่บนหลังคา)
I see a beautiful painting on the wall. (ฉันเห็นภาพสวยๆ อยู่บนผนัง)
I see ใช้ยังไงในทุกสถานการณ์
I see เมื่อคุณอยากแสดงความเข้าใจทางความรู้สึกหรือสถานการณ์
สถานการณ์ | ตัวอย่าง |
---|---|
แสดงถึงความเห็นออกเห็นใจเมื่อใครสักคนแบ่งปันความรู้สึกของเขา | A: I’ve been feeling so overwhelmed with work lately. (ช่วงนี้ฉันรู้สึกเหนื่อยมากกับงาน) B: I see. That sounds really stressful. (ฉันเข้าใจ ดูเครียดจริงๆ) |
แสดงถึงความเข้าใจเกี่ยวกับสถานการณ์ที่ยากลำบาก | A: My family has been going through a tough time. (ครอบครัวของฉันกำลังเผชิญกับช่วงเวลาที่ยากลำบาก) B: I see. I’m really sorry you’re dealing with that. (ฉันเข้าใจ ฉันรู้สึกเสียใจที่คุณต้องเผชิญกับสิ่งนั้น) |
แสดงถึงความเห็นออกเห็นใจด้วยความผิดหวัง | A: I tried everything, but I still couldn’t get the job. (ฉันลองทุกวีธีแล้ว แต่ยังหางานไม่ได้) B: I see. That must be really disappointing. (ฉันเข้าใจ มันคงทำให้คุณผิดหวังมากใช่ไหม) |
แสดงถึงความเข้าใจเกี่ยวกับความรู้สึกกังวล | A: I’m really nervous about my presentation tomorrow. (ฉันรู้สึกกังวลจริงๆ เกี่ยวกับการนำเสนองานพรุ่งนี้) B: I see. I’m sure you’ll do great, though. (ฉันเข้าใจ แต่ฉันเชื่อว่าคุณจะทำได้ดีอย่างแน่นอน) |
I see ในสถานการณ์ค้นพบหรือรู้ตัวสิ่งอะไรบางอย่าง
สถานการณ์ | ตัวอย่าง |
---|---|
สถานการณ์ | ตัวอย่าง |
ค้นพบความจริงใหม่ | A: So, the reason she didn’t come to the party is because she had a family emergency. (ดังนั้นเหตุผลที่เขาไม่มางานก็เพราะว่ามีปัญหาครอบครัว) B: I see. That makes sense now. (ฉันเข้าใจแล้ว ตอนนี้ก็สมเหตุสมผลแล้ว) |
รู้ตัวอะไรบางอย่างในการพูดคุย | A: I was confused because the instructions were unclear, but now I see what I was supposed to do. (ฉันสับสนมากเพราะแนะนำอย่างไม่เข้าใจ แต่ตอนนี้ฉันเข้าใจแล้วว่าฉันต้องทำอะไร) B: Yeah, I had the same problem at first. (ใช่ ตอนแรกฉันก็เคยเจอกับปัญหานี้เหมือนกัน) |
ตระหนักถึงความเชื่อมโยงระหว่างองค์ประกอบบางอย่าง | A: This piece of evidence ties everything together. (หลักฐานนี้เชื่อมโยงทุกอย่างเข้าด้วยกัน) B: Ah, I see now. That changes everything. (อ๋อ ฉันเข้าใจแล้ว สิ่งนั้นเปลี่ยนแปลงทุกอย่างเลย) |
ตระหนักรู้บางสิ่งหลังจากที่มีการอธิบาย | A: The reason the project is delayed is because of supply chain issues. (สาเหตุที่โครงการล่าช้าเป็นเพราะว่าปัญหาในห่วงโซ่อุปทาน) B: I see. That explains a lot. (ฉันเข้าใจแล้ว สิ่งนั้นอธิบายได้หลายอย่าง) |
ค้นพบวิธีแก้ปัญหาหรือแนวทางใหม่ | A: You could just work from home instead of coming to the office every day. (คุณสามารถทำงานที่บ้านแทนที่จะมาออฟฟิศทุกวัน) B: I see. That would save me a lot of time! (ฉันเข้าใจแล้ว สิ่งนั้นจะช่วยฉันประหยัดเวลา) |
I see ในการสื่อสารประจำวัน
สถานการณ์ | ตัวอย่าง |
---|---|
แสดงความใส่ใจและความเข้าใจ | A: I’ve been really busy with work lately. (ช่วงนี้ฉันยุ่งกับงานมาก) B: I see. That sounds exhausting. (ฉันเข้าใจ ฟังดูเหมือนจะเหนื่อยนะ) |
แสดงความเห็นอกเห็นใจหรือความเข้าใจในความรู้สึก | A: I’m so frustrated with this project. It’s just not going the way I want. (ผมผิดหวังมากเกี่ยวกับโครงการนี้ มันไม่ไปตามทางที่ผมต้องการ) B: I see. That must be really frustrating. (ฉันเข้าใจ สิ่งนั้นน่าจะรู้สึกไม่ดีแน่) |
แสดงการรับรู้หรือค้นพบสิ่งใหม่ | A: The reason she didn’t come to the party is because she had a family emergency. (ดังนั้นเหตุผลที่เขาไม่มางานก็เพราะว่ามีปัญหาครอบครัว) B: I see. That makes sense now. (ฉันเข้าใจแล้ว ตอนนี้ก็สมเหตุสมผลแล้ว) |
แสดงถึงความเห็นด้วยหรือความเห็นออกเห็นใจเมื่อคนอื่นพบปัญหา | A: My car broke down on the way to work this morning. (รถผมเสียขณะที่ไปทำงานเมื่อเช้า) B: I see. That must have been a real hassle. (ฉันเข้าใจ สิ่งนั้นน่ารำคานจริงๆ) |
แสดงความเข้าใจในการพูดคุย | A: I can’t make it to the meeting because I have another appointment. (ผมไม่สามารถเข้าร่วมงานประชุมได้เพราะผมมีประชุมอื่น) B: I see. No problem, we’ll catch up later. (ฉันเข้าใจ ไม่เป็นไร เราจะเจอกันที่หลัง) |
I see สำนวน

>>> Read more: Passive Voice: สูตร ตัวแปร และการใช้งานที่แม่นยำที่สุด (พร้อมแบบฝึกหัด)
ภาษาอังกฤษ | แปล | ตัวอย่าง |
---|---|---|
I see the writing on the wall | รู้ถึงสัญญาณเตือน รู้เกี่ยวกับสิ่งไม่ดีที่จะเกิดขึ้น | A: The company’s profits are declining every year.(A: กำไรของบริษัทกำลังลดลงทุกปี) B: Yes, I see the writing on the wall. It looks like layoffs are coming.(B: ค่ะ ฉันเห็นสัญญาณเตือนแล้วค่ะ ดูเหมือนว่าจะมีการลดพนักงาน) |
I see eye to eye | เห็นด้วยทั้งหมด มี่แนวคิดเดียวกัน | A: Do you think we should move the meeting to next week?(A: คุณคิดว่าเราควรเปลี่ยนประชุมเป็นสัปดาห์หน้าไหม) B: Yes, I see eye to eye with you on that.(B: ค่ะ ฉันก็คิดแบบนั้นค่ะ) |
I see the light | รู้ถึงความจริง เข้าใจปัญหาหลังจากที่สับสนหรือยากลำบาก | A: I was struggling to understand the math problem, but now I see the light.(A: ฉันต้องทำทุกอย่างเพื่อเข้าใจโจทย์คณิตศาสตร์ แต่ตอนนี้ฉันเข้าใจแล้ว) B: Great! I’m glad it makes sense now.(B: ดีมาก! ฉันดีใจนะที่คุณเข้าใจได้) |
I see what you did there | ฉันเข้าใจคุณ ค้นพบกับสิ่งที่คุณกำลังทำ (มักจะใช้เมื่อใครสักคนทำอะไรบางอย่างอย่างฉลาดหรือตลก) | A: I made a joke about your favorite food.(A: ผมล้อเล่นเกี่ยวกับอาหารจานโปรดของคุณ) B: Haha, I see what you did there! You’re trying to tease me!(B: ฮ้าฮ้า ฉันเข้าใจแล้ว คุณตั้งใจแซวฉันใช่ไหม?) |
I see through you | มองเห็นและรู้ถึงความจริงหรือลักษณะพื้นฐานของใครสักคน | A: He’s pretending to be nice, but I don’t trust him.(A: เขาทำเหมือนเป็นมิตร แต่ฉันไม่เชื่อเขา) B: I see through him. I think he has an agenda.(B: ฉันมองเห็นถึงตัวตนของเขา ฉันคิดว่าเขามีจุดประสงค์ของเขา) |
I see และการแสดงที่คล้ายเคียงกัน

ภาษาอังกฤษ | แปล | ตัวอย่าง |
---|---|---|
I see | ฉันเข้าใจ เข้าใจแล้ว | A: I don’t understand why she’s upset. B: Oh, I see now. Thank you for explaining. (A: ผมไม่เข้าใจทำไมเขาถึงเสียใจขนาดนี้ B: อ๋อ แบบนั้นเอง ขอบคุณที่อธิบายนะ) |
Got it | เข้าใจแล้ว | A: Please submit your application no later than June 20. B: Got it. (A: คุณต้องส่งใบสมัครให้เสร็จภายในวันที่ 20 มิถุนายน B: ฉันเข้าใจแล้ว) |
Ok/Alright/Sure | ได้สิ เข้าใจแน่นอน | A: Do you understand this situation? B: Sure! (A:คุณเข้าใจสถานการณ์นี้หรือยัง? B: เข้าใจแน่นอน!) |
Ok, I get it now | ได้ค่ะ ฉันเข้าใจแล้ว | A: And that’s how you solve this equation. B: Ok, I get it now. Thank you, teacher. (A: และนี่คือวิธีที่คุณแก้สมการนี้ B: โอเค ตอนนี้ฉันเข้าใจแล้ว ขอบคุณอาจารย์ค่ะ) |
I understand | ได้ค่ะ ฉันเข้าใจแล้ว | A: This project needs to be finished by Friday. B: I understand. I’ll get it done. (A: โครงการนี้ต้องเสร็จก่อนวันศุกร์ B: ฉันเข้าใจแล้ว ฉันจะทำให้เสร็จค่ะ) |
I comprehend | ได้ ฉันเข้าใจแล้ว | A: I don’t fully comprehend what you’re trying to say. B: Let me explain again. (A: ฉันไม่เข้าใจสิ่งที่คุณพยายามพูด B: งั้นให้ฉันอธิบายอีกครั้ง) |
I grasp it | ได้ ฉันเข้าใจแล้ว | I grasp it. So, you’re saying that we need to finish this project by tomorrow.(ฉันเข้าใจแล้ว งั้นคุณหมายความว่าเราต้องทำโครงการนี้ให้เสร็จภายในวันพรุ่งนี้ใช่ไหม) |
That’s clear, thank you | ชัดเจนแล้ว ขอบคุณค่ะ | A: Can you explain the concept of gravity? B: Sure. Gravity is the force that pulls objects towards each other. A: That’s clear, thank you. (A: คุณสามารถอธิบายเกี่ยวกับเรื่องแรงโน้มถ่วงได้ไหม? B: ได้ค่ะ แรงโน้มถ่วงคือแรงที่ดึงวัตถุเข้าหากัน A: เข้าใจแล้ว ขอบคุณมากค่ะ) |
Fair enough | สิ่งนั้นเหมาะสมมาก ฉันเห็นด้วย | A: I think we should go to the movies tonight. B: Fair enough. Let’s do that. (A: ฉันคิดว่าคืนนี้เราควรไปดูหนัง B: ก็ได้ งั้นคืนนี้ไปดูหนังด้วยกัน) |
I see where you’re coming from | ฉันเข้าใจสาเหตุที่คุณทำแบบนั้น | I don’t agree with your decision, but I see where you’re coming from.(ฉันไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจของคุณ แต่ฉันพอเข้าใจทำไมคุณคิดแบบนั้น) |
Let me see if I understand correctly | ให้ฉันดูว่าฉันเข้าใจถูกไหม | A: I think we should go to the beach this weekend. B: Let me see if I understand correctly. You’re suggesting we go to the beach this weekend instead of staying home? (A: ฉันคิดว่าเราควรไปทะเลในสุดสัปดาห์นี้ B: ให้ฉันพิจารณาว่าฉันคิดถูกหรือไม่ เพราะคุณเสนอว่าให้เราไปเที่ยวทะเลในสุดสัปดาห์แทนที่จะอยู่บ้าน?) |
I take your point | ฉันเข้าใจคุณ | A: Perhaps we should delay the project until we have more resources. B: I take your point. That might be a wise decision. (A: เราควรหยุดทำโครงการนี้ก่อนรอจนถึงมีพนักงานเพิ่ม B: ฉันเข้าใจคุณ มันเป็นการตัดสินที่ดี) |
That makes sense | สิ่งนั้นสมเหตุสมผลมาก ฉันเข้าใจ | A: I think we should cancel the meeting. B: That makes sense, it’s too late to meet everyone now. (A: ผมคิดว่าเราควรยกเลิกการประชุม B: ใช่ค่ะ มันสายไป สำหรับการประชุมแล้ว) |
Of course/Absolutely | แน่นอนค่ะ/ครับ | A: Everything is clear, right? B: Of course! (A: ทุกอย่างชัดเจนแล้วใช่ไหม? B: แน่นอน!) |
I hear what you’re saying, but | ฉันเข้าใจสิ่งที่คุณพูด แต่… | I hear what you’re saying, but I think we should consider other options before making a decision.(ฉันเข้าใจคุณ แต่ฉันคิดว่าเราควรพิจารณาความเลือกอื่นด้วยก่อนที่ตัดสินใจ) |
I appreciate why you think that, but | ฉันเข้าใจทำไมคุณคิดแบบนั้น แต่… | I appreciate why you think that, but I really enjoyed the unique storyline.(ฉันเข้าใจทำไมคุณคิดแบบนั้น แต่ฉันชอบเค้าโครงนั้นจริงๆ) |
So, are you saying that…? | งั้นความคิดของคุณคือ…? | So, are you saying that you want to go camping this weekend?(งั้นคุณอยากให้เราไปตั้งแคมป์ในสุดสัปดาห์นี้ไช่ไหม?) |
If I understand you correctly | ถ้าฉันเข้าใจถูกความคิดของคุณ งั้น… | If I understand you correctly, you want me to finish this report by Friday?(ถ้าไม่ผิด คุณอยากให้ฉันทำรายงานนี้เสร็จก่อนวันศุกร์ใช่ไหม?) |
That’s totally fair | มันสมเหตุสมผลมาก | A: I think we should cancel the trip because of the weather. B: That’s totally fair. The forecast looks pretty bad. (A: ฉันคิดว่าเราควรยกเลิกการเดินทางนี้เพราะอากาศ B: ถูกต้อง การพยากรณ์อากาศดูไม่ดีเท่าไร) |
I don’t blame you | ฉันไม่โกรธคุณ | A: I was so angry when I lost my phone. B: I don’t blame you. That’s really frustrating. (A: ฉันโกรธตัวเองมาก เพราะทำโทรศัพท์หายไป B: ไม่เป็นไร สิ่งนั้นน่าจะทำให้คุณรู้สึกไม่สบายใจ) |
I know what you mean | ฉันเข้าใจคุณ ฉันเห็นออกเห็นใจกับคุณ | A: This project is so stressful. I feel like I’m drowning. B: I know what you mean. I’ve been there before. (A: โครงการนี้ทำให้ฉันเครียดมาก ฉันรู้สึกเหมือนที่ฉันจมในงานนี้ B: ฉันเข้าใจเพราะฉันเคยสัมผัสกับเรื่องนี้แล้ว) |
I would feel the same | ฉันก็รู้สึกแบบนั้น | A: I’m so sorry to hear that. B: I would feel the same if I were in your shoes. (A: ขอแสดงความเสียใจด้วยค่ะเมื่อได้ฟังข่าวนั้น B: ฉันก็รู้สึกแบบนั้นถ้าอยู่ในสถานการณ์ของคุณ) |
It’s clear to me | ฉันเข้าใจสิ่งนั้น | After listening to both sides of the argument, it’s clear to me that we need to find a compromise.(ในการโต้ะเถียงนั้น หลังจากที่ฟังทั้งสองฝ่าย ฉันเห็นว่าเราควรหาวิธีประนีประนอมที่เหมาะสม) |
I see กับ I know ต่างกันอย่างไร?

>>> Read more: บทกวีเกี่ยวกับการใช้ “IN” “ON” “AT” ช่วยให้คุณแยกแยะได้ง่า
คำ | ความหมายหลัก | ตัวอย่าง |
---|---|---|
I see | แสดงถึงความรู้หรือตระหนักรู้เกี่ยวกับบางสิ่งบางอย่างที่คนอื่นพูด โดยเฉพาะเมื่อคุณรู้ตัวหรือเข้าใจสิ่งนั้น บางทีก็สามารถแสดงความเห็นออกเห็นใจ | A: I feel so tired after this week of work. (ฉันรู้สึกเหนื่อยมากหลังจากที่ทำงานหนึ่งอาทิตย์) B: I see, it sounds exhausting. (ฉันเข้าใจ ดูก็รู้ว่าเหนื่อยจริงๆ นะ) |
I know | ใช้เพื่อแสดงว่าคุณได้มีความรู้ ข้อมูลหรือประสบการณ์เกี่ยวกับปัญหานั้นแล้ว ต่างกับ I see, I know ไม่มีความหมายว่า ตระหนักรู้ แต่มันเป็นการยืนยันความรู้ที่ได้มีก่อนหน้านี้แล้ว | A: Did you know the meeting has been rescheduled? (คูณรู้ไหมว่าการประชุมถูกยกเลิกแล้วนะ?) B: Yes, I know. I saw the email. (ฉันรู้ค่ะ ฉันได้เห็นอีเมลแล้ว) |
คำถามที่พบบ่อย
Okay i see แปลว่าอะไร?
ในภาษาอังกฤษ Okay i see แปลว่า โอเค ฉันเข้าใจแล้ว
Okay, I see why they decided to cancel the event now. It makes sense given the weather forecast.
(โอเค ฉันเข้าใจทำไมเขายกเลิกงาน ตัดสินใจแบบนั้นถูกต้องมาก เมื่อพิจารณาพยากรณ์อากาศ)
Oh i see แปลว่าอะไร?
ในภาษาอังกฤษ Oh i see แปลว่า อ๋อ ฉันเข้าใจแล้ว
Oh, I see now why she was upset.
(อ๋อ ผมเข้าใจแล้วว่าทำไมเขาถึงเศร้า)
Yes i see แปลว่า?
ในภาษาอังกฤษ Yes i see แปลว่า: ค่ะ/ครับ ฉัน/ผม เข้าใจแล้ว
Yes, I see what you’re saying. That makes sense.
(ค่ะ/ครับ ฉัน/ผม เข้าใจแล้ว ทุกอย่างที่คุณบอกมันสมเหตุสมผลมาก)
I see ใช้เมื่อไร?
I see เป็นคำหนึ่งที่ทุกคนใช้เยอะในภาษาอังกฤษและสามารถใช้ในหลายสถานการณ์ที่แตกต่างกัน ด้านล่างนี้คือวิธีที่คุณสามารถใช้ I see:
วิธีใช้ | ตัวอย่าง |
---|---|
แสดงถึงความรู้ | I see, that makes sense. (ฉันเข้าใจแล้ว มันเหมาะสมมาก) |
ได้รู้ข้อมูลใหม่ | Oh, I see. I hope he gets better soon. (อ๋อ เข้าใจแล้ว หวังว่าเขาจะหายไวๆ) |
เห็นออกเห็นใจกับคนพูด | I see. That sounds really tough. (ฉันเข้าใจ ฟังเหมือนว่าจะยากมาก) |
ตระหนักรู้สิ่งอะไรที่ใหม่ๆ | Oh, I see. Thanks for clearing that up! (อ๋อ ฉันเข้าใจแล้ว ขอบคุณที่ทำให้มันชัดเจน) |
I got it กับi I see ต่างกันอย่างไร
คำ | ความแตกต่าง | ตัวอย่างและแปล |
---|---|---|
I got it | I got it แสดงถึงความรู้ความเข้าใจและให้คำสัญญาเมื่อลงมือทำหรือปฏิบัติสิ่งใดสิ่งหนึ่ง มักใช้ในสถานการณ์การกระทำที่เฉพาะเจาะจง | I got it, I’ll take care of it right away. (ฉันเข้าใจแล้ว ฉันจะจัดการเรื่องนี้ให้ดีตอนนี้เลย) |
I see | I see แสดงถึงความรู้ความเข้าใจข้อมูลหรือตระหนักรู้สิ่งใดสิ่งหนึ่งแต่ไม่จำเป็นต้องลงมือทำทันที | Oh, I see. That explains everything. (อ๋อ ฉันเข้าใจแล้ว สิ่งนั้นอธิบายให้ทุกอย่าง) |
I got it ใช้เมื่อไร?
วิธีใช้ | ตัวอย่าง |
---|---|
วิธีใช้ | ตัวอย่าง |
เข้าใจและพร้อมที่จะทำ | I got it, I’ll do it right now. (ฉันเข้าใจแล้ว ฉันจะทำตอนนี้เลย) |
เข้าใจข้อกำหนดหรือหน้าที่ | I got it, you don’t need to remind me. (ฉันเข้าใจแล้ว คุณไม่ต้องพูดอีกค่ะ) |
เข้าใจแน่นอน | I got it, don’t worry. (อย่ากังวลเพราะฉันเข้าใจแล้ว) |
แสดงถึงการรับรู้ข้อมูล | Thanks for explaining, I got it. (ขอบคุณที่อธิบายให้ฟังนะ ฉันเข้าใจแล้ว) |
I see you แปลว่าอะไร?
วิธีใช้ | อธิบาย | ตัวอย่าง |
---|---|---|
แสดงให้เห็นถึงความรับรู้หรือสังเกต | ใช้เมื่อคุณเห็นใครสักคนหรือเข้าใจง่ายก็คือคุณมองเห็นเขา | I see you! (ฉันเห็นคุณแล้ว!) |
แสดงให้เห็นถึงความเข้าใจหรือตระหนักรู้อย่างลึก | ใช้เพื่อแสดงความเห็นออกเห็นใจ เกี่ยวกับความรู้สึกหรือสถานการณ์ของคนอื่น | I see you. I know how you feel. (ฉันเข้าใจแล้วว่าคุณรู้สึกยังไง) |
ใช้ในสถานการณ์แบบล้อเล่น/ใกล้ชิด | แสดงถึงความชื่นชมหรือหยอกล้อเมื่อใครทำบางอย่างได้ประทับใจหรือน่าสนใจ | Oh, I see you! Look at those moves! (โอ้เห็นนะ ท่าเต้นนี้ไม่ธรรมดาเลย) |
ในวัฒนธรรมหรือภาพยนตร์ | ได้ใช้เพื่อแสดงให้เห็นถึงความผูกพันธ์ทางจิตใจหรือความตระหนักรู้เกี่ยวกับคนอื่น | I see you (ประโยคนี้อยู่ใน Avatar, ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเชื่อมโยงระหว่างตัวละคร) |
ดังนั้น ELSA Speak ช่วยให้คุณรู้ว่า I see เป็นคำที่มีความยืดยุ่นในภาษาอังกฤษ สามารถแสดงให้เห็นความรู้ ความเข้าใจ ความเห็นออกเห็นใจและฉีดสีอื่นๆ อีกมากมาย การเข้าใจสถานการณ์การใช้จะช่วยคุณสื่อสารอย่างธรรมชาติและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ลองใช้ I see ในสถานการณ์ประจำวันเพื่อพัฒนาทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษของคุณ โดยเฉพาะ ด้วยแพ็กเกจ ELSA Pro คุณจะได้สัมผัสกับคุณสมบัติขั้นสูงช่วยปรับปรุงทักษะภาษาอังกฤษอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
การสื่อสารภาษาอังกฤษในสภาพแวดล้อมทางการแพทย์เป็นทักษะหนึ่งที่สำคัญมาก โดยเฉพาะเมื่อคุณต้องไปตรวจสุขภาพอยู่ที่โรงพยาบาลหรือคลินิกนานาชาติ เพราะบางคนรู้สึกลำบากใจเมื่อต้องใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสาร บทความด้านล่างนี้ของ ELSA Speak จะพาคุณมาทำความรู้จักกับคำศัพท์และตัวอย่างประโยคพื้นฐานเกี่ยวกับโรคหรือการติดตามสุขภาพ ภาษาอังกฤษว่าอย่างไรเพื่อให้มั่นใจมากขึ้นในการสื่อสาร มาเรียนรู้วลีและวิธีพูดที่ควรใช้เมื่อสื่อสารเกี่ยวกับหัวข้อตรวจสุขภาพ ภาษาอังกฤษกันนะ
ตรวจสุขภาพ ภาษาอังกฤษคืออะไร
ในการสื่อสารและเอกสารทางการแพทย์ภาษาอังกฤษ มีบางคำที่สามารถใช้ได้อย่างทั่วไปเพื่อตรวจสุขภาพ
แต่ละคำจะมีความหมายคล้ายๆ กัน แต่บริบทการใช้และความเป็นทางการอาจจะแตกต่างกัน
ถอดเสียง | แปล | ตัวอย่าง | |
---|---|---|---|
คำศัพท์ | ถอดเสียง | แปล | ตัวอย่าง |
Health check-up | /helθ ˈʧek.ʌp/ | การตรวจสุขภาพ | I need to schedule a health check-up this week. (ฉันต้องการนัดตรวจสุขภาพภายในสัปดาห์นี้) |
Medical check-up | /ˈmed.ɪ.kəl ˈʧek.ʌp/ | การตรวจสุขภาพทางการแพทย์ | She had a medical check-up before starting the new job. (เขาตรวจสุขภาพเรียบร้อยแล้วก่อนที่เริ่มทำงานใหม่) |
General health check | /ˈʤen.ər.əl helθ ʧek/ | การตรวจสุขภาพทั่วไป | A general health check is recommended once a year. (แนะนำให้ตรวจสุขภาพทั่วไปปีละครั้ง) |
Periodic health examination | /ˌpɪə.riˈɒd.ɪk helθ ˌeg.zæm.ɪˈneɪ.ʃən/ | การตรวจสุขภาพประจำปี | Due to the pandemic, periodic health examinations have become more important than ever. (เนื่องจากการแพร่ระบาดครั้งใหญ่การตรวจสุขภาพประจำปีจึงมีความสำคัญมากกว่าที่เคย) |

>>> Read more: รวมแคปชั่นออกกําลังกายภาษาอังกฤษสั้น ๆ ตลก ๆ และประทับใจมากที่สุด
คำศัพท์ทั่วไปที่ใช้สื่อสารเมื่อตรวจสุขภาพด้วยภาษาอังกฤษ
เมื่อคุณไปโรงพยาบาลหรือคลินิก การที่คุณเข้าใจคำศัพท์ภาษาอังกฤษทางการแพทย์จะช่วยให้คุณสื่อสารได้ดี ประหยัดเวลาและป้องกันการเข้าใจผิด ด้านล่างนี้คือรายการคำศัพท์ที่ได้ใช้บ่อยในสภาพแวดล้อมการตรวจสุขภาพและการรักษาทางการแพทย์ เหมาะกับสถานการณ์จริงมากมาย
คำศัพท์เกี่ยวกับแผนกหรือห้องตรวจในโรงพยาบาล
ด้านล่างนี้เป็นคำศัพท์ที่ใช้ในการอธิบายประเภทของโรงพยาบาล พื้นที่การรักษาและบริการทางการแพทย์ที่พบบ่อย
คำศัพท์ | ถอดเสียง | แปล | ตัวอย่าง |
---|---|---|---|
Hospital | /ˈhɒs.pɪ.təl/ | โรงพยาบาล | She was taken to the hospital after the accident. (เธอถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลหลังเกิดอุบัติเหตุ) |
Clinic | /ˈklɪn.ɪk/ | คลินิก | I’m going to the clinic for a check-up. (ผมจะไปคลินิกเพื่อตรวจสุขภาพ) |
General hospital | /ˈʤen.rəl ˈhɒs.pɪ.təl/ | โรงพยาบาลทั่วไป | He works at the general hospital downtown. (เขาทำงานที่โรงพยาบาลทั่วไปในตัวเมือง) |
Private hospital | /ˈpraɪ.vət ˈhɒs.pɪ.təl/ | โรงพยาบาลเอกชน | They chose a private hospital for better service. (พวกเขาเลือกโรงพยาบาลเอกชนเพราะมีบริการที่ดีกว่า) |
Public hospital | /ˈpʌb.lɪk ˈhɒs.pɪ.təl/ | โรงพยาบาลของรัฐ | Public hospitals are often more crowded. (โรงพยาบาลของรัฐมักจะมีผู้คนพลุกพล่านมากกว่า) |
Emergency room (ER) | /ɪˈmɜː.dʒən.si ruːm/ | ห้องฉุกเฉิน | He was rushed to the emergency room. (เขาถูกพาส่งห้องฉุกเฉินอย่างเร่งด่วน) |
Operating room (OR) | /ˈɒp.ər.eɪ.tɪŋ ruːm/ | ห้องผ่าตัด | The patient is being prepared in the operating room. (ผู้ป่วยกำลังเตรียมตัวในห้องผ่าตัด) |
Intensive Care Unit (ICU) | /ɪnˈten.sɪv keə ˈjuː.nɪt/ | ห้องผู้ป่วยวิกฤต | She was transferred to the ICU after surgery. (เขาถูกย้ายไปยังห้องผู้ป่วยวิกฤตหลังการผ่าตัด) |
Maternity ward | /məˈtɜː.nə.ti wɔːd/ | แผนกคลอด | The maternity ward is on the third floor. (แผนกคลอดอยู่ที่ชั้นสาม) |
Pediatric hospital | /ˌpiː.diˈæt.rɪk ˈhɒs.pɪ.təl/ | โรงพยาบาลเด็ก | This pediatric hospital specializes in treating children. (โรงพยาบาลเด็กแห่งนี้เชี่ยวชาญในการรักษาเด็ก) |
Rehabilitation center | /ˌriː.həˌbɪ.lɪˈteɪ.ʃən ˈsen.tər/ | ศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพ | He is recovering at a rehabilitation center. (เขากำลังฟื้นตัวอยู่ที่ศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพ) |
Walk-in clinic | /ˈwɔːk.ɪn ˈklɪ.nɪk/ | คลินิกไม่ต้องนัดล่วงหน้า | You can visit a walk-in clinic for minor illnesses. (คุณสามารถไปคลินิกแบบไม่ต้องนัดล่วงหน้าเพื่อรักษาโรคเล็กน้อยได้) |
Outpatient department | /ˈaʊt.peɪ.ʃənt dɪˈpɑːt.mənt/ | แผนกผู้ป่วยนอก | She has a follow-up at the outpatient department. (เขามีนัดติดตามอาการที่แผนกผู้ป่วยนอก) |
Inpatient department | /ˈɪn.peɪ.ʃənt dɪˈpɑːt.mənt/ | แผนกผู้ป่วยใน | He was admitted to the inpatient department. (เขาเข้ารับการรักษาแบบผู้ป่วยใน) |
Burn unit | /bɜːn ˈjuː.nɪt/ | แผนกรักษาผู้ป่วยไฟไหม้ | He was treated in the burn unit. (เขาได้รับการรักษาที่แผนกรักษาผู้ป่วยไฟไหม้) |
Oncology center | /ɒŋˈkɒl.ə.dʒi ˈsen.tər/ | ศูนย์มะเร็งวิทยา | She’s receiving treatment at the oncology center. (เขากำลังรักษาที่ศูนย์มะเร็งวิทยา) |
Trauma center | /ˈtrɔː.mə ˈsen.tər/ | ศูนย์อุบัติเหตุฉุกเฉิน | The trauma center handles serious injuries. (ศูนย์อุบัติเหตุฉุกเฉินดูแลผู้ป่วยบาดเจ็บรุนแรง) |
Mental health clinic | /ˈmen.təl helθ ˈklɪ.nɪk/ | คลินิกสุขภาพจิต | He visited a mental health clinic for anxiety. (เขาไปคลินิกสุขภาพจิตเพราะมีอาการวิตกกังวล) |
Dental clinic | /ˈden.təl ˈklɪ.nɪk/ | คลินิกทำฟัน | I have an appointment at the dental clinic. (ฉันมีนัดที่คลินิกทำฟัน) |
Eye hospital | /aɪ ˈhɒs.pɪ.təl/ | โรงพยาบาลตาหรือโรงพยาบาลจักษุ | She had laser surgery at the eye hospital. (เขาเข้ารับการผ่าตัดด้วยเลเซอร์ที่โรงพยาบาลตา) |
ENT clinic | /iː.enˈtiː ˈklɪ.nɪk/ | คลินิกหู คอ จมูก | He needs to visit an ENT clinic for his throat pain. (เขาจำเป็นต้องไปคลินิกหู จมูก คอ เพราะเขาเจ็บคอ) |
Dermatology clinic | /ˌdɜː.məˈtɒ.lə.dʒi ˈklɪ.nɪk/ | คลินิกผิวหนัง | She consulted a dermatologist at the dermatology clinic. (เธอได้ปรึกษาแพทย์ผิวหนังที่คลินิกผิวหนัง) |
Cardiology department | /ˌkɑː.diˈɒ.lə.dʒi dɪˈpɑːt.mənt/ | แผนกโรคหัวใจ | He is being treated at the cardiology department. (เขากำลังรับการรักษที่แผนกโรคหัวใจ) |
Neurology clinic | /njʊəˈrɒ.lə.dʒi ˈklɪ.nɪk/ | คลินิกประสาทวิทยา | She’s going to the neurology clinic for migraines. (เธอไปคลินิกประสาทวิทยาเพราะปวดไมเกรน) |
Radiology unit | /ˌreɪ.diˈɒ.lə.dʒi ˈjuː.nɪt/ | แผนกรังสีวินิจฉัย/หน่วยเอกซเรย์ | The radiology unit handles X-rays and CT scans. (หน่วยรังสีวิทยาทำหน้าที่ตรวจเอกซเรย์และ CT สแกน) |
Pharmacy | /ˈfɑː.mə.si/ | ร้านขายยา (ในโรงพยาบาล) | Pick up your medicine at the hospital pharmacy. (รับยาของคุณที่ร้านขายยาของโรงพยาบาล) |
Blood test lab | /blʌd test læb/ | ห้องตรวจเลือด | Your blood test will be done in this lab. (การตรวจเลือดของคุณจะดำเนินการในห้องแล็บนี้) |
Waiting area | /ˈweɪ.tɪŋ ˈeə.ri.ə/ | พื้นที่รอ | Please wait in the waiting area until called. (กรุณารอในบริเวณพื้นที่รอจนกว่าจะเรียกชื่อ) |
Reception | /rɪˈsep.ʃən/ | แผนกต้อนรับ/จุดรับบริการ | Check in at the reception when you arrive. (กรุณาลงทะเบียนที่แผนกต้อนรับเมื่อคุณมาถึง) |

คำศัพท์เกี่ยวกับการตรวจสุขภาพด้วยภาษาอังกฤษ
ด้านล่างนี้เป็นคำศัพท์เกี่ยวกับกิจกรรมการตรวจสุขภาพทั่วไปที่คุณสามารถใช้ในการสื่อสารในสภาพแวดล้อมทางการแพทย์
คำศัพท์ | ถอดเสียง | แปล | ตัวอย่าง |
---|---|---|---|
take temperature | /teɪk ˈtɛmpərətʃər/ | วัดอุณหภูมิร่างกาย | The nurse took my temperature. (พยาบาลวัดอุณหภูมิร่างกายให้ฉัน) |
measure blood pressure | /ˈmeʒər blʌd ˈpreʃər/ | วัดความดันโลหิต | The doctor measured my blood pressure. (คุณหมอวัดความดันโลหิตให้ฉัน) |
listen to the heart | /ˈlɪsən tu ðə hɑːt/ | ฟังเสียงหัวใจ | The doctor listened to my heart. (คุณหมอฟังเสียงหัวใจของฉัน) |
check pulse | /ʧek pʌls/ | ตรวจชีพจร | He checked my pulse carefully. (เขาตรวจชีพจรของฉันอย่างระมัดระวัง) |
do an ultrasound | /duː æn ˈʌltrəsaʊnd/ | ทำอัลตราซาวด์ | I had to do an ultrasound. (ฉันต้องทำการอัลตราซาวด์) |
take blood sample | /teɪk blʌd ˈsɑːmpl/ | เจาะเลือด/เก็บตัวอย่างเลือด | They took a blood sample for testing. (พวกเขาเจาะเลือดเพื่อนำไปตรวจ) |
perform surgery | /pəˈfɔːm ˈsɜːdʒəri/ | ทำการผ่าตัด | The surgeon performed the operation. (ศัลยแพทย์ได้ทำการผ่าตัด) |
give injection | /ɡɪv ɪnˈdʒekʃən/ | ฉีดยา | The nurse gave me an injection. (พยาบาลได้ฉีดให้ฉันแล้ว) |
do X-ray | /duː ˈeks.reɪ/ | ถ่ายเอกซเรย์ | I had to do an X-ray on my chest. (ฉันต้องถ่ายเอกซเรย์ทรวงอก) |
do CT scan | /duː ˌsiːˈtiː skæn/ | ทำซีทีสแกน (CT) | He needed a CT scan after the accident. (เขาจำเป็นต้องถ่ายซีทีสแกนหลังอุบัติเหตุ) |
check vision | /ʧek ˈvɪʒən/ | ตรวจสายตา | They checked my vision at the clinic. (เขาตรวจสายตาผมที่คลินิก) |
examine throat | /ɪɡˈzæmɪn θrəʊt/ | ตรวจคอ | The doctor examined my throat. (หมอตรวจคอของฉัน) |
examine ears | /ɪɡˈzæmɪn ɪəz/ | ตรวจหู | He examined my ears for infection. (เขาตรวจหูของฉันว่ามีการติดเชื้อหรือไม่) |
do blood test | /duː blʌd test/ | ตรวจเลือด | I did a blood test last week. (ฉันไปตรวจเลือดเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว) |
take urine sample | /teɪk ˈjʊərɪn ˈsɑːmpl/ | เก็บตัวอย่างปัสสาวะ | The nurse asked for a urine sample. (พยาบาลสั่งว่าต้องเก็บตัวอย่างปัสสาวะ) |
apply bandage | /əˈplaɪ ˈbændɪdʒ/ | พันแผล | The nurse applied a bandage to the wound. (พยาบาลได้พันแผลให้ฉันแล้ว) |
remove stitches | /rɪˈmuːv ˈstɪtʃɪz/ | ตัดไหม | He came back to remove the stitches. (เขากลับมาเพื่อตัดไหม) |
check reflexes | /ʧek ˈriːfleksɪz/ | ตรวจปฏิกิริยาสะท้อน (รีเฟล็กซ์) | The doctor checked my reflexes. (คุณหมอตรวจปฏิกิริยาสะท้อนของผม) |
take height and weight | /teɪk haɪt ənd weɪt/ | วัดส่วนสูงและน้ำหนัก | They took my height and weight. (เขาวัดส่วนสูงและน้ำหนักของฉัน) |
monitor heartbeat | /ˈmɒnɪtər ˈhɑːtbiːt/ | เฝ้าติดตามการเต้นของหัวใจ | The machine monitors your heartbeat. (เครื่องจะตรวจสอบการเต้นของหัวใจของคุณ) |
medical checkup | /ˈmedɪkl ˈtʃek ʌp/ | การตรวจสุขภาพทั่วไป | I have a medical checkup scheduled for next week. (ฉันมีนัดตรวจสุขภาพทั่วไปในสัปดาห์หน้า) |
eye examination | /aɪ ɪɡˌzæmɪˈneɪʃn/ | การตรวจสายตา | An eye examination is important for detecting vision problems early. (การตรวจตาเป็นสิ่งสำคัญในการตรวจพบปัญหาด้านสายตาในระยะเริ่มต้น) |
blood urea nitrogen (BUN) | /biː juː ˈen/ | การตรวจค่าบียูเอ็นในเลือด | The BUN test helps assess kidney function. (การตรวจค่า BUN ช่วยประเมินการทำงานของไตได้) |
chest x-ray | /tʃest ˈeks reɪ/ | การถ่ายเอกซเรย์ทรวงอก | The doctor ordered a chest X-ray to check his lungs. (แพทย์สั่งให้ถ่ายเอกซเรย์ทรวงอกเพื่อตรวจดูปอดของเขา) |
complete blood count (CBC) | /kəmˈpliːt blʌd kaʊnt/ | การตรวจนับเม็ดเลือดสมบูรณ์ | A CBC can help detect a wide range of disorders. (การตรวจนับเม็ดเลือดสมบูรณ์ CBC สามารถช่วยตรวจพบความผิดปกติได้หลากหลายชนิด) |
uric acid test | /ˈjʊərɪk ˈæsɪd test/ | การตรวจกรดยูริก | A uric acid test is often done to check for gout. (การตรวจกรดยูริกมักใช้เพื่อตรวจหาโรคเกาต์) |
bone density test | /bəʊn ˈdensəti test/ | การตรวจความหนาแน่นของกระดูก | She had a bone density test to check for osteoporosis. (เขาเข้ารับการตรวจความหนาแน่นของกระดูกเพื่อตรวจหาโรคกระดูกพรุน) |
fasting blood sugar (FBS) | /ˈfɑːstɪŋ blʌd ˈʃʊɡər/ | การตรวจน้ำตาลในเลือดขณะอดอาหาร | An FBS test measures your blood sugar after an overnight fast. (การตรวจน้ำตาลในเลือดขณะอดอาหาร FBS ใช้วัดระดับน้ำตาลในเลือดหลังจากอดอาหารข้ามคืน) |
electrocardiogram (EKG/ECG) | /ɪˌlektrəʊˈkɑːdiəɡræm/ | การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ | An EKG records the electrical activity of the heart. (เครื่องตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ EKG ใช้บันทึกการทำงานของกระแสไฟฟ้าในหัวใจได้) |
cholesterol | /kəˈlestərɒl/ | คอเลสเตอรอล | High cholesterol levels can increase your risk of heart disease. (ระดับคอเลสเตอรอลสูงสามารถเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ) |
triglyceride | /traɪˈɡlɪsəraɪd/ | ไตรกลีเซอไรด์ | Triglyceride levels are often checked as part of a lipid panel. (ระดับไตรกลีเซอไรด์มักถูกตรวจเป็นส่วนหนึ่งของการตรวจไขมันในเลือด) |
high-density lipoprotein (HDL) | /haɪ ˈdensəti ˌlɪpəʊˈprəʊtiːn/ | คอเลสเตอรอลชนิดดี (cholestero) | HDL cholesterol helps remove other forms of cholesterol from your bloodstream. (คอเลสเตอรอลชนิดดี HDL ช่วยกำจัดคอเลสเตอรอลชนิดอื่นออกจากกระแสเลือด) |
low-density lipoprotein (LDL) | /ləʊ ˈdensəti ˌlɪpəʊˈprəʊtiːn/ | คอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี (cholestero) | High LDL cholesterol can lead to plaque buildup in your arteries. (คอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี LDL สูงอาจทำให้เกิดการสะสมของคราบไขมันในหลอดเลือดแดง) |
urine examination / urinalysis | /ˈjʊərɪn ɪɡˌzæmɪˈneɪʃn / ˌjʊərɪˈnæləsɪs/ | การตรวจปัสสาวะ | A urinalysis can detect and manage a wide range of disorders, such as urinary tract infections. (การตรวจปัสสาวะสามารถตรวจพบและจัดการกับความผิดปกติต่างๆ ได้ เช่น การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ) |
stool examination | /stuːl ɪɡˌzæmɪˈneɪʃn/ | การตรวจอุจจาระ | A stool examination can help diagnose certain conditions affecting the digestive tract. (การตรวจอุจจาระสามารถช่วยวินิจฉัยความผิดปกติบางประการที่เกี่ยวข้องกับระบบทางเดินอาหาร) |
medical examination | /ˈmedɪkl ɪɡˌzæmɪˈneɪʃn/ | การตรวจร่างกายทางการแพทย์ | The doctor performed a thorough medical examination. (แพทย์ได้ทำการตรวจร่างกายอย่างละเอียด) |
diagnose | /ˌdaɪəɡˈnəʊs/ | วินิจฉัย | The doctor will diagnose your condition after the tests. (แพทย์จะวินิจฉัยอาการของคุณหลังจากการตรวจ) |
treatment | /ˈtriːtmənt/ | การรักษา | What is the recommended treatment for this illness? (การรักษาที่แนะนำสำหรับโรคนี้คืออะไร?) |
medical certificate | /ˈmedɪkl səˈtɪfɪkət/ | ใบรับรองแพทย์ | I need a medical certificate for my new job. (ฉันต้องใช้ใบรับรองแพทย์สำหรับงานใหม่ของฉัน) |
prescription | /prɪˈskrɪpʃn/ | ใบสั่งยา | The doctor gave me a prescription for antibiotics. (หมอให้ใบสั่งยาปฏิชีวนะกับฉัน) |
diet | /ˈdaɪət/ | การควบคุมอาหาร / อาหารเฉพาะโรค | The doctor recommended a low-salt diet. (แพทย์แนะนำให้รับประทานอาหารที่มีเกลือต่ำ) |
physical therapy | /ˈfɪzɪkl ˈθerəpi/ | กายภาพบำบัด | He’s undergoing physical therapy to recover from his injury. (เขากำลังทำกายภาพบำบัดเพื่อฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บ) |
vaccinate | /ˈvæksɪneɪt/ | ฉีดวัคซีน | It’s important to vaccinate children against common diseases. (การฉีดวัคซีนให้เด็กเพื่อป้องกันโรคทั่วไปเป็นสิ่งที่สำคัญมาก) |

>>> Read more: 40+ คําคมรักตัวเอง ภาษาอังกฤษที่ไพเราะ สั้นๆ และมีความหมาย
คำศัพท์เกี่ยวกับโรคยอดฮิต
ด้านล่างนี้คือรายการคำศัพท์เกี่ยวกับโรคยอดฮิตที่คุณสามารถเจอในชีวิตประจำวัน การเข้าใจคำศัพท์นี้จะช่วยให้คุณมั่นใจมากขึ้นในการอธิบายสภาพร่างกายด้วยภาษาอังกฤษหรือพูดคุยกับหมอในสภาพแวดล้อมนานาชาติ
คำศัพท์ | ถอดเสียง | แปล | ตัวอย่าง |
---|---|---|---|
flu | /fluː/ | ไข้หวัดใหญ่ | He has the flu and needs to rest. (เขาเป็นไข้หวัดใหญ่และต้องพักผ่อน) |
diabetes | /ˈdaɪəbiːtiːz/ | เบาหวาน | She has been diagnosed with diabetes. (เธอได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคเบาหวาน) |
hypertension | /ˌhaɪpəˈtɛnʃən/ | ความดันโลหิตสูง | His hypertension was controlled with medication. (ความดันโลหิตสูงของเขาถูกควบคุมด้วยยา) |
asthma | /ˈæzmə/ | โรคหืด | She uses an inhaler to treat her asthma. (เธอใช้ยาพ่นเพื่อรักษาโรคหืดของเขา) |
allergy | /ˈælərdʒi/ | โรคภูมิแพ้ | He has an allergy to pollen. (เขาแพ้เกสรดอกไม้) |
cold | /koʊld/ | หวัด | I caught a cold from the weather. (ฉันเป็นหวัดเพราะสภาพอากาศ) |
pneumonia | /njuːˈməʊnɪə/ | ปอดบวม | She was hospitalized for pneumonia. (เธอถูกส่งตัวเข้าโรงพยาบาลด้วยโรคปอดบวม) |
chickenpox | /ˈʧɪkɪnˌpɒks/ | อีสุกอีใส | My son had chickenpox when he was five. (ลูกชายฉันเคยเป็นอีสุกอีใสตอนอายุ 5 ขวบ) |
arthritis | /ɑːˈθraɪtɪs/ | ข้ออักเสบ | She suffers from arthritis in her knees. (เธอเป็นโรคข้ออักเสบที่หัวเข่า) |
cancer | /ˈkænsər/ | มะเร็ง | He is undergoing treatment for cancer. (เขากำลังเข้ารับการรักษาโรคมะเร็ง) |
stroke | /stroʊk/ | โรคหลอดเลือดสมอง | A stroke can cause paralysis. (โรคหลอดเลือดสมองสามารถทำให้เป็นอัมพาตได้) |
heart disease | /hɑːrt dɪˈziːz/ | โรคหัวใจ | Heart disease is a leading cause of death. (โรคหัวใจเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้น ๆ) |
eczema | /ˈɛksɪmə/ | โรคผิวหนังอักเสบ | He has been prescribed cream for his eczema. (เขาได้รับยาทาชนิดครีมสำหรับโรคผิวหนังอักเสบ) |
gastroenteritis | /ˌɡæstrəʊˌɪntəˈraɪtɪs/ | โรคกระเพาะและลำไส้อักเสบ | She had to stay home because of gastroenteritis. (เธอต้องอยู่บ้านเพราะเป็นโรคกระเพาะและลำไส้อักเสบ) |
migraine | /ˈmaɪɡreɪn/ | ไมเกรน | He took medication for his migraine. (เขากินยาเพื่อรักษาอาการไมเกรน) |
bronchitis | /ˌbrɒŋˈkaɪtɪs/ | หลอดลมอักเสบ | He was diagnosed with bronchitis after the cold. (เขาถูกวินิจฉัยว่าเป็นหลอดลมอักเสบหลังจากเป็นหวัด) |
tuberculosis | /tjuːˌbɜːkjʊˈləʊsɪs/ | วัณโรค | Tuberculosis is a contagious disease. (วัณโรคเป็นโรคติดต่อ) |
insomnia | /ɪnˈsɒmniə/ | โรคนอนไม่หลับ | She has been struggling with insomnia for months. (เธอต่อสู้กับโรคนอนไม่หลับมาหลายเดือนแล้ว) |
sinusitis | /ˌsaɪnəˈsaɪtɪs/ | ไซนัสอักเสบ | His sinusitis made it hard for him to breathe. (โรคไซนัสของเขาทำให้เขาหายใจลำบาก) |
cough | /kɒf/ | ไอ | He has had a persistent cough for a week. (เขาไอเรื้อรังมาตลอดหนึ่งสัปดาห์) |
diarrhea | /ˌdaɪəˈrɪə/ | ท้องเสีย | She caught diarrhea from the food. (เธอท้องเสียจากอาหารเป็นพิษ) |
hepatitis | /ˌhɛpəˈtaɪtɪs/ | โรคตับอักเสบ | Hepatitis can cause severe liver damage. (โรคตับอักเสบสามารถทำให้ตับเสียหายอย่างรุนแรง) |
shingles | /ˈʃɪŋɡlɪz/ | งูสวัด (zona) | He was treated for shingles after a painful rash appeared. (เขาได้รับการรักษาโรคงูสวัดหลังจากมีผื่นที่เจ็บปวดปรากฏขึ้น) |
kidney disease | /ˈkɪdni dɪˈziːz/ | โรคไต | She has been suffering from kidney disease for years. (เธอป่วยเป็นโรคไตมาหลายปีแล้ว) |
dengue fever | /ˈdɛŋɡi ˈfiːvər/ | ไข้เลือดออก | He contracted dengue fever while traveling. (เขาป่วยเป็นไข้เลือดออกระหว่างการเดินทาง) |
chronic fatigue | /ˈkrɒnɪk fəˈtiːɡ/ | ภาวะอ่อนเพลียเรื้อรัง | She was diagnosed with chronic fatigue syndrome. (เขาได้รับวินิจฉัยว่าเป็นภาวะอ่อนเพลียเรื้อรัง) |
vomiting | /ˈvɒmɪtɪŋ/ | อาเจียน | He was vomiting after eating the spoiled food. (เขาอาเจียนหลังจากกินอาหารที่เสีย) |
cystic fibrosis | /ˈsɪstɪk faɪˈbrəʊsɪs/ | โรคซิสติกไฟโบรซิส | Cystic fibrosis affects the lungs and digestive system. (โรคซิสติกไฟโบรซิสผลต่อปอดและระบบย่อยอาหาร) |
anemia | /əˈniːmiə/ | โรคโลหิตจาง | She was diagnosed with anemia due to iron deficiency. (เขาได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก) |
ulcer | /ˈʌlsər/ | แผลในกระเพาะอาหาร | He has a stomach ulcer. (เขาเป็นแผลในกระเพาะอาหาร) |

ตัวอย่างประโยคสื่อสารเมื่อตรวจสุขภาพ ด้วยภาษาอังกฤษที่ใช้บ่อยที่สุด
การไปตรวจสุขภาพมักจะทำให้หลายคนกังวล โดยเฉพาะเมื่อที่ต้องสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษ อย่างไรก็ตาม หากคุณรู้เกี่ยวกับตัวอย่างประโยคและใช้ให้ถูกต้องตามสถานการณ์ที่เหมาะสม การบอกอาการหรือพูดคุยกับหมอจึงกลายเป็นเรื่องง่ายๆ และมั่นใจมากขึ้น
ตัวอย่างประโยคในสื่อสารเมื่อตรวจสุขภาพ ด้วยภาษาอังกฤษสำหรับคนป่วย
ด้านล่างนี้เป็นตัวอย่างประโยคการสื่อสารทั่วไปด้วยภาษาอังกฤษที่ผู้ป่วยสามารถใช้ได้ ตัวอย่างประโยคนี้จะช่วยคุณอธิบายอาการของตัวเองอย่างชัดเจน ถามข้อมูลที่จำเป็นและแลกเปลี่ยนอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นกับพยาบาล
ประโยค | แปล | ตัวอย่าง |
---|---|---|
I have a headache and a fever. | ฉันปวดหัวและมีไข้ | I have a headache and a fever, so I came to see a doctor. (ฉันปวดหัวและมีไข้ ฉันเลยไปหาหมอ) |
I feel dizzy. | ฉันรู้สึกเวียนหัว | I feel dizzy when I stand up. (ฉันรู้สึกเวียนหัวเมื่อยืนขึ้น) |
I have trouble breathing. | ฉันหายใจลำบาก | I have trouble breathing when I walk fast (ฉันหายใจลำบากในเวลาที่เดินเร็ว) |
My stomach hurts. | ฉันปวดท้อง | My stomach hurts after every meal. (ฉันปวดท้องหลังจากกินอาหารทุกมื้อ) |
I have a sore throat. | ฉันเจ็บคอ | I have a sore throat, especially when I swallow. (ฉันเจ็บคอ โดยเฉพาะเวลาที่กลืน) |
I feel nauseous. | ฉันรู้สึกคลื่นไส้ | I feel nauseous and can’t eat anything. (ฉันรู้สึกคลื่นไส้และกินอะไรไม่ลงเลย) |
I think I have a fever. | ฉันคิดว่าฉันมีไข้ | I think I have a fever. Can you check my temperature? (ฉันคิดว่าฉันมีไข้ คุณช่วยวัดไข้ให้ฉันหน่อยได้ไหม?) |
I have pain in my chest. | ฉันเจ็บหน้าอก | I have pain in my chest when I breathe deeply. (ฉันเจ็บหน้าอกเมื่อหายใจเข้าลึกๆ) |
I feel tired all the time. | ฉันรู้สึกเหนื่อยตลอดเวลา | I feel tired all the time even after resting. (ฉันรู้สึกเหนื่อยตลอดเวลา ถึงแม้จะพักผ่อนแล้วก็ตาม) |
I have a seafood allergy. | ฉันแพ้อาหารทะเล | I have a seafood allergy, especially shrimp. (ฉันแพ้อาหารทะเลโดยเฉพาะกุ้ง) |
Do I need to take any tests? | ฉันจำเป็นต้องตรวจหรือไม่? | Do I need to take any tests for this symptom? (ฉันจำเป็นต้องตรวจอะไรเกี่ยวกับอาการนี้ไหม?) |
How long will the medical check-up take? | การตรวจสุขภาพจะใช้เวลานานแค่ไหน? | How long will the medical check-up take? I have work later. (การตรวจสุขภาพจะใช้เวลานานแค่ไหน? ฉันต้องไปทำงานต่อ) |
Can I get the results today? | ฉันจะได้รับผลวันนี้เลยได้ไหม? | Can I get the results today or do I have to wait? (ฉันสามารถรับผลวันนี้เลยได้ไหมหรือต้องรอก่อน?) |
What does the result mean? | ผลตรวจนี้หมายความว่าอย่างไร? | What does the result mean? Is it serious? (ผลตรวจหมายความว่าอย่างไร?มันร้ายแรงไหม?) |
Is this contagious? | นี่เป็นโรคติดต่อหรือไม่? | Is this contagious? Should I stay away from others? (นี่เป็นโรคติดต่อหรือเปล่า? ฉันควรหลีกเลี่ยงการใกล้ชิดผู้อื่นไหม?) |
Can I go back to work now? | ฉันสามารถกลับไปทำงานได้หรือยัง? | Can I go back to work now, or should I rest more? (ตอนนี้ฉันสามารถกลับไปทำงานได้หรือยังหรือต้องพักต่อ?) |
How should I take this medicine? | ฉันควรกินยานี้อย่างไร? | How should I take this medicine? Before or after meals? (ฉันควรกินยานี้อย่างไร? ก่อนหรือหลังอาหาร?) |
Are there any side effects? | มียาอะไรที่มีผลข้างเคียงไหม? | Are there any side effects I should watch out for? (มียาอะไรที่มีผลข้างเคียงที่ควรระวังไหม?) |
Can I eat normally? | ฉันสามารถรับประทานอาหารได้ตามปกติใช่ไหม? | Can I eat normally during the treatment? (ฉันสามารถทานอาหารตามปกติในช่วงการรักษาได้ไหม?) |
Should I avoid any activities? | ฉันต้องหลีกเลี่ยงกิจกรรมอะไรบ้างไหม? | Should I avoid any activities while I recover? (ฉันควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมอะไรในช่วงพักฟื้นไหม?) |
Can I get a medical certificate? | ฉันสามารถขอใบรับรองแพทย์ได้ไหม? | Can I get a medical certificate for my employer? (ฉันสามารถขอใบรับรองแพทย์เพื่อยื่นให้บริษัทได้ไหม?) |
Do I need to come back for a follow-up? | ฉันต้องกลับมาตรวจอีกครั้งไหม? | Do I need to come back for a follow-up next week? (ฉันต้องกลับมาตรวจและติดตามอาการในสัปดาห์หน้าหรือไม่?) |
Is this a common condition? | นี่เป็นอาการที่พบได้บ่อยหรือไม่? | Is this a common condition, or should I be concerned? (นี่เป็นอาการที่พบบ่อยหรือเปล่า? ฉันควรกังวลไหม?) |
Can you explain the diagnosis to me? | คุณช่วยอธิบายผลการวินิจฉัยให้ฉันหน่อยได้ไหม? | Can you explain the diagnosis to me in simple terms? (คุณช่วยอธิบายผลการวินิจฉัยให้ฉันเข้าใจง่าย ๆ ได้ไหม?) |
When should I take the next dose? | ฉันควรกินยาครั้งต่อไปเมื่อไหร่? | When should I take the next dose of the medication? (ฉันควรกินยาครั้งต่อไปเมื่อไหร่?) |

>>> Read more: ออกกําลังกายภาษาอังกฤษ: รวบรวมคำศัพท์ สำนวน รูปแบบประโยคที่พบบ่อยที่สุด
ตัวอย่างประโยคสื่อสารเมื่อตรวจสุขภาพ ด้วยภาษาอังกฤษสำหรับพยาบาล หมอ
ด้านล่างนี้เป็นประโยคการสื่อสารทั่วไปที่หมอและพยาบาลใช้ระหว่างการตรวจสุขภาพ เพื่อช่วยให้คุณเข้าใจได้ดีขึ้นเมื่อเข้ารับการตรวจสุขภาพเป็นภาษาอังกฤษ
ประโยค | แปล | ตัวอย่าง |
---|---|---|
ประโยค | แปล | ตัวอย่าง |
Where do you feel pain? | คุณเจ็บตรงไหน? | Where do you feel pain? I’ll examine that area. (คุณเจ็บตรงไหน? ฉันจะตรวจบริเวณนั้นให้คุณ) |
Please take a deep breath. | กรุณาหายใจเข้าลึกๆ | Please take a deep breath and hold it. (กรุณาหายใจเข้าลึก ๆ แล้วกลั้นไว้) |
Lie down, please. | กรุณานอนลง | Lie down, please so I can check your stomach. (กรุณานอนลงเพื่อให้ฉันตรวจท้องของคุณ) |
Do you have any allergies? | คุณแพ้อะไรบ้างไหม? | Do you have any allergies? (คุณแพ้อะไรหรือเปล่า?) |
Are you currently taking medication? | ตอนนี้คุณกำลังกินยาตัวไหนอยู่หรือเปล่า? | Are you currently taking medication? We need to know before treatment. (คุณกินยาอะไรอยู่ไหม? เราต้องรู้ก่อนเริ่มการรักษา) |
I’ll take your blood pressure. | เดี๋ยวฉันจะวัดความดันโลหิตให้คุณ | I’ll take your blood pressure now. (ตอนนี้ฉันจะวัดความดันโลหิตของคุณ) |
I’m going to check your heartbeat. | ฉันจะวัดชีพจรของคุณนะ | I’m going to check your heartbeat. Please stay still. (ฉันจะวัดชีพจรของคุณ กรุณาอยู่นิ่ง ๆ นะ) |
Can you describe your symptoms? | คุณสามารถอธิบายอาการของคุณได้ไหม? | Can you describe your symptoms clearly? (คุณช่วยอธิบายอาการของคุณให้ชัดเจนได้ไหม?) |
How long have you had this issue? | คุณมีอาการนี้มานานแค่ไหนแล้ว? | How long have you had this issue? (คุณมีอาการนี้มานานแค่ไหนแล้ว?) |
Please follow my finger with your eyes. | กรุณามองตามนิ้วของฉัน | Please follow my finger with your eyes. (กรุณามองตามนิ้วของฉัน) |
This might feel a bit cold. | อันนี้อาจจะเย็นนิดหน่อยนะ | This might feel a bit cold when I place it on your ฃskin. (อันนี้อาจรู้สึกเย็นนิดหน่อยตอนวางลงบนผิวคุณ) |
Bend your arm, please. | กรุณางอแขน | Bend your arm, please so I can take your blood. (กรุณางอแขนหน่อยนะ ฉันจะเจาะเลือด) |
Take this medicine twice a day. | กินยานี้วันละ 2 ครั้ง | Take this medicine twice a day after meals. (กินยานี้วันละสองครั้งหลังกินอาหารนะ) |
Let me know if you feel pain. | บอกให้ฉันรู้ถ้าคุณเจ็บนะ | Let me know if you feel pain during the examination. (บอกฉันด้วยนะถ้าคุณรู้สึกเจ็บระหว่างการตรวจ) |
You need to rest for a few days. | คุณต้องพักผ่อนสักสองสามวัน | You need to rest for a few days before returning to work. (คุณควรพักสักสองสามวันก่อนกลับไปทำงาน) |
We’ll do some blood tests. | เราจะตรวจเลือดเล็กน้อยนะ | We’ll do some blood tests to get a clearer diagnosis. (เราจะตรวจเลือดเพิ่มเติมเพื่อให้วินิจฉัยได้ชัดเจนขึ้น) |
I’ll prescribe you some medicine. | ฉันจะเขียนใบสั่งยาให้คุณ | I’ll prescribe you some medicine for your condition. (ฉันจะเขียนใบสั่งยาให้สำหรับอาการของคุณ) |
You should avoid fatty foods. | คุณควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง | You should avoid fatty foods while on this medication. (คุณควรหลีกเลี่ยงอาหารมันๆ ขณะกินยานี้) |
Are you pregnant? | คุณกำลังตั้งครรภ์อยู่หรือเปล่า? | Are you pregnant? We need to know before proceeding. (คุณตั้งครรภ์อยู่หรือเปล่า? เราต้องรู้ก่อนดำเนินการตรวจ) |
Can you remove your shirt, please? | กรุณาถอดเสื้อออก | Can you remove your shirt, please? (กรุณาถอดเสื้อออก) |
Please relax your arm. | กรุณาผ่อนคลายแขน | Please relax your arm so I can take your blood pressure. (กรุณาผ่อนคลายแขนเพื่อให้ฉันวัดความดัน) |
Don’t worry, it won’t hurt. | ไม่ต้องกังวล อันนี้ไม่เจ็บนะ | Don’t worry, it won’t hurt. (ไม่ต้องกังวล มันไม่เจ็บหรอกนะ) |
I’m going to take your temperature. | ฉันจะวัดอุณหภูมิร่างกายให้คุณ | I’m going to take your temperature now. (ฉันจะวัดอุณหภูมิร่างกายของคุณตอนนี้) |
Open your mouth and say ah. | อ้าปากแล้วพูดว่า “อา” | Open your mouth and say ah so I can check your throat. (อ้าปากแล้วพูด “อา” เพื่อให้ฉันตรวจลำคอของคุณ) |
I’ll refer you to a specialist. | ฉันจะส่งคุณไปพบแพทย์เฉพาะทาง | I’ll refer you to a specialist for further examination. (ฉันจะแนะนำให้คุณไปพบหมอเฉพาะทางเพื่อตรวจเพิ่มเติม) |
Please stay still. | กรุณาอยู่นิ่งๆ | Please stay still while I perform the test. (กรุณาอยู่นิ่ง ๆ ขณะฉันทำการตรวจ) |
Can you walk a few steps for me? | คุณเดินให้ดูสักสองสามก้าวได้ไหม? | Can you walk a few steps for me? (คุณเดินให้ฉันดูสองสามก้าวได้ไหม?) |
This injection may sting a bit. | เข็มนี้อาจจะเจ็บนิดหน่อยนะ | This injection may sting a bit, but it will be quick. (เข็มนี้อาจเจ็บนิดหน่อย แต่จะเร็วมาก) |
The results will be ready tomorrow. | ผลตรวจจะได้ในวันพรุ่งนี้ | The results will be ready tomorrow. (ผลการตรวจจะได้ในวันพรุ่งนี้) |
Try to relax and breathe normally. | พยายามผ่อนคลายและหายใจให้สม่ำเสมอนะ | Try to relax and breathe normally during the scan. (พยายามผ่อนคลายและหายใจให้ปกติระหว่างการสแกนนะ) |

บทสนทนาเมื่อไปตรวจสุขภาพ (พูดเป็นภาษาอังกฤษว่าอย่างไร)
ด้านล่างนี้เป็นบทสนทนาบางอย่างช่วยให้คุณนึกภาพได้ชัดเจนเกี่ยวกับวิธีการสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษเมื่อไปตรวจสุขภาพ แต่ละย่อหน้าจำลองสถานการณ์ในชีวิตจริงเพื่อให้ผู้เรียนสามารถติดตามและจดจำคำศัพท์และรูปแบบประโยคได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
บทสนทนาเมื่อไปตรวจสุขภาพทั่วไปด้วยภาษาอังกฤษ
กลุ่มเป้าหมาย | บทสนทนา | แปล |
---|---|---|
Doctor | Good morning. What brings you here today? | สวัสดีตอนเช้า วันนี้คุณมาที่นี่เพราะเหตุผลอะไรครับ/คะ? |
Patient | Good morning, doctor. I’d like to get a general health check-up. It’s been a while since my last one. | สวัสดีค่ะ/ครับคุณหมอ ฉัน/ผมอยากตรวจสุขภาพทั่วไปค่ะ/ครับ เพราะไม่ได้ตรวจมานานแล้ว |
Doctor | That’s a good decision. Do you have any health concerns or symptoms at the moment? | ดีมาก แล้วตอนนี้คุณมีความกังวลหรือมีอาการอะไรบ้างไหม? |
Patient | No, I feel fine overall. I just want to make sure everything is okay. | ไม่มีนะ ฉัน/ผมรู้สึกค่อนข้างปกติดี แค่อยากตรวจเพื่อความสบายใจ |
Doctor | Alright. We’ll begin with your blood pressure and heart rate. Then we’ll do some blood and urine tests. | โอเค ถ้างั้นเราจะเริ่มจากการวัดความดันโลหิตและชีพจรก่อนแล้วค่อยตรวจเลือดกับปัสสาวะนะครับ/คะ |
Patient | Sounds good. Do I need to fast for the blood test? | ฟังดูดีนะ/ครับ ฉัน/ผมต้องงดอาหารก่อนเจาะเลือดไหม? |
Doctor | Yes, ideally. How long ago was your last meal? | แน่นอน ถ้างดได้จะดีที่สุด คุณทานอาหารครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ครับ/คะ? |
Patient | About 10 hours ago. | ประมาณสิบชั่วโมงที่แล้วครับ/ค่ะ |
Doctor | Perfect. Let’s get started. | ดีมาก งั้นเริ่มตอนนี้เลยนะครับ/คะ |

>>> Read more: How are you? มาเรียนรู้ 90+ วิธีถามแบบอื่นและวิธีตอบที่น่าสนใจยิ่งกว่าเดิม
บทสนทนาเมื่อได้รับผลการตรวจสุขภาพ ภาษาอังกฤษ
กลุ่มเป้าหมาย | บทสนทนา | แปล |
---|---|---|
Nurse | Hi there, I have your test results. Do you have a moment to review them? | สวัสดีครับ/ค่ะ ผม/ฉันมีผลตรวจของคุณแล้ว คุณพอจะมีเวลามาดูด้วยกันสักครู่ไหม? |
Patient | Sure, I’ve been waiting to hear them. | แน่นอนครับ/ค่ะ ผม/ฉันกำลังรอฟังผลอยู่พอดี |
Nurse | Most of your results are within the normal range. However, your cholesterol and blood pressure are slightly above average. | ผลส่วนใหญ่ของคุณอยู่ในเกณฑ์ปกติครับ/ค่ะ อย่างไรก็ตาม คอเลสเตอรอลและความดันโลหิตของคุณค่อนข้างสูงเล็กน้อย |
Patient | I see. Is that something to worry about? | เข้าใจแล้วครับ/ค่ะ แบบนี้น่าเป็นห่วงไหม |
Nurse | Not at this stage, but it’s important to make some lifestyle changes. The doctor recommends cutting down on fatty foods and getting regular exercise. | ยังไม่ต้องกังวลครับ/ค่ะ แต่ควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต แนะนำให้ลดอาหารไขมันสูงและออกกำลังกายสม่ำเสมอ |
Patient | Understood. Should I take any medication? | เข้าใจแล้วครับ/ค่ะ งั้นผม/ฉันต้องกินยาหรือเปล่า |
Nurse | Not yet. We’ll monitor your progress for the next few months and see how it goes. | ยังไม่จำเป็นต้องกินครับ/ค่ะ เราจะติดตามอาการนี้ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าแล้วประเมินอีกครั้งครับ/ค่ะ |

คำถามที่พบบ่อย
เพื่อให้คุณเข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับคำที่ใช้ในการตรวจสุขภาพ ด้านล่างนี้เป็นคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับหัวข้อ ตรวจสุขภาพ ภาษาอังกฤษ
คําว่า check-up กับ checkup ต่างกันอย่างไร
ทั้ง Check-up และ checkup หมายความว่าตรวจสุขภาพ แต่ check-up เป็นรูปแบบการเขียนที่มีเครื่องหมายขีดกลาง ซึ่งมักใช้ในเอกสารทางการ ในขณะที่ checkup แบบไม่มีขีดกลาง มักพบในรูปแบบการเขียนที่ไม่เป็นทางการ เช่น medical check up แปลว่า ตรวจสุขภาพทางการแพทย์ในการเขียนไม่เป็นทางการ
Medical examination ตรวจอะไรบ้าง
Medical examination มักประกอบด้วยการตรวจวัดค่าดัชนีสุขภาพพื้นฐาน เช่น ความดันโลหิต ชีพจร การตรวจเลือด การตรวจการทำงานของอวัยวะต่างๆ ในร่างกายและการตรวจสุขภาพทั่วไป
โรคประจําตัวภาษาอังกฤษพูดว่าอะไร
โรคประจำตัวในภาษาอังกฤษได้เรียกว่า underlying conditions ใช้เพื่อระบุโรคประจำตัวที่มีอยู่ในร่างกายซึ่งอาจส่งผลต่อสภาพสุขภาพในปัจจุบันของผู้ป่วย

ฟังผลการตรวจสุขภาพ ภาษาอังกฤษ
ฟังผลการตรวจสุขภาพในภาษาอังกฤษสามารถพูดได้ว่า hear the results of the medical examination.
การตรวจสุขภาพทั่วไป คืออะไร (General health check)
General health check เป็นการตรวจสุขภาพทั่วไปเพื่อประเมินสภาพสุขภาพปัจจุบันและตรวจพบโรคที่แฝงอยู่ได้ตั้งแต่ระยะแรก
การตรวจสุขภาพตามระยะเวลา คืออะไร (Periodic health examination)
Periodic health examination เป็นการตรวจสุขภาพประจำปีตามเวลาที่กำหนดเพื่อติดตามและรักษาสุขภาพ
คุณเจ็บตรงไหน (พูดเป็นภาษาอังกฤษว่าอย่างไร)
วิธีถาม “คุณเจ็บตรงไหน (พูดเป็นภาษาอังกฤษว่าอย่างไร)?” ภาษาอังกฤษพูดได้ว่า Where does it hurt?
ฉันไปตรวจสุขภาพ ภาษาอังกฤษ (พูดเป็นภาษาอังกฤษว่าอย่างไร)
ฉันไปตรวจสุขภาพ ในภาษาอังกฤษพูดได้ว่า I went for a health check หรือ I went for a medical check-up.
ตรวจสุขภาพประจำปี ภาษาอังกฤษพูดอย่างไร
การตรวจสุขภาพประจำปีคือ Annual health check-up หรือ Yearly medical examination ในภาษาอังกฤษ
Physical examination อ่านว่าอะไร
Physical examination อ่านว่า /ˈfɪzɪkəl ɪɡˌzæmɪˈneɪʃən/.

หวังว่า ด้วยความรู้เกี่ยวกับคำศัพท์ รูปแบบประโยคในการสื่อสารและบทสนทนาตัวอย่างที่ได้แบ่งปันในบทความนี้ คุณจะรู้สึกมั่นใจมากขึ้นเมื่อต้องเผชิญกับสถานการณ์การตรวจสุขภาพ ภาษาอังกฤษ
อย่าลังเลที่จะนำสิ่งที่คุณได้เรียนรู้ไปใช้ในชีวิตจริงและขอให้คุณพัฒนาทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษของตนเองให้ดียิ่งขึ้นในทุกๆ วันกับ ELSA Speak นะ
คุณเคยสงสัยไหมว่า Take off แปลว่า อะไรในภาษาอังกฤษและวิธีการใช้คํานี้คืออะไรไหม? คำนี้ไม่ได้แปลว่า บินขึ้น เท่านั้นแต่ยังมีความหมายที่น่าสนใจและสามารถนำไปใช้ในสถานการณ์ต่าง ๆ มากมายอีกด้วย มาเรียนรู้ว่าใช้ Take off ยังไงกับ ELSA ผ่านตัวอย่างที่ชัดเจนและแบบฝึกหัดที่มีประโยชน์เพื่อช่วยให้คุณเข้าใจคําศัพท์นี้อย่างลึกซึ้ง
Take off แปลว่า อะไรในภาษาอังกฤษ?
Take Off เป็นกริยาวลี ซึ่งมีความหมายแฝงอยู่มากมาย คุณมักจะเห็นว่าคํานี้หมายถึง บินขึ้น (เครื่องบิน นก แมลง)
ตัวอย่าง:
The plane will take off from the runway at 10:00 AM. (เครื่องบินจะบินขึ้นจากรันเวย์เวลา 10.00 น.)
ความเข้าใจเกี่ยวกับ Take Off ที่พบบ่อย

>>> Read more: พักผ่อนเยอะๆ ภาษาอังกฤษคืออะไร? คำศัพท์และสำนวนที่ใช้บ่อย
ความหมาย | ตัวอย่าง |
---|---|
บินขึ้น (เครื่องบิน) | The airplane taxied down the runway and then began to take off into the sky. (เครื่องบินวิ่งไปตามรันเวย์แล้วเริ่มบินขึ้นสู่ท้องฟ้า) |
การออกจากสถานที่โดยเฉพาะเมื่อเร่งรีบ | I need to take off now. I’m late for my meeting. (ฉันต้องออกเดินทางแล้ว ฉันไปประชุมสายแล้ว) |
ประสบความสำเร็จหรือได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว | Her idea for a new TV show took off and was picked up by a major network. (แนวคิดของเธอเกี่ยวกับรายการทีวีใหม่ได้รับความนิยมและถูกเครือข่ายใหญ่แห่งหนึ่งรับไป) |
ถอดเสื้อผ้า/เครื่องประดับออก | It’s too hot; I need to take off my jacket. (ร้อนเกินไป ฉันต้องถอดเสื้อแจ็กเก็ตออก) |
หักค่าใช้จ่ายส่วนหนึ่ง | You can take off 10% of the total cost if you use the discount code. (คุณสามารถรับส่วนลด 10% ของราคารวมถ้าคุณใช้รหัสส่วนลด) |
หยุดเพื่อพักผ่อน หยุดทำงาน | After working on the project for hours, it’s essential to take off for a few minutes. (หลังจากทำงานกับโครงการเป็นเวลาหลายชั่วโมง สิ่งสำคัญคือต้องหยุดพักสักสองสามนาที) |
การลอกเลียน การคัดลอก (เลียนแบบสไตล์ของผู้อื่น) | The artist accused the gallery of allowing others to take off their unique style. (ศิลปินกล่าวหาว่าทางแกลเลอรี่ยอมให้ผู้อื่นลอกเลียนสไตล์เฉพาะตัวของตน) |
โครงสร้าง และ ใช้ Take Off ยังไง

โครงสร้าง | ความหมาย | ตัวอย่าง |
---|---|---|
take + sb + off | การเลียนแบบเสียง การกระทำ หรือกิริยาท่าทางของผู้อื่นในลักษณะตลกขบขัน | She always takes off her boss’s mannerisms during meetings, and it’s hilarious. (เธอชอบลอกเลียนกิริยามารยาทของเจ้านายระหว่างประชุมอยู่เสมอ และมันก็ตลกดี) |
(ในด้านกีฬา ความบันเทิง) การขอให้ใครหยุดเล่น หยุดแสดง ฯลฯ และออกจากสนามหรือเวที | The referee had to take off the player for his violent conduct on the field. (ผู้ตัดสินต้องปลดผู้เล่นออกจากสนามเนื่องจากมีพฤติกรรมรุนแรงในสนาม) | |
take + sth + off | ถอดหรือเอาบางสิ่งบางอย่างออก โดยเฉพาะเสื้อผ้า | She took off her coat as soon as she entered the warm house. (เธอถอดเสื้อโค้ทออกทันทีเมื่อเข้าไปในบ้านอันอบอุ่น) |
การลาหยุด (โดยปกติเป็นการพักผ่อนและผ่อนคลาย) | After months of hard work, she decided to take a week off to relax. (หลังจากทำงานหนักมาหลายเดือน เธอจึงตัดสินใจหยุดงานหนึ่งสัปดาห์เพื่อพักผ่อน) | |
หยุดการดำเนินการบริการสาธารณะ รายการโทรทัศน์ การดำเนินรายการ | The airline decided to take off several flights due to bad weather conditions. (สายการบินตัดสินใจหยุดบินหลายเที่ยวบินเนื่องจากสภาพอากาศโหดร้าย) | |
ตัดผมหรือตัดส่วนหนึ่งของร่างกายใครบางคนออกไป | She decided to take off a few inches of her hair to get a fresh look. (เธอตัดสินใจตัดผมประมาณสองสามนิ้วเพื่อให้ดูสดชื่นขึ้น) | |
take + yourself/sb + off + (to…) | ทิ้งสถานที่ไว้; ขอให้ใครออกจากสถานที่หนึ่งไป | I need to take myself off to the meeting now. (ตอนนี้ฉันต้องไปประชุมแล้ว) |
take + sb + off + sth | ถอดถอนบุคคลออกจากตำแหน่ง งาน หรืออุปกรณ์… | The manager took the employee off the project due to poor performance. (ผู้จัดการไล่พนักงานออกจากโครงการเนื่องจากผลงานไม่ดี) |
take + sth + off + sth | ลดจำนวนเงินหรือแต้ม | The store took ten percent off the price for the holiday sale. (ร้านค้าลดราคาสินค้าสิบเปอร์เซ็นต์ในช่วงวันหยุด) |
คํา/วลีที่ใช้พร้อมกับ Take off

>>> Read more: 100+ แคปชั่น relax time ในภาษาอังกฤษพร้อมความหมายที่ดีที่สุด
โครงสร้าง | ความหมาย | ตัวอย่าง |
---|---|---|
take off your coat/hat/shoes | ถอดเสื้อคลุม/หมวก/รองเท้า | She took off her coat and hung it on the rack before entering the house. (เธอถอดเสื้อโค้ตออกแล้วแขวนไว้บนราวก่อนจะเข้าไปในบ้าน) |
take a break/off | พักสักครู่ | I’ve been working for hours, I need to take a break. (ฉันทำงานมาหลายชั่วโมงแล้ว ฉันต้องพักผ่อนสักหน่อย) |
take off your clothes | ถอดเสื้อผ้า | She went to the changing room to take off her clothes. (เธอไปที่ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อถอดเสื้อผ้า) |
take off in a plane/flight | ขึ้นเครื่องบิน/เที่ยวบิน | The plane is scheduled to take off at 7 PM. (เครื่องบินมีกำหนดขึ้นบินเวลา 19.00 น.) |
take off your gloves | ถอดถุงมือ | He took off his gloves to type on the keyboard. (เขาถอดถุงมือออกเพื่อพิมพ์บนแป้นพิมพ์) |
take off your hat to someone | ยกย่องในความสามารถหรือความสําเร็จของคนอื่น | We all took off our hats to the bravery of the firefighters. (เราทุกคนยกย่องความกล้าหาญของนักดับเพลิง) |
take off your makeup | ล้างเครื่องสำอางออก | Before going to bed, remember to take off your makeup. (ก่อนนอนอย่าลืมล้างเครื่องสำอางออก) |
take off pounds | ลดน้ำหนัก | She’s been exercising regularly and has already taken off five pounds. (เธอออกกำลังกายสม่ำเสมอและลดน้ำหนักไปได้ 5 ปอนด์แล้ว) |
take off a record | ทำลายสถิติ | The athlete took off the previous record by two seconds. (นักกีฬาได้ทำลายสถิติเดิมไปสองวินาที) |
take off running | ออกวิ่ง | When they heard the sirens, they took off running towards the shelter. (เมื่อพวกเขาได้ยินเสียงไซเรน พวกเขาก็ออกวิ่งหนีไปยังที่พักพิง) |
take off your shoes | ถอดรองเท้าออก | Please take off your shoes before entering the house. (ได้โปรดถอดรองเท้าก่อนเข้าบ้าน) |
take off your shirt | ถอดเสื้อออก | It’s too hot outside, I’m going to take off my shirt. (ข้างนอกร้อนมาก ฉันจะถอดเสื้อออก) |
take something off the table | เอาของบางอย่างออกจากโต๊ะ | Let’s take off these papers from the table and make space for dinner. (มาเอาเอกสารเหล่านี้ออกจากโต๊ะแล้วจัดพื้นที่สำหรับมื้อเย็นกันเถอะ) |
take off time | หาเวลาพักผ่อนหรือผ่อนคลาย | After the hectic week, I plan to take off some time for myself. (หลังจากสัปดาห์ที่วุ่นวาย ฉันตั้งใจจะพักผ่อนบ้าง) |
take off the top | ถอดด้านบนออก | To clean the jar, you need to take off the top first. (ในการทำความสะอาดโถ คุณต้องเปิดฝาออกก่อน) |
take time off from work | หยุดงาน ลางาน | She’s taking time off from work to travel to Europe. (เธอลาหยุดงานเพื่อไปเที่ยวยุโรป) |
take off for an X-ray | ถอดเสื้อผ้าและเครื่องประดับทั้งหมดออกก่อนจะทำการเอกซเรย์ | Before the X-ray, please take off any metal objects you’re wearing. (ก่อนทำการเอ็กซเรย์ โปรดถอดวัตถุโลหะที่คุณสวมใส่ออกทั้งหมด) |
take off a year | หยุดพักผ่อนหนึ่งปี (โดยปกติจะไปเที่ยวหรือเรียน) | After graduation, he decided to take off a year to travel the world. (หลังจากเรียนจบ เขาตัดสินใจหยุดพักผ่อนหนึ่งปีเพื่อเดินทางรอบโลก) |
คําและวลีพ้องความหมาย – ตรงข้ามกับคําว่า Take off
Take off แปลว่า ออกไป
คําพ้องความหมาย | ความหมาย | ตัวอย่าง |
---|---|---|
Depart | ออกเดินทาง | I departed for work early this morning. (ฉันออกไปทำงานแต่เช้าวันนี้) |
Move | ย้าย เลื่อน | We need to move the meeting to a later time. (เราจะต้องเลื่อนการประชุมไปในเวลาอื่น) |
Exit | ออกไป | Please exit through the back door. (กรุณาออกทางประตูหลัง) |
Go | ไป | I have to go now. (ฉันจะต้องไปแล้วล่ะ) |
Get | ไปยัง | I need to get to the bank before it closes. (ฉันต้องไปธนาคารก่อนที่ธนาคารจะปิด) |
Take a walk | เดินเล่น | Let’s take a walk in the park. (ไปเดินเล่นในสวนกันเถอะ) |
Get off | ลงจาก (รถ ยานพาหนะ) | Get off the bus at the next stop. (ลงรถบัสที่ป้ายถัดไป) |
คําตรงข้าม | ความหมาย | ตัวอย่าง |
Come | มา | She’ll come over later tonight. (เธอจะมาในคืนนี้) |
Show up | แสดงตัว ปรากฎตัว | He showed up late for the meeting. (เขาปรากฏตัวในการประชุมสาย) |
Arrive | มาถึง | The train will arrive in ten minutes. (รถไฟจะมาถึงในสิบนาที) |
Remain | อยู่ | I remained at home all day. (ฉันอยู่บ้านทั้งวันเลย) |
Stay | อยู่ | Please stay a little longer. (โปรดอยู่ต่ออีกหน่อย) |
Take off แปลว่า ถอดออก
คําพ้องความหมาย | ความหมาย | ตัวอย่าง |
---|---|---|
Remove | ถอกออก | Please remove your shoes before entering the house. (โปรดถอดรองเท้าก่อนเข้าไปในบ้าน) |
Put off | ถอกออก | I need to put off my jacket, it’s too hot. (ฉันต้องถอดเสื้อแจ๊คเก็ตออกแล้ว เพราะมันร้อนเกินไป) |
Peel off | ลอกออก | Peel off the bandage slowly. (ค่อย ๆ ลอกผ้าพันแผลออก) |
คําตรงข้าม | ความหมาย | ตัวอย่าง |
Throw (on) | ใส่ | I threw on a jacket and rushed out the door. (ฉันใส่แจ็กเก็ตแล้วรีบวิ่งออกไปที่ประตู) |
Put on | ใส่ | She put on a hat to protect herself from the sun. (เธอใส่หมวกเพื่อป้องกันตัวเองจากแสงแดด) |
Slip (into) | สวมอย่างรวดเร็ว (เสื้อผ้า) | He slipped into his favorite pajamas. (เขาสวมชุดนอนตัวโปรดของเขา) |
Don | สวมใส่ (แบบทางการ) | She donned a formal dress for the occasion. (เธอสวมชุดราตรีที่เป็นทางการเพื่อโอกาสนี้) |
Take off แปลว่า ลบ
คําพ้องความหมาย | ความหมาย | ตัวอย่าง |
---|---|---|
Subtract | ลบออก | Subtract 5 from 10 and you get 5. (ลบ 5 จาก 10 แล้วคุณจะได้ 5) |
Deduct | หักออก | The company will deduct taxes from your paycheck. (บริษัทจะหักภาษีจากเงินเดือนของคุณ) |
Reduce | ลด | We need to reduce our expenses. (เราต้องลดค่าใช้จ่ายของเราลง) |
Discount | ส่วนลด | The store is offering a 20% discount on all winter clothes. (ทางร้านให้ส่วนลด 20% สำหรับเสื้อผ้าฤดูหนาวทุกรุ่น) |
Decrease | ลดลง | Sales have decreased this month. (ยอดขายลดลงในเดือนนี้) |
Abate | ลด | The storm has finally abated. (ในที่สุดพายุก็สงบลงแล้ว) |
Cut down | ตัดลง | We need to cut down on our fast food consumption. (เราต้องลดการบริโภคฟาสต์ฟู้ดลง) |
คําตรงข้าม | ควาหมาย | ตัวอย่าง |
Add | เพิ่ม บวก | Add 3 to 5 and you get 8. (บวก 3 ถึง 5 จะได้ 8) |
Tack (on) | เพิ่ม | They tacked on an extra fee. (พวกเขาคิดค่าธรรมเนียมเพิ่ม) |
คําถามที่พบบ่อย
เครื่องบิน Take off แปลว่า อะไร ในภาษาอังกฤษ?
ในภาษาอังกฤษ เครื่องบินบินขึ้น แปลว่า the airplane takes off นี่คือสำนวนเมื่อเครื่องบินออกจากพื้นดินแล้วเริ่มบินขึ้นไปในอากาศ
ตัวออย่าง:
The airplane took off at 7 AM. (เครื่องบินขึ้นบินตอน 7 โมงเช้า)
Cabin crew prepare for take off แปลว่า อะไร ในภาษาอังกฤษ?
ประโยค ลูกเรือเตรียมตัวทำการขึ้นบิน ในภาษาอังกฤษสามารถแปลว่าดังนี้:
- The crew is preparing for take off.
- The crew is getting ready for take off.
Ready to take off แปลว่า อะไร ในภาษาอังกฤษ?
พร้อมสำหรับการขึ้นบิน ในภาษาอังกฤษสามารถแปลว่าดังนี้:
Ready for take off.
ตัวอย่าง:
The plane is now ready for takeoff. (ขณะนี้เครื่องบินก็พร้อมที่จะขึ้นบินแล้ว)
ความแตกต่างระหว่าง take off & landing คือ อะไร?
Take off (v): ขึ้นบิน
ตัวอย่าง:
The plane will take off at 10 AM. (เครื่องบินจะขึ้นบินเวลา 10 โมงเช้า)
Land (v): ลงจอด
ตัวอย่าง:
The plane landed safely after the long flight. (เครื่องบินลงจอดได้อย่างปลอดภัยหลังจากการบินอันยาวนาน)
แบบฝึกหัด
แบบฝึกหัดที่ 1: จงเติมคำที่ถูกต้องลงในช่องว่างให้ถูกต้อง
1. The company decided to _____ the old product and replace it with a new one.
2. The pilot _____ the plane and headed for the sky.
3. She _____ her coat and hung it on the coat rack.
4. He _____ a few days off work to relax.
5. The police _____ the suspect’s handcuffs and released him.
6. The teacher _____ the student’s name from the list.
7. The government _____ the tax on imported goods.
8. The store _____ ten percent off the price for the holiday sale.
9. The referee took two points _____ the team for their unsportsmanlike conduct.
10. The doctor took off the patient’s bandage and _____ the wound.
แบบฝึกหัดที่ 2: จงเขียนประโยคต่อไปนี้ใหม่เป็นภาษาอังกฤษ
1. ถอดหมวกแล้ววางไว้บนโต๊ะ
2. ถอดเสื้อโค้ทออกแล้วแขวนไว้บนไม้แขวนเสื้อ
3. ถอดรองเท้าและเดินเท้าเปล่าบนผืนทราย
4. นักบินขึ้นเครื่องบินและมุ่งหน้าสู่ท้องฟ้า
5. บริษัทได้ยุติการผลิตสินค้าตัวเดิมและแทนที่ด้วยตัวใหม่
6. แพทย์ถอดผ้าพันแผลคนไข้ออกและตรวจดูบาดแผล
7. โจรขโมยภาพวาดจากผนังแล้ววิ่งหนีไป
8. ตำรวจถอดกุญแจมือผู้ต้องสงสัยแล้วปล่อยตัวเขาไป
9. ครูขีดชื่อนักเรียนออกจากรายการ
10. รัฐบาลยกเลิกภาษีสินค้านำเข้า

เฉลย
แบบฝึกหัดที่ 1 | แบบฝึกหัดที่ 2 |
---|---|
1. take off product แปลว่า การหยุดการผลิต | 1. He took off his hat and placed it on the table. |
2. take off plane แปลว่า เครื่องบินขึ้นบิน | 2. She removed her coat and hung it on the coat rack. |
3. take off coat แปลว่า ถอดเสื้อผ้าออก | 3. They kicked off their shoes and strolled on the beach barefoot. |
4. take a day off แปลว่า ลางาน | 4.The pilot lifted the plane off the ground and ascended into the sky. |
5. take off handcuffs แปลว่า ถอดกุญแจมือออก | 5.The company removed the old product and substituted it with a new one. |
6. take off name แปลว่า การขีดชื่อออกจากรายการ | 6. The doctor unwrapped the patient’s bandage and inspected the wound. |
7. take off tax แปลว่า ยกเลิกภาษี | 7. The thief snatched the painting off the wall and fled |
8. take the percent off the price แปลว่า ลดราคาในบริบทของการขาย | 8. The police unlocked the suspect’s handcuffs and set him free. |
9. take point off แปลว่า หักคะแนน | 9. The teacher erased the student’s name from the list. |
10. take off bandage แปลว่า เอาผ้าพันแผลออก | 10. The government abolished the tax on imported goods. |
ELSA Speak ได้ค้นพบความหมายและการใช้คำว่า Take off ในภาษาอังกฤษให้กับคุณแล้ว! คำนี้ไม่เพียงแต่แปลว่าบินขึ้นเท่านั้น แต่ยังสามารถนำไปใช้ในสถานการณ์ต่าง ๆ ได้มากมาย ตั้งแต่การสื่อสารในชีวิตประจำวันไปจนถึงสถานการณ์เฉพาะทาง อย่าลืมฝึกฝนกับแบบฝึกหัดที่คุณเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษของคุณนะ และด้วยแพ็คเกจ ELSA Pro คุณจะได้สัมผัสกับฟีเจอร์ขั้นสูงที่ช่วยพัฒนาทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษของคุณได้อย่างรวดเร็ว!
รูปร่าง ภาษาอังกฤษคืออะไร? เข้าร่วม ELSA Speak เพื่อค้นพบคำศัพท์ที่น่าสนใจและใช้ง่ายเพื่ออธิบายรูปร่างต่างๆ ตั้งแต่เรียบง่ายไปจนถึงซับซ้อน! บทความนี้ไม่เพียงแต่ช่วยให้คุณเรียนรู้วิธีการออกเสียงอย่างถูกต้องเท่านั้น แต่ยังมีประโยคตัวอย่างที่ชัดเจน ซึ่งจะช่วยให้คุณมีความมั่นใจมากขึ้นในการสื่อสาร
รูปร่าง ภาษาอังกฤษ?
รูปร่าง ภาษาอังกฤษ คือ shape
รูปร่าง ภาษาอังกฤษ คําอ่าน คือ: /ʃeɪp/
รูปร่าง ภาษาอังกฤษ มีอะไรบ้าง?
คําศัพท์รูปร่าง ภาษาอังกฤษ ระดับพื้นฐาน

>>> Read more: ท็อป 9+ นิทานภาษาอังกฤษ สั้นๆ มีงานแปลที่เพราะและอ่านง่ายที่ไม่ควรพลาด
ภาษาอังกฤษ | คำอ่าน | ความหมาย |
---|---|---|
Circle | /ˈsɜːkᵊl/ | วงกลม |
Cone | /kəʊn/ | ทรงกรวย |
Cube | /kjuːb/ | ทรงลูกบาศก์ |
Cylinder | /ˈsɪlɪndə/ | ทรงกระบอก |
Ellipse | /ɪˈlɪps/ | รูปวงรี |
Decagon | /ˈdɛkəɡən/ | รูปสิบเหลี่ยม |
Dodecagon | /dəʊˈdɛkəɡɒn/ | รูปสิบสองเหลี่ยม |
Hexagon | /ˈhɛksəɡən/ | รูปหกเหลี่ยม |
Nonagon | /ˈnɒnəɡən/ | รูปเก้าเหลี่ยม |
Octagon | /ˈɒktəɡən/ | รูปแปดเหลี่ยม |
Orbicular | /ɔːˈbɪkjʊlə/ | รูปลูกโลก |
Oval | /ˈəʊvᵊl/ | รูปวงรี |
Pentagon | /ˈpɛntəɡᵊn/ | รูปห้าเหลี่ยม |
Prism | /ˈprɪzᵊm/ | ปริซึม |
Pyramid | /ˈpɪrəmɪd/ | พีระมิด |
Rectangle | /ˈrɛktæŋɡᵊl/ | รูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า |
Rhomboid | /ˈrɒmbɔɪd/ | รูปสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน |
Semicircle | /ˈsɛmɪˌsɜːkᵊl/ | รูปครึ่งวงกลม |
Solid | /ˈsɒlɪd/ | รูปตัน (สามมิติ, สเตอริโอสโคปิก) |
Sphere | /sfɪə/ | รูปทรงกลม |
Square | /skweə/ | รูปสี่เหลี่ยม |
Tetragon | /ˈtɛtrəɡᵊn/ | รูปสี่เหลี่ยม |
Trapezium | /trəˈpiːziəm/ | รูปสี่เหลี่ยมคางหมู (UK) |
Trapezoid | /ˈtræpəˌzɔɪd/ | รูปสี่เหลี่ยมคางหมู (US) |
Triangle | /ˈtraɪæŋɡᵊl/ | รูปสามเหลี่ยม |
Equilateral triangle | /ˌiːkwɪˈlætərəl ˈtraɪæŋɡᵊl/ | รูปสามเหลี่ยมด้านเท่า |
Scalene triangle | /ˈskeɪliːn ˈtraɪæŋɡᵊl/ | รูปสามเหลี่ยมด้านไม่เท่า |
Right triangle | /raɪt ˈtraɪæŋɡᵊl/ | รูปสามเหลี่ยมมุมฉาก |
Acute triangle | /əˈkjuːt ˈtraɪæŋɡᵊl/ | รูปสามเหลี่ยมมุมแหลม |
Obtuse triangle | /əbˈtjuːs ˈtraɪæŋɡᵊl/ | รูปสามเหลี่ยมมุมป้าน |
Isosceles triangle | /aɪˈsɒsɪliːz ˈtraɪæŋɡᵊl/ | รูปสามเหลี่ยมหน้าจั่ว |
Kite | /kaɪt/ | สี่เหลี่ยมรูปว่าว |
Parallelogram | /ˌpærəˈlɛləɡræm/ | รูปสี่เหลี่ยมด้านขนาน |
Polygon | /ˈpɒlɪɡɒn/ | รูปหลายเหลี่ยม (หลายด้าน หลายมุม) |
คําศัพท์รูปร่าง ภาษาอังกฤษ ระดับสูง

ภาษาอังกฤษ | คำอ่าน | ความหมาย |
---|---|---|
Crescent | /ˈkrɛsənt/ | รูปพระจันทร์เสี้ยว |
Star / Star shape | /stɑː/ | รูปดาว |
Cuboid (Rectangular cube) | /ˈkjuːbɔɪd/ | ทรงสี่เหลี่ยมมุมฉาก |
Hemisphere | /ˈhɛmɪsfɪə/ | ครึ่งทรงกลม |
Hexagonal Pyramid | /hɛkˈsæɡənəl ˈpɪrəmɪd/ | พีระมิดฐานหกเหลี่ยม |
Hexagonal Prism | /hɛkˈsæɡənəl ˈprɪzəm/ | ปริซึมฐานหกเหลี่ยม |
Heptagon | /ˈhɛptəɡən/ | รูปเจ็ดเหลี่ยม |
Hendecagon / Undecagon | /ˌhɛnˈdɛkəɡən/ | รูปทรงสิบเอ็ดเหลี่ยม |
Annulus | /ˈæn.jʊ.ləs/ | รูปทรงแหวน(วงกลมตรงกลาง) |
Frustum | /ˈfrʌstəm/ | พีระมิดแบบตัดทอน |
Torus | /ˈtɔːrəs/ | ทรงห่วงยาง |
Oblong | /ˈɒblɒŋ/ | รูปสี่เหลี่ยมผืนผ้ายาว |
Quadrilateral | /ˌkwɒdrɪˈlætərəl/ | รูปสี่เหลี่ยม (4 ด้าน ไม่เท่ากัน) |
Pentagram | /ˈpɛntəɡræm/ | รูปดาวห้าแฉก (ดาวห้าเหลี่ยม) |
Icosahedron | /ˌaɪkɒsəˈhiːdrən/ | ทรงยี่สิบหน้า (ทรงหลายหน้าปกติ) |
Tetrahedron | /ˌtɛtrəˈhiːdrən/ | ทรงสี่หน้าปกติ (ทรงสี่หน้าปกติ) |
Octahedron | /ˌɒktəˈhiːdrən/ | รูปแปดเหลี่ยม (ทรงแปดหน้าปรกติ) |
Dodecahedron | /ˌdəʊdɛkəˈhiːdrən/ | ทรงสิบสองหน้า(รูปปกติ แต่ละหน้าเป็นรูปห้าเหลี่ยมปกติ) |
คำศัพท์ทางเรขาคณิต

>>> Read more: รวม Podcast ฝึกภาษาอังกฤษ 20 ช่องที่ฟังง่ายและมีประสิทธิภาพ
ภาษาอังกฤษ | คำอ่าน | ความหมาย |
---|---|---|
Height | /haɪt/ | ความสูง |
Width | /wɪdθ/ | ความกว้าง |
Length | /lɛŋθ/ | ความยาว |
Angle | /ˈæŋɡl/ | มุม |
Right angle | /raɪt ˈæŋɡl/ | มุมตรง |
Acute angle | /əˈkjuːt ˈæŋɡl/ | มุมแหลม |
Obtuse angle | /əbˈtjuːs ˈæŋɡl/ | มุมป้าน |
Straight angle | /streɪt ˈæŋɡl/ | มุมตรง (มุมที่มีขนาด 180 องศา เกิดเป็นเส้นตรง) |
Symmetry | /ˈsɪmətri/ | ความสมมาตร |
Area | /ˈeəriə/ | พื้นที่ |
Dimension | /dɪˈmɛnʃən/ | มิติ |
Volume | /ˈvɒljuːm/ | ปริมาณ |
Line | /laɪn/ | เส้น |
Straight line | /streɪt laɪn/ | เส้นตรง |
Parallel lines | /ˈpærəlel laɪnz/ | เส้นขนาน |
Diameter | /daɪˈæmɪtə/ | เส้นผ่านศูนย์กลาง |
Circumference | /səˈkʌmfərəns/ | เส้นรอบวง (วงกลม) |
Radius | /ˈreɪdiəs/ | รัศมี |
Perimeter | /pəˈrɪmɪtə/ | เส้นรอบวง (รูปหลายเหลี่ยม) |
Curve | /kɜːv/ | เส้นโค้ง |
Tangent | /ˈtændʒənt/ | แทนเจนต์ |
Vertex | /ˈvɜːtɛks/ | จุดยอด – จุดที่ขอบสองข้างมาบรรจบกันจนเกิดมุม |
Edge | /ɛʤ/ | ขอบ – เส้นส่วนเชื่อมระหว่างจุดยอดสองจุดในรูปหลายเหลี่ยม (2 มิติหรือ 3 มิติ) |
วลีและสำนวนรูปร่าง ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน
วลีภาษาอังกฤษ | ความหมาย | ตัวอย่าง |
---|---|---|
Roundabout | วงเวียนจราจร – ทางแยกของถนนตั้งแต่สามถนนขึ้นไป มักใช้ในการจราจร | The roundabout ahead is causing traffic jams during rush hour. (วงเวียนข้างหน้าทำให้รถติดในช่วงชั่วโมงเร่งด่วน) |
Square meal | อาหารที่มีประโยชน์ – วิธีการพูดถึงมื้ออาหารที่สมดุล | After a long day at work, I’m ready for a square meal. (หลังจากเหน็ดเหนื่อยจากการทำงานมาทั้งวัน ฉันก็พร้อมที่จะทานอาหารที่มีประโยชน์) |
Circle the wagons | การร่วมพลังเพื่อปกป้องผลประโยชน์ร่วมกัน – ซึ่งมักใช้ในธุรกิจหรือการเมือง | The team decided to circle the wagons and protect their interests. (กลุ่มได้ตัดสินใจร่วมมือกันเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของพวกเขา) |
Back to square one | กลับมาเริ่มต้นใหม่ – เริ่มต้นใหม่หลังจากความล้มเหลว | After the project failed, we had to go back to square one. (หลังจากโครงการล้มเหลว เราก็ต้องกลับมาเริ่มต้นใหม่) |
Go around in circles | วนเวียนไปมา – ทำ/ทำซ้ำบางสิ่งบางอย่างโดยไม่ประสบผลสำเร็จ | We’ve been going around in circles for hours and still haven’t solved the issue. (เราวนเวียนไปมาเป็นชั่วโมงโดยไม่มีความคืบหน้า และยังคงไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้) |
Square peg in a round hole | ไม่เหมาะสม – บุคคลหรือสิ่งที่ไม่เหมาะสมกับตำแหน่งหรือสถานการณ์ปัจจุบัน | He feels like a square peg in a round hole in this new job. (เขาคิดว่าตัวเองไม่เหมาะกับงานใหม่นี้) |
Circle the drain | แย่ลงเรื่อยๆ – สถานการณ์แย่ลงเรื่อยๆ จนเสี่ยงต่อการพังทลาย (ของโครงการ บริษัท สุขภาพ) | The company is circling the drain after several bad decisions. (บริษัทกำลังแย่ลงเรื่อยๆ หลังจากตัดสินใจผิดพลาดหลายครั้ง) |
คำศัพท์บอกลักษณะ รูปร่าง ภาษาอังกฤษ
คำศัพท์บอกลักษณะ รูปทรงของรูปร่าง ภาษาอังกฤษ

ภาษาอังกฤษ | คำอ่าน | ความหมาย |
---|---|---|
Angled | /ˈæŋɡᵊld/ | เชิงมุม |
Annular | /ˈænjələ/ | เป็นรูปวงแหวน |
Amorphous | /əˈmɔːfəs/ | ไม่มีรูปร่างที่แน่นอน |
Arrow-shaped | /ˈærəʊ-ʃeɪpt/ | รูปลูกศร |
Bent | /bɛnt/ | งอ โค้งงอ |
Bevel | /ˈbɛvᵊl/ | มุมเอียง ขอบเอียง |
Bulbous | /ˈbʌlbəs/ | โป่ง |
Bulgy | /ˈbʌlʤi/ | ป่อง |
Bumpy | /ˈbʌmpi/ | เป็นหลุมเป็นบ่อ |
Concave | /‘kɒnˈkeɪv/ | เว้า |
Convex | /ˈkɒnˈvɛks/ | นูนสองด้าน |
Crescent-shaped | /ˈkrɛsᵊnt-ʃeɪpt/ | รูปพระจันทร์เสี้ยว |
Crooked | /‘krʊkɪd/ | โค้งงอ |
Cross | /krɒs/ | สัญลักษณ์กาชาด |
Curvilinear | /kɜːvɪˈlɪnɪə/ | เส้นโค้ง |
Flute | /fluːt/ | ร่องทรงกระบอก |
Groove | /ɡruːv/ | ร่อง |
Heart-shaped | /hɑːt-ʃeɪpt/ | รูปหัวใจ |
Hollow | /ˈhɒləʊ/ | เว้า หลุม |
Flat | /flæt/ | แบน เรียบ |
Horizontal | /ˌhɒrɪˈzɒntᵊl/ | แนวนอน |
Jagged | /‘ʤæɡɪd/ | มีขอบหยักคล้ายฟันเลื่อย มีขอบคมจำนวนมาก |
Oblique | /əˈbliːk/ | เฉียง เอียง |
Parallel | /ˈpærəlɛl/ | ขนานกัน (เส้นตรงหรือระนาบ) |
Pointy | /ˈpɔɪnti/ | แหลม |
S – shaped | /ɛs – ʃeɪpt/ | เส้นโค้งรูปตัว S |
Serpentine | /ˈsɜːpəntaɪn/ | คดเคี้ยว |
Sharp | /ʃɑːp/ | แหลมคม |
Skewed | /skjuːd/ | ไม่สมมาตร เฉียง บิด ม้วน |
Smooth | /smuːð/ | ราบ |
Spiral | /ˈspaɪərᵊl/ | เส้นวงก้นหอย |
Splay | /spleɪ/ | เอียง |
Star-shaped | /stɑː-ʃeɪpt/ | รูปดาว |
Straight | /streɪt/ | เส้นตรง |
Swell | /swɛl/ | โป่ง |
Symmetrical | /sɪˈmɛtrɪkᵊl/ | สมมาตร |
Tapered | /ˈteɪpəd/ | รูปหน่อไม้ |
Twisted | /ˈtwɪstɪd/ | ม้วน |
U-shaped | /juː-ʃeɪpt/ | รูปตัว U |
Undulate | /ˈʌndjʊleɪt/ | เป็นคลื่น กระเพื่อม |
Vertical | /ˈvɜːtɪkᵊl/ | ตั้งตรง |
Warp | /wɔːp/ | บิดงอ |
คำศัพท์บอกลักษณะ รูปร่างของลวดลาย ภาษาอังกฤษ
ภาษาอังกฤษ | คำอ่าน | ความหมาย |
---|---|---|
Animal print | /ˈænɪmᵊl prɪnt/ | ลายสัตว์ คล้ายลวดลายของขน ผิวหนัง เกล็ด ฯลฯ ของสัตว์ |
Argyle | /ɑː’ɡaɪl/ | ลายเพชร รูปมะกอกเกลื้อน |
Basket weave | /ˈbɑːskɪt weɪv/ | ลายสานตะกร้า ลายเส้นไขว้ |
Camouflage / Camo | /ˈkæmʊflɑːʒ/ | ลายพราง แรงบันดาลใจจากเครื่องแบบทหาร ผสมผสานสีน้ำเงิน น้ำตาล และดำ |
Checked / Checkered | /ʧɛkt / /ˈʧɛkəd/ | ตารางหมากรุก ลายทาร์ทัน มี 2 สีสลับกัน |
Floral | /ˈflɔːrəl/ | ลายดอกไม้ |
Geometric | /ʤiːəˈmɛtrɪk/ | รูปทรงเรขาคณิต ลวดลายที่มีรูปร่างและเส้นสม่ำเสมอ |
Herringbone | /ˈhɛrɪŋbəʊn/ | ลายก้างปลา มีเส้นแนวตั้งซิกแซก |
Houndstooth | /haʊndztuːθ/ | ลายเขี้ยวหมา ตัวแปรของลายทาร์ทัน มุมทั้ง 4 มีรอยบาก |
Illusion | /ɪˈluːʒᵊn/ | ลวดลายภาพลวงตา รูปแบบใดๆ ก็ตามที่สร้างภาพลวงตา มักสร้างขึ้นโดยใช้เส้นเล็กๆ ที่อยู่ใกล้กันมาก |
Paisley | /ˈpeɪzli/ | รูปแบบเส้นโค้งเหมือนขนนก |
Pinstripe | /ˈpɪnstraɪp/ | ลายเส้นบาง ๆ |
Pixelated | /‘pɪkleɪtɪd/ | จุดที่เล็กที่สุดที่รวมตัวกันเป็นภาพ |
Plaid | /plæd/ | ลายตาราง มีความกว้างต่างกัน หนึ่ง สอง หรือสามสี |
Plain | /pleɪn/ | เรียบง่ายไม่มีลวดลายตกแต่ง |
Polka dot | /ˈpɒlkə dɒt/ | ลายจุดเล็กๆ |
Ribbed | /rɪbd/ | ลายริ้ว ลายทาง ลายนูน |
Squiggly | /‘skwɪg.ᵊli/ | เส้นคลื่นและบิดเบี้ยว |
Stripy / Striped | /straɪpi /straɪpt/ | เป็นริ้ว, เป็นลายยาว |
Tartan | /ˈtɑːtᵊn/ | ลายตาราง ลายสก็อต |
Tie-dye | /taɪ-daɪ/ | ลายมัดย้อม |
Wavy | /ˈweɪvi/ | เส้นคลื่น |
Zigzag | /ˈzɪɡzæɡ/ | รูปตัว ‘Z’ เส้นคดเคี้ยว |
คำศัพท์บอกลักษณะ ขนาดของรูปร่าง ภาษาอังกฤษ

>>> Read more: รวบรวม 150+ คำศัพท์เครื่องเขียนภาษาอังกฤษที่ใช้บ่อยที่สุด
ภาษาอังกฤษ | คำอ่าน | ความหมาย |
---|---|---|
Big | /bɪɡ/ | ใหญ่ |
Breadth | /brɛdθ/ | ความกว้าง |
Broad | /brɔːd/ | กว้าง |
Bulky | /ˈbʌlki/ | เทอะทะ |
Colossal | /kəˈlɒsᵊl/ | มหึมา |
Diminutive | /dɪˈmɪnjətɪv/ | จิ๋ว |
Gargantuan | /ɡɑːˈɡænʧuən/ | มโหฬาร |
Giant | /ˈʤaɪᵊnt/ | ยักษ์ |
Grand | /ɡrænd/ | ยิ่งใหญ่ |
Great | /ɡreɪt/ | ยิ่งใหญ่ |
High | /haɪ/ | สูง |
Huge | /hjuːʤ/ | ใหญ่โต |
Immeasurable | /ɪˈmɛʒᵊrəbᵊl/ | วัดไม่ได้ |
Immense | /ɪˈmɛns/ | มหึมา |
Large | /lɑːʤ/ | ใหญ่โต |
Length | /lɛŋθ/ | ความยาว |
Life-size | /ˈlaɪfˈsaɪz/ | ขนาดเท่าของจริง |
Long / Short | /lɒŋ / ʃɔːt/ | ยาว / สั้น |
Mammoth | /ˈmæməθˌ/ | มหึมา |
Massive | /ˈmæsɪv/ | มหึมา |
Microscopic | /maɪkrəsˈkɒpɪk/ | เล็กมาก มองเห็นได้เฉพาะด้วยกล้องจุลทรรศน์เท่านั้น |
Midget | /ˈmɪʤɪt/ | เล็กมาก |
Miniature | /ˈmɪnəʧə/ | เล็กกว่าปกติ |
Minuscule | /ˈmɪnəskjuːl / | จิ๋ว |
Monumental | /ˌmɒnjəˈmɛntᵊl/ | ยิ่งใหญ่ |
Oversize | /ˈəʊvəsaɪz/ | ใหญ่โต |
/ˈpɒkɪt/ | ขนาดเล็กกว่าปกติ ใส่กระเป๋าได้ | |
Sizeable | /ˈsaɪzəbᵊl / | ค่อนข้างใหม่ |
Sky-high | /ˈskaɪˈhaɪ/ | สูงมาก |
Small | /smɔːl/ | เล็ก |
Tiny | /ˈtaɪ.ni/ | จ้อย จิ๋ว |
Tall / Low | /tɔːl/ /ləʊ/ | สูง / ต่ำ |
Teeny | /ˈtiːni/ | เล็กจิ๋ว |
Thin | /θɪn/ | บาง |
Thumping | /ˈθʌmpɪŋ/ | ใหญ่โตมาก |
Titanic | /taɪˈtænɪkˌ/ | มหึมา |
Towery | /‘touərɪ/ | สูงตระหง่าน |
Undersized | /ʌndəˈsaɪzd/ | เล็กเกินไป |
Vast | /vɑːst/ | กว้างใหญ่ |
Weeny | /‘wi:ni// | จิ๋ว |
Whopping | /ˈwɒpɪŋ/ | มโหฬาร |
Wide | /waɪd/ | กว้าง |
Width | /wɪdθ/ | ความกว้าง |
วลีและสำนวนภาษาอังกฤษทางเรขาคณิต
สำนวน/วลี | ความหมาย | ตัวอย่าง |
---|---|---|
a small frog in a big pond | คนตัวเล็กหรือมีบทบาทเล็กน้อยในสภาพแวดล้อมที่ใหญ่ | Working as an intern at a multinational corporation can sometimes make you feel like a small frog in a big pond. (การเป็นนักศึกษาฝึกงานในบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลก บางครั้งทำให้คุณรู้สึกเหมือนกบตัวเล็กในสระน้ำใหญ่) |
a thin line between love and hate | ความรักและความเกลียดมันใกล้เคียงกันมาก | There’s often a thin line between love and hate, and relationships can change unexpectedly. (มักจะมีเส้นบาง ๆ ระหว่างความรักกับความเกลียดชัง และความสัมพันธ์ก็สามารถเปลี่ยนแปลงได้อย่างไม่คาดคิด) |
all shapes and sizes | ทุกทรวดทรงและทุกไซส์ | Our store offers clothing in all shapes and sizes to cater to a diverse customer base. (ร้านของเราจำหน่ายเสื้อผ้าหลากหลายรูปแบบและขนาด เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่หลากหลาย) |
as high as a kite | มีความสุข ตื่นเต้น บางครั้งก็ทำตัวงี่เง่า (เนื่องจากแอลกอฮอล์ ยาเสพติด) | After receiving the good news, she was as high as a kite all day. (หลังจากได้รับข่าวดี เธอมีความสุขและตื่นเต้นตลอดทั้งวัน) |
as large as life | ชัดเจนมากและน่าประหลาดใจ เมื่อได้เห็นใครบางคน | I turned the corner and there he was, as large as life, standing right in front of me. (ฉันเลี้ยวตรงหัวมุมถนน แล้วเขาก็ยืนอยู่ตรงนั้น ชัดเจนแบบนั้น อยู่ตรงหน้าฉันเลย) |
big as all outdoors | กว้างใหญ่มาก | The conference hall was big as all outdoors, accommodating thousands of attendees. (ห้องประชุมกว้างใหญ่เหมือนกลางแจ้ง สามารถรองรับผู้เข้าร่วมงานได้หลายพันคน) |
beat (one) hollow | เอาชนะอย่างเด็ดขาด | In the chess match, she beat her opponent hollow with a series of strategic moves. (ในการแข่งขันหมากรุก เธอเอาชนะคู่แข่งอย่างเด็ดขาดด้วยชุดการเดินหมากที่มีกลยุทธ์) |
fair and square | ยุติธรรมอย่างสมบูรณ์ | The referee ensured that the game was played fair and square, with no favoritism. (ผู้ตัดสินได้ทำให้มั่นใจว่าเกมการแข่งขันดำเนินไปอย่างยุติธรรมสมบูรณ์ โดยไม่มีการลำเอียง) |
in round figures | ตัวเลขที่ถูกปัดขึ้น | Can you give me an estimate of the project cost in round figures? (คุณสามารถให้ประมาณการค่าใช้จ่ายของโครงการโดยใช้ตัวเลขที่ถูกปัดขึ้นได้ไหม?) |
look someone square in the eye | จ้องตาตรง ๆ กับใครบางคน | He had the courage to look the accuser square in the eye. (เขามีความกล้าหาญที่จะจ้องตาตรง ๆ กับผู้ที่กล่าวหามา) |
mammoth task | ภารกิจที่ยิ่งใหญ่และยากมาก | Transforming the outdated IT infrastructure of the company proved to be a mammoth task. (การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีที่ล้าสมัยของบริษัทพิสูจน์ว่า เป็นภารกิจที่ยิ่งใหญ่และยากมาก) |
round on someone | หันกลับไปและโจมตี; ตอบโต้ผู้ที่วิจารณ์ | She decided to round on her accuser with a passionate defense. (เธอตัดสินใจโต้กลับผู้ที่กล่าวหาด้วยการปกป้องตัวเองอย่างเต็มที่และเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น) |
square meal | มื้ออาหารที่หรูหรา | He treated himself to a square meal at his favorite restaurant. (เขาเลี้ยงฉันด้วยมื้ออาหารที่หรูหราที่ร้านอาหารที่โปรด) |
teeny-tiny | เล็ก | The tiny cottage in the woods was teeny-tiny, but it had a cozy charm. (บ้านไม้เล็ก ๆ ในป่าถึงจะเล็ก แต่ก็มีเสน่ห์อบอุ่น) |
tall drink of water | คนสูงและเพรียว | When the tall drink of water entered the room, heads turned to admire her. (เมื่อผู้หญิงรูปร่างสูงเพรียวเดินเข้าไปในห้อง ทุกคนหันมามองเธอ) |
vicious circle | วงจรที่หมุนวน | Unemployment creates a vicious circle of poverty. (การว่างงานสร้างวงจรที่หมุนวนของความยากจน) |
wide awake | ตื่นตัวอย่างเต็มที่ | The excitement of the party kept her wide awake. (ความตื่นเต้นจากงานปาร์ตี้ ทำให้เธอตื่นตัวอย่างเต็มที่) |
wide of the mark | ผิดพลาด, ไม่ถูกต้อง | His estimate of the project cost was wide of the mark. (การประมาณการค่าใช้จ่ายของโครงการของเขาผิดพลาด) |
คำถามและคำตอบภาษาอังกฤษทางเรขาคณิตที่พบบ่อย

ตัวอย่างคำถาม | ตัวอย่างคำตอบ |
---|---|
What shape is this? (รูปร่างนี้คืออะไร?) | This is a circle shape. (นี่คือวงกลม) |
What shape is that? (รูปร่างนั้นคืออะไร?) | That’s a star shape. (นั่นเป็นรูปดาว) |
What shape is the table? (โต๊ะมีรูปร่างอย่างไร?) | The table is rectangular. (โต๊ะมีรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า) |
What shape is the ball? (ลูกบอลมีรูปร่างอย่างไร?) | The ball is spherical. (ลูกบอลมีลักษณะเป็นทรงกลม) |
What shape is an orange? (ส้มมีรูปร่างอย่างไร?) | Oranges are spherical. (ส้มมีลักษณะเป็นทรงกลม) |
What shape is the water bottle? (ขวดน้ำมีรูปร่างอย่างไร?) | The water bottle is cylindrical. (ขวดน้ำมีลักษณะเป็นทรงกระบอก) |
แบบฝึกหัด เรื่อง รูปร่าง ภาษาอังกฤษ
เลือกคำตอบที่ดีที่สุดเพื่อทำให้ประโยคสมบูรณ์
1. A pizza is shaped like a ___.
A. Circle
B. Circular
C. Triangle
2. Traffic signs are ___.
A. Diamond
B. Oval
C. Triangular
3. ___ is a shape whose every side is the same length.
A. A circle
B. A rectangle
C. Square
4. The shape of a red STOP sign is ___.
A. An octagon
B. A square
C. A star
5. Most eggs are ___.
A. Star
B. Oval
C. Triangle
เฉลย
1. A | 2. C | 3. C | 4. A | 5. B |
คำถามและคำตอบภาษาอังกฤษทางเรขาคณิตที่พบบ่อย
สัดส่วนรูปร่าง ภาษาอังกฤษ
สัดส่วน | บรรยาย | ตัวอย่าง |
---|---|---|
Equal | เท่ากัน | The sides of a square are equal. (ด้านของรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสมีด้านเท่ากัน) |
Proportional | สัดส่วนกัน | The two rectangles are proportional in size. (สี่เหลี่ยมผืนผ้าสองรูปนั้นมีสัดส่วนกัน) |
Twice as | สองเท่า | This rectangle is twice as long as the square. (สี่เหลี่ยมผืนผ้านี้มีความยาวสองเท่าของรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส) |
Half the size | ครึ่งหนึ่ง | The second triangle is half the size of the first one. (สามเหลี่ยมที่สองมีขนาดครึ่งหนึ่งของสามเหลี่ยมแรก) |
Larger/smaller | ใหญ่กว่า/เล็กกว่า | The circle is smaller than the square. (วงกลมมีขนาดเล็กกว่าสี่เหลี่ยมจัตุรัส) |
Ratio | อัตราส่วน | The ratio of the length to the width of the rectangle is 2:1. (อัตราส่วนระหว่างความยาวและความกว้างของสี่เหลี่ยมผืนผ้า คือ 2:1) |
Symmetrical | สมมาตร | The square is symmetrical on all sides. (รูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสมีความสมมาตรทุกด้าน) |
As big as | มีขนาดเท่ากับ | The square is as big as the rectangle. รูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสมีขนาดเท่ากับรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า) |
สามเหลี่ยมภาษาอังกฤษ
สามเหลี่ยมภาษาอังกฤษ คือ Triangle
คำอ่าน: /ˈtraɪæŋɡəl/
ตัวอย่าง: A triangle has three sides. (สามเหลี่ยมมีสามด้าน)
สี่เหลี่ยมผืนผ้า ภาษาอังกฤษ
สี่เหลี่ยมผืนผ้า ภาษาอังกฤษ คือ Rectangle
คำอ่าน: /ˈrɛktæŋɡəl/
ตัวอย่าง: A rectangle has four right angles. (สี่เหลี่ยมผืนผ้ามีมุมฉากสี่มุม)
สี่เหลี่ยมผืนผ้ามีมุมฉากสี่มุม
สี่เหลี่ยมผืนผ้ามีมุมฉากสี่มุม คือ Square
คำอ่าน: /skwɛər/
ตัวอย่าง: A square has four equal sides. (สี่เหลี่ยมผืนผ้ามีมุมฉากสี่มุมมีสี่ด้านเท่ากัน)
วงรีภาษาอังกฤษ
วงรีภาษาอังกฤษ คือ Oval
คำอ่าน: /ˈoʊvəl/
ตัวอย่าง: The ball is oval-shaped. (ลูกบอลมีรูปร่างเป็นวงรี)
วงกลมภาษาอังกฤษ
วงกลมภาษาอังกฤษ คือ Circle
คำอ่าน: /ˈsɜːrkəl/
ตัวอย่าง: The table is in the shape of a circle. (โต๊ะนี้เป็นทรงกลม)

หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้คุณได้เรียนรู้คำศัพท์รูปร่าง ภาษาอังกฤษที่น่าสนใจ พร้อมทั้งการออกเสียงที่ถูกต้องและประโยคที่จำง่าย อย่าลืมฝึกฝนกับ ELSA Speak เป็นประจำเพื่อพัฒนาปฏิกิริยาตอบสนองตามธรรมชาติและมีความมั่นใจมากขึ้นในการสื่อสาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้วยแพ็คเกจ ELSA คุณจะได้สัมผัสกับฟีเจอร์ขั้นสูงที่ช่วยพัฒนาทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษของคุณได้อย่างรวดเร็ว
ของใช้ส่วนตัวเป็นสิ่งของจำเป็นที่ต้องมีและใช้ในชีวิตประจำวันของทุกคน แต่บางทีคำศัพท์เกี่ยวกับของใช้ส่วนตัว ภาษาอังกฤษกลายเป็นปัญหาในการเรียนภาษาอังกฤษของหลายๆ คน ด้วยรายชื่อคำศัพท์ที่ได้รวบรวมโดย ELSA Speak ซึ่งจะช่วยคุณจดจำชื่อและนำมาใช้อย่างมีประสิทธิภาพในการสื่อสาร ท่องเที่ยวและสภาพแวดล้อมการทำงานระหว่างประเทศ
Personal belongings แปลว่า?
personal belongings คือ สิ่งของที่เป็นของใช้ส่วนบุคคลของแต่ละคนใช้เพื่อดำเนินชีวิตประจำวัน ซึ่งเป็นของใช้ส่วนตัวและมักใช้ร่วมกับคนอื่นไม่ได้ อีกทั้งยังสะท้อนให้เห็นถึงนิสัยและวิธีใช้ชีวิตของแต่ละคน
ลักษณะบางอย่างของ personal belongings
- เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันอย่างใกล้ชิด (การกิน, ห้องน้ำ, แต่งกาย, ทำงาน…)
- มักพกติดตัวไว้เสมอหรือใช้ที่บ้าน
- นำมาใช้ส่วนตัว- ไม่ค่อยแบ่งให้ผู้อื่นใช้ร่วม
- ประกอบด้วยของใช้จำเป็นและอุปกรณ์เสริมส่วนตัว
ตัวอย่างเกี่ยวกับของใช้ส่วนตัว:
- Wallet (กระเป๋าสตางค์); Phone (โทรศัพท์มือถือ); Headphones (หูฟัง)
- Clothes (เสื้อผ้า); Shoes (รองเท้า); Glasses (แว่นตา)
- Toothbrush (แปรงสีฟัน); Comb (หวี); Towel (ผ้าเช็ดหน้า)
- Cosmetics (เครื่องสำอาง); Perfume (น้ำหอม); Sunscreen (ครีมกันแดด)
- Laptop (แล็ปท็อป); Notebook (สมุดบันทึก); Pen (ปากกา); Books (หนังสือ)
คําศัพท์ ของใช้ส่วนตัว ภาษาอังกฤษที่ใช้ทั่วไป
คําศัพท์ ของใช้ส่วนตัว ภาษาอังกฤษ ในประจำวัน

>>> Read more: รวมคำศัพท์ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับโรงเรียนเพื่อช่วยให้คุณสื่อสารได้อย่างมั่นใจ
ภาษาอังกฤษ | ถอดเสียง | แปล |
---|---|---|
Wallet | /ˈwɒl.ɪt/ | กระเป๋าสตางค์ |
Card | /kɑːd/ | บัตร |
Key | /kiː/ | กุญแจ |
Phone | /fəʊn/ | โทรศัพท์มือถือ |
Headphones | /ˈhed.fəʊnz/ | หูฟัง |
Watch | /wɒtʃ/ | นาฬิกาข้อมือ |
Glasses | /ˈɡlɑː.sɪz/ | แว่นตา |
Face mask | /feɪs mɑːsk/ | หน้ากากอนามัย |
Hand sanitizer | /hænd ˈsæn.ɪ.taɪ.zər/ | สบู่ล้างมือ |
คำศัพท์ ของใช้ส่วนตัว ภาษาอังกฤษ เกี่ยวกับเสื้อผ้า

ภาษาอังกฤษ | ถอดเสียง | แปล |
---|---|---|
Anorak | /ˈæn.ə.ræk/ | เสื้อแจ็คเก็ตมีฮู้ด |
Apron | /ˈeɪ.prən/ | ผ้ากันเปื้อน |
Baseball cap | /ˈbeɪs.bɔːl kæp/ | หมวกเก๊บ |
Belt | /belt/ | เข็มขัด |
Bikini | /bɪˈkiː.ni/ | ชุดว่ายน้ำผู้หญิง (บิกินี่หญิง) |
Blazer | /ˈbleɪ.zər/ | สูท |
Blouse | /blaʊz/ | เสื้อเชิ้ตผู้หญิง |
Boots | /buːts/ | รองเท้าบูท |
Bow tie | /boʊ taɪ/ | หูกระต่าย |
Boxer shorts | /ˈbɒk.sər ʃɔːrts/ | กางเกงบ็อกเซอร์ |
Bra | /brɑː/ | บราผู้หญิง |
Cardigan | /ˈkɑː.dɪ.ɡən/ | เสื้อคาร์ดิแกน |
Coat | /kəʊt/ | เสื้อคลุม |
Dinner jacket | /ˈdɪn.ər ˈdʒæk.ɪt/ | สูทสั้นที่ไม่มีหาง |
Dress | /dres/ | กระโปง |
Dressing gown | /ˈdres.ɪŋ ɡaʊn/ | เสื้อคลุมอาบน้ำ |
Gloves | /ɡlʌvz/ | ถุงมือ |
Hat | /hæt/ | หมวก |
High heels | /haɪ hiːlz/ | รองเท้าส้นสูง |
Jeans | /dʒiːnz/ | กางเกงยีนส์ |
Jumper | /ˈdʒʌm.pər/ | เสื้อไหมพรม |
Knickers | /ˈnɪk.ərz/ | กางเกงในหญิง |
Leather jacket | /ˈleð.ər ˈdʒæk.ɪt/ | เสื้อหนัง |
Miniskirt | /ˈmɪn.iˌskɜːt/ | กระโปงสั้น |
Nightie | /ˈnaɪ.ti/ | ชุดราตรี |
Overalls | /ˈoʊ.vər.ɔːlz/ | กางเกงกระบอก |
Overcoat | /ˈoʊ.vər.kəʊt/ | เสื้อคลุมใหญ่ |
Pullover | /ˈpʊl.oʊ.vər/ | เสื้อที่ถอดออกทางศรีษะ |
Pyjamas | /pɪˈdʒɑː.məz/ | ชุดนอน |
Raincoat | /ˈreɪn.kəʊt/ | เสื้อกันฝน |
Sandals | /ˈsæn.dəlz/ | รองเท้ารัดส้น รองเท้าแตะ |
Scarf | /skɑːf/ | ผ้าพันคอ |
Shirt | /ʃɜːt/ | เสื้อเชิ้ต |
Shoelace | /ˈʃuː.leɪs/ | เชือกผูกรองเท้า |
Shoes | /ʃuːz/ | รองเท้า |
Shorts | /ʃɔːrts/ | กางเกงขาสั้น |
Skirt | /skɜːt/ | กระโปง |
Slippers | /ˈslɪp.ərz/ | รองเท้าตะในบ้าน |
Socks | /sɒks/ | ถุงเท้า |
Stilettos | /stɪˈlet.əʊz/ | รองเท้าส้นเข็ม |
Stockings | /ˈstɒk.ɪŋz/ | ถุงเท้ายาว |
Suit | /suːt/ | ชุดสูท |
Sweater | /ˈswetər/ | เสื้อไหมพรม |
Swimming costume | /ˈswɪmɪŋ ˈkɒstjuːm/ | ชุดว่ายน้ำผู้หญิง |
Swimming trunks | /ˈswɪmɪŋ trʌŋks/ | กางเกงว่ายน้ำผู้ชาย |
Thong | /θɒŋ/ | กางเกงในจีสตริง |
Tie | /taɪ/ | เนกไท |
Tights | /taɪts/ | ถุงน่อง |
Top | /tɒp/ | เสื้อคลุม |
Tracksuit | /ˈtræk.suːt/ | ชุดเล่นกีฬา |
Trainers | /ˈtreɪ.nərz/ | รองเท้ากีฬา |
Trousers | /ˈtraʊ.zərz/ | กางเกงขายาว |
T-shirt | /ˈtiːʃɜːt/ | เสื้อยืด |
Underpants | /ˈʌn.dəˌpænts/ | กางเกงในผู้ชาย |
Vest | /vest/ | เสื้อกล้าม |
Wellingtons | /ˈwelɪŋtənz/ | บูทยาง |
คำศัพท์ ของใช้ส่วนตัว ภาษาอังกฤษ เกี่ยวกับอุปกรณ์เสริม

>>> Read more: รวบรวม 150+ คำศัพท์เครื่องเขียนภาษาอังกฤษที่ใช้บ่อยที่สุด
ภาษาอังกฤษ | ถอดเสียง | แปล |
---|---|---|
Sunglasses | /ˈsʌnɡlɑːzɪz/ | แว่นกันแดด |
Hat | /hæt/ | หมวก |
Scarf | /skɑːf/ | ผ้าพันคอ |
Tie | /taɪ/ | เนกไท |
Bow tie | /boʊ taɪ/ | หูกระต่าย |
Gloves | /ɡlʌvz/ | ถูงมือ |
Belt | /belt/ | เข็มขัด |
Socks | /sɒks/ | ถูงเท้า |
Earrings | /ˈɪərɪŋz/ | ต่างหู |
Necklace | /ˈnɛkləs/ | สร้อยคอ |
Bracelet | /ˈbreɪslət/ | กำไลมือ |
Ring | /rɪŋ/ | แหวน |
Purse | /pɜːrs/ | กระเป๋าถือสตรี (ผู้หญิง) |
Handbag | /ˈhændbæɡ/ | กระเป๋าถือ |
Backpack | /ˈbækˌpæk/ | กระเป๋าเป้สะพายหลัง |
Umbrella | /ʌmˈbrɛlə/ | ร่ม |
Cap | /kæp/ | หมวกเก๊บ |
Beanie | /ˈbiːni/ | หมวกไหมพรม |
Brooch | /broʊʧ/ | เข็มติดเสื้อ |
Cufflinks | /ˈkʌflɪŋks/ | กระดุมข้อมือ |
Pocket watch | /ˈpɒkɪt wɒʧ/ | นาฬิกาพก |
Bandana | /bænˈdænə/ | ผ้าพันคอแบบบันดานา |
Fanny pack | /ˈfænɪ pæk/ | กระเป๋าคาดเอว |
Scrunchie | /ˈskrʌntʃi/ | ยางรัดผม |
คำศัพท์ ของใช้ส่วนตัว ภาษาอังกฤษ เกี่ยวกับของทำความสะอาดร่างกาย

ภาษาอังกฤษ | ถอดเสียง | แปล |
---|---|---|
Bath towel | /bɑːθtaʊəl/ | ผ้าอาบน้ำ |
Bleach | /bliːtʃ/ | น้ำยาฟอกขาว |
Broom | /bruːm/ | ไม้กวาด |
Clothesline | /kləʊðz laɪn/ | ราวแขวนเสื้อ |
Clothespin | /kləʊðz pɪn/ | ไม้หนีบผ้า |
Comb | /kəʊm/ | หวี |
Dirty clothes hamper | /ˈdɜː.ti kləʊðz ˈhæm.pəʳ/ | ตะกร้าเพื่อใส่เสื้อผ้าที่สกปรก |
Dryer | /ˈdraɪ.əʳ/ | เครื่องทำแห้ง |
Dustpan | /ˈdʌst.pæn/ | ที่โกยผง |
Fly swatter | /flaɪz ‘swɔtə/ | ไม้ตีแมลงวัน |
Garbage / Trash | /ˈgɑː.bɪdʒ/ /træʃ/ | ขยะ |
Hanger | /ˈhæŋ.əʳ/ | ไม้แขวนเสื้อ |
Iron | /aɪən/ | เตารีดผ้า |
Ironing board | /ˈaɪə.nɪŋ bɔːd/ | โต๊ะรีดผ้า |
Lighter | /ˈlaɪ.təʳ/ | ไฟแช็ก |
Matchbook | /’mætʃbʊk/ | ไม้ขีดไฟ |
Mop | /mɒp/ | ไม้ถูพื้น |
Mouthwash | /ˈmaʊθwɒʃ/ | น้ำยาป้วนปาก |
Razor | /’reizə/ | มีดโกนหนวด |
Scrub brush | /skrʌb brʌʃ/ | แปรงซักผ้า |
Shampoo | /ʃæmˈpuː/ | ยาสระผม |
Sink | /sɪŋk/ | อ่างล้างหน้า |
Soap | /səʊp/ | สบู่ |
Sponge | /spʌndʒ/ | ฟองน้ำ |
Spray bottle | /spreɪ ˈbɒt.ɫ/ | ขวดสเปรย์ |
Towel | /’tauəl/ | ผ้าอาบน้ำ |
Trash bag | /træʃ bæg/ | ถุงใส่ขยะ |
Trash can | /træʃ kæn/ | ถังขยะ |
Vacuum cleaner | /ˈvæk.juːm ˈkliː.nəʳ/ | เครื่องดูดฝุ่น |
Washcloth | /ˈwɒʃ.klɒθ/ | ผ้าเช็ดหน้า |
Washing machine | /wɑʃɪŋ məˈʃiːn/ | เครื่องซักผ้า |
Conditioner | /kənˈdɪʃənər/ | ครีมนวดผม |
Lotion | /ˈləʊʃən/ | ครีมบำรุงผิว |
Hairbrush | /ˈheə.brʌʃ/ | หวี |
Toothbrush | /ˈtuːθ.brʌʃ/ | แปรงสีฟัน |
Toothpaste | /ˈtuːθ.peɪst/ | ยาสีฟัน |
Dental floss | /ˈdentəl flɒs/ | ไหมขัดฟัน |
Shaving cream | /ˈʃeɪvɪŋ kriːm/ | ครีมโกนหนวด |
Deodorant | /diˈoʊdərənt/ | ที่ระงับกลิ่นกาย |
Nail clipper/Nail scissors | /ˈneɪl ˈklɪpər/ | กรรไกรตัดเล็บ |
Tweezers | /ˈtwiːzərz/ | แหนบเล็ก |
Toilet paper | /ˈtɔɪ.lət ˌpeɪ.pər/ | กระดาษชำระ |
Mirror | /ˈmɪr.ər/ | กระจก |
Electric razor | /ɪˈlek.trɪk ˈreɪ.zər/ | เครื่องโกนหนวดไฟฟ้า |
Face cloth | /ˈfeɪs klɒθ/ | ผ้าเช็ดหน้า |
Hairspray | /ˈheəˌspreɪ/ | สเปรย์ฉีดผม |
Barrettes | /bærˈɛts/ | กิ๊บติดผม |
Sanitary pad | /ˈsænɪtɛri pæd/ | ผ้าอนามัย |
Mouth spray | /maʊθ spreɪ/ | ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นปาก |
Tissue paper | /ˈtɪʃuː ˈpeɪpər/ | กระดาษทิชชู |
Waterless Hand Sanitizer | /ˈwɔːtərləs hænd ˈsænɪtaɪzər/ | เจลล้างมือแบบไม่ใช้น้ำ |
Sunscreen | /ˈsʌnskriːn/ | ครีมกันแดด |
Mosquito Repellent Spray | /məˈskɪtəʊ rɪˈpɛlənt spreɪ/ | สเปรย์กันยุง |
Shower gel | /ˈʃaʊə dʒɛl/ | ครีมอาบน้ำ |
Body lotion | /ˈbɒdi ˈləʊʃən/ | ครีมทาผิว |
Perfume | /ˈpɜːfjuːm/ | น้ำหอม |
Aftershave | /ˈɑːftəˌʃeɪv/ | น้ำยาหลังจากที่โกนหนวด |
Facial cleanser | /ˈfeɪʃəl ˈklɛnzər/ | ครีมล้างหน้า (ทำความสะอาดผิวหน้า) |
Moisturizer | /ˈmɔɪstʃəraɪzər/ | ครีมบำรุงผิว |
Electric shaver | /ɪˈlɛktrɪk ˈʃeɪvər/ | เครื่องโกนหนวดไฟฟ้า |
Nail file | /neɪl faɪl/ | ตะไบเล็บ |
Scissors | /ˈsɪzəz/ | กรรไกร |
Bobby pins | /ˈbɒbi pɪnz/ | กิ๊บติดผม |
Hair clips | /heə klɪps/ | กิ๊บติดผม |
Hair gel | /heə dʒɛl/ | เจลแต่งผม |
Hair dryer | /heə ˈdraɪə/ | เครื่องเป่าผม |
Nail brush | /neɪl brʌʃ/ | แปรงขัดเล็บ |
Hand lotion | /hænd ˈləʊʃən/ | ครีมทามือ |
Hand mirror | /hænd ˈmɪrə/ | กระจกส่องหน้า |
Nail polish | /neɪl ˈpɒlɪʃ/ | ยาทาเล็บ |
Nail polish remover | /neɪl ˈpɒlɪʃ rɪˈmuːvə/ | น้ำยาล้างเล็บ |
Makeup | /ˈmeɪkʌp/ | เครื่องสำอาง |
Base/foundation | /beɪs/ /faʊnˈdeɪʃən/ | ครีมรองพื้น |
Blush/rouge | /blʌʃ/ /ruːʒ/ | ปัดแก้ม |
Lipstick | /ˈlɪpstɪk/ | ลิปสติก |
Eye shadow | /aɪ ˈʃædəʊ/ | พาเลทตา (อายแชโดว์) |
Razor blades | /ˈreɪzər bleɪdz/ | ใบมีดโกน |
Shoe polish | /ʃuː ˈpɒlɪʃ/ | ครีมขัดรองเท้า |
Shower cap | /ˈʃaʊər kæp/ | หมวกคลุมผมอาบน้ำ |
After shave | /ˈɑːftər ʃeɪv/ | น้ำยาหลังโกนหนวด (เป็นผลิตภัณฑ์ใช้หลังจากโกนหนวดเพื่อช่วยบำรุงผิวและระงับกลิ่น) |
Emery board | /ˈɛməri bɔːrd/ | ตะไบเล็บกระดาษทราย |
Panties | /ˈpæntiz/ | กางเกงในผู้หญิง |
Bra | /brɑː/ | บราผู้หญิง |
คำศัพท์ ของใช้ส่วนตัว ภาษาอังกฤษ เกี่ยวกับของใช้อำนวยความสะดวก/เทคโนโลยี

>>> Read more: คำศัพท์เกี่ยวกับชื่อวิชาภาษาอังกฤษ (subject) ที่พบบ่อยพร้อมวิธีอ่าน
ภาษาอังกฤษ | ถอดเสียง | แปล |
---|---|---|
Smartphone | /ˈsmɑːtfəʊn/ | โทรศัพท์มือถือ |
Laptop | /ˈlæptɒp/ | แล็บท็อป |
Power bank | /ˈpaʊə(r) bæŋk/ | แบตสำรอง |
Bluetooth speaker | /ˈbluːtuːθ ˈspiːkər/ | ลำโพงบลูทูธ |
Tablet | /ˈtæblət/ | แท็บเล็ต |
Smartwatch | /ˈsmɑːtˌwɒtʃ/ | นาฬิกาอัจฉริยะ |
Earbuds | /ˈɪəˌbʌdz/ | หูฟังไร้สาย |
Charger | /ˈtʃɑːdʒər/ | สายชาร์จ |
Portable fan | /ˈpɔːtəbl fæn/ | พัดลมพกพา |
USB drive | /ˈjuːɛsbiː draɪv/ | ยูเอสบีไดรฟ์ |
Smart speaker | /ˈsmɑːt ˈspiːkər/ | ลำโพงอัจฉริยะ |
Camera | /ˈkæmərə/ | กล้องถ่ายรูป |
Electric toothbrush | /ɪˈlɛktrɪk ˈtuːθbrʌʃ/ | แปรงสีฟันไฟฟ้า |
Fitness tracker | /ˈfɪtnəs ˈtrækər/ | อุปกรณ์ติดตามสุขภาพ |
คำศัพท์ ของใช้ส่วนตัว ภาษาอังกฤษ เกี่ยวกับของใช้ในการเรียน/การทำงาน
ภาษาอังกฤษ | ถอดเสียง | แปล |
---|---|---|
Notebook | /ˈnəʊtbʊk/ | สมุดจด |
Pen | /pɛn/ | ปากกา |
Pencil | /ˈpɛnsəl/ | ดินสอ |
Eraser | /ɪˈreɪzər/ | ยางลบ |
Highlighter | /ˈhaɪˌlaɪtə(r)/ | ปากกาเน้นข้อความ |
Ruler | /ˈruːlər/ | ไม้บรรทัด |
Sharpener | /ˈʃɑːpənər/ | กบเหลาดินสอ |
Marker | /ˈmɑːrkər/ | ปากกาเมจิก |
Paperclip | /ˈpeɪpərklɪp/ | คลิปหนีบกระดาษ |
Stapler | /ˈsteɪplər/ | เครื่องเย็บกระดาษ |
Sticky notes | /ˈstɪki nəʊts/ | กระดาษโน้ตมีกาว |
File | /faɪl/ | ซองเอกสาร |
Folder | /ˈfəʊldər/ | ถุงใส่เอกสาร แฟ้มใส่เอกสาร |
Calculator | /ˈkælkjʊleɪtə(r)/ | เครื่องคิดเลข |
Desk | /dɛsk/ | โต้ะทำงาน |
Chair | /tʃɛər/ | เก้าอี้ |
Printer | /ˈprɪntər/ | เครื่องพิมพ์ |
Whiteboard | /ˈwaɪtbɔːrd/ | กระดานไวท์บอร์ด |
Bullet journal | /ˈbʊlɪt ˈdʒɜːrnəl/ | สมุดบันทึกแบบมีจุด (เขียนเป้าหมาย วางแผนรายวัน) |
Binder | /ˈbaɪndər/ | แฟ้มห่วง |
คำศัพท์ ของใช้ส่วนตัว ภาษาอังกฤษ เกี่ยวกับการท่องเที่ยว/เคลื่อนย้าย
ภาษาอังกฤษ | ถอดเสียง | แปล |
---|---|---|
Luggage | /ˈlʌɡɪdʒ/ | สัมภาระ |
Suitcase | /ˈsuːtkeɪs/ | กระเป๋าเดินทาง |
Backpack | /ˈbækpæk/ | กระเป๋าเป้ |
Travel pillow | /ˈtrævəl ˈpɪloʊ/ | หมอนรองคอสำหรับการเดินทาง |
Trolley | /ˈtrɒli/ | รถเข็น (ในสนามบิน, สถานีรถไฟ) |
Passport | /ˈpɑːspɔːt/ | หนังสือเดินทาง |
Ticket | /ˈtɪkɪt/ | ตั๋ว (เครื่องบิน, รถไฟ, รดเมล์) |
Travel adapter | /ˈtrævəl əˈdæptər/ | ปลั๊กแปลงไฟสำหรับเดินทาง (อะแดปเตอร์ท่องเที่ยว) |
Toiletries | /ˈtɔɪəlɪtriz/ | ของใช้ส่วนตัว |
Toothbrush | /ˈtuːθbrʌʃ/ | แปรงสีฟัน |
Shampoo | /ʃæmˈpuː/ | ยาสระผม |
Sunscreen | /ˈsʌnskriːn/ | ครีมกันแดด |
Travel bag | /ˈtrævəl bæɡ/ | กระเป๋าเดินทาง |
Suitcase lock | /ˈsuːtkeɪs lɒk/ | กุญแจล็อกกระเป๋า |
Neck pillow | /nɛk ˈpɪloʊ/ | หมอนรองคอ |
Sleep mask | /sliːp mɑːsk/ | ผ้าปิดตานอน |
Earplugs | /ˈɪəplʌɡz/ | ที่อุดหู |
Water bottle | /ˈwɔːtər ˈbɒtl/ | ขวดน้ำ |
Map | /mæp/ | แผนที่ |
Currency | /ˈkɜːrənsi/ | เงินตรา |
Travel guidebook | /ˈtrævəl ˈɡaɪdbʊk/ | หนังสือแนะนำสถานที่ท่องเที่ยว หรือคู่มือท่องเที่ยว |
คำศัพท์ของใช้ส่วนตัว ภาษาอังกฤษทางการแพทย์/สุขภาพ

ภาษาอังกฤษ | ถอดเสียง | แปล |
---|---|---|
First aid kit | /ˈfɜːrst eɪd kɪt/ | ชุดปฐมพยาบาล |
Bandage | /ˈbændɪdʒ/ | ผ้าพันแผล |
Plaster | /ˈplɑːstər/ | แผ่นปิดแผล |
Painkiller | /ˈpeɪnˌkɪlər/ | ยาแก้ปวด |
Antiseptic | /ˌæntɪˈsɛptɪk/ | ยาฆ่าเชื้อ |
Thermometer | /θəˈmɒmɪtər/ | เครื่องวัดอุณหภูมิ |
Cotton swab | /ˈkɒtn swɒb/ | สำลีก้าน |
Medical mask | /ˈmɛdɪkəl mɑːsk/ | หน้ากากอนามัย |
Syringe | /sɪˈrɪndʒ/ | กระบอกฉีดยา |
Vitamins | /ˈvaɪtəmɪnz/ | วิตามิน |
Cough syrup | /kɒf ˈsɪrəp/ | ยาแก้ไอ (ชนิดน้ำ) |
Eye drops | /aɪ drɒps/ | ยาหยอดตา |
Stethoscope | /ˈstɛθəˌskoʊp/ | หูฟังแพทย์ |
Blood pressure monitor | /blʌd ˈprɛʃər ˈmɒnɪtə(r)/ | เครื่องวัดความดันโลหิต |
Inhaler | /ɪnˈheɪlə(r)/ | ยาสูดพ่น (สำหรับคนที่มีโรคหอบ) ยาดม |
Cold compress | /kəʊld ˈkəmprɛs/ | ที่ประคบเย็น |
Medications | /ˌmɛdɪˈkeɪʃənz/ | ยารักษาโรค |
Ointment | /ˈɔɪntmənt/ | ยาหม่อง |
Health insurance | /hɛlθ ɪnˈʃʊərəns/ | ประกันสุขภาพ |
Sunscreen | /ˈsʌnskriːn/ | ครีมกันแดด |
Muscle relaxant | /ˈmʌsl rɪˈlæksənt/ | ยาคลายกล้ามเนื้อ |
Gloves | /ɡlʌvz/ | ถุงมือแพทย์ |
Scalpel | /ˈskælpəl/ | มีดผ่าตัด |
คำถามที่พบบ่อย
ของใช้ส่วนตัวเรียกว่าอะไร?
ของใช้ส่วนตัว ในภาษาอังกฤษได้เรียกว่า personal items หรือ personal belongings. ทั้งสองคำนี้ชี้ถึงสิ่งของที่บุคคลใช้เพื่อดำเนินเป้าหมายส่วนตัว อย่างเช่น โทรศัพท์มือถือเพื่อโทรหาใครสักคน, กระเป๋าสตางค์, กุญแจ, ของใช้ส่วนบุคคล, เสื้อผ้า เป็นต้น
ตัวอย่าง:
I left my personal items in the car. (ฉันวางไว้ของใช้ส่วนตัวบนรด)
She packed her personal belongings before moving out. (เขาได้จัดของใช้ส่วนตัวเสร็จก่อนที่ย้ายไปอยู่ที่อื่น)
Household Items คืออะไร?
Household items (ของใช้ในบ้าน) เป็นของใช้หรืออุปกรณ์จำเป็นที่ต้องมีในบ้านเพื่อใช้ในชีวิตประจำวัน สิ่งของนี้สามารถประกอบด้วย ของใช้ในห้องครัว ห้องนั่งเล่น ห้องนอน หรือของใช้ทำความสะอาดบ้าน
ภาษาอังกฤษ | ถอดเสียง | แปล |
---|---|---|
Bed | /bɛd/ | เตียง |
Sofa | /ˈsoʊ.fə/ | โซฟา |
Table | /ˈteɪ.bəl/ | โต้ะ |
Chair | /ʧɛr/ | เก้าอี้ |
Wardrobe | /ˈwɔːr.droʊb/ | ตู้เสื้อผ้า |
Pot | /pɒt/ | หม้อ |
Pan | /pæn/ | กระทะ |
Bowl | /boʊl/ | ชามเล็ก |
Plate | /pleɪt/ | จาน |
Spoon | /spuːn/ | ช้อน |
Fork | /fɔːrk/ | ส้อม |
Cup | /kʌp/ | แก้วดื่มน้ำ |
Glass | /ɡlæs/ | แก้วน้ำ |
Broom | /bruːm/ | ไม้กวาด |
Mop | /mɒp/ | ไม้ถูพื้น |
Bucket | /ˈbʌkɪt/ | ถังน้ำ |
Cleaning agent | /ˈkliːnɪŋ ˈeɪdʒənt/ | น้ำยาทำความสะอาด |
Blanket | /ˈblæŋ.kɪt/ | ผ้าห่ม |
Pillow | /ˈpɪloʊ/ | หมอน |
Bed sheet | /bɛd ʃiːt/ | ผ้าปูที่นอน |
Washing machine | /ˈwɒʃɪŋ məˈʃiːn/ | เครื่องซักผ้า |
Refrigerator | /rɪˈfrɪdʒəreɪtə(r)/ | ตู้เย็น |
Microwave | /ˈmaɪ.krəʊ.weɪv/ | เตาไมโครเวฟ |
Air conditioner | /ɛər kənˈdɪʃənər/ | เครื่องปรับอากาศ/แอร์ |
>>> Read more: 160+ วิธีบอก ขอให้เป็นวันที่ดี ภาษาอังกฤษ (have a nice day) ให้ทุกคน
ของใช้ส่วนตัวแบ่งเป็นกี่ประเภท?
ของใช้ส่วนตัว สามารถแบ่งเป็น:
- ทำความสะอาดร่างกาย: หวี, แปรงสีฟัน, ครีมบำรุงผิว, สบู่, ยาสระผม, ครีมอาบน้ำ
- สุขภาพ: ยา, อุปกรณ์ทางแพทย์ (เครื่องวัดอุณหภูมิ, ผ้าพันแผล)
- แฟชั่นและเครื่องประดับ: เสื้อผ้า, รองเท้า, กระเป๋าสตางค์, นาฬิกาข้อมือ, เครื่องประดับ
- เทคโนโลยี: โทรศัพท์มือถือ, คอมพิวเตอร์, นาฬิกาอัจฉาริยะ
- เรียนรู้และทำงาน: สมุด, หนังสือ, ปากกา
อื่นๆ: กระเป๋าสตางค์, กุญแจ, แว่นกันแดด
แต่ละชนิดจะตอบสนองความต้องการของแต่ละบุคคลในชีวิตประจำวัน
ของใช้จิปาถะ ภาษาอังกฤษคืออะไร?
ของใช้จิปาถะในภาษาอังกฤษได้เรียกว่า miscellaneous items หรือ odds and ends. สิ่งของนี้เป็นของที่เล็กๆ ไม่จำเป็นต้องอยู่ในกลุ่มเฉพาะใด แต่เป็นสิ่งของที่มักจะปรากฏบ่อยในชีวิตประจำวัน
ตัวอย่าง:
- เครื่องเปิดฝาขวด (bottle opener)
- ยางรัด (rubber band)
- ปากกา (pen)
- ลวดหนีบกระดาษ (paperclip)
- เครื่องตัด (scissors)
- สมุดบันทึกเล็กๆ (notebook)
ของใช้ ภาษาอังกฤษคืออะไร?
ของเคยใช้มาแล้วในภาษาอังกฤษได้เรียกว่า second-hand items หรือ used items. ซึ่งเป็นของที่คนอื่นเคยใช้ก่อนหน้านี้แต่ยังคงใช้ได้ดีในปัจจุบัน หรือเรียกว่าเป็นสินค้ามือสอง
ตัวอย่าง:
- I bought some second-hand clothes. (ฉันไปซื้อเสื้อผ้ามือสอง)
- This store sells used electronics. (ร้านนี้ขายเครื่องใช้ไฟฟ้ามือสอง)

ของใช้ในชีวิตประจําวัน ภาษาอังกฤษ คืออะไร?
ของใช้ในชีวิตประจำวัน ภาษาอังกฤษได้เรียกว่า daily essentials หรือ everyday necessities. นี่เป็นสิ่งของที่เราใช้บ่อยๆ ในชีวิตประจำวัน
- Toothbrush (แปรงสีฟัน)
- Phone (โทรศัพท์มือถือ)
- Wallet (กระเป๋าสตางค์)
- Keys (กุญแจ)
- Tissues (กระดาษทิชชู)
- Water bottle (ขวดน้ำ)
- Sunglasses (แว่นกันแดด)
- Hand sanitizer (สบู่ล้างมือ)
ตัวอย่างประโยค:
I always carry my daily essentials in my bag. (ฉันนำของใช้จำเป็นติดตัวไว้ในกระเป๋าอยู่เสมอ)
ของใช้ทั่วไป ภาษาอังกฤษคืออะไร?
ของใช้ใช้ร่วม ในภาษาอังกฤษได้เรียกว่า shared items หรือ common items ซึ่งเป็นสิ่งของที่หลายคนสามารถใช้ร่วมกันได้ มักจะเป็นของใช้ใช้ในสภาพแวดล้อม เช่น ครอบครัว ออฟฟิศ หรือสถานที่สาธารณะ
- Kitchen utensils (อุปกรณ์ห้องครัว)
- Cleaning supplies (อุปกรณ์ห้องน้ำ)
- Office supplies (อุปกรณ์ใช้ในออฟฟิศ)
- TV remote (รีโมททีวี)
ตัวอย่างประโยค:
We need to buy more shared items for the kitchen. (เราจำเป็นต้องซื้ออุปกรณ์ใช้ร่วมในห้องครัวเพิ่ม)
การที่เข้าใจและรู้ถึงคำศัพท์ของใช้ส่วนตัว ภาษาอังกฤษ จะทำให้คุณไม่รู้สึกสับสนตอนที่สื่อสารด้วยภาษาอังกฤษ ELSA Speak จะช่วยให้คุณใช้คำอย่างถูกต้องในแต่ละสถานการณ์จากนั้นคุณจะมั่นใจมากขึ้นในการพูดคุย ตั้งแต่การท่องเที่ยวจนถึงการทำงานกับพันธุมิตรต่างประเทศ โดยเฉพาะ สำหรับ ELSA Pro คุณจะได้สัมผัสกับฟีเจอร์ขั้นสูงช่วยคุณพัฒนาทักษะสื่อสารภาษาอังกฤษอย่างรวดเร็ว