Author: Ngoc Ngo
คําคมการเดินทางในภาษาอังกฤษไม่เพียงแต่เป็นคำคมที่ดีเท่านั้น แต่ยังเป็นแหล่งที่มาของแรงบันดาลใจสำหรับการเดินทางอีกด้วย พร้อมกับ ELSA Speak เพื่อค้นหา 150+ แคปชั่นการเดินทาง ภาษาอังกฤษ ซึ่งช่วยให้คุณแสดงอารมณ์ ความรู้สึกหรือจะแบ่งปันโมเม้น และบันทึกช่วงเวลาอันน่าจดจำในการเดินทางของคุณ เพื่อสำรวจโลก
ประโยคการเดินทาง ภาษาอังกฤษที่สร้างแรงบันดาลใจ
ทุกก้าวสู่ดินแดนต่างแดน ถือเป็นโอกาสที่ทำให้เราได้เรียนรู้ ขยายขอบเขตความรู้ และค้นหาแรงบันดาลใจใหม่ๆ การเดินทางไม่ใช่แค่การไปเท่านั้น แต่ยังเป็นการค้นหาตัวเราเองและพบเจอสิ่งใหม่ๆ ที่เราไม่เคยรู้มาก่อน ด้านล่างนี้ เป็นคลังคําคมการเดินทางในภาษาอังกฤษที่สร้างแรงบันดาลใจที่โดยละเอียดพร้อมทั้งความหมายของคำคมเหล่านั้น
คําคมการเดินทางในภาษาอังกฤษ | ความหมาย |
The world is a book, and those who do not travel read only one page. | โลกคือหนังสือ และผู้ที่ไม่เดินทางก็เหมือนแค่ได้อ่านเพลงหน้าเดียว |
Travel is the only thing you buy that makes you richer. | การเดินทางเป็นสิ่งเดียวที่คุณซื้อแล้วรวยขึ้น |
To travel is to live. | การเดินทางคือการมีชีวิต |
Adventure may hurt you, but monotony will kill you. | การผจญภัยอาจจะทำร้ายคุณ แต่ความซ้ำซากจำเจจะฆ่าคุณ |
Travel far enough, you meet yourself. | ออกไปเที่ยวให้มากพอ ที่คุณจะค้นพบตัวตนที่แท้จริงของตัวเรา |
Life is short and the world is wide. | ชีวิตมันสั้น แต่โลกเรานั้นช่างกว้างใหญ่ |
The journey not the arrival matters. | มิตรภาพคือการเดินทาง ไม่ใช่จุดหมายปลายทาง |
We travel not to escape life, but for life not to escape us. | เราเดินทางไม่ใช่เพื่อหนีชีวิต แต่เพื่อให้ชีวิตไม่หนีไปจากเรา |
Take only memories, leave only footprints. | เก็บแต่ความทรงจำ ทิ้งไว้ แค่รอยเท้า |
Travel opens your heart, broadens your mind, and fills your life with stories to tell. | การเดินทางช่วยเปิดใจ เปิดโลก เปิดทัศนคติของเราให้กว้าง ชีวิตถูกเติมให้เต็มมากขึ้น แถมมีเรื่องต่างๆ เล่าให้คนอื่นฟังได้มากมาย |
The journey of a thousand miles begins with a single step. | การเดินทางหลายพันไมล์นั้น เริ่มต้นจากก้าวแรกทั้งนั้น |
Wherever you go becomes a part of you somehow. | ไม่ว่าคุณจะไปที่ไหน มันก็จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของคุณ |
Traveling – it leaves you speechless, then turns you into a storyteller. | ไม่ว่าคุณจะไปที่ไหนมันก็จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของคุณ |
Life is either a daring adventure or nothing at all. | ชีวิตก็คือการผจญภัยที่กล้าหาญ หรือไม่ก็ ไม่มีอะไรเลย |
Wander often, wonder always. | เที่ยวให้สม่ำเสมอ และสงสัยให้สม่ำเสมอ |
Travel brings power and love back into your life. | การท่องเที่ยว มอบพลังและความรักให้กลับคืนมาสู่ชีวิตของเรา |
Travel is fatal to prejudice, bigotry, and narrow-mindedness. | การเดินทางเป็นอันตรายต่ออคติ ความดื้อรั้น และความใจแคบ |
Work hard, travel harder. | เราทำงานหนัก และควรเที่ยวให้หนักกว่า |
When you’re travelling, you are what you are. | คุณจะเป็นตัวเองก็ต่อเมื่อคุณได้ออกเดินทาง |
May your joys be as deep as the ocean. | ขอให้เธอมีความสุข มากเฉกเช่น ความลึกของมหาสมุทร |
The smell of the ocean never gets old. | กลิ่นของมหาสมุทร ไม่เคยเก่า |
Let the waves hit your feet & sand be your sea. | ปล่อยให้คลื่นพัดสัมผัสเท้า ปล่อยให้ทรายรองรับเรา |
Belong somewhere you feel free. | จงไปอยู่ในที่ที่รู้สึกอิสระ |
A journey of a thousand miles must begin with a single step. | การเดินทางหลายพันไมล์นั้น เริ่มต้นจากก้าวแรกทั้งนั้น |
To awaken quite alone in a strange town is one of the pleasantest sensations in the world. | การตื่นขึ้นมาอย่างโดดเดี่ยวในต่างถิ่น เป็นความตื่นเต้นที่สนุกที่สุดในโลก |
Better to see something once than to hear about it a thousand times. | ออกไปเห็นด้วยตาตัวเอง แม้เพียงครั้งเดียว ยังดีกว่านั่งฟังมานับพันครั้ง |
The world is a book and those who don’t travel read only one page. | โลกเหมือนหนังสือเล่มหนึ่ง และคนที่ไม่ออกเดินทางไปเที่ยว ก็เหมือนอ่านหนังสือไปแค่หน้าเดียว |
Saltwater cures all wounds. | น้ำเกลือเยียวยาได้ทุกบาดแผล |
Remember that happiness is a way of travel, not a destination. | จงจำไว้ว่า ความสุขคือสิ่งที่พบเจอระหว่างทาง ไม่ใช่จุดหมายปลายทาง |
Vacation calories don’t count. | แคลอรี่ในช่วงวันหยุดไม่นับนะจ๊ะ |
Let’s go somewhere nobody knows about your names. | ไปที่ไหนก็ได้ ที่ไม่มีคนรู้จักเรากันเถอะ |
If traveling was free, you would never see me again. | ถ้าการไปเที่ยวมันฟรีนะ เธอจะไม่ได้เจอฉันอีกเลย |
I’m a true OCEANHOLIC. | ฉันเป็นคนเสพติดมหาสมุทรที่แท้ทรู |
Adventures are forever. | ประสบการณ์ของการเดินทางจะคงอยู่ตลอดไป |
Half the fun of the travel is the esthetic of lostness. | ครึ่งหนึ่งของความสนุกในการเดินทาง คือความงดงามของการหลงทาง |
All I need is a little Vitamin Sea. | ขอแค่มีวิตามินซี(ทะเล)นิดหน่อย |
Great things never come from comfort zones. | สิ่งที่ยิ่งใหญ่ ไม่เคยมาจากคอมฟอร์ตโซน |
Living my life in my style. | ใช้ชีวิตของฉันในสไตล์ของฉัน |
Watch more sunsets than Netflix. | ออกไปดูเดือน ดูตะวันให้มากกว่าดูเน็ตฟลิกซ์เถอะ |
Wander often, wonder always. | เที่ยวบ่อย ๆ ตั้งคำถามให้เยอะ ๆ |
Catch flights, not feelings. | เดินทางแล้วลืมทุกความรู้สึกแย่ ๆ กันเถอะ |
Head in the clouds, on to the next destination. | เพ้อฝันและจินตนาการไปสู่ที่ท่องเที่ยวในครั้งหน้า |
Find a beautiful place, and get lost. | ออกไปเจอที่ที่สวยงามสักที่ และหลงทางอยู่ที่นั่น |
Stop and smell the ocean. | หยุดพักและสูดกลิ่นสดชื่นของทะเล |
On top of mountains and beneath the stars. | บนยอดภูเขา และภายใต้ดวงดาวมากมาย |
Don’t worry, Beach happy. | ไม่ต้องกังวล จงมีความสุข |
Live with no excuses and travel with no regrets. | ใช้ชีวิตโดยไม่มีข้อแก้ตัว และเดินทางอย่างไม่เสียใจ |
Maybe you can’t buy happiness, but you can buy plane tickets. | บางทีเราไม่สามารถซื้อความสุขได้ แต่เราสามารถซื้อตั๋วเครื่องบินได้ |
Let’s wander where the wifi is weak. | ไปเที่ยวให้ประหลาดใจในที่ที่สัญญาณ Wifi ไม่ค่อยมี |
I woke up this morning, smiled at the rising sun. | ฉันตื่นขึ้นมาในเช้านี้ และยิ้มให้กับพระอาทิตย์ที่กำลังขึ้น |
Experience the natural beauty of the whole world. | ออกไปสัมผัสความสวยงามของธรรมชาติทั้งโลก |
I got 99 Problems, but travel is not one of them. | ฉันมีปัญหาเยอะแยะมากมาย แต่การท่องเที่ยวไม่ใช่หนึ่งในปัญหานั้นเลย |
Exploration is really the essence of the human spirit. | การได้ออกไปสำรวจที่ใหม่ๆ เป็นสิ่งสำคัญในชีวิตคนเรา |
Don’t spend your money on things. Spend it on experiences. | อย่าจ่ายเงินไปกับข้าวของ แต่ให้จ่ายเงินไปกับประสบการณ์ที่จะได้ |
It’s not about the destination, but the journey. | สิ่งสำคัญไม่ใช่จุดหมายปลายทาง แต่เป็นการเดินทางต่างหาก |
Go at least once a year to a place you have never been before. | คุณควรออกไปสำรวจสถานที่ใหม่ๆ อย่างน้อยปีละครั้งในชีวิต |
Jobs fill your pocket, adventures fill your soul. | งานนั้นเติมเต็มกระเป๋าสตางค์ แต่การผจญภัยเติมเต็มจิตวิญญาณ |
I can’t move moutains for you, but we can climb them together. | ฉันย้ายภูเขาทั้งลูกให้คุณไม่ได้ แต่เราสามารถปีนเขาไปด้วยกันได้ |
Travel becomes a strategy for accumulating photographs. | การท่องเที่ยวกลายเป็นส่วนหนึ่งของการสะสมรูปถ่าย |
Travelers never think that they are the foreigners | นักเดินทางที่แท้จริง ไม่เคยคิดว่าตัวเองเป็นคนต่างถิ่น |
Travel doesn’t become adventure until you leave yourself behind. | การเดินทางจะยังไม่ใช่การผจญภัย จนกว่าคุณจะทิ้งตัวเองไว้ข้างหลัง |
Climb the mountain so you can see the world. | ปีนขึ้นไปบนภูเขา แล้วคุณจะได้เห็นโลกทั้งใบ |
Jobs fill your pocket but adventures fill your soul. | งานนั้นเติมเต็มกระเป๋าสตางค์ แต่การผจญภัยเติมเต็มจิตวิญญาณ |
Travel is glamorous only in retrospect. | การท่องเที่ยวเป็นสิ่งที่สวยงามเมื่อได้มองย้อนกลับไป |
It is better to see something once than to hear about it a thousand times. | ออกไปเห็นด้วยตาตัวเอง แม้เพียงครั้งเดียว ยังดีกว่านั่งฟังมานับพันครั้ง |
Someday I’m going to be free and I’m going to travel the world. | สักวันฉันจะเป็นอิสระ และเดินทางไปทั่วโลก |
We travel not to escape life but for life not to escape us. | เราเดินทางไม่ใช่เพื่อหนีชีวิต แต่เพื่อให้ชีวิตไม่หนีไปจากเรา |
This heart of mine was made to travel this world. | หัวใจของฉันสร้างขึ้นมา เพื่อท่องเที่ยวรอบโลก |
Don’t listen to what they say, go see. | ครั้งหนึ่ง อะไรที่ใครเค้าว่าสวย เค้าว่าน่าไป ต้องได้ไปเห็นด้วยตาตัวเอง |
I don’t know where I’m going, but I’m on my way. | ฉันไม่รู้ว่าฉันกำลังจะไปที่ไหน แต่ฉันกำลังเดินทาง |
I want to make memories all over the world. | ฉันอยากที่จะสร้างความทรงจำไปทั่วโลก |
I need to live where summer never ends. | ฉันอยากจะไปอยู่ในที่ที่ฤดูร้อนไม่มีวันจบสิ้น |
Travel for enough to meet yourself. | ออกไปเที่ยวให้มากพอ ที่จะค้นพบตัวตนที่แท้จริงของเรา |
There’s no time to be bored in a world as beautiful as this. | ไม่มีเวลาที่จะมารู้สึกเบื่อโลกใบนี้ ที่มันสวยงามขนาดนี้หรอกนะ |
Relationship status : In a relationship with my passport. | อยู่ในความสัมพันธ์กับพาสปอร์ต ไปเที่ยวกันเลย! |
Don’t tell me how educated you are, tell me how much you have traveled. | ไม่ต้องบอกฉันว่า คุณได้รับการศึกษามาอย่างไร บอกฉันแค่ว่า คุณเดินทางมามากเท่าไหร่ก็พอ |
Travel is not a reward for working; it’s education for living. | การเดินทางไม่ใช่รางวัลจากการทำงาน แต่ไปศึกษาการใช้ชีวิตต่างหากล่ะ |
Traveling is about finding those things you never knew you were looking for. | การเดินทางท่องเที่ยวคือการตามหาสิ่งที่เราไม่เคยรู้ว่า เรากำลังตามหามันอยู่ |
Enjoy Moment, Not Photo. | เอนจอยกับช่วงเวลาดีๆ ในขณะนั้น ดีกว่า มัวแต่จะถ่ายรูปไปซะทุกอย่าง |
Let the sea set you free. | ปล่อยให้ทะเลปลดปล่อยคุณ |
Because every pictures tell a story. | ในทุกภาพถ่ายนั้น มีเรื่องราวซ่อนอยู่ |
Life hurt, Nature heal. | ชีวิตมันอยู่ยาก ให้ธรรมชาติช่วยเยียวยา |
A journey is best measured in friends, rather than miles. | มาตรวัดการเดินทางที่ดีที่สุด คือ เพื่อน มิใช่ระยะทาง |

คําคมการเดินทางและการเดินทางแบบแบ็กแพ็กในภาษาอังกฤษที่มีความหมาย
ไม่ว่าคุณจะชอบการเดินทางแบบแบ็กแพ็กหรือไม่ คำคมการเดินทางต่อไปนี้จะทำให้คุณรู้สึกตื่นเต้นและอยากจะเก็บกระเป๋าและออกเดินทางไปชื่นชมสถานที่สวยงามต่างๆ ในโลกนี้ทันที
คําคมการเดินทาง | ความหมาย |
Travel is the only way to truly find yourself. | การเดินทางเป็นหนทางเดียวที่จะค้นพบตัวตนของคุณได้อย่างแท้จริง |
Explore the world with an open heart and a curious mind. | สำรวจโลกด้วยหัวใจที่เปิดกว้างและจิตใจที่อยากรู้อยากเห็น |
Every destination has a story waiting to be discovered. | ทุกจุดหมายปลายทาง จะมีเรื่องราวที่รอการค้นพบเสมอ |
Travel not to escape life, but to embrace it. | เราเดินทางไม่ใช่เพื่อหนีชีวิต แต่เพื่อให้ชีวิตไม่หนีไปจากเรา |
In the end, we only regret the chances we didn’t take. | สุดท้าย สิ่งเดียวที่เราจะเสียดาย คือ โอกาสที่เราไม่ได้คว้าเอาไว้ |
The best journeys answer questions that in the beginning you didn’t even think to ask. | การเดินทางที่ดีที่สุดคือการตอบคำถามที่คุณไม่คิดจะถามในตอนแรก |
Let your heart be your compass and your dreams be your guide. | ปล่อยให้หัวใจคุณเป็นเข็มทิศ และความฝันของคุณเป็นผู้นำทาง |
Travel is the art of seeing the world through new eyes. | การเดินทางคือศิลปะในการมองโลกผ่านมุมมองใหม่ |
Collect moments, not things. | จงสะสมประสบการณ์หรือความทรงจำ ไม่ใช่สิ่งของ |
Every mile traveled is a story written in the book of life. | ทุกไมล์ที่เดินทางไปคือเรื่องราวที่ถูกเขียนลงในหนังสือแห่งชีวิต |
Journeying into the unknown is the greatest adventure of all. | การเดินทางสู่สิ่งที่ไม่รู้จักคือการผจญภัยที่ยิ่งใหญ่ที่สุด |
I haven’t been everywhere, but it’s on my list. | ผมยังไม่เคยไปทุกที่ แต่มันอยู่ในรายการของฉัน |
The world is a book, and those who do not travel read only one page. | โลกเหมือนหนังสือเล่มหนึ่ง และคนที่ไม่ออกเดินทางไปเที่ยว ก็เหมือนอ่านหนังสือไปแค่หน้าเดียว |
The world is a beautiful place, and I want to see it all with you. | โลกใบนี้ช่างงดงาม และฉันอยากเห็นมันทั้งหมดกับคุณ |
Life is short and the world is wide. | ชีวิตมันสั้น แต่โลกเรานั้นช่างกว้างใหญ่ |
When you’re traveling, you are what you are. | เมื่อคุณออกเดินทาง คุณคือตัวคุณเอง |
Adventure is my middle name. | การผจญภัยเป็นชื่อกลางของฉัน |
I’ve found my happy place. | ในที่สุด ฉันก็เจอที่ที่ทำให้มีความสุข |
Vacation mode: on. | โหมดพักร้อน: เปิด |
I have 99 problems, but traveling is not one of them. | ฉันมีปัญหาเยอะแยะมากมาย แต่การท่องเที่ยวไม่ใช่หนึ่งในนั้นเลย |
Travel is the best way to fall in love with the world. | การเดินทางคือหนทางที่ดีที่สุดในการตกหลุมรักโลก |
It’s not about the destination, it’s about the journey. | มันไม่ใช่เรื่องของจุดหมาย แต่มันเป็นเรื่องของการเดินทาง |
Travel is the great equalizer. | การเดินทางคือตัวการที่ทำให้เราเสถียรที่สุดยอดที่สุด |
I’m not lost, I’m just exploring alternative routes. | ฉันไม่ได้หลงทาง ฉันแค่กำลังสำรวจเส้นทางอื่นอยู่ |
My passport is crying for more stamps. | หนังสือเดินทางของฉันร้องไห้ จนร้องขอขอตราประทับเพิ่มแล้ว |
I don’t always travel, but when I do, it’s epic. | ฉันไม่ได้เดินทางบ่อย แต่เมื่อไหร่ที่เดินทาง แน่นอนว่ามันต้องยิ่งใหญ่ |
I’m not a tourist, I’m a temporary local. | ฉันไม่ใช่นักท่องเที่ยว ฉันเป็นคนท้องถิ่นชั่วคราวต่างหาก |
I’ve got a crush on the world. | ฉันหลงรักโลกใบนี้จัง |
My new routine: Journey. Explore. Discover. Repeat. | กิจวัตรใหม่ของฉัน คือ เดินทาง สำรวจ ค้นพบ แล้วก็ทำแบบนี้ซ้ำ ๆ |
Collecting experiences, not things. | สะสมประสบการณ์ ไม่ใช่สิ่งของ |
Traveling – the best way to be lost and found at the same time. | การเดินทาง คือ วิธีที่ดีที่สุดในการหลงทางและค้นพบตัวเองในเวลาเดียวกัน |
Adventure is calling, and I must go! | การผจญภัยกำลังเรียกหา และฉันต้องไป |
Live your life by the compass, not the clock. | ใช้ชีวิตตามเข็มทิศ ไม่ใช่ตามนาฬิกา |
I haven’t been everywhere, but it’s on my list. | ผมยังไม่เคยไปทุกที่ แต่มันอยู่ในรายการของฉัน |
Travel, because money returns, time doesn’t. | ออกไปเที่ยวเถอะ เพราะเงินหาคืนมาเมื่อไหร่ก็ได้ แต่เวลา กลับคืนมาไม่ได้นะ |
I followed my heart, and it led me to the airport. | ฉันทำตามใจของฉัน และมันก็พาฉันไปที่สนามบิน |
I need a six-month holiday, twice a year. | ฉันต้องการวันหยุด 6 เดือน 2 ครั้งต่อปี |
I’m not a tourist. I’m just a local in a different place. | ฉันไม่ใช่แค่เป็นนักท่องเที่ยว ฉันแค่เป็นคนท้องถิ่นในสถานที่ต่างแดน |
The only thing I’m packing for my trip is my sense of adventure. | สิ่งเดียวที่ฉันเก็บสัมภาระใส่กระเป๋า สำหรับทริปนี้คือความกล้าหาญ |
I’m not sure where I’m going, but I’m on my way. | ฉันไม่แน่ใจว่าฉันจะไปไหน แต่ฉันกำลังอยู่บนเส้นทาง |
I’m not a travel blogger, I’m just a person who likes to travel. | ฉันไม่ใช่นักเขียนบล็อก เกี่ยวกับการเดินทาง ฉันแค่เป็นคนที่ชอบเดินทาง |
Travel is a teacher that offers lessons beyond the classroom. | การเดินทางเป็นครูที่มอบบทเรียนให้มากกว่าแค่ในห้องเรียน |
Sometimes, the best therapy is a long road trip with good friends. | บางครั้ง การบำบัดที่ดีที่สุดคือการเดินทางไกลกับเพื่อนดีๆ |
The beauty of travel lies in the unexpected moments. | ความงดงามของการเดินทางอยู่ที่ช่วงเวลาที่ไม่คาดฝัน |
A traveler is not someone who crosses countries, but someone who crosses the street. | นักเดินทางไม่ใช่ผู้ที่เดินทางข้ามประเทศ แต่คือผู้ที่ข้ามถนน |
Travel creates memories that last a lifetime. | การเดินทางสร้างความทรงจำที่คงอยู่ตลอดชีวิต |
Each trip is a new canvas waiting for your brush. | การเดินทางแต่ละครั้งเปรียบเสมือนผืนผ้าใบผืนใหม่ที่กำลังรอพู่กันของคุณอยู่ |
The road less traveled often leads to the most beautiful destinations. | ถนนที่ผู้คนไม่ค่อยสัญจร มักจะนำไปสู่จุดหมายปลายทางที่สวยงามที่สุด |
Let the journey change you, not the destination. | ปล่อยให้การเดินทางเปลี่ยนแปลงคุณ ไม่ใช่จุดหมายปลายทาง |

แคปชั่นการเดินทาง ภาษาอังกฤษดีๆ
ด้านล่างนี้เป็นแคปชั่นที่ยอดเยี่ยมเกี่ยวกับการเดินทางและแคปชั่นไปเที่ยวกับแฟน ภาษาอังกฤษ ซึ่งช่วยให้คุณแสดงความรู้สึกและประสบการณ์เมื่อสำรวจโลก:

แคปชั่น | ความหมาย |
Chasing sunsets and dreams. | ไล่คว้าความฝันและตะวันฉาย |
Lost in the right direction. | หลงไปในทิศทางที่ถูกต้อง |
Travel: the only thing that makes you richer. | การเดินทางเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้เรารวยขึ้น |
Sandy toes, sun-kissed nose. | ให้เท้าที่เปื้อนทราย จมูกได้รับแสงแดด และไม่วิตกกังวลเกี่ยวกับโลกใบนี้ |
Adventures are the best way to learn. | การผจญภัยเป็นหนทางการเรียนรู้ที่ดีที่สุด |
Life is short, and the world is wide; let’s explore! | ชีวิตมันสั้น แต่โลกเรานั้นช่างกว้างใหญ่ มาสำรวจกันเถอะ |
Wanderlust: a strong desire to explore the world. | ความอยากเดินทาง: ความปรารถนาอันแรงกล้าที่จะออกสำรวจโลก |
Find me where the wild things are. | เจอฉันได้ทุกที่ ที่ที่มีป่าอยู่ |
Let’s find some beautiful place to get lost. | หาที่เที่ยวสวยๆ กัน และหลงทางอยู่ที่นั่น |
Traveling is my therapy. | การท่องเที่ยว คือ การบำบัดของฉัน |
Exploring new places, one step at a time. | สำรวจสถานที่ใหม่ๆ ครั้งละหนึ่งก้าว |
Take me anywhere, just not home. | พาฉันไปที่ไหนก็ได้ ที่ที่ไม่ใช่บ้าน |
Every adventure starts with a single step. | การผจญภัยทุกครั้งเริ่มต้นด้วยก้าวเดียว |
The mountains are calling and I must go. | ภูเขากำลังเรียกหา และฉันต้องรีบไปหาแล้ว |
Climb the mountain… so you can see the world, not so the world can see you. | ปีนขึ้นไปบนภูเขา แล้วคุณจะได้เห็นโลกทั้งใบ ไม่ใช่เพื่อให้โลกได้เห็นคุณ |
If Life is a journey, the forest is my destination. | ถ้าชีวิตคือการเดินทาง ปลายทางของฉันคือการเข้าป่า |
The ocean has my heart. | มหาสมุทร ได้ “หัวใจ” ฉันไปแล้ว |
Mountain trips and foggy mornings. | ทริปภูเขา และ หมอกยามเช้า |
You will experience the natural beauty and impressive. | คุณจะได้สัมผัสกับธรรมชาติที่สวยงาม และน่าประทับใจ |
I love nature. | ฉันรักธรรมชาติ |
If you truly love nature, you will find beauty everywhere. | ถ้ารักธรรมชาติอย่างแท้จริง คุณจะค้นพบความสวยงามในทุก ๆที |
The perfect picture of the sky will always be sunset. | ภาพที่เฟอร์เฟคเสมอมาบนท้องฟ้า คือภาพของพระอาทิตย์ตก |
Nature is not a place to visit. It is HOME. | ธรรมชาติไม่ใช่แค่สถานที่เพื่อมาเที่ยว แต่คือ “บ้าน” |
All I need is you and a little more sunset in my life. | สิ่งที่ฉันต้องการทั้งหมดในชีวิตมีแค่คุณ และช่วงเวลาพระอาทิตย์ตก |
Nature is the art of God. | ธรรมชาติ คือ งานศิลปะของพระเจ้า |
Look deep into nature, and then you will understand everything better. | มองลึกเข้าไปในธรรมชาติ แล้วคุณจะเข้าใจทุกอย่างมากขึ้น |
My favorite color is sunset. | สีที่ฉันชอบที่สุด คือ สีของพระอาทิตย์ตก |
The journey is my home. | การเดินทางคือบ้านของฉัน |
Travel far, travel wide, travel deep. | เดินทางไกล เดินทางกว้าง เดินทางลึก |
Let the adventures begin! | เริ่มการผจญภัยได้เลย! |
Finding paradise wherever I go. | ค้นพบสรวงสวรรค์ในทุกๆ ที่ที่ได้ไปเยือน |
Exploring the world, one passport stamp at a time. | สำรวจโลกหนึ่งครั้ง ประทับตาบนหนังสือเดินทางหนึ่งครั้ง |
The best view comes after the hardest climb. | วิวที่สวยอลังการที่สุด จะเห็นได้หลังจากที่ เราเหนื่อยอย่างที่สุดในการปีนขึ้นไปบนเขา |
In a world full of paths, I choose to wander. | ในโลกที่มีเส้นทางมากมาย ฉันเลือกที่จะเดินเตร่ |

คำพูดภาษาอังกฤษสั้น ๆ ที่ดีที่สุดเกี่ยวกับการเดินทาง และจริงใจ
ด้านล่างนี้เป็นคำพูดภาษาอังกฤษสั้น ๆ ที่ดีที่สุดเกี่ยวกับการเดินทาง แต่มีความหมาย ซึ่งแบ่งปันความรู้สึกที่แท้จริงจากหัวใจ:
แคปชั่นการเดินทางในภาษาอังกฤษสั้นๆ และจริงใจ | ความหมาย |
Wander often, wonder always. | เที่ยวบ่อย ๆ ตั้งคำถามให้เยอะ ๆ |
Adventure awaits! | การผจญภัยกำลังรออยู่ เสมอ |
Live your adventure. | ใช้ชีวิตในการผจญภัยของคุณ |
Travel light, live light. | เดินทางเบาๆ ใช้ชีวิตเบาๆ |
Hello, new adventures! | สวัสดีการผจญภัยครั้งใหม่! |
Keep calm and travel on. | ตั้งสติ แล้วใช้ชีวิตต่อไป |
Collect moments, not things. | จงสะสมประสบการณ์หรือความทรงจำ ไม่ใช่สิ่งของ |
Exploring the unknown. | สำรวจสิ่งที่ไม่รู้จัก |
Take me to new heights. | พาฉันไปสู่ความสูงใหม่ |
Every place has a story. | ทุกสถานที่ย่อมมีเรื่องราว |
Chasing new horizons. | ไล่ตามขอบฟ้าใหม่ๆ |
Let’s get lost together. | มาร่วมหลงทางไปด้วยกัน |
Roaming the world with an open heart. | ท่องไปทั่วโลกด้วยหัวใจที่เปิดกว้าง |
Just go! | ไปสิ |
Nature is calling. | ธรรมชาติกำลังเรียกหาอยู่ |
Seek the thrill. | แสวงหาความตื่นเต้น |
Together is my favorite place to be. | การเดินทางด้วยกันคือที่โปรดของฉัน |
Find joy in the journey. | มองหาความสุขในการเดินทาง |
Let’s wander where the WiFi is weak. | ไปเที่ยวที่สัญญาณ wifi อ่อนกันเถอะ |
Travel is my happy place. | การเดินทางคือสถานที่แห่งความสุขของฉัน |
Enjoy moments, not photos. | เอนจอยกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า ดีกว่าเอาแต่ถ่ายรูป |
A Traveler should be happy, not perfect. | นักเดินทางควรที่จะมีความสุขในการเดินทาง ไม่ต้องเฟอร์เฟคไปตลอดเวลาก็ได้ |
Sunshine is my favorite accessory | แสงแดดเป็นเครื่องประดับที่ฉันชอบมากที่สุด |
Travel because money returns, time doesn’t. | ออกไปเที่ยวเถอะ เพราะเงินหาคืนมาเมื่อไหร่ก็ได้ แต่เวลา กลับคืนมาไม่ได้นะ |
Life is better at the Beach! | ชีวิตดีขึ้น เมื่ออยู่ที่ทะเล! |
Finding paradise wherever I go. | ค้นพบสรวงสวรรค์ในทุกๆ ที่ที่ได้ไปเยือน |
Always take the scenic route. | เดินทางสู่เส้นทางธรรมชาติที่สวยงามเสมอๆ |
Escape and breathe the air of new places. | หนีจากปัจจุบัน และออกไปสูดอากาศดีๆ ในสถานที่ใหม่ๆ |
Stay strong the weekend is coming. | เข้มแข็งไว้ สุดสัปดาห์กำลังจะมาถึงแล้ว |
Tired feet, happy heart. | ถึงจะเหนื่อยเท้า แต่ก็สุขหัวใจนะจ๊ะ |
Balmy nights, pink sunsets, and salty air. | คืนที่อบอุ่น พระอาทิตย์ตกสีชมพู และอากาศจากทะเล |
Wherever you go, go with all your heart. | ทุกที่ที่คุณไป จงไปด้วยใจทั้งหมดของคุณ |
Nature is not a place to visit. It is at home. | ธรรมชาติไม่ใช่แค่สถานที่เพื่อมาเที่ยว แต่คือ “บ้าน” |
This earth belongs to anyone who stops for a moment. | โลกใบนี้เป็นของคนที่หยุดเดิน แล้วมองดูสิ่งรอบข้าง |
I do believe it’s time for another adventure. | ฉันเชื่อว่า ถึงเวลาแล้ว สำหรับการผจญภัยครั้งใหม่ |
Sun, Sand, and Pineapple in hand. | พระอาทิตย์ เม็ดทราย และสับปะรด อยู่ในมือ |
All you need is love and passport. | ทุกสิ่งที่เธอต้องการก็คือ ความรัก และ พาสปอร์ต |
You should stop and smell the roses. | หยุดและชื่นชมสิ่งรอบกายบ้าง |
You, me, and the sea. | คุณ ฉัน และทะเล |
We have nothing to lose and a world to see. | เราไม่มีอะไรจะเสีย และโลกยังมีสิ่งที่ให้เราออกไปพบเห็น |
If you never go, you will never know. | ถ้าไม่เคยไปก็จะไม่มีวันรู้เลย |
The ocean is calling and I must go. | มหาสมุทรกำลังเรียกหาฉัน และฉันจะต้องไป |
Travel is the healthiest addiction. | การท่องเที่ยว คือ การเสพติดที่ดีที่สุดแล้ว |
Let’s wander where the wifi is weak. | ไปเที่ยวที่สัญญาณ wifi อ่อนกันเถอะ |
I’m not lose, I’m exploring. | ฉันไม่ได้กำลังหลงทาง แต่ฉันกำลังสำรวจเส้นทาง |
There is always some next adventure waiting for us. | การผจญภัยครั้งใหม่ กำลังรอเราอยู่เสมอๆ |
Making the best memories along the way. | สร้างความทรงจำที่ดีที่สุดระหว่างการเดินทาง |
Life’s a beach. Enjoy the waves. | ชีวิตก็เหมือนชายหาด เพราะฉะนั้น ต้องสนุกไปกับเกลียวคลื่น |
Let’s go somewhere, anywhere, everywhere! | ไปเที่ยวไหนกันที่ไหนก็ได้! |
Enjoy your summer break! | เอนจอยกับช่วงเวลาพักร้อน |
Kick-off your week with a smile. | เริ่มต้นสัปดาห์ใหม่ด้วยรอยยิ้ม |
Paradise isn’t a place, it’s a feeling. | สวรรค์ไม่ใช่สถานที่ แต่เป็นความรู้สึกดีๆ ตั้งหาก |
I’m just a beachy kinda girl. | ฉันเป็นแค่ผู้หญิงที่ชอบเที่ยวทะเล |
I wish I had more vacation days. | ฉันหวังว่าฉันจะมีวันหยุดมากขึ้น |
I need six months vacation, twice a year. | ฉันต้องการวันหยุดพักผ่อนสัก 6 เดือน ปีละแค่ 2 ครั้งก็พอ |
Catch me by the sea. | เจอฉันได้ที่ทะเล |
Every single moment is an adventure. | ทุกช่วงเวลา คือ การผจญภัย |
Turn off your computer and go outside. | ปิดคอมพิวเตอร์ของคุณ แล้วออกไปข้างนอก |
I only collect one thing: stamps on my passport. | ฉันสะสมสิ่งเดียวเท่านั้น: ตราประทับบนหนังสือเดินทางของฉัน |
It’s bad manners to keep a vacay waiting. | มันเสียมารยาทมาก ถ้าให้วันหยุดมารอเรา |
Dreams are made of sun and sand. | ความฝัน ถูกสร้างขึ้นจากแสงแดดและเม็ดทราย |
I have a therapist, her name is nature. | ฉันมีนักบำบัดที่ชื่อว่า ธรรมชาติ |
Jet Lag is for Amateurs. | อาการเจ็ตแล็กเป็นเรื่องของมือใหม่ |

คำบรรยายท่องเที่ยวภาษาอังกฤษสั้นๆ ที่ดีที่สุด
บางครั้งประโยคสั้น ๆ ก็สามารถถ่ายทอดข้อความที่ลึกซึ้งและน่าจดจำที่สุดได้ นี่คือคำบรรยายท่องเที่ยวภาษาอังกฤษสั้นๆ ที่ดีที่สุดและจำได้ง่าย และสามารถแชร์ได้
คําคมการเดินทางในภาษาอังกฤษสั้นๆ ที่ดีที่สุด | ความหมาย |
Travel opens your mind. | การเดินทางเปิดใจของคุณ |
Adventure is out there! | การผจญภัยรอคุณอยู่ข้างหน้านี่แหละ |
Go where you feel most alive. | ไปในที่ที่คุณรู้สึกมีชีวิตรอดอยู่ |
The best journeys are those that answer questions you didn’t think to ask. | การเดินทางที่ดีที่สุดคือการเดินทางที่ตอบคำถามที่คุณไม่ได้คิดว่าจะถาม |
Travel makes the world feel small. | การเดินทางทำให้โลกดูเล็กลง |
Life is meant for good friends and great adventures. | ชีวิตคือการมีเพื่อนดี ๆ ที่พร้อมผจญภัยไปด้วยกัน |
Travel far enough to meet yourself. | ออกไปเที่ยวให้มากพอ ที่จะค้นพบตัวตนที่แท้จริงของเรา |
Escape the ordinary. | หลีกหนีความธรรมดา |
Let’s find some beautiful place to get lost. | หาที่เที่ยวสวยๆ กัน และหลงทางอยู่ที่นั่น |
Journeys are the midwives of thought. | การเดินทางเปรียบเสมือนหมอตำแยแห่งความคิด |
Seek adventures that open your mind. | มองหาการผจญภัยที่เปิดโลกของคุณ |
Travel is freedom. | การเดินทางคืออิสรภาพ |
Leave only footprints. | ทิ้งไว้แต่รอยเท้า |
Experience is the best teacher. | ประสบการณ์คือครูที่ดีที่สุด |
Breathtaking views, unforgettable moments. | วิวทิวทัศน์ที่สวยงามตระการตา ช่วงเวลาอันน่าจดจำ |
The silence of nature is very real. It surrounds you…you can feel it. | ความเงียบสงบของธรรมชาติเป็นเรื่องจริง ที่อยู่ล้อมรอบตัวคุณ และคุณสามารถรู้สึกได้ |
Sunshine on my mind. | แสงแดดอยู่ในใจฉัน |
Nature is one of your greatest teachers. | ธรรมชาติเป็นครูผู้ยิ่งใหญ่ |
if sky is the limit, then go there. | ถ้าหากท้องฟ้าคือขีดจำกัด ก็ไปที่นั่นเลย |
In all thing of nature there is something of the marvelous. | ทุกสิ่งที่อยู่ในธรรมชาติ มีบางสิ่งที่ยิ่งใหญ่เสมอ |
Take time to enjoy the natural beauty that surrounds you. | ใช้เวลาเพลิดเพลินไปกับความสวยงามของธรรมชาติที่อยู่ล้อมรอบตัวคุณ |
I think that I shall never see a poem lovely as a tree. | ฉันคิดว่าฉันจะไม่มีวันเห็นบทกวีใดสวยงามเหมือนต้นไม้เลย |
Keep calm and enjoy the view. | เงียบสงบ และ เพลิดเพลินกับวิวตรงหน้า |
Getting lost in nature is one of the most pure ways to find yourself. | การหลงเข้าไปสู่ธรรมชาติเป็นวิธีสู่การค้นพบตัวเองที่บริสุทธิ์ที่สุด |
When you are tired from work, nature always helps. | เมื่อเหนื่อยล้าจากการงาน ธรรมชาติสามารถช่วยได้เสมอ |
Foggy lunch run to get the energy levels back up 100. | พลังของสายหมอก ช่วยเพิ่มพลังงานให้กลับมาเลเวล 100 |
Nature itself is the best physician. | ธรรมชาติเป็นหมอที่ดีที่สุด |
Don’t forget natural remedies around you! | อย่าลืมการเยียวยาของธรรมชาติรอบตัวคุณ |
I needed a mental health break. | ฉันต้องการพักผ่อนเพื่อสุขภาพจิต |
Jobs fill your pockets, nature fill your soul. | การทำงานเต็มเติมเงินในกระเป๋า แต่ธรรมชาติเต็มเต็มจิตวิญญาณ |
Above all, watch with glittering eyes the whole world around you. | เหนือสิ่งอื่นใด จงมองทั้งโลกรอบๆ ตัวคุณด้วยดวงตาที่เปล่งประกาย |
The best kind of therapy is nature therapy. | การบำบัดที่ดีที่สุด ก็คือ ธรรมชาติบำบัด |
Time wasted at the forest is well spent. | เวลาที่เสียไปในป่าก็ควรใช้ไปอย่างคุ้มค่า |
Going for a vacation to relax and renew our mind. | ไปพักร้อนเพื่อพักผ่อนและฟื้นฟูจิตใจของเรากันเถอะ |
My love for camping is in-tents. | สิ่งที่ฉันชอบที่สุดในการแคมป์ปิ้งคือ เต็นท์ |
I miss you! – The Mountain. | ฉันคิดถึงเธอนะ ภูเขา! |
Mountain: Heaven On Earth. | ภูเขา : สวรรค์แท้ๆ บนดิน |
Nature Awaits. | ธรรมชาติรออยู่ |
Happiness can be found in the wild. | ความสุขหาได้ในป่า |
I now walk into the wild. | วันหนึ่งฉันเดินเข้าป่า |
Fresh air, don’t care. | ออกไปสูดอากาศแล้วลืมคนแย่ๆ ไว้ข้างหลัง |
All I need is a mountain breeze and tall trees. | ทั้งหมดที่ฉันต้องการคือลมบนภูเขาและต้นไม้สูง |
Nature is my therapy. | ธรรมชาติคือการบำบัดของฉัน |
Into the forest I go, to lose my mind and find my soul. | ฉันเข้าไปในป่าเพื่อลืมสติและค้นหาจิตวิญญาณของฉัน |
Adopt the peace of nature her secret is patience. | หากอยากเห็นความสวยงามของธรรมชาติ ความลับก็คือ ต้องอดทน |
I can’t move mountains for you, but we can climb them together. | ฉันย้ายภูเขาทั้งลูกให้คุณไม่ได้ แต่เราสามารถปีนเขาไปด้วยกันได้ |
Nature is one of your greatest teachers. | ธรรมชาติเป็นครูผู้ยิ่งใหญ่ |
A walk on the beach is priceless. | ก้าวย่างบนชายหาดน่ะ มันรู้สึกเยี่ยมยอดจนประเมินค่าไม่ได้เลย |
The tan will fade, but the memories will last forever. | ถึงผิวสีแทนจะจางหายไป แต่ความทรงจำจะคงอยู่ตลอดไป |
I’ve never found time spent amongst nature to be a waste of time. | ฉันไม่เคยคิดว่าการใช้เวลากับธรรมชาติ เป็นการเสียเวลาเลย |
Only nature can give me that feeling. | มีแต่ธรรมชาติเท่านั้น ที่ทำให้ฉันรู้สึกอย่างนั้นได้ |
The best kind therapy is beach therapy. | การบำบัดที่ดีที่สุด ก็คือ บำบัดด้วยชายหาด |
Colors are the smile of nature. | สีวันต่างๆ คือรอยยิ้มของธรรมชาติ |
I am most alive among tall trees. | ฉันมีชีวิตชีวามากที่สุดท่ามกลางต้นไม้สูง |
Air, mountains, tree, people. I thought this is what it is to be happy. | อากาศ ภูเขา ต้นไม้ และผู้คน เป็นสิ่งที่ฉันคิดว่า ทำให้ฉันมีความสุข |
I felt my lungs inflate with the onrush of scenery. | ฉันรู้สึกว่าปอดของฉัน เต็มไปด้วยวิวทิวทัศน์ข้างหน้า |
Nature is as complex as it need to be… and no more. | ธรรมชาติ ซับซ้อนเท่าที่มันเป็น และไม่มีมากกว่านั้น |
Happiness comes in wave. | ความสุขมักจะมาในรูปแบบของเกลียวคลื่น |
Nature is my happiness. | ธรรมชาติคือความสุขของฉัน |
Travel more, worry less. | เดินทางไกลให้เยอะ ความกังวลจะลดลง |
Find beauty in every journey. | ค้นพบความสวยงามในทุกการเดินทาง |
Embrace the detours. | เปิดใจและเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ |
Life’s too short to stay in one place. | ชีวิตสั้นเกินกว่าที่จะอยู่ในสถานที่เดียว |
Explore, dream, discover. | สำรวจ ฝัน ค้นพบ |
The best way to predict the future is to create it. | วิธีที่ดีที่สุดในการทำนายอนาคต คือการสร้างมันขึ้นมา |
I’m not lost, I’m just exploring. | ฉันไม่ได้หลงทาง ฉันกำลังสำรวจ |
The best way to make memories is to travel. | หนทางที่ดีที่สุดในการสร้างความทรงจำ คือการเดินทาง |
Travel is the best way to experience the world. | การเดินทางคือหนทางที่ดีที่สุดในการสัมผัสโลก |

>>>Read more: ความสุขภาษาอังกฤษ คืออะไร? 20+ สำนวนภาษาอังกฤษแสดงถึงการมีความสุข
คําคมการเดินทาง ภาษาอังกฤษดีๆ ที่จะเป็นกำลังใจ
บางครั้งสิ่งที่คุณต้องการก็แค่กำลังใจเล็กๆ น้อยๆ เพื่อเริ่มต้นการเดินทางของตน คำคมภาษาอังกฤษด้านล่างนี้จะช่วยสร้างแรงบันดาลใจและแรงกระตุ้นให้กับคุณ
คำคมการเดินทางในภาษาอังกฤษดีๆ ที่จะเป็นกำลังใจ | ความหมาย |
Certainly, travel is more than the seeing of sights; it is a change that goes on, deep and permanent, in the ideas of living. – Mary Ritter Beard | แน่นอนว่าการเดินทางไม่ใช่แค่เพียงการชมสถานที่ต่างๆ เท่านั้น แต่ยังเป็นความเปลี่ยนแปลงที่ดำเนินไปอย่างลึกซึ้งและถาวร ในความคิดของการใช้ชีวิต – แมรี่ ริตเตอร์ เบียร์ด |
I travel not to go anywhere, but to go. I travel for travel’s sake. The great affair is to move. | ฉันเดินทางไม่ใช่เพื่อไปไหน แต่เพื่อไป ฉันเดินทางเพื่อการเดินทาง สิ่งสำคัญคือการเดินทาง |
Not all those who wander are lost. | ไม่ใช่ทุกคนที่เตร็ดเตร่จะหลงทาง |

คําคมการเดินทาง ภาษาอังกฤษที่ดีของคนที่มีชื่อเสียง
หากคุณรู้สึกเครียดและเหนื่อยล้าเกินไปในชีวิต ให้บรรเทามันด้วยการเดินทางผ่านคำคมการเดินทางภาษาอังกฤษของคนที่มีชื่อเสียง ด้านล่างนี้!
คําคมการเดินทางในภาษาอังกฤษที่ดีของคนที่มีชื่อเสียง | ความหมาย |
The use of traveling is to regulate imagination with reality, and instead of thinking of how things may be, see them as they are. – Samuel Johnson | ประโยชน์ของการท่องเที่ยวคือการทำให้จินตนาการไว้เป็นจริง แทนที่จะคิดว่าสิ่งต่างๆจะเป็นเช่นไร แค่มองมันให้เห็นว่ามันเป็นมันก็พอ |
Stop worrying about the potholes in the road and enjoy the journey. – Babs Hoffman | หยุดกังวลเกี่ยวกับความยากจนบนถนนและเพลิดเพลินไปกับการเดินทาง |
Great things never came from comfort zones. – Anonymous | สิ่งดีๆ ไม่เคยเกิดขึ้นจากพื้นที่ปลอดภัย |
Man cannot discover new oceans unless he has the courage to lose sight of the shore. – Andre Gide | คุณไม่สามารถค้นพบมหาสมุทรใหม่ได้ จนกว่าคุณจะกล้าละสายตาจากฝั่งทะเลเดิม |
The impulse to travel is one of the hopeful symptoms of life. – Agnes Repplier | แรงกระตุ้นในการเดินทางคือหนึ่งในสัญญาณแห่งความหวังของชีวิต |
The gladdest moment in human life, methinks, is a departure into unknown land. – Sir Richard Burton | Khoảnh khắc vui mừng nhất của đời người là được khởi hành đến những vùng đất xa lạ. ฉันคิดว่าช่วงเวลาที่น่ายินดีที่สุดในชีวิตมนุษย์ คือการออกเดินทางไปยังดินแดนที่ไม่เคยรู้จัก |
The world is a book, and those who do not travel only read a page. – St. Augustine | Thế giới là một cuốn sách, và những người không du lịch chỉ đọc một trang. – Thánh Augustine โลกเปรียบเสมือนหนังสือ และผู้ที่ไม่เคยเดินทางก็เพียงอ่านหน้าเดียวเท่านั้น |
To travel is to discover that everyone is wrong about other countries. – Aldous Huxley | การเดินทางคือการค้นพบว่า ทุกคนเข้าใจผิดเกี่ยวกับประเทศอื่น |
To travel is to live. – Hans Christian Andersen | การเดินทางคือการมีชีวิต |
Traveling is not something you’re good at. It’s something you do. – Gayle Forman | การเดินทางไม่ใช่สิ่งที่คุณเก่ง มันคือสิ่งที่คุณทำ |
Once a year, go someplace you’ve never been before. – Dalai Lama | ปีละครั้ง ไปที่ที่คุณไม่เคยไปมาก่อน |
Take only memories, leave only footprints. – Chief Seattle | เก็บแต่ความทรงจำ ทิ้งไว้แต่รอยเท้า |
Stop worrying about the potholes in the road and celebrate the journey. – Fitzhugh Mullan | เลิกกังวลเกี่ยวกับหลุมบ่อบนถนน และจงเฉลิมฉลองการเดินทาง |
One’s destination is never a place, but a new way of seeing things. – Henry Miller | จุดหมายปลายทางของคนเราไม่ใช่แค่สถานที่ แต่เป็นมุมมองใหม่ต่อสิ่งต่างๆ |
The traveler sees what he sees, the tourist sees what he has come to see. – G.K. Chesterton | นักเดินทางเห็นสิ่งที่เขาเห็น นักท่องเที่ยวเห็นสิ่งที่เขาอยากเห็น |
I haven’t been everywhere, but it’s on my list. – Susan Sontag | ผมยังไม่เคยไปทุกที่ แต่มันอยู่ในรายการของฉัน |
A good traveler has no fixed plans, and is not intent on arriving. – Lao Tzu | นักเดินทางที่ดีไม่มีแผนตายตัว และไม่ได้มุ่งมั่นที่การเดินทางมาถึง |
Oh, the places you’ll go! – Dr. Seuss | โอ หนูจะไปเที่ยวที่ต่างๆ ได้! |
Once the travel bug bites there is no known antidote, and I know that I shall be happily infected until the end of my life. – Michael Palin | เมื่อถูกแมลงกัดในระหว่างการเดินทาง แล้วไม่มีใครรู้จักยาแก้ และผมรู้ว่าผมจะติดอย่างมีความสุขจนกว่าจะสิ้นลม |
To travel is to evolve. – Pierre Bernardo | การเดินทางคือการพัฒนา |
There is a kind of magicness about going far away and then coming back all changed. – Kate Douglas Wiggin | มีเวทมนตร์บางอย่างเกี่ยวกับการเดินทางไกล แล้วกลับมาพร้อมกับการเปลี่ยนแปลง |
Never hesitate to go far away, beyond all seas, all frontiers, all countries, all beliefs. – Amin Maalouf | อย่าลังเลที่จะไปไกลเกินกว่าทะเล เส้นแบ่ง เขตแดน ประเทศ หรือความเชื่อใดๆ |
I love the feeling of being anonymous in a city I’ve never been before. – Bill Bryson | ผมชอบความรู้สึกที่ได้เป็นคนไร้ตัวตนในเมืองที่ผมไม่เคยไปมาก่อน |
Traveling – it leaves you speechless, then turns you into a storyteller. – Ibn Battuta | การเดินทางจะเปลี่ยนจากคนที่ไม่ค่อยพูด ให้กลายเป็นนักเล่าเรื่องเอง |
A journey is best measured in friends rather than miles. – Tim Cahill | มาตรวัดการเดินทางที่ดีที่สุด คือ เพื่อน มิใช่ระยะทาง |
Life is either a daring adventure or nothing. – Helen Keller | ชีวิตคือการผจญภัยที่กล้าหาญ ไม่อย่างนั้นก็จะไร้ความหมาย |
Investment in travel is an investment in yourself. – Matthew Karsten | การลงทุนในการเดินทางคือการลงทุนในตัวคุณเอง |
See the world. It’s more fantastic than any dream. – Ray Bradbury | ออกไปดูโลกสิ มันวิเศษดั่งฝันที่เหนือจริง |
One must travel to learn. – Mark Twain | คนเราจำเป็นต้องเดินทางเพื่อเรียนรู้ |
Travel makes one modest. You see what a tiny place you occupy in the world. – Gustave Flaubert | การเดินทางทำให้คนเรามีความสุภาพถ่อมตัว ซึ่งคุณจะเห็นว่าตัวคุณเล็กเพียงใดในโลก |
Travel is the best way to find yourself. – Lady Gaga | การเดินทางคือหนทางที่ดีที่สุดในการค้นพบตัวตนของคุณเอง |
The journey of a thousand miles begins with a single step. - Lao Tzu | การเดินทางหลายพันไมล์นั้นเริ่มต้นจากก้าวแรกทั้งนั้น |
Nothing develops intelligence like travel. – Emile Zola | ไม่มีอะไรช่วยพัฒนาสติปัญญาได้เทียบเท่าการเดินทาง |
To speak a language is to take on a world, a culture. – Frantz Fanon | การพูดภาษาใดภาษาหนึ่ง คือการสัมผัสโลกและวัฒนธรรมนั้น |
The traveler sees what he sees, the tourists sees what he has come to see. – G.K. Chesterton | นักเดินทางเห็นสิ่งที่นักเดินทางเห็น นักท่องเที่ยวก็จะเห็นสิ่งที่เค้าอยากมาเห็น – G.K. Chesterton |

>>>Read more: ประโยคภาษาอังกฤษในชีวิตประจําวัน ช่วยคุณสื่อสารภาษาอังกฤษได้ง่ายๆ
คําคมการเดินทาง ภาษาอังกฤษที่มีความหมายที่ดี
หากคุณอยากเดินทางแต่ไม่มีแรงบันดาลใจ คําคมการเดินทางในภาษาอังกฤษที่มีความหมายที่ดีด้านล่างนี้ แน่กันว่าหลังจากอ่านคำคมเหล่านี้แล้วคุณจะมีแรงบันดาลใจในการไล่ตามความฝันของคุณ
คําคมการเดินทางในภาษาอังกฤษที่ใช้เมื่อชีวิตติดขัด
คำคมเกี่ยวกับการเดินทางภาษาอังกฤษเหล่านี้จะช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ที่รู้สึกเบื่อหน่าย สูญเสียความเชื่อและความหวังในชีวิต มาดูกันดีกว่า:
คําคมการเดินทางในภาษาอังกฤษที่ใช้เมื่อชีวิตติดขัด | ความหมาย |
After all these years, I’ve still been involved in the process of self-discovery. It’s better to explore life and make mistakes than to play it safe. Mistakes are part of the dues one pays for the full life. – Sophia Loren | หลังจากผ่านมาหลายปี ฉันยังคงอยู่ในกระบวนการค้นหาตนเอง การสำรวจชีวิตและทำผิดพลาด นั้นดีกว่าการเล่นอย่างปลอดภัย ความผิดพลาดเป็นส่วนหนึ่งของค่าที่ต้องจ่ายเพื่อชีวิตที่สมบูรณ์ |
When one realizes that his life is worthless he either commits suicide or travels. – Edward Dahlberg | เมื่อตระหนักว่าชีวิตของตนไม่มีค่า เขาก็ได้ต้องเลือกจะฆ่าตัวตายหรือออกไปเดินทาง |
Life is always fair for everyone; you will learn it when you see a stranger in a strange land. | ชีวิตมีความยุติธรรมสำหรับทุกคนเสมอ หากคุณจะเรียนรู้สิ่งนี้เมื่อพบคนแปลกหน้าในแดนแปลกหน้า |

คําคมการเดินทาง ภาษาอังกฤษที่ทำให้คุณอยากเก็บกระเป๋าแล้วออกเดินทาง
คุณจะสัมผัสถึงคุณค่าอันล้ำค่าของการเดินทางได้ก็ต่อเมื่อคุณได้ไปที่นั่นและได้สัมผัสกับสิ่งใหม่ๆ ด้วยตนเองเท่านั้น หวังว่าคำคมการเดินทางภาษาอังกฤษเหล่านี้จะทำให้คุณอยากเก็บกระเป๋าและเริ่มต้นการเดินทางครั้งใหม่ทันที
คําคมการเดินทางในภาษาอังกฤษ | ความหมาย |
Travel is the only thing that can make you rich in experiences. | การเดินทางคือสิ่งเดียวที่จะทำให้คุณมีประสบการณ์มากมาย |
Discovering new places is like writing a new chapter in your life. | การค้นหาสถานที่ใหม่ๆ ก็เหมือนการเขียนบทใหม่ในชีวิตของคุณ |
The journey is my favorite destination. | การเดินทางคือจุดหมายปลายทางโปรดของฉัน |
Life is about the moments you create, not the things you possess. | ชีวิตคือช่วงเวลาที่คุณสร้าง ไม่ใช่สิ่งที่คุณมี |
Every destination has a lesson waiting to be learned. | ทุกจุดหมายปลายทางมีบทเรียนที่รอการเรียนรู้ |
Travel is the best way to broaden your horizons. | การเดินทางเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะขยายขอบเขตความรู้ของคุณ |
Sometimes, the most productive thing you can do is relax and explore. | บางครั้งสิ่งที่สำคัญที่สุดที่คุณทำได้คือการผ่อนคลายและไปสำรวจ |
Adventure is worthwhile. | การผจญภัยเป็นสิ่งที่คุ้มค่า |
Travel not to escape life, but for life not to escape you. | การเดินทางไม่ใช่เพื่อหลบหนีชีวิต แต่เพื่อไม่ให้ชีวิตหนีคุณไป |
The best stories are found between the pages of a passport. | เรื่องราวที่ดีที่สุดมักพบได้ระหว่างหน้าหนังสือเดินทาง |

สำนวนการเดินทางในภาษาอังกฤษ
มาสำรวจสำนวนการเดินทางในภาษาอังกฤษที่ดีที่สุดกับ ELSA Speak เพื่อจุดประกายความหลงใหลในการเดินทางของคุณ!
สำนวนการเดินทางในภาษาอังกฤษ | ความหมาย |
Hit the road. | ออกไป ออกเดินทาง |
Off the beaten path. | ออกนอกเส้นทางที่ถูกย่ำแล้ว |
Travel light. | เดินทางโดยสัมภาระไม่มาก |
A journey of a thousand miles begins with a single step. | การเดินทางหลายพันไมล์นั้น เริ่มต้นจากก้าวแรกทั้งนั้น |
Take the scenic route. | เดินทางสู่เส้นทางธรรมชาติที่สวยงามเสมอๆ |
Pack your bags. | แพคกระเป๋าซะ |
Road less traveled. | ถนนที่ไม่ได้ผ่านไปบ่อย |
Catch the travel bug. | ตกหลุมรักกับการเดินทาง |
Bite the bullet. | ก้มหน้ารับกรรม |
When in Rome, do as the Romans do. | เข้าเมืองตาหลิ่ว ต้องหลิ่วตาตาม |

คติพจน์เกี่ยวกับช่วงเวลาดีๆ ในภาษาอังกฤษ
ด้านล่างนี้คือคติพจน์เกี่ยวกับช่วงเวลาดีๆ ในภาษาอังกฤษ:
คติพจน์เกี่ยวกับช่วงเวลาดีๆ ในภาษาอังกฤษ | ความหมาย |
Good times + Crazy friends = Amazing memories. | เวลาที่ดีรวมกับเพื่อนที่บ้าบอ นั่นแหล่ะเป็นความทรงจำที่ดีที่สุด |
Collect moments, not things. | จงสะสมประสบการณ์หรือความทรงจำ ไม่ใช่สิ่งของ |
Life is a party; dress like it. | ชีวิตก็เหมือนงานปาร์ตี้ ทำตัวให้สนุกแบบนั้นสิ |
Live for the moments you can’t put into words. | มีชีวิตอยู่ เพื่อช่วงเวลาที่คุณไม่สามารถอธิบายเป็นคำพูดได้ |
Laughter is timeless, imagination has no age, and dreams are forever. | เสียงหัวเราะไม่มีวันหมดอายุ จินตนาการไม่มีวันแก่ลง และความฝันคงอยู่ตลอดไป |
Make every day a new adventure. | คุณทำให้ทุกวันเป็นการผจญภัย |
Happiness is not a destination; it’s a way of life. | ความสุขไม่ใช่จุดหมายปลายทาง แต่ความสุขมันคือวิถีทางแห่งชีวิต |
Create your own sunshine. | จงสร้างแสงแดดของคุณเอง |
The best things in life are the people we love, the places we’ve been, and the memories we’ve made. | สิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตคือคนที่เรารัก , สถานที่ที่เราเคยไป และความทรงจำที่เราได้สร้างไว้ |
Enjoy the little things, for one day you may look back and realize they were the big things. | ลองสนุกไปกับนสิ่งเล็ก ๆ แล้ววันนึงเมื่อเรามองย้อนกลับมาเราอาจมองว่าเรื่องนั้นอาจจะเป็นเรื่องที่ใหญ่ก็ได้ |

>>>Read more: 65+ คำอวยพรเดินทางปลอดภัยภาษาอังกฤษ (have a nice trip) ที่คุณควรรู้
สโลแกนภาษาอังกฤษเกี่ยวกับการท่องเที่ยว
การเดินทางคือการออกไปแห่งการค้นหา ประสบการณ์ และการเติบโต นี่คือสโลแกนการเดินทางที่ดีเพื่อใช้ได้:
สโลแกน | ความหมาย |
Explore the world, one destination at a time. | สำรวจโลกครั้งละจุดหมายปลายทาง |
Discover the beauty of travel. | ค้นหาความงดงามของการเดินทาง |
Adventure is out there. | การผจญภัยรอคุณอยู่ข้างหน้านี่แหละ |
Travel. Explore. Discover. | เดินทาง สำรวจ ค้นพบ |
Find your adventure. | ค้นหาการผจญภัยของคุณ |
Wander often, wonder always. | เที่ยวบ่อย ๆ ตั้งคำถามให้เยอะ ๆ |
Travel makes the world go round. | การเดินทางทำให้โลกหมุนไป |
Let the journey begin! | ให้การเดินทางได้เริ่มต้นขึ้นที่นี่ |
See the world through new eyes. | มองโลกผ่านมุมมองใหม่ |
Your adventure awaits! | การผจญภัยของคุณกำลังรออยู่! |

บทกวีสั้น ๆ เกี่ยวกับการเดินทาง
บทกวีสั้น ๆ เกี่ยวกับการเดินทาง | ความหมาย |
In distant lands where dreams unfold,With every step, new stories are told. Mountains high and oceans wide,Adventure calls, come take the ride. | ในดินแดนอันห่างไกลที่ความฝันถูกเปิดเผยเรื่องราวใหม่ ๆ ถูกบอกเล่าในทุก ๆ ก้าวย่างภูเขาสูงและมหาสมุทรกว้างใหญ่การผจญภัยเรียกร้อง มาร่วมออกเดินทางกัน |
Wanderlust whispers in the night, Chasing sunsets, feeling light.Each journey brings a brand new view, The world awaits, just me and you. | ความอยากเดินทางกระซิบในยามค่ำคืนการตามหาพระอาทิตย์ตก สัมผัสแสงสว่างการเดินทางแต่ละครั้งนำมาซึ่งมุมมองใหม่โลกกำลังรออยู่ มีเพียงฉันและคุณ |
Pack your bags and hit the road, Leave behind your heavy load. With open hearts and eyes so bright, We’ll find our way, guided by light. | เก็บกระเป๋าและออกเดินทางทิ้งภาระอันหนักอึ้งของคุณไว้ข้างหลังด้วยหัวใจที่เปิดกว้างและดวงตาที่สดใสเราจะพบหนทางของเรา โดยนำทางด้วยแสงสว่าง |
Through winding paths and skies so blue, Every moment brings something new. Travel far, let your spirit soar, With every mile, discover more. | ผ่านเส้นทางคดเคี้ยวและท้องฟ้าสีครามทุกช่วงเวลาจะนำพาสิ่งใหม่ๆ มาให้เดินทางไกล ปล่อยให้จิตวิญญาณของคุณโบยบินค้นพบสิ่งใหม่ๆ มากขึ้นทุกไมล์ |
From city lights to quiet shores, Each destination opens doors. Memories made, laughter shared, In every journey, love is declared. | จากแสงไฟเมืองสู่ชายหาดอันเงียบสงบจุดหมายปลายทางแต่ละแห่งล้วนเปิดประตูความทรงจำที่ถูกสร้างขึ้น เสียงหัวเราะที่แบ่งปันความรักถูกประกาศในทุกการเดินทาง |

คำบรรยายภาษาอังกฤษ Chill
คำว่า Chill เป็นคำแสลงที่ใช้กันทั่วไป แปลว่า ผ่อนคลาย คลายความเครียด และเพลิดเพลิน มาสำรวจคำบรรยายภาษาอังกฤษ Chill ที่เหมาะกับภาพท่องเที่ยวที่แสดงถึงความผ่อนคลายและความสงบกันดีกว่า

แคปชั่นภาษาอังกฤษชิวๆ | ความหมาย |
Sippin’ on sunshine and good vibes. | ดื่มด่ำกับแสงแดดและโมเม้นดีๆ |
Chillin’ like a villain. | ชิลล์เหมือนคนร้าย |
Just another day in paradise. | เป็นอีกวันบนสวรรค์เลยล่ะ |
Good vibes only. | มองโลกในแง่ดีเข้าไว้ หรือ คิดบวกเข้าไว้ |
Finding peace in the chaos. | ค้นหาความสงบท่ามกลางความวุ่นวาย |
Let the waves hit your feet and the sand be your seat. | ปล่อยให้ฟองคลื่นกระทบเท้า และให้ทรายกลายเป็นที่นั่ง |
Breathe in the good vibes. | สูดหายใจรับความรู้สึกดีๆ |
Chasing chill and feeling thrill. | ไล่ตามความ “ชิว” และความรู้สึกตื่นเต้น |
Life’s a beach, enjoy the waves. | ชีวิตก็เหมือนทะเล เพราะฉะนั้นก็มีความสุขกับเกลียวคลื่นเถอะ |
Sunshine is the best medicine. | แสงแดดเป็นยาที่ดีที่สุด |

ข้างบนเป็นคําคมการเดินทาง ภาษาอังกฤษที่สร้างแรงบันดาลใจ หวังว่าจะช่วยให้คุณมีคำคมดีๆ ไว้แบ่งปันประสบการณ์การเดินทางของคุณเพิ่มมากขึ้น อย่าลืมติดตามบทความต่อไปของ ELSA Speak เพื่อค้นหาความรู้ที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับภาษาอังกฤษ และพิชิต IELTS Listening และ Speaking ด้วยแอปพลิเคชัน ELSA Speak นะคะ!
คำสรรพนาม (Pronoun) เป็นคำที่มีบทบาทสำคัญอย่างมากในการสร้างประโยคที่สมบูรณ์ ชัดเจน และหลีกเลี่ยงการใช้คำซ้ำๆ แล้ว Pronoun คืออะไร? คำสรรพนามมีกี่ประเภท? และ pronoun ใช้ยังไง? บทความนี้จาก ELSA Speak จะช่วยตอบคำถามทั้งหมดนี้!
pronoun มีอะไรบ้าง?
คำสรรพนาม (Pronoun) ในภาษาอังกฤษคือคำประเภทหนึ่งที่ใช้แทนคำนาม (noun) หรือวลีคำนาม (noun phrase) โดยมีจุดประสงค์หลักเพื่อหลีกเลี่ยงการกล่าวถึงคำนามนั้นซ้ำๆ ในข้อความหรือบทสนทนา
คำสรรพนาม (Pronoun) ช่วยให้เรื่องราวหรือข้อความดูกระชับและเข้าใจง่ายขึ้น เป็นคำประเภทหนึ่งในภาษาอังกฤษที่มักใช้เมื่อคุณต้องการกล่าวถึงคน สัตว์ หรือแนวคิดที่ได้กล่าวถึงมาก่อนหน้า ในภาษาอังกฤษ เกือบทุกประโยคจะมีคำนามหรือคำสรรพนามอย่างน้อยหนึ่งคำ
Pronoun ตัวอย่างประโยค: The children were in the garden. They were getting wet. (เด็กๆ กำลังเล่นอยู่ในสวนและพวกเขาก็เริ่มเปียก)
→ ในประโยคทั้งสองคำว่า They เป็นคำสรรพนามที่ใช้แทน The children โดยทำหน้าที่เป็นประธานที่ระบุถึงบุคคลที่กำลังพูดถึงในประโยค

ตำแหน่งและหน้าที่ของ pronoun คืออะไร?
เนื่องจากคำสรรพนามใช้แทนคำนามหรือวลีคำนามในประโยค ตำแหน่งและหน้าที่ของคำสรรพนามจึงมีความคล้ายคลึงกับคำนามในบางส่วน:
หน้าที่ | ตำแหน่ง | ตัวอย่าง |
ทำหน้าที่เป็นประธาน | อยู่ต้นประโยค | They have known each other for 8 years. (พวกเขารู้จักกันมา 8 ปีแล้ว) |
ทำหน้าที่เป็นกรรม | อยู่หลังคำกริยา | She sent me a gift three days ago. (เธอส่งของขวัญให้ฉันเมื่อสามวันก่อน) |
ทำหน้าที่เป็นส่วนเสริม | อยู่หลังกรรมหรือประธาน | Our sweetest songs are those that tell of saddest thoughts. (เพลงที่หวานที่สุดของเราคือเพลงที่เล่าถึงความคิดที่เศร้าที่สุด)You painted the living room this? (คุณทาสีห้องนั่งเล่นนี้เหรอ?) |
ทำหน้าที่เป็นส่วนประกอบ | อยู่หลังวลีบุพบท | She received a lovve letter from him. (เธอได้รับจดหมายรักจากเขา) |

Pronoun คืออะไร มีกี่ประเภท?
Personal pronoun คืออะไร? (บุรุษสรรพนาม)
Personal pronoun คืออะไร? บุรุษสรรพนาม (Personal pronoun) ความหมายในภาษาอังกฤษคือคำที่ใช้แทนคน สัตว์ สิ่งของ หรือเหตุการณ์ที่เรากล่าวถึงในข้อความหรือบทสนทนา เป็นคำสรรพนามที่พบได้บ่อยที่สุดในภาษาอังกฤษ
ตัวอย่าง: He saw me in the coffee shop. (เขาเห็นฉันในร้านกาแฟ)
→ He คือบุรุษสรรพนามที่ทำหน้าที่เป็นประธานของประโยค ส่วน me คือบุรุษสรรพนามที่ทำหน้าที่เป็นกรรมของประโยค
บุรุษสรรพนามส่วนใหญ่มีรูปแบบที่แตกต่างกันระหว่างประธานและกรรม ยกเว้น you และ it ด้านล่างนี้คือตัวอย่างการใช้บุรุษสรรพนาม:
บุรุษสรรพนาม | บุรุษสรรพนามที่ทำหน้าที่เป็นประธาน | บุรุษสรรพนามที่ทำหน้าที่เป็นกรรม |
บุรุษที่หนึ่ง | I/We | Me/Us |
บุรุษที่สอง | You | You |
บุรุษที่สาม | He/She/It/They | Him/Her/It/Them |

Possessive pronouns (คำสรรพนามแสดงความเป็นเจ้าของ)
คำสรรพนามแสดงความเป็นเจ้าของ (Possessive pronoun) คือคำที่ใช้เพื่อแสดงว่าสิ่งของ คน หรือความคิดของคนๆหนึ่ง คำสรรพนามแสดงความเป็นเจ้าของสามารถทำหน้าที่เป็นประธานหรือกรรมในประโยคได้ ในบางกรณี คำสรรพนามแสดงความเป็นเจ้าของที่ตามหลังคำบุพบทจะเรียกว่า double possessive
ตัวอย่าง: Charlotte noticed that Seth’s dog was bigger than hers. (ชาร์ลอตต์สังเกตว่าหมาของเซธตัวใหญ่กว่าของเธอ)
→ คำสรรพนามแสดงความเป็นเจ้าของ hers ชี้ให้เห็นว่า Charlotte’s dog (วลีคำนามที่ถูกแทนด้วยคำว่า hers) เป็นของชาร์ลอตต์
คำสรรพนามแสดงความเป็นเจ้าของคือรูปแบบหนึ่งของบุรุษสรรพนามตามลำดับบุรุษในภาษาอังกฤษ ดังนี้:
บุรุษสรรพนาม | คำสรรพนามแสดงความเป็นเจ้าของ | ตัวอย่าง |
I | Mine (ของฉัน) | This book is mine. (หนังสือเล่มนี้เป็นของฉัน) |
You | Yours (ของคุณ) | Is this pen yours? (ปากกานี้เป็นของคุณหรือเปล่า) |
He | His (ของเขา) | Laptop is his. (แล็ปท็อปเป็นของเขา) |
She | Hers (ของเธอ) | The blue dress is hers. (ชุดเดรสสีน้ำเงินเป็นของเธอ) |
We | Ours (ของพวกเรา) | The house is ours. (บ้านหลังนี้เป็นของพวกเรา) |
They | Theirs (ของพวกเขา) | The project’s success is theirs. (ความสำเร็จของโครงการเป็นของพวกเขา) |

Reflexive pronoun คืออะไร? (สรรพนามที่อ้างถึงตนเองหรือสรรพนามสะท้อน)
Reflexive pronoun คืออะไร? สรรพนามที่อ้างถึงตนเองหรือสรรพนามสะท้อน (Reflexive pronoun) ในภาษาอังกฤษคือคำที่ใช้เมื่อคนหรือสิ่งอื่นๆ เป็นผู้กระทำและรับการกระทำในเวลาเดียวกัน คำสรรพนามประเภทนี้มักใช้เพื่อทดแทนชื่อเฉพาะของบุคคล
สรรพนามที่อ้างถึงตนเองหรือสรรพนามสะท้อน ได้แก่:
บุรุษสรรพนาม | สรรพนามที่อ้างถึงตนเองหรือสรรพนามสะท้อน |
IYouHeSheItWeYouThey | Myself (ตัวฉันเอง)Yourself (ตัวคุณเอง)Himself (ตัวเขาเอง)Herself (ตัวเธอเอง)Itself (ตัวมันเอง)Ourself (ตัวพวกเราเอง)Yourself (ตัวพวกคุณเอง)Themself (ตัวพวกเขาเอง)Oneself (ตัวเอง) |
ตัวอย่าง: I taught myself to play the guitar. (ฉันสอนตัวเองเล่นกีตาร์)

คำสรรพนามเชื่อมความ (Relative pronouns)
คำสรรพนามเชื่อมความ (Relative pronouns) มักปรากฏที่จุดเริ่มต้นของอนุประโยคและช่วยเชื่อมอนุประโยคเข้ากับประโยคหลัก คำสรรพนามเชื่อมความที่พบบ่อย ได้แก่:
คำสรรพนามเชื่อมความ (Relative pronoun) | การใช้งาน | ตัวอย่าง |
Who | ใช้เมื่ออ้างถึงคน | The person who called me is my friend. (คนที่โทรหาฉันคือเพื่อนของฉัน) |
Whom | ใช้เมื่ออ้างถึงคน มักปรากฏหลังคำบุพบท | The person whom I talked to is my boss. (คนที่ฉันคุยด้วยคือเจ้านายของฉัน) |
Which | ใช้เพื่อระบุสิ่งของ สัตว์ หรือเหตุการณ์ | The book which is on the table is mine. (หนังสือที่อยู่บนโต๊ะเป็นของฉัน) |
That | ใช้ได้ทั้งคนและสิ่งของ | The car that I bought is red. (รถที่ฉันซื้อมาคือมีสีแดง) |
Whose | ใช้เพื่อแสดงความเป็นเจ้าของของคนหรือสิ่งของ | The girl whose bag was stolen is upset. (เด็กผู้หญิงที่ถูกขโมยกระเป๋าไปรู้สึกเสียใจ) |

>>> Read more: Subordinating Conjunctions ในภาษาอังกฤษ กลุ่มคำที่พบบ่อยพร้อมแบบฝึกหัด
คำสรรพนามชี้เฉพาะ (Demonstrative pronouns)
คำสรรพนามชี้เฉพาะ (Demonstrative pronouns) ได้แก่ this, that, those และ these คำเหล่านี้ใช้เพื่อเน้นย้ำสิ่งที่ถูกกล่าวถึงก่อนหน้านี้หรือสิ่งที่ชัดเจนในบริบท
คำสรรพนามชี้เฉพาะ (Demonstrative pronouns) | การใช้งาน | ตัวอย่าง |
This | มักใช้เพื่อระบุบุคคลหรือสิ่งของที่อยู่ใกล้ผู้พูด | Can you pass me this book? (คุณช่วยส่งหนังสือเล่มนี้ให้ฉันได้ไหม) |
These | ใช้เพื่อระบุบุคคลหรือสิ่งของหลายอย่างที่อยู่ใกล้ผู้พูด | I like these flowers in the garden. (ฉันชอบดอกไม้เหล่านี้ที่อยู่ในสวน) |
That | มักใช้เพื่อระบุบุคคลหรือสิ่งของที่อยู่ไกลจากผู้พูด | What is that building across the street? (อาคารที่อยู่ฝั่งตรงข้ามถนนนั้นคืออาคารอะไร) |
Those | ใช้เพื่อระบุบุคคลหรือสิ่งของหลายอย่างที่อยู่ไกลจากผู้พูด | I don’t like those shoes on the shelf. (ฉันไม่ชอบรองเท้าคู่นั้นที่วางอยู่บนชั้น) |

สรรพนามแสดงคำถาม (Interrogative pronouns)
สรรพนามแสดงคำถาม (Interrogative pronouns) คือคำที่ใช้เพื่อสร้างประโยคคำถามในภาษาอังกฤษ สรรพนามแสดงคำถามที่สำคัญ ได้แก่ who, whom, what, which และ whose ในบางครั้งประโยคคำถามอาจมีสรรพนามแสดงคำถามมากกว่าหนึ่งคำ
สรรพนามแสดงคำถาม (Interrogative pronouns) | การใช้งาน | ตัวอย่าง |
Who | ใช้เพื่อถามเกี่ยวกับคน | Who is that? (นั่นคือใคร?) |
Whom | คล้ายกับ “who” แต่มักปรากฏหลังคำบุพบท | Whom did you meet? (คุณเจอใคร?) |
What | ใช้เพื่อถามเกี่ยวกับคนหรือสิ่งของ | What did you say? (คุณพูดว่าอะไร?) |
Which | ใช้เพื่อถามเกี่ยวกับการเลือกหรือความแตกต่างระหว่างคนหรือสิ่งของ | Which car do you prefer? (คุณชอบรถคันไหน?) |
Whose | ใช้เพื่อถามเกี่ยวกับความเป็นเจ้าของ มักเป็นประธานของคำกริยา | Whose book is this? (หนังสือเล่มนี้เป็นของใคร?) |

>>> Read more: Object pronouns (สรรพนามรูปกรรม) คืออะไร? หลักการใช้และแบบฝึกหัดการใช้งาน
คำสรรพนามที่แสดงการจำแนก (Distributive pronouns)
คำสรรพนามที่แสดงการจำแนก (Distributive pronouns) ในภาษาอังกฤษคือคำที่ใช้เพื่อระบุคนหรือสิ่งของบางอย่างในกลุ่ม คำเหล่านี้ประกอบด้วย all, most, each, both, either และ neither
คำสรรพนามที่แสดงการจำแนก (Distributive pronouns) | การใช้งาน | ตัวอย่าง |
All | ใช้เพื่อแสดงถึงจำนวนทั้งหมดของคนหรือสิ่งของในกลุ่มตั้งแต่สามขึ้นไป | All students should bring their textbooks to class. (นักเรียนทุกคนควรนำหนังสือเรียนมาที่ชั้นเรียน) |
Most | ใช้เพื่อแสดงถึงส่วนใหญ่ของกลุ่มคนหรือสิ่งของ | Most people enjoy spending time with their families. (คนส่วนใหญ่ชอบใช้เวลากับครอบครัว) |
Each | ใช้เพื่อแสดงถึงแต่ละบุคคลหรือหน่วยในจำนวนตั้งแต่สองขึ้นไป | Each student is responsible for completing their own homework. (นักเรียนแต่ละคนต้องรับผิดชอบในการทำการบ้านของตนเอง) |
Both | ใช้เพื่อแสดงถึงทั้งสองคนหรือทั้งสองสิ่ง | Both of my parents are doctors. (พ่อแม่ของฉันทั้งสองคนเป็นหมอ) |
Either | ใช้เมื่อมีสองตัวเลือกและคุณต้องการระบุหนึ่งในนั้น | You can take either the bus or the train to get to the city. (คุณสามารถเลือกได้ว่าจะนั่งรถบัสหรือรถไฟเพื่อไปในเมือง) |
Neither | ใช้เมื่อไม่มีตัวเลือกใดในสองตัวเลือก และคุณต้องการปฏิเสธทั้งสอง | Neither of the restaurants was open late. (ร้านอาหารทั้งสองแห่งไม่ได้เปิดดึก) |

คำสรรพนามไม่เจาะจง (Indefinite pronoun)
คำสรรพนามไม่เจาะจง – Indefinite pronoun คือคำสรรพนามที่ไม่ได้ระบุถึงบุคคล สิ่งของ หรือจำนวนใด ๆ อย่างเฉพาะเจาะจง คำสรรพนามประเภทนี้มีความหมายที่คลุมเครือและ “ไม่เจาะจง” ว่าหมายถึงอะไร
ตัวอย่าง: Someone ate the last slice of pizza. (มีใครบางคนกินพิซซ่าชิ้นสุดท้ายไป)
→ คำว่า someone เป็นคำสรรพนามไม่เจาะจงในประโยคนี้ คำว่า someone ใช้แทนคน แต่เราไม่ทราบข้อมูลอื่นใดเกี่ยวกับเขา
คำสรรพนามไม่เจาะจงในภาษาอังกฤษ ได้แก่:
Some (บาง) | something, someone, somebody, somewhere(บางสิ่ง ใครบางคน คนใดคนหนึ่ง ที่ใดที่หนึ่ง) |
Any (ใด ๆ อะไรก็ได้) | anything, anyone, anybody, anywhere(อะไรก็ได้ ใครก็ได้ ใครก็ตาม ที่ใดก็ได้) |
Every (ทุก แต่ละ) | everything, everyone, everybody, every where(ทุกสิ่ง ทุกคน ทุกที่) |
None (ไม่มี) | nothing, no one, nobody(ไม่มีอะไร ไม่มีใคร) |

คำสรรพนามซึ่งกันและกัน (Reciprocal pronoun)
เราใช้คำสรรพนามซึ่งกันและกัน (Reciprocal pronoun) เมื่อสองหรือหลายบุคคลมีการกระทำต่อกันในลักษณะเดียวกัน
ตัวอย่าง: A and B are talking to each other. (A และ B กำลังพูดคุยกัน)
คำสรรพนามซึ่งกันและกันในภาษาอังกฤษ ได้แก่ each other และ one another
• Each other (กันและกัน)
John and Mary love each other. (John และ Mary รักกัน)
• One another (ซึ่งกันและกัน)
The ten prisoners were all blaming one another. (นักโทษทั้งสิบคนต่างโทษกันและกัน)
คำสรรพนามเน้นย้ำ (Emphatic pronoun)
คำสรรพนามเน้นย้ำ (Emphatic pronoun) ในภาษาอังกฤษใช้ตามหลังคำนามที่มันอ้างถึง เพื่อเน้นความสำคัญ
คำสรรพนามเน้นย้ำมีรูปแบบเหมือนกับสรรพนามที่อ้างถึงตนเองหรือสรรพนามสะท้อน (Reflexive pronoun)
คำสรรพนาม | คำสรรพนามเน้นย้ำ (Emphatic pronoun) |
IYouHeSheItWeYouThey | Myself (ตัวฉันเอง)Yourself (ตัวคุณเอง)Himself (ตัวเขาเอง)Herself (ตัวเธอเอง)Itself (ตัวมันเอง)Ourself (ตัวพวกเราเอง)Yourself (ตัวพวกคุณเอง)Themself (ตัวพวกเขาเอง)Oneself (ตัวเอง) |
ตัวอย่าง: I myself had to do all the cooking as no one was home. (ฉันต้องทำอาหารด้วยตัวเองทั้งหมดเพราะไม่มีใครอยู่บ้าน)
แม้ว่าสรรพนามที่อ้างถึงตนเองหรือสรรพนามสะท้อน (Reflexive pronoun) และคำสรรพนามเน้นย้ำ (Emphatic pronoun) จะมีรูปแบบเหมือนกัน แต่การใช้งานแตกต่างกัน:
- สรรพนามที่อ้างถึงตนเองหรือสรรพนามสะท้อน อาจทำหน้าที่เป็นกรรมตรง กรรมรอง หรือกรรมของบุพบท เมื่อมันแสดงถึงวัตถุของประธานในประโยคเดียวกัน
ตัวอย่าง: Bev ordered pepperoni pizza for herself and vegetarian pizza for her friends. (เบ้บสั่งพิซซ่าเปปเปอโรนีให้ตัวเองและพิซซ่ามังสวิรัติให้เพื่อนของเธอ)
- คำสรรพนามเน้นย้ำ ไม่ได้ทำหน้าที่เป็นกรรมในประโยค แต่ใช้เพื่อเน้นย้ำคำนามอื่น
ตัวอย่าง: Bev picked up the pizza herself. (เบ้บไปรับพิซซ่าด้วยตัวเอง)

กรณีพิเศษในการใช้ pronoun คืออะไร?
กรณีพิเศษ | รายละเอียด | ตัวอย่าง |
You ในรูปพหูพจน์ | คำสรรพนาม You โดยปกติจะใช้พูดถึงบุคคลที่อยู่ตรงข้ามกับผู้สื่อสาร แต่ในบางกรณีสามารถใช้เพื่อพูดถึงกลุ่มคนได้เช่นกัน | The exercise here is your homework. You’ll need to finish it before Friday. (แบบฝึกหัดนี้คือการบ้านของพวกคุณ พวกคุณต้องทำให้เสร็จก่อนวันศุกร์)There must have been many cases in which you felt exhausted with your work. (อาจมีหลายกรณีที่พวกคุณรู้สึกเหนื่อยล้ากับงานของตัวเอง) |
They ในรูปเอกพจน์ | เมื่อพูดถึงบุคคลที่ไม่ระบุเพศหรือไม่ทราบเพศ คำสรรพนามในภาษาอังกฤษ They จะถูกนำมาใช้ อย่างไรก็ตาม กริยาที่ตามหลัง “they” ในกรณีนี้ยังคงต้องใช้รูปพหูพจน์หรือใช้กริยา to be รูป are | A person may become more prone to obesity if they refuse to do exercise. (บุคคลหนึ่งอาจมีแนวโน้มที่จะเป็นโรคอ้วนได้ง่ายขึ้นหากพวกเขาปฏิเสธที่จะออกกำลังกาย) → “A person” หมายถึงบุคคลใดๆ ที่ไม่ระบุเพศหรือไม่ชัดเจนในเรื่องเพศ ดังนั้นจึงใช้อ้างถึงด้วยคำสรรพนาม “they”)We can tell someone’s personality based on the type of music they listen to. (เราสามารถบอกลักษณะนิสัยของใครบางคนได้จากประเภทของเพลงที่พวกเขาฟัง)–> “Someone” หมายถึงบุคคลใดๆ ที่ไม่ระบุเพศหรือไม่ชัดเจนในเรื่องเพศ ดังนั้นจึงใช้อ้างถึงด้วยคำสรรพนาม “they”) |
สรรพนามประธานหลังคำว่า “be” ใน cleft sentences | ในโครงสร้าง cleft sentence ส่วนประกอบของประโยคที่ต้องการเน้นจะถูกยกขึ้นมาต้นประโยคหลังจาก “it + be” โดยในกรณีที่คำสรรพนามเป็นส่วนที่เน้น จะต้องใช้ในรูปประธานแทนที่จะเป็นกรรม | It was she who passed the exam with the highest score. (เธอคือคนที่สอบผ่านด้วยคะแนนสูงสุด)It is he who wins the lottery. (เขาคือคนที่ถูกลอตเตอรี่) |
สรรพนามแทนยานพาหนะ (vehicles) และประเทศ (countries) | ในภาษาอังกฤษ ยานพาหนะ โดยเฉพาะเรือ และประเทศมักถูกใช้ด้วยคำสรรพนามเพศหญิง (she/her/hers) ในบุคคลที่สาม (อย่างไรก็ตาม ในภาษาไทยคำเหล่านี้จะไม่ถูกแปลเป็น “มัน”) | Mary Rose was a famous warship in the 15th century. People still don’t know why she sank. (Mary Rose เป็นเรือรบที่มีชื่อเสียงในศตวรรษที่ 15 แต่คนยังไม่รู้ว่าทำไมมันจม)The Titanic sank in the early 20th century, but her body was found much later than that. (Titanic จมในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 แต่ร่างของมันถูกค้นพบในภายหลัง) |
สรรพนามแทนองค์กร (บริษัท องค์การ รัฐบาล…) | เมื่อพูดถึงองค์กรในบุคคลที่สาม คำสรรพนามที่ใช้จะเป็น it แม้ว่าภายในองค์กรจะมีคนทำงานหลายคนก็ตาม ในภาษาไทย คำว่า it ในกรณีนี้มักแปลเป็น “พวกเขา” แทนที่จะเป็น “มัน” | Coca-Cola has just released its annual report. (Coca-Cola เพิ่งเผยแพร่รายงานประจำปีของพวกเขา)The government promised a lot of changes in the area. However, it has failed the people. (รัฐบาลสัญญาว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงมากมายในพื้นที่ แต่พวกเขาทำให้ประชาชนผิดหวัง) |
ห้ามใส่เครื่องหมาย (‘) ในสรรพนามแสดงความเป็นเจ้าของ | ห้ามใส่เครื่องหมาย (‘) ในคำสรรพนามแสดงความเป็นเจ้าของ เนื่องจากคำสรรพนามเหล่านี้มีความหมายว่า “ของ” อยู่แล้ว และไม่จำเป็นต้องใส่เครื่องหมาย (‘s) เครื่องหมายดังกล่าวใช้สำหรับคำนามแสดงความเป็นเจ้าของเท่านั้น | The black dress is hers. (ชุดสีดำเป็นของเธอ)หมายเหตุ: ห้ามใช้: The black dress is Her’s |
กริยาหลังสรรพนามขึ้นอยู่กับคำนามที่แทน | เมื่อใช้คำสรรพนามในประโยค กริยาที่ตามหลังคำสรรพนามต้องสอดคล้องกับคำนามที่คำสรรพนามนั้นแทน โดยต้องปฏิบัติตามกฎของเอกพจน์และพหูพจน์อย่างชัดเจน กล่าวคือ หากคำสรรพนามแทนคำนามเอกพจน์ กริยาต้องใช้ในรูปเอกพจน์ แต่ถ้าคำสรรพนามแทนคำนามพหูพจน์ กริยาต้องใช้ในรูปพหูพจน์ | Those cars are nice. They look expensive. (รถเหล่านั้นดูดีมาก พวกมันคงดูมีราคาสูง)→ คำสรรพนามหรือประธานในที่นี้คือ “Those cars” ซึ่งเป็นคำนามพหูพจน์ ดังนั้นกริยา to be จะต้องอยู่ในรูปพหูพจน์คือ are |
สรรพนามบางคำมักใช้ในรูปเอกพจน์เสมอ ดังนั้นกริยาจะต้องผันเป็นเอกพจน์ด้วย | คำเหล่านี้ ได้แก่ He, she, everybody, anyone, somebody, each, neither, everyone, nobody, either เป็นต้น | Everybody is tired after the exam. (ทุกคนเหนื่อยหลังจากการสอบเสร็จ)She is reading a book. (เธอกำลังอ่านหนังสือ) |

แบบฝึกหัดเกี่ยวกับคำสรรพนามในภาษาอังกฤษ
แบบฝึกหัด
แบบฝึกหัดที่ 1: แทนคำที่ขีดเส้นใต้ด้วยคำสรรพนามแสดงความเป็นเจ้าของที่เหมาะสม:
1. Marianne liked my cookies more than your cookies.
2. Sherlock, is that your car?
3. Did you find the cat’s bell?
4. That is not their car. This black one is their car.
5. Whose bike is this? Is it his bike?

แบบฝึกหัดที่ 2: อ่านเรื่องราวและเติมคำในช่องว่างด้วยคำสรรพนามที่เหมาะสม
Last year we went to Antalya to visit 1) ……………… grandparents. 2) ……………… were very glad to see 3) ……………… 4) ……………… was a very good holiday for 5) ………………. We went swimming with 6) ……………… brother. 7) ……………… swims well. 8) ……………… had picnics all together. The picnics were very funny. My grandmother made sandwiches for 9) ………………. 10) ……………… makes really delicious sandwiches. I love all 11) ……………… meals.
12) ……………… father and mother went to discos at night. 13) ……………… like dancing and at the weekend 14) ……………… go to a dance club. While 15) ……………… parents were out, 16) ……………… grandfather told us funny stories. 17) ……………… laughed all night. 18) ……………… grandmother made pop-corn for 19) ……………….
แบบฝึกหัดที่ 3: เติมคำถามต่อไปนี้ให้สมบูรณ์ด้วยคำสรรพนามคำถามที่เหมาะสม
1. …………… is your name?
2. …………… are you going to the party with?
3. …………… is the capital of France?
4. …………… did you buy that beautiful dress?
5. …………… is knocking on the door?
6. …………… time does the train leave?
7. …………… was the movie last night?
8. …………… can I find the nearest gas station?
9. …………… are my keys?
10. …………… are you so late?

เฉลย
แบบฝึกหัดที่ 1: แทนคำที่ขีดเส้นใต้ด้วยคำสรรพนามแสดงความเป็นเจ้าของที่เหมาะสม
1. yours
2. yours
3. its
4. theirs
5. his
แบบฝึกหัดที่ 2: อ่านเรื่องราวและเติมคำในช่องว่างด้วยคำสรรพนามที่เหมาะสม
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
our | They | us | It | Us | our | He | We | us | She |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | |
her | Our | They | they | our | our | We | Our | us |
แบบฝึกหัดที่ 3: เติมคำถามต่อไปนี้ให้สมบูรณ์ด้วยคำสรรพนามคำถามที่เหมาะสม
What | Who | What | Where | Who |
What | How | Where | Where | Why |
ทั้งหมดนี้คือเนื้อหาเกี่ยวกับคำสรรพนาม (Pronoun) และ pronoun คําศัพท์ในภาษาอังกฤษ หวังว่าความรู้นี้จะช่วยให้คุณมั่นใจมากขึ้นในการสื่อสารภาษาอังกฤษ นอกจากนี้ อย่าลืมเข้าไปใช้งาน ELSA Speak บ่อย ๆ เพื่ออัปเดตความรู้ภาษาอังกฤษใหม่ ๆ ทุกวันกันนะ!
คุณกำลังมองหาคําคมทํางาน ภาษาอังกฤษที่ให้แรงบันดาลใจหรือไม่? คำคมเกี่ยวกับงานเป็นภาษาอังกฤษจะเป็นเครื่องมือที่ขาดไม่ได้ในการช่วยให้คุณพัฒนาทักษะทางภาษาและสร้างแรงบันดาลใจใหม่ๆ มาเรียนรู้คำคมที่มีความหมายดีๆ กับ ELSA Speak ผ่านบทความนี้กันเลย!
คําคมทํางาน ภาษาอังกฤษช่วยสร้างแรงบันดาลใจ
คําคมทํางาน ภาษาอังกฤษสั้นๆ เหล่านี้ไม่เพียงแต่เป็นแรงบันดาลใจที่ดีเท่านั้น แต่ยังช่วยให้คุณมีแรงจูงใจที่จะบรรลุเป้าหมายในการทำงานทั้งหมดของคุณด้วย อย่าลังเลใจที่จะจดจำและนำมาปฏิบัติในชีวิตจริง
จำไว้ว่าทุกก้าวเล็กๆ ที่คุณก้าวไปเป็นส่วนหนึ่งของการเดินทางสู่การบรรลุความฝันของคุณ อย่าเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น แต่จงมุ่งเน้นที่จะพัฒนาตัวเองจากเมื่อวาน แม้ว่ามันจะยากลำบาก แต่เชื่อเถิดว่าความพยายามทุกอย่าง แม้จะเล็กน้อยเพียงใดก็ตาม ก็จะได้รับผลตอบแทน สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ
จงจำไว้เสมอว่าเหตุใดคุณจึงเริ่มต้น และให้ความหลงใหลของคุณจะชี้นำการกระทำทุกๆ อย่าง
ภาษาอังกฤษ ความ หมาย ดีๆ สั้นๆไม่ได้เป็นเพียงแค่คำเตือนใจที่เรียบง่ายเท่านั้น แต่ยังเป็นแรงบันดาลใจให้คุณมุ่งมั่นทำงานด้วยหัวใจอีกด้วย เมื่อคุณมีทัศนคติเชิงบวก ความท้าทายทุกอย่างก็จะเป็นเพียงบทเรียนที่ทำให้คุณเข้มแข็งขึ้นทุกวัน
คำคม | ความหมาย |
Work hard in silence, let success make the noise. | ทำงานหนักเงียบๆ แล้วให้ความสำเร็จเป็นเสียงแทน |
Dream it. Wish it. Do it. | ฝันแล้วต้องลงมือทำ |
Success is not for the lazy. | ความสำเร็จไม่ได้มีไว้สำหรับคนขี้เกียจ |
The future depends on what you do today. | อนาคตของเราขึ้นอยู่กับสิ่งที่เราทำในวันนี้ |
Do something today that your future self will thank you for. | จงทำสิ่งที่ตัวคุณในอนาคตจะขอบคุณคุณที่ทำอย่างนั้นในวันนี้ |
Nothing worth having comes easy. | ไม่มีสิ่งที่มีคุณค่าใด จะได้มาง่ายๆ |
Success is a journey, not a destination. | ความสำเร็จคือการเดินทาง มิใช่จุดหมายปลายทาง |
Don’t stop until you’re proud. | อย่าหยุดยั้งจนกว่าเราจะภาคภูมิใจ |
Work smarter, not harder. | จงทำงานให้ ‘ฉลาด’ แทนที่จะทำงานให้ ‘หนัก’ |
Discipline is the bridge between goals and accomplishment. | วินัยคือสะพานระหว่างเป้าหมายและความสำเร็จ |
Every accomplishment starts with the decision to try. | ทุกๆความสำเร็จเริ่มต้นจากการตัดสินใจจะทำ |
Success is the sum of small efforts repeated day in and day out. | ความสำเร็จคือผลลัพธ์ของความพยายามที่เกิดขึ้นซ้ำ ๆ ในทุก ๆ วัน |
Stay hungry. Stay foolish. | จงอยู่อย่างหิวกระหายและโง่เขลา |
Challenges are what make life interesting, and overcoming them is what makes life meaningful. | ความท้าทายเป็นสิ่งที่ทำให้ชีวิตน่าสนใจ แต่การเอาชนะมันให้ได้ เป็นสิ่งที่ทำให้ชีวิตมีความหมาย |
Effort is never wasted, even when it leads to disappointing results. | ความพยายามไม่เคยสูญเปล่า แม้ว่าผลลัพธ์จะไม่เป็นไปตามที่คาดหวังก็ตาม |
The harder you work for something, the greater you’ll feel when you achieve it. | ยิ่งคุณทุ่มเทกับอะไรมากเท่าไหร่ คุณก็ยิ่งรู้สึกมากขึ้นเมื่อคุณประสบความสําเร็จ |
Push yourself, because no one else is going to do it for you. | คุณต้องผลักดันตัวคุณเองเพราะไม่มีใครมาทำให้คุณหรอก |
Dreams don’t work unless you do. | ความฝันจะไม่เกิดขึ้นเลย…หากไม่ลงมือทำ |
The only way to do great work is to love what you do. | หนทางเดียวที่คุณจะสร้างผลงานที่ยิ่งใหญ่ขึ้นมาได้นั้นต้องมาจากความรักในสิ่งที่คุณกำลังทำอยู่ |
Work until your bank account looks like a phone number. | ทำงานจนกว่ายอดเงินในบัญชีจะคล้ายกับเบอร์โทรศัพท์ของคุณ |
Work harder than you did yesterday. | ทำงานให้หนักกว่าที่คุณทำไว้เมื่อวานเสมอ |
To win big, you sometimes have to take big risks. | การไปถึงเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ในบางครั้ง คุณก็ต้องแบกรับความเสี่ยงที่สูง |
Winners are losers who got up and gave it one more try. | ผู้ชนะคือผู้แพ้ที่ลุกขึ้นและลองอีกครั้ง |
Obstacles are those frightful things you see when you take your eyes off your goal. | คุณจะเห็นอุปสรรคเป็นสิ่งที่น่ากลัว เมื่อคุณละสายตาจากเป้าหมาย |
Hard-won things are more valuable than those that come too easily. | สิ่งที่ได้มาอย่างยากเย็น ย่อมมีคุณค่ามากกว่าสิ่งที่ได้มาง่าย ๆ |
You get what you work for, not what you wish for. | คุณได้ในสิ่งที่คุณทำ ไม่ใช่สิ่งที่คุณร้องขอ |

คําคมทํางาน ภาษาอังกฤษที่มีความหมายดีๆ
ด้านล่างนี้เป็นคําคมชีวิต ภาษาอังกฤษที่มีความหมายดีๆ ซึ่งจะช่วยสร้างแรงบันดาลใจ และทำให้คุณมีกำลังใจในการก้าวไปข้างหน้า มาเรียนรู้คำพูดเหล่านี้เพื่อสร้างทัศนคติเชิงบวกและความเพียรพยายามในการทำงาน การเรียนรู้ และชีวิตกันเถอะ
คำคม | ความหมาย |
Work for a cause, not for applause. | ทำงานเพื่อจุดมุ่งหมาย ไม่ใช่เพื่อเสียงปรบมือ |
Don’t be afraid to give up the good to go for the great. | อย่ากลัวที่จะเปลี่ยนแปลง จากสิ่งที่ดี ไปสู่สิ่งที่ดีกว่า |
Hard work pays off later, laziness pays off now. | ความขยันจะได้รับผลตอบแทนภายหลัง ความขี้เกียจจะได้รับผลตอบแทนตอนนี้ |
Success doesn’t just come to you, you have to chase it. | ความสำเร็จไม่ได้มาหาคุณเอง แต่คุณต้องไล่ตามมัน |
The only limit to our realization of tomorrow is our doubts of today. | อุปสรรคเดียว ที่ขวางกั้นความสำเร็จของเราในวันพรุ่งนี้ คือการที่วันนี้ เราไม่ยอมเชื่อมั่นในตัวเอง |
Your work is going to fill a large part of your life, and the only way to be truly satisfied is to do what you believe is great work. | คุณจะเสียเวลาชีวิตไปกับการทำงานอย่างงมาก และหนทางเดียวที่คุณจะรู้สึกพึงพอใจกับชีวิตได้ก็คือการที่คุณทำในสิ่งที่คุณเชื่อว่าเป็นงานอันยอดเยี่ยม และหนทางเดียวที่คุณจะทำงานอันยอดเยี่ยมได้ |
Success is not in what you have, but who you are. | ความสำเร็จไม่ได้อยู่ที่สิ่งที่คุณมี แต่อยู่ที่สิ่งที่คุณเป็น |
Don’t aim for success if you want it; just do what you love and believe in, and it will come naturally. | อย่ามุ่งไปที่ความสำเร็จเพียงแค่คุณต้องการมันแต่จงทำในสิ่งที่คุณรักและเชื่อมั่น แล้วมันจะตามมาเอง |
Believe you can and you’re halfway there. | แค่เชื่อว่าคุณทำได้ นั่นก็หมายความว่าคุณมาได้ครึ่งทางแล้ว |
Dream big. Start small. Act now. | คิดใหญ่… เริ่มต้นเล็กๆ… ลงมือทำเดี๋ยวนี้ |
Success is the sum of small efforts, repeated day in and day out. | ความสำเร็จคือผลลัพธ์ของความพยายามที่เกิดขึ้นซ้ำ ๆ ในทุก ๆ วัน |
Do what you love, and you’ll never have to work a day in your life. | เลือกอาชีพที่คุณรัก แล้วคุณจะไม่รู้สึกว่าสิ่งที่ทำคือการทำงาน |
The key to success is to focus on goals, not obstacles. | กุญแจสู่ความสำเร็จ คือการโฟกัสไปที่เป้าหมายไม่ใช่อุปสรรค |
The future depends on what you do today. | อนาคตของเราขึ้นอยู่กับสิ่งที่เราทำในวันนี้ |
If you want to achieve greatness, stop asking for permission. | หากคุณต้องการที่จะประสบความสำเร็จ จงหยุดขออนุญาต |
Success usually comes to those who are too busy to be looking for it. | ความสำเร็จจะมาหาผู้ที่ยุ่งเกินกว่าจะไขว่คว้ามัน |
The secret to getting ahead is getting started. | ความลับของการก้าวไปข้างหน้าคือการเริ่มต้น |
Opportunities don’t happen. You create them. | โอกาสไม่ได้อยู่อยู่ก็เกิดขึ้นแต่มาจากที่คุณสร้าง |
Success is not final, failure is not fatal: It is the courage to continue that counts. | ความสำเร็จไม่ใช่จุดสิ้นสุด ความล้มเหลวไม่ใช่สิ่งร้ายแรง แต่ความกล้าที่จะดำเนินต่อไปต่างหากเป็นสิ่งสำคัญ |
Work hard, be kind, and amazing things will happen. | ขยันและจริงใจ แล้วสิ่งดีๆ จะเกิดขึ้นเอง |
It’s not about ideas. It’s about making ideas happen. | ไม่ใช่เรื่องของไอเดีย แต่มันเป็นเรื่องของการทำให้ไอเดียเกิดขึ้นจริง |
The only way to do great work is to love what you do. | หนทางเดียวที่คุณจะสร้างผลงานที่ยิ่งใหญ่ขึ้นมาได้นั้นต้องมาจากความรักในสิ่งที่คุณกำลังทำอยู |
Work hard in silence, let your success be your noise. | ทำงานหนักอย่างเงียบ ๆ และปล่อยให้ความสำเร็จของคุณส่งเสียงออกมาเอง |
Success doesn’t come to you. You go to it. | ความสำเร็จมันไม่ได้จะวิ่งมาหาคุณ คุณต้องออกไปหามันเอง |
Hard work beats talent when talent doesn’t work hard. | ความขยันเอาชนะพรสวรรค์ได้ เมื่อพรสวรรค์ไม่ทำงานหนัก |
Success isn’t just about what you accomplish in your life, it’s about what you inspire others to do. | ความสำเร็จไม่ได้หมายถึงแค่สิ่งที่คุณทำสำเร็จในชีวิตเท่านั้น แต่ยังหมายถึงสิ่งที่คุณสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้อื่นอีกด้วย |
The harder you work, the luckier you get. | ยิ่งทำงานหนักเท่าไหร่ โชคก็ยิ่งเข้าข้างคุณมากเท่านั้น |
Don’t wish for less challenges. Wish for more skills. | อย่าขอให้อุปสรรคน้อยลง แต่ขอให้ทักษะมากขึ้น |
It does not matter how slowly you go, as long as you do not stop. | ไม่สำคัญว่าคุณจะเดินช้าแค่ไหน ตราบใดที่คุณไม่หยุดเดิน |
Success is achieved and maintained by those who try and keep trying. | ความสำเร็จจะสำเร็จและรักษาไว้ได้โดยผู้ที่พยายามและพยายามอย่างต่อเนื่องเท่านั้น |
If you want to be successful, you must respect one rule: Never lie to yourself. | ถ้าคุณต้องการประสบความสำเร็จ คุณต้องเคารพกฎข้อหนึ่ง: อย่าโกหกตัวเอง |
Nothing in the world can take the place of Persistence. | ไม่มีสิ่งใดในโลกที่สามารถทดแทนความเพียรได้ |
Success is the result of doing the right things consistently. | ความสำเร็จคือผลลัพธ์จากการทำสิ่งที่ถูกต้องอย่างสม่ำเสมอ |
คำคำเกี่ยวกับการทำงานข้างต้นจะไม่เพียงแต่ช่วยให้คุณมีแรงบันดาลใจเท่านั้น แต่ยังสร้างแรงบันดาลใจให้มีจิตวิญญาณในการทำงานที่เป็นบวก สร้างสรรค์ และมุ่งมั่นอีกด้วย ใช้คำคมเหล่านี้ในการทำงานและในชีวิตประจำวันของคุณเพื่อบรรลุความสำเร็จและความพึงพอใจในทุกย่างก้าวของคุณนะ

คำคมสร้างแรงบันดาลใจในการทำงานเป็นภาษาอังกฤษ
คําคมภาษาอังกฤษ คิดบวกเหล่านี้ไม่เพียงแต่ให้กำลังใจเท่านั้น แต่ยังเป็นแหล่งที่มาของแรงบันดาลใจที่ไม่มีที่สิ้นสุดสำหรับคุณ ช่วยให้คุณค้นพบความแข็งแกร่งที่ซ่อนเร้นภายในตัวคุณเอง และค่อยๆ เอาชนะเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ได้
เพลิดเพลินไปกับทุกช่วงเวลาและปล่อยให้มันนำคุณไปสู่ความฝันที่ยิ่งใหญ่กว่า ทุกวันคือโอกาสที่จะค้นพบตัวเอง ค้นหาความหมายในงานที่เรียบง่ายแต่มีคุณค่า เชื่อมั่นในตัวเอง ค่อยๆ ทำอย่างช้าๆ และมั่นคง แล้วเป้าหมายใหญ่แต่ละอย่างก็จะเป็นจริง
คำคม | ความหมาย |
Start where you are. Use what you have. Do what you can. | จงเริ่มจากจุดที่คุณอยู่ จงใช้ในสิ่งที่คุณมี จงทำในสิ่งที่คุณสามารถทำได้ |
Stay positive, work hard, make it happen. | จงมองโลกให้เป็นบวก ทำงานให้หนัก และทำให้มันเกิดขึ้นจริง |
The best way to predict the future is to create it. | วิธีที่ดีที่สุดในการทำนายอนาคตคือการสร้างมันขึ้นมา |
Small steps every day lead to big results. | ก้าวเล็กๆทุกวันคือความสำเร็จในระยะยาว |
Be the reason someone smiles today. | ลองเป็นเหตุผลในรอยยิ้มของใครสักคนดู |
Your vibe attracts your tribe. | พลังงานที่คุณส่งออกไปจะดึงดูดผู้คนที่เหมือนคุณเข้ามา |
Every accomplishment starts with the decision to try. | ทุกๆความสำเร็จเริ่มต้นจากการตัดสินใจจะทำ |
Do what you can, with what you have, where you are. | ทำในสิ่ง ที่คุณสามารถจะทำได้ กับสิ่งที่คุณมี ณ ที่ที่คุณอยู่ |
Be so good they can’t ignore you. | ทำตัวดีจนพวกเขาไม่สามารถเพิกเฉยต่อคุณได้ |
What you get by achieving your goals is not as important as what you become by achieving them. | สิ่งที่คุณได้เมื่อคุณถึงเป้าหมายมันไม่เท่ากับสิ่งที่คุณเป็นเมื่อถึงเป้าหมายหรอก |
Inhale courage, exhale fear. | สูดความกล้า และปลดปล่อยความกลัวออกมา |
A little progress each day adds up to big results. | ความก้าวหน้าเพียงเล็กน้อยในแต่ละวันช่วยเพิ่มผลลัพธ์ที่ยิ่งใหญ่ได้ |
Challenges are what make life interesting and overcoming them is what makes life meaningful. | ความท้าทายเป็นสิ่งที่ทำให้ชีวิตน่าสนใจ แต่การเอาชนะมันให้ได้ เป็นสิ่งที่ทำให้ชีวิตมีความหมาย |
Don’t count the days, make the days count. | อย่ามัวแต่นับจำนวนวันเวลา แต่จงทำวันเวลาให้คุ้มค่าที่สุด |
Mistakes are proof that you are trying. | ข้อผิดพลาด เป็นสิ่งที่พิสูจน์ว่าอย่างน้อยคุณก็ได้พยายามแล้ว |
The only way to do great work is to love what you do. | หนทางเดียวที่คุณจะสร้างผลงานที่ยิ่งใหญ่ขึ้นมาได้นั้นต้องมาจากความรักในสิ่งที่คุณกำลังทำอยู่ |
Success doesn’t come from what you do occasionally, but from what you do consistently. | ความสำเร็จไม่ได้เกิดจากการที่คุณทำบางสิ่งเพียงบางครั้ง แต่เกิดจากการสิ่งที่คุณทำอย่างสม่ำเสมอ |
Believe in yourself and all that you are. Know that there is something inside you that is greater than any obstacle. | เชื่อในตัวเองและทุกสิ่งที่คุณเป็น รู้ว่ามีบางสิ่งในตัวคุณที่ยิ่งใหญ่กว่าอุปสรรคใดๆ |
Life is short. Focus on what matters and let go of what doesn’t. | ชีวิตสั้นนัก จงมุ่งเน้นในสิ่งที่สำคัญและละทิ้งสิ่งที่ไม่สำคัญ |

>>> Read more: Work from home คืออะไร? ความแตกต่างระหว่าง Work at home และ Work from home
คําคมทํางาน ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับการคิดบวกและการสร้างจิตวิญญาณ
การคิดบวกเป็นกุญแจสำคัญในการขยายความสามารถและสร้างแรงบันดาลใจให้กับตัวเองในทุกๆ งาน ช่วยให้คุณเอาชนะความท้าทายและบรรลุเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ได้ ด้านล่างนี้เป็นคําอังกฤษเท่ๆ ความหมายดีๆ และสร้างแรงบันดาลใจ 30 ประโยคที่จะช่วยให้คุณพัฒนาทัศนคติเชิงบวก มุ่งเน้นไปที่การลงมือทำ และปรับปรุงตนเองอย่างต่อเนื่องในทุกด้านของชีวิต
คำคม | ความหมาย |
Start where you are. Use what you have. Do what you can. | จงเริ่มจากจุดที่คุณอยู่ จงใช้ในสิ่งที่คุณมี จงทำในสิ่งที่คุณสามารถทำได้ |
Success is the result of preparation, hard work, and learning from failure. | ความสำเร็จคือผลลัพธ์จากการเตรียมตัว การทำงานหนัก และการเรียนรู้จากความล้มเหลว |
The only way to do great work is to love what you do. | หนทางเดียวที่คุณจะสร้างผลงานที่ยิ่งใหญ่ขึ้นมาได้นั้นต้องมาจากความรักในสิ่งที่คุณกำลังทำอยู่ |
Believe in yourself and all that you are. | เชื่อในตัวเอง และทุกสิ่งที่คุณเป็น |
Positive thinking will let you do everything better than negative thinking will. | การคิดบวกจะทำให้คุณสามารถทำทุกๆอย่างได้ดีกว่าตอนที่คิดลบ |
Keep your face always toward the sunshine—and shadows will fall behind you. | จงหันหน้าเข้าหาแสงสว่างเสมอ เพราะเงามืดจะทอดตัวลงไปอยู่ข้างหลังคุณเอง |
Your life does not get better by chance, it gets better by change. | ชีวิตไม่ได้ดีขึ้นเพราะโชคช่วย แต่เพราะรู้จักเปลี่ยนแปลง |
You don’t have to be great to start, but you have to start to be great. | คุณไม่จำเป็นต้องยิ่งใหญ่พอที่จะเริ่มทำอะไร แต่ต้องเริ่มต้นที่ทำให้ตัวเองยิ่งใหญ่เสียก่อน |
A journey of a thousand miles begins with a single step. | การเดินทางหลายพันไมล์นั้นเริ่มต้นจากก้าวแรกทั้งนั้น |
It always seems impossible until it’s done. | ทุกอย่างดูเป็นไปไม่ได้เสมอจนกว่าจะมีคนทำได้ |
The only limit to our realization of tomorrow is our doubts of today. | อุปสรรคเดียว ที่ขวางกั้นความสำเร็จของเราในวันพรุ่งนี้ คือการที่วันนี้ เราไม่ยอมเชื่อมั่นในตัวเอง |
The future depends on what you do today. | อนาคตของเราขึ้นอยู่กับสิ่งที่เราทำในวันนี้ |
Don’t stop when you’re tired, stop when you’re done. | อย่าหยุดตอนที่คุณเหนื่อย แต่หยุดเมื่อคุณทำมันสำเร็จแล้ว |
Push yourself because no one else is going to do it for you. | คุณต้องผลักดันตัวคุณเองเพราะไม่มีใครมาทำให้คุณ |
Success doesn’t come from what you do occasionally, it comes from what you do consistently. | ความสำเร็จไม่ได้มาจากสิ่งที่คุณทำเป็นครั้งคราว แต่มาจากสิ่งที่คุณทำอย่างสม่ำเสมอ |
Stay positive, work hard, and make it happen. | จงมองโลกในแง่ดี ทำงานให้หนัก และทำความฝันให้เป็นจริง |
If you want to achieve greatness, stop asking for permission. | หากคุณต้องการที่จะประสบความสำเร็จ จงหยุดขออนุญาต |
Success is not the key to happiness. Happiness is the key to success. | ความสำเร็จนั้นไม่ใช่กุญแจสู่ความสุข แต่เป็นความสุขต่างหากคือกุญแจสู่ความสำเร็จ |
Focus on your goal. Don’t look in any direction but ahead. | มุ่งเน้นไปที่เป้าหมายของคุณ อย่ามองไปทางอื่นนอกจากข้างหน้า |
You are never too old to set another goal or to dream a new dream. | คุณไม่แก่เกินไป สำหรับการตั้งเป้าหมายชีวิต หรือเริ่มต้นความฝันใหม่ |
It’s not whether you get knocked down, it’s whether you get up. | มันไม่สำคัญว่าหรอกคุณจะล้มหรือเปล่า แต่มันสำคัญที่ว่าคุณจะลุกขึ้นมาหรือไม่ |
The best way to predict the future is to create it. | วิธีที่ดีที่สุดในการทำนายอนาคตคือการสร้างมันขึ้นมา |
There are no shortcuts to any place worth going. | ไม่เคยมีทางลัด สำหรับที่ๆ คุ้มค่าที่จะไป |
Your mind is a powerful thing. When you fill it with positive thoughts, your life will start to change. | จิตใจของคุณคือสิ่งทรงพลัง เมื่อคุณเติมเต็มมันด้วยความคิดบวก ชีวิตคุณก็จะเริ่มเปลี่ยนแปลง |
Do one thing every day that scares you. | จงทำสิ่งที่ทำให้คุณกลัวอย่างน้อยหนึ่งอย่างทุกวัน |
Take time to do what makes your soul happy. | ใช้เวลากับสิ่งที่ทำให้จิตใจของคุณมีความสุข |
Small steps in the right direction can turn out to be the biggest step of your life. | ก้าวเล็กๆ ในทิศทางที่ถูกต้องอาจกลายเป็นก้าวที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตคุณได้ |
Dream it. Wish it. Do it. | ฝันแล้วต้องลงมือทำ |
Success is not in what you have, but who you are. | ความสำเร็จไม่ได้อยู่ที่สิ่งที่คุณมี แต่อยู่ที่ตัวคุณเอง |
Start where you are. Use what you have. Do what you can. | จงเริ่มจากจุดที่คุณอยู่ จงใช้ในสิ่งที่คุณมี จงทำในสิ่งที่คุณสามารถทำได้ |
The way to get started is to quit talking and begin doing. | หนทางที่จะเริ่มต้นได้คือการหยุดพูดและเริ่มต้นทำ |
Don’t wish for it. Work for it. | อย่ามัวแต่คิด จงลงมือทำ |

>>> Read more: รวม 50+ คำคมความสุข ภาษาอังกฤษที่มีความหมายดีๆ
คำศัพท์ที่พบบ่อยในคำคมเกี่ยวกับการทำงาน
คำศัพท์ภาษาอังกฤษที่มีความหมายดีต่อไปนี้ไม่เพียงแต่มีความหมายที่สวยงามเท่านั้น แต่ยังมีคุณค่าอย่างลึกซึ้ง ช่วยให้คุณปรับปรุงตัวเองอย่างต่อเนื่องและสำรวจโลกในทางที่เป็นบวกมากขึ้น
การเรียนรู้คำศัพท์ใหม่ไม่ใช่แค่การท่องจำเท่านั้น แต่ยังเป็นวิธีการพัฒนาตัวเองอีกด้วย เมื่อคุณเข้าใจความหมายเบื้องหลังคำแต่ละคำ คุณจะรู้สึกถึงคุณค่าของคำเหล่านั้น และจะทำให้คุณรักภาษาและการเรียนรู้ของคุณมากขึ้น ให้คำพูดที่สวยงามเหล่านี้เป็นเพื่อนของคุณเพื่อช่วยให้คุณค้นพบความสวยงามของโลก และปรับปรุงตัวเองทุกวัน

คำศัพท์ | คำอ่าน | ความหมาย | ตัวอย่าง |
Serendipity | /ˌser.ənˈdɪp.ɪ.ti/ | การมีโชคในการค้นพบสิ่งต้องการโดยบังเอิญ | Finding the perfect book in a second-hand shop was pure serendipity. (การพบหนังสือที่สมบูรณ์แบบในร้านขายของมือสองถือเป็นเรื่องบังเอิญโดยสิ้นเชิง) |
Gratitude | /ˈɡrætɪtjuːd/ | ความกตัญญ | She expressed her gratitude by writing a heartfelt thank-you note. (เธอแสดงความกตัญญด้วยการเขียนคำขอบคุณจากใจ) |
Hope | /hoʊp/ | ความหวัง | I have hope that things will get better in the future. (ฉันหวังว่าอนาคตทุกอย่างจะดีขึ้น) |
Resilience | /rɪˈzɪl.jəns/ | ความยืดหยุ่น | Her resilience helped her overcome many challenges in life. (ความยืดหยุ่นของเธอช่วยให้เธอเอาชนะความท้าทายต่างๆ ในชีวิตได้) |
Kindness | /ˈkaɪnd.nəs/ | ความเมตตา | Acts of kindness can make a big difference in someone’s day. (การกระทำแสดงความเมตตาสามารถสร้างความแตกต่างครั้งยิ่งใหญ่ในแต่ละวันของใครบางคนได้) |
Tranquility | /træŋˈkwɪləti/ | ความสงบ | The lake is a place of tranquility. (ทะเลสาบเป็นสถานที่แห่งความสงบ) |
Courage | /ˈkɜːrɪdʒ/ | ความกล้าหาญ | He showed great courage when he stood up for what he believed in. (เขาแสดงความกล้าหาญอย่างยิ่งในการยืนหยัดเพื่อสิ่งที่เขาเชื่อมั่น) |
Faith | /feɪθ/ | ความเชื่อถือ | She placed her faith in the medical team to save her life. (เธอเชื่อว่าทีมแพทย์สามารถช่วยชีวิตเธอได้) |
Harmony | /ˈhɑː.mə.ni/ | ความสามัคคี | The choir sang in perfect harmony. (คณะนักร้องประสานเสียงร้องเพลงด้วยความสามัคคี) |
Empathy | /ˈɛmpəθi/ | ความเข้าอกเข้าใจ | She has a deep empathy for the struggles of others. (เธอมีความเห็นอกเห็นใจอย่างลึกซึ้งต่อความยากลำบากของผู้อื่น) |
Bliss | /blɪs/ | ความสุข | Walking on the beach at sunset gave me a feeling of pure bliss. (การเดินเล่นบนชายหาดตอนพระอาทิตย์ตกทำให้ฉันรู้สึกมีความสุขอย่างแท้จริง) |
Optimism | /ˈɒptɪmɪzəm/ | ความคิดเชิงบวก | His optimism helped to keep the team motivated during tough times. (ความคิดเชิงบวกของเขาทำให้ทีมมีแรงจูงใจในช่วงเวลาที่ยากลำบาก) |
Integrity | /ɪnˈtɛɡrɪti/ | ความซื่อสัตย์ | Integrity is essential for building trust in any relationship. (ความซื่อสัตย์เป็นสิ่งสำคัญต่อการสร้างความไว้วางใจในความสัมพันธ์ใดๆ) |
Perseverance | /ˌpɜːsɪˈvɪərəns/ | ความเพียรพยายาม | She demonstrated perseverance in achieving her long-term goals. (เธอแสดงให้เห็นถึงความเพียรพยายามในการบรรลุเป้าหมายระยะยาวของเธอ) |
Compassion | /kəmˈpæʃən/ | ความเมตตา | His compassion for the homeless led him to volunteer at shelters. (ความเมตตาที่เขามีต่อคนไร้บ้านทำให้เขาไปเป็นอาสาสมัครที่สถานพักพิง) |
Freedom | /ˈfriːdəm/ | เสรีภาพอิสรภาพ | The country fought for freedom from colonial rule. (ประเทศนี้ต่อสู้เพื่ออิสรภาพจากการปกครองแบบอาณานิคม) |
Serenity | /səˈrɛnɪti/ | ความสงบ | The sunset brought her a sense of serenity. (พระอาทิตย์ตกทำให้เธอรู้สึกสงบ) |
Inspiration | /ˌɪnspəˈreɪʃən/ | แรงบันดาลใจ | The artist drew inspiration from nature for her paintings. (ศิลปินได้รับแรงบันดาลใจจากธรรมชาติในการวาดภาพของเธอ) |
Adventure | /ədˈvɛntʃər/ | การผจญภัย | The hike through the forest was an exciting adventure. (การเดินป่าเป็นการผจญภัยที่น่าตื่นเต้น) |
Wisdom | /ˈwɪzdəm/ | ภูมิปัญญา | The elderly man shared his wisdom about life with the young people. (ชายชราแบ่งปันภูมิปัญญาเกี่ยวกับชีวิตกับวัยรุ่น) |
คำศัพท์เหล่านี้ไม่เพียงแค่เพิ่มคลังคำศัพท์ของคุณเท่านั้น แต่ยังสื่อถึงข้อความเชิงบวกอีกด้วย ช่วยให้คุณมีความมั่นใจและมองโลกในแง่ดีมากขึ้นในการเรียนภาษาอังกฤษของคุณ เริ่มฝึกจำวันนี้เพื่อสร้างความแตกต่าง

ทำไมการเรียนคำคมภาษาอังกฤษถึงมีความสำคัญ?
การเรียนรู้คําคมภาษาอังกฤษ เท่ๆจะไม่เพียงแต่ช่วยให้คุณพัฒนาคำศัพท์ของคุณเท่านั้น แต่ยังมีหลายประโยชน์ในการพัฒนาทักษะด้านภาษาและสร้างแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตของคุณอีกด้วย
- จำคำศัพท์และการใช้งาน: คำคมใช้คำศัพท์ที่เรียบง่ายและเข้าใจง่าย ช่วยให้คุณเรียนรู้คำศัพท์ใหม่และนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน
- สร้างแรงบันดาลใจและความคิดเชิงบวก: คำคมเป็นแหล่งแรงบันดาลใจที่ยอดเยี่ยม ช่วยให้คุณรักษาทัศนคติเชิงบวกในการทำงานและการใช้ชีวิต
- ขยายความเข้าใจทางวัฒนธรรม: คำคมสะท้อนถึงวัฒนธรรมและความคิดของประเทศที่พูดภาษาอังกฤษ ช่วยให้คุณสื่อสารและเข้าใจโลกมากขึ้น
- จำและนำไปใช้ได้ง่าย: คำคมสั้น ๆ จำง่าย นำไปใช้ในสถานการณ์การสื่อสารในชีวิตประจำวันได้ง่าย ช่วยให้คุณสื่อสารได้อย่างเป็นธรรมชาติและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

คำคมเกี่ยวกับงานภาษาอังกฤษไม่เพียงแต่เป็นคำที่มีความหมายดี แต่ยังเป็นเข็มทิศในชีวิตและอาชีพของคุณอีกด้วย จำไว้ เรียนรู้และนำไปใช้ทุกวัน อย่าลืมลองใช้แอป ELSA Speak เพื่อฝึกการออกเสียงและทักษะการฟังและการพูดที่ยอดเยี่ยม พบกันใหม่ในบทความหน้าพร้อมหัวข้อที่น่าสนใจอีกมากมาย
ในสภาพแวดล้อมการทำงานยุคใหม่ การเขียนอีเมลแนะนำพนักงานใหม่เป็นภาษาอังกฤษกลายเป็นส่วนสำคัญในการสร้างความสัมพันธ์และสร้างความประทับใจกับเพื่อนร่วมงาน วันแรกของการทำงาน
เป็นโอกาสที่ดีสำหรับคุณในการแนะนำตัวเองและแสดงความเป็นมืออาชีพ ในบทความนี้ เราจะมาดูกันว่าทำไมการส่งอีเมลแนะนำตัวจึงสำคัญ และเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับ subject email แนะนําตัว ภาษาอังกฤษควรมีอะไรบ้าง
email แนะนําตัว พนักงานใหม่ ภาษาอังกฤษมีเนื้อหาอะไรบ้าง?
ในส่วนนี้ เราจะสำรวจเนื้อหาที่ควรมีในอีเมลแนะนำพนักงานใหม่เป็นภาษาอังกฤษ ตั้งแต่หัวข้ออีเมล คำทักทาย ไปจนถึงการสรุปเนื้อหาอย่างเหมาะสม การเข้าใจจุดสำคัญเหล่านี้จะช่วยให้คุณเขียนอีเมลได้อย่างน่าสนใจและเข้าถึงผู้รับได้ง่าย
หัวข้ออีเมล
หัวข้อสำหรับอีเมลแนะนำพนักงานใหม่สามารถใช้ได้ดังนี้:
โครงสร้าง | ความหมาย |
Introduction – [Your Full Name] – New Team Member at [Company Name] | แนะนำตัว – [ชื่อ-นามสกุล] – พนักงานใหม่ที่ [ชื่อบริษัท] |
หัวข้อนี้ควรสั้น กระชับ และชัดเจน เพื่อช่วยให้ผู้รับ ทราบถึงจุดประสงค์ของอีเมลและรู้ว่านี่คืออีเมลแนะนำตัวจากพนักงานใหม่

คำขึ้นต้น
การเริ่มต้นเขียน email แนะนําตัว ภาษาอังกฤษมักเริ่มด้วยคำทักทายที่สุภาพและให้เกียรติผู้รับ เพื่อรักษาความเป็นมืออาชีพ ควรหลีกเลี่ยงคำทักทายที่เป็นกันเองเหมือนสนทนากับเพื่อน และใช้คำทักทายที่เป็นทางการเพื่อสร้างความประทับใจ
โครงสร้าง | ความหมาย |
Dear [Recipient’s Name/Department], | เรียน คุณ/แผนก [ชื่อผู้รับหรือแผนกที่เกี่ยวข้อง] |

เนื้อหาหลัก
ในส่วนนี้ คุณควรเน้นที่ข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับตัวเอง เหตุผลในการส่งอีเมล และความคาดหวังในการทำงานร่วมกัน เนื้อหาอาจคล้ายกับการแนะนำตัวเองแบบต่อหน้า แต่ต้องเขียนด้วยภาษาที่สุภาพและเหมาะสมกับการเขียน
เมื่อเขียน ควรเลือกใช้คำที่ถูกต้อง สุภาพ และมืออาชีพ ควรรักษาความกระชับ เน้นเฉพาะจุดสำคัญ และแบ่งเนื้อหาออกเป็นย่อหน้าสั้น ๆ เพื่อให้อ่านง่าย
โครงสร้าง | ความหมาย |
Firstly, let me introduce myself. I’m [Your Name] | ก่อนอื่น ขออนุญาตแนะนำตัวเอง ฉันคือ [ชื่อของคุณ] |
I’m a new [Your position] of [Company name] | ฉันคือ [ตำแหน่งของคุณ] คนใหม่ของบริษัท [ชื่อบริษัท] |
I’ll take care and handle your account from now onward. | ฉันจะดูแลและจัดการบัญชีของคุณตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป |
I am [Your name] and I will be taking over the ….. project from Khun/Mr./Miss….. | ฉันคือ [ชื่อของคุณ]และฉันจะรับหน้าที่ดูแลโครงการ ….. ต่อจากคุณ/นาย/นางสาว….. |
I hope this email finds you well. My name is [Your Name], and I wanted to take a moment to introduce myself and establish a connection with you. I have heard great things about your work in [Specific Field/Interest], and I am truly impressed by your accomplishments. | หวังว่าคุณจะได้อ่านอีเมลนี้ ฉันชื่อ [ชื่อของคุณ] และฉันอยากใช้เวลาสักครู่เพื่อแนะนำตัวเองและสร้างความสัมพันธ์กับคุณ ฉันได้ยินเรื่องดี ๆ เกี่ยวกับงานของคุณในด้าน [สาขา/ความสนใจเฉพาะ] และฉันประทับใจกับความสำเร็จของคุณมาก |
ตัวอย่าง:
- Firstly, let me introduce myself. My name is John Doe, and I am the new Project Manager at XYZ Corporation. I will be managing the upcoming project and will be your main point of contact moving forward. (ก่อนอื่นต้องขออนุญาตแนะนำตัวเอง ฉันชื่อ John Doe และฉันคือผู้จัดการโครงการคนใหม่ที่ XYZ Corporation ฉันจะเป็นผู้ดูแลโครงการที่กำลังจะมาถึงนี้และจะเป็นผู้ติดต่อหลักของคุณต่อจากนี้)
- I hope this email finds you well. My name is Jane Smith, and I’ve recently joined ABC Company as the new Sales Executive. I will be handling your account and assisting you with all related matters. (หวังว่าคุณจะได้อ่านอีเมลนี้ ฉันชื่อ Jane Smith และฉันเพิ่งเข้าร่วมงานกับบริษัท ABC ในตำแหน่งพนักงานขายคนใหม่ ฉันจะเป็นผู้ดูแลบัญชีของคุณและช่วยเหลือทุกเรื่องที่เกี่ยวข้อง)

การสรุปอีเมล
ส่วนสรุปemail แนะนําตัว พนักงานใหม่ ภาษาอังกฤษจะเป็นส่วนที่คุณต้องสรุปเนื้อหาและกล่าวคำลา โดยทั่วไปมักจะประกอบด้วยคำขอบคุณและการแสดงความปรารถนาที่จะร่วมงานในอนาคต คุณยังสามารถระบุข้อมูลติดต่อหรือให้ข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อความสะดวกในการสื่อสารได้
Thank you for taking the time to read this email, and I look forward to meeting and working with you. (ขอบคุณที่สละเวลาอ่านอีเมลนี้ และฉันหวังว่าจะได้พบและร่วมงานกับคุณ)
สุดท้ายนี้ ควรปิดท้ายอีเมลด้วยคำลงท้ายที่สุภาพ
โครงสร้าง | ความหมาย |
Sincerely,/Yours Sincerely,/ Best regards, [Your Full Name] | ด้วยความเคารพอย่างสูง[ชื่อของคุณ] |

ตัวอย่าง แนะนําพนักงานใหม่เป็นภาษาอังกฤษ
คำแนะนำพนักงานใหม่เป็นส่วนสำคัญในกระบวนการปรับตัวและสร้างความสัมพันธ์ในที่ทำงาน ด้านล่างนี้ เราได้รวบรวมตัวอย่าง แนะนําพนักงานใหม่ ซึ่งจะช่วยให้คุณเห็นแนวทางการนำเสนอข้อมูลและสร้างความประทับใจที่ดีแก่เพื่อนร่วมงาน

ตัวอย่างอีเมล์แนะนำตัวกับเพื่อนร่วมงานด้วยภาษาอังกฤษ 01
ตัวอย่างอีเมล | ความหมาย |
Subject: Introduction – [Your Full Name] – New Team Member at [Company Name]Dear [Recipient’s Name/Department],I hope this email finds you well. My name is [Your Full Name], and I am excited to introduce myself as a new team member at [Company Name]. I recently joined the [specific department or role] team and am looking forward to contributing my skills and learning from everyone here. A little about myself: I have [X years] of experience in [your field or industry], specializing in [specific area of expertise]. I am passionate about [a relevant professional interest], and I am eager to bring value to [specific company goals or team efforts]. I am genuinely excited about the opportunity to collaborate with such a talented group of professionals. I believe this role will allow me to grow both personally and professionally, and I look forward to building strong working relationships with everyone.Should you have any questions or need further details about me or my role, please don’t hesitate to reach out. I am more than happy to assist and am always open to communication.Thank you for taking the time to read my introduction. I am eager to meet and work with you all soon.Best regards, [Your Full Name] [Your Position] [Your Contact Information] | หัวข้อ: แนะนำตัว – [ชื่อ-นามสกุล] – สมาชิกใหม่ที่ [ชื่อบริษัท]เรียน [ชื่อผู้รับ/แผนก]หวังว่าคุณจะได้อ่านอีเมลนี้ ฉันชื่อ [ชื่อ-นามสกุล] และรู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่ได้แนะนำตัวเองในฐานะสมาชิกใหม่ของ [ชื่อบริษัท] ฉันเพิ่งเข้าร่วมทีม [ชื่อแผนกหรือบทบาทเฉพาะ] และตั้งตารอที่จะได้ใช้ทักษะของฉันและเรียนรู้จากทุกคนที่นี่ ขอแนะนำตัวสั้น ๆ: ฉันมีประสบการณ์ใน [สาขาหรืออุตสาหกรรมของคุณ] เป็นเวลา [X ปี] โดยมีความเชี่ยวชาญด้าน [ความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง] ฉันมีความสนใจใน [ความสนใจด้านอาชีพที่เกี่ยวข้อง] และมีความตั้งใจที่จะสร้างคุณค่าให้กับ [เป้าหมายเฉพาะของบริษัทหรือความพยายามของทีม] ฉันรู้สึกตื่นเต้นจริง ๆ กับโอกาสที่จะได้ร่วมงานกับกลุ่มผู้เชี่ยวชาญที่มีความสามารถ ฉันเชื่อว่าบทบาทนี้จะช่วยให้ฉันเติบโตทั้งด้านส่วนตัวและอาชีพ และฉันตั้งตารอที่จะสร้างความสัมพันธ์ในการทำงานที่ดีร่วมกับทุกคน หากคุณมีคำถามใด ๆ หรืออยากทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวฉันหรือบทบาทของฉัน โปรดอย่าลังเลที่จะติดต่อมา ฉันยินดีที่จะช่วยเหลือและเปิดรับทุกคำถามอยู่เสมอ ขอบคุณที่สละเวลาอ่านการแนะนำตัวของฉัน ฉันรอคอยที่จะได้พบและร่วมงานกับคุณในเร็ว ๆ นี้ ด้วยความเคารพ[ชื่อ-นามสกุลของคุณ][ตำแหน่งของคุณ][ข้อมูลการติดต่อของคุณ] |
ตัวอย่าง email แนะนําตัว พนักงานใหม่ ภาษาอังกฤษ 02
ตัวอย่างอีเมล | ความหมาย |
Subject: A Warm Introduction – [Your Full Name] – New Member of [Company Name]Dear [Recipient’s Name/Team],My name is [Your Full Name], and I am thrilled to introduce myself as the newest member of the [specific department or team] at [Company Name]. I officially joined the team on [start date], and I am eager to begin this exciting journey with all of you. I bring with me a background in [your field or industry], with a focus on [specific expertise or achievements]. Over the past [X years], I have had the privilege of working on [mention a notable project or experience], which has strengthened my skills in [key skills relevant to the job]. I am looking forward to applying these experiences to support the team’s goals.What excites me most about joining [Company Name] is the opportunity to collaborate with such a diverse and skilled group of professionals. I deeply value teamwork and open communication, and I believe these qualities will help us achieve great results together.If there’s anything I can assist you with, please feel free to reach out. I am always happy to connect and discuss ways we can work together effectively.Thank you for welcoming me into the team. I am looking forward to meeting you all, learning from you, and contributing to our shared success.Kind regards, [Your Full Name] [Your Position] [Your Contact Information] | หัวข้อ: การแนะนำตัวอย่างอบอุ่น – [ชื่อ-นามสกุลของคุณ] – สมาชิกใหม่ของ [ชื่อบริษัท]เรียน [ชื่อผู้รับ/ทีม]ฉันชื่อ [ชื่อ-นามสกุลของคุณ] และรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่งที่ได้แนะนำตัวเองในฐานะสมาชิกใหม่ล่าสุดของทีม [แผนกหรือทีมเฉพาะ] ที่ [ชื่อบริษัท] ฉันเข้าร่วมทีมอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ [วันที่เริ่มต้น] และตั้งตารอที่จะเริ่มต้นการเดินทางที่น่าตื่นเต้นนี้ร่วมกับทุกคน ฉันมีพื้นฐานในด้าน [สาขาหรืออุตสาหกรรมของคุณ] โดยเชี่ยวชาญใน [ความเชี่ยวชาญเฉพาะหรือความสำเร็จที่โดดเด่น] ในช่วง [X ปี] ที่ผ่านมา ฉันมีโอกาสได้ทำงานใน [โปรเจกต์หรือประสบการณ์ที่น่าสนใจ] ซึ่งช่วยเสริมสร้างทักษะของฉันในด้าน [ทักษะสำคัญที่เกี่ยวข้องกับงาน] ฉันหวังว่าจะได้ใช้ประสบการณ์เหล่านี้เพื่อสนับสนุนเป้าหมายของทีมสิ่งที่ทำให้ฉันตื่นเต้นที่สุดในการเข้าร่วม [ชื่อบริษัท] คือโอกาสที่จะได้ร่วมงานกับกลุ่มผู้เชี่ยวชาญที่มีความสามารถและหลากหลาย ฉันให้ความสำคัญกับการทำงานเป็นทีมและการสื่อสารที่เปิดกว้าง ซึ่งฉันเชื่อว่าสิ่งเหล่านี้จะช่วยให้เราประสบความสำเร็จร่วมกันหากมีสิ่งใดที่ฉันสามารถช่วยเหลือได้ โปรดอย่าลังเลที่จะติดต่อมาฉันยินดีที่จะเชื่อมต่อและพูดคุยเกี่ยวกับวิธีที่เราสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพขอบคุณที่ต้อนรับฉันเข้าสู่ทีม ฉันตั้งตารอที่จะได้พบปะทุกคน เรียนรู้จากพวกคุณ และมีส่วนร่วมในความสำเร็จร่วมกันของเราด้วยความนับถือ[ชื่อ-นามสกุลของคุณ][ตำแหน่งของคุณ][ข้อมูลการติดต่อของคุณ] |
>>> Read more: วิธีเขียนอีเมลภาษาอังกฤษแบบมืออาชีพและเหมาะสำหรับทุกสถานการณ์
ตัวอย่าง email แนะนําตัว พนักงานใหม่ ภาษาอังกฤษ 03
ตัวอย่างอีเมล | ความหมาย |
Subject: Excited to Join – [Your Full Name] – New Role at [Company Name]Dear [Team/Colleagues],I hope this message finds you well. My name is [Your Full Name], and I am excited to introduce myself as the newest addition to the [specific department/team] at [Company Name]. I officially started on [start date], and I look forward to working with all of you in achieving our shared goals.With a background in [your field or area of expertise], I have developed skills in [specific skills or competencies], and I am passionate about [a relevant professional passion, e.g., problem-solving, innovation, teamwork]. My previous role as [previous position] allowed me to [highlight an accomplishment or skill], and I’m eager to bring that same energy and dedication to my work here.In joining [Company Name], I aim to contribute to our team’s success by [mention specific goals or intentions, e.g., improving processes, fostering collaboration]. I am also excited to learn from each of you, as I believe that collaboration and knowledge-sharing are key to success.Please don’t hesitate to reach out if there’s anything I can help with or if you’d like to connect. I’m looking forward to building great working relationships and contributing to our collective achievements.Thank you for the warm welcome, and I’m eager to meet and collaborate with you all.Warm regards, [Your Full Name] [Your Position] [Your Contact Information] | หัวข้อ: ยินดีที่ได้เป็นส่วนหนึ่ง – [ชื่อ-นามสกุลของคุณ] – ตำแหน่งใหม่ที่ [ชื่อบริษัท]เรียน [ทีม/เพื่อนร่วมงาน]หวังว่าคุณจะได้อ่านอีเมลนี้ ฉันชื่อ [ชื่อ-นามสกุลของคุณ] และรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้แนะนำตัวเองในฐานะสมาชิกใหม่ล่าสุดของทีม [แผนก/ทีมเฉพาะ] ที่ [ชื่อบริษัท] ฉันได้เริ่มงานอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ [วันเริ่มงาน] และตั้งตารอที่จะได้ร่วมมือกับทุกคนเพื่อบรรลุเป้าหมายร่วมกันของเรา ด้วยพื้นฐานในด้าน [สาขาหรือความเชี่ยวชาญของคุณ] ฉันได้พัฒนาทักษะในด้าน [ทักษะหรือความสามารถเฉพาะ] และฉันหลงใหลใน [ความหลงใหลในวิชาชีพที่เกี่ยวข้อง เช่น การแก้ปัญหา นวัตกรรม การทำงานเป็นทีม] ในตำแหน่งก่อนหน้าของฉันในฐานะ [ตำแหน่งก่อนหน้า] ฉันมีโอกาสได้ [เน้นย้ำความสำเร็จหรือทักษะ] ซึ่งช่วยเสริมความมั่นใจและความทุ่มเทที่ฉันตั้งใจจะนำมาสู่การทำงานที่นี่การเป็นส่วนหนึ่งของ [ชื่อบริษัท] ทำให้ฉันตั้งเป้าหมายที่จะมีส่วนร่วมในความสำเร็จของทีมโดยการ [ระบุเป้าหมายหรือความตั้งใจเฉพาะ เช่น การปรับปรุงกระบวนการ การส่งเสริมความร่วมมือ] นอกจากนี้ ฉันยังรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เรียนรู้จากทุกคน เพราะฉันเชื่อว่าการทำงานร่วมกันและการแบ่งปันความรู้เป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จโปรดอย่าลังเลที่จะติดต่อฉันหากมีสิ่งใดที่ฉันสามารถช่วยเหลือได้ หรือหากคุณต้องการติดต่อกับฉัน ฉันหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะได้สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับทุกคนและมีส่วนร่วมในความสำเร็จร่วมกันของเราขอบคุณสำหรับการต้อนรับที่อบอุ่น และฉันตั้งตารอที่จะได้พบปะและร่วมงานกับทุกคนด้วยความนับถือ[ชื่อ-นามสกุลของคุณ][ตำแหน่งของคุณ][ข้อมูลการติดต่อของคุณ] |
>>> Read more: Collective noun (สมุหนาม) คืออะไร? วิธีใช้และตัวอย่างประโยค
ตัวอย่าง email แนะนําตัว พนักงานใหม่ ภาษาอังกฤษ 04
ตัวอย่างอีเมล | ความหมาย |
Subject: Greetings from [Your Full Name] – Excited to Join [Company Name]Dear [Recipient’s Name/Team],I am delighted to introduce myself as the newest member of the [specific department/team] at [Company Name]. My name is [Your Full Name], and I officially joined on [start date]. This is an exciting opportunity for me, and I look forward to contributing to our shared success.A little about my background: I have [X years] of experience in [your field/industry], with a focus on [specific expertise or specialization]. My past projects have involved [highlighting a relevant project or achievement], and I am passionate about delivering results that drive innovation and growth.In my role as [your position], I aim to [mention key goals or aspirations related to the role]. I’m particularly enthusiastic about [specific aspects of the company or team, e.g., collaborating on innovative projects or contributing to a culture of continuous improvement].I value open communication and teamwork, and I am committed to building positive, productive relationships with everyone on the team. Please feel free to reach out if you’d like to connect or if there’s any way I can support you.Thank you for welcoming me to [Company Name]. I am excited about the journey ahead and eager to meet and work with each of you.Best regards, [Your Full Name] [Your Position] [Your Contact Information] | หัวข้อ: สวัสดีจาก [ชื่อ-นามสกุลของคุณ] – ยินดีที่ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของ [ชื่อบริษัท]เรียน [ชื่อผู้รับ/ทีม]ฉันรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้แนะนำตัวเองในฐานะสมาชิกใหม่ล่าสุดของทีม [แผนก/ทีมเฉพาะ] ที่ [ชื่อบริษัท] ฉันชื่อ [ชื่อ-นามสกุลของคุณ] และได้เข้าร่วมอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ [วันเริ่มงาน] นี่เป็นโอกาสที่น่าตื่นเต้นสำหรับฉัน และฉันตั้งตารอที่จะได้มีส่วนร่วมในความสำเร็จร่วมกันของพวกเรา เกี่ยวกับพื้นฐานของฉัน: ฉันมีประสบการณ์ [จำนวนปี] ในด้าน [สาขา/อุตสาหกรรมของคุณ] โดยเน้นที่ [ความเชี่ยวชาญหรือความชำนาญเฉพาะ] ในอดีต ฉันได้เข้าร่วมในโครงการต่าง ๆ เช่น [เน้นย้ำโครงการหรือความสำเร็จที่เกี่ยวข้อง] และฉันหลงใหลในการสร้างผลลัพธ์ที่ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์และการเติบโต บทบาทของฉันในฐานะ [ตำแหน่งของคุณ] ฉันมุ่งมั่นที่จะ [กล่าวถึงเป้าหมายหลักหรือความปรารถนาที่เกี่ยวข้องกับบทบาท] ฉันรู้สึกตื่นเต้นเป็นพิเศษเกี่ยวกับ [แง่มุมเฉพาะของบริษัทหรือทีม เช่น การทำงานร่วมกันในโครงการที่สร้างสรรค์ หรือการมีส่วนร่วมในวัฒนธรรมของการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง]ฉันให้ความสำคัญกับการสื่อสารที่เปิดกว้างและการทำงานเป็นทีม และมุ่งมั่นที่จะสร้างความสัมพันธ์ที่ดีและมีประสิทธิภาพกับทุกคนในทีม หากมีสิ่งใดที่ฉันสามารถช่วยเหลือได้ หรือหากคุณต้องการติดต่อกับฉัน โปรดอย่าลังเลที่จะพูดคุยกับฉันขอบคุณทุกคนที่ให้การต้อนรับฉันเข้าสู่ [ชื่อบริษัท] ฉันตื่นเต้นกับการเดินทางครั้งนี้และตั้งตารอที่จะได้พบปะและร่วมงานกับทุกคน ด้วยความนับถือ[ชื่อ-นามสกุลของคุณ][ตำแหน่งของคุณ][ข้อมูลการติดต่อของคุณ] |
>>> Read more: การเขียนอีเมลสมัครงานภาษาอังกฤษ พร้อม 5 ตัวอย่างอีเมลที่ดีที่สุด
ตัวอย่าง email แนะนําตัว พนักงานใหม่ ภาษาอังกฤษ 05
ตัวอย่างอีเมล | ความหมาย |
Subject: Introduction from [Your Full Name] – New Team Member at [Company Name]Dear [Team/Colleagues],I am pleased to introduce myself as the newest addition to the [specific department/team] at [Company Name]. My name is [Your Full Name], and I joined the team on [start date]. It’s an honor to become part of such a dynamic and successful organization.I come with a background in [your field or industry], where I have gained experience in [specific skills or expertise]. Some of my key accomplishments include [briefly mention one or two relevant achievements]. I am passionate about [a relevant professional interest], and I’m excited to bring my enthusiasm and skills to this role.At [Company Name], I am particularly looking forward to [mention something specific you’re excited about, e.g., working on innovative projects, collaborating with talented colleagues, or contributing to impactful initiatives]. I believe this is a great opportunity for mutual growth, and I am eager to make meaningful contributions to the team.I am happy to connect and assist wherever needed. Please feel free to reach out to me at [your contact information] if there’s anything I can help with or if you’d like to schedule a chat.Thank you for welcoming me to the team. I’m excited to start this journey and look forward to getting to know each of you.Kind regards, [Your Full Name] [Your Position] [Your Contact Information] | หัวข้อ: แนะนำตัวจาก [ชื่อ-นามสกุลของคุณ] – สมาชิกใหม่ของทีมที่ [ชื่อบริษัท]เรียน [ทีม/เพื่อนร่วมงาน]ฉันรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้แนะนำตัวเองในฐานะสมาชิกใหม่ล่าสุดของทีม [แผนก/ทีมเฉพาะ] ที่ [ชื่อบริษัท] ฉันชื่อ [ชื่อ-นามสกุลของคุณ] และได้เข้าร่วมทีมอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ [วันเริ่มงาน] นับเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งขององค์กรที่มีพลังและประสบความสำเร็จเช่นนี้ฉันมาพร้อมกับประสบการณ์ในด้าน [สาขาหรืออุตสาหกรรมของคุณ] ซึ่งฉันได้พัฒนาในทักษะ [ทักษะหรือความเชี่ยวชาญเฉพาะ] ความสำเร็จที่โดดเด่นของฉันบางส่วนรวมถึง [กล่าวถึง 1-2 ความสำเร็จที่เกี่ยวข้องโดยย่อ] ฉันหลงใหลใน [ความสนใจทางวิชาชีพที่เกี่ยวข้อง] และรู้สึกตื่นเต้นที่จะนำความสามารถและทักษะของฉันมาสู่บทบาทนี้ที่ [ชื่อบริษัท] ฉันตั้งตารอที่จะ [กล่าวถึงสิ่งที่คุณตื่นเต้น เช่น การทำงานในโครงการที่สร้างสรรค์ การร่วมมือกับเพื่อนร่วมงานที่มีความสามารถ หรือการมีส่วนร่วมในโครงการที่มีความหมาย] ฉันเชื่อว่านี่เป็นโอกาสที่ดีสำหรับการเติบโตร่วมกัน และฉันมุ่งมั่นที่จะสร้างผลงานที่มีคุณค่าให้กับทีมฉันยินดีที่จะเชื่อมต่อและให้การสนับสนุนทุกครั้งที่จำเป็น หากคุณต้องการความช่วยเหลือหรืออยากนัดพูดคุย โปรดติดต่อฉันได้ที่ [ข้อมูลการติดต่อของคุณ]ขอบคุณทุกคนที่ให้การต้อนรับฉันเข้าสู่ทีม ฉันรู้สึกตื่นเต้นที่จะเริ่มต้นการเดินทางครั้งนี้และหวังว่าจะได้ทำความรู้จักกับทุกคนด้วยความนับถือ[ชื่อ-นามสกุลของคุณ][ตำแหน่งของคุณ][ข้อมูลการติดต่อของคุณ] |

ข้อควรทราบเมื่อต้องส่งคำทักทายสมาชิกใหม่ด้วยภาษาอังกฤษ
จดหมายแนะนำตัวเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้เพื่อนร่วมงานประเมินบุคลิกภาพ ทัศนคติ และตัวตนของคุณได้ ดังนั้น เมื่อเขียนจดหมายแนะนำตัวถึงเพื่อนร่วมงานและผู้บังคับบัญชาในสภาพแวดล้อมการทำงานใหม่ คุณควรคำนึงถึงสิ่งต่อไปนี้:
ก่อนอื่น ให้ใช้ภาษาที่ถูกต้องและสุภาพ หลีกเลี่ยงการใช้คำที่ไม่เป็นทางการหรือสนิทสนมเกินไปเหมือนการพูดคุยกับเพื่อน สิ่งนี้จะช่วยแสดงถึงความเคารพและความเป็นมืออาชีพของคุณต่อเพื่อนร่วมงานและผู้บังคับบัญชา
เมื่อแนะนำตัวเอง ควรเน้นข้อมูลพื้นฐาน เช่น ชื่อ ตำแหน่งใหม่ และแผนกที่คุณทำงาน ไม่จำเป็นต้องลงรายละเอียดมากเกินไป เพียงเน้นทักษะและประสบการณ์สำคัญที่เกี่ยวข้องกับบทบาทปัจจุบันก็เพียงพอ
สุดท้าย ก่อนส่งอีเมล ควรตรวจสอบและแก้ไขเนื้อหาเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีข้อผิดพลาดในด้านการสะกด ไวยากรณ์ หรือรูปแบบการเขียน สิ่งนี้จะช่วยให้คุณส่งอีเมลที่เป็นมืออาชีพและสร้างความประทับใจที่ดีต่อผู้รับได้

ทำไมพนักงานใหม่ควรเขียนจดหมายแนะนำตัวในวันแรกของการทำงาน?
เขียนอีเมลแนะนําตัวกับลูกค้า ภาษาอังกฤษหรือทักทายกับเพื่อนร่วมงานไม่ใช่แค่รูปแบบหนึ่งของการสื่อสารเท่านั้น แต่ยังเป็นสะพานเชื่อมที่ช่วยให้คุณเริ่มต้นความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงาน แสดงถึงความเป็นมืออาชีพ และสร้างความประทับใจที่ดีให้กับทุกคน มาดูกันว่าเหตุใดการทำเช่นนี้จึงมีความสำคัญ!
สร้างความประทับใจที่ดี
เมื่อคุณเข้าสู่สภาพแวดล้อมการทำงานใหม่ การเขียน email แนะนําตัวภาษาอังกฤษไม่เพียงแต่เป็นการสื่อสารที่สุภาพเท่านั้น แต่ยังช่วยให้พนักงานใหม่สร้างความประทับใจในเชิงบวกแก่เพื่อนร่วมงานและผู้บังคับบัญชา จดหมายแนะนำตัวแสดงถึงความเป็นมืออาชีพและความใส่ใจต่อสภาพแวดล้อมการทำงานใหม่ของคุณ สิ่งนี้จะช่วยให้คุณปรับตัวได้ง่ายขึ้นและสร้างความสัมพันธ์ที่ดีตั้งแต่วันแรก

สร้างความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานใหม่
การส่งจดหมายแนะนำตัวเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการเริ่มต้นสร้างความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงาน จดหมายนี้ไม่เพียงแต่ช่วยให้คุณแนะนำตัวเอง แต่ยังเปิดโอกาสให้เกิดการสนทนาในเบื้องต้น เมื่อคุณแบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับตัวเองและแสดงความตั้งใจที่จะทำความรู้จักกับคนอื่นแล้ว เพื่อนร่วมงานจะรู้สึกสบายใจมากขึ้นในการเข้าหาคุณ ซึ่งสามารถนำไปสู่ความร่วมมือที่มีประสิทธิภาพและการสนับสนุนในงานในอนาคต
แสดงถึงความเป็นมืออาชีพ
การเขียนจดหมายแนะนำตัวเป็นการแสดงออกถึงความเป็นมืออาชีพของคุณ มันแสดงให้เห็นว่าคุณให้ความสำคัญกับบทบาทใหม่และเข้าใจถึงความสำคัญของการสื่อสารในที่ทำงาน จดหมายที่เขียนอย่างระมัดระวัง โดยใช้ภาษาที่สุภาพและชัดเจน จะสร้างความประทับใจในเชิงบวกต่อทัศนคติการทำงานของคุณ สิ่งนี้ไม่เพียงช่วยให้คุณสร้างความน่าเชื่อถือ แต่ยังสร้างความไว้วางใจจากเพื่อนร่วมงานและผู้บังคับบัญชา ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญในการสร้างชื่อเสียงที่ดีในองค์กรอีกด้วย

การส่งจดหมายแนะนําพนักงานใหม่ ภาษาอังกฤษไม่เพียงช่วยให้คุณได้รับความสนใจในเชิงบวกจากเพื่อนร่วมงาน แต่ยังสร้างพื้นฐานสำหรับความสัมพันธ์ในการทำงานระยะยาว นอกจากนี้ เพื่อพัฒนาทักษะการเขียนและการสื่อสารภาษาอังกฤษของคุณ คุณสามารถลองใช้แอปพลิเคชัน ELSA Speak เพื่อช่วยปรับปรุงการออกเสียงและเพิ่มความมั่นใจในการสื่อสารภาษาอังกฤษและเปิดโอกาสใหม่ ๆ ในอาชีพการงานของคุณดูนะ!
คุณเคยสงสัยไหมว่ากิจกรรม ภาษาอังกฤษคืออะไรและจะนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างไร กิจกรรมภาษาอังกฤษที่น่าสนใจเหล่านี้ไม่เพียงแต่ช่วยให้คุณเพิ่มคลังคำศัพท์ แต่ยังช่วยพัฒนาทักษะการสื่อสารอย่างมีนัยสำคัญอีกด้วย มาสำรวจคำศัพท์และประโยคที่อธิบายถึงกิจกรรมที่น่าสนใจ และเรียนรู้วิธีการเรียนภาษาอังกฤษอย่างมีประสิทธิภาพผ่านบทความด้านล่างนี้กันเถอะ !
กิจกรรม Activity หมายถึงอะไร?
ในภาษาอังกฤษ กิจกรรม แปลว่า Activity (คำนาม ออกเสียงว่า: /ækˈtɪvəti/) กิจกรรม คือ พฤติกรรมที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันของบุคคลหรือชุมชน
ความแตกต่างระหว่าง activity และ action:
คำจำกัดความ | ตัวอย่าง | |
Activity | สิ่งที่คนหนึ่งหรือกลุ่มคนหนึ่งทำร่วมกัน | Please join this family activity. |
Action | กระบวนการทำบางสิ่งบางอย่างเพื่อบรรลุเป้าหมาย | We should take action before it’s too late. |

รวม 100 กิจกรรมเป็นภาษาอังกฤษที่ใช้ในชีวิตประจำวัน
คำศัพท์เกี่ยวกับกิจกรรมในโรงเรียนเป็นภาษาอังกฤษ
คำศัพท์ | การออกเสียง | ความหมาย | ตัวอย่าง |
Study | /ˈstʌd.i/ | เรียน | She loves to study biology in the library. |
Read | /riːd/ | อ่าน | He always reads a book before class. |
Write | /raɪt/ | เขียน | She likes to write poems in her notebook. |
Learn | /lɜːrn/ | เรียน เรียนรู้ | They are eager to learn new skills. |
Teach | /tiːtʃ/ | สอน | She loves to teach English to young students. |
Discuss | /dɪˈskʌs/ | สนทนา อภิปราย | We often discuss ideas in groups. |
Present | /ˈprez.ənt/ | แนะนำ | He has to present his project tomorrow. |
Research | /rɪˈsɜːrtʃ/ | วิจัย | They are conducting research on climate change. |
Participate | /pɑːrˈtɪs.ɪ.peɪt/ | มีส่วนร่วม เข้าร่วม ร่วมมือ | Students are encouraged to participate in clubs. |
Practice | /ˈpræk.tɪs/ | ฝึกฝน | You need to practice speaking every day. |
Experiment | /ɪkˈsper.ɪ.mənt/ | ทดลอง ทดสอบ, พิสูจน์ | We will experiment with different chemicals. |
Revise | /rɪˈvaɪz/ | ทบทวน แก้ไข | She needs to revise for the final exam. |
Memorize | /ˈmem.ə.raɪz/ | จำ จดจำ | It’s hard to memorize all the formulas. |
Debate | /dɪˈbeɪt/ | โต้วาที | They had a heated debate about the topic. |
Perform | /pəˈfɔːrm/ | แสดง | The students will perform a play at the event. |
Collaborate | /kəˈlæb.ə.reɪt/ | ร่วมมือ | They will collaborate on a science project. |
Solve | /sɒlv/ | แก้ปัญหา | We need to solve this math problem together. |
Brainstorm | /ˈbreɪn.stɔːrm/ | ระดมความคิด | The team will brainstorm ideas for the project. |
Draw | /drɔː/ | วาดภาพ ลาก ดึง | She loves to draw pictures during art class. |
Sing | /sɪŋ/ | ร้องเพลง | They will sing the school anthem in assembly. |
Dance | /dæns/ | เต้นรำ | We often dance during music lessons. |
Plan | /plæn/ | วางแผน | She will plan the schedule for the event. |
Solve | /sɒlv/ | Giải quyết | We need to solve this math problem together. |
Listen | /ˈlɪs.ən/ | ฟัง | Please listen carefully to the instructions. |
Explore | /ɪkˈsplɔːr/ | ตรวจ สำรวจ | They love to explore new subjects in school. |
Ask | /æsk/ | ถาม | Don’t hesitate to ask questions in class. |
Answer | /ˈæn.sər/ | ตอบ | Please answer all the questions in the quiz. |
Organize | /ˈɔːr.ɡə.naɪz/ | จัดตั้ง | They will organize a charity event next week. |
Lead | /liːd/ | นำ | She was chosen to lead the debate team. |
Observe | /əbˈzɜːv/ | สังเกต | We will observe the stars during the night. |
Recite | /rɪˈsaɪt/ | ท่อง ท่องจำ | She can recite the poem perfectly. |
Guide | /ɡaɪd/ | นำทาง | The teacher will guide us through the process. |
Experiment | /ɪkˈsper.ɪ.mənt/ | การทดลอง | We will experiment with different chemicals. |
Share | /ʃeər/ | แบ่งปัน | Please share your findings with the class. |
Test | /test/ | ทดสอบ | We will have a history test tomorrow. |
Build | /bɪld/ | สร้าง | The team will build a model for the competition. |
Evaluate | /ɪˈvæl.ju.eɪt/ | ประเมินผล ประเมินค่า | They will evaluate the results of the survey. |
Explain | /ɪkˈspleɪn/ | อธิบาย | Can you explain this concept to me? |
Prepare | /prɪˈpeər/ | จัดเตรียม ตระเตรียม | She is preparing for the science fair. |
Schedule | /ˈskedʒ.uːl/ | ทำตารางเวลา ทำกำหนดการ | We will schedule the event for next Friday. |
Record | /rɪˈkɔːrd/ | บันทึก | We will record the lecture for later review. |
Collect | /kəˈlekt/ | เก็บรวม รวบรวม | Please collect data from your classmates. |
Analyze | /ˈæn.əl.aɪz/ | วิเคราะห์ | We need to analyze the survey results. |

คำศัพท์ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับกิจกรรม ภาษาอังกฤษ นอก ห้องเรียน
คำศัพท์ | การออกเสียง | ความหมาย | ตัวอย่าง |
Go for a walk | /ɡoʊ fɔːr ə wɔk/ | ไปเดินเล่น | I like to go for a walk in the park. |
Play outside | /pleɪ aʊtsaɪd/ | ออกไปเล่นข้างนอก | Children love to play outside. |
Go cycling | /ɡoʊ ˈsaɪ.klɪŋ/ | ขี่จักรยาน | We go cycling every Saturday. |
Go for a run | /ɡoʊ fɔːr ə rʌn/ | ไปวิ่ง | I go for a run in the morning. |
Visit the beach | /ˈvɪzɪt ðə biːtʃ/ | ไปเที่ยวทะเล | We visit the beach in summer. |
Go hiking | /ɡoʊ ˈhaɪ.kɪŋ/ | ไปเดินเขา | They go hiking on weekends. |
Have a picnic | /hæv ə ˈpɪk.nɪk/ | การไปเที่ยวนอกบ้านและนำอาหารไปรับประทาน ปิกนิก | We have a picnic in the park. |
Play sports | /pleɪ spɔːrts/ | เล่นกีฬา | He plays sports every afternoon. |
Go fishing | /ɡoʊ ˈfɪʃ.ɪŋ/ | ไปตกปลา | They go fishing by the river. |
Go camping | /ɡoʊ ˈkæm.pɪŋ/ | ไปตั้งแคมป์ | We go camping in the mountains. |
Play football | /pleɪ ˈfʊtbɔːl/ | เล่นฟุตบอล | They play football every weekend. |
Go to the cinema | /ɡoʊ tuː ðə ˈsɪnəmə/ | ดูหนัง/ภาพยนตร์ | I go to the cinema once a month. |
Go shopping | /ɡoʊ ˈʃɑːpɪŋ/ | ไปช้อปปิ้ง | She goes shopping every Friday. |
Go to a concert | /ɡoʊ tuː ə ˈkɒn.sɜːrt/ | ไปดูคอนเสิร์ต | We go to a concert every summer. |
Take photos | /teɪk ˈfoʊtoʊz/ | ถ่ายภาพ | I like to take photos of nature. |
Go to the zoo | /ɡoʊ tuː ðə zuː/ | ไปเที่ยวสวนสัตว์ | We go to the zoo on weekends. |
Attend a festival | /əˈtɛnd ə ˈfɛstəvəl/ | เข้าร่วมงานเทศกาล | They attend a festival every year. |
Go bowling | /ɡoʊ ˈboʊ.lɪŋ/ | ไปเล่นโบว์ลิ่ง | We go bowling for fun. |
Go skiing | /ɡoʊ ˈskiː.ɪŋ/ | ไปเล่นสกี | I go skiing in the winter. |
Go to a play | /ɡoʊ tuː ə pleɪ/ | ไปโรงละคร | We go to a play every spring. |
Play board games | /pleɪ bɔːrd ɡeɪmz/ | การเล่นบอร์ดเกม | We love to play board games during family time. |
Bake cookies | /beɪk ˈkʊkiz/ | อบคุกกี้ | She likes to bake cookies on weekends. |
Paint pictures | /peɪnt ˈpɪk.tʃərz/ | วาดภาพ | He enjoys painting pictures in his free time. |
Write a diary | /raɪt ə ˈdaɪəri/ | เขียนไดอารี่ | She writes a diary every evening. |
Visit a museum | /ˈvɪzɪt ə mjuˈziəm/ | ไปเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ | We often visit a museum to learn about history. |
Do gardening | /du ˈɡɑːr.dənɪŋ/ | ทำสวน | They enjoy doing gardening on sunny days. |
Practice yoga | /ˈpræk.tɪs ˈjoʊɡə/ | เล่นโยคะ | She practices yoga to relax her mind. |
Meditate | /ˈmed.ɪ.teɪt/ | ทำสมาธิ | He likes to meditate in the morning. |
Build a model | /bɪld ə ˈmɒd.əl/ | สร้างแบบจำลอง | He loves to build models of airplanes. |
Play an instrument | /pleɪ ən ˈɪn.strə.mənt/ | เล่นเครื่องดนตรี | She is learning to play an instrument like the guitar. |
Ride a horse | /raɪd ə hɔːrs/ | ขี่ม้า | They often ride horses on the farm. |
Do puzzles | /du ˈpʌz.əlz/ | เล่นเกมปริศนา | I like to do puzzles in my free time. |
Make crafts | /meɪk kræfts/ | ทำหัตถกรรม | She loves to make crafts out of recycled materials. |
Attend a workshop | /əˈtend ə ˈwɜːrkʃɒp/ | เข้าร่วมเวิร์กช็อป | He plans to attend a workshop on photography. |
Try a new recipe | /traɪ ə nju ˈrɛsɪpi/ | ลองสูตรใหม่ | She enjoys trying new recipes in the kitchen. |
Do origami | /du ˌɒrɪˈɡɑːmi/ | ทำโอริกามิ พับกระดาษแบบญี่ปุ่น | She enjoys doing origami as a hobby. |
Attend a book club | /əˈtend ə bʊk klʌb/ | เข้าร่วมชมรมหนังสือ | He recently attended a book club in the community. |
>>>Read more: รวมเกมภาษาอังกฤษที่ดีและมีประโยชน์ 41 เกมเพื่อเรียนไปด้วยเล่นไปด้วย
คำศัพท์ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับกิจกรรมในชีวิตประจำวัน
คำศัพท์ | การออกเสียง | ความหมาย | ตัวอย่าง |
Wake up | /weɪk ʌp/ | ตื่น | I wake up at 7 a.m. |
Get out of bed | /ɡɛt aʊt ʌv bɛd/ | ลุกออกจากเตียง | I get out of bed right away. |
Brush teeth | /brʌʃ tiːθ/ | แปรงฟัน | Don’t forget to brush your teeth. |
Make breakfast | /meɪk ˈbrɛk.fɑːst/ | ทำอาหารเช้า | I make breakfast for my family. |
Pack lunch | /pæk lʌntʃ/ | เตรียมอาหารกลางวัน | I pack lunch before school. |
Get dressed | /ɡet drest/ | แต่งตัว | I get dressed quickly. |
Have breakfast | /hæv ˈbrekfəst/ | กินอาหารเช้า | We have breakfast together. |
Do homework | /du ˈhoʊmwɜrk/ | ทำการบ้าน | I do my homework after dinner. |
Clean the house | /kliːn ðə haʊs/ | ทำความสะอาดบ้าน | I clean the house on weekends. |
Cook dinner | /kʊk ˈdɪnər/ | ทำอาหารเย็น | I cook dinner every night. |
Wash the dishes | /wɔʃ ðə dɪʃɪz/ | ล้างจาน | I wash the dishes after eating. |
Read a book | /riːd ə bʊk/ | อ่านหนังสือ | I read a book before bed. |
Watch TV | /wɑtʃ ˈtiːˌviː/ | ดูทีวี | We watch TV in the evening. |
Feed the cat | /fiːd ðə kæt/ | เลี้ยงอาหารแมว | I feed the cat every morning. |
Sleep | /sliːp/ | นอน | I sleep for eight hours. |
Relax | /rɪˈlæks/ | ผ่อนคลาย พักผ่อน | I relax by listening to music. |
Do laundry | /du ˈlɔːndri/ | ซักผ้า | I do laundry on Sundays. |
Make the bed | /meɪk ðə bɛd/ | เก็บที่นอน | I make the bed every morning. |
Take a shower | /teɪk ə ˈʃaʊər/ | อาบน้ำ | I take a shower after exercising. |
Drink | /drɪŋk/ | ดื่ม | I drink water throughout the day. |

ประโยคสื่อสารทั่วไปเกี่ยวกับกิจกรรมประจำวันในภาษาอังกฤษ
ประโยคเกี่ยวกับกิจกรรมประจำวันในภาษาอังกฤษ
โครงสร้าง | ความหมาย | ตัวอย่าง |
I spend a lot of time + V-ing/on N | ฉัน/ผมใช้เวลามากเกินไปเพื่อ… | I spend a lot of time watching movies. |
I (often) tend to… + V | ทำด้วยความเอาใจใส่… | I often tend to wake up late on weekends. |
You will always find me + V-ing | คุณจะเจอฉัน/ผม…เสมอ | You will always find me reading a book before bed. |
V-ing is a big part of my life | … เป็นส่วนสำคัญในชีวิตฉัน/ผม | Exercising is a big part of my life. |
I make a point of + Noun/V-ing | ฉัน/ผมตั้งเป้าที่จะ… | I make a point of eating a healthy breakfast every day. |
Whenever I get the chance, I will + V | เมื่อมีโอกาสฉัน/ผมจะ… | Whenever I get the chance, I will travel to new places. |
I have a habit of… + Noun/V-ing | ฉัน/ผมมีนิสัย… | I have a habit of biting my nails when I’m nervous. |
I rarely… | ฉัน/ผมไม่ค่อย… | I rarely eat fast food. |
I enjoy… + V-ing | ฉัน/ผมชอบ… | I enjoy listening to music. |
I’m not a fan of… + V-ing | ฉัน/ผมไม่ชอบ… | I’m not a fan of getting up early. |
I’m used to… + V-ing | ฉัน/ผมคุ้นเคยกับการ… | I’m used to living in a big city. |

ประโยคคำถาม
ประโยค | ความหมาย |
What did you get up to today? | วันนี้คุณทำอะไรมาบ้าง? |
Did you go to work/school today? | วันนี้คุณไปทำงาน/เรียนไหม? |
Did you work out today? | วันนี้คุณออกกำลังกายแล้วหรือยัง? |
What did you learn today? | วันนี้คุณได้เรียนรู้อะไรมาบ้าง? |
What interesting things happened today? | วันนี้มีเรื่องอะไร น่าสนใจเกิดขึ้นบ้าง? |
What time do you usually wake up? | คุณมักจะตื่นกี่โมง? |
How do you usually spend your weekends? | คุณมักจะใช้เวลาช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ทำอะไร? |
What do you like to do in your free time? | คุณชอบทำอะไรในเวลาว่าง? |
Do you prefer to study in the morning or evening? | คุณชอบเรียนในตอนเช้าหรือตอนเย็น? |
How often do you watch TV? | ปกติแล้วคุณดูทีวีบ่อยแค่ไหน? |
What is your favorite sport? | กีฬาโปรดของคุณคืออะไร? |
Do you play any musical instruments? | คุณเล่นเครื่องดนตรีบ้างไหม? |
What activities do you enjoy after school? | คุณชอบทำกิจกรรมอะไรนอกห้องเรียน? |
How do you stay active? | คุณรักษาสุขภาพให้แข็งแรงได้อย่างไร? |
What is a typical day like for you? | ปกติแล้วในแต่ละวันของการทำงานของคุณเป็นยังไง |
Do you have any hobbies? | คุณมีงานอดิเรกอะไรบ้าง? |
What is your favorite book? | หนังสือโปรดของคุณคืออะไร? |
How often do you go shopping? | คุณไปช้อปปิ้งบ่อยแค่ไหน? |
What do you usually have for breakfast? | คุณมักจะทานอะไรเป็นอาหารเช้า? |
What do you do to relax? | คุณทำอะไรเพื่อให้คุณผ่อนคลาย? |

ประโยคสำหรับการตอบและอธิบาย
ประโยค | ความหมาย |
I usually wake up at 6:00 AM. | ฉันมักจะตื่นนอนเวลา 6.00 น. |
I brush my teeth and wash my face. | ฉันแปรงฟันและล้างหน้า |
I have breakfast at 7:00 AM. | ฉันทานอาหารเช้าตอน 7.00น. |
I go to school by bus. | ฉันไปโรงเรียนโดยรถประจำทาง |
I study in the afternoon. | ฉันเรียนหนังสือตอนบ่าย |
I play soccer with my friends. | ฉันเล่นฟุตบอลกับเพื่อนๆ |
I cook dinner for my family. | ฉันทำอาหารเย็นให้ครอบครัวของฉัน |
I usually read a book before bed. | ฉันมักจะอ่านหนังสือก่อนนอน |
I watch TV for an hour every evening. | ฉันดูทีวีหนึ่งชั่วโมงทุกเย็น |
I enjoy listening to music while studying. | ฉันชอบฟังเพลงขณะเรียนหนังสือ |
I take a shower in the evening. | ฉันอาบน้ำตอนเย็น |
I go for a walk in the park. | ฉันไปเดินเล่นในสวนสาธารณะ |
I like to draw and paint in my free time. | ฉันชอบวาดรูปและระบายสีในเวลาว่าง |
I help my parents with housework on weekends. | ฉันช่วยพ่อแม่ทำงานบ้านในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ |
I usually have lunch at 12:00 PM. | ฉันมักจะกินข้าวเที่ยงตอน 12.00 น. |
I often go shopping with my friends. | ฉันมักจจะไปช้อปปิ้งกับเพื่อนบ่อยๆ |
I practice playing the piano every day. | ฉันฝึกเล่นเปียโนทุกวัน |
I like to spend time outdoors during summer. | ฉันสนุกกับการใช้เวลาอยู่ข้างนอกในช่วงฤดูร้อน |
I relax by watching movies on weekends. | ฉันผ่อนคลายด้วยการดูหนังในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ |
I usually go to bed around 10:00 PM. | ฉันมักจะเข้านอนประมาณ 22.00 น. |

>>>Read more: 100+ แคปชั่น relax time ในภาษาอังกฤษพร้อมความหมายที่ดีที่สุด
กิจกรรมภาษาอังกฤษพาเพลินสำหรับการเรียนรู้พร้อมการเล่น ช่วยพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษ
เชื่อมคำ
วิธีการเล่น: สามารถเล่นได้ 1 คน หรือหลายคนก็ได้ เกมเริ่มต้นด้วยการพูดคำศัพท์ คำถัดไปจะต้องใช้ตัวอักษรสุดท้ายของคำก่อนหน้าเพื่อสร้างคำใหม่ แต่ละคำไม่สามารถซ้ำกันได้และจะต้องขึ้นต้นด้วยตัวอักษรสุดท้ายของคำก่อนหน้า
ตัวอย่าง:
คำแรก Cat (ลงท้ายด้วยตัว T)
คำถัดไปอาจจะเป็น Tivi (ขึ้นต้นด้วยตัว T).
กิจกรรมนี้ช่วยปรับปรุงการจดจำคำศัพท์และพัฒนาความคิดทางภาษาได้อย่างยืดหยุ่น ไม่เพียงเท่านั้นหากเล่นกันหลายๆ คน เช่น เพื่อนๆ ในชั้นเรียน กิจกรรมนี้จะสร้างบรรยากาศสนุกสนานและการแข่งขันในห้องเรียนอีกด้วย ซึ่งจะส่งเสริมการมีส่วนร่วมของนักเรียนทุกคน

ตีแมลงวัน
วิธีการเล่น:
กิจกรรมนี้สามารถเล่นในห้องเรียนได้ให้ครูเขียนคำศัพท์ที่เรียนมาหรือติดบัตรคำศัพท์ไว้บนกระดาน และแบ่งนักเรียนเป็น 2 กลุ่ม เมื่อครูออกเสียงคำศัพท์ หรือวลี นักเรียนจะต้องวิ่งไปตีคำที่ตรงกันด้วยไม้บรรทัดหรือหนังสือ กลุ่มที่ตีคำได้มากที่สุดและเร็วที่สุดจะเป็นผู้ชนะ
กิจกรรมนี้สร้างบรรยากาศสนุกสนานและกระตุ้นให้เกิดการแข่งขันระหว่างนักเรียน ช่วยให้นักเรียนจดจำคำศัพท์ได้อย่างเป็นธรรมชาติและสนุกสนาน
ทายคำจากภาพ
วิธีการเล่น:
ให้ครูเตรียมภาพประกอบคำศัพท์หรือวลี จากนั้นให้นักเรียนดูภาพและพยายามเดาคำศัพท์หรือวลีที่สอดคล้องกัน จากนั้นนักเรียนสามารถพูดคุยถึงความหมายหรือการใช้คำนั้นได้
กิจกรรมนี้ช่วยให้นักเรียนพัฒนาทักษะการคิดสร้างสรรค์และความสามารถในการอธิบายความคิดเป็นภาษาอังกฤษ
คำถามที่พบบ่อย
คำคุณศัพท์ของ activity คืออะไร?
คำคุณศัพท์ของ activity เป็น active คำนี้หมายถึง กระตือรือร้น คล่องแคล่ว และมักใช้เพื่ออธิบายกิจกรรมหรือสถานะที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวและการมีส่วนร่วม
กิจกรรม English Camp มีอะไรบ้าง?
กิจกรรม English Camp รวมถึง:
กิจกรรม | การออกเสียง | ความหมาย |
Camping | /ˈkæmpɪŋ/ | ตั้งแคมป์ |
Hiking | /ˈhaɪkɪŋ/ | เดินเขา |
Fishing | /ˈfɪʃɪŋ/ | จับปลา |
Canoeing | /kəˈnuːɪŋ/ | พายเรือเล่น |
Barbecue | /ˈbɑːrbɪkjuː/ | การทำบาร์บีคิว |
Stargazing | /ˈstɑːrˌɡeɪzɪŋ/ | การดูดาว |

Activities เป็นคำประเภทไหน?
Activities เป็นคำนามพหูพจน์ หมายถึง การกระทำหรือกิจกรรมที่ผู้คนทำ คำนี้มักใช้ในการบรรยายกิจกรรมในด้านการศึกษา นันทนาการ กีฬา และอื่นๆ อีกมากมาย
Activity อ่านว่าอย่างไรในภาษาอังกฤษ?
การออกเสียงของ Activity คือ /ækˈtɪvɪti/. คุณสามารถฝึกฝนโดยแยกแต่ละส่วนและรวมเข้าด้วยกันเพื่อออกเสียงได้คล่องยิ่งขึ้น จำไว้ว่าจะเน้นที่เสียง “tɪv” ดังนั้นจึงต้องเน้นส่วนนี้มากกว่าเสียงอื่นๆ

การเรียนรู้คำศัพท์และปฏิบัติกิจกรรม ภาษาอังกฤษไม่เพียงแต่ช่วยให้สื่อสารได้ดีขึ้นเท่านั้น แต่ยังนำประสบการณ์ที่น่าสนใจมากมายมาสู่กระบวนการเรียนรู้อีกด้วย หากต้องการปรับปรุงทักษะการออกเสียงและการสื่อสารของคุณอย่างเป็นระบบ คุณสามารถเข้ามาที่แอปพลิเคชัน ELSA Speak ซึ่งเป็นเครื่องมือสนับสนุนการเรียนรู้ภาษาอังกฤษอย่างอัจฉริยะ ช่วยให้คุณฝึกการออกเสียงตามมาตรฐาน และมีความมั่นใจมากขึ้นในการสนทนา
การทำความเข้าใจค่าใช้จ่าย ภาษาอังกฤษเป็นสิ่งจำเป็นถ้าคุณต้องการสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ ในสถานการณ์ที่เกี่ยวข้องกับการเงิน ธุรกิจ หรือในชีวิตประจำวัน บทความของ ELSA Speak นี้จะพาคุณมาสำรวจค่าใช้จ่ายในภาษาอังกฤษ คำศัพท์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับหัวข้อนี้จะช่วยให้คุณปรับปรุงความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษได้ในสถานการณ์จริง
ค่าใช้จ่าย ภาษาอังกฤษ คืออะไร?
ค่าใช้จ่ายในภาษาอังกฤษแปลว่า cost หรือ expenses ซึ่งเป็นคำที่พบบ่อยในสาขาการเงิน เศรษฐศาสตร์ และชีวิตประจำวัน

ความแตกต่างระหว่าง cost กับ expenses
ในด้านการเงินและการบัญชี มักใช้คำว่า cost และ expenses แต่มันมีความหมายต่างกัน มาเรียนวิธีแยกแยะรายละเอียดตามตารางด้านล่างนี้กันนะ!
เกณฑ์ | Cost | Expenses |
ความหมาย | ค่าใช้จ่ายเฉพาะสำหรับผลิตภัณฑ์/บริการ (โดยทั่วไปคือราคาที่ป้อนในการผลิต) | ยอดใช้จ่ายรวมสําหรับสิ่งใดก็ตาม |
บริบท | ธุรกิจ การผลิต การช้อปปิ้ง | การเงิน การบัญชี การจัดการงบประมาณ |
ตัวอย่าง | The cost of building the new factory is $1 million. (ค่าใช้จ่ายการสร้างโรงงานใหม่คือ 1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) | Our monthly expenses include rent, utilities, and groceries.(ค่าใช้จ่ายรายเดือนของเราได้แก่ ค่าเช่า ค่าน้ำค่าไฟ และค่าอาหาร) |

คำศัพท์เกี่ยวกับประเภทของค่าใช้จ่ายในภาษาอังกฤษ
คําศัพท์ | การออกเสียง | แปล | ตัวอย่าง |
Monthly Expenses | /ɪkˈspɛnsɪz/ | ค่าใช้จ่ายรายเดือน | My monthly expenses are quite high. (ค่าใช้จ่ายรายเดือนของฉันค่อนข้างสูง) |
Disbursements | /dɪsˈbɜːrsmənts/ | การชําระเงิน | The disbursements for the project were approved. (การเบิกจ่ายสำหรับโครงการนี้ถูกอนุมัติแล้ว) |
Standing Charges | /ˈstændɪŋ ˈtʃɑːrdʒɪz/ | ค่าธรรมเนียมคงที่ | Standing charges for utilities can add up. (ค่าธรรมเนียมคงที่สำหรับสาธารณูปโภคอาจเพิ่มขึ้น) |
General Average Expenditure | /ˈdʒɛnərəl ˈævərɪdʒ ɪkˈspɛndɪtʃər/ | ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยทั่วไป | General average expenditure has increased this year. (ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยทั่วไปเพิ่มขึ้นในปีนี้) |
Uninsured Working Expenses | /ˌʌnɪnˈʃʊrd ˈwɜːrkɪŋ ɪkˈspɛnsɪz/ | ค่าใช้จ่ายในการทำงานที่ไม่ได้รับการประกัน | Uninsured working expenses can be risky for freelancers. (ค่าใช้จ่ายในการทำงานที่ไม่ได้รับการประกันอาจมีความเสี่ยงสำหรับผู้ประกอบอาชีพอิสระ) |
Overhead | /ˈoʊvərhɛd/ | ค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการผลิตสินค้าและบริการ | Overhead costs include rent and utilities. (ค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการผลิตสินค้าและบริการได้แก่ ค่าเช่าและค่าน้ำค่าไฟ) |
Oncost | /ˈɒnˌkɒst/ | ค่าใช้จ่ายประจำ | The oncost of materials must be calculated. (ต้องคำนวณต้นทุนวัสดุ) |
Social Overheads | /ˈsoʊʃəl ˈoʊvərhɛdz/ | ค่าใช้จ่ายประจำทางสังคม | Social overheads are essential for community projects. (ค่าใช้จ่ายประจําทางสังคมถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับโครงการชุมชน) |
Distribution Cost | /ˌdɪstrɪˈbjuːʃən kɒst/ | ต้นทุนการจัดจำหน่าย | The distribution cost affects product pricing. (ต้นทุนการจัดจำหน่ายส่งผลต่อราคาผลิตภัณฑ์) |
Children’s Allowances | /ˈtʃɪldrən əˈlaʊənsɪz/ | เงินสงเคราะห์บุตร | Children’s allowances can help with education expenses. (เงินสงเคราะห์บุตรสามารถช่วยเรื่องค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาได้) |
Cost of Operation | /kɔːst əv ˌɒpəˈreɪʃən/ | ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน | The cost of operation is rising for many businesses. (ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานเพิ่มสูงขึ้นสำหรับธุรกิจหลายแห่ง) |
Family Allowances | /ˈfæmɪli əˈlaʊənsɪz/ | ค่าเบี้ยเลี้ยงครอบครัว | Family allowances support parents financially. (ค่าเบี้ยเลี้ยงครอบครัวช่วยสนับสนุนทางการเงินแก่พ่อแม่) |
Transaction Costs | /trænˈzækʃən kɒsts/ | ค่าใช้จ่ายทางธุรกรรม | Transaction costs can be significant in trading. (ค่าใช้จ่ายทางธุรกรรมอาจมีความสำคัญในการซื้อขาย) |
Travel Costs | /ˈtrævəl kɒsts/ | ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง | Travel costs can add up quickly on vacations. (ค่าใช้จ่ายในการเดินทางอาจเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงวันหยุด) |
Marginal Cost | /ˈmɑːrdʒɪnəl kɔːst/ | ค่าใช้จ่ายหรือต้นทุนในการผลิตต่อหน่วยที่เพิ่มขึ้น | The marginal cost of producing one more unit is low. (ค่าใช้จ่ายหรือต้นทุนในการผลิตต่อหน่วยที่เพิ่มขึ้นในการผลิตอีกหนึ่งหน่วยนั้นต่ำ) |
Charge | /tʃɑːrdʒ/ | ค่าธรรมเนียม | The lawyer’s charge for this case is quite high. (ค่าธรรมเนียมทนายความคดีนี้ค่อนข้างสูง) |
Cost | /kɔːst/ | ค่าใช้จ่าย | The cost of living has increased this year. (ในปีนี้ค่าครองชีพสูงขึ้น) |
Expense | /ɪkˈspɛns/ | ค่าเสียหาย | Each expense must be reported accurately. (ทุกค่าเสียหายจะต้องมีการรายงานอย่างถูกต้องแม่นยำ) |
Out-of-Pocket Expense | /ˈaʊt əv ˈpɒkɪt ɪkˈspɛns/ | ค่าใช้จ่ายส่วนตัว | Out-of-pocket expenses can be a burden. (ค่าใช้จ่ายส่วนตัวที่เกินอาจกลายเป็นภาระ) |
Incidental Expenses | /ˌɪnsɪˈdɛntl ɪkˈspɛnsɪz/ | ค่าใช้จ่ายเล็กน้อย | Incidental expenses are often overlooked. (ค่าใช้จ่ายเล็กน้อยมักถูกมองข้าม) |
Mileage | /ˈmaɪlɪdʒ/ | ค่าขนส่ง | Mileage can add significantly to travel costs. (ค่าขนส่งอาจเพิ่มต้นทุนการเดินทางได้มากขึ้น) |
Outlay | /ˈaʊtleɪ/ | ทุน | The initial outlay for the project was high. (ต้นทุนเริ่มในการทำโครงการนี้ค่อนข้างสูง) |
Bill | /bɪl/ | ใบเรียกเก็บเงิน | I received the electricity bill yesterday. (ฉันได้รับใบเรียกเก็บค่าไฟฟ้าเมื่อวานนี้) |
Fee | /fiː/ | ค่าธรรมเนียม | There is a fee for late registration. (การลงทะเบียนล่าช้าจะมีค่าธรรมเนียม) |
Fare | /fɛr/ | ค่าโดยสาร | The bus fare has increased this month. (เดือนนี้ค่าโดยสารรถเมล์เพิ่มขึ้น) |
Fine | /faɪn/ | ค่าปรับ | He had to pay a fine for parking illegally. (เขาต้องจ่ายค่าปรับสำหรับการจอดรถผิดกฎหมาย) |
Tax | /tæks/ | ภาษี | The tax on goods has risen recently. (ในช่วงนี้ภาษีสินค้ามีการปรับขึ้น) |
Rent | /rɛnt/ | ค่าเช่า | Rent prices are high in the city. (ราคาค่าเช่าในเมืองสูงขึ้น) |
Food Costs | /fuːd kɒsts/ | ค่าอาหาร | Food costs have gone up due to inflation. (ค่าอาหารเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากภาวะเงินเฟ้อ) |
Service Charges | /ˈsɜːrvɪs tʃɑːrdʒɪz/ | ค่าบริการ | Service charges are added to the bill. (ค่าบริการจะถูกเพิ่มลงในใบแจ้งหนี้) |
Electricity Bill | /ɪˌlɛkˈtrɪsɪti bɪl/ | ค่าไฟฟ้า | The electricity bill is due next week. (ใบแจ้งค่าไฟฟ้าจะครบกำหนดในสัปดาห์หน้า) |
Water Bill | /ˈwɔːtər bɪl/ | ค่าน้ำ | Make sure to pay the water bill on time. (อย่าลืมจ่ายค่าน้ำให้ตรงเวลา) |
Utilities Bill | /juːˈtɪlɪtiz bɪl/ | ค่าสาธารณูปโภค | The utilities bill covers several services. (ใบแจ้งค่าสาธารณูปโภคครอบคลุมบริการหลายอย่าง) |
Repair Costs | /rɪˈpɛr kɒsts/ | ค่าซ่อมแซม | Repair costs can be quite significant. (ค่าซ่อมแซมอาจค่อนข้างสูง) |
Medical Expenses | /ˈmɛdɪkəl ɪkˈspɛnsɪz/ | ค่ารักษาพยาบาล | Medical expenses can be overwhelming. (ค่ารักษาพยาบาลอาจสูงเกินไป) |
Subscription Cost | /səbˈskrɪpʃən kɔːst/ | ค่าสมัครสมาชิก | The subscription cost is charged monthly. (ค่าสมัครสมาชิกจะถูกเรียกเก็บเป็นรายเดือน) |
Credit Card Bill | /ˈkrɛdɪt kɑːrd bɪl/ | ค่าบัตรเครดิต | I need to pay my credit card bill this week. (ฉันต้องจ่ายค่าบัตรเครดิตภายในสัปดาห์นี้) |
Debt | /dɛt/ | หนี้สิน | He is struggling to pay off his debt. (เขากำลังดิ้นรนเพื่อจ่ายหนี้สินของเขา) |
Loan | /loʊn/ | เงินกู้ | She took out a loan to buy a car. (เธอกู้เงินเพื่อซื้อรถยนต์) |
Late Fee | /leɪt fiː/ | ค่าธรรมเนียมล่าช้า | A late fee will be applied if you miss the deadline. (หากคุณดำเนินการล่าช้าจะมีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียม) |
Monthly Subscription | /ˈmʌnθli səbˈskrɪpʃən/ | ค่าสมัครสมาชิกรายเดือน | I cancelled my monthly subscription to the magazine. (ฉันยกเลิกการสมัครรับนิตยสารรายเดือนของฉัน) |
Rental Deposit | /ˈrɛntəl dɪˈpɒzɪt/ | เงินมัดจำค่าเช่า | The rental deposit is usually one month’s rent. (เงินมัดจำค่าเช่าโดยปกติจะเท่ากับค่าเช่า 1 เดือน) |
Daily living expenses | /ˈdeɪli ˈlɪvɪŋ ɪkˈspɛnsɪz/ | ค่าครองชีพประจำวัน | My daily living expenses have increased recently. (เมื่อเร็ว ๆ นี้ค่าครองชีพประจำวันของฉันเพิ่มขึ้น) |
Personal expenses | /ˈpɜːsənl ɪkˈspɛnsɪz/ | ค่าใช้จ่ายส่วนบุคคล | I need to track my personal expenses more carefully. (ฉันจำเป็นต้องติดตามค่าใช้จ่ายส่วนบุคคลของฉันอย่างระมัดระวังมากขึ้น) |
Loan costs | /ləʊn kɒsts/ | ต้นทุนกู้ยืม | The loan costs are higher than expected. (ต้นทุนกู้ยืมสูงเกินกว่าที่คาดไว้) |
Litigation costs | /ˌlɪtɪˈɡeɪʃən kɒsts/ | ค่าดำเนินคดี | The litigation costs for the case were significant. (ค่าดำเนินคดีในคดีนี้สูงมาก) |
Reconditioning charges | /ˌriːkənˈdɪʃənɪŋ ˈʧɑːʤɪz/ | ค่าธรรมเนียมการปรับปรุงสภาพ | We paid reconditioning charges to renovate the property. (เราจ่ายค่าธรรมเนียมการปรับปรุงสภาพเพื่อปรับปรุงทรัพย์สิน) |
Scheme charge | /skiːm ʧɑːʤ/ | ค่าธรรมเนียมโครงการ | The scheme charge for this plan is affordable. (ค่าธรรมเนียมโครงการนี้อยู่ในระดับที่เอื้อมถึง) |
Initial cost | /ɪˈnɪʃəl kɒst/ | ต้นทุนเริ่มต้น | The initial cost of the project was very high. (ต้นทุนเริ่มต้นของโครงการสูงมาก) |
Household expenses | /ˈhaʊshəʊld ɪkˈspɛnsɪz/ | ค่าใช้จ่ายในครัวเรือน | Our household expenses include rent and utilities. (ค่าใช้จ่ายในครัวเรือนของเราได้แก่ ค่าเช่าและค่าน้ำค่าไฟ) |
Factory overhead | /ˈfæktri ˈəʊvəhɛd/ | ค่าใช้จ่ายในโรงงาน | Factory overhead costs are part of the production budget. (ค่าใช้จ่ายในโรงงานเป็นส่วนหนึ่งของงบประมาณการผลิต) |
Personnel expense | /ˌpɜːsəˈnɛl ɪkˈspɛns/ | ค่าใช้จ่ายบุคลากร | Personnel expenses take up most of the company budget. (ค่าใช้จ่ายด้านบุคลากรใช้งบประมาณของบริษัทเป็นส่วนใหญ่) |
Accrued expense | /əˈkruːd ɪkˈspɛns/ | ค่าใช้จ่ายคงค้าง | The accrued expenses will be cleared by next month. (ค่าใช้จ่ายคงค้างจะถูกเคลียร์ภายในเดือนหน้า) |
Indirect expense | /ˌɪndɪˈrɛkt ɪkˈspɛns/ | ค่าใช้จ่ายทางอ้อม | Indirect expenses include maintenance and utilities. (ค่าใช้จ่ายทางอ้อมได้แก่ ค่าบำรุงรักษาและค่าสาธารณูปโภค) |

วลีเกี่ยวกับการบัญชี
คําศัพท์ | การออกเสียง | แปล | ตัวอย่าง |
Cost-plus pricing | /kɔːst plʌs ˈpraɪsɪŋ/ | การตั้งราคาเพิ่มจากต้นทุน | The company uses cost-plus pricing to ensure profitability. (บริษัทใช้การตั้งราคาเพิ่มจากต้นทุนเพื่อให้มั่นใจถึงความสามารถในการทำกำไร) |
Depletion | /dɪˈpliːʃən/ | การพร่อง | The depletion of natural resources is a growing concern. (การขาดแคลนทรัพยากรธรรมชาติเป็นเรื่องที่น่ากังวลมากขึ้น) |
Amortization | /əˌmɔːrtɪˈzeɪʃən/ | ค่าเสื่อมราคา | Amortization spreads the cost of an asset over its useful life. (ค่าเสื่อมราคาจะกระจายต้นทุนของสินทรัพย์ไปตลอดอายุการใช้งาน) |
Cut-off | /ˈkʌtɒf/ | การตัดยอด | The cut-off date for submissions is next Friday. (วันตัดยอดสำหรับการส่งคือวันศุกร์หน้า) |
Revaluation | /ˌriːvæljuˈeɪʃən/ | การประเมินมูลค่าใหม่ | A revaluation of assets may lead to changes in financial statements. (การประเมินมูลค่าใหม่สินทรัพย์ใหม่อาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงในงบการเงิน) |
First in, first out (FIFO) | /fɜːrst ɪn, fɜːrst aʊt/ | วิธีเข้าก่อนออกก่อน | FIFO is a common inventory valuation method. (FIFO เป็นวิธีการประเมินมูลค่าสินค้าคงคลังทั่วไป) |
Last in, first out (LIFO) | /læst ɪn, fɜːrst aʊt/ | วิธีเข้าหลังออกก่อน | LIFO can affect the taxation of inventory. (LIFO สามารถส่งผลกระทบต่อการจัดเก็บภาษีสินค้าคงคลัง) |
Audit test | /ˈɔːdɪt tɛst/ | การทดสอบในการตรวจสอบบัญชี | The audit test revealed several discrepancies. (การทดสอบในการตรวจสอบบัญชีพบความคลาดเคลื่อนหลายประการ) |
Footing | /ˈfʊtɪŋ/ | ฐาน | The footing of the accounts showed a significant increase. (ฐานบัญชีมีการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ) |
Accounting | /əˈkaʊntɪŋ/ | การบัญชี | Accounting is essential for tracking financial transactions. (การบัญชีมีความจำเป็นสำหรับการติดตามธุรกรรมทางการเงิน) |
Fund accounting | /fʌnd əˈkaʊntɪŋ/ | การบัญชีกองทุน | Fund accounting is used by non-profit organizations. (การบัญชีกองทุนใช้โดยองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไร) |
Financial accounting | /faɪˈnænʃəl əˈkaʊntɪŋ/ | การบัญชีทางการเงิน | Financial accounting focuses on reporting to external users. (การบัญชีทางการเงินมุ่งเน้นการรายงานต่อผู้ใช้ภายนอก) |
Cost accounting | /kɔːst əˈkaʊntɪŋ/ | การบัญชีต้นทุน | Cost accounting helps businesses control expenses. (การบัญชีต้นทุนช่วยให้ธุรกิจควบคุมค่าใช้จ่าย) |
Job order costing | /dʒɒb ˈɔːrdər ˈkɔːstɪŋ/ | การบัญชีต้นทุนงานตามคำสั่ง | Job order costing is used for custom products. (การบัญชีต้นทุนงานตามคําสั่งใช้สำหรับผลิตภัณฑ์ที่กำหนดเอง) |
Process costing | /ˈprəʊsɛs ˈkɔːstɪŋ/ | การบัญชีต้นทุนกระบวนการ | Process costing is common in manufacturing industries. (การบัญชีต้นทุนกระบวนการเป็นเรื่องปกติในอุตสาหกรรมการผลิต) |
Direct costing | /dɪˈrɛkt ˈkɔːstɪŋ/ | การบัญชีต้นทุนโดยตรง | Direct costing only considers variable costs. (การบัญชีต้นทุนโดยตรงจะพิจารณาเฉพาะต้นทุนผันแปรเท่านั้น) |
Variable costing | /ˈvɛrɪəbl ˈkɔːstɪŋ/ | การบัญชีต้นทุนผันแปร | Variable costing allows for better decision making. (การบัญชีต้นทุนแปรผันช่วยให้ตัดสินใจได้ดีขึ้น) |
Standard costing | /ˈstændərd ˈkɔːstɪŋ/ | การบัญชีต้นทุนมาตรฐาน | Standard costing provides benchmarks for performance. (การบัญชีต้นทุนมาตรฐานเป็นเกณฑ์มาตรฐานสำหรับประสิทธิภาพการทำงาน) |
Full costing | /fʊl ˈkɔːstɪŋ/ | การบัญชีต้นทุนรวม | Full costing includes both fixed and variable costs. (การคิดต้นทุนทั้งหมดประกอบด้วยต้นทุนคงที่และต้นทุนผันแปร) |
Full absorption costing | /fʊl əbˈzɔːrpʃən ˈkɔːstɪŋ/ | การคำนวณต้นทุนแบบรวม | Full absorption costing allocates all manufacturing costs. (การคำนวณต้นทุนแบบรวมจะจัดสรรต้นทุนการผลิตทั้งหมด) |
Responsibility accounting | /rɪˌspɒnsɪˈbɪləti əˈkaʊntɪŋ/ | การบัญชีตามความรับผิดชอบ | Responsibility accounting holds managers accountable for their budgets. (ผู้จัดการฝ่ายบัญชีความรับผิดชอบต้องรับผิดชอบต่องบประมาณของตนเอง) |
Functional accounting | /ˈfʌŋkʃənl əˈkaʊntɪŋ/ | การบัญชีตามประเภทของกิจกรรม | Functional accounting categorizes costs by department. (การบัญชีตามประเภทของกิจกรรมจะจัดประเภทต้นทุนตามแผนก) |
Administrative accounting | /ədˈmɪnɪstrətɪv əˈkaʊntɪŋ/ | การบัญชีบริหาร | Administrative accounting focuses on internal reporting. (การบัญชีบริหารมุ่งเน้นไปที่การรายงานภายใน) |
Governmental accounting | /ɡəˈvɜrnˌmɛntəl əˈkaʊntɪŋ/ | การบัญชีภาครัฐ | Governmental accounting is used to track public funds. (การบัญชีภาครัฐใช้เพื่อติดตามเงินของรัฐ) |
Merger accounting | /ˈmɜːrdʒər əˈkaʊntɪŋ/ | การบัญชีการควบรวมกิจการ | Merger accounting requires special adjustments in financial statements. (การบัญชีการควบรวมกิจการต้องมีการปรับปรุงพิเศษในงบการเงิน) |
Entity accounting | /ˈɛntɪti əˈkaʊntɪŋ/ | หน่วยงานทางการบัญชี | Entity accounting focuses on the financial performance of a specific entity. (หน่วยงานทางการบัญชีมุ่งเน้นไปที่ผลการดำเนินงานทางการเงินของนิติบุคคลเฉพาะเจาะจง) |
Enterprise accounting | /ˈɛntərpraɪz əˈkaʊntɪŋ/ | การบัญชีองค์กร | Enterprise accounting covers all financial activities of a business. (การบัญชีองค์กรจะครอบคลุมกิจกรรมทางการเงินทั้งหมดของธุรกิจ) |
Accounting entry | /əˈkaʊntɪŋ ˈɛntri/ | การบันทึกรายการบัญชี | Each accounting entry must be recorded accurately. (แต่ละการบันทึกรายการบัญชีจะต้องได้รับการบันทึกอย่างถูกต้องแม่นยำ) |
Accounting practice | /əˈkaʊntɪŋ ˈpræktɪs/ | การปฏิบัติการบัญชี | Accounting practice varies from one firm to another. (การปฏิบัติการบัญชีแตกต่างกันไปในแต่ละบริษัท) |
Appraisal | /əˈpreɪzl/ | การประเมินราคา | An appraisal helps determine the value of an asset. (การประเมินราคาช่วยกำหนดมูลค่าของสินทรัพย์) |
Forecasting | /ˈfɔːrkɑːstɪŋ/ | การพยากรณ์ทางการเงิน | Forecasting is essential for budget planning. (การพยากรณ์ทางการเงินถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการวางแผนงบประมาณ) |
Depreciation adjustment | /dɪˈpriːʃiˌeɪʃən əˈdʒʌstmənt/ | การปรับปรุงค่าเสื่อมราคา | A depreciation adjustment was made at year-end. (มีการปรับปรุงค่าเสื่อมราคาในช่วงสิ้นปี) |
Foreign exchange | /ˈfɔːrɪn ɪksˈʧeɪndʒ/ | อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศ | Foreign exchange rates fluctuate daily. (อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศมีการผันผวนทุกวัน) |
Cost allocation | /kɔːst ˌæləˈkeɪʃən/ | การจัดสรรค่าใช้จ่าย | Cost allocation ensures fair distribution of expenses. (การจัดสรรค่าใช้จ่ายได้อย่างยุติธรรม) |
Annual closing | /ˈænjuəl ˈkloʊzɪŋ/ | การปิดบัญชีประจําปี | The annual closing process is vital for financial reporting. (กระบวนการปิดบัญชีประจำปีมีความสำคัญต่อการรายงานทางการเงิน) |
Posting | /ˈpoʊstɪŋ/ | การผ่านรายการบัญชี | Posting transactions to the ledger is necessary for accuracy. (การผ่านรายการบัญชีธุรกรรมในบัญชีแยกประเภทเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อความถูกต้อง) |
Consignment | /kənˈsaɪnmənt/ | ระบบฝากขาย | The consignment agreement allows for flexible inventory management. (ระบบฝากขายช่วยให้บริหารจัดการสินค้าคงคลังได้อย่างยืดหยุ่น) |
Reconciliation | /ˌriːkənˌsɪlɪˈeɪʃən/ | บัญชีกระทบยอด | Monthly reconciliation of accounts is required. (จำเป็นต้องทำการบัญชีกระทบยอดรายเดือน) |
Confirmation | /ˌkɒnfərˈmeɪʃən/ | การยืนยัน | A confirmation of our order was received yesterday. (เราได้รับการยืนยันการสั่งซื้อของเราเมื่อวานนี้แล้ว) |
Consolidation | /kənˌsɒlɪˈdeɪʃən/ | การรวบรวม | The consolidation of financial statements simplifies reporting. (การรวบรวมงบการเงินช่วยให้การรายงานง่ายขึ้น) |
Merger | /ˈmɜːrdʒər/ | การควบกิจการ | The merger of the two companies was finalized last week. (การควบกิจการของทั้งสองบริษัทเสร็จสิ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว) |
Joint venture | /dʒɔɪnt ˈvɛntʃər/ | การร่วมทุน | The joint venture aims to expand in new markets. (บริษัทร่วมทุนมีเป้าหมายที่จะขยายเข้าสู่ตลาดใหม่) |
Revenue recognition | /ˈrɛvənjuː ˌrɛkəɡnɪˈʃən/ | การรับรู้รายได้ | Revenue recognition is essential for accurate accounting. (การรับรู้รายได้เป็นสิ่งสำคัญสำหรับการบัญชีที่ถูกต้องแม่นยำ) |
Bookkeeping | /ˈbʊkˌkiːpɪŋ/ | การทําบัญชี | Bookkeeping involves recording financial transactions. (การทำบัญชีเกี่ยวข้องกับการบันทึกธุรกรรมทางการเงิน) |
Devaluation | /ˌdiːvæljuˈeɪʃən/ | การลดค่าเงิน | The devaluation of the currency affected imports. (การลดค่าเงินส่งผลกระทบต่อการนำเข้า) |
Audit planning | /ˈɔːdɪt ˈplænɪŋ/ | การวางแผนการตรวจสอบบัญชี | Audit planning is crucial for an effective audit process. (การวางแผนการตรวจสอบบัญชีเป็นสิ่งสำคัญสำหรับกระบวนการตรวจสอบที่มีประสิทธิผล) |
Tax planning | /tæks ˈplænɪŋ/ | การวางแผนภาษี | Tax planning can help minimize liabilities. (การวางแผนภาษีสามารถช่วยลดภาระหนี้สินได้) |
Break-even analysis | /ˈbreɪkˌiːvən əˈnælɪsɪs/ | การวิเคราะห์จุดคุ้มทุน | Break-even analysis helps businesses determine profitability. (การวิเคราะห์จุดคุ้มทุนช่วยให้ธุรกิจกำหนดความสามารถในการทำกำไรได้) |
Cost-benefit analysis | /kɔːst ˈbɛnɪfɪt əˈnælɪsɪs/ | การวิเคราะห์ผลประโยชน์ที่คุ้มค่า | A cost-benefit analysis was performed before the project started. (มีการดำเนินการวิเคราะห์ผลประโยชน์ที่คุ้มค่าก่อนเริ่มโครงการ) |
Cost-volume-profit analysis | /kɔːst ˈvɒljuːm ˈprɒfɪt əˈnælɪsɪs/ | การวิเคราะห์ต้นทุนจำนวนกำไร | Cost-volume-profit analysis is useful for pricing decisions. (การวิเคราะห์ต้นทุน จํานวนกําไรมีประโยชน์สำหรับการตัดสินใจกำหนดราคา) |
External audit | /ɪkˈstɜrnəl ˈɔːdɪt/ | การสอบบัญชีโดยผู้ตรวจสอบภายนอก | An external audit provides an independent assessment. (การสอบบัญชีโดยผู้ตรวจสอบภายนอกให้การประเมินที่เป็นอิสระ) |
Cross check | /krɔːs tʃɛk/ | การสอบยันความถูกต้อง | A cross check is necessary to ensure accuracy. (การตรวจสอบยันความถูกต้องเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อให้แน่ใจถึงความถูกต้อง) |
Cross-reference | /krɔːs ˈrɛfərəns/ | อ้างอิงข้อมูลระหว่างกัน | Please cross-reference the documents for consistency. (กรุณาอ้างอิงเอกสารเพื่อความสอดคล้องกัน) |
Cash basis | /kæʃ ˈbeɪsɪs/ | เกณฑ์เงินสด | The cash basis of accounting records transactions when cash is exchanged. (เกณฑ์เงินสดจะบันทึกรายการเมื่อมีการแลกเปลี่ยนเงินสด) |
Accrual basis | /əˈkruːəl ˈbeɪsɪs/ | เกณฑ์คงค้าง | The accrual basis of accounting recognizes revenue when earned. (เกณฑ์คงค้างทางบัญชีจะรับรู้รายได้เมื่อได้รับ) |
Basis of accounting | /ˈbeɪsɪs əv əˈkaʊntɪŋ/ | เกณฑ์ทางการบัญชี | The basis of accounting affects financial reporting. (เกณฑ์ของการบัญชีส่งผลต่อการรายงานทางการเงิน) |
Accounting error adjustment | /əˈkaʊntɪŋ ˈɛrər əˈdʒʌstmənt/ | แก้ไขข้อผิดพลาดรายการบัญชี | An accounting error adjustment was made to correct the records. (มีการแก้ไขข้อผิดพลาดทางบัญชีเพื่อแก้ไขบันทึก) |
Gains | /ɡeɪnz/ | ผลกําไร | The company reported significant gains this quarter. (บริษัทมีรายงานผลกำไรที่สำคัญในไตรมาสนี้) |
Profit | /ˈprɒfɪt/ | กําไร | The company generated a profit last year. (บริษัทมีกำไรเมื่อปีที่แล้ว) |
Realized gain (loss) | /ˈriːəlaɪzd ɡeɪn (lɔs)/ | กําไร (ขาดทุน) ที่เกิดขึ้นแล้ว | The realized gain from the sale of the asset was significant. (กำไรที่เกิดขึ้นจากการขายสินทรัพย์นั้นมีนัยสำคัญ) |
Unrealized gain (loss) | /ˌʌnriːəlaɪzd ɡeɪn (lɔs)/ | กําไร (ขาดทุน) ที่ไม่เกิดขึ้น | The unrealized loss on investments is reflected in the statement. (กําไรจากการลงทุนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริงแสดงอยู่ในงบ) |
Gross earnings, gross income | /ɡroʊs ˈɜrnɪŋz, ɡroʊs ˈɪnkʌm/ | กําไรขั้นต้น | Gross earnings increased due to higher sales. (กำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นเนื่องจากยอดขายที่เพิ่มขึ้น) |
Gross profit | /ɡroʊs ˈprɒfɪt/ | อัตรากำไรขั้นต้น | The gross profit margin improved this quarter. (อัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวดีขึ้นในไตรมาสนี้) |
Earnings per share | /ˈɜrnɪŋz pər ʃɛr/ | กำไรต่อหุ้น | Earnings per share have increased over the last year. (กำไรต่อหุ้นเพิ่มขึ้นในช่วงปีที่ผ่านมา) |
Primary earnings per share | /ˈpraɪməri ˈɜrnɪŋz pər ʃɛr/ | กำไรต่อหุ้นขั้นพื้นฐาน | The primary earnings per share for the company is reported at $2. (กำไรต่อหุ้นขั้นพื้นฐานของบริษัทมีรายงานอยู่ที่ 2 ดอลลาร์) |
Contribution margin | /kənˈtrɪbjuːʃən ˈmɑːrdʒɪn/ | กำไรผันแปร | The contribution margin indicates how much revenue is available to cover fixed costs. (กำไรผันแปรแสดงให้เห็นว่ามีรายได้เท่าใดที่สามารถครอบคลุมต้นทุนคงที่ได้) |
Capital gain | /ˈkæpɪtəl ɡeɪn/ | กำไรส่วนทุน | The sale resulted in a capital gain for the investor. (การขายดังกล่าวส่งผลให้ผู้ลงทุนได้รับกำไรส่วนทุน) |
Accumulated income | /əˈkjuːmjʊleɪtɪd ˈɪnkʌm/ | กำไรสะสม | Accumulated income is reinvested back into the business. (กําไรสะสมจะถูกนำกลับไปลงทุนใหม่ในธุรกิจ) |
Earned surplus | /ɜːrnd ˈsɜrpləs/ | กำไรสะสม | The earned surplus can be distributed as dividends. (กําไรสะสมที่ได้รับสามารถนำไปแจกจ่ายเป็นเงินปันผลได้) |
Retained earnings | /rɪˈteɪnd ˈɜrnɪŋz/ | กำไรสะสม | Retained earnings are used for reinvestment in the business. (กำไรสะสมจะถูกนำไปใช้ เพื่อการลงทุนซ้ำในธุรกิจ) |
Appropriated retained earnings | /əˌproʊpriˈeɪtɪd rɪˈteɪnd ˈɜrnɪŋz/ | กำไรสะสมจัดสรร | Appropriated retained earnings are earmarked for specific projects. (กำไรสะสมจัดสรรถูกจัดสรรไว้สำหรับโครงการเฉพาะ) |
Unappropriated retained earnings | /ˌʌnəˌproʊpriˈeɪtɪd rɪˈteɪnd ˈɜrnɪŋz/ | กำไรสะสมที่ยังไม่ได้จัดสรร | Unappropriated retained earnings can be distributed as dividends. (กำไรสะสมที่ยังไม่ได้จัดสรรสามารถจ่ายเป็นเงินปันผลได้) |
Earnings | /ˈɜrnɪŋz/ | รายได้ | The company’s earnings exceeded expectations this quarter. (รายได้ของบริษัทเกินความคาดหมายในไตรมาสนี้) |
Net profit | /nɛt ˈprɒfɪt/ | กำไรสุทธิ | The net profit for the year was reported at $500,000. (กำไรสุทธิสำหรับปีนี้รายงานอยู่ที่ 500,000 ดอลลาร์) |
Earnings before interest after tax (EBIAT) | /ˈɜrnɪŋz bɪˈfɔːr ˈɪntrəst ˈɑːftər tæks/ | กำไรสุทธิก่อนดอกเบี้ยและหลังภาษี | EBIAT is a useful measure of operational performance. (EBIAT เป็นการวัดผลการดำเนินงานที่มีประโยชน์) |
Earnings before interest and taxes (EBIT) | /ˈɜrnɪŋz bɪˈfɔːr ˈɪntrəst ənd ˈtæks/ | กำไรสุทธิต่อหุ้น | EBIT provides insight into a company’s profitability. (EBIT ให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับความสามารถในการทำกำไรของบริษัท) |
Financing activities | /ˈfaɪnænsɪŋ ækˈtɪvɪtiz/ | กิจกรรมจัดหาเงิน | Financing activities include issuing debt or equity. (กิจกรรมจัดหาเงินรวมถึงการออกตราสารหนี้หรือตราสารทุน) |
Investing activities | /ɪnˈvɛstɪŋ ækˈtɪvɪtiz/ | กิจกรรมการลงทุน | Investing activities involve purchasing assets. (กิจกรรมการลงทุนเกี่ยวข้องกับการซื้อสินทรัพย์) |
Operating activities | /ˈɒpəreɪtɪŋ ækˈtɪvɪtiz/ | กิจกรรมการดําเนินงาน | Operating activities are the primary source of revenue. (กิจกรรมการดำเนินงานเป็นแหล่งรายได้หลัก) |
Safety stock | /ˈseɪfti stɒk/ | สินค้าคงคลังขั้นต่ำ | Safety stock is maintained to prevent stockouts. (การดูแลสินค้าคงคลังขั้นต่ำเพื่อความปลอดภัยเพื่อป้องกันการขาดแคลนสินค้าคงคลัง) |
Feedback value | /ˈfiːdˌbæk ˈvæljuː/ | ผลสะท้อนกลับ | The feedback value of the survey was positive. (ผลสะท้อนกลับรับจากการสำรวจเป็นไปในเชิงบวก) |
Accounting information | /əˈkaʊntɪŋ ˌɪnfərˈmeɪʃən/ | ข้อมูลการบัญชี | Accurate accounting information is crucial for decision making. (ข้อมูลทางการบัญชีที่ถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการตัดสินใจ) |
Accounting assumption | /əˈkaʊntɪŋ əˈsʌmpʃən/ | ข้อสมมุติมูลฐานทางการบัญชี | The accounting assumption is based on the going concern principle. (ข้อสมมติมูลฐานทางการบัญชีเป็นไปตามหลักการดำเนินงานต่อเนื่อง) |
Basic assumption of accounting | /ˈbeɪsɪk əˈsʌmpʃən əv əˈkaʊntɪŋ/ | ข้อสมมุติมูลฐานทางการบัญชี | The basic assumption of accounting is that the business will continue operating. (ข้อสมมุติมูลฐานทางการบัญชีคือธุรกิจจะดำเนินธุรกิจต่อไป) |
Loss | /lɔs/ | การขาดทุน | The business reported a loss for the third quarter. (ธุรกิจรายงานผลการขาดทุนสำหรับไตรมาสที่สาม) |
Gross loss | /ɡroʊs lɔs/ | ขาดทุนขั้นต้น | Gross loss is calculated before accounting for expenses. (ขาดทุนขั้นต้นจะคำนวณก่อนการบัญชีค่าใช้จ่าย) |
Loss per share | /lɔs pər ʃɛr/ | ขาดทุนต่อหุ้น | The loss per share was reported at $1,50. (รายงานขาดทุนต่อหุ้นอยู่ที่ 1,50 ดอลลาร์) |
Deficit | /ˈdɛfɪsɪt/ | การขาดดุล | The budget deficit needs to be addressed. (การขาดดุลงบประมาณจะต้องได้รับการแก้ไข) |
Net loss | /nɛt lɔs/ | ขาดทุนสุทธิ | The company reported a net loss for the fiscal year. (บริษัทรายงานผลขาดทุนสุทธิสำหรับปีบัญชี) |
Net sales | /nɛt seɪlz/ | ขายสุทธิ | Net sales increased due to higher demand. (ยอดขายสุทธิเพิ่มขึ้นเนื่องจากความต้องการที่สูงขึ้น) |
Takeover | /ˈteɪkoʊvər/ | การเข้าครอบครองกิจการ | The takeover of the company was completed last week. (การเข้าครอบครองกิจการบริษัทเสร็จสิ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว) |
Reliability | /rɪˈlaɪəˌbɪlɪti/ | ความน่าเชื่อถือ | Reliability of the financial statements is crucial for investors. (ความน่าเชื่อถือของงบการเงินเป็นสิ่งสำคัญสำหรับนักลงทุน) |
Audit risk | /ˈɔːdɪt rɪsk/ | ความเสี่ยงในการสอบบัญชี | Identifying audit risk is an important part of the audit process. (การระบุความเสี่ยงในการสอบเป็นส่วนสำคัญของกระบวนการตรวจสอบ) |
Auditor’s opinion | /ˈɔːdɪtərz əˈpɪnjən/ | ความเห็นของผู้สอบบัญชี | The auditor’s opinion is critical for stakeholder confidence. (ความเห็นของผู้สอบบัญชีมีไว้เพื่อความมั่นใจของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่สำคัญ) |
Rent | /rɛnt/ | ค่าเช่า | The monthly rent for the office space is due. (ค่าเช่ารายเดือนของพื้นที่สำนักงานถึงกำหนดชำระ) |
Allowance | /əˈlaʊəns/ | เบี้ยเลี้ยง | An allowance for bad debts was established. (มีการตั้งสำรองหนี้สูญ) |
Allowance for doubtful accounts | /əˈlaʊəns fɔːr ˈdaʊtfl ˈəˌkaʊnts/ | ค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ | The allowance for doubtful accounts is important for accurate financial statements. (การตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการจัดทำงบการเงินที่ถูกต้อง) |
Allowance for bad debts | /əˈlaʊəns fɔːr bæd dɛbz/ | ค่าเผื่อหนี้สูญ | The company set an allowance for bad debts to reflect potential losses. (บริษัทตั้งค่าเผื่อหนี้สูญเพื่อสะท้อนการสูญเสียที่อาจเกิดขึ้น) |
Depreciation | /dɪˌpriːʃiˈeɪʃən/ | ค่าเสื่อมราคา | Depreciation reduces the value of assets over time. (ค่าเสื่อมราคาจะทำให้มูลค่าของสินทรัพย์ลดลงตามกาลเวลา) |
Accumulated depreciation | /əˈkjuːmjʊleɪtɪd dɪˌpriːʃiˈeɪʃən/ | ค่าเสื่อมราคาสะสม | Accumulated depreciation is recorded on the balance sheet. (ค่าเสื่อมราคาสะสมบันทึกในงบดุล) |
Wage | /weɪdʒ/ | ค่าจ้าง | The wage for this position is competitive. (ค่าจ้างสำหรับตำแหน่งนี้มีการแข่งขันกัน) |
Direct labor | /dɪˈrɛkt ˈleɪbər/ | แรงงานทางตรง | Direct labor costs are included in the cost of goods sold. (ต้นทุนแรงงานทางตรงรวมอยู่ในต้นทุนสินค้าที่ขาย) |
Indirect labor | /ɪnˈdaɪrɛkt ˈleɪbər/ | แรงงานทางอ้อม | Indirect labor costs are overhead expenses. (ต้นทุนแรงงานทางอ้อมคือค่าใช้จ่ายทางอ้อม) |
Audit around the computer | /ˈɔːdɪt əˈraʊnd ðə kəmˈpjuːtər/ | การตรวจสอบรอบนอกระบบ | Audit around the computer is useful for physical checks. (การตรวจสอบรอบนอกระบบนั้นมีประโยชน์สำหรับการตรวจสอบทางกายภาพ) |
Financial audit | /faɪˈnænʃəl ˈɔːdɪt/ | การตรวจสอบทางการเงิน | A financial audit reviews the accuracy of financial statements. (การตรวจสอบทางการเงินจะตรวจสอบความถูกต้องของงบการเงิน) |
Physical check | /ˈfɪzɪkəl ʧɛk/ | การทดสอบทางกายภาพ | A physical check of inventory is conducted annually. (มีการตรวจสอบทางกายภาพของสินค้าคงคลังเป็นประจำทุกปี) |
Administrative audit | /ədˈmɪnɪstrətɪv ˈɔːdɪt/ | การตรวจสอบด้านบริหาร | An administrative audit evaluates the efficiency of administrative processes. (การตรวจสอบด้านบริหารเป็นการประเมินประสิทธิภาพของกระบวนการทางการบริหาร) |
Audit | /ˈɔːdɪt/ | การตรวจสอบบัญชี | The audit revealed several discrepancies in the financial records. (การตรวจสอบบัญชีพบความไม่ตรงกันหลายประการในบันทึกทางการเงิน) |
Auditing | /ˈɔːdɪtɪŋ/ | การตรวจสอบบัญชี | Auditing is essential for maintaining financial integrity. (การตรวจสอบบัญชีเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการรักษาความสมบูรณ์ทางการเงิน) |
Annual audit | /ˈænjuəl ˈɔːdɪt/ | การตรวจสอบบัญชีประจําปี | The annual audit will take place next month. (การตรวจสอบบัญชีประจำปีจะเกิดขึ้นในเดือนหน้า) |
Internal audit | /ɪnˈtɜrnəl ˈɔːdɪt/ | การตรวจสอบบัญชีภายใน | An internal audit helps identify inefficiencies within the organization. (การตรวจสอบบัญชีภายในช่วยระบุจุดไม่มีประสิทธิภาพภายในองค์กร) |
Group depreciation method | /ɡruːp dɪˌpriːʃiˈeɪʃən ˈmɛθəd/ | วิธีการคิดค่าเสื่อมราคาโดยวิธีรวมกลุ่ม | The group depreciation method simplifies accounting for similar assets. (วิธีการคิดค่าเสื่อมราคาโดยวิธีรวมกลุ่มทำให้การบัญชีสำหรับสินทรัพย์ที่มีลักษณะคล้ายกันง่ายขึ้น) |
Composite depreciation method | /kəmˈpɒzɪt dɪˌpriːʃiˈeɪʃən ˈmɛθəd/ | การคิดค่าเสื่อมราคาโดยวิธีส่วนร่วม | The composite depreciation method is applicable to assets with varying useful lives. (วิธีการคิดค่าเสื่อมราคาโดยวิธีส่วนร่วมสามารถนำไปใช้ได้กับสินทรัพย์ที่มีอายุการใช้งานแตกต่างกัน) |
Accelerated depreciation | /əkˈsɛləreɪtɪd dɪˌpriːʃiˈeɪʃən/ | ค่าเสื่อมราคาเร่งด่วน | Accelerated depreciation allows for greater deductions in early years. (การคิดค่าเสื่อมราคาเร่งด่วนช่วยให้สามารถหักค่าเสื่อมราคาได้มากขึ้นในช่วงปีแรก ๆ) |
Appropriation of net income | /əˌproʊpriˈeɪʃən əv nɛt ˈɪnkʌm/ | การจัดสรรรายได้สุทธิ | The appropriation of net income was approved by the board. (คณะกรรมการได้อนุมัติการจัดสรรรายได้สุทธิแล้ว) |
Accounts receivable financing | /əˈkaʊnts rɪˈsivəbl ˈfaɪnænʃɪŋ/ | การจัดหาเงินโดยบัญชีลูกหนี้การค้า | Accounts receivable financing can improve cash flow. (การจัดหาเงินโดยบัญชีลูกหนี้การค้าสามารถปรับปรุงกระแสเงินสดได้) |
Matching | /ˈmætʃɪŋ/ | การจับคู่ | Matching revenues and expenses is important for accurate financial reporting. (การจับคู่รายรับและรายจ่ายให้ตรงกันถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการรายงานทางการเงินที่ถูกต้อง |
Pledging of accounts receivable | /ˈplɛdʒɪŋ əv əˈkaʊnts rɪˈsivəbl/ | การจำนำบัญชีลูกหนี้ | Pledging of accounts receivable can secure loans. (การจำนำบัญชีลูกหนี้สามารถเป็นหลักประกันการกู้ยืมได้) |
Factoring | /ˈfæktərɪŋ/ | การขายฝาก | Factoring can provide immediate cash flow. (การขายฝากเงินสามารถให้กระแสเงินสดได้ทันที) |
Analytical review | /ˌænəˈlɪtɪkəl rɪˈvjuː/ | การตรวจสอบโดยการวิเคราะห์ | An analytical review helps identify trends in financial data. (การตรวจสอบโดยการวิเคราะห์ช่วยระบุแนวโน้มในข้อมูลทางการเงิน) |
Vouching | /ˈvaʊtʃɪŋ/ | การตรวจสอบใบสําคัญ | Vouching is necessary for verifying the accuracy of accounts. (การตรวจสอบใบสําคัญเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการตรวจยืนยันความถูกต้องของบัญชี) |
Pre audit | /priː ˈɔːdɪt/ | การตรวจสอบก่อนการปฏิบัติการ | A pre-audit helps identify potential issues before the main audit. (การตรวจสอบก่อนการปฏิบัติการช่วยระบุปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ก่อนการตรวจสอบหลัก) |
Management audit | /ˈmænɪdʒmənt ˈɔːdɪt/ | การตรวจสอบการบริหาร | A management audit assesses the effectiveness of management processes. (การตรวจสอบการบริหารเป็นการประเมินประสิทธิผลของกระบวนการจัดการ) |
Operational audit | /ˌɒpəˈreɪʃənl ˈɔːdɪt/ | การตรวจสอบการดำเนินงาน | An operational audit focuses on efficiency and effectiveness. (การตรวจสอบการดำเนินงานมุ่งเน้นไปที่ประสิทธิภาพและประสิทธิผล) |
Performance audit | /pərˈfɔːrməns ˈɔːdɪt/ | การตรวจสอบผลการดำเนินงาน | The performance audit evaluated the use of resources. (การตรวจสอบผลการดําเนินงานจะประเมินการใช้ทรัพยากร) |
Compliance audit | /kəmˈplaɪəns ˈɔːdɪt/ | การตรวจสอบการปฏิบัติตามกฎหมาย | A compliance audit ensures adherence to laws and regulations. (การตรวจสอบการปฏิบัติตามกฎหมายช่วยให้มั่นใจได้ว่าเป็นไปตามกฎหมายและข้อบังคับ) |
Audit through the computer | /ˈɔːdɪt θruː ðə kəmˈpjuːtər/ | การตรวจสอบผ่านคอมพิวเตอร์ | Audit through the computer can increase efficiency. (การตรวจสอบผ่านคอมพิวเตอร์สามารถเพิ่มประสิทธิภาพได้) |
Bond fund | /bɔːnd fʌnd/ | กองทุนพันธบัตร | The bond fund offers a stable return on investment. (กองทุนพันธบัตรให้ผลตอบแทนการลงทุนที่มั่นคง) |
Provident fund | /ˈprɒvɪdənt fʌnd/ | กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ | Many employees benefit from a provident fund. (พนักงานจำนวนมากได้รับประโยชน์จากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ) |
Gross | /ɡroʊs/ | รายได้รวม | The company’s gross revenue increased significantly. (รายได้รวมของบริษัทเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ) |
Leasing | /ˈliːsɪŋ/ | การเช่า | Leasing equipment can be more cost-effective than buying. (การเช่าอุปกรณ์อาจคุ้มต้นทุนมากกว่าการซื้อ) |
Accounting change | /əˈkaʊntɪŋ ʧeɪndʒ/ | การเปลี่ยนแปลงทางบัญชี | The accounting change affected the financial statements. (การเปลี่ยนแปลงทางบัญชีส่งผลกระทบต่องบการเงิน) |
Disclosure | /dɪsˈkloʊʒər/ | การเปิดเผยข้อมูล | The company made a disclosure about its financial status. (บริษัทได้เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับสถานะทางการเงินของตน) |
Private offering | /ˈpraɪvɪt ˈɔːfərɪŋ/ | การเสนอขายหุ้นแบบส่วนตัว | A private offering is available to select investors. (มีการเสนอขายหุ้นแบบส่วนตัวให้กับผู้ลงทุนที่ได้รับเลือก) |
Public offering | /ˈpʌblɪk ˈɔːfərɪŋ/ | การเสนอขายหุ้นแก่ประชาชน | The company conducted a public offering to raise capital. (บริษัทดำเนินการเสนอขายหุ้นต่อประชาชนเพื่อระดมทุน) |
Conversion | /kənˈvɜːrʒən/ | การแปลงสภาพ | The conversion of debt into equity is a common practice. (การแปลงสภาพเป็นทุนถือเป็นแนวทางปฏิบัติทั่วไป) |
Stock split | /stɑːk splɪt/ | การแบ่งหุ้น | The company announced a stock split to increase liquidity. (บริษัทประกาศการแบ่งหุ้นเพื่อเพิ่มสภาพคล่อง) |
Barter | /ˈbɑːrtər/ | แลกเปลี่ยนสินค้า | They decided to barter services instead of using cash. (พวกเขาตัดสินใจแลกเปลี่ยนบริการแทนการใช้เงินสด) |
Exchange cheque | /ɪksˈtʃeɪndʒ tʃɛk/ | การแลกเปลี่ยนเช็ค | We need to exchange this cheque at the bank. (เราจะต้องนำเช็คนี้ไปแลกที่ธนาคาร) |
Currency swap | /ˈkɜːrənsi swɑːp/ | การแลกเปลี่ยนภาระผูกพันสกุลเงิน | A currency swap can help manage exchange rate risks. (การแลกเปลี่ยนภาระผูกพันสกุลเงินสามารถช่วยจัดการความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนได้) |
Single currency interest rate swap | /ˈsɪŋɡl ˈkɜːrənsi ˈɪntərɛst reɪt swɑːp/ | การแลกเปลี่ยนอัตราดอกเบี้ยของสกุลเงินเดียวกัน | The bank offered a single currency interest rate swap deal. (ธนาคารเสนอข้อตกลงการแลกเปลี่ยนอัตราดอกเบี้ยของสกุลเงินเดียวกัน) |
Cross currency interest rate swap | /krɔːs ˈkɜːrənsi ˈɪntərɛst reɪt swɑːp/ | การแลกเปลี่ยนอัตราดอกเบี้ยต่างสกุลเงิน | Companies often use cross currency interest rate swaps to hedge risks. (บริษัทต่าง ๆ มักใช้การแลกเปลี่ยนอัตราดอกเบี้ยต่างสกุลเงินเพื่อป้องกันความเสี่ยง) |
Basis swap | /ˈbeɪsɪs swɑːp/ | การแลกเปลี่ยนอัตราดอกเบี้ยอ้างอิง | A basis swap can be beneficial in managing interest rate exposure. (การแลกเปลี่ยนอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงสามารถเป็นประโยชน์ในการบริหารความเสี่ยงจากอัตราดอกเบี้ย) |
Assignment | /əˈsaɪnmənt/ | การมอบหมาย | The assignment of rights was completed yesterday. (การโอนสิทธิ์ได้เสร็จสิ้นเมื่อวานนี้) |
Assigned accounts receivable | /əˈsaɪnd əkˈkaʊnts rɪˈsivəbl/ | การใช้บัญชีลูกหนี้เป็นหลักประกัน | The bank accepted the assigned accounts receivable as collateral. (ธนาคารรับบัญชีลูกหนี้เป็นหลักที่ได้รับมอบหมายเป็นหลักประกัน) |
Accounting valuation | /əˈkaʊntɪŋ ˌvæljuˈeɪʃən/ | การกำหนดมูลค่าทางการบัญชี | The accounting valuation of the assets was performed annually. (การกําหนดมูลค่าทางบัญชีของสินทรัพย์ได้ดำเนินการเป็นประจำทุกปี) |
Installment sale | /ɪnˈstɔːlmənt seɪl/ | การขายแบบผ่อนชำระ | An installment sale allows customers to pay over time. (การขายแบบผ่อนชำระจะช่วยให้ลูกค้าสามารถชำระเงินเป็นงวดๆ ได้) |
Business combination | /ˈbɪznəs ˌkɒmbɪˈneɪʃən/ | การรวมธุรกิจ | The business combination was approved by the regulators. (การรวมธุรกิจได้รับการอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแลแล้ว) |
Budgetary control | /ˈbʌdʒɪtəri kənˈtroʊl/ | การควบคุมงบประมาณ | Budgetary control is essential for effective management. (การควบคุมงบประมาณเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ) |
Production control | /prəˈdʌkʃən kənˈtroʊl/ | การวางแผนและควบคุมการผลิต | Production control helps ensure quality and efficiency. (การวางแผนและควบคุมการผลิตช่วยให้มั่นใจถึงคุณภาพและประสิทธิภาพ) |
Accounting control | /əˈkaʊntɪŋ kənˈtroʊl/ | การควบคุมทางบัญชี | Effective accounting control minimizes errors. (การควบคุมทางบัญชีที่มีประสิทธิภาพจะลดข้อผิดพลาดให้เหลือน้อยที่สุด) |
Internal control | /ɪnˈtɜːrnəl kənˈtroʊl/ | การควบคุมภายใน | Internal control is crucial for preventing fraud. (การควบคุมภายในเป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันการฉ้อโกง) |
Inventory control | /ˈɪnvənˌtɔːri kənˈtroʊl/ | การควบคุมสินค้าคงเหลือ | Inventory control helps reduce costs and improve efficiency. (การควบคุมสินค้าคงเหลือช่วยลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพ) |
Compound interest depreciation method | /ˈkɒmpaʊnd ˈɪntrəst dɪˌpriːʃiˈeɪʃən ˈmɛθəd/ | การคิดค่าเสื่อมราคาโดยวิธีดอกเบี้ยทบต้น | The compound interest depreciation method is useful for long-term assets. (วิธีการคิดค่าเสื่อมราคาโดยวิธีดอกเบี้ยทบต้นมีประโยชน์สำหรับสินทรัพย์ระยะยาว) |
Cash flow | /kæʃ floʊ/ | กระแสเงินสด | Our cash flow has improved this quarter. (กระแสเงินสดของเราปรับปรุงให้ดีขึ้นในไตรมาสนี้) |
Cash inflow | /kæʃ ˈɪnfləʊ/ | กระแสเงินสดเข้า | Cash inflows from sales increased last month. (กระแสเงินสดเข้าจากการขายเพิ่มขึ้นในเดือนที่แล้ว) |
Cash outflow | /kæʃ ˈaʊtfloʊ/ | กระแสเงินสดออก | We need to monitor our cash outflows carefully. (เราจำเป็นต้องติดตามการไหลออกของเงินสดของเราอย่างระมัดระวัง) |
Audit working papers | /ˈɔːdɪt ˈwɜːrkɪŋ ˈpeɪpərz/ | กระดาษทำการการตรวจสอบบัญชี | The auditor reviewed the audit working papers thoroughly. (ผู้ตรวจสอบได้ตรวจสอบกระดาษทำการการตรวจสอบบัญชีอย่างละเอียดถี่ถ้วน) |
Security portfolio | /sɪˈkjʊərəti ˈpɔːrtfoʊlioʊ/ | กลุ่มหลักทรัพย์ | Diversifying your security portfolio is essential. (การเพิ่มความหลากหลายในกลุ่มหลักทรัพย์ของคุณถือเป็นสิ่งจำเป็น) |
Fund | /fʌnd/ | กองทุน | She created a fund to support local charities. (เธอก่อตั้งกองทุนเพื่อสนับสนุนองค์กรการกุศลในท้องถิ่น) |
Sinking fund | /ˈsɪŋkɪŋ fʌnd/ | เงินกองทุนคอนโด | A sinking fund is set up for long-term debt repayment. (เงินกองทุนคอนโดจะถูกจัดตั้งขึ้นเพื่อชำระหนี้ระยะยาว) |
Pension fund | /ˈpɛnʃən fʌnd/ | กองทุนบําเหน็จ | Employees contribute to the pension fund for their retirement. (พนักงานจะนำเงินสมทบเข้ากองทุนบำเหน็จเพื่อใช้ในการเกษียณอายุ) |
Factory overhead | /ˈfæktəri ˈoʊvərhɛd/ | ค่าใช้จ่ายโรงงาน | Factory overhead includes utilities and maintenance costs. (ค่าใช้จ่ายทางโรงงานรวมค่าสาธารณูปโภคและค่าบำรุงรักษา) |
Manufacturing expense | /ˌmænʌfækˈtʃʊrɪŋ ɪkˈspɛns/ | ต้นทุนการผลิต | Manufacturing expenses must be tracked carefully. (ต้นทุนการผลิตจะต้องมีการติดตามอย่างระมัดระวัง) |
Selling expense | /ˈsɛlɪŋ ɪkˈspɛns/ | ค่าใช้จ่ายในการขาย | Selling expenses include advertising and promotions. (ค่าใช้จ่ายในการขายรวมถึงการโฆษณาและการส่งเสริมการขาย) |
Distribution expense | /ˌdɪstrɪˈbjuːʃən ɪkˈspɛns/ | ค่าใช้จ่ายในการจัดจำหน่าย | Distribution expenses are necessary for delivering products. (ค่าใช้จ่ายในการจัดจำหน่ายเป็นสิ่งจำเป็นในการส่งมอบผลิตภัณฑ์) |
Operating expense | /ˈɒpəreɪtɪŋ ɪkˈspɛns/ | ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน | Operating expenses must be controlled to maintain profitability. (ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานจะต้องได้รับการควบคุมเพื่อรักษาความสามารถในการทำกำไร) |
Administrative expense | /ədˈmɪnɪstrətɪv ɪkˈspɛns/ | ค่าใช้จ่ายในการบริหาร | Administrative expenses include salaries and office supplies. (ค่าใช้จ่ายในการบริหารได้แก่ เงินเดือนและอุปกรณ์สำนักงาน) |
Manufacturing overhead | /ˈmænʌfækʧərɪŋ ˈoʊvərhɛd/ | ค่าใช้จ่ายในโรงงาน | Manufacturing overhead is allocated to products based on usage. (ค่าใช้จ่ายในโรงงานจะถูกจัดสรรให้กับผลิตภัณฑ์ตามการใช้งาน) |
Absorbed overhead | /əbˈzɔːrbd ˈoʊvərhɛd/ | ค่าใช้จ่ายในการผลิตคิดเข้างาน | Absorbed overhead is included in the cost of goods sold. (ค่าใช้จ่ายในการผลิตคิดเข้างานจะรวมอยู่ในต้นทุนสินค้าที่ขาย) |
Fixed expense | /fɪkst ɪkˈspɛns/ | ค่าใช้จ่ายคงที่ | Fixed expenses remain constant regardless of sales volume. (ค่าใช้จ่ายคงที่ยังคงเท่าเดิมไม่ว่าปริมาณการขายจะเป็นเท่าใดก็ตาม) |
Accrued expense | /əˈkruːd ɪkˈspɛns/ | ค่าใช้จ่ายค้างจ่าย | Accrued expenses are recorded at the end of the accounting period. (ค่าใช้ค้างจ่ายจะถูกบันทึกเมื่อสิ้นสุดรอบระยะเวลาบัญชี) |
Financial expenses | /faɪˈnænʃəl ɪkˈspɛnsɪz/ | ค่าใช้จ่ายทางการเงิน | Financial expenses include interest payments and fees. (ค่าใช้จ่ายทางการเงินได้แก่ การจ่ายดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียม) |
Direct overhead | /dɪˈrɛkt ˈoʊvərhɛd/ | ค่าใช้จ่ายทางตรง | Direct overhead costs are directly tied to production activities. (ค่าใช้จ่ายทางตรงเชื่อมโยงโดยตรงกับกิจกรรมการผลิต) |
Indirect expense | /ˈɪndɪrɛkt ɪkˈspɛns/ | ค่าใช้จ่ายทางอ้อม | Indirect expenses are not directly linked to production. (ค่าใช้จ่ายทางอ้อมไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกันโดยตรงกับการผลิต) |
Contingent charge | /kənˈtɪndʒənt ʧɑrdʒ/ | ค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้น | A contingent charge may apply depending on the outcome of the event. (อาจมีการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นตามเงื่อนไขขึ้นอยู่กับผลลัพธ์ของเหตุการณ์) |
Deferred debit | /dɪˈfɜrdɪd ˈdɛbɪt/ | ค่าใช้จ่ายรอตัดบัญชี | Deferred debits are recorded for future expenses. (ค่าใช้จ่ายรอตัดบัญชีจะถูกบันทึกสำหรับค่าใช้จ่ายในอนาคต) |
Deferred expense | /dɪˈfɜrdɪd ɪkˈspɛns/ | ค่าใช้จ่ายรอดตัดบัญชี | Deferred expenses are spread over multiple periods. (ค่าใช้จ่ายรอดตัดบัญชีจะกระจายออกไปในหลายช่วงเวลา) |
Prepaid expense | /ˈpriːpeɪd ɪkˈspɛns/ | ค่าใช้จ่ายล่วงหน้า | Prepaid expenses are recorded as assets until consumed. (ค่าใช้จ่ายล่วงหน้าจะถูกบันทึกเป็นสินทรัพย์จนกว่าจะใช้ไป) |
Transportation expense | /ˌtrænspərˈteɪʃən ɪkˈspɛns/ | ค่าขนส่ง | Transportation expenses are necessary for logistics. (ค่าขนส่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการจัดการด้านโลจิสติกส์) |
Hire | /haɪər/ | จ้าง | We plan to hire additional staff next quarter. (เรามีแผนจะจ้างพนักงานเพิ่มเติมในไตรมาสหน้า) |
Direct wages | /dɪˈrɛkt ˈweɪdʒɪz/ | ค่าจ้างทางตรง | Direct wages are paid to employees for their work. (ค่าจ้างทางตรงจะจ่ายให้กับพนักงานสำหรับงานของพวกเขา) |
Bank charge | /bæŋk tʃɑrdʒ/ | ค่าธรรมเนียมธนาคาร | A bank charge was applied for the transaction fees. (จะมีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมธนาคารสำหรับค่าธรรมเนียมธุรกรรม) |
Hire charge | /haɪər tʃɑrdʒ/ | ค่าเช่า | The hire charge for the equipment was reasonable. (ค่าเช่าอุปกรณ์อยู่ในเกณฑ์สมเหตุสมผล) |
Brokerage | /ˈbroʊkərɪdʒ/ | ค่านายหน้า | The brokerage fees can vary depending on the service provider. (ค่านายหน้าอาจแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการ) |
Commission | /kəˈmɪʃən/ | ค่าคอมมิชชั่น | Sales representatives earn a commission on their sales. (ตัวแทนฝ่ายขายได้รับค่าคอมมิชชั่นจากการขายของพวกเขา) |
Travelling expense | /ˈtrævəlɪŋ ɪkˈspɛns/ | ค่าโดยสาร | Travelling expenses must be submitted for reimbursement. (ค่าโดยสารจะต้องส่งมาขอรับเงินคืน) |
Freight | /freɪt/ | ค่าขนส่ง | The freight cost was included in the invoice. (ค่าขนส่งได้รวมอยู่ในใบแจ้งหนี้แล้ว) |
Freight in | /freɪt ɪn/ | ค่าระวางขาเข้า | Freight in charges are incurred when receiving goods. (ค่าระหว่างขาเข้าจะเกิดขึ้นเมื่อรับสินค้า) |
Freight out | /freɪt aʊt/ | ค่าระวางขาออก | Freight out is charged when shipping products to customers. (ค่าระหว่างขาออกจะถูกเรียกเก็บเมื่อส่งสินค้าให้กับลูกค้า) |
Royalty | /ˈrɔɪəlti/ | ค่าลิขสิทธิ์ | The author receives a royalty for each book sold. (ผู้เขียนจะได้รับค่าลิขสิทธิ์สำหรับหนังสือแต่ละเล่มที่ขาย) |
Net worth | /nɛt wɜrθ/ | มูลค่าสุทธิ | The net worth of the individual increased significantly last year. (มูลค่าสุทธิของแต่ละบุคคลเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเมื่อปีที่แล้ว) |
Credit | /ˈkrɛdɪt/ | เครดิต | The company received credit for its good payment history. (บริษัทได้รับเครดิตจากประวัติการชำระเงินที่ดี) |
Bank credit | /bæŋk ˈkrɛdɪt/ | เครดิตธนาคาร | Bank credit is essential for business operations. (เครดิตธนาคารมีความจำเป็นต่อการดำเนินธุรกิจ) |
Auditor’s certificate | /ˈɔːdɪtərz ˈsɜrtɪfɪkɪt/ | ใบรับรองของผู้สอบบัญชี | The auditor’s certificate confirms the accuracy of the financial statements. (ใบรับรองของผู้สอบบัญชียืนยันความถูกต้องของงบการเงิน) |
Purchases order | /ˈpɜrʧəsɪz ˈɔrdər/ | ใบสั่งซื้อ | A purchase order was issued for the new supplies. (มีการออกใบสั่งซื้อสำหรับอุปกรณ์ใหม่แล้ว.) |
Budget manual | /ˈbʌdʒɪt ˈmænjuəl/ | คู่มือการจัดทำงบประมาณ | The budget manual outlines the procedures for budget preparation. (คู่มือการจัดทํางบประมาณจะระบุขั้นตอนต่างๆ สำหรับการเตรียมงบประมาณ) |
Accounting manual | /əˈkaʊntɪŋ ˈmænjuəl/ | คู่มืองานบัญชี | The accounting manual provides guidelines for financial reporting. (คู่มืองานบัญชีเป็นแนวทางสำหรับการรายงานทางการเงิน) |
Statement | /ˈsteɪtmənt/ | งบ | The financial statement is prepared annually. (งบการเงินจัดทำขึ้นเป็นประจำทุกปี) |
Statement of sources and applications of funds | /ˈsteɪtmənt əv ˈsɔrsɪz ənd əˌplɪˈkeɪʃənz əv fʌndz/ | งบแสดงแหล่งที่มาและการใช้เงินทุน | The statement of sources and applications of funds provides a detailed overview of cash flows. (งบแสดงแหล่งที่มาและการใช้เงินทุนให้ภาพรวมโดยละเอียดของกระแสเงินสด) |
Statement of changes in financial position | /ˈsteɪtmənt əv ˈʧeɪndʒɪz ɪn faɪˈnænʃəl pəˈzɪʃən/ | งบแสดงการเปลี่ยนแปลงฐานะการเงิน | The statement of changes in financial position highlights significant transactions. (งบแสดงการเปลี่ยนแปลงฐานะการเงินเน้นย้ำถึงธุรกรรมที่สำคัญ) |
Statement of financial position | /ˈsteɪtmənt əv faɪˈnænʃəl pəˈzɪʃən/ | งบแสดงฐานะการเงิน | The statement of financial position summarizes assets, liabilities, and equity. (งบแสดงฐานะการเงินสรุปสินทรัพย์ หนี้สิน และส่วนของผู้ถือหุ้น) |
Funds flow statement | /fʌndz floʊ ˈsteɪtmənt/ | งบกระแสเงินทุน | The funds flow statement helps track cash movements. (งบกระแสเงินทุนช่วยติดตามการเคลื่อนไหวของเงินสด) |
Bank reconciliation | /bæŋk ˌrɛkənˌsɪlɪˈeɪʃən/ | งบกระทบยอดเงินฝากธนาคาร | Bank reconciliation is performed to ensure accuracy of financial records. (งบกระทบยอดเงินฝากธนาคารจะดำเนินการเพื่อให้แน่ใจว่าบันทึกทางการเงินมีความถูกต้อง) |
Financial statement | /faɪˈnænʃəl ˈsteɪtmənt/ | งบการเงิน | The financial statement provides a comprehensive overview of the company’s performance. (งบการเงินให้ภาพรวมที่ครอบคลุมเกี่ยวกับผลการดำเนินงานของบริษัท) |
Comparative financial statement | /kəmˈpærətɪv faɪˈnænʃəl ˈsteɪtmənt/ | งบการเงินเปรียบเทียบ | The comparative financial statement allows for year-over-year analysis. (งบการเงินเปรียบเทียบช่วยให้สามารถวิเคราะห์แบบปีต่อปีได้) |
Annual financial statement | /ˈænjuəl faɪˈnænʃəl ˈsteɪtmənt/ | งบการเงินประจำปี | The annual financial statement is audited for accuracy. (งบการเงินประจำปีจะได้รับการตรวจสอบความถูกต้อง) |
Combined financial statement | /kəmˈbaɪnd faɪˈnænʃəl ˈsteɪtmənt/ | งบการเงินรวม | The combined financial statement presents results for multiple entities. (งบการเงินรวมนำเสนอผลการดำเนินงานสำหรับหลาย ๆ หน่วยงาน) |
Consolidated financial statement | /kənˈsɒlɪdeɪtɪd faɪˈnænʃəl ˈsteɪtmənt/ | งบการเงินรวม | The consolidated financial statement combines results from subsidiaries. (งบการเงินรวมนำเสนอผลการดำเนินงานสำหรับหลาย ๆ หน่วยงาน) |
Interim financial statement | /ˈɪntərɪm faɪˈnænʃəl ˈsteɪtmənt/ | งบการเงินระหว่างเวลา | The interim financial statement provides updates between annual reports. (งบการเงินระหว่างเวลาจะให้ข้อมูลอัปเดตระหว่างรายงานประจำปี) |
Condensed financial statement | /kənˈdɛnst faɪˈnænʃəl ˈsteɪtmənt/ | งบการเงินอย่างย่อ | The condensed financial statement offers a simplified view of finances. (งบการเงินอย่างย่อให้มุมมองทางการเงินที่เรียบง่าย) |
Earnings statement | /ˈɜrnɪŋz ˈsteɪtmənt/ | งบกำไรขาดทุน | The earnings statement shows revenues and expenses over a specific period. (งบกำไรขาดทุนแสดงรายรับและรายจ่ายในช่วงเวลาที่ระบุ) |
Profit and loss statement | /ˈprɒfɪt ənd lɔs ˈsteɪtmənt/ | งบกำไรขาดทุน | The profit and loss statement summarizes financial performance. (งบกำไรขาดทุนสรุปผลการดำเนินงานทางการเงิน) |
Single-step income statement | /ˈsɪŋɡəl stɛp ˈɪnkʌm ˈsteɪtmənt/ | งบกำไรขาดทุนแบบขั้นเดียว | The single-step income statement is straightforward and easy to understand. (งบกำไรขาดทุนแบบขั้นตอนเดียวนั้นตรงไปตรงมาและเข้าใจง่าย) |
Multiple-step income statement | /ˈmʌltəpl stɛp ˈɪnkʌm ˈsteɪtmənt/ | งบกำไรขาดทุนแบบหลายชั้น | The multiple-step income statement provides detailed insights into revenues and expenses. (งบกำไรขาดทุนหลายขั้นตอนให้ข้อมูลเชิงลึกโดยละเอียดเกี่ยวกับรายรับและรายจ่าย) |
Current operating performance | /ˈkɜrənt ˈɒpəreɪtɪŋ pərˈfɔːrməns/ | งบกำไรขาดทุน | Current operating performance is analyzed to assess profitability. (วิเคราะห์งบกําไรเพื่อประเมินความสามารถในการทำกำไร) |
Retained earnings statement | /rɪˈteɪnd ˈɜrnɪŋz ˈsteɪtmənt/ | กำไรสะสม | The retained earnings statement shows changes in equity over time. (งบกำไรสะสมแสดงถึงการเปลี่ยนแปลงในส่วนของผู้ถือหุ้นตามระยะเวลา) |
Financial accounting | /faɪˈnænʃəl əˈkaʊntɪŋ/ | บัญชีการเงิน | Financial accounting follows strict guidelines to ensure accuracy. (การบัญชีการเงินปฏิบัติตามแนวปฏิบัติที่เข้มงวดเพื่อให้แน่ใจถึงความถูกต้อง) |
Balance sheet | /ˈbæləns ʃiːt/ | งบดุล | The balance sheet provides a snapshot of the company’s financial position. (งบดุลให้ภาพรวมสถานะทางการเงินของบริษัท) |
Trial balance | /ˈtraɪəl ˈbælənz/ | งบดุลทดลอง | The trial balance is used to verify that debits equal credits. (งบดุลทดลองใช้เพื่อตรวจสอบว่าเดบิตเท่ากับเครดิต) |
Unadjusted trial balance | /ˌʌnəˈdʒʌstɪd ˈtraɪəl ˈbælənz/ | งบดุลทดลองที่ยังไม่ได้ปรับปรุง | The unadjusted trial balance is prepared before adjustments are made. (งบดุลทดลองที่ยังไม่ได้ปรับปรุงจะถูกเตรียมไว้ก่อนที่จะมีการปรับปรุง) |
Preclosing trial balance | /priːˈkloʊzɪŋ ˈtraɪəl ˈbælənz/ | งบทดลองก่อนปรับปรุง | The preclosing trial balance helps identify discrepancies. (งบดุลทดลองก่อนปรับปรุงช่วยระบุความคลาดเคลื่อน) |
Adjusted trial balance | /əˈdʒʌstɪd ˈtraɪəl ˈbælənz/ | งบทดลองหลังการปรับปรุง | The adjusted trial balance reflects all necessary adjustments. (งบดุลทดลองหลังการปรับปรุงแล้วสะท้อนการปรับปรุงที่จำเป็นทั้งหมด) |
Closing trial balance | /ˈkloʊzɪŋ ˈtraɪəl ˈbælənz/ | งบทดลองก่อนปิดบัญชี | The closing trial balance is prepared after all entries are posted. (งบทดลองก่อนปิดบัญชีจะเตรียมไว้หลังจากผ่านรายการทั้งหมดแล้ว) |
Cash flow statement | /kæʃ floʊ ˈsteɪtmənt/ | งบกระแสเงินสด | The cash flow statement shows how cash is generated and used. (งบกระแสเงินสดแสดงให้เห็นถึงวิธีการสร้างและใช้เงินสด) |
Budget | /ˈbʌdʒɪt/ | งบประมาณ | The budget outlines expected revenues and expenses for the year. (งบประมาณจะระบุรายละเอียดรายรับและรายจ่ายที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในปีนั้น) |
Cash budget | /kæʃ ˈbʌdʒɪt/ | งบประมาณเงินสด | The cash budget helps manage cash flow effectively. (งบประมาณเงินสดช่วยบริหารกระแสเงินสดได้อย่างมีประสิทธิภาพ) |
Master budget | /ˈmæstər ˈbʌdʒɪt/ | งบประมาณใหญ่ | The master budget consolidates all departmental budgets. (งบประมาณใหญ่จะรวมงบประมาณของแผนกทั้งหมด) |
Cash-flow budget | /kæʃ floʊ ˈbʌdʒɪt/ | งบประมาณกระแสเงินสด | The cash-flow budget is essential for financial planning. (งบประมาณกระแสเงินสดเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการวางแผนทางการเงิน) |
Fixed budget | /fɪkst ˈbʌdʒɪt/ | งบประมาณคงที่ | A fixed budget does not change with actual activity levels. (งบประมาณคงที่ไม่เปลี่ยนแปลงตามระดับกิจกรรมจริง) |
Appropriation budget | /əˌproʊpriˈeɪʃən ˈbʌdʒɪt/ | งบประมาณที่จัดสรร | The appropriation budget details how funds will be allocated. (รายละเอียดงบประมาณที่จัดสรรจะระบุวิธีการจัดสรรเงินทุน) |
Flexed budget | /flɛkst ˈbʌdʒɪt/ | งบประมาณที่สามารถยืดหยุ่นได้ | A flexed budget adjusts for actual levels of activity. (งบประมาณที่สามารถยืดหยุ่นได้จะปรับตามระดับกิจกรรมจริง) |
Flexible budget | /ˈflɛksəbl ˈbʌdʒɪt/ | งบประมาณยืดหยุ่น | A flexible budget allows for variations in activity levels. (งบประมาณยืดหยุ่นช่วยให้สามารถปรับเปลี่ยนระดับกิจกรรมได้) |
Variable budget | /ˈvɛrɪəbl ˈbʌdʒɪt/ | งบประมาณผันแปร | Variable budgets adjust based on changes in revenue and costs. (งบประมาณผันแปรจะปรับตามการเปลี่ยนแปลงของรายรับและต้นทุน) |
Capital budget | /ˈkæpɪtəl ˈbʌdʒɪt/ | งบประมาณลงทุน | The capital budget is used for long-term investments. (งบประมาณลงทุนใช้สำหรับการลงทุนระยะยาว) |
Payroll | /ˈpeɪrɔl/ | บัญชีเงินเดือน | The payroll is processed every two weeks. (การจ่ายบัญชีเงินเดือนจะถูกประมวลผลทุกสองสัปดาห์) |
Salary | /ˈsæləri/ | เงินเดือน | The salary for this position is competitive. (เงินเดือนสำหรับตำแหน่งนี้มีการแข่งขันกัน) |
Bank overdraft | /bæŋk ˈoʊvərdræft/ | เงินเบิกเกินบัญชีธนาคาร | The bank overdraft fee is charged for negative balances. (ค่าธรรมเนียมการเบิกเงินเกินบัญชีของธนาคารจะถูกเรียกเก็บสำหรับยอดคงเหลือติดลบ) |
Inflation | /ɪnˈfleɪʃən/ | เงินเฟ้อ | Inflation affects purchasing power and economic stability. (เงินเฟ้อส่งผลกระทบต่ออำนาจซื้อและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ) |
Down payment | /daʊn ˈpeɪmənt/ | เงินดาวน์ | A down payment is required to secure the loan. (เงินดาวน์เป็นสิ่งจำเป็นในการค้ำประกันสินเชื่อ) |
Loan receivable | /loʊn rɪˈsiːvəbl/ | เงินให้กู้ | The loan receivable will be collected in full by next year. (เงินให้กู้ที่ได้รับจะถูกเรียกเก็บเต็มจำนวนภายในปีหน้า) |
Capital fund | /ˈkæpɪtəl fʌnd/ | เงินกองทุนสะสม | The capital fund is used for major investments. (เงินกองทุนสะสมใช้เพื่อการลงทุนที่สำคัญ) |
Bank loan | /bæŋk loʊn/ | เงินกู้จากธนาคาร | The bank loan was approved for the new project. (โครงการใหม่ได้รับการอนุมัติเงินกู้จากธนาคารแล้ว) |
Installment | /ɪnˈstɔːlmənt/ | ค่างวด | The payment can be made in installments. (สามารถผ่อนค่างวดได้) |
Advance | /ədˈvæns/ | เงินล่วงหน้า | An advance was made for project expenses. (มีเงินล่วงหน้าสําหรับต้นทุนโครงการ) |
Working capital | /ˈwɜrkɪŋ ˈkæpɪtəl/ | เงินทุนหมุนเวียน | Working capital is essential for daily operations. (เงินทุนหมุนเวียนมีความจำเป็นต่อการดำเนินงานประจำวัน) |
Net working capital | /nɛt ˈwɜrkɪŋ ˈkæpɪtəl/ | เงินทุนหมุนเวียนสุทธิ | Net working capital is calculated by subtracting current liabilities from current assets. (เงินทุนหมุนเวียนสุทธิคำนวณได้โดยการลบหนี้สินหมุนเวียนจากสินทรัพย์หมุนเวียน) |
Marginal deposit | /ˈmɑːrdʒɪnəl dɪˈpɒzɪt/ | เงินประกัน | A marginal deposit is required for high-risk transactions. (เงินประกันมีความจำเป็นต้องมีการฝากเงินขั้นต่ำ) |
Dividend | /ˈdɪvɪdɛnd/ | เงินปันผล | The company announced a dividend for its shareholders. (บริษัทประกาศจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้น) |
Accrued dividend | /əˈkruːd ˈdɪvɪdɛnd/ | เงินปันผลค้างจ่าย | Accrued dividends are payable to shareholders. (เงินปันผลค้างจ่ายที่เกิดขึ้นจะจ่ายให้แก่ผู้ถือหุ้น) |
Declared dividend | /dɪˈklɛrd ˈdɪvɪdɛnd/ | เงินปันผลที่ประกาศจ่าย | The declared dividend will be distributed next month. (เงินปันผลที่ประกาศจ่าย) |
Interim dividend | /ˈɪntərɪm ˈdɪvɪdɛnd/ | เงินปันผลระหว่างกาล | The company issued an interim dividend to shareholders. (บริษัทได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลให้กับผู้ถือหุ้น) |
Accumulated dividend | /əˈkjuːmjʊleɪtɪd ˈdɪvɪdɛnd/ | เงินปันผลสะสม | Accumulated dividends can be reinvested. (เงินปันผลที่สะสมไว้สามารถนำไปลงทุนซ้ำได้) |
Cash at bank | /kæʃ æt bæŋk/ | เงินฝากธนาคาร | The cash at bank is used for daily transactions. (เงินฝากธนาคารใช้สำหรับธุรกรรมประจำวัน) |
Deposit | /dɪˈpɒzɪt/ | เงินฝาก | A deposit is required to secure the rental agreement. (เงินฝากเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อยืนยันสัญญาเช่า) |
Retention money | /rɪˈtɛnʃən ˈmʌni/ | เงินวางประกัน | Retention money is withheld until project completion. (เงินวางประกันจะถูกหักไว้จนกว่าโครงการจะเสร็จสิ้น) |
Cash | /kæʃ/ | เงินสด | Always keep some cash on hand for emergencies. (ควรเก็บเงินสดไว้บ้างเสมอสำหรับใช้ในยามฉุกเฉิน) |
Cash on hand | /kæʃ ɒn hænd/ | เงินสดในมือ | The cash on hand is sufficient for daily operations. (เงินสดในมือเพียงพอสำหรับการดำเนินงานประจำวัน) |
Cash dividend | /kæʃ ˈdɪvɪdɛnd/ | เงินสดปันผล | Shareholders will receive a cash dividend this quarter. (ผู้ถือหุ้นจะได้รับเงินสดปันผลเป็นเงินสดในไตรมาสนี้) |
Petty cash | /ˈpɛti kæʃ/ | เงินสดย่อย | Petty cash is used for minor expenses. (เงินสดย่อยใช้สำหรับค่าใช้จ่ายเล็กๆ น้อยๆ) |
Intangible assets | /ɪnˈtændʒəbl/ | สินทรัพย์ที่จับต้องไม่ได้ | Intangible assets include patents and trademarks. (สินทรัพย์ที่จับต้องไม่ได้ได้แก่สิทธิบัตรและเครื่องหมายการค้า) |
Loan payable | /loʊn ˈpeɪəbl/ | เจ้าหนี้เงินกู้ | The loan payable is due next month. (เจ้าหนี้เงินกู้ที่ต้องชำระจะครบกำหนดในเดือนหน้า) |
Account payable | /əˈkaʊnt ˈpeɪəbl/ | บัญชีเจ้าหนี้ | Accounts payable must be settled promptly. (บัญชีเจ้าหนี้ต้องได้รับการชำระทันที) |
Trade account payable | /treɪd əˈkaʊnt ˈpeɪəbl/ | บัญชีเจ้าหนี้การค้า | The trade account payable reflects outstanding invoices. (บัญชีเจ้าหนี้การค้าสะท้อนให้เห็นใบแจ้งหนี้คงค้าง) |
Bill payable | /bɪl ˈpeɪəbl/ | บิลเจ้าหนี้ | The bill payable is scheduled for payment next week. (บิลเจ้าหนี้ที่ต้องชำระจะถูกกำหนดชำระในสัปดาห์หน้า) |
Note payable | /noʊt ˈpeɪəbl/ | ตั๋วเงินจ่าย | The note payable must be paid by the end of the month. (ตั๋วเงินที่ต้องชำระจะต้องชำระภายในสิ้นเดือน) |
Mortgage | /ˈmɔːrɡɪdʒ/ | การจํานอง | The mortgage on the property is due for renewal. (การจำนองทรัพย์สินจะต้องได้รับการต่ออายุ) |
Break-even point | /ˈbreɪkˌiːvən pɔɪnt/ | จุดคุ้มทุน | The break-even point is where revenues equal costs. (จุดคุ้มทุนคือจุดที่รายได้เท่ากับต้นทุน) |
Cheque | /tʃɛk/ | เช็ค | I wrote a cheque to pay for the groceries. (ฉันเขียนเช็คเพื่อจ่ายค่าอาหาร) |
Cashier’s cheque | /kæˈʃɪrz tʃɛk/ | เช็คธนาคาร | A cashier’s cheque is guaranteed by the bank. (เช็คธนาคารได้รับการค้ำประกันโดยธนาคาร) |
Certified check | /ˈsɜrtɪfaɪd tʃɛk/ | เช็คที่ธนาคารรับรองการจ่ายเงิน | A certified check is used for large transactions. (เช็คที่ธนาคารรับรองการจ่ายเงินสำหรับธุรกรรมขนาดใหญ่) |
Hire purchase | /haɪər ˈpɜːrtʃəs/ | สินเชื่อเช่าซื้อ | Hire purchase allows you to pay for an item in installments. (สินเชื่อเช่าซื้อช่วยให้คุณสามารถชำระค่าสินค้าได้ในรูปแบบผ่อนชำระ) |

คําถามที่พบบ่อย
ค่าใช้จ่ายเบ็ดเตล็ดคืออะไร?
ค่าใช้จ่ายเบ็ตเตล็ดในภาษาอังกฤษแปลว่า incurred cost หรือ additional expense วลีนี้มักใช้เพื่ออ้างถึงค่าใช้จ่ายที่ไม่ได้วางแผนไว้แต่เกิดขึ้นระหว่างการดำเนินงาน
ตัวอย่าง:
- Unexpected repairs led to incurred costs in the project. (การซ่อมแซมที่ไม่คาดคิดทำให้เกิดค่าใช้จ่ายเบ็ตเตล็ดในโครงการ)
- The company had to bear additional expenses due to the delay in delivery. (บริษัทต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมเนื่องจากการจัดส่งล่าช้า)

Expense คืออะไร?
Expense ในภาษาอังกฤษ หมายถึง รายจ่ายหรือค่าใช้จ่ายที่บุคคลหรือองค์กรต้องจ่ายเพื่อบรรลุเป้าหมายบางอย่าง คำนี้มักใช้ในสถานการณ์ทางการเงิน การรายงานต้นทุน หรือการจัดการงบประมาณ
ตัวอย่าง: Rent is one of the biggest monthly expenses for most families. (ค่าเช่าถือเป็นรายจ่ายรายเดือนที่สูงที่สุดสำหรับครอบครัวส่วนใหญ่)

>>>Read more: คำศัพท์เกี่ยวกับที่พัก ภาษาอังกฤษที่พบบ่อยมากกว่า 100 คำ
ค่าเล่าเรียนในภาษาอังกฤษคืออะไร?
ค่าเล่าเรียนในภาษาอังกฤษแปลว่า tuition fee หรือเรียกง่าย ๆ ว่า tuition วลีนี้หมายถึงจำนวนเงินที่นักเรียนหรือนักศึกษาต้องจ่ายเพื่อเข้าเรียนในโรงเรียน วิทยาลัย หรือมหาวิทยาลัย
ตัวอย่าง: The university has increased its tuition fees for international students. (มหาวิทยาลัยได้เพิ่มค่าเล่าเรียนสำหรับนักศึกษาต่างชาติ)
งบประมาณภาษาอังกฤษคืออะไร?
งบประมาณในภาษาอังกฤษเรียกว่า fund หรือ budget ซึ่งมักใช้เพื่ออ้างถึงจำนวนเงินที่จัดสรรหรือตั้งไว้สำหรับจุดประสงค์เฉพาะ เช่น โครงการ โปรแกรม หรือองค์กร
ตัวอย่าง:
- The government allocated more funds for education this year. (ปีนี้รัฐบาลจัดสรรงบประมาณด้านการศึกษาเพิ่มมากขึ้น)
- The team is working on a proposal to stay within the allocated budget for the project. (ทีมงานกำลังดำเนินการเสนอให้เป็นไปตามงบประมาณที่จัดสรรไว้สำหรับโครงการ)

แบกรับค่าใช้จ่ายในภาษาอังกฤษคืออะไร?
แบกรับค่าใช้จ่ายในภาษาอังกฤษสามารถแปลเป็น bear the cost หรือ cover the expense ซึ่งหมายถึงการรับผิดชอบในการจ่ายค่าใช้จ่าย
ตัวอย่าง:
- The company agreed to bear the cost of repairing the damaged equipment. (บริษัทตกลงที่จะแบกรับค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมอุปกรณ์ที่ได้รับความเสียหาย)
- The company offered to cover the expense of relocating the employee to a new city. (บริษัทเสนอที่จะแบกรับค่าใช้จ่ายในการย้ายพนักงานไปยังเมืองใหม่)
ราคาสมเหตุสมผลในภาษาอังกฤษคืออะไร?
คำว่า ราคาที่สมเหตุสมผล ในภาษาอังกฤษ แปว่า reasonable cost หรือ reasonable expense ซึ่งใช้เพื่ออ้างถึงค่าใช้จ่ายที่เหมาะสม ไม่สูงเกินไปและเป็นที่ยอมรับได้ในบริบทเฉพาะ
ตัวอย่าง: We aim to provide quality services at a reasonable cost. (เราตั้งเป้าที่จะให้บริการที่มีคุณภาพในราคาที่สมเหตุสมผล)

>>>Read more: ลดราคาภาษาอังกฤษ ว่าอย่างไร รวบรวมคําศัพท์ ประโยคคําตอบพื้นฐานและสุภาพที่สุด
ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ในภาษาอังกฤษคืออะไร?
ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ในภาษาอังกฤษแปลว่า other expenses หรือ miscellaneous costs ซึ่งใช้เพื่ออ้างถึงค่าใช้จ่ายที่ไม่จัดอยู่ในกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งโดยเฉพาะ แต่ยังคงต้องบันทึกไว้
ตัวอย่าง: The financial report includes details of other expenses incurred during the project. (รายงานทางการเงินประกอบด้วยรายละเอียดค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างโครงการ)
คิดค่าใช้จ่าย ภาษาอังกฤษ คืออะไร?
การคิดค่าใช้จ่ายในภาษาอังกฤษแปลว่า cost calculation หรือ calculating costs ซึ่งขึ้นอยู่กับบริบท ซึ่ง cost calculation มักใช้ในเอกสารทางบัญชี รายงานทางการเงิน หรือโครงการทางธุรกิจ ส่วน calculating costs ใช้ในบริบทการสื่อสารในชีวิตประจำวัน โดยเน้นถึงการดำเนินการที่กำลังเกิดขึ้นหรือจำเป็นต้องทำ
ตัวอย่าง:
- We need to perform a cost calculation for this project. (เราจำเป็นต้องทำการคิดค่าใช้จ่ายสำหรับโครงการนี้)
- The company is calculating costs for the new production line. (บริษัทกำลังคิดค่าใช้จ่ายสำหรับสายการผลิตใหม่)

การเข้าใจค่าใช้จ่าย ภาษาอังกฤษและคำศัพท์ที่เกี่ยวข้องจะไม่เพียงแต่ช่วยให้คุณมั่นใจในการสื่อสารมากขึ้นเท่านั้น แต่ยังช่วยสนับสนุนการเรียนและการทำงานของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย หวังว่าบทความนี้ของ ELSA Speak จะได้ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์สำหรับคุณในการเชี่ยวชาญแนวคิดและคำศัพท์เกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในภาษาอังกฤษ อย่าลืมประยุกต์ใช้ในชีวิตประจําวันเพื่อพัฒนาภาษาอังกฤษของคุณนะ!