ในภาษาอังกฤษ หมายเลข 1 คือ one และถ้าในการเรียงตามลำดับคือ first แล้ววิธีการอ่านเศษส่วน เช่น ⅓ หรือ ⅕ ในภาษาอังกฤษจะเป็นอย่างไรบ้าง ในบทความนี้ ELSA Speak จะให้ผู้เรียนความรู้เกี่ยวกับ ตัวเลขภาษาอังกฤษ
มีกี่วิธีในการอ่านเลขภาษาอังกฤษ?
ในภาษาอังกฤษ การอ่านตัวเลขมีอยู่ 2 แบบหลัก ๆ คือ เลขนับ (Cardinal Numbers) และ เลขลำดับ (Ordinal Numbers) ซึ่งแต่ละแบบมีความหมายและการใช้งานที่แตกต่างกัน
สอบก่อนเข้าฟรี

ความหมาย | วิธีการใช้ | ตัวอย่าง | |
---|---|---|---|
ความหมาย | วิธีการใช้ | ตัวอย่าง | |
เลขนับ (Cardinal numbers) | ใช้บอกจำนวน การนับสิ่งของ คน หรือเหตุการณ์ | ใช้ตอบคำถาม How many? หรือใช้บอกอายุ เบอร์โทรศัพท์ ปี เป็นต้น | one, two, three… I have two books. She is 25 years old. |
เลขลำดับ (Ordinal numbers) | ใช้บอกลำดับหรือตำแหน่งของสิ่งของในลำดับหนึ่ง | ใช้ตอบคำถาม Which? หรือใช้บอกวันเดือน ปีลำดับของเหตุการณ์ต่าง ๆ | first, second, third… He lives on the third floor. Today is the 5th of May. |
>>> Read more: แนะนำวิธีเขียนที่อยู่ภาษาอังกฤษอย่างถูกต้องและเข้าใจง่าย
นับเลขภาษาอังกฤษจาก 0–100
ตัวเลขอังกฤษตั้งแต่ 0 ถึง 100 เกิดจากการนำเลขหลักหน่วย (0–9) มาประกอบกับหลักสิบ (10, 20, 30, …) โดยเฉพาะเลขตั้งแต่ 11 ถึง 19 จะมีรูปแบบการอ่านเฉพาะตัว
เลข | เลขภาษาอังกฤษ | การออกเสียง | ความหมาย |
---|---|---|---|
0 | Zero | /ˈzɪə.roʊ/ | ศูนย์ |
1 | One | /wʌn/ | หนึ่ง |
2 | Two | /tuː/ | สอง |
3 | Three | /θriː/ | สาม |
4 | Four | /fɔːr/ | สี่ |
5 | Five | /faɪv/ | ห้า |
6 | Six | /sɪks/ | หก |
7 | Seven | /ˈsev.ən/ | เจ็ด |
8 | Eight | /eɪt/ | แปด |
9 | Nine | /naɪn/ | เก้า |
10 | Ten | /ten/ | สิบ |
11 | Eleven | /ɪˈlev.ən/ | สิบเอ็ด |
12 | Twelve | /twelv/ | สิบสอง |
13 | Thirteen | /ˈθɜːr.tiːn/ | สิบสาม |
14 | Fourteen | /ˌfɔːrˈtiːn/ | สิบสี่ |
15 | Fifteen | /ˌfɪfˈtiːn/ | สิบห้า |
16 | Sixteen | /ˌsɪksˈtiːn/ | สิบหก |
17 | Seventeen | /ˌsev.ənˈtiːn/ | สิบเจ็ด |
18 | Eighteen | /ˌeɪˈtiːn/ | สิบแปด |
19 | Nineteen | /ˌnaɪnˈtiːn/ | สิบเก้า |
20 | Twenty | /ˈtwenti/ | ยี่สิบ |
30 | Thirty | /ˈθɜːr.ti/ | สามสิบ |
40 | Forty | /ˈfɔːr.ti/ | สี่สิบ |
50 | Fifty | /ˈfɪf.ti/ | ห้าสิบ |
60 | Sixty | /ˈsɪks.ti/ | หกสิบ |
70 | Seventy | /ˈsev.ən.ti/ | เจ็ดสิบ |
80 | Eighty | /ˈeɪ.ti/ | แปดสิบ |
90 | Ninety | /ˈnaɪn.ti/ | เก้าสิบ |
100 | One hundred | /wʌn ˈhʌn.drəd/ | หนึ่งร้อย |
วิธีนับเลขภาษาอังกฤษหลักหน่วย 0–9
ในการเริ่มต้นเรียนรู้การนับเลขอังกฤษ เราจะทำความคุ้นเคยกับตัวเลขพื้นฐานตั้งแต่ 0 ถึง 9 ในภาษาอังกฤษ ซึ่งนี่เป็นพื้นฐานสำคัญที่จะช่วยให้คุณสามารถประกอบเลขที่ใหญ่ขึ้นได้ง่ายในภายหลัง
เลข | เลขภาษาอังกฤษ | การออกเสียง | ความหมาย |
---|---|---|---|
0 | Zero | /ˈzɪə.roʊ/ | ศูนย์ |
1 | One | /wʌn/ | หนึ่ง |
2 | Two | /tuː/ | สอง |
3 | Three | /θriː/ | สาม |
4 | Four | /fɔːr/ | สี่ |
5 | Five | /faɪv/ | ห้า |
6 | Six | /sɪks/ | หก |
7 | Seven | /ˈsev.ən/ | เจ็ด |
8 | Eight | /eɪt/ | แปด |
9 | Nine | /naɪn/ | เก้า |
>>> Read more: เลข 0 ภาษาอังกฤษคืออะไร 7 วิธีอ่านเลข 0 อย่างถูกต้องที่สุดที่คุณยังไม่รู้
วิธีนับเลขภาษาอังกฤษหลักสิบ 10-90
หลังจากจำตัวเลขตั้งแต่ 0 ถึง 9 ได้แม่นยำแล้ว คุณสามารถเรียนรู้การนับเลขหลักสิบตั้งแต่ 10 ถึง 90 ต่อไปได้ การจำวิธีอ่านเลขหลักสิบจะช่วยให้คุณมั่นใจมากขึ้นเวลาใช้พูดและเขียนตัวเลขที่มากกว่า
เลข | เลขภาษาอังกฤษ | การออกเสียง | ความหมาย |
---|---|---|---|
10 | Ten | /ten/ | สิบ |
20 | Twenty | /ˈtwenti/ | ยี่สิบ |
30 | Thirty | /ˈθɜːr.ti/ | สามสิบ |
40 | Forty | /ˈfɔːr.ti/ | สี่สิบ |
50 | Fifty | /ˈfɪf.ti/ | ห้าสิบ |
60 | Sixty | /ˈsɪks.ti/ | หกสิบ |
70 | Seventy | /ˈsev.ən.ti/ | เจ็ดสิบ |
80 | Eighty | /ˈeɪ.ti/ | แปดสิบ |
90 | Ninety | /ˈnaɪn.ti/ | เก้าสิบ |
วิธีนับเลขภาษาอังกฤษหลักร้อย 100 – 900
เมื่อคุณคุ้นเคยกับเลขหลักหน่วยและหลักสิบแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการเรียนรู้การนับเลขหลักร้อยในภาษาอังกฤษ ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญที่จะช่วยให้คุณอ่านตัวเลขขนาดใหญ่ได้อย่างคล่องแคล่ว
เลข | เลขภาษาอังกฤษ | การออกเสียง | ความหมาย |
---|---|---|---|
100 | One hundred | /wʌn ˈhʌn.drəd/ | หนึ่งร้อย |
200 | Two hundred | /tuː ˈhʌn.drəd/ | สองร้อย |
300 | Three hundred | /θriː ˈhʌn.drəd/ | สามร้อย |
400 | Four hundred | /fɔːr ˈhʌn.drəd/ | สี่ร้อย |
500 | Five hundred | /faɪv ˈhʌn.drəd/ | ห้าร้อย |
600 | Six hundred | /sɪks ˈhʌn.drəd/ | หกร้อย |
700 | Seven hundred | /ˈsev.ən ˈhʌn.drəd/ | เจ็ดร้อย |
800 | Eight hundred | /eɪt ˈhʌn.drəd/ | แปดร้อย |
900 | Nine hundred | /naɪn ˈhʌn.drəd/ | เก้าร้อย |
วิธีนับเลขภาษาอังกฤษหลักพัน 1000 – 9000
ในภาษาอังกฤษ การอ่านตัวเลขหลักพันให้ใช้เลขนับตามด้วยคำว่า thousand เช่น 1,000 = one thousand (หนึ่งพัน), 2,000 = two thousand (สองพัน) …
เลข | เลขภาษาอังกฤษ | การออกเสียง | ความหมาย |
---|---|---|---|
1.000 | One thousand | /wʌn ˈθaʊzənd/ | หนึ่งพัน |
2.000 | Two thousand | /tuː ˈθaʊzənd/ | สองพัน |
3.000 | Three thousand | /θriː ˈθaʊzənd/ | สามพัน |
4.000 | Four thousand | /fɔːr ˈθaʊzənd/ | สี่พัน |
5.000 | Five thousand | /faɪv ˈθaʊzənd/ | ห้าพัน |
6.000 | Six thousand | /sɪks ˈθaʊzənd/ | หกพัน |
7.000 | Seven thousand | /ˈsev.ən ˈθaʊzənd/ | เจ็ดพัน |
8.000 | Eight thousand | /eɪt ˈθaʊzənd/ | แปดพัน |
9.000 | Nine thousand | /naɪn ˈθaʊzənd/ | เก้าพัน |
วิธีนับเลขภาษาอังกฤษหลักหมื่น 10000 – 90000
เมื่ออ่านตัวเลขหลักหมื่น ให้ใช้เลขนับ (ten, twenty, thirty, …) นำหน้า แล้วตามด้วยคำว่า thousand เช่น 10,000 = ten thousand, 20,000 = twenty thousand
เลข | เลขภาษาอังกฤษ | การออกเสียง | ความหมาย |
---|---|---|---|
10.000 | Ten thousand | /ten ˈθaʊzənd/ | หนึ่งหมื่น |
20.000 | Twenty thousand | /ˈtwenti ˈθaʊzənd/ | สองหมื่น |
30.000 | Thirty thousand | /ˈθɜːrti ˈθaʊzənd/ | สามหมื่น |
40.000 | Forty thousand | /ˈfɔːrti ˈθaʊzənd/ | สี่หมื่น |
50.000 | Fifty thousand | /ˈfɪfti ˈθaʊzənd/ | ห้าหมื่น |
60.000 | Sixty thousand | /ˈsɪksti ˈθaʊzənd/ | หกหมื่น |
70.000 | Seventy thousand | /ˈsev.nti ˈθaʊzənd/ | เจ็ดหมื่น |
80.000 | Eighty thousand | /ˈeɪti ˈθaʊzənd/ | แปดหมื่น |
90.000 | Ninety thousand | /ˈnaɪnti ˈθaʊzənd/ | เก้าหมื่น |
วิธีนับเลขภาษาอังกฤษหลักแสน 100000 – 900000
ในภาษาอังกฤษ การอ่านตัวเลขหลักแสนทำได้โดยการเติมคำว่า hundred thousand ต่อท้ายตัวเลข เช่น 100,000 = one hundred thousand (หนึ่งแสน) ในทำนองเดียวกัน 200,000 คือ two hundred thousand, 300,000 คือ three hundred thousand … ไปจนถึง 900,000
ตารางด้านล่างจะแสดงรายละเอียดให้เห็นชัดเจน:
เลข | เลขภาษาอังกฤษ | การออกเสียง | ความหมาย |
---|---|---|---|
100.000 | One hundred thousand | /wʌn ˈhʌndrəd ˈθaʊzənd/ | หนึ่งแสน |
200.000 | Two hundred thousand | /tuː ˈhʌndrəd ˈθaʊzənd/ | สองแสน |
300.000 | Three hundred thousand | /θriː ˈhʌndrəd ˈθaʊzənd/ | สามแสน |
400.000 | Four hundred thousand | /fɔːr ˈhʌndrəd ˈθaʊzənd/ | สี่แสน |
500.000 | Five hundred thousand | /faɪv ˈhʌndrəd ˈθaʊzənd/ | ห้าแสน |
600.000 | Six hundred thousand | /sɪks ˈhʌndrəd ˈθaʊzənd/ | หกแสน |
700.000 | Seven hundred thousand | /ˈsev.ən ˈhʌndrəd ˈθaʊzənd/ | เจ็ดแสน |
800.000 | Eight hundred thousand | /eɪt ˈhʌndrəd ˈθaʊzənd/ | แปดแสน |
900.000 | Nine hundred thousand | /naɪn ˈhʌndrəd ˈθaʊzənd/ | เก้าแสน |
วิธีนับเลขภาษาอังกฤษหลักล้าน 1000000 – 9000000
ในภาษาอังกฤษ การอ่านตัวเลขหลักล้านทำได้โดยการอ่านตัวเลขก่อนแล้วตามด้วยคำว่า million เช่น 1,000,000 = one million (หนึ่งล้าน) ในทำนองเดียวกัน 2,000,000 คือ two million, 3,000,000 คือ three million และจะเป็นเช่นนี้ต่อไปจนถึง 9,000,000
ตารางด้านล่างจะช่วยให้คุณมองเห็นภาพได้ชัดเจนยิ่งขึ้น:
เลข | เลขภาษาอังกฤษ | การออกเสียง | ความหมาย |
---|---|---|---|
1.000.000 | One million | /wʌn ˈmɪljən/ | หนึ่งล้าน |
2.000.000 | Two million | /tuː ˈmɪljən/ | สองล้าน |
3.000.000 | Three million | /θriː ˈmɪljən/ | สามล้าน |
4.000.000 | Four million | /fɔːr ˈmɪljən/ | สี่ล้าน |
5.000.000 | Five million | /faɪv ˈmɪljən/ | ห้าล้าน |
6.000.000 | Six million | /sɪks ˈmɪljən/ | หกล้าน |
7.000.000 | Seven million | /ˈsev.ən ˈmɪljən/ | เจ็ดล้าน |
8.000.000 | Eight million | /eɪt ˈmɪljən/ | แปดล้าน |
9.000.000 | Nine million | /naɪn ˈmɪljən/ | เก้าล้าน |
คำศัพท์ตัวเลขลำดับ
เพื่อเข้าใจชัดเจนความแตกต่างระหว่างตัวเลขและเลขลำดับที่ ลองดูว่าตัวเลขลำดับที่อ่านยังไงผ่านตารางคำศัพท์นี้
ตัวเลขลำดับ | คำย่อ | การสะกดคำ | ความหมาย |
---|---|---|---|
First | 1st | /fɜrst/ | ลำดับที่ ๑ |
Second | 2nd | /ˈsɛkənd/ | ลำดับที่ ๒ |
Third | 3rd | /θɜrd/ | ลำดับที่ ๓ |
Fourth | 4th | /fɔrθ/ | ลำดับที่ ๔ |
Fifth | 5th | /fɪfθ/ | ลำดับที่ ๕ |
Sixth | 6th | /sɪksθ/ | ลำดับที่ ๖ |
Seventh | 7th | /ˈsɛvənθ/ | ลำดับที่ ๗ |
Eighth | 8th | /eɪtθ/ | ลำดับที่ ๘ |
Ninth | 9th | /naɪnθ/ | ลำดับที่ ๙ |
Tenth | 10th | /tɛnθ/ | ลำดับที่ ๑๐ |
Eleventh | 11th | /ɪˈlɛvənθ/ | ลำดับที่ ๑๑ |
Twelfth | 12th | /twɛlfθ/ | ลำดับที่ ๑๒ |
Thirteenth | 13th | /ˈθɜrˈtinθ/ | ลำดับที่ ๑๓ |
Fourteenth | 14th | /ˈfɔrˈtinθ/ | ลำดับที่ ๑๔ |
Fifteenth | 15th | /fɪfˈtinθ/ | ลำดับที่ ๑๕ |
Twentieth | 20th | /ˈtwɛntiəθ/ | ลำดับที่ ๒๐ |
Twenty -first | 21st | /ˈtwɛnti -fɜrst/ | ลำดับที่ ๒๑ |
Twenty -second | 22nd | /ˈtwɛnti -ˈsɛkənd/ | ลำดับที่ ๒๒ |
Thirtieth | 30rd | /ˈθɜrdiθ/ | ลำดับที่ ๓๐ |
Fortieth | 40th | /ˈfɔrtiɪθ/ | ลำดับที่ ๔๐ |
Fiftieth | 50th | /ˈfɪftiɪθ/ | ลำดับที่ ๕๐ |
Sixtieth | 60th | /ˈsɪkstiɪθ/ | ลำดับที่ ๖๐ |
Seventieth | 70th | /ˈsɛvəntiɪθ/ | ลำดับที่ ๗๐ |
Eightieth | 80th | /ˈeɪtiɪθ/ | ลำดับที่ ๘๐ |
Ninetieth | 90th | /ˈnaɪntiɪθ/ | ลำดับที่ ๙๐ |
One hundredth | 100th | /wʌn ˈhʌndrədθ/ | ลำดับที่ ๑๐๐ |
คำศัพท์เพิ่มเติมสำหรับตัวเลข
นอกจากคำศัพท์เลขภาษาอังกฤษ คุณต้องเรียนเพิ่มคำศัพท์ที่เสริมสำหรับตัวเลข ช่วยการอ่าน การเขียน และการสื่อสารภาษาอังกฤษจะมีประสิทธิภาพ
คำศัพท์ | การสะกดคำ | ความหมาย |
---|---|---|
About | /əˈbaʊt/ | เกือบ |
Approximately | /əˈprɑːksɪmətli/ | โดยประมาณ |
Over | /ˈoʊvər/ | มากกว่า |
More than | /mɔːr ðæn/ | มากกว่า |
Under | /ˈʌndər/ | น้อยกว่า |
Less than | /les ðæn/ | น้อย/ต่ำกว่า |
ใช้เลขภาษาอังกฤษ
เลขภาษาอังกฤษถูกนำไปใช้บ่อยในชีวิตประจำวัน ตามกรณีต่างๆ ดังต่อไปนี้

การนับจำนวน
เมื่อนับจำนวนคน สัตว์ สิ่งของหรือเหตุการณ์ ฯลฯ แค่คงจำนวนไว้และไม่เปลี่ยนแปลงอะไร
ตัวอย่าง
- I have six pens.
=> ฉัน/ผมมีปากกา 6 ด้าม
- My class has twenty people.
=> ห้องเรียนมี 10 คน
หมายเลขโทรศัพท์
เมื่ออ่านหมายเลขโทรศัพท์ คุณสามารถกลุ่มละ 3 หรือ 4 เลขก็ได้ เลข 0 ภาษาอังกฤษ จะอ่านเป็น “oh” หรือ “zero”

อ่านหมายเลขโทรศัพท์
ตัวอย่าง
- My phone number is 0352 719 123.
(My phone number is zero-three-five-two seven-one-nine one-two-three.)
=> หมายเลขโทรศัพท์ของฉันคือ 0352 719 123
>>> Read more: วิธีขอเบอร์โทรศัพท์ ภาษาอังกฤษ: ตัวอย่างประโยคตัวอย่างและบทสนทนาจริง
พูดคุยเกี่ยวกับอายุ
คุณอ่านเลขภาษาอังกฤษ0-100 เหมือนเดิม แล้วเติม “years old” (ปี) เข้าด้านหลัง
ตัวอย่าง
- I am thirteen years old.
=> ฉัน/ผมอายุสิบสามปี
พูดคุยเกี่ยวกับปี
เมื่ออ่านปีภาษาอังกฤษ เราจะอ่านตัวเลขเป็นคู่
ตัวอย่าง
- 1997: nineteen ninety-seven
ตั้งแต่ปี 2000 เป็นต้นมา เราจะอ่านแบบปกติในการอ่านตัวเลขดังต่อไปนี้
- 2000: two thousand
- 2008: two thousand and eight.

วีธีการอ่านปีภาษาอังกฤษ
วีธีการอ่านปีภาษาอังกฤษ
ตัวอย่าง
- This book was published in eighteen ninety-eight.
=> หนังสือเล่มนี้ตีพิมพ์ในปี 1898
- Daniel was born in two thousand and eight.
=> Daniel เกิดในปี 2008
>>> Read more: วิธีการเขียนเดือนภาษาอังกฤษแบบย่อพร้อมความหมายและเทคนิคการจำ
ตารางความแตกต่างระหว่าง เลขภาษาอังกฤษ และ เลขลำดับที่ภาษาอังกฤษ
องค์ประกอบ | ตัวเลข | ตัวเลขลำดับ |
---|---|---|
โครงสร้าง | ตัวเลข | ตัวเลขลำดับที่ = ตัวเลข + th (ยกเว้น “first”, “second” และ “third”) |
กรณีการใช้ | นับจำนวย ตัวอย่าง – I have seven pens. ฉัน/ผมมีปากกา 7 ด้าม.อ่านหมายเลขโทรศัพท์ ตัวอย่าง – My phone number is 0383 333 827. หมายเลขโทรศัพท์ของเราคือ 0383 333 827 พูดคุยเกี่ยวกับอยุ ตัวอย่าง – I am thirteen years old. ฉัน/ผมอยุ 13ปี พูดคุยเกี่ยวกับปี ตัวอย่าง – This book was published in eighteen ninety-eight. หนังสือเล่มนี้ตีพิมพ์ในปี 1898 | อธิบายตำแหน่งการจัดอันดับ ตัวอย่าง – John finished second in the school’s badminton tournament. John จบอันดับสองในการแข่งขันแบดมินตันของโรงเรียน อธิบายจำนวนชั้นของอาคาร ตัวอย่าง – My home is on the sixth floor. บ้านของฉันอยู่ชั้น 6 พูดคุยเกี่ยวกับวันเกิด ตัวอย่าง – Today is Tom’s sixth birthday. วันนี้เป็นวันเกิดปีที่ 6 ของทอม Tom ชื่อราชาหรือราชินี ตัวอย่าง – Elizabeth ll = Elizabeth the Secondสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 |

หมายเหตุในการเรียนตัวเลขภาษาอังกฤษ
เพื่อหลีกเลี่ยงความผิดพลาดในการใช้เลขภาษาอังกฤษ ควรสังเกตสิ่งต่อไปนี้
- เมื่อตัวเลขต้องการการผสมระหว่างล้าน พัน ร้อยด้วยสิบหรือหน่วย เราจะเติมคำว่า “and” ก่อนหลักหน่วยหรือหลักสิบ
ตัวอย่าง
- 210: Two hundred and ten.
- 1,950: One thousand, nine hundred and fifty.
- 4,001: Four thousand and one.
- ไม่เติม “s”, “es” เมื่อเขียนตัวเลข หากคุณอยากบอกจำนวน นอกจากนี้ ตัวเลขต่อไปนี้เมื่อเติม “s” และตามด้วย of จะมีความหมายแตกต่างกัน ไม่ได้เป็นจำนวนเฉพาะอีก แต่กลายเป็นวิธีพูดโดยประมาณ
ตัวอย่าง
- Tens of: หลักสิบ
- Dozens of: โหลๆ
- Hundreds of: ร้อยๆ
- Thousands of: หลายพัน
- Millions of: หลายล้าน
- Billions of: หลายร้อยล้าน
ตัวอย่าง
- Our team had hundreds of members
ทีมของเรามีสมาชิกหลายร้อยคน
- This is a miniature city made from millions of toothpicks.

นี่คือเมืองขนาดเล็กที่ทำจากไม้จิ้มฟันนับล้าน
- วิธีการนับจำนวนครั้งเป็นภาษาอังกฤษ
- Once: หนึ่งครั้ง
- Twice: สองครั้ง
- ตั้งแต่ครั้งที่ 3 เราจำเป็นต้องใช้สูตร “ตัวเลข + times”
- Three times: สามครั้ง
- Four times: สี่ครั้ง
- เลข 100 พูดได้ 2 แบบว่า “one hundred” หรือ “a hundred”
- เลขหนึ่งพัน (one thousand/ a thousand) และเลขหนึ่งล้าน (one million/ a million) ก็มี 2 แบบที่เหมือนกัน อย่างไรก็ตาม
- การพูด “a hundred/ thousand/ million” จะใช้ในกรณีจำนวนนั้นยืนอยู่ตัวเดียว เท่านั้น ตัวอย่างเช่น คุณไม่สามารถพูดว่า: “four thousand a hundred and twenty (4,120) กลับต้องพูดว่า “four thousand one hundred and twenty”
- ใช้ขีดกลาง (-) เมื่อเขียนตัวเลข 21 ถึง 99
- 21: Twenty-one
- สำหรับตัวเลขจำนวนมากที่มีหลายหลัก คนอเมริกันมักใช้เครื่องหมายจุลภาค (,) เพื่อแบ่งกลุ่มละสามตัว
ตัวอย่าง
- 5,776,000; 62,822
>>> Read more:
- ถึงเวลาใช้ AI เข้ามาช่วยฝึกพูดภาษาอังกฤษ
- [รีวิวแบบละเอียด] ELSA Speak คืออะไร? แอปฝึกพูดภาษาอังกฤษสำหรับคนทำงานที่มีเวลาน้อย
เศษส่วน
เศษส่วนประกอบด้วยสองส่วนซึ่งเป็นตัวเศษและตัวส่วน ในภาษาอังกฤษ การอ่านเศษส่วนเริ่มด้วยตัวเศษเป็น ตัวเลขภาษาอังกฤษ บอกจำนวนและตัวส่วนเป็นตัวเลขบอกลำดับที่ เช่น 1/3 = one third, 2/3 = two thirds, 1/100 = one one hundredth, 12/16 = twelve sixteenths ตัวส่วนมักจะอยู่ในรูปแบบของพหูพจน์หากเป็นหมายเลขที่มากกว่า 1
วิธีการอ่านเศษส่วนยังมีข้อยกเว้นบางข้อ เช่น 1/2 = one half (ไม่ได้อ่านว่า “one second”), 1/4, 2/4, 3/4 = one quarter, two quarters, three quarters (แต่ยังสามารถอ่านได้ว่า “one fourth” “two fourths” or “three fourths”)
>>> Read more: คําศัพท์บวก ลบ คูณ หาร ในภาษาอังกฤษและวิธีอ่านที่แม่นยำที่สุด
คำถามที่พบบ่อย
จะจำได้อย่างไรว่าคำไหนเป็นเลขนับและคำไหนเป็นเลขลำดับ?
เลขนับ (one, two, three) ใช้บอกจำนวน ส่วนเลขลำดับ (first, second, third) ใช้บอกตำแหน่งหรือลำดับขั้น
เมื่อเขียนวันที่เป็นภาษาอังกฤษ เราจำเป็นต้องใช้เลขลำดับเสมอหรือไม่?
ในการพูดหรือการเขียนแบบอังกฤษ (British English) มักใช้เลขลำดับในการเขียนวันที่ (เช่น 1st January) แต่ในการเขียนแบบอเมริกัน (American English) สามารถใช้เลขนับได้เช่นกัน (เช่น January 1).
เมื่อใช้บอกชั้นเรียนหรือชั้นของอาคาร ควรใช้เลขลำดับหรือเลขนับ?
ในภาษาอังกฤษ เวลาเราพูดถึงชั้นเรียนหรือตึก เราจำเป็นต้องใช้เลขลำดับ (ordinal numbers) แทนเลขนับ (cardinal numbers) เหตุผลก็คือ เลขลำดับช่วยบอกตำแหน่งและลำดับได้ชัดเจนกว่า
ตัวอย่าง:
- ชั้น 1 → 1st floor (ชั้นแรก)
- ชั้น 2 → 2nd floor (ชั้นที่สอง)
- ประถม 1 → 1st grade (ชั้นแรกของระดับประถมศึกษา)
- ประถม 3 → 3rd grade (ชั้นที่สามของระดับประถมศึกษา)
ในทางกลับกัน เลขนับ (one, two, three, …) มักใช้บอกจำนวนเท่านั้น ไม่เหมาะที่จะใช้ระบุตำแหน่งหรือลำดับ ดังนั้นเวลาศึกษาตัวเลขภาษาอังกฤษ ควรแยกความแตกต่างของตัวเลขทั้งสองประเภทนี้ให้ชัดเจน เพื่อที่จะได้นำไปใช้ได้อย่างถูกต้องในแต่ละบริบท

ข้างต้นเป็นคำแนะนำอย่างละเอียดเกี่ยวกับวิธีการนับเลขภาษาอังกฤษตั้งแต่ 1 ถึง 1,000,000 พร้อมการออกเสียง เพื่อช่วยให้จดจำได้ง่ายและนำไปใช้ได้สะดวกทั้งในการเรียน การทำงาน และการสื่อสารในชีวิตประจำวัน อย่างไรก็ตาม เพื่อให้จำได้แม่นและใช้งานได้อย่างคล่องแคล่ว ควรฝึกฝนเป็นประจำกับสถานการณ์จริง และเข้าใช้ ELSA Speak อย่างสม่ำเสมอเพื่อค้นพบวิธีการเรียนภาษาอังกฤษและทักษะการสื่อสารที่เป็นประโยชน์สำหรับนักเรียน นักศึกษา และคนทำงาน