Author: Ngoc Ngo
ความสามารถพิเศษ ภาษาอังกฤษคือวิธีที่คุณแสดงความสามารถและจุดแข็งของคุณอย่างมืออาชีพ ในบทความนี้ ELSA Speak จะแนะนำเกี่ยวกับการใช้คำศัพท์และ 20 ทักษะพิเศษช่วยให้เรซูเม่ของคุณน่าประทับใจมากขึ้นในการสัมภาษณ์
ความสามารถพิเศษ ภาษาอังกฤษคืออะไร?
ความสามารถพิเศษคือพรสวรรค์หรือความสามารถที่โดดเด่นซึ่งบุคคลสามารถนำไปใช้เพื่อประสบความสำเร็จในการศึกษา การทำงาน หรือชีวิตประจำวัน ด้านล่างนี้เป็นตารางคำศัพท์ มีความหมายว่าความสามารถ (ใน) ภาษาอังกฤษ เพื่อช่วยให้คุณแนะนําตัว ความสามารถพิเศษ ภาษาอังกฤษได้อย่างถูกต้อง:
คำศัพท์ | คำอ่าน | ความหมาย | ตัวอย่าง |
Talented | /ˈtæl.ən.tɪd/ | มีพรสวรรค์ | She is talented in painting. (เธอมีพรสวรรค์ด้านการวาดภาพ) |
Skilled | /skɪld/ | มีทักษะ | He is skilled at solving problems. (เขามีทักษะในการแก้ไขปัญหา) |
Gifted | /ˈɡɪf.tɪd/ | มีความสามารถพิเศษ | He is a gifted musician. (เขาเป็นนักดนตรีที่มีความสามารถพิเศษ) |
Exceptional | /ɪkˈsep.ʃən.əl/ | ยอดเยี่ยม | She has exceptional leadership abilities. (เธอมีความสามารถในการเป็นผู้นำที่ยอดเยี่ยม) |
Proficient | /prəˈfɪʃ.ənt/ | คล่องแคล่ว | He is proficient in three languages. (เขาสามารถพูดได้สามภาษาอย่างคล่องแคล่ว) |
Versatile | /ˈvɜː.sə.taɪl/ | มีความสามารถหลากหลาย อเนกประสงค์ | She is a versatile performer. (เธอเป็นนักแสดงที่มีความสามารถหลากหลาย) |

ความแตกต่างระหว่าง Talented และ Skilled
เมื่ออธิบายความสามารถของบุคคลในภาษาอังกฤษ คำว่า Talented และ Skilled มักถูกใช้บ่อย แต่ทั้งสองคำนี้มีความหมายที่แตกต่างกันอย่างสำคัญ
คำศัพท์ | คำอ่าน | ความหมาย | วิธีใช้ | ตัวอย่าง |
Talented | /ˈtæl.ən.tɪd/ | มีความสามารถเกิดเองโดยธรรมชาติ ไม่จำเป็นต้องฝึกฝนมาก | ใช้เพื่อบรรยายความสามารถโดยธรรมชาติโดยเฉพาะด้านศิลปะ ดนตรี กีฬา | She is a talented pianist who started playing at the age of three. (เธอเป็นนักเปียโนที่มีพรสวรรค์ซึ่งเริ่มเล่นตั้งแต่อายุ 3 ขวบ) |
Skilled | /skɪld/ | มีความสามารถสูงผ่านการฝึกฝนและประสบการณ์ | ใช้เพื่ออธิบายถึงบุคคลที่ฝึกฝนทักษะจนชำนาญหลังจากเรียนหรือทำงาน | He is a skilled programmer with five years of experience. (เขาเป็นโปรแกรมเมอร์ที่มีทักษะสูงมากโดยมีประสบการณ์ 5 ปี.) |
ข้อสังเกต:
เลือกคำให้เหมาะสมกับบริบทเพื่อหลีกเลี่ยงความสับสนความสามารถพิเศษ ตัวอย่าง เช่นมีพรสวรรค์ใช้ talented และใช้ skilled เพื่อเน้นความสามารถที่ได้เรียนรู้มา เพิ่มวลีหรือบริบทเพิ่มเติมเพื่อให้ประโยคชัดเจนยิ่งขึ้น เมื่อเขียนหรือพูด ให้เน้นย้ำความสามารถของคุณในการสร้างความประทับใจให้ผู้ฟังหรือผู้อ่านอย่างมั่นใจ

รวบรวม 20 ความสามารถในภาษาอังกฤษ
คุณสามารถอ้างอิงทักษะ ต่างๆ ภาษา อังกฤษเพื่อสร้างความประทับใจสำหรับ skill ใน resume ของตัวเองได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอย่าลืมเรียนรู้ทักษะต่างๆ ภาษาอังกฤษเสมอเพื่อเพิ่มคุณค่าในตัวเองทั้งในการทำงานและในชีวิต
ทักษะด้านภาษา – Language Skills
ความสามารถทางภาษาอังกฤษหรือภาษาอื่น ๆ ถือเป็นปัจจัยสำคัญประการหนึ่งที่บริษัทต่าง ๆ ให้ความสำคัญเมื่อรับสมัครพนักงาน ในบริบทของโลกาภิวัตน์และการบูรณาการทางเศรษฐกิจ การรู้สองภาษาหรือมากกว่านั้น จะทำให้ผู้สมัครมีความได้เปรียบในการแข่งขันเป็นอย่างมาก
- จัดลำดับความสำคัญ เริ่มจากภาษาที่คุณเก่งมากที่สุด
- ใช้ infographic เพื่อแสดงระดับความคล่องแคล่วในแต่ละภาษา (การฟัง การพูด การอ่าน การเขียน)
- ระบุใบรับรองหากมี เช่น:
- ภาษาอังกฤษ: IELTS 7.5, TOEIC 900
- ภาษาญี่ปุ่น: JLPT N2
- ภาษาเกาหลี: TOPIK 5

ทักษะการใช้คอมพิวเตอร์ – Computer Skills
ในสภาพแวดล้อมการทำงานที่ทันสมัย ทักษะคอมพิวเตอร์แทบจะถือเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับพนักงานออฟฟิศ ความเชี่ยวชาญในซอฟต์แวร์ทั่วไป จะช่วยให้ผู้สมัครทำงานได้มีประสิทธิภาพและเป็นมืออาชีพมากขึ้น
ทักษะคอมพิวเตอร์ทั่วไปที่ควรใส่ไว้ในเรซูเม่
- Microsoft Office: Word, Excel, PowerPoint, Access.
- ซอฟต์แวร์ Adobe: Photoshop, Illustrator, Premiere Pro, InDesign.
- ซอฟต์แวร์เฉพาะทาง: AutoCAD, SAP, SQL, Python (ขึ้นอยู่กับสาขา).

ทักษะระหว่างบุคคล – People Skills
ทักษะการสื่อสารและการทำงานเป็นทีมเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ผู้สมัครบูรณาการได้อย่างรวดเร็วและปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงาน นี่เป็นทักษะที่นายจ้างให้ความสำคัญอย่างยิ่ง เมื่อคัดเลือกผู้สมัครเข้าทำงานในสภาพแวดล้อมการทำงานร่วมกัน
ทักษะระหว่างบุคคลที่สำคัญ
- Strong communication skills: สื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ ถ่ายทอดอย่างชัดเจน
- Active listening skills: รับฟังอย่างตั้งใจและเข้าใจผู้อื่น
- Empathy: เห็นอกเห็นใจเพื่อนร่วมงานและลูกค้า
- Conflict resolution skills: แก้ไขข้อขัดแย้งอย่างมืออาชีพ
- Teamwork: การทำงานเป็นทีมอย่างมีประสิทธิภาพ

ทักษะการจัดการ – Management Skills
ทักษะการจัดการไม่เพียงแต่สำคัญสำหรับผู้จัดการเท่านั้น แต่ยังมีประโยชน์สำหรับพนักงานทุกระดับอีกด้วย ซึ่งจะช่วยให้คุณจัดระเบียบงานของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น มั่นใจได้ถึงความก้าวหน้า และปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงาน
ทักษะกาจัดการที่สำคัญ
- Leadership:ความสามารถในการเป็นผู้นำและชี้แนะทีมงาน
- Critical thinking: การคิดอย่างมีวิจารณญาณเพื่อการตัดสินใจที่ถูกต้องแม่นยำ
- Planning & Organizing: วางแผนและจัดระเบียบการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ
- Delegation skills: แบ่งงานกันภายในกลุ่มอย่างสมเหตุสมผล
- Problem-solving skills: แก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

ทักษะการบริการลูกค้า – Customer Service Skills
การบริการลูกค้าเป็นปัจจัยสำคัญในการช่วยให้ธุรกิจสร้างแบรนด์และรักษาลูกค้าไว้ หากคุณมีทักษะนี้ ให้รวมไว้ในเรซูเม่ เพื่อแสดงให้เห็นว่าคุณสามารถมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าได้อย่างไร
ทักษะที่สำคัญในการบริการลูกค้า
- Patience: อดทนและใจเย็นเมื่อต้องจัดการกับลูกค้าที่ยาก
- Persuasive speaking skills: ทักษะในการโน้มน้าวใจลูกค้า
- Problem-solving skills: ทักษะการแก้ปัญหาที่ยืดหยุ่น
- Ability to read customer needs: รับรู้ถึงความต้องการของลูกค้า
- Positive attitude: มีทัศนคติเชิงบวกในการทำงานอยู่เสมอ

ทักษะการทำงานเป็นทีม – Teamwork Skills
ทักษะการทำงานเป็นทีม คือความสามารถในการทำงานร่วมกับผู้อื่นในกลุ่มได้อย่างมีประสิทธิภาพ บริษัทหลายแห่งให้ความสำคัญอย่างมากกับความสามารถนี้ เนื่องจากต้องการบุคลากรที่สามารถเข้ากับเพื่อนร่วมงานได้ดีและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ทักษะนี้รักษาสภาพแวดล้อมการทำงานที่เป็นมิตรและมีประสิทธิผลสูง
ทักษะบางประการเกี่ยวกับการทำงานเป็นทีม:
- Effective Communication Skills: ความสามารถในการสื่อสารกับทีมอย่างมีประสิทธิผลและชัดเจน
- Conflict Management Skills: ความสามารถจัดการและแก้ไขข้อขัดแย้งได้อย่างมืออาชีพและสร้างสรรค์

>>>Read more: 100 บทเรียนฝึกฟังภาษาอังกฤษ ตั้งแต่พื้นฐานจนถึงขั้นสูง เพื่อช่วยให้คุณ “อัพเกรด” ความเข้าใจในการฟังภาษาอังกฤษ
ทักษะการจัดการอารมณ์ – Emotional Skills
ทักษะการจัดการอารมณ์ คือ ความสามารถในการควบคุมและจัดการอารมณ์ในสถานการณ์ที่กดดัน โดยเฉพาะเมื่อรู้สึกโกรธหรือผิดหวัง ทักษะเหล่านี้มีความสำคัญในการรักษาความสัมพันธ์เชิงบวกและหลีกเลี่ยงความเครียดทางอารมณ์ที่อาจส่งผลต่อการทำงานและความสัมพันธ์ต่างๆ
ทักษะการจัดการอารมณ์ที่สำคัญ:
- Positive Thinking Skills: ความสามารถในการรักษาทัศนคติเชิงบวกในสถานการณ์ที่ยากลำบาก
- Self-management: ความสามารถในการควบคุมอารมณ์และพฤติกรรมของตนเอง
- Self-awareness: ความสามารถในการรับรู้และเข้าใจอารมณ์ของตนเอง

ทักษะการแก้ไขปัญหา – Problem-Solving Skills
ทักษะการแก้ไขปัญหาคือความสามารถในการเผชิญกับปัญหาและค้นหาวิธีแก้ไขที่มีประสิทธิผล ทักษะเหล่านี้มีความสำคัญในการทำงาน เนื่องจากช่วยให้คุณจัดการกับความท้าทายที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ในสภาพแวดล้อมการทำงาน
ทักษะที่จำเป็นในการแก้ไขปัญหา:
- Analytical Skills: ความสามารถในการวิเคราะห์และประเมินปัญหาอย่างมีตรรกะ
- Adaptability Skills: ความสามารถในการปรับตัวเข้ากับสถานการณ์และการเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ
- Flexibility Skills: ความสามารถในการมีความยืดหยุ่นและค้นหาวิธีการแก้ปัญหาทางเลือกเมื่อจำเป็น

ทักษะทางสังคม – Social Skills
ทักษะทางสังคมคือความสามารถในการโต้ตอบกับผู้อื่นอย่างมีประสิทธิผลผ่านการสื่อสาร ภาษากาย และการแสดงออกภายนอก ทักษะทางสังคมมีความสำคัญในการสร้างความสัมพันธ์และความเชื่อมโยง ช่วยให้คุณสร้างความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งในการทำงานและชีวิตส่วนตัวของคุณ
ทักษะทางสังคมที่จำเป็น:
- Empathy: ความสามารถในการเข้าใจและเห็นอกเห็นใจผู้อื่น
- Active Listening: ความสามารถในการฟังอย่างตั้งใจ
- Respect: การเคารพผู้อื่น
- Sharing: ความสามารถในการแบ่งปันและทำงานร่วมกับเพื่อนร่วมงาน
- Cooperation: ความสามารถในการทำงานร่วมกันและสนับสนุนซึ่งกันและกัน
- Common Courtesy: มีมารยาทและมีจริยธรรมในการเข้าสังคม

ทักษะด้านบัญชี – Accountant Skills
สำหรับงานบัญชี การแสดงทักษะเฉพาะตัวของคุณจะช่วยสร้างความประทับใจให้กับนายจ้างได้ นี่คือทักษะพื้นฐานและขั้นสูงที่นักบัญชีต้องมี:
- Attention to details (ความสามารถในการใส่ใจรายละเอียด): ทักษะที่สำคัญในการตรวจสอบตัวเลขและเอกสารทางบัญชีอย่างรอบคอบ
- Critical thinking (การคิดอย่างมีวิจารณญาณ) : วิเคราะห์และประเมินสถานการณ์ทางการเงินอย่างมีเหตุผล
- Effective communication(ทักษะการสื่อสารที่มีประสิทธิผล) : ความสามารถในการตีความและสื่อสารข้อมูลทางการบัญชีให้กับฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
- Understanding of financial reporting (GAAP) (ความเข้าใจเกี่ยวกับการรายงานทางการเงินตามหลัก GAAP): ความรู้เกี่ยวกับหลักการบัญชีที่ยอมรับโดยทั่วไป
- Tax understanding (ความรู้ด้านภาษี) : ความรู้และความสามารถในการใช้กฎหมายภาษี
- Forecasting budgets (การพยากรณ์งบประมาณ) : ความสามารถในการวางแผนและพยากรณ์การเงินได้อย่างแม่นยำ
- Managing vendor accounts (การจัดการบัญชีซัพพลายเออร์): จัดการการชำระเงินและธุรกรรมกับซัพพลายเออร์
- Data analysis software (การใช้ซอฟต์แวร์วิเคราะห์ข้อมูล) : ทักษะการใช้เครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูล เช่น Excel, QuickBooks
- QuickBooks (การใช้ QuickBooks): ทักษะการใช้ซอฟต์แวร์บัญชี QuickBooks
- Microsoft Excel (การใช้ Excel): เชี่ยวชาญการใช้ Excel ในการประมวลผลข้อมูลและสร้างรายงานทางการเงิน

ทักษะการพัฒนาเว็บไซต์ – Website Developer Skills
อุตสาหกรรมการพัฒนาเว็บต้องการให้ผู้คนเรียนรู้และคุ้นเคยกับเครื่องมือและภาษาการเขียนโปรแกรมใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง ทักษะพิเศษเหล่านี้จะช่วยให้คุณสร้างความประทับใจกับนายจ้าง:
- HTML/CSS skills (ทักษะ HTML/CSS): ทักษะการออกแบบอินเทอร์เฟซเว็บขั้นพื้นฐาน
- JavaScript skills (ทักษะ JavaScript): ทักษะการเขียนโปรแกรมสำหรับฟีเจอร์แบบโต้ตอบบนเว็บไซต์
- Analytical skills (ทักษะการวิเคราะห์) : ความสามารถในการวิเคราะห์และแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
- Responsive design skills (ทักษะการออกแบบที่ตอบสนอง): ออกแบบอินเทอร์เฟซเว็บไซต์ที่ยืดหยุ่นซึ่งแสดงผลได้ดีบนอุปกรณ์ต่างๆ
- Interpersonal skills (ทักษะการสื่อสาร) : ความสามารถในการทำงานเป็นทีมและการสื่อสารกับลูกค้า
- Testing and debugging skills (ทักษะการทดสอบและแก้ไขข้อผิดพลาด) : ทดสอบและแก้ไขข้อผิดพลาดในโค้ดต้นฉบับของเว็บไซต์
- Search engine optimization (SEO) (การเพิ่มประสิทธิภาพเครื่องมือค้นหา) : ทักษะในการเพิ่มประสิทธิภาพเว็บไซต์เพื่อเพิ่มอันดับในเครื่องมือค้นหา
- WordPress skill (ทักษะ WordPress): เชี่ยวชาญการใช้แพลตฟอร์มการจัดการเนื้อหา WordPress เพื่อพัฒนาเว็บไซต์

>>>Read more: 200+ ศัพท์ภาษาอังกฤษในการทํางานที่ใช้บ่อยที่สุด
ทักษะการออกแบบกราฟิก – Graphic Designer Skills
นักออกแบบกราฟิกไม่เพียงแต่ต้องมีความคิดสร้างสรรค์เท่านั้น แต่ยังต้องมีความเชี่ยวชาญในเครื่องมือการออกแบบระดับมืออาชีพด้วย ต่อไปนี้เป็นทักษะที่สำคัญ:
- Die-Cut Skills (ทักษะการไดคัท): ความสามารถในการตัดลวดลายได้อย่างแม่นยำ
- Pen Tools Skills (ทักษะการใช้เครื่องมือปากกา):ทักษะการใช้เครื่องมือปากกาเพื่อสร้างเส้นและรูปภาพที่มีรายละเอียด
- Perceptivity (ความสามารถในการรับรู้):ความสามารถในการระบุและเข้าใจความต้องการของลูกค้า
- Visually Representing Ideas(การถ่ายทอดความคิดผ่านภาพ) : ทักษะในการถ่ายทอดความคิดผ่านภาพอย่างสร้างสรรค์
- Sketching (การร่างภาพ): ทักษะการร่างภาพเพื่อพัฒนาไอเดียการออกแบบ
- Adobe Creative Suite (ทักษะการใช้ Adobe Creative Suite): เชี่ยวชาญซอฟต์แวร์ Adobe เช่น Photoshop, Illustrator, InDesign เป็นต้น
- Adobe Flash (ทักษะการใช้ Adobe Flash): ทักษะการออกแบบโมชั่นกราฟิกและแอนิเมชั่นด้วย Adobe Flash
- Adobe Illustrator (ทักษะการใช้ Adobe Illustrator): เชี่ยวชาญซอฟต์แวร์การออกแบบ vector
- Adobe InDesign (ทักษะการใช้ Adobe InDesign): ทักษะการออกแบบเค้าโครงสำหรับหนังสือ นิตยสาร และสื่อสิ่งพิมพ์
- Adobe Photoshop (ทักษะการใช้ Adobe Photoshop): มีความชำนาญในการใช้ซอฟต์แวร์แต่งรูปภาพ
- Dreamweaver (ทักษะการใช้ Dreamweaver): ทักษะการใช้เครื่องมือพัฒนาเว็บและการออกแบบอินเทอร์เฟซ
- CSS/HTML (CSS/HTML): ความสามารถในการใช้ CSS และ HTML ในการออกแบบเว็บไซต์
- Photo Editing Infographics (การแก้ไขภาพถ่ายและอินโฟกราฟิก) : ทักษะการสร้างและแก้ไขอินโฟกราฟิก
- Digital Printing (การพิมพ์ดิจิตอล) : ความเข้าใจเกี่ยวกับเทคนิคการพิมพ์ดิจิตอล
- Estimating Costs (การประมาณต้นทุน) : ทักษะในการประมาณต้นทุนของโครงการออกแบบ
- Illustration (ภาพประกอบ) : ความสามารถในการสร้างภาพประกอบ
- DSLR Cameras (กล้อง DSLR): ทักษะการใช้กล้อง DSLR เพื่อถ่ายภาพคุณภาพสูง

ทักษะด้านการขาย – Salesperson Skills
ด้านล่างเป็นทักษะที่สำคัญที่จะช่วยให้พนักงานขายประสบความสำเร็จในงานขาย:
- Active listening skill (ทักษะการฟังอย่างใกล้ชิด): ความสามารถในการฟังและเข้าใจความต้องการของลูกค้า
- Effective communication skill (ทักษะการสื่อสารที่มีประสิทธิผล) : ความสามารถในการถ่ายทอดข้อมูลอย่างชัดเจนและน่าเชื่อถือ
- Integrity (ความซื่อสัตย์) : ทำงานอย่างโปร่งใสและซื่อสัตย์กับลูกค้า
- Interpersonal Skills (ทักษะการทำงานร่วมกันผู้อื่น): ความสามารถในการสร้างและรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า
- Positive Thinking Skill (ทักษะการคิดเชิงบวก) : รักษาทัศนคติที่มองโลกในแง่ดีและมุ่งเน้นการแก้ปัญหาในทุกสถานการณ์
- Strategic Prospecting Skills (ทักษะการค้นหาลูกค้ากลยุทธ์): ทักษะในการเข้าถึงลูกค้าได้อย่างมีศักยภาพ
- Demo Skills (ทักษะการนำเสนอ) : ความสามารถในการนำเสนอผลิตภัณฑ์/บริการในรูปแบบที่ดึงดูดใจ
- Post-Sale Relationship Management (การบริหารความสัมพันธ์หลังการขาย): รักษาการติดต่อและการดูแลลูกค้าหลังจากเสร็จสิ้นธุรกรรม

ทักษะการสอน – Teacher Skills
นอกเหนือจากความรู้ทางวิชาชีพแล้ว ครูยังต้องมีความสามารถด้านอื่นๆ อีกมากเพื่อให้สามารถสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิผล:
- Communication skill (ทักษะการสื่อสาร) : ความสามารถในการสื่อสารความคิดและข้อมูลได้อย่างชัดเจน
- Multitasking skill (ทักษะการทำงานที่หลากหลาย) : จัดการงานหลายๆ งานในเวลาเดียวกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- Creativity Skill (ทักษะความคิดสร้างสรรค์) : ความสามารถในการพัฒนาวิธีการสอนที่สร้างสรรค์
- Emotional intelligence skills (ทักษะความฉลาดทางอารมณ์): ความสามารถในการระบุและจัดการอารมณ์ของตนเองและนักเรียน
- Patience (ความอดทน) : อดทนและพากเพียรเมื่อทำงานกับนักเรียน
- Critical thinking skill (ทักษะการคิดเชิงวิพากษ์):พัฒนาความสามารถในการวิเคราะห์และประเมินปัญหาอย่างลึกซึ้ง
- Sense of humor (อารมณ์ขัน) : สร้างบรรยากาศการเรียนรู้ที่สนุกสนานและสบายใจ
- Technological skills (ทักษะเทคโนโลยี) : การใช้เทคโนโลยีเพื่อยกระดับคุณภาพการสอน
- Imaginative thinking skill (ทักษะการคิดสร้างสรรค์) : ความสามารถในการคิดหาวิธีการสอนใหม่ๆ
- Time management skill (ทักษะการบริหารเวลา) : บริหารเวลาการสอนและกิจกรรมการเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ทักษะการเขียนอย่างเป็นทางการ – Formal Writing Skills
ทักษะการเขียน (Writing skills) คือความสามารถในการใช้ภาษาเขียน เพื่อถ่ายทอดข้อมูล ในการทำงาน ทักษะการเขียนมีรูปแบบที่แตกต่างกันมาก ขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ในการใช้งาน นี่คือทักษะการเขียนเฉพาะบางอย่าง:
- เขียนบล็อก (Blog writing)
- Viết bài đánh giá (การเขียนบทวิจารณ์)
- เขียนอีเมล์อย่างมืออาชีพ (Write professional email)
- เขียนคำติชมลูกค้า (Write customer feedback)
- Copywriting skill (ทักษะการเขียนบทโฆษณา)
- การเขียนโฆษณา (Advertising writing)
- การเขียนบท (Script writing)

ทักษะการออกแบบ UX/UI – UX/UI Skills
ทักษะการออกแบบ UI/UX เป็นทักษะเฉพาะทางสำหรับนักออกแบบอินเทอร์เฟซผู้ใช้ ช่วยสร้างประสบการณ์ผู้ใช้ที่ดีที่สุดเมื่อใช้ผลิตภัณฑ์ งานนี้ต้องการผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีและศิลปะ ต่อไปนี้เป็นทักษะที่สำคัญบางประการในสาขา UI/UX:
- Analytical skills: ทักษะการวิเคราะห์
- Collaborative skills: ทักษะการทำงานเป็นทีม
- UI prototyping: ทักษะการสร้างต้นแบบอินเทอร์เฟซ
- Curiosity: ความอยากรู้อยากเห็น การสำรวจเพื่อค้นหาการออกแบบที่ดีกว่า

ทักษะการจัดการข้อมูล – Data Management
ทักษะการจัดการข้อมูลนั้นเกี่ยวข้องกับนักวิทยาศาสตร์ข้อมูล (Data Scientist) หรือผู้วิเคราะห์ข้อมูล (Data Analyst) เป็นหลัก งานนี้ต้องการรวบรวม การจำแนก และการประมวลผลข้อมูลที่มีประสิทธิภาพ ทักษะที่สำคัญในการจัดการข้อมูล ได้แก่:
- Project management skills: ทักษะการจัดการโครงการ
- Customer service skills: ทักษะการบริการลูกค้า
- Data analysis skill: ทักษะการวิเคราะห์ข้อมูล
ซอฟต์แวร์สนับสนุนการจัดการข้อมูล:
- Python
- MemSQL
- Microsoft
- Oracle

ทักษะการใช้ซอฟต์แวร์สนับสนุนการทำงาน – Productivity Software
Productivity Software ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน รองรับการบริหารจัดการการทำงานที่มีประสิทธิผลมากขึ้น และลดข้อผิดพลาดในการสื่อสาร ความชำนาญในซอฟต์แวร์เหล่านี้จะช่วยให้คุณทำงานเป็นทีมได้ดีขึ้นและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน
ซอฟต์แวร์ยอดนิยมบางตัว:
- Evernote
- Trello
- Samepage
- Slack
- Teamwork
- Zoho

ทักษะการวิเคราะห์ทางธุรกิจ – Business Analysis
ทักษะการวิเคราะห์ทางธุรกิจ (Business Analysis) ช่วยคาดการณ์และวางแผนแผนยุทธศาสตร์ทางธุรกิจ ถือเป็นทักษะที่สำคัญสำหรับผู้จัดการ ผู้ประกอบการ และผู้บริหาร ทักษะที่สำคัญในการวิเคราะห์ธุรกิจ ได้แก่:
- Critical thinking skills: ทักษะการคิดเชิงวิพากษ์
- Presentation skills: ทักษะการนำเสนอ
- Organizational skills: ทักษะจัดกิจกรรมและการจัดการ

ทักษะการสื่อสาร – Communication Skills
ทักษะการสื่อสารคือความสามารถในการถ่ายทอดข้อมูลอย่างชัดเจนและมีประสิทธิภาพ ช่วยให้คุณสามารถเชื่อมต่อกับผู้อื่นในการทำงานและในชีวิตได้ บุคคลที่มีทักษะการสื่อสารที่ดีไม่เพียงแต่รู้วิธีการพูดเท่านั้น แต่ยังรู้วิธีการฟัง ทำความเข้าใจ และแสดงข้อมูลได้อย่างถูกต้องอีกด้วย

ทักษะการสื่อสารที่จำเป็นต้องมี:
- Active Listening Skills: ความสามารถในการฟังอย่างกระตือรือร้น ใส่ใจต่อข้อมูลที่ผู้อื่นแบ่งปัน และสามารถตอบสนองได้อย่างเหมาะสม
- Creative Writing Skills: ความสามารถในการเขียนอย่างสร้างสรรค์และสื่อสารแนวคิดได้อย่างชัดเจนผ่านเอกสารที่เป็นลายลักษณ์อักษร
- Speak Confident and Articulate: ความสามารถพูดได้อย่างมั่นใจ ชัดเจน และเข้าใจง่าย
- Persuasive Speaker: ความสามารถในการโน้มน้าวผู้อื่นโดยการพูดและการใช้เหตุผลที่หนักแน่น
- Public Speaking Skills: ความสามารถในการพูดต่อที่สาธารณะอย่างมั่นใจและดึงความสนใจของผู้ฟังได้
- Excellent Presentation Skills: ความสามารถในการนำเสนอและแนะนำแนวคิดในรูปแบบที่น่าสนใจและเป็นมืออาชีพ
- Negotiation Skills: ความสามารถในการเจรจาต่อรองอย่างมีประสิทธิผล เพื่อให้บรรลุข้อตกลงที่ดีกับทุกฝ่าย

วลีและวิธีการแสดงออกทักษะ การ ทํา งาน ภาษา อังกฤษ
ในการอธิบายทักษะ การ ทํา งาน ภาษา อังกฤษแบบมืออาชีพ คุณจำเป็นต้องรู้วิธีการใช้วลีและสำนวนที่เหมาะสมสำหรับแต่ละบริบท ด้านล่างนี้เป็นคำศัพท์และวลีทั่วไปที่จะช่วยให้คุณแสดงทักษะและความสามารถของคุณในสถานการณ์ต่างๆ เช่น การสื่อสาร การทำงานเป็นทีม ความเป็นผู้นำ หรือการใช้เทคโนโลยี
วลี | ความหมาย | ตัวอย่าง |
Effective communicator | นักสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ | I am an effective communicator who ensures clarity in team discussions. (ฉันเป็นนักสื่อสารที่มีประสิทธิภาพซึ่งทำให้การสนทนาเป็นทีมมีความชัดเจน) |
Excellent verbal and written skills | ทักษะการพูดและการเขียนที่ยอดเยี่ยม | I have excellent verbal and written skills, enabling me to prepare detailed reports and presentations. (ฉันมีทักษะการพูดและการเขียนที่ยอดเยี่ยม ช่วยให้ฉันสามารถเตรียมรายงานและการนำเสนอโดยละเอียดได้) |
Strong presentation abilities | ความสามารถในการนำเสนอที่แข็งแกร่ง | My strong presentation abilities helped me deliver ideas to over 100 attendees at a seminar. (ทักษะการนำเสนอที่แข็งแกร่งของฉันช่วยให้ฉันนำเสนอแนวคิดของฉันต่อผู้เข้าร่วมการประชุมมากกว่า 100 คน) |
Proficient in public speaking | มีทักษะในการพูดในที่สาธารณะ | I am proficient in public speaking and have confidently presented at large events. (ฉันมีทักษะการพูดในที่สาธารณะเป็นอย่างดี และนำเสนองานสำคัญๆ ได้อย่างมั่นใจ) |
Active listening skills | ทักษะการฟังอย่างใกล้ชิด | My active listening skills enable me to understand client needs effectively. (ทักษะการฟังอย่างใกล้ชิดช่วยให้ฉันเข้าใจความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ) |
Team player | ผู้เล่นในทีมที่มีประสิทธิภาพ | I am a team player who consistently supports teammates to meet deadlines. (ฉันเป็นผู้เล่นในทีมที่มีประสิทธิภาพโดยสนับสนุนเพื่อนร่วมทีมให้ทำงานโครงการเสร็จตรงเวลาอยู่เสมอ) |
Collaborative mindset | ชุดความคิดเชิงร่วมมือ | I have a collaborative mindset that allows me to work seamlessly with other departments to improve processes. (ฉันมีชุดความคิดเชิงร่วมมือ ซึ่งช่วยให้ฉันทำงานร่วมกับแผนกอื่นๆ เพื่อปรับปรุงกระบวนการต่างๆ ได้อย่างราบรื่น) |
Ability to build relationships | ความสามารถในการสร้างความสัมพันธ์ | My ability to build relationships has expanded our business network significantly. (ความสามารถในการสร้างความสัมพันธ์ทำให้เครือข่ายธุรกิจของฉันขยายกว้างขึ้นอย่างมาก) |
Leadership skills | ทักษะความเป็นผู้นำ | My leadership skills enabled my team to exceed revenue targets by 20%. (ทักษะความเป็นผู้นำของฉันช่วยให้ทีมทำรายได้เกินเป้าหมายถึง 20%) |
Strategic thinking | การคิดเชิงกลยุทธ์ | Strategic thinking helped me create long-term plans for revenue growth. (การคิดเชิงกลยุทธ์ช่วยให้ฉันสร้างแผนระยะยาวสำหรับการเติบโตของรายได้) |
Proficient in [specific software/tools] | เชี่ยวชาญในการใช้ซอฟต์แวร์/เครื่องมือเฉพาะ | Proficient in project management tools such as Trello and Asana. (เชี่ยวชาญในเครื่องมือการจัดการโครงการเช่น Trello และ Asana) |
Analytical thinker | นักคิดเชิงวิเคราะห์ | As an analytical thinker, I analyzed big data to identify market trends. (ในฐานะนักคิดเชิงวิเคราะห์ ฉันวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่เพื่อระบุแนวโน้มของตลาด) |
Problem-solving expertise | ความเชี่ยวชาญในการแก้ปัญหา | My problem-solving expertise helped resolve internal crises quickly and effectively. (ความเชี่ยวชาญในการแก้ปัญหาของฉันช่วยให้จัดการกับวิกฤตภายในได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ) |
Creative and innovative solutions | สร้างสรรค์และนวัตกรรม | I proposed creative and innovative marketing ideas that increased revenue by 30%. (.ฉันเสนอไอเดียการตลาดที่สร้างสรรค์และนวัตกรรมซึ่งทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้น 30%) |

คำถามที่พบบ่อย
เพื่อให้เข้าใจถึงการอธิบายทักษะ การ ทํา งาน ภาษา อังกฤษได้ดียิ่งขึ้น ต่อไปนี้เป็นคำถามที่พบบ่อยและคำตอบโดยละเอียด
ความสามารถพิเศษ ภาษาอังกฤษคืออะไร
ความสามารถพิเศษ ภาษาอังกฤษมักได้เรียกว่า special abilities หรือ talents ความสามารถพิเศษคือทักษะหรือความสามารถที่โดดเด่นที่บุคคลมีที่ช่วยให้พวกเขาโดดเด่นในสาขาใดสาขาหนึ่ง
skills ที่พบบ่อยใน resume เป็นภาษาอังกฤษ
ทักษะ การ ทํา งาน ภาษา อังกฤษที่คุณสามารถรวมไว้ในเรซูเม่ของคุณได้:
- ทักษะด้านภาษา – Language Skills
- ทักษะการใช้คอมพิวเตอร์ – Computer Skills
- ทักษะระหว่างบุคคล – People Skills
- ทักษะการจัดการ – Management Skills
- ทักษะการบริการลูกค้า – Customer Service Skills
- ทักษะการทำงานเป็นทีม – Teamwork Skills
- ทักษะการจัดการอารมณ์ – Emotional Skills
- ทักษะการแก้ไขปัญหา – Problem-Solving Skills
- ทักษะทางสังคม – Social Skills
- ทักษะด้านบัญชี – Accountant Skills
- ทักษะการพัฒนาเว็บไซต์ – Website Developer Skills
- ทักษะการออกแบบกราฟิก – Graphic Designer Skills
- ทักษะด้านการขาย – Salesperson Skills
- ทักษะการสอน – Teacher Skills
- ทักษะการเขียนอย่างเป็นทางการ – Formal Writing Skills
- ทักษะการออกแบบ UX/UI – UX/UI Skills
- ทักษะการจัดการข้อมูล – Data Management
- ทักษะการใช้ซอฟต์แวร์สนับสนุนการทำงาน – Productivity Software
- ทักษะการวิเคราะห์ทางธุรกิจ – Business Analysis
เมื่อเขียนเรซูเม่ ควรแน่ใจว่าได้ระบุทักษะที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับตำแหน่งงานที่คุณกำลังสมัคร เพื่อให้เกิดความประทับใจมากขึ้น

ความสามารถพิเศษ ภาษาอังกฤษไม่เพียงแต่ช่วยให้คุณมีความมั่นใจในการสื่อสารมากขึ้นเท่านั้น แต่ยังเปิดโอกาสมากมายสำหรับการเรียนและการทำงานอีกด้วย ELSA Speak หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจวิธีแสดงความสามารถพิเศษของคุณเป็นภาษาอังกฤษได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่าลังเลที่จะสมัครแพ็คเกจ Premium ของ ELSA Speak ที่มาพร้อมฟีเจอร์อัพเกรดใหม่ในราคาเดียวกันเพื่อเรียนรู้ภาษาอังกฤษได้ทันที
Punctuationเป็นองค์ประกอบสำคัญในประโยคและคำพูดในทุกภาษา การใช้เครื่องหมายวรรคตอนที่ถูกต้องก็มีความสำคัญเช่นกัน หากคุณต้องการสร้างความประทับใจให้กับผู้อ่านผ่านงานเขียนของคุณและอยากรู้ว่า punctuation มีอะไรบ้าง เครื่องหมายวรรคตอนในภาษาอังกฤษเขียนและใช้อย่างไร มาเรียนรู้กับ ELSA Speak ในบทความนี้กันนะ
punctuation (เครื่องหมายวรรคตอน) คืออะไร?
punctuation แปลว่าอะไร เครื่องหมายวรรคตอนในภาษาอังกฤษก็คือ punctuation อ่านว่า /ˌpʌŋk.tʃuˈeɪ.ʃən/.
เครื่องหมายวรรคตอนใช้ในประโยค เช่น (.), (,), (?),…. ตามพจนานุกรม Oxford punctuation เป็นสัญลักษณ์ที่ใช้ในข้อความเพื่อแบ่งประโยคและวลี โดยเฉพาะอย่างยิ่งเครื่องหมายวรรคตอนมักใช้เพื่อแบ่งประโยคตามโครงสร้างทางไวยากรณ์และขยายความหมายให้กับประโยค
เมื่อเขียนหรือพูดภาษาอังกฤษ การใช้เครื่องหมายวรรคตอนไม่เพียงแต่ช่วยกำหนดโครงสร้างของประโยคเท่านั้น แต่ยังช่วยชี้นำข้อความอีกด้วย ซึ่งช่วยชี้แจงจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดของประโยค ทำให้ให้ผู้อ่านหรือผู้ฟังเข้าใจความตั้งใจของผู้เขียนหรือผู้พูดได้อย่างง่ายดายเครื่องหมายวรรคตอนแต่ละอันมีหน้าที่แตกต่างกันไป ช่วยให้ผู้ที่ถ่ายทอดข้อความสามารถแสดงข้อความได้อย่างถูกต้องและสอดคล้องกัน
เครื่องหมายวรรคตอนที่ใช้บ่อยในภาษาอังกฤษ?
เครื่องหมายมหัพภาค (Dot or Full stop หรือว่า full stop dot)
punctuation marks คืออะไร punctuation marks แปลว่าอะไร และมีความหมายอย่างไร? เรามาดูตารางดังต่อไปนี้
วิธีเขียน: .

ความหมาย | punctuation การใช้ | punctuation ตัวอย่างประโยค |
จบประโยคให้สมบูรณ์ | ใช้สำหรับจบประโยคที่สมบูรณ์ ซึ่งมีทั้งประธานและภาคแสดงครบถ้วน | I am going to go to the museum tomorrow. (ฉันจะไปพิพิธภัณฑ์ในวันพรุ่งนี้) |
หลังตัวย่อ | ใช้หลังชื่อบุคคล สถานที่ บริษัท หรือชื่อเฉพาะที่เป็นตัวย่อในภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน | Mr. Frank. (คุณ Frank.) |
จุดทศนิยม | ใช้เพื่อระบุจุดทศนิยมในตัวเลข | $19.99 |
เครื่องหมายจุลภาค (Comma) หรือ Comma stop
วิธีเขียน: ,

เครื่องหมายจุลภาค (,) เป็นเครื่องหมายวรรคตอนในภาษาอังกฤษที่มีหน้าที่ต่างกัน
ความหมาย | punctuation การใช้ | punctuation ตัวอย่างประโยค |
ใช้ระบุรายการ | ใช้สำหรับระบุส่วนประกอบในรายการ | I need 3 eggs, 2 bananas and a glass of milk. (ฉันต้องการไข่ 3 ฟอง กล้วย 2 ลูก และนม 1 แก้ว) |
แยกประโยคหลักออกจากประโยคอื่น | ใช้เพื่อแยกประโยคหลักหรือประโยคที่เชื่อมต่อกันด้วยคำเชื่อม เช่น ‘but’, ‘and’, ‘so’…” | I am tired, so I will go to bed early. (ฉันเหนื่อย ดังนั้นฉันจะเข้านอนแต่หัวค่ำ) |
ใช้ในบทสนทนาโดยตรง | ใช้ในกลุ่มคำขึ้นต้นของคำพูดโดยตรง | My mother said, I should drink more water. (แม่ของฉันบอกว่าฉันควรดื่มน้ำให้มากขึ้น) |
แยกประโยคย่อยหรือวลีคำบุพบทที่ยาวออก | ใช้เพื่อแยกประโยคย่อยและกลุ่มคำบุพบทที่ยาวออก | According to the weather forecast, the tropical storm is coming. (ตามการพยากรณ์อากาศ พายุโซนร้อนกำลังเคลื่อนเข้ามา) |
แยกคำนาม วลีคำนาม หรือประโยคสัมพันธ์ที่ไม่ระบุเฉพาะเจาะจง | ใช้เพื่อแยกส่วนประกอบในประโยค โดยเฉพาะประโยคสัมพันธ์ที่ไม่ระบุเฉพาะเจาะจง | Bill Gates, the richest man in the world, comes from Seattle. (บิล เกตส์ ผู้ชายที่รวยที่สุดในโลกมาจากรัฐซีแอตเทิล) |
การแบ่งหน่วยในคณิตศาสตร์ | ใช้เพื่อแยกหลักล้าน หลักพัน และหลักร้อยในตัวเลข | 1,234,567,890 (หนึ่งพันสองร้อยสามสิบสี่ล้าน ห้าแสนหกหมื่นเจ็ดพันแปดร้อยเก้าสิบ |
เครื่องหมายคำถาม (Question mark)
วิธีเขียน: ?

ความหมาย | punctuation การใช้ | punctuation ตัวอย่างประโยค |
ประโยคคำถาม | จะใช้ในตอนท้ายของประโยคคำถาม | How long have you left this town? (คุณออกจากเมืองนี้มานานเท่าไรแล้ว?)What are you doing? (คุณกำลังทำอะไร?) |
เครื่องหมายอัศเจรีย์ (Exclamation mark)
เครื่องหมายอัศเจรีย์ (!) ใช้ในตอนท้ายของประโยคเพื่อแสดงความประหลาดใจ มีความสุข หรือเมื่อผู้เขียนอยากเน้นย้ำความคิด อย่างไรก็ตามในการเขียน มักใช้เครื่องหมายอัศเจรีย์ไม่มากนัก
ความหมาย | punctuation การใช้ | punctuation ตัวอย่างประโยค |
เน้นย้ำคำพูดหรือคำสั่ง | ใช้เพื่อเน้นประโยค ให้คำสั่งหนักแน่น | Get out of my room! (ออกไปจากห้องของฉัน!) |
แสดงถึงความโกรธ ความประหลาดใจ หรืออารมณ์ด้านลบ | ใช้เพื่อแสดงความโกรธ ความประหลาดใจ หรืออารมณ์ด้านลบ | Stop annoying here! (หยุดทำตัวน่ารำคาญสักที!) |
ใช้ร่วมกับเครื่องหมายคำถาม | เครื่องหมายคำถามสามารถนำมาใช้เพื่อแสดงอารมณ์ในการเขียนแบบไม่เป็นทางการได้ | What happened? Stop making noise in class! (เกิดอะไรขึ้น? อย่าส่งเสียงดังในห้องเรียนอีกนะ) |
เน้นคำในประโยค | สามารถใส่ในวงเล็บเพื่อเน้นคำใดคำหนึ่งในประโยคได้ | She finally admitted that the task was impossible! (ในที่สุดเธอก็ยอมรับว่าภารกิจนั้นมันเป็นไปไม่ได้!) |
ทำเสียงหรือการเลียนแบบ | ใช้ในคำที่แสดงเสียงหรือการเลียนแบบ | Haizzz! I feel so tired. (ฉันรู้สึกเหนื่อยมาก) |
การละไว้ (Ellipsis)
วิธีเขียน: …
ความหมาย | punctuation การใช้ | punctuation ตัวอย่างประโยค |
ใช้กับประโยคที่ยาวหรือใช้แทนคำที่ถูกตัดออก | ใช้เมื่อประโยคยาวเกินไป หรือใช้แทนคำ/ประโยคที่ถูกตัดออกในประโยค | The conference covered various topics such as artificial intelligence, machine learning, data science, blockchain, cybersecurity, robotics, … and many more. (การประชุมกล่าวถึงหัวข้อต่าง ๆ มากมาย เช่น ปัญญาประดิษฐ์การเรียนรู้ของเครื่องจักร วิทยาศาสตร์ข้อมูล บล็อกเชน ความปลอดภัยทางไซเบอร์ หุ่นยนต์ … และอื่นๆ อีกมากมาย) |
เครื่องหมายทวิภาค (Colon) หรือ Colon Mark
วิธีเขียน: :

ความหมาย (punctuation meaning) | punctuation การใช้ | punctuation ตัวอย่างประโยค |
เปิดรายการแนะนำ | ใช้เพื่อเริ่มต้นแนะนำรายการหัวข้อต่าง ๆ | What you need: a blindfold, an open space and 5 players or more. (สิ่งที่คุณต้องมี: ผ้าปิดตา พื้นที่กว้าง และผู้เล่น 5 คนขึ้นไป) |
เริ่มต้นบทสนทนาโดยตรง | ใช้เพื่อเริ่มต้นบทสนทนาโดยตรง คล้ายกับเครื่องหมายจุลภาค | He announced to his friends: I’m going to study abroad! (เขาประกาศกับเพื่อน ๆของเขาว่า ฉันจะไปเรียนต่อต่างประเทศ) |
แนะนำเพื่ออธิบายหรือให้ข้อมูล | ใช้เพื่อแนะนำคำอธิบายหรือให้ข้อมูลโดยละเอียด | There was a problem with my car: it ran out of fuel. (รถของฉันมีปัญหาคือน้ำมันหมด) |
ใช้เพื่อแยกหน่วยเวลา | ใช้เพื่อแยกหน่วยเวลา (ชั่วโมง, นาที, วัน, เดือน เป็นต้น) | The lesson will start at 07:00 a.m. (บทเรียนจะเริ่มเวลา 07:00 น.) |
ใช้เพื่อแนะนำเนื้อหาย่อยในหัวข้อหรือหัวเรื่อง | ใช้ระหว่างหัวข้อหรือหัวเรื่องเพื่อแนะนำเนื้อหาที่ละเอียดขึ้น | Punctuation: Semicolon (เครื่องหมายวรรคตอน: เครื่องหมายจุดคู่) |

เครื่องหมายอัฒภาค (Semicolon)
หน้าที่ของเครื่องหมายอัฒภาค (;) คือการเชื่อมโยงประโยคหลักสองประโยคในประโยคเดียวกัน
ความหมาย | punctuation การใช้ | punctuation ตัวอย่างประโยค |
แยกประโยคอิสระสองประโยค | ใช้เพื่อแยกประโยคอิสระสองประโยคในประโยคเดียวกัน โดยเฉพาะเมื่อมีความเกี่ยวข้องกัน | John loves studying; he can’t get enough at school. (จอห์นรักการเรียนมาก เขาเรียนที่โรงเรียนไม่เคยพอ) |
แยกกลุ่มคำสองกลุ่มที่มีเครื่องหมายจุลภาค | ใช้เพื่อแยกกลุ่มคำที่มีเครื่องหมายจุลภาค ซึ่งช่วยทำให้ความหมายในประโยคชัดเจนขึ้น | They plan to study English, for their travels; digital marketing, for their work; and history, for their own enjoyment. (พวกเขามีแผนที่จะเรียนภาษาอังกฤษเพื่อเดินทาง เรียนการตลาดดิจิทัลเพื่อใช้ในการทำงาน และศึกษาประวัติศาสตร์เพื่อสนองความชอบของตัวเอง) |
เครื่องหมายยัติภังค์ (Hyphen)
เครื่องหมายยัติภังค์ (-) มีประโยชน์หลากหลายในการเขียน เช่น
ความหมาย | punctuation การใช้ | punctuation ตัวอย่างประโยค |
เพิ่มคำต่อหน้าคำ | ใช้เพื่อเชื่อมคำต่อหน้ากับคำเดิม เพื่อสร้างคำใหม่ | John is her ex-boyfriend. (จอห์นคือแฟนเก่าของเขา) |
สร้างคำผสม | ใช้เพื่อสร้างคำผสมจากหน่วยคำเล็ก ๆ ช่วยให้การแสดงความหมายชัดเจนยิ่งขึ้น | Will you live in a hi-tech house in the future? (คุณจะอาศัยอยู่ในบ้านไฮเทคในอนาคตไหม?) |
เขียนตัวเลขด้วยคำ | ใช้เพื่อเขียนตัวเลขเป็นคำเมื่อเป็นตัวเลขที่มีหลายหลัก | There are fifty-two students in my class. (ห้องเรียนของฉันมีนักเรียนห้าสิบสองคน) |
แบ่งคำออกเป็นสองบรรทัด | ใช้เพื่อแบ่งคำออกเป็นสองบรรทัดเมื่อคำนั้นยาวเกินไปไม่สามารถเขียนทั้งหมดในบรรทัดเดียวได้ | No matter what he tried, he just couldn’t get the novel’s elec-trifying surprise ending out of his head. (ไม่ว่าจะพยายามแค่ไหน เขาก็ยังไม่สามารถลืมตอนจบที่เต็มไปด้วยความเซอร์ไพรส์และน่าสนใจของนิยายเล่มนั้นได้) |
เครื่องหมายคำพูด (Double quotation marks)
วิธีเขียน: “ ”

ความหมาย | punctuation การใช้ | punctuation ตัวอย่างประโยค |
การอ้างอิงตรง | ใช้เพื่ออ้างคำพูดหรือคำกล่าวโดยตรงจากหนังสือ, หนังสือพิมพ์ หรือบุคคลอื่น | The famous quote is, “It is never too late to be what you might have been.” (คำคมที่มีชื่อเสียงนี้คือ: “มันไม่เคยสายเกินไปที่จะเป็นคนที่คุณต้องการเป็น”) |
เครื่องหมายอะพอสทรอฟี (Apostrophes)
วิธีเขียน: ‘
ความหมาย | punctuation การใช้ | punctuation ตัวอย่างประโยค |
แสดงความเป็นเจ้าของ | ใช้เพื่อแสดงความเป็นเจ้าของในคำต่าง ๆ เช่น “John’s book” (หนังสือของจอห์น) | This is Sarah’s bag (นี่คือกระเป๋าของซาร่าห์) |
ทำเครื่องหมายตัวอักษรที่ขาดหายไป | ใช้เพื่อแทนที่ตัวอักษรที่หายไปในคำย่อ | You shouldn’t wear that shirt. It’s cold out there. (คุณไม่ควรใส่เสื้อตัวนั้น อากาศข้างนอกหนาวมากนะ) |
วงเล็บ (Parentheses or round brackets)
วิธีเขียน: ()

ความหมาย | punctuation การใช้ | punctuation ตัวอย่างประโยค |
ชี้แจงข้อมูลให้ชัดเจน | ใช้เพื่ออธิบายหรือชี้แจงคำ วลี หรือข้อมูลในประโยค | UNESCO (United Nations Educational Scientific and Cultural Organization) is one of the major professional organizations of the United Nations. UNESCO ยูเนสโก (องค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ) เป็นหนึ่งในองค์กรวิชาชีพหลักของสหประชาชาติ |
แสดงความคิดหลังการกระทำ | ใช้เพื่อแสดงความคิดหรือข้อมูลเพิ่มเติมหลังจากการกระทำที่เกิดขึ้นแล้ว | You will need a flashlight for the camping trip (don’t forget the batteries!). คุณจะต้องใช้ไฟฉายสำหรับการตั้งแคมป์ (อย่าลืมนำถ่านไปด้วย!) |
ความคิดเห็นส่วนตัว | ใช้เพื่อเพิ่มความคิดเห็นส่วนตัวหรือมุมมองส่วนตัว | Most TV programmes are just for fun, not for study (I disagree). ส่วนใหญ่รายการโทรทัศน์ทำเพื่อความบันเทิง ไม่ใช่เพื่อการเรียนรู้ (ฉันไม่เห็นด้วย) |
วงเล็บปีกกา (Square brackets)
วิธีเขียน: [ ]
ความหมาย | punctuation การใช้ | punctuation ตัวอย่างประโยค |
ให้ข้อมูลเสริม | ใช้เพื่อให้ข้อมูลเสริมหรืออธิบายเพิ่มเติมสำหรับข้อความก่อนหน้า | [Nguyen Du] was recognized as “World Cultural Celebrity” by UNESCO. [Nguyen Du] ได้รับการยอมรับจากยูเนสโกเป็น “บุคคลสำคัญทางวัฒนธรรมของโลก |

punctuation exercise (แบบฝึกหัดที่ใช้เครื่องหมายวรรคตอน)
ใช้เครื่องหมายวรรคตอนที่กล่าวถึงข้างต้นเติมในช่องว่างในประโยคต่อไปนี้ (บางช่องอาจไม่ต้องใช้เครื่องหมายวรรคตอน):
- In my opinion __ parents are responsible for teaching their children values like kindness __and compassion.
- More than one__third of household __expenditure in Japan was on housing
- Scientists have been warning us about the effects of climate change for years yet __many people have chosen not to listen
- Immigration isn’t a black and white issue __it’s actually much more complicated than most people think.
- William Shakespeare __1564__1616__is the most popular British writer in the world.
- When faced with difficult situations, people always have two choices __ run away or fight.
- Elderly people teach us values __traditions __and how to deal with life experiences.
- The Internet is a growing market for advertisers__More people each and every year get their news from the Internet.
- At this stage of the process__colours are added__and the pots are then fired for the second time in another kiln to become fully shaped__coloured ceramic pots.
- Save energy__turn off lights and TVS when you’re not using them and recycle more rubbish__for example__glass__paper__plastic__ are the best way to protect our environment.
เฉลย
- In my opinion, parents are responsible for teaching their children values like kindness, and compassion.
- More than one–third of household expenditure in Japan was on housing.
- Scientists have been warning us about the effects of climate change for years, yet many people have chosen not to listen.
- Immigration isn’t a black and white issue; it’s actually much more complicated than most people think.
- William Shakespeare (1564 – 1616) is the most popular British writer in the world.
- When faced with difficult situations, people always have two choices: run away or fight.
- Elderly people teach us values, traditions, and how to deal with life experiences.
- The Internet is a growing market for advertisers: More people each and every year get their news from the Internet.
- At this stage of the process, colours are added, and the pots are then fired for the second time in another kiln to become fully shaped, colored ceramic pots.
- Save energy-turn off lights and TVS when you’re not using them and recycle more rubbish (for example: glass, paper, plastic,…) are the best way to protect our environment.

ข้อควรรู้เมื่อใช้เครื่องหมายวรรคตอนในภาษาอังกฤษ
ต่อไปนี้ มาร่วมสำรวจข้อควรรู้เกี่ยวกับเครื่องหมายวรรคตอนกับ ELSA Speak กันนะ
- ในภาษาอังกฤษแบบอังกฤษ มักจะไม่มีเครื่องหมายจุลภาคก่อนคำว่า and แต่ในภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน มักจะใช้เครื่องหมายจุลภาคก่อนคำว่า and
- ตำแหน่งของเครื่องหมายวรรคตอนก่อนหรือหลังเครื่องหมายอัญประกาศนั้นแตกต่างกัน
- เครื่องหมายอัฒภาค (;) และเครื่องหมายจุดคู่ (:) จะอยู่ นอกเครื่องหมายอัญประกาศเสมอ เช่น “like so”;
- ตำแหน่งของจุด (.) และเครื่องหมายจุลภาค (,) ภายในเครื่องหมายอัญประกาศในภาษาอังกฤษแบบอเมริกันและอังกฤษมีความแตกต่างกัน โดยในภาษาอังกฤษแบบอเมริกันให้วางจุดและจุลภาคไว้ด้านในเครื่องหมายอัญประกาศเสมอ ส่วนภาษาอังกฤษแบบอังกฤษให้วางด้านนอก เครื่องหมายอัญประกาศเสมอ
Example: “like so.” อังกฤษแบบอเมริกัน
“like so”. อังกฤษแบบอังกฤษ
- แม้ว่าเครื่องหมายขีดกลางและวงเล็บจะมีการใช้งานที่คล้ายกัน แต่วงเล็บจะแสดง “การอธิบายเพิ่มเติม” ได้ชัดเจนกว่าเครื่องหมายขีดกลาง
- ควรใช้เครื่องหมายอัญประกาศเมื่อจำเป็น
- การใช้เครื่องหมายคำถามและเครื่องหมายอัศเจรีย์จะแตกต่างกันไปตามบริบท หากทั้งประโยคเป็นคำถามและข้อความที่อ้างอิงเป็นคำหรือวลีที่อยู่ท้ายประโยค เครื่องหมายคำถามจะอยู่นอก เครื่องหมายอัญประกาศ แต่หากทั้งประโยคเป็นประโยคบอกเล่าและข้อความที่อ้างอิงเป็นคำถาม เครื่องหมายคำถามจะอยู่ในเครื่องหมายอัญประกาศ
- ในการเขียนอย่างเป็นทางการ ควรหลีกเลี่ยงการใช้เครื่องหมายคำถามและเครื่องหมายอัศเจรีย์ โดยควรใช้ประโยคบอกเล่าและโครงสร้างประโยคพิเศษแทน
- เช่นเดียวกับเครื่องหมายคำถามและเครื่องหมายอัศเจรีย์ เครื่องหมายขีดกลางก็มักจะไม่ค่อยถูกใช้ในสำนวนการเขียนที่เป็นทางการและการเขียนทั่วไป อย่างไรก็ตาม สามารถใช้วงเล็บหรือเครื่องหมายจุลภาคแทนได้
- แม้ว่าเครื่องหมายขีดกลางและวงเล็บจะมีการใช้งานที่คล้ายกัน แต่วงเล็บจะแสดงความหมายในเชิง “คำอธิบายเพิ่มเติม” ที่ชัดเจนและเน้นย้ำมากกว่าเครื่องหมายขีดกลาง
- ควรใส่เครื่องหมายอัญประกาศเมื่อต้องการอ้างอิงข้อความ
Example: Do you like to watch “The Office”? (คุณชอบดู “The Office” ไหมคะ?)
- คุณสามารถใช้เครื่องหมายขีดกลางสั้นแทนการใช้เครื่องหมายขีดเชื่อมเมื่อสร้างคำนามประสม
Example: Paris-New York route. (ถนนสาย Paris-New York)
- เครื่องหมายขีดกลางสั้นยังถูกใช้ระหว่างตัวเลข เช่น หมายเลขหน้า หรือปี เพื่อแสดงช่วงของตัวเลข
Example: A discussion on personal finance is found on pages 45-62. (สามารถพบการอภิปรายเกี่ยวกับการเงินส่วนบุคคลได้ในหน้าที่ 45-62)
- ในการเขียนไม่ควรเขียนประโยคที่ยาวเกิน 20 คำ หากคุณพบว่าประโยคดูยืดยาวเกินไป ควรหาวิธีเพิ่มเครื่องหมายวรรคตอนหนึ่งหรือสองจุด หรือแยกเป็นประโยคย่อย ๆ เพื่อให้ข้อความชัดเจน กระชับ อ่านแล้วสบายตา เข้าใจง่าย และไม่ทำให้ผู้อ่านสับสน

ดังนั้น การใช้เครื่องหมายวรรคตอนอย่างถูกต้องและยืดหยุ่นในการเขียนภาษาอังกฤษ คุณจำเป็นต้องเข้าใจลักษณะและวิธีการใช้เครื่องหมายวรรคตอนแต่ละประเภทอย่างชัดเจน หวังว่าบทความจาก ELSA Speak จะช่วยให้คุณมีความรู้ที่มากขึ้นเกี่ยวกับเครื่องหมายวรรคตอนและการใช้งานให้เหมาะสมกับแต่ละสถานการณ์
IELTS vocabulary เป็นรากฐานที่สำคัญสำหรับทักษะทั้ง 4 ทักษะ: การฟัง การพูด การอ่าน และการเขียน ในการสอบ IELTS กับ ELSA Speak คุณไม่เพียงแต่เรียนรู้คำศัพท์ตามหัวข้อเท่านั้น แต่ยังได้ฝึกการออกเสียงที่ถูกต้อง ซึ่งช่วยพัฒนาทักษะการพูดให้มีประสิทธิภาพ ในขณะเดียวกัน
รายการคำศัพท์ IELTS ตามหัวข้อ
การเรียนรู้คำศัพท์ IELTS ตามหัวข้อจะช่วยให้คุณนำไปใช้ในบริบทเฉพาะของข้อสอบได้อย่างง่ายดาย ต่อไปนี้เป็นหัวข้อคําศัพท์ที่พบบ่อยในข้อสอบ IELTS:
หัวข้อ Education
คำศัพท์เกี่ยวกับการศึกษา สถานศึกษา และประเด็นวิชาการ (Pollution, Conservation, Sustainability, Deforestation, Biodiversity)
คําศัพท์ | ชนิดของคํา | วิธีออกเสียง | ความหมาย |
Academic | คําคุณศัพท์ | /ˌækəˈdɛmɪk/ | เชิงวิชาการ |
Academic achievement | คำนาม | /ˌækəˈdɛmɪk əˈʧiːvmənt/ | ผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษา |
Academic calendar | คำนาม | /ˌækəˈdɛmɪk ˈkæləndər/ | ปฏิทินการศึกษา |
Active learning | คำนาม | /ˈæktɪv ˈlɜːrnɪŋ/ | การเรียนแบบมีส่วนร่วม |
Art | คำนาม | /ɑːrt/ | ศิลปะ |
Assessment | คำนาม | /əˈsɛsmənt/ | การประเมินค่า |
Assignment | คำนาม | /əˈsaɪnmənt/ | งาน |
Biology | คำนาม | /baɪˈɒlədʒi/ | ชีววิทยา |
Boarding school | คำนาม | /ˈbɔːrdɪŋ skul/ | โรงเรียนประจำ |
Chemistry | คำนาม | /ˈkɛmɪstri/ | วิชาเคมี |
Civic education | คำนาม | /ˈsɪvəl ˌɛdʒʊˈkeɪʃən/ | การศึกษาเพื่อสร้างความเป็นพลเมือง |
Classroom | คำนาม | /ˈklæsrum/ | ห้องเรียน |
Classroom behavior | คำนาม | /klæsrum bɪˈheɪvjər/ | พฤติกรรมในห้องเรียน |
Classroom management | คำนาม | /klæsrum ˈmænɪʤmənt/ | การจัดการห้องเรียน |
College | คำนาม | /ˈkɒlɪʤ/ | วิทยาลัย |
Cooperative learning | คำนาม | /koʊˈɑpərətɪv ˈlɜːrnɪŋ/ | การจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ |
Critical thinking | คำนาม | /ˈkrɪtɪkəl ˈθɪŋkɪŋ/ | การคิดเชิงวิพากษ์ |
Curriculum | คำนาม | /kəˈrɪkjələm/ | หลักสูตร |
Degree | คำนาม | /dɪˈɡriː/ | ปริญญา (ปริญญาตรี/ปริญญาโท) |
Diploma | คำนาม | /dɪˈploʊmə/ | อนุปริญญา |
Discipline | คำนาม | /ˈdɪsəplɪn/ | การลงโทษ |
Distance education | คำนาม | /ˈdɪstəns ˌɛdʒʊˈkeɪʃən/ | การศึกษาทางไกล |
Drop-out | คำนาม | /ˈdraʊˌpɑʊt/ | การถอนออกกลางคัน |
Drop-out rate | คำนาม | /ˈdraʊˌpɑʊt reɪt/ | อัตราการออกกลางคัน |
E-learning | คำนาม | /ˈiːˌlɜrnɪŋ/ | การเรียนรู้แบบออนไลน์ |
Educational institution | คำนาม | /ˌɛdʒʊˈkeɪʃənəl ˌɪnstəˈtuːʃən/ | สถาบันการศึกษา |
Educational psychology | คำนาม | /ˌɛdʒʊˈkeɪʃənəl saɪˈkɒləʤi/ | จิตวิทยาการศึกษา |
Educational technology | คำนาม | /ˌɛdʒʊˈkeɪʃənəl tɛkˈnɒləʤi/ | เทคโนโลยีทางการศึกษา |
English | คำนาม | /ˈɪŋɡlɪʃ/ | ภาษาอังกฤษ |
Enroll | คำกริยา | /ɪnˈroʊl/ | สมัคร |
Exam | คำนาม | /ɪɡˈzæm/ | การสอบ |
Extracurricular activities | คำนาม | /ˌɛkstrəkəˈrɪkjʊlər ækˈtɪvɪtiz/ | กิจกรรมเสริมหลักสูตร |
Field trip | คำนาม | /fiːld trɪp/ | การเรียนหรือเก็บข้อมูลนอกสถานที่ |
Geography | คำนาม | /dʒiˈɒɡrəfi/ | ภูมิศาสตร์ |
ตัวอย่าง:
- I want to pursue a degree in psychology. (ฉันอยากเรียนต่อปริญญาตรีทางด้านจิตวิทยา)
- Studying abroad can enhance your educational experience. (การไปศึกษาต่อต่างประเทศสามารถเพิ่มพูนประสบการณ์การศึกษาของคุณได้)
- Many students struggle with math in high school. (นักเรียนหลายคนประสบปัญหาในการเรียนคณิตศาสตร์ในช่วงมัธยมศึกษาตอนปลาย)
- Online courses are becoming increasingly popular among learners. (คอร์สเรียนออนไลน์กําลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในหมู่ผู้เรียน)

หัวข้อ Environment
คำศัพท์เกี่ยวกับมลพิษ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และการอนุรักษ์ธรรมชาติ (Biodiversity, Sustainable development,…)
คําศัพท์ | ชนิดของคํา | วิธีออกเสียง | ความหมาย |
A marine ecosystem | คำนาม | /məˈriːn/ /ˈiː.kəʊˌsɪs.təm/ | ระบบนิเวศทะเล |
Acid deposition | คำนาม | /ˈæs.ɪd, ˌdep.əˈzɪʃ.ən/ | ฝนกรด |
Activated carbon | คำนาม | /ˈæk.tɪ.veɪt, ˈkɑː.bən/ | ถ่านกัมมันต์ |
Air pollution | คำนาม | /ɛr pəˈluːʃən/ | มลพิษทางอากาศ |
Air quality | คำนาม | /ɛr ˈkwɑːləti/ | คุณภาพอากาศ |
Alternatives | คำนาม | /ɒlˈtɜː.nə.tɪv/ | ทางอื่น |
Biodegradable | คําคุณศัพท์ | /ˌbaɪəʊdɪˈɡreɪdəbəl/ | ย่อยสลายทางชีวภาพ |
Biodiversity | คำนาม | /ˌbaɪoʊdɪˈvɜːrsəti/ | ความหลากหลายทางชีวภาพ |
Biofuels | คำนาม | /ˈbaɪoʊˌfyuəlz/ | เชื้อเพลิงชีวภาพ |
Biomass | คำนาม | /ˈbaɪoʊˌmæs/ | ชีวมล |
Carbon emissions | คำนาม | /ˈkɑːrbən ɪˈmɪʃənz/ | การปล่อยก๊าซเรือนกระจก |
Carbon footprint | คำนาม | /ˈkɑːrbən ˈfʊtprɪnt/ | ปริมาณก๊าซเรือนกระจก |
Clean energy | คำนาม | /klin ˈɛnɜrʤi/ | พลังงานสะอาด |
Climate change | คำนาม | /ˈklaɪmət tʃeɪndʒ/ | การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ |
Compostable | คําคุณศัพท์ | /kɒmˈpɒs.tə.bəl/ | สามารถย่อยสลายได้ทางชีวภาพ |
Composting | คำนาม | /ˈkɑːmpɑːstɪŋ/ | การหมักทําปุ๋ย |
Conservation | คำนาม | /ˌkɑːnsərˈveɪʃən/ | การอนุรักษ์ |
Conservation program | คำนาม | /ˌkɑːnsərˈveɪʃən ˈproʊˌɡræm/ | โครงการอนุรักษ์ |
Conservationist | คำนาม | /ˌkɑːnsərˈveɪʃənɪst/ | นักอนุรักษ์ธรรมชาติ |
Contamination | คำนาม | /kənˈtæm.ɪ.neɪt/ | การปนเปื้อน |
Damage | คำนาม | /ˈdæm.ɪdʒ/ | การทําร้าย |
Deforestation | คำนาม | /ˌdiːfɔːrɪˈsteɪʃən/ | การทำลายป่า |
Degrade ecosystems | คํากริยา | /dɪˈɡreɪd , ˈiː.kəʊˌsɪs.təm/ | ทําให้ระบบนิเวศเสื่อมเสีย |
Deplete natural resources | คํากริยา | /dɪˈpliːt/ /ˌnætʃ.ər.əl rɪˈzɔː.sɪz/ | ใช้ทรัพยากรเกินขีดจํากัด |
Desertification | คำนาม | /dɪˌzɜːrtɪfɪˈkeɪʃən/ | การแปรสภาพเป็นทะเลทราย |
Disposable | คําคุณศัพท์ | /dɪˈspəʊ.zə.bəl/ | ซึ่งออกแบบมาให้ใช้แล้วทิ้ง |
Easily recyclable | คําคุณศัพท์ | /ˈiː.zəl.i ; ˌriːˈsaɪ.klə.bəl/ | สามารถนำกลับมาใช้ได้อย่างง่ายดาย |
Ecological balance | คำนาม | /ˌiːkəˈlɑːʤɪkəl ˈbæləns/ | สมดุลของระบบนิเวศ |
Ecological footprint | คำนาม | /ˌiːkəˌlɑːʤɪkəl ˈfʊtprɪnt/ | รอยเท้านิเวศน์ |
Ecosystem | คำนาม | /ˈiːkoʊsɪstəm/ | ระบบนิเวศ |
Ecotourism | คำนาม | /ˈiːkoʊˌtʊrɪzəm/ | การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ |
Efficacious | คําคุณศัพท์ | /ˌef.ɪˈkeɪ.ʃəs/ | ได้ผล |
Efficiency | คำนาม | /ɪˈfɪʃənsi/ | ความได้ผล |
Electricity | คำนาม | /ɪlɛkˈtrɪsɪti/ | ไฟฟ้า |
Emissions | คำนาม | /ɪˈmɪʃənz/ | การแพร่ สิ่งที่ถูกปล่อยหรือแพร่ออกมา |
Endangered | คําคุณศัพท์ | /ɪnˈdeɪn.dʒəd/ | ถูกคุกคาม ใกล้สูญพันธุ์ |
Endangered species | คำนาม | /ɪnˈdeɪnʤərd ˈspiːʃiːz/ | สัตว์ป่าหรือสิ่งมีชีวิตที่ใกล้จะสูญพัน |
Energy | คำนาม | /ˈɛnərdʒi/ | พลังงาน |
Energy conservation | คำนาม | /ˈɛnərdʒi ˌkɒnsərˈveɪʃən/ | การอนุรักษ์พลังงาน |
Energy consumption | คำนาม | /ˈɛnərdʒi kənˈsʌmpʃən/ | การบริโภคพลังงาน |
Energy efficiency | คำนาม | /ˈɛnərdʒi ɪˈfɪʃənsi/ | การใช้พลังงานอย่างรู้คุณค่า |
Energy management | คำนาม | /ˈɛnərdʒi ˈmænɪdʒmənt/ | การจัดการด้านพลังงาน |
Energy policy | คำนาม | /ˈɛnərdʒi ˈpɒləsi/ | นโยบายด้านพลังงาน |
Energy production | คำนาม | /ˈɛnərdʒi prəˈdʌkʃən/ | การผลิตพลังงาน |
Energy sources | คำนาม | /ˈɛnərdʒi ˈsɔːrsɪz/ | แหล่งพลังงาน |
Energy storage | คำนาม | /ˈɛnərdʒi ˈstɔːrɪdʒ/ | การกักเก็บพลังงาน |
Environmental awareness | คำนาม | /ɪnˌvaɪrənˈmɛntəl əˈwɛrˌnəs/ | ความตระหนักด้านสิ่งแวดล้อม |
Environmental education | คำนาม | /ɪnˌvaɪrənˈmɛntəl ˌɛdʒʊˈkeɪʃən/ | การศึกษาสิ่งแวดล้อม |
Environmental impact | คำนาม | /ɪnˌvaɪrənˈmɛntəl ˈɪmpækt/ | ผลกระทบสิ่งแวดล้อม |
Environmental policy | คำนาม | /ɪnˌvaɪrənˈmɛntəl | นโยบายด้านสิ่งแวดล้อม |
ตัวอย่าง:
- We must protect our environment for future generations. (เราต้องปกป้องสิ่งแวดล้อมของเราเพื่อคนรุ่นหลัง)
- Recycling can help reduce waste significantly. (การรีไซเคิลสามารถช่วยลดขยะได้อย่างมาก)
- Climate change is a pressing issue that affects everyone. (การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นปัญหาเร่งด่วนที่ส่งผลกระทบต่อทุกคน)
- Planting trees is essential for maintaining ecological balance. (การปลูกต้นไม้เป็นสิ่งสำคัญเพื่อรักษาสมดุลของระบบนิเวศ)

หัวข้อ Health
คำศัพท์เกี่ยวกับการแพทย์ โภชนาการ และการดูแลสุขภาพ (Diagnosis, Immunization, Prescription, Healthcare system, Wellness)
ด้านล่างนี้เป็นตารางคำศัพท์เกี่ยวกับสุขภาพพร้อมวิธีการออกเสียงและความหมาย:
คําศัพท์ | ชนิดของคํา | วิธีการออกเสียง | ความหมาย |
Acupuncture | คำนาม | /ˈækjupʌŋkʧər/ | การฝังเข็ม |
Aerobics | คำนาม | /ˌɛroʊˈbɪks/ | การออกกำลังที่ช่วยให้หายใจเอาออกซิเจนเข้าสู่ร่างกายได้มากขึ้น / แอโรบิก |
Allergy | คำนาม | /ˈælərʤi/ | อาการแพ้ |
Alternative medicine | คำนาม | /ɔlˈtɜrnətɪv ˈmɛdɪsɪn/ | การแพทย์ทางเลือก |
Anemia | คำนาม | /əˈniːmiə/ | ภาวะโลหิตจาง |
Anesthesia | คำนาม | /ˌænəsˈθiːʒə/ | อาการชา |
Antibiotics | คำนาม | /ˌæntibaɪˈɑːtɪks/ | ยาปฏิชีวนะ |
Anxiety | คำนาม | /æŋˈzaɪəti/ | ความวิตกกังวล |
Asthma | คำนาม | /ˈæzmə/ | โรคหืด |
Balance | คำนาม | /ˈbæləns/ | สมดุล |
Balanced diet | คำนาม | /ˈbælənst ˈdaɪət/ | การรับประทานอาหารที่มีสารอาหารครบถ้วน |
Bandage | คำนาม | /ˈbændɪʤ/ | ผ้าพันแผล |
Blood pressure | คำนาม | /blʌd ˈprɛʃər/ | ความดันโลหิต |
Blood sugar | คำนาม | /blʌd ˈʃʊɡər/ | น้ำตาลในเลือด |
Blood test | คำนาม | /blʌd tɛst/ | การตรวจเลือด |
Bones | คำนาม | /boʊnz/ | กระดูก |
Cancer | คำนาม | /ˈkænsər/ | มะเร็ง |
Cardiovascular | คําคุณศัพท์ | /ˌkɑrdioʊˈvæskjələr/ | เกี่ยวกับหัวใจและหลอดเลือดหัวใจ |
Cardiovascular exercise | คำนาม | /ˌkɑrdioʊˈvæskjələr ˈɛksərsaɪz/ | การออกกำลังกายเพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและกล้ามเนื้อหัวใจ |
Chiropractic | คำนาม | /kaɪroʊˈpræktɪk/ | การบำบัดโรคโดยวิธีการจับกระดูกสันหลัง |
Chiropractor | คำนาม | /ˈkaɪroʊˌpræktər/ | ผู้มีอาชีพเกี่ยวกับการบำบัดโรคด้วยการจับกระดูกสันหลัง |
Cholesterol | คำนาม | /kəˈlɛstərɔːl/ | คอเลสเตอรอล |
Circulatory system | คำนาม | /ˈsɜːrkjələˌtɔːri ˈsɪstəm/ | ระบบไหลเวียนโลหิต |
Cleanliness | คำนาม | /ˈklɛnlɪnəs/ | ความสะอาด |
CT scan (Computed Tomography) | คำนาม | /siːˈtiː skæn/ | การตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ |
Dehydration | คำนาม | /ˌdiːhaɪˈdreɪʃən/ | ภาวะขาดน้ำ |
Depression | คำนาม | /dɪˈprɛʃən/ | ภาวะซึมเศร้า |
Detoxification | คำนาม | /diːˌtɑksɪfɪˈkeɪʃən/ | การล้างพิษ |
Diabetes | คำนาม | /ˌdaɪəˈbiːtiːz/ | โรคเบาหวาน |
Diagnosis | คำนาม | /ˌdaɪəɡˈnoʊsɪs/ | การวินิจฉัย |
Digestive | คําคุณศัพท์ | /daɪˈʤɛstɪv/ | เกี่ยวกับการย่อยอาหาร |
Digestive system | คำนาม | /daɪˈʤɛstɪv ˈsɪstəm/ | ระบบย่อยอาหาร |
Disease | คำนาม | /dɪˈziːz/ | โรค |
Doctor | คำนาม | /ˈdɑːktər/ | หมอ |
Emergency | คำนาม | /ɪˈmɜːrdʒənsi/ | ภาวะฉุกเฉิน |
Emotional well-being | คำนาม | /ɪˈmoʊʃənl wɛlˈbiːɪŋ/ | สุขภาวะทางอารมณ์ |
Endocrine system | คำนาม | /ˈɛndoʊˌkraɪn ˈsɪstəm/ | ระบบต่อมไร้ท่อ |
Exercise | คํากริยา | /ˈɛksərsaɪz/ | ออกกำลังกาย |
Fatigue | คำนาม | /fəˈtiːɡ/ | ความเหนื่อยล้า |
Fever | คำนาม | /ˈfiːvər/ | ไข้ |
First aid | คำนาม | /fɜːrst eɪd/ | การปฐมพยาบาลเบื้องต้น |
Fitness | คำนาม | /ˈfɪtnəs/ | สมรรถภาพทางกาย |
Flexibility | คำนาม | /ˌflɛksəˈbɪləti/ | ความยืดหยุ่น |
Fracture | คำนาม | /ˈfræktʃər/ | กระดูกหัก |
Headache | คำนาม | /ˈhɛˌdeɪk/ | ปวดหัว |
Health | คำนาม | /hɛlθ/ | สุขภาพ |
Health insurance | คำนาม | /hɛlθ ɪnˈʃʊrəns/ | ประกันสุขภาพ |
Health screening | คำนาม | /hɛlθ ˈskrinɪŋ/ | การตรวจคัดโรค |
Healthy eating | คำนาม | /ˈhɛlθi ˈiːtɪŋ/ | การทานอาหารเพื่อสุขภาพ |
Healthy lifestyle | คำนาม | /ˈhɛlθi ˈlaɪfstaɪl/ | วิถีชีวิตเพื่อสุขภาพ |
Heart | คำนาม | /hɑːrt/ | หัวใจ |
Heart attack | คำนาม | /hɑːrt əˈtæk/ | อาการหัวใจวาย |
Heart rate | คำนาม | /hɑːrt reɪt/ | อัตราการเต้นของหัวใจ |
Herbal medicine | คำนาม | /ˈhɜːrbəl ˈmɛdɪsən/ | ยาสมุนไพร |
Herbal remedies | คำนาม | /ˈhɜrbəl ˈrɛmɪdiz/ | การรักษาด้วยสมุนไพร |
High blood pressure | คำนาม | /haɪ blʌd ˈprɛʃər/ | ความดันโลหิตสูง |
Homeopathy | คำนาม | /hoʊmiˈɑpəθi/ | ความเชื่อที่ว่ายาที่ใช้รักษาโรคสามารถทำให้เกิดอาการเดียวกันของโรคถ้าให้ในปริมาณน้อยที่สุดแก่ผู้ที่ไม่เป็นโรคนั้น |
Hospital | คำนาม | /ˈhɑːspɪtl/ | โรงพยาบาล |
Hydration | คำนาม | /haɪˈdreɪʃən/ | การเติมน้ำ |
Hygiene | คำนาม | /ˈhaɪˌdʒin/ | สุขอนามัย |
Hypertension | คำนาม | /ˌhaɪpərˈtɛnʃən/ | ความดันโลหิตสูง |
Illness | คำนาม | /ˈɪlnəs/ | การเจ็บป่วย |
ตัวอย่าง:
- Eating a balanced diet is crucial for good health. (การรับประทานอาหารที่มีสารอาหารครบถ้วนเป็นสิ่งสำคัญต่อสุขภาพที่ดี)
- Regular exercise can improve your mental health. (การออกกำลังกายสม่ำเสมอสามารถฟื้นฟูสุขภาพจิตของคุณได้)
- It’s important to get enough sleep every night. (การนอนหลับให้เพียงพอทุกคืนถือเป็นเรื่องสำคัญ)
- Vaccination can prevent many serious diseases. (การฉีดวัคซีนสามารถป้องกันโรคร้ายแรงหลายชนิดได้)

หัวข้อ Family
คำศัพท์เกี่ยวกับโครงสร้างครอบครัว ความสัมพันธ์ระหว่างสมาชิกในครอบครัว และบทบาทของครอบครัว
(Parenthood, Sibling rivalry, Marriage, Divorce, Extended family)
คําศัพท์ | ชนิดของคํา | วิธีการออกเสียง | ความหมาย |
Abuse | คำนาม | /əˈbjuːs/ | การข่มเหง |
Addiction | คำนาม | /əˈdɪkʃən/ | การเสพติด |
Adoption | คำนาม | /əˈdɑpʃən/ | การรับเลี้ยงบุตรบุญธรรม |
Affection | คำนาม | /əˈfɛkʃən/ | ความรักและความพึงใจ |
Anger | คำนาม | /æŋɡər/ | ความโกรธ |
Aunt | คำนาม | /ænt/ | ป้า/อาผู้หญิง/น้าผู้หญิง |
Blended family | คำนาม | /blɛndɪd ˈfæməli/ | ครอบครัวผสม |
Blended family challenges | คำนาม | /blɛndɪd ˈfæməli ˈʧælɪnʤɪz/ | ความท้าทายของครอบครัวผสม |
Bond | คำนาม | /bɒnd/ | ความผูกพัน |
Boundary setter | คำนาม | /baʊndəri ˈsɛtər/ | ผู้กำหนดขอบเขต |
Breadwinner | คำนาม | /brɛdˌwɪnər/ | ผู้หาเลี้ยงครอบครัว |
Brother-in-law | คำนาม | /brʌðər ɪn lɔ/ | พี่/น้องเขย |
Caregiver | คำนาม | /kɛrˌɡɪvər/ | ผู้ดูแล |
Caring | คําคุณศัพท์ | /kɛrɪŋ/ | ที่ห่วงใยผู้อื่น |
Children | คำนาม | /tʃɪldrən/ | บุตร |
Co-dependency | คำนาม | /koʊ-dɪˈpɛndənsi/ | การพึ่งพาอาศัยกัน |
Communication | คำนาม | /kəˌmjunɪˈkeɪʃən/ | การสื่อสาร |
Conflict | คำนาม | /kɒnflɪkt/ | ขัดแย้ง |
Connection | คำนาม | /kəˈnɛkʃən/ | การเชื่อมต่อ |
Control | คำนาม | /kənˈtroʊl/ | การควบคุม |
Cousins | คำนาม | /kʌzənz/ | ลูกพี่ลูกน้อง |
Cultural clashes | คำนาม | /kʌlʧərəl ˈklæʃɪz/ | การปะทะทางวัฒนธรรม |
Cultural differences | คำนาม | /kʌlʧərəl ˈdɪfərənsɪz/ | ความแตกต่างทางวัฒนธรรม |
Daughter | คำนาม | /dɔtər/ | ลูกสาว |
Disciplinarian | คำนาม | /dɪˌsɪplɪˈnɛəriən/ | นักวินัย |
Disrespect | คำนาม | /dɪsˈrɛspɛkt/ | การไม่เคารพ |
Divorce | คำนาม | /dɪˈvɔːrs/ | การหย่า |
Dysfunction | คำนาม | /dɪsˈfʌŋkʃən/ | ความผิดปกติ |
Emotional distance | คำนาม | /ɪˈmoʊʃənəl ˈdɪstəns/ | ระยะห่างทางอารมณ์ |
Emotional manipulation | คำนาม | /ɪˈmoʊʃənəl məˌnɪpjʊˈleɪʃən/ | การชักจูงทางจิตวิทยา |
Emotional support | คำนาม | /ɪˈmoʊʃənəl səˈpɔːrt/ | การสนับสนุนทางด้านอารมณ์ |
Empathy | คำนาม | /ɛmpəθi/ | ความเข้าอกเข้าใจ |
Encourager | คำนาม | /ɪnˈkɜːrɪdʒər/ | ผู้ให้กำลังใจ |
Estrangement | คำนาม | /ɪsˈtreɪndʒmənt/ | ความแปลกแยก |
Extended family | คำนาม | /ɪkˈstɛndɪd ˈfæməli/ | ครอบครัวขยาย |
Family | คำนาม | /fæməli/ | ครอบครัว |
Family values | คำนาม | /fæməli ˈvælˌjuz/ | คุณค่าของครอบครัว |
Fatherhood | คำนาม | /fɑðərˌhʊd/ | ความเป็นพ่อ |
Favoritism | คำนาม | /feɪvərɪˌtɪzəm/ | ความลำเอียง |
Financial dependency | คำนาม | /faɪˈnænʃəl dɪˈpɛndənsi/ | การพึ่งพาทางการเงิน |
Financial issues | คำนาม | /faɪˈnænʃəl ˈɪʃuːz/ | ปัญหาทางการเงิน |
Financial support | คำนาม | /faɪˈnænʃəl səˈpɔːrt/ | การสนับสนุนทางการเงิน |
Generation gap | คำนาม | /ʤɛnəˈreɪʃən ɡæp/ | ช่องว่างระหว่างวัย |
Generations | คำนาม | /dʒɛnəˈreɪʃənz/ | รุ่นต่อรุ่น |
Grandchildren | คำนาม | /ɡrændˌtʃɪldrən/ | หลาน |
Grandparents | คำนาม | /ɡrændˌpɛrənts/ | ปู่ย่าตายาย |
Guardian | คำนาม | /ɡɑːrdiən/ | ผู้ปกครอง |
Guidance | คำนาม | /ɡaɪdns/ | การให้คำแนะนำ |
Harmony | คำนาม | /hɑrməni/ | ความสามัคคี |
High expectations | คำนาม | /haɪ ˌɛkspɛkˈteɪʃənz/ | ความคาดหวังสูง |
Home | คำนาม | /hoʊm/ | บ้าน |
Homemaker | คำนาม | /hoʊmˌmeɪkər/ | แม่บ้าน |
In-law | คำนาม | /ɪnˈlɔz/ | ญาติทางสะใภ้ |
Incompatibility | คำนาม | /ɪnkəmˌpætəˈbɪlɪti/ | ความไม่เข้ากัน |
Inequality | คำนาม | /ɪnɪˈkwɒləti/ | ความไม่เท่าเทียมกัน |
Infidelity | คำนาม | /ɪnˈfɪdəlɪti/ | การนอกใจ |
Inherited family conflicts | คำนาม | /ɪnˈhɛrɪtɪd ˈfæməli ˈkɒnflɪkts/ | ความขัดแย้งในครอบครัวที่ได้รับมรดก |
Intimacy | คำนาม | /ɪntəməsi/ | ความใกล้ชิด |
Jealousy | คำนาม | /ʤɛləsi/ | ความอิจฉา |
Kinship | คำนาม | /kɪnʃɪp/ | ความเป็นเครือญาติ |
Lack of appreciation | คำนาม | /læk əv əˌpriːʃiˈeɪʃən/ | การขาดความชื่นชม |
ตัวอย่าง:
- Family gatherings are always a time for celebration. (การรวมตัวกันของครอบครัวเป็นช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลองเสมอ)
- I value the time I spend with my family. (ฉันให้ความสำคัญกับเวลาที่ใช้ร่วมกับครอบครัว)
- Communication is key to a healthy family relationship. (การสื่อสารเป็นสิ่งสำคัญต่อความสัมพันธ์ในครอบครัวที่ดี)
- Traditions can help strengthen family bonds. (ประเพณีสามารถช่วยเสริมสร้างความผูกพันในครอบครัวได้)

>>>Read more: คำคมเกี่ยวกับครอบครัวในภาษาอังกฤษที่มีความหมายดี ๆ ตลก และน่ารักมากกว่า 150 คำ
หัวข้อ Travel
คำศัพท์เกี่ยวกับจุดหมายปลายทาง การคมนาคม และกิจกรรมการท่องเที่ยว (Tourist attraction, Accommodation, Ecotourism, Itinerary, Travel insurance)
คําศัพท์ | ชนิดของคํา | วิธีการออกเสียง | ความหมาย |
24-hour customer support | คำนาม | /ˈtwɛn.ti ˈfɔːrˌaʊər ˈkʌstəmər səˈpɔrt/ | ฝ่ายสนับสนุนลูกค้าตลอด 24 ชม. |
Accommodation | คำนาม | /əˌkɑːməˈdeɪʃən/ | ที่พัก |
Adventure | คำนาม | /ədˈvɛnʧər/ | การผจญภัย |
Adventure sports | คำนาม | /ədˈvɛnʧər spɔrts/ | กีฬาผจญภัย |
Adventure tour | คำนาม | /ədˈvɛnʧər tʊr/ | ทัวร์ผจญภัย |
Adventure tourism | คำนาม | /ədˈvɛnʧər ˈtʊrɪzəm/ | การท่องเที่ยวเชิงผจญภัย |
Airline | คำนาม | /ˈɛə.laɪn/ | สายการบิน |
Airport | คำนาม | /ˈɛə.pɔːrt/ | สนามบิน |
Airport lounge | คำนาม | /ˈɛrˌpɔrt laʊndʒ/ | ห้องรับรองผู้โดยสารสนามบิน |
Airport transfer | คำนาม | /ˈɛrˌpɔrt ˈtrænsfər/ | บริการรับส่งสนามบิน |
Apartment | คำนาม | /əˈpɑːrtmənt/ | อพาร์ทเมนท์ |
Attractions | คำนาม | /əˈtrækʃənz/ | สถานที่ท่องเที่ยว |
Backpacker | คำนาม | /ˈbækˌpækər/ | นักท่องเที่ยวที่สะพายเป้เดินทางในแบบที่ประหยัดค่าใช้จ่าย |
Backpacking | คำนาม | /ˈbækˌpækɪŋ/ | การเดินทางแบบแบ็กแพ็ก |
Bar | คำนาม | /bɑːr/ | บาร์ |
Beach | คำนาม | /biːtʃ/ | ชายหาด |
Beach tourism | คำนาม | /biːtʃ ˈtʊrɪzəm/ | การท่องเที่ยวชายหาด |
Bed and Breakfast (B&B) | คำนาม | /bɛd ænd ˈbrɛkfəst/ | ที่พักพร้อมอาหารเช้า |
Bicycle rental | คำนาม | /ˈbaɪ.sɪ.kəl ˈrɛn.tl̩/ | บริการให้เช่าจักรยาน |
Biking | คำนาม | /ˈbaɪ.kɪŋ/ | การปั่นจักรยาน |
Bus | คำนาม | /bʌs/ | รสบัส |
Cable car | คำนาม | /ˈkeɪ.bl̩ kɑːr/ | กระเช้าลอยฟ้า |
Café | คำนาม | /ˈkæˌfeɪ/ | ร้านกาแฟ |
Campground | คำนาม | /ˈkæmpˌɡraʊnd/ | สถานที่กางเต็นท์ |
Camping | คำนาม | /ˈkæmpɪŋ/ | การตั้งแคมป์ |
Campsite | คำนาม | /ˈkæmpsaɪt/ | สถานที่กางเต็นท์ |
Canoeing | คำนาม | /kəˈnuː.ɪŋ/ | การพายเรือแคนู |
Car rental | คำนาม | /kɑːr ˈrɛn.tl̩/ | บริการให้เช่ารถ |
Caravan | คำนาม | /ˈkærəvæn/ | คาราวาน |
City tour | คำนาม | /ˈsɪti tʊr/ | ทัวร์ชมเมือง |
Concierge | คำนาม | /kɑːnˈsjɛərʒ/ | พนักงานต้อนรับ |
Cottage | คำนาม | /ˈkɑːtɪdʒ/ | กระท่อม |
Cruise | คำนาม | /kruz/ | การล่องเรือ |
Cruise package | คำนาม | /kruːz ˈpækɪdʒ/ | แพ็คเกจล่องเรือ |
Cruise ship | คำนาม | /kruːz ʃɪp/ | เรือสำราญ |
Cruise tourism | คำนาม | /kruːz ˈtʊrɪzəm/ | การท่องเที่ยวทางเรือ |
Cuisine | คำนาม | /kwɪˈzin/ | ประเภทอาหาร |
Culinary tourism | คำนาม | /ˈkʌləˌnɛri ˈtʊrɪzəm/ | การท่องเที่ยวเชิงอาหาร |
Cultural performances | คำนาม | /ˈkʌl.tʃər.əl pərˈfɔːr.mənsɪz/ | การแสดงทางวัฒนธรรม |
Cultural tour | คำนาม | /ˈkʌlʧərəl tʊr/ | ทัวร์ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม |
Cultural tourism | คำนาม | /ˈkʌltʃərəl ˈtʊrɪzəm/ | การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม |
Culture | คำนาม | /ˈkʌltʃər/ | วัฒนธรรม |
Currency exchange | คำนาม | /ˈkɜːrənsi ɪksˈtʃeɪndʒ/ | แลกเปลี่ยนเงินตรา |
Dark tourism | คำนาม | /dɑrk ˈtʊrɪzəm/ | การท่องเที่ยวเชิงมืด |
Destination | คำนาม | /ˌdɛstɪˈneɪʃən/ | จุดหมายปลายทาง |
Ecotourism | คำนาม | /ˈikoʊˌtʊrɪzəm/ | การท่องเที่ยวเชิงนิเวศ |
Educational tourism | คำนาม | /ˌɛʤʊˈkeɪʃənəl ˈtʊrɪzəm/ | การท่องเที่ยวเชิงการศึกษา |
Enotourism | คำนาม | /ɪˈnoʊˌtʊərɪzəm/ | การท่องเที่ยวไวน์ |
Entertainment show | คำนาม | /ˌɛntərˈteɪnmənt ʃoʊ/ | รายการบันเทิง |
Event planning | คำนาม | /ɪˈvɛnt ˈplænɪŋ/ | การวางแผนงาน |
Exploration | คำนาม | /ˌɛkspləˈreɪʃən/ | การสำรวจ |
Ferry | คำนาม | /ˈfɛri/ | เรือข้ามฟาก |
Festivals | คำนาม | /ˈfɛstəvəlz/ | เทศกาล |
Fitness center | คำนาม | /ˈfɪtnɪs ˈsɛntər/ | ศูนย์ฟิตเนส |
Floating hotel | คำนาม | /ˈfloʊtɪŋ hoʊˈtɛl/ | โรงแรมลอยน้ำ |
Food tasting | คำนาม | /fuːd ˈteɪ.stɪŋ/ | การชิมอาหาร |
Gondola | คำนาม | /ˈɡɑːn.də.lə/ | เรือกอนโดลา (ที่เมืองเวนิส ประเทศอิตาลี) |
Group travel | คำนาม | /ɡruːp ˈtrævəl/ | การเดินทางท่องเที่ยวเป็นกลุ่ม |
Guesthouse | คำนาม | /ˈɡɛst.haʊs/ | บ้านรับรองแขก |
Guide | คำนาม | /ɡaɪd/ | ไกด์ มัคคุเทศก์ |
ตัวอย่าง:
- Traveling allows you to experience different cultures. (การเดินทางช่วยให้คุณได้สัมผัสกับวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน)
- I love exploring new cities during my vacations. (ฉันชอบสำรวจเมืองใหม่ ๆ ในช่วงวันหยุดของฉัน)
- Packing light can make your journey much easier. (การแพ็คสัมภาระให้น้อยชิ้นสามารถทำให้การเดินทางของคุณง่ายขึ้นมาก)
- Always have a travel itinerary to stay organized. (ควรมีแผนการเดินทางไว้เสมอเพื่อสามารถจัดระเบียบได้)

หัวข้อ Technology
คำศัพท์เกี่ยวกับการพัฒนาเทคโนโลยี อินเทอร์เน็ต และนวัตกรรมอุตสาหกรรม (Artificial Intelligence, Cybersecurity, Innovation, Digital transformation, Cloud computing)
คําศัพท์ | ชนิดของคํา | วิธีการออกเสียง | ความหมาย |
3D printing | คำนาม | /ˌθriː diː ˈprɪntɪŋ/ | การพิมพ์สามมิติ |
Advancement | คำนาม | /ədˈvænsmənt/ | ความก้าวหน้า |
Algorithm | คำนาม | /ˈælɡərɪðəm/ | อัลกอริทึม |
Artificial intelligence (AI) | คำนาม | /ˌɑːrtɪˈfɪʃəl ɪnˈtɛlədʒəns/ | ปัญญาประดิษฐ์ |
Augmented reality (AR) | คำนาม | /ɔːɡˈmɛntɪd riˈæləti/ | ความจริงเสริม |
Automation | คำนาม | /ˌɔːtəˈmeɪʃən/ | ระบบอัตโนมัติ |
Big data | คำนาม | /bɪɡ ˈdeɪtə/ | ข้อมูลขนาดใหญ่ |
Biometric authentication | คำนาม | /ˌbaɪoʊˈmɛtrɪk ɔːˌθɛntɪˈkeɪʃən/ | การตรวจสอบข้อมูลทางชีวภาพ |
Biometrics | คำนาม | /ˌbaɪoʊˈmɛtrɪks/ | การเก็บข้อมูลอัตลักษณ์บุคคลสำหรับยืนยันตัวบุคคล |
Cloud computing | คำนาม | /klaʊd kəmˈpjuːtɪŋ/ | การประมวลผลบนคลาวด์ |
Cloud storage | คำนาม | /klaʊd ˈstɔrɪdʒ/ | การเก็บข้อมูลบนคลาวด์ |
Cloud-based services | คำนาม | /klaʊd-beɪst ˈsɜːrvɪsɪz/ | บริการบนคลาวด์ |
Coding | คำนาม | /ˈkoʊdɪŋ/ | การเข้ารหัส |
Computer age | คำนาม | /kəmˈpjuːtər eɪdʒ/ | ยุคคอมพิวเตอร์ |
Computer programming languages | คำนาม | /kəmˈpjuːtər ˈproʊˌgræmɪŋ ˈlæŋgwɪʤɪz/ | ภาษาการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ |
Cryptocurrency | คำนาม | /ˌkrɪptoʊˈkʌrənsi/ | สกุลเงินดิจิตอล |
Cybercrime | คำนาม | /ˈsaɪbərˌkraɪm/ | อาชญากรรมทางไซเบอร์ |
Cybernetics | คำนาม | /saɪbərˈnɛtɪks/ | วิทยาเกี่ยวกับการติดต่อและควบคุมของสัตว์และเครื่องจักร |
Cybersecurity | คำนาม | /ˈsaɪbərˌsikjʊrɪti/ | ความปลอดภัยทางไซเบอร์ |
Data analysis | คำนาม | /ˈdeɪtə əˈnæləsɪs/ | การวิเคราะห์ข้อมูล |
Data breach | คำนาม | /deɪtə briːʧ/ | การละเมิดข้อมูล |
Data encryption | คำนาม | /deɪtə ɪnˈkrɪpʃən/ | การเข้ารหัสข้อมูล |
Data management | คำนาม | /deɪtə ˈmænɪʤmənt/ | การจัดการข้อมูล |
Data privacy | คำนาม | /ˈdeɪtə ˈpraɪvəsi/ | ความเป็นส่วนตัวของข้อมูล |
Data recovery | คำนาม | /deɪtə rɪˈkʌvəri/ | การกู้คืนข้อมูล |
Data storage | คำนาม | /ˈdeɪtə ˈstɔːrɪdʒ/ | การจัดเก็บข้อมูล |
Data transfer | คำนาม | /deɪtə ˈtrænsfər/ | การถ่ายโอนข้อมูล |
Digital advertising | คำนาม | /dɪdʒɪtl ˈædvərˌtaɪzɪŋ/ | การโฆษณาแบบดิจิตอล |
Digital divide | คำนาม | /ˈdɪdʒɪtl dɪˈvaɪd/ | ช่องว่างทางดิจิทัล |
Digital economy | คำนาม | /ˈdɪʤɪtəl iˈkɑːnəmi/ | เศรษฐกิจดิจิทัล |
Digital footprint | คำนาม | /dɪdʒɪtl ˈfʊtˌprɪnt/ | รอยเท้าดิจิทัล |
Digital marketing | คำนาม | /dɪdʒɪtl ˈmɑːrkɪtɪŋ/ | การตลาดดิจิตอล |
Digital transformation | คำนาม | /ˈdɪʤɪtəl ˌtrænsfərˈmeɪʃən/ | การเปลี่ยนแปลงทางดิจิตอล |
Digitalization | คำนาม | /ˌdɪdʒɪtəlaɪˈzeɪʃən/ | การแปลงเป็นดิจิทัล |
Drones | คำนาม | /droʊnz/ | โดรน |
E-commerce | คำนาม | /ˈiːˌkɑːmɜːrs/ | การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ |
Genetic engineering | คำนาม | /dʒɪˈnɛtɪk ˌɛndʒɪˈnɪrɪŋ/ | พันธุวิศวกรรม |
GPS navigation | คำนาม | /dʒiːpiːˈɛs nævɪˈɡeɪʃən/ | ระบบนำทาง GPS |
Hacking | คำนาม | /ˈhækɪŋ/ | การแฮ็ค |
High-speed internet | คำนาม | /haɪ spiːd ˈɪntərnɛt/ | อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง |
Information security | คำนาม | /ˌɪnfərˈmeɪʃən sɪˈkjʊrəti/ | ความปลอดภัยของข้อมูล |
Information sharing | คำนาม | /ɪnfərˈmeɪʃən ˈʃɛrɪŋ/ | การแบ่งปันข้อมูล |
Information technology (IT) | คำนาม | /ˌɪnfərˈmeɪʃən tɛkˈnɑːlədʒi/ | เทคโนโลยีสารสนเทศ |
Innovation | คำนาม | /ˌɪnəˈveɪʃən/ | นวัตกรรม |
Innovation hub | คำนาม | /ˌɪnəˈveɪʃən hʌb/ | ศูนย์กลางนวัตกรรม |
Internet access | คำนาม | /ˈɪntərnɛt ˈæksɛs/ | การเข้าถึงอินเตอร์เน็ต |
Internet addiction | คำนาม | /ɪntərnɛt əˈdɪkʃən/ | การติดอินเตอร์เน็ต |
Internet browsing | คำนาม | /ɪntərnɛt ˈbraʊzɪŋ/ | การท่องอินเตอร์เน็ต |
Internet censorship | คำนาม | /ˈɪntərnɛt ˈsɛnsərʃɪp/ | การตรวจพิจารณาอินเทอร์เน็ต |
Internet connectivity | คำนาม | /ɪntərnɛt kəˌn | การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต |
ตัวอย่าง:
- Technology has revolutionized the way we communicate. (เทคโนโลยีได้ปฏิวัติวิธีการสื่อสารของเรา)
- Smartphones are now an essential part of our daily lives. (สมาร์ทโฟนเป็นส่วนสำคัญในชีวิตประจำวันของเราในปัจจุบัน)
- The internet provides access to a wealth of information. (อินเตอร์เน็ตช่วยให้เข้าถึงข้อมูลต่าง ๆ ได้มากมาย)
- Artificial intelligence is transforming various industries. (ปัญญาประดิษฐ์กำลังสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับอุตสาหกรรมต่าง ๆ)

หัวข้อ Sports
คำศัพท์เกี่ยวกับกีฬา การแข่งขันกีฬา และวิถีชีวิตการเล่นกีฬา (Bowling, Dedication, Goalposts, Motivation)
คําศัพท์ | ชนิดของคํา | วิธีการออกเสียง | ความหมาย |
Agility | คำนาม | /əˈdʒɪləti/ | ความคล่องตัว |
Agility drills | คำนาม | /əˈdʒɪləti drɪlz/ | การฝึกซ้อมความคล่องตัว |
Archery | คำนาม | /ɑrtʃəri/ | การยิงธนู |
Archery bow | คำนาม | /ɑːrtʃəri boʊ/ | คันธนู |
Athlete | คำนาม | /ˈæθliːt/ | นักกีฬา |
Athlete monitoring | คำนาม | /ˈæθliːt ˈmɑnətərɪŋ/ | การติดตามนักกีฬา |
Athletics | คำนาม | /æθˈlɛtɪks/ | กรีฑา |
Badminton | คำนาม | /bædmɪntən/ | แบดมินตัน |
Ball | คำนาม | /bɔːl/ | ลูกบอล |
Basketball | คำนาม | /bæskɪtˌbɔl/ | บาสเกตบอล |
Basketball hoop | คำนาม | /bæskɪtbɔːl huːp/ | ห่วงบาสเก็ตบอล |
Bat | คำนาม | /bæt/ | กระบอง (เบสบอล เทเบิลเทนนิส) |
Bowling | คำนาม | /boʊlɪŋ/ | โบว์ลิ่ง |
Boxing | คำนาม | /bɑksɪŋ/ | มวยสากล |
Boxing gloves | คำนาม | /bɑːksɪŋ ɡlʌvz/ | ถุงมือมวย |
Cleats | คำนาม | /kliːts/ | สตั๊ด |
Climbing | คำนาม | /klaɪmɪŋ/ | ปีนเขา |
Climbing harness | คำนาม | /klaɪmɪŋ ˈhɑːrnɪs/ | สายรัดปีนเขา |
Coach | คำนาม | /koʊtʃ/ | โค้ช |
Commitment | คำนาม | /kəˈmɪtmənt/ | ความมุ่งมั่น |
Competition | คำนาม | /ˌkɒmpɪˈtɪʃən/ | การแข่งขัน |
Cool-down | คำนาม | /ˈkuːldaʊn/ | การทําให้เย็นลง |
Cricket | คำนาม | /krɪkɪt/ | คริกเก็ต |
Cricket bat | คำนาม | /krɪkɪt bæt/ | ไม้คริกเก็ต |
Cross-training | คำนาม | /ˈkrɔsˌtreɪnɪŋ/ | การฝึกข้ามสาย |
Dedication | คำนาม | /ˌdɛdɪˈkeɪʃən/ | ความทุ่มเท |
Defeat | คำนาม | /dɪˈfiːt/ | ความพ่ายแพ้ |
Discipline | คำนาม | /ˈdɪsəplɪn/ | ระเบียบวินัย |
Dumbbell | คำนาม | /dʌmbɛl/ | ดัมเบล |
Endurance | คำนาม | /ɪnˈdʊrəns/ | ความทนทาน |
Fencing | คำนาม | /fɛnsɪŋ/ | ฟันดาบ |
Fitness | คำนาม | /ˈfɪtnəs/ | ฟิตเนส |
Focus | คำนาม | /ˈfoʊkəs/ | โฟกัส |
Football | คำนาม | /fʊtˌbɔl/ | ฟุตบอล |
Formula 1 | คำนาม | /fɔrmjələ wʌn/ | ฟอร์มูล่าวัน |
Gloves | คำนาม | /ɡlʌvz/ | ถุงมือ |
Goalkeeper gloves | คำนาม | /ɡoʊlˌkiːpər ɡlʌvz/ | ถุงมือผู้รักษาประตู |
Goalposts | คำนาม | /ɡoʊlpoʊsts/ | เสาประตู |
Golf | คำนาม | /ɡɔlf/ | กอล์ฟ |
Golf club | คำนาม | /ɡɑlf klʌb/ | ไม้กอล์ฟ |
Gymnastics | คำนาม | /dʒɪmˈnæstɪks/ | ยิมนาสติก |
Gymnastics rings | คำนาม | /dʒɪmˈnæstɪks rɪŋz/ | ห่วงยิมนาสติก |
Handball | คำนาม | /hændˌbɔl/ | แฮนด์บอล |
Helmet | คำนาม | /hɛlmɪt/ | หมวกกันน็อค |
Hockey | คำนาม | /hɑki/ | ฮอกกี้ |
Hockey stick | คำนาม | /hɑːki stɪk/ | ไม้ฮอกกี้ |
Horse racing | คำนาม | /hɔrs ˈreɪsɪŋ/ | การแข่งม้า |
Ice hockey | คำนาม | /aɪs ˈhɑki/ | ฮอกกี้น้ำแข็ง |
Injury prevention | คำนาม | /ˈɪnʤəri prɪˈvɛnʃən/ | การป้องกันการบาดเจ็บ |
Interval training | คำนาม | /ˈɪntərvəl ˈtreɪnɪŋ/ | การฝึกแบบเป็นช่วงๆ |
Judo | คำนาม | /ˈdʒuːdoʊ/ | ยูโด |
Karate | คำนาม | /kəˈrɑːti/ | คาราเต้ |
Kayaking | คำนาม | /kaɪəkɪŋ/ | การพายเรือคายัค |
Martial arts | คำนาม | /mɑrʃəl ɑrts/ | ศิลปะการป้องกันตัว |
Mental toughness | คำนาม | /ˈmɛntl ˈtʌfnəs/ | ความแข็งแกร่งทางจิตใจ |
Motivation | คำนาม | /ˌmoʊtɪˈveɪʃən/ | แรงจูงใจ |
Net | คำนาม | /nɛt/ | ตาข่าย |
Nutrition | คำนาม | /njuˈtrɪʃən/ | โภชนาการ |
Paddle | คำนาม | /pædəl/ | ไม้พาย |
Parachute | คำนาม | /pærəʃuːt/ | ร่มชูชีพ |
Performance | คำนาม | /pərˈfɔrməns/ | การทำให้บรรลุผลสำเร็จ |
ตัวอย่าง:
- Playing sports is a great way to stay fit and healthy. (การเล่นกีฬาเป็นวิธีที่ดีในการรักษาความฟิตและการดูแลสุขภาพ)
- My favorite sport is basketball because it’s exciting. (กีฬาที่ฉันชอบคือบาสเก็ตบอลเพราะมันน่าตื่นเต้น)
- The Olympics showcase the best athletes from around the world. (การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเป็นการรวบรวมนักกีฬาที่เก่งที่สุดจากทั่วโลก)

หัวข้อ Music
คำศัพท์เกี่ยวกับแนวเพลง เครื่องดนตรี และงานแสดงดนตรี (Melody, Genre, Concept, Demo, Beat,…)
ด้านล่างนี้คือคำศัพท์เกี่ยวกับดนตรี:
คําศัพท์ | ชนิดของคํา | วิธีการออกเสียง | ความหมาย |
Accordion | คำนาม | /əˈkɔrdiən/ | หีบเพลง |
Acoustic | คําคุณศัพท์ | /əˈkuːstɪk/ | ซึ่งเกี่ยวข้องกับเสียง |
Agent | คำนาม | /ˈeɪʤənt/ | ตัวแทน |
Album | คำนาม | /ˈælbəm/ | อัลบั้ม |
Arrangement | คำนาม | /əˈreɪndʒmənt/ | การเรียบเรียงเสียงประสาน |
Arranger | คำนาม | /əˈreɪndʒər/ | นักเรียบเรียงเสียงประสาน |
Artist | คำนาม | /ˈɑrtɪst/ | ศิลปิน |
Award | คำนาม | /əˈwɔrd/ | รางวัล |
Backup vocalist | คำนาม | /ˈbækʌp ˈvoʊkəlɪst/ | นักร้องสำรอง |
Bagpipes | คำนาม | /ˈbæɡˌpaɪps/ | ปี่สก๊อต |
Band | คำนาม | /bænd/ | วงดนตรี |
Band manager | คำนาม | /bænd ˈmænɪʤər/ | ผู้จัดการวง |
Banjo | คำนาม | /ˈbændʒoʊ/ | แบนโจ |
Bass guitar | คำนาม | /beɪs ɡɪˈtɑr/ | กีตาร์เบส |
Bassist | คำนาม | /ˈbeɪsɪst/ | คนเล่นบาส |
Beat | คำนาม | /bit/ | จังหวะ |
Billboard | คำนาม | /ˈbɪlˌbɔrd/ | บิลบอร์ดชาร์ต |
Blues | คำนาม | /bluz/ | บลูส์ |
Bridge | คำนาม | /brɪdʒ/ | ท่อนแยก |
Celebrity | คำนาม | /sɪˈlɛbrɪti/ | คนที่มีชื่อเสียง |
Cellist | คำนาม | /ˈtʃɛlɪst/ | นักเล่นเชลโล |
Cello | คำนาม | /ˈtʃɛloʊ/ | เชลโล่ |
Chart-topping | คําคุณศัพท์ | /ʧɑrt-ˈtɒpɪŋ/ | ขึ้นสู่อันดับหนึ่ง |
Choir | คำนาม | /kwaɪr/ | คณะนักร้องประสานเสียง |
Chord | คำนาม | /kɔrd/ | คอร์ด |
Chorus | คำนาม | /ˈkɔr.əs/ | คอรัส |
Clarinet | คำนาม | /ˌklærɪˈnɛt/ | แคริเน็ท |
Classical | คำนาม | /ˈklæsɪkəl/ | แนวดนตรีคลาสสิค |
Collaboration | คำนาม | /kəˌlæb.əˈreɪ.ʃən/ | การทำงานร่วมกัน |
Composer | คำนาม | /kəmˈpoʊzər/ | นักแต่งเพลง |
Composition | คำนาม | /ˌkɑmpəˈzɪʃən/ | การแต่ง |
Concert | คำนาม | /ˈkɑnsərt/ | คอนเสิร์ต |
Conductor | คำนาม | /kənˈdʌktər/ | ผู้นำวงดนตรี |
Contract | คำนาม | /ˈkɒntrækt/ | สัญญา |
Creative process | คำนาม | /kriˈeɪ.tɪv ˈprɑ.sɛs/ | กระบวนการสร้างสรรค์ |
Demo | คำนาม | /ˈdi.moʊ/ | ของตัวอย่าง |
DJ | คำนาม | /ˌdiːˈdʒeɪ/ | ดีเจ |
Double bass | คำนาม | /ˈdʌbəl beɪs/ | ดับเบิลเบส |
Drummer | คำนาม | /ˈdrʌmər/ | มือกลอง |
Drummer/percussionist | คำนาม | /ˈdrʌmər/pərˈkʌʃənɪst/ | มือกลอง/นักดนตรีที่เล่นเครื่องดนตรีประเภทตีหรือเคาะ |
Drums | คำนาม | /drʌmz/ | กลอง |
Editing | คำนาม | /ˈɛd.ɪ.tɪŋ/ | การตัดต่อ |
Electric keyboard | คำนาม | /ɪˈlɛktrɪk ˈkiːˌbɔrd/ | คีย์บอร์ดไฟฟ้า |
Electronic music | คำนาม | /ɪlɛkˈtrɑnɪk ˈmjuzɪk/ | ดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ |
Entertainment industry | คำนาม | /ˌɛntərˈteɪnmənt ˈɪndəstri/ | วงการบันเทิง |
Festival | คำนาม | /ˈfɛstəvəl/ | งานเทศกาลดนตรี |
Flute | คำนาม | /flut/ | ฟลุต |
Flutist | คำนาม | /ˈfluːtɪst/ | นักเล่นฟลุต |
Folk | คําคุณศัพท์ | /foʊk/ | ดนตรีพื้นบ้าน |
French horn | คำนาม | /frɛntʃ hɔrn/ | แตรฝรั่งเศส |
Genre | คำนาม | /ˈʒɑnrə/ | แนวเพลง |
Gong | คำนาม | /ɡɔŋ/ | ฆ้อง |
Guitar | คำนาม | /ɡɪˈtɑr/ | กีตาร์ |
Guitarist | คำนาม | /ɡɪˈtɑrɪst/ | มือกีต้าร์ |
Harmonica | คำนาม | /hɑrˈmɑnɪkə/ | ฮาร์โมนิก้า |
Harmonize | คํากริยา | /ˈhɑrməˌnaɪz/ | ประสานกัน |
Harmony | คำนาม | /ˈhɑrməni/ | การประสานเสียง |
Harp | คำนาม | /hɑrp/ | พิณฝรั่ง |
Harpist | คำนาม | /ˈhɑrpɪst/ | นักเล่นพิณฝรั่ง |
Hip-hop | คำนาม | /hɪp hɑp/ | ฮิปฮอป |
Hit song | คำนาม | /hɪt sɔŋ/ | เพลงฮิต |
Hook | คำนาม | /hʊk/ | ท่อนฮุค |
Improvisation | คำนาม | /ˌɪmprəvaɪˈzeɪʃən/ | การอิมโพรไวส์ / การด้นสด |
Inspiration | คำนาม | /ɪn.spɪˈreɪ.ʃən/ | แรงบันดาลใจ |
Instrument | คำนาม | /ˈɪnstrəmənt/ | เครื่องดนตรี |
Instrumental | คําคุณศัพท์ | /ˌɪnstrəˈmɛntəl/ | เพลงบรรเลง |
Jazz | คำนาม | /dʒæz/ | แจ๊ส |

ตัวอย่าง:
- Music can evoke powerful emotions in listeners. (ดนตรีสามารถกระตุ้นอารมณ์อันทรงพลังในตัวผู้ฟังได้)
- I enjoy listening to various genres of music. (ฉันชอบฟังเพลงหลายแนว)
- Learning to play an instrument can be very rewarding. (การเรียนรู้การเล่นเครื่องดนตรีสามารถให้ผลตอบแทนมากมาย)
- Concerts are a great way to experience live music. (คอนเสิร์ตเป็นวิธีที่ดีในการสัมผัสประสบการณ์ดนตรีสด)

หัวข้อ Appearance
คำศัพท์ที่อธิบายบุคลิกภาพ ลักษณะทางจิตวิทยา และพฤติกรรมของบุคคล (Introvert, Extrovert, Empathy, Charismatic, Ambitious)
คําศัพท์ | ชนิดของคํา | วิธีการออกเสียง | ความหมาย |
Agile | คําคุณศัพท์ | /ædʒaɪl/ | คล่องตัว |
Alluring | คําคุณศัพท์ | /əˈlʊrɪŋ/ | น่าดึงดูดใจ |
Almond-shaped | คําคุณศัพท์ | /ɑːmənd ʃeɪpt/ | (ตา)มีรูปคล้ายเมล็ดอัลมอนด์ |
Asian/Oriental (eyes) | คําคุณศัพท์ | /ˈeɪ.ʒən/ – /ˌɔː.riˈen.təl/ | (ตา)แบบเอเชีย/ตะวันออก |
Athletic | คําคุณศัพท์ | /æθˈlɛtɪk/ | เกี่ยวกับกีฬา |
Attractive | คําคุณศัพท์ | /əˈtræktɪv/ | มีเสน่ห์ดึงดูด |
Beauty | คํานาม | /bjuːti/ | ความงาม |
Big (eyes) | คําคุณศัพท์ | /bɪɡ/ | (ตา)โต |
Blemish-free | คําคุณศัพท์ | /ˈblɛmɪʃ-friː/ | ไม่มีฝ้าหรือกระ |
Silky | คําคุณศัพท์ | /sɪlki/ | นุ่มเหมือนเส้นไหม |
Boyish | คําคุณศัพท์ | /bɔɪɪʃ/ | ทำตัวเหมือนเด็กชาย |
Casual | คําคุณศัพท์ | /kæʒuəl/ | อย่างไม่เป็นทางการ |
Cat-like (eyes) | คําคุณศัพท์ | /kæt laɪk/ | ตาคล้ายแมว |
Charming | คําคุณศัพท์ | /tʃɑːrmɪŋ/ | มีเสน่ห์ |
Chic | คําคุณศัพท์ | /ʃiːk/ | ความสวยงามทันสมัย |
Chiseled | คําคุณศัพท์ | /tʃɪzəld/ | (หน้าตา)ดีเหมือนรูปปั้น |
Classy | คําคุณศัพท์ | /klæsi/ | ชั้นเยี่ยม |
Clear | คําคุณศัพท์ | /klɪr/ | ชัด ไร้ที่ติ |
Close-set (eyes) | คําคุณศัพท์ | /kloʊs sɛt/ | ตาชิด |
Curly | คําคุณศัพท์ | /kɜrli/ | หยิกงอ |
Curvaceous | คําคุณศัพท์ | /kɜrˈveɪʃəs/ | ส่วนโค้งส่วนเว้า |
Dashing | คําคุณศัพท์ | /dæʃɪŋ/ | พุ่งทะยาน |
Deep (eyes) | คําคุณศัพท์ | /diːp/ | ตาลึก |
Dewy | คําคุณศัพท์ | /djuːi/ | ฉํ่า สดใส |
Distinguished | คําคุณศัพท์ | /dɪˈstɪŋɡwɪʃt/ | เด่น |
Doe-eyed | คําคุณศัพท์ | /doʊ aɪd/ | ตาแป๋ว |
Downturned (eyes) | คําคุณศัพท์ | /daʊnˈtɜːrnd/ | ตาตก |
Edgy | คําคุณศัพท์ | /ɛdʒi/ | คม |
Elastic | คําคุณศัพท์ | /ɪˈlæstɪk/ | ยืดหยุ่น |
Even-toned | คําคุณศัพท์ | /ivənˌtoʊnd/ | มีสีผิวสมํ่าเสมอ |
Expressive | คําคุณศัพท์ | /ɪkˈsprɛsɪv/ | เกี่ยวกับการแสดงออก |
Exquisite | คําคุณศัพท์ | /ɪkˈskwɪzɪt/ | งดงาม |
Eye-catching | คําคุณศัพท์ | /aɪˈkætʃɪŋ/ | สะดุดตา |
Fashion-forward | คําคุณศัพท์ | /fæʃənˌfɔrwərd/ | นําแฟชั่น |
Fashionable | คําคุณศัพท์ | /fæʃənəbl/ | ทันสมัย |
Firm | คําคุณศัพท์ | /fɜrm/ | แข็ง |
Fit | คําคุณศัพท์ | /fɪt/ | ที่เหมาะสม |
Flawless | คําคุณศัพท์ | /flɔːləs/ | ไม่มีตำหนิ ไม่มีที่ติ |
Flexible | คําคุณศัพท์ | /flɛksəbl/ | ที่ปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ |
Flowing | คําคุณศัพท์ | /floʊɪŋ/ | (ผม)หลวม เป็นลอน |
Frizzy | คําคุณศัพท์ | /frɪzi/ | หยิก |
Full-bodied | คําคุณศัพท์ | /fʊl ˈfɪɡjərd/ | เต็มไปด้วยผม |
Glamorous | คําคุณศัพท์ | /ɡlæmərəs/ | หรูหรา |
Glossy | คําคุณศัพท์ | /ɡlɔːsi/ | มันเงา |
Glowing | คําคุณศัพท์ | /ɡloʊɪŋ/ | ซึ่งส่องแสงเรืองรอง |
Gorgeous | คําคุณศัพท์ | /ɡɔːrdʒəs/ | เพริศพราย |
Graceful | คําคุณศัพท์ | /ɡreɪsfəl/ | สง่างาม |
Groomed | คําคุณศัพท์ | /ɡrumd/ | ซึ่งดูแลเครื่องแต่งกายและผมเผ้าเรียบร้อย |
Handsome | คําคุณศัพท์ | /hænsəm/ | หล่อ |
Healthy | คําคุณศัพท์ | /hɛlθi/ | สุขภาพดี แข็งแรง |
Hip | คําคุณศัพท์ | /hɪp/ | คนตามแฟชั่น |
Hooded (eyes) | คําคุณศัพท์ | /hʊdɪd/ | ตาหลบใน |
Hourglass | คําคุณศัพท์ | /aʊərɡlɑːs/ | คล้ายนาฬิกาทราย |
Impeccable | คําคุณศัพท์ | /ɪmˈpɛkəbl/ | สมบูรณ์แบบ |
Lean | คําคุณศัพท์ | /lin/ | ผอม |
Lithe | คําคุณศัพท์ | /laɪθ/ | โค้งงอได้ อ่อนช้อย |
Luminous | คําคุณศัพท์ | /luːmɪnəs/ | เปล่งแสง สว่าง |
Lustrous | คําคุณศัพท์ | /lʌstrəs/ | เป็นมันเงา |
Magnetic | คําคุณศัพท์ | /mæɡˈnɛtɪk/ | ซึ่งมีเสน่ห์ดึงดูด |
Monolid (eyes) | คําคุณศัพท์ | /mɒnəlɪd/ | ตาชั้นเดียว |
Muscular | คําคุณศัพท์ | /mʌskjələr/ | เกี่ยวกับกล้ามเนื้อ |
Narrow (eyes) | คําคุณศัพท์ | /næroʊ/ | ตาตี่ |
Natural | คําคุณศัพท์ | /nætʃərəl/ | เป็นธรรมชาติ |
Neat | คําคุณศัพท์ | /niːt/ | เรียบร้อย |
Oval | คําคุณศัพท์ | /oʊvəl/ | ซึ่งเป็นรูปไข่ |
Pear-shaped body | คําคุณศัพท์ | /pɛr ʃeɪpt/ | ทรงลูกแพร์ |
Petite | คําคุณศัพท์ | /pəˈtit/ | เล็กและบอบบาง |
Plus-size | คําคุณศัพท์ | /plʌmp/ | ไซซ์พิเศษ |
Flawless | คําคุณศัพท์ | /ˈflɔːləs/ | ไม่มีตำหนิ |
Athletic | คําคุณศัพท์ | /æθˈletɪk/ | มีร่างกายที่แข็งแรง |
Slanted (eyes) | คํานาม | /slæntɪd/ | ตาปลาดุก |
Slim-fit | คํานาม | /slɪm fɪt/ | ทรงกระบอกเล็ก |
Small (eyes) | คํานาม | /smɔːl/ | ตาเล็ก |
Straight hair | คํานาม | /streɪt/ | ผมตรง |
Statuesque | คําคุณศัพท์ | /stætʃuːsk/ | งดงาม สง่างาม เหมือนรูปปั้น |
Strong | คําคุณศัพท์ | /strɔŋ/ | แข็งแรง |
ตัวอย่าง:
- First impressions are often based on appearance. (ความประทับใจแรกมักเกิดจากรูปลักษณ์ภายนอก)
- Dressing appropriately can boost your confidence. (การแต่งกายที่เหมาะสมสามารถเพิ่มความมั่นใจของคุณได้)
- Personal grooming is important for a polished appearance. (การดูแลตัวเองถือเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้มีรูปลักษณ์ที่ดูดี)
- Fashion trends can influence how people perceive you. (เทรนด์แฟชั่นสามารถส่งผลต่อการรับรู้ของผู้อื่นที่มีต่อคุณได้)

หัวข้อ Weather
คำศัพท์เกี่ยวกับปรากฏการณ์สภาพอากาศ ภูมิอากาศ และการพยากรณ์อากาศ (Humidity, Forecast, Thunderstorm, Drought, Temperature)
คําศัพท์ | ชนิดของคํา | วิธีการออกเสียง | ความหมาย |
Air mass | คํานาม | /ɛr mæs/ | มวลอากาศ |
Air pressure | คํานาม | /ɛr ˈprɛʃ.ər/ | แรงดันอากาศ |
Anemometer | คํานาม | /əˈnɛməmɪtər/ | เครื่องวัดความเร็วลม |
Arctic blast | คํานาม | /ˈɑrktɪk blæst/ | ลมพายุอาร์กติก |
Arid | คําคุณศัพท์ | /ˈærɪd/ | แห้งแล้ง |
Atmospheric models | คํานาม | /ˌætmosˈfɪrɪk ˈmɒdəlz/ | แบบจำลองชั้นบรรยากาศ |
Barometer | คํานาม | /bəˈrɒmɪtər/ | เครื่องวัดความดันของบรรยากาศ |
Bitter cold | คําคุณศัพท์ | /ˈbɪtər koʊld/ | เย็นชา |
Blistering | คําคุณศัพท์ | /ˈblɪstərɪŋ/ | ซึ่งเป็นแผลพอง |
Blizzard | คํานาม | /ˈblɪzərd/ | พายุหิมะ |
Boiling | คําคุณศัพท์ | /ˈbɔɪlɪŋ/ | ร้อนจี๋ |
Bone-chilling | คําคุณศัพท์ | /boʊn-ˈtʃɪlɪŋ/ | หนาวสะท้าน |
Chilly | คําคุณศัพท์ | /ˈtʃɪli/ | เย็น |
Cirrus clouds | คํานาม | /ˈsɪrəs klaʊdz/ | เมฆชั้นสูง |
Clear | คําคุณศัพท์ | /klɪr/ | ที่ไม่มีเมฆหรือหมอก |
Climate | คํานาม | /ˈklaɪmət/ | สภาพอากาศ |
Climate change | คํานาม | /ˈklaɪ.mət tʃeɪndʒ/ | การเปลี่ยนแปลงสภาพทางภูมิอากาศ |
Climate modeling | คํานาม | /ˈklaɪmət ˈmɒdəlɪŋ/ | แบบจำลองสภาพภูมิอากาศโลก |
Climate models | คํานาม | /ˈklaɪmət ˈmɒdəlz/ | โมเดลภูมิอากาศ |
Climate system | คํานาม | /ˈklaɪ.mət ˈsɪs.təm/ | ระบบภูมิอากาศ |
Cloudy | คําคุณศัพท์ | /ˈklaʊdi/ | มีเมฆมาก |
Cold front | คํานาม | /koʊld frʌnt/ | แนวปะทะอากาศเย็น |
Cold snap | คํานาม | /koʊld snæp/ | ปรากฏการณ์ที่อากาศหนาวฉับพลัน |
Cold wave | คํานาม | /koʊld weɪv/ | คลื่นอากาศหนาว |
Cold wave warning | คํานาม | /koʊld weɪv ˈwɔrnɪŋ/ | คำเตือนคลื่นอากาศมหนาว |
Cold-related illnesses | คํานาม | /koʊld-rɪˈleɪtɪd ˈɪlˈnɪsəz/ | โรคที่เกิดจากความเย็น |
Condensation | คํานาม | /ˌkɒn.dɛnˈseɪ.ʃən/ | การควบแน่น |
Convection | คํานาม | /kənˈvɛk.ʃən/ | การพาความร้อน |
Cumulus clouds | คํานาม | /ˈkjumjələs klaʊdz/ | เมฆคิวมูลัส |
Cyclone | คํานาม | /ˈsaɪkloʊn/ | พายุไซโคลน |
Cyclonic | คําคุณศัพท์ | /saɪˈklɑnɪk/ | ไซโคลนิก |
Damp | คําคุณศัพท์ | /dæmp/ | ชื้น |
Doppler radar | คํานาม | /ˈdoʊplər ˈreɪdɑr/ | เรดาร์ดอปเปลอร์ |
Drizzle | คํากริยา | /ˈdrɪzəl/ | ฝนตกปรอยๆ |
Drought | คํานาม | /draʊt/ | ความแห้งแล้ง |
Drought-resistant | คําคุณศัพท์ | /draʊtˈrɛzɪstənt/ | ทนแล้ง |
Dry spell | คํานาม | /draɪ spɛl/ | ช่วงแห้งแล้ง |
Evaporation | คํานาม | /ɪˌvæp.əˈreɪ.ʃən/ | การระเหย |
Extreme cold | คําคุณศัพท์ | /ɪkˈstriːm koʊld/ | อากาศหนาวจัด |
Extreme heat | คําคุณศัพท์ | /ɪkˈstriːm hit/ | อากาศร้อนจัด |
Flood | คํานาม | /flʌd/ | น้ำท่วม |
Foggy | คําคุณศัพท์ | /ˈfɒɡi/ | มีหมอก |
Foghorn | คํานาม | /fɒɡhɔːrn/ | เสียงเตือนที่ใช้ในสภาพอากาศที่มีหมอกหนา |
Forecast | คํานาม | /ˈfɔːrˌkæst/ | พยากรณ์ |
Forecast models | คํานาม | /ˈfɔrˌkæst ˈmɒdəlz/ | แบบจำลองการพยากรณ์ |
Forecasting | คํากริยา | /fɔːrˈkæs.tɪŋ/ | การพยากรณ์ |
Freezing | คําคุณศัพท์ | /ˈfriːzɪŋ/ | หนาวจัด |
Frigid | คําคุณศัพท์ | /ˈfrɪdʒɪd/ | เยือกเย็น |
Frontal system | คํานาม | /ˈfrʌntəl ˈsɪstəm/ | ระบบหน้าผาก |
Frost | คํานาม | /frɔːst/ | น้ำค้างแข็ง |
Frostbite | คํานาม | /ˈfrɔːst.baɪt/ | เนื้อเยื่อถูกทำลายเพราะความเย็นจัด |
Frozen | คําคุณศัพท์ | /ˈfroʊ.zən/ | ซึ่งเป็นนํ้าแข็ง |
Gale | คํานาม | /ɡeɪl/ | ลมแรง |
Global warming | คํานาม | /ˈɡloʊbəl ˈwɔrmɪŋ/ | ภาวะโลกร้อน |
Gust | คํานาม | /ɡʌst/ | ลมพัดแรงทันที |
Hail | คํานาม | /heɪl/ | พายุลูกเห็บ |
Hazy | Tính từ | /ˈheɪ.zi/ | ซึ่งมีหมอก |
Heat advisory | คํานาม | /hiːt ədˈvaɪzəri/ | คำเตือนความร้อน |
Heat dome | คํานาม | /hiːt dom/ | โดมความร้อน |
Heat exhaustion | คํานาม | /hiːt ɪɡˈzɔːstʃən/ | อาการหมดแรงจากความร้อน |
Heat index | คํานาม | /hiːt ˈɪn.dɛks/ | ดัชนีความร้อน |
Heat intensity | คํานาม | /hiːt ɪnˈtɛnsɪti/ | ความเข้มข้นของความร้อน |
High pressure system | คํานาม | /haɪ ˈprɛʃ.ər ˈsɪs.təm/ | ระบบแรงดันสูง |
Humid | คําคุณศัพท์ | /ˈhjuː.mɪd/ | ชื้น |
Humidity | คํานาม | /hjuːˈmɪdɪti/ | ความชื้น |
Hurricane | คํานาม | /ˈhɜrɪkeɪn/ | พายุหมุนเขตร้อน |
Icy | คําคุณศัพท์ | /ˈaɪsi/ | ซึ่งเต็มไปด้วยน้ำแข็ง |
Inversion | คํานาม | /ɪnˈvɜrʒən/ | การผกผันของลม |
Jet stream | คํานาม | /ˈdʒɛt striːm/ | กระแสลมกรด |
Light rain | คํานาม | /laɪt reɪn/ | ฝนตกเล็กน้อย |
Low pressure system | คํานาม | /loʊ ˈprɛʃ.ər ˈsɪs.təm/ | ระบบความกดอากาศต่ำ |
Meteorologist | คํานาม | /ˌmiːtiəˈrɒlədʒɪst/ | นักอุตุนิยมวิทยา |
Meteorology | คํานาม | /ˌmiːtiəˈrɒlədʒi/ | อุตุนิยมวิทยา |
Microclimate | คํานาม | /ˌmaɪkrəʊˈklaɪmət/ | ภูมิอากาศย่อย |
Overcast | Tính từ | /ˈoʊvərkæst/ | เมฆครึ้ม |
Precipitation | คํานาม | /prɪˌsɪpɪˈteɪʃən/ | ปริมาณน้ำฝน |
Radar | คํานาม | /ˈreɪdɑr/ | เรดาร์ |
Rain | คํานาม | /reɪn/ | ฝน |
Rain gauge | คํานาม | /reɪn ɡeɪdʒ/ | เครื่องวัดปริมาณน้ำฝน |
Rainfall | คํานาม | /ˈreɪnˌfɔl/ | ปริมาณน้ำฝน |
Severe weather | คํานาม | /sɪˈvɪr ˈwɛðər/ | สภาพอากาศเลวร้าย |
Sleet | คํานาม | /sliːt/ | ลูกเห็บ |
Snow | คํานาม | /snoʊ/ | หิมะ |
Snowflake | คํานาม | /ˈsnoʊ.fleɪk/ | เกล็ดหิมะ |
Snowstorm | คํานาม | /ˈsnoʊˌstɔrm/ | พายุหิมะ |
Storm | คํานาม | /stɔrm/ | พายุ |
Temperature | คํานาม | /ˈtɛmpərətʃər/ | อุณหภูมิ |
Temperature inversion | คํานาม | /ˈtɛmpərətʃər ɪnˈvɜrʒən/ | การกลับตัวของอุณหภูมิ |
Tornado | คํานาม | /tɔrˈneɪdoʊ/ | พายุทอร์นาโด |
Tropical storm | คํานาม | /ˈtrɒpɪkəl stɔrm/ | พายุโซนร้อน |
Warm front | คํานาม | /wɔrm frʌnt/ | แนวปะทะอากาศอุ่น |
Wind chill | คํานาม | /wɪnd tʃɪl/ | ความหนาวเหน็บบนเนื้อหนังมนุษย์ |
Windy | คําคุณศัพท์ | /ˈwɪndi/ | ซึ่งมีลมแรง |
ตัวอย่าง:
- The weather is perfect for a picnic today. (วันนี้อากาศเหมาะกับการไปปิกนิกมาก)
- I always check the weather forecast before traveling. (ฉันดูพยากรณ์อากาศเสมอก่อนออกเดินทาง)
- Heavy rain can lead to flooding in some areas. (ฝนตกหนักอาจจะทำให้เกิดน้ำท่วมได้ในบางพื้นที่)
- Sunny days make me feel more energetic. (วันที่มีแดดทำให้ฉันรู้สึกมีพลังมากขึ้น)

หัวข้อ Career
คำศัพท์เกี่ยวกับสายอาชีพภาษาอังกฤษ ทักษะในการทำงาน และการหางาน
(Promotion, Internship, Networking, Job satisfaction, Employment)
ด้านล่างนี้คือตารางคำศัพท์ที่ได้รับการจัดรูปแบบใหม่พร้อมข้อมูลครบถ้วน เช่น ชนิดของคำ การออกเสียง และความหมาย:
คําศัพท์ | ชนิดของคํา | วิธีการออกเสียง | ความหมาย |
a blue-collar worker | คํานาม | /ə ˈbluː ˈkɒlə ˈwɜːkər/ | คนทำงานที่ไม่ได้ทำในออฟฟิต คนงาน คนใช้แรงงานต่างๆ |
a white-collar worker | คํานาม | /ə ˈwaɪt ˈkɒlə ˈwɜːkər/ | คนที่ทำงานในออฟฟิต พนักงานตามออฟฟิต มนุษย์เงินเดือน หรือผู้บริหาร |
Application | คํานาม | /ˌæp.lɪˈkeɪ.ʃən/ | ใบสมัครงาน |
Benefits | คํานาม | /ˈben.ɪ.fɪts/ | สวัสดิการ |
Bonus | คํานาม | /ˈboʊ.nəs/ | โบนัส |
Break | คํานาม | /breɪk/ | พักเบรค |
Career | คํานาม | /kəˈrɪr/ | วิชาชีพ |
Career counseling | คํานาม | /kəˈrɪr ˈkaʊn.səl.ɪŋ/ | การให้คำปรึกษาด้านอาชีพ |
Co-working space | คํานาม | /ˌkoʊˈwɜːrk.ɪŋ speɪs/ | พื้นที่ทำงานร่วมกัน |
Colleague | คํานาม | /ˈkɑː.liːɡ/ | เพื่อนร่วมงาน |
Commute | คํากริยา | /kəˈmjuːt/ | เดินทางไปมา |
Contract | คํานาม | /ˈkɑːn.trækt/ | สัญญา |
Cover letter | คํานาม | /ˈkʌvər ˈlɛtər/ | จดหมายสมัครงาน |
Cultural fit | คํานาม | /ˈkʌltʃərəl fɪt/ | ความเหมาะสมทางวัฒนธรรม |
CV | คํานาม | /kəˌrɪk.jə.ləm ˈviː.taɪ/ | ประวัติย่อ |
Development | คํานาม | /dɪˈvɛl.əp.mənt/ | การพัฒนา |
Downsizing | คํานาม | /ˈdaʊn.saɪz.ɪŋ/ | การลดขนาด |
Employee | คํานาม | /ɪmˈplɔɪ.iː/ | ลูกจ้าง |
Employee assistance program | คํานาม | /ɪmˈplɔɪ.iː əˈsɪstəns ˈproʊ.ɡræm/ | โครงการช่วยเหลือพนักงาน |
Employee benefits | คํานาม | /ɪmˈplɔɪ.iː ˈbɛn.ɪ.fɪts/ | สวัสดิการพนักงาน |
Employee engagement | คํานาม | /ɪmˈplɔɪ.iː ɪnˈɡeɪdʒ.mənt/ | การมีส่วนร่วมของพนักงาน |
Employer | คํานาม | /ɪmˈplɔɪ.ər/ | นายจ้าง |
Employment | คํานาม | /ɪmˈplɔɪ.mənt/ | การจ้างงาน |
Entrepreneur | คํานาม | /ˌɑːn.trə.prəˈnɜːr/ | ผู้ประกอบการ |
Equal pay | คํานาม | /ˈiːkwəl peɪ/ | การจ่ายค่าจ้างที่เท่าเทียมกัน |
Evaluation | คํานาม | /ɪˌvæl.juˈeɪ.ʃən/ | การประเมินผล |
Experience | คํานาม | /ɪkˈspɪr.i.əns/ | ประสบการณ์ |
Flexibility | คํานาม | /ˌflek.səˈbɪl.ə.t̬i/ | ความยืดหยุ่น |
Flextime | คํานาม | /ˈflɛks.taɪm/ | เวลาทำงานแบบยืดหยุ่น |
Freelancer | คํานาม | /ˈfriː.lɑːn.sər/ | ฟรีแลนซ์ |
Full-time | คําคุณศัพท์ | /ˌfʊl ˈtaɪm/ | พนักงานประจำ |
Gender equality | คํานาม | /ˈdʒɛndər ɪˈkwɑːl.ə.ti/ | ความเท่าเทียมทางเพศ |
Glass ceiling | คํานาม | /ɡlæs ˈsiː.lɪŋ/ | เพดานกระจก |
Grievance procedure | คํานาม | /ˈɡriːvəns prəˈsiː.dʒər/ | ขั้นตอนการร้องเรียน |
Incentive | คํานาม | /ɪnˈsɛn.tɪv/ | สิ่งจูงใจ |
Industrial action | คํานาม | /ɪnˈdʌstriəl ˈækʃən/ | การหยุดงานประท้วง |
Interview | คํานาม | /ˈɪn.tə.vjuː/ | การสัมภาษณ์ |
Job | คํานาม | /dʒɑːb/ | งาน |
Job board | คํานาม | /dʒɑːb bɔːrd/ | กระดานงาน |
Job enrichment | คํานาม | /dʒɑːb ɪnˈrɪtʃ.mənt/ | การเพิ่มพูนทักษะการทำงาน |
Job market | คํานาม | /dʒɑːb ˈmɑːr.kɪt/ | ตลาดงาน |
Job rotation | คํานาม | /dʒɑːb roʊˈteɪʃən/ | การหมุนเวียนงาน |
Job satisfaction | คํานาม | /dʒɑːb ˌsæt.ɪsˈfæk.ʃən/ | ความพึงพอใจในงาน |
Job search | คํานาม | /dʒɑːb sɜːrtʃ/ | การหางาน |
Job security | คํานาม | /dʒɑːb sɪˈkjʊər.ə.t̬i/ | ความมั่นคงในการทำงาน |
Job sharing | คํานาม | /dʒɑːb ˈʃɛr.ɪŋ/ | การแบ่งงาน |
Layoff | คํานาม | /ˈleɪ.ɔːf/ | การไล่ออก |
Lunch break | คํานาม | /lʌntʃ breɪk/ | ช่วงพักกลางวัน |
Maternity/paternity leave | คํานาม | /məˈtɜːr.nə.t̬i/pəˈtern.ə.t̬i liːv/ | การลาคลอด/ลาเพื่อเลี้ยงบุตร |
Mentor | คํานาม | /ˈmɛn.tɔːr/ | ผู้ชี้แนะ |
Networking | คํานาม | /ˈnɛtˌwɜːrkɪŋ/ | เครือข่าย |
Non-disclosure agreement | คํานาม | /ˌnɒn-dɪsˈkləʊʒər əˈɡriː.mənt/ | ข้อตกลงไม่เปิดเผยข้อมูล |
Occupation | คํานาม | /ˌɑː.kjəˈpeɪ.ʃən/ | อาชีพ |
Occupational hazard | คํานาม | /ˌɑː.kjuˈpeɪ.ʃənəl ˈhæz.ərd/ | อันตรายจากการทำงาน |
Office | คํานาม | /ˈɔː.fɪs/ | สำนักงาน |
Outsourcing | คํานาม | /ˈaʊt.sɔːrs.ɪŋ/ | การจ้างเหมาช่วง |
Overtime | คํานาม | /ˈoʊ.vər.taɪm/ | การทำงานล่วงเวลา |
Part-time | คําคุณศัพท์ | /ˌpɑːrt ˈtaɪm/ | นอกเวลา |
Payroll | คํานาม | /ˈpeɪroʊl/ | การจ่ายเงินเดือน |
Pension | คํานาม | /ˈpɛn.ʃən/ | เงินบำนาญ |
Performance | คํานาม | /pərˈfɔːr.məns/ | ผลการดำเนินงาน |
Policy | คํานาม | /ˈpɑː.lɪ.si/ | นโยบาย |
Probation | คํานาม | /proʊˈbeɪ.ʃən/ | ช่วงระยะเวลาการทดสอบ |
Promotion | คํานาม | /prəˈmoʊ.ʃən/ | การเลื่อนตำแหน่ง |
Recruitment | คํานาม | /rɪˈkruːt.mənt/ | การสรรหาบุคลากร |
Remote work | คํานาม | /rɪˈmoʊt wɜːrk/ | การทำงานระยะไกล |
Remote team | คํานาม | /rɪˈmoʊt tim/ | ทีมงานทำงานจากระยะไกล |
Resignation | คํานาม | /ˌrɛz.ɪɡˈneɪ.ʃən/ | การลาออก |
Salary | คํานาม | /ˈsæl.ə.ri/ | เงินเดือน |
Severance pay | คํานาม | /ˈsɛv.ər.əns peɪ/ | ค่าชดเชยเลิกจ้าง |
Skills | คํานาม | /skɪlz/ | ทักษะ |
Staff | คํานาม | /stɑːf/ | พนักงาน |
Staffing | คํานาม | /ˈstæf.ɪŋ/ | การจัดพนักงาน |
Strike | คํานาม | /straɪk/ | การหยุดงาน |
Sick leave | คํานาม | /sɪk liːv/ | การลาป่วย |
Shift work | คํานาม | /ʃɪft wɜːrk/ | การทำงานเป็นกะ |
Severance package | คํานาม | /ˈsɛvərəns ˈpækɪdʒ/ | แพ็คเกจเงินชดเชยการเลิกจ้าง |
Self-employed | คํานาม | /ˌself.ɪmˈplɔɪd/ | ผู้ประกอบอาชีพอิสระ |
Talent | คํานาม | /ˈtæl.ənt/ | ผู้มีความสามารถ |
Training | คํานาม | /ˈtreɪ.nɪŋ/ | การฝึกอบรม |
Telecommuting | คํานาม | /ˈtɛlɪkjuːˌmjuːtɪŋ/ | การทำงานจากที่บ้าน |
Time clock | คํานาม | /taɪm klɑːk/ | นาฬิกาบันทึกเวลาทำงาน |
Unemployment | คํานาม | /ˌʌn.ɪmˈplɔɪ.mənt/ | การว่างงาน |
Unpaid leave | คํานาม | /ʌnˈpeɪd liːv/ | การลาโดยไม่ได้รับค่าจ้าง |
Vacation | คํานาม | /vəˈkeɪ.ʃən/ | วันหยุดพักร้อน |
Volunteer | คํานาม | /ˌvɑːl.ənˈtɪr/ | อาสาสมัคร |
Wage | คํานาม | /weɪdʒ/ | ค่าจ้าง |
Workforce | คํานาม | /ˈwɜːrk.fɔːrs/ | แรงงาน |
Workforce planning | คํานาม | /ˈwɜːrkfɔːrs ˈplænɪŋ/ | การวางแผนกำลังคน |
Workforce diversity | คํานาม | /ˈwɜːrk.fɔːrsdaɪˈvɜːrs.ə.ti/ | ความหลากหลายของกำลังแรงงาน |
Work-related injury | คํานาม | /wɜːrk-rɪˈleɪ.tɪdˈɪn.dʒər.i/ | การบาดเจ็บที่เกี่ยวข้องกับการทำงาน |
Work-life integration | คํานาม | /wɜːrk-laɪf ɪntɪˈɡreɪʃən/ | การบูรณาการระหว่างชีวิตและการทำงาน |
Work-life boundaries | คํานาม | /wɜːrk-laɪf ˈbaʊn.dər.i/ | ขอบเขตระหว่างชีวิตและการทำงาน |
Work-life balance | คํานาม | /work-laɪf ˈbæl.əns/ | ความสมดุลระหว่างงานกับชีวิต |
ตัวอย่าง:
- Networking can open doors to new career opportunities. (การสร้างเครือข่ายสามารถเปิดประตูสู่โอกาสอาชีพใหม่ ๆ ได้)
- I am considering a career change after five years. (ฉันกำลังคิดที่จะเปลี่ยนอาชีพหลังจากผ่านไปห้าปี)
- Continuous learning is vital for career advancement. (การเรียนรู้อย่างต่อเนื่องมีความสำคัญต่อความก้าวหน้าในอาชีพการงาน)
- Work-life balance is essential for overall well-being. (ความสมดุลระหว่างงานกับชีวิตมีความจำเป็นต่อความเป็นอยู่โดยรวม)

หัวข้อ Fashion
คำศัพท์เกี่ยวกับแฟชั่นและเครื่องประดับ
คําศัพท์ | ชนิดของคํา | วิธีการออกเสียง | ความหมาย |
Abaya | คํานาม | /əˈbaɪ.ə/ | อาบายะ |
Accessories | คํานาม | /əkˈsɛsəriz/ | เครื่องประดับ |
Accessorize | คํากริยา | /əkˈsɛsəˌraɪz/ | ประดับ |
Avant-garde | คําคุณศัพท์ | /ævɑntˈɡɑrd/ | อาวองการ์ด |
Beauty | คํานาม | /bjuti/ | ความงาม |
Blazer | คํานาม | /bleɪ.zɚ/ | เสื้อเบลเซอร์ |
Blouse | คํานาม | /blaʊs/ | เสื้อเบลาส์ |
Boutique | คํานาม | /buˈtik/ | บูติก |
Brand | คํานาม | /brænd/ | แบรนด์ |
Camisole | คํานาม | /kæm.ə.soʊl/ | เสื้อกล้าม |
Cape | คํานาม | /keɪp/ | เสื้อคลุม |
Cardigan | คํานาม | /kɑːr.dɪ.ɡən/ | เสื้อคาร์ดิแกน |
Casual | คําคุณศัพท์ | /kæʒuəl/ | ไม่เป็นทางการ |
Catwalk | คํานาม | /kætˌwɔk/ | แคทวอล์ก |
Changing room | คํานาม | /tʃeɪn.dʒɪŋ rum/ | ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า |
Checked | คําคุณศัพท์ | /tʃɛkt/ | ลายตาราง |
Chic | คําคุณศัพท์ | /ʃiːk/ | ทันสมัย |
Chinos | คํานาม | /tʃiː.noʊz/ | ผ้าฝ้ายหยาบ |
Clothing | คํานาม | /kloʊðɪŋ/ | เสื้อผ้า |
Coat | คํานาม | /koʊt/ | เสื้อโค้ท |
Cotton | คํานาม | /kɑːtn/ | ผ้าฝ้าย |
Couture | คํานาม | /kuˈtʊr/ | เสื้อผ้าชั้นสูง |
Couture house | คํานาม | /kuːˈtjʊr haʊs/ | โรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าแฟชั่นระดับไฮเอนด์ |
Couturier | คํานาม | /kuːˈtjʊriːˌeɪ/ | ช่างตัดเสื้อ |
Crop-top | คํานาม | /krɒp tɒp/ | เสื้อครอปท็อป |
Denim | คํานาม | /dɛnɪm/ | เดนิม |
Design | คํากริยา | /dɪˈzaɪn/ | ออกแบบ |
Designer | คํานาม | /dɪˈzaɪnər/ | นักออกแบบ |
Dhoti | คํานาม | /doʊ.tiː/ | โธติ |
Dress | คํานาม | /drɛs/ | เครื่องแต่งกาย |
Edgy | คําคุณศัพท์ | /ɛdʒi/ | เก๋ไก๋ |
Elegance | คํานาม | /ɛlɪɡəns/ | สง่างาม |
Embroidery | คํานาม | /ɪmˈbrɔɪdəri/ | งานปัก |
Fabrics | คํานาม | /fæbrɪks/ | เนื้อผ้า |
Fabulous | คําคุณศัพท์ | /fæbjələs/ | เยี่ยม ดีเลิศ |
Fashion blogger | คํานาม | /fæʃən ˈblɔɡər/ | บล็อกเกอร์ด้านแฟชั่น |
Fashion forward | คําคุณศัพท์ | /fæʃən ˈfɔrwərd/ | แฟชั่นล้ำสมัย |
Fashion icon | คํานาม | /fæʃən ˈaɪˌkɑn/ | ไอคอนแฟชั่น |
Fashion industry | คํานาม | /fæʃən ˈɪndəstri/ | อุตสาหกรรมแฟชั่น |
Fashion magazine | คํานาม | /fæʃən ˈmæɡəˌzin/ | นิตยสารแฟชั่น |
Fashion show | คํานาม | /fæʃən ʃoʊ/ | แฟชั่นโชว์ |
Fashionable | คําคุณศัพท์ | /fæʃənəbəl/ | ตามแฟชั่น |
Fashionista | คํานาม | /fæʃəˈnistə/ | แฟชั่นนิสต้า |
Flowery/Floral | คําคุณศัพท์ | /flaʊ.əri/ˈflɔːr.əl/ | ซึ่งปกคลุมหรือประดับด้วยดอกไม้ |
Footwear | คํานาม | /fʊtˌwɛr/ | รองเท้า |
Fur | คํานาม | /fɜːr/ | ขน(สัตว์) |
Glamorous | คําคุณศัพท์ | /ɡlæmərəs/ | หรูหรา |
Glamour | คํานาม | /ɡlæmər/ | ความมีเสน่ห์ |
Haute couture | คํานาม | /oʊt kuˈtur/ | การตัดเย็บชั้นสูง |
High fashion | คําคุณศัพท์ | /haɪ ˈfæʃən/ | แฟชั่นชั้นสูง |
Hijab | คํานาม | /hɪˈdʒɑːb/ | ผ้าคลุมศีรษะของผู้หญิงมุสลิม |
Hoodie | คํานาม | /huː.di/ | เสื้อฮู้ด |
Jacket | คํานาม | /dʒæk.ɪt/ | เสื้อแจ็คเก็ต |
Jeans | คํานาม | /dʒiːnz/ | กางเกงยีนส์ |
Jumper | คํานาม | /dʒʌm.pər/ | จัมเปอร์ |
Jumpsuit | คํานาม | /dʒʌmp.suːt/ | จัมเปอร์สูท |
Kaftan | คํานาม | /kæf.tæn/ | เสื้อคลุมยาว |
Kimono | คํานาม | /kɪˈmoʊ.noʊ/ | กิโมโน |
Kurti | คํานาม | /kʊrˈtiː/ | เสื้อคูร์ตี |
Leather | คํานาม | /lɛðər/ | หนัง |
Leggings | คํานาม | /lɛɡ.ɪŋz/ | กางเกงเลกกิ้ง |
Lehenga | คํานาม | /leɪŋɡə/ | เลเฮงก้า |
Linen | คํานาม | /lɪnɪn/ | ผ้าลินิน |
Lingerie | คํานาม | /læn.ʒəˈreɪ/ | ชุดชั้นใน |
Luxury | คําคุณศัพท์ | /lʌkʃəri/ | หรูหรา |
Makeup | คํานาม | /meɪkʌp/ | เครื่องสำอาง |
Maxi dress | คํานาม | /mæk.si drɛs/ | เดรสยาว |
Midi skirt | คํานาม | /mɪdi skɜːrt/ | กระโปรงยาวคลุมเข่า |
Modelling | คํานาม | /mɒdəlɪŋ/ | นักเดินแบบ |
Nylon | คํานาม | /naɪlɑːn/ | ไนลอน |
Outfit | คํานาม | /aʊtˌfɪt/ | ชุด |
Overalls | คํานาม | /ˈoʊ.vɚ.ɑːlz/ | ชุดเอี๊ยม |
Pants | คํานาม | /pænts/ | กางเกง |
Pashmina | คํานาม | /pæʃˈmiː.nə/ | ผ้าพัชมีนา |
Polyester | คํานาม | /ˌpɔlɪˈɛstər/ | ผ้าโพลีเอสเตอร์ |
Pyjamas | คํานาม | /pɪˈdʒɑː.məz/ | ชุดนอน |
Quilt | คํานาม | /kwɪlt/ | ผ้าห่ม |
Relaxed fit | คําคุณศัพท์ | /rɪˈlæks fɪt/ | ทรงหลวม |
Robe | คํานาม | /roʊb/ | เสื้อคลุม |
Runway | คํานาม | /ˈrʌn.weɪ/ | รันเวย์ |
Saree | คํานาม | /ˈsɑː.riː/ | ผ้าส่ารี |
Scarves | คํานาม | /skɑːrvz/ | ผ้าพันคอ |
Shirt | คํานาม | /ʃɜːrt/ | เสื้อเชิ้ต |
Shoes | คํานาม | /ʃuːz/ | รองเท้า |
Skirt | คํานาม | /skɜːrt/ | กระโปรง |
Sneakers | คํานาม | /ˈsniː.kərz/ | รองเท้าผ้าใบ |
Socks | คํานาม | /sɑːks/ | ถุงเท้า |
Sweater | คํานาม | /ˈswɛtər/ | เสื้อกันหนาว |
Salwar kameez | คํานาม | /sæl.wɑrkæˈmiːz/ | ชุดซัลวาร์ กามีซ |
Sherwani | คํานาม | /ʃɛrˈwɑː.ni/ | เชอร์วานี |
Tailor | คํานาม | /ˈteɪ.lər/ | ช่างตัดเสื้อ |
T-shirt | คํานาม | /ˈtiːʃɜːrt/ | เสื้อยืด |
Trousers | คํานาม | /ˈtraʊzərz/ | กางเกงขายาว |
Tunic | คํานาม | /ˈtjuː.nɪk/ | เสื้อคลุมชนิดมีแขน |
Vintage | คําคุณศัพท์ | /ˈvɪn.tɪdʒ/ | วินเทจ |
Wardrobe | คํานาม | /ˈwɔːr.droʊb/ | ตู้เสื้อผ้า |
Weave | คํากริยา | /wiːv/ | ถักทอ |
Wool | คํานาม | /wʊl/ | ผ้าขนสัตว์ |
ตัวอย่าง:
- Fashion reflects personal style and identity. (แฟชั่นสะท้อนถึงสไตล์และเอกลักษณ์เฉพาะตัว)
- Many designers showcase their collections during fashion week. (นักออกแบบจำนวนมากจัดแสดงคอลเลกชั่นของพวกเขาในช่วงสัปดาห์แฟชั่น)
- Sustainable fashion is gaining popularity among consumers. (แฟชั่นที่ยั่งยืนกำลังได้รับความนิยมในหมู่ผู้บริโภค)
- Accessories can enhance any outfit. (เครื่องประดับสามารถเสริมให้ชุดต่าง ๆ ดูดีได้)

หัวข้อ Crime & Punishment
คำศัพท์เกี่ยวกับระบบกฎหมาย อาชญากรรม และการลงโทษ (Imprisonment, Rehabilitation, Justice, Criminal, Sentence)
คําศัพท์ | ชนิดของคํา | วิธีการออกเสียง | ความหมาย |
Abduction | คํานาม | /æbˈdʌkʃən/ | การลักพาตัว |
Accomplice | คํานาม | /əˈkɑːmˌplɪs/ | ผู้สมรู้ร่วมคิด |
Alibi | คํานาม | /ælɪˌbaɪ/ | ข้อแก้ตัว |
Anarchy | คํานาม | /ænərki/ | การก่อจลาจล |
Arrest | คํากริยา | /əˈrɛst/ | จับกุม |
Arson | คํานาม | /ɑːrsən/ | การวางเพลิง |
Assault | คํานาม | /əˈsɔːlt/ | การทำร้ายร่างกาย |
Blackmail | คํานาม | /blækˌmeɪl/ | การขู่ว่าจะเปิดโปงความลับ |
Bribery | คํานาม | /braɪbəri/ | การติดสินบน |
Burglary | คํานาม | /bɜːrɡləri/ | การโจรกรรม |
Carjacking | คํานาม | /kɑːrˌdʒækɪŋ/ | การขโมยรถ |
Conspiracy | คํานาม | /kənˈspɪrəsi/ | การสมคบคิด |
Conviction | คํานาม | /kənˈvɪkʃən/ | การตัดสินลงโทษ |
Corruption | คํานาม | /kəˈrʌpʃən/ | การทุจริต |
Counterfeit | คํากริยา | /ˈkaʊntərˌfɪt/ | ปลอมแปลง |
Court | คํานาม | /kɔːrt/ | ศาล |
Crime | คํานาม | /kraɪm/ | อาชญากรรม |
Crime scene | คํานาม | /kraɪm sin/ | สถานที่เกิดเหตุ |
Criminal | คํานาม | /ˈkrɪmɪnəl/ | อาชญากร |
Custody | คํานาม | /ˈkʌstədi/ | การควบคุมตัว |
Cyberbullying | คํานาม | /ˈsaɪbərˌbʊliɪŋ/ | การกลั่นแกล้งทางไซเบอร์ |
Cybercrime | คํานาม | /ˈsaɪbər kraɪm/ | อาชญากรรมทางไซเบอร์ |
Cybersecurity | คํานาม | /ˈsaɪbərˌsikjʊrəti/ | ความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ |
Detective | คํานาม | /dɪˈtɛktɪv/ | นักสืบ |
Detention | คํานาม | /dɪˈtɛnʃən/ | การคุมขัง |
Domestic violence | คํานาม | /dəˈmɛstɪk ˈvaɪələns/ | ความรุนแรงในครอบครัว |
Drug trafficking | คํานาม | /drʌɡ ˈtræfɪkɪŋ/ | การลักลอบขนยาเสพติด |
Embezzlement | คํานาม | /ɪmˈbɛzlˌmənt/ | การยักยอกเงิน |
Evidence | คํานาม | /ɛvɪdəns/ | หลักฐาน |
Extortion | คํานาม | /ɪkˈstɔrʃən/ | การขู่เข็ญ การบีบบังคับ |
Felony | คํานาม | /fɛləni/ | ความผิดอาญาร้ายแรง |
Forensics | คํานาม | /fəˈrɛnzɪks/ | เกี่ยวกับทางศาลหรือกระบวนการทางกฎหมาย |
Forgery | คํานาม | /fɔːrdʒəri/ | การปลอมแปลง |
Fraud | คํานาม | /frɔːd/ | การโกง คนหลอกลวง |
Fraudulent | คําคุณศัพท์ | /frɔːdjʊlənt/ | ฉ้อโกง หลอกลวง |
Gang | คํานาม | /ɡæŋ/ | แก๊ง |
Guilty | คําคุณศัพท์ | /ɡɪlti/ | มีผิด |
Hacking | คํานาม | /hækɪŋ/ | การแฮ็ค |
Harassment | คํานาม | /hærəsmənt/ | การข่มขู่ |
Hate crime | คํานาม | /heɪt kraɪm/ | อาชญากรรมที่เกิดจากความมีอคติหรือความเกลียดชัง |
Homicide | คํานาม | /hɑːmɪsaɪd/ | การฆาตกรรม |
Identity theft | คํานาม | /aɪˈdɛntəti θɛft/ | โจรกรรมเอกลักษณ์ |
Impersonation | คํานาม | /ɪmˌpɜːrsəˈneɪʃən/ | การปลอมตัว |
Incarceration | คํานาม | /ɪnˌkɑːrsəˈreɪʃən/ | การกักขัง |
Indictment | คํานาม | /ɪnˈdaɪtmənt/ | ข้อกล่าวหา |
Infiltration | คํานาม | /ɪnfɪlˈtreɪʃən/ | การซึมทะลุ |
Injunction | คํานาม | /ɪnˈdʒʌŋkʃən/ | คำสั่งห้าม |
Innocent | คําคุณศัพท์ | /ɪnəsənt/ | ไร้เดียงสา |
Interrogation | คํานาม | /ɪnˌtɛrəˈɡeɪʃən/ | การซักถาม |
Investigation | คํานาม | /ɪnˌvɛstɪˈɡeɪʃən/ | การสืบสวน |
Jail | คํานาม | /dʒeɪl/ | จำคุก |
Judge | คํานาม | /dʒʌdʒ/ | ผู้พิพากษา |
Jury | คํานาม | /dʒʊri/ | คณะลูกขุน |
Juvenile | คําคุณศัพท์ | /dʒuːvənaɪl/ | เด็กหนุ่มเด็กสาว |
Juvenile delinquency | คํานาม | /dʒuːvənaɪl dɪˈlɪŋkwənsi/ | เด็กหรือเยาวชนผู้กระทำผิด |
Kidnapping | คํานาม | /kɪdnæpɪŋ/ | การลักพาตัว |
Larceny | คํานาม | /lɑːrsəni/ | การลักทรัพย์ |
Law enforcement | คํานาม | /lɔː ɪnˈfɔːrsmənt/ | การบังคับใช้กฎหมาย |
Manslaughter | คํานาม | /mænˌslɔːtər/ | การทำให้คนตายโดยไม่เจตนา |
Money laundering | คํานาม | /mʌni ˈlɔːndərɪŋ/ | การฟอกเงิน |
Mugging | คํานาม | /mʌɡɪŋ/ | การทำร้ายเพื่อปล้นทรัพยิ์นในที่สาธารณะ |
Murder | คํานาม | /mɜːrdər/ | การฆาตกรรม |
Narcotics | คํานาม | /nɑrˈkɑtɪks/ | ยาเสพติดยาเสพติด |
ตัวอย่าง:
- The jury deliberated for hours before reaching a verdict. (คณะลูกขุนปรึกษาหารือกันหลายชั่วโมงก่อนจะลงมติตัดสิน)
- A juvenile offender is someone under 18 who commits a crime. (ผู้กระทำความผิดซึ่งเป็นเด็กหนุ่มเด็กสาว คือ บุคคลที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปีที่กระทำความผิด)
- The police are investigating a case of kidnapping involving a young child. (ตำรวจกำลังสอบสวนคดีลักพาตัวที่มีเด็กเล็กเกี่ยวข้องอยู่)
- He was charged with larceny after stealing items worth over $1,000. (เขาถูกตั้งข้อหาลักทรัพย์หลังจากขโมยสิ่งของที่มีมูลค่ากว่า 1,000 ดอลลาร์)

หัวข้อ Culture
คําศัพท์เกี่ยวกับวัฒนธรรม และเทศกาล
คําศัพท์ | ชนิดของคํา | วิธีการออกเสียง | ความหมาย |
Appreciation | คํานาม | /əˌpriːʃiˈeɪʃən/ | การชื่นชม |
Architecture | คํานาม | /ˈɑːrkɪtɛktʃər/ | สถาปัตยกรรม |
Art | คํานาม | /ɑːrt/ | ศิลปะ |
Beliefs | คํานาม | /bɪˈliːfs/ | ความเชื่อ |
Celebrate | คํากริยา | /ˈsɛləˌbreɪt/ | เฉลิมฉลอง |
Ceremonies | คํานาม | /ˈsɛrəˌmoʊniz/ | พิธีกรรม |
Challenges | คํานาม | /ˈtʃælɪndʒɪz/ | ความท้าทาย |
Clothing | คํานาม | /ˈkloʊðɪŋ/ | เสื้อผ้า |
Coexist | คํากริยา | /ˌkoʊɪɡˈzɪst/ | การอยู่ร่วมกัน |
Community | คํานาม | /kəˈmjunəti/ | ชุมชน |
Consequences | คํานาม | /ˈkɑnsɪkwɛnsɪz/ | ผลที่ตามมา |
Contributes | คํากริยา | /kənˈtrɪbjuts/ | มีส่วนสนับสนุน |
Cuisine | คํานาม | /kwɪˈziːn/ | อาหาร |
Cultural adaptation | คํานาม | /ˈkʌltʃərəl ˌædæpˈteɪʃən/ | การปรับตัวทางวัฒนธรรม |
Cultural anthropology | คํานาม | /ˈkʌltʃərəl ˌænθrəˈpɑːlədʒi/ | มานุษยวิทยาทางวัฒนธรรม |
Cultural appreciation | คํานาม | /ˈkʌltʃərəl əˌpriːʃiˈeɪʃən/ | การชื่นชมวัฒนธรรม |
Cultural artifacts | คํานาม | /ˈkʌltʃərəl ˈɑːrtəfækts/ | สิ่งประดิษฐ์ทางวัฒนธรรม |
Cultural assimilation | คํานาม | /ˈkʌltʃərəl əˌsɪməˈleɪʃən/ | การกลมกลืนทางวัฒนธรรม |
Cultural awareness | คํานาม | /ˈkʌltʃərəl əˈwɛrˈnɛs/ | ความตระหนักรู้ทางวัฒนธรรม |
Cultural diffusion | คํานาม | /ˈkʌltʃər dɪˈfjuːʒən/ | การแพร่กระจายทางวัฒนธรรม |
Cultural diversity | คํานาม | /ˈkʌltʃərəl daɪˈvɜːrsəti/ | ความหลากหลายทางวัฒนธรรม |
Cultural education | คํานาม | /ˈkʌltʃərəl ˌɛdʒʊˈkeɪʃən/ | การศึกษาทางวัฒนธรรม |
Cultural enrichment | คํานาม | /ˈkʌltʃərəl ɪnˈrɪtʃmənt/ | การเสริมสร้างวัฒนธรรม |
Cultural exchange | คํานาม | /ˈkʌltʃərəl ɪksˈtʃeɪndʒ/ | การแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม |
Cultural expression | คํานาม | /ˈkʌltʃərəl ɪkˈsprɛʃən/ | การแสดงออกทางวัฒนธรรม |
Cultural heritage | คํานาม | /ˈkʌltʃərəl ˈhɛrɪtɪdʒ/ | มรดกทางวัฒนธรรม |
Cultural identity | คํานาม | /ˈkʌltʃərəl aɪˈdɛntəti/ | อัตลักษณ์ทางวัฒนธรรม |
Cultural influence | คํานาม | /ˈkʌltʃərəl ˈɪnfluəns/ | อิทธิพลทางวัฒนธรรม |
Cultural Integration | คํานาม | /ˈkʌltʃərəl ˌɪntɪˈɡreɪʃən/ | การบูรณาการทางวัฒนธรรม |
Cultural interaction | คํานาม | /ˈkʌltʃərəl ˌɪntərˈækʃən/ | ปฏิสัมพันธ์ทางวัฒนธรรม |
Cultural norms | คํานาม | /ˈkʌltʃərəl nɔːrmz/ | บรรทัดฐานทางวัฒนธรรม |
Cultural practices | คํานาม | /ˈkʌltʃərəl ˈpræktɪsɪz/ | แนวทางปฏิบัติทางวัฒนธรรม |
Cultural preservation | คํานาม | /ˈkʌltʃərəl ˌprɛzərˈveɪʃən/ | การอนุรักษ์วัฒนธรรม |
Culture shock | คํานาม | /ˈkʌltʃərəl ʃɒk/ | ความตกตะลึงทางวัฒนธรรม |
Cultural significance | คํานาม | /ˈkʌltʃərəl sɪɡˈnɪfɪkəns/ | ความสำคัญทางวัฒนธรรม |
Cultural symbolism | คํานาม | /ˈkʌltʃərəl ˈsɪmbəˌlɪzəm/ | สัญลักษณ์ทางวัฒนธรรม |
Cultural traditions | คํานาม | /ˈkʌltʃərəl trəˈdɪʃənz/ | ประเพณีทางวัฒนธรรม |
Cultural transformation | คํานาม | /ˈkʌltʃərəl ˌtrænsfərˈmeɪʃən/ | การเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรม |
Cultural understanding | คํานาม | /ˈkʌltʃərəl ˌʌndərˈstændɪŋ/ | ความเข้าใจทางวัฒนธรรม |
Cultural uniqueness | คํานาม | /ˈkʌltʃərəl juˈniknɪs/ | เอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม |
Cultural values | คํานาม | /ˈkʌltʃərəl ˈvæljuːz/ | ค่านิยมทางวัฒนธรรม |
Culturally acceptable | คําคุณศัพท์ | /ˈkʌltʃərəli əkˈsɛptəbəl/ | การยอมรับทางวัฒนธรรม |
Customs | คํานาม | /ˈkʌstəmz/ | ประเพณี |
Dance | คํานาม | /dæns/ | การเต้นรำ |
Diffusion | คํานาม | /dɪˈfjuʒən/ | การแพร่กระจาย |
Discrimination | คํานาม | /dɪˌskrɪmɪˈneɪʃən/ | การเลือกปฏิบัติทางเชื้อชาติ |
Diversity | คํานาม | /daɪˈvɜːrsɪti/ | ความหลากหลาย |
Enriching | คําคุณศัพท์ | /ɪnˈrɪtʃɪŋ/ | เสริมสร้าง |
Ethics | คํานาม | /ˈɛθɪks/ | จริยธรรม |
Ethnicity | คํานาม | /ɛθˈnɪsɪti/ | ความเป็นชาติพันธุ์ |
Ethnocentrism | คํานาม | /ˌɛθnoʊˈsɛntrɪzəm/ | ความเป็นศูนย์กลางของชาติพันธุ์ |
Ethnography | คํานาม | /ɛθˈnɑːɡrəfi/ | ชาติพันธุ์วิทยา |
Etiquette | คํานาม | /ˈɛtɪkɪt/ | มารยาท |
ตัวอย่าง:
- Cultural diversity enriches our communities. (ความหลากหลายทางวัฒนธรรมช่วยเสริมสร้างชุมชนของเรา)
- Learning about different cultures can broaden your perspective. (การเรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมที่แตกต่างกันสามารถขยายมุมมองของคุณให้กว้างขึ้น)
- Festivals are a great way to celebrate cultural heritage. (เทศกาลเป็นวิธีที่ดีในการเฉลิมฉลองมรดกทางวัฒนธรรม)
- Art plays a significant role in expressing cultural identity. (ศิลปะมีบทบาทสำคัญในการแสดงออกถึงเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม)

>>>Read more: วันลอยกระทง ภาษาอังกฤษ (Loy Krathong) : ประวัติความเป็นมา คําศัพท์ แคปชั่น และกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง
หัวข้อ Transportation
คำศัพท์เกี่ยวกับถนน การขนส่งสาธารณะ… (Public transport, Traffic congestion, Commuter, Vehicle, Infrastructure)
คําศัพท์ | ชนิดของคํา | วิธีการออกเสียง | ความหมาย |
Airplane | คํานาม | /ˈɛrˌpleɪn/ | เครื่องบิน |
Airship | คํานาม | /ˈɛrˌʃɪp/ | เรือเหาะ |
Ambulance | คํานาม | /ˈæmbjəˌlæns/ | รถพยาบาล |
Barge | คํานาม | /bɑrdʒ/ | เรือบรรทุก |
Bicycle | คํานาม | /ˈbaɪsɪkəl/ | จักรยาน |
Boat | คํานาม | /boʊt/ | เรือ |
Bulldozer | คํานาม | /ˈbʊlˌdoʊzər/ | รถปราบดิน |
Bullet train | คํานาม | /ˈbʊlɪt treɪn/ | รถไฟความเร็วสูง |
Bus | คํานาม | /bʌs/ | รถบัส |
Cable car | คํานาม | /ˈkeɪbəl kɑr/ | กระเช้าลอยฟ้า |
Camels | คํานาม | /ˈkæməlz/ | อูฐ |
Camper | คํานาม | /ˈkæmpər/ | รถบ้าน |
Car | คํานาม | /kɑr/ | รถยนต์ |
Carriage | คํานาม | /ˈkærɪʤ/ | รถลาก |
Catamaran | คํานาม | /ˌkætəməˈræn/ | เรือใบสองเสา |
Cement mixer | คํานาม | /sɪˈmɛnt ˈmɪksər/ | รถผสมปูน |
Conveyor belt | คํานาม | /kənˈveɪər bɛlt/ | สายพานลำเลียง |
Crane | คํานาม | /kreɪn/ | รถเครน |
Delivery van | คํานาม | /dɪˈlɪvəri væn/ | รถตู้ส่งของ |
Electric car | คํานาม | /ɪˈlɛktrɪk kɑr/ | รถยนต์ไฟฟ้า |
Electric scooter | คํานาม | /ɪˈlɛktrɪk ˈskuːtər/ | สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า |
Escalator | คํานาม | /ˈɛskəˌleɪtər/ | บันไดเลื่อน |
Excavator | คํานาม | /ˈɛkskəˌveɪtər/ | รถขุด |
Ferry | คํานาม | /ˈfɛri/ | เรือข้ามฟาก |
Forklift | คํานาม | /ˈfɔrkˌlɪft/ | รถยก |
Garbage truck | คํานาม | /ˈɡɑrbɪʤ trʌk/ | รถบรรทุกขยะ |
Gondola | คํานาม | /ˈɡɑndələ/ | เรือกอนโดลา |
Hang glider | คํานาม | /hæŋ ˈɡlaɪdər/ | เครื่องร่อน |
Hangar | คํานาม | /ˈhæŋər/ | โรงเก็บเครื่องบิน |
Helicopter | คํานาม | /ˈhɛlɪˌkɑptər/ | เฮลิคอปเตอร์ |
Horse-drawn carriage | คํานาม | /hɔrs drɔn ˈkærɪʤ/ | รถม้า |
Hot air balloon | คํานาม | /hɑt ɛr bəˈlun/ | บัลลูนอากาศร้อน |
Hovercraft | คํานาม | /ˈhoʊvərˌkræft/ | เรือโฮเวอร์คราฟท์ |
Hybrid car | คํานาม | /ˈhaɪbrɪd kɑr/ | รถยนต์ไฮบริด |
Ice cream truck | คํานาม | /aɪs krim trʌk/ | รถบรรทุกไอศกรีม |
Icebreaker | คํานาม | /ˈaɪsˌbreɪkər/ | เรือตัดน้ำแข็ง |
Jet | คํานาม | /ʤɛt/ | เจ็ต |
Jet pack | คํานาม | /ʤɛt pæk/ | เจ็ตแพ็ก |
Jet ski | คํานาม | /ʤɛt ski/ | เจ็ตสกี |
Locomotive | คํานาม | /ˌloʊkəˈmoʊtɪv/ | หัวรถจักร |
Lorry | คํานาม | /ˈlɔri/ | รถยนต์บรรทุก |
Minivan | คํานาม | /ˈmɪnɪˌvæn/ | รถตู้ |
Monorail | คํานาม | /ˈmɑnəˌreɪl/ | รถไฟฟ้ารางเดี่ยว |
Moped | คํานาม | /ˈmoʊpɛd/ | รถจักรยานยนต์ขนาดเล็ก |
Motorboat | คํานาม | /ˈmoʊtərˌboʊt/ | เรือยนต์ |
Motorcoach | คํานาม | /ˈmoʊtərˌkoʊtʃ/ | รถโดยสาร |
Motorcycle | คํานาม | /ˈmoʊtərˌsaɪkəl/ | รถจักรยานยนต์ |
Paraglider | คํานาม | /ˈpærəˌɡlaɪdər/ | ร่มร่อน |
Pogo stick | คํานาม | /ˈpoʊɡoʊ stɪk/ | ไม้กระโดด |
Raft | คํานาม | /ræft/ | แพ |
Recreational Vehicle | คํานาม | /ˌrɛkrɪˈeɪʃənəl ˈviˌhɪkəl/ | รถบ้าน |
Rickshaw | คํานาม | /ˈrɪkˌʃɔ/ | รถลาก |
Roller coaster | คํานาม | /ˈroʊlər ˌkoʊstər/ | รถไฟเหาะ |
Sailboat | คํานาม | /seɪlˌboʊt/ | เรือใบ |
School bus | คํานาม | /skul bʌs/ | รถบัสโรงเรียน |
Scooter | คํานาม | /ˈskuːtər/ | สกู๊ตเตอร์ |
Seaplane | คํานาม | /ˈsiːˌpleɪn/ | เครื่องบินทะเล |
Segway | คํานาม | /ˈsɛɡˌweɪ/ | เซกเวย์ |
Ship | คํานาม | /ʃɪp/ | เรือ |
Shuttle | คํานาม | /ˈʃʌtl/ | รถรับส่ง |
Skateboard | คํานาม | /ˈskeɪtˌbɔrd/ | สเก็ตบอร์ด |
Ski lift | คํานาม | /ski lɪft/ | ลิฟท์สกี |
Skydiving | คํานาม | /ˈskaɪˌdaɪvɪŋ/ | การกระโดดร่ม |
Snowmobile | คํานาม | /ˈsnoʊmoʊˌbiːl/ | สโนว์โมบิล |
Spacecraft | คํานาม | /speɪsˌkræft/ | ยานอวกาศ |
Stretcher | คํานาม | /ˈstrɛtʃər/ | เปลหาม |
Submarine | คํานาม | /ˈsʌbməˌrin/ | เรือดำน้ำ |
Taxi | คํานาม | /ˈtæksi/ | แท็กซี่ |
Tow truck | คํานาม | /toʊ trʌk/ | รถบรรทุกพ่วง |
Tram | คํานาม | /træm/ | รถราง |
Trolley | คํานาม | /ˈtrɑli/ | รถเข็น |
Truck | คํานาม | /trʌk/ | รถบรรทุก |
Van | คํานาม | /væn/ | รถตู้ |
Yacht | คํานาม | /jɑt/ | เรือยอทช์ |
ตัวอย่าง:
- Public transportation is an efficient way to reduce traffic congestion. (ระบบขนส่งสาธารณะเป็นวิธีที่สามารถลดปัญหาการจราจรติดขัดได้อย่างมีประสิทธิภาพ)
- Bicycling is a healthy and eco-friendly mode of transport. (การขี่จักรยานเป็นวิธีที่ดีต่อสุขภาพและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม)
- Traveling by train can offer beautiful scenic views. (การเดินทางโดยรถไฟทําให้เราสามารถชมทัศนียภาพอันสวยงามได้)
- Many cities are investing in electric buses to promote sustainability. (เมืองต่าง ๆ หลายแห่งกำลังลงทุนในรถบัสไฟฟ้าเพื่อส่งเสริมความยั่งยืน)

หัวข้อ Science
คำศัพท์เกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์และการทดลอง
ด้านล่างนี้คือตารางคำศัพท์ที่มีการออกเสียงและควาหมายสำหรับคำศัพท์เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์:
คําศัพท์ | ชนิดของคํา | วิธีการออกเสียง | ความหมาย |
Analytical chemistry | คํานาม | /ˌænəˈlɪtɪkəl ˈkɛmɪstri/ | เคมีวิเคราะห์ |
Anatomy | คํานาม | /əˈnætəmi/ | กายวิภาคศาสตร์ |
Animal behavior | คํานาม | /ˈænəməl bɪˈheɪvjər/ | พฤติกรรมของสัตว์ |
Animal physiology | คํานาม | /ˈænəməl ˌfɪziˈɑləʤi/ | สรีรวิทยาของสัตว์ |
Artificial intelligence | คํานาม | /ˌɑrtəˈfɪʃəl ɪnˈtɛləʤəns/ | ปัญญาประดิษฐ์ |
Asteroid | คํานาม | /ˈæstərɔɪd/ | ดาวเคราะห์น้อย |
Astrobiology | คํานาม | /ˌæstroʊbaɪˈɑləʤi/ | ชีววิทยาดาราศาสตร์ |
Astrochemistry | คํานาม | /ˌæstroʊˈkɛmɪstri/ | เคมีดาราศาสตร์ |
Astrogeology | คํานาม | /ˌæstroʊʤiˈɑləʤi/ | ธรณีวิทยาดาราศาสตร์ |
Astronaut | คํานาม | /ˈæstrənɔːt/ | นักบินอวกาศ |
Astronomy | คํานาม | /əˈstrɑnəmi/ | ดาราศาสตร์ |
Astrophysics | คํานาม | /ˌæstroʊˈfɪzɪks/ | ฟิสิกส์ดาราศาสตร์ |
Atomic structure | คํานาม | /əˈtɑmɪk ˈstrʌkʧər/ | โครงสร้างอะตอม |
Biochemistry | คํานาม | /ˌbaɪoʊˈkɛmɪstri/ | ชีวเคมี |
Biodiversity | คํานาม | /ˌbaɪoʊdaɪˈvɜrsəti/ | ความหลากหลายทางชีวภาพ |
Bioengineering | คํานาม | /ˌbaɪoʊˌɛnʤɪˈnɪrɪŋ/ | วิศวกรรมชีวภาพ |
Bioethics | คํานาม | /baɪoʊˈɛθɪks/ | จริยธรรมชีวภาพ |
Bioinformatics | คํานาม | /ˌbaɪoʊˌɪnfərˈmætɪks/ | ชีวสารสนเทศศาสตร์ |
Biology | คํานาม | /baɪˈɑləʤi/ | ชีววิทยา |
Biomechanics | คํานาม | /ˌbaɪoʊməˈkænɪks/ | ชีวกลศาสตร์ |
Biomechatronics | คํานาม | /ˌbaɪoʊmɛkəˈtrɑnɪks/ | ไบโอเมคคาทรอนิกส์ |
Biophysics | คํานาม | /ˌbaɪoʊˈfɪzɪks/ | ชีวฟิสิกส์ |
Biotechnology | คํานาม | /ˌbaɪoʊtɛkˈnɑləʤi/ | เทคโนโลยีชีวภาพ |
Black hole | คํานาม | /blæk hoʊl/ | หลุมดำ |
Botany | คํานาม | /ˈbɑtəni/ | พฤกษศาสตร์ |
Cell biology | คํานาม | /sɛl baɪˈɑləʤi/ | ชีววิทยาเซลล์ |
Cell division | คํานาม | /sɛl dɪˈvɪʒən/ | การแบ่งเซลล์ |
Chemical reactions | คํานาม | /ˈkɛmɪkəl riˈækʃənz/ | ปฏิกิริยาเคมี |
Chemistry | คํานาม | /ˈkɛməstri/ | เคมี |
Climatology | คํานาม | /klaɪˈmɑləʤi/ | ภูมิอากาศวิทยา |
Cognitive neuroscience | คํานาม | /ˈkɑgnɪtɪv ˌnjʊroʊˈsaɪəns/ | ประสาทวิทยาเชิงรับรู้ |
Cognitive science | คํานาม | /ˈkɑgnɪtɪv ˈsaɪəns/ | วิทยาการปัญญา |
Comet | คํานาม | /ˈkɒmɪt/ | ดาวหาง |
Computational biology | คํานาม | /ˌkɑmpjʊˈteɪʃənəl baɪˈɑləʤi/ | ชีววิทยาเชิงคำนวณ |
Conservation biology | คํานาม | /ˌkɑnsərˈveɪʃən baɪˈɑləʤi/ | ชีววิทยาการอนุรักษ์ |
Cosmology | คํานาม | /kɑzˈmɑləʤi/ | จักรวาลวิทยา |
Cosmonaut | คํานาม | /ˈkɒzməˌnɔːt/ | นักอวกาศของรัสเซีย |
Cybernetics | คํานาม | /ˌsaɪbərˈnɛtɪks/ | ไซเบอร์เนติกส์ |
Dark matter | คํานาม | /dɑːrk ˈmætər/ | สสารมืด |
Earthquake | คํานาม | /ˈɜrθˌkweɪk/ | แผ่นดินไหว |
Ecology | คํานาม | /iˈkɑləʤi/ | นิเวศวิทยา |
Electromagnetism | คํานาม | /ɪˌlɛktroʊˈmægnəˌtɪzəm/ | ทฤษฎีแม่เหล็กไฟฟ้า |
Endocrinology | คํานาม | /ˌɛndoʊkrɪˈnɑləʤi/ | วิทยาต่อมไร้ท่อ |
Environmental chemistry | คํานาม | /ɪnˌvaɪrənˈmɛntl ˈkɛmɪstri/ | เคมีสิ่งแวดล้อม |
Environmental impact assessment | คํานาม | /ɪnˌvaɪrənˈmɛntl ˈɪmpækt əˈsɛsmənt/ | การประเมินผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม |
Environmental science | คํานาม | /ɪnˌvaɪrənˈmɛntl ˈsaɪəns/ | วิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม |
Epidemiology | คํานาม | /ˌɛpəˌdimiˈɑləʤi/ | ระบาดวิทยา |
Evolution | คํานาม | /ˌiːvəˈluːʃən/ | วิวัฒนาการ |
Evolutionary biology | คํานาม | /ˌiːvəˈluːʃəˌnɛri baɪˈɑləʤi/ | ชีววิทยาวิวัฒนาการ |
Exoplanet | คํานาม | /ˈɛksoʊˌplænɪt/ | ดาวเคราะห์นอกระบบ |
Extraterrestrial | คําคุณศัพท์ | /ˌɛkstrətəˈrɛstriəl/ | นอกโลก |
Galaxy | คํานาม | /ˈɡæləksi/ | กาแล็กซี |
Genetics | คํานาม | /dʒəˈnɛtɪks/ | พันธุศาสตร์ |
Geochemistry | คํานาม | /ˌdʒiːoʊˈkɛmɪstri/ | ธรณีเคมี |
Geology | คํานาม | /dʒiˈɑləʤi/ | ธรณีวิทยา |
Geophysics | คํานาม | /ˌdʒiːoʊˈfɪzɪks/ | ธรณีฟิสิกส์ |
Geoscience | คํานาม | /ˌdʒiːoʊˈsaɪəns/ | ธรณีศาสตร์ |
Gravity | คํานาม | /ˈɡrævɪti/ | แรงโน้มถ่วง |
Helium | คํานาม | /ˈhiːliəm/ | ฮีเลียม |
Hydrogeology | คํานาม | /ˌhaɪdroʊˈdʒiːəʊlədʒi/ | อุทกธรณีวิทยา |
Hydrology | คํานาม | /haɪˈdrɒlədʒi/ | อุทกวิทยา |
Immunology | คํานาม | /ˌɪmjʊˈnɒlədʒi/ | วิทยาภูมิคุ้มกัน |
Inorganic chemistry | คํานาม | /ˌɪnɔːrˈɡænɪk ˈkɛmɪstri/ | เคมีอนินทรีย์ |
Marine biology | คํานาม | /məˈriːn baɪˈɑləʤi/ | ชีววิทยาทางทะเล |
Materials science | คํานาม | /məˈtɪəriəlz saɪəns/ | วัสดุศาสตร์ |
Mathematics | คํานาม | /ˌmæθəˈmætɪks/ | คณิตศาสตร์ |
Meteorology | คํานาม | /ˌmiːtiəˈrɒlədʒi/ | อุตุนิยมวิทยา |
Microbiology | คํานาม | /ˌmaɪkroʊbaɪˈɑləʤi/ | จุลชีววิทยา |
Molecular biology | คํานาม | /məˈlɛkjʊlər baɪˈɑləʤi/ | ชีววิทยาระดับโมเลกุล |
Neuroscience | คํานาม | /ˌnjʊəroʊˈsaɪəns/ | ประสาทวิทยาศาสตร์ |
Nuclear physics | คํานาม | /ˈnjuːklɪər ˈfɪzɪks/ | ฟิสิกส์นิวเคลียร์ |
Oceanography | คํานาม | /ˌoʊʃəˈnɑɡrəfi/ | สมุทรศาสตร์ |
Optics | คํานาม | /ˈɒptɪks/ | ทัศนศาสตร์ |
Paleontology | คํานาม | /ˌpeɪliɒnˈtɒlədʒi/ | บรรพชีวินวิทยา |
Particle physics | คํานาม | /ˈpɑːrtɪkl ˈfɪzɪks/ | ฟิสิกส์อนุภาค |
Physics | คํานาม | /ˈfɪzɪks/ | ฟิสิกส์ |
Plant biology | คํานาม | /plænt baɪˈɑləʤi/ | ชีววิทยาของพืช |
Quantum mechanics | คํานาม | /ˈkwɒntəm məˈkænɪks/ | กลศาสตร์ควอนตัม |
Radioactivity | คํานาม | /ˌreɪdiəʊækˈtɪvɪti/ | สารกัมมันตภาพรังสี |
Radiology | คํานาม | /ˌreɪdiˈɒlədʒi/ | รังสีวิทยา |
Robotics | คํานาม | /roʊˈbɒtɪks/ | วิทยาการหุ่นยนต์ |
Soil science | คํานาม | /sɔɪl ˈsaɪəns/ | วิทยาศาสตร์ทางดิน |
Stem cell research | คํานาม | /stɛm sɛl rɪˈsɜːrʧ/ | การวิจัยเซลล์ต้นกำเนิด |
Supernova | คํานาม | /ˈsuːpərˌnoʊvə/ | การระเบิดของดาวฤกษ์ |
Sustainability | คํานาม | /səˌsteɪnəˈbɪlɪti/ | ความยั่งยืน |
Synthetic biology | คํานาม | /sɪnˈθɛtɪk baɪˈɑləʤi/ | ชีววิทยาสังเคราะห์ |
Technology | คํานาม | /tɛkˈnɑlədʒi/ | เทคโนโลยี |
Theoretical physics | คํานาม | /ˌθiəˈrɛtɪkəl ˈfɪzɪks/ | ฟิสิกส์เชิงทฤษฎี |
Toxicology | คํานาม | /ˌtɒksɪˈkɒlədʒi/ | พิษวิทยา |
Urban ecology | คํานาม | /ˈɜrbən iˈkɑlədʒi/ | นิเวศวิทยาชุมชนเมือง |
Virology | คํานาม | /vaɪˈrɒlədʒi/ | วิทยาไวรัส |
Zoology | คํานาม | /zuˈɑləʤi/ | สัตววิทยา |

ตัวอย่าง:
- Scientific research plays a crucial role in advancing technology. (การวิจัยทางวิทยาศาสตร์มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาเทคโนโลยี)
- The laws of physics govern the behavior of the universe. (กฎของฟิสิกส์ควบคุมพฤติกรรมของจักรวาล)
- Biology helps us understand the complexities of life. (ชีววิทยาช่วยให้เราเข้าใจถึงความซับซ้อนของชีวิต)
- The scientific method is essential for conducting experiments. (วิธีการทางวิทยาศาสตร์เป็นสิ่งสำคัญสำหรับการดำเนินการทดลอง)

>>>Read more: [รวบรวม] 5,000 + คำศัพท์ IELTS ตามหัวข้อที่พบบ่อยที่สุด
หัวข้อ Media
คำศัพท์เกี่ยวกับการสื่อสารและสื่อ
(Journalism, Advertisement, Media coverage, Social media, Broadcast)
คําศัพท์ | ชนิดของคํา | วิธีการออกเสียง | ความหมาย |
A cliff-hanger | คํานาม | /ə klɪf-hæŋər/ | เรื่องราวที่น่าติดตาม |
A crowd-pleaser | คํานาม | /ə kraʊd-pliːzər/ | เรื่องราวที่เอาใจคนดู |
A gig/show | คํานาม | /ə ɡɪɡ ˈʃoʊ/ | การแสดงสด/การแสดงละคร |
A musical | คํานาม | /ə ˈmjuːzɪkəl/ | ละครเพลง |
A play | คํานาม | /ə pleɪ/ | ละครเวที |
A popcorn movie | คํานาม | /ə ˈpɒpˌkɔrn ˈmuːvi/ | ภาพยนตร์ป๊อปคอร์น |
A sell-out | คํานาม | /ə sɛl-aʊt/ | ขายหมด |
Absorbing | คําคุณศัพท์ | /əbˈzɔːrbɪŋ/ | น่าดึงดูด |
Actor | คํานาม | /ˈæktər/ | นักแสดงชาย |
Actress | คํานาม | /æktrɪs/ | นักแสดงหญิง |
Advertising | คํานาม | /ædvərˌtaɪzɪŋ/ | โฆษณา |
Album | คํานาม | /ælbəm/ | อัลบั้ม |
Animation | คํานาม | /ænɪˈmeɪʃən/ | แอนิเมชั่น |
Art | คํานาม | /ɑːrt/ | งานศิลปะ |
Artificial | คําคุณศัพท์ | /ɑːrˈtɪˈfɪʃəl/ | สิ่งประดิษฐ์ |
Assert | คํากริยา | /əˈsɜːrt/ | ยืนยัน |
Associate | คํากริยา | /əˈsoʊʃieɪt/ | เชื่อมโยง |
Audience | คํานาม | /ɔːdiəns/ | ผู้ชม |
Award | คํานาม | /əˈwɔːrd/ | รางวัล |
Background music | คํานาม | /bækˌɡraʊnd ˈmjuːzɪk/ | เพลงประกอบ |
Blockbuster | คํานาม | /ˈblɑːkˌbʌstər/ | ภาพยนตร์ทำรายได้ถล่มทลาย |
Box office | คํานาม | /bɒks ˈɒfɪs/ | รายได้บ็อกซ์ออฟฟิศ |
Broadcast | คํากริยา | /brɔːdˌkæst/ | การออกอากาศ |
Binge watching | คํานาม | /ˈbɪndʒ wɒtʃɪŋ/ | พฤติกรรมการดูซีรีส์หรือสื่อบันเทิงอื่นๆ ติดต่อกันโดยไม่ได้พักผ่อน |
Broadcaster | คํานาม | /brɔːdˌkæstər/ | ผู้กระจายเสียงทางวิทยุหรือโทรทัศน์ |
Cameo | คํานาม | /kæmiˌoʊ/ | นักแสดงรับเชิญ |
Censor | คํากริยา | /sɛnsər/ | เซ็นเซอร์ |
Classical | คําคุณศัพท์ | /klæsɪkəl/ | ภาพยนตร์คลาสสิก |
Comedy | คํานาม | /kɒmədi/ | ภาพยนตร์ตลก |
Concert | คํานาม | /kɒnsərt/ | คอนเสิร์ต |
Chill | คํานาม | tʃɪl/ | ชิลล์ |
Couch potato | คํานาม | /kaʊtʃ pəˈteɪtoʊ/ | คนขี้เกียจ (มักเอาแต่นั่งดูทีวี) |
Critical acclaim | นามวลี | /krɪtɪkəl əˈkleɪm/ | คริทิคัลอักเคลม |
Critics | คํานาม | /krɪtɪks/ | นักวิจารณ์ |
Director | คํานาม | /dəˈrɛktər/ | ผู้กำกับ |
Distorted | คําคุณศัพท์ | /dɪˈstɔːrtɪd/ | บิดเบือน |
Documentary | คํานาม | /dɑːkjəˈmɛntəri/ | สารคดี |
Drama | คํานาม | /drɑːmə/ | ละคร ดราม่า |
Dubbed | คํากริยา | /dʌbd/ | พากย์เสียง |
Electronic | คําคุณศัพท์ | /ɪlɛkˈtrɑːnɪk/ | อิเล็กทรอนิกส์ |
Entertainment industry | นามวลี | /ɛntərˈteɪnmənt ˈɪndəstri/ | อุตสาหกรรมบันเทิง |
Expose | คํากริยา | /ɪkˈspoʊz/ | เปิดโปง |
Fame | คํานาม | /feɪm/ | ชื่อเสียง |
Fan base | นามวลี | /fæn beɪs/ | ฐานแฟนคลับ |
Film | คํานาม | /fɪlm/ | ภาพยนตร์ |
Folk | คํานาม | /foʊk/ | เพลงพื้นบ้าน |
Gameshow | คํานาม | /ɡeɪm ʃoʊ/ | เกมโชว์ |
Gaming | คํานาม | /ɡeɪmɪŋ/ | เกม |
Genres | คํานาม | /ʒɑːnrəz/ | ประเภท |
Heart-warming | คําคุณศัพท์ | /hɑːrt-ˈwɔːr.mɪŋ/ | เพลงอบอุ่นหัวใจ |
Heavy metal | คํานาม | /hɛvi ˈmɛtəl/ | เพลงเฮฟวี่เมทัล |
Hit the big time | คําพูด | /hɪt ðə bɪɡ taɪm/ | เข้าเป้าครั้งใหญ่ |
Ideology | คํานาม | /aɪdiˈɑːlədʒi/ | อุดมการณ์ |
In the limelight | บุพบทวลี | /ɪn ðə ˈlaɪmˌlaɪt/ | เป็นจุดสนใจ |
Influence | คํานาม | /ɪnfluəns/ | อิทธิพล |
Journalist | คํานาม | /dʒɜrnəlɪst/ | นักข่าว |
Lyrics | คํานาม | /lɪrɪks/ | เนื้อเพลง |
Magazine | คํานาม | /mæɡəˈzin/ | นิตยสาร |
Media coverage | นามวลี | /midiə ˈkʌvərɪdʒ/ | ความครอบคลุมของสื่อ |
Media industry | นามวลี | /midiə ˈɪndəstri/ | อุตสาหกรรมสื่อ |
Melody | คํานาม | /mɛlədi/ | ทำนองเพลง |
Movie | คํานาม | /muːvi/ | ภาพยนตร์ |
Music | คํานาม | /mjuːzɪk/ | ดนตรี |
Mystery | คํานาม | /ˈmɪstəri/ | เรื่องลึกลับ |
News | คํานาม | /nuz/ | ข่าวสาร |
On air | บุพบทวลี | /ɑn ɛr/ | ออกอากาศ |
On location | บุพบทวลี | /ɑn loʊˈkeɪʃən/ | สถานที่ออกอากาศ |
Performance | คํานาม | /pərˈfɔːrməns/ | การแสดง |
Premiere | คํานาม | /prɪˈmɪr/ | รอบปฐมทัศน์ |
Producer | คํานาม | /prəˈduːsər/ | โปรดิวเซอร์ |
Radio | คํานาม | /ˈreɪdioʊ/ | รายการวิทยุ |
Rating | คํานาม | /ˈreɪtɪŋ/ | เรตติ้ง |
Reality show | คํานาม | /riˈælɪti ʃoʊ/ | เรียลลิตี้โชว์ |
Recording | คํานาม | /rɪˈkɔːrdɪŋ/ | บันทึก |
Script | คํานาม | /skrɪpt/ | บท |
Screenplay | คํานาม | /ˈskriːnˌpleɪ/ | บทภาพยนตร์ |
Show business | นามวลี | /ʃoʊ ˈbɪznɪs/ | ธุรกิจการบันเทิง |
Single | คํานาม | /ˈsɪŋɡəl/ | ซิงเกิ้ล |
Spectator | คํานาม | /ˈspɛkteɪtər/ | ผู้ชม |
Stunt | คํานาม | /stʌnt/ | การแสดงโลดโผน |
Talent | คํานาม | /ˈtælənt/ | ความสามารถ |
Television | คํานาม | /ˈtɛlɪˌvɪʒən/ | โทรทัศน์ |
Trailer | คํานาม | /ˈtreɪlər/ | ตัวอย่าง |
Turnout | คํานาม | /ˈtɜrnˌaʊt/ | ผู้เข้าร่วม |
TV network | นามวลี | /tiː viː ˈnɛt.wɜrk/ | เครือข่ายโทรทัศน์ |
Tone-deaf | คําคุณศัพท์ | /ˌtəʊn ˈdef/ | ซึ่งแยกแยะเสียงสูงต่ำของดนตรีไม่ได้ |
Viewer | คํานาม | /ˈvjuːər/ | ผู้ชม |
Voice-over | คํานาม | /vɔɪs ˈoʊvər/ | การพากย์เสียงในหนังภาพยนตร์ เป็นต้น |
Award-winning | คําคุณศัพท์ | /əˈwɔːrd ˈwɪnɪŋ/ | ได้รางวัล |
Wildcard | คํานาม | /ˈwaɪldkɑːrd/ | ไวลด์การ์ด |
Wrap up | คํากริยา | /ræp ʌp/ | รายงานสรุป |
ตัวอย่าง:
- Social media has changed the way we connect with others. (โซเชียลมีเดียทำให้วิธีการที่เราเชื่อมต่อกับผู้อื่นเปลี่ยนแปลงไป)
- News outlets play a vital role in informing the public. (ช่องทางข่าวสารมีบทบาทสำคัญในการแจ้งข้อมูลแก่สาธารณชน)
- Podcasts are becoming an increasingly popular source of entertainment. (พอดแคสต์กำลังกลายเป็นแหล่งความบันเทิงยอดนิยมเพิ่มมากขึ้น)
- Media literacy is important for critically evaluating information. (การรู้เท่าทันสื่อถือเป็นสิ่งสำคัญในการประเมินข้อมูลอย่างมีวิจารณญาณ)

วิธีการเรียนรู้ IELTS vocabulary ให้มีประสิทธิภาพ
การเรียนรู้คำศัพท์ IELTS ต้องใช้ความอุตสาหะและกลยุทธ์ที่สมเหตุสมผล ต่อไปนี้เป็นวิธีการที่จะช่วยให้คุณเรียนรู้คำศัพท์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ:
เรียนคำศัพท์ IELTS ตามหัวข้อ
คุณสามารถสร้างหมวดคำศัพท์ตามแต่ละหัวข้อ จากนั้นก็เรียนรู้ความหมาย การออกเสียง และวิธีการใช้ของคําในประโยค
ใช้บัตรคำศัพท์
บัตรคำศัพท์เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการช่วยให้คุณจําคำศัพท์ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ สร้างแฟลชการ์ดที่มีคำศัพท์ด้านหนึ่งและความหมาย ตัวอย่าง หรือภาพประกอบในอีกด้านหนึ่ง

ฝึกฝนผ่านการเขียนและการพูด
การใช้คำศัพท์ใหม่ ๆ ในบทความการเขียนของ IELTS และใน IELTS การพูดเป็นวิธีจดจำคำศัพท์อย่างมีประสิทธิภาพ คุณสามารถใช้คำศัพท์สำหรับการเขียนใน IELTS เพื่อลองเขียนย่อหน้าสั้น ๆ หรือเรียงความโดยใช้คำศัพท์ที่คุณเพิ่งเรียนรู้ และฝึกฝน ในขณะเดียวกัน ลองใช้คำศัพท์สำหรับ IELTS Speaking เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับหัวข้อที่เกี่ยวข้อง
เรียนรู้คำศัพท์ผ่านบริบท
การเรียนรู้คำศัพท์ผ่านบริบทช่วยให้คุณไม่เพียงแต่จำคำศัพท์เท่านั้น แต่ยังเข้าใจวิธีใช้คำศัพท์ในสถานการณ์เฉพาะอีกด้วย การอ่านหนังสือ ดูหนัง หรือฟังพอดแคสต์ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อที่คุณกำลังเรียนสามารถเป็นตัวอย่างในชีวิตจริงได้

ทำไมคำศัพท์ถึงมีความสำคัญใน IELTS?
คำศัพท์เป็นปัจจัยหลักที่ช่วยให้ผู้สอบพัฒนาความสามารถในการแสดงออกในการสอบทั้งการพูดและการเขียน ด้วยคำศัพท์ที่หลากหลาย คุณสามารถนำเสนอแนวคิดได้ชัดเจน น่าเชื่อถือ และจะได้รับคะแนนสูงขึ้น
นำคำศัพท์ IELTS ไปประยุกต์ใช้ในทั้ง 4 ทักษะ
- IELTS Speaking: การใช้คำศัพท์ IELTS อย่างถูกต้องในการทดสอบการพูดช่วยให้คุณแสดงความคิดเห็นได้อย่างถูกต้องและยืดหยุ่น โดยเฉพาะในส่วนที่ 2 เมื่อคุณต้องนำเสนอหัวข้ออย่างละเอียด คำศัพท์ที่หลากหลายจะสร้างความประทับใจให้กับผู้คุมสอบและพัฒนาความสามารถในการแสดงออก
- IELTS Writing: คำศัพท์มีบทบาทสำคัญในทั้งภารกิจที่ 1 และภารกิจที่ 2 ด้วยคำศัพท์ที่หลากหลาย คุณสามารถเขียนเรียงความได้ชัดเจนและน่าเชื่อถือยิ่งขึ้น รวมถึงช่วยให้คุณสามารถถ่ายทอดข้อความของคุณในลักษณะที่สอดคล้องกันและเข้าใจง่าย
- IELTS Listening: การเรียนรู้คำศัพท์ช่วยให้คุณติดตามเนื้อหาได้อย่างง่ายดายเมื่อฟังบทสนทนาหรือสุนทรพจน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์ที่ซับซ้อนหรือหัวข้อเฉพาะสาขาวิชา
- IELTS Reading: คำศัพท์ที่หลากหลายจะช่วยให้คุณเข้าใจเนื้อหาที่อ่านได้อย่างรวดเร็ว จากนั้นคุณก็จะสามารถตอบคำถามให้ถูกต้องและประหยัดเวลามากขึ้นในการทดสอบการอ่าน

วิธีใช้คำศัพท์ขั้นสูงในการพูด IELTS
การใช้คำศัพท์ขั้นสูงอย่างยืดหยุ่นและเป็นธรรมชาติในการทดสอบการพูดสามารถเน้นความสามารถทางภาษาของคุณได้ คุณควรสะสมคำและวลีขั้นสูงที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อทั่วไปใน IELTS เช่น สภาพแวดล้อม การศึกษา และเทคโนโลยี เคล็ดลับบางประการในการใช้คำศัพท์อย่างมีประสิทธิภาพ ได้แก่:
- ฝึกพูดหัวข้อต่าง ๆ โดยใช้คำศัพท์ขั้นสูง เช่น บรรยายประสบการณ์ส่วนตัว หรือแสดงความคิดเห็นส่วนตัว
- ลองใช้โครงสร้างประโยคที่ซับซ้อนเพื่อเน้นคำศัพท์ของคุณ เช่น ประโยครองหรือประโยคที่ไม่โต้ตอบ
- เพื่อหลีกเลี่ยงการพูดซ้ำและเพิ่มสุนทรพจน์ของคุณ ให้ใช้คำพ้องและคำตรงข้ามเมื่อจำเป็น

คำศัพท์ที่เป็นประโยชน์สำหรับ task 2 ในการเขียน IELTS
ใน Task ที่ 2 ของการเขียน IELTS สิ่งที่สำคัญมากคือต้องใช้คําศัพท์ ielts ออกบ่อย ในหมวดหมู่ที่ถูกต้อง และเหมาะสำหรับหัวข้อยอดนิยม เช่น การศึกษา สุขภาพ และสิ่งแวดล้อม คำศัพท์เหล่านี้ไม่เพียงช่วยให้คุณแสดงความคิดของคุณได้อย่างชัดเจน แต่ยังช่วยให้งานเขียนของคุณเป็นมืออาชีพมากขึ้นอีกด้วย บางประเด็นที่ควรทราบ:
- ตัวอย่างเช่น เมื่อเขียนเกี่ยวกับการศึกษา คุณสามารถใช้คำต่าง ๆ เช่น lifelong learning (การเรียนรู้ตลอดชีวิต) หรือ critical thinking (การคิดเชิงวิพากษ์)
- อ่านและวิเคราะห์ตัวอย่างการเขียนเพื่อระบุว่ามีการใช้คำศัพท์ในบริบทอย่างไร
- การสร้างรายการคำศัพท์สำหรับแต่ละหัวข้อจะช่วยให้คุณนำไปใช้กับงานเขียนของคุณได้อย่างง่ายดาย

คำศัพท์ที่จำเป็นในการฟัง IELTS
เพื่อให้ประสบความสำเร็จในส่วนการฟัง การเรียนรู้คำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อต่าง ๆ เช่น สุขภาพ การเดินทาง และวัฒนธรรมถือเป็นสิ่งสำคัญ คำศัพท์เหล่านี้จะช่วยให้คุณติดตามและเข้าใจเนื้อหาการฟังได้อย่างง่ายดาย เคล็ดลับที่มีประสิทธิภาพได้แก่:
- มุ่งเน้นการฟังรายงานข่าว พอดแคสต์ และวิดีโอยูทูป ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อยอดนิยมใน IELTS.
- เมื่อฟังให้ตั้งใจกับคำศัพท์ใหม่ๆ และจดบันทึก เพื่อจะได้ทบทวนในภายหลัง

คำศัพท์สำคัญในการอ่าน IELTS
การใช้คำศัพท์ที่เหมาะสมในส่วนการอ่านไม่เพียงช่วยให้คุณเข้าใจการอ่านได้อย่างรวดเร็ว แต่ยังช่วยในการวิเคราะห์และตอบคำถามอย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย คำแนะนำในการพัฒนาคำศัพท์สำหรับส่วนการอ่านได้แก่:
- อ่านสื่อต่างๆ เช่น หนังสือ หนังสือพิมพ์ และบทความทางวิชาการเป็นประจำเพื่อเพิ่มพูนคำศัพท์
- ทำความคุ้นเคยกับบทการอ่านใน IELTS เพื่อทำความเข้าใจวิธีการใช้คำศัพท์ในบริบทเฉพาะ
- ให้ความสนใจกับวิธีการใช้คำและวลีในประโยค ซึ่งจะช่วยให้คุณเข้าใจบริบทได้ดีขึ้น

เคล็ดลับในการท่องจำคำศัพท์ IELTS ระยะยาว

คุณสามารถประยุกต์ใช้วิธีดังต่อไปนี้เพื่อเรียนวิธีการพัฒนาคำศัพท์ IELTS พร้อมวิธีท่องศัพท์ IELTS ได้อย่างมีประสิทธิภาพระยะยาว:
- ใช้พจนานุกรมที่น่าเชื่อถือ เช่น Cambridge หรือ Oxford เพื่อค้นหาความหมายและวิธีการใช้คำ ซึ่งจะช่วยให้คุณเข้าใจความหมายและบริบทได้ดียิ่งขึ้น
- ใช้แอปอย่าง Quizlet หรือ ELSA Speak เพื่อเรียนรู้และทบทวนคำศัพท์ใหม่ ๆ ทุกวัน แอปพลิเคชั่นเหล่านี้มักจะมีเกมและแบบฝึกหัดสนุก ๆ เพื่อช่วยให้คุณจดจำคำศัพท์ได้อย่างเป็นธรรมชาติและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
- สร้างตารางทบทวนคำศัพท์ ทบทวนคำศัพท์เก่า และเรียนรู้คำศัพท์ใหม่ เพื่อรวบรวมความรู้และจะช่วยให้คุณไม่ลืม

IELTS vocabulary มีบทบาทสำคัญในการปรับปรุงคะแนนสำหรับทักษะทั้งสี่ทักษะ ได้แก่ การฟัง การพูด การอ่าน และการเขียน ด้วยการใช้ ELSA Speak คุณสามารถเรียนรู้คำศัพท์ได้อย่างมีประสิทธิภาพและฝึกฝนการออกเสียงที่ถูกต้อง ซึ่งจะช่วยพัฒนาทักษะที่จำเป็นในการสอบ IELTS อย่างครอบคลุม การเตรียมคำศัพท์ที่ดีจะช่วยให้คุณมั่นใจและมีผลการสอบที่สูง
มาค้นหาคำศัพท์เกี่ยวกับทิศ ภาษาอังกฤษที่หลากหลาย ตัวอย่างคำถามที่เป็นประโยชน์และคำบอกทางที่พบบ่อยที่สุดและใช้งานง่ายที่สุดด้วย ELSA Speak ความรู้ดังกล่าวไม่เพียงแต่ช่วยให้คุณสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพในสถานการณ์จริง แต่ยังช่วยพัฒนาความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษอย่างมั่นใจและคล่องแคล่วอีกด้วยนะคะ
คำศัพท์เกี่ยวกับทิศทางและการบอกทางในภาษาอังกฤษ
4 ทิศ ภาษาอังกฤษ
เช่นเดียวกับทิศทางในภาษาไทย ในภาษาอังกฤษก็มีทิศทางหลัก 4 ทิศ ได้แก่: West – North – East – South (ตะวันตก – เหนือ – ตะวันออก – ใต้) ตารางด้านล่างนี้จะประกอบด้วยทิศเหนือ ภาษาอังกฤษ ทิศตะวันตก ภาษาอังกฤษ ทิศตะวันออก ภาษาอังกฤษ ทิศตะวันออกเฉียงใต้ ภาษาอังกฤษ และมาเรียนรู้เกี่ยวกับตัว ย่อ ทิศ ภาษาอังกฤษ

ภาษาอังกฤษ | ตัวย่อ | การออกเสียง | ความหมาย | ตัวอย่าง |
North | N | /nɔːθ/ | ทิศเหนือ | The compass needle points to the North. (เข็มทิศชี้ไปทางทิศเหนือ) |
Northeast | NE | /ˌnɔːθˈiːst/ | ตะวันออกเฉียงเหนือ | They live in the Northeast corner of the city. (พวกเขาอาศัยอยู่บริเวณมุมตะวันออกเฉียงเหนือของเมือง) |
Northwest | NW | /ˌnɔːθˈwɛst/ | ตะวันตกเฉียงเหนือ | The weather is colder in the Northwest region of the country. (อากาศบริเวณภาคตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศเริ่มหนาวเย็น) |
To the north | – | /tuː ðə nɔːθ/ | ไปทางทิศเหนือ | If you travel to the North, you’ll reach the mountains. (หากเดินทางไปทิศเหนือก็จะถึงภูเขา) |
South | S | /saʊθ/ | ใต้ | The sun sets in the South during this time of year. (พระอาทิตย์จะตกทางทิศใต้ในช่วงนี้ของปี) |
Southeast | SE | /ˌsaʊθˈiːst/ | ตะวันออกเฉียงใต้ | The storm is coming from the Southeast, so be prepared for heavy rain. (พายุจะมาจากทางตะวันออกเฉียงใต้ ดังนั้นเตรียมรับมือกับฝนตกหนักได้เลย) |
Southwest | SW | /ˌsaʊθˈwɛst/ | ตะวันตกเฉียงใต้ | They decided to go on a road trip to the Southwest for a change of scenery. (พวกเขาตัดสินใจออกทริปไปยังภาคตะวันตกเฉียงใต้ เพื่อเปลี่ยนวิวทิวทัศน์) |
To the south | – | /tuː ðə saʊθ/ | ไปทางทิศใต้ | To escape the cold weather, they moved to a city to the South. (พวกเขาย้ายไปยังเมืองทางตอนใต้ เพื่อหนีอากาศหนาว) |
East | E | /iːst/ | ตะวันออก | The sun rises in the East every morning. (พระอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันออกทุกเช้า) |
To the east | – | /tuː ðə iːst/ | ไปทางทิศตะวันออก | If you walk to the East, you’ll find the beach. (หากเดินไปทางทิศตะวันออกจะพบชายหาด) |
West | W | /west/ | ตะวันตก | The city is located just West of the river. (เมืองนี้ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของแม่น้ำ) |
To the west | – | /tuː ðə west/ | ไปทางทิศตะวันตก | They planned to explore the forests to the West during their camping trip. (พวกเขาวางแผนที่จะสำรวจป่าทางทิศตะวันตกระหว่างการตั้งแคมป์) |
คำศัพท์เกี่ยวกับการบอกทางทั่วไปในภาษาอังกฤษ

ภาษาอังกฤษ | การออกเสียง | ความหมาย |
Half mile | /hɑːf maɪl/ | ครึ่งไมล์ (ประมาณ 800 เมตร) |
Hundred yards | /ˈhʌn.drəd jɑːd/ | 100 หลา (91 เมตร = 100 หลา) |
Junction | /ˈdʒʌŋk.ʃən/ | ชุมทาง |
Kilometre | /ˈkɪl.əˌmiː.tər/ | กิโลเมตร |
Straight road | /streɪt rəʊd/ | ถนนตรง |
Two hundred metres | /tuː ˈhʌn.drəd ˈmiː.tər/ | สองร้อยเมตร |
Turn left | /tɜrn lɛft/ | เลี้ยวซ้าย |
Turn right | /tɜrn raɪt/ | เลี้ยวขวา |
Intersection | /ˌɪntərˈsɛkʃən/ | ทางสี่แยก |
Roundabout | /ˈraʊndəˌbaʊt/ | วงเวียน |
Traffic light | /ˈtræfɪk laɪt/ | ไฟจราจร |
Pedestrian crossing | /pəˈdɛstriən ˈkrɔsɪŋ/ | ทางม้าลาย |
Crossroad | /ˈkrɔsroʊd/ | ทางแยก |
Go past | /ɡoʊ pæst/ | ผ่านไป |
At the corner | /æt ðə ˈkɔrnər/ | ที่มุม |
Opposite | /ˈɑpəzɪt/ | ที่อยู่ตรงกันข้าม ตรงข้าม |
Next to | /nɛkst tu/ | ข้างๆ อยู่ติดกับ |
Beside | /bɪˈsaɪd/ | อยู่ข้าง |
Landmark | /ˈlændˌmɑrk/ | จุดสังเกต |
Behind | /bɪˈhaɪnd/ | ข้างหลัง |
In front of | /ɪn frʌnt ʌv/ | ตรงข้างหน้า ข้างหน้า |
On the left | /ɒn ðə lɛft/ | ด้านซ้าย ซ้ายมือ |
On the right | /ɒn ðə raɪt/ | ด้านขวา ขวามือ |
Signpost | /ˈsaɪnpoʊst/ | เสาติดป้าย (ทาง) |
Exit | /ˈɛɡzɪt/ | ทางออก |
Bridge | /brɪdʒ/ | สะพาน |
Tunnel | /ˈtʌnəl/ | อุโมงค์ |
Highway | /ˈhaɪˌweɪ/ | ทางหลวง ทางสายใหญ่ |
Avenue | /ˈævəˌnu/ | ถนนใหญ่ ถนนสายหลัก |
Boulevard | /ˈbuləˌvɑrd/ | ถนนกว้างในเมือง |
Path | /pæθ/ | ถนน ทาง |
Sidewalk | /ˈsaɪdˌwɔk/ | ทางเท้า ริมถนน |
U-turn | /ˈjuˌtɜrn/ | ที่กลับรถ |
Around the corner | /əˈraʊnd ðiː ˈkɔː.nər/ | รอบมุม |
At the crossroads/intersection | /æt ðiː ˈkrɒs.rəʊdz // ɪn.təˈsek.ʃən/ | ที่ทางแยก |
Between | /biːˈtwiːn/ | ระหว่าง ในระหว่าง |
Near | /nɪər/ | ใกล้ |
On the…street/avenue | /ɒn ðiː … striːt/ /ˈæv.ə.njuː/ | บน…ถนน/ถนนสายหลัก |
On your left/right | /ɒn jɔːr left/ /raɪt/ | ทางด้านซ้าย/ขวาของคุณ |
To the left/right of | /tu: ðiː left/ /raɪt əv/ | ทางด้านซ้าย/ขวาของคุณ |
At | /æt/ | ที่ |
Above | /əˈbʌv/ | เบื้องบน |
Across | /əˈkrɒs/ | ข้าม |
Along | /əˈlɒŋ/ | คล้ายกับ ไปตาม… ขนานไปกับ |
Around | /əˈraʊnd/ | รอบ ใกล้ๆ |
Among | /əˈmʌŋ/ | ท่ามกลาง |
Below | /bɪˈləʊ/ | ข้างล่าง ใต้ |
By | /baɪ/ | ข้างๆ ใกล้ ๆ |
Close to | /kləʊs tuː/ | ใกล้กับ |
Down | /daʊn/ | ลง |
From | /frɒm/ | จาก |
In | /ɪn/ | ใน |
Inside | /ɪnˈsaɪd/ | ข้างใน |
On | /ɒn/ | บน |
Over | /ˈəʊvə/ | นอกเหนือ, บน, เหนือ |
Outside | /ˈaʊtsaɪd/ | ข้างนอก, ด้านนอก |
Off | /ɒf/ | ออก, ห่างออกไป, ห่าง |
Past | /pɑːst/ | ผ่าน ผ่านไป |
Through | /θruː/ | ผ่าน, ผ่านพ้น, ทะลุผ่าน |
Toward | /tɔːd/ | ไปยัง, ไปถึง, ไปทาง |
Under | /ˈʌndə/ | ภายใต้, ใต้, ข้างล่าง, ล่าง |
Up | /ʌp/ | ขึ้น, ขึ้นไป |
สถานที่ทั่วไปในการบอกทางเป็นภาษาอังกฤษ

ภาษาอังกฤษ | การออกเสียง | ความหมาย |
Bookstore | /ˈbʊk.stɔːr/ | ร้านหนังสือ |
Church | /tʃɜːtʃ/ | โบสถ์, วัด, ศาสนจักร |
Fire station | /faɪər steɪ.ʃən/ | สถานีดับเพลิง |
Grocery store | /ˈɡroʊ·sə·ri stɔr/ | ร้านขายของชำ |
Hospital | /ˈhɒs.pɪ.təl/ | โรงพยาบาล |
Hotel | /həʊˈtel/ | โรงแรม |
Mausoleum | /ˌmɔː.zəˈliː.əm/ | สุสาน ฮวงซุ้ย |
Museum | /mjuːˈziː.əm/ | พิพิธภัณฑ์ |
Pagoda | /pəˈɡəʊ.də/ | เจดีย์ |
Park | /pɑːk/ | สวนสาธารณะ |
Petrol station | /ˈpet.rəl steɪ.ʃən/ | ปั้มน้ำมัน |
Post office | /ˈpəʊst ˌɒf.ɪs/ | ไปรษณีย์ |
Restaurant | /ˈres.tər.ɒnt/ | ภัตตาคาร, ร้านอาหาร |
Shopping mall | /ˈʃɒp.ɪŋ ˌmɔːl/ | ศูนย์การค้า |
Square | /skweər/ | ลานสาธารณะ |
Temple | /ˈtem.pəl/ | เทวสถาน วัด |
The beach | /ðiː biːtʃ/ | ทะเล |
The bus station | /ðiː ˈbʌs ˌsteɪ.ʃən/ | สถานีรถโดยสาร |
This address | /ðɪs əˈdres/ | ที่อยู่นี้ |
Zoo | /zuː/ | สวนสัตว์ |
Canteen | /kænˈtiːn/ | โรงอาหาร |
Toilet / Restroom | /ˈtɔɪlɪt / ˈrɛstrʊm/ | ห้องน้ำ |
Meeting room | /ˈmiːtɪŋ ruːm/ | ห้องประชุม |
Library | /ˈlaɪbrəri/ | ห้องสมุด |
Cafe | /kæfeɪ/ | ร้านกาแฟ |
Parking lot | /ˈpɑːrkɪŋ lɒt/ | ที่จอดรถ |
Basement | /ˈbeɪsmənt/ | ชั้นใต้ดิน |
Food court | /fuːd kɔːt/ | ศูนย์อาหาร |
Medical room / First aid room | /ˈmɛdɪkəl ruːm/ / fɜːrst eɪd ruːm/ | ห้องพยาบาล / ห้องปฐมพยาบาล |
Lift / Elevator | /lɪft / ˈɛlɪveɪtə/ | ลิฟต์ |
Escalator | /ˈɛskəleɪtə/ | บันไดเลื่อน |
Front desk | /frʌnt dɛsk/ | เคาน์เตอร์ ส่วนหน้า |
Information counter | /ˌɪn.fɔːˈmeɪ.ʃən ˈkaʊntə/ | เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ |
Cinema | /ˈsɪnəmə/ | ภาพยนตร์, โรงภาพยนตร์ |
ATM | /ˈeɪ tiː ɛm/ | เอทีเอ็ม |
School | /skuːl/ | โรงเรียน |
Department store | /dɪˈpɑːtmənt stɔːr/ | ห้างสรรพสินค้า |
Police station | /pəˈliːs ˈsteɪʃən/ | สถานีตำรวจ |
Bank | /bæŋk/ | ธนาคาร |
University | /ˌjuːnɪˈvɜːsɪti/ | มหาวิทยาลัย |
Supermarket | /ˈsuːpəmɑːrkɪt/ | ซูเปอร์มาร์เก็ต |
Gas station | /ɡæs steɪʃən/ | ปั้มน้ำมัน |
Bus stop | /bʌs stɒp/ | สถานีรถโดยสาร |
Railway station | /ˈreɪlweɪ ˈsteɪʃən/ | สถานีรถไฟ |
Dock / Harbor | /dɒk / ˈhɑːbər/ | ท่า |
>>>Read more: หัวข้อ บอกทาง ภาษาอังกฤษ: วิธีถาม คำศัพท์ ตัวอย่างประโยคที่พบบ่อยที่สุด
วลีสำหรับการบอกทางในภาษาอังกฤษ
ภาษาอังกฤษ | ความหมาย |
Go straight | ตรงไป |
Turn left | เลี้ยวซ้าย |
Turn right | เลี้ยวขวา |
Make a U-turn | กลับมาทับเส้นทางเดิม |
Keep walking straight | เดินตรงไปเรื่อย ๆ |
Walk straight ahead | ตรงไป |
Go straight and turn left | ตรงไปแล้วเลี้ยวซ้าย |
Go straight and turn right | ตรงไปแล้วเลี้ยวขวา |
Make a U-turn and turn left | กลับมาทับแล้วเลี้ยวซ้าย |
Make a U-turn and turn right | กลับมาทับแล้วเลี้ยวขวา |
Go past… | ผ่านไป… |
Go across the bridge | ข้ามสะพานไป |
It’s opposite… | ตรงกันข้าม… |
At the end of the corridor | สุดทางเดิน |
Take the third exit | ใช้ทางออกที่ 3 |
At the T-junction | ที่แยกตัว |
At the intersection | ที่สี่แยก |
On your right | ทางด้านขวาของคุณ |
On your left | ทางด้านซ้ายของคุณ |
Go on the main street | เดินไปตามถนนสายหลัก |
It’s that way | อยู่ที่ทิศนั้น |
It’s on the corner | อยู่ที่มุม |
Go under the tunnel | ไปใต้อุโมงค์ |
Continue down / Follow | ติดตาม ไปต่อ |
Cross the bridge | ไปข้ามสะพาน |
Cross the crosswalk | ไปข้ามทางม้าลาย |
Cross the road | ข้ามถนน |
Curve | เส้นโค้ง, ทางโค้ง, แนวโค้ง |
Dual carriageway | ถนนทางเดียว |
Go around / Over / Under | วนไปรอบ ๆ / บน / ล่าง |
Go down the hill | ลงเนินเขาไป |
Go down there | ลงไปตรงนั้น |
Go past | ผ่านไป |
Go straight on / Ahead | ก้าวหน้า, เดินไป, เดินหน้า |
Go towards | มุ่งไปยัง |
Go up the hill | ขึ้นเนินเขาไป |
Head to | ตรงไป |
Keep going for another … | ไปต่ออีกนิด… |
Pavement | ฟุตบาท ทางเท้า |
Pedestrian subway | อุโมงค์ทางเดินเท้า |
Roadway narrows | ถนนแคบลง |
Roundabout | วงเวียน |
Straight ahead of you | ตรงไปข้างหน้าคุณ |
T-junction | แยกตัว |
Take a right | เลี้ยวขวา |
Take the first on the left | เข้าทางซ้ายแรก |
Take the first on the right | เข้าทางขวาแรก |
Take the first turning on the right | เลี้ยวขวาเข้าทางแยกแรก |
Take the second on the right | เลี้ยวขวาเข้าทางแยกที่สอง |
Take this road | ไปทางนี้ |
Traffic light | ไฟจราจร |
Turn left / Right | เลี้ยวซ้าย/ขวา |
Make a left / Right turn | เลี้ยวซ้าย/ขวา |
Turn right at the crossroads | เลี้ยวขวาที่สี่แยก |
Walk along / Walk straight down | เดินตาม / เดินตรงลงไป |
Walk on for about two hundred meters and it’ll be on your left | เดินตรงไปประมาณสองร้อยเมตรแล้วจะอยู่ทางซ้ายมือ |

วิธีถามทางในภาษาอังกฤษ

วิธีถามทางในภาษาอังกฤษ | ความหมาย | ตัวอย่าง |
How far is it from here to …? | จากที่นี่ ถึง… ไกลแค่ไหน? | How far is it from here to the train station? (จากที่นี่ไปถึงสถานีรถไฟไกลแค่ไหน?) |
Is it far from here to …? | จากที่นี่ไปจะไกลไม่…? | Is it far from here to the airport? (จากที่นี่ไปสนามบินไกลไหม?) |
How many kilometers/miles is it to …? | ระยะทางจะกี่กิโลเมตร/ไมล์ถึง …? | How many kilometers is it to the beach? (ระยะทางถึงชายหาดกี่กิโลเมตร?) |
How long does it take to get to …? | ไปถึงนั่นต้องใช้เวลานานแค่ไหน? | How long does it take to get to the city center? (ไปถึงศูนย์กลางเมืองต้องใช้เวลานานแค่ไหน?) |
Is it within walking distance to …? | สามารถเดินไปยัง … ได้ไหม? | Is it within walking distance to the mall? (สามารถเดินไปยังห้างสรรพสินค้าได้ไหม?) |
How much time will it take to reach …? | สามารถเดินไปยัง … ได้ไหม? | How much time will it take to reach the museum? (สามารถเดินไปยังพิพิธภัณฑ์ได้ไหม?) |
What’s the distance between here and …? | Khoảng cách từ đây đến … là bao xa? | What’s the distance between here and the stadium? (ระยะทางระหว่างที่นี่กับ…คือเท่าไร?) |
Is it close to …? | ใกล้จะถึงแล้วเหรอ…? | Is it close to the library? (ใกล้จะถึงห้องสมุดแล้วหรือยัง…?) |
How far is it to …? | มันอยู่ไกลแค่ไหน? | How far is it to the nearest gas station? (ปั้มน้ำมันอยู่ไกลแค่ไหน?) |
Can I walk to …? | ฉันสามารถเดินไปที่…ได้ไหม? | Can I walk to the post office from here? (ฉันสามารถเดินไปที่ไปรษณีย์ได้ไหม?) |
Will it take long to get to …? | มันจะใช้เวลานานหรือไม่? | Will it take long to get to the hospital? (ไปถึงโรงพยาบาลจะใช้เวลานานหรือไม่) |
Is it a short drive to …? | ขับรถไปไม่ไกลก็ถึง…? | Is it a short drive to the university? (ขับรถไปยังมหาวิทยาลัยไม่ไกลก็ถึง…?) |
How far away is …? | ไกลแค่ไหน…? | How far away is the hotel from here? (โรงแรมอยู่ห่างจากที่นี่กี่กิโลเมตร?) |
Is it a long walk to …? | เดินไกลมั้ยถึงจะถึง…? | Is it a long walk to the park? (การเดินไปที่สวนสาธารณะต้องใช้เท่าไร?) |
How long will it take me to get to …? | จะต้องใช้เวลานานแค่ไหนจะถึง…? | How long will it take me to get to the office by bus? (นั่งรถบัสไปถึงที่ทำงานจะใช้เวลาเท่าไร?) |
Could you (please) … | ช่วย … ได้ไหม? | Could you please help me find the nearest restaurant? (คุณช่วยฉันหาร้านอาหารที่ใกล้ที่สุดได้ไหม?) |
Please give me the directions to …? | กรุณาบอกหน่อยได้ไหมครับว่าจะไป…ได้อย่างไร? | Please give me the directions to the canteen? (กรุณาบอกหน่อยได้ไหมครับว่า จะไปโรงอาหารได้อย่างไร?) |
Do you happen to know …? | คุณรู้ไหมว่า… | Do you happen to know where the bus station is? (คุณรู้ไหมว่าสถานีรถโดยสารอยู่ที่ไหน?) |
Would you mind telling me …? | คุณช่วยบอกฉันหน่อยได้ไหม ว่า…? | Would you mind telling me how to get to the airport? (คุณช่วยบอกฉันหน่อยได้ไหมว่าจะไปสนามบินอย่างไร?) |
How do I get to/find …? | ฉันจะไป/พบ … ได้อย่างไร? | How do I get to the post office? (ฉันจะไปที่ไปรษณีย์ได้อย่างไร?)How do I find the book store? (ฉันจะค้นหาร้านหนังสือได้อย่างไร?) |
Can you show me the way to …? | คุณช่วยบอกทางให้ฉันได้ไหม…? | Can you show me the way to the train station? (คุณช่วยบอกทางไปสถานีรถไฟให้ฉันได้ไหม?) |
Excuse me, which way is …? | ขอโทษนะคะ ทางไหน…คะ? | Excuse me, which way is the bank? (ขอโทษนะคะ ธนาคารอยู่ทางไหนคะ?) |
Is there a … around here? | มี…แถวนี้ไหม? | Is there a pharmacy around here? (ที่นี่มีร้านขายยาไหม?) |
Do you know where I can find …? | คุณรู้ไหมว่าฉันสามารถหา…ได้ที่ไหน? | Do you know where I can find the nearest hotel? (คุณทราบหรือไม่ว่าจะสามารถหาโรงแรมที่ใกล้ที่สุดได้ที่ไหน?) |
Could you direct me to …? | คุณช่วยบอกทางถึง…ให้ฉันหน่อยได้ไหมว่า? | Could you direct me to the nearest subway station? (คุณช่วยบอกทางถึง…สถานีรถไฟใต้ดินที่ใกล้ที่สุดให้ฉันได้ไหม?) |
Is this the way to …? | นี่คือทางไปที่…ใช่ไหม? | Is this the way to the hospital? (นี่คือทางไปโรงพยาบาลใช่ไหม?) |
How far is it to …? | ไปยัง…ไกลแค่ไหน? | How far is it to the nearest gas station? (ระยะทางไปยังปั้มน้ำมันที่ใกล้ที่สุดคือเท่าไร?) |
Could you help me find …? | คุณสามารถช่วยฉันหา…ได้ไหม? | Could you help me find the nearest coffee shop? (คุณสามารถช่วยฉันหาร้านกาแฟที่ใกล้ที่สุดได้ไหม?) |
What’s the best way to get to …? | คุณช่วยฉันหาทาง…ได้ไหม? | What’s the best way to get to the shopping mall? (วิธีที่ดีที่สุดในการไปที่ห้างสรรพสินค้าคืออะไร?) |
Excuse me, where is …? | ขอโทษนะคะ…อยู่ที่ไหน? | Excuse me, where is the library? (ขอโทษนะคะ ห้องสมุดอยู่ที่ไหน?) |
Excuse me, how do I get to …? | ขอโทษนะคะ ฉันจะไป…ยังไงคะ? | Excuse me, how do I get to the park? (ขอโทษนะคะ ฉันจะไปสวนสาธารณะได้อย่างไร?) |
Excuse me, is there … near here? | ขอโทษนะคะ มี… ใกล้ๆตรงนี้ไหมคะ? | Excuse me, is there a supermarket near here? (ขอโทษนะคะ มีซุปเปอร์มาร์เก็ตใกล้ๆตรงนี้ไหมคะ?) |
What’s the way to …? | จะมีทางไป…ได้อย่างไร? | What’s the way to the bus stop? (ทางไปสถานีรถโดยสารไปทางไหนคะ?) |
Where’s … or Where’s … located? | … ที่ไหน? หรือ … ที่ไหน? | Where’s the post office located? (ไปรษณีย์อยู่ที่ไหน?) |
Is there a … around here? | มี…แถวนี้ไหม? | Is there a gas station around here? (ที่นี่มีปั๊มน้ำมันแถวๆ นี้ไหม?) |
Can you help me? I’m looking for … | ขอช่วยฉันหน่อยได้ไหม ฉันกำลังหา… | Can you help me? I’m looking for the town hall. (ช่วยผมหน่อยได้ไหมครับ ผมกำลังหาศาลากลางอยู่ครับ) |
Could you tell me the way to …, please? | คุณช่วยบอกทางไป…ให้ฉันหน่อยได้ไหม? | Could you tell me the way to the airport, please? (คุณช่วยบอกทางไปสนามบินให้ฉันหน่อยได้ไหม?) |
Could you tell me how to get to …, please? | คุณช่วยบอกฉันได้ไหมว่าจะไป…ได้อย่างไร? | Could you tell me how to get to the museum, please? (คุณช่วยบอกฉันได้ไหมว่าจะไปพิพิธภัณฑ์ได้อย่างไร?) |
What’s the best way to go to …? | วิธีที่ดีที่สุดที่จะไป … คืออะไร? | What’s the best way to go to the hospital? (วิธีที่ดีที่สุดที่จะไปโรงพยาบาลคืออะไร?) |
Can you give me directions to … | คุณช่วยบอกทางฉันไป…ได้ไหม? | Can you give me directions to the theater? (คุณช่วยบอกทางฉันไปโรงหนังได้ไหม) |
What’s the quickest way to get to … | วิธีที่เร็วที่สุดที่จะไปถึง…คืออะไร? | What’s the quickest way to get to the airport? (วิธีที่เร็วที่สุดที่จะไปถึงสนามบินคืออะไร?) |
What’s the most convenient way to get to … | วิธีที่สะดวกที่สุดที่จะไปยัง…คืออะไร? | What’s the most convenient way to get to the shopping mall? (วิธีที่สะดวกที่สุดที่จะไปยังห้างสรรพสินค้าคืออะไร?) |
วิธีบอกทางในภาษาอังกฤษ

วิธีบอกทางทั่วไปในภาษาอังกฤษ
วิธีบอกทางทั่วไปในภาษาอังกฤษ | ความหมาย | ตัวอย่าง |
Go straight | ตรงไป | Go straight to the hospital. It is opposite the railway station. (ตรงไปถึงโรงพยาบาล อยู่ตรงข้ามสถานีรถไฟ) |
Go ahead | ก้าวหน้า, เดินไป, เดินหน้า | Go ahead and take the first left. (ไปก้าวหน้าแล้วเลี้ยวซ้ายแรก) |
Keep going | เดินต่อ | Walk past the school, and keep going straight until you see the sign for the museum. (เดินผ่านโรงเรียนไปและตรงไปต่อจนเห็นป้ายพิพิธภัณฑ์) |
Move forward | เคลื่อนไปข้างหน้า | Move forward and you’ll see the bus stop on the corner. (เดินไปข้างหน้าแล้วจะเห็นป้ายรถเมล์อยู่ตรงหัวมุม) |
Head in that direction | มุ่งหน้าไปทางนั้น | Head in that direction, and you’ll find the shop. (มุ่งหน้าไปทางนั้นแล้วคุณจะพบร้านค้า) |
Follow this path | ตามเส้นทางนี้ | Follow this path until you reach the lake. (เดินตามเส้นทางนี้ไปจนถึงทะเลสาบ) |
Walk in this direction | เดินไปทางนี้ | Walk in this direction and you’ll get to the market. (เดินไปทางนี้แล้วจะถึงตลาด) |
Go that way | ไปทางนั้น | Go that way, and you’ll see the cinema at the end of the street. (เดินไปทางนั้นแล้วจะเห็นโรงหนังอยู่สุดถนน) |
Go in the opposite direction | ไปในทิศทางตรงกันข้าม | Go in the opposite direction to find the hotel. (เดินไปทางตรงข้ามเพื่อค้นหาโรงแรม) |
Go back | ถอยกลับไป ย้อนกลับ | Go back and turn right at the intersection. (ย้อนกลับมาและเลี้ยวขวาที่ทางแยก) |
Go up | เคลื่อนขึ้นไปด้านบน | To reach the summit, you need to go up the mountain trail. (หากต้องการไปถึงยอดเขาต้องเดินขึ้นเส้นทางภูเขา) |
Go down | ลงไปข้างล่าง | To enter the storage room, you need to go down these basement stairs. (หากต้องการเข้าไปในห้องเก็บของ คุณต้องลงบันไดชั้นใต้ดินนี้) |
It’s over there | มันอยู่ตรงนั้น | The museum is over there, on the left. (พิพิธภัณฑ์อยู่ตรงนั้น ทางซ้ายมือ) |
It’s this way | มันเป็นทางนี้ | It’s this way to the post office. (นี่เป็นทางไปยังไปรษณีย์) |
It’s that way | มันเป็นทางนั้น | It’s that way to the supermarket. (นี่เป็นทางไปยังซูเปอร์มาร์เก็ต) |
Take this road | ไปถนนสายนี้ | Take this road to the traffic light. (ไปถนนสายนี้ถึงไฟจราจร) |
Go down there | เดินไปทางนั้น | Go down there, and you’ll see the train station on your left. (เดินไปทางนั้นแล้วคุณจะเห็นสถานีรถไฟอยู่ทางซ้ายมือของคุณ) |
Straight ahead of you | ตรงไปข้างหน้า | The hotel is straight ahead of you. (โรงแรมอยู่ตรงไปข้างหน้าคุณ) |
Here it is | ที่นี่ | Here it is, the place you were looking for. (ที่นี่คือสถานที่ที่คุณกำลังมองหา) |

วิธีบอกทางตามทิศทางที่เฉพาะเจาะจงในภาษาอังกฤษ
วิธีบอกทางตามทิศทางที่เฉพาะเจาะจงในภาษาอังกฤษ | ความหมาย | ตัวอย่าง |
Turn left | เลี้ยวซ้าย | You can take the second exit at the T- junction and then turn the left at the traffic light. (คุณสามารถใช้ทางออกที่ 2 ได้ที่ทางแยกสามแยก แล้วเลี้ยวซ้ายที่สัญญาณไฟจราจร) |
Turn right | เลี้ยวขวา | Turn right at the traffic lights. (เลี้ยวขวาที่สัญญาณไฟจราจร) |
Take the first/second street on the left/right | เลี้ยวเข้าถนนสายแรก/สายที่สอง ทางซ้าย/ขวา | Take the first street on the left. (เลี้ยวเข้าถนนสายแรกทางซ้าย) |
Go past the [สถานที่] | ผ่านไป [สถานที่] | Go past the bank, and you’ll see the post office. (ผ่านธนาคารไปแล้วจะเห็นที่ทำการไปรษณีย์) |
Cross the street | ข้ามถนน | Cross the street at the traffic light. (ข้ามถนนตรงสัญญาณไฟจราจร) |
Go past the traffic light | ผ่านไปไฟจราจรไป | Go past the traffic light and continue straight ahead. (ผ่านไปไฟจราจรไปแล้วตรงไปต่อ) |
It’s on your left/right | มันอยู่ทางซ้าย/ขวาของคุณ | The library is on your left. (ห้องสมุดอยู่ทางซ้ายมือของคุณ) |
It’s across from [สถานที่] | มันอยู่ตรงข้ามจาก [สถานที่] | The restaurant is across from the cinema. (ร้านอาหารอยู่ตรงข้ามกับโรงหนัง) |
It’s next to [สถานที่] | มันอยู่ข้างๆ อยู่ติดกับ [สถานที่] | The coffee shop is next to the bank. (ร้านกาแฟอยู่ติดกับธนาคาร) |
It’s between [สถานที่ 1] and [สถานที่ 2] | อยู่ระหง่าง [สถานที่ 1] และ [สถานที่ 2] | The post office is between the school and the supermarket. (ไปรษณีย์อยู่ระหว่างโรงเรียนกับซุปเปอร์มาร์เก็ต) |
Go straight. Turn to the left | ตรงไปแล้วเลี้ยวซ้าย | Go straight, then turn to the left. (ตรงไปแล้วเลี้ยวซ้าย) |
Turn round, you’re going the wrong way | เลี้ยวกลับมา คุณกำลังไปผิดทางแล้ว | Turn round, you’re going the wrong way. (เลี้ยวกลับมา คุณกำลังไปผิดทางแล้ว) |
At the first cross-road, turn to the left | ถึงสี่แยกแรกแล้วเลี้ยวซ้าย | At the first cross-road, turn to the left. (ถึงสี่แยกแรกแล้วเลี้ยวซ้าย) |
Take the first on the left | เลี้ยวซ้ายที่แยกแรก | Take the first on the left, and you will find the station. (เลี้ยวซ้ายที่แยกแรกแล้วจะเจอสถานี) |
Take the second on the right | เลี้ยวสายที่แยกที่สอง | Take the second on the right, and it will be right there. (เลี้ยวสายที่แยกที่สองก็จะถึงแล้ว) |
Turn right at the crossroads | เลี้ยวขวาที่สี่แยก | Turn right at the crossroads and continue for another 100 meters. (เลี้ยวขวาที่สี่แยกแล้วตรงไปอีกประมาณ 100 เมตร) |
It’ll be on your left/on your right/straight ahead of you | มันจะอยู่ทางซ้าย/ทางขวา/ตรงไปข้างหน้าคุณ | The museum is straight ahead of you. (พิพิธภัณฑ์อยู่ตรงหน้าคุณ) |
You’re going the wrong way | คุณกำลังไปผิดทางแล้ว | You’re going the wrong way, turn back. (คุณกำลังไปผิดทางแล้ว กลับมาสิ ) |
You’re going in the wrong direction | คุณกำลังไปผิดทางแล้ว | You’re going in the wrong direction, please turn around. (คุณกำลังไปผิดทางแล้ว กรุณากลับมาด้วยนะ) |
Make a U-turn | กลับในสไตล์แบบตัว U (กลับมาทับเส้นทางเดิม) | You’re going in the wrong direction. It’s that way. Make a U-turn. After you pass a restaurant on your left, take a right at the crossroad. (คุณกำลังไปผิดทางแล้ว ทางนั้นน่ะสิ กลับรถสิ เมื่อผ่านร้านอาหารทางซ้ายแล้ว ให้เลี้ยวขวาที่ทางแยก) |
At the corner | อยู่ที่มุม | I’ll meet you at the corner of Sukhumvit Road and Soi 11 in Bangkok. (ฉันจะพบคุณที่มุมถนนสุขุมวิทและซอย 11 ในกรุงเทพฯ) |
Towards | ไปยัง, ไปถึง, ไปทาง | He was walking towards the famous Chatuchak Market in Bangkok. (เขากำลังเดินไปที่ตลาดนัดจตุจักรอันโด่งดังในกรุงเทพฯ) |
Cross the intersection | ข้ามทางแยก | After you cross the intersection, you’ll find the cafe on your right. (เมื่อข้ามทางแยกไปแล้วจะพบร้านกาแฟอยู่ทางขวามือ) |
Take/cross the bridge | ข้ามสะพาน | Take the bridge over the river, and you’ll see the park on your left. (ข้ามสะพานข้ามแม่น้ำแล้วคุณจะเห็นสวนสาธารณะอยู่ทางซ้ายมือของคุณ) |
Walk for/ further | เดินไปประมาณ | Walk for about five minutes, and you’ll reach the main entrance of the museum. (เดินต่อไปอีกประมาณ 5 นาทีก็จะถึงทางเข้าหลักของพิพิธภัณฑ์) |
It’s a short/ long walk | เดินไประยะสั้น/ยาว | It’s a long walk to the top of the mountain, so make sure to bring plenty of water. (การจะขึ้นไปยังยอดเขานั้นต้องเดินไกลมาก ดังนั้นควรเตรียมน้ำดื่มไปให้เพียงพอ) |
Next to/ beside | ข้างๆ อยู่ติดกับ | The coffee shop is next to the bookstore, right across from the park.(ร้านกาแฟอยู่ติดกับร้านหนังสือ ตรงข้ามกับสวนสาธารณะ) |

วิธีบอกทางในภาษาอังกฤษโดยใช้จุดพิเศษ
วิธีบอกทางในภาษาอังกฤษโดยใช้จุดพิเศษ | ความหมาย | ตัวอย่าง |
It’s on your left/right | มันอยู่ทางซ้าย/ขวาของคุณ | The post office is on your left, next to the bank. (ไปรษณีย์อยู่ทางซ้ายมือของคุณ ติดกับธนาคาร) |
Follow the signs to [สถานที่] | ปฏิบัติตามป้ายบอกทางไป [สถานที่] | Follow the signs to the airport. (ปฏิบัติตามป้ายบอกทางไปยังสนามบิน) |
Go past the traffic light | ขับผ่านสัญญาณไฟจราจรไป เลยสัญญาณไฟจราจรไป | Go past the traffic light, and the restaurant will be on your left. (เลยสัญญาณไฟจราจรไป แล้วร้านอาหารจะอยู่ทางซ้ายมือ) |
Walk towards the big building | เดินไปทางอาคารใหญ่ | Walk towards the big building on the right. (เดินไปทางอาคารใหญ่ที่ทางขวามือ) |
It’s just around the corner | มันอยู่ใกล้ๆ นี้เอง | The grocery store is just around the corner. (ร้านขายของชำอยู่ใกล้ๆ นี้เอง) |
It’s a few blocks away | ห่างออกไปไม่กี่ช่วงตึก | The bus stop is a few blocks away. (ป้ายรถเมล์อยู่ห่างออกไปไม่กี่ช่วงตึก) |
It’s within walking distance | อยู่ใกล้ๆ เดินถึงได้ | The park is within walking distance from here. (สวนสาธารณะอยู่ไม่ไกลจากที่นี่) |
It’s just a 10-minute walk from here | จากที่นี่เดินเพียง 10 นาทีเท่านั้น | The cinema is just a 10-minute walk from here. (โรงหนังอยู่ห่างจากที่นี่เพียงเดิน 10 นาที) |
The destination is approximately 2 kilometers away | จุดหมายปลายทางอยู่ห่างออกไปประมาณ 2 กิโลเมตร | The museum is approximately 2 kilometers away from here. (พิพิธภัณฑ์อยู่ห่างจากที่นี่ประมาณ 2 กิโลเมตร) |
Keep going for another (hundred meters) | เดินต่อไปอีก 100 หลา | Keep going for another 200 meters, and you’ll see the café. (เดินต่อไปอีก 200 หลา แล้วคุณจะเห็นร้านกาแฟ ) |
You’ll pass a supermarket on your left. | คุณจะผ่านซุปเปอร์มาร์เก็ตทางด้านซ้ายมือของคุณ | You’ll pass a supermarket on your left. (คุณจะผ่านซุปเปอร์มาร์เก็ตทางด้านซ้ายมือของคุณ) |
Continue past the fire station | ขับต่อไปเลยสถานีดับเพลิง | Continue past the fire station, and then turn right. (ขับต่อไปเลยสถานีดับเพลิงแล้วเลี้ยวขวา) |
Go over the roundabout | ข้ามวงเวียนไป | Go over the roundabout and continue straight. (ข้ามวงเวียนไปและตรงไปต่อ) |
Take the second exit at the roundabout | เลี้ยวเข้าทางออกที่สองที่วงเวียน | Take the second exit at the roundabout. (เลี้ยวเข้าทางออกที่สองที่วงเวียน) |
Turn right at the T-junction | เลี้ยวซ้ายที่สามแยก | Turn right at the T-junction and then go straight. (เลี้ยวซ้ายที่สามแยกแล้วตรงไป) |
Go under the bridge | ไปใต้สะพาน | Go under the bridge and continue until you reach the park. (ไปใต้สะพานไปต่อจนถึงสวนสาธารณะ) |
Go over the bridge | ไปข้ามสะพาน | Go over the bridge and you’ll find the restaurant on your right. (ไปข้ามสะพานแล้วจะพบร้านอาหารอยู่ทางขวามือ) |
You’ll cross some railway lines | คุณจะข้ามทางรถไฟบางสาย | You’ll cross some railway lines before you reach the museum. (คุณจะต้องข้ามทางรถไฟก่อนที่จะถึงพิพิธภัณฑ์) |
>>>Read more:100+ แคปชั่น relax time ในภาษาอังกฤษพร้อมความหมายที่ดีที่สุด
บทสนทนาถามและบอกทางในภาษาอังกฤษ
ประโยคถามทางในภาษาอังกฤษ | ความหมาย |
A: Excuse me, could you help me? I’m looking for the Grand Palace. | ขอโทษนะคะ ช่วยหน่อยได้ไหมคะ ฉันกำลังตามหาพระบรมมหาราชวังค่ะ |
B: Sure! You’re actually pretty close. Go straight ahead along this road. It’s just a few blocks from here. | แน่นอนครับ! คุณใกล้จะถึงแล้ว ตรงไปตามถนนนี้เลย ห่างจากที่นี่ไปแค่ไม่กี่ช่วงตึกครับ |
A: Great! Is it on the left or right side? | ดีมากค่ะ ด้านซ้ายหรือขวาคะ? |
B: It’s on the right, just after you pass the traffic lights. | มันอยู่ทางขวามือครับ หลังจากผ่านสัญญาณไฟจราจรไปแล้วครับ |
A: Okay, so I go straight and turn right after the lights. Is that right? | โอเคค่ะ งั้นฉันต้องไปตรงแล้วเลี้ยวขวาหลังไฟจราจรใช่ไหมคะ? |
B: Yes, that’s correct. After you turn right, keep walking for about 100 meters, and the Grand Palace will be on your left. | ใช่ครับ ถูกต้องครับ เลี้ยวขวาแล้วเดินต่อไปประมาณ 100 เมตร พระบรมมหาราชวังจะอยู่ทางซ้ายมือครับ |
A: That sounds easy enough. How long will it take to get there? | ฟังดูง่ายมากค่ะ ต้องใช้เวลาเดินทางนานแค่ไหนคะ? |
B: It should take about 10 minutes to walk there. If you’re in a hurry, you can also take a tuk-tuk. | เดินไปก็ประมาณ 10 นาที ถ้ารีบก็สามารถเรียกรถตุ๊กๆ ก็ได้ครับ |
A: I see. Can you tell me if there are any signs on the way? | เข้าใจแล้วค่ะ ช่วยบอกฉันหน่อยได้ไหมว่ามีป้ายบอกทางอะไรบ้างคะ? |
B: Yes, you’ll see several signs pointing to the Grand Palace along the way. Just follow them. | ใช่ครับ คุณจะเห็นป้ายบอกทางไปยังพระบรมมหาราชวังตลอดทาง เพียงต้องเดินตามป้ายนั้นเองครับ |
A: Thanks so much! Is it close to any other attractions? | ขอบคุณมากๆค่ะ ใกล้แหล่งท่องเที่ยวอื่นไหมคะ? |
B: Yes, it’s very close to Wat Phra Kaew and the National Museum. | ใช่ครับ ใกล้วัดพระแก้ว และพิพิธภัณฑ์แห่งชาติมากครับ |
A: Wow, that sounds amazing! I’ll visit those too. Thanks again for your help. | ว้าว ฟังดูน่าทึ่งมากค่ะ ฉันจะไปเยี่ยมชมที่นั่นด้วยค่ะ ขอบคุณอีกครั้งสำหรับความช่วยเหลือของคุณนะคะ |
B: You’re welcome! Enjoy your visit to the Grand Palace and have a great time in Bangkok! | ไม่เป็นไรครับ! ขอให้คุณสนุกกับการเยี่ยมชมพระบรมมหาราชวังและจะมีเวลาอย่างสนุกสนานในกรุงเทพฯ นะครับ! |
คำถามที่พบบ่อย
ทิศเหนือ ภาษาอังกฤษ แปลว่าอะไร?
ทิศเหนือ ภาษาอังกฤษ แปลว่า North.
การออกเสียง:
- ภาษาอังกฤษแบบบริติช (UK): /nɔːθ/
- ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน (US): /nɔːrθ/
เข็มทิศ ภาษาอังกฤษ แปลว่าอะไร?
เข็มทิศ ภาษาอังกฤษ แปลว่า compass.
การออกเสียง:
- ภาษาอังกฤษแบบบริติช (UK): /ˈkʌm.pəs/
- ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน (US): /ˈkʌm.pəs/ hoặc /ˈkɑːm.pəs/

การเรียนรู้ทิศทางและวิธีถามทางในภาษาอังกฤษเป็นทักษะที่สำคัญในการสื่อสารในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณเดินทางหรืออาศัยอยู่ต่างประเทศ ด้วยคำศัพท์ โครงสร้างคำถาม และบทสนทนาเชิงปฏิบัติเกี่ยวกับทิศทางและการบอกทางเป็นภาษาอังกฤษที่ ELSA Speak แบ่งปันกันแล้ว คุณจะรู้สึกมั่นใจมากขึ้นในการค้นหาทิศทางหรือช่วยเหลือผู้อื่นในสถานการณ์จริง
คําคมการเดินทางในภาษาอังกฤษไม่เพียงแต่เป็นคำคมที่ดีเท่านั้น แต่ยังเป็นแหล่งที่มาของแรงบันดาลใจสำหรับการเดินทางอีกด้วย พร้อมกับ ELSA Speak เพื่อค้นหา 150+ แคปชั่นการเดินทาง ภาษาอังกฤษ ซึ่งช่วยให้คุณแสดงอารมณ์ ความรู้สึกหรือจะแบ่งปันโมเม้น และบันทึกช่วงเวลาอันน่าจดจำในการเดินทางของคุณ เพื่อสำรวจโลก
ประโยคการเดินทาง ภาษาอังกฤษที่สร้างแรงบันดาลใจ
ทุกก้าวสู่ดินแดนต่างแดน ถือเป็นโอกาสที่ทำให้เราได้เรียนรู้ ขยายขอบเขตความรู้ และค้นหาแรงบันดาลใจใหม่ๆ การเดินทางไม่ใช่แค่การไปเท่านั้น แต่ยังเป็นการค้นหาตัวเราเองและพบเจอสิ่งใหม่ๆ ที่เราไม่เคยรู้มาก่อน ด้านล่างนี้ เป็นคลังคําคมการเดินทางในภาษาอังกฤษที่สร้างแรงบันดาลใจที่โดยละเอียดพร้อมทั้งความหมายของคำคมเหล่านั้น
คําคมการเดินทางในภาษาอังกฤษ | ความหมาย |
The world is a book, and those who do not travel read only one page. | โลกคือหนังสือ และผู้ที่ไม่เดินทางก็เหมือนแค่ได้อ่านเพลงหน้าเดียว |
Travel is the only thing you buy that makes you richer. | การเดินทางเป็นสิ่งเดียวที่คุณซื้อแล้วรวยขึ้น |
To travel is to live. | การเดินทางคือการมีชีวิต |
Adventure may hurt you, but monotony will kill you. | การผจญภัยอาจจะทำร้ายคุณ แต่ความซ้ำซากจำเจจะฆ่าคุณ |
Travel far enough, you meet yourself. | ออกไปเที่ยวให้มากพอ ที่คุณจะค้นพบตัวตนที่แท้จริงของตัวเรา |
Life is short and the world is wide. | ชีวิตมันสั้น แต่โลกเรานั้นช่างกว้างใหญ่ |
The journey not the arrival matters. | มิตรภาพคือการเดินทาง ไม่ใช่จุดหมายปลายทาง |
We travel not to escape life, but for life not to escape us. | เราเดินทางไม่ใช่เพื่อหนีชีวิต แต่เพื่อให้ชีวิตไม่หนีไปจากเรา |
Take only memories, leave only footprints. | เก็บแต่ความทรงจำ ทิ้งไว้ แค่รอยเท้า |
Travel opens your heart, broadens your mind, and fills your life with stories to tell. | การเดินทางช่วยเปิดใจ เปิดโลก เปิดทัศนคติของเราให้กว้าง ชีวิตถูกเติมให้เต็มมากขึ้น แถมมีเรื่องต่างๆ เล่าให้คนอื่นฟังได้มากมาย |
The journey of a thousand miles begins with a single step. | การเดินทางหลายพันไมล์นั้น เริ่มต้นจากก้าวแรกทั้งนั้น |
Wherever you go becomes a part of you somehow. | ไม่ว่าคุณจะไปที่ไหน มันก็จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของคุณ |
Traveling – it leaves you speechless, then turns you into a storyteller. | ไม่ว่าคุณจะไปที่ไหนมันก็จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของคุณ |
Life is either a daring adventure or nothing at all. | ชีวิตก็คือการผจญภัยที่กล้าหาญ หรือไม่ก็ ไม่มีอะไรเลย |
Wander often, wonder always. | เที่ยวให้สม่ำเสมอ และสงสัยให้สม่ำเสมอ |
Travel brings power and love back into your life. | การท่องเที่ยว มอบพลังและความรักให้กลับคืนมาสู่ชีวิตของเรา |
Travel is fatal to prejudice, bigotry, and narrow-mindedness. | การเดินทางเป็นอันตรายต่ออคติ ความดื้อรั้น และความใจแคบ |
Work hard, travel harder. | เราทำงานหนัก และควรเที่ยวให้หนักกว่า |
When you’re travelling, you are what you are. | คุณจะเป็นตัวเองก็ต่อเมื่อคุณได้ออกเดินทาง |
May your joys be as deep as the ocean. | ขอให้เธอมีความสุข มากเฉกเช่น ความลึกของมหาสมุทร |
The smell of the ocean never gets old. | กลิ่นของมหาสมุทร ไม่เคยเก่า |
Let the waves hit your feet & sand be your sea. | ปล่อยให้คลื่นพัดสัมผัสเท้า ปล่อยให้ทรายรองรับเรา |
Belong somewhere you feel free. | จงไปอยู่ในที่ที่รู้สึกอิสระ |
A journey of a thousand miles must begin with a single step. | การเดินทางหลายพันไมล์นั้น เริ่มต้นจากก้าวแรกทั้งนั้น |
To awaken quite alone in a strange town is one of the pleasantest sensations in the world. | การตื่นขึ้นมาอย่างโดดเดี่ยวในต่างถิ่น เป็นความตื่นเต้นที่สนุกที่สุดในโลก |
Better to see something once than to hear about it a thousand times. | ออกไปเห็นด้วยตาตัวเอง แม้เพียงครั้งเดียว ยังดีกว่านั่งฟังมานับพันครั้ง |
The world is a book and those who don’t travel read only one page. | โลกเหมือนหนังสือเล่มหนึ่ง และคนที่ไม่ออกเดินทางไปเที่ยว ก็เหมือนอ่านหนังสือไปแค่หน้าเดียว |
Saltwater cures all wounds. | น้ำเกลือเยียวยาได้ทุกบาดแผล |
Remember that happiness is a way of travel, not a destination. | จงจำไว้ว่า ความสุขคือสิ่งที่พบเจอระหว่างทาง ไม่ใช่จุดหมายปลายทาง |
Vacation calories don’t count. | แคลอรี่ในช่วงวันหยุดไม่นับนะจ๊ะ |
Let’s go somewhere nobody knows about your names. | ไปที่ไหนก็ได้ ที่ไม่มีคนรู้จักเรากันเถอะ |
If traveling was free, you would never see me again. | ถ้าการไปเที่ยวมันฟรีนะ เธอจะไม่ได้เจอฉันอีกเลย |
I’m a true OCEANHOLIC. | ฉันเป็นคนเสพติดมหาสมุทรที่แท้ทรู |
Adventures are forever. | ประสบการณ์ของการเดินทางจะคงอยู่ตลอดไป |
Half the fun of the travel is the esthetic of lostness. | ครึ่งหนึ่งของความสนุกในการเดินทาง คือความงดงามของการหลงทาง |
All I need is a little Vitamin Sea. | ขอแค่มีวิตามินซี(ทะเล)นิดหน่อย |
Great things never come from comfort zones. | สิ่งที่ยิ่งใหญ่ ไม่เคยมาจากคอมฟอร์ตโซน |
Living my life in my style. | ใช้ชีวิตของฉันในสไตล์ของฉัน |
Watch more sunsets than Netflix. | ออกไปดูเดือน ดูตะวันให้มากกว่าดูเน็ตฟลิกซ์เถอะ |
Wander often, wonder always. | เที่ยวบ่อย ๆ ตั้งคำถามให้เยอะ ๆ |
Catch flights, not feelings. | เดินทางแล้วลืมทุกความรู้สึกแย่ ๆ กันเถอะ |
Head in the clouds, on to the next destination. | เพ้อฝันและจินตนาการไปสู่ที่ท่องเที่ยวในครั้งหน้า |
Find a beautiful place, and get lost. | ออกไปเจอที่ที่สวยงามสักที่ และหลงทางอยู่ที่นั่น |
Stop and smell the ocean. | หยุดพักและสูดกลิ่นสดชื่นของทะเล |
On top of mountains and beneath the stars. | บนยอดภูเขา และภายใต้ดวงดาวมากมาย |
Don’t worry, Beach happy. | ไม่ต้องกังวล จงมีความสุข |
Live with no excuses and travel with no regrets. | ใช้ชีวิตโดยไม่มีข้อแก้ตัว และเดินทางอย่างไม่เสียใจ |
Maybe you can’t buy happiness, but you can buy plane tickets. | บางทีเราไม่สามารถซื้อความสุขได้ แต่เราสามารถซื้อตั๋วเครื่องบินได้ |
Let’s wander where the wifi is weak. | ไปเที่ยวให้ประหลาดใจในที่ที่สัญญาณ Wifi ไม่ค่อยมี |
I woke up this morning, smiled at the rising sun. | ฉันตื่นขึ้นมาในเช้านี้ และยิ้มให้กับพระอาทิตย์ที่กำลังขึ้น |
Experience the natural beauty of the whole world. | ออกไปสัมผัสความสวยงามของธรรมชาติทั้งโลก |
I got 99 Problems, but travel is not one of them. | ฉันมีปัญหาเยอะแยะมากมาย แต่การท่องเที่ยวไม่ใช่หนึ่งในปัญหานั้นเลย |
Exploration is really the essence of the human spirit. | การได้ออกไปสำรวจที่ใหม่ๆ เป็นสิ่งสำคัญในชีวิตคนเรา |
Don’t spend your money on things. Spend it on experiences. | อย่าจ่ายเงินไปกับข้าวของ แต่ให้จ่ายเงินไปกับประสบการณ์ที่จะได้ |
It’s not about the destination, but the journey. | สิ่งสำคัญไม่ใช่จุดหมายปลายทาง แต่เป็นการเดินทางต่างหาก |
Go at least once a year to a place you have never been before. | คุณควรออกไปสำรวจสถานที่ใหม่ๆ อย่างน้อยปีละครั้งในชีวิต |
Jobs fill your pocket, adventures fill your soul. | งานนั้นเติมเต็มกระเป๋าสตางค์ แต่การผจญภัยเติมเต็มจิตวิญญาณ |
I can’t move moutains for you, but we can climb them together. | ฉันย้ายภูเขาทั้งลูกให้คุณไม่ได้ แต่เราสามารถปีนเขาไปด้วยกันได้ |
Travel becomes a strategy for accumulating photographs. | การท่องเที่ยวกลายเป็นส่วนหนึ่งของการสะสมรูปถ่าย |
Travelers never think that they are the foreigners | นักเดินทางที่แท้จริง ไม่เคยคิดว่าตัวเองเป็นคนต่างถิ่น |
Travel doesn’t become adventure until you leave yourself behind. | การเดินทางจะยังไม่ใช่การผจญภัย จนกว่าคุณจะทิ้งตัวเองไว้ข้างหลัง |
Climb the mountain so you can see the world. | ปีนขึ้นไปบนภูเขา แล้วคุณจะได้เห็นโลกทั้งใบ |
Jobs fill your pocket but adventures fill your soul. | งานนั้นเติมเต็มกระเป๋าสตางค์ แต่การผจญภัยเติมเต็มจิตวิญญาณ |
Travel is glamorous only in retrospect. | การท่องเที่ยวเป็นสิ่งที่สวยงามเมื่อได้มองย้อนกลับไป |
It is better to see something once than to hear about it a thousand times. | ออกไปเห็นด้วยตาตัวเอง แม้เพียงครั้งเดียว ยังดีกว่านั่งฟังมานับพันครั้ง |
Someday I’m going to be free and I’m going to travel the world. | สักวันฉันจะเป็นอิสระ และเดินทางไปทั่วโลก |
We travel not to escape life but for life not to escape us. | เราเดินทางไม่ใช่เพื่อหนีชีวิต แต่เพื่อให้ชีวิตไม่หนีไปจากเรา |
This heart of mine was made to travel this world. | หัวใจของฉันสร้างขึ้นมา เพื่อท่องเที่ยวรอบโลก |
Don’t listen to what they say, go see. | ครั้งหนึ่ง อะไรที่ใครเค้าว่าสวย เค้าว่าน่าไป ต้องได้ไปเห็นด้วยตาตัวเอง |
I don’t know where I’m going, but I’m on my way. | ฉันไม่รู้ว่าฉันกำลังจะไปที่ไหน แต่ฉันกำลังเดินทาง |
I want to make memories all over the world. | ฉันอยากที่จะสร้างความทรงจำไปทั่วโลก |
I need to live where summer never ends. | ฉันอยากจะไปอยู่ในที่ที่ฤดูร้อนไม่มีวันจบสิ้น |
Travel for enough to meet yourself. | ออกไปเที่ยวให้มากพอ ที่จะค้นพบตัวตนที่แท้จริงของเรา |
There’s no time to be bored in a world as beautiful as this. | ไม่มีเวลาที่จะมารู้สึกเบื่อโลกใบนี้ ที่มันสวยงามขนาดนี้หรอกนะ |
Relationship status : In a relationship with my passport. | อยู่ในความสัมพันธ์กับพาสปอร์ต ไปเที่ยวกันเลย! |
Don’t tell me how educated you are, tell me how much you have traveled. | ไม่ต้องบอกฉันว่า คุณได้รับการศึกษามาอย่างไร บอกฉันแค่ว่า คุณเดินทางมามากเท่าไหร่ก็พอ |
Travel is not a reward for working; it’s education for living. | การเดินทางไม่ใช่รางวัลจากการทำงาน แต่ไปศึกษาการใช้ชีวิตต่างหากล่ะ |
Traveling is about finding those things you never knew you were looking for. | การเดินทางท่องเที่ยวคือการตามหาสิ่งที่เราไม่เคยรู้ว่า เรากำลังตามหามันอยู่ |
Enjoy Moment, Not Photo. | เอนจอยกับช่วงเวลาดีๆ ในขณะนั้น ดีกว่า มัวแต่จะถ่ายรูปไปซะทุกอย่าง |
Let the sea set you free. | ปล่อยให้ทะเลปลดปล่อยคุณ |
Because every pictures tell a story. | ในทุกภาพถ่ายนั้น มีเรื่องราวซ่อนอยู่ |
Life hurt, Nature heal. | ชีวิตมันอยู่ยาก ให้ธรรมชาติช่วยเยียวยา |
A journey is best measured in friends, rather than miles. | มาตรวัดการเดินทางที่ดีที่สุด คือ เพื่อน มิใช่ระยะทาง |

คําคมการเดินทางและการเดินทางแบบแบ็กแพ็กในภาษาอังกฤษที่มีความหมาย
ไม่ว่าคุณจะชอบการเดินทางแบบแบ็กแพ็กหรือไม่ คำคมการเดินทางต่อไปนี้จะทำให้คุณรู้สึกตื่นเต้นและอยากจะเก็บกระเป๋าและออกเดินทางไปชื่นชมสถานที่สวยงามต่างๆ ในโลกนี้ทันที
คําคมการเดินทาง | ความหมาย |
Travel is the only way to truly find yourself. | การเดินทางเป็นหนทางเดียวที่จะค้นพบตัวตนของคุณได้อย่างแท้จริง |
Explore the world with an open heart and a curious mind. | สำรวจโลกด้วยหัวใจที่เปิดกว้างและจิตใจที่อยากรู้อยากเห็น |
Every destination has a story waiting to be discovered. | ทุกจุดหมายปลายทาง จะมีเรื่องราวที่รอการค้นพบเสมอ |
Travel not to escape life, but to embrace it. | เราเดินทางไม่ใช่เพื่อหนีชีวิต แต่เพื่อให้ชีวิตไม่หนีไปจากเรา |
In the end, we only regret the chances we didn’t take. | สุดท้าย สิ่งเดียวที่เราจะเสียดาย คือ โอกาสที่เราไม่ได้คว้าเอาไว้ |
The best journeys answer questions that in the beginning you didn’t even think to ask. | การเดินทางที่ดีที่สุดคือการตอบคำถามที่คุณไม่คิดจะถามในตอนแรก |
Let your heart be your compass and your dreams be your guide. | ปล่อยให้หัวใจคุณเป็นเข็มทิศ และความฝันของคุณเป็นผู้นำทาง |
Travel is the art of seeing the world through new eyes. | การเดินทางคือศิลปะในการมองโลกผ่านมุมมองใหม่ |
Collect moments, not things. | จงสะสมประสบการณ์หรือความทรงจำ ไม่ใช่สิ่งของ |
Every mile traveled is a story written in the book of life. | ทุกไมล์ที่เดินทางไปคือเรื่องราวที่ถูกเขียนลงในหนังสือแห่งชีวิต |
Journeying into the unknown is the greatest adventure of all. | การเดินทางสู่สิ่งที่ไม่รู้จักคือการผจญภัยที่ยิ่งใหญ่ที่สุด |
I haven’t been everywhere, but it’s on my list. | ผมยังไม่เคยไปทุกที่ แต่มันอยู่ในรายการของฉัน |
The world is a book, and those who do not travel read only one page. | โลกเหมือนหนังสือเล่มหนึ่ง และคนที่ไม่ออกเดินทางไปเที่ยว ก็เหมือนอ่านหนังสือไปแค่หน้าเดียว |
The world is a beautiful place, and I want to see it all with you. | โลกใบนี้ช่างงดงาม และฉันอยากเห็นมันทั้งหมดกับคุณ |
Life is short and the world is wide. | ชีวิตมันสั้น แต่โลกเรานั้นช่างกว้างใหญ่ |
When you’re traveling, you are what you are. | เมื่อคุณออกเดินทาง คุณคือตัวคุณเอง |
Adventure is my middle name. | การผจญภัยเป็นชื่อกลางของฉัน |
I’ve found my happy place. | ในที่สุด ฉันก็เจอที่ที่ทำให้มีความสุข |
Vacation mode: on. | โหมดพักร้อน: เปิด |
I have 99 problems, but traveling is not one of them. | ฉันมีปัญหาเยอะแยะมากมาย แต่การท่องเที่ยวไม่ใช่หนึ่งในนั้นเลย |
Travel is the best way to fall in love with the world. | การเดินทางคือหนทางที่ดีที่สุดในการตกหลุมรักโลก |
It’s not about the destination, it’s about the journey. | มันไม่ใช่เรื่องของจุดหมาย แต่มันเป็นเรื่องของการเดินทาง |
Travel is the great equalizer. | การเดินทางคือตัวการที่ทำให้เราเสถียรที่สุดยอดที่สุด |
I’m not lost, I’m just exploring alternative routes. | ฉันไม่ได้หลงทาง ฉันแค่กำลังสำรวจเส้นทางอื่นอยู่ |
My passport is crying for more stamps. | หนังสือเดินทางของฉันร้องไห้ จนร้องขอขอตราประทับเพิ่มแล้ว |
I don’t always travel, but when I do, it’s epic. | ฉันไม่ได้เดินทางบ่อย แต่เมื่อไหร่ที่เดินทาง แน่นอนว่ามันต้องยิ่งใหญ่ |
I’m not a tourist, I’m a temporary local. | ฉันไม่ใช่นักท่องเที่ยว ฉันเป็นคนท้องถิ่นชั่วคราวต่างหาก |
I’ve got a crush on the world. | ฉันหลงรักโลกใบนี้จัง |
My new routine: Journey. Explore. Discover. Repeat. | กิจวัตรใหม่ของฉัน คือ เดินทาง สำรวจ ค้นพบ แล้วก็ทำแบบนี้ซ้ำ ๆ |
Collecting experiences, not things. | สะสมประสบการณ์ ไม่ใช่สิ่งของ |
Traveling – the best way to be lost and found at the same time. | การเดินทาง คือ วิธีที่ดีที่สุดในการหลงทางและค้นพบตัวเองในเวลาเดียวกัน |
Adventure is calling, and I must go! | การผจญภัยกำลังเรียกหา และฉันต้องไป |
Live your life by the compass, not the clock. | ใช้ชีวิตตามเข็มทิศ ไม่ใช่ตามนาฬิกา |
I haven’t been everywhere, but it’s on my list. | ผมยังไม่เคยไปทุกที่ แต่มันอยู่ในรายการของฉัน |
Travel, because money returns, time doesn’t. | ออกไปเที่ยวเถอะ เพราะเงินหาคืนมาเมื่อไหร่ก็ได้ แต่เวลา กลับคืนมาไม่ได้นะ |
I followed my heart, and it led me to the airport. | ฉันทำตามใจของฉัน และมันก็พาฉันไปที่สนามบิน |
I need a six-month holiday, twice a year. | ฉันต้องการวันหยุด 6 เดือน 2 ครั้งต่อปี |
I’m not a tourist. I’m just a local in a different place. | ฉันไม่ใช่แค่เป็นนักท่องเที่ยว ฉันแค่เป็นคนท้องถิ่นในสถานที่ต่างแดน |
The only thing I’m packing for my trip is my sense of adventure. | สิ่งเดียวที่ฉันเก็บสัมภาระใส่กระเป๋า สำหรับทริปนี้คือความกล้าหาญ |
I’m not sure where I’m going, but I’m on my way. | ฉันไม่แน่ใจว่าฉันจะไปไหน แต่ฉันกำลังอยู่บนเส้นทาง |
I’m not a travel blogger, I’m just a person who likes to travel. | ฉันไม่ใช่นักเขียนบล็อก เกี่ยวกับการเดินทาง ฉันแค่เป็นคนที่ชอบเดินทาง |
Travel is a teacher that offers lessons beyond the classroom. | การเดินทางเป็นครูที่มอบบทเรียนให้มากกว่าแค่ในห้องเรียน |
Sometimes, the best therapy is a long road trip with good friends. | บางครั้ง การบำบัดที่ดีที่สุดคือการเดินทางไกลกับเพื่อนดีๆ |
The beauty of travel lies in the unexpected moments. | ความงดงามของการเดินทางอยู่ที่ช่วงเวลาที่ไม่คาดฝัน |
A traveler is not someone who crosses countries, but someone who crosses the street. | นักเดินทางไม่ใช่ผู้ที่เดินทางข้ามประเทศ แต่คือผู้ที่ข้ามถนน |
Travel creates memories that last a lifetime. | การเดินทางสร้างความทรงจำที่คงอยู่ตลอดชีวิต |
Each trip is a new canvas waiting for your brush. | การเดินทางแต่ละครั้งเปรียบเสมือนผืนผ้าใบผืนใหม่ที่กำลังรอพู่กันของคุณอยู่ |
The road less traveled often leads to the most beautiful destinations. | ถนนที่ผู้คนไม่ค่อยสัญจร มักจะนำไปสู่จุดหมายปลายทางที่สวยงามที่สุด |
Let the journey change you, not the destination. | ปล่อยให้การเดินทางเปลี่ยนแปลงคุณ ไม่ใช่จุดหมายปลายทาง |

แคปชั่นการเดินทาง ภาษาอังกฤษดีๆ
ด้านล่างนี้เป็นแคปชั่นที่ยอดเยี่ยมเกี่ยวกับการเดินทางและแคปชั่นไปเที่ยวกับแฟน ภาษาอังกฤษ ซึ่งช่วยให้คุณแสดงความรู้สึกและประสบการณ์เมื่อสำรวจโลก:

แคปชั่น | ความหมาย |
Chasing sunsets and dreams. | ไล่คว้าความฝันและตะวันฉาย |
Lost in the right direction. | หลงไปในทิศทางที่ถูกต้อง |
Travel: the only thing that makes you richer. | การเดินทางเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้เรารวยขึ้น |
Sandy toes, sun-kissed nose. | ให้เท้าที่เปื้อนทราย จมูกได้รับแสงแดด และไม่วิตกกังวลเกี่ยวกับโลกใบนี้ |
Adventures are the best way to learn. | การผจญภัยเป็นหนทางการเรียนรู้ที่ดีที่สุด |
Life is short, and the world is wide; let’s explore! | ชีวิตมันสั้น แต่โลกเรานั้นช่างกว้างใหญ่ มาสำรวจกันเถอะ |
Wanderlust: a strong desire to explore the world. | ความอยากเดินทาง: ความปรารถนาอันแรงกล้าที่จะออกสำรวจโลก |
Find me where the wild things are. | เจอฉันได้ทุกที่ ที่ที่มีป่าอยู่ |
Let’s find some beautiful place to get lost. | หาที่เที่ยวสวยๆ กัน และหลงทางอยู่ที่นั่น |
Traveling is my therapy. | การท่องเที่ยว คือ การบำบัดของฉัน |
Exploring new places, one step at a time. | สำรวจสถานที่ใหม่ๆ ครั้งละหนึ่งก้าว |
Take me anywhere, just not home. | พาฉันไปที่ไหนก็ได้ ที่ที่ไม่ใช่บ้าน |
Every adventure starts with a single step. | การผจญภัยทุกครั้งเริ่มต้นด้วยก้าวเดียว |
The mountains are calling and I must go. | ภูเขากำลังเรียกหา และฉันต้องรีบไปหาแล้ว |
Climb the mountain… so you can see the world, not so the world can see you. | ปีนขึ้นไปบนภูเขา แล้วคุณจะได้เห็นโลกทั้งใบ ไม่ใช่เพื่อให้โลกได้เห็นคุณ |
If Life is a journey, the forest is my destination. | ถ้าชีวิตคือการเดินทาง ปลายทางของฉันคือการเข้าป่า |
The ocean has my heart. | มหาสมุทร ได้ “หัวใจ” ฉันไปแล้ว |
Mountain trips and foggy mornings. | ทริปภูเขา และ หมอกยามเช้า |
You will experience the natural beauty and impressive. | คุณจะได้สัมผัสกับธรรมชาติที่สวยงาม และน่าประทับใจ |
I love nature. | ฉันรักธรรมชาติ |
If you truly love nature, you will find beauty everywhere. | ถ้ารักธรรมชาติอย่างแท้จริง คุณจะค้นพบความสวยงามในทุก ๆที |
The perfect picture of the sky will always be sunset. | ภาพที่เฟอร์เฟคเสมอมาบนท้องฟ้า คือภาพของพระอาทิตย์ตก |
Nature is not a place to visit. It is HOME. | ธรรมชาติไม่ใช่แค่สถานที่เพื่อมาเที่ยว แต่คือ “บ้าน” |
All I need is you and a little more sunset in my life. | สิ่งที่ฉันต้องการทั้งหมดในชีวิตมีแค่คุณ และช่วงเวลาพระอาทิตย์ตก |
Nature is the art of God. | ธรรมชาติ คือ งานศิลปะของพระเจ้า |
Look deep into nature, and then you will understand everything better. | มองลึกเข้าไปในธรรมชาติ แล้วคุณจะเข้าใจทุกอย่างมากขึ้น |
My favorite color is sunset. | สีที่ฉันชอบที่สุด คือ สีของพระอาทิตย์ตก |
The journey is my home. | การเดินทางคือบ้านของฉัน |
Travel far, travel wide, travel deep. | เดินทางไกล เดินทางกว้าง เดินทางลึก |
Let the adventures begin! | เริ่มการผจญภัยได้เลย! |
Finding paradise wherever I go. | ค้นพบสรวงสวรรค์ในทุกๆ ที่ที่ได้ไปเยือน |
Exploring the world, one passport stamp at a time. | สำรวจโลกหนึ่งครั้ง ประทับตาบนหนังสือเดินทางหนึ่งครั้ง |
The best view comes after the hardest climb. | วิวที่สวยอลังการที่สุด จะเห็นได้หลังจากที่ เราเหนื่อยอย่างที่สุดในการปีนขึ้นไปบนเขา |
In a world full of paths, I choose to wander. | ในโลกที่มีเส้นทางมากมาย ฉันเลือกที่จะเดินเตร่ |

คำพูดภาษาอังกฤษสั้น ๆ ที่ดีที่สุดเกี่ยวกับการเดินทาง และจริงใจ
ด้านล่างนี้เป็นคำพูดภาษาอังกฤษสั้น ๆ ที่ดีที่สุดเกี่ยวกับการเดินทาง แต่มีความหมาย ซึ่งแบ่งปันความรู้สึกที่แท้จริงจากหัวใจ:
แคปชั่นการเดินทางในภาษาอังกฤษสั้นๆ และจริงใจ | ความหมาย |
Wander often, wonder always. | เที่ยวบ่อย ๆ ตั้งคำถามให้เยอะ ๆ |
Adventure awaits! | การผจญภัยกำลังรออยู่ เสมอ |
Live your adventure. | ใช้ชีวิตในการผจญภัยของคุณ |
Travel light, live light. | เดินทางเบาๆ ใช้ชีวิตเบาๆ |
Hello, new adventures! | สวัสดีการผจญภัยครั้งใหม่! |
Keep calm and travel on. | ตั้งสติ แล้วใช้ชีวิตต่อไป |
Collect moments, not things. | จงสะสมประสบการณ์หรือความทรงจำ ไม่ใช่สิ่งของ |
Exploring the unknown. | สำรวจสิ่งที่ไม่รู้จัก |
Take me to new heights. | พาฉันไปสู่ความสูงใหม่ |
Every place has a story. | ทุกสถานที่ย่อมมีเรื่องราว |
Chasing new horizons. | ไล่ตามขอบฟ้าใหม่ๆ |
Let’s get lost together. | มาร่วมหลงทางไปด้วยกัน |
Roaming the world with an open heart. | ท่องไปทั่วโลกด้วยหัวใจที่เปิดกว้าง |
Just go! | ไปสิ |
Nature is calling. | ธรรมชาติกำลังเรียกหาอยู่ |
Seek the thrill. | แสวงหาความตื่นเต้น |
Together is my favorite place to be. | การเดินทางด้วยกันคือที่โปรดของฉัน |
Find joy in the journey. | มองหาความสุขในการเดินทาง |
Let’s wander where the WiFi is weak. | ไปเที่ยวที่สัญญาณ wifi อ่อนกันเถอะ |
Travel is my happy place. | การเดินทางคือสถานที่แห่งความสุขของฉัน |
Enjoy moments, not photos. | เอนจอยกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า ดีกว่าเอาแต่ถ่ายรูป |
A Traveler should be happy, not perfect. | นักเดินทางควรที่จะมีความสุขในการเดินทาง ไม่ต้องเฟอร์เฟคไปตลอดเวลาก็ได้ |
Sunshine is my favorite accessory | แสงแดดเป็นเครื่องประดับที่ฉันชอบมากที่สุด |
Travel because money returns, time doesn’t. | ออกไปเที่ยวเถอะ เพราะเงินหาคืนมาเมื่อไหร่ก็ได้ แต่เวลา กลับคืนมาไม่ได้นะ |
Life is better at the Beach! | ชีวิตดีขึ้น เมื่ออยู่ที่ทะเล! |
Finding paradise wherever I go. | ค้นพบสรวงสวรรค์ในทุกๆ ที่ที่ได้ไปเยือน |
Always take the scenic route. | เดินทางสู่เส้นทางธรรมชาติที่สวยงามเสมอๆ |
Escape and breathe the air of new places. | หนีจากปัจจุบัน และออกไปสูดอากาศดีๆ ในสถานที่ใหม่ๆ |
Stay strong the weekend is coming. | เข้มแข็งไว้ สุดสัปดาห์กำลังจะมาถึงแล้ว |
Tired feet, happy heart. | ถึงจะเหนื่อยเท้า แต่ก็สุขหัวใจนะจ๊ะ |
Balmy nights, pink sunsets, and salty air. | คืนที่อบอุ่น พระอาทิตย์ตกสีชมพู และอากาศจากทะเล |
Wherever you go, go with all your heart. | ทุกที่ที่คุณไป จงไปด้วยใจทั้งหมดของคุณ |
Nature is not a place to visit. It is at home. | ธรรมชาติไม่ใช่แค่สถานที่เพื่อมาเที่ยว แต่คือ “บ้าน” |
This earth belongs to anyone who stops for a moment. | โลกใบนี้เป็นของคนที่หยุดเดิน แล้วมองดูสิ่งรอบข้าง |
I do believe it’s time for another adventure. | ฉันเชื่อว่า ถึงเวลาแล้ว สำหรับการผจญภัยครั้งใหม่ |
Sun, Sand, and Pineapple in hand. | พระอาทิตย์ เม็ดทราย และสับปะรด อยู่ในมือ |
All you need is love and passport. | ทุกสิ่งที่เธอต้องการก็คือ ความรัก และ พาสปอร์ต |
You should stop and smell the roses. | หยุดและชื่นชมสิ่งรอบกายบ้าง |
You, me, and the sea. | คุณ ฉัน และทะเล |
We have nothing to lose and a world to see. | เราไม่มีอะไรจะเสีย และโลกยังมีสิ่งที่ให้เราออกไปพบเห็น |
If you never go, you will never know. | ถ้าไม่เคยไปก็จะไม่มีวันรู้เลย |
The ocean is calling and I must go. | มหาสมุทรกำลังเรียกหาฉัน และฉันจะต้องไป |
Travel is the healthiest addiction. | การท่องเที่ยว คือ การเสพติดที่ดีที่สุดแล้ว |
Let’s wander where the wifi is weak. | ไปเที่ยวที่สัญญาณ wifi อ่อนกันเถอะ |
I’m not lose, I’m exploring. | ฉันไม่ได้กำลังหลงทาง แต่ฉันกำลังสำรวจเส้นทาง |
There is always some next adventure waiting for us. | การผจญภัยครั้งใหม่ กำลังรอเราอยู่เสมอๆ |
Making the best memories along the way. | สร้างความทรงจำที่ดีที่สุดระหว่างการเดินทาง |
Life’s a beach. Enjoy the waves. | ชีวิตก็เหมือนชายหาด เพราะฉะนั้น ต้องสนุกไปกับเกลียวคลื่น |
Let’s go somewhere, anywhere, everywhere! | ไปเที่ยวไหนกันที่ไหนก็ได้! |
Enjoy your summer break! | เอนจอยกับช่วงเวลาพักร้อน |
Kick-off your week with a smile. | เริ่มต้นสัปดาห์ใหม่ด้วยรอยยิ้ม |
Paradise isn’t a place, it’s a feeling. | สวรรค์ไม่ใช่สถานที่ แต่เป็นความรู้สึกดีๆ ตั้งหาก |
I’m just a beachy kinda girl. | ฉันเป็นแค่ผู้หญิงที่ชอบเที่ยวทะเล |
I wish I had more vacation days. | ฉันหวังว่าฉันจะมีวันหยุดมากขึ้น |
I need six months vacation, twice a year. | ฉันต้องการวันหยุดพักผ่อนสัก 6 เดือน ปีละแค่ 2 ครั้งก็พอ |
Catch me by the sea. | เจอฉันได้ที่ทะเล |
Every single moment is an adventure. | ทุกช่วงเวลา คือ การผจญภัย |
Turn off your computer and go outside. | ปิดคอมพิวเตอร์ของคุณ แล้วออกไปข้างนอก |
I only collect one thing: stamps on my passport. | ฉันสะสมสิ่งเดียวเท่านั้น: ตราประทับบนหนังสือเดินทางของฉัน |
It’s bad manners to keep a vacay waiting. | มันเสียมารยาทมาก ถ้าให้วันหยุดมารอเรา |
Dreams are made of sun and sand. | ความฝัน ถูกสร้างขึ้นจากแสงแดดและเม็ดทราย |
I have a therapist, her name is nature. | ฉันมีนักบำบัดที่ชื่อว่า ธรรมชาติ |
Jet Lag is for Amateurs. | อาการเจ็ตแล็กเป็นเรื่องของมือใหม่ |

คำบรรยายท่องเที่ยวภาษาอังกฤษสั้นๆ ที่ดีที่สุด
บางครั้งประโยคสั้น ๆ ก็สามารถถ่ายทอดข้อความที่ลึกซึ้งและน่าจดจำที่สุดได้ นี่คือคำบรรยายท่องเที่ยวภาษาอังกฤษสั้นๆ ที่ดีที่สุดและจำได้ง่าย และสามารถแชร์ได้
คําคมการเดินทางในภาษาอังกฤษสั้นๆ ที่ดีที่สุด | ความหมาย |
Travel opens your mind. | การเดินทางเปิดใจของคุณ |
Adventure is out there! | การผจญภัยรอคุณอยู่ข้างหน้านี่แหละ |
Go where you feel most alive. | ไปในที่ที่คุณรู้สึกมีชีวิตรอดอยู่ |
The best journeys are those that answer questions you didn’t think to ask. | การเดินทางที่ดีที่สุดคือการเดินทางที่ตอบคำถามที่คุณไม่ได้คิดว่าจะถาม |
Travel makes the world feel small. | การเดินทางทำให้โลกดูเล็กลง |
Life is meant for good friends and great adventures. | ชีวิตคือการมีเพื่อนดี ๆ ที่พร้อมผจญภัยไปด้วยกัน |
Travel far enough to meet yourself. | ออกไปเที่ยวให้มากพอ ที่จะค้นพบตัวตนที่แท้จริงของเรา |
Escape the ordinary. | หลีกหนีความธรรมดา |
Let’s find some beautiful place to get lost. | หาที่เที่ยวสวยๆ กัน และหลงทางอยู่ที่นั่น |
Journeys are the midwives of thought. | การเดินทางเปรียบเสมือนหมอตำแยแห่งความคิด |
Seek adventures that open your mind. | มองหาการผจญภัยที่เปิดโลกของคุณ |
Travel is freedom. | การเดินทางคืออิสรภาพ |
Leave only footprints. | ทิ้งไว้แต่รอยเท้า |
Experience is the best teacher. | ประสบการณ์คือครูที่ดีที่สุด |
Breathtaking views, unforgettable moments. | วิวทิวทัศน์ที่สวยงามตระการตา ช่วงเวลาอันน่าจดจำ |
The silence of nature is very real. It surrounds you…you can feel it. | ความเงียบสงบของธรรมชาติเป็นเรื่องจริง ที่อยู่ล้อมรอบตัวคุณ และคุณสามารถรู้สึกได้ |
Sunshine on my mind. | แสงแดดอยู่ในใจฉัน |
Nature is one of your greatest teachers. | ธรรมชาติเป็นครูผู้ยิ่งใหญ่ |
if sky is the limit, then go there. | ถ้าหากท้องฟ้าคือขีดจำกัด ก็ไปที่นั่นเลย |
In all thing of nature there is something of the marvelous. | ทุกสิ่งที่อยู่ในธรรมชาติ มีบางสิ่งที่ยิ่งใหญ่เสมอ |
Take time to enjoy the natural beauty that surrounds you. | ใช้เวลาเพลิดเพลินไปกับความสวยงามของธรรมชาติที่อยู่ล้อมรอบตัวคุณ |
I think that I shall never see a poem lovely as a tree. | ฉันคิดว่าฉันจะไม่มีวันเห็นบทกวีใดสวยงามเหมือนต้นไม้เลย |
Keep calm and enjoy the view. | เงียบสงบ และ เพลิดเพลินกับวิวตรงหน้า |
Getting lost in nature is one of the most pure ways to find yourself. | การหลงเข้าไปสู่ธรรมชาติเป็นวิธีสู่การค้นพบตัวเองที่บริสุทธิ์ที่สุด |
When you are tired from work, nature always helps. | เมื่อเหนื่อยล้าจากการงาน ธรรมชาติสามารถช่วยได้เสมอ |
Foggy lunch run to get the energy levels back up 100. | พลังของสายหมอก ช่วยเพิ่มพลังงานให้กลับมาเลเวล 100 |
Nature itself is the best physician. | ธรรมชาติเป็นหมอที่ดีที่สุด |
Don’t forget natural remedies around you! | อย่าลืมการเยียวยาของธรรมชาติรอบตัวคุณ |
I needed a mental health break. | ฉันต้องการพักผ่อนเพื่อสุขภาพจิต |
Jobs fill your pockets, nature fill your soul. | การทำงานเต็มเติมเงินในกระเป๋า แต่ธรรมชาติเต็มเต็มจิตวิญญาณ |
Above all, watch with glittering eyes the whole world around you. | เหนือสิ่งอื่นใด จงมองทั้งโลกรอบๆ ตัวคุณด้วยดวงตาที่เปล่งประกาย |
The best kind of therapy is nature therapy. | การบำบัดที่ดีที่สุด ก็คือ ธรรมชาติบำบัด |
Time wasted at the forest is well spent. | เวลาที่เสียไปในป่าก็ควรใช้ไปอย่างคุ้มค่า |
Going for a vacation to relax and renew our mind. | ไปพักร้อนเพื่อพักผ่อนและฟื้นฟูจิตใจของเรากันเถอะ |
My love for camping is in-tents. | สิ่งที่ฉันชอบที่สุดในการแคมป์ปิ้งคือ เต็นท์ |
I miss you! – The Mountain. | ฉันคิดถึงเธอนะ ภูเขา! |
Mountain: Heaven On Earth. | ภูเขา : สวรรค์แท้ๆ บนดิน |
Nature Awaits. | ธรรมชาติรออยู่ |
Happiness can be found in the wild. | ความสุขหาได้ในป่า |
I now walk into the wild. | วันหนึ่งฉันเดินเข้าป่า |
Fresh air, don’t care. | ออกไปสูดอากาศแล้วลืมคนแย่ๆ ไว้ข้างหลัง |
All I need is a mountain breeze and tall trees. | ทั้งหมดที่ฉันต้องการคือลมบนภูเขาและต้นไม้สูง |
Nature is my therapy. | ธรรมชาติคือการบำบัดของฉัน |
Into the forest I go, to lose my mind and find my soul. | ฉันเข้าไปในป่าเพื่อลืมสติและค้นหาจิตวิญญาณของฉัน |
Adopt the peace of nature her secret is patience. | หากอยากเห็นความสวยงามของธรรมชาติ ความลับก็คือ ต้องอดทน |
I can’t move mountains for you, but we can climb them together. | ฉันย้ายภูเขาทั้งลูกให้คุณไม่ได้ แต่เราสามารถปีนเขาไปด้วยกันได้ |
Nature is one of your greatest teachers. | ธรรมชาติเป็นครูผู้ยิ่งใหญ่ |
A walk on the beach is priceless. | ก้าวย่างบนชายหาดน่ะ มันรู้สึกเยี่ยมยอดจนประเมินค่าไม่ได้เลย |
The tan will fade, but the memories will last forever. | ถึงผิวสีแทนจะจางหายไป แต่ความทรงจำจะคงอยู่ตลอดไป |
I’ve never found time spent amongst nature to be a waste of time. | ฉันไม่เคยคิดว่าการใช้เวลากับธรรมชาติ เป็นการเสียเวลาเลย |
Only nature can give me that feeling. | มีแต่ธรรมชาติเท่านั้น ที่ทำให้ฉันรู้สึกอย่างนั้นได้ |
The best kind therapy is beach therapy. | การบำบัดที่ดีที่สุด ก็คือ บำบัดด้วยชายหาด |
Colors are the smile of nature. | สีวันต่างๆ คือรอยยิ้มของธรรมชาติ |
I am most alive among tall trees. | ฉันมีชีวิตชีวามากที่สุดท่ามกลางต้นไม้สูง |
Air, mountains, tree, people. I thought this is what it is to be happy. | อากาศ ภูเขา ต้นไม้ และผู้คน เป็นสิ่งที่ฉันคิดว่า ทำให้ฉันมีความสุข |
I felt my lungs inflate with the onrush of scenery. | ฉันรู้สึกว่าปอดของฉัน เต็มไปด้วยวิวทิวทัศน์ข้างหน้า |
Nature is as complex as it need to be… and no more. | ธรรมชาติ ซับซ้อนเท่าที่มันเป็น และไม่มีมากกว่านั้น |
Happiness comes in wave. | ความสุขมักจะมาในรูปแบบของเกลียวคลื่น |
Nature is my happiness. | ธรรมชาติคือความสุขของฉัน |
Travel more, worry less. | เดินทางไกลให้เยอะ ความกังวลจะลดลง |
Find beauty in every journey. | ค้นพบความสวยงามในทุกการเดินทาง |
Embrace the detours. | เปิดใจและเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ |
Life’s too short to stay in one place. | ชีวิตสั้นเกินกว่าที่จะอยู่ในสถานที่เดียว |
Explore, dream, discover. | สำรวจ ฝัน ค้นพบ |
The best way to predict the future is to create it. | วิธีที่ดีที่สุดในการทำนายอนาคต คือการสร้างมันขึ้นมา |
I’m not lost, I’m just exploring. | ฉันไม่ได้หลงทาง ฉันกำลังสำรวจ |
The best way to make memories is to travel. | หนทางที่ดีที่สุดในการสร้างความทรงจำ คือการเดินทาง |
Travel is the best way to experience the world. | การเดินทางคือหนทางที่ดีที่สุดในการสัมผัสโลก |

>>>Read more: ความสุขภาษาอังกฤษ คืออะไร? 20+ สำนวนภาษาอังกฤษแสดงถึงการมีความสุข
คําคมการเดินทาง ภาษาอังกฤษดีๆ ที่จะเป็นกำลังใจ
บางครั้งสิ่งที่คุณต้องการก็แค่กำลังใจเล็กๆ น้อยๆ เพื่อเริ่มต้นการเดินทางของตน คำคมภาษาอังกฤษด้านล่างนี้จะช่วยสร้างแรงบันดาลใจและแรงกระตุ้นให้กับคุณ
คำคมการเดินทางในภาษาอังกฤษดีๆ ที่จะเป็นกำลังใจ | ความหมาย |
Certainly, travel is more than the seeing of sights; it is a change that goes on, deep and permanent, in the ideas of living. – Mary Ritter Beard | แน่นอนว่าการเดินทางไม่ใช่แค่เพียงการชมสถานที่ต่างๆ เท่านั้น แต่ยังเป็นความเปลี่ยนแปลงที่ดำเนินไปอย่างลึกซึ้งและถาวร ในความคิดของการใช้ชีวิต – แมรี่ ริตเตอร์ เบียร์ด |
I travel not to go anywhere, but to go. I travel for travel’s sake. The great affair is to move. | ฉันเดินทางไม่ใช่เพื่อไปไหน แต่เพื่อไป ฉันเดินทางเพื่อการเดินทาง สิ่งสำคัญคือการเดินทาง |
Not all those who wander are lost. | ไม่ใช่ทุกคนที่เตร็ดเตร่จะหลงทาง |

คําคมการเดินทาง ภาษาอังกฤษที่ดีของคนที่มีชื่อเสียง
หากคุณรู้สึกเครียดและเหนื่อยล้าเกินไปในชีวิต ให้บรรเทามันด้วยการเดินทางผ่านคำคมการเดินทางภาษาอังกฤษของคนที่มีชื่อเสียง ด้านล่างนี้!
คําคมการเดินทางในภาษาอังกฤษที่ดีของคนที่มีชื่อเสียง | ความหมาย |
The use of traveling is to regulate imagination with reality, and instead of thinking of how things may be, see them as they are. – Samuel Johnson | ประโยชน์ของการท่องเที่ยวคือการทำให้จินตนาการไว้เป็นจริง แทนที่จะคิดว่าสิ่งต่างๆจะเป็นเช่นไร แค่มองมันให้เห็นว่ามันเป็นมันก็พอ |
Stop worrying about the potholes in the road and enjoy the journey. – Babs Hoffman | หยุดกังวลเกี่ยวกับความยากจนบนถนนและเพลิดเพลินไปกับการเดินทาง |
Great things never came from comfort zones. – Anonymous | สิ่งดีๆ ไม่เคยเกิดขึ้นจากพื้นที่ปลอดภัย |
Man cannot discover new oceans unless he has the courage to lose sight of the shore. – Andre Gide | คุณไม่สามารถค้นพบมหาสมุทรใหม่ได้ จนกว่าคุณจะกล้าละสายตาจากฝั่งทะเลเดิม |
The impulse to travel is one of the hopeful symptoms of life. – Agnes Repplier | แรงกระตุ้นในการเดินทางคือหนึ่งในสัญญาณแห่งความหวังของชีวิต |
The gladdest moment in human life, methinks, is a departure into unknown land. – Sir Richard Burton | Khoảnh khắc vui mừng nhất của đời người là được khởi hành đến những vùng đất xa lạ. ฉันคิดว่าช่วงเวลาที่น่ายินดีที่สุดในชีวิตมนุษย์ คือการออกเดินทางไปยังดินแดนที่ไม่เคยรู้จัก |
The world is a book, and those who do not travel only read a page. – St. Augustine | Thế giới là một cuốn sách, và những người không du lịch chỉ đọc một trang. – Thánh Augustine โลกเปรียบเสมือนหนังสือ และผู้ที่ไม่เคยเดินทางก็เพียงอ่านหน้าเดียวเท่านั้น |
To travel is to discover that everyone is wrong about other countries. – Aldous Huxley | การเดินทางคือการค้นพบว่า ทุกคนเข้าใจผิดเกี่ยวกับประเทศอื่น |
To travel is to live. – Hans Christian Andersen | การเดินทางคือการมีชีวิต |
Traveling is not something you’re good at. It’s something you do. – Gayle Forman | การเดินทางไม่ใช่สิ่งที่คุณเก่ง มันคือสิ่งที่คุณทำ |
Once a year, go someplace you’ve never been before. – Dalai Lama | ปีละครั้ง ไปที่ที่คุณไม่เคยไปมาก่อน |
Take only memories, leave only footprints. – Chief Seattle | เก็บแต่ความทรงจำ ทิ้งไว้แต่รอยเท้า |
Stop worrying about the potholes in the road and celebrate the journey. – Fitzhugh Mullan | เลิกกังวลเกี่ยวกับหลุมบ่อบนถนน และจงเฉลิมฉลองการเดินทาง |
One’s destination is never a place, but a new way of seeing things. – Henry Miller | จุดหมายปลายทางของคนเราไม่ใช่แค่สถานที่ แต่เป็นมุมมองใหม่ต่อสิ่งต่างๆ |
The traveler sees what he sees, the tourist sees what he has come to see. – G.K. Chesterton | นักเดินทางเห็นสิ่งที่เขาเห็น นักท่องเที่ยวเห็นสิ่งที่เขาอยากเห็น |
I haven’t been everywhere, but it’s on my list. – Susan Sontag | ผมยังไม่เคยไปทุกที่ แต่มันอยู่ในรายการของฉัน |
A good traveler has no fixed plans, and is not intent on arriving. – Lao Tzu | นักเดินทางที่ดีไม่มีแผนตายตัว และไม่ได้มุ่งมั่นที่การเดินทางมาถึง |
Oh, the places you’ll go! – Dr. Seuss | โอ หนูจะไปเที่ยวที่ต่างๆ ได้! |
Once the travel bug bites there is no known antidote, and I know that I shall be happily infected until the end of my life. – Michael Palin | เมื่อถูกแมลงกัดในระหว่างการเดินทาง แล้วไม่มีใครรู้จักยาแก้ และผมรู้ว่าผมจะติดอย่างมีความสุขจนกว่าจะสิ้นลม |
To travel is to evolve. – Pierre Bernardo | การเดินทางคือการพัฒนา |
There is a kind of magicness about going far away and then coming back all changed. – Kate Douglas Wiggin | มีเวทมนตร์บางอย่างเกี่ยวกับการเดินทางไกล แล้วกลับมาพร้อมกับการเปลี่ยนแปลง |
Never hesitate to go far away, beyond all seas, all frontiers, all countries, all beliefs. – Amin Maalouf | อย่าลังเลที่จะไปไกลเกินกว่าทะเล เส้นแบ่ง เขตแดน ประเทศ หรือความเชื่อใดๆ |
I love the feeling of being anonymous in a city I’ve never been before. – Bill Bryson | ผมชอบความรู้สึกที่ได้เป็นคนไร้ตัวตนในเมืองที่ผมไม่เคยไปมาก่อน |
Traveling – it leaves you speechless, then turns you into a storyteller. – Ibn Battuta | การเดินทางจะเปลี่ยนจากคนที่ไม่ค่อยพูด ให้กลายเป็นนักเล่าเรื่องเอง |
A journey is best measured in friends rather than miles. – Tim Cahill | มาตรวัดการเดินทางที่ดีที่สุด คือ เพื่อน มิใช่ระยะทาง |
Life is either a daring adventure or nothing. – Helen Keller | ชีวิตคือการผจญภัยที่กล้าหาญ ไม่อย่างนั้นก็จะไร้ความหมาย |
Investment in travel is an investment in yourself. – Matthew Karsten | การลงทุนในการเดินทางคือการลงทุนในตัวคุณเอง |
See the world. It’s more fantastic than any dream. – Ray Bradbury | ออกไปดูโลกสิ มันวิเศษดั่งฝันที่เหนือจริง |
One must travel to learn. – Mark Twain | คนเราจำเป็นต้องเดินทางเพื่อเรียนรู้ |
Travel makes one modest. You see what a tiny place you occupy in the world. – Gustave Flaubert | การเดินทางทำให้คนเรามีความสุภาพถ่อมตัว ซึ่งคุณจะเห็นว่าตัวคุณเล็กเพียงใดในโลก |
Travel is the best way to find yourself. – Lady Gaga | การเดินทางคือหนทางที่ดีที่สุดในการค้นพบตัวตนของคุณเอง |
The journey of a thousand miles begins with a single step. - Lao Tzu | การเดินทางหลายพันไมล์นั้นเริ่มต้นจากก้าวแรกทั้งนั้น |
Nothing develops intelligence like travel. – Emile Zola | ไม่มีอะไรช่วยพัฒนาสติปัญญาได้เทียบเท่าการเดินทาง |
To speak a language is to take on a world, a culture. – Frantz Fanon | การพูดภาษาใดภาษาหนึ่ง คือการสัมผัสโลกและวัฒนธรรมนั้น |
The traveler sees what he sees, the tourists sees what he has come to see. – G.K. Chesterton | นักเดินทางเห็นสิ่งที่นักเดินทางเห็น นักท่องเที่ยวก็จะเห็นสิ่งที่เค้าอยากมาเห็น – G.K. Chesterton |

>>>Read more: ประโยคภาษาอังกฤษในชีวิตประจําวัน ช่วยคุณสื่อสารภาษาอังกฤษได้ง่ายๆ
คําคมการเดินทาง ภาษาอังกฤษที่มีความหมายที่ดี
หากคุณอยากเดินทางแต่ไม่มีแรงบันดาลใจ คําคมการเดินทางในภาษาอังกฤษที่มีความหมายที่ดีด้านล่างนี้ แน่กันว่าหลังจากอ่านคำคมเหล่านี้แล้วคุณจะมีแรงบันดาลใจในการไล่ตามความฝันของคุณ
คําคมการเดินทางในภาษาอังกฤษที่ใช้เมื่อชีวิตติดขัด
คำคมเกี่ยวกับการเดินทางภาษาอังกฤษเหล่านี้จะช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ที่รู้สึกเบื่อหน่าย สูญเสียความเชื่อและความหวังในชีวิต มาดูกันดีกว่า:
คําคมการเดินทางในภาษาอังกฤษที่ใช้เมื่อชีวิตติดขัด | ความหมาย |
After all these years, I’ve still been involved in the process of self-discovery. It’s better to explore life and make mistakes than to play it safe. Mistakes are part of the dues one pays for the full life. – Sophia Loren | หลังจากผ่านมาหลายปี ฉันยังคงอยู่ในกระบวนการค้นหาตนเอง การสำรวจชีวิตและทำผิดพลาด นั้นดีกว่าการเล่นอย่างปลอดภัย ความผิดพลาดเป็นส่วนหนึ่งของค่าที่ต้องจ่ายเพื่อชีวิตที่สมบูรณ์ |
When one realizes that his life is worthless he either commits suicide or travels. – Edward Dahlberg | เมื่อตระหนักว่าชีวิตของตนไม่มีค่า เขาก็ได้ต้องเลือกจะฆ่าตัวตายหรือออกไปเดินทาง |
Life is always fair for everyone; you will learn it when you see a stranger in a strange land. | ชีวิตมีความยุติธรรมสำหรับทุกคนเสมอ หากคุณจะเรียนรู้สิ่งนี้เมื่อพบคนแปลกหน้าในแดนแปลกหน้า |

คําคมการเดินทาง ภาษาอังกฤษที่ทำให้คุณอยากเก็บกระเป๋าแล้วออกเดินทาง
คุณจะสัมผัสถึงคุณค่าอันล้ำค่าของการเดินทางได้ก็ต่อเมื่อคุณได้ไปที่นั่นและได้สัมผัสกับสิ่งใหม่ๆ ด้วยตนเองเท่านั้น หวังว่าคำคมการเดินทางภาษาอังกฤษเหล่านี้จะทำให้คุณอยากเก็บกระเป๋าและเริ่มต้นการเดินทางครั้งใหม่ทันที
คําคมการเดินทางในภาษาอังกฤษ | ความหมาย |
Travel is the only thing that can make you rich in experiences. | การเดินทางคือสิ่งเดียวที่จะทำให้คุณมีประสบการณ์มากมาย |
Discovering new places is like writing a new chapter in your life. | การค้นหาสถานที่ใหม่ๆ ก็เหมือนการเขียนบทใหม่ในชีวิตของคุณ |
The journey is my favorite destination. | การเดินทางคือจุดหมายปลายทางโปรดของฉัน |
Life is about the moments you create, not the things you possess. | ชีวิตคือช่วงเวลาที่คุณสร้าง ไม่ใช่สิ่งที่คุณมี |
Every destination has a lesson waiting to be learned. | ทุกจุดหมายปลายทางมีบทเรียนที่รอการเรียนรู้ |
Travel is the best way to broaden your horizons. | การเดินทางเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะขยายขอบเขตความรู้ของคุณ |
Sometimes, the most productive thing you can do is relax and explore. | บางครั้งสิ่งที่สำคัญที่สุดที่คุณทำได้คือการผ่อนคลายและไปสำรวจ |
Adventure is worthwhile. | การผจญภัยเป็นสิ่งที่คุ้มค่า |
Travel not to escape life, but for life not to escape you. | การเดินทางไม่ใช่เพื่อหลบหนีชีวิต แต่เพื่อไม่ให้ชีวิตหนีคุณไป |
The best stories are found between the pages of a passport. | เรื่องราวที่ดีที่สุดมักพบได้ระหว่างหน้าหนังสือเดินทาง |

สำนวนการเดินทางในภาษาอังกฤษ
มาสำรวจสำนวนการเดินทางในภาษาอังกฤษที่ดีที่สุดกับ ELSA Speak เพื่อจุดประกายความหลงใหลในการเดินทางของคุณ!
สำนวนการเดินทางในภาษาอังกฤษ | ความหมาย |
Hit the road. | ออกไป ออกเดินทาง |
Off the beaten path. | ออกนอกเส้นทางที่ถูกย่ำแล้ว |
Travel light. | เดินทางโดยสัมภาระไม่มาก |
A journey of a thousand miles begins with a single step. | การเดินทางหลายพันไมล์นั้น เริ่มต้นจากก้าวแรกทั้งนั้น |
Take the scenic route. | เดินทางสู่เส้นทางธรรมชาติที่สวยงามเสมอๆ |
Pack your bags. | แพคกระเป๋าซะ |
Road less traveled. | ถนนที่ไม่ได้ผ่านไปบ่อย |
Catch the travel bug. | ตกหลุมรักกับการเดินทาง |
Bite the bullet. | ก้มหน้ารับกรรม |
When in Rome, do as the Romans do. | เข้าเมืองตาหลิ่ว ต้องหลิ่วตาตาม |

คติพจน์เกี่ยวกับช่วงเวลาดีๆ ในภาษาอังกฤษ
ด้านล่างนี้คือคติพจน์เกี่ยวกับช่วงเวลาดีๆ ในภาษาอังกฤษ:
คติพจน์เกี่ยวกับช่วงเวลาดีๆ ในภาษาอังกฤษ | ความหมาย |
Good times + Crazy friends = Amazing memories. | เวลาที่ดีรวมกับเพื่อนที่บ้าบอ นั่นแหล่ะเป็นความทรงจำที่ดีที่สุด |
Collect moments, not things. | จงสะสมประสบการณ์หรือความทรงจำ ไม่ใช่สิ่งของ |
Life is a party; dress like it. | ชีวิตก็เหมือนงานปาร์ตี้ ทำตัวให้สนุกแบบนั้นสิ |
Live for the moments you can’t put into words. | มีชีวิตอยู่ เพื่อช่วงเวลาที่คุณไม่สามารถอธิบายเป็นคำพูดได้ |
Laughter is timeless, imagination has no age, and dreams are forever. | เสียงหัวเราะไม่มีวันหมดอายุ จินตนาการไม่มีวันแก่ลง และความฝันคงอยู่ตลอดไป |
Make every day a new adventure. | คุณทำให้ทุกวันเป็นการผจญภัย |
Happiness is not a destination; it’s a way of life. | ความสุขไม่ใช่จุดหมายปลายทาง แต่ความสุขมันคือวิถีทางแห่งชีวิต |
Create your own sunshine. | จงสร้างแสงแดดของคุณเอง |
The best things in life are the people we love, the places we’ve been, and the memories we’ve made. | สิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตคือคนที่เรารัก , สถานที่ที่เราเคยไป และความทรงจำที่เราได้สร้างไว้ |
Enjoy the little things, for one day you may look back and realize they were the big things. | ลองสนุกไปกับนสิ่งเล็ก ๆ แล้ววันนึงเมื่อเรามองย้อนกลับมาเราอาจมองว่าเรื่องนั้นอาจจะเป็นเรื่องที่ใหญ่ก็ได้ |

>>>Read more: 65+ คำอวยพรเดินทางปลอดภัยภาษาอังกฤษ (have a nice trip) ที่คุณควรรู้
สโลแกนภาษาอังกฤษเกี่ยวกับการท่องเที่ยว
การเดินทางคือการออกไปแห่งการค้นหา ประสบการณ์ และการเติบโต นี่คือสโลแกนการเดินทางที่ดีเพื่อใช้ได้:
สโลแกน | ความหมาย |
Explore the world, one destination at a time. | สำรวจโลกครั้งละจุดหมายปลายทาง |
Discover the beauty of travel. | ค้นหาความงดงามของการเดินทาง |
Adventure is out there. | การผจญภัยรอคุณอยู่ข้างหน้านี่แหละ |
Travel. Explore. Discover. | เดินทาง สำรวจ ค้นพบ |
Find your adventure. | ค้นหาการผจญภัยของคุณ |
Wander often, wonder always. | เที่ยวบ่อย ๆ ตั้งคำถามให้เยอะ ๆ |
Travel makes the world go round. | การเดินทางทำให้โลกหมุนไป |
Let the journey begin! | ให้การเดินทางได้เริ่มต้นขึ้นที่นี่ |
See the world through new eyes. | มองโลกผ่านมุมมองใหม่ |
Your adventure awaits! | การผจญภัยของคุณกำลังรออยู่! |

บทกวีสั้น ๆ เกี่ยวกับการเดินทาง
บทกวีสั้น ๆ เกี่ยวกับการเดินทาง | ความหมาย |
In distant lands where dreams unfold,With every step, new stories are told. Mountains high and oceans wide,Adventure calls, come take the ride. | ในดินแดนอันห่างไกลที่ความฝันถูกเปิดเผยเรื่องราวใหม่ ๆ ถูกบอกเล่าในทุก ๆ ก้าวย่างภูเขาสูงและมหาสมุทรกว้างใหญ่การผจญภัยเรียกร้อง มาร่วมออกเดินทางกัน |
Wanderlust whispers in the night, Chasing sunsets, feeling light.Each journey brings a brand new view, The world awaits, just me and you. | ความอยากเดินทางกระซิบในยามค่ำคืนการตามหาพระอาทิตย์ตก สัมผัสแสงสว่างการเดินทางแต่ละครั้งนำมาซึ่งมุมมองใหม่โลกกำลังรออยู่ มีเพียงฉันและคุณ |
Pack your bags and hit the road, Leave behind your heavy load. With open hearts and eyes so bright, We’ll find our way, guided by light. | เก็บกระเป๋าและออกเดินทางทิ้งภาระอันหนักอึ้งของคุณไว้ข้างหลังด้วยหัวใจที่เปิดกว้างและดวงตาที่สดใสเราจะพบหนทางของเรา โดยนำทางด้วยแสงสว่าง |
Through winding paths and skies so blue, Every moment brings something new. Travel far, let your spirit soar, With every mile, discover more. | ผ่านเส้นทางคดเคี้ยวและท้องฟ้าสีครามทุกช่วงเวลาจะนำพาสิ่งใหม่ๆ มาให้เดินทางไกล ปล่อยให้จิตวิญญาณของคุณโบยบินค้นพบสิ่งใหม่ๆ มากขึ้นทุกไมล์ |
From city lights to quiet shores, Each destination opens doors. Memories made, laughter shared, In every journey, love is declared. | จากแสงไฟเมืองสู่ชายหาดอันเงียบสงบจุดหมายปลายทางแต่ละแห่งล้วนเปิดประตูความทรงจำที่ถูกสร้างขึ้น เสียงหัวเราะที่แบ่งปันความรักถูกประกาศในทุกการเดินทาง |

คำบรรยายภาษาอังกฤษ Chill
คำว่า Chill เป็นคำแสลงที่ใช้กันทั่วไป แปลว่า ผ่อนคลาย คลายความเครียด และเพลิดเพลิน มาสำรวจคำบรรยายภาษาอังกฤษ Chill ที่เหมาะกับภาพท่องเที่ยวที่แสดงถึงความผ่อนคลายและความสงบกันดีกว่า

แคปชั่นภาษาอังกฤษชิวๆ | ความหมาย |
Sippin’ on sunshine and good vibes. | ดื่มด่ำกับแสงแดดและโมเม้นดีๆ |
Chillin’ like a villain. | ชิลล์เหมือนคนร้าย |
Just another day in paradise. | เป็นอีกวันบนสวรรค์เลยล่ะ |
Good vibes only. | มองโลกในแง่ดีเข้าไว้ หรือ คิดบวกเข้าไว้ |
Finding peace in the chaos. | ค้นหาความสงบท่ามกลางความวุ่นวาย |
Let the waves hit your feet and the sand be your seat. | ปล่อยให้ฟองคลื่นกระทบเท้า และให้ทรายกลายเป็นที่นั่ง |
Breathe in the good vibes. | สูดหายใจรับความรู้สึกดีๆ |
Chasing chill and feeling thrill. | ไล่ตามความ “ชิว” และความรู้สึกตื่นเต้น |
Life’s a beach, enjoy the waves. | ชีวิตก็เหมือนทะเล เพราะฉะนั้นก็มีความสุขกับเกลียวคลื่นเถอะ |
Sunshine is the best medicine. | แสงแดดเป็นยาที่ดีที่สุด |

ข้างบนเป็นคําคมการเดินทาง ภาษาอังกฤษที่สร้างแรงบันดาลใจ หวังว่าจะช่วยให้คุณมีคำคมดีๆ ไว้แบ่งปันประสบการณ์การเดินทางของคุณเพิ่มมากขึ้น อย่าลืมติดตามบทความต่อไปของ ELSA Speak เพื่อค้นหาความรู้ที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับภาษาอังกฤษ และพิชิต IELTS Listening และ Speaking ด้วยแอปพลิเคชัน ELSA Speak นะคะ!
คำสรรพนาม (Pronoun) เป็นคำที่มีบทบาทสำคัญอย่างมากในการสร้างประโยคที่สมบูรณ์ ชัดเจน และหลีกเลี่ยงการใช้คำซ้ำๆ แล้ว Pronoun คืออะไร? คำสรรพนามมีกี่ประเภท? และ pronoun ใช้ยังไง? บทความนี้จาก ELSA Speak จะช่วยตอบคำถามทั้งหมดนี้!
pronoun มีอะไรบ้าง?
คำสรรพนาม (Pronoun) ในภาษาอังกฤษคือคำประเภทหนึ่งที่ใช้แทนคำนาม (noun) หรือวลีคำนาม (noun phrase) โดยมีจุดประสงค์หลักเพื่อหลีกเลี่ยงการกล่าวถึงคำนามนั้นซ้ำๆ ในข้อความหรือบทสนทนา
คำสรรพนาม (Pronoun) ช่วยให้เรื่องราวหรือข้อความดูกระชับและเข้าใจง่ายขึ้น เป็นคำประเภทหนึ่งในภาษาอังกฤษที่มักใช้เมื่อคุณต้องการกล่าวถึงคน สัตว์ หรือแนวคิดที่ได้กล่าวถึงมาก่อนหน้า ในภาษาอังกฤษ เกือบทุกประโยคจะมีคำนามหรือคำสรรพนามอย่างน้อยหนึ่งคำ
Pronoun ตัวอย่างประโยค: The children were in the garden. They were getting wet. (เด็กๆ กำลังเล่นอยู่ในสวนและพวกเขาก็เริ่มเปียก)
→ ในประโยคทั้งสองคำว่า They เป็นคำสรรพนามที่ใช้แทน The children โดยทำหน้าที่เป็นประธานที่ระบุถึงบุคคลที่กำลังพูดถึงในประโยค

ตำแหน่งและหน้าที่ของ pronoun คืออะไร?
เนื่องจากคำสรรพนามใช้แทนคำนามหรือวลีคำนามในประโยค ตำแหน่งและหน้าที่ของคำสรรพนามจึงมีความคล้ายคลึงกับคำนามในบางส่วน:
หน้าที่ | ตำแหน่ง | ตัวอย่าง |
ทำหน้าที่เป็นประธาน | อยู่ต้นประโยค | They have known each other for 8 years. (พวกเขารู้จักกันมา 8 ปีแล้ว) |
ทำหน้าที่เป็นกรรม | อยู่หลังคำกริยา | She sent me a gift three days ago. (เธอส่งของขวัญให้ฉันเมื่อสามวันก่อน) |
ทำหน้าที่เป็นส่วนเสริม | อยู่หลังกรรมหรือประธาน | Our sweetest songs are those that tell of saddest thoughts. (เพลงที่หวานที่สุดของเราคือเพลงที่เล่าถึงความคิดที่เศร้าที่สุด)You painted the living room this? (คุณทาสีห้องนั่งเล่นนี้เหรอ?) |
ทำหน้าที่เป็นส่วนประกอบ | อยู่หลังวลีบุพบท | She received a lovve letter from him. (เธอได้รับจดหมายรักจากเขา) |

Pronoun คืออะไร มีกี่ประเภท?
Personal pronoun คืออะไร? (บุรุษสรรพนาม)
Personal pronoun คืออะไร? บุรุษสรรพนาม (Personal pronoun) ความหมายในภาษาอังกฤษคือคำที่ใช้แทนคน สัตว์ สิ่งของ หรือเหตุการณ์ที่เรากล่าวถึงในข้อความหรือบทสนทนา เป็นคำสรรพนามที่พบได้บ่อยที่สุดในภาษาอังกฤษ
ตัวอย่าง: He saw me in the coffee shop. (เขาเห็นฉันในร้านกาแฟ)
→ He คือบุรุษสรรพนามที่ทำหน้าที่เป็นประธานของประโยค ส่วน me คือบุรุษสรรพนามที่ทำหน้าที่เป็นกรรมของประโยค
บุรุษสรรพนามส่วนใหญ่มีรูปแบบที่แตกต่างกันระหว่างประธานและกรรม ยกเว้น you และ it ด้านล่างนี้คือตัวอย่างการใช้บุรุษสรรพนาม:
บุรุษสรรพนาม | บุรุษสรรพนามที่ทำหน้าที่เป็นประธาน | บุรุษสรรพนามที่ทำหน้าที่เป็นกรรม |
บุรุษที่หนึ่ง | I/We | Me/Us |
บุรุษที่สอง | You | You |
บุรุษที่สาม | He/She/It/They | Him/Her/It/Them |

Possessive pronouns (คำสรรพนามแสดงความเป็นเจ้าของ)
คำสรรพนามแสดงความเป็นเจ้าของ (Possessive pronoun) คือคำที่ใช้เพื่อแสดงว่าสิ่งของ คน หรือความคิดของคนๆหนึ่ง คำสรรพนามแสดงความเป็นเจ้าของสามารถทำหน้าที่เป็นประธานหรือกรรมในประโยคได้ ในบางกรณี คำสรรพนามแสดงความเป็นเจ้าของที่ตามหลังคำบุพบทจะเรียกว่า double possessive
ตัวอย่าง: Charlotte noticed that Seth’s dog was bigger than hers. (ชาร์ลอตต์สังเกตว่าหมาของเซธตัวใหญ่กว่าของเธอ)
→ คำสรรพนามแสดงความเป็นเจ้าของ hers ชี้ให้เห็นว่า Charlotte’s dog (วลีคำนามที่ถูกแทนด้วยคำว่า hers) เป็นของชาร์ลอตต์
คำสรรพนามแสดงความเป็นเจ้าของคือรูปแบบหนึ่งของบุรุษสรรพนามตามลำดับบุรุษในภาษาอังกฤษ ดังนี้:
บุรุษสรรพนาม | คำสรรพนามแสดงความเป็นเจ้าของ | ตัวอย่าง |
I | Mine (ของฉัน) | This book is mine. (หนังสือเล่มนี้เป็นของฉัน) |
You | Yours (ของคุณ) | Is this pen yours? (ปากกานี้เป็นของคุณหรือเปล่า) |
He | His (ของเขา) | Laptop is his. (แล็ปท็อปเป็นของเขา) |
She | Hers (ของเธอ) | The blue dress is hers. (ชุดเดรสสีน้ำเงินเป็นของเธอ) |
We | Ours (ของพวกเรา) | The house is ours. (บ้านหลังนี้เป็นของพวกเรา) |
They | Theirs (ของพวกเขา) | The project’s success is theirs. (ความสำเร็จของโครงการเป็นของพวกเขา) |

Reflexive pronoun คืออะไร? (สรรพนามที่อ้างถึงตนเองหรือสรรพนามสะท้อน)
Reflexive pronoun คืออะไร? สรรพนามที่อ้างถึงตนเองหรือสรรพนามสะท้อน (Reflexive pronoun) ในภาษาอังกฤษคือคำที่ใช้เมื่อคนหรือสิ่งอื่นๆ เป็นผู้กระทำและรับการกระทำในเวลาเดียวกัน คำสรรพนามประเภทนี้มักใช้เพื่อทดแทนชื่อเฉพาะของบุคคล
สรรพนามที่อ้างถึงตนเองหรือสรรพนามสะท้อน ได้แก่:
บุรุษสรรพนาม | สรรพนามที่อ้างถึงตนเองหรือสรรพนามสะท้อน |
IYouHeSheItWeYouThey | Myself (ตัวฉันเอง)Yourself (ตัวคุณเอง)Himself (ตัวเขาเอง)Herself (ตัวเธอเอง)Itself (ตัวมันเอง)Ourself (ตัวพวกเราเอง)Yourself (ตัวพวกคุณเอง)Themself (ตัวพวกเขาเอง)Oneself (ตัวเอง) |
ตัวอย่าง: I taught myself to play the guitar. (ฉันสอนตัวเองเล่นกีตาร์)

คำสรรพนามเชื่อมความ (Relative pronouns)
คำสรรพนามเชื่อมความ (Relative pronouns) มักปรากฏที่จุดเริ่มต้นของอนุประโยคและช่วยเชื่อมอนุประโยคเข้ากับประโยคหลัก คำสรรพนามเชื่อมความที่พบบ่อย ได้แก่:
คำสรรพนามเชื่อมความ (Relative pronoun) | การใช้งาน | ตัวอย่าง |
Who | ใช้เมื่ออ้างถึงคน | The person who called me is my friend. (คนที่โทรหาฉันคือเพื่อนของฉัน) |
Whom | ใช้เมื่ออ้างถึงคน มักปรากฏหลังคำบุพบท | The person whom I talked to is my boss. (คนที่ฉันคุยด้วยคือเจ้านายของฉัน) |
Which | ใช้เพื่อระบุสิ่งของ สัตว์ หรือเหตุการณ์ | The book which is on the table is mine. (หนังสือที่อยู่บนโต๊ะเป็นของฉัน) |
That | ใช้ได้ทั้งคนและสิ่งของ | The car that I bought is red. (รถที่ฉันซื้อมาคือมีสีแดง) |
Whose | ใช้เพื่อแสดงความเป็นเจ้าของของคนหรือสิ่งของ | The girl whose bag was stolen is upset. (เด็กผู้หญิงที่ถูกขโมยกระเป๋าไปรู้สึกเสียใจ) |

>>> Read more: Subordinating Conjunctions ในภาษาอังกฤษ กลุ่มคำที่พบบ่อยพร้อมแบบฝึกหัด
คำสรรพนามชี้เฉพาะ (Demonstrative pronouns)
คำสรรพนามชี้เฉพาะ (Demonstrative pronouns) ได้แก่ this, that, those และ these คำเหล่านี้ใช้เพื่อเน้นย้ำสิ่งที่ถูกกล่าวถึงก่อนหน้านี้หรือสิ่งที่ชัดเจนในบริบท
คำสรรพนามชี้เฉพาะ (Demonstrative pronouns) | การใช้งาน | ตัวอย่าง |
This | มักใช้เพื่อระบุบุคคลหรือสิ่งของที่อยู่ใกล้ผู้พูด | Can you pass me this book? (คุณช่วยส่งหนังสือเล่มนี้ให้ฉันได้ไหม) |
These | ใช้เพื่อระบุบุคคลหรือสิ่งของหลายอย่างที่อยู่ใกล้ผู้พูด | I like these flowers in the garden. (ฉันชอบดอกไม้เหล่านี้ที่อยู่ในสวน) |
That | มักใช้เพื่อระบุบุคคลหรือสิ่งของที่อยู่ไกลจากผู้พูด | What is that building across the street? (อาคารที่อยู่ฝั่งตรงข้ามถนนนั้นคืออาคารอะไร) |
Those | ใช้เพื่อระบุบุคคลหรือสิ่งของหลายอย่างที่อยู่ไกลจากผู้พูด | I don’t like those shoes on the shelf. (ฉันไม่ชอบรองเท้าคู่นั้นที่วางอยู่บนชั้น) |

สรรพนามแสดงคำถาม (Interrogative pronouns)
สรรพนามแสดงคำถาม (Interrogative pronouns) คือคำที่ใช้เพื่อสร้างประโยคคำถามในภาษาอังกฤษ สรรพนามแสดงคำถามที่สำคัญ ได้แก่ who, whom, what, which และ whose ในบางครั้งประโยคคำถามอาจมีสรรพนามแสดงคำถามมากกว่าหนึ่งคำ
สรรพนามแสดงคำถาม (Interrogative pronouns) | การใช้งาน | ตัวอย่าง |
Who | ใช้เพื่อถามเกี่ยวกับคน | Who is that? (นั่นคือใคร?) |
Whom | คล้ายกับ “who” แต่มักปรากฏหลังคำบุพบท | Whom did you meet? (คุณเจอใคร?) |
What | ใช้เพื่อถามเกี่ยวกับคนหรือสิ่งของ | What did you say? (คุณพูดว่าอะไร?) |
Which | ใช้เพื่อถามเกี่ยวกับการเลือกหรือความแตกต่างระหว่างคนหรือสิ่งของ | Which car do you prefer? (คุณชอบรถคันไหน?) |
Whose | ใช้เพื่อถามเกี่ยวกับความเป็นเจ้าของ มักเป็นประธานของคำกริยา | Whose book is this? (หนังสือเล่มนี้เป็นของใคร?) |

>>> Read more: Object pronouns (สรรพนามรูปกรรม) คืออะไร? หลักการใช้และแบบฝึกหัดการใช้งาน
คำสรรพนามที่แสดงการจำแนก (Distributive pronouns)
คำสรรพนามที่แสดงการจำแนก (Distributive pronouns) ในภาษาอังกฤษคือคำที่ใช้เพื่อระบุคนหรือสิ่งของบางอย่างในกลุ่ม คำเหล่านี้ประกอบด้วย all, most, each, both, either และ neither
คำสรรพนามที่แสดงการจำแนก (Distributive pronouns) | การใช้งาน | ตัวอย่าง |
All | ใช้เพื่อแสดงถึงจำนวนทั้งหมดของคนหรือสิ่งของในกลุ่มตั้งแต่สามขึ้นไป | All students should bring their textbooks to class. (นักเรียนทุกคนควรนำหนังสือเรียนมาที่ชั้นเรียน) |
Most | ใช้เพื่อแสดงถึงส่วนใหญ่ของกลุ่มคนหรือสิ่งของ | Most people enjoy spending time with their families. (คนส่วนใหญ่ชอบใช้เวลากับครอบครัว) |
Each | ใช้เพื่อแสดงถึงแต่ละบุคคลหรือหน่วยในจำนวนตั้งแต่สองขึ้นไป | Each student is responsible for completing their own homework. (นักเรียนแต่ละคนต้องรับผิดชอบในการทำการบ้านของตนเอง) |
Both | ใช้เพื่อแสดงถึงทั้งสองคนหรือทั้งสองสิ่ง | Both of my parents are doctors. (พ่อแม่ของฉันทั้งสองคนเป็นหมอ) |
Either | ใช้เมื่อมีสองตัวเลือกและคุณต้องการระบุหนึ่งในนั้น | You can take either the bus or the train to get to the city. (คุณสามารถเลือกได้ว่าจะนั่งรถบัสหรือรถไฟเพื่อไปในเมือง) |
Neither | ใช้เมื่อไม่มีตัวเลือกใดในสองตัวเลือก และคุณต้องการปฏิเสธทั้งสอง | Neither of the restaurants was open late. (ร้านอาหารทั้งสองแห่งไม่ได้เปิดดึก) |

คำสรรพนามไม่เจาะจง (Indefinite pronoun)
คำสรรพนามไม่เจาะจง (Indefinite pronoun) คือคำสรรพนามที่ไม่ได้ระบุถึงบุคคล สิ่งของ หรือจำนวนใด ๆ อย่างเฉพาะเจาะจง คำสรรพนามประเภทนี้มีความหมายที่คลุมเครือและ “ไม่เจาะจง” ว่าหมายถึงอะไร
ตัวอย่าง: Someone ate the last slice of pizza. (มีใครบางคนกินพิซซ่าชิ้นสุดท้ายไป)
→ คำว่า someone เป็นคำสรรพนามไม่เจาะจงในประโยคนี้ คำว่า someone ใช้แทนคน แต่เราไม่ทราบข้อมูลอื่นใดเกี่ยวกับเขา
คำสรรพนามไม่เจาะจงในภาษาอังกฤษ ได้แก่:
Some (บาง) | something, someone, somebody, somewhere(บางสิ่ง ใครบางคน คนใดคนหนึ่ง ที่ใดที่หนึ่ง) |
Any (ใด ๆ อะไรก็ได้) | anything, anyone, anybody, anywhere(อะไรก็ได้ ใครก็ได้ ใครก็ตาม ที่ใดก็ได้) |
Every (ทุก แต่ละ) | everything, everyone, everybody, every where(ทุกสิ่ง ทุกคน ทุกที่) |
None (ไม่มี) | nothing, no one, nobody(ไม่มีอะไร ไม่มีใคร) |

คำสรรพนามซึ่งกันและกัน (Reciprocal pronoun)
เราใช้คำสรรพนามซึ่งกันและกัน (Reciprocal pronoun) เมื่อสองหรือหลายบุคคลมีการกระทำต่อกันในลักษณะเดียวกัน
ตัวอย่าง: A and B are talking to each other. (A และ B กำลังพูดคุยกัน)
คำสรรพนามซึ่งกันและกันในภาษาอังกฤษ ได้แก่ each other และ one another
• Each other (กันและกัน)
John and Mary love each other. (John และ Mary รักกัน)
• One another (ซึ่งกันและกัน)
The ten prisoners were all blaming one another. (นักโทษทั้งสิบคนต่างโทษกันและกัน)
คำสรรพนามเน้นย้ำ (Emphatic pronoun)
คำสรรพนามเน้นย้ำ (Emphatic pronoun) ในภาษาอังกฤษใช้ตามหลังคำนามที่มันอ้างถึง เพื่อเน้นความสำคัญ
คำสรรพนามเน้นย้ำมีรูปแบบเหมือนกับสรรพนามที่อ้างถึงตนเองหรือสรรพนามสะท้อน (Reflexive pronoun)
คำสรรพนาม | คำสรรพนามเน้นย้ำ (Emphatic pronoun) |
IYouHeSheItWeYouThey | Myself (ตัวฉันเอง)Yourself (ตัวคุณเอง)Himself (ตัวเขาเอง)Herself (ตัวเธอเอง)Itself (ตัวมันเอง)Ourself (ตัวพวกเราเอง)Yourself (ตัวพวกคุณเอง)Themself (ตัวพวกเขาเอง)Oneself (ตัวเอง) |
ตัวอย่าง: I myself had to do all the cooking as no one was home. (ฉันต้องทำอาหารด้วยตัวเองทั้งหมดเพราะไม่มีใครอยู่บ้าน)
แม้ว่าสรรพนามที่อ้างถึงตนเองหรือสรรพนามสะท้อน (Reflexive pronoun) และคำสรรพนามเน้นย้ำ (Emphatic pronoun) จะมีรูปแบบเหมือนกัน แต่การใช้งานแตกต่างกัน:
- สรรพนามที่อ้างถึงตนเองหรือสรรพนามสะท้อน อาจทำหน้าที่เป็นกรรมตรง กรรมรอง หรือกรรมของบุพบท เมื่อมันแสดงถึงวัตถุของประธานในประโยคเดียวกัน
ตัวอย่าง: Bev ordered pepperoni pizza for herself and vegetarian pizza for her friends. (เบ้บสั่งพิซซ่าเปปเปอโรนีให้ตัวเองและพิซซ่ามังสวิรัติให้เพื่อนของเธอ)
- คำสรรพนามเน้นย้ำ ไม่ได้ทำหน้าที่เป็นกรรมในประโยค แต่ใช้เพื่อเน้นย้ำคำนามอื่น
ตัวอย่าง: Bev picked up the pizza herself. (เบ้บไปรับพิซซ่าด้วยตัวเอง)

กรณีพิเศษในการใช้ pronoun คืออะไร?
กรณีพิเศษ | รายละเอียด | ตัวอย่าง |
You ในรูปพหูพจน์ | คำสรรพนาม You โดยปกติจะใช้พูดถึงบุคคลที่อยู่ตรงข้ามกับผู้สื่อสาร แต่ในบางกรณีสามารถใช้เพื่อพูดถึงกลุ่มคนได้เช่นกัน | The exercise here is your homework. You’ll need to finish it before Friday. (แบบฝึกหัดนี้คือการบ้านของพวกคุณ พวกคุณต้องทำให้เสร็จก่อนวันศุกร์)There must have been many cases in which you felt exhausted with your work. (อาจมีหลายกรณีที่พวกคุณรู้สึกเหนื่อยล้ากับงานของตัวเอง) |
They ในรูปเอกพจน์ | เมื่อพูดถึงบุคคลที่ไม่ระบุเพศหรือไม่ทราบเพศ คำสรรพนามในภาษาอังกฤษ They จะถูกนำมาใช้ อย่างไรก็ตาม กริยาที่ตามหลัง “they” ในกรณีนี้ยังคงต้องใช้รูปพหูพจน์หรือใช้กริยา to be รูป are | A person may become more prone to obesity if they refuse to do exercise. (บุคคลหนึ่งอาจมีแนวโน้มที่จะเป็นโรคอ้วนได้ง่ายขึ้นหากพวกเขาปฏิเสธที่จะออกกำลังกาย) → “A person” หมายถึงบุคคลใดๆ ที่ไม่ระบุเพศหรือไม่ชัดเจนในเรื่องเพศ ดังนั้นจึงใช้อ้างถึงด้วยคำสรรพนาม “they”)We can tell someone’s personality based on the type of music they listen to. (เราสามารถบอกลักษณะนิสัยของใครบางคนได้จากประเภทของเพลงที่พวกเขาฟัง)–> “Someone” หมายถึงบุคคลใดๆ ที่ไม่ระบุเพศหรือไม่ชัดเจนในเรื่องเพศ ดังนั้นจึงใช้อ้างถึงด้วยคำสรรพนาม “they”) |
สรรพนามประธานหลังคำว่า “be” ใน cleft sentences | ในโครงสร้าง cleft sentence ส่วนประกอบของประโยคที่ต้องการเน้นจะถูกยกขึ้นมาต้นประโยคหลังจาก “it + be” โดยในกรณีที่คำสรรพนามเป็นส่วนที่เน้น จะต้องใช้ในรูปประธานแทนที่จะเป็นกรรม | It was she who passed the exam with the highest score. (เธอคือคนที่สอบผ่านด้วยคะแนนสูงสุด)It is he who wins the lottery. (เขาคือคนที่ถูกลอตเตอรี่) |
สรรพนามแทนยานพาหนะ (vehicles) และประเทศ (countries) | ในภาษาอังกฤษ ยานพาหนะ โดยเฉพาะเรือ และประเทศมักถูกใช้ด้วยคำสรรพนามเพศหญิง (she/her/hers) ในบุคคลที่สาม (อย่างไรก็ตาม ในภาษาไทยคำเหล่านี้จะไม่ถูกแปลเป็น “มัน”) | Mary Rose was a famous warship in the 15th century. People still don’t know why she sank. (Mary Rose เป็นเรือรบที่มีชื่อเสียงในศตวรรษที่ 15 แต่คนยังไม่รู้ว่าทำไมมันจม)The Titanic sank in the early 20th century, but her body was found much later than that. (Titanic จมในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 แต่ร่างของมันถูกค้นพบในภายหลัง) |
สรรพนามแทนองค์กร (บริษัท องค์การ รัฐบาล…) | เมื่อพูดถึงองค์กรในบุคคลที่สาม คำสรรพนามที่ใช้จะเป็น it แม้ว่าภายในองค์กรจะมีคนทำงานหลายคนก็ตาม ในภาษาไทย คำว่า it ในกรณีนี้มักแปลเป็น “พวกเขา” แทนที่จะเป็น “มัน” | Coca-Cola has just released its annual report. (Coca-Cola เพิ่งเผยแพร่รายงานประจำปีของพวกเขา)The government promised a lot of changes in the area. However, it has failed the people. (รัฐบาลสัญญาว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงมากมายในพื้นที่ แต่พวกเขาทำให้ประชาชนผิดหวัง) |
ห้ามใส่เครื่องหมาย (‘) ในสรรพนามแสดงความเป็นเจ้าของ | ห้ามใส่เครื่องหมาย (‘) ในคำสรรพนามแสดงความเป็นเจ้าของ เนื่องจากคำสรรพนามเหล่านี้มีความหมายว่า “ของ” อยู่แล้ว และไม่จำเป็นต้องใส่เครื่องหมาย (‘s) เครื่องหมายดังกล่าวใช้สำหรับคำนามแสดงความเป็นเจ้าของเท่านั้น | The black dress is hers. (ชุดสีดำเป็นของเธอ)หมายเหตุ: ห้ามใช้: The black dress is Her’s |
กริยาหลังสรรพนามขึ้นอยู่กับคำนามที่แทน | เมื่อใช้คำสรรพนามในประโยค กริยาที่ตามหลังคำสรรพนามต้องสอดคล้องกับคำนามที่คำสรรพนามนั้นแทน โดยต้องปฏิบัติตามกฎของเอกพจน์และพหูพจน์อย่างชัดเจน กล่าวคือ หากคำสรรพนามแทนคำนามเอกพจน์ กริยาต้องใช้ในรูปเอกพจน์ แต่ถ้าคำสรรพนามแทนคำนามพหูพจน์ กริยาต้องใช้ในรูปพหูพจน์ | Those cars are nice. They look expensive. (รถเหล่านั้นดูดีมาก พวกมันคงดูมีราคาสูง)→ คำสรรพนามหรือประธานในที่นี้คือ “Those cars” ซึ่งเป็นคำนามพหูพจน์ ดังนั้นกริยา to be จะต้องอยู่ในรูปพหูพจน์คือ are |
สรรพนามบางคำมักใช้ในรูปเอกพจน์เสมอ ดังนั้นกริยาจะต้องผันเป็นเอกพจน์ด้วย | คำเหล่านี้ ได้แก่ He, she, everybody, anyone, somebody, each, neither, everyone, nobody, either เป็นต้น | Everybody is tired after the exam. (ทุกคนเหนื่อยหลังจากการสอบเสร็จ)She is reading a book. (เธอกำลังอ่านหนังสือ) |

แบบฝึกหัดเกี่ยวกับคำสรรพนามในภาษาอังกฤษ
แบบฝึกหัด
แบบฝึกหัดที่ 1: แทนคำที่ขีดเส้นใต้ด้วยคำสรรพนามแสดงความเป็นเจ้าของที่เหมาะสม:
1. Marianne liked my cookies more than your cookies.
2. Sherlock, is that your car?
3. Did you find the cat’s bell?
4. That is not their car. This black one is their car.
5. Whose bike is this? Is it his bike?

แบบฝึกหัดที่ 2: อ่านเรื่องราวและเติมคำในช่องว่างด้วยคำสรรพนามที่เหมาะสม
Last year we went to Antalya to visit 1) ……………… grandparents. 2) ……………… were very glad to see 3) ……………… 4) ……………… was a very good holiday for 5) ………………. We went swimming with 6) ……………… brother. 7) ……………… swims well. 8) ……………… had picnics all together. The picnics were very funny. My grandmother made sandwiches for 9) ………………. 10) ……………… makes really delicious sandwiches. I love all 11) ……………… meals.
12) ……………… father and mother went to discos at night. 13) ……………… like dancing and at the weekend 14) ……………… go to a dance club. While 15) ……………… parents were out, 16) ……………… grandfather told us funny stories. 17) ……………… laughed all night. 18) ……………… grandmother made pop-corn for 19) ……………….
แบบฝึกหัดที่ 3: เติมคำถามต่อไปนี้ให้สมบูรณ์ด้วยคำสรรพนามคำถามที่เหมาะสม
1. …………… is your name?
2. …………… are you going to the party with?
3. …………… is the capital of France?
4. …………… did you buy that beautiful dress?
5. …………… is knocking on the door?
6. …………… time does the train leave?
7. …………… was the movie last night?
8. …………… can I find the nearest gas station?
9. …………… are my keys?
10. …………… are you so late?

เฉลย
แบบฝึกหัดที่ 1: แทนคำที่ขีดเส้นใต้ด้วยคำสรรพนามแสดงความเป็นเจ้าของที่เหมาะสม
1. yours
2. yours
3. its
4. theirs
5. his
แบบฝึกหัดที่ 2: อ่านเรื่องราวและเติมคำในช่องว่างด้วยคำสรรพนามที่เหมาะสม
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
our | They | us | It | Us | our | He | We | us | She |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | |
her | Our | They | they | our | our | We | Our | us |
แบบฝึกหัดที่ 3: เติมคำถามต่อไปนี้ให้สมบูรณ์ด้วยคำสรรพนามคำถามที่เหมาะสม
What | Who | What | Where | Who |
What | How | Where | Where | Why |
ทั้งหมดนี้คือเนื้อหาเกี่ยวกับคำสรรพนาม (Pronoun) และ pronoun คําศัพท์ในภาษาอังกฤษ หวังว่าความรู้นี้จะช่วยให้คุณมั่นใจมากขึ้นในการสื่อสารภาษาอังกฤษ นอกจากนี้ อย่าลืมเข้าไปใช้งาน ELSA Speak บ่อย ๆ เพื่ออัปเดตความรู้ภาษาอังกฤษใหม่ ๆ ทุกวันกันนะ!