Author: Ngoc Ngo
เสียงเพลงเป็นส่วนหนึ่งที่ขาดไม่ได้ในชีวิตประจำวันของพวกเรา ด้วยเหตุนี้เพลงอังกฤษที่ดีและความหมายดีจึงไม่เพียงแต่มีท่วงทำนองที่ไพเราะ แต่ยังแฝงไปด้วยข้อความลึกซึ้งเกี่ยวกับความรัก ชีวิต มิตรภาพ และคุณค่าทางจิตใจต่างๆ บทความนี้ ELSA Speak จะมาแนะนำรายการเพลงภาษาอังกฤษเพราะๆ ความหมายดี ที่จะช่วยให้คุณได้ทั้งผ่อนคลายและพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษไปพร้อมกัน
แนะนำเพลงภาษาอังกฤษที่ดีที่สุดและมีความหมายที่สุด
เพลงอังกฤษความหมายดีๆมักจะถ่ายทอดสาระสำคัญต่างๆ ตั้งแต่ความรักอันแสนโรแมนติกไปจนถึงแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตอย่างเข้มแข็ง ด้านล่างนี้คือรายการเพลงตามหมวดหมู่เพื่อให้คุณเลือกฟังได้ง่ายขึ้น
เพลงอังกฤษความหมายดีๆ เกี่ยวกับความรัก
นี่คือรายการเพลงอังกฤษความหมายดีๆ ความรักพร้อมเนื้อเพลงที่โดดเด่นและแฝงความหมายลึกซึ้ง ท่วงทำนองเหล่านี้ไม่เพียงแต่ไพเราะ แต่ยังสะท้อนถึงความรัก การเสียสละ และคำมั่นสัญญาอันยืนยาว
Perfect – Ed Sheeran
Perfect เป็นหนึ่งในเพลงรักที่โดดเด่นของ Ed Sheeran จากอัลบั้ม Divide ที่ปล่อยออกมาในปี 2017 ด้วยท่วงทำนองอ่อนโยนและเนื้อร้องสุดโรแมนติก เพลงนี้สามารถเข้าถึงหัวใจของผู้คนนับล้าน และกลายเป็นหนึ่งในตัวเลือกยอดนิยมสำหรับงานแต่งงาน
ท่อนหนึ่งจากเพลง:
Baby, I’m dancin’ in the dark with you between my arms
Barefoot on the grass while listenin’ to our favourite song
When you said you looked a mess, I whispered underneath my breath
But you heard it, “Darling, you look perfect tonight…

A Thousand Years – Christina Perri
A Thousand Years เป็นเพลงสุดโด่งดังของ Christina Perri ที่ปล่อยออกมาในปี 2011 และเป็นหนึ่งในเพลงประกอบภาพยนตร์ The Twilight Saga: Breaking Dawn – Part 1 ด้วยเนื้อเพลงที่เต็มไปด้วยอารมณ์และท่วงทำนองอ่อนหวาน เพลงนี้ถ่ายทอดความรู้สึกของการรอคอย ความรักอันเป็นนิรันดร์ ความรักที่ไร้กาลเวลา คอยเฝ้ารอและรักโดยไม่มีเงื่อนไข
ท่อนหนึ่งจากเพลง:
Heart beats fast
Colors and promises
How to be brave?
How can I love when I’m afraid to fall?
But watching you stand alone
All of my doubt suddenly goes away somehow…

All of Me – John Legend
All of Me เป็นเพลงรักสุดโรแมนติกที่ John Legend แต่งขึ้นเพื่อภรรยาของเขา Chrissy Teigen เปิดตัวในปี 2013 และกลายเป็นหนึ่งในเพลงรักคลาสสิกตลอดกาล ด้วยเนื้อหาแสดงถึงความรักที่มอบให้กันอย่างหมดหัวใจ โดยไม่สนใจข้อบกพร่องใดๆ
ท่อนหนึ่งจากเพลง:
Cause all of me
Loves all of you
Love your curves and all your edges
All your perfect imperfections
Give your all to me
I’ll give my all to you
You’re my end and my beginning
Even when I lose, I’m winning
‘Cause I give you all of me
And you give me all of you, oh-oh…
Thinking Out Loud – Ed Sheeran
Thinking Out Loud เป็นหนึ่งในเพลงที่โดดเด่นจากอัลบั้ม x (Multiply) ของ Ed Sheeran ที่เปิดตัวในปี 2014 ด้วยเสียงร้องอบอุ่นและเนื้อเพลงที่ลึกซึ้งกินใจ เพลงนี้จึงกลายเป็นเพลงรักยอดนิยมระดับโลก และยังคว้ารางวัล Grammy สาขา Song of the Year อีกด้วย
ท่อนหนึ่งจากเพลง:
And darling I will be loving you ’til we’re 70
And baby my heart could still fall as hard at 23
And I’m thinking ’bout how people fall in love in mysterious ways
Maybe just the touch of a hand
Oh me I fall in love with you every single day
And I just wanna tell you I am…

Just the Way You Are – Bruno Mars
Just the Way You Are เป็นเพลงเปิดตัวที่สร้างชื่อเสียงให้กับ Bruno Mars ในปี 2010 เพลงนี้มีเนื้อหายกย่องความสวยงามตามธรรมชาติของแต่ละคน โดยส่งสารว่าคุณสมบูรณ์แบบในแบบของตัวเอง
ท่อนหนึ่งจากเพลง:
Oh, her eyes, her eyes
Make the stars look like they’re not shinin’
Her hair, her hair
Falls perfectly without her tryin’
She’s so beautiful and I tell her everyday
Yeah, I know, I know
When I compliment her, she won’t believe me
And it’s so, it’s so
Sad to think that she don’t see what I see
But every time she asks me, “Do I look okay?”
I say…

I Will Always Love You – Whitney Houston
I Will Always Love You เป็นเพลงอมตะที่ขับร้องโดย Whitney Houston เปิดตัวในปี 1992 และถูกใช้เป็นเพลงประกอบภาพยนตร์ The Bodyguard เพลงนี้สะท้อนถึงความรักที่ไม่มีวันจางหาย แม้ว่าเส้นทางของทั้งสองจะไม่ได้เดินร่วมกันอีกต่อไป
ท่อนหนึ่งจากเพลง:
If I should stay
I would only be in your way
So I’ll go, but I know
I’ll think of you every step of the way
And I will always love you
I will always love you
You
My darling, you, mm-mm…

Can’t Help Falling in Love – Elvis Presley
Can’t Help Falling in Love เป็นหนึ่งในเพลงรักคลาสสิกของ Elvis Presley ที่เปิดตัวในปี 1961 ในอัลบั้ม Blue Hawaii ด้วยท่วงทำนองอ่อนหวานและความหมายลึกซึ้ง เพลงนี้ได้กลายเป็นตัวแทนของความรักโรแมนติกที่ตราตรึงหัวใจ
ท่อนหนึ่งจากเพลง:
Wise men say
Only fools rush in
But I can’t help falling in love with you
Shall I stay?
Would it be a sin
If I can’t help falling in love with you?
Like a river flows
Surely to the sea
Darling, so it goes
Some things are meant to be…

Make You Feel My Love – Adele
Make You Feel My Love เป็นเพลงคัฟเวอร์ที่เต็มไปด้วยอารมณ์ของ Adele เปิดตัวในอัลบั้มแรก 19 (2008) แม้ว่าเพลงต้นฉบับจะเป็นของ Bob Dylan แต่เสียงร้องอันทรงพลังและความรู้สึกที่เธอถ่ายทอดออกมา ได้ทำให้เพลงนี้มีเสน่ห์และเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ยากจะลืม
ท่อนหนึ่งจากเพลง:
When the rain is blowing in your face
And the whole world is on your case
I could offer you a warm embrace
To make you feel my love
When the evening shadows and the stars appear
And there is no one there to dry your tears
I could hold you for a million years
To make you feel my love…

เพลงอังกฤษความหมายดีๆ ให้กําลังใจ
นี่คือรายการเพลงภาษาอังกฤษที่เต็มไปด้วยพลังบวก ถ่ายทอดข้อความแห่งแรงบันดาลใจ ความเข้มแข็ง และความเชื่อมั่นในตัวเอง
Fight Song – Rachel Platten
Fight Song เป็นเพลงที่สะท้อนถึงความแข็งแกร่งภายในจิตใจ ความกล้าหาญ และพลังที่จะก้าวข้ามอุปสรรค เพลงนี้กลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้คนทั่วโลก โดยเฉพาะผู้ที่กำลังเผชิญกับความท้าทายในชีวิต
ท่อนหนึ่งจากเพลง:
Like a small boat on the ocean
Sending big waves into motion
Like how a single word
Can make a heart open
I might only have one match
But I can make an explosion…

>>> Read more: รวม Podcast ฝึกภาษาอังกฤษ 20 ช่องที่ฟังง่ายและมีประสิทธิภาพ
Roar – Katy Perry
Roar เป็นเพลงที่กล่าวถึงการค้นพบพลังที่แท้จริงของตัวเอง การลุกขึ้นยืนหยัดหลังจากล้มลง และการกล้าที่จะเป็นตัวของตัวเอง ด้วยเนื้อหาที่กระตุ้นให้เกิดความมั่นใจและความกล้าหาญ
ท่อนหนึ่งจากเพลง:
I used to bite my tongue and hold my breath
Scared to rock the boat and make a mess
So I sat quietly, agreed politely
I guess that I forgot I had a choice
I let you push me past the breaking point
I stood for nothing, so I fell for everything…

Hall of Fame – The Script ft. will.i.am
Hall of Fame เป็นเพลงที่ส่งสารให้ทุกคนกล้าที่จะไล่ตามความฝันของตัวเอง และพยายามอย่างเต็มที่เพื่อไปให้ถึงเป้าหมาย ด้วยเนื้อหาที่เปี่ยมไปด้วยแรงบันดาลใจ เพลงนี้เป็นเหมือนเชื้อไฟที่ช่วยผลักดันให้เราไม่ยอมแพ้
ท่อนหนึ่งจากเพลง:
Yeah, you could be the greatest
You can be the best
You can be the King Kong banging on his chest
You could beat the world
You could beat the war
You could talk to God, go banging on his door…

Stronger (What Doesn’t Kill You) – Kelly Clarkson
Stronger (What Doesn’t Kill You) ถ่ายทอดข้อความที่ทรงพลังเกี่ยวกับการเติบโตจากความเจ็บปวดและความยากลำบาก เพลงนี้เป็นกำลังใจให้เราก้าวผ่านอุปสรรคและลุกขึ้นมาอย่างแข็งแกร่งกว่าเดิม
ท่อนหนึ่งจากเพลง:
You know the bed feels warmer
Sleeping here alone
You know I dream in color
And do the things I want
You think you got the best of me
Think you’ve had the last laugh
Bet you think that everything good is gone…

The Climb – Miley Cyrus
The Climb เป็นเพลงที่พูดถึงการเดินทางของชีวิต การเผชิญกับอุปสรรค และความหมายของการพยายาม เพลงนี้สื่อให้เห็นว่าสิ่งสำคัญไม่ใช่แค่จุดหมายปลายทาง แต่เป็นบทเรียนและประสบการณ์ที่เราได้รับระหว่างทาง
ท่อนหนึ่งจากเพลง:
I can almost see it
That dream that I’m dreaming
But there’s a voice inside my head saying
You’ll never reach it
Every step I’m taking
Every move I make feels
Lost with no direction
My faith is shaking…

>>> Read more:
Believer – Imagine Dragons
Believer เป็นเพลงที่เต็มไปด้วยพลัง ถ่ายทอดแนวคิดเกี่ยวกับการเปลี่ยนความเจ็บปวดและความลำบากให้กลายเป็นแรงผลักดัน เพลงนี้มีพลังที่กระตุ้นให้เราลุกขึ้นสู้และไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตา
ท่อนหนึ่งจากเพลง:
First things first
I’ma say all the words inside my head
I’m fired up and tired of the way that things have been, oh-ooh
The way that things have been, oh-ooh
Second things second
Don’t you tell me what you think that I could be
I’m the one at the sail, I’m the master of my sea, oh-ooh
The master of my sea, oh-ooh…

It’s My Life – Bon Jovi
It’s My Life เป็นเพลงที่ส่งเสริมการใช้ชีวิตในแบบของตัวเอง การกล้าที่จะทำตามความฝัน และไม่เสียใจในสิ่งที่เลือก เพลงนี้ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของอิสรภาพและความเป็นตัวของตัวเอง
ท่อนหนึ่งจากเพลง:
This ain’t a song for the broken-hearted
No silent prayers for faith-departed
I ain’t gonna be just a face in the crowd
You’re gonna hear my voice
When I shout it out loud…

We Are The Champions – Queen
We Are The Champions เป็นเพลงแห่งชัยชนะ ความสามัคคี และจิตวิญญาณที่ไม่ยอมแพ้ เพลงนี้มักถูกใช้ในงานกีฬาและเป็นหนึ่งในเพลงที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คนมากที่สุดตลอดกาล
ท่อนหนึ่งจากเพลง:
I’ve paid my dues
Time after time
I’ve done my sentence
But committed no crime
And bad mistakes
I’ve made a few
I’ve had my share of sand
Kicked in my face
But I’ve come through…

เพลงภาษาอังกฤษความหมายดีเกี่ยวกับเพื่อน
เพลงเกี่ยวกับมิตรภาพที่คัดสรรมานี้จะพาคุณสัมผัสถึงความอบอุ่นของการแบ่งปัน ความจริงใจ และพลังแห่งความสามัคคี ทุกบทเพลงล้วนถ่ายทอดเรื่องราวที่เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจ และช่วยให้เราก้าวผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากไปด้วยกัน
Count on Me – Bruno Mars
Count on Me เป็นเพลงที่อบอุ่นและเต็มไปด้วยความหมายเกี่ยวกับมิตรภาพและความไว้วางใจต่อกัน ถ่ายทอดความรู้สึกของการอยู่เคียงข้างกันเสมอ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
ท่อนหนึ่งจากเพลง:
If you ever find yourself stuck in the middle of the sea
I’ll sail the world to find you
If you ever find yourself lost in the dark and you can’t see
I’ll be the light to guide you…

See You Again – Wiz Khalifa ft. Charlie Puth
See You Again เป็นเพลงที่ซึ้งกินใจ ถูกแต่งขึ้นเพื่อระลึกถึง Paul Walker นักแสดงชื่อดังที่จากไปอย่างกะทันหัน เพลงนี้พูดถึงความคิดถึง ความสูญเสีย และความหวังว่าจะได้พบกันอีกครั้ง
ท่อนหนึ่งจากเพลง:
It’s been a long day without you my friend
And I’ll tell you all about it when I see you again
We’ve come a long way from where we began
Oh I’ll tell you all about it when I see you again
When I see you again…

Heal the World – Michael Jackson
Heal the World เป็นเพลงที่ส่งสารถึงความรัก สันติภาพ และการช่วยเหลือเด็ก ๆ ทั่วโลก ด้วยเนื้อหาที่ลึกซึ้ง เพลงนี้สะท้อนความหวังในการสร้างโลกที่ดีขึ้นสำหรับทุกคน
ท่อนหนึ่งจากเพลง:
There’s a place in your heart
And I know that it is love
And this place could be much
Brighter than tomorrow
And if you really try
You’ll find there’s no need to cry
In this place you’ll feel
There’s no hurt or sorrow…

You’ve Got a Friend – James Taylor
You’ve Got a Friend เป็นเพลงคลาสสิกที่ถูกขับร้องโดยศิลปินหลายคน แต่เวอร์ชันของ James Taylor เป็นที่รู้จักมากที่สุด เพลงนี้แสดงถึงความหมายของการมีเพื่อนที่พร้อมอยู่เคียงข้างในทุกช่วงเวลา
ท่อนหนึ่งจากเพลง:
When you’re down and troubled
And you need a helping hand
And nothing, no, nothing is going right
Close your eyes and think of me
And soon I will be there
To brighten up even your darkest night…

I’ll Be There for You – The Rembrandts
I’ll Be There for You เป็นเพลงธีมจากซีรีส์ยอดนิยม Friends ถ่ายทอดเรื่องราวของมิตรภาพที่แน่นแฟ้น และการคอยช่วยเหลือกันไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
ท่อนหนึ่งจากเพลง:
So no one told you life was gonna be this way
Your job’s a joke, you’re broke
Your love life’s D.O.A.
It’s like you’re always stuck in second gear
When it hasn’t been your day, your week, your month…

Stand by Me – Ben E. King
Stand by Me เป็นเพลงอมตะที่พูดถึงการอยู่เคียงข้างกันในทุกสถานการณ์ เพลงนี้สะท้อนถึงพลังของมิตรภาพที่แท้จริง ที่ช่วยให้เรามั่นคงและก้าวผ่านอุปสรรคในชีวิต
ท่อนหนึ่งจากเพลง:
When the night has come
And the land is dark
And the moon is the only light we’ll see
No I won’t be afraid, no I won’t be afraid
Just as long as you stand, stand by me…

Lean on Me – Bill Withers
“Lean on Me” เป็นเพลงเกี่ยวกับความเห็นอกเห็นใจ การแบ่งปัน และความเต็มใจที่จะช่วยเหลือผู้ที่เดือดร้อน เพลงนี้สื่อถึงความเป็นมนุษย์และความสามัคคี
ท่อนหนึ่งจากเพลง:
Sometimes in our lives
We all have pain
We all have sorrow
But if we are wise
We know that there’s always tomorrow…

That’s What Friends Are For – Dionne Warwick & Friends
That’s What Friends Are For เป็นเพลงเกี่ยวกับมิตรภาพและการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เพลงนี้เน้นย้ำถึงความสำคัญของมิตรภาพในชีวิตและความเต็มใจที่จะแบ่งปันและช่วยเหลือเพื่อนในยามทุกข์ยาก
ท่อนหนึ่งจากเพลง:
And I never thought I’d feel this way
And as far as I’m concerned
I’m glad I got the chance to say
That I do believe I love you
And if I should ever go away
Well then close your eyes and try
To feel the way we do today
And then if you can remember
Keep smilin’, keep shinin’
Knowin’ you can always count on me, for sure
That’s what friends are for…

เกณฑ์ในการเลือกเพลงสากล ความ หมาย ดีๆ อบอุ่น
การเลือกเพลงที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้คุณได้รับประสบการณ์การฟังเพลงที่ทั้งสนุกและเป็นประโยชน์ นี่คือหลักเกณฑ์ที่ควรพิจารณา:
เนื้อหาสื่อถึงข้อความเชิงบวกหรืออารมณ์ที่ลึกซึ้ง
เพลงเหล่านี้มักถ่ายทอดเรื่องราว ข้อความ หรืออารมณ์ที่ง่ายต่อการเข้าถึง ซึ่งไม่เพียงช่วยพัฒนาภาษาอังกฤษ แต่ยังทำให้ผู้ฟังสัมผัสถึงคุณค่าที่ซ่อนอยู่ในเพลง

เหมาะสำหรับการเรียนภาษาอังกฤษ
เพลงที่มีคำศัพท์เข้าใจง่ายและโครงสร้างประโยคที่ไม่ซับซ้อนจะช่วยให้ผู้เรียนจับใจความได้เร็วขึ้น อีกทั้งจังหวะเพลงที่ชัดเจนและไม่เร็วเกินไปจะช่วยพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทำนองติดหูและจำง่าย
เพลงที่มีทำนองติดหู ฟังเพลิน และจำได้ง่าย จะทำให้คุณสามารถฟังซ้ำได้โดยไม่รู้สึกเบื่อ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยเพิ่มความสามารถในการจดจำคำศัพท์และพัฒนาการออกเสียงได้ดีขึ้น

วิธีใช้เพลงภาษาอังกฤษเพื่อเรียนคำศัพท์อย่างมีประสิทธิภาพ
การฟังเพลงไม่ได้เป็นเพียงความบันเทิงเท่านั้น แต่ยังสามารถกลายเป็นเครื่องมือการเรียนรู้ที่ทรงพลังได้อีกด้วย ลองใช้วิธีต่อไปนี้เพื่อดึงประโยชน์สูงสุดจากเพลงภาษาอังกฤษ
ศึกษาคำร้องเพลง
- ค้นหาความหมายของคำศัพท์: หากพบคำศัพท์ใหม่หรือประโยคที่ไม่เข้าใจ ลองค้นหาความหมายอย่างละเอียดเพื่อทำความเข้าใจเนื้อหาของเพลง
- วิเคราะห์เนื้อหา: ตั้งคำถามกับตัวเองว่าเพลงกำลังบอกอะไร? ข้อความที่สื่อมีความหมายอย่างไร? วิธีนี้ไม่เพียงช่วยให้คุณเรียนรู้คำศัพท์ แต่ยังเข้าใจวัฒนธรรมที่เกี่ยวข้องได้ด้วย

ฝึกภาษาอังกฤษด้วยตัวเอง ฟังและร้องตาม
- ฝึกฟังแบบธรรมชาติ: ฟังเพลงซ้ำ ๆ เพื่อคุ้นเคยกับการออกเสียงและสำเนียง
- ฝึกร้องตาม: การร้องตามเพลงช่วยพัฒนาการออกเสียงและเพิ่มความมั่นใจในการใช้ภาษาอังกฤษ
สร้างเพลย์ลิสต์ส่วนตัว
- จัดหมวดหมู่ตามหัวข้อ: เลือกเพลงที่เหมาะกับอารมณ์ ความสนใจ หรือเป้าหมายในการเรียนรู้ของคุณ
- ฟังเป็นประจำ: ทำให้การฟังเพลงเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของคุณ เพื่อให้สามารถซึมซับภาษาอังกฤษได้อย่างเป็นธรรมชาติ

เพลงอังกฤษความหมายดีๆ ไม่ได้ช่วยแค่พัฒนาทักษะทางภาษา แต่ยังส่งต่อข้อความที่มีคุณค่าเกี่ยวกับชีวิต ความรัก และแรงบันดาลใจ หวังว่าเพลงที่ ELSA Speak แนะนำ จะช่วยให้คุณสนุกกับการเรียนรู้ภาษาอังกฤษและพัฒนาทักษะของตัวเองได้ดียิ่งขึ้น มาเริ่มต้นกับรายการโปรดของคุณ แล้วสัมผัสการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นตั้งแต่วันนี้เลย!

วันแรงงานคืออะไรในภาษาอังกฤษ? นี่คือคำถามที่หลายคนสงสัยเมื่อศึกษาวันสำคัญนี้ บทความต่อไป นี้ที่ ELSA Speak นำมาแบ่งปัน จะช่วยให้คุณเข้าใจชัดเจนว่าวันที่ 1 พฤษภาคมของทุกปีเป็นวันอะไร ความหมายทางประวัติศาสตร์ของวันที่ 1 พฤษภาคมและคำศัพท์ภาษาอังกฤษน่าสนใจเกี่ยวกับวันแรงงานนี้ มาค้นหาคำตอบไปกับ ELSA Speak เลย!
Labor day คือวันอะไร?
วันแรงงาน ภาษาอังกฤษคืออะไร?
วันแรงงาน ภาษาอังกฤษเรียกว่า International Workers’ Day, Labor Day หรือ Workers’ Day เป็นวันสำคัญที่จัดขึ้นเพื่อยกย่องการมีส่วนร่วมของคนทำงานและขบวนการแรงงานทั่วโลก โดยถือเป็นโอกาสในการรำลึกถึงสิทธิประโยชน์ที่คนทำงานได้มาซึ่งผ่านการต่อสู้และปฏิรูปตลอดประวัติศาสตร์
วันแรงงานเป็นโอกาสที่จะได้พักผ่อนและผ่อนคลายหลังจากช่วงเวลาของการทุ่มเททำงานของเหล่าคนทำงาน นอกจากนี้ยังเป็นวันที่เตือนใจให้โลกตระหนักถึงบทบาทสำคัญของแรงงานในการขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม

ต้นกำเนิดและประวัติศาสตร์ของวันแรงงาน
วันแรงงานมีต้นกำเนิดมาจากขบวนกรรมกรในศตวรรษที่ 19 เมื่อระบบทุนนิยมเติบโตอย่างรวดเร็ว นำไปสู่การเอารัดเอาเปรียบคนงาน ข้อเรียกร้องให้ลดชั่วโมงทำงานเหลือ 8 ชั่วโมงต่อวันได้กลายเป็นเป้าหมายสำคัญ ที่ได้รับการสนับสนุนจากคาร์ล มาร์กซ์ และองค์กรแรงงานสากลที่ 1 เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 1886 คนงานอเมริกันหลายแสนคนได้นัดหยุดงาน แสดงจิตวิญญาณการต่อสู้อย่างเข้มแข็ง แม้จะถูกปราบปรามอย่างรุนแรง
ในปี ค.ศ. 1889 องค์กรแรงงานสากลที่ 2 ได้กำหนดให้วันที่ 1 พฤษภาคมเป็นวันแรงงานสากล เพื่อแสดงความสามัคคีของชนชั้นกรรมาชีพทั่วโลก เป็นครั้งแรกที่วันนี้ถูกจัดขึ้นพร้อมกันทั่วโลกในปี 1890 พร้อมคำขวัญ ‘วันทำงาน 8 ชั่วโมง’ ต่อมาในปี 1920 สหภาพโซเวียตได้ประกาศรับรองวันนี้เป็นวันหยุดราชการอย่างเป็นทางการ เปิดทางให้หลายประเทศปฏิบัติตาม

วันแรงงานสากลที่ประเทศไทย
ในประเทศไทย วันแรงงานสากลได้รับการรับรองในวันที่ 1 พฤษภาคม ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2499 เพื่อตระหนักถึงบทบาทและสิทธิประโยชน์ของแรงงาน ในระยะแรก วันนี้ถูกจัดขึ้นเพื่อพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างลูกจ้างและนายจ้าง
แม้จะมีช่วงเวลาหยุดชะงักเนื่องจากความไม่มั่นคงทางการเมือง แต่ในปี พ.ศ. 2517 การเฉลิมฉลองอย่างเป็นทางการก็ได้จัดขึ้นที่สวนลุมพินีพร้อมกิจกรรมมากมาย อย่างไรก็ตาม วันนี้ถือเป็นวันหยุดเฉพาะสำหรับองค์กรรัฐวิสาหกิจและเอกชนเท่านั้น ส่วนหน่วยงานราชการยังคงเปิดทำการตามปกติ

คำศัพท์ภาษาอังกฤษที่ดีเกี่ยวกับ วันแรงงาน – Labor Day
วันแรงงาน หรือที่เรียกในภาษาอังกฤษว่า Labor Day นั้น ไม่เพียงแต่เป็นโอกาสที่จะยกย่องผู้ใช้แรงงานเท่านั้น แต่ยังเป็นช่วงเวลาเหมาะที่จะเรียนรู้และทำความเข้าใจคำศัพท์ภาษาอังกฤษที่เกี่ยวข้องกับวันสำคัญนี้ด้วย ต่อไปนี้คือคำศัพท์ที่ใช้บ่อย:

คำศัพท์เกี่ยวกับอาชีพและคนงาน
เมื่อพูดถึงวันแรงงาน ก็ไม่อาจละเลยคำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับอาชีพและกำลังแรงงาน – ผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาสังคม ด้านล่างนี้คือรายการคำศัพท์ภาษาอังกฤษที่เป็นประโยชน์และใช้บ่อย ช่วยให้คุณขยายคลังคำศัพท์และเข้าใจจิตวิญญาณของวันสำคัญนี้ได้ดียิ่งขึ้น
คำศัพท์ | การออกเสียง | ประเภทคำ | ความหมาย |
Worker | /ˈwɜːrkər/ | คำนาม | คนงาน |
Employee | /ɪmˈplɔɪiː/ | คำนาม | ลูกจ้าง, พนักงาน |
Laborer | /ˈleɪbərər/ | คำนาม | ผู้ใช้แรงงาน กรรมกร |
Blue-collar worker | /bluː ˈkɑːlər ˈwɜːrkər/ | คำนาม | คนที่ทำงานนอกอาคาร |
White-collar worker | /waɪt ˈkɑːlər ˈwɜːrkər/ | คำนาม | คนที่ทำงานในสำนักงาน |
Tradesperson | /ˈtreɪdzˌpɜːrsn/ | คำนาม | คนที่มีอาชีพที่ต้องใช้ฝีมือ |
Union member | /ˈjuːniən ˈmembər/ | คำนาม | สมาชิกสหภาพฯ |
Employer | /ɪmˈplɔɪər/ | คำนาม | นายจ้าง |
Job seeker | /dʒɒb ˈsiːkər/ | คำนาม | ผู้หางาน |
Manual worker | /ˈmænjuəl ˈwɜːrkər/ | คำนาม | คนทำงานที่ใช้แรง |
Skilled worker | /skɪld ˈwɜːrkər/ | คำนาม | คนทำงานฝีมือ |
Apprentice | /əˈprentɪs/ | คำนาม | ผู้ฝึกงาน, เด็กฝึกงาน |
Foreman | /ˈfɔːrmən/ | คำนาม | หัวหน้าคนงาน, หัวหน้าคณะลูกขุน |
Technician | /tekˈnɪʃən/ | คำนาม | นายช่าง เจ้าหน้าที่เทคนิค |
Factory worker | /ˈfæktri ˈwɜːrkər/ | คำนาม | คนงานที่โรงงาน |
Day laborer | /deɪ ˈleɪbərər/ | คำนาม | ลูกจ้างรายวัน |
Freelancer | /ˈfriːˌlænsər/ | คำนาม | ฟรีแลนเซอร์ ผู้ที่มีอาชีพรับจ้างอิสระ |
Staff | /stæf/ | คำนาม | คณะผู้ทำงาน คนงาน |

คำศัพท์เกี่ยวกับวันหยุดและเหตุการณ์สำคัญ
วันแรงงานไม่เพียงเป็นโอกาสที่จะเชิดชูผู้ใช้แรงงานเท่านั้น แต่ยังเชื่อมโยงกับแนวคิด เหตุการณ์ และขบวนการทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญอีกด้วย ส่วนคำศัพท์ต่อไปนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจคำศัพท์ภาษาอังกฤษที่พบบ่อยเมื่อพูดถึงวันแรงงาน กิจกรรมเฉลิมฉลอง และความหมายทางประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้
คำศัพท์ | การออกเสียง | ประเภทคำ | ความหมาย |
Labor Day | /ˈleɪbər deɪ/ | คำนาม | วันแรงงาน |
Public holiday | /ˈpʌblɪk ˈhɑːlədeɪ/ | คำนาม | วันหยุดนักขัตฤกษ์ |
Labor movement | /ˈleɪbər ˈmuːvmənt/ | คำนาม | ขบวนแรงงาน |
Workers’ rights | /ˈwɜːrkərz raɪts/ | คำนาม | สิทธิของผู้ใช้แรงงาน |
Labor union | /ˈleɪbər ˈjuːniən/ | คำนาม | สหภาพแรงงาน |
Strike | /straɪk/ | คำนาม | โจมตี เข้าปะทะ ตี |
Protest | /ˈproʊtest/ | คำนาม/กริยา | การประท้วง การคัดค้าน |
March | /mɑːrtʃ/ | คำนาม/กริยา | การเดินแถว, การเดินขบวน |
Demonstration | /ˌdemənˈstreɪʃən/ | คำนาม | การสาธิต การทดลอง |
Banner | /ˈbænər/ | คำนาม | ธง |
Commemoration | /kəˌmeməˈreɪʃən/ | คำนาม | การระลึก, การฉลอง |
Campaign | /kæmˈpeɪn/ | คำนาม | รณรงค์, แข่งขัน |
Movement | /ˈmuːvmənt/ | คำนาม | การเคลื่อนที่ การเคลื่อนไหว |
Holiday | /ˈhɑːlədeɪ/ | คำนาม | วันหยุด |

>>>Read more: Vacation แปลว่า? แยกแยะ vacation, holiday, day off ในภาษาอังกฤษ
คำศัพท์เกี่ยวกับจิตวิญญาณการต่อสู้และความสามัคคี
วันแรงงานเป็นสัญลักษณ์ของจิตวิญญาณอันแข็งแกร่ง ความสามัคคี และความปรารถนาในความยุติธรรมของแรงงานทั่วโลก เพื่อทำความเข้าใจคุณค่าเหล่านี้ในภาษาอังกฤษให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น เรามาร่วมสำรวจคำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับจิตใจแห่งการต่อสู้ ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน และขบวนการเรียกร้องสิทธิประโยชน์เพื่อผู้ใช้แรงงานกันเถอะ
คำศัพท์ | การออกเสียง | ประเภทคำ | ความหมาย |
Solidarity | /ˌsɒlɪˈdærəti/ | คำนาม | ความสามัคคี ความเป็นน้ำหนึ่ง |
Unity | /ˈjuːnəti/ | คำนาม | ความเป็นน้ำหนึ่งอันเดียวกัน, ความสามัคคีกัน |
Resistance | /rɪˈzɪstəns/ | คำนาม | การต้าน, การต่อต้าน |
Struggle | /ˈstrʌɡl/ | คำนาม/กริยา | ต่อสู้ ดิ้นรน |
Fight for rights | /faɪt fɔː raɪts/ | กริยาวลี | ต่อสู้เพื่อสิทธิ |
Empowerment | /ɪmˈpaʊərmənt/ | คำนาม | ทำให้มีอำนาจ, ทำให้ถูกต้องมากขึ้น |
Stand together | /stænd təˈɡeðər/ | กริยาวลี | ยืนเคียงกัน ยืนอยู่ด้วยกัน |
Voice | /vɔɪs/ | คำนาม | เสียง (ที่แสดงถึงผลประโยชน์) |
Activist | /ˈæktɪvɪst/ | คำนาม | นักกิจกรรม นักทำกิจกรรม |
Equality | /ɪˈkwɒləti/ | คำนาม | ความเท่าเทียมกัน, ความสมมาตร, ความเสมอภาค |
Justice | /ˈdʒʌstɪs/ | คำนาม | ความยุติธรรม |
Rights | /raɪts/ | คำนาม | สิทธิ |
Fairness | /ˈfernəs/ | คำนาม | ความเป็นธรรม, ความเที่ยงธรรม |

คำศัพท์เกี่ยวกับกิจกรรมรำลึก
วันแรงงานไม่เพียงเป็นวันรำลึกถึงประวัติศาสตร์การต่อสู้ของแรงงานเท่านั้น แต่ยังเป็นวันเฉลิมฉลองด้วยกิจกรรมคึกคักต่างๆ ทั้งขบวนพาเหรด ปาฐกถา งานแสดงสินค้า และพิธีเชิดชูเกียรติคนงาน มาร่วมทบทวนคำศัพท์ภาษาอังกฤษยอดนิยมที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมเฉลิมฉลองในโอกาสพิเศษนี้กัน
คำศัพท์ | การออกเสียง | ประเภทคำ | ความหมาย |
Celebration | /ˌselɪˈbreɪʃən/ | คำนาม | งานเฉลิมฉลอง |
Parade | /pəˈreɪd/ | คำนาม | ขบวนแห่, การสวนสนาม |
Rally | /ˈræli/ | คำนาม | ชุมนุม |
Speech | /spiːtʃ/ | คำนาม | คำบรรยาย, คำปราศรัย, สุนทรพจน์ |
Commemorate | /kəˈmeməreɪt/ | กริยา | เป็นที่ระลึก, ฉลอง, เป็นอนุสรณ์ |
Ceremony | /ˈserəmoʊni/ | คำนาม | เกี่ยวกับการพิธี, พิธี, พิธีรีตอง |
Event | /ɪˈvent/ | คำนาม | เหตุการณ์, เหตุการณ์สำคัญ |
Tribute | /ˈtrɪbjuːt/ | คำนาม | ส่วย, ยกย่อง, ไว้อาลัย |
Honor | /ˈɑːnər/ | กริยา | เกียรติยศ, ชื่อเสียง, ศักดิ์ศรี, เกียรติศักดิ์ |
Participate | /pɑːrˈtɪsɪpeɪt/ | กริยา | มีส่วนร่วม, เข้าร่วม, ร่วมมือ |
Commemoration day | /kəˌmeməˈreɪʃən deɪ/ | คำนาม | วันรำลึก |
Public gathering | /ˈpʌblɪk ˈɡæðərɪŋ/ | คำนาม | การรวมตัวของประชาชน |
Award ceremony | /əˈwɔːrd ˈserəmoʊni/ | คำนาม | งานหรือพิธีที่จัดขึ้นเพื่อมอบรางวัล |

คำถามที่พบบ่อย
ทำไม ‘วันแรงงาน‘ ของสหรัฐอเมริกาไม่ใช่วันที่ 1 พฤษภาคม
ในสหรัฐอเมริกา วันแรงงานถูกจัดขึ้นในวันจันทร์แรกของเดือนกันยายน แทนวันที่ 1 พฤษภาคม ทั้งนี้เพราะวันแรงงานของอเมริกาไม่ได้เกี่ยวข้องกับขบวนการสากลเพื่อเชิดชูผู้ใช้แรงงาน แต่มีไว้เพื่อยกย่องผลงานของแรงงานในอุตสาหกรรมอเมริกัน ประวัติศาสตร์วันแรงงานอเมริกันเริ่มต้นขึ้นในทศวรรษ 1880 และถูกกำหนดให้อยู่ในช่วงต้นเดือนกันยายนเพื่อให้สอดคล้องกับฤดูเก็บเกี่ยวและขบวนพาเหรดต่างๆ
วันที่ 1 พฤษภาคมของทุกปีเป็นวันอะไร?
วันที่ 1 พฤษภาคม ของทุกปี คือ วันแรงงานสากล หรือที่เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า วันแรงงาน นี่เป็นวันสำคัญที่ใช้เพื่อยกย่องผู้ใช้แรงงานทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ต่อสู้เพื่อให้ได้มาซึ่งสิทธิประโยชน์และสภาพการทำงานที่ดีขึ้น
>>>Read more: วิธีการอ่านและการเขียนวันในภาษาอังกฤษ
วันแรงงานคืออะไรในภาษาอังกฤษ?
วันแรงงานในภาษาอังกฤษเรียกว่า Labor Day นอกจากนี้ในภาษาอังกฤษ วันแรงงานยังมีชื่อเรียกอีกว่า International Workers’ Day หรือ May Day อีกด้วย
วันแรงงานถือเป็นวันสากลหรือไม่?
วันแรงงาน (1 พฤษภาคม) เป็นวันสำคัญระดับสากล และมีชื่อทางการว่า วันแรงงานสากล โดยวันนี้ได้รับการรับรองเป็นวันหยุดราชการในกว่า 80 ประเทศ รวมถึงประเทศไทย จีน รัสเซีย ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี สเปน บราซิล อินเดีย…

สรุปแล้ว ถ้าถามว่า วันแรงงานคืออะไรในภาษาอังกฤษคำตอบก็คือว่า Labor Day และเป็นวันสำคัญที่ไม่เพียงแต่ในเวียดนามเท่านั้น แต่ยังรวมถึงทั่วโลกอีกด้วย วันที่ 1 พฤษภาคม ไม่เพียงเป็นโอกาสที่จะเชิดชูผู้ใช้แรงงาน แต่ยังมีความหมายลึกซึ้งทางประวัติศาสตร์และขบวนการต่อสู้เพื่อสิทธิประโยชน์ของแรงงาน หวังว่าบทความนี้จาก ELSA Speak จะช่วยให้คุณเข้าใจความหมาย สัญลักษณ์ รวมถึงชื่อเรียกวันแรงงานในภาษาอังกฤษได้ดียิ่งขึ้นนะ
คุณเคยสงสัยไหมว่าคำว่าอร่อยในภาษาอังกฤษคืออะไร? วันนี้เราจะมาเรียนรู้ความหมายของคำว่าอร่อยในภาษาอังกฤษกับ ELSA พร้อมการออกเสียงที่ถูกต้อง คำพ้องความหมาย และวิธีพูดถึงอาหารอร่อย
ซึ่งจะช่วยให้คุณรู้สึกมั่นใจมากขึ้นเมื่อสื่อสารภาษาอังกฤษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์ที่เกี่ยวข้องกับอาหาร
อร่อยภาษาอังกฤษคืออะไร?

ในภาษาอังกฤษ อร่อย สามารถแปลความหมายได้หลายคำขึ้นอยู่กับบริบท ด้านล่างนี้เป็นคำศัพท์ 3 คำที่หมายถึงอร่อยที่พบบ่อยที่สุด ในภาษาอังกฤษ มาเรียนรู้วิธีการพูดคำว่าอร่อยกับอร่อยมาก ภาษาอังกฤษกัน
คำที่หมายถึงอร่อย | อร่อยภาษาอังกฤษ คําอ่าน | ความหมาย | ตัวอย่าง |
Delicious | /dɪˈlɪʃəs/ | ใช้เพื่อบรรยายอาหารและเครื่องดื่มที่มีรสชาติอร่อย | This cake is delicious! (เค้กชิ้นนี้อร่อยจัง!) |
Tasty | /ˈteɪsti/ | เน้นรสชาติอร่อย | This soup is very tasty. (ซุปนี้มีรสชาติอร่อยมาก) |
Yummy | /ˈjʌmi/ | วิธีพูดที่ไม่เป็นทางการ มักใช้กับเด็กๆ หรือเมื่อแสดงความน่าสนใจ | Yummy! I love this ice cream. (อร่อยมาก! ฉันชอบไอศกรีมนี้) |
อร่อยภาษาอังกฤษ คําอ่าน
Delicious /dɪˈlɪʃəs/
Tasty /ˈteɪsti/
Yummy /ˈjʌmi/
อร่อยภาษาอังกฤษ มีอะไรบ้าง?

ภาษาอังกฤษ | คำอ่าน | ความหมาย |
Appetizing | /ˈæpɪˌtaɪzɪŋ/ | อร่อย น่ากิน |
Aromatic | /ˌærəˈmætɪk/ | มีกลิ่นหอม |
Delectable | /dɪˈlɛktəbəl/ | รสชาติอร่อยถูกใจ |
Delicious | /dɪˈlɪʃəs/ | อร่อย |
Delicate | /ˈdɛlɪkət/ | รสละมุน |
Delicately | /ˈdɛlɪkətli/ | พิถีพิถัน |
Drinkable | /ˈdrɪŋkəbəl/ | เครื่องดื่มรสชาติดี |
Eatable | /ˈiːtəbəl/ | กินได้ อร่อย |
Edible | /ˈɛdɪbəl/ | กินได้ |
Enjoyable | /ɪnˈʤɔɪəbəl/ | น่าสนใจ อร่อย |
Eye-catching | /ˈaɪˌkæʧɪŋ/ | สะดุดตา |
Fancy | /ˈfænsi/ | เพลิดเพลิน |
Flavorful | /ˈfleɪvərfʊl/ | มีรสชาติดี |
Flavorsome | /ˈfleɪvərsʌm/ | รสเด็ด |
Flavory | /ˈfleɪvəri/ | เข้มข้นและอร่อย |
Fresh | /frɛʃ/ | สดชื่น |
Full-flavored | /fʊl ˈfleɪvərd/ | รสชาติเข้มข้น |
Gourmet | /ˈɡʊrmeɪ/ | รสชาติยอดเยี่ยม |
Juicy | /ˈʤuːsi/ | ฉ่ำ สดชื่น |
Luscious | /ˈlʌʃəs/ | หวานฉ่ำ |
Mellow | /ˈmɛloʊ/ | กลมกล่อม |
Melt-in-your-mouth | /mɛlt ɪn jɔr maʊθ/ | ละลายในปาก นุ่มละมุน อร่อยมาก |
Moreish | /ˈmɔːrɪʃ/ | กินแล้วอยากกินอีก |
Mouth-watering | /ˈmaʊθˌwɔːtərɪŋ/ | ความอร่อยที่ชวนน้ำลายสอ |
Nectar of the gods | /ˈnɛktər ʌv ðə ɡɒdz/ | เครื่องดื่มดีๆ |
Palatable | /ˈpælətəbəl/ | อร่อยถูกปาก |
Piquant | /ˈpiːkənt/ | รสชาติเผ็ดร้อนชวนลิ้มลอง |
Rich | /rɪʧ/ | เลี่ยน |
Satisfying | /ˈsætɪˌsfaɪɪŋ/ | เป็นที่น่าพึงพอใจ |
Savoury | /ˈseɪvəri/ | อร่อย มีรสเค็มหรือเผ็ด |
Scrummy | /ˈskrʌmi/ | รสชาติอร่อยมาก |
Scrumptious | /ˈskrʌmpʃəs/ | อร่อยมาก เยี่ยมมาก |
Smooth | /smuːð/ | รสชาติละมุน |
Succulent | /ˈsʌkjələnt/ | ชุ่มฉ่ำ อร่อย และมีคุณค่าทางโภชนาการ |
Tasty | /ˈteɪsti/ | เข้มข้น อร่อย |
Tangy | /ˈtæŋi/ | มีรสชาติเปรี้ยวคล้ายกับมะนาว |
Toothsome | /ˈtuːθsʌm/ | อร่อย น่ากิน |
Umami | /uˈmɑːmi/ | รสชาติอร่อยแบบธรรมชาติ รสชาติหวานจากเนื้อ |
Very good | /ˈvɛri gʊd/ | อร่อยมาก |
Wonderful | /ˈwʌndərfəl/ | รสชาติดีเลิศ |
Yum | /jʌm/ | มีรสชาติดี, อร่อย |
Yummy | /ˈjʌmi/ | มีรสชาติดีมาก |
>>> Read more: 50+ สำนวน (food idioms) และคำพูดเกี่ยวกับอาหารที่พบบ่อยที่สุด
วิธีพูดถึงอาหารอร่อยเป็นภาษาอังกฤษ

ภาษาอังกฤษ | ความหมาย |
This cake tastes great! | เค้กนี้รสชาติอร่อยมาก! |
That looks delicious! | น่ากิน |
Your home-cooked spaghetti tastes amazing! | พาสต้าที่คุณทำอร่อยมาก! |
Have you tried this pizza? It’s really good! | คุณเคยลองพิซซ่านี้หรือยัง? อร่อยจริงๆ! |
Wow, this chicken is amazing! | ว้าว ไก่ตัวนี้น่าทึ่งมาก! |
This pasta salad is really yummy! | สลัดพาสต้าจานนี้อร่อยจริงๆ! |
I think I’ll have some more of that yummy chocolate cake. | ฉันคิดว่าฉันจะกินเค้กช็อคโกแลตอร่อยๆ นั้นอีกหน่อย |
Her food is always flavorful. | อาหารของเธอมีรสชาติอร่อยเสมอ |
This grilled chicken is so mouth-watering! | ไก่ย่างนี่ชวนน้ำลายสอมาก! |
This cake is scrumptious. I want another piece! | เค้กชิ้นนี้อร่อยมาก ฉันอยากกินอีกชิ้น! |
The restaurant serves delectable food. | ร้านอาหารแห่งนี้มีอาหารอร่อย |
Your dessert looks appetizing. I will have one next time. | ของหวานของคุณดูน่ากินมาก ครั้งหน้าฉันจะลองกินดูนะ |
This soup is tasty. You should have some. | ซุปนี้รสชาติอร่อยมาก คุณควรลองนะ! |
How did you make this dish? It’s so tasty! | เมนูนี้ทำยังไงคะ อร่อยมากเลยค่ะ |
This pizza is delicious. | พิซซ่านี้อร่อยมาก |
This soup is so creamy. | ซุปนี้เข้มข้นมาก! |
The cherry pie is out of this world! | เค้กเชอร์รี่นี้อร่อยจริงๆ! |
This is the best sandwich I’ve ever had! | นี่เป็นแซนวิชที่ดีที่สุดที่ฉันเคยกินมา! |
I love how flavorful this soup is with all the fresh herbs and vegetables in it. | ฉันชอบรสชาติของซุปนี้เนื่องจากมีสมุนไพรและผักสดอยู่ในนั้น |
The fruit is very luscious. I’m so pleased I bought them! | ผลไม้มีรสชาติอร่อยมาก ฉันดีใจมากที่ซื้อมา! |
This dish is finger-licking good! | เมนูนี้อร่อยจนอยากจะเลียนิ้วมือ! |
These cookies are melt-in-your-mouth delicious! | คุกกี้เหล่านี้อร่อยจนละลายในปาก! |
I can’t stop eating this moreish cake! | ฉันหยุดกินเค้กที่น่ากินอันนี้ไม่ได้อีกแล้ว! |
The steak is juicy and full of flavor. | สเต็กเนื้อนุ่มชุ่มฉ่ำรสชาติดี |
This homemade bread is so aromatic and delicious! | ขนมปังทำเองนี้หอมและอร่อยมาก! |
The sauce has a perfect balance of tangy and sweet. | ซอสมีรสชาติเปรี้ยวและหวานที่สมดุล |
This dessert is divine! I could eat it every day. | ขนมหวานนี้อร่อยมากค่ะ กินได้ทุกวันเลย |
The grilled salmon is so succulent and flavorful! | แซลมอนย่างฉ่ำและมีรสชาติอร่อยมาก! |
This chocolate mousse is light, airy, and absolutely delectable! | มูสช็อคโกแลตนี้นุ่ม โปร่ง และอร่อยมาก! |
Every bite of this barbecue is bursting with flavors. | บาร์บีคิวไม้นี้เต็มไปด้วยรสชาติทุกคำจริงๆ |
The aroma of this fresh coffee is irresistible. | กลิ่นหอมของกาแฟสดนี้ไม่อาจต้านทานได้ |
The cheese in this pasta is rich and creamy. | ชีสในพาสต้าจานนี้เข้มข้นและครีมมี่มาก |
This burger is so satisfying, I could eat it every day! | เบอร์เกอร์นี้อร่อยมาก ฉันกินได้ทุกวันเลย! |
The coconut ice cream is refreshingly sweet and smooth. | ไอศกรีมกะทิรสชาติหวานหอมสดชื่น |
This dish is a true symphony of flavors. | อาหารจานนี้เป็นการผสมผสานรสชาติได้อย่างลงตัว |
The roasted duck is crispy on the outside and tender on the inside. | เป็ดย่างกรอบนอกนุ่มใน |
Nothing beats a warm bowl of homemade soup on a cold day. | ไม่มีอะไรจะดีไปกว่าการได้ทานซุปอุ่นๆ ที่ทำเองสักชามในวันที่อากาศหนาวเย็น |
วิธีเชิญเพื่อนทานอาหารอร่อยเป็นภาษาอังกฤษ

ภาษาอังกฤษ | ความหมาย |
Enjoy your meal! | ขอให้เพลิดเพลินกับมื้ออาหารของคุณ |
Dig in! | กินเยอะๆ นะ |
Have a great meal! | ขอให้ทานอาหารให้อร่อยนะคะ |
Enjoy your food! | ทานอาหารให้อร่อยนะ |
Eat up! | ทานให้หมดนะ |
Happy eating! | ทานอาหารให้อร่อยนะ |
I hope you like it! | หวังว่าคุณจะชอบอาหารจานนี้! |
Tuck in! | ลุยเลยค่ะ! (ไม่เป็นทางการ มักใช้ในอังกฤษ) |
Savor every bite! | เพลิดเพลินกับอาหารทุกจานนะ! |
May your taste buds be delighted! | ขอให้ต่อมรับรสของคุณทำงานนะ! |
Cheers to a delicious meal! | ขอให้มื้ออาหารของคุณอร่อยเหมือนกันนะคะ |
Here’s to good food and good company! | ขอให้มีอาหารดีๆ และเพื่อนดีๆ! |
Let’s eat! | กินด้วยกันเถอะ! |
Enjoy every bite of your scrumptious dinner! | เพลิดเพลินกับทุกคำของมื้อค่ำแสนอร่อยของคุณ! |
Hope your taste buds dance with joy tonight! | หวังว่าต่อมรับรสของคุณจะเต้นรำด้วยความสุขในคืนนี้! |
May your meal be a symphony of flavors! | ขอให้มื้ออาหารของคุณเป็นรสชาติที่กลมกล่อมนะ! |
Wishing you a feast fit for a king/queen! | ขออวยพรให้คุณมีงานฉลองที่เหมาะกับราชา/ราชินีอย่างคุณนะ! |
May each dish bring you happiness and satisfaction! | ขอให้ทุกเมนูมอบความสุขความและความอิ่มเอม! |
Here’s to a mouthwatering dining adventure! | ขอให้เป็นการผจญภัยในการรับประทานอาหารที่น่ารับประทาน! |
May your plate be a palette of exquisite flavors! | หวังว่าจานของคุณจะเป็นจานอาหารที่มีรสชาติอันเลิศรส! |
Enjoy the culinary delights that await you! | เพลิดเพลินไปกับความอร่อยที่รอคอยคุณอยู่! |
Wishing you a gastronomic journey filled with pleasure! | ขอให้ท่านเพลิดเพลินไปกับการชิมอาหารที่เต็มไปด้วยความสุข! |
May your taste buds savor every moment of this meal! | ขอให้คุณเพลิดเพลินกับรสชาติอาหารทุกช่วงเวลาของมื้อนี้! |
Cheers to a meal that exceeds all expectations! | ขอให้มีมื้ออาหารที่เกินความคาดหวัง! |
May your dinner be so good it leaves you speechless! | ขอให้มื้อเย็นของคุณอร่อยจนคุณพูดไม่ออก! |
Wishing you a delightful dining experience! | ขอให้คุณมีประสบการณ์การรับประทานอาหารที่น่ารื่นรมย์! |
May your meal be as tasty as it smells! | ขอให้มื้ออาหารของคุณอร่อยเท่ากับกลิ่นหอมๆ นะ! |
Have a fabulous feast! | ขอให้มีงานเลี้ยงที่สนุกสนาน! |
Feast like a king! | กินอาหารให้อร่อยเหมือนพระราชานะ |
Get ready for a flavor explosion! | เตรียมพบกับการระเบิดของรสชาติ! |
Hope this meal brings you warmth and comfort! | หวังว่ามื้ออาหารนี้จะทำให้คุณรู้สึกอบอุ่นและสบายใจ! |
This meal is made with love – enjoy every bite! | มื้อนี้ทำด้วยความรัก – เพลิดเพลินกับทุกคำ! |
Food is love made visible – enjoy! | อาหารคือความรักที่มองเห็นได้ – ทานให้อร่อยนะ! |
Take your time and enjoy this delicious meal! | ค่อยๆ เพลิดเพลินไปกับมื้ออาหารแสนอร่อยนี้! |
Help yourself! | กินอาหารตามสบายนะ! |
Wish you a delicious dinner! | ขอให้ทานอาหารเย็นให้อร่อยนะคะ! |
Have a fantastic feast! | ขอให้เป็นงานเลี้ยงที่สนุกสนาน! |
Hope this meal fills you with joy and energy! | หวังว่ามื้อนี้จะทำให้คุณมีความสุขและมีพลัง! |
Feast and be merry! | ฉลองและรื่นเริงกัน! |
A meal shared is a meal enjoyed – let’s eat! | การรับประทานอาหารร่วมกันคือมื้ออาหารที่มีความสุข – มาทานกันเถอะ! |
Fill your belly and warm your heart! | อิ่มท้องอุ่นใจ! |
Eat well, live well, be happy! | กินดี อยู่ดี มีความสุข! |
Nothing brings people together like good food – enjoy! | ไม่มีอะไรจะทำให้ผู้คนมารวมกันได้เท่ากับอาหารดีๆ – สนุกไปกับมันสิ! |
The best memories are made around the table – enjoy! | ความทรงจำที่ดีที่สุดเกิดขึ้นรอบๆ โต๊ะ – สนุกไปกับมันได้เลย! |
>>>Read more: ร้านอาหาร ภาษาอังกฤษคืออะไร? รวม 50+ ชื่อที่เรียกร้านอาหารในภาษาอังกฤษ
บทสนทนาที่สมจริง
บทสนทนาเมื่อรับประทานอาหารที่บ้าน

ภาษาอังกฤษ | ภาษาไทย |
Anna: Wow, this is absolutely delicious! Did you make this yourself? | แอนนา: ว้าว อาหารจานนี้อร่อยสุดๆ เลย คุณทำเองเหรอ |
Mrs. Johnson: Oh, thank you, Anna! Yes, I did. I’m so glad you like it! | คุณยายจอห์นสัน: ขอบคุณนะแอนนา! ใช่แล้ว ฉันทำเอง ฉันดีใจมากที่คุณชอบ! |
David: Seriously, this pasta is so flavorful! The sauce is just perfect. What’s your secret? | เดวิด: จริงครับ พาสต้าจานนี้รสชาติเข้นข้นมาก ซอสก็อร่อยลงตัวพอดี คุณมีวัตถุดิบอะไรพิเศษเหรอ |
Mrs. Johnson: Haha, no big secret! Just fresh ingredients and a little love. | คุณยายจอห์นสัน: ฮ่าๆ ไม่มีอะไรพิเศษหรอก แค่ใช้วัตถุดิบสดใหม่และใส่ความรักนิดหน่อย |
Anna: Well, it definitely tastes amazing. The seasoning is just right! | แอนนา: รสชาติอร่อยมากจริงๆ ปรุงรสได้ลงตัวพอดีเลย! |
Mr. Johnson: Don’t forget to try the roasted chicken. It’s my favorite! | คุณตาจอห์นสัน: อย่าลืมลองไก่ย่างนะ เป็นไก่จานโปรดของฉันเลย! |
David: Mmm, this chicken is so tender and juicy! It literally melts in my mouth. | เดวิด: อืม ไก่จานนี้เนื้อนุ่มและชุ่มฉ่ำมาก! ละลายในปากเลย |
Anna: And the dessert looks mouth-watering! What is it? | แอนนา: แล้วของหวานก็ดูน่ากินมาก! มันคืออะไรคะ? |
Mrs. Johnson: It’s homemade chocolate cake. Would you like some? | คุณยายจอห์นสัน: เป็นเค้กช็อกโกแลตฉันทำเอง คุณอยากลองกินไหม? |
David: Oh, absolutely! If it’s anything like the rest of this meal, I know it’s going to be scrumptious! | เดวิด: แน่นอน! ถ้าเหมือนเมนูอื่นๆ ของมื้อนี้ ฉันรับรองว่าจะต้องอร่อยมากแน่ๆ! |
บทสนทนาเมื่อรับประทานอาหารที่ร้านอาหาร

ภาษาอังกฤษ | ภาษาไทย |
Emma: Wow, this steak is perfectly cooked! It’s so tender and juicy. | เอ็มม่า: ว้าว สเต็กจานนี้สุกกำลังดีเลย นุ่มและชุ่มฉ่ำมาก |
James: Yeah, and this sauce is so flavorful! It really enhances the taste of the meat. | เจมส์: ใช่แล้ว ซอสนี้รสชาติดีมาก! มันช่วยเพิ่มรสชาติของเนื้อได้ดีจริงๆ |
Waiter: I’m so glad you’re enjoying it! Would you like some fresh pepper on your steak? | พนักงานเสิร์ฟ: ฉันดีใจที่คุณชอบอาหารจานนี้! คุณอยากเพิ่มพริกไทยสดบนสเต็กไหม? |
Emma: Yes, please! And this mashed potato is so creamy and smooth. It’s just the right balance of flavors. | เอ็มม่า: ได้ค่ะ และมันฝรั่งบดจานนี้ก็มีรสมันและนุ่มนวลมาก มันเป็นความสมดุลของรสชาติที่ลงตัวพอดี |
James: Have you tried the seafood pasta? It’s absolutely divine! The seafood is so fresh, and the sauce is just amazing. | เจมส์: คุณเคยลองพาสต้าซีฟู้ดหรือยัง? มันอร่อยมาก! อาหารทะเลสดมาก และซอสก็อร่อยมาก |
Emma: Let me try… Oh wow! This is mouth-watering! The seasoning is just perfect. | เอ็มม่า: ขอชิมหน่อย… โอ้ ว้าว! อร่อยมาก! เครื่องปรุงก็ลงตัวพอดีเลย |
Waiter: I’m happy to hear that! Can I bring you anything else? Maybe some wine to pair with your meal? | พนักงานเสิร์ฟ:ฉันดีใจที่ได้ยินเช่นนั้น! คุณต้องการอะไรเพิ่มอีกไหม? ไวน์อาจจะเข้ากับอาหารของคุณได้ดีนะ? |
James: That sounds like a great idea! What wine would you recommend with this dish? | เจมส์: ฟังดูก็น่าสนใจดีนะ! คุณอยากแนะนำไวน์อะไรให้ทานกับจานนี้ไหม? |
Waiter: A glass of red wine would go really well with your steak. | พนักงานเสิร์ฟ: ไวน์แดงสักแก้วจะเข้ากันได้ดีกับสเต็กของคุณ |
Emma: Let’s go for it! And by the way, compliments to the chef. This meal is exquisite! | เอ็มม่า:ลองดูก็ได้ค่ะ และขอฝากชมเชฟด้วยว่าอาหารมื้อนี้เลิศมาก! |
James: I agree! This is one of the best meals I’ve ever had at a restaurant. We’ll definitely come back. | เจมส์: เห็นด้วย! นี่เป็นหนึ่งในมื้ออาหารที่ดีที่สุดที่ฉันเคยทานในร้านอาหาร เราจะกลับมาอีกแน่นอน |
คำถามที่พบบ่อย
ความแตกต่างระหว่าง Yummy และ Delicious คืออะไร?
คำศัพท์ | ทางการ | บริบทการใช้งาน | ตัวอย่าง |
Yummy | ไม่ทางการ | ไม่เป็นทางการ มักใช้กับเด็กหรือเมื่อแสดงความเพลิดเพลินอย่างไร้เดียงสา | Yummy! This cake is so good! (อร่อยมากกก เค้กนี้อร่อยมาก!) |
Delicious | ทางการ | ใช้ในบริบททุกรูปแบบ ทั้งทางการและไม่เป็นทางการ เพื่อชมอาหารอร่อย | This soup is absolutely delicious! (ซุปนี้อร่อยมากจริงๆ!) |
วิธีการใช้ Tasty
Tasty เป็นคำที่พบบ่อยในภาษาอังกฤษที่ใช้บรรยายรสชาติของอาหาร โดยมักเน้นย้ำถึงความน่าดึงดูดใจของรสชาติ คำนี้เป็นคำที่ไม่เป็นทางการและสามารถใช้ได้ในหลายบริบท
- ใช้ในการชมรสชาติอาหาร: เมื่อคุณต้องการจะบอกว่าอาหารอร่อยและมีรสชาติที่น่าดึงดูด
ตัวอย่าง: This pizza is really tasty! (พิซซ่านี้อร่อยจัง!)
- เมื่อคุณรู้สึกว่าอาหารมีรสชาติดี: มักใช้เมื่อต้องการแสดงออกถึงความพึงพอใจในรสชาติแต่ไม่รุนแรงเท่า delicious.
ตัวอย่าง: The salad is tasty, but I prefer the soup. (สลัดจานนี้ก็อร่อย แต่ฉันชอบซุปมากกว่า)
- ไม่เป็นทางการมากเกินไป: Tasty ไม่ทางการเท่ากับ delicious และสามารถใช้ได้ในสถานการณ์ธรรมดา หรือไม่เป็นทางการ
ตัวอย่าง: This cake is so tasty, I could eat the whole thing! (เค้กชิ้นนี้รสชาติอร่อยมาก ฉันกินหมดทั้งชิ้นเลย!)
Yummy ออกเสียงอย่างไร?
การออกเสียงของคำว่า Yummy คือ: /ˈjʌmi/
ออกเสียง Yummy เหมือน yuh-mee ด้วยเสียง yuh (เหมือนคำว่า cup) และ mee (เหมือนคำว่า me)
ออกเสียงคำว่า Deliciously อย่างไร?
ออกเสียงว่า: /dɪˈlɪʃ.əs.li/
น่ากิน ภาษาอังกฤษคืออะไร?
That looks delicious!

หวังว่าบทความข้างต้นที่ ELSA Speak นำมาให้จะช่วยให้คุณเข้าใจความหมายของคำว่าอร่อยในภาษาอังกฤษ ทั้งวลี วิธีการพูด และคำชมเกี่ยวกับอาหารจานอร่อย รวมถึงตัวอย่างการสนทนาในชีวิตจริงเพื่อช่วยให้คุณฝึกการสื่อสารได้อย่างมั่นใจมากขึ้น นอกจากนี้ ด้วยแพ็คเกจ Pro ของ ELSA Speak คุณจะได้สัมผัสกับฟีเจอร์ขั้นสูงเพื่อพัฒนาทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษด้วยราคาเท่าเดิม ซึ่งมอบคุณค่าที่โดดเด่นให้กับผู้ใช้ อย่าพลาดโอกาสอัปเกรดทักษะภาษาต่างประเทศของคุณวันนี้!
การออกเสียงถูกต้องเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้คุณสื่อสารภาษาอังกฤษได้อย่างมั่นใจและธรรมชาติมากขึ้น เพื่อทำสิ่งนี้ได้ คุณต้องค้นหาวิธีการถอดเสียงและฝึกด้วยเครื่องมือช่วยเหลืออย่างแม่นยำ ด้านล่างนี้คือ เว็บออกเสียงภาษาอังกฤษ ฟรี ทั้งหมด 18 เว็บที่ได้รับความนิยมอย่างมาก
ถอดเสียงคืออะไร?
การถอดเสียง (phonetic transcription) หมายถึงการบันทึกเสียงพูดด้วยสัญลักษณ์อย่างละเอียด การถอดเสียงใช้เพื่อแนะนำผู้เรียนให้สามารถออกเสียงพูดได้ถูกต้องที่สุด
ในภาษาอังกฤษ เขามักจะใช้ตารางการถอดเสียงภาษาอังกฤษสากล IPA เพื่อทำมาตรฐานการถอดเสียง ถอดเสียงจะประกอบด้วยสระ (vowel), พยัญชนะ (consonant) รวมถึงลักษณะของการเน้นเสียง (stress) และวรรณยุกต์/จังหวะเสียง (intonation)
เว็บออกเสียงภาษาอังกฤษแม่นยำที่สุดที่เป็นอันดับต้นๆ
เว็บไซต์ที่ELSA Speak แบ่งปันด้านล่างนี้เป็นเว็บอ่านภาษาอังกฤษฟรีทั้งหมดสามารถเข้าใช้งานได้ฟรี
โปรดทราบว่าเว็บไซต์บางเว็บอาจจะต้องลงทะเบียนหรือมีเวอร์ชันที่ต้องชำระเงินเพื่อเข้าถึงฟีเจอร์ทั้งหมด
Cambridge Dictionary

พจนานุกรม Cambridge คงไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับผู้เรียนภาษาอังกฤษอีกต่อไป นี่คือพจนานุกรมที่จัดทำและเผยแพร่โดยมหาวิทยาลัย Cambridge ซึ่งมีความน่าเชื่อถือสูงมาก พจนานุกรมนี้มีข้อมูลคำศัพท์จำนวนมากพร้อมกับการถอดเสียงที่ถูกต้องทั้งในสำเนียงอังกฤษ-อังกฤษและอังกฤษ-อเมริกัน
คุณสมบัติโดดเด่น:
- มีมากกว่า 200,000 คำศัพท์อยู่ในระดับ A1 – C2
- มีคำจำกัดความ พร้อมตัวอย่างที่ใช้งานได้จริงช่วยให้ผู้เรียนเข้าใจวิธีการใช้คำในแต่ละบริบทได้ง่ายขึ้น
- วิธีการออกเสียงคำที่ถูกต้องตามสำเนียงอังกฤษ-อังกฤษและอังกฤษ-อเมริกัน
- ส่วน ‘Smart Vocabulary’ ช่วยให้ผู้เรียนขยายคลังคำผ่านคำพ้องความหมาย คำตรงข้าม วลี และสำนวนที่เกี่ยวข้อง
- สามารถใช้งานได้ทั้งบนคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือ ใช้งานได้สะดวกทุกที่ทุกเวลา
Oxford Learner’s Dictionaries

เมื่อพูดถึงเว็บไซต์ที่เชื่อถือได้สำหรับการค้นหาการถอดเสียงภาษาอังกฤษแล้ว คงไม่สามารถข้าม
Oxford Learner’s Dictionaries ได้ เว็บไซต์นี้เผยแพร่โดยหนึ่งในมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก – มหาวิทยาลัย Oxford พจนานุกรม Oxford Learner’s Dictionaries ให้บริการการถอดเสียงที่ถูกต้องตามมาตรฐาน IPA พร้อมกับเสียงทั้งในสำเนียงอังกฤษ-อังกฤษและอังกฤษ-อเมริกัน
คุณสมบัติโดดเด่น:
- คลังพจนานุกรมขนาดใหญ่ที่รวมคำศัพท์ขั้นสูงเชิงวิชาการไว้มากมาย
- นอกจากความหมายและตัวอย่างแล้ว พจนานุกรมยังมีคำพ้องความหมาย กลุ่มคำศัพท์ (word family) รากศัพท์ สำนวน และวลีที่เกี่ยวข้อง
- เหมาะสำหรับผู้เรียนระดับกลางขึ้นไป
toPhonetics

toPhonetics เป็นหนึ่งในเว็บออกเสียงประโยคภาษาอังกฤษที่ดีที่สุดในปัจจุบัน ช่วยแปลงข้อความภาษาอังกฤษเป็นสัญลักษณ์เสียงตามระบบ IPA ได้อย่างรวดเร็ว ผู้ใช้สามารถฟังการออกเสียงของคำศัพท์บนเว็บไซต์และฝึกพูดตามเพื่อเรียนรู้การออกเสียงอย่างถูกต้อง
คุณสมบัติโดดเด่น:
- เหมาะสำหรับผู้เรียนในหลายระดับ
- มีอินเทอร์เฟซที่เรียบง่าย ใช้งานสะดวก
- รองรับการถอดเสียงทั้งวลีและข้อความ โดยเลือกได้ทั้งสำเนียงอังกฤษ-อังกฤษและอังกฤษ-อเมริกัน
- รองรับการอ่านออกเสียงข้อความบนเบราว์เซอร์ Chrome และ Safari พร้อมทั้งสามารถปรับความเร็วในการเรียนรู้ให้เหมาะสมได้
English Longman Dictionary of Contemporary English Online

Longman Dictionary เป็นพจนานุกรมภาษาอังกฤษออนไลน์ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่นักเรียนและนักศึกษา แม้ว่าเว็บไซต์จะนำเสนอเนื้อหาทั้งหมดเป็นภาษาอังกฤษ แต่ก็ใช้งานได้ง่าย เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นเรียนภาษาอังกฤษเช่นกัน
คุณสมบัติโดดเด่น:
- ให้การถอดเสียงตามมาตรฐาน IPA สากล
- ตัวอย่างแต่ละคำมาพร้อมเสียงประกอบที่มีการออกเสียงอย่างถูกต้องทั้งสำเนียงอังกฤษ–อังกฤษและอังกฤษ–อเมริกัน
- มีฟีเจอร์ค้นหาคำศัพท์และไวยากรณ์ที่เกี่ยวข้องผ่านการออกเสียง
FluentU
หากคุณกำลังมองหาเว็บไซต์สำหรับค้นหาการถอดเสียงภาษาอังกฤษที่มีอินเทอร์เฟซสวยงาม FluentU คือคำตอบสำหรับคุณ เว็บไซต์นี้มอบประสบการณ์ที่แตกต่างและมีชีวิตชีวาผ่านเครื่องมือต่าง ๆ เช่น วิดีโอ เสียง และแฟลชการ์ด
คุณสมบัติโดดเด่น:
- วิดีโอบทเรียนมีหัวข้อที่หลากหลาย เช่น ข่าวสาร ภาพยนตร์ ดนตรี ฯลฯ
- มีระบบถอดเสียงและค้นหาคำศัพท์ที่มีคุณภาพสูง
- เหมาะสำหรับผู้เรียนในเกือบทุกระดับและทุกช่วงวัย
- ผู้ใช้งานสามารถเรียนรู้ภาษาอื่น ๆ นอกเหนือจากภาษาอังกฤษได้ด้วย

Rachel’s English
พัฒนาโดยอดีตนักร้อง Rachel เว็บไซต์ Rachel’s English มีวิดีโอใน YouTube มากกว่า 800 รายการให้รับชมฟรี โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อช่วยให้ผู้ใช้งานพัฒนาทักษะการอ่านออกเสียงภาษาอังกฤษ ตลอดจนบทเรียน Rachel จะแนะนำเทคนิคการปรับรูปปากและระดับเสียงเพื่อให้คุณออกเสียงได้อย่างถูกต้องและชัดเจนที่สุด
คุณสมบัติโดดเด่น:
- หัวข้อการเรียนมีความหลากหลาย เข้าถึงง่าย และใกล้เคียงกับชีวิตประจำวันของผู้ชมทั่วโลก
- วิดีโอมีความสั้น กระชับ เข้าใจง่าย และมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาทักษะการอ่านออกเสียงภาษาอังกฤษโดยตรง
Merriam – Webster Dictionary

Merriam–Webster Dictionary เป็นเว็บไซต์สำหรับค้นหาการถอดเสียงภาษาอังกฤษที่เก่าแก่และมีชื่อเสียงในสหรัฐอเมริกาไม่เพียงแต่เน้นคำศัพท์ในระดับเชิงวิชาการเท่านั้น แต่ยังมีชุดคำศัพท์ในหัวข้อที่ใกล้เคียงกับชีวิตประจำวัน ช่วยให้ผู้ใช้งานเรียนรู้และจดจำคำศัพท์ได้ง่ายและยาวนานยิ่งขึ้น
คุณสมบัติโดดเด่น:
- การถอดเสียงตามมาตรฐาน IPA ซึ่งเหมาะสำหรับนักเรียนและผู้ที่อยู่ในระดับตั้งแต่พื้นฐานจนถึงขั้นสูง
- แต่ละคำศัพท์มาพร้อมเสียงประกอบช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถปรับการออกเสียงให้ถูกต้อง
- ฟีเจอร์ “Related Articles” ให้ข้อมูลเกี่ยวกับต้นกำเนิดและบทความที่เกี่ยวข้องกับคำศัพท์ ช่วยให้ผู้เรียนไม่เพียงแต่จดจำคำศัพท์ได้นานขึ้น แต่ยังเพิ่มพูนความรู้เกี่ยวกับสังคมอีกด้วย
Collins Dictionary
พจนานุกรม Collins Dictionary ไม่เพียงแต่เหมาะสำหรับผู้เรียนภาษาอังกฤษเท่านั้น แต่ยังเหมาะสำหรับนักแปลและครูผู้สอน ด้วยฟีเจอร์ชั้นนำของเว็บไซต์นี้ช่วยให้ผู้ใช้งานฝึกฝนการออกเสียงได้อย่างอิสระ และสามารถเข้าใจหลักไวยากรณ์ได้อย่างรวดเร็วเพื่อใช้ในการสื่อสาร
คุณสมบัติโดดเด่น:
- เสียงประกอบชัดเจนทั้งในสำเนียงอังกฤษ–อังกฤษและอังกฤษ–อเมริกัน พร้อมกับการถอดเสียงตามมาตรฐาน IPA
- เครื่องมือค้นหาที่เสนอคำแนะนำอัตโนมัติช่วยให้ผู้ใช้งานเลือกคำได้ง่าย ๆ เพียงแค่พิมพ์ตัวอักษร
- คลังคำศัพท์ที่หลากหลายรวมถึงคำศัพท์และหัวข้อไวยากรณ์ที่เกี่ยวข้อง
- ฟีเจอร์ “Word of the Day” ช่วยให้ผู้ใช้งานขยายคลังคำศัพท์ทุกวัน
TED

TED เป็นหนึ่งในเว็บไซต์ที่มีความสามารถในการถอดเสียงภาษาอังกฤษที่ถูกต้องที่สุดในปัจจุบัน
ผ่านการบรรยายจากวิทยากรชื่อดังทั่วโลก วิดีโอของ TED ช่วยให้ผู้เรียนพัฒนาทักษะการฟัง พูด การออกเสียง และการใช้เสียงสูงต่ำได้อย่างมีประสิทธิภาพเว็บไซต์ยังมีคำบรรยายใต้คลิปวิดีโอเพื่อช่วยให้ผู้เรียนเข้าใจเนื้อหาของการบรรยายได้อย่างชัดเจน
คุณสมบัติโดดเด่น:
- มีการบรรยายที่หลากหลายหัวข้อ ตั้งแต่หัวข้อทางสังคมไปจนถึงปัญหาที่พบในชีวิตประจำวัน
- มีการใช้สำเนียงจากหลายประเทศ เช่น อังกฤษ–อังกฤษ, อังกฤษ–อเมริกัน, อังกฤษ–ออสเตรเลีย ฯลฯ ช่วยให้ผู้เรียนฝึกทักษะการฟัง
- มีคำบรรยายภาษาไทย ทำให้เหมาะสมกับผู้เรียนทุกกลุ่ม
- สามารถเลือกฟังเฉพาะเสียงหรือฟังเสียงพร้อมกับดูวิดีโอได้
voanews.com
Voanews.com เป็นเว็บไซต์สำหรับการถอดเสียงภาษาอังกฤษซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของหนังสือพิมพ์ VOA
ที่มีชื่อเสียงในสหรัฐอเมริกาผ่านการอ่านข่าวและฟังข่าวสาร คุณสามารถพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษได้ง่าย ๆ ปรับปรุงการออกเสียงและทักษะการอ่านได้อย่างมีประสิทธิภาพ
คุณสมบัติโดดเด่น:
- มีบทความและข่าวสารจำนวนมากที่ได้รับการอัปเดตทุกวัน
- คำศัพท์ที่ครอบคลุมหลายหัวข้อช่วยให้คุณสามารถนำไปใช้ในการสื่อสารและการเขียนได้อย่างคล่องแคล่ว
- วิดีโอข่าวมีเสียงประกอบสำเนียงอังกฤษ–อังกฤษที่ถูกต้อง
- อินเทอร์เฟซใช้งานง่ายและเป็นมิตรกับผู้ใช้งาน

TalkEnglish
TalkEnglish เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับความนิยมจากเยาวชนในปัจจุบันเว็บไซต์นี้ช่วยให้ผู้ใช้งานฝึกทักษะการฟังและการพูดภาษาอังกฤษผ่านบทเรียนที่หลากหลายหัวข้อTalkEnglish เป็นหนึ่งในแหล่งที่เชื่อถือได้ที่ช่วยให้คุณพัฒนาทักษะการออกเสียง การใช้เสียงสูงต่ำ และทักษะการสื่อสารได้อย่างรอบด้าน
คุณสมบัติโดดเด่น:
- มีบทเรียนการฟังภาษาอังกฤษที่หลากหลายหัวข้อ
- วิดีโอการเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์มีคำบรรยายและเสียงอ่านที่ถูกต้อง
spotlightenglish.com
นี่เป็นหนึ่งในเว็บอ่านภาษาอังกฤษฟรีที่เหมาะสมกับผู้เรียนทุกกลุ่ม Spotlight English รวมถึงบทเรียนการฟังที่ยาวระหว่าง 10 – 15 นาทีในหัวข้อที่หลากหลาย โดยเฉพาะเหมาะสำหรับผู้ที่อยู่ในระดับเริ่มต้นที่สำคัญ เว็บไซต์นี้มีทรานสคริปต์ใต้แต่ละบทเรียนการฟังเพื่อให้คุณสามารถเปรียบเทียบ ปรับการออกเสียง หรือฝึกการฟังและเขียนคำได้
คุณสมบัติโดดเด่น:
- จำนวนคำศัพท์มากถึง 1500 คำ
- ฟีเจอร์การพูดช้าๆ เพื่อฝึกฟังและปรับการออกเสียงของแต่ละคำ
- สามารถใช้งานได้ทั้งบนคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถืออย่างยืดหยุ่น
The Free Dictionary

นี่เป็นเครื่องมือการเรียนรู้ที่มีประโยชน์ช่วยปรับปรุงการออกเสียง คำศัพท์ และความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษในชีวิตจริง
คุณสมบัติโดดเด่น:
- ฝึกออกเสียงที่ถูกต้อง: ฟังการออกเสียงผ่านไอคอนลำโพง รองรับทั้งสำเนียงอังกฤษ–อังกฤษและอังกฤษ–อเมริกัน
- คลังคำศัพท์ที่หลากหลาย: ให้ความหมาย ลักษณะของคำ การถอดเสียง ตัวอย่างประโยค และคำพ้องความหมาย
- สนับสนุนการเขียนและการสื่อสาร: ขยายคลังคำศัพท์สำหรับการรายงาน การประชุม และเชื่อมโยงกับสารานุกรม
Dictionary.com
นี่เป็นเว็บไซต์การเรียนการออกเสียงที่เชื่อถือได้ เป็นเว็บอ่านภาษาอังกฤษช้าๆ ซึ่งมีผู้ใช้งานอย่างแพร่หลายเพื่อพัฒนาทักษะการพูดภาษาอังกฤษ
คุณสมบัติโดดเด่น:
- ฝึกการออกเสียงได้ง่าย: ฟังการออกเสียงที่ชัดเจนผ่านไอคอนลำโพง พร้อมคำแนะนำเรื่องน้ำหนักเสียงตามการถอดเสียง
- ฝึกตามสำเนียงที่ถูกต้อง: เน้นน้ำหนักเสียงที่ถูกต้องเมื่อออกเสียงตามตัวอย่างเสียง เพื่อให้พูดได้ชัดเจนขึ้น
- อธิบายรายละเอียดที่เข้าใจง่าย: ความหมายของคำจะถูกนำเสนอในแต่ละจุด ทำให้ผู้เรียนเข้าใจได้เร็วขึ้น
Natural Readers
เป็นเว็บออกเสียงประโยคภาษาอังกฤษและเป็นเว็บเช็คสำเนียงภาษาอังกฤษ ดังนั้นเว็บไซต์นี้จึงมีประโยชน์มากสำหรับผู้ที่ต้องการฝึกการออกเสียงทั้งประโยคให้เป็นธรรมชาติและคล่องแคล่ว
คุณสมบัติโดดเด่น:
- ฝึกการออกเสียงประโยคเต็ม: รองรับการเน้นน้ำหนักเสียงที่ถูกต้องและการเชื่อมเสียงเมื่อพูดประโยคยาวๆ
- มีประโยชน์สำหรับการนำเสนอและการประชุม: ช่วยให้ผู้ใช้พูดภาษาอังกฤษได้คล่องแคล่วในที่ทำงาน
- การออกเสียงอัตโนมัติตามประโยค: เพียงแค่คัดลอกประโยคใส่ในช่องว่างและกดเล่นเพื่อฟังตัวอย่างเสียงที่ถูกต้อง
Forvo

Forvo เป็นเว็บไซต์ที่โดดเด่นเฉพาะทางเกี่ยวกับการออกเสียง โดยมีข้อมูลที่มาจากผู้พูดเจ้าของภาษา
คุณสามารถฟังการออกเสียงที่แตกต่างกันของคำเดียวกันจากหลายภูมิภาคและประเทศ
คุณสมบัติโดดเด่น:
- การออกเสียงที่บันทึกโดยผู้พูดเจ้าของภาษา: แตกต่างจากพจนานุกรมที่ใช้เสียงสังเคราะห์ Forvo ช่วยให้คุณฟังการออกเสียงจากผู้พูดเจ้าของภาษาจริง ๆ จากทั่วโลก
- สำเนียงท้องถิ่นที่หลากหลาย: หากคำใดมีการออกเสียงที่แตกต่างกันในแต่ละภูมิภาค (เช่น อังกฤษ – อังกฤษ, อังกฤษ – อเมริกัน หรือแม้กระทั่งสำเนียงออสเตรเลีย, แคนาดา) Forvo จะแสดงทั้งหมดให้คุณเลือก
- รองรับหลายภาษา: ไม่เพียงแค่ภาษาอังกฤษ Forvo ยังรองรับการออกเสียงของกว่ากว่า 400 ภาษา
- อนุญาตให้ผู้ใช้มีส่วนร่วม: คุณสามารถเข้าร่วมการบันทึกคำศัพท์ด้วยเสียงของคุณเอง เพื่อช่วยสร้างห้องสมุดการออกเสียงที่หลากหลายมากขึ้น

YouGlish
ไม่เพียงแต่ช่วยให้คุณค้นหาวิธีการออกเสียงของคำหนึ่งคำ YouGlish ยังมีวิดีโอจริงจาก YouTube ที่มีคำนี้และช่วยตรวจสอบการออกเสียงภาษาอังกฤษของคุณ ด้วยเหตุนี้ คุณจึงสามารถฟังการออกเสียงของคำในบริบทจริงและรู้ข้อผิดพลาดในการออกเสียงของตัวเอง
คุณสมบัติโดดเด่น:
- ค้นหาการออกเสียงผ่านวิดีโอจริง: เมื่อคุณพิมพ์คำหนึ่งคำลงใน YouGlish เว็บไซต์จะโชว์วิดีโอจาก YouTube ที่มีคำนั้น เพื่อให้คุณฟังการใช้คำในสถานการณ์จริง
- รองรับหลายบริบทต่างๆ: คุณสามารถฟังการออกเสียงของคำในหลายๆ ด้าน เช่น ธุรกิจ เทคโนโลยี วิทยาศาสตร์ หรือชีวิตประจำวัน
- มีคำบรรยาย: YouGlish จะแสดงคำบรรยายโดยอัตโนมัติ เพื่อช่วยให้คุณติดตามและเรียนรู้คำใหม่ได้ง่ายขึ้น
- รองรับสำเนียงอังกฤษ–อังกฤษ, อังกฤษ–อเมริกัน, อังกฤษ–ออสเตรเลีย: คุณสามารถเลือกการออกเสียงตามพื้นที่ที่ต้องการ
Howjsay
Howjsay เป็นพจนานุกรมการออกเสียงออนไลน์ที่มีอินเทอร์เฟซที่เรียบง่ายเมื่อคุณพิมพ์คำลงในช่องค้นหา คุณจะได้ยินการออกเสียงที่ถูกต้องทันที
คุณสมบัติโดดเด่น:
- การออกเสียงที่ถูกต้องทันที: เพียงแค่พิมพ์คำลงในช่องค้นหา Howjsay จะออกเสียงคำให้ทันทีโดยไม่ต้องรอการโหลดวิดีโอหรือไฟล์เสียง
- ไม่เพียงแค่ภาษาอังกฤษ: นอกจากภาษาอังกฤษแล้ว เว็บไซต์นี้ยังรองรับการออกเสียงในหลายภาษาต่างๆ
- อินเทอร์เฟซที่เรียบง่ายและใช้งานง่าย: ไม่ต้องลงทะเบียนบัญชี เพียงแค่พิมพ์คำและฟังการออกเสียงทันที
- รองรับคำศัพท์ผสม: หากคุณพิมพ์กลุ่มคำ เช่น “give it a try” เว็บไซต์จะออกเสียงทั้งกลุ่มคำแทนการออกเสียงแค่คำเดียว
ทำไมเราถึงต้องค้นหาการถอดเสียงภาษาอังกฤษ?
ความสำคัญของการค้นหาการถอดเสียงภาษาอังกฤษ
การค้นหาการถอดเสียงมีประโยชน์มากมายทั้งสำหรับผู้เรียนและผู้สอนภาษาอังกฤษ สำหรับผู้เรียน การถอดเสียงจะช่วยให้คุณออกเสียงได้ถูกต้อง พูดภาษาอังกฤษได้คล่องแคล่ว และเป๊ะเหมือนเจ้าของภาษา ในทางกลับกัน สำหรับผู้สอน การถอดเสียงช่วยให้คุณอธิบายวิธีการออกเสียงให้กับนักเรียนในลักษณะที่เข้าใจได้ง่ายและจำได้ง่าย
ในงานแปล การถอดเสียงยังได้รับความนิยมเพราะสามารถสะท้อนการออกเสียงของภาษาต้นฉบับได้อย่างแม่นยำ ดังนั้น การค้นหาการถอดเสียงภาษาอังกฤษจึงมีบทบาทสำคัญอย่างมากในการเรียนและการใช้ภาษาอังกฤษ
วิธีใช้เว็บไซต์เพื่อฝึกและทดสอบการ ออกเสียง ภาษาอังกฤษอย่างมีประสิทธิภาพ
- ดูการถอดเสียง IPA เพื่อเข้าใจวิธีการออกเสียงแต่ละพยางค์
- ฟังเสียงตัวอย่าง (อังกฤษ-อังกฤษ หรือ อังกฤษ-อเมริกัน) และสังเกตวิธีการเน้นเสียงและการเชื่อมเสียง
- พูดตามเสียงตัวอย่าง พยายามเลียนแบบการใช้โทนเสียงและการเน้นคำ
- บันทึกเสียงของตัวเองและเปรียบเทียบกับต้นฉบับเพื่อปรับปรุง

ด้านบนคือ 18 เว็บออกเสียงภาษาอังกฤษและได้รับความนิยมจากผู้ใช้หลายคน ที่เรานำมาแนะนำให้กับคุณ
หวังว่าเมื่อได้รับข้อมูลจาก ELSA Speak คุณจะสามารถหาคำตอบและเลือกเว็บไซต์ที่เหมาะสมสำหรับการพัฒนาทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษของตัวเองได้! โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับแพ็คเกจ ELSA Pro คุณจะไม่เพียงแค่ได้รับประสบการณ์จากฟีเจอร์ขั้นสูงที่ช่วยพัฒนาทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษ แต่ยังได้รับประโยชน์จากราคาที่คงที่ – มอบมูลค่าเพิ่มให้กับผู้ใช้ อย่าพลาดโอกาสในการพัฒนาทักษะภาษาของคุณวันนี้
ในการสื่อสารภาษาอังกฤษ บางครั้งคุณอาจต้องขอโทษที่รบกวนใครสักคน หรือขอให้คนอื่นอย่ารบกวนคุณ แล้วรบกวนภาษาอังกฤษคืออะไร? คำว่า bother, disturb และ annoy มีความแตกต่างกันอย่างไร? ในบทความนี้ ELSA Speak จะช่วยให้คุณเข้าใจความหมาย วิธีใช้ และประโยคที่พบบ่อยที่สุด เพื่อนำไปใช้ได้จริง ไปดูกันเลย!
รบกวน ภาษาอังกฤษคืออะไร?
ในภาษาอังกฤษ รบกวนสามารถแสดงออกได้หลายคำ ขึ้นอยู่กับบริบทที่ใช้:
คำศัพท์ | การสะกดคำ | ความหมาย | ตัวอย่าง |
Annoy | /əˈnɔɪ/ | ทำให้รำคาญหรือไม่พอใจจากสิ่งที่เกิดซ้ำ ๆ | His loud chewing annoys me. (การเคี้ยวเสียงดังของเขาทำให้ฉันรำคาญ) |
Disturb | /dɪˈstɜːrb/ | รบกวนหรือขัดจังหวะกิจกรรมบางอย่าง | Please do not disturb me while I’m working. (กรุณาอย่ารบกวนฉันตอนทำงาน) |
Bother | /ˈbɒð.ər/ | ทำให้รำคาญหรือขัดขวางใครบางคน | Sorry to bother you, but could you help me with this? (ขอโทษที่รบกวน แต่คุณช่วยฉันหน่อยได้ไหม) |
Interrupt | /ˌɪn.təˈrʌpt/ | ขัดจังหวะหรือพูดแทรกขณะที่มีคนกำลังพูดหรือทำบางอย่าง | He interrupted me in the middle of my speech. (เขาขัดจังหวะฉันตอนที่ฉันกำลังพูด) |

วิธีพูดขอโทษที่รบกวน ภาษาอังกฤษ
ด้านล่างเป็นตารางแสดงวิธีพูด ขอโทษที่รบกวนภาษาอังกฤษ:
วิธีพูด | ความหมาย | ตัวอย่าง |
Sorry to bother (disturb) you, but + ประโยคคำถาม | ขอโทษที่รบกวนคุณ แต่… | Sorry to bother you, but could you help me with this report? (ขอโทษที่รบกวนคุณ แต่คุณช่วยฉันดูรายงานนี้หน่อยได้ไหม?) |
Do you have a minute? | คุณมีเวลาสักครู่ไหม? | Do you have a minute? I need to discuss something important. (คุณพอมีเวลาสักครู่ไหม? ฉันมีเรื่องสำคัญต้องคุยด้วย) |
Would you mind helping me with + N.? | รบกวนช่วยฉัน…หน่อยได้ไหม? | Would you mind helping me with my project? (รบกวนช่วยดูโปรเจกต์นี้ให้หน่อยได้ไหม) |
Would you mind + V.ing? | รบกวน…ได้ไหม? | Would you mind waiting here for a moment? (รบกวนรอสักครู่ได้ไหม) |
Would you mind if + ประโยค? | หาก…จะเป็นอะไรไหม? | Would you mind if I left early today? (หากต้องกลับก่อนวันนี้ จะเป็นปัญหาหรือไม่) |
Can you join the meeting on + วัน + at + เวลา? | คุณสามารถเข้าร่วมการประชุมใน…ได้ไหม? | Can you join the meeting on Friday at 3 PM? (คุณสามารถเข้าร่วมการประชุมวันศุกร์เวลา 3 PM ได้ไหม?) |
Can I speak to + ชื่อคน/ตำแหน่ง? | ฉันสามารถพูดคุยกับ…ได้ไหม? | Can I speak to Mr. Smith? (ฉันสามารถพูดคุยกับคุณสมิธได้ไหม?) |
When (What time) can I call you back? | ฉันสามารถโทรกลับหาคุณได้เมื่อไหร่? | What time can I call you back? (ฉันสามารถโทรกลับหาคุณได้ตอนกี่โมง?) |
Can I take + วัน/สัปดาห์นี้/เดือนหน้า off? | ฉันสามารถลางานใน…ได้ไหม? | Can I take next Monday off? (ฉันสามารถลางานวันจันทร์หน้าได้ไหม?) |
Sorry to bother you. | ขอโทษที่รบกวนคุณ | Sorry to bother you, but I need your help. (ขอโทษที่รบกวนคุณ แต่ฉันต้องการความช่วยเหลือ) |
I’m sorry to bother you. | ฉันขอโทษที่รบกวนคุณ | I’m sorry to bother you, but could you check this for me? (ฉันขอโทษที่รบกวนคุณ แต่คุณช่วยตรวจสอบสิ่งนี้ให้ฉันได้ไหม?) |
Can you talk at the moment? | ตอนนี้คุณสะดวกคุยไหม? | Can you talk at the moment, or should I call you back later? (ตอนนี้คุณสะดวกคุยไหม หรือฉันควรโทรกลับทีหลัง?) |
Is this a good time to talk? | นี่เป็นเวลาที่เหมาะสมในการพูดคุยหรือไม่? | Is this a good time to talk about our project plans?(นี่เป็นเวลาที่เหมาะสมสำหรับการพูดคุยเกี่ยวกับแผนโปรเจกต์ของเราหรือไม่?) |
Can you do me a favor? | คุณช่วยฉันหน่อยได้ไหม? | Can you do me a favor and send this email? (คุณช่วยฉันส่งอีเมลนี้ได้ไหม?) |
Can you help me? | คุณช่วยฉันได้ไหม? | Can you help me with my homework? (คุณช่วยฉันทำการบ้านได้ไหม?) |
If it’s not too much bother, would you mind helping me move the table? | ถ้ามันไม่เป็นการรบกวนมากเกินไป คุณช่วยฉันย้ายโต๊ะหน่อยได้ไหม? | If it’s not too much bother, would you mind helping me move the table? It’s a bit chilly in here.(ถ้ามันไม่เป็นการรบกวนมากเกินไป คุณช่วยฉันย้ายโต๊ะหน่อยได้ไหม? ที่นี่อากาศหนาวนิดหน่อย) |
Would you mind opening the door? | คุณช่วยเปิดประตูให้ฉันหน่อยได้ไหม? | Would you mind opening the door? (คุณช่วยเปิดประตูให้ฉันหน่อยได้ไหม?) |
Would you mind turning off the lights? | คุณช่วยปิดไฟก่อนออกจากห้องได้ไหม? | Would you mind turning off the lights when you leave the room? (คุณช่วยปิดไฟก่อนออกจากห้องได้ไหม?) |
Would you mind closing the windows? | คุณช่วยปิดหน้าต่างให้หน่อยได้ไหม? | Would you mind closing the windows? It’s starting to rain outside.(คุณช่วยปิดหน้าต่างให้หน่อยได้ไหม? ฝนเริ่มตกแล้ว) |

การบอกปฏิเสธเมื่อไม่อยากถูกรบกวน
หากคุณต้องการปฏิเสธอย่างสุภาพหรือแจ้งให้ผู้อื่นทราบว่าคุณไม่สะดวกให้รบกวน สามารถใช้ประโยคเหล่านี้ได้
วิธีพูด | ความหมาย | ตัวอย่าง |
I don’t want to be disturbed. | ฉันไม่อยากถูกรบกวน | I don’t want to be disturbed while I’m working. (ฉันไม่อยากให้รบกวนตอนกำลังทำงาน) |
Please do not disturb me. | กรุณาอย่ารบกวนฉัน | Please do not disturb me when my door is closed. (กรุณาอย่ารบกวนฉันเมื่อประตูปิด) |
I need some privacy right now. | ฉันต้องการความเป็นส่วนตัวตอนนี้ | I need some privacy right now, can we talk later? (ฉันขอเวลาส่วนตัวตอนนี้ ไว้คุยกันทีหลังได้ไหม?) |
Can we talk later? | เราสามารถคุยกันทีหลังได้ไหม? | I’m in the middle of something. Can we talk later? (ฉันกำลังติดงานอยู่ เราสามารถคุยกันทีหลังได้ไหม?) |
I’m a bit busy at the moment. | ตอนนี้ฉันค่อนข้างยุ่ง | Sorry, I’m a bit busy at the moment. Can I call you back? (ขอโทษนะ ตอนนี้ฉันยุ่งนิดหน่อย ขอโทรกลับได้ไหม?) |
Now is not a good time to talk. | ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมสำหรับการพูดคุย | Now is not a good time to talk. Let’s discuss this later. (ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมสำหรับการพูดคุย ไว้ค่อยคุยกันทีหลังนะ) |
I need to focus right now. | ตอนนี้ฉันต้องมีสมาธิ | I need to focus right now, let’s talk later. (ขอโทษนะ ตอนนี้ฉันต้องมีสมาธิ ไว้ค่อยคุยกันทีหลัง) |
Can you come back later? | คุณสามารถกลับมาหาฉันทีหลังได้ไหม? | I’m in the middle of something. Can you come back later? (ฉันกำลังติดงานอยู่ คุณสามารถกลับมาหาฉันทีหลังได้ไหม?) |
Sorry, but I need some time alone. | ขอโทษนะ แต่ฉันต้องการเวลาอยู่คนเดียว | Sorry, but I need some time alone to think. (ขอโทษนะ แต่ฉันขอเวลาอยู่คนเดียวสักพักเพื่อคิดอะไรหน่อย) |
I’d rather not be interrupted right now. | ตอนนี้ฉันไม่ต้องการให้ขัดจังหวะ | I’d rather not be interrupted right now, let’s talk later. (ตอนนี้ฉันไม่ต้องการให้ขัดจังหวะ ไว้คุยกันทีหลังนะ) |
I have a deadline to meet, so I can’t talk now. | ฉันมีงานที่ต้องส่ง จึงยังไม่สามารถคุยได้ | I have a deadline to meet, so I can’t talk now. Can we discuss this later? (ตอนนี้ฉันมีงานที่ต้องส่ง ขอคุยเรื่องนี้ทีหลังได้ไหม?) |

>>> Read more: 11 วิธี ขออนุญาต ภาษาอังกฤษ สุภาพ พร้อมรูปแบบการตอบกลับที่สุภาพและจดจำง่าย
คำถามที่พบบ่อย
ขอโทษที่รบกวนคืออะไร?
วลี ขอโทษที่รบกวน ในภาษาอังกฤษสามารถพูดได้หลายแบบ เช่น:
- Sorry to bother you. (ขอโทษที่รบกวนคุณ)
- I’m sorry to disturb you. (ขอโทษที่ทำให้คุณไม่สะดวก)
- I apologize for bothering you. (ฉันขอโทษที่ทำให้คุณรำคาญ)
วลีเหล่านี้ใช้เมื่อคุณรู้สึกว่าตัวเองกำลังขัดจังหวะการทำงานหรือทำให้ใครบางคนไม่สะดวกใจ
อย่ารบกวนคืออะไร?
หากต้องการบอกว่า อย่ารบกวน คุณสามารถใช้ประโยคต่อไปนี้:
- Do not disturb. (อย่ารบกวน)
- Leave me alone. (ปล่อยฉันไว้คนเดียว)
- Stop bothering me. (หยุดรบกวนฉัน)
- I need some privacy. (ฉันต้องการความเป็นส่วนตัว)
วลี Do not disturb มักพบเห็นได้บนป้ายในโรงแรมหรือสำนักงาน

ความรบกวนในภาษาอังกฤษคืออะไร?
ความรบกวนในภาษาอังกฤษมีหลายคำที่สามารถใช้ได้ เช่น:
- Bother: ความรำคาญ สิ่งที่ก่อความไม่สะดวก
- ตัวอย่าง: The noise is such a bother. (เสียงรบกวนนี้น่ารำคาญมาก)
- Disturbance: การรบกวน การขัดจังหวะ
- ตัวอย่าง: Any disturbance will not be tolerated during the meeting. (การรบกวนใด ๆ จะไม่ได้รับการยอมรับระหว่างการประชุม)
- Annoyance: สิ่งที่ทำให้รำคาญ ความรำคาญ
- ตัวอย่าง: His constant complaining is an annoyance to everyone. การบ่นของเขาตลอดเวลาทำให้ทุกคนรำคาญ)
ขอโทษที่รบกวน ภาษาอังกฤษ
ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างประโยคสุภาพที่ใช้ขอโทษเมื่อรบกวนผู้อื่น:
- Sorry to bother you, but… (ขอโทษที่รบกวนคุณ แต่…)
- I’m sorry to disturb you. (ขอโทษที่รบกวนคุณ)
- I hope I’m not bothering you. (หวังว่าฉันจะไม่ทำให้คุณรำคาญ)
- I didn’t mean to disturb you. (ฉันไม่ได้ตั้งใจจะรบกวนคุณ)
รบกวนใครบางคนในภาษาอังกฤษ
เมื่อต้องการรบกวนใครบางคน สามารถใช้คำเหล่านี้ได้:
- Bother someone: รบกวนใครบางคน
- ตัวอย่าง: Stop bothering your sister! (หยุดรบกวนน้องสาวของคุณ!)
- Disturb someone: ขัดจังหวะ ทำให้ไม่สะดวก
- ตัวอย่าง: Please don’t disturb me when I’m working. (กรุณาอย่ารบกวนฉันตอนที่ฉันกำลังทำงาน)
- Annoy someone: ทำให้รำคาญ
- ตัวอย่าง: His attitude annoys me a lot. (ทัศนคติของเขาทำให้ฉันรำคาญมาก)
- Interrupt someone: ขัดจังหวะ
- ตัวอย่าง: Don’t interrupt me when I’m speaking. (อย่าขัดจังหวะฉันตอนที่ฉันกำลังพูด)
คนที่รบกวน ภาษาอังกฤษคืออะไร?
คำที่ใช้บรรยายคนที่รบกวนในภาษาอังกฤษ ได้แก่
- A nuisance: คนที่ชอบรบกวนหรือทำให้คนอื่นรำคาญ
- ตัวอย่าง: That guy is such a nuisance. (ผู้ชายคนนั้นน่ารำคาญจริงๆ)
- A troublemaker: คนที่ชอบก่อปัญหาหรือสร้างความวุ่นวาย
- ตัวอย่าง: He new employee is a troublemaker. (พนักงานใหม่เป็นคนชอบก่อปัญหา)
- An annoyance: คนที่ทำให้คนอื่นรู้สึกรำคาญ
- ตัวอย่าง: She’s becoming an annoyance to everyone. (เธอกำลังกลายเป็นคนที่ทำให้ทุกคนรำคาญ)
ความน่ารำคาญ ภาษาอังกฤษคืออะไร?
คำที่ใช้บรรยายความน่ารำคาญหรือสิ่งที่ก่อความไม่สะดวกในภาษาอังกฤษ ได้แก่
- Bothersome: สิ่งที่ก่อความรำคาญ
- ตัวอย่าง: His questions are quite bothersome. (คำถามของเขาค่อนข้างน่ารำคาญ)
- Annoying: สิ่งที่ทำให้รำคาญ
- ตัวอย่าง: That noise is really annoying. (เสียงนั้นน่ารำคาญจริงๆ)
- Inconvenient: สิ่งที่ก่อให้เกิดความไม่สะดวก
- ตัวอย่าง: This schedule is very inconvenient for me. (ตารางเวลานี้ไม่สะดวกสำหรับฉันเลย)
- Disruptive: สิ่งที่ทำให้เกิดการขัดจังหวะ
- ตัวอย่าง: His behavior is disruptive in class. (พฤติกรรมของเขาทำให้การเรียนในชั้นขาดความต่อเนื่อง)

Bother คืออะไร?
Bother เป็นคำกริยาที่หมายถึง รบกวน หรือ ทำให้ยุ่งยาก ซึ่งสามารถใช้ได้หลายบริบท เช่น
- Don’t bother me while I’m studying. (อย่ารบกวนฉันตอนที่ฉันกำลังเรียน)
- Does it bother you if I smoke? (คุณจะรำคาญไหมถ้าฉันสูบบุหรี่)
- I don’t want to bother you with my problems. (ฉันไม่อยากรบกวนคุณด้วยปัญหาของฉัน)
วิธีพูด ขอโทษที่รบกวน ภาษาอังกฤษ สุภาพ
หากต้องการกล่าวขอโทษอย่างสุภาพเมื่อรบกวนผู้อื่น คุณสามารถใช้ประโยคเหล่านี้
- I sincerely apologize for disturbing you. (ฉันขออภัยอย่างจริงใจที่รบกวนคุณ)
- I regret any inconvenience I may have caused. (ฉันเสียใจต่อความไม่สะดวกที่อาจเกิดขึ้นจากฉัน)
- I hope I didn’t interrupt anything important. (ฉันหวังว่าฉันไม่ได้ขัดจังหวะสิ่งสำคัญของคุณ)
- My apologies for bothering you at this time. (ขออภัยที่รบกวนคุณในเวลานี้)
วิธีพูด รบกวนช่วย ภาษาอังกฤษ
เมื่อต้องการขอความช่วยเหลือจากใครบางคนอย่างสุภาพ คุณสามารถใช้ประโยคต่อไปนี้
- Could you please help me with this? (คุณช่วยฉันกับสิ่งนี้หน่อยได้ไหม)
- Would you mind helping me? (คุณจะรังเกียจไหมถ้าจะช่วยฉัน)
- Can you do me a favor? (คุณช่วยฉันทำอะไรบางอย่างได้ไหม)
- I’d appreciate it if you could help me. (ฉันจะขอบคุณมากถ้าคุณช่วยฉันได้)
- If it’s not too much trouble, could you help me? (ถ้ามันไม่เป็นการรบกวนเกินไป คุณช่วยฉันหน่อยได้ไหม)

การใช้คำที่เกี่ยวกับการรบกวน ภาษาอังกฤษอย่างถูกต้องจะช่วยให้คุณสื่อสารได้อย่างสุภาพและเป็นธรรมชาติมากขึ้นในทุกสถานการณ์ หากต้องการฝึกออกเสียงให้เหมือนเจ้าของภาษาและพัฒนาการตอบสนองภาษาอังกฤษได้รวดเร็ว ลองใช้แพ็กเกจพรีเมียมของ ELSA Speak ทันที เทคโนโลยี AI ของ ELSA Speak จะช่วยให้คุณพัฒนาทักษะการสื่อสารได้ในเวลาอันสั้น
คุณเคยรู้สึกลำบากใจไหม เมื่อคุณอยากแสดงความคิดของตัวเองเป็นภาษาอังกฤษให้มันชัดเจน การที่คุณใช้วลีชี้ถึงสาเหตุและผลสามารถเป็นกุญแจช่วยให้คุณมั่นใจมากขึ้นในการสื่อสาร ในบทความนี้ เราจะมาเรียนรู้เกี่ยวกับโครงสร้าง ไวยากรณ์ที่สำคัญ เช่น As a result และคำอื่นๆ ที่ใช้แทน นอกจากนี้ ELSA Speak จะเป็นเครื่องมือช่วยที่ทรงพลัง ที่จะช่วยให้คุณพัฒนาการออกเสียงและเพิ่มทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ
As a result of แปลว่าอะไร?
คำนิยาม
as a result เป็นวลีที่ใช้เพื่อแสดงผลลัพธ์ของการกระทำ เหตุการณ์ หรือสถานการณ์ใดๆ วลีนี้มักปรากฏอยู่ตอนต้นหรือกลางประโยค เพื่อช่วยให้ผู้อ่านเข้าใจความเชื่อมโยงระหว่างสาเหตุและผลลัพธ์ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น การใช้ as a result ทำให้ประโยคมีความต่อเนื่องและเข้าใจได้ง่ายขึ้น
ตัวอย่างประโยคกับ as a result of
- As a result of the heavy rain, the match was postponed. The players were disappointed. (เนื่องจากฝนตกหนัก การแข่งขันจึงถูกเลื่อนออกไป นักเตะรู้สึกผิดหวังมาก)
- She studied very hard for the exam. As a result, she scored high. (เธอตั้งใจเรียนอย่างหนักสำหรับการสอบ ดังนั้นเธอจึงได้คะแนนสูง)

โครงสร้างและวิธีใช้ As a result ในประโยคภาษาอังกฤษ
โครงสร้างทั่วไปของ As a result ในประโยค
โครงสร้าง As a result ใช้เพื่อเชื่อมโยงความสัมพันธ์ระหว่างสาเหตุและผลลัพธ์ของสองเหตุการณ์ ด้านล่างนี้คือวิธีการใช้งานหลักของ As a result:
วิธีใช้ | โครงสร้าง | ตัวอย่าง | แปล |
As a result ใช้ขึ้นต้นประโยค | As a result, [อนุประโยคแสดงผลลัพธ์]. | The weather was cold. As a result, many people stayed home. | อากาศหนาว ผลที่ตามมาคือมีหลายคนอยู่บ้าน |
As a result อยู่กลางประโยค | [อนุประโยค 1]; as a result, [อนุประโยค 2]. | The recent drought has led to a decrease in agricultural production; as a result, food prices have risen. | ฤดูแล้งเมื่อไม่นานมานี้ทำให้ผลผลิตทางการเกษตรลดลง ผลที่ตามมาคือ ราคาสินค้าอาหารเพิ่มสูงขึ้น |
As a result กับ and | [อนุประโยค 1], and as a result, [อนุประโยค 2]. | The new law was passed, and as a result, there was a decrease in crime rate. | กฎหมายใหม่ถูกบังคับใช้ และผลที่ตามมาคือ อัตราการเกิดอาชญากรรมลดลง |

วิธีใช้ As a result ในภาษาอังกฤษ
เรามาดู How to use as a result in sentences หรือว่า As a result การใช้ ในตารางด้านล่างนี้ พร้อมกับ as a result ตัวอย่างประโยค
วิธีใช้ | ตัวอย่าง | แปล |
เชื่อมโยงสองอนุประโยคที่มีความสัมพันธ์แบบเหตุและผล | The student studied hard; as a result, he got good grades. | นักเรียนคนนั้นขยันเรียน ผลที่ตามมาคือเขาได้คะแนนสูง |
ข้อสรุปเมื่อเหตุการณ์ดำเนินไปจนถึงผลลัพธ์สุดท้าย | The negotiations were tough, but they finally reached a compromise, and, as a result, they launched innovative products that captured the market. | การเจรจาเป็นไปอย่างยากลำบาก แต่ในที่สุดพวกเขาก็สามารถประนีประนอมกันได้ และผลที่ตามมาคือ พวกเขาได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์นวัตกรรมที่ครองตลาด |

แยกแยะระหว่าง As a result และ As a result of
โครงสร้าง | As a result | As a result of |
ความหมาย | ดังนั้นผลที่ตามมาคือด้วยเหตุนี้ | เพราะว่าเนื่องจาก |
หน้าที่ | ชี้ให้เห็นผลลัพธ์ของสาเหตุที่กล่าวมา | อธิบายสาเหตุที่นำไปสู่เหตุการณ์ |
สูตร | อนุประโยคสาเหตุ As a result, อนุประโยคผลลัพธ์อนุประโยคสาเหตุ, as a result, อนุประโยคผลลัพธ์อนุประโยคสาเหตุ, and as a result, อนุประโยคผลลัพธ์ | As a result of + คำนาม / V-ing, อนุประโยคผลลัพธ์อนุประโยคผลลัพธ์, as a result of + คำนาม / V-ing |
วิธีใช้ | ใช้กับอนุประโยคหนึ่ง | ใช้ร่วมกับคำนามหรือกริยาในรูป Gerund (V-ing) |
บริบทการใช้ | เหมาะสำหรับทั้งบริบททางการและไม่เป็นทางการ | มักใช้ในบริบทที่เป็นทางการมากกว่า |
ตัวอย่าง | He studied hard. As a result, he passed the exam. (เขาตั้งใจเรียนอย่างหนัก ดังนั้นเขาจึงสอบผ่าน) | As a result of studying hard, he passed the exam. (เพราะว่าเขาตั้งใจเรียนอย่างหนัก เขาจึงสอบผ่าน) |

คำและวลีที่มีความหมายคล้ายๆ As a result (As a result synonym)
วลี | ตัวอย่าง | แปล |
Consequently | The weather was terrible. Consequently, the event was canceled. | สภาพอากาศแย่มาก ดังนั้นงานอีเวนต์จึงถูกยกเลิก |
Therefore | She was late. Therefore, she missed the bus. | เธอมาสาย ดังนั้นเธอจึงพลาดรถบัส |
As a consequence | He didn’t study. As a consequence, he failed the exam. | เขาไม่ได้เรียน ดังนั้นเขาจึงสอบตก |
Thus | The proposal was rejected. Thus, we need to come up with a new plan. | ข้อเสนอนี้ถูกปฏิเสธ ดังนั้นเราจึงต้องนำเสนอแผนใหม่ |
For this reason | He worked hard. For this reason, he earned a promotion. | เขาทำงานอย่างหนัก ด้วยเหตุนี้เขาจึงได้รับการเลื่อนตำแหน่ง |
Hence | She was not feeling well. Hence, she stayed home. | เธอรู้สึกไม่สบาย ดังนั้นเธอจึงอยู่บ้าน |

คำถามที่พบบ่อย
as a result of ตามมาด้วยคำไหน?
As a result of ตามด้วยคำนามหรือกลุ่มคำนาม
คำที่เหมาะเพื่อใช้แทน as a result?
What is a better word for as a result? มีคำหลายคำที่ดีกว่าและสามารถใช้แทน “as a result” ได้แก่ “therefore”, “thus”, “consequently” และ “hence”
as a result of + ving ได้ไหม?
คำตอบคือ “ได้”, As a result of” สามารถตามด้วยรูป V-ing (as a result of + กริยาเติม ing) เพื่อแสดงสาเหตุได้

การใช้วลีอย่าง “As a result” และคำทดแทนอื่นๆ ไม่เพียงช่วยให้เราสื่อความหมายได้อย่างชัดเจนและลื่นไหล แต่ยังช่วยพัฒนาทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษอีกด้วย ELSA Speak จะเป็นเพื่อนร่วมทางที่ยอดเยี่ยมในเส้นทางนี้ โดยช่วยให้ผู้เรียนออกเสียงได้อย่างถูกต้องและมั่นใจยิ่งขึ้นในการใช้ภาษา ลองสัมผัส แพ็กเกจ Premium กับฟีเจอร์อัปเกรดใหม่ แต่ราคายังคงเดิม เพื่อพัฒนาภาษาอังกฤษของคุณให้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น