การสนทนากับลูกค้าในภาษาอังกฤษถือเป็นหัวข้อที่มีประโยชน์อย่างยิ่งเสมอ บทความต่อไปนี้จาก ELSA Speak จะแนะนำให้ผู้เรียนเกี่ยวกับตัวอย่างประโยค บทสนทนา ขาย ของ ภาษา อังกฤษ และคำศัพท์เพื่อช่วยให้ผู้เรียนสื่อสารได้อย่างมั่นใจและมีประสิทธิภาพ หลีกเลี่ยงอุปสรรคในการช้อปปิ้ง
ตัวอย่างประโยคสื่อสารเรื่องการซื้อ-ขายสินค้า
ตัวอย่างและบทสนทนาภาษาอังกฤษ ต้อนรับลูกค้า
ตัวอย่างคำถามเกี่ยวกับความชอบของลูกค้า | ความหมาย |
What types of products are you interested in? Are you looking for something specific? | คุณสนใจสินค้าประเภทไหนคะ คุณกำลังมองหาอะไรที่เฉพาะเจาะจงไหมคะ |
Could you tell me a bit about your preferences? It will help me find the perfect product for you. | คุณช่วยบอกฉันเกี่ยวกับความชอบของคุณหน่อยได้ไหมคะ เผื่อฉันจะได้ช่วยค้นหาผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคุณค่ะ |
Are there any particular items you’re looking for today, or would you like some recommendations? | คุณกำลังมองหาผลิตภัณฑ์แบบไหนอยู่ไหมหรือคุณต้องการคำแนะนำไหมคะ |
What brings you shopping today? Is there something specific you have in mind? | วันนี้คุณมาที่นี่เพื่อซื้ออะไรคะ มีผลิตภัณฑ์แบบไหนที่คุณนึกถึงไหมคะ |
>>> Read more:
สอบก่อนเข้าฟรี
- ทักทายภาษาอังกฤษ : คำถาม คำตอบกลับ ทุกสถานการณ์ที่ควรรู้
- 160+ วิธีบอก ขอให้เป็นวันที่ดี ภาษาอังกฤษ (have a nice day) ให้ทุกคน
ตัวอย่างประโยคนำเสนอสินค้าในภาษาอังกฤษ
ตัวอย่างประโยคนำเสนอสินค้าในภาษาอังกฤษ | ความหมาย |
Hello, may I help you find something? | สวัสดีค่ะ ฉันช่วยคุณหาอะไรได้ไหมคะ |
Are you looking for anything specific today? | วันนี้คุณต้องการซื้ออะไรคะ |
Would you like to try this on/see a demo? | คุณอยากลองดู/ลองใช้ผลิตภัณฑ์นี้ไหมคะ |
Do you have any questions about this product? | คุณมีคำถามอะไรเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์นี้ไหมคะ |
Is there a particular size/ color you’re interested in? | คุณอยากได้ไซซ์อะไรคะ |
This item is currently on sale. Would you like to take advantage of that? | สินค้าชิ้นนี้กำลังลดราคา คุณต้องการซื้อด้วยข้อเสนอนี้ไหมคะ |
We offer a warranty for this product. Are you interested? | เรามีการรับประกันสำหรับผลิตภัณฑ์นี้ คุณสนใจไหมคะ |
Do you prefer to pay with cash or card? | คุณต้องการชำระเงินด้วยเงินสดหรือบัตรคะ |
Would you like a bag for your purchase? | เอาถุงไหมคะ |
Can I interest you in any accessories to go with that? | ฉันขอเสนออุปกรณ์เสริมที่ใช้ร่วมกับนั่นได้ไหมคะ |
We have a special promotion running today. Would you like to hear about it? | วันนี้เรามีโปรโมชั่นพิเศษ คุณอยากได้ข้อมูลไหมคะ |
Our store has a loyalty program. Would you like to sign up? | ร้านเรามีโปรแกรมสําหรับลูกค้า Loyalty คุณอยากลงทะเบียนไหมคะ |
This item is our bestseller. Would you like to know why? | สินค้าชิ้นนี้เป็นสินค้าขายดีของเรา คุณอยากรู้ว่าทำไมไหมคะ |
We offer free shipping for purchases over a certain amount. Would you like to take advantage of that? | เราเสนอการจัดส่งฟรี เมื่อสั่งซื้อเกินจำนวนที่กำหนด คุณอยากเอาไหมคะ |
Thank you for shopping with us. Have a great day! | ขอขอบคุณสำหรับการสั่งซื้อของคุณ ขอให้วันนี้เป็นวันที่ดีสําหรับคุณค่ะ |
ตัวอย่างประโยคแนะนำสินค้าที่คล้ายกัน
ตัวอย่างประโยคแนะนำสินค้าที่คล้ายกัน | ความหมาย |
If you’re interested in that dress, you might also like this one with a similar style. | ถ้าคุณสนใจชุดกระโปรงนั้น คุณอาจจะชอบชุดนี้ที่มีสไตล์คล้ายกันก็ได้ค่ะ |
This blender is popular among our customers. Would you like to see a similar model with more features? | เครื่องปั่นนี้เป็นที่นิยมของลูกค้าเรา คุณอยากเห็นรุ่นที่คล้ายกับรุ่นนี้พร้อมคุณสมบัติเพิ่มเติมไหมคะ |
I see you’re considering this camera. We also have a similar model that’s known for its excellent low-light performance. | ฉันเห็นคุณกำลังพิจารณากล้องนี้ เรายังมีกล้องตัวอื่นที่คล้ายกับกล้องนี้ ซึ่งขึ้นชื่อในด้านการถ่ายภาพในสภาวะแสงน้อยได้ดีกว่าด้วยนะคะ |
If you like that coffee maker, we have another one from the same brand that’s equally impressive. | ถ้าคุณชอบเครื่องชงกาแฟตัวนั้น เรามีอีกตัวจากยี่ห้อเดียวกันที่น่าประทับใจเช่นกันนะคะ |
ตัวอย่างประโยคแนะนําที่ตั้งสินค้าในภาษาอังกฤษ
ตัวอย่างประโยคแนะนําที่ตั้งสินค้าในภาษาอังกฤษ | ความหมาย |
Please follow me. I will take you to the display of this product. | โปรดติดตามฉันค่ะ ฉันจะพาคุณไปที่ชั้นวางสินค้าชิ้นนี้นะคะ |
The fitting room is in the left corner of this room. | ห้องแต่งตัวอยู่ที่มุมซ้ายของห้องนี้ |
This model is displayed on the top floor of the second shelf. | โมเดลนี้จัดแสดงอยู่ที่ชั้นบนสุดของชั้นวางที่สอง |
ตัวอย่างประโยคแนะนําให้รับบริการเพิ่มเติม
ตัวอย่างประโยคแนะนําให้รับบริการเพิ่มเติม | ความหมาย |
Would you like to add an extended warranty to your purchase for added protection? | คุณต้องการเพิ่มการรับประกันเพิ่มเติมให้กับการซื้อของคุณ เพื่อเพิ่มการคุ้มครองไหมคะ |
Can I offer you our premium delivery service for faster shipping? | ฉันสามารถเสนอบริการจัดส่งแบบพรีเมียม เพื่อการจัดส่งที่เร็วขึ้นได้ไหมคะ |
We provide installation services for our products at an additional cost. | เราให้บริการติดตั้งผลิตภัณฑ์ของเรา โดยมีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม |
If you purchase a computer, we can offer technical support packages as well. | ถ้าคุณซื้อคอมพิวเตอร์ เราจะจัดเตรียมแพ็คเกจการสนับสนุนด้านเทคนิคไว้ให้ค่ะ |
ตัวอย่างคำถามเกี่ยวกับไซซ์หรือสี
ตัวอย่างคำถามเกี่ยวกับไซซ์หรือสี | ความหมาย |
Do you need this in a different size or color? | คุณอยากได้ไซซ์หรือสีอื่นไหมคะ |
Is there a specific size or color you’re looking for? | มีไซซ์หรือสีเฉพาะที่คุณกำลังมองหาไหมคะ |
Would you like to see this dress in another color? | คุณอยากเห็นชุดกระโปรงนี้สีอื่นไหมคะ |
We have this model available in various sizes. | เรามีรุ่นนี้ให้เลือกหลายขนาดเลยค่ะ |
>>> Read more: การค้นพบที่น่าสนใจเกี่ยวกับสีในภาษาอังกฤษ
ตัวอย่างประโยคตอบสนองเมื่อลูกค้าบ่นเรื่องราคาแพง
ตัวอย่างประโยคตอบสนองเมื่อลูกค้าบ่นเรื่องราคาแพง | ความหมาย |
I’m sorry. I can’t give you a discount! | ขอโทษค่ะแต่ราคาลดไม่ได้ค่ะ |
It is on sale for 30%. | สินค้าชิ้นนี้ลด 30% อยู่ค่ะ |
I’m sorry but I can’t make it any cheaper. | ขอโทษค่ะ แต่มันถูกกว่านี้ไม่ได้แล้วค่ะ |
Our prices are fixed. | ราคานี้คือราคาทุนแล้วค่ะ |
Now I have lost my profit. Give me $80. | คิดแค่ 80 บาทล่ะกัน ฉันไม่ได้กําไรแล้วนะ |
We are charging reasonably for you. | เราคิดราคาแบบสมเหตุสมผลให้คุณแล้วนะคะ |
This is our lowest price, I can’t do more reduction. | ลดสุด ๆ ที่จะลดได้แล้วค่ะ ไม่สามารถลดได้อีกแล้วค่ะ |
I don’t think you can get such favorable prices from anywhere else. | ฉันคิดว่าคุณจะไม่ได้รับราคาที่ดีเช่นนี้จากที่อื่นหรอกค่ะ |
ELSA Pro ไม่จำกัด
14,895 บาท -> 2,744 บาท
ELSA Premium 1 ปี
8,497 บาท -> 4,390 บาท
ตัวอย่างคำถามเกี่ยวกับราคาพิเศษ
ตัวอย่างคำถามเกี่ยวกับราคาพิเศษ | ความหมาย |
Are you aware of our current promotions? We have a 20% discount on all items. | คุณทราบถึงโปรโมชั่นในปัจจุบันของเราไหมคะ เรามีส่วนลด 20% สำหรับทุกสินค้าเลยค่ะ |
Do you offer any discounts for regular customers? | คุณมีส่วนลดสำหรับลูกค้าประจำไหม |
Is there a special price for this item today? | วันนี้สินค้าชิ้นนี้มีราคาพิเศษไหม |
We have a buy one, get one free offer on selected items. | เรามีโปรโมชั่นซื้อ 1 แถม 1 สำหรับสินค้าบางชนิด |
>>> Read more: ลดราคาภาษาอังกฤษว่าอย่างไร? รวบรวมคําศัพท์ ประโยคคําตอบพื้นฐานและสุภาพที่สุด
ตัวอย่างประโยคเตือนลูกค้าเมื่อทำการซื้อ
ตัวอย่างประโยคเตือนลูกค้าเมื่อทำการซื้อ | ความหมาย |
Please do not try the model on sale. | กรุณาอย่าลองรุ่นที่ลดราคาอยู่ค่ะ |
Please keep your bags in the lock before entering the shop. | กรุณาเก็บกระเป๋าของคุณไว้ในล็อคเกอร์ก่อนเข้าร้านค่ะ |
Please do not bring the shoes into the shop. | กรุณาอย่านำรองเท้าเข้าร้านค่ะ |
I’m sorry, but this area is for staff only. | ขอโทษค่ะ แต่บริเวณนี้มีไว้สำหรับเจ้าหน้าที่เท่านั้น |
I’m sorry but you can bring only 5 items into the fitting room at a time. | ขอโทษค่ะ แต่คุณสามารถนำสิ่งของเข้าห้องลองได้ครั้งละ 5 ชิ้นเท่านั้นค่ะ |
ตัวอย่าง ประโยคขายของออนไลน์ ภาษาอังกฤษ
ตัวอย่าง ประโยคขายของออนไลน์ ภาษาอังกฤษ | ความหมาย |
The products are on sale at the moment. | สินค้ากำลังลดราคาอยู่ตอนนี้ค่ะ |
Today is the last day of promotion. | วันนี้เป็นวันสุดท้ายของโปรโมชั่นค่ะ |
This promotion ends tomorrow. | โปรโมชั่นนี้สิ้นสุดพรุ่งนี้ค่ะ |
We have a special offer for you. | เรามีข้อเสนอพิเศษสำหรับคุณ |
Today’s special deal is… | ข้อเสนอพิเศษวันนี้คือ… |
If you buy one, the second one has a … percent discount. | ถ้าคุณซื้อหนึ่งอัน อันที่สองจะมีส่วนลด … เปอร์เซ็นต์ |
ตัวอย่าง ประโยคสั่งซื้อสินค้า ภาษาอังกฤษ
ตัวอย่าง ประโยคสั่งซื้อสินค้า ภาษาอังกฤษ | ความหมาย |
Do you have any recommendations for [product]? | คุณมีข้อเสนอแนะอะไรสำหรับ [ผลิตภัณฑ์] ไหม |
Does this come in a different size or color? | มีไซซ์หรือสีอื่นไหม |
Is there a larger/smaller size available? | มีไซซ์ที่ใหญ่กว่า/เล็กกว่านี้ไหม |
Can I see this in a different color, please? | ฉันสามารถดูอันนี้เป็นสีอื่นได้ไหม |
Could you show me how this works? | คุณช่วยแสดงวิธีใช้ผลิตภัณฑ์นี้ให้ฉันดูได้ไหม |
Can I try this on? | ฉันลองใส่ได้ไหม |
ตัวอย่างประโยคจบการทําธุรกรรม
ตัวอย่างจบการทําธุรกรรม | ความหมาย |
Thank you for choosing us! Have a great day! | ขอบคุณที่เลือกพวกเรา ขอให้วันนี้เป็นวันที่ดีของคุณนะคะ |
We appreciate your business! Please come back soon. | เรารู้สึกขอบคุณมากสำหรับการสนับสนุนของคุณ ได้โปรดกลับมานะคะ |
If you have any more questions, feel free to ask. | ถ้าคุณมีคำถามอะไรเพิ่มเติม ถามได้เลยค่ะ |
Have a wonderful day, and see you next time! | ขอให้วันนี้เป็นวันที่ดีของคุณ แล้วเจอกันใหม่ค่ะ |
บทสนทนาขายของภาษาอังกฤษ
มาเรียนรู้บทสนทนาภาษาอังกฤษ ซื้อของ สั้นๆที่ใช้บ่อยที่สุดกับ ELSA Speak ข้างล่างกันนะบทสนทนาเกี่ยวกับการต้อนรับลูกค้าในภาษาอังกฤษ
บทสนทนาเกี่ยวกับการต้อนรับลูกค้าในภาษาอังกฤษ
บทสนทนาเกี่ยวกับการต้อนรับลูกค้าในภาษาอังกฤษ | ความหมาย |
Hello! Welcome to our shop. How can I assist you today? | สวัสดีค่ะ ยินดีต้อนรับสู่ร้านของเรา วันนี้ให้ฉันช่วยอะไรดีคะ |
It’s great to have you here! How may I help you today? | ยินดีให้บริการค่ะ วันนี้ให้ฉันช่วยอะไรดีคะ |
Welcome! What brings you to our store today? | ยินดีต้อนรับค่ะ อะไรทำให้คุณมาที่ร้านของเราวันนี้คะ |
Hi there! We’re delighted to have you as our guest today. How can we assist you? | สวัสดีค่ะ เรายินดีให้บริการคุณวันนี้ค่ะ ให้เราช่วยอะไรดีคะ |
บทสนทนาเกี่ยวกับการขายเสื้อผ้าในภาษาอังกฤษ
Sales: Hello sir, how can I help you? (สวัสดีค่ะ ให้ฉันช่วยอะไรดีคะ)
Customer: I’m just looking around. I will call you if needed. (ฉันแค่กําลังเดินดูรอบ ๆ ถ้ามีอะไรจะเรียกคุณนะ)
Sales: Yeah, do not hesitate to let me know if you have questions. (ได้เลยค่ะ ถ้ามีคําถามอะไรสามารถเรียกฉันได้เลยค่ะ)
Customer: Excuse me, where is the fitting room? I want to try it on. (ขอโทษค่ะ ห้องลองเสื้ออยู่ไหนคะ ฉันอยากลองชุดนี้)
Sales: It is in the right corner of the room, you just need to go straight. (มันตั้งอยู่มุมขวาของห้อง เดินตรงไปเลยค่ะ)
Customer: Thank you so much, I will take this one. And I’ll pay by card. (ขอบคุณค่ะ ฉันเอาชุดนี้และจะชำระด้วยบัตร)
Sales: Okay it is done. Thank you so much and have a nice day. (เรียบร้อยแล้วค่ะ ขอบคุณค่ะ ขอให้วันนี้เป็นวันที่ดีสําหรับคุณนะคะ)
บทสนทนาเกี่ยวกับการขายอาหารและเครื่องดื่มในภาษาอังกฤษ
Sales: Good afternoon, how can I help you? (สวัสดีตอนบ่ายค่ะ มีอะไรให้ช่วยไหมคะ)
Customer: Yes, I want to buy three cans of beer and a plate of grilled meat. (ผมเอาเบียร์สามกระป๋องและเนื้อย่างหนึ่งจานครับ)
Sales: Alright, do you want anything else? (ค่ะ เอาอะไรเพิ่มอีกไหมคะ)
Customer: Let me see…, one more grilled lobster, please. (ขอดูหน่อย…ล็อบสเตอร์ย่างอีกตัวหนึ่งนะครับ)
Sales: Ok, that will be $40 altogether. Please wait for a bit while I prepare your order. (ค่ะ ทั้งหมด $40 ค่ะ กรุณารอสักครู่ในขณะที่ฉันเตรียมคำสั่งซื้อของคุณนะคะ)
Customer: Ok, thank you. (ได้ครับ ขอบคุณครับ)
บทสนทนาเกี่ยวกับการขายของในซูเปอร์มาร์เก็ตในภาษาอังกฤษ
บทสนทนาเกี่ยวกับการหาสินค้า สอบถามราคา และชำระเงิน
Customer: Good morning. (สวัสดีตอนเช้าครับ)
Shop assistant: Hi. Do you need any help? (สวัสดีค่ะ คุณต้องการความช่วยเหลืออะไรไหมคะ)
Customer: Yes, please. I need some apples and bananas. (ผมต้องการแอปเปิ้ลและกล้วยครับ)
Shop assistant: Sure, the apples are right here. We have red and green apples. What type do you prefer? (แอปเปิ้ลอยู่ทางนี้ เรามีแอปเปิ้ลสีแดงและแอปเปิ้ลสีเขียว คุณต้องการประเภทไหน)
Customer: I like red apples. How much are they? (ผมชอบแอปเปิ้ลสีแดง เท่าไหร่ครับ)
Shop assistant: Red apples are $1.99 per kilo. And for bananas, they are $0.79 per kilo. (แอปเปิ้ลแดง 1.99 ดอลลาร์ต่อกิโลกรัม กล้วย 0.79 ดอลลาร์ต่อกิโลกรัมค่ะ)
Customer: Okay, I’ll take two kilos of red apples and a bunch of bananas. How much is that? (โอเค เอาแอปเปิ้ลสีแดง 2 กิโลกับกล้วยหนึ่งพวง ทั้งหมดเท่าไหร่นะ)
Shop assistant: Let me check. Two kilos of apples will be $3.98, and the bananas will be $1.20. So, in total, it’s $5.18. (ขอดูก่อนนะคะ แอปเปิ้ลสองกิโลกรัมราคา 3.98 ดอลลาร์ และกล้วยราคา 1.20 ดอลลาร์ ทั้งหมด 5.18 ดอลลาร์ ค่ะ)
Customer: Great, thanks. Can I also get a small watermelon? (โอเค ขอบคุณครับ ผมเอาแตงโม 1 ลูกด้วยได้ไหมครับ)
Shop assistant: Certainly! The watermelons are in the next aisle. They’re $4.99 each. (ได้สิคะ แตงโมอยู่ในทางเดินช่องถัดไป ราคาตัวละ 4.99 ดอลลาร์ค่ะ)
Customer: Perfect. I’ll take one of those too. So, the total is $10, right? (เยี่ยเลย ผมจะเอาอันนั้นด้วย ทั้งหมด 10 ดอลลาร์ใช่ไหมครับ)
Shop assistant: Yes, exactly. Would you like to pay with cash or card? (ใช่ค่ะ คุณจะจ่ายเงินสดหรือเครดิตบัตรคะ)
Customer: I’ll pay with my card. Thank you so much for your help! (บัตรครับ ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือนะครับ)
Shop assistant: You’re welcome. Have a wonderful day! (ด้วยความยินดีค่ะ ขอให้มีวันที่ดีค่ะ)
บทสนทนาเกี่ยวกับการถามสถานที่ในบริเวณนั้น
Customer: Hi, excuse me! I’m looking for the cloakroom. Could you tell me where I can leave my belongings? (ขอโทษค่ะ ฉันกำลังหาที่เก็บสัมภาระของฉัน คุณช่วยบอกหน่อยได้ไหมคะ ว่าฉันสามารถวางของส่วนตัวได้ที่ไหนคะ)
Staff: Of course! The cloakroom is just near the entrance, to your right. You can store your bags and personal items there before you shop. (ได้สิครับ ห้องเก็บของส่วนตัวตั้งอยู่ใกล้ทางเข้าทางด้านขวามือของคุณ คุณสามารถฝากกระเป๋าและของส่วนตัวไว้ที่นั่นก่อนช้อปปิ้งครับ)
Customer: Great, thanks! By the way, where shopping carts are? I couldn’t find any near the entrance. (โอเค ขอบคุณค่ะ ว่าแต่ตะกร้าสินค้าอยู่ที่ไหนล่ะคะ ฉันไม่เห็นมันใกล้ทางเข้าเลย)
Staff: They are in the cart area just outside the store, next to the main entrance. (มันอยู่ในบริเวณที่จอดรถของรถเข็นเด็กด้านนอกร้าน ติดกับทางเข้าหลักครับ)
Customer: Oh, I must have missed it. And is there a designated area to return the carts after use? (โอ้ ฉันดูผิดไปแล้ว และมีพื้นที่กำหนดในการคืนรถเข็นหลังใช้ไหมคะ)
Staff: Yes, indeed. We have a cart return area near the exit. Just follow the signs, and you can leave the cart there once you’re done. (มีครับ เรามีจุดลงรถเข็นใกล้ทางออก แค่ต้องเดินตามป้ายบอกทาง คุณสามารถนํารถเข็นวางไว้ที่นั่นได้ เมื่อใช้เสร็จแล้วครับ)
Customer: Got it, thank you so much for your help! (เข้าใจแล้วค่ะ ขอบคุณมากสำหรับความช่วย
เหลือนะคะ)
Staff: You’re welcome! (ด้วยความยินดีครับ)
บทสนทนาเกี่ยวกับการใช้เคาน์เตอร์ชำระเงินอัตโนมัติ
Customer: Excuse me, could you help me find the dairy section? (ขอโทษค่ะ คุณช่วยหาโซนขายผลิตภัณฑ์จากนมได้ไหมคะ)
Staff: Of course! The dairy aisle is just at the back of this floor, on your left. You’ll find milk, yogurt, and cheese there. (ได้สิค่ะ โซนขายผลิตภัณฑ์จากนมตั้งอยู่ด้านหลังชั้นนี้ ทางซ้ายมือของคุณ คุณจะเห็นนม โยเกิร์ต และชีสอยู่ที่นั่นค่ะ)
Customer: Great, thanks! By the way, could you explain how to use the new self-checkout machines? (ขอบคุณมากค่ะ ว่าแต่คุณช่วยอธิบายวิธีใช้เครื่องชำระเงินด้วยตนเองแบบใหม่ได้ไหมคะ)
Staff: Certainly! It’s easy. First, scan your items one by one. Place them in the bagging area after scanning. If you have any product that cannot be scanned, use the touchscreen to enter the item code. When you’re done, select “Finish and Pay” on the screen. (ได้สิคะ มันค่อนข้างง่าย ขั้นแรก ให้สแกนแต่ละผลิตภัณฑ์ทีละอัน วางไว้ในพื้นที่บรรจุภัณฑ์หลังสแกน ถ้าคุณมีผลิตภัณฑ์ที่ไม่สามารถสแกนได้ ให้ใช้หน้าจอสัมผัสเพื่อป้อนรหัสรายการ เมื่อเสร็จแล้ว ให้เลือก “เสร็จสิ้นและชำระเงิน” บนหน้าจอค่ะ)
Customer: What about payment options? (แล้ววิธีการชำระเงินล่ะคะ)
Staff: You can pay with cash, card, or mobile payment. Insert cash into the machine or insert your card into the card reader. Follow the on-screen instructions for card payments. (คุณสามารถชำระด้วยเงินสด บัตร หรือผ่านมือถือ ใส่เงินเข้าไปในเครื่องหรือใส่บัตรของคุณเข้าไปในเครื่องอ่านบัตร และปฏิบัติตามคำแนะนำบนหน้าจอเพื่อชำระเงินด้วยบัตรค่ะ)
Customer: And what if I have a coupon or want to use my loyalty card? (แล้วถ้าฉันมีคูปองและอยากใช้บัตรสะสมคะแนนล่ะคะ)
Staff: At the end of your transaction, the machine will prompt you to scan or insert any coupons. If you have a loyalty card, scan it before completing your purchase. (เมื่อจบการทำธุรกรรม เครื่องจะแจ้งให้คุณสแกนหรือใส่คูปอง ถ้าคุณมีบัตรสะสมคะแนน ให้สแกนก่อนดำเนินการซื้อให้เสร็จสิ้น)
Customer: That sounds straightforward. Thanks for your help! (ฟังดูง่ายเลยค่ะ ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือของคุณนะคะ)
Staff: No problem! If you have any more questions or need assistance, feel free to ask. Happy shopping! (ไม่มีปัญหาค่ะ ถ้าคุณมีคำถามเพิ่มเติมหรือต้องการความช่วยเหลือ ถามได้เลยค่ะ มีความสุขกับการช้อปปิ้งนะคะ)
บทสนทนาเกี่ยวกับการเจรจาแก้ไขข้อร้องเรียน
Customer: Excuse me, I bought this LED light here last week, and it’s not working properly. (ขอโทษครับ ผมซื้อไฟ LED นี้ที่นี่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แต่ไฟทํางานผิดปกติครับ)
Staff: I’m sorry to hear that. Can you please give us your receipt? (ฉันเสียใจที่ได้ยินเรื่องนั้น กรุณาเอาใบเสร็จของคุณมาให้ฉันหน่อยได้ไหมคะ)
Customer: Sure, here it is. (ได้ นี่ครับ)
Staff: Thank you. I see you’re still within the return period. Let me give it to the technical team to check that for you. (ขอบคุณค่ะ ฉันเห็นคุณยังอยู่ในช่วงที่สามารถคืนสินค้าได้ เดี๋ยวฉันมอบให้ทีมเทคนิคตรวจสอบให้คุณนะคะ)
[checking the product] (ตรวจสอบผลิตภัณฑ์)
Staff: It’s a minor fault in the product. We apologize for the inconvenience. Would you prefer a refund or an exchange? (มันเป็นความผิดพลาดเล็กน้อยของผลิตภัณฑ์ เราต้องขออภัยในความไม่สะดวกค่ะ คุณต้องการคืนเงินหรือแลกเปลี่ยนผลิตภัณฑ์คะ)
Customer: I think I’d like an exchange for a functioning one. (ผมว่าผมจะเปลี่ยนกับอันที่ใช้ได้ครับ)
Staff: Not a problem. I appreciate your understanding. I’ll go and get the same item, then I’ll promptly process the exchange for you. (ไม่มีปัญหาค่ะ ขอขอบคุณสำหรับความเข้าใจของคุณค่ะ
ฉันจะไปเอาสินค้าชิ้นเดียวกันมาแล้วนจะดำเนินการแลกเปลี่ยนให้คุณทันทีค่ะ)
Staff: Here’s the replacement. (นี่ค่ะ อันทดแทนค่ะ)
Customer: Okay, I’ll get that. (โอเค ผมเอาอันนี้ครับ)
Staff: We apologize for any inconvenience caused. If you encounter any issues with this one, don’t hesitate to reach out. Additionally, here’s a coupon for 10% off your next purchase as a token of our appreciation. (ขออภัยในความไม่สะดวกนะคะ หากคุณพบปัญหาใด ๆ เกี่ยวกับสินค้านี้ ติดต่อพวกเราได้เลยค่ะ และนี่คือคูปองส่วนลด 10% สำหรับการซื้อครั้งต่อไปของคุณ เพื่อเป็นการแสดงความขอบคุณจากพวกเราค่ะ)
Customer: Thank you. I’m glad the process was smooth. (ขอบคุณครับ ผมดีใจที่กระบวนการนี้ดําเนินอย่างราบรื่น)
Staff: Our pleasure. Have a great day! (ด้วยความยินดีค่ะ ขอให้คุณมีวันที่ดีค่ะ)
บทสนทนาเกี่ยวกับการปรึกษาและแนะนําผลิตภัณฑ์
Customer: Hi there! I’m looking to buy some fresh produce, particularly fruits and vegetables. Any recommendations? (สวัสดีค่ะ ฉันกำลังหาซื้อของสด โดยเฉพาะผักและผลไม้ มีข้อเสนอแนะอะไรบ้างไหมคะ)
Staff: Absolutely! We have an excellent selection of organic options. For fruits, the organic apples from Green Harvest and the Valencia oranges from FreshFields are superb. (แน่นอนครับ เรามีตัวเลือกออร์แกนิกที่ยอดเยี่ยมให้เลือกมากมาย สำหรับผลไม้ แอปเปิ้ลออร์แกนิกจาก Green Harvest และส้มวาเลนเซียจาก FreshFields นั้นดีมากเลยครับ)
Customer: Oh, I’m interested in supporting local farms. Do you have any locally sourced options? (ฉันกําลังสนใจเรื่องสนับสนุนฟาร์มท้องถิ่นค่ะ คุณมีตัวเลือกที่มาจากท้องถิ่นไหมคะ?)
Staff: Certainly! Our farm-to-table section displays local favorites. The Johnson’s Farm tomatoes are renowned for their flavor, and the organic carrots from SunnyHills are a great choice. (มีสิครับ ส่วนแบบจากฟาร์มยังโต๊ะของเราแสดงผลิตภัณฑ์โปรดในท้องถิ่น มะเขือเทศจาก The Johnson’s Farm ซึ่งมีชื่อเสียงในด้านรสชาติ และแครอทออร์แกนิกจาก SunnyHills ก็เป็นตัวเลือกที่ดีค่ะ)
Customer: That sounds fantastic. I’m also looking for something exotic, maybe tropical fruits. (ฟังดูดีนะ ฉันก็กําลังมองหาอะไรที่แปลกใหม่ หรือว่าเป็นผลไม้เมืองร้อนก็ได้)
Staff: For tropical fruits, I’d recommend the FairTrade bananas from Tropic Harbor. Additionally, we have fresh mangoes imported from small farms in South America. (สำหรับผลไม้เมืองร้อน ฉันขอแนะนำกล้วย FairTrade จาก Tropic Harbor นอกจากนี้เรายังมีมะม่วงสดนำเข้าจากฟาร์มขนาดเล็กในอเมริกาใต้อีกด้วย)
Customer: Thanks for the suggestions! Do you have any discounts or loyalty programs for these products? (ขอบคุณสำหรับข้อเสนอแนะค่ะ คุณมีส่วนลดหรือโปรแกรมสะสมคะแนนสำหรับผลิตภัณฑ์เหล่านี้ไหมคะ)
Staff: Yes, indeed! If you sign up for our loyalty program, you can enjoy discounts on these items and accumulate points for future purchases. (มีครับ ถ้าคุณสมัครโปรแกรมสะสมคะแนนของเรา คุณสามารถเพลิดเพลินกับส่วนลดสำหรับสินค้าเหล่านี้ และสะสมคะแนนสำหรับการซื้อในอนาคตครับ)
Customer: Great! I’ll give that a try. Thanks for your expert advice! (เยี่ยมค่ะ ฉันจะลองดู ขอบคุณสำหรับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญอย่างคุณนะคะ)
บทสนทนาเกี่ยวกับการเจรจาต่อรองราคาสินค้า
Customer: I’m interested in this laptop, but I was hoping to get it at a lower price. Is there any room for negotiation? (ฉันชอบแล็ปท็อปเครื่องนี้มาก แต่ฉันหวังว่าจะได้มันในราคาที่ต่ำกว่า มีส่วนลดอะไรบ้างไหมคะ)
Salesperson: Let me check. Since you’re a loyal customer, I can offer you a 10% discount on this model. (ขอดูก่อน เนื่องจากคุณเป็นลูกค้าประจำ ฉันจึงขอเสนอส่วนลด 10% ให้กับรุ่นนี้ค่ะ)
Customer: That sounds reasonable. I’ll take it. (ฟังดูสมเหตุสมผลนะ ฉันเอาค่ะ)
Salesperson: Great choice! Let me prepare the paperwork for you. (เป็นทางเลือกที่ดีค่ะ เดี๋ยวฉันไปเตรียมเอกสารให้คุณนะคะ)
คำศัพท์ในบทสนทนาพนักงานขายกับลูกค้า ภาษาอังกฤษ
คำศัพท์ | การออกเสียง | ความหมาย | ตัวอย่าง |
Purchase (n) | /ˈpɜːr.tʃəs/ | การซื้อ | I made a purchase of shoes at the department store. (ฉันซื้อรองเท้าที่ห้างสรรพสินค้า) |
Sale (n) | /seɪl/ | การขายลดราคา | There’s a big sale at the mall this weekend. (มีการขายลดราคาครั้งใหญ่ที่ห้างสรรพสินค้าสุดสัปดาห์นี้) |
Discount (n) | /ˈdɪskaʊnt/ | ส่วนลดราคา | I got a discount on this shirt because it was on clearance. (ฉันได้ส่วนลดสำหรับเสื้อตัวนี้ เพราะมันอยู่ระหว่างการเคลียร์สินค้า) |
Customer (n) | /ˈkʌs.tə.mər/ | ลูกค้า | The store welcomes customers of all ages. (ทางร้านยินดีต้อนรับลูกค้าทุกวัย) |
Seller (n) | /ˈsɛ.lər/ | ผู้ขาย | The seller offered a discount for buying in bulk. (ผู้ขายจะให้ส่วนลดสำหรับการซื้อจำนวนมาก) |
Retail (n) | /ˈriː.teɪl/ | ขายปลีก | This store specializes in retail sales of electronics. (ร้านนี้โดดเด่นในด้านการขายปลีกอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์) |
Wholesale (n) | /ˈhoʊl.seɪl/ | ขายส่ง | They only sell their products wholesale to businesses. (พวกเขาขายสินค้าขายส่งให้กับธุรกิจเท่านั้น) |
Price (n) | /praɪs/ | ราคา | The price of this jacket is too high for my budget. (ราคาของเสื้อแจ็คเก็ตตัวนี้สูงเกินไปสำหรับงบประมาณของฉัน) |
Bargain (n) | /ˈbɑːr.ɡɪn/ | ของราคาย่อมเยา | I love finding a good bargain at the thrift store. (ฉันชอบหาสินค้าราคาถูกจากร้านขายของมือสอง) |
Invoice (n) | /ˈɪn.vɔɪs/ | ใบสั่งของ | Don’t forget to ask for an invoice after making a purchase. (อย่าลืมขอใบสั่งของหลังจากทำการซื้อ) |
Refund (n) | /ˈriː.fʌnd/ | คืนเงิน | If you’re not satisfied with your purchase, you can get a refund. (ถ้าคุณไม่พอใจกับการซื้อ คุณสามารถขอเงินคืนได้) |
Payment (n) | /ˈpeɪ.mənt/ | การชำระเงิน | We accept cash, credit card, and mobile payment. (เรารับเงินสด บัตรเครดิต และการชำระเงินผ่านมือถือ) |
Receipt (n) | /rɪˈsiːt/ | ใบเสร็จ | Make sure to keep your receipt in case you need to return the item. (อย่าลืมเก็บใบเสร็จไว้ เผื่อคุณต้องการคืนสินค้า) |
Transaction (n) | /trænˈzæk.ʃən/ | ธุรกรรม | The transaction was completed smoothly at the checkout counter. (การทำธุรกรรมเสร็จสิ้นได้อย่างราบรื่นที่เคาน์เตอร์ชำระเงิน) |
Stock (n) | /stɑːk/ | คลังสินค้า | The store needs to order more stock to meet demand. (ร้านค้าต้องสั่งคลังสินค้าเพิ่ม เพื่อตอบสนองความต้องการ) |
ข้อสังเกตในการสนทนาการขายของในภาษาอังกฤษ
มุ่งสู่ประสิทธิภาพในการสื่อสาร
เมื่อเรียนภาษาอังกฤษด้วยตนเอง เพื่อพัฒนาทักษะการสื่อสาร เรามักจะเน้นไปที่การเรียนรู้ไวยากรณ์และคำศัพท์ อย่างไรก็ตาม เพื่อให้สามารถสื่อสารได้อย่างคล่องแคล่ว การฝึกทักษะการฟังและการพูดก็มีความสำคัญเช่นกัน
ใช้ประโยคที่กระชับ
ในการสื่อสารการขายของในภาษาอังกฤษกับผู้ซื้อ เราควรแสดงความสุภาพและใช้ประโยคการสื่อสารที่สั้นและเข้าใจง่าย ทำให้การสื่อสารสะดวกและง่ายขึ้น และสร้างความรู้สึก “เป็นมิตร” ให้กับลูกค้าที่ไม่ใช่เจ้าของภาษา
ฝึกฝนและพัฒนาความรู้ของคุณอย่างสม่ำเสมอ
เพื่อพัฒนาทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษ คุณต้องฝึกฝนและพัฒนาความรู้อย่างต่อเนื่อง อ่านหนังสือ หนังสือพิมพ์ เข้าร่วมบล็อกหรือเขียนไดอารี่ในภาษาอังกฤษ ถ้ามีโอกาส คุณสามารถเรียนหลักสูตรภาษาอังกฤษหรือเรียนที่ศูนย์ฝึกอบรมภาษาที่มีคุณภาพก็ได้ ซึ่งหลักสูตรเหล่านี้จะสร้างสภาพแวดล้อมการเรียนรู้และโอกาสในการฝึกการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ
ฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ 10 นาทีต่อวันกับ ELSA Speak เพื่อพัฒนาทักษะการพูดของคุณ ครูสอนพิเศษ AI จะจัดแผนงานที่เฉพาะ แก้ไขการออกเสียงและคำศัพท์ของคุณอย่างมืออาชีพ ในทุก ๆ วัน ครูสอนพิเศษ AI จะเตือนให้คุณเข้าร่วมการฝึกฝนเพื่อรักษา streak ของคุณ
เราได้เรียนรู้ตัวอย่างประโยคและ บทสนทนา ขาย ของ ภาษา อังกฤษ ระหว่างผู้ขายและลูกค้าในภาษาอังกฤษเพื่อให้คุณสื่อสารในชีวิตประจำวันได้อย่างง่ายดาย หวังว่าบทความนี้จาก ELSA Speak จะเป็นประโยชน์ต่อคุณ แล้วเจอกันใหม่ในบทความหน้านะ