Author: Nhi Nguyen

ELSA Speak แอปพลิเคชัน AI ที่เป็นที่รู้จักทั่วโลกซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก Google และมียอดดาวน์โหลด 54 ล้านครั้ง ขณะนี้สามารถใช้งานโดยผู้เรียนภาษาอังกฤษซึ่งเป็นคนไทยได้แล้ว

ด้วยการลงทุนจาก Google และผู้ลงทุนที่มีชื่อเสียงอื่นๆ ELSA Speak พัฒนามาจนติดอันดับหนึ่งในห้าแอป AI ภาษาอังกฤษ อันดับต้นของโลก เป็นแอปที่ออกแบบโดยเฉพาะสำหรับช่วยให้ผู้เรียนภาษาอังกฤษปรับปรุงทักษะการออกเสียงและการพูด ซึ่งขณะนี้แอปตัวนี้สามารถใช้ในเมืองไทยได้แล้ว ตัวแอปพลิเคชันทำหน้าที่เป็นโค้ชส่วนตัวที่คอยฟังการออกเสียงของผู้ใช้โดยจะชี้ให้เห็นถึงข้อผิดพลาดในการออกเสียงอย่างเที่ยงตรงและสามารถให้ feedback ซึ่งมีความแม่นยำสูงถึงหรือมากกว่า 95%.

แอป ELSA Speak  การออกเสียง ความคล่องในการใช้ ทำนองเสียง การเน้นเสียงในคำ และการฟัง
แอป ELSA Speak – ความก้าวหน้าในการเรียนรู้แบบเฉพาะบุคคล ซึ่งแบ่งแยกออกเป็นทักษะ 5 แบบ (การออกเสียง ความคล่องในการใช้ ทำนองเสียง การเน้นเสียงในคำ และการฟัง

ในโลกซึ่งเป็นโลกาภิวัตน์และเชื่อมต่อถึงกัน ทักษะสื่อสารภาษาอังกฤษเป็นสิ่งที่จำเป็นยิ่งสำหรับแทบทุกคนที่มีความต้องการจะประสบความสำเร็จในสาขาต่างๆมากมาย ตั้งแต่แวดวงวิชาการไปจนกระทั่งภาคธุรกิจ อย่างไรก็ตาม ดัชนีความชำนาญภาษาอังกฤษซึ่งจัดทำโดย Education First ระบุว่าประเทศไทยอยู่อันดับที่ 89 จากทั่วโลกในเรื่องนี้ จะเห็นได้ว่าการสอนภาษาแบบมาตรฐานในประเทศไทยนั้นมุ่งเน้นเรื่องการสอนไวยากรณ์และคำศัพท์โดยการเรียนรู้แบบท่องจำ โดยเป็นระบบที่ทำให้ผู้เรียนหลายคนหมดความกระตือรือร้นและทำให้ผู้เรียนและคนทำงานคนไทยส่วนใหญ่ไม่สามารถสนทนาภาษาอังกฤษได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เทคโนโลยีคือสิ่งสำคัญในก้าวพัฒนาการเรียนรู้ภาษาทั่วโลกในระดับต่างๆทั้งหมด เพราะมันทำให้การเรียนรู้สนุกและเติมเต็มมากขึ้น ผู้เรียนภาษาได้รับประโยชน์จากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีในปัจจุบันเนื่องจากการเข้ามามีบทบาทของเว็บไซต์และแอปสำหรับเรียนรู้ภาษาอังกฤษมากมาย แอป ELSA Speak เป็นหนึ่งในเหล่าแอปดังกล่าวซึ่งถูกใช้งานและได้รับการจดจำโดยผู้เรียนภาษาอังกฤษหลายล้านคนทั่วโลก และตอนนี้ได้มาสู่ประเทศไทยเพื่อส่งมอบเทคโนโลยี A.I. ที่จะช่วยให้ผู้คนพัฒนาการพูดภาษาอังกฤษอย่างเห็นได้ชัด โดยมีค่าใช้จ่ายเพียงหยิบมือหนึ่งเมื่อเทียบกับโซลูชั่นแบบดั้งเดิม

ELSA Speak คือโค้ชภาษาอังกฤษส่วนตัวที่ทำงานตลอด 24 ชั่วโมงผ่านการขับเคลื่อนโดย A.I. ซึ่งควรมีไว้บนโทรศัพท์ของคุณ!
ELSA Speak คือโค้ชภาษาอังกฤษส่วนตัวที่ทำงานตลอด 24 ชั่วโมงผ่านการขับเคลื่อนโดย A.I. ซึ่งควรมีไว้บนโทรศัพท์ของคุณ!

แอปพลิเคชันโทรศัพท์มือถือนี้พัฒนาโดยสตาร์ทอัพจาก Silicon Valley ซึ่งใช้ปัญญาประดิษฐ์ในการส่งมอบโค้ชภาษาเสมือนจริงสู่อุ้งมือของผู้เรียน จากการที่มีฐานข้อมูลสำหรับผู้ซึ่งไม่ใช่เจ้าของภาษาที่ใหญ่ที่สุดของโลกทำให้ ELSA Speak เป็นแอปหนึ่งเดียวที่สามารถระบุตำแหน่งเจาะจงของข้อผิดพลาดในทุกๆเสียงของคำ ประโยค หรือการสนทนาในทุกระดับ และสามารถส่งมอบ feedback ในเวลาจริงอย่างแม่นยำพร้อมทั้งข้อชี้แนะที่เจาะจงซึ่งจะทำให้เกิดการปรับปรุง ELSA Speak ได้รับการดาวน์โหลดเกินกว่า 54 ล้านครั้งใน 234 ประเทศ และตอนนี้สามารถใช้งานโดยผู้เรียนภาษาอังกฤษชาวไทยได้แล้ว

ELSA ประสบความสำเร็จในการระดมทุนจำนวน 27 ล้านเหรียญสหรัฐและได้รับการสนับสนุนจากบริษัทธุรกิจเงินร่วมลงทุนชั้นนำใน Silicon Valley เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และญี่ปุ่น หนึ่งในผู้สนับสนุนที่โดดเด่นซึ่งควรกล่าวถึงคือ Gradient Ventures ซึ่งเป็นธุรกิจเงินร่วมลงทุนของ Google ที่เชี่ยวชาญในการลงทุนในปัญญาประดิษฐ์ (AI) หลังจากที่เปิดตัวในปี 2016 ELSA ก็ได้รับรางวัลอันทรงเกียรติมากมาย เช่นรางวัล “แอปดิจิทัลสำหรับการเรียนรู้ที่ดีที่สุด” โดย Reimagine Education และ SXSWEdu Launch ซึ่งเป็นงานแสดงเทคโนโลยีการศึกษาแนวหน้าของอเมริกา

ในปีต่อๆมา ELSA ได้มีความก้าวหน้ามาโดยตลอด และได้รับการยอมรับจากองค์กรระดับแนวหน้าหลายแห่ง เช่นได้รับการยกเป็นหนึ่งในห้าอันดับต้นของแอปพลิเคชันปัญญาประดิษฐ์โดย Research Snipers เคียงข้าง Cortana (Microsoft) และ Google Allo (Google) รวมถึงได้รับการยกให้เป็น “ผู้เข้าชิงกิตติมศักดิ์” ในสาขาอุตสาหกรรมปัญญาประดิษฐ์และดาต้าภายใต้ขอบข่ายของการมอบรางวัล World Changing Ideas 2020 ซึ่งจัดโดย Fast Company และยังได้รับการยกให้เป็นผลิตภัณฑ์ปัญญาประดิษฐ์เปลี่ยนโลกโดย Forbes เพื่อจะสัมผัสฟีเจอร์แบบเต็มของแอป ELSA Speak ที่ทรงพลังตัวนี้ สามารถทำการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับแพคเกจ ELSA Pro และคว้าโปรโมชั่นพิเศษช่วงแนะนำ ที่นี่

ทำไมผู้เรียนภาษาอังกฤษทั่วโลกต่างรักที่จะใช้แอปนี้ในบรรดาแอปทั้งหลาย?

  1. ได้รับทักษะการพูดที่สมดุล โดยเฉพาะในด้านการออกเสียง: เทคโนโลยีกรรมสิทธิ์ทางปัญญาประดิษฐ์ทำให้ผู้ใช้สามารถได้รับการวิเคราะห์การออกเสียงและได้รับการแก้ไขที่เจาะจงลงไปถึงพยางค์เดี่ยว ซึ่งนี่เป็นสิ่งที่ทำให้แอปโดดเด่นอย่างมาก การให้คะแนนมีพื้นฐานอยู่บนมาตรฐานนานาชาติซึ่งสามารถเข้าใจได้ง่ายมากผ่านสีมูลฐาน 3 สีซึ่งสอดคล้องกับระดับสามระดับคือ ถูกต้อง เกือบถูกต้อง และไม่ถูกต้อง โดยจะมาพร้อมกับ feedback อย่างละเอียด แอปยังสามารถเสนอบทเรียนหลากหลายเกี่ยวกับทำนองเสียง ความคล่อง การเน้นเสียงในคำ และการฟัง
  2. ประสบการณ์การเรียนรู้ส่งมอบแบบเฉพาะบุคคลผ่านเนื้อหาที่หลากหลาย: ELSA ทำการออกแบบวิถีการเรียนรู้เฉพาะบุคคลสำหรับผู้ใช้แต่ละคน โดยอิงจากผลการประเมินในแอป ผู้ใช้เพียงต้องปฏิบัติตามวิถีดังกล่าวในการฝึกฝนประจำวันเพื่อที่จะรับฟังได้ถึงความก้าวหน้าของตน ฟีเจอร์นี้อาจถือได้ว่ามีประสิทธิภาพยิ่งสำหรับผู้เรียนที่มีตารางงานยุ่ง และยังมีทรัพยากรอันรวมไว้ด้วยหัวข้อที่ใช้ได้จริงเกินกว่า 200 หัวข้อ และบทเรียนเกินกว่า 25,000 บทที่ผู้เรียนสามารถทำการสำรวจลงลึกมากขึ้น
  3. ทำให้การเรียนรู้เป็นเรื่องสนุกมากและมีประสิทธิภาพ: ด้วยเกมที่น่าสนใจมากมายในแอป การเรียนภาษาอังกฤษจึงสนุกสนานและน่าจดจำมากขึ้นสำหรับผู้เรียน
  4. มีแรงผลักดันหนักแน่นทุกวันและทุกที่: อุปสรรคที่เกิดขึ้นบ่อยกับผู้เรียนภาษาอังกฤษคือความกลัวที่จะทำผิดพลาดหรือถูกระบุชี้โดยผู้อื่น ผลลัพธ์ก็คือพวกเขามีความมั่นใจน้อยลงในการสื่อสารภาษาอังกฤษหรือแม้กระทั่งล้มเหลวในการสื่อสาร ELSA จะเป็นเครื่องมือที่ดีเยี่ยมในการทำลายอุปสรรคนี้และทำให้ผู้เรียนสามารถพูดอังกฤษได้ด้วยความสบายและความมั่นใจที่สูงขึ้นไม่ว่าจะเป็นที่บ้านหรือเมื่ออยู่ข้างนอก

ผู้แทนของ ELSA ได้กล่าวไว้ว่า “ELSA สร้างขึ้นเพื่อเป็นเครื่องมือฝึกการออกเสียงที่ดีที่สุดและเข้าถึงได้มากที่สุดสำหรับผู้เรียนภาษาเกินกว่า 1,500 ล้านคน ทั่วโลก โดยจะทำให้ทุกๆคนพูดอังกฤษได้อย่างมั่นใจและคล่องแคล่ว ซึ่งจะปลดล๊อกโอกาสใหม่ๆในชีวิตของพวกเขา”

(more…)

ELSA Speak เป็นแอปพลิเคชันที่คุ้นเคยกับบรรดาผู้เรียนภาษาอังกฤษชาวไทย อย่างไรก็ตาม หลายคนยังสับสนเกี่ยวกับค่าเรียนของ ELSA Speak อยู่ ดังนั้น ELSA จะช่วยให้คุณทำความเข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับราคาคอร์สเรียนต่าง ๆ ของ ELSA Speak นะคะ

คอร์สเรียนของ ELSA Speak ตอนนี้

โดยรวมแล้ว ค่าเรียนคอร์สต่าง ๆ ของ ELSA Speak ได้รวมหมดทุกฟังค์ชั่นแล้ว เช่น ผู้สอน/Coach พจนานุกรมที่มีการออกเสียง คาดเดาคะแนนผลการสอบพูด IELTS ฯลฯ

ELSA Pro ต่างอะไรกับ ELSA ฟรี
ELSA Pro ต่างอะไรกับ ELSA ฟรี

ปัจจุบัน พจนานุกรม ELSA จะซัพพอร์ตให้คุณฝึกออกเสียงภาษาอังกฤษด้วยหนึ่งย่อหน้าสั้น ๆ ที่มีประมาณ 50 คำในแต่ละครั้ง โดย ELSA จะแนะนำวิธีอ่านอย่างละเอียด ด้วยการถอดเสียงตามมาตรฐาน IPA และความหมายที่เป็นภาษาไทย ดังนั้น หากฝึกมากกว่า 1 ย่อหน้าจะไม่ได้ผลเต็มที่อย่างที่คาดหมาย

นอกจากนั้น เพื่อกำหนดการแจ้งเตือนเวลาเรียนในแต่ละวัน คุณต้องเข้า โปรไฟล์ → กำหนดรวม → เปิด“แจ้งเตือนทุกวัน” → ELSA จะส่งข้อความไปยังโทรศัพท์ของคุณทุกวันในเวลาที่คุณเลือกไว้ เพื่อแจ้งว่าถึงเวลาเรียนอังกฤษกับ Anh ELSA Speakแล้ว หวังว่าวิธีนี้จะช่วยให้คุณได้มาเรียนอย่างสม่ำเสมอและมีพัฒนาการที่ดีขึ้น

4 เคล็ดลับสำหรับการเรียนภาษาอังกฤษด้วยแอป ELSA Speak ให้มีประสิทธิภาพ
4 เคล็ดลับสำหรับการเรียนภาษาอังกฤษด้วยแอป ELSA Speak ให้มีประสิทธิภาพ

ELSA จะอัพเดทความคืบหน้าของการฝึกฝนตามกราฟ 5 เหลี่ยม โดยคะแนนที่ปรากฎในแอป ELSA จะมาจาก 5 ทักษะ ได้แก่ การออกเสียง การเน้นคำ น้ำเสียง ความคล่องแคล่ว และการฟัง

เทตโนโลยีการจำรู้เสียงพูดของ ELSA จะรวบรวม 5 ทักษะดังกล่าวเพื่อคิดคะแนน ELSA ของคุณ โปรดทำบททดสอบเบื้องต้น ที่ประกอบด้วยข้อสอบ 16 ข้อ เพื่อดูคะแนนของการออกเสียง น้ำเสียงและความคล่องแคล่วของตนเอง รวมทั้งเรียนบทเรียนแรกบางบทวำหรับแต่ละทักษะเพื่อดูพัฒนาการของตนเองด้วย

สำหรับฟังค์ชั่น Coach ELSA จะจัดแผนการเรียนในแต่ละวันตามกระบวนการเรียนของผู้เรียน โดยจำนวนบทเรียนเป้าหมายในแต่ละวัน จะขึ้นอยู่กับการจัดตั้งเวลาเรียนของวันนั้น เช่น

ถ้าเป้าหมายการเรียนคือ

รายการค่าเรียน ELSA Speak ค่าสุด ปี 2566

ELSA ขอแจ้งค่าเรียนของ 2 คอร์สเรียน ดังต่อไปนี้

หมายเหตุ ราคาดังกล่าวเป็นราคาของวันนี้เท่านั้น ELSA Speak จะมีโปรฯ ออกทุกๆ เดือนเพื่อเป็นการสนับสนุนผู้ใช้ กรณาเข้า เว็บไซต์ ELSA Speak เพื่อทราบรายละเอียดเพิ่มเติม

แล้วแต่ความต้องการและถานะการเงินส่วนตัว คุณสามารถเลือกคอร์สเรียนที่เหมาะสม โดยเพื่อเป็นการประหยัดที่คุ้มค่า ELSA Pro จะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะ ELSA จะมีการอัพเดทบทเรียนเพิ่มเติมในทุกๆ เดือน

รหัสลดราคาและโปรโปชันสุดคุ้มสำหรับคอร์ส ELSA Pro 

ด้วยความประสงค์นำแอปชั้นนำในการเรียนการออกเสียง ELSA Speak ไปถึงผู้เรียนหลายคนมากขึ้น ELSA จะจัดโปรฯ และรหัสลดราคาสดคุ้ม โดยคุณสามารถหารหัสลดราคา ELSA Pro ตั้งแต่ …บาท ถึง…บาท ขึ้นอยู่กับโปรฯ และเราจะจัดโปรฯ ที่ลดมากกว่านั้นในโอกาสที่สำคัญต่าง ๆ อีกด้วย

>> ดูเลย แนะนำวิธีการง่าย ๆ เพื่อซื้อคอร์สเรียน ELSA Speak ตลอดชีพ

ด้วยการเป็นแอปที่ใช้เทคโนโลยีทันสมัย ที่สามารถเปลี่ยนแปลงโลกได้ ค่าเรียนของ ELSA Speak จะเหมาะกับทุกคนที่กำลังมีแผนจะฝึกการสื่อสารและการออกเสียงภาษาอังกฤษ ดังนั้น รีบ ดาวน์โหลด ELSA Speak และใช้ทุกฟังค์ชั่นที่สนุกๆ กับ ELSA ผู้ช่วยอัฉริยะที่เสมือนจริง

ปัจจุบัน ELSA Speak – แอปพลิเคชันเรียนการสื่อสารภาษาอังกฤษแบบออนไลน์กำลังอยู่อันดับต้น ๆ ของบรรดาแอปพลิเคชันเรียนออนไลน์ที่ได้รับความนิยมจากผู้เรียนทั้งภายในและต่างประเทศ  อย่างไรก็ตาม บางคนแม้ได้ดาวน์โหลดตัวแอปมาแล้วแต่ก็ยังงงกับการเปิดใช้งาน  บทเขียนต่อจากนี้จะแนะนำทุกสิ่งทุกอย่างเกี่ยวกับวิธีการเปิดใช้งานที่คุณควรรู้เมื่อติดตั้งแอปพลิเคชัน ELSA Speak เริ่มกันเลยค่ะ

ELSA Speak – แอปพลิเคชันเรียนภาษาอังกฤษชั้นนำของโลก

แอปพลิเคชัน ELSA Speak ออกเมื่อปี 2558 ภายใต้การบริหารจัดการของคุณ Van Dinh Hong Vu (วัน ดิง ห่ง หวู) และมีทุนลงทุนจำนวน 15 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อปี 2564 ELSA Speak ได้รับการยอมรับจากกลุ่มสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยี และได้รับรางวัลสากลหลายรางวัล เช่น

บนเส้นทางแห่งการพัฒนานั้น ELSA Speak ได้มีความก้าวกระโดดอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากทีมงาน ELSA ให้ความสำคัญกับการค้นหาวิธีการเรียนรู้ใหม่อย่างเสมอ เพื่อช่วยให้ผู้เรียนสามารถสื่อสารได้อย่างเป็นธรรมชาติ คล่องแคล่ว และมีความมั่นใจให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

กับ ELSA Speak คุณสามารถเข้าถึงองค์ความรู้ที่มีบทเรียนจำนวนมากมายกว่า 25,000 บท และ  แหล่งคำศัพท์ภาษาอังกฤษที่ประกอบด้วยหลากหลายหมวดเรียน นอกจากนั้น ELSA Speak จะเป็นผู้ช่วยที่ดีในการฝึกการสื่อสารภาษาอังกฤษ ด้วยครูอัฉริยะที่เป็นเจ้าของภาษาในรูปแบบ AI คุณจะได้ปรับการออกเสียงตามสำเนียงอเมริกา รวมทั้งน้ำเสียง ตลอดจนการเน้นคำในแต่คำ/ประโยค

เหมือนแอปพลิเคชันเรียนออนไลน์อื่น ๆ คุณสามารถดำเนินการเริ่มเปิดใช้งาน ELSA Speak อย่างสะดวกผ่านทั้งระบบปฎิบัติการ iOS และ Android

banner (compare free vs pro)

หลังจากติดตั้งแอปพลิเคชันในเครื่องโทรศัพท์สำเร็จ ให้กดเลือกหัวข้อการเรียนภาษาอังกฤษที่คุณชอบที่สุด ฝึกการออกเสียงจะเป็นบทเรียนที่สนุกบทแรกที่คุณได้เรียนกับ ELSA Speak

คุณจะได้ฝึก 44 เสียงในระบบโฟเนติกส์ของภาษาอังกฤษ โดยแต่ละพยางค์ถูกแบ่งออกเป็น 3 ระดับ ตั้งแต่พื้นฐานจนถึงขั้นสูง โดยระบบจะให้ 1 คำ วลี หรือประโยค พร้อมกับการถอดเสียงแบบสากลให้คุณได้ฝึกในฝน

หลังจากที่จดจำได้แล้ว และพร้อมที่จะฝึกตัวอย่างประโยคที่เพิ่งเรียนมา ให้กดสัญญลักษณ์ตัวไมค์ที่อยู่ตรงกลางหน้าจอเพื่ออัดเสียง โดย ELSA จะอัดสดเสียงพูดของผู้เรียน ในขณะเดียวกัน ด้วยเทคโนโลยีการจำรู้เสียงพูดของหุ่นยนต์อัฉริยะ AI ELSA จะดำเนินการวิเคราะห์และประเมินการออกเสียงของคุณ ดังต่อไปนี้

ด้วยปัจจัยในการวิเคราะห์ดังกล่าวนั้น แอปพลิเคชันจะชี้ให้คุณทราบข้อผิด รวมทั้งแก้ไขให้อย่างละเอียด ภายหลังเรียนกลุ่มบทเรียนพื้นฐานเสร็จสิ้นแล้ว ELSA จะให้บทเรียนที่อยู่ระดับสูงขึ้นและยากขึ้นในการเน้นคำ สำเนียง ฯลฯ ตามมาตรฐานของเจ้าของภาษา

เราได้ทราบขั้นตอนการเรียนภาษาอังกฤษในแอปพลิเคชัน ELSA Speak แล้ว ทีนี้จะต้องใช้รหัสเปิดใช้งานของ ELSA Speak อย่างไรดี

แนะนำการใช้รหัสเปิดใช้งานกับระบบปฎิบัติการ Android

1. หลังจากที่ติดตั้งแอปพลิเคชัน ELSA Speak เสร็จ ให้ Log in เข้าบัญชีใน ELSA ด้วยอีเมลหรือบัญชีของตนเอง

2. หลังจากเสร็จสิ้นขั้นตอนแรก ในมุมขวาด้านล่างของหน้าจอ ให้กดเลือก “โปรไฟล์” => “ซื้อ ELSA Pro ตลอดชีพ” => รหัสเข้าใช้งาน (ประกฎที่มุมซ้ายของหน้าจอ)

3. ลงรหัสเข้าใช้งานที่เป็นกลุ่มตัวหนังสือตัวใหญ่ในช่องว่าง => กดเริ่มใช้งาน => ลงรหัสเข้าใช้งานสำเร็จ

4. กลับไปยังขั้นตอนที่ 2 ของหมวด “โปรไฟล์” เพื่อ Log out ออกจากระบบแล้ว Log in เข้าระบบอีกครั้งเพื่ออัพเดทรหัสในระบบ

5. เปิดใช้งานสำเร็จแล้ว ให้ตรวจโปรไฟล์ของตนเองอีกครั้ง ก็จะเสร็จสิ้นกระบวนการเปิดใช้คอร์สเรียน ELSA Speak กับระบบปฎิบัติการ Android แล้ว

หมายเหตุ  การเปิดใช้งาน ELSA Speak กับระบบปฎิบัติการ Android สามารถดำเนินกับโทรศัพท์ Samsung, Oppo, Xiaomi,… ได้

แนะนำการใช้รหัสเปิดใช้งานกับระบบปฎิบัติการ iOS

ขั้นตอนที่ 1 เข้าเว็บไซต์ https://elsaspeak.com/redeem เพื่อดำเนินการเปิดใช้รหัสเปิดใช้งานกับระบบปฎิบัติการ iOS

ขั้นตอนที่ 2 Log in เข้าระบบ ELSA ด้วยอีเมลหรือเฟสบุ๊ค หากยังไม่มีบัญชี ให้เปิดใหม่บนเว็บไซต์ด้วยการกดปุ่ม “Sign up”

ขั้นตอนที่ 3 กดปุ่ม “เปิดรหัส” → ลงรหัสเปิดใช้งาน แล้วกด “ยืนยัน”

หมายเหตุ: ในกรณีที่คุณได้ลงทะเบียนคอร์ส ELSA Pro โดยตรงกับ Google Play/App Store แล้ว ให้ปิดฟังค์ชั่น ต่ออายุอัตโนมัตคอร์สเรียนในแอปพลิเคชันผ่าน Google Play/App Store  และรอจนกว่าคอร์สเรียนเดิมหมดอายุก่อนแล้วค่อยเปิดใช้งานคอร์สเรียนใหม่

ขั้นตอนที่ 4 เปิดแอปพลิเคชัน ELSA Speak –> Log out –> Log in ใหม่อีกครั้งด้วยอีเมลหรือเฟสบุ๊ค เพื่ออัพเดทระบบ

ขั้นตอนที่ 5 หลังเปิดใช้งานสำเร็จ ให้ตรวจโปรไฟล์อีกครั้งแล้วสามารถใช้งาน ELSA Pro ได้เลย

หมายเหตุ การเปิดใช้งาน ELSA Speak กับระบบปฎิบัติการ iOS สามารถดำเนินกับโทรศัพท์ iPhone, iPad,…

เรียนภาษาอังกฤษด้วยแอป ELSA Speak ดีหรือไม่

คุณได้เข้าใจวิธีการเปิดใช้งานคอร์สเรียนของ ELSA บนทั้งสองระบบปฏิบัติ Android และ iOS อย่างชัดเจนแล้วใช่ไหมคะ งั้นจะรออะไรอีกล่ะ ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์-ELSA Speak เพื่อสนุกกับบทเรียนภาษาอังกฤษมากมายและมีประโยชน์กับ ELSA เดี๋ยวนี้เลย!

ELSA Speak เป็นหนึ่งในกลุ่มแอปพลิเคชั่นเรียนการสื่อสารภาษาอังกฤษชั้นนำ ที่เชี่ยวชาญในด้านฝึกการออกเสียงและการพูด เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ ที่นับวันยิ่งสูงขึ้น ELSA Speak ได้นำเสนอคอร์สเรียนหลากหลายเวอร์ชั่นและรูปแบบ ให้เหมาะกับวัตถุประสงค์และเวลาของลูกค้า  โดยคอร์สเรียนตลอดชีพเป็นคอร์สที่มอบผลประโยชน์แก่ผู้ใช้ได้มากที่สุด จึงได้รับความสนใจมากที่สุดเช่นกัน งั้นคอร์ส ELSA ตลอดชีพมีความแตกต่างกับคอร์สอื่น ๆ อย่างไรบ้าง และทำยังไงเพื่อ ซื้อ ELSA ตลอดชีพ ได้เร็วและสะดวกที่สุด

คุณจะได้อะไรบ้างจากคอร์ส ELSA ตลอดชีพ

ทำไมควร ซื้อ ELSA ตลอดชีพ

ELSA Speak เป็นแอปพลิเคชั่นเรียนภาษาอังกฤษชั้นนำในปัจจุบัน ด้วยการใช้ปัญญาประดิษฐ์ในการจำรู้เสียงพูด และสามารถบอกจุดผิดได้ทันที  จากนั้น ผู้เรียนจะได้รับคำแนะนำอย่างละเอียดในการเน้นคำ การปล่อยลม การวางตำแหน่งลิ้น ทั้งยังได้ฝึกครบทุกทักษะ ได้แก่ การออกเสียง การฟัง การกดคำ และการสนทนาและน้ำเสียง อีกด้วย

เพื่อยกระดับทุกทักษะดังกล่าวข้างต้นนั้น คุณต้องสมัครคอร์ส ELSA Proและใช้ทุกฟังค์ชั่นของ ELSA ซึ่งแต่ละคอร์สจะมีระยะเวลาเรียนและฟังค์ชั่นที่แตกต่างกัน เพื่อให้เหมาะกับเป้าหมายในการเรียนของแต่ละคน

อย่างไรก็ตาม การคล่องภาษาอังกฤษ เป็นกระบวนการที่ต้องใช้เวลาต่อเนื่องอย่างยาวนานในการฝึกฝน  เห็นได้ว่าหลายคนใช้เวลาหลายปีเรียนภาษาอังกฤษในโรงเรียน แต่ก็ไม่สามารถพูดได้คล่องและเป๊ะเหมือนเจ้าของภาษาได้สักที

ดังนั้น ยากมากที่คนธรรมดาคนหนึ่ง ที่ไม่ค่อยมีโอกาสสื่อสารภาษาอังกฤษกับเจ้าของภาษาบ่อย ๆ จะสามารถพัฒนาในเวลาสั้น ๆ ได้ นั่นคือสาเหตุที่หากอยากคล่องภาษาอังกฤษให้เหมือนภาษาที่สอง จะควรซื้อคอร์ส ELSA ตลอดชีพ แล้วใช้ให้ครบทุกฟังค์ชั่นของ ELSA เพื่อยกระดับความสามารถในการออกเสียงและการสื่อสาร โดยไม่มีการจำกัดเกี่ยวกับเวลา

ELSA Pro มีอะไรบ้าง

ด้วยจุดเด่นดังกล่าว จึงทำให้มีผู้ใช้มากกว่า 40 ล้านคนในทั่วโลกที่เลือก ELSA Speak เป็นเพื่อนบนเส้นทางพิชิตภาษาอังกฤษ

แนะนำการซื้อคอร์สเรียน ELSA ตลอดชีพ อย่างรวดเร็ว

ตอนนี้ ผู้ใช้สามารถซื้อคอร์ส ELSA Pro ผ่านเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชั่น ELSA Speak อย่างไรก็ตาม แอปพลิเคชั่น ELSA Speak อนุญาตให้ซื้อคอร์ส ELSA Pro 1 เดือน 3 เดือน และ 1 ปีเท่านั้น ดังนั้น หากต้องการ ซื้อ ELSA ตลอดชีพ คุณต้องลงทะเบียนฝากข้อมูลไว้ในเว็บไซต์เป็นทางการของ ELSA ตามขั้นตอนดังต่อไปนี้

1.ขั้นตอนที่ 1: เข้าเว็บไซต์ ELSA Pro เลือกคอร์ส ELSA Pro ไม่จำกัด

2. ขั้นตอนที่ 2: ลงข้อมูลผู้ซื้อ ประกอบด้วย ชื่อ/นามสกุล หมายเลขโทรศัพท์ และที่อยู่อีเมล เพื่อให้ ELSA บันทึกข้อมูลและประสานเมื่อจำเป็น

3. ขั้นตอนที่ 3: เลือกคอร์ส ELSA Pro ที่คุณอยากสมัคร สำหรับกรณีนี้คือคอร์ส ELSA ตลอดชีพ

ต่อมา เลือกวิธีการชำระที่คุณสะดวก เช่น ชำระด้วยบัตร ATM, Visa, Mastercard, JCB ชำระผ่าน Paypal หรือเลือกการส่งรหัสเข้าใช้งานที่บ้าน

นอกจากสองวิธีคือโอนเงิน หรือชำระเงินเมื่อได้รับรหัสที่บ้าน สำหรับรูปแบบการชำระที่เหลือ คุณจะได้รับรหัสทันทีผ่านข้อความ SMS และอีเมลที่คุณสมัครไว้ก่อนหน้านั้น หลังจากชำระเงินสำเร็จ

4. ขั้นตอนที่ 4: หลังจากซื้อคอร์ส ELSA ตลอดชีพสำเร็จ เข้าลิงค์ https://elsaspeak.com/redeem เพื่อใช้รหัสเข้าเรียน

ด้วยคุณค่าที่คุณจะได้รับกับ ELSA นั้น การซื้อ ELSA ตลอดชีพจะเป็นตัวเลือกที่ไม่ควรข้ามผ่าน โดยเฉพาะในช่วงนี้ ELSA กำลังมีโปรโมชั่นมากมายที่น่าสนใจสำหรับลูกค้าทุกท่าน  นอกจากช่วยให้คุณพูดภาษาอังกฤษได้คล่องเหมือนเจ้าของภาษาแล้ว ยังมีราคาโปรโมชั่นที่คุ้มสุด ๆ อีก งั้นอย่าพลาดโอกาสเรียนกับ ELSA ในวันนี้เลยนะ

แท็กคำถาม (Question Tag) เป็นไวยากรณ์ทั่วไปที่ใช้ในการสื่อสารภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน การใช้อย่างเชี่ยวชาญจะช่วยพัฒนาทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษของคุณ และเข้าใกล้เป้าหมายของการสื่อสารภาษาอังกฤษมาตรฐานแบบเจ้าของภาษามากขึ้น   

นิยาม

Question Tag เป็นคำถาม Yes-No แบบสั้น ๆ ซึ่งวางไว้หลังอนุประโยครายงาน และถูกคั่นจากประโยคประกาศด้วยเครื่องหมายจุลภาค  

หากอนุประโยครายงานอยู่ในรูปแบบปฎเสธ Question Tag จะอยู่ในรูปแบบประโยคบอกเล่า และกลับกัน

วิธีใช้งาน Question Tag

ตัวอย่าง

Our daughter isn’t well today, is she?

→ วันนี้ลูกสาวของเราไม่สบายใช่ไหม  

Yesterday, they didn’t complete their tasks, did they?

→ เมื่อวานพวกเขาทำงานไม่เสร็จใช่ไหม   

โครงสร้าง Question Tag

โครงสร้างจะมี 2 ส่วนหลัก คือ “statement” + “Question Tag“

ทั้งสองส่วนนี้จะตรงข้ามกัน หากประโยคก่อนหน้าถูกแบ่งในรูปแบบการบอกเล่า Question Tag จะเป็นรูปแบบปฎิเสธและในทางกลับกัน นี่เป็นหนึ่งในโครงสร้างที่ค่อนข้างพิเศษในไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ  

สูตรทั่วไปจะมีรูปแบบดังนี้

สูตรทั่วไปจะมีรูปแบบดังนี้

โดย:

ประธานในอนุประโยคหลัก    คำสรรพนามแทนประธานใน Question Tag
(วลี) คำนาม หมายถึงผู้ชาย 1 คน    he
(วลี) คำนาม หมายถึงผู้หญิง 1 คนshe
(วลี) คำนาม หมายถึงสิงของ 1 อย่าง   it
(วลี) นามพหูพจน์  they
This/ that + (วลี) คำนามเอกพจน์   it
This/ thatit
These/ those + (วลี) นามพหูพจน์    they
These/ thosethey
Thereเก็บไว้เหมือนเดิม   
I, we, you, they, he, she, itเก็บไว้เหมือนเดิม   

กฎการเปลี่ยนประธาน ดังนี้:   

ตัวอย่าง:

Your elder sister likes soccer, doesn’t she?

→ นามวลีสำหรับผู้หญิง ‘Your elder sister’ เมื่อป้อน ’หลังเครื่องหมายจุลภาคจะเปลี่ยนเป็น ‘เธอ’   

ต่อไปนี้คือบางโครงสร้างที่พบบ่อยที่สุดที่ ELSA Speak ได้รวบรวมไว้ คุณลองดูนะ!    

หมายเหตุ: เพื่อให้บทความมีความกระชับมากขึ้น ELSA Speak จะเลือกเฉพาะกาลที่ใช้ Question Tag บ่อยที่สุดเท่านั้น   

Present Simple

A. กริยา ‘be’   

ประธานโครงสร้าง
เอกพจน์บุรุษที่หนึ่ง
I – ฉัน
โครงสร้างที่ 1

I + am + adj/ N phrase/ … + (…)+ , + aren’t + I?

โครงสร้างที่ 2

I + am not + adj/ N phrase/ … + (…) + , + am + I?

หมายเหตุ:‘I am’ ย่อเป็น ‘I’m’

ตัวอย่าง

I am your best friend, aren’t I?
→ ฉันเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของเธอใช่ไหม

I’m not the person that annoys you, am I?
→  ฉันไม่ใช่คนที่รบกวนคุณใช่ไหม  
สรรพนามเกี่ยวกับบุคคล

พหูพจน์บุรุษที่ 1:
we – เรา/ พวกเรา

พหูพจน์หรือเอกพจน์บุรุษที่ 2:
you – คุณ พวกคุณ

พหูพจน์บุรุษที่ 3:
they – พวกเขา
her parents – พ่อแม่ของเธอ
my friends – เพื่อนๆ ของฉัน, v.v.
โครงสร้างที่ 1

Subject + are + adj/ N phrase/ … + (…) + , + aren’t + Subject?

โครงสร้างที่ 2

Subject + are not + adj/ N phrase/ … + (…) + , + are + Subject?

หมายเหตุ

‘are not’ ย่อเป็น ‘aren’t’
‘you are’ ย่อเป็น ‘you’re’
‘we are’ ย่อเป็น ‘we’re’
‘they are’ ย่อเป็น ‘they’re’

ตัวอย่าง

You are upset, aren’t you?
→ คุณโกรธอยู่ใช้ไหม? 

We’re not in the right room, are we?
→ เราไม่ได้อยู่ถูกห้องใช่ไหม  
เอกพจน์บุรุษที่ 3 เอกพจน์
she – เธอ
he – เขา
it – มัน
that girl – ผู้หญิงคนนั้น
his boss – เจ้านายของเขา
v.v. 
โครงสร้างที่ 1

Subject + is + adj/ N phrase/ … + (…) + , + isn’t + Subject?

โครงสร้างที่ 2

Subject + is not + adj/ N phrase/ … + (…) + , + is + Subject?

หมายเหตุ

‘is not’  ย่อเป็น ‘isn’t’
ประธาน (he/ she/ it หรือชื่อ) + ‘is’ สามารถย่อเป็น: ประธาน’s

ตัวอย่าง

The new employee is laborious, isn’t he?
→ พนักงานคนใหม่เป็นคนขยันใช่ไหม

That student isn’t happy today, is she?
→ นักเรียนคนนั้นวันนี้ไม่มีความสุขใช่ไหม
โครงสร้าง Question Tag- present tense

B. กริยาธรรมดา 

ประธานโครงสร้าง
สรรพนามเกี่ยวกับบุคคล

เอกพจน์บุรุษที่หนึ่ง:
I – ฉัน

พหูพจน์บุรุษที่ 1:
we – เรา/ พวกเรา

พหูพจน์หรือเอกพจน์บุรุษที่ 2:
you – คุณ พวกคุณ

พหูพจน์บุรุษที่ 3:
they – พวกเขา
her parents – พ่อแม่ของเธอ
my friends – เพื่อนๆ ของฉัน, v.v.   
โครงสร้างที่ 1

Subject + V-infi + (Object) + (…) + , + don’t + Subject?

โครงสร้างที่ 2

Subject + do not + V-infi + (Object) + (…) + , + do + Subject?

หมายเหตุ: ‘do not’ ย่อเป็น ‘don’t’    

ตัวอย่าง

We have a toaster, don’t we?
→ เรามีเครื่องปิ้งขนมปัง ใช่ไหม  

You don’t like him, do you?
→ คุณไม่ชอบเขาใช่ไหม?  
เอกพจน์บุรุษที่ 3
she – เธอ
he – เขา
it – มัน
that girl – ผู้หญิงคนนั้น
his boss – เจ้านายของเขา
v.v. 
โครงสร้างที่ 1

Subject + V-s/es + (Object) + (…) + , + doesn’t + Subject?

โครงสร้างที่ 2

Subject + doesn’t + V-infi + (Object) + (…) + , + does + Subject?

หมายเหตุ: ‘does not’ ย่อเป็น ‘doesn’t’   

ตัวอย่าง

She works very hard, doesn’t she?
→ เธอทำงานขยันมากใช่มั้ย?

Their leader doesn’t go to work on time, does he?
→ หัวหน้าของพวกเขามาทำงานไม่ตรงเวลาใช่ไหม?
โครงสร้าง QuestionTag- past tense 03

Past Simple

A. กริยา ‘be’   

ประธาน (Subject)โครงสร้าง  
สรรพนามเกี่ยวกับบุคคล

พหูพจน์บุรุษที่ 1:
we – เรา/ พวกเรา

พหูพจน์หรือเอกพจน์บุรุษที่ 2:
you – คุณ พวกคุณ

พหูพจน์บุรุษที่ 3:
they – พวกเขา
her parents – พ่อแม่ของเธอ
my friends – เพื่อนๆ ของฉัน, v.v.
โครงสร้างที่ 1

Subject + were + adj/ N phrase/ … + (…) + , + weren’t + Subject?

โครงสร้างที่ 2

Subject + were not + adj/ N phrase/ … + (…) + , + were + Subject?

หมายเหตุ: ‘were not’  ย่อเป็น weren’t’

ตัวอย่าง

Yesterday, they were a little tired, weren’t they?
→ เมื่อวานพวกเขาเหนื่อยนิดหน่อยใช่ไหม?

Last night, you weren’t at home when we came, were you?
→ เมื่อคืนคุณไม่อยู่บ้านเมื่อเรามาถึงใช่ไหม 
เอกพจน์บุรุษที่หนึ่ง
I – ฉัน

เอกพจน์บุรุษที่ 3
she – เธอ
he – เขา
it – มัน
that girl – ผู้หญิงคนนั้น
his boss – เจ้านายของเขา
v.v.  
โครงสร้างที่ 1

Subject + was + adj/ N phrase/ … + (…) + , + wasn’t + Subject?

โครงสร้างที่ 2

Subject + was not + adj/ N phrase/ … + (…) + , + was + Subject?

หมายเหตุ: ‘was not’ ย่อเป็น ‘wasn’t’

ตัวอย่าง:

In the last meeting, that client was happy with our plan, wasn’t she?
→ ในการประชุมครั้งก่อน ลูกค้าคนนั้นพอใจกับแผนของเราใช่ไหม? 

This morning, our son wasn’t at school, was he?
→ ลูกชายเราไม่ไปโรงเรียนเมื่อเช้านี้ใช่ไหม  

B. กริยาธรรมดา

ประธาน (Subject)    โครงสร้าง  
ประธานทั้งหมด
ไม่แยกประเภทสรรพนามเกี่ยวกับบุคคล และเป็นเอกพจน์หรือพหูพจน์  
โครงสร้างที่ 1

Subject + V2/Ved + (Object) + (…) + , + didn’t + Subject?

โครงสร้างที่ 2

Subject + did not + V-infi + (Object) + (…) + , + did + Subject?

หมายเหตุ: ‘did not’ ย่อเป็น ‘didn’t’

ตัวอย่าง

Last month, you missed a lot of deadlines, didn’t you?
→ เดือนก่อนคุณทำไม่ทัน deadine ใช่ไหม?

This morning, he didn’t contact that customer, did he?
→ เดือนที่แล้วคุณไม่ได้ติดต่อกับลูดค้าคนนั้นใช่ไหม? 

Simple Future

A. กริยา ‘be’

ประธาน (Subject)โครงสร้าง
ประธานทั้งหมด
ไม่แยกประเภทสรรพนามเกี่ยวกับบุคคล และเป็นเอกพจน์หรือพหูพจน์ 
โครงสร้างที่ 1

Subject + will be + adj/ N phrase/ … + (…) + , + won’t + Subject?
โครงสร้างที่ 2


Subject + will not be + adj/ N phrase/ … + (…) + , + were + Subject?

หมายเหตุ: ‘will not’ ย่อเป็น ‘won’t’

ตัวอย่าง

My parents will be happy if I come home this Tet Holiday, won’t they?
→ พ่อแม่ของฉันจะมีความสุขไหมเมื่อฉันกลับบ้าน Tet นี้?

She won’t be upset when she finds out the truth, will she?
→ เธอจะไม่เสียใจเมื่อรู้ความจริงใช่ไหม  

B. กริยาธรรมดา

ประธาน (Subject) โครงสร้าง
ประธานทั้งหมด
ไม่แยกประเภทสรรพนามเกี่ยวกับบุคคล และเป็นเอกพจน์หรือพหูพจน์  
โครงสร้างที่ 1

Subject + will + V-infi + (Object) + (…) + , + won’t + Subject?

โครงสร้างที่ 2

Subject + will not + V-infi + (Object) + (…) + , + will + Subject?

หมายเหตุ: ‘will not’ ย่อเป็น ‘won’t’

ตัวอย่าง

You will tell him the truth, won’t you?
→ คุณจะบอกความจริงกับเขาใช่ไหม

Our teacher won’t give us more exercises, will he?
→ ครูของเราจะไม่ให้การบ้านเพิ่มใช่ไหม

Question Tag สำหรับ Perfect Tense

Tenseโครงสร้าง
Present perfect
โครงสร้างที่ 1

Subject + has/ have + V3/-ed + (object) + (…) + , + hasn’t/ haven’t + subject + ?

โครงสร้างที่ 2

Subject + hasn’t/ haven’t + V3/-ed + (object) + (…) + , + has/ have + subject + ?

ตัวอย่าง

You haven’t called that customer, have you?
→ คุณยังไม่ได้โทรหาลูกค้าคนนั้นใช่ไหม

Our boss has just given us some new tasks, hasn’t she?
→ เจ้านายของเราเพิ่งให้งานใหม่กับเราใช่ไหม? 
Present perfect continuousโครงสร้างที่ 1

Subject + has/ have + been + V-ing + (object) + (…) + , + hasn’t/ haven’t + subject + ?
โครงสร้างที่ 2


Subject + hasn’t/ haven’t + been + V-ing + (object) + (…) + , + has/ have + subject + ?  

ตัวอย่าง

They have been working since 2pm, haven’t they?
→พวกเขาทำงานตั้งแต่บ่าย 2 ใช่ไหม 

He hasn’t been practicing for months, has he?
→ เขาไม่ได้ซ้อมมาหลายเดือนแล้วใช่ไหม? 
Past Perfectโครงสร้างที่ 1

Subject + had + V3/-ed + (object) + (…) + , + hadn’t + subject + ?
โครงสร้างที่ 2


Subject + hadn’t + V3/-ed + (object) + (…) + , + had + subject + ?  

ตัวอย่าง

The meeting had ended before you came, hadn’t it?
→ การประชุมจบลงก่อนที่คุณมาถึงใช่ไหม?  

Our leader hadn’t sent us the files before we started the project, had he?
→ หัวหน้าทีมของเราไม่ได้ส่งเอกสารให้เราก่อนเริ่มโครงการใช่ไหม
Past Perfect continuousโครงสร้างที่ 1

Subject + had + been + V-ing + (object) + (…) + , + hasn’t/ hadn’t + subject + ?

โครงสร้างที่ 2


Subject + hadn’t + been + V-ing + (object) + (…) + , + had + subject + ?  

ตัวอย่าง

Yesterday, our daughter had been studying until we got home, hadn’t she?
→ เมื่อวานลูกสาวเราเรียนหนังสือตลอดจนเรากลับบ้านใช่ไหมคะ?

That student hadn’t been studying hard before the teacher called his parents, had he?
→ นักเรียนคนนั้นไม่ได้ขยันเรียนก่อนที่อาจารย์จะเรียกผู้ปกครองของเขาใช่ไหม?
Future Perfectโครงสร้างที่ 1

Subject + will + have + V3/-ed + (object) + (…) + , + won’t + subject + ?

โครงสร้างที่ 2

Subject + won’t + have + V3/-ed + (object) + (…) + , + will + subject + ?  

ตัวอย่าง

The meeting will have started before we get there, won’t it?
→ การประชุมจะเริ่มก่อนที่เราจะไปถึงใช่ไหม?

We won’t have completed the task before our boss comes back, will we?
→ เราจะไม่จบเรื่องนี้ก่อนที่เจ้านายจะกลับมาใช่ไหม?
Future Perfect Continuousโครงสร้างที่ 1

Subject + will + have + been + V-ing + (object) + (…) + , + won’t + subject + ?

โครงสร้างที่ 2

Subject + won’t + have + been + V-ing + (object) + (…) + , + will + subject + ?  

ตัวอย่าง

When we arrive there, they will have been discussing for hours, won’t they?
→ เมื่อเราไปถึง เขาคงคุยกันมาหลายชั่วโมงแล้วใช่ไหม?

Our son won’t have been playing games before we get home, will he?
→  ลูกชายเราจะไม่เล่นเกมต่อเนื่องก่อนเรากลับบ้านใช่ไหม?  
โครงสร้าง Question Tag - future tense

Question Tag ของ Modal Verbs

Modal Verbsโครงสร้าง

‘can’
โครงสร้างที่ 1

Subject + can + V-infi + (object) + (…) + , + can’t + subject + ?

โครงสร้างที่ 2

Subject + can’t + V-infi + (object) + (…) + , + can + subject + ?  

ตัวอย่าง

Your younger brother can’t play the piano, can he?
→ น้องชายของคุณเล่นเปียโนไม่เป็นใช่ไหม?

You can speak Japanese, can’t you?
→ คุณพูดภาษาญี่ปุ่นได้ใช่ไหม? 
‘could’โครงสร้างที่ 1

Subject + could + V-infi + (object) + (…) + , + couldn’t + subject + ?

โครงสร้างที่ 2

Subject + couldn’t + V-infi + (object) + (…) + , + could + subject + ?

ตัวอย่าง

When you were young, you could swim very well, couldn’t you?
→ ตอนเด็กๆ คุณว่ายน้ำเก่งมากใช่ไหม?

Yesterday, they couldn’t go camping, could they?
→เมื่อวานพวกเขาไปตั้งแคมป์ไม่ได้ใช่ไหม?  
‘may’ (possibility ≥ 50%)โครงสร้างที่ 1

Subject + may + V-infi + (object) + (…) + , + mayn’t + subject + ?

โครงสร้างที่ 2

Subject + mayn’t + V-infi + (object) + (…) + , + may + subject + ?  

ตัวอย่าง

She may become the next manager, mayn’t she?
→เธอสามารถเป็นผู้จัดการคนต่อไปได้หรือไม่?

He mayn’t like this present, may he?
→เขาคงไม่ชอบของขวัญชิ้นนี้ใช่ไหม?
‘might’ (possibility < 50%)โครงสร้างที่ 1

Subject + might + V-infi + (object) + (…) + , + mightn’t + subject + ?

โครงสร้างที่ 2

Subject + mightn’t + V-infi + (object) + (…) + , + might + subject + ?

ตัวอย่าง

She might become the next manager, mightn’t she?
→ เธอจะเป็นผู้จัดการคนต่อไปหรือไม่?

He mightn’t like this present, might he?
→ เขาอาจไม่ชอบของขวัญชิ้นนี้ใช่ไหม?
‘shall’ (future predictions)โครงสร้างที่ 1

Subject + shall + V-infi + (object) + (…) + , + shan’t + subject + ?

โครงสร้างที่ 2

Subject + shan’t + V-infi + (object) + (…) + , + shall + subject + ?  

ตัวอย่าง

This time next month, we shall be in Taiwan, shan’t we?
→ เวลานี้เดือนหน้าเราจะอยู่ไต้หวันแล้วใช่ไหม?

This time next month, we shan’t be in Taiwan, shall we?
→  เดือนหน้านี้เราจะไม่อยู่ไต้หวันใช่มั้ย?
‘should’โครงสร้างที่ 1

Subject + should + V-infi + (object) + (…) + , + shouldn’t + subject + ?

โครงสร้างที่ 2

Subject + shouldn’t + V-infi + (object) + (…) + , + should + subject + ?  

ตัวอย่าง

My daughter should choose this school, shouldn’t she?
→ ลูกสาวของฉันควรเลือกโรงเรียนนี้หรือไม่?

We shouldn’t drink more than 2.7 liters of water per day, should we?
→ เราไม่ควรดื่มน้ำเกิน 2.7 ลิตรต่อวัน ใข่ไหม?
wouldโครงสร้างที่ 1

Subject + would + V-infi + (object) + (…) + , + wouldn’t + subject + ?

โครงสร้างที่ 2

Subject + wouldn’t + V-infi + (object) + (…) + , + would + subject + ?

ตัวอย่าง

You would like to talk to our boss, wouldn’t you?
→ คุณต้องการคุยกับเจ้านายของเราใช่ไหม

If you were me, you wouldn’t buy that car, would you?
→ ถ้าคุณเป็นฉัน คุณจะไม่ซื้อรถคันนั้นใช่ไหม

Question Tag รูปแบบพิเศษ 

โครงสร้าง  I (don’t) think/believe/… (that) + อนุประโยค

สำหรับอนุประโยคบอกเล่าที่มีโครงสร้างเป็น I (don’t) think/believe/… (that) + อนุประโยค ประธานจะเป็นประธานของอนุประโยค

ตัวอย่าง
I think he will be late, won’t he?

→ ฉันคิดว่าเขาจะสาย เป็นเรื่องจริงหรือไม่? 

I don’t believe we can win the contest, can we?

→ ฉันไม่เชื่อว่าเราจะชนะการประกวดได้ เราจะสามารถไหม?   

หมายเหตุ: หากตรง I think/ believe เราใช้ปฎิเสธ Question Tag จะต้องเป็นการยืนยันหรือปฎิเสธเหมือนกันกับอนุประโยค   

Question Tag กับ Let’s   

Question Tag ของอนุประโยคบอกเล่าที่เริ่มต้นด้วย Let’s จะเป็น Shall we   

ตัวอย่าง

It’s sunny today. Let’s go swimming, shall we?

→ วันนี้แดดออก เราไปเล่นน้ำกันมั้ย?

Question Tag หลังอนุประโยคบังคับ

หลังอนุประโยคบังคับ Question Tag จะเป็น ‘will you’ 

ตัวอย่าง  

Keep quiet, will you?

→ กรุณาอย่าส่งเสียงดัง ได้ไหม

Don’t open the window, will you?

→ อย่าเปิดหน้าต่าง ได้ไหม

Question Tag กับ I wish

อนุประโยคบอกเล่าที่มี I wish เพื่ออธิบายถึงความต้องการ Question Tag จะเป็น May I 

ตัวอย่าง  

I wish to take a day off next week to have a check-up, may I?

→ ฉันต้องการหยุดงานหนึ่งวันในสัปดาห์หน้าเพื่อไปตรวจสุขภาพ จะได้ไหม  

Question Tag กับ Must  

เมื่อใช้กับ Must เราจะอิงตามความหมายและหน้าที่ของ Must ในแต่ละกรณีเพื่อเลือก Question Tag

ตัวอย่าง
You must go now, needn’t you?
→ คุณต้องไปตอนนี้หรือไม่

ตัวอย่าง

We mustn’t use the company’s phones for personal calls, must we?

→ เราไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้โทรศัพท์ของบริษัทสำหรับการโทรส่วนตัวหรือ?

ตัวอย่าง

He must like her a lot, doesn’t he?

→ เขาต้องชอบเธอมากแน่ๆ ใช่ไหม?  

After practicing for nearly 2 hours, you must be tired, aren’t you?

→ หลังจากซ้อมมาเกือบ 2 ชม. คุณคงจะเหนื่อยใช่ไหม?  

ตัวอย่าง

They must have lied to you, haven’t they?

→  พวกเขาต้องโกหกคุณแล้วแน่ๆ ใช่ไหม?  

Question Tag กับ everyone, no body,…  (คำสรรพนามที่ไม่ได้ระบุเจาะจงว่าเป็นคนไหน ) 

เมื่อประธานในอนุประโยคบอกเล่าเป็นหนึ่งในคำสรรพนามที่ไม่ได้ระบุเจาะจงว่าเป็นคนไหน เช่น everyone, someone, anyone, no one, everybody, somebody, nobody và anybody ประธานจะเป็น ‘they’.

หมายเหตุ 

ตัวอย่าง

Everyone can enter this room, can’t they?

→ ทุกคนสามารถเข้าห้องนี้ได้หมดใช่ไหม? 

No one likes this dish, do they?

→ ไม่มีใครชอบจานนี้ใช่ไหม?   

ประธานในอนุประโยคบอกเล่าเป็นคำสรรพนามที่ไม่ได้ระบุเจาะจงว่าเป็นสิ่งไหน

เมื่อประธานของอนุประโยคบอกเล่าเป็นหนึ่งในคำสรรพนามที่ไม่ได้ระบุเจาะจงว่าเป็นสิ่งไหน: ทุกสิ่ง บางสิ่ง สิ่งใด และไม่มีอะไร ประธานในแท็กคำถามจะเป็น ‘มัน’  

หมายเหตุ   

เมื่อประมาณเป็น ‘nothing’ – “ไม่มีอะไร” Question Tag จะอยู่ในรูปแบบยืบอกเล่า  

ตัวอย่าง   

Nothing was there, was it?

→  ไม่มีอะไรที่นั่นใช่ไหม?  

อนุประโยคบอกเล่าที่มีคำกริยาวิเศษณ์ที่แสดงความหมายเชิงปฏิเสธหรือกึ่งปฏิเสธ    

เมื่อในอนุประโยคบอกเล่าที่มีคำกริยาวิเศษณ์ที่แสดงความหมายเชิงปฏิเสธหรือกึ่งปฏิเสธ เช่น never- ไม่เคย, seldom/ hardly/ scarcely/เป็นต้น จะเป็นรูปแบบเชิงลบ 

จากนั้น Question Tag จะอยู่ในรูปแบบบอกเล่า  

ตัวอย่าง   

She never cheats in exams, does she?

→ เธอไม่เคยโกงข้อสอบใช่ไหม?   

When he was young, he rarely exercised, did he?

→ ตอนที่ยังเป็นหนุ่ม เขาไม่ค่อยได้ออกกำลังกายใช่ไหม?   

ประธานของอนุประโยคบอกเล่าคือ noun clause หัวเรื่องของ Question Tag คือ It 

ตัวอย่าง

What you like and dislike doesn’t matter, does it?

→ไม่สำคัญหรอกว่าคุณชอบไม่ชอบอะไร จริงไหม?    

→ การวิเคราะห์: noun clause คือ  ‘what you like and dislike’   

Question Tag ที่ใช้ Had better  

เมื่อประโยคใช้ Had Better (ตัวย่อ: ‘d Better) เพื่อแสดงคำแนะนำQuestion Tag  จะยืมคำว่า Had และใช้รูปแบบเชิงปฏิเสธ Hadn’t   

ตัวอย่าง

I had better contact that customer right now, hadn’t I?

→ ฉันควรติดต่อลูกค้าคนนั้นตอนนี้หรือไม่?   

Question Tag ที่ใช้ Would rather

เมื่อประโยคบอกเล่าใช้ ‘would rather’ เพื่อแสดงความต้องการหรือการเลือก Question Tag จะยืมคำว่า ‘would’ และใช้ในรูปแบบปฏิเสธ ‘wouldn’t’ 

ตัวอย่าง

Our daughter would rather stay home, wouldn’t she?

→ ลูกสาวเราอยากอยู่บ้านใช่ไหม?   

Question Tag ของ “I am …” 

เมื่ออนุประโยคหลักขึ้นต้นด้วย ‘I am’ ตามหลักการเปลี่ยนประธานในตอนต้นของหมวดที่ 3 โครงสร้าง ถ้าประธานใช้สรรพนาม ‘I’ เราจะคงไว้คำเดิม    

สำหรับ ‘am’ เมื่อเปลี่ยนเป็น Question Tag เราจะใช้คำปฏิเสธแน่นอน แต่มันจะเป็น ‘aren’t’ ไม่ใช่ ‘am not’  

ตัวอย่าง

I am in hospital, aren’t I?

→ ฉันกำลังอยู่ในโรงพยาบาลใช่ไหม?

I am annoying you, aren’t I?

→  ฉันรบกวนคุณอยู่หรือเปล่า  

Question Tag ของอนุประโยคหลักที่มีประธาน ‘this’/ ‘that’/ ‘these’ / 

เมื่อประโยคหลักมีประธานเป็น ‘‘this’ หรือ ‘that’ ประธานจะเป็น ‘it’   

เมื่อประโยคหลักมีหัวเรื่องเป็น ‘these’ หรือ ‘those หัวเรื่องจะเป็น ‘they’   

ตัวอย่าง

This/ That is your phone, isn’t it?

→ นี่/นั่นคือโทรศัพท์ของคุณใช่ไหม   

These/ Those are the apples you bought this morning, aren’t they?

→ พวกนี้/นั่นคือแอปเปิ้ลที่คุณซื้อเมื่อเช้านี้ใช่ไหม?  

Question Tag กับ ‘used to’

โครงสร้าง Question Tag กับ used to

โครงสร้างที่ 1Subject + used to + V-infi + (object) + (…) + , + didn’t + subject + ?

โครงสร้างที่ 2: Subject + didn’t use to + V-infi + (object) + (…) + , + did + subject + ?

ตัวอย่าง

Your wife used to work for a hospital, didn’t she?

→  ภรรยาคุณเคยทำงานโรงพยาบาลใช่ไหม? 

You didn’t use to walk to work, did you?

→  คุณไม่เคยเดินไปทำงานใช่ไหม  

Question Tag กับ ‘have to’ 

โครงสร้างที่ 1:

Present  Simple: Subject + has/ have to + V-infi + (object) + (…) + , + doesn’t/ don’t + subject + ?

Past Simple: Subject + had to + V-infi + (object) + (…) + , + didn’t + subject + ?

Future Simple: Subject + will have to + V-infi + (object) + (…) + , + won’t + subject + ?

โครงสร้างที่ 2:

Present  Simple: Subject + doesn’t/ don’t have to + V-infi + (object) + (…) + , + does/ do + subject + ?

Past Simple: Subject + didn’t have to + V-infi + (object) + (…) + , + did + subject + ?

Future Simple: Subject + won’t have to + V-infi + (object) + (…) + , + will + subject + ?

ตัวอย่าง

You don’t have to take care of your younger sister, do you?

→ คุณไม่ต้องดูแลน้องสาวใช่มั้ย    

Yesterday, that employee had to work overtime, didn’t he?

→  เมื่อวานพนักงานคนนั้นต้องทำงานล่วงเวลาใช่ไหม?  

We will have to pay a lot, won’t we?

→  เราจะต้องจ่ายเงินเยอะใช่มั้ย?  

Question Tag กับ ‘ought to’   

โครงสร้าง: Subject + ought to + V-infi + (object) + (…) + , + oughtn’t + subject + ?

ตัวอย่าง

My sister ought to see a doctor, oughtn’t she?

→ น้องสาวของฉันจำเป็นต้องไปพบแพทย์หรือไม่?

Question Tag กับ ‘need’   

เนื่องจาก ‘need’ เป็น Semi-modal Verb (กริยาช่วยกึ่ง modal)  ใน Present Simple จึงสามารถใช้ need เป็นได้ทั้งกริยาธรรมดาและกริยาช่วย  

อย่างไรก็ตาม ใน  Question Tag  และประโยคหลักด้านหน้า  ‘need’ มักถูกใช้ในรูปกริยาช่วยเพื่อความกระชับ 

 Question Tag กับ need

โครงสร้าง 1: Subject + need(s) + to V-infi + (…) + , + needn’t + subject + ?

โครงสร้างที่ 2: Subject + needn’t + V-infi + (…) + , + need + subject + ?

ตัวอย่าง

They need to study harder, needn’t they?

→  พวกเขาต้องเรียนหนักขึ้นใช่ไหม?  

She needn’t work on Sundays, need she?

→  เธอไม่ต้องทำงานในวันอาทิตย์ใช่ไหม  

หมายเหตุ: ในกาลที่เหลือ ‘need’ ใช้เป็นกริยาปกติ ดังนั้น หากใช้ tense อื่นที่ไม่ใช่ Present Simple เราก็แค่สร้าง ด้วยคำว่า ‘need’ ตามโครงสร้าง tense ที่ระบุในหัวข้อที่ 3  

Question Tag ของประโยคอุทาน

เมื่ออนุประโยคกลักเป็นคำอุทาน เราจะนำคำนามในประโยคนั้นมาเปลี่ยนเป็นคำสรรพนาม ส่วนกริยาช่วย are is, am, are อยู่ในรูปปฏิเสธ  

ตัวอย่าง

What a beautiful dress, isn’t it?

→ ช่างเป็นชุดที่สวยงามใช่มั้ย  

What big houses, aren’t they?

→ บ้างหลังนี้ใหญ่ใช่ไหม  

คำตอบสำหรับ Question Tag 

โครงสร้างว่า  

อนุประโยคหลัก + , + Question Tag + ?  

โดยที่ประโยคหลักและประโยคคำถามจะอยู่ตรงข้ามกันเสมอในแง่ของการยืนยันหรือปฏิเสธ

ตัวอย่าง

They are friendly people, aren’t they?

They aren’t friendly people, are they?

ในการตอบคำถามประเภทนี้ เราต้องจำไว้ว่าไม่เพียงแต่ให้ความสนใจกับ Question Tag ที่อยู่ด้านหลังเท่านั้น แต่ยังต้องให้ความสนใจกับประโยคหลักและ Question Tag ด้วย

จากนั้น หากเราเห็นด้วยกับอนุประโยคปฏิเสธ เราจะตอบว่า ‘No, subject  + กริยาช่วยที่สอดคล้องกัน’ หากเราเห็นด้วยกับคำปฏิเสธ เราจะตอบว่า ‘Yes, ประธาน + กริยาช่วยที่สอดคล้องกัน’ 

ตัวอย่าง   

They are friendly people, aren’t they?

→ ถ้าเราเห็นด้วยกับประโยคยืนยัน ‘They are friendly people’ ให้ตอบว่า ‘Yes, they are.’

→ หากเราเห็นด้วยกับ  Question Tag ที่เอนไปทางเชิงลบ ‘ใช่ไหม’ เราจะตอบว่า: ‘ไม่ มันไม่ใช่’ อย่าตอบว่า ‘ใช่’  

แบบฝึกหัด

กรอกในช่องว่างให้เหมาะสม  

กรอก Question tag ในช่องว่างให้เหมาะสม  คำตอบ
Our boss likes the new employee, _? (female boss)doesn’t she
Your younger sister would rather go out on weekends, _?wouldn’t she
They must complete that task today, _?needn’t they
I wish to leave early, _?may I
They don’t like working overtime, _?do they
Turn down the volume, _?will you
I don’t think he will believe you, _?will he
You missed another deadline yesterday, _?didn’t you
This morning, that man must have stolen your wallet, _?hasn’t he
Your crush won’t come to the party, _? (male crush)will he
Somebody left the door open, _?didn’t they
She never stays up late, _?does she
You read a lot of books. You must like reading a lot, _?don’t you
Let’s eat out, _?shall we
When we entered the room, nothing was there, _?was it
When we go to the museum doesn’t matter, _?does it
We had better lock all the doors, _?hadn’t we
Don’t turn on the TV when I’m working, _?will you
Our mother is sick, _?isn’t she
When he first moved here, he was really friendly, _?wasn’t he

ด้านบนคือสรุปคำจำกัดความ โครงสร้าง วิธีการใช้งาน และแบบฝึกหัด Question Tag ELSA Speak หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้คุณใช้มันได้อย่างคล่องแคล่วและมั่นใจมากขึ้นในกระบวนการเรียนภาษาอังกฤษด้วยตนเอง ขอบคุณที่อ่านบทความ แล้วพบกันใหม่บทความหน้า!

banner (compare free vs pro)

แนะนําตัวภาษาอังกฤษ เป็นหัวข้อพื้นฐานที่ปรากฏบ่อยมากในการสอบ IELTS Speaking Part 1 และนี่ก็เป็นหัวข้อที่คุ้นเคยในการสื่อสารภาษาอังกฤษ ถ้าอย่างงั้น ด้วยหัวข้อนี้ ทำยังไงถึงจะแนะนำตัวเองด้วยภาษาอังกฤษใน IELTS Speaking อย่างน่าประทับใจและทำคะแนนได้

คำศัพท์ทั่วไปในการแนะนำตัวเอง  

แนะนําตัวภาษาอังกฤษ – แนะนำชื่อและอายุ   

E.g: My full name is James Blunt, but everyone calls me James or Jimmy. I am in my 40s.

แนะนําตัวภาษาอังกฤษ – แนะนำบ้านเกิด

E.g: I was born and grew up in London, and I love living among the hustle and bustle of the city.

>> Read more: แนะนำวิธีการง่าย ๆ เพื่อซื้อคอร์สเรียน ELSA Speak ตลอดชีพ

แนะนําตัวภาษาอังกฤษ – แนะนำอาชีพการงาน

E.g: I am working part-time for an international company, and I work as an intern in the Marketing department.

แนะนำอาชีพการงาน- แนะนําตัวภาษาอังกฤษ

แนะนําตัวภาษาอังกฤษ – แนะนำงานอดิเรก

Eg: I have a passion for music, so I usually let my hair down by going to concerts a few times a month. 

แนะนําตัวภาษาอังกฤษ – คำศัพท์เกี่ยวกับบุคลิกภาพ

โครงสร้างไวยากรณ์ที่ใช้สำหรับหัวข้อแนะนำตัว  

แนะนำชื่อและอายุ   

แนะนำบ้านเกิด

แนะนำเกี่ยวกับอาชีพการงาน

โครงสร้างไวยากรณ์ที่ใช้สำหรับหัวข้อ แนะนำตัวภาษาอังกฤษ

แนะนำงานอดิเรก  

แนะนำเกี่ยวกับครอบครัว

คำถามที่พบบ่อยในหัวข้อแนะนำตัว – IELTS Speaking Part 1

Do you work or study?

Currently I am working as a Teacher of IELTS at ELSA Speak. I have been working here for a few months, and besides IELTS, I also teach communicative classes for adult language learners. 

ปัจจุบัน ฉันเป็นครูสอน IELTS ที่ ELSA Speak ฉันทำงานที่นี่ได้บางเดือนแล้ว และนอกจากสอน IELTS แล้ว ฉันยังสอนวิชาการสื่อสารสำหรับผู้ใหญ่ด้วย  

What is the most interesting part of being a [candidate’s occupation]?

I think when I work as an English teacher, I enjoy seeing my students’ learning progress and their achievements the most, especially if they can achieve their goals while developing an interest in learning the language. That makes me realize my job is meaningful. 

→ ฉันคิดว่า ในฐานะเป็นครูสอนภาษาอังกฤษ ฉันชอบสังเกตกระบวนการเรียนรู้ของนักเรียนและความก้าวหน้าของพวกเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าพวกเขาสามารถบรรลุเป้าหมายและพัฒนาความรักในการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศได้ นั่นคือสิ่งที่ทำให้งานของฉันมีความหมายมากขึ้น

What kind of work would you like to do in the future?

Obviously, I will continue to be an English teacher because I am passionate about teaching. However, I would like to try in a managerial position in the future and make a positive difference within my workplace. 

แน่นอน ฉันจะเป็นครูสอนภาษาอังกฤษต่อไป เพราะฉันหลงใหลในงานสอนหนังสือมาก อย่างไรก็ตาม ฉันอยากจะลองตำแหน่งผู้บริหารในอนาคตและเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมการทำงานในเชิงบวก

>> Read more: วิธีเปิดใช้งาน ELSA Speak/ELSA Pro ได้เร็วที่สุด

Where is your hometown? / Did you grow up in a city or the countryside?

I was born and raised in Chieng Mai city, which is in the North of Thailand. I  grew up and studied there until I was 18 years old, then I left to go to Bangkok for tertiary education.

ฉันเกิดและเติบโตในเมืองเชียงใหม่ ซึ่งอยู่ในภาคเหนือของไทย  ฉันโตขึ้นและเรียนที่นั่นจนอายุ 18 ปี ก็มาศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาที่กรุงเทพฯ

Are there any special things about your city?/ Is your city famous for anything?

Chieng Mai is famous as the city of flowers, because its soil makes the area an ideal place for growing flowers. Therefore, flower is a big part of the city’s culture and we are proud of our captivating and beautifully-grown flowers.

เชียงใหม่ขึ้นชื่อในฐานะเมืองแห่งดอกไม้ เนื่องจากดินที่นี่เหมาะสำหรับปลูกดอกไม้หลากหลายชนิด  ดังนั้น ดอกไม้จึงกลายเป็นส่วนสำคัญของวัฒนธรรมของเชียงใหม่ และเราภูมิใจดอกไม้ที่สวยงามหลายชนิดที่ไม่มีที่ไหนสามารถปลูกได้  

Do you think it’s a good place to live?

Yes, I believe so. The city is the economic center of the whole area, and it has been developing significantly during the past few years. The people there are also very friendly.

ฉันคิดว่ามันเป็นสถานที่น่าอยู่ เมืองนี้เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของภูมิภาค และมีความเจริญรุ่งเรืองในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ผู้คนที่นี่ก็เป็นมิตรมากเช่นกัน   

เรียนภาษาอังกฤษด้วยแอป ELSA Speak ดีหรือไม่

บทความตัวอย่างในการแนะนำตัว 

แนะนําตัวภาษาอังกฤษ –  บทความตัวอย่างที่ 1

Hello, my name is Kookkai, and I am eighteen years old. This year, I am going to be a student of Kasetsart University . I was born in Chieng Mai province, but I just moved to Bangkok a few weeks ago. I am friendly but a bit shy, so it is difficult for me to start a conversation with other people.

On the weekend, I like going out with my friends. We usually go to the cinema and watch horror movies, then have dinner together. 

→ สวัสดี ฉันชื่อกุ๊กไก่ และฉันอายุสิบแปดปี ฉันเพิ่งจบ ม.6 และกำลังจะเป็นนิสิต ม.เกษตรในปีนี้ ฉันเกิดที่จังหวัดเชียงใหม่ แต่เพิ่งย้ายมาอยู่กรุงเทพเมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ฉันเป็นมิตรแต่ค่อนข้างขี้อาย ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องยากสำหรับฉันที่จะเริ่มสนทนากับคนอื่นๆ

ฉันชอบไปเที่ยวกับเพื่อนในวันหยุดสุดสัปดาห์ เรามักจะไปโรงหนังและดูหนังสยองขวัญ แล้วก็ทานอาหารเย็นด้วยกัน

แนะนําตัวภาษาอังกฤษ –  บทความตัวอย่างที่ 2  

I am going to tell you about my family. My father is 48 years old, but he looks much younger than his age, because he goes in for sports. He plays badminton almost every morning. My mother is 45, and she is a beautiful woman with long black hair and an oval face. She is a housewife, so it takes her a lot of time to take care of the house and of me and my father. However, she is an optimist and has a good sense of humor, which I admire greatly.

About me, my name is Samantha and I am 16  years old. I think I’ve got my father’s eyes but my mom’s nose and smile. I am not as athletic as my father, but sometimes I play badminton with him. When I have free time, I also help mom with the housework. 

→ ฉันจะเล่าให้คุณฟังเกี่ยวกับครอบครัวของฉัน พ่อของฉันอายุ 48 ปี แต่เขาดูหนุ่มกว่าอายุจริงมาก เพราะเขาชอบเล่นกีฬา เขาเล่นแบดมินตันเกือบทุกเช้า แม่ของฉันอายุ 45 ปี เธอเป็นผู้หญิงที่สวยด้วยผมทรงยาวดำและใบหน้ารูปไข่ เธอเป็นแม่บ้าน ดังนั้นเธอใช้เวลาส่วนมากในการดูแลบ้านและพ่อกับฉัน อย่างไรก็ตาม เธอเป็นคนมองโลกในแง่ดีและมีอารมณ์ขัน ซึ่งฉันชื่นชมเธอมากๆ ก็เพราะอย่างนี้

เกี่ยวกับฉัน ฉันชื่อซาแมนธา อายุ 16 ปี ฉันคิดว่าฉันได้ดวงตาจากพ่อ ส่วนจมูกและรอยยิ้มจากแม่ ฉันไม่ได้เป็นนักกีฬาเหมือนพ่อ แต่บางครั้งฉันก็เล่นแบดมินตันกับพ่อ ฉันยังช่วยแม่ทำงานบ้านทุกครั้งที่มีเวลาว่าง

แนะนําตัวภาษาอังกฤษ –  บทความตัวอย่างที่ 3   

My name is Anna and I am working as a Customer Care officer at an English language center for kids. Now, I am in my 20s, and I am a caring and patient person. I think that’s why I am suitable for the position I am having right now. I love working with kids because they are innocent and adorable. However, sometimes my job is a bit stressful and exhausting as I have to deal with complaints from parents, but I am getting used to it. 

Another thing that I really like about my job is the flexible working schedule, because I can choose to work in the morning or afternoon at my convenience. My colleagues are very friendly too, and they support me a lot during my work.

→ ฉันชื่อแอนนา ตอนนี้ทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ดูแลลูกค้าที่ศูนย์ภาษาอังกฤษสำหรับเด็ก ฉันอายุ 20 เป็นคนชอบเอาใจใส่และอดทน ฉันคิดว่านั่นเป็นเหตุผลที่ฉันเหมาะสมกับตำแหน่งที่ฉันทำอยู่ตอนนี้ ฉันชอบทำงานกับเด็กๆ เพราะพวกเขาไร้เดียงสาและน่ารัก อย่างไรก็ตาม บางครั้งงานของฉันค่อนข้างเครียดและเหนื่อยนิดหน่อย เพราะฉันต้องรับมือกับคำตำหนิจากผู้ปกครอง แต่ยังไงฉันก็ชินกับมันไปแล้ว

อีกอย่างที่ฉันชอบในงานของตัวเอง คือตารางการทำงานที่ยืดหยุ่น เพราะฉันสามารถเลือกทำงานช่วงเช้าหรือบ่ายได้ตามสะดวก เพื่อนร่วมงานของฉันก็เป็นมิตรเช่นกัน และยังสนับสนุนฉันมากในระหว่างที่ฉันการทำงานด้วย

แนะนําตัวภาษาอังกฤษ –  บทความตัวอย่างที่ 4  

Hi all, I am Harvey, and I am a student at Bangkok University. I am an animal-lover and I am raising 2 dogs: one is a 4-month old puppy and the other one is 2 years old. They are loyal friends who can ease and comfort my worries. In my free time, I enjoy walking my dogs at the park and talking to other dog-owners there. They usually tell me interesting stories about their pets and we get along really well as we have a lot of things in common.

→ สวัสดีครับ ผมคือฮาร์วีย์ เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยกรุงเทพ ผมเป็นคนรักสัตว์และเลี้ยงสุนัขไว้ 2 ตัว ตัวนึงอายุ 4 เดือน และอีกตัวอายุ 2 ปี พวกเขาเป็นเพื่อนที่ซื่อสัตย์ที่สามารถคลายความกังวลของผมได้ ในเวลาว่างผมชอบพาสุนัขไปเดินเล่นที่สวนสาธารณะและพูดคุยกับเจ้าของสุนัขคนอื่นๆ พวกเขามักจะเล่าเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงของพวกเขาให้ผมฟัง และเราก็เข้ากันได้ดีเพราะเรามีหลายสิ่งหลายอย่างเหมือนกัน 

แนะนําตัวภาษาอังกฤษ –  บทความตัวอย่างที่ 5

Hey, I’m Mateo but people here call me Matt. I grew up in Argentina, and lived there most of my life before moving to the United States. I speak Italian, Spanish and English. I’ve always wanted to improve my English so now that I have the time, I’ve finally signed up for classes online.

I’m not much of an outdoor person, as you can see. I love rainy days because I can wrap myself in a blanket and binge-watch series without feeling guilty.

→ ผมชื่อมาเตโอ แต่ทุกคนที่นี่มักเรียกผมว่าแมตต์ ผมเติบโตในอาร์เจนตินาและอาศัยอยู่ที่นี่เกือบทั้งชีวิตก่อนที่จะย้ายมาอยู่ที่สหรัฐอเมริกา ผมพูดภาษาอิตาลี ภาษาสเปน และภาษาอังกฤษ ผมต้องการพัฒนาภาษาอังกฤษมาโดยตลอด ดังนั้นเมื่อตอนนี้มีเวลาแล้ว ผมเลยสมัครเรียนออนไลน์ 

อย่างที่คุณเห็นผมไม่ใช่คนชอบออกไปข้างนอกมากนัก  ผมชอบฝนตกเพราะสามารถนอนขดตัวในผ้าห่มและดูหนังได้โดยไม่รู้สึกผิด 

10 เคล็ดลับในการตอบคำถามหัวข้อ แนะนำตัว

  1. ฝึกฝนและจดจำทุกหัวข้อและคำถามที่มักจะถูกถามก่อนสอบ เช่น การศึกษา การทำงาน ครอบครัว กิจวัตรประจำวัน แผนการในอนาคต  
  2. คำตอบควรมีหัวเรื่องและคอมพลีเมนต์ครบทุกประโยค
  3. เวลาพูดอย่าเหลียวหลัง ให้มั่นใจและสบตากับผู้คุมสอบด้วย
  4. เตรียมไอเดียที่จะตอบ อย่าท่องจำ (การท่องจำจะส่งผลต่อการออกเสียงของคุณ)  
  5. สำหรับคำถาม Yes/No อย่าตอบเพียงว่า “ใช่” หรือ “ไม่ใช่” แต่ให้อธิบายเพิ่มเติมหรือขยายความในคำตอบของคุณ เพราะผู้สอบจะไม่สามารถประเมินความสามารถทางภาษาอังกฤษของคุณได้
  6. ใช้เวลาสองสามวินาทีในการคิดก่อนที่จะให้คำตอบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคำถามที่ยากหรือคำถามที่ไม่เคยพบมาก่อน
  7. คำตอบต้องมีความสอดคล้องกัน คุณสามารถใช้คำและโทโพโลยี ตัวอย่างเช่น วลีเช่น however, nevertheless, all in all, moreover… จะทำให้สุนทรพจน์ของคุณสมบูรณ์ยิ่งขึ้น
  8. ตั้งใจฟัง ฟังอย่างละเอียด หากคุณไม่เข้าใจหรือได้ยินไม่ชัดเจน ขอให้ผู้ตรวจสอบ IELTS พูดซ้ำอีกครั้ง
  9. จงตอบอย่างจริงจัง! โดยใช้ความรู้สึกและประสบการณ์ของตัวเอง วิธีนี้จะทำให้คำพูดของคุณมั่นใจมากขึ้นและยังทำให้การพูดคุยของคุณขยายออกไปได้ง่ายขึ้นด้วย
  10. ต้องจัดสรรข้อมูลให้เหมาะสม ไม่ควรเน้นข้อมูลส่วนตัวที่มีรายละเอียดมากเกินไป ซึ่งจะทำให้บทความของคุณดูเลื่อนลอยและอาจทำให้ผู้ฟังเบื่อโดยไม่ได้ตั้งใจ

ในบทความข้างต้น ELSA Speak ได้แนะนำให้คุณเกี่ยวกับความรู้ที่จำเป็นและให้ตัวอย่างสำหรับหัวข้อ แนะนำตัว – IELTS Speaking หวังว่าข้อมูลดังกล่าวเหล่านี้จะเป็นประโยชน์กับคุณในกระบวนการเรียน IELTS ด้วยตนเอง!

banner (compare free vs pro)