IELTS Band Score เป็นหนึ่งในสิ่งแรก ๆ ที่คุณต้องการรู้จักหากมีแผนเข้าสอบ IELTS เรื่องนี้จะเป็นประโยชน์ต่อการวัดระดับภาษาอังกฤษของผู้เรียน เพื่อให้ผู้เรียนวางตารางการเรียนภาษาอังกฤษและมีผลการสอบ IELTS อย่างมีประสิทธิภาพ มาดูวิธีคำนวณ IELTS Score Overall เกณฑ์การให้คะแนน IELTS ทางด้าน Reading Listening Speaking และ Writting ที่ ELSA Speak ระบุไว้ในบทความวันนี้นะ
IELTS Band Score คืออะไร
IELTS เป็นคำย่อจาก International English Language Testing System ซึ่งเป็นหนึ่งในวิธีการรับรองผลประเมินภาษาอังกฤษที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในปัจจุบัน
สอบก่อนเข้าฟรี
ระบบการคำนวณคะแนน IELTS หรือ IELTS Band Score เป็นการคิดคะแนน 9 ระดับ จาก 1.0 ถึง 9.0 แล้ว IELTS Score Overall หรือ คะแนนโดยรวม เป็นผลการคิดคะแนนเฉลี่ยจากคะแนนของการสอบทักษะทั้ง 4 ประการ ได้แก่ Reading Listening Speaking และ Writing ตามระดับ 1.0 – 9.0
ข้อสอบ IELTS มีรูปแบบ 2 ประเภท ได้แก่ Academic (วิชาการ) และ General Training (ทั่วไป) โดยมีความแตกต่างกันไปในระดับการใช้ภาษาอังกฤษ ดังนั้น วิธีการคำนวณของแต่ละประเภทก็จะไม่เหมือนกัน
วิธีคำนวณ IELTS Score ทางด้าน Reading & Listening
โครงสร้างข้อสอบ IELTS ทางด้าน Listening และ Reading ต่างก็มีคำถามจำนวน 40 ข้อ โดยแต่ละข้อคำถามที่ถูกต้องนั้นเทียบเท่ากับ 1 คะแนน จากนั้น คะแนนโดยรวมของ 40 ข้อในแต่ละส่วนจะได้แลกเปลี่ยนงตาม IELTS Band Score มาตรฐานตั้งแต่ 1 ถึง 9 อย่างไรก็ตาม IELTS Band Score ทางด้าน Listening จะเหมือนกันในทั้งสองประเภท ไม่ว่าจะเป็น Academic หรือ General Training แต่จะเป็นแตกต่างกันไปทางด้าน Reading
ลองดู IELTS Band Score ด้าน Reading และ IELTS Band Score ด้าน Listening ดังนี้
ดูเพิ่มเติม: [รวบรวม] 5,000 + คำศัพท์ IELTS ตามหัวข้อที่พบบ่อยที่สุด
วิธีคำนวณ IELTS Score ทางด้าน Speaking & Writing
วิธีคำนวณ IELTS Score ทางด้าน Speaking ปี 2567
ข้อสอบ IELTS Speaking มักจะใช้ระหว่าง 11-14 นาทีและได้คำนวณคะแนนตามเกณฑ์ การให้คะแนน 4 ข้อดังนี้
- Fluency and Coherence – ความคล่องแคล่วและการเชื่อมโยงกันในการพูด ผู้คุมสอบจะพิจารณาวิธีการเชื่อมโยงประโยคด้วยคำเชื่อม การคล่องแคล่วระหว่างพูดและการตีความแตกฉานในหัวข้อการสอบ
- Lexical Resource – ความหลากหลายในการใช้ถ้อยคำและการใช้คำเหมาะสำหรับบริบท การใช้ idoms ILETS ที่แตกฉาน หรือ การใช้ IELTS Speaking Phrases อย่างยืดหยุ่น ทำให้ประโยคไม่ได้ซ้ำคำ
- Grammatical Range and Accuracy – ความหลากหลายและความแม่นยำของโครงสร้างไวยากรณ์
- Pronunciation – ความสามารถในการออกเสียง
ทั้ง 4 เกณฑ์การให้คะแนนต่างก็มีสัดส่วนที่เท่ากัน ซึ่งแต่ละเกณฑ์ได้คิดเป็น 25% ของคะแนน Listening โดยรวม IELTS Band Score ด้าน Listening เกณฑ์การประเมินรายละเอียดดังนี้
Band | Fluency & Coherence | Lexical Resource | Grammatical Range & Accuracy | Pronunciation |
9 | การพูดคล่องแคล่ว การพูดซ้ำที่หายากมีการเชื่อมโยงในแต่ละประโยคอย่างถูกต้อง มีประสิทธิภาพการขยายเนื้อหาบทพูดอย่างถูกต้อง ตรงกับหัวข้อการสอบ | มีวงศัพท์หลากหลาย เหมาะสำหรับทุกหัวข้อสามารถใช้สำนวนอย่างธรรมชาติและแม่นยำ | ใช้โครงสร้างไวยากรณ์หลายโครงสร้างอย่างธรรมชาติและแม่นยำ | การออกเสียงถูกต้อง ชัดเจน ฟังออกได้ง่าย |
8 | พูดได้อย่างคล่องแคล่วและไม่ค่อยพูดซ้ำคำการหยุดระหว่างพูดที่เหมาะสม แค่หยุดบางครั้งเพื่อหาคำที่จะพูดหรือขยายความคิดอย่างถูกต้องและตรงกับหัวข้อ | มีวงศัพท์หลากหลาย เหมาะสำหรับหลายหัวข้อการใช้สำนวน สุภาษิตค่อนข้างแม่นยำ ไม่ค่อยพบข้อผิดพลาดทักษะการ paraphrase ที่ดี | ใช้โครงสร้างไวยากรณ์หลายโครงสร้างอย่างเหมาะสมโครงสร้างประโยคใช้ในการพูดที่ถูกต้อง มีข้อผิดพลาดเล็กน้อย แต่ไม่ได้ผิดเป็นระบบ | ความสามารถในการออกเสียงภาษาอังกฤษที่เชี่ยวชาญยังคงมีสำเนียงภาษาแม่ แต่ไม่มากเท่าใด |
7 | สามารถพูดเป็นเวลานานโดยไม่มีการหยุดชะงักและข้อผิดพลาดที่เห็นได้แต่ไม่น่าสนใจลังเลหรือขัดจังหวะเพื่อค้นหาคำพูดใช้การเชื่อมโยงระหว่างการพูด | วงศัพท์ที่หลากหลาย แสดงให้เห็นถึงความพยายามในการใช้สำนวนใช้ collocation ในการพูดแต่ยังมีข้อผิดพลาดParaphrase ได้อย่างมีประสิทธิภาพ | ใช้โครงสร้างไวยากรณ์หลายโครงสร้างอย่างเหมาะสมใช้ซ้ำข้อผิดไวยากรณ์บางข้อ | แสดงให้เห็นข้อดีทั้งหมดประการของ band 6 และข้อดีบางประการของ band 8 |
6 | แสดงให้เห็นถึงความพยายามในการพูดนาน แต่ยังพบข้อผิดพลาดมากมายในการค้นหาคำหรือความคิด จึงทำให้การพูดไม่ค่อยคล่องแคล่วมากใช้การเชื่อมโยงแต่ยังไม่เหมาะสมบางที | วงศัพท์ที่หลากหลายเหมาะสำหรับทุกหัวข้อใช้สำนวน สุภาษิตมากมายตามธรรมชาติและแม่นยำ | ใช้โครงสร้างประโยคทั้งประเภทเรียบง่ายและซับซ้อนแต่ยังไม่หลากหลายมีข้อผิดพลาดในประโยคที่มีโครงสร้างซับซ้อนแต่ยังไม่ได้ทำประโยคนั้นเข้าใจยาก | มีความสามารถในการออกเสียงค่อนข้างดีการออกเสียงทำให้ฟังได้ง่าย เข้าใจได้ดี แต่ยังมีการสับสนในบางประโยค |
5 | ค่อนข้างคล่องแคล่วแต่ยังพบข้อผิดพลาดในการพูดซ้ำ ขัดจังหวะพูดซ้ำคำเชื่อมหลายครั้งอาจจะคล่องแคล่วในหัวข้อเรียบอง่าย | วงศัพท์ไม่ค่อยหลากหลายทักษะการ paraphrase ยังไม่ค่อยมั่นคง มักพบข้อผิดพลาดมากมาย | การใช้โครงสร้างประโยคเรียบง่ายค่อนข้างแม่นยำพยายามใช้โครงสร้างประโยคที่ซับซ้อน แต่ใช้ยังผิดพลาด ทำให้ผู้ฟังไม่สามารถเข้าใจได้ | แสดงให้เห็นข้อดีทั้งหมดประการของ band 4 และข้อดีบางประการของ band 6 |
4 | พูดอย่างกระจัดกระจายและมักซ้ำสิ่งที่ได้พูดไปแล้วคำหรือวลีที่ใช้เพื่อเชื่อมประโยคมีการซ้ำหลายครั้งและส่วนใหญ่เป็นการเชื่อมโยงเรียบง่าย | การใช้คำยังไม่แม่นยำ สามารถพูดเกี่ยวกับหัวข้อที่คุ้นเคยแต่จะพบข้อผิดพลาดในการใช้ถ้อยคำเมื่อพูดเกี่ยวกับหัวข้อที่แปลกประหลาด | แค่ใช้โครงสร้างประโยคเรีบยง่ายเท่านั้นพูดผิดเป็นระบบ ทำให้ผู้ฟังไม่สามารถเข้าใจได้ง่าย | การออกเสียงยังคงมีปัญหามากการออกเสียงยากที่ทำให้ผู้ฟังไม่สามารถเข้าใจได้ง่าย |
3 | การหยุดชะงักและหยุดยาวมีปัญหาในการเชื่อมโยงประโยคมีปัญหาในการเข้าใจและการสื่อสารข้อมูล | คำศัพท์เรียบง่าย ส่วนใหญ่เกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลวงศัพท์สำหรับหัวข้อแปลกประหลาดมีจำนวนเล็กน้อย | แค่ใช้โครงสร้างไวยากรณ์เรียบง่ายแต่ยังพบกับความผิดพลาดมากมาย | แสดงให้เห็นข้อดีทั้งหมดประการของ band 2 และข้อดีบางประการของ band 3 |
2 | ความสามารถในการสื่อสารที่ไม่ดี | แค่สามารถใช้คำศัพท์ที่เรียบง่าย | ไม่สามารถพูดประโยคที่ถูกต้องได้ | การออกเสียงทำให้ผู้ฟังไม่เข้าใจ |
1 | ไม่สามารถสื่อสารได้ | |||
0 | ไม่ได้กระทำข้อสอบ |
หมายเหตุ: ความเร็วในการพูดเป็นเพียงส่วนหนึ่งของเกณฑ์สำหรับการให้คะแนน IELTS Speaking ตาม IELTS Band Score ยังมีอีกสองปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้คุณได้รับคะแนนสูงในการสอบ Speaking คือ ความยาวของคำตอบและความสามารถในการใช้คำเชื่อมหรือวลีคำเชื่อม
ดูเพิ่มเติม: IELTS Speaking ตอนที่ 1: Topics, Question และ Answers
วิธีคำนวณ IELTS Score ทางด้าน Writing ปี 2567
ข้อสอบ Writing ประกอบด้วย 2 ข้อ – IELTS Writing task 1 และ IELTS Writing task 2 ซึ่งใช้โดยรวม 60 นาที ผู้คุมสอบจะคำนวณคะแนน IELTS Writing ตามเกณฑ์ทุกประการดังนี้
- Task Achievement/Response – ความสามารถในการตอบอย่างถูกต้อง ตรงกับหัวข้อคำถาม สามารถขยายความคิดและอ้างถึงหลักฐานให้แต่ละประการ
- Coherence and Cohesion – ความเชื่อมโยงระหว่างประโยคและย่อหน้าในบทเขียน
- Lexical Resource – ใช้วงศัพท์อย่างถูกต้องในแต่ละบริบท โดยใช้คำไวพจน์และคำตรงข้ามได้อย่างยืดหยุ่น
- Grammatical Range and Accuracy – ใช้อย่างถูกต้องและกระจายโครงสร้างไวยากรณ์ IELTS (Relative clause, Inversion, Conditional sentences, …) ผู้เข้าสอบไม่มีข้อผิดพลาดทางไวยากรณ์พื้นฐานเช่นคำกริยา 3 ช่อง
แต่ละเกณฑ์จะคิดเป็น 25% ของข้อสอบ IELTS Writing ผู้คุมสอบจะให้คะแนนสำหรับแต่ละเกณฑ์แล้วคิดคะแนนเฉลี่ย IELTS Band Score ด้าน Writing ตามเกณฑ์ประการต่าง ๆ ดังนี้
Band | Task Achievement | Grammatical Range and Accuracy | Lexical Resource | Coherence & Cohesion |
9 | ตรงตามข้อกำหนดของข้อสอบการแสดงความคิดเห็นอย่างชัดเจน ข้อมูลสำคัญจะได้กล่าวถึงเป็นรายละเอียด | การใช้โครงสร้างไวยากรณ์หลายโครงสร้างและเป็นถนัด ข้อผิดพลาดหายากและมีจำนวนเล็กน้อย | มีคำศัพท์หลากหลายและเหมาะสำหรับบริบทข้อผิดพลาดหายากและมีจำนวนเล็กน้อย | การจัดเค้าโครงข้อมูลและใจความหลักอย่างดีเด่นลำดับย่อหน้าได้เรียบเรียงอย่างสอดคล้องโดยไม่มีข้อผิดพลาด |
8 | ให้ความคิดเห็นโดยรวมอย่างชัดเจนประการสำคัญได้ขยายย่างดีตรงตามข้อกำหนดทั้งหมดที่ได้กำหนดไว้ | การใช้โครงสร้างไวยากรณ์ที่หลากหลายและเป็นถนัดข้อผิดพลาดหาได้ยากและมีจำนวนเล็กน้อย | คำศัพท์ที่หลากหลายและแม่นยำการใช้คำศัพท์ทางด้านวิชาการที่เชี่ยวชาญข้อผิดพลาดในการสะกดคำน้อยและมีข้อผิดทางรูปคำ | มีการจัดเค้าโครงข้อมูลและใจความหลักเป็นเหตุเป็นผลการแบ่งย่อหน้าที่มีประสิทธิภาพการใช้การเชื่อมโยงอย่างคล่องแคล่วคำสรรพนามแทนที่สมบูรณ์และถูกต้อง |
7 | ให้ความคิดเห็นอย่างชัดเจนประการสำคัญได้ขยายอย่างดีข้อมูลได้เขียนถูกต้องทั้งหมดบางส่วนของบทเขียนสามารถได้ขยายชัดเจนมากกว่า | ใช้โครงสร้างประโยคที่ซับซ้อนมากมายประโยคส่วนใหญ่ไม่มีข้อผิดพลาดการควบคุมไวยากรณ์ดีบางครั้งมีข้อผิดพลาดทางไวยากรณ์หรือการเว้นวรรค | คำศัพท์ที่หลากหลายและค่อนข้างแม่นยำใช้คำศัพท์ทางด้านวิชาการมีลีลาการเขียนและความสามารถในการใช้ collocationสะกดผิดบางคำที่หรือเลือกคำไม่ถูกต้อง | เค้าโครงข้อมูลเป็นเหตุเป็นผลการแบ่งย่อหน้าที่สมเหตุสมผลใช้การเชื่อมโยงได้ดีและหลากหลาย แต่ยังใช้ไม่ถูดบางประการหรือใช้เป็นบ่อยโดยไม่ทีประสิทธิภาพคำสรรพนามแทนที่สมบูรณ์และถูกต้อง |
6 | มีความคิดเห็นภาพรวม กล่าวถึงประการสำคัญ อย่างสมบูรณ์มีการคัดเลือกข้อมูลข้อมูลบางประการอาจไม่ถูกต้อง | ใช้โครงสร้างทั้งประเภทเรียบง่ายและซับซ้อนบางครั้งยังมีข้อผิดพลาดทางไวยากรณ์ หรือ การเว้นวรรคการขยายเนื้อหาที่ชัดเจน | คำศัพท์ค่อนข้างหลากหลายใช้ผิดคำวิชาการบางคำมีข้อผิดพลาดในการสะกดคำและรูปคำการขยายเนื้อหาที่ชัดเจน | เค้าโครงข้อมูลชัดเจน การแบ่งแยกย่อหน้าที่สมเหตุสมผลการเชื่อมโยงอย่างมีประสิทธิภาพมีข้อผิดพลาดเล็กน้อยในการเชื่อมโยงประโยคหรือหลายประการในประโยคคำสรรพนามแทนอาจไม่ถูกต้อง |
5 | ความคิดเห็นภาพรวมไม่ชัดเจนไม่ได้กล่าวถึงประการสำคัญอย่างสมบูรณ์รายละเอียดเกินไปไม่มีข้อมูลเป็นหลักฐาน ข้อมูลที่เขียนไม่ถูกต้อง | ใช้โครงสร้างประโยค เป็นจำนวนเล็กน้อยการใช้โครงสร้างประโยคที่ซับซ้อนยังไม่สำเร็จมีข้อผิดพลาดทางโครงสร้างประโยคหลายข้อมีปัญหาในการเว้นวรรคทำให้อ่านไม่เข้าใจ | คำศัพท์จำนวนเล็กน้อย มักจะมีข้อผิดพลาดในการสะกดหรือรูปคำ ทำให้อ่านไม่เข้าใจได้ง่าย | มีเค้าโครงข้อมูลการแบ่งย่อหน้ายังไม่ชัดเจนคำหรือวลีคำเชื่อมมีข้อผิดพลาดมากมายมักขาดคำสรรพนามแทนบ่อยครั้ง |
4 | พยายามที่จะปฏิบัติตามข้อกำหนด แต่ยังไม่ได้กล่าวถึงแนวคิดหลักอย่างครบถ้วนสับสนระหว่างข้อมูลสำคัญที่ต้องการ | การใช้ไวยากรณ์ขั้นพื้นฐาน แต่ยังไม่ได้หลากหลายเท่าใดมีข้อผิดพลาดทางไวยากรณ์มากมาย | คำศัพท์ยังเป็นระดับพื้นฐานหรือไม่เหมาะกับหัวข้อความสามารถในการใช้คำศัพท์สอดคล้องกับบริบทที่ไม่ดีมีข้อผิดพลาดมากมายทำให้ผู้อ่านไม่เข้าใจ | เรียบเรียงข้อมูลได้แต่ยังไม่เขียนเป็นสมเหตุสมผลใช้การเชื่อมโยงไม่ถูกต้องหรือใช้ซ้ำไป ซ้ำมาหลายครั้ง |
3 | ตอบไม่ตรงตามข้อกำหนดเนื่องจากเข้าใจผิดแนวคิดที่เขียนไว้ยังไม่สมบูรณ์และส่วนใหญ่ไม่เกี่ยวข้อง | พยายามจัดโครงสร้างประโยคแต่พบข้อผิดพลาดทางไวยากรณ์มากเกินไป ซึ่งทำให้ประโยคไม่สามารถถ่ายทอดความหมายได้ ตามที่ต้องการ | วงศัพท์มีความจำกัด พบกับข้อผิดพลาดมากมายเกี่ยวกับการสะกดคำพบกับข้อผิดพลาดหลายข้อ จึงทำให้ข้อมูลกลายเป็นผิด | แนวคิดได้ระบุไว้โดยไม่ได้จัดเรียงตามลำดับที่สมเหตุสมผลการเชื่อมโยงประโยคหรือย่อหน้าเป็นผิด |
2 | คำตอบไม่เกี่ยวข้องกับหัวข้อ | ไม่ทราบวิธีการจัดโครงสร้างประโยคอย่างถูกต้อง | คำศัพท์ที่มีความจำกัดเป็นอย่างมาก | ไม่สามารถเชื่อมโยงความคิดเข้าด้วยกันได้ |
1 | คำตอบที่ผิดอย่างครบถ้วน | ไม่ทราบวิธีการใช้ความคิดหรือสื่อสารข้อมูล | สามารถใช้คำเดียวบางคำ | ไม่ทราบวิธีการใช้ความคิดหรือสื่อสารข้อมูล |
0 | ไม่ได้กระทำข้อสอบ |
วิธีคำนวณ IELTS Score Overall
IELTS Score ได้คำนวณจาก 1.0 – 9.0 เป็นคะแนนเฉลี่ยของทักษะทั้ง 4 ประการ ซึ่งสัดส่วนของแต่ละทักษะเป็นเหมือนกัน
ตัวอย่าง ผู้เข้าสอบที่มี IELTS Score สำหรับ 4 ทักษะคือ 5.0 (Writing), 6.0 (Speaking), 7.0 (Reading), 6.0 (Listening) จากนั้น IELTS Score Overall จะเป็น (5.0 + 6.0 + 7.0 + 6.0)/4 = 6.0
ตัวอย่างการคำนวณ IELTS Score Overall และการปัดเศษ IELTS Score
วิธีปัดเศษ IELTS Score
IELTS Score Overall จะได้ปัดเศษดังนี้
- หากคะแนนเฉลี่ยมีส่วนทศนิยมคี่น้อยกว่า 0.25 จะได้ปัดเป็น 0.00
ตัวอย่าง IELTS Score สำหรับ 4 ทักษะคือ 7.5 Listening, 7.0 Reading, 7.0 Writing และ 7.0 Speaking จากนั้น IELTS Score Overall จะเป็น 7.0 (28.5 ÷ 4 = 7.125 ~ 7.0)
- หากคะแนนเฉลี่ยมีส่วนทศนิยมจาก 0.25 ถึงน้อยกว่า 0.75 จะได้ปัดเป็น 0.5
ตัวอย่าง IELTS Score สำหรับ 4 ทักษะคือ 5.0 Listening; 4.5 Reading, 5.0 Writing และ 5.0 Speaking จากนั้น IELTS Score Overall จะเป็น 6.5 (25 ÷ 4 = 6.25 ~ 6.5)
- หากคะแนนเฉลี่ยมีส่วนทศนิยมจาก 0.75 ขึ้นไป จะได้ปัดเป็น 1.0
ตัวอย่าง IELTS Score สำหรับ 4 ทักษะคือ 5.0 Listening; 4.5 Reading, 5.0 Writing และ 5.0 Speaking จากนั้น IELTS Score Overall จะเป็น 5.0 (19.5 ÷ 4 = 4.875 ~ 5.0)
ตารางการประเมินทักษะภาษาอังกฤษตามผลการสอบ IELTS
ผลการสอบ IELTS จะไม่ “ผ่าน” หรือ “ตก” แต่จะเป็นผลตามคะแนนใน band จาก 1.0 – 9.0 ในแต่ละ IELTS Band Score จะมีการประเมินและความคิดเห็นสำหรับความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษที่แตกต่างกันไป
ดังนี้เป็นการประเมิน IELTS ที่ใช้ใน IDP และ British Council
BAND | ความหมาย |
0 | หมายถึงผู้สมัครสอบไม่ได้กระทำข้อสอบ |
1 – ไม่ทราบวิธีการใช้ภาษาอังกฤษ | ผู้สอบไม่ทราบการประยุกต์ใช้ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน หรือสามารถได้เรียนรู้เพียงแค่บางคำเท่านั้น |
2 – บางครั้งใช้ภาษาอังกฤษได้แต่บางครั้งไม่ได้ | ผู้สอบมีปัญหาอย่างมากในการเขียนและพูดภาษาอังกฤษ ไม่มีความสามารถในการสื่อสาร นอกเหนือจากการใช้คำเดียวสองสามคำ หรือโครงสร้างไวยากรณ์สั้น ๆ เพื่อนำเสนอและแสดงความคิดเห็น |
3 – ใช้ภาษาอังกฤษในระดับจำกัด | สามารถใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารและสามารถเข้าใจได้ในบางสถานการณ์ที่คุ้นเคย มักจะมีปัญหาในกระบวนการสื่อสารจริง |
4 – ใช้ภาษาอังกฤษในระดับค่อนข้างจำกัด | มีความเชี่ยวชาญในการสื่อสารเป็นภาษาอังกฤษสำหรับสถานการณ์พื้นฐาน มีปัญหาในการเผชิญกับสถานการณ์การสื่อสารที่ซับซ้อน |
5 – ปกติ | ใช้ภาษาอังกฤษได้แต่ยังคงแค่เป็นส่วนเล็กน้อย สามารถจับส่วนใหญ่ใจความสำคัญในสถานการณ์อื่น ๆ แม้จะมีข้อผิดพลาดเป็นบ่อย สามารถใช้ภาษาได้ดีในสาขาที่คุ้นเคย |
6 – ค่อนข้างดี | แม้ว่าจะมีหลายประการที่ยังไม่ดี ยังไม่ถูกต้อง หรือยังไม่มีประสิทธิภาพ แต่โดยทั่วไปยังสามารถใช้ภาษาอังกฤษอย่างที่มีความเชี่ยวชาญ สำหรับสถานการณ์ที่ซับซ้อน โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่คุ้นเคย |
7 – ดี | มีความมั่นใจในการใช้ภาษาอังกฤษ แต่บางครั้งยังมีข้อผิดพลาด ใช้ยังไม่เหมาะสม หรือ ยังไม่เข้าใจบริบท |
8 – ดีมาก | ได้เรียนรู้ภาษาอังกฤษอย่างครบถ้วน แค่ยังมีข้อผิดพลาดบางข้อ เช่น ใช้ภาษายังไม่ถูกต้อง ยังไม่เหมาะสม แต่ข้อผิดพลาดเหล่านี้ไม่ได้เป็นระบบ ในสถานการณ์ที่ไม่คุ้นเคยอาจไม่สามารถเข้าใจได้อย่างครบถ้วนและสามารถใช้ภาษาได้ดีกับหัวข้อการอภิปรายที่ซับซ้อน |
9 – เชี่ยวชาญ | สามารถใช้ภาษาที่มีความเหมาะสมถูกต้อง คล่องแคล่ว และรับทราบบริบทอย่างครบถ้วน |
ประโยชน์ของการได้รับ IELTS Score อย่างสูง
ใบรับรอง IELTS กำลังเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ และกลายเป็นตัววัดความสามารถด้านภาษาอังกฤษในองค์กรต่าง ๆ ทั้งภายในประเทศและนานาชาติ ตารางคะแนน IELTS ที่มี IELTS Score Overall สูง เป็นความฝันของหลาย ๆ คน เนื่องจากมีประโยชน์มากมาย เช่น
มีโอกาสเข้ามหาวิทยาลัยชั้นนำหรือมหาวิทยาลัยระดับนานาชาติ
บัดนี้ เพียงแค่ได้รับใบรับรอง IELTS band 6.0 ขึ้นไป ทั้งนักเรียนและนักศึกษาอาจจะสามารถมีโอกาสเข้าไปศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยชั้นนำในประเทศ นอกจากนั้น หากต้องการที่จะศึกษาในสภาพแวดล้อมทางการศึกษานานาชาติ เช่น ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ สหราชอาณาจักร แคนาดา หรือแม้แต่สหรัฐอเมริกา ก็ยังสามารถใช้ใบรับรอง IELTS ได้ แต่อย่างไรก็ตาม ปกติมหาวิทยาลัยระดับนานาชาติมักจำกัดจำนวนนักศึกษา ผู้ที่มี IELTS Score Overall จาก 6.5 ขึ้นไปจึงย่อมมีโอกาสมากกว่า จริง ๆ แล้ว หากเราได้ band จาก 8.0 ขึ้นไป เราอาจจะมีโอกาสได้รับการคัดเลือกสูง
เปิดประตูสู่โอกาสในการทำงานและเพิ่มรายได้
องค์กรและผู้จ้าง นายจ้างต่าง ๆ ในปัจจุบันย่อมมีแนวโน้มที่จะจัดลำดับความสำคัญของผู้สมัครด้วยใบรับรอง IELTS ที่มีคะแนนสูง นอกจากนี้ ภาษาต่างประเทศที่ดียังช่วยให้คุณได้สัมผัสกับโอกาสที่ดีขึ้น เช่น การทำงานให้กับบริษัทนานาชาติ หรือจัดการสาขาใหม่ในประเทศอื่น เป็นต้น คุณเองก็จะมีโอกาสได้รับรายได้ที่สูงขึ้นด้วย
ใบรับรอง IELTS มีความสำคัญมากขึ้นเรื่อย ๆ ในปัจจุบัน หากคุณยังไม่มีทักษะภาษาอังกฤษที่ดี ลองวางแผนหรือสร้างเส้นทางการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพแก่ตัวเอง เพื่อเอาชนะตนเองด้วย ใบรับรอง IELTS ที่มี IELTS Score Overall ที่น่าประทับใจ อย่าลืมอ้างอิงระดับ IELTS และเกณฑ์การให้คะแนนขององค์กร เพื่อให้มีมุมมองในการพัฒนาที่ครอบคลุมนะ
ด้วยบทความข้างต้น หวังว่าคุณมีความรู้เกี่ยวกับ IELTS Score หากต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเรียน IELTS Speaking คุณสามารถไปที่เว็บ ELSA Speak เพื่อดูข้อมูลอ้างอิงเพิ่มเติมนะ!