Personal Pronouns คืออะไร? หน้าที่และวิธีใช้สรรพนาแทนบุคคล

Personal Pronouns ในภาษาอังกฤษเป็นความรู้พื้นฐานที่ผู้เรียนต้องจดจำตั้งแต่เริ่มต้นกระบวนการพิชิตภาษานี้ มาเรียนรู้กับ ELSA Speak เกี่ยวกับคำชนิดนี้ การจำแนก หน้าที่ และวิธีใช้กันนะ

Personal Pronouns คืออะไร

นิยามของ Personal Pronouns

คําบุรุษสรรพนาม (Personal pronouns) เป็นคำที่ใช้แทนคำนาม คำนามนั้น สามารถอ้างถึงบุคคล สิ่งของ หรือเหตุการณ์ได้ เราจะใช้คําสรรพนามแทนบุคคลเพื่อจำกัดการซ้ำของคำนามเหล่านั้นในประโยค 

สอบก่อนเข้าฟรี

{{(sIndex/sentences.length)*100}}%
{{ sentences[sIndex].text }}.
loading

ตัวอย่างเกี่ยวกับ Personal Pronouns

My teacher is coming. My teacher goes with her son.

=> My teacher is coming. She goes with her son.

หมายเหตุ: เราไม่จำเป็นต้องพูดซ้ำ “my teacher” ในประโยคที่สอง

personal pronouns ตัวอย่างประโยค

จําแนก Personal Pronouns

คำบุรุษสรรพนามทั่วไป

สรรพนามประธานสรรพนามรูปกรรมตัวอย่าง
I (ฉัน)me (ฉัน)เราใช้ “I” และ “me” เพื่ออ้างถึงผู้พูดหรือผู้เขียน “I” เป็นประธานและ “me” เป็นกรรม
I can’t come on Friday. I am working.
● It’s me. Can you open the door?
บางทีเราจะได้ยินคำว่า “me” ถูกใช้เป็นประธานในการพูดอย่างไม่เป็นทางการ ซึ่งจะอยู่หลังประธานอีกหนึ่งคํา
● My friend and I are playing badminton.
You (คุณ)you (คุณ)เราใช้ “you” เพื่ออ้างถึงผู้ฟังหรือผู้อ่าน มันเป็นทั้งประธานและกรรม “You” อาจหมายถึง บุคคลคนเดียวหรือหลายคนก็ได้ โดยปกติแล้ว ตามบริบท คุณสามารถเข้าใจได้ว่า “you” เป็นเอกพจน์หรือพหูพจน์ก็ได้
You are so beautiful.
● Can I help you?
He, she (เขา/เธอ มัน)him, her (เขา/ เธอ)He, him, she, her เป็นสรรพนามเอกพจน์บุรุษที่ 3 He และ him ใช้เพื่ออ้างถึงผู้ชาย She และ her ใช้เพื่ออ้างถึงผู้หญิง
● I saw him in town last week. He is looking really well.
She didn’t like the way he spoke to her.
We (พวกเรา)us (พวกเรา)เราใช้ “we” และ “us” เพื่ออ้างถึงกลุ่มคนต่างๆ แต่จะรวมถึงผู้พูดด้วย “we” และ “us” สามารถอ้างถึงผู้พูด + ผู้ฟัง หรือ ผู้พูด + บุคคลอื่นแต่ไม่ใช่ผู้ฟัง หรือบุคคลทั่วไป รวมถึงผู้พูดด้วย 
We could go and see a film tonight. What do you think? (we = ผู้พูด + ผู้ฟัง)
● Gerald asked us if we’d drive to London and get you. (us/we = ผู้พูด + บุคคลอื่นแต่ไม่ใช่ผู้ฟัง)
● Changing diet, rather than dieting, is a healthier alternative. There are changes we should all make. (we = ผู้พูด + ผู้ฟัง + บุคคลอื่น)
They (พวกเขา พวกมัน)them (พวกเขา พวกมัน)เราใช้ “they” และ “them” เพื่ออ้างถึงกลุ่มคน สิ่งของ และสัตว์
● The kids are getting on my nerves. They’re making so much noise. Can you tell them to be quiet? I’m trying to work.
นอกจากนี้เรายังใช้ “they” และ “them” เพื่ออ้างถึงองค์กร หน่วยงาน และกลุ่มบุคคลทั่วไป
● I heard they’re going to publish a new edition of ‘War and Peace’.
They’re opening the new motorway tomorrow.
It (มัน)It (มัน)เราใช้ “It” เพื่ออ้างถึงสิ่งของ
● My computer isn’t working. It is crashed again. Can you have a look at it?
เราใช้ “It” เป็นประธาน ‘หลอก’ เมื่อประโยคนั้นไม่มีประธาน โดยเฉพาะยิ่งเมื่อกําลังพูดถึงสภาพอากาศหรือเวลา
It’s so lovely to see you.
It’s already ten o’clock.
It’s snowing.
เรามักใช้ “It” เพื่ออ้างถึงประเทศ ยานพาหนะ และเครื่องจักร
● We spent three weeks in Malaysia. It’s a beautiful country.

คําบุรุษสรรพนามอื่น

นอกจากนี้ เรายังได้ขยายรูปแบบของคำบุรุษสรรพนาม ได้แก่:

  • คำสรรพนามที่สะท้อนกลับไปยังตัวเอง (Reflective Personal Pronoun)
  • คำคุณศัพท์แสดงความเป็นเจ้าของ (Possessive Determiner) 
  • สรรพนามแสดงความเป็นเจ้าของ (Possessive Personal Pronoun)

>>> Read more:

คำสรรพนามที่สะท้อนกลับไปยังตัวเอง

คำสรรพนามที่สะท้อนกลับไปยังตัวเองตัวอย่าง
Myself (ตัวฉันเอง)I decided to take some time for myself and go for a long walk. (ฉันตัดสินใจหาเวลาให้กับตัวเองและออกไปเดินกินลมชมวิว)
Yourself, yourselves (ตัวคุณเอง/คุณ)Love yourself.(รักตัวคุณเอง)
Himself, herself, itself (ตัวเขาเอง/ตัวเธอเอง ตัวมันเอง)● He locked himself in his room to study for the exam. (เขาเก็บตัวเขาไว้ในห้อง เพื่ออ่านหนังสือสอบ)
● She treated herself to a relaxing spa day after a long week of work. (เธอผ่อนคลายตัวเองในวันสปาผ่อนคลายหลังจากทำงานหนักมาทั้งสัปดาห์)
● The cat groomed itself by licking its fur clean.   (แมวเลียขนตัวเองให้สะอาด)
Ourselves (ตัวเราเอง)We went to get ourselves something to eat. (เราจะไปหาอะไรกินกัน)
Themselves (ตัวเขาเอง)Did the children enjoy themselves at the party? (เด็กๆ สนุกกับงานปาร์ตี้ไหม?)

คำคุณศัพท์แสดงความเป็นเจ้าของ

คำคุณศัพท์แสดงความเป็นเจ้าของตัวอย่าง
My (ของฉัน)My name is Mary. (ชื่อของฉันคือแมรี่)
Your (ของคุณ/พวกคุณ)Today is your day. (วันนี้เป็นวันของคุณ)
His, her, its (ของเขา/เธอ มัน)His name is David. (ชื่อของเขาคือเดวิด)
Her name is Lucy. (ชื่อของเธอคือลูซี่)
Its name is Fin. (ชื่อของมันคือฟิน)
Our (ของเรา)Our class is so interesting. (ชั้นเรียนของเราน่าสนใจมาก)
Their (ของพวกเขา)Their cars is so beautiful. (รถของพวกเขาสวยมาก)

สรรพนามแสดงความเป็นเจ้าของ

สรรพนามแสดงความเป็นเจ้าของตัวอย่าง
Mine (เป็นของฉัน)You are mine. (คุณเป็นของฉัน)
Yours (เป็นของคุณ/พวกคุณ)I’m yours. (ฉันเป็นของคุณ)
His, hers (เป็นของเขา/เธอ)What’s his name? (เขาชื่ออะไร?)
I gave her a book. (ฉันมอบหนังสือให้เธอ)
Ours (เป็นของพวกเรา)Which table is ours? (โต๊ะไหนเป็นของพวกเรา)
Theirs (เป็นของพวกเขา)Which children are theirs? (เด็กคนไหนเป็นของพวกเขา)

วิธีใช้ Personal Pronouns

Personal Pronouns เป็นประธานในประโยค

ตัวอย่าง: He loves her so much. (เขารักเธอมาก)

=> คําสรรพนาม “he” อยู่หน้าประโยคหรือหน้ากริยาหลัก

Personal Pronouns เป็นกรรมตรงของกริยา

ตัวอย่าง: They meet him at the police station. (พวกเขาพบเขาที่สถานีตำรวจ)

=> คําสรรพนามแทนบุคคล “him” อยู่หลังกริยาหลักหรือเป็นกรรมตรงของกริยา

Personal Pronouns เป็นกรรมรองของกริยา

ตัวอย่าง: They send him a book as a birthday gift. (พวกเขาส่งหนังสือให้เขาเป็นของขวัญวันเกิด)

=> คําสรรพนาม “him” ถูกใช้เป็นกรรมรองของกริยา “send” โดยอยู่หลังกริยาและหน้าคำนามที่ทำหน้าที่เป็นกรรมตรงของกริยานั้น

personal pronouns การใช้

Personal Pronouns เป็นกรรมของคำบุพบท

Personal pronouns ตัวอย่างประโยค:  I can’t live without you (ฉันไม่สามารถอยู่ได้โดยไม่มีเธอ)

=> “you” เป็นกรรมของคำบุพบท “without” คำสรรพนามแทนบุคคล จะอยู่หลังคำบุพบทที่มันขยายความ

>>> Read more: คำบุพบท (preposition) คืออะไร? วิธีการใช้คำบุพบท

แบบฝึกหัด Personal Pronouns

แบบฝึกหัด

บทที่ 1: ใช้คำสรรพนามที่เหมาะสมเพื่อเติมช่องว่างของประโยค

  1. My mother is sitting near the tree. …is reading a book.
  2. A boy came and told me that you want to see…, right?
  3. …. is watching TV in the living room.
  4. Why don’t….go to market with me?
  5. Is… from England?
  6. ….don’t want to eat this dish because I can’t eat fish.
  7. While my mother was cooking the meal, my brother went outside. …wanted to meet his girlfriend.

บทที่ 2: ใช้คําบุรุษสรรพนามที่เหมาะสมเพื่อแทนที่คำ/วลีที่เป็นตัวหนา:

  1. Mary and I are students.
  2.  Melissa isn’t an engineer. Melissa is an architect.
  3. Bob is my classmate.
  4. My teachers are from the USA.
  5.  Are Melissa and Pamela from England? 
  6. Tommy, Bob and I are neighbors.
  7. Is Paul a dentist?
  8. You and Fred aren’t from Italy.
  9. Louise is not my mother’s friend.
  10. Are you and I good friends?

คําเฉลย

บทที่ 1:

1. She2. me3. He/ She4. we
5. he/ she/ it6. I7. He

บทที่ 2:

  1.  We are students.
  2.  Melissa isn’t an engineer. She is an architect.
  3. He is my classmate.
  4. They are from the USA.
  5.  Are they from England? 
  6. We are neighbors.
  7. Is he a dentist?
  8. You aren’t from Italy.
  9. He is not my mother’s friend.
  10. Are we good friends?

คําถามที่พบบ่อย

คำบุรุษสรรพนามควรขึ้นต้นด้วยตัวพิมพ์ใหญ่ไหม

คำสรรพนามแทนบุคคลจะต้องขึ้นต้นด้วยตัวพิมพ์ใหญ่หากเป็นประธาน อย่างไรก็ตาม หากใช้เป็นกรรม 

บุรุษสรรพนามไม่จำเป็นต้องขึ้นต้นด้วยตัวพิมพ์ใหญ่

ควรใช้คําบุรุษสรรพนามในเรียงความไหม

ควร คุณควรใช้คูาบุรุษสรรพนามในเรียงความเพื่อจำกัดการใช้คำนามซ้ำหลายครั้งในประโยค

หวังว่าด้วยการแบ่งปันข้างต้นจาก ELSA Speak คุณจะเข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับคำบุรุษสรรพนามในภาษาอังกฤษตลอดจนวิธีใช้ของมัน หากต้องการฝึกสื่อสารในภาษาอังกฤษทุกวัน อย่าลืมดาวน์โหลดแอป ELSA Speak และติดตามการเรียนไวยากรณ์ของคุณที่นี่นะ

ELSA Pro ตลอดชีพ เพียง 3,159บ