punctuation คืออะไร? รวม punctuation ทั่วไปในภาษาอังกฤษที่คุณควรรู้

Punctuationเป็นองค์ประกอบสำคัญในประโยคและคำพูดในทุกภาษา การใช้เครื่องหมายวรรคตอนที่ถูกต้องก็มีความสำคัญเช่นกัน หากคุณต้องการสร้างความประทับใจให้กับผู้อ่านผ่านงานเขียนของคุณและอยากรู้ว่า punctuation มีอะไรบ้าง เครื่องหมายวรรคตอนในภาษาอังกฤษเขียนและใช้อย่างไร มาเรียนรู้กับ ELSA Speak ในบทความนี้กันนะ

punctuation (เครื่องหมายวรรคตอน) คืออะไร?

punctuation แปลว่าอะไร เครื่องหมายวรรคตอนในภาษาอังกฤษก็คือ punctuation อ่านว่า /ˌpʌŋk.tʃuˈeɪ.ʃən/. 

สอบก่อนเข้าฟรี

{{(sIndex/sentences.length)*100}}%
{{ sentences[sIndex].text }}.
loading

เครื่องหมายวรรคตอนใช้ในประโยค เช่น (.), (,), (?),…. ตามพจนานุกรม Oxford punctuation เป็นสัญลักษณ์ที่ใช้ในข้อความเพื่อแบ่งประโยคและวลี โดยเฉพาะอย่างยิ่งเครื่องหมายวรรคตอนมักใช้เพื่อแบ่งประโยคตามโครงสร้างทางไวยากรณ์และขยายความหมายให้กับประโยค

เมื่อเขียนหรือพูดภาษาอังกฤษ การใช้เครื่องหมายวรรคตอนไม่เพียงแต่ช่วยกำหนดโครงสร้างของประโยคเท่านั้น แต่ยังช่วยชี้นำข้อความอีกด้วย ซึ่งช่วยชี้แจงจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดของประโยค ทำให้ให้ผู้อ่านหรือผู้ฟังเข้าใจความตั้งใจของผู้เขียนหรือผู้พูดได้อย่างง่ายดายเครื่องหมายวรรคตอนแต่ละอันมีหน้าที่แตกต่างกันไป ช่วยให้ผู้ที่ถ่ายทอดข้อความสามารถแสดงข้อความได้อย่างถูกต้องและสอดคล้องกัน

เครื่องหมายวรรคตอนที่ใช้บ่อยในภาษาอังกฤษ?

เครื่องหมายมหัพภาค (Dot or Full stop หรือว่า full stop dot)

punctuation marks คืออะไร punctuation marks แปลว่าอะไร และมีความหมายอย่างไร? เรามาดูตารางดังต่อไปนี้

วิธีเขียน: .

เครื่องหมายมหัพภาค (Dot or Full stop หรือว่า full stop dot)
ความหมายpunctuation การใช้punctuation ตัวอย่างประโยค
จบประโยคให้สมบูรณ์ใช้สำหรับจบประโยคที่สมบูรณ์ ซึ่งมีทั้งประธานและภาคแสดงครบถ้วนI am going to go to the museum tomorrow. (ฉันจะไปพิพิธภัณฑ์ในวันพรุ่งนี้)
หลังตัวย่อใช้หลังชื่อบุคคล สถานที่ บริษัท หรือชื่อเฉพาะที่เป็นตัวย่อในภาษาอังกฤษแบบอเมริกันMr. Frank. (คุณ Frank.)
จุดทศนิยมใช้เพื่อระบุจุดทศนิยมในตัวเลข$19.99

เครื่องหมายจุลภาค (Comma) หรือ Comma stop

วิธีเขียน: ,

เครื่องหมายจุลภาค (Comma) หรือ Comma stop

เครื่องหมายจุลภาค (,) เป็นเครื่องหมายวรรคตอนในภาษาอังกฤษที่มีหน้าที่ต่างกัน

ความหมายpunctuation การใช้punctuation ตัวอย่างประโยค
ใช้ระบุรายการใช้สำหรับระบุส่วนประกอบในรายการI need 3 eggs, 2 bananas and a glass of milk. (ฉันต้องการไข่ 3 ฟอง กล้วย 2 ลูก และนม 1 แก้ว)
แยกประโยคหลักออกจากประโยคอื่นใช้เพื่อแยกประโยคหลักหรือประโยคที่เชื่อมต่อกันด้วยคำเชื่อม เช่น ‘but’, ‘and’, ‘so’…”I am tired, so I will go to bed early. (ฉันเหนื่อย ดังนั้นฉันจะเข้านอนแต่หัวค่ำ)
ใช้ในบทสนทนาโดยตรงใช้ในกลุ่มคำขึ้นต้นของคำพูดโดยตรงMy mother said, I should drink more water. (แม่ของฉันบอกว่าฉันควรดื่มน้ำให้มากขึ้น)
แยกประโยคย่อยหรือวลีคำบุพบทที่ยาวออกใช้เพื่อแยกประโยคย่อยและกลุ่มคำบุพบทที่ยาวออกAccording to the weather forecast, the tropical storm is coming. (ตามการพยากรณ์อากาศ พายุโซนร้อนกำลังเคลื่อนเข้ามา)
แยกคำนาม วลีคำนาม หรือประโยคสัมพันธ์ที่ไม่ระบุเฉพาะเจาะจงใช้เพื่อแยกส่วนประกอบในประโยค โดยเฉพาะประโยคสัมพันธ์ที่ไม่ระบุเฉพาะเจาะจงBill Gates, the richest man in the world, comes from Seattle. (บิล เกตส์ ผู้ชายที่รวยที่สุดในโลกมาจากรัฐซีแอตเทิล)
การแบ่งหน่วยในคณิตศาสตร์ใช้เพื่อแยกหลักล้าน หลักพัน และหลักร้อยในตัวเลข1,234,567,890 (หนึ่งพันสองร้อยสามสิบสี่ล้าน ห้าแสนหกหมื่นเจ็ดพันแปดร้อยเก้าสิบ

เครื่องหมายคำถาม (Question mark)

วิธีเขียน: ?

เครื่องหมายคำถาม (Question mark)
ความหมายpunctuation การใช้punctuation ตัวอย่างประโยค
ประโยคคำถามจะใช้ในตอนท้ายของประโยคคำถามHow long have you left this town? (คุณออกจากเมืองนี้มานานเท่าไรแล้ว?)What are you doing? (คุณกำลังทำอะไร?)

เครื่องหมายอัศเจรีย์ (Exclamation mark)

เครื่องหมายอัศเจรีย์ (!) ใช้ในตอนท้ายของประโยคเพื่อแสดงความประหลาดใจ มีความสุข หรือเมื่อผู้เขียนอยากเน้นย้ำความคิด อย่างไรก็ตามในการเขียน มักใช้เครื่องหมายอัศเจรีย์ไม่มากนัก

ความหมายpunctuation การใช้punctuation ตัวอย่างประโยค
เน้นย้ำคำพูดหรือคำสั่งใช้เพื่อเน้นประโยค ให้คำสั่งหนักแน่นGet out of my room! (ออกไปจากห้องของฉัน!)
แสดงถึงความโกรธ ความประหลาดใจ หรืออารมณ์ด้านลบใช้เพื่อแสดงความโกรธ ความประหลาดใจ หรืออารมณ์ด้านลบStop annoying here! (หยุดทำตัวน่ารำคาญสักที!)
ใช้ร่วมกับเครื่องหมายคำถามเครื่องหมายคำถามสามารถนำมาใช้เพื่อแสดงอารมณ์ในการเขียนแบบไม่เป็นทางการได้What happened? Stop making noise in class! (เกิดอะไรขึ้น? อย่าส่งเสียงดังในห้องเรียนอีกนะ)
เน้นคำในประโยคสามารถใส่ในวงเล็บเพื่อเน้นคำใดคำหนึ่งในประโยคได้She finally admitted that the task was impossible! (ในที่สุดเธอก็ยอมรับว่าภารกิจนั้นมันเป็นไปไม่ได้!)
ทำเสียงหรือการเลียนแบบใช้ในคำที่แสดงเสียงหรือการเลียนแบบHaizzz! I feel so tired. (ฉันรู้สึกเหนื่อยมาก)

การละไว้ (Ellipsis)

วิธีเขียน: …

ความหมายpunctuation การใช้punctuation ตัวอย่างประโยค
ใช้กับประโยคที่ยาวหรือใช้แทนคำที่ถูกตัดออกใช้เมื่อประโยคยาวเกินไป หรือใช้แทนคำ/ประโยคที่ถูกตัดออกในประโยคThe conference covered various topics such as artificial intelligence, machine learning, data science, blockchain, cybersecurity, robotics, … and many more. (การประชุมกล่าวถึงหัวข้อต่าง ๆ มากมาย เช่น ปัญญาประดิษฐ์การเรียนรู้ของเครื่องจักร วิทยาศาสตร์ข้อมูล บล็อกเชน ความปลอดภัยทางไซเบอร์ หุ่นยนต์ … และอื่นๆ อีกมากมาย)

เครื่องหมายทวิภาค (Colon) หรือ  Colon Mark

วิธีเขียน: :

เครื่องหมายทวิภาค (Colon) หรือ  Colon Mark
ความหมาย (punctuation meaning) punctuation การใช้punctuation ตัวอย่างประโยค
เปิดรายการแนะนำใช้เพื่อเริ่มต้นแนะนำรายการหัวข้อต่าง ๆWhat you need: a blindfold, an open space and 5 players or more. (สิ่งที่คุณต้องมี: ผ้าปิดตา พื้นที่กว้าง และผู้เล่น 5 คนขึ้นไป)
เริ่มต้นบทสนทนาโดยตรงใช้เพื่อเริ่มต้นบทสนทนาโดยตรง คล้ายกับเครื่องหมายจุลภาคHe announced to his friends: I’m going to study abroad! (เขาประกาศกับเพื่อน ๆของเขาว่า ฉันจะไปเรียนต่อต่างประเทศ)
แนะนำเพื่ออธิบายหรือให้ข้อมูลใช้เพื่อแนะนำคำอธิบายหรือให้ข้อมูลโดยละเอียดThere was a problem with my car: it ran out of fuel. (รถของฉันมีปัญหาคือน้ำมันหมด)
ใช้เพื่อแยกหน่วยเวลาใช้เพื่อแยกหน่วยเวลา (ชั่วโมง, นาที, วัน, เดือน เป็นต้น)The lesson will start at 07:00 a.m. (บทเรียนจะเริ่มเวลา 07:00 น.)
ใช้เพื่อแนะนำเนื้อหาย่อยในหัวข้อหรือหัวเรื่องใช้ระหว่างหัวข้อหรือหัวเรื่องเพื่อแนะนำเนื้อหาที่ละเอียดขึ้นPunctuation: Semicolon (เครื่องหมายวรรคตอน: เครื่องหมายจุดคู่)
Dự đoán điểm IELTS Speaking

เครื่องหมายอัฒภาค (Semicolon)

หน้าที่ของเครื่องหมายอัฒภาค (;) คือการเชื่อมโยงประโยคหลักสองประโยคในประโยคเดียวกัน

ความหมายpunctuation การใช้punctuation ตัวอย่างประโยค
แยกประโยคอิสระสองประโยคใช้เพื่อแยกประโยคอิสระสองประโยคในประโยคเดียวกัน โดยเฉพาะเมื่อมีความเกี่ยวข้องกันJohn loves studying; he can’t get enough at school. (จอห์นรักการเรียนมาก เขาเรียนที่โรงเรียนไม่เคยพอ)
แยกกลุ่มคำสองกลุ่มที่มีเครื่องหมายจุลภาคใช้เพื่อแยกกลุ่มคำที่มีเครื่องหมายจุลภาค ซึ่งช่วยทำให้ความหมายในประโยคชัดเจนขึ้นThey plan to study English, for their travels; digital marketing, for their work; and history, for their own enjoyment. (พวกเขามีแผนที่จะเรียนภาษาอังกฤษเพื่อเดินทาง เรียนการตลาดดิจิทัลเพื่อใช้ในการทำงาน และศึกษาประวัติศาสตร์เพื่อสนองความชอบของตัวเอง)

เครื่องหมายยัติภังค์ (Hyphen)

เครื่องหมายยัติภังค์ (-) มีประโยชน์หลากหลายในการเขียน เช่น

ความหมายpunctuation การใช้punctuation ตัวอย่างประโยค
เพิ่มคำต่อหน้าคำใช้เพื่อเชื่อมคำต่อหน้ากับคำเดิม เพื่อสร้างคำใหม่John is her ex-boyfriend. (จอห์นคือแฟนเก่าของเขา)
สร้างคำผสมใช้เพื่อสร้างคำผสมจากหน่วยคำเล็ก ๆ ช่วยให้การแสดงความหมายชัดเจนยิ่งขึ้นWill you live in a hi-tech house in the future? (คุณจะอาศัยอยู่ในบ้านไฮเทคในอนาคตไหม?)
เขียนตัวเลขด้วยคำใช้เพื่อเขียนตัวเลขเป็นคำเมื่อเป็นตัวเลขที่มีหลายหลักThere are fifty-two students in my class. (ห้องเรียนของฉันมีนักเรียนห้าสิบสองคน)
แบ่งคำออกเป็นสองบรรทัดใช้เพื่อแบ่งคำออกเป็นสองบรรทัดเมื่อคำนั้นยาวเกินไปไม่สามารถเขียนทั้งหมดในบรรทัดเดียวได้No matter what he tried, he just couldn’t get the novel’s elec-trifying surprise ending out of his head. (ไม่ว่าจะพยายามแค่ไหน เขาก็ยังไม่สามารถลืมตอนจบที่เต็มไปด้วยความเซอร์ไพรส์และน่าสนใจของนิยายเล่มนั้นได้)

เครื่องหมายคำพูด (Double quotation marks)

วิธีเขียน: “ ”

เครื่องหมายคำพูด (Double quotation marks)
ความหมายpunctuation การใช้punctuation ตัวอย่างประโยค
การอ้างอิงตรงใช้เพื่ออ้างคำพูดหรือคำกล่าวโดยตรงจากหนังสือ, หนังสือพิมพ์ หรือบุคคลอื่นThe famous quote is, “It is never too late to be what you might have been.” (คำคมที่มีชื่อเสียงนี้คือ: “มันไม่เคยสายเกินไปที่จะเป็นคนที่คุณต้องการเป็น”)

เครื่องหมายอะพอสทรอฟี (Apostrophes)

วิธีเขียน: ‘

ความหมายpunctuation การใช้punctuation ตัวอย่างประโยค
แสดงความเป็นเจ้าของใช้เพื่อแสดงความเป็นเจ้าของในคำต่าง ๆ เช่น “John’s book” (หนังสือของจอห์น)This is Sarah’s bag (นี่คือกระเป๋าของซาร่าห์) 
ทำเครื่องหมายตัวอักษรที่ขาดหายไปใช้เพื่อแทนที่ตัวอักษรที่หายไปในคำย่อYou shouldn’t wear that shirt. It’s cold out there. (คุณไม่ควรใส่เสื้อตัวนั้น อากาศข้างนอกหนาวมากนะ)

วงเล็บ (Parentheses or round brackets)

วิธีเขียน: ()

วงเล็บ (Parentheses or round brackets)
ความหมายpunctuation การใช้punctuation ตัวอย่างประโยค
ชี้แจงข้อมูลให้ชัดเจนใช้เพื่ออธิบายหรือชี้แจงคำ วลี หรือข้อมูลในประโยคUNESCO (United Nations Educational Scientific and Cultural Organization) is one of the major professional organizations of the United Nations. UNESCO ยูเนสโก (องค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ) เป็นหนึ่งในองค์กรวิชาชีพหลักของสหประชาชาติ
แสดงความคิดหลังการกระทำ



ใช้เพื่อแสดงความคิดหรือข้อมูลเพิ่มเติมหลังจากการกระทำที่เกิดขึ้นแล้วYou will need a flashlight for the camping trip (don’t forget the batteries!).
คุณจะต้องใช้ไฟฉายสำหรับการตั้งแคมป์ (อย่าลืมนำถ่านไปด้วย!)
ความคิดเห็นส่วนตัวใช้เพื่อเพิ่มความคิดเห็นส่วนตัวหรือมุมมองส่วนตัวMost TV programmes are just for fun, not for study (I disagree). ส่วนใหญ่รายการโทรทัศน์ทำเพื่อความบันเทิง ไม่ใช่เพื่อการเรียนรู้ (ฉันไม่เห็นด้วย)

วงเล็บปีกกา (Square brackets)

วิธีเขียน: [ ]

ความหมายpunctuation การใช้punctuation ตัวอย่างประโยค
ให้ข้อมูลเสริมใช้เพื่อให้ข้อมูลเสริมหรืออธิบายเพิ่มเติมสำหรับข้อความก่อนหน้า[Nguyen Du] was recognized as “World Cultural Celebrity” by UNESCO. [Nguyen Du] ได้รับการยอมรับจากยูเนสโกเป็น “บุคคลสำคัญทางวัฒนธรรมของโลก

punctuation exercise (แบบฝึกหัดที่ใช้เครื่องหมายวรรคตอน)

ใช้เครื่องหมายวรรคตอนที่กล่าวถึงข้างต้นเติมในช่องว่างในประโยคต่อไปนี้ (บางช่องอาจไม่ต้องใช้เครื่องหมายวรรคตอน):

  1. In my opinion __ parents are responsible for teaching their children values like kindness __and compassion.
  2. More than one__third of household __expenditure in Japan was on housing
  3. Scientists have been warning us about the effects of climate change for years yet __many people have chosen not to listen
  4. Immigration isn’t a black and white issue __it’s actually much more complicated than most people think.
  5. William Shakespeare __1564__1616__is the most popular British writer in the world.
  6. When faced with difficult situations, people always have two choices __ run away or fight.
  7. Elderly people teach us values __traditions __and how to deal with life experiences.
  8. The Internet is a growing market for advertisers__More people each and every year get their news from the Internet.
  9. At this stage of the process__colours are added__and the pots are then fired for the second time in another kiln to become fully shaped__coloured ceramic pots.
  10. Save energy__turn off lights and TVS when you’re not using them and recycle more rubbish__for example__glass__paper__plastic__ are the best way to protect our environment.

เฉลย

  1. In my opinion, parents are responsible for teaching their children values like kindness, and compassion.
  2. More than onethird of household expenditure in Japan was on housing.
  3. Scientists have been warning us about the effects of climate change for years, yet many people have chosen not to listen.
  4. Immigration isn’t a black and white issue; it’s actually much more complicated than most people think.
  5. William Shakespeare (1564 – 1616) is the most popular British writer in the world.
  6. When faced with difficult situations, people always have two choices: run away or fight.
  7. Elderly people teach us values, traditions, and how to deal with life experiences.
  8. The Internet is a growing market for advertisers: More people each and every year get their news from the Internet.
  9. At this stage of the process, colours are added, and the pots are then fired for the second time in another kiln to become fully shaped, colored ceramic pots.
  10. Save energy-turn off lights and TVS when you’re not using them and recycle more rubbish (for example: glass, paper, plastic,…) are the best way to protect our environment.
Người dùng review

ข้อควรรู้เมื่อใช้เครื่องหมายวรรคตอนในภาษาอังกฤษ

ต่อไปนี้ มาร่วมสำรวจข้อควรรู้เกี่ยวกับเครื่องหมายวรรคตอนกับ ELSA Speak กันนะ

  • ในภาษาอังกฤษแบบอังกฤษ มักจะไม่มีเครื่องหมายจุลภาคก่อนคำว่า and แต่ในภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน มักจะใช้เครื่องหมายจุลภาคก่อนคำว่า and
  • ตำแหน่งของเครื่องหมายวรรคตอนก่อนหรือหลังเครื่องหมายอัญประกาศนั้นแตกต่างกัน
  • เครื่องหมายอัฒภาค (;) และเครื่องหมายจุดคู่ (:) จะอยู่ นอกเครื่องหมายอัญประกาศเสมอ เช่น “like so”;
  • ตำแหน่งของจุด (.) และเครื่องหมายจุลภาค (,) ภายในเครื่องหมายอัญประกาศในภาษาอังกฤษแบบอเมริกันและอังกฤษมีความแตกต่างกัน โดยในภาษาอังกฤษแบบอเมริกันให้วางจุดและจุลภาคไว้ด้านในเครื่องหมายอัญประกาศเสมอ ส่วนภาษาอังกฤษแบบอังกฤษให้วางด้านนอก เครื่องหมายอัญประกาศเสมอ                    

Example: “like so.”   อังกฤษแบบอเมริกัน 

                “like so”. อังกฤษแบบอังกฤษ

  • แม้ว่าเครื่องหมายขีดกลางและวงเล็บจะมีการใช้งานที่คล้ายกัน แต่วงเล็บจะแสดง “การอธิบายเพิ่มเติม” ได้ชัดเจนกว่าเครื่องหมายขีดกลาง
  • ควรใช้เครื่องหมายอัญประกาศเมื่อจำเป็น
  • การใช้เครื่องหมายคำถามและเครื่องหมายอัศเจรีย์จะแตกต่างกันไปตามบริบท หากทั้งประโยคเป็นคำถามและข้อความที่อ้างอิงเป็นคำหรือวลีที่อยู่ท้ายประโยค เครื่องหมายคำถามจะอยู่นอก เครื่องหมายอัญประกาศ แต่หากทั้งประโยคเป็นประโยคบอกเล่าและข้อความที่อ้างอิงเป็นคำถาม เครื่องหมายคำถามจะอยู่ในเครื่องหมายอัญประกาศ    
  • ในการเขียนอย่างเป็นทางการ ควรหลีกเลี่ยงการใช้เครื่องหมายคำถามและเครื่องหมายอัศเจรีย์ โดยควรใช้ประโยคบอกเล่าและโครงสร้างประโยคพิเศษแทน
  • เช่นเดียวกับเครื่องหมายคำถามและเครื่องหมายอัศเจรีย์ เครื่องหมายขีดกลางก็มักจะไม่ค่อยถูกใช้ในสำนวนการเขียนที่เป็นทางการและการเขียนทั่วไป อย่างไรก็ตาม สามารถใช้วงเล็บหรือเครื่องหมายจุลภาคแทนได้
  • แม้ว่าเครื่องหมายขีดกลางและวงเล็บจะมีการใช้งานที่คล้ายกัน แต่วงเล็บจะแสดงความหมายในเชิง “คำอธิบายเพิ่มเติม” ที่ชัดเจนและเน้นย้ำมากกว่าเครื่องหมายขีดกลาง
  • ควรใส่เครื่องหมายอัญประกาศเมื่อต้องการอ้างอิงข้อความ

Example: Do you like to watch “The Office”? (คุณชอบดู “The Office” ไหมคะ?)                                      

  • คุณสามารถใช้เครื่องหมายขีดกลางสั้นแทนการใช้เครื่องหมายขีดเชื่อมเมื่อสร้างคำนามประสม             

Example: Paris-New York route. (ถนนสาย Paris-New York)

  • เครื่องหมายขีดกลางสั้นยังถูกใช้ระหว่างตัวเลข เช่น หมายเลขหน้า หรือปี เพื่อแสดงช่วงของตัวเลข

Example: A discussion on personal finance is found on pages 45-62. (สามารถพบการอภิปรายเกี่ยวกับการเงินส่วนบุคคลได้ในหน้าที่ 45-62)

  • ในการเขียนไม่ควรเขียนประโยคที่ยาวเกิน 20 คำ หากคุณพบว่าประโยคดูยืดยาวเกินไป ควรหาวิธีเพิ่มเครื่องหมายวรรคตอนหนึ่งหรือสองจุด หรือแยกเป็นประโยคย่อย ๆ เพื่อให้ข้อความชัดเจน กระชับ อ่านแล้วสบายตา เข้าใจง่าย และไม่ทำให้ผู้อ่านสับสน

ดังนั้น การใช้เครื่องหมายวรรคตอนอย่างถูกต้องและยืดหยุ่นในการเขียนภาษาอังกฤษ คุณจำเป็นต้องเข้าใจลักษณะและวิธีการใช้เครื่องหมายวรรคตอนแต่ละประเภทอย่างชัดเจน หวังว่าบทความจาก ELSA Speak จะช่วยให้คุณมีความรู้ที่มากขึ้นเกี่ยวกับเครื่องหมายวรรคตอนและการใช้งานให้เหมาะสมกับแต่ละสถานการณ์

ส่วนลด ELSA Premium ทั้งหมดสูงสุดถึง 50%