รีวิว ELSA Speak – ปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI “อัจฉริยะ” สมคำร่ำลือจริงหรือไม่

ในฐานะผู้เรียนภาษาอังกฤษ คุณคงต้องเคยได้ยินแอป ELSA Speak แล้วใช่ไหม? เครื่องมือการเรียนภาษาอังกฤษใหม่นี้ได้รับคำวิจารณ์เชิงบวกมากมายจากผู้ใช้ และได้รับการโฆษณาอย่างมากบนอินเทอร์เน็ต การเรียนออกเสียงผ่าน ELSA Speak ได้ผลสมคำร่ำลือจริงหรือไหม? ภาษาอังกฤษใช้ได้สำหรับทุกคนหรือไม่

ต่อไปนี้ เราขอเชิญคุณมาเรียนรู้เกี่ยวกับแอป ELSA Speak (รีวิว) ด้วย ELSA เพื่อทำความเข้าใจเครื่องมือการเรียนภาษาอังกฤษนี้ให้ดียิ่งขึ้น! เริ่มกันเลย!

เกี่ยวกับ ELSA Speak: ELSA Speak ดีไหม

ELSA Speak (ย่อมาจาก English Language Speech Assistant) เป็นแอปพลิเคชันที่ช่วยให้ผู้ใช้ฝึกออกเสียงภาษาอังกฤษเพื่อรู้จำเสียงผ่านการใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI)

ELSA Speak ก่อตั้งขึ้นในปี 2015 โดยมีคำขวัญว่า “Anyone can speak English” ผู้ใดก็สามารถพูดภาษาอังกฤษได้) การใช้งานหลักของแอปพลิเคชันนี้คือการตรวจจับและแก้ไขการออกเสียงของผู้ใช้ที่ไม่ถูกต้องอย่างแม่นยำ ช่วยให้คุณยกระดับความสามารถในการพูดภาษาอังกฤษ

แอปพลิเคชัน ELSA อยู่ใน Top 5 แอปพลิเคชันปัญญาประดิษฐ์ที่ดีที่สุดในโลกที่เสนอชื่อโดย Research Sniper โดยมีผู้ใช้มากกว่า 10 ล้านคนทั่วโลก

elsa speak official

วิธีใช้แอป ELSA Speak

วัดระดับภาษาอังกฤษ

หลังจากลงชื่อเข้าใช้แอปพลิเคชันเรียบร้อยแล้ว ให้เข้าไปที่ “วัดระดับภาษาอังกฤษ” ด้วยแบบฝึกหัด 4 แบบ: การออกเสียง การสนทนา น้ำเสียง และแบบทดสอบก่อนเรียน

ELSA จะประเมินการออกเสียงของคุณโดยเปรียบเทียบกับเจ้าของภาษาตามเกณฑ์ที่แตกต่างกัน เช่น การออกเสียง น้ำเสียง และความคล่องแคล่ว คะแนนสำหรับแต่ละเกณฑ์จะแสดงเป็นเปอร์เซ็นต์

การพูดภาษาอังกฤษใน ELSA แบ่งเป็น 3 ระดับเมื่อเทียบกับเจ้าของภาษา ได้แก่ พื้นฐาน ปานกลาง และขั้นสูง

ระบบการเรียน

เมื่อกำหนดระดับปัจจุบันเสร็จแล้ว ELSA จะแนะนำเส้นทางการเรียนรู้เฉพาะบุคคลด้วย 5 ทักษะ ได้แก่ การออกเสียง การฟัง การใช้น้ำเสียง การเน้นเสียง และการสนทนา มีบทเรียนทั้งหมดประมาณ 6,000 บทสอดคล้องกับหัวข้อต่างๆ กว่า 260 หัวข้อ

ในแต่ละบทเรียนของ ELSA มีวิดีโอการออกเสียงที่อธิบายถึงวิธีการวางตำแหน่งฟัน – ริมฝีปาก – ลิ้น เพื่อช่วยให้คุณออกเสียงได้อย่างถูกต้องที่สุด

การเปลี่ยนโหมดการเรียน

ในแต่ละบทเรียน ส่วนการสนทนาและการออกเสียงจะมี 2 โหมด: ปกติและขั้นสูง ผู้เรียนสามารถสลับไปมาระหว่างสองโหมดได้อย่างอิสระโดยขึ้นอยู่กับความต้องการของตนเอง

  • โหมดปกติ: ELSA จะคิดคะแนน ขึ้นอยู่กับความแม่นยำของเสียงที่ขีดเส้นใต้เพื่อแนะนำผู้เรียนเกี่ยวกับเสียงและกลุ่มเสียงเฉพาะ
  • โหมดขั้นสูง: ELSA จะวิเคราะห์และตอบสนองด้วยการแสดงข้อผิดพลาดในแต่ละพยางค์ให้ผู้เรียน
ELSA Speak ดีไหม
โหมดบทเรียนของ ELSA Speak

รีวิว ELSA Speak: ข้อดีและข้อเสีย

ฟีเจอร์พิเศษ

ELSA Speak มี 8 ฟีเจอร์ที่ผู้ใช้ชื่นชอบมากที่สุดดังนี้:

  • สร้างเส้นทางการเรียนเฉพาะบุคคล: จากผลของ “การทดสอบวัดระดับ” และหัวข้อที่คุณเลือกไว้ก่อนหน้านี้ ELSA จะออกแบบเส้นทางการเรียนที่เหมาะกับความสามารถและเป้าหมายของคุณ
  • ตรวจหาและแก้ไขข้อผิดพลาดในการออกเสียง  นี่คือฟีเจอร์ที่โดดเด่นที่สุดของ ELSA Speak ด้วยการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์สำหรับการรู้จำเสียง เพียงกดปุ่ม “บันทึกเสียง” ELSA จะช่วยคุณประเมินผลและแนะนำแก้ไขการออกเสียงและการใช้เสียงยังไงให้ถูกต้อง
  • ฝึกการสนทนาภาษาอังกฤษ: การเรียนภาษาอังกฤผ่านบทสนทนาจะช่วยให้ผู้เรียนไม่รู้สึกน่าเบื่อ ในขณะเดียวกัน คุณยังจะได้เรียนรู้วิธีการพูดประโยคยาว ๆ อย่างเป็นธรรมชาติอีกด้วย
  • การให้คะแนนโดยละเอียด: ELSA Speak มีรูปแบบให้คะแนนสองรูปแบบ ได้แก่:

– ดัชนีเปอร์เซ็นต์ (EPS): แสดงความสามารถในการพูดภาษาอังกฤษของคุณเมื่อเทียบกับเจ้าของภาษา

– คะแนนรวมที่ได้รับ (Total Point Earned): จำนวนคะแนนรวมที่คุณได้รับหลังจากบทเรียนต่างๆ

ELSA Speak ดีไหม
ดัชนีเปอร์เซ็นต์ EPS
  • พจนานุกรม:  แอปพลิเคชันให้ผู้เรียนได้ใช้พจนานุกรมที่อัจฉริยะและสมบูรณ์ ซึ่งประกอบด้วย การถอดความเสียง IPA การออกเสียง ตัวอย่างการใช้จริงพร้อมภาพประกอบเพื่อให้คุณเข้าใจและนึกภาพออกง่าย
  • ตารางบริหารชั้นเรียน (สำหรับโรงเรียนและธุรกิจ): ฟีเจอร์นี้ช่วยให้ผู้สอนสามารถออกแบบแผนการสอนที่เหมาะสมกับนักเรียนแต่ละคน และในขณะเดียวกันก็ทำให้การตรวจสอบและจัดการการเรียนภาษาอังกฤษทั้งชั้นเรียนได้สะดวกยิ่งขึ้น โดยไม่ต้องใช้เวลาและเงินจำนวนมาก
  • เตือนเข้าเรียนรายวัน: ผู้ใช้เพียงเปิดฟีเจอร์ “แจ้งเตือนรายวัน” และเลือกกรอบเวลาที่ต้องการ ELSA แจ้งเตือนเมื่อถึงเวลาเข้าเรียน

แนะนำในการใช้ ELSA Speak เพื่อทดสอบการออกเสียง: Chèn video nếu có ạ

เพื่อสามารถใช้คุณสมบัติที่โดดเด่นทั้งหมดข้างต้น คุณจะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมโดยสามารถผ่อนเป็นรายเดือนได้ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ใช้

ข้อดีของแอป ELSA Speak

มีทีมผู้เชี่ยวชาญในด้านการพัฒนา

แอป ELSA Speak มีทีมเขียนโปรแกรมและพัฒนาแบบมืออาชีพ ดังนั้นเนื้อหาของแอปพลิเคชันได้รับการลงทุนอย่างละเอียดและถี่ถ้วนมากขึ้น นอกจากนี้ ทีมฯ ยังสามารถแก้ไขเนื้อหาได้อย่างยืดหยุ่นตามการตอบรับและแนะนำของผู้ใช้

เป็นมิตรกับผู้ใช้

ตั้งแต่อินเทอร์เฟซไปจนถึงวิธีการใช้งาน ELSA Speak สามารถเข้าถึงได้ง่ายด้วยภาพประกอบที่มีสีสัน และวิดีโอจำนวนมากมาย เมื่อคุณลงชื่อเข้าใช้สำเร็จ แต่ละขั้นตอนของการใช้งานจะได้รับคำแนะนำจาก ELSA ผ่านปุ่มง่ายๆ เช่น “Start” หรือ “Next” นอกจากนี้ แอปพลิเคชั่นนี้ยังติดตั้งภาษาไทยเพื่อให้ใช้งานได้ง่ายชึ้นอีกด้วย

เนื้อหาการเรียนรู้ที่หลากหลาย

ระบบบทเรียนของ ELSA มีความหลากหลายและสมบูรณ์ ซึ่งประกอบด้วย

  • มากกว่า 261 หัวข้อ
  • 21 ทักษะการออกเสียงภาษาอังกฤษ
  • มากกว่า 6,000 บทเรียน
  • มากกว่า 29,000 แบบฝึกหัด
  • มากกว่า 5,000 คำ วลี และประโยค

ฟีเจอร์การแจ้งเตือนและสร้างเส้นทางการเรียนที่เหมาะสมกับเวลาที่คุณเลือก

นี่เป็นหนึ่งในข้อดีที่ ELSA และผู้ใช้ ELSA Speak รายอื่น ๆ ชื่นชอบ ตัวอย่างเช่น หากคุณเลือกเรียน 10 นาทีต่อวัน เวลา 20.00 น. ถึงเวลา 20.10 น. ผู้ช่วยเสมือนจริง ELSA จะส่งข้อความแจ้งเตือนให้คุณกลับมาทบทวนบทเรียน สิ่งนี้จะช่วยคุณพัฒนาการเรียนภาษาอังกฤษแบบเชิงรุก หากคุณทบทวนตามกำหนดเวลาอย่างสม่ำเสมอ หลังจากผ่านไปเพียง 3 เดือน การออกเสียงของคุณจะดีขึ้นอย่างแน่นอน

นอกจากนี้ คุณยังสามารถเลือกเวลาเรียนที่เหมาะกับตารางเวลาของคุณ (อาจเป็น 10 นาทีต่อวันหรือ 1 ชั่วโมงวันเว้นวัน …) ด้วยระยะเวลาเรียนที่แตกต่างกัน ELSA Speak จะให้เส้นทางการเรียนรู้ที่สอดคล้องกันแก่คุณ ตัวอย่างเช่น:

  • 10 นาที/วัน เท่ากับ 5 บทเรียน
  • 15 นาที/วัน เท่ากับ 7 บทเรียน
  • 20 นาที/วัน เท่ากับ 10 บทเรียน

ช่วยให้ผู้เรียนกล้าออกเสียง

ผู้ฝึกพูดภาษาอังกฤษหลายคนมักจะรู้สึกอายและกลัวที่จะถูกตัดสินเมื่อพูดผิด เมื่อใช้ ELSA Speak ปัญหานี้จะไม่เป็นอุปสรรคต่อคุณอีกต่อไป “โค้ชอัจฉริยะ” ELSA จะไม่ตัดสินหรือหัวเราะเยาะเย้ยการออกเสียงของคุณอย่างเด็ดขาด ในทางกลับกัน ELSA จะเป็นเพื่อนคุณในเส้นทางการฝึกพูดภาษาอังกฤษให้เหมือนเจ้าของภาษา

ELSA Speak ดีไหม
5 ข้อดีของ ELSA Speak

ข้อเสียของ แอป ELSA Speak

ELSA Speak เป็นแอปที่ต้องจ่ายเงินเพื่อเรียนเพิ่ม

ฟีเจอร์โดดเด่นทั้งหมดที่ ELSA นำเสนอข้างต้นใช้ได้กับบัญชี ELSA Pro เท่านั้น ผู้ใช้บัญชีฟรียังคงสามารถใช้ฟีเจอร์หลักบางอย่างได้ เช่น การแก้ไขการออกเสียง การวัตระดับก่อนเรียน และการสร้างเส้นทางการเรียนรู้

จำนวนบทเรียนของบัญชีฟรีคือ 1,600 บทเรียนใน 30 หัวข้อ ระยะเวลาการใช้งานคือ 7 วัน

การวัดระดับก่อนเรียนค่อนข้างยาก

หากคุณเพิ่งเริ่มเรียนภาษาอังกฤษและกำลังลองใช้ ELSA Speak จะมีบางคำหรือบางประโยคที่ปรากฏในแบบทดสอบวัดระดับความรู้อาจจะทำให้คุณกังวล โดยปกติคุณจะใช้เวลาประมาณ 5-6 นาทีในการทดสอบให้เสร็จสิ้น

ต้องออกเสียงช้าและชัด

ปัญญาประดิษฐ์ไม่ว่าจะอัจฉริยะขนาดไหนก็เป็นเพียงสิ่งประดิษฐ์ ดังนั้นจึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะเกิดข้อผิดพลาดทางเทคนิคในการจดจำเสียงของผู้ใช้ บางคนอาจจะเบื่อเวลาอ่านคำเดิมๆ ซ้ำไปซ้ำมา แต่ยังได้คะแนนน้อย เพื่อลดปัญหานี้ เมื่อฝึกพูดกับ ELSA ให้ตรวจสอบให้แน่ใจว่าสปีกเกอร์โฟนของคุณใช้งานได้ดีอยู่หรือไม่ และในขณะเดียวกัน ให้พูดช้าๆ และชัดเจนทุกคำเพื่อให้ ELSA “ได้ยิน” ชัดขึ้น

ไม่เหมาะสำหรับนักเรียนภาษาอังกฤษขั้นสูง

แม้ว่าปริมาณคำศัพท์และบทสนทนามีความหลากหลาย แต่ส่วนใหญ่จะเกี่ยวข้องกับหัวข้อการสื่อสารทั่วไปเท่านั้น โดยเฉพาะในส่วน “การเตรียมสอบ IELTS” คำศัพท์ใน ELSA Speak จะอยู่ที่คะแนนแบนด์ 5.0 – 6.0 IELTS (ระดับกลาง) เท่านั้น หากคุณต้องการเครื่องมือฝึกพูดภาษาอังกฤษขั้นสูง ELSA Speak อาจไม่ใช่ตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุด

>>> Read more

ไม่มีทฤษฎี

ELSA Speak เน้นการพัฒนาทักษะการอ่านออกเสียงของผู้ใช้ ดังนั้นจึงไม่ได้เน้นส่วนทฤษฎี แม้ว่าในแต่ละบทเรียน ELSA ได้จัดเตรียมวิดีโอสาธิตวิธีการอ่าน แต่จะจำกัดเฉพาะหัวข้อของบทเรียนเหล่านั้น (ตัวอย่าง: วิธีออกเสียง u เสียงยาว และเสียงสั้น)

ผู้ใช้จะมีปัญหาในการทำความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเนื่องจากไม่มีความรู้ทางทฤษฎีและมักจะสงสัยว่า “ทำไมต้องอ่านอย่างนั้น”

ELSA Speak ดีไหม

ฉันควรอัปเกรดเป็น ELSA PRO หรือไม่ (ELSA Pro ดีไหม)

ELSA Speak ราคา

ELSA Speak Pro เป็นบัญชีที่อัปเกรดแล้ว และผู้ใช้สามารถใช้คุณสมบัติทั้งหมดของแอปพลิเคชันได้

ELSA Speak ราคาแบ่งเป็น 3 แพ็คเกจดังนี้:

  • ELSA Pro 3 เดือน: บาท
  • ELSA Pro 6 เดือน: 2,099 บาท
  • ELSA Pro 1 ปี: 3,499 บาท
  • ELSA Pro ตลอดชีพ: 3,699 บาท

ขึ้นอยู่กับเป้าหมายการเรียนรู้ของแต่ละคนเพื่อเลือกแพ็คเกจที่เหมาะสม ตัวอย่างเช่น:

  • หากคุณกำลังเตรียมตัวสอบและต้องการพัฒนาทักษะการพูดอย่างรวดเร็ว  → แพ็คเกจ 3-6 เดือน
  • หากคุณต้องการพัฒนาทักษะการพูดแบบค่อยเป็นค่อยไปสำหรับการเรียนหรือการทำงาน → แพ็คเกจ 1 ปี – ตลอดชีพ

เปรียบเทียบ ELSA ฟรีกับ ELSA Pro

ฟีเจอร์ELSA FreeELSA Pro
จำนวนแบบฝึกหัด2 บทความ/หัวข้อ สูงสุด 10 บทความ/วันเต็ม 6,000+ บทเรียนไม่จำกัด
การวิเคราะห์เชิงลึกเกี่ยวกับคะแนนการออกเสียงไม่มีมี
พจนานุกรมฟรีตลอดชีพฟรีตลอดชีพ
ติดตามความคืบหน้าการเรียนรู้ไม่มีมี
เตือนให้เข้าศึกษาไม่มีมี

ด้วย ELSA Speak Pro คุณสามารถใช้ฟีเจอร์ที่สำคัญทั้งหมด (ซึ่ง ELSA แนะนำในส่วนที่ 2) เพื่อช่วยปรับปรุงการออกเสียงของคุณ ในทางกลับกัน ELSA Speak ฟรีจะ มีแบบฝึกหัดและฟีเจอร์จำกัดที่สามารถใช้ได้

การตอบรับจากผู้ใช้

ELSA Speak ให้การใช้งานใน 101 ประเทศทั่วโลกและได้รับคำวิจารณ์เชิงบวกมากมาย เพื่อให้มีภาพรวมที่ชัดเจนขึ้นเกี่ยวกับแอปพลิเคชันปัญญาประดิษฐ์ที่โดดเด่นนี้ โปรดดูรีวิวของผู้ใช้ก่อนหน้าผ่านวิดีโอและรูปภาพด้านล่าง

ELSA Speak ดีไหม
ELSA Speak review จากชาวต่างชาติ

บน Google Play ELSA Speak ได้คะแนน 4.7/5 พร้อมรีวิวมากกว่า 749,000 รายการ

ELSA Speak ดีไหม

คำถามที่พบบ่อย

ELSA สามารถใช้งานได้พร้อมกันกี่เครื่อง

ปัจจุบัน หนึ่งบัญชีสามารถใช้บนอุปกรณ์ต่างๆ ได้สูงสุด 3 เครื่องเพื่อเพิ่มความปลอดภัยและรับรองสิทธิ์ของผู้ใช้ เมื่อ login บัญชีบนอุปกรณ์ที่ 4 จะถูกล็อค

สามารถใช้ ELSA แบบออฟไลน์ได้หรือไม่

ไม่ได้ ELSA ทำงานได้อย่างต่อเนื่องเมื่อมีการเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตเท่านั้น เนื่องจากข้อมูลมีปริมาณมาก

ปัจจุบัน ELSA มีจำนวนบทเรียนเท่าไหร่

ปัจจุบัน ELSA มีบทเรียนประมาณ 6,000 บท (ประกอบด้วยแบบฝึกหัดมากกว่า 29,000 บท) และมากกว่า 261 หัวข้อ

บทสรุป

ไม่เพียงแต่ ELSA Speak แอปพลิเคชันเรียนภาษาอังกฤษทุกแอปต่างก็มีข้อดีและข้อเสีย สิ่งสำคัญคือคุณต้องตัดสินใจว่าเครื่องมือใดที่จะเหมาะที่สุดกับคุณ และใช้ฟีเจอร์ที่โดดเด่นอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด จากบทความเกี่ยวกับ ELSA Speak Review ทาง ELSA หวังว่าจะมีส่วนช่วยให้คุณในการค้นพบแอปพลิเคชันฝึกออกเสียงภาษาอังกฤษที่มีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม ปัญญาประดิษฐ์ก็คุ้มค่าที่จะลองสักครั้งใช่ไหมล่ะ

ELSA Pro ตลอดชีพ เพียง 2,744 บาท